ข่าวจีน

"โจวตงหยู่" (Zhou Dongyu) ร่วมวงแย่งที่นั่ง 'สถาบันภาพยนตร์ปักกิ่ง'

Submitted by canjamm on 21 กุมภาพันธ์, 2011 - 18:16

เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา ขณะที่หนุ่มสาวมากมายใช้เวลาไปกับวันแห่งความรัก คนรุ่นใหม่ชาวจีนส่วนหนึ่งกลับจดจ่ออยู่กับการสมัครเข้าเรียนในสถาบันภาพยนตร์ปักกิ่ง ที่แต่ละปีมีเหล่าตี๋หมวยที่ใฝ่ฝันถึงอาชีพนักแสดง และงานในวงการบันเทิงสมัครเข้าเรียนหลักหมื่นคน แต่มีที่นั่งเพียงหลักร้อยเท่านั้น

สถาบันภาพยนตร์ปักกิ่ง กลายเป็นสถานศึกษาในสาขาวิชาศิลปะการแสดง และภาพยนตร์ที่โด่งดังประสบความสำเร็จมากที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย โดยเฉพาะจากบรรดาศิษย์เก่าที่กลายเป็นทั้งนักแสดง และคนทำหนังชื่อดังระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น จางอี้โหมว, เฉินข่ายเกอ, หวงเสี่ยวหมิง, สวี่จิงเล่ย เป็นต้น

ซึ่งปัจจุบันนี้ นอกจากภาพของสถาบันการศึกษาที่โด่งดังยิ่งใหญ่แล้ว สถาบันภาพยนตร์ปักกิ่งยังมีภาพของมาเฟียในวงการภาพยนตร์ ที่มีอิทธิพลมากมายต่ออุตสาหกรรมบันเทิง ของประเทศที่มีประชากรระดับพันล้านคนแห่งนี้ด้วย

เพราะมันไม่ใช่แค่ เรื่องวิชาการและความรู้ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้จะมอบให้ แต่ประวัติการศึกษาชั้นดี และเส้นสายในวงการก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สามารถหาได้จาก สถาบันภาพยนตร์ปักกิ่ง เช่นเดียวกัน

ในแต่ละปีจะมีบรรดาเด็กนักเรียนจำนวนนับหมื่นส่งใบสมัครเพื่อแข่งขันแย่งชิงเก้าอี้เพียง 400 - 500 ที่นั่งในแต่ละปีเท่านั้น และสาขาซึ่งเป็นที่นิยมที่สุด ยังคงเป็นภาควิชาการแสดง ที่ปีนี้มีผู้สมัครเข้าเรียน 4,371 คน เพิ่มจากตัวเลข 4,219 คน ของปีก่อนไม่มากนัก โดยจะมีผู้ที่ได้ผ่านเป็นนักศึกษาในสาขาวิชานี้ของมหาวิทยาลัยเพียง 80 คนเท่านั้น

โดยศาสตราจารย์ เฉินอี้ แห่งภาควิชาการแสดงกล่าวว่า หลักการคัดเลือกนักศึกษา จะไม่พิจารณาจากรูปร่างหน้าตาของนักศึกษาเป็นหลัก แต่จะมุ่งความสนใจไปที่ความสามารถทักษะทางการแสดงเป็นสำหรับ

ซึ่งไม่ใช่เพียงเด็กสาวเด็กหนุ่มทั่วๆ ไปเท่านั้น ที่คาดหวังในเก้าอี้ของสถานศึกษาหัวแถวอย่าง สถาบันภาพยนตร์ปักกิ่ง แม้แต่นักแสดงที่มีชื่อเสียงแล้วอย่าง "โจวตงหยู่" (Zhou Dongyu / 周冬雨) ก็ตัดสินใจสมัครเรียนในสถาบันการศึกษาแห่งนี้ด้วยเช่นเดียวกัน

โจวตงหยู่ เด็กสาวจากเหอเป่ย โด่งดังเป็นพลุแตกโดยทันที หลังจากได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Under the Hawthorn Tree ของยอดผู้กำกับที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งในประเทศอย่าง จางอี้โหมว

Late Autumn: "ทังเว่ย" (Tang Wei) เปล่งประกาย ณ วงการภาพยนตร์เกาหลี

Submitted by canjamm on 21 กุมภาพันธ์, 2011 - 18:07

ภาพยนตร์เรื่อง Lust, Caution เมื่อ 2 ปีก่อนสร้างทั้งชื่อเสียง และปัญหาให้กับนักแสดงสาว "ทังเว่ย" (Tang Wei) มากมาย อย่างไรก็ตามแม้เธอจะถูกรัฐบาลจีนสั่งแบน ห้ามแสดงหนังและปรากฏตัวตามสื่อต่าง ๆ อยู่ช่วงใหญ่ แต่นักแสดงสาววัย 32 ปี ยังมอบงานดี ๆ ให้กับแฟนหนังต่อไป ทั้งในฮ่องกง และล่าสุดกับงานในวงการภาพยนตร์เกาหลีใต้
       
       ในภาพยนตร์เรื่อง Late Autumn ที่เพิ่งเข้าฉายเมื่อสัปดาห์ก่อน ทังเว่ย นักแสดงสาวชาวจีนวัย 32 ปี รับบทเป็นหญิงสาวผู้สงบเงียบเก็บเนื้อเก็บตัว ที่ชีวิตต้องแปรผันไปโดยสิ้นเชิง เมื่อเธอต้องใช้ชีวิตในเรือนจำ 9 ปี จากข้อกล่าวหาฆาตกรรมสามีของตนเอง
       
       กระทั่งวันหนึ่งหญิงสาวได้รับอนุญาตให้กลับสู่โลกภายนอกในช่วงสั้น ๆ อีกครั้ง เพื่อร่วมงานศพของมารดาตัวเอง ในช่วงเวลานั้นเอง เธอกลับได้พบรักกับชายหนุ่ม ที่ประกอบอาชีพขายบริการทางเพศ
       
       Late Autumn เป็นผลงานการกำกับของ คิมเทยอง ซึ่งนอกจากนักแสดงสาวชาวจีนแล้ว หนังยังมีนักแสดงหนุ่ม ฮยอนบิน (Hyun Bin) ร่วมรับบทนำด้วย ในงานที่หยิบเอาภาพยนตร์คลาสสิคของเกาหลีใต้ กลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง โดยในฉบับล่าสุด เรื่องราวมีฉากหลังอยู่ที่เมืองซีแอตเทิล ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ทำให้ทีมงานต้องเดินทางไปทำงานกันในต่างประเทศ ในภาพยนตร์ซึ่งผสมผสานระหว่างภาษาเกาหลี และภาษาอังกฤษ
       
       JoongAng Ilbo ได้มีโอกาสพูดคุยกับ ทังเว่ย ถึงอาชีพนักแสดงของเธอ และการทำงานกับทีมผลิตภาพยนตร์ของเกาหลีใต้
       

งานเข้า !! นางเอก Sex and Zen มือถือหาย, รูปเซ็กซี่เพียบ

Submitted by canjamm on 21 กุมภาพันธ์, 2011 - 17:58

นางเอกหนัง 3-D Sex and Zen "เหลยไห่เหยียน" (Vonnie Lui Hoi Yan) ต้องระทึก หลังทำโทรศัพท์ iPhone 4 หาย !!! งานนี้เจ้าตัวยอมรับว่า มีภาพแนวเซ็กซี่ของตัวเองในมือถือดังกล่าวอยู่ถึงกว่า 100 รูป ซึ่งถึงตอนนี้ภาพบางส่วนเริ่มถูกอัพโหลดมาให้ชมกันทางอินเตอร์เน็ตแล้ว

ข่าวการทำโทรศัพท์ iPhone 4 หายของ เหลยไห่เหยียน นางเอกสาวจากภาพยนตร์เรื่อง 3-D Sex & Zen: Extreme Ecstasy กลายเป็นเรื่องร้อนๆ ล่าสุดในวงการบันเทิงฮ่องกง และเริ่มมีการเปรียบเทียบเรื่องนี้กับข่าวสุดอื้อฉาวของ เฉินกว้านซี (Edison Chen) เมื่อหลายปีก่อนแล้ว

อย่างไรก็ตามชาวฮ่องกงจำนวนมาก ดูจะยังไม่ค่อยปักใจเชื่อ เรื่องที่เกิดขึ้นซักเท่าไหร่ โดยบางส่วนเชื่อว่านี่น่าจะเป็นหนึ่งในแผนโปรโมตของภาพยนตร์เรื่อง 3-D Sex & Zen: Extreme Ecstasy ที่จะเข้าฉายในช่วงเดือน เม.ย. ที่จะถึงนี้ ขณะที่อีกจำนวนไม่น้อยสงสัยว่านี่เป็น แผนโฆษณาของโทรทัศน์มือถือดังจากค่ายแอปเปิลรึเปล่า

สำหรับดาราสาว เหลยไห่เหยียน มีงานในวงการบันเทิงฮ่องกงมาแล้วถึง 9 ปี ทั้งผลงานการถ่ายแบบ และแสดงภาพยนตร์มาแล้วหลายเรื่อง แต่มาโด่งดังเป็นที่รู้จักจริง ๆ ก็เมื่อถูกเลือกให้รับบทเด่นในภาพยนตร์เรื่อง 3-D Sex & Zen: Extreme Ecstasy นี่เอง

Manager Online

รูปนู้ด "ฟาลา เฉิน" (Fala Chen) โผล่รอพิสูจน์ของจริงของปลอม

Submitted by canjamm on 18 กุมภาพันธ์, 2011 - 12:23

ภาพนู้ดดาราได้กลับมาสร้างกระแสในฮ่องกงอีกครั้งหลังมีรายงานข่าวว่า "ฟาลา เฉิน" (Fala Chen) เป็นเหยื่อรายล่าสุดที่มีภาพนู้ดส่วนตัวถูกปล่อยออนไลน์ในอินเตอร์เน็ต

ฟาลา เฉิน หรือชื่อเต็มในสำเนียงจีนว่า เฉินฝ่าลา นักแสดงสาวชาวฮ่องกงจาก TVB ได้กลายเป็นเหยื่อรายล่าสุดที่มีภาพนู้ดอัพโหลดในโลกอินเตอร์เน็ตเมื่อไม่นานมานี้

ซึ่งภาพดังกล่าวเป็นภาพของเธอสวมใส่เพียงกางเกงชั้นใน ขณะที่อกของเธอถูกตัดต่อเพื่อบดบังกันอนาจาร ซึ่งภาพดังกล่าวได้รับการกล่าวถึงเป็นอย่างมากจากชาวเน็ตฮ่องกง

อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตส่วนใหญ่มีแรงสนับสนุนไปทางการให้กำลังใจนักแสดงสาวชื่อดังมากกว่า พร้อมระบุว่าภาพดังกล่าวอาจเป็นภาพปลอมมีการตัดต่อหรือทำโฟโต้ช็อปก็เป็นได้ ซึ่งหนึ่งในชาวเน็ตยังอ้างด้วยว่าได้มีการแจ้งตำรวจเพื่อสืบหาที่มาที่ไปของภาพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทางด้านผู้จัดการส่วนตัวของเธอยังไม่ได้ออกมากล่าวถึงประเด็นที่เกิดขึ้นนี้แต่อย่างใด ส่วนทางฟาลาเองก็ไม่ได้มีทีท่ากังวลในเรื่องนี้แม้แต่น้อย และเมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาเธอก็เพิ่งเขียนในเว็บ Weibo ของเธอต้อนรับวาเลนไทน์ว่า "วันวาเลนไทน์ ดีใจจัง รักผู้อื่นและรักตัวเองด้วย"

Manager Online

คนสวยใจบุญ "หลินจือหลิง" (Lin Chi Ling) นั่งเก้าอี้ผู้กำกับหนังสารคดีเพื่อการกุศล

Submitted by canjamm on 17 กุมภาพันธ์, 2011 - 17:25

หลังจากเป็นนางแบบที่โด่งดังที่สุดในไต้หวัน, ได้แสดงหนังฟอร์มใหญ่แห่งปี, รวมถึงขึ้นเวทีร้องเพลงในรายการพิเศษของ CCTV ที่มีคนรอชมนับล้าน นางเอกสาวคนดัง "หลินจือหลิง" (Lin Chi Ling) ได้โอกาสขอลองงานหลังกล้อง กับการกำกับภาพยนตร์ดูบ้าง กับหนังการกุศล ที่จะเปิดให้ชมกันแบบฟรีๆ ในเว็บไซต์ Youtube

ในช่วงต้นปี 2011 นี้ หลินจือหลิง ได้เริ่มต้นงานสายใหม่ ในวงการบันเทิงของเธอแล้ว กับการกำกับสารคดีเรื่อง Still In Time To Say I Love You ความยาว 25 นาที ที่จะเล่าเรื่องจริงของผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูก โดยจะเป็นงานที่เปิดโอกาสให้ทุกคนชมกันแบบฟรี ๆ ทางเว็บไซต์ Youtube ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. นี้เป็นต้นไป

สำหรับการลองงานเบื้องหลังครั้งแรกนี้ นางเอกวัย 36 ปี มีความมุ่งมันและจริงจังมากเป็นพิเศษ โดยเธอเริ่มต้นเตรียมการถ่ายทำด้วยตัวเองมาตั้งแต่ต้น ในช่วงเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว ทั้งเยี่ยมผู้ป่วยโรคมะเร็งเพื่อหาข้อมูล, เขียนบท, ควบคุมการถ่ายทำ และตัดต่อภาพยนตร์เองทั้งหมด แม้ที่ผ่านมาจะเป็นช่วงที่อากาศหนาวเย็นมากก็ตาม โดยในช่วงพักระหว่างการถ่ายทำ หลินจือหลิง ก็ยังพยายามใช้เวลากับผู้ป่วยโรคมะเร็ง เพื่อหามุมมองใหม่ๆ สำหรับหนังของเธออยู่ตลอดเวลา

นับตั้งแต่ช่วงวันตรุษจีนที่ผ่านมา หลินจือหลิง ยังใช้เวลาที่สตูดิโอเพื่อการตัดต่อ และเลือกเพลงประกอบภาพยนตร์ แม้แต่ช่วงวันวาเลนไทน์ นางแบบสาวคนดังก็ไม่ได้ให้คิวกับหนุ่มคนไหน แต่ใช้เวลาในห้องตัดต่อตั้งแต่ 6 โมงเข้าจนเวลาล่วงเลยไปถึงช่วงของอีกวันหนึ่งเลยทีเดียว

ขณะที่ในการถ่ายทำทีมงานของภาพยนตร์เรื่องผู้กำกับคนสวยว่าเป็น 'ผู้กำกับที่สุภาพที่สุดที่เคยมีมา' และกล่าวถึงการร่วมงานเธอว่า "เป็นผู้กำกับที่อ่อนโยนที่สุดที่พวกเราเคยร่วมงานด้วย" โดยเฉพาะเสียงหวานๆของเธอ ที่หนุ่มๆในกองถ่ายต่างหลงใหลไปตามๆกัน ซึ่งหลายๆคนยอมรับว่าสมัครเข้าเป็นทีมงานของภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะต้องการร่วมงานกับ หลินจือหลิง

ฝ่าย หลินจือหลิง ยอมรับว่าชอบงานสายนี้อยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะตรงที่ไม่ต้องแต่งหน้าหนาเตอะ หรือใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการแต่งตัว "ในที่สุดฉันก็ได้เป็นคนถ่ายทำการแสดงของคนอื่นเสียทีค่ะ การทำงานไม่ใช่แบบทุกครั้งที่ผ่านมาแล้ว ครั้งนี้ฉันทำงานได้โดยไม่ต้องแต่งหน้าด้วย"

Misster: 5 สาวหล่อ 'ทอมบอยแบนด์' แห่งไต้หวัน

Submitted by canjamm on 16 กุมภาพันธ์, 2011 - 18:21

มีความแปลกใหม่เกิดขึ้นในวงการบันเทิงของไต้หวันอีกครั้ง กับกลุ่มศิลปินไอดอลหน้าใหม่ ที่ไม่ใช่เกิร์ลกรุ๊ปซะทีเดียว แต่ก็ไม่ได้เป็นบอยแบนด์แบบทั่วๆ ไป เพราะพวกเธอคือ 5 สาวหล่อ ในนาม Misster กลุ่มศิลปินที่น่าจะเรียกว่าเป็น “ทอมบอยแบนด์” กลุ่มแรกๆ ที่เคยมีกันมาในวงการบันเทิงไต้หวัน

หลังซุ่มเตรียมงานมานับปี Misster ก็พร้อมที่จะปล่อยผลงานเพลงอัลบั้มแรกออกมาให้ทุกคนได้ฟังกันแล้ว โดย 5 สาวสมาชิกของวงต่างมีความสามารถที่แตกต่างในแต่ละด้าน ทั้งการร้อง, เต้น และเล่นดนตรี เป็นกลุ่มไอดอลที่ทางผู้จัดจำหน่ายเชื่อว่าจะสามารถพลิกโฉมของเกิร์ลกรุ๊ป (หรือบอยแบนด์) ให้แตกต่างอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

สมาชิกที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของ Misster เป็นสมาชิกแรกคนสำคัญ ที่ทำให้กลุ่มไอดอลสาวหล่อแห่งไทเปถือกำเนิดขึ้นมาก็คือ จินไท่ (Jin Tai) สาวหล่อซึ่งชาวไต้หวันบางส่วน อาจจะพอจำหน้าค่าตาได้ ในฐานะที่เธอเคยเป็นหนึ่งของผู้สมัครเข้าร่วมการประกวดรายการ One Million Star เรียลลิตี้ค้นฟ้าคว้าดาวสุดฮิตของไต้หวัน

ย้อนหลังไปเมื่อการแสดงในรายการ One Million Star จินไท่ ที่เคยใช้ชื่อว่า ไดอาน่า (Diana) เลือกที่จะขับร้องบทเพลง Flower of Woman / Nv Ren Hua ของ เหมยเยี่ยฟาง (Anita Mui) ด้วยรูปลักษณ์ภายนอก รวมถึงเสียงร้องที่โดดเด่นทำให้ เธอได้รับความสนใจอย่างมากในตอนนั้น นอกจากนั้นสาวคนนี้ยังเคยมีประสบการณ์ในการบันทึกเสียงงานเพลงมาบ้างแล้ว ตั้งแต่สมัยยังเป็นนักเรียนอยู่ ต่อมา จินไท่ ได้เซ็นสัญญาเพื่อเป็นศิลปินเพลงกับบริษัท Lady Emperor จนกระทั่งต่อมา ก็มีเพื่อน ๆ อีก 4 คนก็ตามเข้าเป็นสมาชิกของวง Misster

มิลค์ (Milk) เป็นสาวหล่อสุดฮ็อต ที่มีสาวๆ คอยตามกรี๊ดตั้งแต่สมัยยังเรียนอยู่ในชั้นมัธยม, เจียหวาง (Chiao Wang) นักเรียนเรียนดีแห่งโรงเรียนสตรีอันดับ 1 ของกรุงไทเป, ขณะที่ คริส (Chris) เคยมีกิจการแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองมาแล้ว และ ชิ่วชิ่ว (Qiu Qiu) เป็นครูสอนเต้น ซึ่งเคยเป็นสมาชิกของกลุ่มนักเต้น ที่มีชื่อว่า Freaky Klownz

จากไซ่ จินฮวา ถึง ฟั่น ปิงปิง มองความงามสาวจีนในรอบ 100 ปี

Submitted by canjamm on 16 กุมภาพันธ์, 2011 - 18:02
ฟั่น ปิงปิง (Fan Bing Bing), จังปั๋อจือ (Cecilia Cheung), เจ้า เหวย (Zhao Wei), หลิน จือหลิง (Lin Chi Ling), หวัง เฟย (Wang Fei) ไปถึงหลี่ อี๋ว์ชุน ต่างมีดวงหน้า รูปร่าง ที่งดงาม หรือไม่ก็ทรงเสน่ห์เย้ายวนใจดึงดูด ผู้คนในยุคปัจจุบัน จนกล่าวได้ว่าในยุคปัจจุบัน ไม่มีเกณฑ์ตายตัวที่ตัดสินความงาม เป็นยุคแห่งความงามที่หลากหลาย
       
       สื่อจีนได้ขุดค้นสำรวจหญิง สาวที่เป็นตัวแทนที่สะท้อนมาตรฐานงามแห่งยุคต่างๆของแผ่นดินจีนในรอบ 100 ปี นับจากช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่จากปลายยุคการปกครองราชวงศ์กษัตริย์ สู่สาธารณรัฐจีน ถึงสาธารณรัฐประชาชนจีนในระบอบคอมมิวนิสต์ และก็ได้พบว่าแต่ละยุคสมัยนั้น มีเกณฑ์มาตรฐานหรือแนวความคิดเกี่ยวกับเสน่ห์ความงามของอิสตรีที่แตกต่างกัน ไปอย่างน่าสนใจและมีสีสันให้ได้คิดถึงคุณค่าความงาม โดยมาตรฐานความงามนี้ มิใช่เพียงความงามอย่างผิวเผินที่มองเห็นกันจากรูปลักษณ์ภายนอก หากเป็นความงามจากความคิด ทัศนะ บุคลิกตัวตน การแสดงออก การดำเนินชีวิต ที่เป็นที่ชื่นชมและแบบอย่างของสังคมในยุคสมัยนั้น
 
ไซ่ จินฮวา มาตรฐานความงามแห่งยุค ค.ศ.1900-1909 (2443-2452)

จีนคุมเข้ม เตรียมกำจัดบุหรี่พ้นจอภาพยนตร์,โทรทัศน์

Submitted by canjamm on 16 กุมภาพันธ์, 2011 - 17:55

รัฐบาลจีนได้ออกคำสั่งให้ผู้ผลิตภาพยนตร์ และรายการโทรทัศน์ต่างๆ ในประเทศ ลดภาพการมีบุหรี่ในสื่อบันเทิงให้เหลือน้อยที่สุด เป็นความพยายามในการจำกัดความนิยมของยาเสพติดถูกกฏหมายชนิดนี้ ที่ทำให้จีนกลายเป็นประเทศที่บริโภคบุหรี่มากที่สุดในโลกไปแล้ว

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมามีคำสั่งจากสำนักงานวิทยุ, ภาพยนตร์ และโทรทัศน์ของจีน ไปถึงยังผู้ผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ ให้ลดการเสนอภาพของการสูบบุหรี่ให้เหลือน้อยที่สุด อย่างไรก็ตามหน่วยงานของรัฐบาลจีนยังอนุญาตให้มีภาพของการสูบบุหรี่ได้บ้าง ตามแต่ความจำเป็นทางศิลปะ อาทิ เพื่อใช้ในการอธิบายการพัฒนาของตัวละคร เป็นต้น

นอกจากนั้นหน่วยงานด้านสื่อยังระบุว่า ห้ามมีภาพของตัวละครอายุต่ำกว่า 18 ปี เสพหรือซื้อบุหรี่โดยเด็ดขาด นอกจากนั้นยังห้ามมิให้มีฉากที่ตัวละครสูบบุหรี่ในอาคาร หรือสถานที่สาธารณะซึ่งตามปกติแล้วห้ามสูบบุหรี่ด้วย

แต่คำสั่งครั้งนี้ไม่ได้มีการระบุถึงรายละเอียด และแนวทางปฏิบัติ สำหรับสื่อบันเทิงจากต่างชาติที่เข้ามาฉายในจีน โดยเฉพาะภาพยนตร์ฮอลลีวูด ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในประเทศจีนอยู่ในเวลานี้ อย่างไรก็ตามเป็นที่รู้ดีอยู่แล้ว ว่าภาพยนตร์จากต่างประเทศไม่สามารถเข้าฉายได้อย่างอิสระในประเทศจีน แต่ถูกจำกัดโควต้าไว้เพียง 20 เรื่องต่อปีเท่านั้น

มาตรการดังกล่าว เป็นหนึ่งในแผนการลดปริมาณผู้สูบบุหรี่ ที่รัฐบาลจีนเพียรพยายามทำมากว่า 10 ปี โดยก่อนหน้านี้มีการสั่งห้ามมิให้มีการโฆษณาบุหรี่ตามสื่อต่างๆ และไม่อนุญาตให้บุหรี่เป็นสปอนเซอร์สำหรับการแข่งขันกีฬามาแล้ว ซึ่งตามข้อมูลระบุว่าประเทศจีนมีจำนวนผู้ใช้บุหรี่มากขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันน่าจะอยู่ที่ 300 ล้านคน หรือ 30% ของคนวัยทำงานกันเลยทีเดียว

แม้ที่ผ่านมาอัตราการเพิ่มของผู้สูบบุหรี่ในจีนจะเริ่มคงที่ แต่อัตราการเสียชีวิตกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามการเพิ่มของประชากรในเขตตัวเมือง ซึ่งถ้าทุกอย่างยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีการคาดการณ์ว่าในปี 2030 จะมีผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ในจีนถึงปีละ 3.5 ล้านคนเลยทีเดียว

Manager Online

ตัวอย่างแรก The Lost Bladesman, "ดอนนี่ เยน" (Donnie Yen) เป็น 'กวนอู'

Submitted by canjamm on 15 กุมภาพันธ์, 2011 - 17:49

ผู้สร้างภาพยนตร์เรื่อง The Lost Bladesman ได้ปล่อยตัวอย่างแรกของหนังมาให้ชมกันแล้ว กับการรับบทเป็น "กวนอู" (Guan Yu) ของยอดนักแสดงแอ็กชั่น "ดอนนี่ เยน" (Donnie Yen)

The Lost Bladesman เป็นภาพยนตร์อีกเรื่อง ที่หยิบเอาเสี้ยวหนึ่งแห่งตำนานสามก๊กมาเล่าอีกครั้ง และคราวนี้จะเป็นเรื่องราวของ กวนอู ยอดนักรบและเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ กับการฝ่า 5 ด่าน สังหาร 6 แม่ทัพของ โจโฉ เพื่อเดินทางไปหาพี่ร่วมสาบานอย่าง เล่าปี่

ดาวบู๊หมายเลข 1 แห่งฮ่องกงในเวลานี้ ดอนนี่ เยน จะมาสวมบทบาทเป็น กวนอู ซึ่งเขายังจะรับหน้าที่ผู้กำกับคิวบู๊เช่นเคย นอกจากนั้นหนังยังจะมี เจียงเหวิน มารับบทเป็น โจโฉ นักปกครองผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งแห่งประวัติศาสตร์จีนด้วย โดยความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่อง Let The Bullet Fly ที่ เจียงเหวิน กำกับและแสดงนำ ซึ่งทำรายได้มหาศาล กลายเป็นหนังภาษาจีนที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลอันดับ 3 ไปแล้ว ยิ่งทำให้ภาพยนตร์ สามก๊ก เรื่องนี้ได้รับความสนใจขึ้นไปอีก

The Lost Bladesman ยังจะมี ซุนหลี่ (Sun Li), หวังสวี่ปิง (Wang Xue Bing) และอเล็กซ์ ฟง (Alex Fong Chung Sun) ร่วมแสดง โดยเป็นผลงานการกำกับของ เฟลิกซ์ จง และ (Felix Chong) อลัน มัก (Alan Mak) ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของไตรภาค Infernal Affairs อันโด่งดัง โดยผลงานฟอร์มยักษ์เรื่องนี้ มีกำหนดเข้าฉายที่เมืองจีนในวันที่ 28 เม.ย. ที่จะถึงนี้

The Lost Bladesman - Trailer

Manager Online

"จางจื่ออี๋" (Zhang Ziyi) ควงหนุ่มคนใหม่ สวีตหวานกลางกรุงโตเกียว

Submitted by canjamm on 14 กุมภาพันธ์, 2011 - 17:46

หลังจากยุติความสัมพันธ์กับแฟนหนุ่มชาวต่างชาติได้ไม่นานนัก ดูเหมือนว่า "จางจื่ออี๋" (Zhang Ziyi) จะไม่ต้องหงอยเหงาเดียวดายในวันวาเลนไทน์แล้ว เมื่อมีรายงานข่าวและภาพถ่ายหลักฐาน เกี่ยวกับความรักและหนุ่มคนใหม่ ของนักแสดงสาวคนดังมาให้เห็นกันแล้ว

ตามรายงานจากสื่อในฮ่องกง จางจื่ออี๋ และหนุ่มร่างท้วมคนหนึ่ง ที่แม้แต่สื่อก็ยังไม่ทราบถึงชื่อ หรือข้อมูลว่าเป็นใครกันแน่ เดินทางมาถึงโรงแรมหรูแห่งหนึ่งในรอปปงงิ เมื่อช่วงเวลาราว ๆ บ่าย 3 โมง เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน เป็นเนื้อวาเกียว โดยฝ่ายชายเป็นผู้รับผิดชอบค่าอาหารราคา 30,000 เยน (ประมาณ 11,000 บาท) หนุ่มปริศนาคนนี้ยังช่วยถอดเสื้อโค้ท และถือกระเป๋าถือให้กับนักแสดงสาวคนดังด้วย ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่า นี่น่าจะเป็นความสัมพันธ์เกินเพื่อนอย่างแน่นอน

ในช่วงกว่าปีที่ผ่านมาชีวิตรักของ จางจื่ออี๋ ดูจะเป็นที่สนอกสนใจของสื่อมวลชนและประชาชนชาวจีน มากยิ่งกว่าเรื่องงานของเธอเสียอีก โดยเฉพาะเรื่องรักร้าวระหว่าง จางจื่ออี๋ และนักธุรกิจชาวอิสราเอล วีวี เนโว ที่ครั้งหนึ่งเคยมีกระทั่งข่าวว่าจะแต่งงานกัน แต่ในที่สุดเมื่อปลายปี 2010 ผู้จัดการส่วนตัวจึงได้ออกมายอมรับกับสื่อว่า จางจื่ออี๋ โสดสนิท และปิดฉากความรักครั้งนั้นไปแล้ว

ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา จางจื่ออี๋ เล่าถึงเรื่องงานฉลองวันคล้ายวันเกิดปีที่ 32 ณ คลับแห่งหนึ่งผ่านบล็อคส่วนตัว เธอก็ยังยืนยันเรื่องชีวิตโสดอีกครั้ง ซึ่งในวันเดียวกันนั้นเอง ที่สื่อฮ่องกงก็ได้เผยถึงภาพหนุ่มคนใหม่ของเธอ

โดยขณะนี้ทั้ง จางจื่ออี๋ และผู้จัดการส่วนตัว ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้แต่อย่างใด

Manager Online

“หลี่เจียซิน” (Michelle Reis) รับทรัพย์ 100 ล้านเหรียญฯ หลังให้กำเนิดทายาทตระกูล “ฮุย”

Submitted by canjamm on 14 กุมภาพันธ์, 2011 - 15:42

สื่อจากฮ่องกงรายงานถึงข่าวดี ของอดีตนางงามมิสฮ่องกงคนสวย “หลี่เจียซิน” (Michelle Reis) ที่เพิ่งให้กำเนิดลูกชายคนแรกไปหมาดๆ เมื่อสัปดาห์ก่อน ว่าเธอยังได้รับเงินขวัญถุงจากครอบครัวสามี ถึง 100 ล้านเหรียญฮ่องกง ในฐานะให้กำเนิดทายาทแก่วงศ์ตระกูลได้สำเร็จ

หลี่เจียซิน ได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมาก เมื่อเธอโพสต์ภาพถ่ายหลังให้กำเนิดลูกน้อยเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่มีชาวฮ่องกงจำนวนมากเรียกอดีตมิสฮ่องกงรายนี้ว่าเป็น “คุณแม่ที่สวยที่สุดประวัติศาสตร์” กันเลยทีเดียว

ขณะที่ตัวของ หลี่เจียซิน กล่าวถึงลูกน้อยวัยแบเบาะว่ามีหน้าตาเหมือนกับ จูเลี่ยน ฮุย สามีของเธอมากที่สุด “เขาเหมือนกับเป็น จูเลี่ยน ตัวน้อย ๆ เลยค่ะ แต่ลูกมีตาเหมือนกับฉัน ตาโตและดูแจ่มใส”

ในเวลาเดียวกันยังมีรายงานว่า ปู่และย่าของหนูน้อย “เจย์เดน แม็กซ์ ฮุย” หรือ “เจเอ็ม” ได้มอบเงินขวัญถุงให้กับลูกสะใภ้คนสวยรายนี้ถึง 100 ล้านเหรียญฮ่องกง (ประมาณ 394 ล้านบาท) เป็นรางวัลในฐานะที่ให้กำเนิดทายาทรุ่นต่อไปของตระกูลฮุยได้สำเร็จ โดยมีการประมาณการณ์กันว่าตระกูลมหาเศรษฐีของฮ่องกงตระกูลนี้ มีทรัพย์สินอยู่ราวๆ ถึง 18,000 ล้านเหรียญฮ่องกง (ประมาณ 70,000 ล้านบาท) กันเลยทีเดียว

ซึ่งเมื่อเทียบแล้ว ถือว่าเงินรางวัลสำหรับการให้กำเนิดทายาทที่หลี่เจียซินได้รับนั้น อยู่ในระดับเดียวกับที่ดาราสาว อิซาเบลลา เหลียงลั่วซือ ก็เคยได้รับ 100 ล้านเหรียญฮ่องกง เช่นเดียวกัน หลังให้กำเนิดทายาทตระกูล “ลี” ของอัครมหาเศรษฐี ลีคาชิง มาแล้ว โดยสื่อในฮ่องกงเชื่อว่า เหลียงลั่วซื่อ วัย 22 ปี ที่มีลูกกับ ริชาร์ด ลี ลูกชายคนโตของ ลีคาชิง น่าจะรับทรัพย์ไปราวๆ 300 ล้านเหรียญฮ่องกงแล้ว จากการมีลูกกับเขา 3 คน

Manager Online

"กงยู่หมิน" (Gong Rumin) ซูเปอร์โมเดลจีนอาจเสียตำแหน่ง เหตุเคยถ่ายนู้ด โดนปล่อยรูปเกลื่อนเน็ต

Submitted by canjamm on 12 กุมภาพันธ์, 2011 - 12:04

"กงยู่หมิน" (Gong Rumin) หรือ"กงเหยียนจ้าวหมิน" (Gong Yan Zhao Min) ผู้ชนะการประกวด World Supermodel China Contest ในจีน อาจต้องเสียตำแหน่งแชมป์หลังเจ้าตัวโดนแฉเคยถ่ายนู้ดพร้อมนำภาพกว่า 600 รูปเผยแพร่ทั่วอินเตอร์เน็ต

ภาพนู้ดกว่า 600 ภาพ ของกงยู่หมิน ได้กลายเป็นประเด็นร้อนในจีนอยู่ในขณะนี้หลังเจ้าตัวได้รับตำแหน่ง แต่ต้องมาถูกแฉว่าเคยเป็นนางแบบถ่ายภาพนู้ดมาก่อน ตามรายงานระบุว่า ภาพดังกล่าวมีการถ่ายทำขึ้นที่ต่างประเทศนอกแผ่นดินจีนเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจมีการถ่ายทำที่ประเทศญี่ปุ่นหรือไม่ก็ไต้หวัน ก่อนที่เธอจะมีชื่อเสียงโด่งดังในจีนแผ่นดินใหญ่

กงยู่หมิน เริ่มเข้าสู่แวดวงนางแบบตั้งแต่ปี 1999 และเคยขึ้นปกนิตยสารมาแล้วหลายต่อหลายฉบับในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และยังเคยเป็นนางแบบในงาน Cars International Auto Show ในปี 2009 ซึ่งครั้งนั้นเธอได้รับตำแหน่งจากการประกวดพริตตี้นางแบบให้กับรถด้วย

การประกวด World Super Model China Contest 2010 เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา กงยู่หมิน ได้ตำแหน่งแชมป์อันดับหนึ่งไปครองหลังจากต้องต่อสู้ฟาดฟันเพื่อให้ได้ตำแหน่งนี้มาครองนานถึง 4 เดือนหลังเปิดการแข่งขันตั้งแต่เดือน ส.ค. ปีที่แล้ว ซึ่งการประกวด World Super Model China Contest 2010 นับได้ว่าเป็นหนึ่งในเวทีการประกวดนางแบบที่มีชื่อเสียงอันดับโลก โดยสามารถดึงดูดสาวสวยให้เข้าร่วมการประกวดได้มากกว่า 3,000 คนเลยทีเดียว

Manager Online

ใบปิดใหม่ The Grandmasters, หนังถ่ายทำข้ามปียังไม่ปิดกล้องของ "หว่องกาไว"

Submitted by canjamm on 11 กุมภาพันธ์, 2011 - 18:31

ผู้สร้าง The Grandmasters ได้เผยให้เห็นถึงใบปิดใหม่ เพื่อประชาสัมพันธ์หนังเรื่องนี้ ในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน ครั้งที่ 61 ขณะที่หนังก็ยังคงถ่ายทำอยู่ที่ประเทศจีนในขณะนี้ หลังจากเปิดกล้องมาเป็นเวลานานพอสมควรแล้ว

ภาพของ เหลียงเฉาเหว่ย (Tony Leung Chiu Wai) ในบท ปรมาจารย์ยิปมัน (Yip Man) ในฉากบู๊ท่ามกลางสายฝน ถูกแสดงเพื่อโปรโมตหนังกังฟูฟอร์มใหญ่ The Grandmasters ที่เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน ระหว่างงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่สำคัญที่สุดงานหนึ่งของยุโรปประจำปีที่ 61 ซึ่งนอกจากเหลียงเฉาเหว่ยแล้ว ยังมีภาพของ จางจื่ออี๋ (Zhang Ziyi) ที่จะรับบทครูมวยยอดฝีมือฝ่ายหญิงในหนังเรื่องนี้ให้เห็นกันด้วย

The Grandmasters เป็นผลงานของผู้กำกับชาวฮ่องกง หว่องกาไว (หวังเจียเหว่ย) ผู้โด่งดังระดับนานาชาติจากผลงานมากมาย อาทิ Chungking Express, In the Mood for Love, 2046 และ My Blueberry Nights โดยในการสร้างหนังแนวกังฟูต่อสู้ด้วยหมัดมวยเรื่องนี้ เขาได้ หยวนวูปิง เจ้าของฉากแอ็กชั่นสุดมันส์จาก The Matrix และ Crouching Tiger, Hidden Dragon มาดูแลในเรื่องคิวบู๊ให้ด้วย

นอกจากสองซุปเปอร์สตาร์แห่งวงการภาพยนตร์จีนอย่าง เหลียงเฉาเหว่ย และ จางจื่ออี๋ แล้ว หนังยังจะมีดาราสาวชาวเกาหลีใต้ ซองเฮเคียว (Song Hye Kyo) รับบทเป็นภรรยาของอาจารย์ยิปมัน และดาราหนุ่มชาวไต้หวัน จางเจิ้น (Chang Chen) กับพิธีกรคนดังแห่งจีนแผ่นดินใหญ่ จ้าวเบิ่นฉาน (Zhao Benshan) ร่วมแสดงด้วย

ด้วยเรื่องราว, ผู้กำกับ และรายชื่อนักแสดง The Grandmasters กลายเป็นเป็นงานฟอร์มใหญ่ที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง แต่ในเวลาเดียวกันขั้นตอนการสร้างก็เต็มไปด้วยความล่าช้าด้วยเช่นกัน

เมื่อปลายปี 2010 ในการแถลงข่าวถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ ปักกิ่ง เหลียงเฉาเหว่ย กล่าวว่าแม้การถ่ายทำจะค่อนข้างหนัก แต่เขาก็ไม่ได้กังวล เพราะเตรียมการฝึกซ้อมมาอย่างดีแล้ว โดยฉากต่อสู้ในสายฝน เป็นฉากที่ใช้เวลาถ่ายทำนานถึง 30 วัน จางกั๋วลี่ ที่รวมแสดงอยู่ด้วยกล่าวติดตลกว่า เป็นเรื่องโชคดีที่การถ่ายทำเสร็จสิ้นภายในเดือนเดียวได้ เพราะปกติฉากแบบนี้ หว่องกาไว้ ควรจะใช้เวลาอย่างต่ำประมาณ 3 เดือนขึ้นไป

อดีตมิสฮ่องกง "หลี่เจียซิน" (Michelle Reis) เป็นคุณแม่มือใหม่ในวัย 40

Submitted by canjamm on 10 กุมภาพันธ์, 2011 - 15:48

นักแสดงสาวสวย "หลี่เจียซิน" (Michelle Reis) ภรรยาของมหาเศรษฐีชาวฮ่องกง "จูเลี่ยน ฮุย" (Julian Hui) ได้ให้กำเนิดลูกชายคนแรก หลังจากใช้ชีวิตแต่งงานมา 2 ปีเศษ ที่ทำให้เธอได้ทำหน้าที่คุณแม่ในวัย 40 ปีพอดี

สำนักข่าวต่างๆ ในฮ่องกง ได้ติดตามการให้กำเนิดทายาทของคู่รักคนดังคู่นี้มาตั้งแต่ต้น โดยมีรายงานว่า หลีเจียซิน ได้เข้าแอดมิตที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมาแล้ว และได้ให้กำเนิดลูกชายในช่วงบ่ายของวันที่ 8 ก.พ. ซึ่งมีข่าวว่าเป็นฤกษ์งามยามดี ที่ทางครอบครัวได้เลือกเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

ซึ่งนางเอกสาววัย 40 ปี และ จูเลี่ยน ฮุย สามีนักธุรกิจของเธอ ตั้งชื่อให้กับลูกคนนี้ว่า เจย์เดน แม็กซ์ ฮุย (Jayden Max)

โดยก่อนจะถึงการคลอดท้องแรก หลี่เจียซิน ยังส่งข่าวให้กับแฟน ๆ ผ่านบล็อค Weibo ของตัวเองอยู่เป็นระยะ เพื่อแบ่งปันความรู้สึกต่างๆ กับทุกคน ... "ทุกคนพยายามที่จะเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิม สำหรับการเปลี่ยนแปลงชีวิต ขอเพียงแค่มีความกล้าหาญเท่านั้นค่ะ! ความเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งดีเสมอ" ดาราสาวกล่าวกับทุกคนผ่านเว็บไซต์ ขณะเดียวกัน แฟนๆ ก็ต่างส่งกำลังใจ และอวยพรให้เธอ

ในวันที่ 8 ก.พ. หลีเจียซิน ยังเขียนถึงการให้กำเนิดลูกชายอีก พร้อมยอมรับว่าเธอทั้งกลัว และตื่นเต้นไปพร้อมๆ กัน ... "การคลอดลูกถือเป็นความสุขอย่างหนึ่งค่ะ เมื่อมองไปข้างหน้าแล้ว ฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก แต่ก็กลัวเหมือนกัน อยากจะขอบคุณทุกคนสำหรับการสนับสนุนต่างๆ, คำอวยพร และการให้กำลังใจทั้งหมดค่ะ"

จนกระทั่งในเวลาประมาณ 14.20 น. ของวันเดียวกัน พ่อและแม่ของฝ่ายสามี ได้เดินทางมาที่โรงพยาบาล, ตามมาด้วยสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ ขณะที่กองทัพนักข่าวกว่า 100 ก็พร้อมอยู่ที่นั้นแล้ว

หลังจากดาราสาวให้กำเนิดลูกชายคนแรกอย่างปลอดภัยทั้งแม่และลูก ตัวแทนของครอบครัวได้ประกาศเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ พร้อมให้ข้อมูลว่าลูกชายคนแรกของ หลี่เจียซิน และจูเลี่ยน ฮุย เป็นเด็กชายที่ทั้งสองตั้งชื่อให้ว่า เจย์เดน แม็กซ์ ฮุย มีน้ำหนัก 2.93 กก. และสูง 49 ซม.

ชาวเน็ตจีนช็อค!!! นางแบบสาว “เจสซิก้า หลิว” (Jessica Liu) เป็น 'ผู้ชาย'

Submitted by canjamm on 8 กุมภาพันธ์, 2011 - 17:06

“เจสซิก้า หลิว” (Jessica Liu Shi Han / 刘诗涵) นางแบบสาวชาวจีนผู้โด่งดังและเป็นที่รู้จักในโลกอินเตอร์เน็ต ได้ออกมาเปิดเผยความลับ เรื่องการที่เธอเคยเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ จากชายกลายเป็นหญิง ภายหลังเรื่องดังกล่าวเป็นข่าวลือ ที่ถูกพูดถึงอย่างหนาหูมาหลายเดือน

ในช่วงประมาณ 4 – 5 เดือนที่ผ่านมา นางแบบสาวชาวจีน “หลิวซือฮั่น” หรือ “แจสซิก้า หลิว” เริ่มเป็นที่รู้จักในหมู่ชาวเน็ตตี๋หมวย ตลอดจนชาวต่างชาติ จากรูปร่างหน้าตาสวยหน้ารักแบบสาวญี่ปุ่น ขณะที่มีบางคนเปรียบเทียบความสวยของฮ็อตของเธอกับ แอนเจล่าเบบี้ นางแบบขวัญใจชาวฮ่องกงชาวฮ่องกงกันเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามสาวจีนคนนี้ ไม่ค่อยจะได้เปิดเผยถึงรายละเอียดต่างๆ ในชีวิตส่วนตัวมากนัก นอกจากเคยกล่าวกับสื่อว่า เธออาศัยอยู่กับครอบครัวบุญธรรม ที่รับอุปถัมภ์ตั้งแต่อายุ 7 - 8 ขวบ

ในเวลาเดียวกันเริ่มมีข่าวลือว่าเธออาจจะไม่ใช่หญิงแท้ แต่เป็นสาวเทียม ที่เคยผ่าตัดแปลงเพศจากหญิงเป็นชายมาก่อน ... จนกระทั่งเรื่องดังกล่าวถูกพูดถึงเป็นเวลาสองเดือน หลิวซือฮั่น จึงได้ออกมายอมรับว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความจริง ... ที่ว่าเธอเองเคยเป็นเพศชายมาก่อน

เมื่อปลายเดือน ธ.ค. หลิวซือฮั่น ได้พูดถึงเรื่องนี้เป็นครั้งแรก และเขียนอธิบายเหตุผลส่วนตัวในเว็บไซต์ของเธอ เกี่ยวกับข้อเท็จจริงของเรื่องการแปลงเพศ ...

“ฉันเคยผ่าตัดแปลงเพศค่ะ ฉันแค่ต้องการปกปิดเรื่องนี้เอาไว้ เพื่อจะได้ใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาๆ คนหนึ่ง แต่ใครบางคนไม่ยอมปล่อยฉันไป และเปิดเผยความลับของฉันกับสื่อ, กับสาธารณะ เกี่ยวกับเรื่องที่ฉันไม่สามารถให้กำเนิดลูกเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นได้ ตอนนี้ฉันยอมรับแล้วค่ะ ไม่ต้องกดดันกันอีกต่อไปแล้ว ฉันจะค่อยๆ เปิดเผยความจริงอย่างช้าๆ ฉันขอยอมสู้กับความจริงดีกว่า จะให้คนอื่นมาพูดจาให้ร้าย”

ชีวิตวัยเด็กอันแสนเศร้า

เมื่อถึงช่วงเดือน ม.ค. เรื่องนี้เริ่มเป็นที่สนใจของบรรดาสื่อกระแสหลักมากขึ้นเรื่อย ๆ มีรายการโทรทัศน์ขอสัมภาษณ์เธอ ขณะที่เรื่องราวการเปลี่ยนแปลงของนางแบบสาว ได้ถูกถ่ายทอดเป็นสกู๊ปข่าวตามสื่อต่าง ๆ ขณะที่ตามชุมชนออนไลน์ของจีนก็ถกเถียงถึงเรื่องนี้กันอย่างหนัก

"เซลีน่า (Selina) - S.H.E" รับ 100 ล้าน ค่าชดเชยถูกไฟคลอก

Submitted by canjamm on 4 กุมภาพันธ์, 2011 - 14:52

ป๊อปสตาร์ชาวไต้หวัน เซลีน่า เหรินเจียเสวียน (Selina Ren), สมาชิกในครอบครัวของเธอ, ต้นสังกัด และตัวแทนของบริษัทผลิตซีรีส์เรื่อง I Have a Date with Spring จากจีน ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงต่อเหตุความผิดพลาดในฉากระเบิดระหว่างการถ่ายทำ จนทำให้นักร้องสาววัย 28 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ได้ร่วมกับลงนามในข้อตกลงเรื่องค่าเสียหาย โดย ริชาร์ด จาง หนุ่มคนรักของเธอ ก็ร่วมเป็นสักขีพยานอยู่ด้วย

สำหรับรายละเอียดของข้อตกลง บริษัทจีนยินยอมที่จะจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาล, ค่าทำศัลยกรรมเพื่อตกแต่งและลบรอยแผลต่าง ๆ ที่เกิดจากอุบัติเหตุครั้งนี้, ค่าเสียโอกาสรายได้ในช่วงระยะเวลา 1 ปีเต็ม ระหว่างการรักษาตัวของเธอ รวมถึงค่าใช้จ่ายของการทำกายภาพบำบัดในช่วงระยะเวลา 2 ปีต่อไปนี้ด้วย

นอกจากนั้นยังจะมีการจ่ายค่าทำขวัญ และค่าใช้จ่ายสำหรับการเยี่ยวยาบำบัดสุขภาพจิตให้กับนักร้องสาวผู้โชคร้ายด้วย

โดย HIM International ต้นสังกัดของ เซลีน่า ไม่ได้เปิดเผยว่าค่าเสียหายทั้งหมดรวมแล้วเป็นตัวเงินจำนวนเท่าไหร่ แต่สื่อมวลชนในไต้หวันคาดว่าน่าจะอยู่ราว ๆ ประมาณ 100 ล้านเหรียญไต้หวัน (หรือประมาณ 106 ล้านบาท) โดยประเมินจากค่ารักษาพยาบาล และรายได้ต่อหนึ่งปีของนักร้องสาวชื่อดังผู้มีรายได้ติดอันดับต้นๆ ของวงการบังเทิงไต้หวันคนนี้

ซึ่งเจ้าตัวกล่าวถึงเรื่องนี้ด้วยความยินดี เมื่อการเจรจาที่ยืดเยื้อมานานนับเดือนได้ข้อยุติลงเสียที "ขอบคุณทุกคนสำหรับความเป็นห่วงค่ะ ผู้ชายสองคน (พ่อ และแฟนหนุ่ม) ที่รักฉัน จะได้ผ่อนคลายบ้าง และจะได้มีปีที่ดีเสียที ถือว่าไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายเกินไป"

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความรู้สึกของแฟนหนุ่ม เกี่ยวกับความพึงพอใจในค่าชดเชยที่ เซลีน่า ได้รับ ริชาร์ด จาง กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "ผมไม่ได้แสดงความคิดเห็น หรือตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ จึงไม่ทราบว่าจะตอบอย่างไรดี" ขณะที่บริษัทต้นสังกัดอย่าง HIM International ยอมรับว่าไม่ได้พอใจเสียทีเดียวกับค่าชดเชย "แต่ก็อยู่ในระดับที่พอจะยอมรับได้"

Manager Online

แผ่นรองเมาส์ + หมอนข้าง สุดเซ็กซี่จาก 3D Sex and Zen

Submitted by canjamm on 4 กุมภาพันธ์, 2011 - 14:30

"หลี่ไห่เหยียน" (Vonnie Lui Hoi Yan) ร่วมเปิดตัวสินค้าของสะสม จากหนังอีโรติก 3D Sex and Zen: Extreme Ecstasy อย่าง หมอนข้าง และแผ่นรองเมาส์สุดเซ็กซี่ ที่ได้รับความสนใจจากหนุ่ม ๆ จนสินค้าที่มีอยู่จำกัดหมดเกลี้ยงในพริบตา ในช่วงเวลาแห่งการจับจ่ายของเทศกาลตรุษจีน

ดาราสาวชาวฮ่องกง หลี่ไห่เหยียน ที่มาร่วมเปิดตัวสินค้า พร้อมแจกลายเซ็นครั้งนี้กล่าวด้วยความยินดี ว่าสินค้าทั้งสองชิ้นอย่าง หมอนข้าง และแผ่นรองเมาส์ ซึ่งผลิตขึ้นมาเพื่อประชาสัมพันธ์หนังเรื่อง 3D Sex and Zen: Extreme ที่เธอร่วมแสดง ได้รับความสนใจจากลูกค้าโดยเฉพาะหนุ่มๆ เป็นอย่างมาก จนของที่ผลิตออกมาจำนวนจำกัดหมดจากชั้นวางสินค้าของร้านต่างๆ ไปอย่างรวดเร็ว

ขณะเดียวกันดาราสาวยังยืนยันว่าไม่ได้รู้สึกตะขิดตะขวงใจกับสินค้าเหล่านี้ ที่มีภาพเซ็กซี่ของเธอ และนักแสดงสาวคนอื่นๆ ในเรื่อง พิมพ์เอาไว้แต่อย่างใด "ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คนที่บริษัทมีของพวกนี้เก็บไว้คนละอันกันทั้งนั้น ทุกคนก็บอกว่ามันใช้สะดวกดี สำหรับฉันถือว่าเป็นเกียรติด้วยซ้ำนะคะ แม้แต่แม่ของฉันยังบอกเลยว่ามันตลกดีเลย บอกว่ามันดู 'ใหญ่' กว่าของจริงของฉันซะอีก"

หลี่ไห่เหยียน ยังกล่าวถึงเรื่องงานของตนเองในช่วงนี้ว่า การเดินสายโปรโมตหนังเรื่องนี้ ทำให้เธอแทบจะไม่ได้มีวันหยุดเลย เพราะต้องอดหลับอดนอนนอน และใส่ชุดที่เปิดเผยผิวอยู่บ่อยๆ ถึงกับทำให้เธอป่วยเป็นไข้หวัด และเป็นตาแดง จนแทบจะอยากขอวันหยุดในช่วงตรุษจีน จากเจ้านายเต็มแก่แล้ว

3D Sex and Zen: Extreme Ecstasyหนังอีโรติกสามมิติเรื่องแรกของฮ่องกง ได้รับความสนใจจากทุกฝ่าย ตั้งแต่เริ่มมีการประกาศข่าวการสร้างเมื่อกว่าหนึ่งปีที่แล้ว โดยตอนนี้หนังถ่ายทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว และมีกำหนดเข้าฉายภายในเดือน เม.ย. ที่จะถึงนี้ ซึ่งนอกจาก หลี่ไห่เหยียน แล้ว หนังยังจะมีสองสาวญี่ปุ่น อย่าง ยูคิโกะ ซุโฮ (Yukiko Suo) และ ซาโอริ ฮาระ (Saori Hara) รวมถึง หลันเหยียน (Lan Yan) สาวเซ็กซี่จากจีนแผ่นดินใหญ่ ร่วมแสดงด้วย

Manager Online

"จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) เป็นฮีโร่ช่วยหญิงสาวไม่ให้ฆ่าตัวตาย

Submitted by canjamm on 2 กุมภาพันธ์, 2011 - 17:36

แม้ว่าจะต้องทำงานอย่างหนัก แต่ระหว่างที่หยุดพักกองถ่าย "จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) นักแสดงสาวสุดฉาวก็ได้ทำประโยชน์ช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ หลังเจ้าตัวเห็นหญิงสาวเตรียมกระโดดตึกฆ่าตัวตาย

ตามรายงานระบุว่าเมื่อไม่นานนี้ จางป๋อจือ มีคิวถ่ายภาพยนตร์ที่มองโกเลีย ซึ่งในวันที่เธอหยุดพักไม่มีคิวถ่ายทำ เจ้าตัวได้ตัดสินใจพักอยู่ที่ห้องในโรงแรม แต่แล้วพอเธอมองออกไปนอกหน้าต่าง เธอจึงได้เห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่บนยอดตึกและมีทีท่าเตรียมกระโดดหวังจะฆ่าตัวตาย

ซึ่งทันทีที่เธอรู้ว่าหญิงสาวคนนั้นตั้งใจกระโดดตึก เจ้าตัวจึงได้รุดออกจากโรงแรมที่พัก ขึ้นแท็กซี่พร้อมสั่งให้ขับไปยังตึกดังกล่าวทันที เมื่อไปถึงทาง ผู้ช่วยของจางป๋อจือได้ขอความช่วยเหลือจากคนขับแท็กซี่ ซึ่งเขาได้รีบไปเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยให้รีบโทรแจ้งตำรวจทันที เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงจึงได้ทำการเกลี้ยกล่อมและรีบดึงตัวหญิงสาวออกมาจากริมยอดตึกก่อนที่จะเกิดโศกนาฏกรรม

เรียกได้ว่าครั้งนี้ จางป๋อจือ นักแสดงสาววัย 30 ปี ได้ช่วยเหลือหญิงสาวคนนี้ไว้ได้สำเร็จ นับได้ว่าครั้งนี้ไม่ใช่สิ่งดีๆครั้งแรกที่จางป๋อจือได้ทำก็ว่าได้ เพราะก่อนหน้านี้เธอต้องบินไป-กลับระหว่าง ฮ่องกงและไต้หวันอยู่บ่อยๆเพื่อเยี่ยมเยียนหนูน้อยวัย 15 ปี ผู้ป่วยมะเร็ง ตามรายงานระบุว่าหนูน้อยคนนั้นเพิ่งเสียชีวิตเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งทำให้จางป๋อจือค่อนข้างนึกถึงคุณค่าของการมีชีวิตอยู่มากขึ้น

โดยเธอได้กล่าวเตือนใจทุกคนว่า "ชีวิตเป็นสิ่งมีค่า หวังว่าทุกคนจะรักและใส่ใจกับชีวิตให้มากขึ้น คนบางคนไม่มีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป เพราะฉะนั้นใครที่มีโอกาสมีชีวิตอยู่ต่อ ต้องอยู่อย่างดีที่สุด อย่ายอมแพ้อะไรง่ายๆ"

Manager Online

สื่อกังขา "เจย์ โจว" (Jay Chou) มีปัญหาสุขภาพ จนเป็นทหารไม่ได้จริงหรือ?

Submitted by canjamm on 31 มกราคม, 2011 - 17:29

ข้อกล่าวหาเรื่องการหนีทหารของ "เจย์ โจว" (Jay Chou) ถูกหยิบขึ้นมาพูดถึงอีกครั้ง เมื่อมีข้อสงสังว่าเหตุใด เขาถึงสามารถเล่นฉากแอ็กชั่นในหนัง The Green Hornet ได้มากมาย ทั้งๆ ที่เคยแจ้งว่ามีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง จนได้รับการยกเว้นไม่ต้องเกณฑ์ทหารมาแล้ว

นักร้องหนุ่มวัย 32 ปี เคยได้รับการยกเว้นไม่ต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหาร ตามกฏหมายของไต้หวันที่ชายวัย 18 ปี ทุกคนต้องทำหน้าที่รับใช้ชาติ เพราะปัญหาด้านสุขภาพเกี่ยวกับอาการทางกระดูกสันหลัง ที่ทำให้เขาต้องทนทุกข์จากอาการเจ็บหลัง ที่ต้นสังกัดยืนยันว่าเรื่องการเจ็บหลังของ เจย์ โจว ยังเป็นปัญหาของเขามาจนถึงทุกวันนี้เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามสื่อมวลชนต่างสงสัยในข้อเท็จจริงของเรื่องนี้มาโดยตลอด ซึ่งล่าสุดสื่อหลายสำนักในไต้หวันได้ตั้งคำถามว่าเหตุใด เจย์ โจว ที่มีอาการเจ็บหลังจนไม่สามารถเข้ารับการเกณฑ์ทหารได้ จึงสามารถเล่นฉากแอ็กชั่นอันโลดโผนโจนทะยานในหนัง The Green Hornet ได้อย่างสบายๆ

โดย เจย์ โจว ได้อธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่าฉากบู๊ของเขาใน The Green Hornet นั้น ส่วนใหญ่เป็นการใช้เทคนิคพิเศษ และสตั้นแมนทั้งนั้น

ข้อกล่าวหาการหนีทหาร เป็นสิ่งที่คอยมากวนใจซุปเปอร์สตาร์แห่งไต้หวันรายนี้มาโดยตลอด ซึ่งเมื่อประมาณ 5 ปีก่อน เจย์ ก็เคยถูกวิจารณ์ว่า ทำไมถึงโชว์ลีลาการแสดงแบบสุดเหวี่ยงบนเวทีคอนเสิร์ตได้ ทั้งที่เคยอ้างว่ามีปัญหาสุขภาพ จนทำให้ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหารมาก่อน ซึ่งในตอนนั้นเขาต้องพิสูจน์ถึงเรื่องนี้ ด้วยเอกสารทางแพทย์ ยืนยันว่าตนเองมีปัญหาด้านสุขภาพจริง ไม่ได้มีเจตนาจะหนีทหารแต่อย่างใด

Manager Online

"กระต่ายเซ็กซี่" รณรงค์รักสัตว์, โจมตี ก่ง ลี่ (Gong Li) "เลือดสาด"

Submitted by canjamm on 28 มกราคม, 2011 - 17:14

กลุ่มรณรงค์สิทธิสัตว์แห่งองค์กรประชาชนเพื่อการปฏิบัติต่อสัตว์อย่างมีจริยธรรม หรือ พีตา (People for the Ethical Treatment of Animals - PETA) ร่วมรณรงค์รับปีใหม่จีน ซึ่งเป็นปีนักษัตรกระต่าย สวมชุดกระต่ายน้อยสุดเซ็กซี่น่ารัก เดินถือป้ายรณรงค์เรียกร้องให้ชาวฮ่องกงเลิกสวมใส่เสื้อผ้าที่ทำจากขนสัตว์ ณ บริเวณสี่แยกในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2554

วันเดียวกัน พีตา โจมตีซุปเปอร์สตาร์สาวแดนมังกร ก่ง ลี่ (Gong Li) ที่เพิ่งเดินแฟชั่นโชว์ของ ปราดา ในชุดกระโปรงสีดำสุดเซ็กซี่ และผ้าคลุมไหล่ขนสัตว์ และในสัปดาห์ที่ผ่านมา พีตา ก็ได้ประณามก่ง ลี่ ไม่ต่างจากพวกจิตใจวิปริต Crush Fetish หญิงสาววัยรุ่นจีนที่เผยแพร่คลิปโชว์การฆ่ากระต่ายอย่างเหี้ยมเกรียมด้วยการใช้รองเท้าส้นสูงเหยียบและใช้วิธีนั่งทับ ซึ่งเป็นเหตุอื้อฉาวไปทั่วโลกไซเบอร์จีนเมื่อปลายปีที่ผ่านมา (2553)

Manager Online

"เจย์ โจว" (Jay Chou) ไม่เสียใจ "คาเมรอน ดิแอซ" (Cameron Diaz) ปฏิเสธไม่เล่นบทจูบ

Submitted by canjamm on 26 มกราคม, 2011 - 17:43

แม้จะต้องพลาดบทเลิฟซีนกับ "คาเมรอน ดิแอซ" (Cameron Diaz) ในภาพยนตร์เปิดตัวฮอลลีวูดเรื่อง The Green Hornet แต่งานนี้ "เจย์ โจว" (Jay Chou) ไม่สนใจและไม่คิดเสียดายใดๆทั้งสิ้น

เจย์ โจว หรือ โจวเจี๋ยหลุน ซูเปอร์สตาร์ชื่อดังของเอเชียได้กลายเป็นนักแสดงเอเชียหน้าใหม่ที่โลดแล่นในวงการฮอลลีวูดหลังได้ร่วมงานกับ เซธ โรเกน ในภาพยนตร์เรื่อง The Green Hornet

แต่งานนี้ เจย์ ที่รับทเป็น คาโต้ คนขับรถสวมหน้ากากเพื่อนคู่หูของซูเปอร์ฮีโร่ ( เดิมบทคาโต้แสดงโดยหนุ่มนักบู๊ระดับตำนานอย่าง บรูซ ลี (Bruce Lee) ในยุค 1960 ที่เคยออกฉายทางทีวี) ก็ถูกสาวคาเมรอน ดิแอซ ปฏิเสธที่จะเล่นบทจูบเมื่อถึงฉากดังกล่าว

"เราอยากให้เจย์จูบคาเมรอน แต่ผมคิดว่าเธอคงไม่อยากทำ เพราะเธอรู้สึกว่ามันจะทำให้เรื่องราวซับซ้อนขึ้นไปอีก เธอเลยไม่ตกลง เธอเป็นคนพูดเองเลยว่าไม่" กอนดรี ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้กล่าว

ทางด้านเจย์ โจว เองก็ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้มากนัก แต่เขาสนใจเกี่ยวกับการบุกตลาดในอเมริกามากกว่า โดยเขาไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องที่เขามีภาพยนตร์เรื่องอื่นมาเสนอบทใหม่ๆให้หรือไม่ แต่เขาหวังที่จะโด่งดังที่อเมริกาในฐานะนักร้อง ไม่ใช่ในฐานะนักแสดง

"ภาษาอังกฤษคือสิ่งที่ผมต้องพยายามอย่างหนัก เพราะนั่นไม่ใช่ภาษาแม่ของผม แต่ผมก็ไม่ได้ต้องการร้องเพลงเป็นภาษาอังกฤษเพื่อจะได้บุกตลาดอเมริกา" เจย์ โจว ให้สัมภาษณ์กับสื่อเป็นภาษาจีน

เจ้าตัวยังระบุเพิ่มเติมด้วยว่า เขาหวังว่าเพลงในตอนจบที่เป็นเพลงภาษาจีนกลางของเขาจะทำให้ชาวอเมริกาให้ความสนใจในเพลงป็อปจีนมากขึ้น

"ผมซาบซึ้งที่กอนดรีเลือกใช้เพลงของผม ผมหวังว่าคนจะจดจำผมได้ ไม่ใช่ในฐานะนักแสดงบู๊ แต่เป็นฐานะนักร้องจากเอเชีย" เจย์ โจว กล่าว

นักร้องหนุ่มวัย 32 ปี ที่มียอดขายอัลบั้มรวมแล้วกว่า 32 ล้านแผ่น ได้กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า "ผมอยู่ในแวดวงเพลงป็อปจีนมานานกว่า 10 ปี แต่ในอเมริกาผมรู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่ไม่มีใครรู้จักผมเลย"

"ผมหวังว่าคนในอเมริกาจะเริ่มค้นหาชื่อของผมใน Google หลังจากที่ได้ชมภาพยนตร์และได้เรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับเพลงป็อปจีน และได้ชมมิวสิควิดีโอของผม"

"เจ็ต ลี" (Jet Li) ยืนยัน เป็นพลเมืองสิงคโปร์ เพื่อการศึกษาลูก, หนีนักข่าว

Submitted by canjamm on 26 มกราคม, 2011 - 17:39

AFP - ซุปเปอร์สตาร์กังฟูแห่งจีนแผ่นดินใหญ่ "เจ็ต ลี-หลี่เหลียนเจี๋ย" (Jet Li) ยืนยันเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ถึงการโอนสัญชาติเป็นชาวสิงคโปร์ นักแสดงวัย 47 ปี ยังกล่าวว่าต้องการให้ทายาททั้ง 2 คน เติบโตมาในสังคมที่มีสิ่งแวดล้อมที่ดี, ได้ใช้สองภาษา และไม่ถูกรังควานจากเหล่าปาปารัซซี่

"ลูกผมน่าจะได้รับการศึกษาที่ดี, ได้เรียนสองภาษา, ในสังคมที่มีเสถียรภาพมั่นคง และลูก ๆ ยังจะไม่ต้องถูกรังควานจากพวกช่างภาพ ผู้สื่อข่าวด้วย" หลี่เหลียนเจี๋ย กล่าวระหว่างงานสัมนาแห่งหนึ่งที่สิงคโปร์ นักแสดงวัย 47 ปี ยังยอมรับว่ารู้สึกแปลกใจเหมือนกัน ที่ผู้คนให้ความสนใจถึงเรื่องการย้ายถิ่นฐานของเขามากถึงขนาดนี้

"มันตลกดีเหมือนกันนะครับ ที่ผมถือพาสปอร์ตสหรัฐฯ และอยู่ที่นั่นมาเกือบ 20 ปี เต็ม แต่ไม่มีใครพูดอะไรเลย แต่พอมาที่สิงคโปร์ ทุกคนกลับสงสัยกันมาก ว่าทำไมผมถึงย้ายมาอยู่ที่นี่" ซึ่งนักแสดงชื่อดังที่มีพื้นเพเป็นชาวปักกิ่งโดยกำเนิด ไม่ได้ยืนยันว่าเขายังถือสัญชาติจีน และสหรัฐฯ อยู่อีกหรือไม่ แต่ตามกฏหมายของสิงคโปร์แล้วไม่อนุญาตให้ประชาชนถือพาสปอร์ตสองใบ

โดย เจ็ต ลี อธิบายว่าเขาตัดสินใจตั้งรกรากที่เมืองลอดช่อง เพราะเชื่อมั่นในความปลอดภัย และระบบการศึกษาของที่นี่ ซึ่งให้ความสำคัญกับการเรียนการสอน ในภาษาอังกฤษ และจีนกลาง อย่างเท่าเทียมกัน

สิงคโปร์ กลายเป็นที่สนใจของคนดัง และผู้มีอันจะกินในประเทศต่าง ๆ จากทั่วโลก เพราะชื่อเสียงด้านความปลอดภัย และอัตราการเสียภาษีที่ค่อนข้างต่ำ โดยข่าวเรื่องการโอนสัญชาติ และย้ายถิ่นฐานของ เจ็ต ลี เริ่มเป็นที่พูดถึงภายหลังมีข่าวว่าเขาจ่ายเงิน 20 ล้านเหรียญสิงคโปร์ เพื่อซื้อบ้านหลังหนึ่งที่นี่ เมื่อปี 2009

ซึ่งนอกจาก เจ็ต ลี แล้ว ในปี 2008 นักแสดงชื่อดังชาวจีนแผ่นดินใหญ่อีกคนอย่าง กงลี่ (Gong Li) ก็โอนสัญชาติเป็นสิงคโปร์ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งในครั้งนั้น กงลี่ ต้องตกเป็นเป้าถูกวิจารณ์ในแง่ลบจากชาวจีนเป็นจำนวนมาก

สำหรับในกรณีของ เจ็ต ลี เคยกล่าวว่าหัวใจของเขายังคงเป็นชาวจีน ดาราชื่อดังผู้เป็นที่รู้จักจากหนังอย่าง เสี้ยวลิ้มยี่ และหวงเฟยหง ยังก่อตั้งมูลนิธิ One Foundation เพื่อช่วยเหลือชาวจีนผู้ด้อยโอกาสในด้านต่าง ๆ รวมถึงร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากภัยธรรมชาติด้วย

"เฉินหลง" (Jackie Chan) เป็นปลื้มได้กระทบไหล่ "โอบาม่า" (Obama)

Submitted by canjamm on 24 มกราคม, 2011 - 16:46

ดารากังฟูชาวฮ่องกง "เฉินหลง" (Jackie Chan) ยอมรับว่าเขาตื่นเต้นมาก ที่มีโอกาสได้พบกับสองประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่าง "บิล คลินตัน" (Bill Clinton) และ "บารัค โอบามา" (Barack Obama) ผู้ดำรงตำแหน่งคนปัจจุบัน นอกจากนั้นยังได้รับทราบด้วยว่า ผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองยังเป็นแฟนหนังของเขาด้วย

เฉินหลง, คนดังชาวจีน และนักการเมืองมากมาย ได้รับเกียรติให้เข้าร่วมรับประทานอาหารค่ำที่ทำเนียบขาวในวาระที่ หูจิ่นเทา ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน เยือนสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ เมื่อสัปดาห์ก่อน

"ตอนที่ผมพบกับประธานาธิบดีโอบาม่าเป็นครั้งแรก ท่านจับมือผม และบอกว่าเป็นแฟนพันธ์แท้ของผม ว้าว!! ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากครับ พูดไม่ออกเลย และตอบออกไปว่าเป็นเกียรติของผมมาก ๆ ที่ได้พบกับท่าน" เฉินหลง บรรยายความรู้สึกส่วนตัวผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ ถึงวินาทีที่ได้พบกับผู้นำคนที่ 44 ของสหรัฐอเมริกา

นักแสดงแอ็กชั่นวัย 56 ปี ยังเล่าเรื่องเหตุการณ์ในวันนั้นว่า "ระหว่างที่ผมคุยกับประธานาธิบดีหูจิ่นเทา ประธานาธิบดีโอบาม่า เดินเข้ามาที่โต๊ะของเรา แล้วพูดขึ้นมาว่า 'คุณรู้ไหม แจ็คกี้ ชาน ดังมากที่อเมริกา' ท่านหูจิ่นเทา จึงตอบกลับไปว่า 'เขาดังกว่านั้นแน่นอนในเมืองจีน' ฮ่า ฮ่า ฮ่า"

นอกจากได้พบกับผู้นำสูงสุดแห่งสองประเทศมหาอำนาจแล้ว เฉินหลง ยังกล่าวว่าเขาได้พบกับอดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน ผู้โด่งดังด้วย "ท่านจับมือของผม และพาไปพบกับภรรยา รัฐมนตรีต่างประเทศ ฮิลลารี คลินตัน (Hillary Clinton) ซึ่งบอกผมว่าท่านอดีตประธานาธิบดีเป็นแฟนหนังของผมเหมือนกัน และมักจะพูดถึงผมอยู่เสมอ เป็นสิ่งที่แทบจะทำให้ผมยิ้มจนปากถึงหูเลยครับ"

เฉินหลง ยังกล่าวว่านั้นเป็นมื้อค่ำที่น่าตื่นเต้นของเขาจริง ๆ เพราะได้พบกับประธานาธิบดีผู้ยิ่งใหญ่ถึง 4 ท่านด้วยกัน รวมถึงอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จิมมี่ คาร์เตอร์ (Jimmy Carter) ที่อยู่ร่วมในงานวันนั้นด้วย

Manager Online

“ปราด้า” (Prada) เปิดแฟชั่นโชว์ในปักกิ่ง ส่งสัญญาณลุยตลาดจีน

Submitted by canjamm on 24 มกราคม, 2011 - 09:43

เอเอฟพี- Miuccia Prada โชว์คอลเลคชั่นเสื้อผ้าประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน ปี 2554 ที่กรุงปักกิ่งในเย็นวันเสาร์(22 ม.ค.) นับเป็นการเปิดแฟชั่นโชว์นอกยุโรปครั้งแรกของนักออกแบบสัญชาติอิตาลีชื่อก้องโลก

ปราด้า (Prada) ระดมซุปเปอร์สตาร์แดนมังกร ทั้ง ก่ง ลี่ (Gong Li), จัง ม่านอี้ว์ (Maggie Cheung) และจัง ปั๋วจือ (Cecilia Cheung) ร่วมกับนางแบบนายแบบชาติฝรั่ง แสดงแบบชุดเสื้อผ้าสไตล์เรียบง่าย เน้นโทนสีส้ม ม่วง และฟ้า จากชุดเสื้อผ้าที่ปราดานำมาแสดงครั้งนี้ ส่งสัญญาณชัดว่านักออกแบบอิตาเลียนกำลังจ้องลุยเจาะตลาดมหึมาของจีน

การนำซุปเปอร์สตาร์ชาวจีนมาร่วมการแสดงแบบ ที่จัดขึ้นที่สถาบันกลางของพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยในกรุงปักกิ่งเช่นนี้ ยังเป็นหลักประกันที่เหนียวแน่นในการระดมสื่อท้องถิ่นเข้ามาทำข่าว และเผยแพร่สารของปราดาสู่มวลชนชาวจีน ซึ่งเป็นตลาดเนื้อหอมที่สุดในโลกในขณะนี้

จีนเป็นตลาดที่ขยายตัวรวดเร็วที่สุดในโลกสำหรับสินค้าประเภทหรูหราเช่นกัน ยักษ์ใหญ่แห่งที่ปรึกษาธุรกิจโลกแห่งสำนัก PriceWaterhouseCoopers คาดการณ์ชาวจีนจะเป็นผู้ซื้อระดับท็อปในตลาดสินค้า ได้แก่ เครื่องสำอาง กระเป๋าถือ นาฬิกา รองเท้า และเสื้อผ้าในปี 2558

ยอดขายสินค้าหรูในแผ่นดินใหญ่ มีมูลค่าสูง 10,300 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2552 นับเป็นอัตราขยาย 14 เปอร์เซนต์จากปีก่อนหน้า จากตัวเลขของ Bain and Company

สำหรับแบรนด์ ปราด้า ได้เข้ามาเปิดตัวในตลาดจีนเช่นเดียวกับแบรนด์แฟชั่นตะวันตกค่ายอื่นๆ ปราดามีร้านอย่างน้อย 15 แห่ง และมีแผนเปิดร้านอีก ร่วม 30 แห่งในปลายปี 2555 นอกจากนี้ ยังได้ประกาศจะเปิดสตูดิโอออกแบบในฮ่องกงปีนี้ (2554)

แต่กลุ่มนักวิเคราะห์ชี้ว่าสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์หรูแล้ว ยังได้แต่เพียงแทะเล็มพื้นผิวด้านหน้าของตลาดที่มีศักยภาพสูงมากแห่งนี้ ซึ่งมีประชาชน 1.3 พันล้านคน และกลุ่มชนชั้นกลางที่กำลังขยายตัว “ 90 เปอร์เซนต์ของผู้ซื้อจีน เป็นลูกค้าหน้าใหม่ของแบรนด์ ส่วนที่เหลือเป็นลูกค้าที่กลับมาซื้ออีก ซึ่งเป็นลักษณะของตลาดที่ยังไม่อาจเจาะทะลุทะลวงเข้าไป (underpenetrated market)” Erwan Rambourg นักวิเคราะห์ของ HSBC กล่าว

เงือกสาว "ซูฉี" (Shu Qi)

Submitted by canjamm on 24 มกราคม, 2011 - 09:34

นักแสดงสาวสุดเซ็กซี่ชาวไต้หวัน "ซูฉี" (Shu Qi) ถ่ายแบบครั้งใหม่ พร้อมกับการแปลงโฉมเป็นเงือกสาวแสนสวย อันเป็นภาพที่แปลกตากว่างานถ่ายแบบที่ผ่าน ๆ มาของเธอ

นักแสดงชื่อดังชาวไต้หวัน ซูฉี แปลงโฉมในการถ่ายแบบครั้งล่าสุดให้กับนิตยสารฉบับหนึ่งในจีน ด้วยการสวมบทเป็นนางเงือกสาว ที่ทำให้เธอต้องเพนต์ตัว และแต่งกายด้วยชุดที่แตกต่างจากการถ่ายแบบภาพนิ่งที่แล้วๆมาโดยสิ้นเชิง

ซูฉี วัย 34 ปีเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่ 19 ปีก่อน และมีงานภาพยนตร์ที่โด่งดังมากมาย โดยหนังเรื่องล่าสุดของเธอก็คือ You Are the One 2 ภาพยนตร์แนวตลกโรแมนติกภาคต่อ ผลงานของผู้กำกับคนดัง เผิงเสี่ยวกัง ที่หนังภาคแรกทำเงินอย่างมหาศาล กวาดรายได้ถึง 53.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นหนังทำเงินสูงสุดในจีนอยู่พักใหญ่ ๆ ซึ่งหลายฝ่ายก็เชื่อว่าหนังภาคสองจะทำเงินได้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

Manager Online