ข่าวจีน

ความสัมพันธ์ของหนุ่มหล่อสาวสวย "หวงเสี่ยวหมิง" (Huang Xiao Ming) และ "แอนเจล่าเบบี้" (Angela Baby) ได้รับความสนใจขึ้นมาอีกครั้ง เมื่ออดีตแฟนสาวของฝ่ายชาย ที่เคยร่วมงานกับเขาในซีรีส์ The Duke of Mount Deer ได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องรักสามเส้า และความจริงที่ว่า "แอนเจล่าเบบี้" เป็นคนแย่ง "หวงเสี่ยวหมิง" ไปจากเธอ รวมถึง SMS ที่นางแบบสุดฮ็อตชาวฮ่องกง ส่งให้กับ (อดีต) แฟนของเธอว่า ขอเป็นแฟน ไม่ต้องการเป็นเพียงคู่นอนเท่านั้น

หลี่เฟยเอ๋อ (Li Fei Er) นักแสดงสาวจากซีรีส์ The Duke of Mount Deer (อุ้ยเสี่ยวป้อ) ที่คบหากับนักแสดงหนุ่มคนดัง หวงเสี่ยวหมิง ระหว่างปี 2007 - 2010 ออกมาเปิดปากพูดถึงความสัมพันธ์ครั้งเก่าก่อนของเธอกับพระเอกหนุ่มคนดังเป็นครั้งแรก ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อแท็บลอยด์ในฮ่องกง และกล่าวว่านางแบบสาวสวย แอนเจล่าเบบี้ เป็นคนแย่งคนรักของเธอไป

"ตอนนั้นฉันรู้สึกว่าเธอ (แอนเจล่าเบบี้) พยายามตามจีบเขา (หวงเสี่ยวหมิง) ค่ะ หลังจากได้เห็นข้อความในโทรศัพท์ของเขา ฉันก็ขอเลิกทันที"

แม้ข่าวลือของ หวงเสี่ยวหมิง กับแอนเจล่าเบบี้ จะเริ่มถูกพูดถึงมาตั้งแต่ปลายปี 2009 แล้ว แต่ หลี่เฟยเอ๋อ ก็ยังยืนยันว่าในตอนนั้นเธอยังคงเชื่อใจเขา จนกระทั่งวันหนึ่งได้มีโอกาสเห็นข้อความทางโทรศัพท์ ที่สาวแอนเจล่าเบบี้ ส่งให้กับแฟนหนุ่มของเธอ หลี่เฟยเอ๋อ ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ตัวเองยอมรับไม่ได้เลย โดยเฉพาะกับข้อความที่มีใจความว่า “เมื่อไหร่คุณจะให้คำตอบกับฉันซักทีคะ? ฉันต้องการแฟนนะ ไม่ใช่แค่คู่นอน”

หลังจากเห็นข้อความดังกล่าว หลี่เฟยเอ๋อ จึงตัดสินใจตัดสัมพันธ์กับแฟนหนุ่มโดยทันที ขณะที่ หวงเสี่ยวหมิง ก็ไม่ได้อธิบายหรือพยายามทัดทานเธอแต่ประการใด เมื่อย้อนมองกลับไปนักแสดงสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เธอไม่ได้รู้สึกถือโทษโกรธใครแต่อย่างใด

“เขาไม่ได้เป็นคนบอกเลิกกับฉันค่ะ เขาเป็นคนง่ายๆ มีคุณสมบัติที่ดีหลายอย่าง ที่ทำไมถึงมีผู้หญิงหลายๆคนสนใจในตัวเขา หลังจากเลิกกันแล้ว ฉันก็พอจะเข้าใจว่าเป็นเธอ (แอนเจล่าเบบี้) ที่พยายามจับเขา มันไม่ได้มีถูกหรือผิดหรอกค่ะ ฉันไม่ได้เกลียดหวงเสี่ยวหมิง แล้วก็ไม่ได้เกลียดแอนเจล่าเบบี้ด้วย”

มีการกล่าวอ้างจากสื่อในฮ่องกง ว่านางแบบซุปเปอร์โมเดลชาวไต้หวัน “หลินจือหลิง” (Lin Chi Ling) หาลำไพ่พิเศษด้วยการขายบริการทางเพศ ให้กับบรรดาเศรษฐีเงินถุงเงินถัง ด้วยค่าตัวถึงครั้งละ 10 ล้านเหรียญไต้หวัน ล่าสุดต้นสังกัดของเธอได้ออกมาขู่ ดำเนินการทางกฎหมายกับสื่อที่เปิดประเด็นเรื่องนี้แล้ว

นิตยสาร Next Magazine ฉบับฮ่องกงได้รายงานข่าวลือที่ว่า จ้าวหลีกวน ผู้จัดการส่วนตัวของ หลินจือหลิง ได้ทำตัวเป็นนายหน้าค้าประเวณี ส่งนางแบบสาวในสังกัด เพื่อการขายบริการทางเพศ ตามสถานที่ต่าง ๆ รวมถึง ลาสเวกัส

โดยรายงานของสื่อฉบับนี้ยังอ้างว่านางแบบแถวหน้าของไต้หวัน หลินจือหลิง ซึ่งอยู่ในสังกัดของผู้จัดการดารานางแบบคนนี้ มีค่าตัวสูงถึง 10 ล้านเหรียญไต้หวัน (ประมาณ 10.2 ล้านบาท) สำหรับผู้ต้องการมีความสัมพันธ์ทางเพศกับเธอใน 1 คืนเลยทีเดียว

ข่าวยังระบุอีกว่า เพื่อทำให้ทุกอย่างเป็นความลับมากที่สุด กิจกรรมค้าประเวณีของสาวๆคนดังมักจะทำกันในต่างประเทศ ซึ่งฮ่องกงก็คือหนึ่งในสถานที่หนึ่ง ซึ่งมักจะถูกใช้สำหรับเรื่องแบบนี้

หลังจากมีการเสนอข่าวดังกล่าว ต้นสังกัดของ หลินจือหลิง ได้ออกมายืนยันว่าขณะนี้พวกเขากำลังอยู่ระหว่างเตรียมการทางกฎหมาย เพื่อทำการฟ้องร้องสื่อดังกล่าวในเร็วๆนี้

ขณะที่ตัวของ จ้าวหลีกวน ก็กล่าวอย่างมีอารมณ์โกรธเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ว่าสื่อดังกล่าวไม่น่าจะเสนอเรื่องที่ไม่เป็นความเป็นจริงแบบนี้เลย “เงิน 10 ล้านมันน้อยมากสำหรับเธอ นี่มันคือการทำลายชื่อเสียงของ จือหลิง ชัดๆ ผมจะแนะนำให้เธอฟ้องพวกนี้ให้ตายไปเลย”

หลินจือหลิง วัย 36 ปี เป็นนางแบบที่โด่งดังที่สุดในไต้หวันมานานหลายปี และยังประสบความสำเร็จอย่างสูงเมื่อก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์ และว่ากันว่าเธอมีรายได้สูงถึงกว่า 1 พันล้านเหรียญไต้หวัน ในปี 2010 ที่ผ่านมาเลยทีเดียว

Manager Online

นักแสดงสาวชาวไต้หวัน "ต้าเอส" (Da S) ได้เข้าพิธีสมรสกับแฟนหนุ่ม "วังเสี่ยวเฟย" (Wang Xiao Fei) ทายาทเจ้าของเครือธุรกิจร้านอาหารในจีนแผ่นดินใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคู่รักคนดังเผยว่าจะบริจาคเงินอั่งเปาที่ได้รับในงานครั้งนี้ ให้กับผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในประเทศญี่ปุ่นด้วย - Sohu.com รายงาน

ผู้สื่อข่าวจากทุกสำนักข่าวในเมืองจีนต่างหลั่งไหลกันไปที่ ซานย่า เมืองติดชายทะเล ในเขตทางตอนใต้ของมณฑลไหหลำ ประเทศจีน ซึ่ง ต้าเอส หรือ สวีซีหยวน และแฟนหนุ่ม วังเสี่ยวเฟย ได้จัดพิธีแต่งงานกันขึ้นในวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยผู้สื่อข่าวสามารถรายงานข่าวได้จากบริเวณด้านนอกของงานเท่านั้น เพราะผู้จัดงานอนุญาตให้แขกเฉพาะที่มีบัตรเชิญที่จะสามารถเข้าไปเป็นสักขีพยานในพิธีได้

โดย เสี่ยวเอส (Xiao S) หรือ สวีซีตี้ น้องสาวของ ต้าเอส เป็นคนออกมาให้ข่าวต่างๆกับนักข่าวภายหลังพิธีเสร็จสิ้น รวมถึงการเปิดเผยเรื่องที่ว่าคู่บ่าวสาวต้องการจะมอบเงินอั่งเปาที่ได้รับจากงานครั้งนี้ ให้กับผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในประเทศญี่ปุ่น

ซึ่งในประเพณีของจีนแขกในงานจะมอบเงินเป็นของขวัญให้กับเจ้าบ่าวเจ้าสาว และแม้จะไม่ได้มีการเปิดเผยตัวเลขเงินทั้งหมดที่ทั้งสองได้รับ แต่ด้วยแขกเหรื่อในงานที่เต็มไปด้วยเศรษฐี และผู้มีอันจะกินมากมาย หลายฝ่ายจึงเชื่อว่า เงินจำนวนดังกล่าวน่าจะเป็นตัวเลขที่สูงมากเลยทีเดียว

เสี่ยวเอส ยังกล่าวว่าพี่สาวของเธอแสดงออกถึงความตื้นตันใจในหลายช่วงของงาน โดยเฉพาะเมื่อพิธีกร ถามว่าเธอต้องการจะแต่งงานกับ วังเสี่ยวเฟย หรือไม่ ต้าเอส ตอบอย่างมั่นใจออกมาว่า "ใช่ค่ะ มากๆเลย" เสี่ยวเอส ยังยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า ต้าเอส ไม่ได้ท้องก่อนแต่ง อย่างที่หลายฝ่ายเชื่อกันอย่างแน่นอน

งานแต่งครั้งนี้ได้รับการจับตามองจากทั้งคนไต้หวัน และจีนแผ่นดินใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อฝ่ายเจ้าสาวเป็นนักแสดง, นักร้อง และพิธีกรชื่อดังแถวหน้าของประเทศ ที่โด่งดังเป็นพลุแตกจากซีรีส์เรื่อง Meteor Garden (รักใสใสหัวใจสี่ดวง) เมื่อ 10 ปีก่อน ส่วนฝ่ายชายก็เป็นทายาทเพียงคนเดียวของ จางหลัน นักธุรกิจหญิงเจ้าของกิจการ South Beauty Group ซึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหารกว่า 50 แห่งทั้งใน ปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้, เทียนจิน และในเมืองใหญ่ๆทั่วประเทศ มีมูลค่ารวมกว่า 2,500 ล้านหยวน

สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยอีกครั้งสำหรับ "อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล" ที่พาหนัง "ลุงบุญมีระลึกชาติ" คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม อันเป็นเกียรติยศสูงสุด ในงานแจกรางวัลภาพยนตร์เอเชียครั้งที่ 5 ซึ่งจัดขึ้นที่ฮ่องกงเมื่อค่ำคืนของวันที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมา

ลุงบุญมีระลึกชาติ หรือชื่อภาษาอังกฤษ Uncle Boonmee Who Can Recall His Past Lives ของผู้กำกับ เจ้ย อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล เอาชนะหนังดัง ๆ จากทั่วทวีปเอเชียคว้ารางวัล ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในงานมอบรางวัลทางภาพยนตร์เอเชียครั้งที่ 5 (Asian Film Awards) ไปได้ โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นที่ ฮ่องกง คอนเวนชั่น แอนด์ เอ็กซิบิชั่น เซนเตอร์ มี ลิซ่า ซี., แอนเจล่า โจว และ อาชี่ เกา รับหน้าที่ดำเนินรายการ

ดาวเด่นอีกคนในงานก็คือ ลีชางดง คนทำหนังชื่อดังจากเกาหลีใต้ ที่คว้ารางวัลไปสองสาขาได้แก่ ผู้กำกับ และเขียนบทจากหนังชีวิตเรื่อง Poetry ที่เล่าเรื่องของหญิงวัย 60 ปี ที่พยายามดิ้นรนฝึกฝนแต่งโคลงกลอนขณะที่ตัวเองกำลังเริ่มป่วยจากโรคอัลไซเมอร์

สำหรับรางวัลในสาขานักแสดงนำชายตกเป็นของยอดฝีมือจากเกาหลีใต้เช่นเดียวกัน โดย ฮาจองวู ได้รับรางวัลจากการสวมบทเป็นชาวเกาหลีใต้ ผู้ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศจีน และถูกส่งตัวกลับไปยังบ้านเกิดเพื่อแผนการลอบสังหาร จากหนังเรื่อง The Yellow Sea ขณะที่รางวัลนักแสดงนำหญิง ตกเป็นของสวี่ฟาน ในหนังที่ว่าด้วยภัยพิบัติแผ่นดินไหว Aftershock ฝีมือของผู้กำกับ เฝิงเสี่ยวกัง ผู้เป็นสามีของเธอเอง

นักแสดงจากประเทศเจ้าภาพฮ่องกง หงจินเป่า คว้ารางวัลสาขานักแสดงสมทบชายจากหนังสุดฮิต Ip Man 2 ส่วนสาขานักแสดงสมทบหญิงตกเป็นของเกาหลีใต้อีกสาขา โดย ยูนโยจอง จาก The House Maid เป็นผู้คว้ารางวัลไปครอง และหนุ่มไต้หวัน มาร์ก จ้าวโย่วถิง เป็นนักแสดงหน้าใหม่แห่งปีจากหนังแก็งส์เตอร์สุดฮิต Monga

ส่วนประเทศญี่ปุ่นที่กลับบ้านมือเปล่า ในการแจกรางวัลเมื่อปี 2010 กลับมามีชื่อได้รับรางวัลในปีนี้อีกครั้ง กับสาขาออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม จากหนังซามูไร 13 Assassins ขณะที่รางวัลถ่ายภาพยอดเยี่ยมเป็นของ Norwegian Wood หนังญี่ปุ่น ของผู้กำกับเชื้อสายเวียดนาม ที่มีตากล้องเป็นชาวไต้หวัน

มีภาพหลุดชุดใหม่ของ "จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) ถูกเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตอีกแล้ว แต่คราวนี้ไม่ใช่ภาพแนววาบหวิวเรตเอ็กซ์เหมือนเมื่อหลายปีก่อนแต่ประการใด แต่เป็นภาพในงานแต่งงานของเธอกับ "เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) ที่จัดขึ้นแบบเงียบๆ อย่างเป็นส่วนตัวเมื่อ 5 ปีก่อน และไม่เคยเผยแพร่ที่ใดมาก่อน

จางป๋อจือ และ เซียะถิงฟง เข้าพิธีสมรสกันเมื่อปี 2006 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ โดยเป็นงานซึ่งจัดอย่างเป็นส่วนตัวบนเกาะเล็กๆ มีแขกเพียงไม่กี่คน แม้แต่พ่อแม่ของทั้งสองก็ไม่ได้ทราบถึงเรื่องงานในวันนั้น จนกระทั่งเวลาผ่านไปถึง 5 ปี ภาพในงานแต่งงานของนักแสดงชื่อดังทั้งสอง เพิ่งจะถูกเผยแพร่ทางโลกออนไลน์

โดยมีข้อสงสัยว่าช่างภาพชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นคนบันทึกภาพต่างๆเหล่านี้เอาไว้ อาจจะเป็นคนโพสต์ภาพชุดนี้ลงใน Facebook ของเขา ซึ่งมีคำกล่าวอ้างว่า ช่างภาพคนนี้ได้รับอนุญาตจากสองนักแสดงชื่อดังชาวฮ่องกงแล้ว แต่ล่าสุดมีข่าวว่าผู้จัดการส่วนตัวของ จางป๋อจือ อาจจะตัดสินใจดำเนินคดีกับการเผยแพร่ภาพ โดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่เจ้าตัวและสามียังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นถึงเรื่องนี้แต่อย่างใด

ว่ากันว่า เซียะถิงฟง แอบใช้เวลาวางแผนงานแต่งครั้งนั้นแบบเงียบๆถึง 2 เดือน โดยเขาพาจางป๋อจือเดินทางไปพักร้อนที่เกาะเล็กๆแห่งหนึ่งที่ประเทศฟิลิปปินส์ โดยมีเพื่อนสนิทเพียงไม่กี่คนติดตามไปด้วย และบนชายหาดในวันหนึ่ง เซียะถิงฟง ก็คุกเข่าลงเพื่อขอแฟนสาวแต่งงาน ซึ่งมีคนเล่าว่า จางป๋อจือ ตกใจมากในวันนั้น ก่อนจะใช้เวลาประมาณ 8 วินาที จึงตอบตกลง

Manager Online

เอเยนซี - ในหลายปีที่ผ่านมา จีนกลายเป็นตลาดสำคัญ สำหรับอุตสาหกรรมบันเทิงของสหรัฐฯ จนทำให้ฮอลลีวูดและค่ายหนังต้องคิดหน้าคิดหลัง ในการจะใช้สื่ออันทรงพลังของตนสร้างภาพผู้ร้ายกับชาติอื่นๆ โดยเฉพาะที่จะกระทบกระเทือนต่อจีน

สื่อต่างประเทศรายงานวันที่ 15 มี.ค. ว่า ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง "Red Dawn" ของค่าย MGM ที่นำภาพยนตร์ดังในอดีตชื่อเดียวกัน กลับมาสร้างใหม่และวางบทให้จีนเป็นผู้ร้ายบุกรุกเข้ามาในสหรัฐฯ สร้างจินตนาการไปในทางที่เสื่อมเสียต่อจีน จนถูกต่อต้านจากประชาชนและสื่อมวลชนจีน กลายเป็นข่าวคึกโครมเมื่อกลางปีที่แล้ว The Global Times สื่อใหญ่ของทางการจีน ถึงกับเขียนบทความต่อต้านว่า อเมริกากลับมาใช้วิธียัดเยียดภาพอันชั่วร้ายให้กับจีนผ่านหนังสงคราม แบบที่เคยทำกับรัสเซียในยุคสงครามเย็น และย้ำว่าหนังอเมริกันกำลังเสี้ยมให้คนเกลียดกลัวจีน

แม้ว่าจะไม่มีการประท้วงอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลจีน แต่ล่าสุด หลังจากได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ค่ายผู้สร้างหนังเรื่องนี้ ยอมรับว่าการดึงดันให้เนื้อหาในภาพยนตร์เป็นเช่นเดิม รังแต่จะมีผลได้ไม่คุ้มเสีย และอาจสะเทือนถึงอุตสาหกรรมภาพยนตร์สหรัฐฯ โดยรวมได้ และเพื่อแก้ปัญหาที่อาจบานปลาย ผู้สร้างฯ จึงยอมกลับไปแก้ไข และปรับเปลี่ยนผู้ร้ายในหนังจากจีน เป็นเกาหลีเหนือแทน โดยการใช้เทคนิคดิจิตอล ลบภาพและสัญลักษณ์ต่างๆ ที่แสดงความเป็นจีนออกในทุกฉาก รวมทั้งเปลี่ยนบทตัวละคร และคำพูดต่างๆ

สื่อต่างประเทศรายงานว่า การเปลี่ยนแปลงนี้ เกิดจากความสมัครใจของผู้ผลิตเอง โดยนักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า ในทางธุรกิจนั้น สหรัฐฯ ย่อมต้องให้ความสนใจต่อตลาดจีน ซึ่งกำลังเติบโตและแนวโน้มที่ฮอลลีวูดจะขยายตลาดเข้ามาถึงคอหนังชาวจีนก็ยังมีอีกมหาศาล เพราะแม้ว่าจีนจะยังกำหนดโควต้าให้ภาพยนตร์ต่างชาติเข้ามาฉายในโรงภาพยนตร์ในประเทศได้เพียงปีละ 20 เรื่อง แต่รายได้ที่สหรัฐฯ ได้รับจากตลาดหนังในประเทศจีนนั้น ถือว่าสูงยิ่ง โดยปี 2553 ฮอลลีวูดมีรายได้จากจีนสูงถึง 1,500 ล้านดอลลาร์ สูงเป็นอันดับ 5 ของตลาดหนังนอกประเทศ

นักแสดงสาวชาวจีน “โจวซวิ่น” (Zhou Xun) ได้รับเกียรติให้เป็นหนึ่งใน สมาชิกของสภาผู้นำรุ่นใหม่ ประจำปี 2011 ของ สภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) ในฐานะที่เธอได้ทุ่มเทเวลา และกำลังกาย เพื่อรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง

โจวซวิ่น กล่าวผ่านเว็บไซต์ Sina.com.cn ถึงการได้รับเกียรติจาก สภาเศรษฐกิจโลก ที่ได้เลือกให้เธอเป็นหนึ่งใน สมาชิกสภาผู้นำรุ่นใหม่ประจำปี 2011 ว่านี่คือกำลังใจชั้นดีสำหรับงานต่าง ๆ นอกจากนั้น โจวซวิ่น กล่าวถึงความหวังที่จะเห็น การรวมตัวของทุกคน ในการร่วมรับผิดชอบ เพื่อนำโลกไปสู่อนาคตที่สดใสกว่านี้

นักแสดงสาววัย 34 ปี เป็นที่รู้จักจากการรับท “อึ้งย้ง” ในหนังชุดมังกรหยกของจีนแผ่นดินใหญ่เมื่อปี 2002 นอกจากนั้นเธอยังมีผลงานการแสดงอีกมายมายรวมถึงภาพยนตร์เรื่อง The Message และ Perhaps Love ในอีกด้านเธอยังได้ชื่อว่าเป็นนักรณรงค์เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตัวยงด้วย

โจวซวิ่น ยังมีตำแหน่งเป็นทูตสันถวไมตรี ของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติเพื่อช่วยเหลือในโครงการรณรงค์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และยังสนับสนุนนโยบาย Green Lifestyle จนได้รับรางวัล Champion of the Earth จากสหประชาชาติมาแล้ว

สภาผู้นำรุ่นใหม่ ถูกริเริ่มขึ้นมาในปี 2004 โดยสภาเศรษฐกิจโลก องค์กรไม่แสวงหากำไร ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยจะคัดเลือกผู้นำที่มีความโดดเด่นในสาขาต่างๆ ซึ่งมีอายุต่ำกว่า 40 ปี เพื่อร่วมให้ความเห็นแบ่งปันความคิด ในประเด็นเกี่ยวกับความเป็นไป และอนาคตของโลก

นอกจาก โจวซวิ่น แล้วในอดีตดาราสาวชาวจีนอย่าง จางจื่ออี๋ (Zhang Ziyi) และ เฉินฮุ่ยหลิน (Kelly Chen) ก็เคยได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสภาผู้นำรุ่นใหม่มาแล้ว

Manager Online

"หลินฟง" (Lin Feng) หรือ "เรย์มอน แลม" (Raymond Lam) นักแสดงชาวฮ่องกง ถึงกับเครียดเลยทีเดียว หลังมีภาพถ่ายบนเตียงของเขาขณะนอนอยู่กับ "พ่านช่วงช่วง" (Mavis Pan) อดีตแฟนสาวตีพิมพ์ในนิตยสารแท็บลอยด์ เจ้าตัวยอมรับเป็นภาพจริงไม่มีการตัดต่อ แต่เป็นภาพเก่าที่อดีตแฟนสาวถ่ายไว้นานแล้ว เชื่อใจไม่ได้ปล่อยออกมาเพื่อเกาะกระแสดัง

เรียกได้ว่าภาพถ่ายบนเตียงของหนุ่มหลินฟง กับ พ่านช่วงช่วง อดีตแฟนสาววัย 23 ปี นักแสดงจากจีนแผ่นดินใหญ่ได้กลายเป็นประเด็นร้อนในฮ่องกงอย่างมากทีเดียว

โดยภาพดังกล่าวเป็นภาพที่พ่านช่วงช่วง ถ่ายไว้โดยมีหลินฟงนอนหลับข้างเธอเป็นแบ็คกราวนด์อยู่ด้านหลัง ซึ่งนิตยสารดังกล่าวได้ตีพิมพ์ภาพเหล่านี้ พร้อมกับรูปถ่ายเซ็กซี่ของเธอ ซึ่งตอนแรกทำเอาหลายฝ่ายต่างไม่เชื่อ และคิดว่าเป็นการตัดต่อ เพราะไม่เคยมีข่าวของคนคู่นี้ แต่ทางฝ่ายหลินฟงได้ออกมายอมรับแล้วว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยคบหากับพ่านช่วงช่วงจริง

โดยระหว่างลองเสื้อผ้าเพื่อใช้ถ่ายทำ Return to the Three Kingdoms ละครเรื่องใหม่ของทาง TVB เขาได้ยอมรับว่าเวลานั้นพวกเขาทั้งคู่ได้คบกันจริงจังนานหลายเดือน และต่างก็พาไปพบพ่อแม่ของอีกฝ่ายแล้ว แต่ในท้ายที่สุด ด้วยเหตุผลส่วนตัวและประกอบกับที่เธอรับไม่ได้ที่เขามีตารางงานยุ่งมาก ทำให้ทั้งคู่ต้องเลิกรากันไป

โดยเจ้าตัวยอมรับว่า "ก่อนที่ผมจะเข้าวงการนี้ผมก็เคยมีแฟนนะครับ แต่หลังจากที่ผมเข้าวงการได้ทำในสิ่งที่ผมอยากจะทำ ปีแล้วปีเล่าผมต้องเจอกับข่าวลือต่างๆ ซึ่งทั้งหมดต่างก็เป็นเรื่องโกหกทั้งนั้น แต่สำหรับเธอคนนี้ผมกับเธอเคยคบกันมาก่อนจริงๆครับ แต่เราก็เลิกรากันไปนานแล้ว ผมไม่ได้ติดต่อเธอเลย และคงจะไม่ติดต่อด้วยเพราะมันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น"

“เซลิน่า” (Selina) นักร้องสาวผู้เคราะห์ร้ายประสบอุบัติเหตุถูกไฟคลอกจนบาดเจ็บสาหัสเมื่อหลายเดือนก่อน อาจจะได้คืนสู่วงการบันเทิงเร็วกว่ากำหนด กับการรับงานจัดรายการวิทยุ ระหว่างการรักษาตัวในช่วงนี้

สาว เซลิน่า เหรินเจียเสวียน สมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป S.H.E แห่งไต้หวันอาจจะได้กลับคืนสู่วงการบันเทิงเร็วกว่าที่ทุกคนคาด เมื่อพ่อของเธอได้ให้สัมภาษณ์กับรายการโทรทัศน์ในไต้หวัน ว่าลูกสาวอาจจะตัดสินใจรับงานจัดรายการวิทยุ ในเร็วๆนี้

“ผมสนับสนุนนะครับ ถ้าลูกจะรับงานจัดรายการวิทยุ ลักษณะนั้นจะทำให้เธอได้สามารถติดต่อพูดคุยกับทุกๆคนได้” ผู้เป็นพ่อกล่าว

โดยความรุ่งโรจน์ในวงการบันเทิงของ เซลิน่า และวง S.H.E ของเธอ ต้องหยุดชะงักลงอย่างไม่คาดฝัน ภายหลังนักร้องสาววัย 29 ปี ต้องพบกับอุบัติเหตุครั้งใหญ่ ถูกไฟคลอกจนได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อเดือน ต.ค. ปีก่อนจากความผิดพลาดในการถ่ายทำฉากระเบิด ของซีรีส์เรื่อง I Have A Date With Spring ในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ โดยมีรายงานว่า เซลิน่า จะต้องใช้เวลารักษาตัวประมาณ 1 ปี

ขณะที่ ริชาร์ด จาง คู่หมั้นหนุ่มของ เซลิน่า ก็กล่าวถึงโอกาสการกลับคืนสู่วงการบันเทิงของแฟนสาวว่า “การกลับมาของเธอจะเป็นกำลังใจให้กับเหยื่อผู้ประสบเหตุถูกไฟลวกทุกคน”

Manager Online

นักร้อง/นักแสดงชื่อดังชาวฮ่องกง "เฉินฮุ่ยหลิน" (Kelly Chen) เปิดใจถึงข่าวเศร้า เมื่อเธอต้องแท้งลูกฝาแฝดทั้งสองไปแล้ว หลังจากตั้งท้องมาถึง 5 เดือน เจ้าตัวยอมรับว่าเสียใจมาก แต่จะพยายามทำใจเพื่อยอมรับกับเรื่องนี้ให้ได้

เฉินฮุ่ยหลิน กล่าวถึงเรื่องเศร้าที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของเธอว่า “ฉันเพิ่งได้พบกับสัปดาห์ที่ยากที่สุดในชีวิตค่ะ หลังจากพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว ลูกสาวทั้ง 2 คนไม่สามารถอยู่กับเราได้จนตลอดรอดฝั่ง หมอบอกว่าไม่ได้มีเหตุผลพิเศษอะไรสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้”

"ฉันอยากจะใช้โอกาสนี้ขอบคุณไปถึงคณะแพทย์, พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทุกคน สำหรับการดูแล, ให้กำลังใจ และช่วยเหลือให้ความสะดวกต่างๆมาโดยตลอดด้วยค่ะ" เธอกล่าวในแถลงการณ์

ซึ่งแม้จะต้องพบกับช่วงเวลาอันเลวร้ายแต่ เฉินฮุ่ยหลิน ยังยืนยันว่าเธอจะพยายามทำใจกับเรื่องนี้ให้ได้ "ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ฉันจะพักผ่อนให้เต็มที่ และเมื่อพร้อมอีกครั้ง ก็จะกลับไปพบกับทุกคนอีก ขอบคุณสำหรับความปรารถนาดีที่มีให้ฉันตลอดมาค่ะ"

โดยข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงประมาณเดือนเดียว หลังจาก เฉินฮุ่ยหลิน ได้ประกาศเมื่อเดือนก่อน ว่าเธอได้ตั้งท้องลูกสาวฝาแฝด ซึ่งเกิดจากวิธีการผสมเทียมเป็นเวลาประมาณ 4 เดือนแล้ว

ดาราสาวชื่อดังวัย 38 ปี เข้าพิธีสมรสกับ อเล็กซ์ หลิว ในเดือน ต.ค. 2008 หลังจากทั้งสองคบหาดูใจกันมาถึง 16 ปี หลังจากนั้น เฉินฮุ่ยหลิน ได้ให้กำเนิดลูกชายคนแรกที่มีชื่อว่า เชส หลิว ในเดือน ก.ค. ของปีต่อมา ซึ่งเธอกล่าวกับสื่อมวลชนเสมอว่าอยากจะมีลูกสาวอีกซักคน จนกระทั่งได้ตั้งท้องลูกสาวฝาแฝด แต่ก็ต้องเสียลูกๆทั้งสองไปในที่สุด

Manager Online

ผู้สร้างภาพยนตร์เรื่อง Snow Flower and The Secret Fan ได้เผยภาพล่าสุดจากหนัง ที่เผยให้เห็นถึงโฉมแรกของ "หลี่ปิงปิง" (Li Bing Bing) และ "จอนจีฮยอน" (Jun Ji Hyun) กับการรับบทเป็นหญิงจีนในศตวรรษที่ 19

จอนจีฮยอน ซุปเปอร์สตาร์แห่งวงการบันเทิงเกาหลีใต้ ซึ่งโด่งดังมาจากหนังดัง My Sassy Girl และ หลี่ปิงปิง นักแสดงสาวชาวจีนที่เคยมีผลงานอย่าง Detective Dee และ The Forbidden Kingdom ปรากฏตัวด้วยเสื้อผ้า, ทรงผม ย้อนยุคแบบจีนอันเรียบง่าย และแต่งหน้าอ่อนๆ ที่ดูเหมือนแทบไม่ได้มีอะไรแต่งแต้มเลย แตกต่างกับภาพความเป็นเจ้าแม่แฟชั่นของดาราสาวสวยทั้งสองคน ในภาพล่าสุดจากภาพยนตร์เรื่อง Snow Flower and The Secret Fan ซึ่งทั้งคู่รับบทนำร่วมกัน

โดยหนังจะมีฉากหลังอยู่ในสังคมจีนยุคเก่า อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ผู้สร้างได้เผยภาพจากหนัง ที่แสดงให้เห็นถึงนักแสดงนำทั้งสอง กับฉากหลังที่อยู่ในยุคปัจจุบันด้วย

Snow Flower and The Secret Fan ว่าด้วยมิตรภาพของหญิงสาวสองคน มีฉากหลังอยู่ในเขตชนบทห่างไกล ในมณฑล หูหนาน ของจีนเมื่อประมาณยุคศตวรรษที่ 19 ซึ่งหญิงสาวสองคนได้ถักทอมิตรภาพขึ้น จนกลายเป็นความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง ที่คงอยู่ตลอดทั้งชีวิตของพวกเธอ ด้วยการสื่อสารโดยภาษาพิเศษที่เรียกว่า 'หนี่ซู' เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ชายล่วงรู้สึกความหมาย และความลับของระหว่างกัน ในช่วงเวลาแห่งความโดดเดี่ยว ภายในกรอบของสังคม และวัฒนธรรมอันเคร่งครัดของจีน

หนังเป็นงานที่ดัดแปลงมาจาก นิยายชื่อเดียวกันของนักเขียนหญิง ลูกครึ่งจีนอเมริกา ลิซ่า ซี ที่สร้างงานเขียนเล่าเรื่องวัฒนธรรมจีนออกมาหลายเล่มแล้ว และได้ถูกแปลเป็นภาษาไทย รวมถึง Snow Flower and the Secret Fan ที่ใช้ชื่อว่า "จดหมายลับไป่เหอ"

Snow Flower and the Secret Fan มีกำหนดเข้าฉายในสหรัฐฯ และอีกหลายๆประเทศในวันที่ 15 ก.ค. 2011 ซึ่งนอกจากสองดาราสาวชื่อดังแดนเอเชียแล้ว หนังยังจะมีนักแสดงหนุ่มชาวออสซี่ ฮิจห์ แจ็คแมน (Hugh Jackman) ร่วมแสดงด้วย และเป็นผลงานการกำกับของผู้กำกับเชื้อสายจีน เวย์น หวัง เจ้าของผลงาน The Joy Luck Club อันโด่งดังนั่นเอง

Manager Online

นักแสดงชื่อดังชาวฮ่องกง “หลิวเจียหลิง” (Carina Lau) ยอมรับว่าเธอได้รับบทเรียนอันล้ำค่า กับการเดินทางเข้าไปสัมผัสชีวิตของชาวบ้าน ผู้ประสบภัยแล้งในมณฑลกานซู ที่ประเทศจีน ว่าความสุขที่แท้จริงนั้น ควรจะมาจากเรื่องเรียบง่ายที่สุดนั่นเอง

หลิวเจียหลิง กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้รับ รู้ถึงชีวิตซึ่งเต็มไปด้วยความแร้นแค้น และขาดแคลน แต่มีความสุขกันในสิ่งที่เรียบง่าย ของชาวบ้านในแถบมณฑลกานซู ว่าเป็นสิ่งที่เธอประทับใจมาก และตื้นตันถึงกับต้องเสียน้ำตาอยู่หลายหนตลอด 4 วัน 5 คืน ที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ กับโครงการหาน้ำสะอาดสำหรับชุมชนผู้ขาดแคลน

นักแสดงหญิงชาวฮ่องกง และ เริ่นเสียนฉี (Richie Ren) นักแสดงหนุ่มชาวไต้หวัน ที่ร่วมเดินทางไปกับคณะครั้งนี้ด้วย ต้องช่วยกันแบกน้ำจากแหล่งน้ำที่ห่างไกลไปจากหมู่บ้าน ทั้งสองยอมรับว่ามันเป็นงานที่หนักมาก และการเดินในเส้นทางซึ่งอยู่บนไหลเขา และขรุขระอันตราย ก็ยิ่งทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องยากขึ้นไปอีก

“เสี่ยวฉี (เริ่นเสียนฉี) กับฉันต้องเดินกันไปบนทางเดินตามภูเขา เสี่ยวฉี ช่วยฉัน และเป็นคนหาบน้ำด้วยค่ะ ที่จริงแล้วที่พักของเราห่างออกจากหมู่บ้านไป ประมาณ 2 ชั่วโมงเมื่อเดินทางด้วยรถยนต์ หมู่บ้านของพวกเขาแทบจะเรียกได้ว่าขาดแคลนทุกสิ่งทุกอย่างที่จำเป็น” หลิวเจียหลิง เล่าเรื่องประสบการณ์ครั้งนี้

เธอยังเล่าว่าชาวบ้านต้องมีชีวิตอยู่ โดยฝากความหวังทั้งหมดไว้กับฟ้าฝน แต่พวกเขาก็ไม่เคยหมดหวัง “ถึงแม้ว่าพวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบากมากมาย โดยเฉพาะจากสภาพสิ่งแวดล้อม แต่พวกเขาก็ไม่เคยทุกข์ใจอยู่กับเรื่องเหล่านี้เลยค่ะ คนที่ได้รับฟังเรื่องราวจากพวกเขาอย่างฉัน กลายเป็นคนที่รู้สึกสะเทือนใจยิ่งกว่า แต่ฉันก็พยายามที่จะเข้มแข็งด้วย”

ซึ่งสุดท้าย หลิวเจียหลิง ได้ยอมรับว่าสถานที่กันดารแห่งนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญกับเธอ “ฉันเคยรู้สึกอิจฉาหรือ หัวเสีย ที่ไม่ได้ซื้อกระเป๋าใบใหม่จากดีไซเนอร์ชื่อดังที่ตัวเองอยากได้มาก เรื่องแบบนั้นกลับทำให้รู้สึกว่าตัวเองโง่มากๆค่ะ ชาวบ้านทุกคนทำให้ฉันได้รู้ว่าชีวิตของเราสามารถเรียบง่ายได้แบบนั้นเหมือนกัน”

Manager Online

ซุปเปอร์สตาร์แห่งวงการเพลงฮ่องกง "เจิ้งซิ่วเหวิน" (Sammi Cheng) ยอมรับแล้วว่าเธอได้กลับมาคบหากับ "สวี่จื่ออัน" (Andy Hui) อีกครั้ง หลังจากแยกทางกันไปเมื่อ 7 ปีก่อน นักร้องสาวคนดังยังเปิดใจว่าต้องการให้ความสัมพันธ์ครั้งนี้ดำเนินไปแบบเรียบง่ายธรรมดา ไม่ถูกกดดันจากความสนใจจากสื่อมวลชน และประชาชนมากมายอย่างที่ผ่านมา

"ฉันไม่อยากได้ความรักที่สั่นสะเทือนไปทั้งโลกอะไรแบบนั้นหรอกค่ะ ขอแค่ความสัมพันธ์ที่ดี และธรรมดาๆก็พอแล้ว" เจิ้งซิ่วเหวิน วัย 37 ปี กล่าวถึงการกลับมาสานสัมพันธ์กับ สวี่จืออัน อดีตแฟนหนุ่มของเธออีกครั้ง "ฉันยอมรับนะคะ ว่าได้กลับมาเริ่มต้นคบกับ สวี่จื่ออัน อีกครั้งแล้ว แต่มันจะลงเอยยังไง ฉันคงจะคาดเดาไม่ได้หรอกค่ะ"

เจิ้งซิ่วเหวิน ยังกล่าวตัดพ้อถึงผู้สื่อข่าว ที่มักจะกดดันเธอด้วยคำถามเกี่ยวกับเรื่องแต่งงาน หรือการสร้างครอบครัว ที่นักร้องหญิงคนดังยืนยันว่ายังไม่ได้คิดถึงเรื่องต่างๆเหล่านั้นในตอนนี้อย่างแน่นอน

นอกจากนั้นเธอยังปฏิเสธเรื่องที่ว่า การกลับมาคืนดีกันครั้งนี้ คือความพยายามในการสร้างกระแสให้กับตัวเอง ว่าไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน และขอร้องให้ทุกฝ่ายช่วยเคารพในการตัดสินใจของเธอกับแฟนหนุ่มด้วย

"ในความเป็นจริงแล้ว แอนดี้ (สวี่จื่ออัน) อยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างยากกว่าฉันค่ะ คนมักจะวัดความสำเร็จในอาชีพของพวกเรา แต่สำหรับฉันแล้วมันไม่ควรมีการแข่งขัน หรือเปรียบเทียบระหว่างคนสองคนที่รักกัน บุคลิก, ความคิด และความเชื่อ ต่างหากที่เป็นสิ่งสำคัญจริงๆ" นักร้องสาวราชินีวงการเพลงฮ่องกง แสดงความเห็นถึงกระแส ที่คนมักจะพูดกันว่า เธอมีชื่อเสียงโด่งดังกว่าแฟนหนุ่มอยู่หลายเท่าตัว และเป็นสาเหตุที่ทำให้ความรักของทั้งสองไม่ค่อยจะราบรื่นตั้งแต่การคบหากันครั้งแรก

คู่ขวัญแห่งวงการเพลงฮ่องกง เริ่มต้นความสัมพันธ์กันตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อน (1991) และมีข่าวรักๆเลิกๆอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งแยกทางกันไปเมื่อปี 2004 แต่ก็ยังมีเรื่องรักรีเทิร์นตามมาอีกอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายมันก็เกิดขึ้นจริงๆ หลังจากมีภาพการรับประทานอาหารร่วมกัน ของนักร้องชื่อดังทั้งสองเผยแพร่ออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อน

งานวันเกิดปีที่ 22 ของนางแบบสาวคนสวย "แอนเจล่าเบบี้" (Angela Baby) ที่ควรจะเป็นช่วงเวลาหวาน ๆ ของเธอกับแฟนหนุ่ม "หวงเสี่ยวหมิง" (Huang Xiaoming) ต้องถูกขัดจังหวะด้วยบิดาของฝ่ายชาย ที่เดินทางมาเป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญ เพื่ออบรมสั่งสอนลูกชายของตน จนงานเริ่มกร่อย และทำให้นางแบบคนสวยต้องเสียความรู้สึก ถึงกับเสียน้ำตากันเลยทีเดียว

เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมาเป็นวันคล้ายวันเกิดปีที่ 22 ของนางแบบสุดฮ็อตแห่งฮ่องกง แอนเจล่าเบบี้ ที่เธอกับ หวงเสี่ยวหมิง แฟนหนุ่มนักแสดงชื่อดังชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ได้ร่วมจัดงานฉลองกันแบบสองต่อสองที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในปักกิ่ง

แต่แล้วจู่ ๆ พ่อของ หวงเสี่ยวหมิง ก็มาปรากฏตัวในวันนั้นด้วยแบบไม่ได้มีการนัดหมาย ซึ่งเมื่อเดินทางมาถึงเขาก็เริ่มทำการอบรมสั่งสอนลูกชาย โดยเฉพาะเรื่องที่ว่าระยะหลังนักแสดงหนุ่มวัย 33 ปี ค่อนข้างจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปให้กับเรื่องความรัก และแฟนสาวคนสวย แทนที่จะทุ่มเทให้กับการทำงานเหมือนเดิม

ซึ่งผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้เป็นบิดาใช้เวลาดุด่าว่ากล่าวลูกชายของเขานานพอสมควร แม้กระทั่งแม่ของหวงเสี่ยวหมิงที่เดินทางมาด้วย จะพยายามไกล่เกลี่ย เพื่อยุติสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเริ่มบานปลายไปเรื่อยๆ สร้างความกระอักกระอ่วนใจให้กับหวงเสี่ยวหมิง และแฟนสาวเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ดูเหมือนว่าจะช่วยอะไรไม่ได้

โดยตลอดเวลาที่เกิดเรื่องขึ้น หวงเสี่ยวหมิง แสดงอาการไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด และแสดงออกด้วยการทุบโต๊ะออกมาหลายครั้ง ขณะที่เจ้าของวันเกิดอย่างนางแบบสาว แอนเจล่าเบบี้ ก็ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่เพียงปาดน้ำตา ที่ไหลอาบแก้มทั้งสองเท่านั้น

และสุดท้ายดราม่าฉากนี้ก็จบลง เมื่อฝ่ายของ หวงเสี่ยวหมิง ตัดสินใจเดินออกจากร้านอาหารไป พร้อมกับอาการโกรธสุดขีด

Manager Online

หลังแยกทางกับ “ริชาร์ด ลี” (Richard Li) ลูกชายของ “ลีกาชิง” อนาคตของนางเอกสาวคุณแม่ลูก 3 “อิซาเบลล่า เหลียง” (Isabelle Leung) ก็กลายเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายให้ความสนใจ ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า งานประเดิมการคืนสู่วงการบันเทิงของเธอ อาจจะคือบท “จักรพรรดินีบูเช็กเทียน” ในภาพยนตร์เรื่อง “ตี๋เหรินเจี๋ย” ภาคต่อไปของ “ฉีเคอะ” นั่นเอง

ก่อนที่จะหายหน้าหายตาไปเป็นคุณแม่อยู่ร่วม 3 ปี นักแสดงสาว อิซาเบลล่า เหลียง เคยมีอนาคตในวงการบันเทิงที่สดใส นอกจากผลงานในประเทศแล้ว ยังได้มีโอกาสร่วมแสดงในหนังฮอลลีวูดอย่าง The Mummy Tomb of the Dragon Emperor ด้วย ซึ่งตอนนี้หลังจากที่เธอได้กลับมาเป็นโสดอีกครั้ง ก็เริ่มมีกระแสถึงการกลับคืนสู่วงการของดาราสาววัย 22 ปีกันแล้ว

โดยเฉพาะเมื่อข่าวการเลิกรากับ ริชาร์ด ลี กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่แทบจะลงหน้า 1 ในหนังสือพิมพ์ที่ฮ่องกงและจีนทุกฉบับ อิซาเบลล่า เหลียง ก็ยิ่งเป็นที่ต้องการตัวเป็นสองเท่า

ซึ่งล่าสุดมีข่าวว่า ฉีเคอะ อาจจะตัดสินใจมอบบท จักรพรรดินีบูเช็กเทียน ในหนัง ตี๋เหรินเจี๋ย (Detective Dee) ภาคต่อไปให้กับ อิซาเบลล่า เหลียง โดยก่อนหน้านี้ทั้งสองเคยร่วมงานกันมาแล้วครั้งหนึ่ง ในหนังสยองขวัญเรื่อง Missing

เมื่อสัปดาห์ก่อนบริษัท Huayi Brothers ยักษ์ใหญ่แห่งวงการภาพยนตร์จีน และผู้กำกับฉีเคอะ เพิ่งออกมาให้ข่าวถึงหนัง ตี๋เหรินเจี๋ย ภาคต่อไป ว่าจะเล่าเรื่องชีวิตในวัยหนุ่มของตัวละครยอดนักสืบแห่งราชวงศ์ถัง หลังจากหนังภาคแรกที่มี หลิวเต๋อหัว (Andy Lau) แสดงเป็น ตี๋เหรินเจี๋ย และ หลิวเจียหลิง (Carina Lau) รับบทเป็น บูเช็กเทียน เพิ่งทำเงินไปมหาศาลเมื่อปี 2010 ที่ผ่านมา

ซึ่งตามข่าวลือผู้กำกับดังได้หมายตา อิซาเบลล่า เหลียง ให้มาสวมบทบาทเป็น บูเช็กเทียน ในวัยสาว นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม จื่อหนานซุน ภรรยาของ ฉีเคอะ ที่ยังนั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการสร้างของ Detective Dee อยู่ด้วย ได้ให้ข่าวปฏิเสธในเรื่องนี้ ยืนยันว่ายังไม่ได้มีการพูดคุยกับ อิซาเบลล่า เหลียง ถึงเรื่องการร่วมงานกันเลย นอกจากนั้นขณะนี้ยังไม่มีการตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนักแสดงใน Detective Dee ภาคต่อไปแต่อย่างใด

Manager Online

เป็นเรื่องฮือฮาไม่น้อยกับข่าวความสัมพันธ์ของคนดังต่างวัยอย่าง ดาวตลกคนดัง "เจิ้งจื่อเหว่ย" (Eric Tsang) กับอดีตรองมิสฮ่องกง "หลี่ฮุ่ยอี้" (Koni Lui) ที่ดูเหมือนว่าทั้งสองจะมีความสนิทสนมกันเป็นพิเศษในระยะหลัง และเป็นผลพลอยได้ที่ทำให้อาชีพในวงการบันเทิงของฝ่ายหญิง ดูจะรุ่งขึ้นมาเรื่อยๆ ด้วย

สาวใจถึง: หลี่ฮุ่ยอี้

หลี่ฮุ่ยอี้ อดีตรองมิสฮ่องกงเมื่อปี 2006 เข้าวงการบันเทิงมาถึง 5 ปีแล้วในฐานะนักแสดงสังกัดของทีวีบี แต่ไม่ใช่งานแสดงที่ทำให้สาวคนนี้โด่งดังเป็นที่รู้จัก หากแต่เป็นการโชว์ความเซ็กซี่ในงานอีเวนต์ หรือพรมแดงต่างๆ ต่างหากที่ทำให้ใครๆก็รู้จัก หลี่ฮุ่ยอี้

สาวสวยผู้มีจุดเด่นอยู่ที่ช่วงขายาว 44 นิ้ว ไม่เคยกังวลใจในการอวดขาสวยๆ และรูปร่างของตัวเอง รวมถึงในงานประกวด มิสเตอร์ฮ่องกงเมื่อปี 2010 ที่ผ่านมา ซึ่ง หลี่ฮุ่ยอี้ ร่วมเป็นกรรมการ แต่กลับขโมยซีนด้วยชุดราตรีสีแดงสดแหวกด้านหน้า โชว์เนินอกขาวๆ ซึ่งนอกจากจะเตะตาต้องใจบรรดาหนุ่มแล้ว ยังสร้างความไม่สบายใจ ให้กับคนดูส่วนหนึ่ง ที่โทรศัพท์ร้องเรียนเข้าไปที่ทีวีบีถึง 29 สาย เพื่อตำหนิงานประกวดในวันนั้น สืบเนื่องจากความเซ็กซี่ของเธอ

ซึ่งนอกจากด้านความเซ็กซี่แล้ว ข่าวกับหนุ่ม ๆ ก็เป็นสิ่งที่สาวคนนี้ไม่เคยห่าง

เคยมีข่าวว่า หลี่ฮุ่ยอี้ ได้คบหาดูใจกับ ดิ๊กสัน หว่อง อดีตผู้เข้าประกวดมิสเตอร์ฮ่องกง แต่ในเวลาเดียวกันเธอยังมีข่าวกับนักแสดงรุ่นใหญ่ในวงการอย่าง หวงซิวเซิง ระหว่างร่วมถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Turning Point ด้วยกัน

ในตอนนั้นมีข่าวถึงขั้นที่ว่า หวงซิวเซิง ถึงกับออกปากเรียกร้องไปที่ผู้กำกับ เพื่อเพิ่มบทให้กับ หลี่ฮุ่ยอี้ ทั้งๆที่ตอนแรกเธอเพียงมาเข้าฉากในฐานะดารารับเชิญเท่านั้น

อย่างไรก็ตามข่าวความสัมพันธ์ของ หวงซิวเซิง (Anthony Wong Chau Sung) และหลี่ฮุ่ยอี้ ก็เงียบไป เมื่อภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวปิดกล้องไปในเวลาต่อมา ... จนกระทั่งล่าสุดอดีตรองมิสฮ่องกงคนนี้ ก็กลับมามีข่าวกับหนุ่มใหญ่อีกครั้ง และคราวนี้เป็นคนที่ นิตยสารไทมส์ เคยให้ฉายาว่าเป็น "ก็อดฟาเธอร์ แห่งวงการบันเทิงฮ่องกง" อย่าง เจิ้งจื่อเหว่ย เลยทีเดียว

รุ่งสุดๆ หลังคบ "ก็อดฟาเธอร์" แห่งวงการบันเทิงฮ่องกง

หลังจากที่ไปเปิดคอนเสิร์ต Super Show 3 ที่เซี่ยงไฮ้ หนุ่ม"ฮีชอล" (Hee Chul) สมาชิกวง Super Junior ก็ต้องออกอาการเซ็งสุดขีด เมื่อแฟนคลับใจดีปาป้ายขึ้นเวทีกะให้เป็นของขวัญ แต่ดันพลาดกระแทกเข้าที่หน้าศิลปินอย่างแรง

หลังจากที่สมาชิกวงรายอื่นเคยเกิดอุบัติเหตุบนเวทีมาแล้ว มาคราวนี้ถึงทีของฮีชอลบ้างที่โดนแฟนคลับปาป้ายไฟเข้าไปโดนที่หน้าอย่างจังขณะที่เขากำลังร้องเพลงและหยอกล้อกับแฟนเพลงอยู่บนเวที

ซึ่งหลังจากที่โดนปาเข้าที่หน้าอย่างจังแล้ว ฮีชอลก็หยุดร้องเพลงทันทีและเอามือกุมเข้าที่หน้าก่อนจะรีบเดินก้มหน้าหายไปหลังเวที ตามรายงานระบุว่าป้ายดังกล่าวทำเอาเขาเลือดออกและมีแผลที่แก้มซ้าย

ทาง ซางจู ศิลปินจากวง Mighty Mouth ก็ได้คลายความกังวลให้กับแฟนๆทันทีโดยเขาทวีตข้อความว่า "แฟนคลับซูเปอร์จูเนียร์! ผมเพิ่งคุยโทรศัพท์กับฮีชอลเขาบอกว่าไม่เป็นอะไรแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง มันแค่มีแผลแตกนิดหน่อยที่หน้าเขา เขาบอกแบบนั้น แต่ผมว่าเขาคงเศร้าและรู้สึกแย่เหมือนกัน...อย่าปาอะไรขึ้นไปบนเวทีอีกเลยนะครับขอร้อง! ทวิตเตอร์ฮีชอลก็บอกแบบนั้นเหมือนกัน"

ซึ่งทางฮีชอลเองก็ได้ระบุว่าตัวเขาไม่โกรธแฟนคลับ แต่จากนี้ต่อไปอย่าได้มีอะไรบินขึ้นบนเวทีอีกเป็นอันขาด!

Manager Online

ดูเหมือนว่าสาวมาดทอมบอยอย่าง "เอลลา" (Ella) นักร้องสาวจากวง S.H.E. จะอยู่ในช่วงอินเลิฟสุดๆ เมื่อเธอพบรักกับหนุ่มมาเลย์ ที่ได้ข่าวว่าถึงขั้นส่งเพื่อนไปทาบทามแม่ฝ่ายหญิงเตรียมขอลูกสาวแต่งงานแล้ว

เอลลา เฉิน นักร้องสาววัย 30 ปี ถูกถ่ายภาพได้ขณะอยู่กับหนุ่มสูงหล่อลงในนิตยสาร Next Magazine ซึ่งหลังการสืบค้นพบว่าหนุ่มผู้โชคดีคนนั้นมีชื่อว่า ไหลซีเสียง (Lai SiXiang) เป็นชาวมาเลเซียวัย 35 ปี ซึ่งเขาทำงานให้กับ L'oreal ในประเทศไต้หวัน ซึ่งภาพถ่ายของทั้งคู่ที่ปรากฏในนิตยสารนั้น เป็นภาพขณะกำลังออกเดทกันหวานแหวว เดินเล่นด้วยกัน ก่อนจะกลับไปอยู่ด้วยกันที่บ้านของเอลลา

ช่างภาพปาปารัสซีที่ตามติดถ่ายภาพของทั้งคู่เป็นเวลาหลายวัน ได้รายงานกับนิตยสารว่า เอลลาและแฟนหนุ่มอยู่ด้วยกันในวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา และกลับไปที่บ้านของเอลลาในคืนวันนั้น พอเวลา 9 โมงเช้าของวันถัดมา ไหลซีเสียง และ เอลลา ก็ออกมาเดินเล่นด้วยกัน เดินจับมือกัน เป็นธรรมชาติเหมือนคู่อื่นๆทั่วไป และวันที่ 24 ก.พ. ไหลซีเสียง ก็ขับรถไปรับเอลลาหลังจากที่เธอทำงานเสร็จ ซึ่งนับว่าพวกเขาพบกันบ่อยมากทีเดียว

ตามรายงานระบุว่าทั้งคู่พบกันครั้งแรกหลังจากที่ ฮีบี (Hebe) สมาชิกวง S.H.E. ที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ของ L'oreal ได้แนะนำให้ทั้งคู่รู้จักกัน โดยล่าสุดนี้ก็มีข่าวลือออกมาว่าฝ่ายชายอยากจะขอฝ่ายสาวแต่งงานแล้ว

โดยเพื่อนที่ไม่ระบุนามของเอลลาเองก็ได้ทาบทามทิ้งข้อความผ่านทางเว็บ Weibo ของแม่เอลลาแทนฝ่ายชายว่า "เพื่อนของหนูฝากสวัสดีคุณแม่ด้วยค่ะ เขาอยากขออนุญาตคุณแม่เกี่ยวกับเรื่องขอแต่งงาน" ซึ่งทางแม่ของเอลลา ได้ตอบกลับข้อความดังกล่าวด้วยความตกใจว่า "ขอแต่งงานเหรอ? พวกเขาเพิ่งรู้จักกันได้ไม่ถึงเดือน แต่เขาอยากมาขออนุญาตจากเราแล้วเหรอ? แม่ว่าไม่ควรตอบตกลงหรอกนะ มันจะยิ่งกว่ากรณีของต้าเอส (Da S) เสียอีกนะ!"

นักแสดงนำจากหนังเกรด 3 สามมิติ 3D Sex and Zen Extreme Ecstasy ร่วมกันเดินทางไปสวดมนต์ และขอพรที่วัดแชกงหมิว (Che Kung Temple) ในฮ่องกง เพื่อให้ผลงานของพวกเขาประสบความสำเร็จ กับการเข้าฉายในช่วงเดือนหน้า

เพื่อเป็นแรงส่งให้หนัง 3D Sex and Zen Extreme Ecstasy ประสบความสำเร็จทางการตลาดกับการเข้าฉายในเดือน เม.ย. ที่จะถึงนี้ ทีมงานและนักแสดงจากภาพยนตร์ ได้ร่วมเดินทางกันไปสวดมนต์และขอพรที่ วัดแชกงหมิว หรือ วัดกังหันลม อันโด่งดังของฮ่องกง หวังว่าจะมีส่วนช่วยเพิ่มโอกาสให้ผลงานเรื่องนี้ของพวกเขา เป็นที่ประทับใจกับแฟนหนังมากยิ่งขึ้น

นักแสดงหนุ่มชาวญี่ปุ่น ฮิโระ ฮายามะ กล่าวว่าเขาไม่เคยเดินทางมาที่วัดแห่งนี้มาก่อน ขณะเดียวกันก็ไม่ค่อยมีโอกาสไปวัดบ่อยนักขณะอาศัยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงแผนการในอนาคต ว่ามีโอกาสจะรับงานแนวเซ็กซี่ร้อนแรงแบบนี้อีกหรือไม่ ฮายามะ กล่าวว่า "นี่คงจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของผมแล้วล่ะครับ แต่ถ้าเป็นหนังของ หว่องกาไว ผมก็อาจจะลองพิจารณาดูอีกครั้ง"

ฝ่ายสาว ไอรีน เฉิน ที่ร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้ด้วยก็กล่าวถึงการแสดงในบทหวือหวาของตัวเองว่า "ฉันพยายามทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ค่ะ ซึ่งนี่ยังไม่ถึงจุดขีดสุดของฉันเลยนะคะ"

ส่วนนางเอกของเรื่อง เหลยไห่เหยียน (Vonnie Lui Hoi Yan) ที่คุยว่าวันนี้เธอแต่งตัวสุภาพเป็นพิเศษ เพราะอยากจะแสดงความเคารพสถานที่ ก็กล่าวว่า "ฉันเคยคิดว่าจะแต่งตัวเซ็กซี่มาเหมือนกันค่ะ แต่ต่อหน้าเทพเจ้าในวัด เราต้องแสดงความเคารพ และไม่ทำอะไรให้หวือหวาเกินไป"

นักแสดงสาวคนสวยยังแสดงความมั่นใจว่า 3D Sex and Zen Extreme Ecstasy น่าจะกลายเป็นหนังฮิตเมื่อเข้าฉาย และอาจจะทำเงินทะลุหลัก 30 ล้านเหรียญฮ่องกง แซงหน้าหนังตลก I Love Hong Kong ที่ฮิตถล่มทลายในช่วงตรุษจีนที่ผ่านมาด้วยซ้ำ "ตอนถ่ายทำมีอะไรตลก ๆ เกิดขึ้นตลอดเลยค่ะ บริษัทเลยคิดอยู่เหมือนกัน ว่าจะทำหนังออกมาสองเวอร์ชั่น คือ แบบตลก กับแบบดูร่วมสมัย ดีรึเปล่า"

Manager Online

หลังจากที่ "อิสเบลลา เหลียง" (Isabelle Leung) ออกมาประกาศแยกทางกับ"ริชาร์ด ลี" (Richard Li) ท่ามกลางข่าวลือมากมาย ล่าสุด "ริชาร์ด ลี" ได้ออกมาเปิดเผยความรู้สึกแล้วว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเงิน และตัวเขาเองก็รู้สึกเจ็บเช่นกัน

เมื่อวันที่ 26 ก.พ. ที่ผ่านมา อิสเบลลา เหลียง ได้ออกมาประกาศแยกทางกับริชาร์ด ลี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังทั้งคู่มีลูกชายด้วยกันถึง 3 คน ซึ่งการเลิกรากันของทั้งคู่เป็นที่สนใจต่อสาธารณะและก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมามากมาย พร้อมกับมีข่าวลือว่าริชาร์ด ลี ได้ให้เงินนักแสดงสาวไป 30 ล้านเหรียญฮ่องกงเป็นค่าเลิก ก่อนจะลือกันอีกระลอกว่าเป็นเงิน 40 ล้านเหรียญต่างหาก พร้อมกันนั้นยังลือด้วยว่ามีเรื่องของมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องคือ แมนดี้ หลิว (Mandy Liu) และนางงามจากแผ่นดินใหญ่อย่าง จ้าวหย่าฉี

โดยเมื่อวานนี้ ริชาร์ด ลี ได้ออกมาเปิดเผยถึงความรู้สึกต่อการเลิกรากันกับอิสเบลลา เหลียงเป็นครั้งแรก พร้อมชี้แจงถึงข่าวลือต่างๆ โดยเฉพาะกับมือที่สามที่ตกเป็นข่าวอย่าง แมนดี้ หลิว และ จ้าวหย่าฉี

ซึ่งริชาร์ดยังเผยด้วยว่าความสัมพันธ์ของเขากับอิสเบลลาเป็นเรื่องเกี่ยวกับจิตใจไม่ใช่เรื่องเงิน และการเลิกรากันครั้งนี้ทำให้เขาใจสลายและเจ็บปวดเช่นกัน ส่วนข่าวลือเรื่องใช้เงินฟาดหรือเรื่องมือที่สามก็เป็นเรื่องที่กุขึ้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

ทางด้านตัวแทนของอิสเบลลา เองก็ออกมาระบุว่านับตั้งแต่ที่มีการประกาศแยกทางของทั้งคู่ ก็เกิดข่าวลือในทางเสียหายออกมามากมาย และนับวันจะยิ่งเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งตัวแทนระบุว่าข่าวต่างๆล้วนไม่เป็นความจริง

"นับตั้งแต่ที่ริชาร์ดและอิสเบลลาตัดสินใจที่จะมีลูกด้วยกัน ไปจนถึงสิ้นสุดความสัมพันธ์กัน มันมีเรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นมากมายระหว่างพวกเขา มันไม่ได้เกี่ยวกับประเด็นเรื่องมือที่สามอย่างที่ข่าวลือพูดถึง พวกเขาทั้งคู่ต่างก็เจ็บปวดกับการเลิกรากันครั้งนี้ พวกเขาตัดสินใจที่จะเปิดเผยเรื่องแยกทางต่อสาธารณะ แต่มันกลับถูกรบกวนด้วยการรายงานแบบผิดๆ มันไม่ยุติธรรมสำหรับพวกเขาเลย พวกเขาเหมือนถูกบังคับให้หลังชนฝา พวกเขาไม่มีความสุขเลย"

ยังเป็นที่พูดถึงกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับข่าวรักร้างของ “อิซาเบลล่า เหลียง” (Isabelle Leung / 梁洛施) และ “ริชาร์ด ลี” (Richard Li / 李泽楷) โดยเฉพาะเรื่องมือที่สาม ทั้งการปรากฏชื่อของนางแบบสาว “แมนดี้” (Mandy Lieu / 刘碧丽) ว่าเป็นสาวคนใหม่ของฝ่ายชาย นอกจากนั้นยังมีข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์แบบไม้ป่าเดียวกัน ระหว่าง “ริชาร์ด ลี” กับ “กู่เทียนเล่อ” (Louis Koo / 古天乐) ที่ถูกพูดถึงออกมาด้วย

หลังตำนานรัก “ซิลเดอเรลล่าฮ่องกง” ของดาราสาว อิซาเบลล่า เหลียง และริชาร์ด ลี ลูกชายของ ลีกาชิง ได้ปิดฉากลงไปแล้ว ยังคงมีกระแสข่าวลือของเรื่องนี้ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งล่าสุดชื่อของนางแบบสาวสวย แมนดี้ หลิว ลูกครึ่งอเมริกา-มาเลเซีย ก็ถูกดึงมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย เมื่อสำนักข่าวบันเทิงในฮ่องกงรายงานว่าเธอคนนี้คือผู้หญิงคนใหม่ของ เศรษฐีหนุ่มเนื้อหอม ริชาร์ด ลี นั่นเอง

ในการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าว แมนดี้ กล่าวว่าเธอเพิ่งกลับมาถึงฮ่องกง และไม่ทราบเรื่องว่าที่ว่า อิซาเบลล่า ได้เลิกรากับ ริชาร์ด ลี ไปแล้ว

นอกจากนั้นสาววัย 25 ปีคนนี้ ยังปฏิเสธเรื่องที่ว่าเธอเป็นมือที่สาม ซึ่งทำให้ความรักของ อิซาเบลล่า กับ ริชาร์ด ลี ต้องปิดฉากลง แต่ในทางตรงข้ามนางแบบสาวกลับไม่ยอมรับหรือปฏิเสธ ถึงข่าวเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับ ริชาร์ด ลี มหาเศรษฐีอันดับ 26 ของฮ่องกง ว่าเป็นความจริงหรือไม่

ซึ่งนอกจากจะมีงานถ่ายแบบและเดินแบบในฮ่องกงแล้ว แมนดี้ ยังเคยเป็นที่รู้จักในฐานะอดีตแฟนสาวของ เฉินป๋อหลิน (Chen Bo-lin / 陳柏霖) พระเอกชื่อดังชาวไต้หวัน โดยทั้งคู่ได้คบหากันเป็นระยะเวลาประมาณ 3 ปี

แต่ข่าวที่น่าตกตะลึงกว่าก็คือ เรื่องที่ว่ารสนิยมเบี่ยงเบนทางเพศของฝ่ายชายต่างหาก ที่ทำให้ชีวิตคู่ของเขา กับ อิซาเบลล่า ต้องจบลง และมีการลือกันไปถึงขั้นที่ว่า ริชาร์ด ลี นั้นมีความใกล้ชิดสนิทสนมอยู่กับพระเอกชื่อดังชาวฮ่องกง กู่เทียนเล่อ ชนิดพิเศษเกินกว่าความเป็นเพื่อน และเป็นสาเหตุให้เขายุติความสัมพันธ์กับ ดาราสาววัย 22 ปี แม่ของลูกๆ ทั้งสามคนของตัวเองในที่สุด

ในการตอบโต้ต่อเรื่องนี้ระหว่างการให้สัมภาษณ์กับนักข่าว กู่เทียนเล่อ ไม่ได้กล่าวอธิบายอะไร แต่ส่ายหน้าเป็นการปฏิเสธแทน

อาชีพในวงการของ “อู๋จุน” (Wu Zun) กำลังจะถึงจุดเปลี่ยนอีกครั้ง เมื่อศิลปินหนุ่มขวัญใจสาวๆ ได้เลือกที่จะไม่ต่อสัญญากับ HIM Records แม้เขายังยืนยันจะทำงานในฐานะสมาชิกของกลุ่มบอยแบนด์ Fahrenheit ต่อไป แต่นักร้องหนุ่มวัย 31 ปี ยังปฏิเสธที่จะพูดถึงการออกอัลบั้มใหม่กับวง

ในงานมีตติ้งกับแฟนคลับกว่า 300 คน ที่เดินทางมาจากทั้ง ไต้หวัน, ฮ่องกง, สิงคโปร์, มาเลเซีย รวมไปถึง ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อู๋จุน ได้ยอมรับว่าเขาตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับบริษัท HIM Records ซึ่งเป็นต้นสังกัดปัจจุบัน หลังจากเรื่องนี้ถูกพูดถึงกันอย่างมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

อู๋จุน ยังเปิดเผยถึงแผนการในอนาคตในช่วงหนึ่งปีข้างหน้าว่า เขาจะเทคิวส่วนใหญ่ไปให้กับงานแสดงภาพยนตร์เป็นหลัก นอกจากนั้นยังมีแผนจะตีพิมพ์หนังสือของตัวเอง เป็นหนังสือเพื่อการกุศลด้วย

ขณะที่สำหรับงานเพลงใหม่ๆ ศิลปินหนุ่มยอมรับว่าคงยังจะไม่มีให้ฟังกันในช่วงปีนี้แน่ๆ นอกจากนั้นเขายังไม่ตอบเรื่องที่ว่า จะออกผลงานเพลงใหม่กับเพื่อนๆ Fahrenheit อีกหรือไม่ แต่ อู๋จุน รับปากว่าตนเองน่าจะมีโอกาส ร่วมงานกับเพื่อนๆ ทั้ง คาลวิน (Calvin), จิโร่ (Jiro) และ แอรอน (Aaron) ในฐานะวง Fahrenheit ต่อไป สำหรับงานในประเภท อีเวนต์ หรืองานพรีเซนเตอร์สินค้า อะไรทำนองนั้น

นักร้องหนุ่มคนดังเผยถึงการตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับบริษัท รวมถึงการพยายามปรับเปลี่ยนแผนการรับงานของตนเองว่า มาจากสาเหตุเรื่องการใช้ชีวิตส่วนตัวเป็นหลัก “ในอดีตที่ผ่านมา งานของพวกเรามันแน่นเกินไปครับ ผมแทบไม่มีเวลาสำหรับครอบครัวเลย ซึ่งมันกระทบต่ออารมณ์ของผม รวมถึงคุณภาพของงานด้วย ที่สำคัญผมอยากจะได้มีโอกาสใช้เวลากับคุณพ่อมากขึ้นครับ”

ส่วนเรื่องความรัก อู๋จุน ยืนยันว่าตนเองไม่ได้คบหากับสาวๆ คนไหนมาตั้งแต่อายุ 16 ปี แล้ว และในอนาคตอันใกล้ถ้าจะมีคนรัก เขาก็ไม่คิดจะเปิดเผยเรื่องส่วนตัวด้านนี้ ให้กับสื่อมวลชนหรือสาธารณะได้รับรู้แต่อย่างใด

“ผมไม่อยากให้คนรักของผมต้องมีปัญหาครับ” อู๋จุน กล่าว “แน่นอนครับ ว่าผมอยากจะแบ่งปันเรื่องดีๆ ในชีวิตให้กับคนอื่นได้ทราบด้วย แต่เราต้องดูสถานการณ์ให้ดีก่อน”

Manager Online

ความรักระหว่าง "อิซาเบลล่า เหลียง" (Isabelle Leung) และ "ริชาร์ด ลี" (Richard Li) ลูกชายของมหาเศรษฐี "ลีกาชิง" ได้เดินทางมาถึงฉากสุดท้ายเร็วกว่าที่หลายคนคิด ภายหลังฝ่ายหญิงออกแถลงการณ์ เพื่อประกาศถึงการตัดสินใจแยกทางกัน แต่ยังยืนยันว่าทั้งคู่จะดูแลลูกน้อย 3 คน ร่วมกันต่อไป

เมื่อเดือน มิ.ย. 2010 ที่ผ่านมาดาราสาวชาวฮ่องกง อิซาเบลล่า เหลียง เพิ่งให้กำเนิดลูกชายฝาแฝดแก่ ริชาร์ด ลี คู่รักผู้ร่ำรวย ลูกชายของมหาเศรษฐีชาวฮ่องกง และยังมีข่าวลือว่าเธอกำลังจะได้แต่งงาน เพื่อเข้าเป็นสะใภ้ตระกูลลีอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ตอนนี้เรื่องราวกลับตาลปัตร เมื่อคู่รักที่โด่งดังที่สุดคู่หนึ่งแห่งฮ่องกง ได้ตัดสินใจแยกทางกันแล้ว

อิซาเบลล่า เหลียง กล่าวถึงเรื่องนี้ในแถลงการณ์ที่ถูกส่งทางแฟกซ์ไปถึงสื่อทุกสำนักในฮ่องกงว่า เธอได้มีความทรงจำที่ดีร่วมกับ ริชาร์ด ลี และจะช่วยกับเขาในการดูแลลูกน้อยทั้ง 3 ต่อไป นักแสดงสาววัย 22 ปี เปิดใจว่าต้องการให้ลูกๆ ทั้ง 3 คนเติบโตมามีสุขภาพที่แข็งแรง และมีความสุข เธอยังหวังว่าการแถลงครั้งนี้ จะช่วยยุติข่าวลือและการคาดเดาของสาธารณะที่มีต่อตัวเธอในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาด้วย

“ในปี 2011 ฉันจะเริ่มต้นชีวิตบทใหม่ของตัวเองค่ะ ฉันได้ตัดสินใจแยกทางกับคุณลี ซึ่งครั้งหนึ่งเราเคยมีความสุขด้วยกันมากแล้ว และเราจะช่วยกันดูแลลูกๆ ต่อไป”

ขณะเดียวกันผู้จัดการส่วนตัวของดาราสาวได้ยืนยันถึงข่าวครั้งนี้ และกล่าวว่าจะไม่มีการจัดแถลงข่าวใดๆ อีกต่อไปแล้ว

อิซาเบลล่า เหลียงลั่วซื่อ เข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่มีอายุเพียง 16 ปี และเริ่มโด่งดังมีชื่อเสียงขึ้นมาในปี 2005 มีผลงานเพลงและแสดงภาพยนตร์หลายเรื่อง รวมถึง Isabella หนังที่ทำให้เธอได้รับรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยม จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปอร์โต ครั้งที่ 27 เมื่อปี 2006

กลายเป็นเรื่องขึ้นมาทันทีเมื่อมีข่าวว่า นักแสดงหญิงแถวหน้าแห่งวงการโทรทัศน์ฮ่องกง “เสอซือม่าน” (Charmaine Sheh) อาจจะไม่ต่อสัญญากับ TVB เพื่อย้ายไปทำงานในจีนแผ่นดินใหญ่แทน ขณะที่เจ้าตัวยอมรับว่า ถึงปัจจุบันเธอเองก็ยังไม่สามารถตัดสินใจในเรื่องนี้ได้แต่อย่างใด

สัญญาของ เสอซือม่าน กับ TVB กำลังจะสิ้นสุดลงในเดือน พ.ค. ที่จะถึงนี้แล้ว และเริ่มมีข่าวลือแพร่สะพัดไปแล้วว่า เธออาจจะตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับ TVB ที่ปั้นเธอจนโด่งดังขึ้นมาในวงการอีกแล้ว

โดยมีรายงานว่านางเอกขวัญใจคนฮ่องกง อาจจะย้ายไปแสวงหาความรุ่งเรืองในวงการบันเทิงจีนแผ่นดินใหญ่แทน ซึ่งข่าวลือก็ลงรายละเอียดไปถึงขั้นที่ว่า เธอได้ตัดสินใจรับเงิน 15 ล้านหยวน (ประมาณ 70 ล้านบาท) จากบริษัทแห่งหนึ่ง สำหรับสัญญาในระยะเวลา 2 ปีแล้ว

ซึ่งฝ่ายของ เสอซือม่าน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เธอเองยังไม่ได้ตัดสินใจอะไร และจะเป็นผู้ประกาศถึงเรื่องนี้ด้วยตนเองในอนาคตอันใกล้ พร้อมยืนยันว่าเรื่องเงินไม่ได้เป็นปัจจัยหลักของการตัดสินใจ แต่จะมุ่งพิจารณาข้อเสนอจากทิศทางของการทำงานในอนาคตเป็นหลัก

ขณะเดียวกัน ฝ่ายบริหารของ TVB ก็ปฏิเสธข่าวลือ เรื่องที่ว่าสถานีได้ทุ่มเงินถึง 10 ล้านเหรียญฮ่องกง (40 ล้านบาท) เพื่อโน้มน้าวนักแสดงสาวคนดังให้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดของสถานีต่อไป …

"เรามีการปรึกษาเรื่องนี้กันอยู่จริงๆ ซึ่งถ้าเธอไม่ได้เซ็นสัญญากับเราแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่า เสอซือม่าน จะไม่ได้ถ่ายทำภาพยนตร์ชุดกับเราอีก นักแสดงอย่าง เติ้งชุ่ยเหวิน หรือ ไช่เส้าเฟิน ก็ยังทำงานกับเราได้ แม้ไม่ได้มีสัญญากันแล้ว"

นอกจากนั้นผู้บริหารของ TVB ยังยืนยันว่า ไม่ใช่เรื่องผิดที่ เสอซือม่าน จะเดินออกจากบริษัทไป ภายหลัง TVB ส่งเสริมเธอจนโด่งดังขึ้นมา “ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรหรอก ความจริงแล้วเรื่องแบบนี้ ทีวีบีก็ไม่สามารถกำหนดอะไรได้อยู่แล้ว”

เมื่อหลายปีก่อน “เฉินหลง” (Jackie Chan) กล่าวถึงเรื่องฉาวความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของเขา กับหญิงที่ไม่ได้เป็นภรรยาว่า ... “เป็นเรื่องผิดพลาดแบบที่ผู้ชายหลายๆคนเคยทำ”... ซึ่งล่าสุดดูเหมือนว่าพระเอกดังชาวฮ่องกงจะทำเรื่อง “ผิดพลาด” ซ้ำเดิมขึ้นมาอีกครั้ง และครั้งนี้ฝ่ายหญิงเป็นถึงระดับซุปเปอร์สตาร์คนหนึ่งแห่งวงการภาพยนตร์จีนด้วย

สวีจิงเล่ย (Xu Jing Lei) นักแสดงสาววัย 36 ปี ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงที่โด่งดังที่สุดในประเทศ นอกจากการแสดงแล้วเธอคนนี้ยังเป็นผู้กำกับที่มีผลงานมากมาย

ซึ่งเมื่อสองปีก่อน สวีจิงเล่ย ได้มีโอกาสร่วมงานกับ เฉินหลง ซุปเปอร์สตาร์ยอดนักบู๊แห่งฮ่องกงในภาพยนตร์เรื่อง Shinjuku Incident แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของทั้งสอง ดูจะลึกซึ้งมากกว่าความเป็นเพื่อนร่วมงานเสียแล้ว

โดยในคืนของวันตรุษจีนที่ผ่านมา มีคนไปพบเห็นว่า สวีจิงเล่ย ได้เดินทางเข้าไปในโรงแรมระดับ 5 ดาวแห่งหนึ่งในปักกิ่ง ซึ่งมีข่าวลือว่าโรงแรมแห่งนี้ เป็นสถานที่ซึ่งเฉินหลงมักจะเลือกใช้ สำหรับสังสรรค์กับเพื่อนๆและคนสนิท

จนกระทั่งเวลาตีสอง เฉินหลง และสวีจิงเล่ย จึงเดินทางออกมาจากโรงแรมพร้อม ๆ กัน ซึ่งผู้สื่อข่าวรายงานว่าฝ่ายหญิงมีอาการมึนเมาอย่างเห็นได้ชัด ทั้งเดินโงนเงนไปมา และหัวร่อต่อกระซิกอยู่ตลอดเวลา

ขณะที่ เฉินหลง ที่แม้จะมีใบหน้าแดงก่ำ แต่ก็ดูครองสติได้ดีกว่าเพื่อนหญิงของเขา เฉินหลงยังช่วยประคองตัว สวีจิงเล่ย เพื่อส่งเธอไปถึงที่รถด้วย จนกระทั่ง สวีจิงเล่ย เข้าไปในรถก็ปรากฏภาพที่เฉินหลงใช้มือทั้งสองจับไปที่ใบหน้าของเธอ และเริ่มต้นจูบกันอย่างดูดดื่ม หลังจากนั้นทั้งสองจึงบอกลา และแยกย้ายกันไป

หลังจากข่าวครั้งนี้กลายเป็นประเด็นที่ทุกคนให้ความสนใจมากมาย ตัวของ สวี่จิงเล่ย ได้ตอบคำถามที่เกิดขึ้นผ่าน microblog ของตนเอง เพื่อปฏิเสธทั้งเรื่องความสัมพันธ์กับพระเอกรุ่นพี่ และอาการเมามายของเธอเองในวันนั้น "ตลกแล้วมั้งค่ะ? ตรงไหนกันที่พวกคุณเห็นการ ‘จูบแบบดูดดื่ม’ หรือ ‘อาการเมามาย’? แต่งเรื่องกันได้เก่งมากค่ะ ทำงานหนักกันน่าดูเลย"