Richie Ren / Richie Jen (C)

       “หลิวเต๋อหัว” (Andy Lau) นักแสดงชื่อดังชาวฮ่องกงบินตรงร่วมเคารพศพ อาจารย์ “กิมน้ำ แซ่จิว” หรือ “หลวงปู่มังกรขาว” ที่ประเทศไทยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าตัวนับถือเป็นบุคคลที่เคารพรัก
       
       ตามรายการจากสื่อฮ่องกงระบุว่า หลิวเต๋อหัว นักแสดงชื่อดังได้เดินทางมาที่ประเทศไทยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยมาถึงที่วัดจัดพิธีศพในช่วงบ่าย โดยมีภรรยาของอาจารย์กิมน้ำให้การต้อนรับ ก่อนที่ทั้งคู่จะโผเข้ากอดปลอบใจกันและกัน
       
       โดยหลิวเต๋อหัวมาร่วมงานด้วยชุดสีขาว เดินเข้าไปเคารพศพด้วยเท้าเปล่า จุดธูปเพื่อเคารพศพของอาจารย์ ซึ่งก่อนหน้านี้ แอนดรูว์ เลา หรือ หลิวเหว่ยเฉียงก็เคยหยุดงานเพื่อมาร่วมเคารพศพหลวงปู่มังกรขาวทันทีที่ทราบข่าวการเสียชีวิต
       
       ซึ่งหลิวเต๋อหัว ได้เปิดเผยด้วยว่าเขาเคารพอาจารย์กิมน้ำหรือหลวงปู่มังกรขาวเสมือนพ่อแท้ๆ ของเขา และเป็นคนที่เขาสนิทใกล้ชิดมากที่สุดคนหนึ่งในชีวิตด้วย
       
       การปรากฏตัวของหลิวเต๋อหัว สามารถเรียกความสนใจจากสื่อ ผู้มาร่วมงานศพ และคนในท้องถิ่นได้เป็นอย่างมาก มีคนขอถ่ายรูปตลอดงานและโพสต์สู่โลกออนไลน์ ซึ่งหลิวเต๋อหัวยังได้พบกับลูกสาวของอาจารย์กิมน้ำโดยเขาเข้าสวมกอดเพื่อให้กำลังใจเธอพร้อมกับถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับเธอและลูกชายของเธอ รวมถึงภาพถ่ายรวมญาติที่ถ่ายร่วมกับรูปหน้าศพของอาจารย์กิมน้ำ ก่อนจะอยู่ร่วมพิธีศพจนกระทั่งถึงเวลา 2.00 น.เลยทีเดียว
       

บริษัทหนังระดับตำนานของวงการบันเทิงฮ่องกง เตรียมกลับมาผลิตภาพยนตร์อีกครั้ง กับการหยิบเอาหนังโรแมนติกสุดฮิตเมื่อปี 1999 กลับมาสร้างใหม่
       
       Golden Harvest หรือปัจจุบันที่ใช้ชื่อบริษัทว่า Orange Sky Golden Harvest Entertainment Co Ltd (OSGH) ได้เริ่มต้นกลับคืนสู่ธุรกิจภาพยนตร์อีกครั้ง ประเดิมด้วยการหยิบเอา Fly Me to Polaris หนังโรแมนติกสุดดังปี 1999 กลับมาสร้างใหม่
       
       สำหรับ Fly Me to Polaris เป็นหนังรักแฟนตาซีที่มี เริ่นเสียนฉี (Richie Jen) และจางป๋อจือ (Cecilia Cheung) รับบทนำ เป็นผลงานของ จิงเกิล หม่า ที่ข่าวระบุว่าจะกลับมากำกับหนังฉบับใหม่ด้วย พร้อมทุนสร้าง 25 ล้านหยวน กับดารานำชุดใหม่ทั้งหมด โดยหนังยังจะเป็นความร่วมมือกับทาง Sony ที่จะสนับสนุนกล้อง 4K เพื่อช่วยให้หนังมีความน่าสนใจกับภาพความละเอียดสูง ที่ทางตัวแทนของ Golden Harvest ยืนยันว่า จะสร้างความแตกต่างจากหนังทั่วๆ ไปได้อย่างแน่นอน
       
       Fly Me to Polaris หรือ “ขอเพียง 5 วันให้ฉันรู้หัวใจเธอ” เป็นงานที่เล่าเรื่องของ “หยังชงโถว” หนุ่มที่เป็นใบ้ และตาบอด ซึ่งหลงรัก “อี๋ชิวหนาน” นางพยาบาลสาวจิตใจดีผู้บริสุทธิ์และอ่อนโยน แต่ก่อนที่เขาจะได้สารภาพความในใจใดๆ กับเธอ กลับต้องมาเสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน จนสุดท้ายได้รับโอกาสอีก 5 วันบนโลกมนุษย์ เพื่อทำความปรารถนาให้สำเร็จก่อนจะจากโลกนี้ไป
       
       ซึ่งทางโฆษกของบริษัท เผยว่า Fly Me to Polaris เวอร์ชันใหม่ จะไม่ได้นำเรื่องราวเดิมกลับมาสร้างใหม่เสียทีเดียว อาจจะพูดได้ว่าเป็นหนังในชุดเดียวกันมากกว่า และจะเล่าเรื่องที่มีพื้นฐานคล้ายๆ กัน กับความรักของคนเป็นกับคนตายเหมือนเดิม

หลังจากถูกมรสุมข่าวฉาวและวิกฤตชีวิตคู่รุมเร้ามาเป็นปีๆ ล่าสุดก็มีข่าวคราวความคืบหน้าเกี่ยวกับผลงานการแสดงใหม่ของจางป๋อจือ (Cecilia Cheung) ซิงเกิ้ลมัมป้ายแดงมาฝากจ้า กับการกลับมาแสดงภาพยนตร์ย้อนยุคอีกครั้งกับบทวีรสตรี “มู่กุ้ยอิง” ในหนังใหญ่เรื่อง “Legendary Amazon” 《杨门女将之军令如山》” (หรือขุนศึกตระกูลหยาง ภาคมู่กุ้ยอิง) และยังถือเป็นการโคจรกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของเธอกับเยิ่นเสียนฉีด้วย

Legendary Amazon เป็นผลงานการกำกับของ แฟรงกี้ ชาน (เฉินซวินฉี) และได้พี่เบิ้มแห่งวงการบันเทิงฮ่องกงอย่าง “เฉินหลง” (Jackie Chan) นั่งเก้าอี้โปรดิวเซอร์ โดยงานนี้ทุ่มทุนสร้างรวมทั้งสิ้น 20 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 640 ล้านบาท) มีนักแสดงชื่อดังร่วมแสดงอย่างคับคั่ง อาทิ จางป๋อจือ, เยิ่นเสียนฉี (Richie Jen), หลิวเสี่ยวชิ่ง, เจิ้งเพ่ยเพ่ย (Cheng Pei Pei), โจวไห่เม่ย (Kathy Chow), จินเฉียวเฉี่ยว มีโปรแกรมเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่จีนในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้

ก่อนหน้านี้มีข่าวแว่วว่าทางผู้สร้างได้วางตัวฟั่นปิงปิง (Fan Bing Bing) ให้มารับบทนี้ แต่เนื่องจากฟั่นปิงปิงติดคิวแสดงหนังเกาหลีจึงได้ถอนตัวไป และจางป๋อจือ ที่เพิ่งฟื้นตัวจากการคลอดลูกคนที่สองที่เกิดกับอดีตสามีเซี่ยถิงฟง (Nicholas Tse) ก็เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของผู้กำกับ การกระโดดมารับบท “มู่กุ้ยอิง” (Mu Guiying) ในครั้งนี้ นับเป็นความโชคดีของเธอ เพราะเชื่อว่าบทนี้จะช่วยกู้ภาพลักษณ์ของเธอให้ฟื้นกลับมาได้ระดับหนึ่งทีเดียว

สำหรับเงื่อนไขของจางป๋อจือในการมารับแสดงหนังเรื่องนี้นั้น ทางผู้กำกับเปิดเผยว่า “ก็เป็นเงื่อนไขพื้นฐานที่สมเหตุสมผล เพียงแต่ในเรื่องมีฉากขี่ม้าค่อนข้างเยอะ เนื่องจากจางป๋อจือเพิ่งฟื้นตัวจากการคลอดลูก เธอจึงขอว่า ฉากขี่ม้าไม่อยากให้อันตรายเกินไป เพราะเธอยังอยากมีลูกอีก”

ด้านโจวไห่เม่ย นักแสดงหญิงมากความสามารถอีกคนที่ร่วมงานในเรื่องนี้ พูดถึงการมารับบท “สะใภ้ห้า” ในครั้งนี้ว่า ตัวเธอรู้จักกับผู้กำกับชานมานาน อีกทั้งยังดวงสมพงษ์กับเรื่องขุนศึกตระกูลหยางเสียด้วย เพราะผลงานละครโทรทัศน์เรื่องแรกที่เธอแสดงกับทีวีบีเมื่อหลายสิบปีก่อน เธอก็รับบท “หยางจิ่วเม่ย” (หยางเก้า) ในซีรี่ย์เรื่องขุนศึกตระกูลหยาง ฉบับ หลิวเต๋อหัว-เหลียงเฉาเหว่ย ด้วย

นักแสดงชื่อดังชาวฮ่องกง “หลิวเจียหลิง” (Carina Lau) ยอมรับว่าเธอได้รับบทเรียนอันล้ำค่า กับการเดินทางเข้าไปสัมผัสชีวิตของชาวบ้าน ผู้ประสบภัยแล้งในมณฑลกานซู ที่ประเทศจีน ว่าความสุขที่แท้จริงนั้น ควรจะมาจากเรื่องเรียบง่ายที่สุดนั่นเอง

หลิวเจียหลิง กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้รับ รู้ถึงชีวิตซึ่งเต็มไปด้วยความแร้นแค้น และขาดแคลน แต่มีความสุขกันในสิ่งที่เรียบง่าย ของชาวบ้านในแถบมณฑลกานซู ว่าเป็นสิ่งที่เธอประทับใจมาก และตื้นตันถึงกับต้องเสียน้ำตาอยู่หลายหนตลอด 4 วัน 5 คืน ที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ กับโครงการหาน้ำสะอาดสำหรับชุมชนผู้ขาดแคลน

นักแสดงหญิงชาวฮ่องกง และ เริ่นเสียนฉี (Richie Ren) นักแสดงหนุ่มชาวไต้หวัน ที่ร่วมเดินทางไปกับคณะครั้งนี้ด้วย ต้องช่วยกันแบกน้ำจากแหล่งน้ำที่ห่างไกลไปจากหมู่บ้าน ทั้งสองยอมรับว่ามันเป็นงานที่หนักมาก และการเดินในเส้นทางซึ่งอยู่บนไหลเขา และขรุขระอันตราย ก็ยิ่งทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องยากขึ้นไปอีก

“เสี่ยวฉี (เริ่นเสียนฉี) กับฉันต้องเดินกันไปบนทางเดินตามภูเขา เสี่ยวฉี ช่วยฉัน และเป็นคนหาบน้ำด้วยค่ะ ที่จริงแล้วที่พักของเราห่างออกจากหมู่บ้านไป ประมาณ 2 ชั่วโมงเมื่อเดินทางด้วยรถยนต์ หมู่บ้านของพวกเขาแทบจะเรียกได้ว่าขาดแคลนทุกสิ่งทุกอย่างที่จำเป็น” หลิวเจียหลิง เล่าเรื่องประสบการณ์ครั้งนี้

เธอยังเล่าว่าชาวบ้านต้องมีชีวิตอยู่ โดยฝากความหวังทั้งหมดไว้กับฟ้าฝน แต่พวกเขาก็ไม่เคยหมดหวัง “ถึงแม้ว่าพวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบากมากมาย โดยเฉพาะจากสภาพสิ่งแวดล้อม แต่พวกเขาก็ไม่เคยทุกข์ใจอยู่กับเรื่องเหล่านี้เลยค่ะ คนที่ได้รับฟังเรื่องราวจากพวกเขาอย่างฉัน กลายเป็นคนที่รู้สึกสะเทือนใจยิ่งกว่า แต่ฉันก็พยายามที่จะเข้มแข็งด้วย”

ซึ่งสุดท้าย หลิวเจียหลิง ได้ยอมรับว่าสถานที่กันดารแห่งนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญกับเธอ “ฉันเคยรู้สึกอิจฉาหรือ หัวเสีย ที่ไม่ได้ซื้อกระเป๋าใบใหม่จากดีไซเนอร์ชื่อดังที่ตัวเองอยากได้มาก เรื่องแบบนั้นกลับทำให้รู้สึกว่าตัวเองโง่มากๆค่ะ ชาวบ้านทุกคนทำให้ฉันได้รู้ว่าชีวิตของเราสามารถเรียบง่ายได้แบบนั้นเหมือนกัน”

Manager Online

"เยิ่นเสียนฉี" (Richie Ren) ตัดสินใจยกเลิกคอนเสิร์ตซึ่งจะจัดขึ้นที่ฟิลิปปินส์แล้ว หลังการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกง ในเหตุการณ์จับตัวประกัน นักร้องชื่อดังชาวไต้หวัน ยังตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ ในโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับนักแสดงชาวจีนอีกหลายคนที่ยอมรับว่า คงจะไม่เดินทางไปเยือนฟิลิปปินส์ในอนาคตอันใกล้

"คอนเสิร์ตที่จะจัดขึ้นในเดือน พ.ย. นี้ เป็นงานที่มีจุดมุ่งหมายระดมทุนเพื่อช่วยเหลือชาวจีนในฟิลิปปินส์ แต่แฟนเพลงของผมแสดงความกังวลในเรื่องความปลอดภัย ขณะที่บริษัทต้นสังกัดก็รู้สึกว่าบรรยากาศในขณะนี้ไม่เหมาะสำหรับการแสดงคอนเสิร์ตเลย" เยิ่นเสียนฉี นักร้องหนุ่มชื่อดังชาวไต้หวันกล่าวถึงเหตุผลของการยกเลิกคอนเสิร์ตในแดนตากาล็อก หลังเกิดเรื่องเศร้ากับนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกง

อย่างไรก็ตามเขายังแสดงเจตนารมณ์ว่า จุดมุ่งหมายการให้ความช่วยเหลือชาวจีนโพ้นทะเลจะต้องดำเนินต่อไป "เรากำลังขบคิดกันอยู่ว่าจะทำอย่างไรจึงจะสามารถช่วยเหลือโรงเรียนของชาวจีนในฟิลิปปินส์ได้"

กลายเป็นเรื่องใหญ่ระดับชาติ เมื่อตัวประกันชาวฮ่องกง 8 คนถูกสังหารในเหตุการณ์ที่อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจชาวฟิลิปปินส์จี้รถบัสของนักท่องเที่ยว ในกรุงมนิลาเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนักร้องหนุ่มวัย 44 ปี ยังแสดงความคิดเห็นตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ ที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตมากมายเช่นนี้ว่า "การที่นักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงต้องเสียชีวิตมากมายเช่นนี้ ผมรู้สึกว่าเจ้าหน้าที่ของฟิลิปปินส์ปล่อยปละละเลย อันที่จริงความปลอดภัยของตัวประกันต้องมาเป็นอันดับแรก แล้วเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน"

"การเดินทางท่องเที่ยวควรจะเป็นเรื่องของความสนุกสนาน มันน่าเศร้าที่ต้องเกิดเรื่องสูญเสียแบบนี้ขึ้น" หนุ่มชาวไต้หวันกล่าว

เยิ่นเสียนฉี ไม่ใช่คนดังชาวจีนคนเดียวที่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าว เซียะเทียนหัว นักแสดงทางโทรทัศน์ ผู้โด่งดังกับหนังแนวอาชญากรรมเรื่อง E.U. ก็ออกมาแสดงความรู้สึกว่า สำหรับตนเองแล้วฟิลิปปินส์ไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยอีกต่อไป เขายังตัดสินใจเปลี่ยนแปลงโปรแกรมท่องเที่ยวดำน้ำของตนเอง ไปเป็นที่มาเลเซียแทนด้วย

นางแบบชื่อดังชาวจีนแผ่นดินใหญ่ "กงซินเหลียง" (Gong Xin Liang) เข้ารับการฝึกฝนมวยกังฟู กับครูมวยชื่อดัง เพื่อเข้าฉากในหนังกำลังภายในเรื่องใหม่ที่เธอร่วมแสดง

กงซินเหลียง หรือที่ชาวจีนรู้จักกันในชื่อ "หมิวหมิว" (Miumiu) นางแบบวัย 22 ปี ที่ผลงานการแสดงภาพยนตร์ และถ่ายปกหนังสือมาแล้วหลายเล่ม โดยเฉพาะการขึ้นปกของ For Him ฉบับประเทศจีนฉบับเดือน มี.ค.ของเธอที่กลายเป็นที่ฮือฮาอยู่พอสมควรเลยทีเดียว

ล่าสุดสาวรูปร่าง 34 / 22 / 33 คนนี้จะได้กลับมารับงานแสดงอีกครั้ง ในผลงานเรื่อง Dragon and Phoenix Inn (龙凤店) ซึ่งมีนักแสดงชื่อดังอย่าง เยิ่นเสียนฉี (Richie - Ren Yin Chi) และสวี่ซีหยวน (Barbie - Hsu Hsi Yuan) แสดงนำ และแม้จะมีประสบการณ์ด้านการแสดงมาบ้างแล้ว แต่นี่จะแตกต่างจากงานก่อนๆ ที่นางแบบสาวเคยแสดงมา เพราะครั้งนี้ กงซินเหลียง จะต้องเล่นคิวบู๊ และโชว์ลีลากังฟูด้วย ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนก่อนเริ่มการถ่ายทำ

สำหรับ อาจารย์ชิวจื่อหลิง ผู้ที่มาทำการถ่ายทอดวิชาให้กับนางแบบคนสวยในครั้งนี้ ไม่ใช่ระดับฝีมือธรรมดาสามัญ แต่เป็นถึงครูมวยผู้เชี่ยวชาญเพลงมวยหงฉวน (หงก่า) เป็นลูกศิษย์สายตรงจากสายเส้าหลินใต้ เฉกเช่นเดียวกับ หงซีกวน หรือหวงเฟยหง กันเลยทีเดียว

นอกจากนั้น อาจารย์ชิวจื่อหลิง ยังเคยทำงานในวงการภาพยนตร์ ทั้งเป็นตัวประกอบ และรับหน้าที่สตั้นแมนในหนังกว่า 70 เรื่อง ได้ร่วมงานกับนักแสดงชั้นนำ เช่น บรูซ ลี, เฉินหลง, โจวเหวินฟะ และโจวซิงฉือมาแล้ว

ซึ่งงานล่าสุดที่ทำให้เขาโด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกก็คือ การรับบทเด่นในหนังเรื่อง Kung Fu Hustle (คนเล็กหมัดเทวดา) ของยอดดาวตลกชาวฮ่องกง ซึ่งการรับบทยอดฝีมือผู้มีท่าทางตุ้งติ้งได้อย่างไม่น่าเชื่อในหนังเรื่องนั้น เป็นที่มาซึ่งทำให้เขาถูกเลือกมาฝึกปรือฝีมือกังฟูให้กับ นักแสดงสาวเซ็กซี่คนนี้นั้นเอง

Manager Online