ข่าวจีน

"เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) ยืนยัน"จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) ท้องอีกแล้ว

Submitted by canjamm on 31 ตุลาคม, 2009 - 19:09

หลังจากที่มีข่าวลือออกมานานว่า"จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) ภรรยาสาวผู้อื้อฉาวของ"เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) กำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่สอง ล่าสุดผู้เป็นพ่อออกมายืนยันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นิโคลัส เซียะ หรือ เซียะถิงฟง นักแสดงหนุ่มชื่อดังได้เข้าร่วมงาน Arts&Film ซึ่งมีสื่อมวลชนเข้าร่วมงานมากมาย จึงไม่วายที่จะถูกซักถามถึงประเด็นดังกล่าวเจ้าตัวจึงเอ่ยปากยืนยันแล้วว่าท้องชัวร์

โดยระหว่างการสัมภาษณ์ เซียะถิงฟง ได้เผยถึงเรื่องดังกล่าวหลังถูกนักข่าวซักถามถึงเรื่องนี้อย่างไม่ลดละ เขาคิดในใจสักครู่ก่อนจะตัดสินใจเปิดปากถึงเรื่องนี้ครั้งแรก โดยยืนยันว่าเธอท้องลูกคนที่สองแล้วจริงๆ โดยระบุว่ายังไม่รู้ว่าเป็นลูกแฝดหรือไม่ "ตอนนี้ภรรยาผมท้องอีกแล้วครับ ตอนนี้ผมยังไม่รู้เหมือนกันว่าเธอท้องลูกแฝดหรือเปล่า"

และเมื่อถูกถามต่อไปว่าทางด้าน ลูคัส (Lucas) ลูกชายของทั้งคู่อยากได้น้องสาวหรือน้องชาย เขาได้แต่ยิ้มก่อนจะตอบว่า "ลูคัส เพิ่งจะสองขวบเองครับ เขายังพูดไม่รู้เรื่องเลย"

Mingpao / Manager Online

“เจิ้งอี้เจี้ยน” (Ekin Cheng) เตรียมชิ่ง หลังแฟนสาวติดการพนันอย่างหนัก

Submitted by canjamm on 30 ตุลาคม, 2009 - 13:18

นักแสดงหนุ่มชาวฮ่องกง “เจิ้งอี้เจี้ยน” (Ekin Cheng) กำลังจะกลับมามีผลงานเพลงอีกครั้ง หลังจากพักจากอาชีพนักร้องไปช่วงใหญ่ โดยสื่อฮ่องกงแฉว่า การกลับรับงานเพลงครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากปัญหาทางการเงินของเขา ที่เกิดจากการติดพนันของแฟนสาว จนอาจทำให้รัก 3 ปีของทั้งสองต้องจบลงในเร็ววันนี้

แม้ขณะนี้ยังไม่มีการออกมาพูดเปิดใจถึงเรื่องดังกล่าว แต่ในการสัมภาษณ์ครั้งล่าสุด ของคู่รักคนดังแห่งวงการบันเทิงฮ่องกงอย่าง หนุ่ม เจิ้งอี้เจี้ยน วัย 42 และแฟนสาวดาราชื่อดัง เมิ่งเจียฮุ่ย (Yoyo Mung) วัย 34 ได้บอกใบ้ ว่าขณะนี้กำลังถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากในความสัมพันธ์ของทั้งสองแล้ว

เมื่อเร็วๆ นี้ฝ่ายชายได้ออกมาปฏิเสธถึงข่าวลือเรื่องการแต่งงาน และบอกว่าเขายังไม่พร้อมที่จะแต่งงานในขณะนี้ ส่วนฝ่ายหญิงก็ตอบคำถามเรื่องอนาคตของเธอกับ เจิ้งอี้เจี้ยนว่าจะไม่มีการรีบร้อนอะไรทั้งนั้น " ในตอนนี้งานเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด นอกจากนั้น เขา (เจิ้งอี้เจี้ยน) ยังกังวลถึงปัญหาต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น เราเลยยังไม่มีแผนอะไร ในอนาคตใกล้ๆ นี้ทั้งสิ้นค่ะ”

จากแหล่งข่าวของนิตยสารท้องถิ่นในฮ่องกงได้ระบุว่า ปัญหาที่ว่าก็คือ การติดการพนันของฝ่ายหญิงนั้นเอง มีการลือกันว่าที่ผ่านมา เมิ่งเจียฮุ่ยเสียพนัน และรวมถึงใช้เงินไปในการลงทุนที่ความเสี่ยงสูง จนเงินเก็บของทั้งสองต้องร่อยหรอไปไม่น้อย ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำที่ผ่านมา

รายงานข่าวระบุว่าสาว เมิ่งเจียฮุ่ย ที่พักหลังต้องไปใช้เวลาส่วนใหญ่ที่มาเก๊า เพื่อถ่ายละครชุดทางทีวี กลับใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่บ่อนคาสิโน

ในระหว่างที่ไม่มีคิวการถ่ายทำในส่วนของเธอ สาวเมิ่งเจียฮุ่ยจะอยู่ในบ่อน จากเดิมแค่วันละ 10 เหรียญก็กลายเป็นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเริ่มเสียมากกว่าได้ ปัญหาเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีคนสังเกตเห็นว่า ดาราสาวไม่ได้มาเข้าฉากในบางครั้งเมื่อถึงคิวของเธอ นอกจากนั้น ดาราสาวคนนี้ยังติดการเล่นไพ่นกกระจอกอย่างหนัก และมักจะใช้เวลาเล่นไพ่นกกระจอกกับเพื่อนๆ จนข้ามวันข้ามคืน

ตามข่าวลือนั้น หลังจากทั้งสองมีปากเสียกันอย่างหนักถึงเรื่องดังกล่าว เจิ้งอี้เจี้ยน หัวเสียกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก และถึงกับไล่แฟนสาวออกจากอพาร์ทเมนท์สุดหรู ที่ทั้งคู่ย้ายมาอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ปีที่แล้ว

Farenheit จะไม่ยุบวงเนื่องจากหมดสัญญา

Submitted by canjamm on 29 ตุลาคม, 2009 - 22:01

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา Fahrenheit กลุ่มศิลปินไอด้อลจากไต้หวันจัดงานคอนเสิร์ตสองรอบติดกันเพื่อเป็นการปิดงาน แต่ในงานที่ควรจะเป็นการฉลองอย่างมีความสุข กลายเป็นงานที่มีแต่คำถามเกี่ยวกับสัญญาของพวกเขา และยังมีคำถามว่า อู๋จุน (Wu Zun) จะออกมาเป็นศิลปินเดี่ยวหรือเปล่า หนุ่มๆ Fahrenheit ตอบกลับอย่างตรงไปตรงมาว่า อารมณ์ของพวกเขาถูกทำลายโดยนักข่าว พวกเขาหวังว่า ทุกๆคนจะเน้นคำถามไปที่ความพยายามของพวกเขาที่ทำอย่างเต็มที่ลงไปในงานคอนเสิร์ต

คำถามเกี่ยวกับสัญญาของ Fahrenheit กลายเป็นเรื่องพูดคุยกันอย่างมาก สมาชิกทั้ง 4 คนออกมาอธิบายเกี่ยวกับสถานการณ์ แคลวิน เฉิน (Celvin Chen) กล่าวว่า "สัญญายังมีอีก2 ปี มันไม่มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับการต่อสัญญา ภายในวง การพัฒนาต่างๆของสมาชิกแต่ละคนจะขึ้นๆลงๆ ตารางงานของ Fahrenheit มักจะมีทั้งงานเดี่ยวของสมาชิกแต่ละคน และยังมีตารางงานสำหรับการทำงานร่วมกันของทั้ง 4 คนด้วย" แคลวินยังกล่าวว่า ในขณะนี้ อัลบั้มใหม่กำลังอยู่ในระหว่างการอัดเสียง และพวกเขายังคงทำงานเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาอย่างต่อเนื่อง "ไม่สนใจว่าคนภายนอกพูดอย่างไร ตราบเท่าที่ Fahrenheit ยังคงมีอยู่ โดยมีสมาชิก 4 คน" เกี่ยวกับการถูกกล่าวหาว่าพยายามยืดเวลาการต่อสัญญาให้ล่าช้าลงของอู๋จุน อู๋จุนกล่าวว่า "สัญญากำลังอยู่ในระหว่างพูดคุยกัน แต่ตัวสัญญาตอนนี้ก็ยังไม่หมดลงเลยด้วยซ้ำ!"

เกี่ยวกับข่าวลือว่า ถ้าขาดอู๋จุนไป Fahrenheit จะกลายเป็นเรือที่ใช้การไม่ได้ แอรอน (Aaron Yan) ตอบอย่างอารมณ์ดีว่า "แม้ว่าพวกเราจะกลายเป็นเรือที่ใช้งานไม่ได้ พวกเราจะไม่มองหาเรือลำใหม่" การแสดงครั้งแรกของ Fahrenheit สามารถขายบัตรได้หมด แต่ในการแสดงรอบที่ 2 บัตรเข้าชมงานสามารถขายได้เพียง 80% เท่านั้น พวกเขากล่าวว่า "ก่อนที่จะขึ้นไปบนเวที พวกเราถูกแจ้งเกี่ยวกับยอดขายบัตรเข้าชมงาน แต่การจะตัดสินใจว่าจะจัดการแสดงกี่รอบมันไม่ใช่สิ่งที่พวกเราตัดสินใจ จริงๆแล้ว พวกเราผิดหวังเล็กน้อย แต่นี่จะทำให้ Fahrenheit ทำงานหนักมากยิ่งขึ้น หวังว่าในงานคอนเสิร์ตครั้งหน้า พวกเราจะมีคนมากกว่านี้ที่จะมาสนับสนุนพวกเรา"

Liberty Times

สองสาว Twins จะกลับมารวมกันอีกครั้ง เมื่อถึงเวลาครบรอบ 10 ปีของ Twins ?!

Submitted by canjamm on 28 ตุลาคม, 2009 - 23:53

เมื่อวันก่อน อาซา (Ah Sa / Charlene Choi) และอาเจียว (Ah Gill / Gillian Chung) สองสาวคู่ดูโอแห่งวง Twins ปรากฏตัวพร้อมกันในงานของ EEG แต่ทั้งสองคนต่างก็แยกกันให้สัมภาษณ์ เมื่อถามอาซาว่า Twins จะกลับมารวมกันในเร็วๆนี้ เพราะเธอปรากฏตัวพร้อมกับอาเจียวบ่อยมากขึ้นกว่าเดิม? มานิ (Mani Fok) ผู้จัดการของเธอตอบแทนพวกเธอว่า งานของพวกเธอนั้นถูกกำหนดไว้แล้วจนถึงกลางปีหน้า ทำให้ยังไม่มีแผนในขณะนี้ อาซากล่าวว่า Twins เปิดตัวเมื่อปี 2011 ดังนั้น ในปี 2011 จะเป็นการฉลองครบรอบ 10 ปีของวง Twins เป็นไปได้ว่า ตอนนั้นจะเป็นเวลาที่พวกเธอกลับมารวมตัวกัน เธอยังรู้สึกว่า มันไม่สามารถจะเร่งรีบอะไรได้ การรอคอยเวลาที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เธอกล่าวว่า "EEG ไม่ได้ต้องการให้พวกเราจบลง!"

สำหรับเรื่องที่บริษัทรับเสริมหน้าอกที่เสนอเงินจำนวน 10 ล้านเหรียญฮ่องกง (ประมาณ 43 ล้านบาท) เพื่อให้อาเจียวมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับพวกเขานั่น อาเจียวกล่าวว่า "โอ้โห! ฉันไม่สามารถรับเร่ืองนี้ได้ การมีหน้าอกที่ใหญ่ไม่ใช่ว่ามันจะดี ฉันพอใจอย่างมากกับร่างกายของฉันในขณะนี้ ดังนั้น ไม่ว่าจะเสนอมากี่สิบล้าน ฉันก็ไม่รับ" นักข่าวถามเธอต่อว่า เธอมีปัญหาด้านการเงินในการผ่อนจำนองหรือเปล่า? เธอกล่าวว่า หนึ่งในทรัพย์สินของเธอถูกประกาศออกขาย แต่สำหรับการผ่อนจ่ายจำนองนั้น แม่ของเธอเป็นคนจัดการ มานิที่อยู่ข้างๆเธอกล่าวว่า อาเจียวไม่ได้มีปัญหาด้านการเงิน นอกจากนี้แล้ว อาชีพของเธอทำให้เธอมีเงินพอสำหรับชำระค่าใช้จ่ายเหล่านั้น หลังจากครึ่งปีที่เธอกลับมา มีหนึ่งถึงสองเดือนที่เธอมีรายได้มากกว่าหนึ่งล้านเหรียญ

"เฉินหลง (Jackie Chan) - หลิวเต๋อหัว (Andy Lau) - เซียะถิงฟง (Nicholas Tse)" ปลุกตำนาน "เสี่ยวลิ้มยี่"

Submitted by canjamm on 26 ตุลาคม, 2009 - 14:07

สุดยอดาราฮ่องกงแห่งยุคอย่าง "เฉินหลง" (Jackie Chan) และ "หลิวเต๋อหัว" (Andy Lau) รวมถึงรุ่นใหม่ไฟแรงอย่าง “เซียะถิงฟง” (Nicholas Tse) เตรียมผนึกกำลังกัน ในการปลุกตำนานวัดเส้าหลินขึ้นมาอีกครั้ง กับการหยิบเอาหนังดังในอดีตอย่าง “เสี่ยวลิ้วยี่” กลับมาสร้างใหม่อีกครั้งด้วยหนังทุนสร้าง 1,000 ล้านบาท

เรื่องราวของวัดเส้าหลิน ศูนย์กลางแห่งวิชาหมัดมวยของจีนอันเก่าแก่กว่า 1,500 ปีจะถูกนำกลับมาสร้างเป็นภาพยนตร์อีกครั้ง โครงการหนังที่ถูกเรียกสั้นๆ ในขณะนี้ว่า Shaolin ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งนี่จะเป็นการร่วมงานกันอีกครั้ง ของสองสุดยอดดาราชื่อดังชาวจีนอย่าง เฉินหลง, หลิวเต๋อหัว ร่วมด้วยพระเอกหนุ่ม เซียะถิงฟง, ดาราบู๊จากแผ่นดินใหญ่ อู๋จิง และนางเอกสาวสวย ฟานปิงปิง (Fan Bing Bing)

วัดเส้าหลิน ถูกใช้เป็นฉากหลังในภาพยนตร์และหนังชุดมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ดาราชายชาวฮ่องกงถ้าไม่โชคร้ายจนเกินไปนัก ก็ล้วนต้องได้รับบทเป็นศิษย์ หรือผู้สืบทอดวิชา จากวัดต้นกำเนิดแห่งหมัดมวยจีนแห่งนี้มาสักครั้งด้วยกันทั้งนั้น แต่ถ้าจะพูดถึงหนังที่เกี่ยวข้องกับวัดเส้าหลินที่โด่งดัง และเป็นที่จดจำที่สุด ก็ต้องเป็นหนังดังปี 1982 The Shaolin Temple (เสี่ยวลิ้มยี่) งานที่เปลี่ยนให้ หลี่เหลียนเจี๋ย (Jet Li) แชมป์วูซู 9 สมัยของจีน กลายมาเป็นนักแสดงแอ็กชั่นผู้โด่งดังที่สุดคนหนึ่งของโลก ณ ปัจจุบัน

เสี่ยวลิ้มยี่ มีจุดขายอยู่ที่การได้รับอนุญาตให้ถ่ายทำในสถานที่จริงของวัดเส้าหลินตลอดทั้งเรื่อง จนกลายเป็นความฮือฮาในขณะนั้น หนัง Shaolin ที่กำลังจะสร้างขึ้นมาใหม่นี้ก็ได้รับอนุญาตอย่างเดียวกัน แต่ในฐานะเป็นหนังฉบับใหม่ของหนังดัง 1982 เรื่องนั้น จะมีรายละเอียดสำคัญหลายๆ อย่างที่ถูกเปลี่ยนแปลงไป Shaolin ที่กำลังจะเริ่มต้นถ่ายทำนี้ จะมีฉากหลังอยู่ในยุคสงครามกลางเมือง หรือเมื่อไม่ถึงร้อยปีที่ผ่านมานี้ แตกต่างกับในฉบับเก่า ที่เล่าเรื่องย้อนยุคไปถึงช่วงก่อนกำเนิดราชวงศ์ถัง

ที่สำคัญที่สุดก็คือ หลี่เหลียนเจี๋ย สัญลักษณ์ของหนังชุดนี้ จะไม่กลับมารับบทในหนังที่เคยสร้างชื่อให้เขาอีกแล้ว แต่หนังจะได้ดารากังฟูที่มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกันอย่าง เฉินหลง มาร่วมแสดงด้วยเป็นการทดแทน

“โจลิน ไช่” (Jolin Tsai) เศรษฐินีย่อมๆ หลังทำรายได้ในวงการรวมแล้วกว่าหนึ่งพันสี่ร้อยล้านบาท

Submitted by canjamm on 22 ตุลาคม, 2009 - 13:29

เรียกได้ว่าเป็นดีวาสาวแห่งวงการเพลงเอเชียไปเสียแล้วสำหรับ"โจลิน ไช่" (Jolin Tsai) หรือ "ไช่อี้หลิน" นักร้องสาวชื่อดังจากไต้หวัน ที่ล่าสุดมีรายงานว่าเธอสามารถทำรายได้ตั้งแต่เข้าสู่วงการ โดยมีทรัพย์สินรวมทั้งหมดกว่าหนึ่งหมื่นสี่พันล้านบาทเลยทีเดียว

โจลิน ไช่ ราชินีเพลงป็อปแห่งไต้หวัน เปิดตัวบนเวทีครั้งแรกในปี 1999 กับผลงานอัลบั้มที่มีชื่อว่า Jolin1019 ซึ่งตอนนั้น ด้วยรูปลักษณ์ที่น่ารักของเธอสามารถขโมยหัวใจของคนใครหลายๆคน ทำให้เธอมีแฟนเพลงมากมาย จนส่งให้เธอเป็นนักร้องสาวอันดับต้นๆของวงการ

แม้ว่าเธอจจะมีปัญหาเกี่ยวกับสัญญากับบริษัทต้นสังกัดของเธอเมื่อปี 2001 ในที่สุด เธอก็กลับมาอีกครั้งในปี 2003 ด้วยอัลบั้มเพลง Magic ที่โด่งดัง

โดยช่วงเวลาที่ผ่านมาเธอออกอัลบั้มมาแล้วถึง 6 ชุด พร้อมกับมีผลงานการแสดง และโฆษณาอีกมากมาย นอกจากนั้นเธอยังเคยออกหนังสือ พร้อมกับเปิดแบรนด์เสื้อผ้าส่วนตัวที่มีชื่อว่า 72 Changes จนติดตลาดมาแล้ว ทำให้ในรอบสิบปีนี้เธอสามารถทำรายได้รวมทั้งหมดกว่า 60 ล้านเหรียญสิงคโปร์เลยทีเดียว (ประมาณ 1,439 ล้านบาท) นอกจากนั้น เธอยังมีทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์เป็นบ้านอีกสามหลัง ซึ่งมีมูลค่าในตลาดทั้งหมดคิดเป็น 9.75 ล้านเหรียญสิงคโปร์ด้วย (ประมาณ 234 ล้านบาท)

งานนี้คนที่เธอต้องขอบคุณ คงหนีไม่พ้นเหล่าบรรดาแฟนคลับที่ตามสนับสนุนเธออย่างเหนียวแน่น โดยเธอเคยเขียนผ่านเว็บบล็อกของเธอเองว่า "ฉันขอขอบคุณเด็กๆแสนน่ารักที่ร่วมกันสนับสนุนเจ้าหญิงตลอดมาทั้งช่วงที่ดีที่สุดและแย่ที่สุด"

"พวกคุณต่างก็พูดเสมอ ว่าเจ้าหญิงคือความภาคภูมิใจและพลังที่เต็มเปี่ยมสำหรับพวกคุณ แน่นอน ทุกๆคนก็คือผู้สนับสนุนและเป็นความภาคภูมิใจของฉันเช่นกัน ไม่มีพวกคุณ ฉันไม่คิดว่าเจ้าหญิงคนนี้จะสามารถผ่านสิ่งต่างๆและรับรู้ความรักของพวกคุณที่มีให้มากขนาดนี้ได้"

ก่อนหน้านี้โจลิน เพิ่งจะเสร็จสิ้นจากการเดินสายโปรโมทอัลบั้มใหม่ของเธออย่าง Flower Butterfly และล่าสุด เธอเตรียมที่จะหยุดพักนานถึงหนึ่งเดือน ก่อนที่จะออกทัวร์ในประเทศต่างๆทั้งเอเชียและยุโรปพร้อมกับพี่สาวของเธอด้วย

Yahoo News / Manager Online

หนังแห่งปี "The Founding of a Republic" ทำรายได้ผ่านหลัก 400 ล้านหยวน

Submitted by canjamm on 21 ตุลาคม, 2009 - 18:51

หนังจีนฟอร์มยักษ์แห่งปี "The Founding of a Republic" ที่สร้างออกมาเพื่อการฉลอง 60 ปีของสาธารณารัฐประชาชนจีน สามารถทำเงินผ่านหลัก 400 ล้านหยวนได้แล้ว และเป้าหมายต่อไปก็คือ การทำลายสถิติหนังทำเงินสูงสุดของจีนอย่าง "Transformers: Revenge of the Fallen" ที่ออกฉายเมื่อต้นปี

จากการเปิดเผยของ China Film Group บริษัททำหนังที่ใหญ่ที่สุดในจีน ตอนนี้นับถึงวันจันทร์ที่ผ่านมา The Founding of a Republic สามารถเก็บเงินไปได้ถึง 410 ล้านหยวน (ประมาณ 2,100 ล้านบาท) แล้ว ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นตัวเลขที่น้อยกว่า เจ้าของสถิติหนังทำเงินสูงสุดในจีน Transformers: Revenge of the Fallen ซึ่งสามารถกวาดเงินหยวนไปได้ถึง 430 ล้านหยวน (ประมาณ 2,200 ล้านบาท)) ที่ออกฉายเมื่อต้นปี และสามารถล้มสถิติ 11 ปีของหนัง Titanic ลงไปได้

โฆษกของ China Film Group ที่ออกมาแถลงครั้งนี้ ยังบอกว่าตามการคาดการของเขา The Founding of a Republic น่าจะสามารถขึ้นสู่ตำแหน่งแทนหนังหุ่นยนต์จากฮอลลีวูดเรื่องนั้น ซึ่งจะเป็นเรื่องน่าภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับคนจีน

The Founding of a Republic ถ่ายทอดเรื่องราวชัยชนะอันยิ่งใหญ่ ของพรรคคอมมิวนิสท์จีน ต่อก๊กมินตั๋ง ในการขึ้นสู่อำนาจการปกครองประเทศ ด้วยเนื้อเรื่องที่ยิ่งใหญ่ สามารถเรียกอารมณ์เรื่องจากผู้คนด้วยทั้งชาติ หนังยังได้รับการสนับสนุนจากดาราชื่อดังรวมถึง เฉินหลง, หลี่เหลียนเจี๋ย, หลิวเต๋อหัว และอีกนับไม่ถ้วนมาร่วมแสดงโดยไม่คิดค่าตัว กลายเป็นเครื่องดึงดูคนดูได้อย่างดี

อย่างไรก็ตามการกวาดเงินเอาชนะหนังจากต่างชาติ ไม่ใช่เป้าหมายหลักของหนังเรื่องนี้ ตัวแทนของบริษัท China Film Group กล่าวว่า "สิ่งที่เราต้องการที่สุดก็คือ กระจายหนังออกไปให้คนจีนได้มีโอกาสดีให้มากที่สุด หนังจะถูกนำไปฉายยังเขตชนบนที่ห่างใกล้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น" The Founding of a Republic กำลังกระจายไปฉายยังห้องสมุด และที่ชุมนุมของชาวบ้านในเขตที่ไม่มีโรงหนัง ขณะที่ในเมืองหนังก็ยังจะยืนโรงต่อไป "ถ้าคนยังมาดูหนังอยู่ มันก็จะฉายต่อไปเรื่อยๆ" ตัวแทนของผู้จัดจำหน่ายครั้งนี้บอก

งานคอนเสิร์ตของ S.H.E. ในฮ่องกง

Submitted by canjamm on 19 ตุลาคม, 2009 - 18:54

เพียงแค่ชั่วพริบตา 8 ปีก็ผ่านไป สาววง S.H.E. ก็ไม่สามารถต้านกฏธรรมชาติได้ ในระหว่างคืนก่อนที่พวกเธอจะขึ้นแสดงคอนเสิร์ตในฮ่องกง พวกเธอแต่งตัวแสดงให้เห็นถึงความเซ็กซี่ของพวกเธอ แม้ว่าจะตื่นเต้นกับเพลงและการเต้นของพวกเธอ แต่เบื้องหลังการแสดงของพวกเธอ แต่ละคนต่างก็มีช่วงเวลาที่ควบคุมตัวเองไม่ได้, ร้องไห้ และเครียด

S.H.E Is The One World Tour ทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่ 3 ของสาวๆวง S.H.E. เริ่มด้วยการแสดงในฮ่องกงเมื่อคืนวันก่อน เนื่องจากความกดดันในระหว่างการเตรียมตัว ฮีบี้ (Hebe) ร้องไห้ในไทเป, เอลล่า (Ella) ร้องไห้ในฮ่องกง ในขณะที่เซลิน่า (Selina) ซึ่งได้รับบาดเจ็บที่น่อง และยังมีการกระแทกที่กระดูกสันหลังส่วนก้นกบ (Coccygeal Vertebrae) เธอนอนร้องไห้อยู่บนเวทีด้วยความเจ็บปวดในระหว่างการฝึกซ้อม แต่หลังจากน้ำตาของพวกเธอแห้งลง พวกเธอทั้งสามคนก็มาสร้างความตะลึงให้แก่แฟนๆของเธอในระหว่างการแสดงจริง

สำหรับคอนเสิร์ตของพวกเธอ เครื่องแต่งกายของ S.H.E. สั่งทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่อแสดงให้เห็นความเป็นหญิงของพวกเธอ ฮีบี้กล่าวว่า "การที่เป็นเด็กในหมู่บ้าน แม่ของฉันไม่เคยยอมให้ฉันใส่กระโปรงที่สั่นขนาดนี้ แต่ฉันทำมันเต็มที่ในคราวนี้" ทั่งสามคนแสดงให้เห็นการแสดงที่ยอดเยี่ยม แฟนๆชาวไต้หวันจะมีโอกาสได้ชมงานคอนเสิร์ตนี้ในปีหน้า

2009.10.17.Ella cry

"เคน F4" (Ken Chu) กับข้อกล่าวหาขี้เมาจนเสียงานเสียแฟน

Submitted by canjamm on 19 ตุลาคม, 2009 - 17:36

มีข่าวของ “เคน F4” (Ken Chu) แพร่สะพัดออกมาว่าเขาการมีอาการเมาสุรา ขณะทำงานถ่ายละคร เป็นเหตุให้สมาชิกวง “F4” ผู้นี้ต้องถูกแฟนสาวบอกขอเลิก จนล่าสุดเพื่อนนักแสดง และตัวของเขาเอง ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่าไม่เป็นความจริงเด็ดขาด

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาชีวิตของนักร้องขวัญใจวัยรุ่น แห่งไต้หวันอย่าง เคน หรือจูเสี่ยวเทียน จากวง F4 จะพบแต่ข่าวลือด้านลบอยู่เป็นระยะ ล่าสุดมีการรายงานข่าวจากไต้หวันว่า หนุ่มนักร้องชื่อดังคนนี้ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการดื่มได้ และมักจะไปเที่ยวไนต์คลับจนมืดค่ำ แม้กระทั่งมีอาการเมาค้างขณะทำงานอยู่ในถ่ายละครเรื่อง Momo Love

ข่าวลือที่ว่านี้ยังบอกอีกว่า หลินซีเหลย แฟนสาวของเคนไม่พอใจกับเรื่องดังกล่าวมาก จนทั้งคู่เกิดการถกเถียงอย่างรุนแรง และต้องการจะยุติความสัมพันธ์ของทั้งคู่ จนล่าสุดเพื่อนนักแสดงในละครเรื่อง Momo Love ออกมาในปกป้อง และแก้ตัวแทนเพื่อนแล้ว

ติงชุนเฉิง นักแสดงหนุ่มจากละคร Momo Love บอกกับนักข่าวว่า เคน ได้โทรศัพท์มาหาเขา และหัวเสียกับข้อกล่าวหาที่ไร้หลักฐานโดยสิ้นเชิงพวกนี้มาก "เคนกำลังอยู่ในช่วงพื้นฟูสุขภาพ และตอนนี้เขาไม่สามารถดื่มเหล้าได้เลย แล้วมันจะเป็นไปได้ยังไง ที่เขาจะทำงานด้วยสภาพที่เมาจนคุมสติไม่อยู่ กับเรื่องนี้ เคน บริสุทธิ์อย่างแน่นอน"

เพื่อนนักแสดงคนนี้ยังบอกเล่าถึงความรู้สึกของเขาต่อ หนุ่มสมาชิกวง F4 คนนี้ว่า ว่าในตอนแรกตัวของเขาเองก็ไม่ได้ชอบพ่อหนุ่มคนนี้นัก จนกระทั่งทำงานร่วมกันจึงได้รู้ว่า เคน ไม่ใช่เป็นเพียงหนุ่มนักร้องขวัญใจวัยรุ่น เขามีความรับผิดชอบ และทุ่มเทให้กับการแสดงอยู่เสมอ

จนกระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ เจ้าตัวได้ออกมาชี้แจงว่าตอนนี้เขาไม่ได้ดื่มเหล้าแล้ว แม้คนรอบๆ ตัวจะคะยั้นคะยอ เขาก็ไม่ใจอ่อน นอกจาก เคน ยังหัวเราะกับคำถามของนักข่าวถึงที่ว่าข่าวลือเรื่องนี้จะมีผลต่อความสัมพันธ์ของเขา กับแฟนสาวรึเปล่า

ที่ผ่านมานักร้องชื่อดังวัย 30 ปีไม่เคยปิดปังถึงนิสัยชอบดื่มของตัวเอง และบอกเสมอว่าเขาชอบดื่มวิสกี้ ขณะกินอาหาร แต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เคน ออกมายอมรับอย่างหมดเปลือกว่า การดื่มของเขาได้กลายเป็นปัญหาจริงๆ

ไอ้หนุ่มสลาตันแห่งไต้หวัน “หลินจื่ออิง” (Jimmy Lin) เป็นพ่อคนแล้ว

Submitted by canjamm on 16 ตุลาคม, 2009 - 12:10

หลังจากหลีกเลี่ยงไม่ตอบอะไรเกี่ยวกับข่าวลือเรื่องการมีลูกอยู่นาน ในที่สุดพระเอกหน้าเด็กวัย 35 “หลินจื่ออิง” (Jimmy Lin) ก็ออกมายอมรับในตอนนี้ว่าเขาได้เป็นพ่อคนแล้ว พร้อมกันนั้นยังเอารูป ของพ่อหนูน้อยทายาทคนแรกมาให้แฟนๆ และสื่อมวลชนได้ชมกันด้วย

ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวลือเรื่องลูกชายคนแรกของ หลินจื่ออิง ถูกพูดถึงตามหน้าหนังสือพิมพ์ของไต้หวัน และจีนแผ่นดินใหญ่อย่างต่อเนื่อง โดยรายละเอียดของข่าวมีอยู่ว่าแฟนสาวของพ่อหนุ่ม หลินจื่ออิง ที่ชื่อ เคลลี่ เฉิน (Kelly Chen - คนละคนกับ เคลลี่ เฉินฮุ่ยหลิน นักร้องชาวฮ่องกง) ได้คลอดลูกชายคนแรกให้กับเขา ที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อประมาณ 1 เดือนที่แล้ว

โดยตลอดเวลาที่ผ่านมา หลินจื่ออิง ไม่เคยตอบอะไรถึงเรื่องนี้เลย จนกระทั่งในวันนี้เอง ที่เขาออกมายอมรับถึงเรื่องดังกล่าวเป็นครั้งแรก

เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ซึ่งเป็นวันเกิดครอบรอบอายุ 35 ปีของเขา หลินจื่ออิง ได้ใช้โอกาสดังกล่าว ออกมาประกาศถึงเรื่องน่ายินดีนี้เป็นครั้งแรกว่า เขาได้คบหาดูใจกับสาว เคลลี่ มานานถึง 5 ปีแล้ว และได้หมั้นหมายกันไปเมื่อปีก่อน และที่สำคัญที่สุดก็คือการประกาศข่าวเรื่องลูกของเขา กับแฟนสาว ที่เพิ่งคลอดออกมาเมื่อหนึ่งเดือนก่อน

ในงานฉลองวันเกิดครั้งนี้ หลินจื่ออิง ได้เปิดใจว่าเขาอยู่ในวงการบันเทิงมาถึง 17 ปีแล้ว เป็น 17 ปีที่ถูกจับตามองทุกฝีก้าวไม่ว่าจะทำอะไร พระเอกหนุ่มวัย 35 ยังพูดถึงครอบครัวของเขาด้วยน้ำตาซึม ว่าบ้านของเขามีพ่อผู้ทำงานหนัก เพื่อเลี้ยงลูกชายสามคนเพียงลำพัง ซึ่งนี่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เขา อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์และมีความสุข แต่มันไม่ง่ายเลยเมื่อตัวเองเป็นบุคคลสาธารณะเช่นนี้

หลินจื่ออิง ยังอธิบายถึงเหตุผลที่ ก่อนหน้านี้เขาหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงข่าวลือเรื่องการมีลูกมาตลอดว่า “มันเป็นเรื่องใหญ่มากๆ ผมไม่อาจจะบอกด้วยคำพูดง่ายๆ เพียงไม่กี่คำกับนักข่าว แต่อยากจะประกาศข่าวดีครั้งนี้อย่างเป็นทางการให้ทุกคนได้ทราบพร้อมๆ กัน”

เจินจื่อตัน (Donnie Yen), อู๋จุน (Wu Zun), เจ้าเหว่ย (Zhao Wei) และฉีจื่อซาน (Kate Tsui) ในหนังกำลังภายในเรื่องใหม่ 14 Blades

Submitted by canjamm on 16 ตุลาคม, 2009 - 11:29

ผลงานชิ้นใหม่ของพระเอกบู๊สุดร้อนแร่งของฮ่องกง พ.ศ. นี้ "เจินจื่อตัน" (Donnie Yen) จะเป็นหนังกำลังภายใน ซึ่งเขาได้รับบทเป็นสุดยอดสายลับของราชสำนัก ในยุคสมัยราชวงศ์หมิง ที่ว่ากันว่านี่จะเป็นหนัง เจสัน บอนด์ เวอร์ชั่นจีนย้อนยุค เลยทีเดียว

หนังกำลังภายในที่ชื่อว่า 14 Blades จะเล่าเรื่องกลุ่มราชองค์รักษ์ของฮ่องเต้ ที่มีหน้าที่ในการปฏิบัติภารกิจลับต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การล้วงความลับ ลอบสังหาร ค้นหา และทำลายผู้มีแนวโน้มเป็นภัยต่อฮ่อง เหล่าองค์รักล้วนเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเก็บมาจากข้างถนน ได้ฝึกฝนวิชาชั้นยอด แต่ละคนจะได้รับมอบมีดทั้ง 14 เล่มให้ครอบครอง มีด 8 เล่มมีไว้เพื่อทรมานเหยื่อ อีก 5 สำหรับเพื่อการสังหาร และมีดเล่มสุดท้ายเก็บสำหรับปลิดชีพตัวเองยามเสียทีแก่คู่ต่อสู้

เนื้อหาว่าด้วยหน่วยสายลับของราชสำนักเช่นนี้ ทำให้ 14 Blades ถูกมองว่าอาจจะเป็น เจมส์ บอนด์ ของจีน แต่ทางผู้สร้างบอกได้บอกใบ้ว่าหนังจะมีส่วนผสมของหนังสายลับร่วมสมัยที่มีความซับซ้อนแบบ The Bourne Identity ด้วยต่างหาก

14 Blades ได้สุดยอดดาราบู๊อย่างเจินจื่อตัน มารับบทนำเป็นตัวละครยอดองค์รักษ์ที่ชื่อว่า “มังกรเขียว” ขณะที่สาวเจ้าเหว่ย (Zhao Wei) จะมารับบทนำหญิงของเรื่อง และยังมีหนุ่มหล่อขวัญใจสาวๆ อย่าง อู๋จุ่น (Wu Zun) และอดีตมิสฮ่องกง ฉีจื่อซาน (Kate Tsui) ร่วมแสดงอยู่ด้วย

อันที่จริงแล้ว14 Blades เป็นการดัดแปลงมาจากหนังเก่าคลาสสิคเมื่อ 25 ปีที่แล้วของบริษัทชอว์บราเดอร์ที่ชื่อ Secret Service of the Imperial Court (ยอดองค์รักษ์เสื้อแพร) แน่นอนว่าการหยิบกลับมาสร้างครั้งนี้ จะมีหลายๆ ที่แตกต่างออกไป ไม่เฉพาะกับหนังต้นฉบับ แต่รวมถึงหนังกำลังภายในก่อนหน้านี้ทั้งหมด

ผู้กำกับ เดเนียล ลี เจ้าของผลงาน สามก๊ก:ขุนศึกเลือดมังกร ที่คงรับผิดชอบการออกแบบงานสร้างทั้งหมดเหมือนเดิม ซึ่งในงานนี้เขาบอกว่าต้องใช้เวลาพอสมควร ในการทำวิจัยเพื่อออกแบบเครื่องแต่งกาย ของกลุ่มสายลับแห่งราชสำนักกลุ่มนี้ออกมาให้สมจริงสมจังที่สุด

ผู้กำกับชาวฮ่องกงบอกกับนักข่าวว่า ความพยายามอันดับแรกในการทำหนังเรื่องนี้ของเขาก็คือ การสร้างความรู้สึกร่วมสมัยให้กับหนัง “มันจะไม่เหมือนกับหนังกำลังภายในเก่าๆ ที่ทุกคนเคยดูมา ทั้งบท, ภาพ และฉากต่อสู้”

อาซา (Ah Sa) ร่วมสนับสนุนงานการกุศล ด้วยอัลบั้ม Another Me อัลบั้มใหม่ของเธอ

Submitted by canjamm on 15 ตุลาคม, 2009 - 17:52

อาซา (Ah Sa / Charlene Choi) ออกอัลบั้ม EP ที่สองของเธอที่มีชื่อว่า Another Me ในวันนี้ (15 ตุลาคม) เพื่อให้เข้ากับชื่อของอัลบั้ม อาซาจะหยุดนิสัยที่ร่าเริงของเธอไป ในอัลบั้มใหม่นี้ เธอจะแต่งตัวในแนวร็อคๆ

สำหรับอัลบั้มใหม่นี้ คราวนี้เธอลองอะไรใหม่ๆอีกครั้ง อาซากล่าวอย่างมีความสุขว่า "คราวนี้ สไตล์ในการถ่ายภาพค่อนข้างจะใหม่สำหรับฉัน และแน่นอนว่าไม่เหมือนที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ แม้ว่าช่างภาพจะชอบมันอย่างมาก บางที ฉันจะแสดงให้ทุกคนได้เห็นสไตล์ใหม่ๆ!" เริ่มตั้งแต่วันนี้ อาซาจัดงานแสดงภาพขึ้นเป็นเวลา 2 สัปดาห์ นอกจากจะให้แฟนๆได้เขียนความรู้สึกของพวกเขาในสมุดสำหรับแขกแล้ว พวกเขาจะได้อัลบั้มใหม่สำหรับสะสมเป็นพิเศษ โดยรายได้จากการดำเนินงานครั้งนี้จะบริจาคให้แก่มูลนิธิสำหรับเด็กที่ถูกล่วงเกินทางเพศ (Child Sexual Abuse Foundation)

Oriental Daily

เอเรียล หลิน (Ariel Lin) ตกอยู่ในคำสาปของรางวัล Golden Bell Award?

Submitted by canjamm on 15 ตุลาคม, 2009 - 17:31

หลังจากเสร็จสิ้นการโปรโมทอัลบั้มของเธอ เอเรียล หลิน (Ariel Lin) และแม่ของเธอเดินทางไปเชียงใหม่ในประเทศไทยเพื่อพักผ่อน ในระหว่างการท่องเที่ยว 5 วัน นอกจากการขี่ช้างและใช้สปาแล้ว เธอยังไปโรงเรียนสอนทำอาหารเพื่อฝึกทำอาหารไทย หลังจากกลับมาไต้หวันแล้ว เธอรู้สึกว่ามันยังไม่พอ เธอกล่าวว่า "การดำเนินชีวิตในเชียงใหม่ดำเนินไปอย่างช้าๆ ฉันต้องการจะไปที่มัลดีฟส์เป็นที่ต่อไป นอนตากแดดภายใต้แสงอาทิตย์"

เอเรียลได้รับรางวัล Golden Bell Award สำหรับการเป็นนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมเมื่อปีที่แล้ว หลังจากชนะ เธอก็พบกับอะไรที่แปลกๆไปหลายอย่าง เช่นการหยุดการถ่ายทำละครเรื่องใหม่ Skip Beat ที่เธอจะแสดงคู่กับเจอรี่ เหยียน (Jerry Yan) และการที่อัลบั้ม Blissful Encounter ที่มีการเขียนตัวอักษรผิด (幸) บนปกอัลบั้ม หลายๆคนสงสัยว่า นี่จะเป็นเพราะคำสาปของรางวัล Golden Bell หรือเปล่า แต่เอเรียลเปิดใจมองมันโดยกล่าวว่า "ทุกๆอย่างนั่นมีทั้งโชคดีและโชคร้าย แม้ว่ามันจะเป็นคำสาป ก็ถือซะว่ามันเป็นการทดสอบสำหรับปีที่ผ่านมา"

เอเรียลซึ่งกำลังยุ่งอยู่กับการฝึกซ้อมการแสดงละครเวที Man and Woman, War and Peace ยอมรับว่า เธอรู้สึกไม่สบายใจ สาเหตุหลักเนื่องจากมีภัยธรรมชาติมากเกินไปในปีนี้ บางคนแนะนำเธอว่า "ให้มีความสุขกับเสียงปรบมือในช่วงที่อยู่จุดสูงสุดของชีวิต และมีความสุขในช่วงเวลาที่ลดลงมา" เอเรียลหัวเราะและตอบว่า "ถ้าฉันต้องการจะได้ยินเสียงปรบมือ ฉันเพียงแค่ตบมือตัวเองก็ได้แล้ว!"

20091005 Ariel Lin: Man and Woman War and Peace Teaser (English-subbed)


China Times

ลือ นักร้องสาว "โคโค่ ลี" (Coco Lee) เตรียมตัวโอนสัญชาติเป็นสิงคโปร์

Submitted by canjamm on 15 ตุลาคม, 2009 - 10:41

มีรายงานข่าวว่า นักร้องสาวอินเตอร์ "โคโค่ ลี" (Coco Lee) กำลังจะกลายเป็นคนดังชาวจีนแผ่นดินใหญ่อีกคน ที่โอนสัญชาติไปเป็นสิงคโปร์

ในเวลาช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นักร้องชาวฮ่องกงผู้โด่งดังในระดับนานาชาติจากการร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ Crouching Tiger, Hidden Dragon เมื่อ 10 ปีก่อน ได้ใช้เวลาอยู่ที่เมืองลอดช่อง เพื่อประชาสัมพันธ์อัลบั้ม "East to West" งานภาษาแมนดารินชุดใหม่ของเธอที่ยังเป็นงานชุดแรกในรอบ 3 ปีของเธอ ในโอกาสเดียวกันร่วมแสดงในคอนเสิร์ตการกุศลของนาย เอส อาร์ นาธาน ประธานาธิบดีสาธารณรัฐสิงคโปร์

ในการพบกับ ท่านประธานาธิบดีแห่งสิงคโปร์ โคโค่ ลี บอกกับท่านประธานาธิบดีว่าเธอมีความตั้งใจจะมาตั้งรกรากมาอยู่ที่ประเทศนี้ ซึ่ง เอส อาร์ นาธาน ก็ตอบรับด้วยความยินดีถ้าเธอจะกลับมาที่นี่อีกครั้งในฐานะคนสิงคโปร์

"ฉันชอบอากาศที่นี่ ชอบอาหาร ถนนหนทางดูสะอาดสะอ้าน เมืองทั้งเมืองปกคลุมไปด้วยสีเขียว ทุกอย่างยอดมากๆ ฉันได้บอกกับน้องสาวไปเมื่อสองวันก่อนว่า อยากมาอยู่ที่นี่จริงๆ" นักร้องสาวชื่อดังกล่าว

อย่างที่ว่าไปเหตุผลสำคัญสำหรับสาว โคโค่ ลี ในการย้ายมาตั้งถิ่นฐานที่นี่ ก็คือเรื่องอากาศกับอาหาร สาวซึ่งเกิดที่ฮ่องกงและเติบโตที่อเมริกาคนนี้เบื่อหน่าย และไม่ถูกโรคกับอากาศหนาวมานานแล้ว ส่วนของกินท้องถิ่นของที่นี่อย่างข้าวมันไก่สิงคโปร์ และทุเรียน ซึ่งเป็นของโปรดของเธอ

โคโค่ ลี วัย 34 ปี หมั้นหมายอยู่กับนักธุรกิจชาวแคนนาดา บรูซ ร็อคโควิท์ซ (Bruce Rockowitz) มาตั้งแต่ปี 2005 แล้ว และเคยเปรยออกมาว่า ถ้าจะมีครอบครัวเธออาจจะเลือกสิงคโปร์เป็นบ้าน แม้แฟนหนุ่ม และอนาคตสามีจะไม่ได้ทราบแผนการของเธอในขณะนี้ โคโค่ ลี ก็เชื่อว่าเขาจะเห็นด้วย เพราะทั้งคู่ชอบ และมาเยือนเมืองแห่งนี้ด้วยกันบ่อยครั้งอยู่แล้ว

โคโค่ ลี รู้สึกว่า เธอเหมาะกับอากาศในสิงคโปร์มากกว่า เนื่องจากเธอเป็นคนขี้หนาว นอกจากนี้แล้ว เธอยังกล่าวเกี่ยวกับอาหารพื้นเมืองว่า เธอชอบข้าวมันไก่และทุเรียน

ลือกันว่าถ้ากลับถึงบ้าน เธอก็จะเริ่มเก็บข้าวของ และเริ่มดูรายละเอียดของเรื่องการโอนสัญชาติทันที

พีเพิลเลือก"มิเชล โหย่ว" (Michelle Yeoh) เป็นหนึ่งในนักแสดงหนังที่สวยที่สุดตลอดกาล

Submitted by canjamm on 14 ตุลาคม, 2009 - 14:05

ยังคงเป็นสาวเอเชียที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกทีเดียวสำหรับ "มิเชล โหย่ว" (Michelle Yeoh) นักแสดงสาวชาวมาเลเซีย ที่ล่าสุดการจัดอันดับจากพีเพิล แม็กกาซีน ได้จัดให้เธอเป็นหนึ่งใน 35 นักแสดงภาพยนตร์ที่สวยที่สุดตลอดกาล

ซึ่งการจัดอันดับครั้งนี้มีการแบ่งตามยุค โดยมิเชล โหย่ว เป็นตัวแทนของสาวยุค 90 ซึ่งครั้งหนึ่งเธอเคยขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่สวยที่สุดในปี 1997 จากการจัดอันดับโดยพีเพิล แม็กกาซีน มาแล้วเช่นกัน โดยครั้งนี้ทางนิตยสารได้ให้คำนิยามสำหรับมิเชลว่า เธอเป็นผู้หญิงที่ทั้ง "สง่า งดงาม เข้มแข็ง ดูมีพลัง" เนื่องมาจากบทบาทสาวบอนด์ที่เธอได้รับในตอน Tomorrow Never Dies นอกจากนั้นเธอยังเป็นราชินีนักบู๊ในภาพยนตร์ Crouching Tiger, Hidden Dragon ของอั้งลี่ด้วย

ในส่วนของนักแสดงหญิงชื่อดังคนอื่นๆที่มีรายชื่อติดในยุค 90 มีทั้ง จูเลีย โรเบิร์ต (Julia Roberts), นิโคล คิดแมน (Nicole Kidman), คาเมรอน ดิแอซ (Cameron Diaz) และ กวินเน็ธ พัลโทรว์ (Gwyneth Patrol)

ส่วนถ้าย้อนกลับไปในยุค 50 ทางนิตยสารยกให้นักแสดงชื่อดังในอดีตทั้ง มาริลีน มอนโรว์, อลิซาเบ็ธ เทย์เลอร์ และ เกรซ เคลลี ในยุค 60 คือ ออเดรย์ เฮปเบิร์น และ เจน ฟอนดา ยุค 70 ตกเป็นของ ฟาร์ราห์ ฟอว์เซ็ตต์, เฟย์ ดันอเวย์ ขณะที่ยุค 80 คือ มิเชล ไฟเฟอร์, บรู๊ค ชีลด์ และ คิม บาซิงเจอร์

ก่อนจะปิดท้ายในศตวรรษที่ 20 ด้วย ฮัลลี เบอร์รี, เจนนิเฟอร์ โลเปซ (Jennifer Lopez), เพเนโลเป ครูซ (Penelope Cruz), ชาลีซ เทอรอน (Charlize Theron), นาตาลี พอร์ทแมน (Natalie Portman) และ แองเจลินา โจลี (Angelina Jolie)

ซึ่งการติดอันดับครั้งนี้ของมิเชล โหย่ว ยังนับเป็นนักแสดงชาวจีนคนเดียวที่ติดอยู่ในทำเนียบนักแสดงที่สวยที่สุดตลอดกาลนี้ด้วย

Manager Online

สุดสวย "หลินจื่อหลิง" (Lin Chi Ling) โชว์โฉมในชุดแบบตะวันออกกลาง โปรโมตนาฬิกายี่ห้อดัง

Submitted by canjamm on 14 ตุลาคม, 2009 - 13:57

สาวสวยอันดับหนึ่งแห่งไต้หวัน "หลินจื่อหลิง" (Lin Chi Ling) อวดโฉมในชุดแบบตะวันออกกลางในงานโปรโมตนาฬิกา ลองจินส์ (LONGINES) ที่เธอเป็นพรีเซนเตอร์อยู่

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา ในงานโปรโมตสินค้ารุ่นใหม่ของลองจินส์ในกรุงไทเป ประเทศไต้หวัน หลินจื่อหลิง กลับมาทำหน้าที่แบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของนาฬิกายี่ห้อดังอีกครั้งที่เธอเซ็นต์สัญญามาตั้งแต่ปี 2005 แล้ว

ในงานดังกล่าวนางแบบผู้ได้รับการยกย่อง ว่าเป็นสาวงามอันดับหนึ่งแห่งใต้หวัน มีโอกาสแต่งตัวด้วยชุดที่มีสีสันแบบตะวันออกลาง สีแดงสดใส ควงคู่มากับนายแบบรูปหล่อ ในโอกาสเดียวกันผู้ชมยังได้ชมการแสดงการเต้นรำแบบอาหรับที่น่าตื่นเต้นของเธอด้วย

นางแบบสาววัย 34 พูดถึงการเต้นรำประเภทนี้บนเวที ซึ่งเป็นครั้งแรกของเธอว่า “ที่ผ่านมาฉันอยากเรียนการเต้นรำแบบอาหรับมาตลอด น่าเสียดายที่ไม่ได้มีเวลาพอ จนกระทั่งวันนี้เอง มันยังช่วยเรื่องการแสดงของฉันได้ด้วย”

หลังจากในช่วงที่ผ่านมาสาวสวยคนนี้ดูจะหายหน้าหายตาไปจากงานประเภทนี้ เพราะมีหนังต้องถ่ายทำติดต่อกันถึงสามเรื่อง ตอนนี้เธอก็กลับมาทำหน้าที่เจ้าแม่โฆษณา และโปรโมตสินค้าอีกครั้งแล้ว

นอกจากงานประชาสัมพันธ์นาฬิกาเจ้าดังกล่าว หลังจากนี้นี้ หลินจื่อหลิง ยังมีโปรแกรมต้องต้องเดินสายไปกว่าอีกหลายประเทศ เพื่อประชาสัมพันธ์งานหนังเรื่องล่าสุด The Treasure Hunter ที่เธอร่วมแสดงกับพ่อหนุ่มนักร้องชื่อดัง เจย์ โชว์ (Jay Chou) ด้วย

Manager Online

จางรี่อิน (Jang Ri In) ศิลปินจีนจากค่าย SM กลับมาอีกครั้งด้วยซิงเกิ้ลใหม่ของเธอ

Submitted by canjamm on 13 ตุลาคม, 2009 - 16:39

หลังจากหายหน้าหายตาไปเป็นปีตั้งแต่อัลบั้ม I Will อัลบั้มแรกของเธอ จางรี่อิน (Jang Ri In / Zhang Li Yin) นักร้อง R&B ชาวจีนจากค่าย SM Entertainment จะออกซิงเกิ้ลที่สองของเธอในปลายเดือนตุลาคมนี้

ก่อนจะเริ่มการโปรโมท ทีเซอร์เพลงจีนเพลงใหม่ของจางรี่อินจะออกมาทางเว็บไซค์อย่างเป็นทางการของ SM, Sohu และสื่อจีนต่างๆในวันที่ 15 นี้

จางรี่อินกล่าวว่า "ฉันมีความสุขที่จะได้พบทุกคนอีกครั้ง ด้วยเพลงใหม่ของฉัน ฉันเตรียมพร้อมมาอย่างมาก เพราะฉันต้องการแสดงให้ทุกๆคนได้เห็นฉันที่พัฒนาขึ้นไปอีก กรุณารอคอยการกลับมาของฉัน และช่วยสนับสนุนอัลบั้มใหม่ของฉันด้วย"

AllKPop

"หลี่เจียซิน" (Michelle Reis) เตรียมใช้การผสมเทียมเพื่อมีลูกหวังมัดใจสามีมหาเศรษฐี

Submitted by canjamm on 13 ตุลาคม, 2009 - 12:56

นางเอกสาวสวย "หลี่เจียซิน" (Michelle Reis) เตรียมใช้วิธีทางการแพทย์อย่างการผสมเทียม แก้ไขปัญหาการมีบุตรยาก หวังรักษาชีวิตสมรสที่เริ่มอยู่ในภาวะไม่มั่นคง หลังไม่สามารถให้กำเนิดทายาทกับตระกูลของฝ่ายสามีมหาเศรษฐีได้เสียที

ดูเหมือนว่าความสวยอย่างเดียวจะไม่สามารถเป็นเครื่องมัดใจสามีได้อีกแล้ว จากรายงานของสื่อในฮ่องกง หลี่เจียซิน นางเอกคนสวยชาวฮ่องกงต้องออกมาให้สัญญากับแม่สามีของเธอว่า หลังเสร็จสิ้นจากงานต่างๆ ที่ยังค้างอยู่ในตอนนี้ เธอจะทุ่มเทเวลาให้กับการมีลูก โดยถึงขั้นกำหนดเวลาไว้ว่าไม่เกินปี 2010 ตระกูลฮุยของสามี จะได้อุ้มหลานคนแรกแน่นอน

เมื่อปีที่แล้ว จูเลี่ยน ฮุย (Julian Hui) เศรษฐีหนุ่มวัย 46 ที่เคยหมั้นหมายกับดาราสาวหลิวเจียหลิง (Carina Lau) รวมถึงพานซี่ โห (Pansy Ho) ลูกสาวของเจ้าพ่อบ่อนการพนัน สแตนลี่ โห (Stanley Ho) เป็นหนุ่มเนื้อหอมคนหนึ่งในฮ่องกง ได้ตกลงปลงใจที่จะร่วมชีวิตกับ หลี่เจียซิน อดีตมิสฮ่องกง และมิสไชนิสอินเตอร์เนชั่นเนล ในปี 1988 นางเอกที่ได้รับการยอมรับว่าสวยที่สุดคนหนึ่งของฮ่องกง ท่ามกลางการจับตามองของหลายๆ คน

ทั้งสองได้เข้าพิธีแต่งงานกันไป เมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว หลังจากคบหาดูใจกันมาประมาณ 2 ปี ซึ่งกลายเป็นที่พูดถึงไปทั่วทั้งฮ่องกง โดยเฉพาะการใช้ค่าใช้จ่ายในงานแต่งครั้งนั้นไปถึง 100 ล้านเหรียญฮ่องกง

ตลอดการอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยาในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา ดาราสาวยังคงรับงานโฆษณา และโปรโมตสินค้าต่างๆ เช่นเดิม โดยยังไม่มีวี่แววที่ จะมีทายาทให้กับสามีแต่อย่างใด จนข่าวลื่อที่ว่านางเอกสาววัย 39 ปี มีปัญหามีลูกยากเริ่มถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ

หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวว่า หลี่เจียซิน อาจจะใช้การอุ้มบุญเพื่อมีบุตร เพราะไม่อยากจะตั้งท้องเอง และกลัวว่าถ้าตั้งครรภ์จะทำให้เธอมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามต่อมาเธอได้ออกมาปฏิเสธถึงเรื่องดังกล่าวว่า ถ้าจะมีลูกเธอก็จะเป็นผู้อุ้มท้องเอง

โจ เฉิง (Joe Cheng) แวะเยี่ยมบ้านแฟนๆของเขา

Submitted by canjamm on 10 ตุลาคม, 2009 - 23:58

เจิ้งหยวนจาง (Zheng Yuan Chang) หรือเสี่ยวจง (Xiao Zong) เป็นแขกรับเชิญในรายการ Love Love Love ทาง Channel [V] เมื่อวันก่อน เขาทำการเลือกแฟนหญิง 3 คน และเขาจะทำการแวะไปเยี่ยมบ้านของพวกเธอ พิธีกร Chen Chein Chou กล่าวชมเสี่ยวจงว่าเขามีแฟนที่สวย และเขาอิจฉาเสี่ยวจงอย่างมาก

หนึ่งในแฟนสาวสวมชุดสตรอเบอรี่สร้างความประหลาดใจให้แก่เสี่ยวจง แฟนสาวกล่าวว่า "ฉันรู้ว่าคุณชอบสตรอเบอรี่ นั่นคือสาเหตุที่ฉันแต่งตัวอย่างนี้" หลังจากเสี่ยวจงเดินเข้าไปในบ้านของเธอ เขามักจะเล่นกับแมวสีขาวของเธอ และดูรูปต่างๆบนคอมพิวเตอร์ของเธอ รวมถึงภาพชุดว่ายน้ำด้วย เหม่ยเหมย (Mei Mei) พิธีกรร่วมในรายการ เพิ่งมารู้ว่า แฟนหญิงคนนี้คือ Honey ซึ่งเคยเป็น Mei Mei ใน The Blackie Show เหม่ยเหมยกล่าวชื่นชมเธอว่าดูดี เธอชื่นชอบเสี่ยวจงมาตั้งแต่ชั้นประถมจนถึงตอนนี้

on.cc

สยบข่าวเลิก "จางซิยี่" (Zhang Zi Yi) ควงแฟนหนุ่มยิวกระหนุงกระหนิงในงานแฟชั่น

Submitted by canjamm on 8 ตุลาคม, 2009 - 19:34

ความสัมพันธ์ระหว่างดาราสาวชื่อดังชาวจีนแผ่นดินใหญ่ จางซิยี่ (Zhang Zi Yi) และแฟนหนุ่มมหาเศรษฐีชาวอิสราเอลดูจะไม่มีปัญหา หรือจบลงอย่างที่หลายคนลือ (และแช่ง) เสียแล้ว เมื่อมีรูปถ่ายล่าสุดของทั้งสองว่ายังคงรักกันดีอยู่

รูปที่ว่าถ่ายมาจากงานแฟชั่นที่มิลาน อิตาลี เมื่อวันที่ 26 ก.ย. ที่ผ่านมา ที่แสดงให้เห็นว่าความหวานชื่นของทั้งสองยังคงมีอยู่เต็มเปี่ยม

ซึ่งนี่นับเป็นการปรากฏตัวร่วมกันต่อสาธารณะชนครั้งแรก ในรอบสี่เดือนของทั้งคู่ นับจากครั้งก่อนที่ จางซิยี่เคยควงแฟนหนุ่มคนนี้ออกงานในเทศกาลหนังระดับโลกงานหนึ่ง

ในช่วงเวลาที่ผ่านมาความรักระหว่าง ดาราสาวผู้โด่งดัง กับแฟนนักธุรกิจหนุ่ม วีวี่ โนโว ถูกสื่อมวลชนจีนตั้งคำถามถึงมาโดยตลอดว่ายังคงราบรื่นดีอยู่หรือเปล่า โดยมีหลักฐานเป็นการไม่สวมแหวนหมั้นของฝ่ายหญิง ในงานเปิดตัวหนังเรื่องใหม่ และการควงคู่หญิงคนอื่นออกงานของฝ่ายชาย

ดาราสาวคนดังไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรมากไปกว่าปฏิเสธข่าวลือทั้งหมดว่า “ทุกอย่างยังปกติ” ซึ่งภาพคู่ของทั้งสองคงจะพิสูจน์อะไรได้บางอย่าง อย่างไรก็ตามเมื่อนักข่าวถามถึงเหตุผลเรื่องการเลื่อนงานแต่ง ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนออกมาจากปากของทั้งคู่

Manager Online

S.H.E. ตั้งหน้าตั้งตาฝึก สำหรับงานคอนเสิร์ตของพวกเธอในฮ่องกง

Submitted by canjamm on 8 ตุลาคม, 2009 - 19:21

สามสาววง S.H.E. ต่างก็ฝึกฝนท่าเต้นกันอย่างหนัก สำหรับงานคอนเสิร์ต S.H.E. Is The One World Tour ที่จะมีขึ้นในเร็วๆนี้ในฮ่องกง ทั้งสามคนจะเริ่มฝึกตั้งแต่ 14:00 ทุกๆวัน จนกระทั่งสตูดิโอปิดในตอนดึก โดยพวกเธอจะเต้นจนกระทั่งขาของพวกเธอหมดแรง เรียกว่าเธอแทบจะอาศัยอยู่ในสตูดิโอเลยทีเดียว และเนื่องจากพวกเธอต่างก็กลัวว่าสุนัขที่พวกเธอเลี้ยงไว้จะเหงา พวกเธอจึงนำเอาสุนัขของพวกเธอมาที่สตูดิโอด้วย จากการที่มีสุนัขอยู่รอบๆ บรรยากาศที่นั่นก็เปลี่ยนไป ทีมงานยิ้มและกล่าวกับ S.H.E. ว่า "ตอนนี้ พวกคุณทั้งสามคนก็มีปาร์ตี้พี่น้องกันเองแล้ว ในขณะที่สุนัขของพวกคุณก็มีปาร์ตี้ครอบครัวของพวกมันกันด้วย"

สถานที่จัดคอนเสิร์ตแรกของพวกเธอคือฮ่องกง โดยจะมีขึ้น 2 รอบ และบัตรเข้าชมงานทั้งสองรอบก็ขายหมดแล้ว ทางผู้จัดงานและแฟนๆต่างก็หวังว่า S.H.E. จะสามารถเพิ่มรอบได้อีกคืนหนึ่ง แต่เนื่องจากตารางงานที่แน่นของทั้งสถานที่และคิวงานของ S.H.E. เอง ทำให้พวกเธอไม่สามารถจัดรอบเพิ่มได้อีก

ในระหว่างงานคอนเสิร์ต พวกเธอจะใส่กระโปรงสั้นแสดงให้เห็นถึงขาที่สวยของพวกเธอ นอกจากนี้แล้ว พวกเธอยังจะขึ้นแสดงละครเพลงบรอดเวย์ นอกจากการเต้นแล้ว จะมีท่าเต้นแอโรบิกรวมอยู่ด้วย อย่างเช่นการหมุนตัวกลางอากาศ ท่าพวกนี้จะคล้ายๆกับท่าเต้นของเชียร์ลีดเดอร์ เซลิน่า (Selina) ซึ่งมักจะถือว่าตัวเองมีความสามารถในการทรงตัวที่ต่ำ แต่ละครั้งในการฝึกฝน เธอจะตะโกนและร้องออกมา เธอกล่าวตลกๆว่า "โชคดีสำหรับคอนเสิร์ต พวกเราจะใช้ไมโครโฟนที่ใช้มือจับ ถ้าพวกเราไมโครโฟนที่ติดอยู่ที่หูแล้วหล่ะก็ ผู้ฟังจะได้ยินแต่เสียงร้องของฉัน!!"

ข้อมูลจากฮีบี้ (Hebe) ว่า ท่าเต้นที่หมุนกลางอากาศนั่นจะคล้ายกับการนั่งรถไฟเหาะ เธอกล่าวตรงๆว่า "เมื่อตอนฝึกหมุนกันนั้น ฉันคิดถึงแต่เรื่องความปลอดภัย ฉันต้องการจะใส่หมวกกันน็อค" ทางด้านเอลล่า (Ella) ที่กล้ากว่าเธอนั้น เอลล่าเอาแต่ยกย่องเซลิน่า และฮีบี้สำหรับพลังในการทำท่าและขาที่สวยงามของพวกเธอในระหว่างการแสดงท่าต่างๆเหล่านั้น

3 สาวคนดังแห่งจีนแผ่นดินใหญ่ ถ่ายนู้ดการกุศลสนับสนุนโครงการ "พิงค์ ริบบอน"

Submitted by canjamm on 7 ตุลาคม, 2009 - 14:05

สามสาวคนดังจากประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ "เหมาอาหมิ่น" นักร้องชื่อดัง และสองนักแสดงมากฝีมือ "หนิงจิ้ง" และ "เห่าเล่ย" ได้ร่วมกันถ่ายนู้ดเพื่อสนับสนุนโครงการ "พิงค์ ริบบอน" ที่กระตุ้นให้ผู้หญิงเอาใจใส่กับการตรวจมะเร็งเต้านม

ภาพนู้ดชุดดังกล่าวได้ถูกตีพิมพ์ในนิตยสาร Trend Health Magazine ของเมืองจีน ในฉบับเดือน ต.ค. นี่ โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสนับสนุนการตรวจมะเร็งเต้านม ที่ชื่อว่า พิงค์ริบบอน ที่ดำเนินงานโดยบริษัทเครื่องสำอางชื่อดัง เอสเต้ ลอเดอร์

นักร้องชื่อดังชาวจีนแผ่นดินใหญ่ เหมาอาหมิ่น เปิดใจในการถ่ายภาพนู๊ดในวัย 37 ปีว่าจากการได้เห็นผลงานในปีก่อนๆ โดยเฉพาะภาพนู้ดของ โจน เช็ง เมื่อปีที่แล้ว ที่เต็มไปด้วยพลัง, อ่อนหวาน และยังเป็นประโยชน์ต่อสังคม กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับเธอยินยอมรับงานครั้งนี้ นักร้องสาววัย 37 ยังย้ำว่าการถ่ายภาพครั้งนี้ ไม่ใช่การขายเนื้อหนัง แต่เป็นการแสดงให้เห็นด้านที่สดใส และแข็งแรง และสุขภาพที่ดีของผู้หญิง

ส่วนนักแสดง หนิงจิ้ง ให้ความเห็นว่าผู้หญิงจีนส่วนใหญ่ยังมีความเหนียมอายกับเรื่องการตรวจสุขภาพทรวงอก เธอหวังว่าการมีส่วนร่วมในโครงการนี้คงจะช่วยให้ผู้คนใส่ใจกับประเด็นนี้มากขึ้น

สาวที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่ม เห่าเล่ย นักแสดงมากฝีมือวัย 31 ผู้โด่งดังมาจากหนัง Summer Palace ที่ได้รับรางวัลที่เมืองคานส์ กล่าว่า "ฉันมีความภูมิใจกับการถ่ายรูปครั้งนี้มาก เพราะมันอาจจะช่วยให้ผู้หญิงจำนวนมากให้ความสำคัญแก่ร่างกาย, สุขภาพ และความสวยงามของตัวเอง นักแสดงสาวยังย้ำด้วยว่าทุกคนต้องยอมรับความจริง และเผชิญหน้ากับอันตรายของโรคมะเร็งเต้านม ไม่ใช่ปฏิเสธมัน"

พิงค์ ริบบอน เป็นกิจกรรมต่อต้านมะเร็งเต้านม ภายใต้การจัดการของบริษัทเอสเตสำนักงานใหญ่ และบริษัทในเครือกว่า 40 ประเทศ ซึ่งจัดต่อเนื่องมาหลายปี โดยในปี 2009 ถือเป็นปีที่เจ็ดของโครงการนี้ในเมืองจีนแล้ว

Manager Online

ผู้ชมฮ่องกงโวย ดาราสาวถลกเสื้อโชว์ยกทรงออกทีวีในรายการละครชุดภาคค่ำ

Submitted by canjamm on 7 ตุลาคม, 2009 - 11:38

เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาในละครชุดตลก The Stew of Life ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ TVB เกิดมีฉากที่ไม่เหมาะสมปรากฏออกมา เมื่อมีการถอดเสื้อโชว์ชุดชั้นในของนักแสดงหญิงคนหนึ่งในเรื่อง จนกลายเป็นเรื่องฮือฮาไปทั่วว่าคนฮ่องกงรับกับฉากประเภทนี้ได้แล้วหรือ

ฉากดังกล่าวออกอากาศไปเมื่อวันที่ 1 ต.ค. และกลายเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางไปทั่วทั้งฮ่องกง รวมถึงข้อร้องเรียนจากผู้ชมจำนวนมาก ที่ถูกส่งไปถึงหน่วยงานที่ดูแลควบคุมการแพร่ภาพของสื่อโทรทัศน์ในฮ่องกง

ถ้าเอาไปเทียบเคียงกับสื่อจากตะวันตก โชว์ชุดชั้นในอาจจะถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่พอมันเกิดขึ้นในสังคมจีนที่ยังมีแนวคิดหัวโบราณฝังตัวอยู่ไม่น้อย ปัญหาจึงเกิดขึ้นมาจนได้

ฉากที่มีปัญหาดังกล่าว เกิดขึ้นในตอนหนึ่งของเรื่อง เมื่ออยู่ๆ ชาลี (Charlie) รับบทโดยนักแสดงสาวฟาล่า เฉิน (Fala Chen) ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้าไรอัน (Ryan) ที่รับบทโดยทิมมี่ หง (Timmy Hung ลูกชายของหงจินเป่า) ในฉากดังกล่าวดาราสาวถอดเสื้อตัวนอกออกมา และสวมแต่เสื้อชั้นใน ซึ่งนับรวมแล้วสาวคนนี้โชว์หุ่นในเสื้อชั้นในเป็นเวลานานถึง 30 วินาทีเลยทีเดียว

ทันทีที่ฉากที่ว่านี้ออกอากาศไป เสียงบ่น และก่นด่า ก็ตามมาทันที ทั้งหน่วยงานรัฐ, หนังสือพิมพ์รายวัน และเว็บบอร์ดยอดฮิตของฮ่องกง กลายเป็นสถานที่ระบายอารมณ์ถึงความไม่เหมาะสมของมัน

หนังสือพิมพ์รายวันฉบับหนึ่ง ได้รับโทรศัพท์ร้องเรียนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นจาก ผู้ชมคนหนึ่งที่เรียกตัวเองว่า คุณนายหว่อง ว่าผู้สร้างละครชุดนี้พยายามจะเพิ่มความนิยมของรายการ ด้วยเรื่องล่อแหลมมาตั้งแต่ต้นแล้ว “มันเป็นเรื่องตลกสิ้นดี ละครชุดนี้เคยมีฉากรักในรถยนต์มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ตอนนี้พวกเขากลับทำแบบนี้อีก ไม่ต้องอธิบายอะไรเลย ฉากนี้มันไม่ได้มีความจำเป็นอะไรกับเรื่อง เห็นชัดๆ ว่าพวกเขาพยายามใช้เรื่องเพศทำนองนี้มาเพิ่มเรตติ้งในกับรายการ”

ปัญหาที่ทำให้ The Stew of Life เป็นที่วิจารณ์อย่างมากก็คือการที่มันฉายอยู่ในช่วง 20.30 – 21.30 ซึ่งเป็นเวลาสำหรับรายกายเพื่อทุกเพศทุกวัย ละครเองก็ระบุมาตลอดว่าเป็นเรื่องตลกเกี่ยวกับครอบครัว ซึ่งเมื่อผู้ชมจำนวนมากโดยเฉพาะที่มีบุตรหลาน ได้เห็นฉากดังกล่าว จึงตกใจกันมาก และกังวลว่ามันจะสร้างอิทธิพลที่ผิดๆ แก่เด็กๆ

"เหลียงเฉาเหว่ย" (Tony Leung) พร้อมรับบทปรมาจารย์กังฟู "ยิปมัน" ในหนังใหม่ของ "หว่องกาไว"

Submitted by canjamm on 6 ตุลาคม, 2009 - 12:03

หลังจากต้องประสบปัญหาอาการบาดเจ็บจากการฝึกซ้อมกังฟู ตอนนี้พระเอกมากฝีมือ "เหลียงเฉาเหว่ย" (Tony Leung) กลับมาหายดี และพร้อมสำหรับการเริ่มต้นเข้าฉากใน “The Grand Master”หนังชีวประวัติครูมวยกังฟูชื่อดัง "ยิปมัน" ผลงานเรื่องใหม่ของ "หว่องกาไว" แล้ว

The Grand Master เป็นหนังที่จะเล่าเรื่องชีวประวัติของครูมวยกังฟูชื่อดังแห่งฮ่องกง ยิปมัน ที่กลายเป็นที่รู้จักในโลกจากการเป็นอาจารย์ของ ดาราบู๊ชื่อก้องโลก บรูซ ลี

นี่เป็นงานที่ หว่องกาไว วางแผนมาอย่างยาวนานถึง 8 ปี โดยวางตัวนักแสดงคู่บุญ เหลียงเฉาเหว่ย ไว้ในบทนำ ที่แม้พระเอกวัย 47 จะไม่ได้มีทักษะทางกังฟูที่สูงส่งอะไรมากมายนัก แต่ก็ได้รับคำชมจากครูฝึกว่า ทัศนคติที่ไม่ยอมแพ้ของเขาทำให้การฝึกฝนรุดหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว และจะทำให้เขาสามารถรับบทยิปมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เดิมทีหนังมีกำหนดเปิดกล้องในกลางปีนี้ แต่สุดท้ายกลับไม่สามารถทำได้ตามกำหนด สืบเนื่องจากระหว่างการฝึกซ้อมก่อนการเปิดกล้อง เหลียงเฉาเหว่ย เกิดได้รับบาดเจ็บที่แขนขึ้นมา จนหลายๆ ฝ่ายเริ่มเป็นห่วงว่าหนังที่เลื่อนแล้วเลื่อนอีกเรื่องนี่จะต้องล่าช้าไปอีกสักเท่าไหร่กัน

แต่ในที่สุดพระเอกชื่อดังก็กลับมาหายดีแล้ว ทั้งๆ หมอคาดคะเนว่าเขาต้องพักเป็นเวลา 3 เดือน เหลียงเฉาเหว่ยใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์ก็เริ่มกลับมาออกกำลังกายเบาๆ ได้ และตอนนี้เริ่มกลับมาซ้อมกังฟูอีกครั้ง ทำให้โครงการ The Grand Master สามารถเดินหน้าต่อไปได้ และสามารถกำหนดเปิดกล้องที่แน่นอนได้อีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะเป็นในอีกไม่อีกกี่สัปดาห์ข้างหน้านี้

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า โครงการหนังชีวประวัติยิปมัน ของ หว่องกงไว ถูกพัฒนามานานหลายปีแล้ว แต่ก็ไม่ได้สร้างเสียที จนกระทั่งถูกบริษัทแมนดารินฟิล์ม ชิงตัดหน้าสร้างไปก่อนจนได้

หลังจากมีปัญหาโต้เถียงกันเรื่องลิขสิทธิ์ ฝ่ายหลังเลี่ยงที่จะไปใช้ชื่อ Ip Man แทน มอบบทนำให้กับ เจิ่นจือตัน ซึ่งสามารถดำเนินการสร้างเสร็จ ฉายนำหน้าไปก่อน จนกลายเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ที่ได้ทั้งเงินทั้งกล่องเป็นหนังจีนแห่งปีเรื่องหนึ่งในปี 2008 ที่ผ่านมา

3 สาววง S.H.E. แปลงกายเป็นยอดนักสู้หญิง ในโฆษณาสินค้าลดน้ำหนักตัวใหม่ของ OSIM

Submitted by canjamm on 3 ตุลาคม, 2009 - 18:26

เพื่อเป็นการเปิดตัวสินค้า uKimono สินค้าลดน้ำหนักตัวใหม่ของ OSIM ทางบริษัททำการเซ็นสัญญากับกลุ่มศิลปิน S.H.E. เพื่อให้พวกเธอเป็นพรีเซนเตอร์ให้ในบริเวณเอเชียแปซิฟิก โดยมีมีธีมของโฆษณาว่า "ผู้หญิงสวยต่อสู้กับสัตว์ประหลาด" S.H.E. ต้องแสดงถึงภาพลักษณ์ของผู้หญิงสวยมีสไตล์ และแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการต่อสู้ในโฆษณา ป้องกันสัตว์ประหลาดความอ้วน

ตั้งแต่พวกเธอเปิดตัวเข้าสู่วงการ S.H.E. เคยแสดงในหลายบทบาท ในบทบาทเหล่านั้น การเปลี่ยนแปลงของเอลล่า (Ella) นั่นมากที่สุด จากวัยรุ่นหญิงที่ร่าเริง ไปจนถึงบทที่กล้าหาญและไม่เคยกังวลอะไร เอลล่ามักจะใช้เสน่ห์ที่แตกต่างของตัวเธอ ทำให้ตัวละครนั่นๆดูมีชีวิตชีวา โฆษณาตัวใหม่ของ OSIM แสดงให้เห็นถึงความลำบากของสามสาว ในพวกเธอสามคน เอลล่าอ่านเกี่ยวกับ นักต่อสู้สาวที่สวยงาม" หลายครั้ง ก่อนที่จะเริ่มการถ่ายทำ เพื่อให้เธอแสดงเหมือนกับการ์ตูนที่มีชีวิตชีวา เธอหวังว่า เธอจะทำได้ตามที่ผู้กำกับต้องการ ในการแสดงเหมือนกับตัวอะนิเมชั่น และเพื่อให้ตัวละครของเอลล่าดูโดดเด่นในโฆษณา ผู้กำกับเพิ่มเวลาการถ่ายทำให้เธอสู้กับสัตว์ประหลาด

เอลล่าหัวเราะ และกล่าวว่า "ก่อนหน้านี้ การถ่ายทำมักจะเน้นไปที่อารมณ์ภายใน หรือการแสดงออกที่มีชีวิตชีวา แต่คราวนี้ ต้องเน้นไปที่การขยับและการแสดงของฉัน และฉันต้องสร้างการแสดงอย่างต่อเนื่องเพื่อต่อสู้กับสัตว์ประหลาด ในเวลาเดียวกัน ฉันยังต้องทำให้ตัวเองดูดีอยู่ตลอดเวลา สำหรับฉัน มันมีอะไรบางอย่างที่ยากในการทำอย่างนี้ ยิ่งไปกว่านี้ ผู้กำกับมีความต้องการที่เข้มงวด แต่หลังจากฝึกซ้อมซ้ำไปซ้ำมา ในที่สุด ฉันก็สามารถทำได้อย่างที่ทุกๆคนต้องการ หลังจากการถ่ายทำ ผู้กำกับกล่าวตลกว่า ฉันมีคุณสมบัติที่จะกลายมาเป็น "นักต่อสู้หญิง"

[30.09.09]S.H.E. OSIM-uKimono CF