ร้านอาหารของ Se7en ที่ชื่อว่า Yeolbong ยังเป็นที่ยอดนิยมสำหรับซีลิบิตี้ต่างๆ ในเกาหลี ในวันที่ 16 มีนาคมที่มีซีลิบิตี้จาก JYP ไปเยี่ยมเยียนที่นั่นอีก 2 คน ซึ่งก็คือ Joo และ Suzy จากวง miss A โดยที่ทางหน้า Twitter ของ Yeolbong ทวีทว่า “เมื่อวานนี้ครอบครัว JYP มาเยี่ยมเยียน โดยมี Joo และ Suzy จากวง miss A บอกจากใจเลย ฉันไม่สวยเลย~^^”
วง C.N.Blue มียอดจองอัลบั้มใหม่ FIRST STEP ประมาณ 100,000 ชุด
ทาง FNC Music กล่าวในวันที่ 17 มีนาคมว่า ตอนนี้มียอดสั่งจองเข้ามาประมาณ 100,000 ชุดสำหรับอัลบั้มใหม่นี้ที่จะเปิดตัวในวันที่ 21 มีนาคม “หลังจากที่เปิดตัวไป 2 ทีเซอร์และการแสดงคอนเสิร์ตและไลฟ์อื่นๆ วง C.N.Blue ได้รับความสนใจจากแฟนๆ อย่างมาก ต้องขอบคุณในความพยายามของพวกเขา ตอนนี้พวกเขาได้ยอดสั่งจองมากกว่า 100,000 ชุด”
ถึงแม้ว่าชาวเกาหลีส่วนใหญ่มีมือถือกัน แต่วง ZE:A ที่กำลังเตรียมตัวในการโปรโมทอัลบั้มอย่างเป็นทางการของพวกเขา Lovability
ทาง Star Empire Entertainment ห้ามไม่ให้เด็กฝึกและศิลปินมีมือถือ พวกเขาให้เหตุผลว่า “เด็กฝึกหัดนั้นควรเน้นไปที่การซ้อมการเต้นและร้อง ดังนั้นมันคงจะดีกว่าที่พวกเขาจะไม่มีมือถือ ส่วนในกรณีเร่งด่วน พวกเขาได้รับอนุญาตให้ใช้มือถือของทางเอเจนซี่ได้”
หลายเอเจนซี่สัญญาให้ใช้มือถือหลังจากที่เปิดตัวเข้าวงการไปประมาณ 1 หรือ 2 ปี และถึงแม้ว่าวง ZE:A จะผ่านเวลาแรกมาแล้ว พวกเขาก็ยังไม่ถูกอนุญาตให้มีมือถือในเร็ววันนี้ ตัวแทนกล่าวเพิ่มว่า “นักร้องใหม่ต้องโค้งคำนับและทักทายรุ่นพี่ และทีมงานรายการอื่นๆ เวลาที่พบกับคนเหล่านั้นในที่ต่างๆ แต่ถ้าพวกเขามีมือถือ พวกเขาก็จะเดินไปมาด้วยการจ้องมองมือถือ และไม่สามารถทักทายคนอื่นๆ ได้อย่างเหมาะสม”
“เมื่อไม่นานมานี้มีซีลิบิตี้คนหนึ่งไม่ได้ทักทายรุ่นพี่อย่างเหมาะสมเพราะว่ามัวแต่ยุ่งกับการส่งข้อความและรับข้อความทางมือถือ จึงโดนวิพากย์วิจารณ์กัน เพื่อที่จะป้องกันการเข้าใจผิดนี้ จึงจะดีกว่าถ้าพวกเขาไม่มีมือถือในเวลานี้”
วงอื่นๆ เช่น SECRET และ C.N.Blue ก็ถูกห้ามเรื่องมือถือด้วยเช่นกัน และวง F.T.Island โปรโมทโดยไม่มีมือถือถึง 2 ปี ตัวแทนในวงการแสดงความคิดเห็นว่า “ส่วนใหญ่ไอดอลกลุ่มจะอยู่หอพักด้วยกัน เพราะฉะนั้นการไม่มีมือถือก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่นัก นอกจากนั้นแล้วปัจจุบันนี้มีทั้งคอมพิวเตอร์และทาง Twitter ที่สามารถสื่อสารได้บ่อยๆ อยู่แล้ว”
ในที่สุดทางสถานี KBS ยืนยันกันว่า ละครวัยรุ่นยอดนิยมเรื่อง Dream High จะมีซีซั่น 2!
ในวันที่ 17 มีนาคมตัวแทนของทางสถานี KBS กล่าวกับทาง TV Report และเปิดเผยว่า “พวกเราจะทำละคร Dream High ซีซั่นที่ 2 และจะใช้เนื้อเรื่องเกี่ยวกับวัยรุ่นเหมือนเดิม เรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกันตั้งแต่จะสรุปตอนจบของซีซั่นแรกไป”
เขากล่าวเพิ่มว่า “ถึงแม้ว่าพวกเราจะหานักแสดงหน้าใหม่เหมือนกับละครเรื่อง Dream High และ Jungle Fish หรือบางทีพวกเราอาจจะใช้การออดิชั่นนั้นยังอยู่ระหว่างการพูดคุย ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะออกอากาศในเดือนมกราคม 2012 ช่วงนั้น”
จะมีการเปลี่ยนแปลงใน Dream High 2 หรือไม่? ตัวแทนไม่ได้เปิดเผยมากนัก แต่มีการกล่าวว่า “เรื่องเดิมของ Dream High นั้นดีมาก เพราะฉะนั้นพวกเรากำลังวางแผนที่จะทำให้ดีเช่นกัน”
คังอิน (Kangin) จากวง Super Junior เผยภาพพิเศษในนิตยสารของกองทัพเกาหลีในช่วงที่เขาปฏิบัติงานและมีการแสดงความคิดเห็นของเขาอีกด้วย
เมื่อให้เขาอธิบายความรู้สึกของเขาหลังจากที่เข้ากองทัพไปแล้ว เขากล่าวว่า “ผมได้รับผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากที่ผมทำให้ครอบครัวของผมและคนที่รักผมผิดหวังในตัวของผมก่อนที่ผมจะเข้าเป็นทหาร....ก่อนนอนผมจึงสงสัยตลอดว่า ‘ผมจะยังเป็นที่รักได้อีกครั้งหรือไม่?’”
เขากล่าวเพิ่มว่า “น้ำหนักของผมก็ลดลงไปมากทีเดียว และสุขภาพของผมค่อยๆ ดีขึ้น ความคิดของผมเกี่ยวกับประเทศเปลี่ยนไปเยอะมาก ผมรู้สึกว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่ชาวเกาหลีสามารถเข้าใจและได้รับความไว้ใจจากการที่ผมมาเป็นทหารที่ต้องทำงานอย่างตั้งใจ”
เมื่อถามเขาว่าสิ่งใดที่เขาคิดว่าเขาเรียนรู้จากการปฏิบัติงาน เขาเปิดเผยว่า “ผมหวังว่าจะกลายเป็นคนที่ใส่ใจคนอื่นมากกว่าตัวของผมเอง มีคนเคยบอกว่า คนที่ไม่เห็นแก่ตัวแล้วก็จะไม่มีความคิดที่ผิดๆ อีกด้วย ตอนนี้ก็ผ่านมาได้ถึง 6 เดือนแล้ว แต่ถ้าผมได้ปลดประจำการด้วยสิ่งที่ผมตั้งใจไว้ ผมมั่นใจว่าผมจะสามารถโชว์ให้ได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของผม”
คังอินยังเขียนข้อความถึงแฟนๆ อีกด้วยว่า “ถึงแฟนๆ ของพวกเรา! ผมคิดถึงพวกคุณอย่างมาก ผมจะออกจากกรมไปโดยที่เป็นคนที่มีสุขภาพที่ดีและมั่นใจทั้งใจตนเองและภายนอก เพื่อที่จะไม่ให้ผมรู้สึกอึดอัดเมื่อตอนที่ผมพบทักทายกับทุกคน ผมหวังว่า พวกคุณจะรอผม และผมหวังว่าทุกๆ อย่างที่คุณใฝ่ฝันจะเป็นจริง กรุณารอผมจนกระทั่งผมออกจากกรมด้วยครับ”
จองยองฮวา (Jung Yong Hwa) จากวง C.N.Blue และโซฮยอน (Seo Hyun) จากวง SNSD บันทึกเทปตอนสุดท้ายของการร่วมในรายการ We Got Married ในวันที่ 14 มีนาคม
คู่นี้ได้เริ่มแต่งงานในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว และได้ตัดสินใจออกจากรายการหลังจากที่ร่วมงานมาถึง 1 ปี ตัวแทนในรายการแสดงความคิดเห็นว่า “ตารางงานของพวกเขาทั้ง 2 ต่างยุ่งมาก และพวกเขาต้องอดทนอย่างมากในการบันทึกเทป ถึงแม้ว่าจะเสียดาย แต่พวกเราเพิ่งบันทึกเทปตอนสุดท้ายด้วยการที่จองยองฮวาให้กีตาร์กับโซฮยอน”
ซึ่งตอนสุดท้ายนี้จะออกอากาศในช่วงเดือนเมษายน
รายการ Heroes จากทางสถานี SBS แต่งชุดแต่งงานเปิดเผยออกมา โดยมีแฟนๆ ให้ความสนใจใน IU
ภาพจากการบันทึกเทปรายการ Heroes ของทางสถานี SBS และแฟนๆ ต่างสนใจใน IU โดยภาพที่เธอพูดกับโนซายอน (Noh Sa Yeon) ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ทำให้รู้สึกเหมือนกับแม่พูดกับลูกสาว
นักแสดงชายยูนซิยูน (Yoon Si Yoon) เพิ่งถ่ายภาพให้กับเครื่องแต่งกายชายแบรนด์ T.I For Men และเขาได้โชว์อิมเมจของความเป็นผู้ใหญ่และสุภาพในการถ่ายภาพชุดนี้ ซึ่งเขาแต่งกายด้วยเครื่องแต่งกายสบายๆ และยังมีสูทที่ดูเรียบร้อยอีกด้วย
โดยที่ภาพชุดนี้ลงในนิตยสาร Arena Homme Plus และที่หน้าโฮมเพจของแบรนด์
ในระหว่างนี้ยูนซิยูนกำลังถ่ายภาพยนตร์เรื่องกอล์ฟที่ชื่อว่า 100% ตัวแทนของเขาทาง Taxi Entertainment กล่าวว่า “ตอนนี้ภาพยนตร์เรื่องนี้กำลังอยู่ระหว่างการตัดต่อ และพวกเราวางแผนที่จะออกฉายในช่วงฤดูร้อนนี้”
ฮีชอล (Hee Chul) จากวง Super Junior เปิดเผยภาพใบหน้าของเขาที่มีบาดแผล
ทางไซท์จีนที่เปิดเผยถึงเบื้องหลังของบาดแผลนี้ของเขา ในวันที่ 5 มีนาคมที่มีแฟนคนหนึ่งโยนป้ายให้กับฮีชอลในคอนเสิร์ต Super Show 3 ที่เซี่ยงไฮ้ และทำให้เขาต้องออกจากเวทีทันทีเนื่องจากความเจ็บที่บาดแผล
บาดแผลของการเจ็บในครั้งนั้นทำให้ฮีชอลต้องสวมหน้ากากในคอนเสิร์ต Super Show 3 ที่ไทเป ที่จัดขึ้นในวันที่ 12 และ 13 มีนาคม
โดยฮีชอลทวีทว่า “บาดแผลนี้คงเป็นครั้งสุดท้าย และผมหวังว่าจะไม่มีอะไรลอยขึ้นมาบนเวทีจากนี้ต่อไป”
เนื่องจากภัยจากธรรมชาติที่ประเทศญี่ปุ่น ทาง YG Entertainment ประกาศว่า พวกเขาจะเลื่อนการเปิดตัวของวง 2NE1 เปิดตัวที่ประเทศญี่ปุ่น
โดยที่ตอนแรกวงมีแผนที่จะเปิดตัวในช่วงเดือนหน้าสำหรับอัลบั้มเปิดตัวกับทาง Avex อย่างไรก็ตามในวันที่ 16 มีนาคมที่ยางฮยอนซอค (Yang Hyun Suk) กล่าวกับทาง Star News ว่า “ตอนแรกพวกเราวางแผนที่จะเปิดตัวโปรโมทในเดือนพฤษภาคม แต่เนื่องจากภัยธรรมชาติที่ประเทศญี่ปุ่น พวกเราจึงตัดสินใจที่จะเลื่อนการโปรโมทที่ประเทศญี่ปุ่นในภายหลัง”
เขากล่าวเพิ่มว่า “วง 2NE1 และตัวแทนของพวกเราหวังว่า ชาวญี่ปุ่นจะไม่ต้องประสบภยันตรายใดๆ อีก ซึ่งตอนนี้พวกเรายังไม่มั่นใจว่า เมื่อไหร่ที่วง 2NE1 จะโปรโมทที่ญี่ปุ่น แต่ควรจะเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นฟื้นตัวได้และร้องเรียกวง 2NE1 พวกเราก็จะไปในช่วงเวลานั้น”
เกี่ยวกับกิจกรรมของวง เขาเปิดเผยว่า “ตอนนี้การเปิดตัวที่ญี่ปุ่นของพวกเธอเลื่อนออกไป พวกเราอาจจะมีผลงานในการกลับมาใหม่ที่เกาหลีก่อนเวลาที่ตั้งใจไว้ ซึ่งวางแผนกันว่าจะเป็นเดือนมิถุนายน หรือกรกฎาคมนี้ แต่แฟนๆ อาจต้องคอยติดตามในช่วงเดือนเมษายนนี้ก่อน”
ซิงเกิ้ลอัลบั้มใหม่ของวง INFINITE นั้นรั่วไหลเปิดเผยออกมาก่อนกำหนดอย่างเป็นทางการ ทำให้ทางบริษัทที่ดูแล Woollim Entertainment เครียดกัน
ทางตัวแทนของบริษัทกล่าวว่า “ซิงเกิ้ลใหม่ของพวกเรา เพลง Nothing’s Over และอีก 3 เพลงรั่วไหลเปิดเผยกันที่ไซท์ที่ผิดกฎหมาย”
ทาง INFINITE ตั้งใจจะเปิดตัวอัลบั้มของพวกเขาในวันที่ 17 มีนาคม และไม่สามารถปิดบังถึงความอึดอัดที่เพลงเกิดการรั่วไหลก่อนเวลา ทาง Woolim Entertainment กล่าวว่า “ทุกคนต่างใส่ความตั้งใจจากใจและพยายามอย่างมากในอัลบั้มนี้ และข่าวการรั่วไหลนี้ทำให้พวกเขารู้สึกโดนขโมยงานที่ตั้งใจทำไปจากพวกเขา พวกเรากำลังหาสาเหตุและจะจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจัง”
ซีรีส์ City Hunter ฉบับเกาหลีใต้ มีแผนการจะเริ่มเปิดกล้องในช่วงปลายเดือนนี้แล้ว และทีมงานรวมถึงนักแสดงหนุ่ม “อีมินโฮ” (Lee Min Ho) จะเดินทางเข้ามาถ่ายทำซีรีส์เรื่องนี้กันในเมืองไทยด้วย
ทีมงานของซีรีส์เรื่อง City Hunter จะเดินทางล่วงหน้าเข้ามาก่อนในวันที่ 20 มี.ค. และนักแสดงหนุ่มชื่อดัง อีมินโฮ ผู้รับบทนำของเรื่อง จะตามมาสมทบในวันที่ 24 มี.ค. โดยมีการเปิดเผยว่าหนังจะเริ่มถ่ายทำฉากแรก ในเขตป่าของประเทศไทย
โฆษกของผู้สร้างได้เผยถึงเรื่องนี้ว่า “ในเมืองไทยเราจะถ่ายทำฉากที่เป็นเรื่องราวในอดีตของตัวละคร ที่สวมบทบาทโดย อีมินโฮ และจะเกี่ยวข้องกับเรื่องอื่น ๆ ที่ว่าด้วยต้นกำเนิดของเขาด้วย”
City Hunter ซีรีส์ที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนญี่ปุ่นชื่อดัง จะมีนักแสดงหนุ่ม อีมินโฮ รับบทนำร่วมกับ ปาร์คมินยอง (Park Min Young) และยังเป็นการเปิดตัวในฐานะนักแสดงของสาว คูฮารา (Goo Hara) สมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง KARA ที่ได้โอกาสรับงานแสดงในประเทศบ้านเกิดเป็นครั้งแรก หลังจากได้ชิมลางแสดงซีรีส์ในญี่ปุ่นไปบ้างแล้ว
โดยทีมนักแสดงทั้งหมดเพิ่งมีโอกาสได้อ่านบทภาพยนตร์ร่วมกันไปเมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งโปรดิวเซอร์ จินฮยอก ยังกล่าวชมไปที่สาว กูฮารา เป็นพิเศษว่านอกจากจะอ่านบทได้อย่างราบรื่นไร้ปัญหาแล้ว ยังแสดงความกระตือรือร้นต่องานแสดงครั้งนี้อย่างชัดเจน “ความสดของนักแสดงรุ่นใหม่ และประสบการณ์ของนักแสดงรุ่นพี่ สามารถผสานกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ” โปรดิวเซอร์คนดังกล่าว
City Hunter (シティーハンター) ผลงานของ ซึกาสะ โฮโจ (Tsukasa Hojo) ได้รับการยกย่องในฐานะการ์ตูนที่ดังที่สุดแห่งยุค 80s เรื่องหนึ่ง หลังจากถูกตีพิมพ์ลงนิตยสาร Weekly Shōnen Jump ระหว่างปี 1985 - 1991 และยังถูกดัดแปลงเป็นการ์ตูนอนิเมชั่นความยาว 51 ตอนโดยบริษัท Sunrise มาแล้ว ขณะที่ในปี 2001 โฮโจ ยังได้กลับมาเขียนตอนต่อของเรื่อง ที่ใช้ชื่อว่า Angel Heart ซึ่งยังคงตีพิมพ์ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
ในวันที่ 16 มีนาคมฮีชอล (Hee Chul) จากวง Super Junior พูดคุยกับวง SISTAR และ Secret เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของสมาชิกในวง ระหว่างนั้นเขาเปิดเผยว่า เขาเคยทะเลาะกับสมาชิกในวงคังอิน (Kangin)
พิธีกรถามฮีชอลว่า เขาเคยทะเลาะกับสมาชิกในวงหรือไม่ เขาตอบว่า “ผมเคยทะเลาะอย่างน้อยก็เพียงแค่ครั้งเดียวกับสมาชิกวง Super Junior แล้วคังอินและผมเคยทะเลาะกันครั้งหนึ่งถึงขั้นโยนหม้อกัน”
พิธีกรยูนจงชิน (Yoon Jong Shin) ขอฮีชอลหลีกเลี่ยงที่จะกล่าวถึงคังอิน เนื่องจากเรื่องเมื่อปีที่แล้วว่า “เราไม่พูดถึงคังอินดีกว่า...”
ภายหลังฮีชอลช่วยทำให้บรรยากาศดีขึ้นด้วยการแนะนำวง SISTAR และ Secret ว่า “ไอดอลต้องทะเลาะกันบ้างเล็กน้อย เดี๋ยวผมจะกลับบ้านแล้วก็จะทะเลาะกับสมาชิกอีก!”
นักแสดงหญิงจูอามิน (Joo Ah Min) เปิดเผยความสัมพันธ์ที่เป็นเพื่อนกับซอลลี่ (Sulli) จากวง f(x) ที่สร้างความประหลาดใจให้กับทุกๆ คนผ่านทาง Twitter
ในวันที่ 15 มีนาคม จูอามินอัพโหลดภาพหนึ่งด้วยข้อความว่า “น้องเล็กซอลลี่ของพวกเรายังคง 18 ปี ฉันอิจฉาจริงๆ เลย ว่า เธอช่างสวยมาก! พวกเราถ่ายภาพด้วยกัน พวกเราห่างกันไม่ถึง 10 ปีด้วยซ้ำ แต่ซอลลี่ของพวกเรากลายเป็นผู้ใหญ่ และฉันก็ยังไม่แก่เลย ฮิฮิ”
คู่จากละครเรื่อง Paradise Ranch คือชิมชางมิน (Shim Chang Min) และลียอนฮี (Lee Yeon Hee) ตอบแทนแฟนๆ ในการสิ้นสุดคู่รักในละครด้วยการถ่ายภาพในนิตยสาร High Cut
ในขณะที่ถ่ายภาพกับชางมินสร้างความตะลึงให้กับทีมงาน หลังจากที่เขาเปิดเผยหุ่นที่ฟิตของเขา หลายๆ คนไม่คาดคิดว่าหุ่นของเขาจะฟิตขนาดนี้ เนื่องจากที่ใบหน้าที่ดูเด็กของเขา
และที่สำคัญทั้ง 2 ศิลปินยังสื่อความรู้สึกออกมาทางนัยน์ตาได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
คิมฮยองจุน (Kim Hyung Joon) จากวง SS501 เพิ่งเปิดตัวผลงานอัลบั้มเดี่ยวออกมาและได้รับกระแสตอบรับดีอย่างมาก อย่างไรก็ตามชาวอินเทอร์เน็ทให้ความสนใจในตัวนักเต้นนำในเพลง oH! aH! ของเขา
ชาวอินเทอร์เน็ทให้ความสนใจอย่างมากเนื่องใจใบหน้าของเธอคล้ายกับคูฮาร่า (Goo Hara) จากวง Kara มาก ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่ทราบว่า เธอเป็นใคร แต่ทุกคนคาดว่า เธอน่าจะได้รับความนิยมอย่างมากหลังจากที่ได้รายละเอียดของเธอมากกว่านี้
ชาวอินเทอร์เน็ทแสดงความคิดเห็นว่า “นักเต้นของคิมฮยองจุนทำให้เวทีน่าสนใจมากยิ่งขึ้น”
ในวันที่ 17 มีนาคม ทาง SM Entertainment ประกาศว่าพวกเขาได้บริจาคเงิน 1 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ สำหรับผู้ประสบภัยที่ประเทศญี่ปุ่น
ตัวแทนกล่าวกับทาง Star News ว่า “ทีมงานและศิลปินภายใต้บริษัทต่างเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อที่จะช่วยให้พวกเขาฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว ทาง SM Entertainment ร่วมใจกันบริจาคเงิน 1 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ให้กับทางกาชาด”
พวกเขากล่าวเพิ่มว่า “ทาง SM Entertainment ศิลปินของพวกเรา และชาวเกาหลีจะให้การสนับสนุนญี่ปุ่นด้วยการรวมเป็นน้ำหนึ่งน้ำใจเดียวกัน เพื่อที่จะไม่ให้พวกเขาสูญเสียความเข้มแข็ง และหวังว่าพวกเขาจะผ่านพ้นไปด้วยดี”
ในวันที่ 16 มีนาคมวง Big Bang ไปร่วมในรายการวิทยุ Music Show ของลีซูยอง (Lee Soo Young) ของสถานี KBS 2FM ที่แนะนำเกี่ยวกับมินิอัลบั้มที่ 4 ของพวกเขา และไปพูดคุยจากใจจริงของพวกเขา
ในระหว่างรายการลีซูยองถามแทยาง (Tae Yang) ว่า “เมื่อเร็วๆ นี้ IU เปิดเผยว่า ‘ผู้ชายในอุดมคติของฉันคือ แทยาง และจะไม่เปลี่ยนอีกแล้ว’ คุณรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนั้น?”
แทยางตอบว่า “เธอจะไม่เปลี่ยนอีกหรือครับ? ผมคิดว่า เธอกำลังจะเปลี่ยน....” ซึ่งสร้างเสียงหัวเราะให้กับทั้งสตูดิโอ
แทยางกล่าวเพิ่มว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาที่เธอเลือกผม” และเมื่อถามถึงผู้หญิงในอุดมคติของเขาบ้าง เขาตอบว่า “ผมยังไม่เคยชี้แน่ชัดว่าเป็นแบบไหน ผมเป็นคนที่ชอบคนหลังจากที่ใช้เวลาอยู่กับเขา และใกล้ชิดสนิทกันกับเขาครับ”
ในที่สุดซิทคอมเรื่องใหม่ Welcome to the Show ของทางสถานี SBS ได้ออกอากาศตอนแรกในวันที่ 16 มีนาคมและสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมอย่างมากมาย ด้วยการมีไอดอลระดับท็อปสตาร์มาเป็นแขกรับเชิญในซิทคอม
โดยตอนนี้จะเป็นการเน้นเหตุการณ์เบื้องหลังเวทีรายการ Inkigayo และทำให้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในกิจกรรมวันนั้นตั้งแต่ตอนเช้าที่มีการซ้อมไลฟ์ก่อน แล้วยังเปิดเผยในรายละเอียดว่า ไอดอลนักร้องเตรียมตัวสำหรับการออกอากาศในเบื้องหลังเวทีอย่างไรบ้าง
โดยที่มีศิลปินระดับท็อปอย่าง นิชคุณ (Nichkhun), ซอลลี่ (Sulli), ซีลอง (Seulong), IU , ดงบังชินกิ (TVXQ), B2ST, MBLAQ, ลีจอง (Lee Jung), Krystal, G.NA, Jewelry, INFINITE, ZE:A และ Dal Shabet
ซอลลี่และนิชคุณยังทำให้ผู้ชมอิจฉาในความน่ารักของพวกเขา เนื่องจากพวกเขาส่งข้อความให้กันบ่อยๆ ในรายการ แต่โชคร้ายที่ซีลองรับบทที่ต้องปิ๊งซอลลี่ในซิทคอมนี้ เขาจึงทำได้แต่มองดูอยู่ในระยะห่างๆ
ซีลองสงสัยว่า ทั้งซอลลี่และนิชคุณมีความสัมพันธ์พิเศษ และภายหลังยิ่งยืนยันได้มากยิ่งขึ้นหลังจากที่เขาเห็นนัยน์ตาของนิชคุณและซอลลี่ที่จ้องมองกัน
ถึงแม้ว่าจะมีนักแสดงระดับท็อปมากมายในซิทคอมนี้ แต่เรื่อง Welcome to the Show นั้นได้เรทติ้งเพียงแค่ 3.9% จากข้อมูลของ AGB Nielson Media Research ซึ่งผู้ชมได้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มในการแสดงความคิดเห็น บ้างบอกว่า การแสดงดูอึดอัดในการชม และในขณะที่อีกกลุ่มบอกว่า เนื้อหาของเรื่องเป็นเรื่องสไตล์ใหม่และน่าสนใจที่ต้องคอยติดตามในการพัฒนาของเนื้อเรื่อง
โปรดิวเซอร์ปาร์คซึงมิน (Park Seung Min) กล่าวกับทาง Newsen เกี่ยวกับเรทติ้งที่ต่ำนี้ว่า “มีหลายอย่างที่สามารถโชว์ออกมาได้ในซิทคอม แต่ทางเราพยายามที่จะโชว์ในเรื่องราวใหม่ๆ ขอบคุณสำหรับคนที่คิดว่าซิทคอมนี้เป็นไอเดียใหม่ๆ ซึ่งซิทคอมนี้ใช้เวลาในการเตรียมตัวอย่างมาก ดังนั้นจึงค่อนข้างผิดหวังเล็กน้อย พวกเราควรจะลองอีกครั้งมั้ย พวกเราไม่คิดว่าพวกเราจะใช้เบื้องหลังของรายการ Inkigayo อีกครั้ง”
ในวันที่ 16 มีนาคมโปรดิวเซอร์ Cho PD กล่าวผ่านทางเอเจนซี่ว่า “ไอดอลที่เป็นนักร้องควรจะมีความสามารถในเรื่องเพลงให้เหมือนกับวง Big Bang” และเขายังให้คะแนนสูงมากๆ กับทีมโปรดิวเซอร์ของวง Big Bang อีกด้วย
ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวออกมาว่า ตอนนี้ Cho PD กำลังสอนไอดอลกลุ่ม Block B ในการแต่งเพลงของพวกเขาเอง และเพื่อทำให้พวกเขาเป็นนักร้องที่สามารถแต่งเพลงเองได้ และสามารถเรียบเรียงเพลงเองให้ได้ดี
Cho PD กล่าวว่า
“ในไอดอลรุ่นแรก เช่น โซแทจิ (Seo Tai Ji) & Boys, Deux และฮยอนจินยอง (Hyun Jin Young) และสมาชิกต่างแต่งเพลงกันเองและยังมีทักษะความสามารถในการเต้นอีกด้วย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริงที่ไอดอลรุ่นถัดๆ มากลับมาเน้นในงานด้านการแสดง, งานวาไรตี้ และงานอื่นๆ นอกเหนือจากงานเพลง.... แต่ G-Dragon จากวง Big Bang นั้นเป็นตัวแทนด้านงานเพลงที่เป็นนักดนตรีจริงๆ ในกลุ่มไอดอลรุ่นนี้”
เรื่องนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากที่ Cho PD เคยวิเคราะห์ไม่เห็นด้วยกับ G-Dragon มาก่อน อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาได้สอนไอดอลวงหนึ่ง เขากลับมายอมรับความสามารถของ G-Dragon ว่าเป็นตัวแทนของไอดอลที่รู้จักงานเพลงจริงๆ
ใครคนที่ทำรายชื่อของคนที่มีพาวเว่อร์กับ K-Pop จำนวน 100 คนในปี 2011 นี้?
ในวันที่ 16 มีนาคมนิตยสารเกาหลีที่เกี่ยวกับด้านวงการเพลง Pop Music SOUND Volume 2 เผยรายชื่อศิลปิน K-Pop ที่มีพาวเว่อร์ติดอันดับท็อป 100 ดังนี้
1) Lee Soo Man
2) Park Jin Young
3) Yang Hyun Suk
4) Mnet Media
5) Seo Taiji
8) Cho Yong Pil
13) Kim Chang Whan
14) SNSD
20) Yoo Hee Yeol
28) Big Bang
32) Jang Ki Ha
40) Lee Moon Sae
50) Yoon Jong Shin
51) Rain
58) Lee Seung Chul
66) Kim Jang Hoon
70) TVXQ
72) Shin Hae Chul
80) 2NE1
88) Yoon Do Hyun
90) Crying Nuts
92) BoA
92) Boohwal’s Kim Tae Won
99) Lee Juck
100) Lucid Fall
โดยที่รายชื่อเหล่านี้ถูกคัดเลือกโดยนักวิจารณ์ 86 คนจาก คนในวงการเพลง, สื่อหนังสือพิมพ์, ตัวแทนในการออกอากาศวงการเพลง, ผู้ดูแลเวบไซท์เพลงต่างๆ, นักดนตรี, โปรดิวเซอร์อัลบั้ม และผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ
G-Dragon จากวง Big Bang ถูกเลือกให้เป็นพรีเซ็นเตอร์หลักของเครื่องแต่งกายแฟชั่นแบรนด์ Bean Pole
ตัวแทนของทาง Bean Pole กล่าวว่า
“พวกเราเชื่อว่า G-Dragon ไม่ได้เป็นเพียงแค่ศิลปินธรรมดาที่แต่งกายดูดี แต่ยังเป็นผู้นำสไตล์ที่ทำให้เกิดเป็นเทรนด์ใหม่ พวกเราจึงสรุปกันว่า G-Dragon นั้นเหมาะสมที่สุดที่จะช่วยสื่อความหมายเหล่านี้ให้กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายอายุ 20 กว่าเกี่ยวกับสไตล์ใหม่ๆ และเพลิดเพลินไปกับสไตล์ นั่นคือสาเหตุว่าทำไมถึงเลือกเขามาเป็นพรีเซ็นเตอร์”
หลังจากเรียนรู้มากเกือบปีที่จะต้องเป็นศิลปินเดี่ยว น้องเล็กจากวง SS501 คิมฮยองจุน (Kim Hyung Joon) กลับมาขึ้นเวทีอีกครั้งหลังจากที่เปิดตัวอัลบั้มเดี่ยวของเขา
เขากล่าวว่า “สิ่งที่ดีที่สุดคือผมมีกล้องของผมเอง (หัวเราะ) ผมรู้สึกไม่ค่อยดีที่ร่างกายของผมไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เร็วตามที่ผมต้องการ เพราะว่าผมอยากที่จะออกไปลองทำทุกๆ อย่างที่ทำได้ อย่างไรก็ตามผมก็พยายามอดกลั้นและปิดบังไว้”
เขาหันไปทางสื่อและถามว่า “ผมควรจะทำอย่างไรดี?”
โดยที่ไม่มีคำแนะนำจากใครๆ เขาก็มีตารางงานที่ยุ่งมากๆ อยู่แล้ว ตอนนี้คิมฮยองจุนเป็นดีเจของรายการวิทยุ Music High ของคิมฮยองจุน ก่อนหน้านั้นเขายังมีผลงานละครเพลงเวที Caffeine แล้วยังร่วมในรายการวาไรตี้ Game Team อีกด้วย และเดือนหน้าเขาจะเริ่มการโปรโมทที่ประเทศญี่ปุ่น แล้วก็จะมีทัวร์คอนเสิร์ตทั่วแถบเอเชียในเดือนพฤษภาคมนี้
เมื่อสื่อถามเกี่ยวกับตารางงานที่มากของเขานี้ คิมฮยองจุนอธิบายว่า “ผมมักจะอยากทำในหลายๆ อย่าง มันไม่ใช่ว่าผมอิจฉาในความสำเร็จของคนอื่น แต่ผมหวังถึงโอกาสเสมอมา ถ้าเป็นเมื่อสมัยก่อนผมคงไล่ล่าตามหาโอกาส แต่ตอนนี้ผมโตพอที่จะค่อยๆ พูดคุยกันและพยายามที่จะจัดการทุกอย่างให้เหมาะสม เพราะผมเรียนรู้ในสิ่งที่ควรเป็น ผมได้เรียนรู้ด้วยตัวของผมเองในสิ่งที่ผมไม่รู้มาก่อน ตอนนี้ผมดูเหมือนผู้ใหญ่มั้ยครับ?”
เพื่อเตรียมตัวผลงานเดี่ยวนี้ เขาได้ทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อให้การแสดงบนเวทีสมบูรณ์แบบมากที่สุด เขาเลือกใช้เพลง Girl ให้เป็นเพลงเต้นเพื่อให้สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น หลังจากนั้นเขาก็เลือกเพลง oH! aH! ให้เป็นแบบฟังง่าย
“ผมชอบเพลง Girl ในช่วงท่อนที่แรงๆ และผมก็คิดว่ามันโอเคดี แต่คนอื่นคิดว่า ผมเหมาะกับเมโลดี้ที่ฟังง่ายๆ ผมคิดว่า การเลือกเพลงของพี่ E-TRIBE ซึ่งมันเป็นการตัดสินใจที่ดีในตอนท้าย ผมกำลังพยายามที่จะไม่เร่งรัดนัก และนี่ก็เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น”
ในช่วงที่เตรียมตัวผลงานเดี่ยวของเขา คิมฮยองจุนกล่าวว่า เขาพยายามที่จะไม่พอใจในทุกๆ สิ่ง และพยายามตั้งใจเรียนรู้อย่างหนักจากมุมมองจุดที่ต่ำสุด และตัดสินตัวเองแบบเย็นชา
เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (16 มี.ค.) เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานพิสูจน์หลักฐานแห่งชาติ ได้ยืนยันว่า จดหมายของนักแสดงสาวผู้ล่วงลับ “จางจายอน” (Jang Ja Yun) ที่เขียนทิ้งเอาไว้เมื่อปี 2009 เป็นเพียงของปลอม โดยมีการอ้างว่าจดหมายดังกล่าว เป็นหลักฐานที่เปิดเผยถึงรายชื่อของ ผู้มีอิทธิพล 31 คน ซึ่งอดีตต้นสังกัดบีบบังคับให้ จางจายอน มีสัมพันธ์ด้วย จนเธอได้ตัดสินใจปลิดชีพตนเองในที่สุด
ในเวลาประมาณ 10:00 น. ตามเวลาท้องถิ่นเกาหลีใต้ ยางฮูโยล หัวหน้าของหน่วยงานพิสูจน์หลักฐานแห่งชาติ ได้เปิดการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเพื่อยืนยันว่าจดหมายของ จางจายอน ซึ่งมีการกล่าวอ้างว่า เธอเขียนขึ้นด้วยลายมือ เพื่อแก้แค้นคนต่างๆ ซึ่งต้นสังกัดเคยบีบบังคับให้เธอต้องมีความสัมพันธ์ทางเพศด้วย เป็นเพียงของปลอมที่ทำขึ้นเท่านั้น
จดหมายซึ่งถูกเผยแพร่โดยรายการข่าวของ SBS ได้กลายเป็นข่าวใหญ่ในช่วง กว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา มีชื่อของผู้บริหารสื่อ, สถานีโทรทัศน์ และบริษัทธุรกิจมากมาย ได้กลายเป็นสาเหตุให้หลายฝ่ายเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รื้อฟื้อคดีขึ้นมาอีกครั้ง
“หลังจากมีการเปรียบเทียบลายมือในจดหมาย กับลายมือจริงๆของ จางจายอน แล้ว ผลแสดงออกมาว่าตัวอักษรในจดหมายฉบับนี้ ไม่ได้มีลักษณะที่เหมือนกับการเขียนตัวอักษรของเธอ นอกจากนั้นในจดหมายยังมีการใช้ไวยากรณ์ผิดในหลายๆจุด และเป็นไวยากรณ์ที่ผิดในแบบเดียวกับจดหมายส่วนตัวหลายๆฉบับของ “จุน” เราจึงเชื่อว่าจดหมายที่กลายเป็นข่าว เป็นของที่ทำขึ้นมาโดย จุน นั่นเอง”
โดยนักโทษวัย 31 ปี จุน ซึ่งถูกคุมขังในคดีที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนักแสดงสาวคนดังแต่อย่างใด และเขาคือผู้ที่ครอบครองจดหมายของ จางจายอน เอาไว้ พร้อมยังอ้างตัวว่าเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กของเธอ และได้เขียนจดหมายแลกเปลี่ยนกันมาตั้งแต่ช่วงปี 2003
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สรุปว่า “จดหมายที่ จุน อ้างว่าได้รับมาจากจางจายอนนั้น มีลายมือที่แตกต่างกับลายมือของเธอเองอย่างเห็นได้ชัด จางจายอน จึงไม่ได้เป็นผู้เขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นมา”
และเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการพิสูจน์ลายนิ้วมือในจดหมาย เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานพิสูจน์หลักฐานได้กล่าวสั้นๆเพียงว่า “นั่นไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรา แต่เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ”
"อีจุนอิก" ยอดผู้กำกับชาวเกาหลีใต้ ซึ่งโด่งดังจากงานหนังย้อนยุคอย่าง The King and the Clown ตัดสินใจประกาศขอยุติบทบาทผู้กำกับ ในวงการหนังกระแสหลัก หลังจากเคยลั่นวาจาไว้ว่าจะเลิกทำหนัง หากผลงานชิ้นใหม่ของเขาล้มเหลว
ในวันที่ 3 มี.ค. ที่ผ่านมา สำนักข่าวหลายแห่งในเกาหลีใต้ ได้รายงานข่าวการประกาศถอนตัวจากวงการภาพยนตร์กระแสหลักของ อีจุนอิก ผู้กำกับแถวหน้าของประเทศ ภายหลัง Battlefield Heroes ผลงานเรื่องล่าสุดของเขาประสบความล้มเหลว ไม่สามารถดึงดูดความสนใจจากแฟนหนังได้
"ช่วยแสดงความยินดีกับผมด้วย ผมได้ตัดสินที่จะเลิกงานกำกับภาพยนตร์ เพราะยอดคนดู (สำหรับหนังเรื่อง Battlefield Heroes) เพิ่งผ่านหลัก 1.7 ล้านคนไปเท่านั้นเอง น้อยกว่า 2.5 ล้านคนอย่างที่เราคาดการณ์เอาไว้" อีจุนอิก ทวีตข้อความถึงเรื่องนี้
โดยก่อนหน้าที่ Battlefield Heroes จะเข้าฉายในวันที่ 27 ม.ค. อีจุนอิก เคยพูดกับสื่อหลายครั้ง ถึงเรื่องที่ว่าเขาอาจจะตัดสินใจถอนตัวจากวงการภาพยนตร์ ถ้าหากว่าหนังเรื่องนี้ล้มเหลว ซึ่งสุดท้ายแล้วก็ดูเหมือนว่า คำพูดดังกล่าวได้กลายเป็นจริงขึ้นมาแล้ว
อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่า อีจุนอิก จะตัดขาดจากวงการภาพยนตร์ไปเลย แต่คนใกล้ชิดของผู้กำกับดัง ได้เผยว่าเขาต้องการจะเปลี่ยนไปทำงานในด้านอื่นๆ ซึ่งเกี่ยวกับวงการภาพยนตร์ดูบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการอบรมสั่งสอนคนทำหนังรุ่นใหม่ ในสถาบันการศึกษา หรือการลองสร้างงานเล็กๆ กับแวดวงหนังศิลปะ หรือหนังสารคดีดูบ้าง