Jet Li (C)

ปรมาจารย์กังฟูวงการหนังจีนแผ่นดินใหญ่ หยูเฉิงฮุย (Yu Cheng Hui) ลาโลกในวัย 76

Submitted by canjamm on 7 กรกฎาคม, 2015 - 19:16

        นักแสดงชาวจีนแผ่นดินใหญ่ “หยูเฉิงฮุย” (Cheng-Hui Yu / Yu Cheng Hui) ที่ฝากผลงานการแสดงเอาไว้ในหนังมากมายโดยเฉพาะหนังชุด “เสี้ยวลิ้มยี่” ที่ “เจ็ต ลี” (Jet Li) แสดงนำ ได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัย 76 ปี
       
       นักแสดงอาวุโสชาวจีนแผ่นดินใหญ่เจ้าของเอกลักษณ์เครายาว และฝีมือกังฟูอันหาตัวจับยาก หยูเฉิงฮุย ได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 5 ก.ค. หลังมีอาการป่วยมาอย่างยาวนาน
       
       โดย หยูเฉิงฮุย มีพื้นเพเดิมมาจาก เมืองเปงไหล มณฑลชานตง และเริ่มฝึกหัดกังฟูจากโรงเรียนกีฬาชิงเต่าตั้งแต่อายุแค่ 12 ขวบ ก่อนจะกลายเป็นแชมป์ของชิงเต่าในตอนอายุ 21 ปี จนได้เข้าเรียนในวิทยาลัยพละศึกษาของชานตง
       
       ในปี 1963 หยูเฉิงฮุย สามารถคว้าแชมป์ในการแข่งขันระดับชาติได้อีกด้วยการรายร่ำเพลง “กระบี่เมา” แต่แล้วในปีเดียวกันนั้นเองเขากลับบาดเจ็บหนักที่ขา จนไม่สามารถเล่นกีฬาได้พักใหญ่ จึงต้องออกจากมหาวิทยาลัย เพื่อเข้าไปทำงานในโรงงานอยู่เป็นสิบปี แต่ในช่วงเวลาดังกล่าว หยูเฉิงฮุย ก็ยังหาเวลาว่างในการศึกษา และฝึกฝนวิชากังฟูด้วยตนเองต่อไป
       
       หยูเฉิงฮุย กลายเป็นผู้สืบทอดเพลงมวยสายหมัดตั๊กแตน และยังบัญญัติเพลงกระบี่ตั๊กแตน ซึ่งเป็นวิชากระบี่คู่ที่ว่ากันว่าสูญหายไปหลายปีขึ้นมาใหม่ด้วย จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นโค้ชทีมวูซูของหนิงเซียะ และเริ่มสร้างชื่อขึ้นมาในวงการวูซูของจีน
       
       แต่บทบาทที่สร้างชื่อให้กับ หยูเฉิงฮุย มากที่สุด ก็คืองานในวงการบันเทิง ที่เขาเป็นทั้งนักแสดง และผู้กำกับคิวบู๊ที่มีผลงานยาวนานติดต่อกันเกือบ 40 ปี

เจ้าของบทยิปมัน เจินจือตัน (Donnie Yen) เตรียมรับบทเจได (Jedi) ใน Star Wars 8

Submitted by canjamm on 6 กรกฎาคม, 2015 - 17:12

        สื่อจีนยืนยันว่านักแสดงแอ็กชั่นชื่อดัง "เจินจือตัน" (Donnie Yen) เตรียมรับบทเป็นอัศวินเจได (Jedi) ในหนังไซไฟฟอร์มยักษ์ Star Wars 8 ที่จะเข้าฉายในปี 2017
       
       หลังเคยชิมลางงานในฮอลลีวูดมาแล้วหลายเรื่อง อาทิ Blade 2 (รับบทสมทบ และกำกับคิวบู๊) และ Shanghai Knights มาแล้ว ล่าสุดสื่อจีนเปิดเผยว่า เจินจือตัน หรือ ดอนนี เยน ได้เซ็นสัญญาเพื่อรับบทเด่นในหนังแฟรนไชน์ระดับตำนานอย่าง Star Wars 8 ที่ถือว่าเป็นภาค 2 ของไตรภาคชุดใหม่ของหนังชุดนี้ โดยสื่อจีนอ้างว่า เจินจือตัน ยังจะได้รับบทเป็น "อัศวินเจได" และเขายังจะได้ร่วมแสดงกับ แฮร์ริสัน ฟอร์ด (Harrison Ford) ผู้รับบทเป็น ฮาน โซโล ด้วย
       
       ตามรายงานของสื่อจีนระบุว่าผู้สร้างมีตัวเลือกสำหรับบทดังกล่าวคือ เจินจือตัน กับ เจ็ต ลี (Jet Li) ที่ถือว่าโด่งดังในระดับนานาชาติมากกว่า แต่สำหรับในเมืองจีนในขณะนี้ก็ถือว่า เจินจือตัน มีชื่อเสียงไม่ได้เป็นรองเลย นอกจากนั้นค่าตัวของเขายังถูกกว่า เจ็ต ลี ถึงครึ่งหนึ่งด้วย สุดท้าย เจินจือตัน จึงได้บทดังกล่าวไป
       
       โดย เจินจือตัน จะได้รับค่าตัวประมาณ 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีกำหนดเดินทางไปลอนดอนเพื่อเริ่มต้นถ่ายทำในเดือนหน้า โดยหนังจะมีผู้กำกับดาวรุ่ง ไรอัน จอห์นสัน (Looper) เป็นผู้กุมบังเหียนหนังภาคนี้
       

บทบาทใหม่ เจ็ต ลี (Jet Li) นั่งตำแหน่งบอร์ดยักษ์ใหม่วงการหนังจีน

Submitted by canjamm on 6 มิถุนายน, 2014 - 17:30

       หลังโลดแล่นในวงการภาพยนตร์มานานถึง 3 ทศวรรษ ล่าสุดมีข่าวว่าดารากังฟูชื่อดัง "หลีเหลียนเจี๋ย" (Jet Li) จะขอลองงานในตำแหน่งบริหารดูบ้าง ด้วยการรับตำแหน่งในแผนกภาพยนตร์ของเครือ Alibaba ยักษ์ใหญ่ด้าน e-commerce ของจีนแผ่นดินใหญ่
       
       ข่าวระบุว่า หลีเหลียนเจี๋ย จะร่วมเป็นคณะกรรมการบริหารของ Alibaba Pictures Group ในเครือ Alibaba Group Holdings โดยสาเหตุที่เขารับตำแหน่งดังกล่าวก็เพราะมิตรภาพโดยส่วนตัวกับ แจ็ค หม่า (Jack Ma) ผู้ก่อตั้ง และประธานของทาง Alibaba ที่สนิทสนมกันจากความสนใจในมวยไท่เก๊ก และพุทธศาสนาเหมือนกันนั่นเอง
       
       Alibaba Group ผู้ให้บริการด้าน e-commerce ที่มีลูกจ้างมากกว่า 24,000 คน และมูลค่าสูงถึงระดับ 120,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กำลังจะบุกวงการภาพยนตร์จีนที่กำลังร้อนแรงผ่านบริษัทลูก Alibaba Pictures Group ซึ่งสื่อจีนเผยว่ามีแผนจะสร้างหนังร่วมกับผู้กำกับชื่อดังทั้ง หว่องกาไว (Wong Kar Wai), ปีเตอร์ ชาน (Peter Chan) และ โจวซิงฉือ (Stephen Chow) จนกำลังถูกจับตามองจากทุกฝ่ายว่ามีโอกาสขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของวงการหนังจีนได้ในอนาคต
       

ขำกลิ้งข่าวโกงเงินมูลนิธิ เจ็ต ลี (Jet Li) เล่นมุกบอกอยากทำแต่ไม่มีปัญญา

Submitted by canjamm on 26 เมษายน, 2014 - 10:21

       ชาวเน็ตจีนกล่าวหาองค์กรการกุศล One Foundation ของ "หลีเหลียนเจี๋ย" (Jet Li) ว่ายักยอกเงินบริจาคไปมากกว่า 300 ล้านหยวน ด้วยหลักฐานที่ว่าองค์กรได้รับเงินหลังเกิดแผ่นดินใหญ่ครั้งใหญ่เมื่อปี 2013 ไปถึง 385 ล้านหยวน แต่กลับใช้จ่ายเพื่อกิจกรรมการกุศลต่างๆ ไปเพียง 47 ล้านหยวนเท่านั้น
       
       มูลนิธิ One Foundation ที่ก่อตั้งโดย เจ็ต ลี หรือ หลี่เหลียนเจี๋ย สามารถเรี่ยไรเงินได้ถึง 385 ล้านหยวน หลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในยาอัน เมื่อเดือน เม.ย. 2013 ซึ่งทาง One Foundation ได้มีส่วนในการส่งอาสาสมัครจำนวนถึง 1,000 คน ในการช่วยค้นหาผู้รอดชีวิต และให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ด้วย
       
       แต่กลับเกิดข้อสงสัยออกมาว่า มูลนิธิของนักแสดงเจ้าของบท หวงเฟยหง อาจจะมีพฤติกรรมยักยอกทรัพย์ เพราะมีรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินเพียงแค่ 47 ล้านฯ เท่านั้น
       
       ชาวเน็ตจีนยังแสดงความเห็นว่านับจากเหตุการณ์เมื่อปี 2013 มูลนิธิต่างๆ ในจีน 219 แห่งได้รับเงินบริจาครวมกันถึง 1,696 ล้านหยวน และใช้จ่ายเงินไปทั้งหมด 645 ล้านหยวน หรือคิดเป็น 38% แต่ One Foundation กลับใช้จ่ายเงินไปแค่ 9% เท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมาก
       
       ซึ่ง หยางเผิง เลขาธิการของ One Foundation ได้อธิบายถึงข้อกล่าวหาเหล่านี้ว่าที่เห็นว่าองค์กรจ่ายเงินในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเพียง 47 ล้านหยวนฯ ก็เพราะทางองค์กรยังมีค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆ เกี่ยวกับกิจกรรมการช่วยเหลือด้านอื่นอีก นอกจากนั้นเงินส่วนใหญ่ก็ยังถูกเก็บเอาไว้สำหรับโครงการใหญ่ๆ ที่จะเป็นการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในระยะยาว ทั้งการสร้างโรงเรียน 5 แห่ง รวมถึงแผนการต่างๆ อีก ซึ่งสามารถตรวจสอบผ่านระบบข้อมูลของมูลนิธิได้อยู่แล้ว
       

Grandmaster คว้า 12 ตุ๊กตาทองฮ่องกง “น้องปอย” สวยโดดเด่นบนพรมแดง

Submitted by canjamm on 17 เมษายน, 2014 - 12:01

งานประกาศและมอบรางวัลตุ๊กตาทองฮ่องกงครั้งที่ 33 เสร็จสิ้นกันไปเรียบร้อยเมื่อค่ำคืนของวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา ด้วยชัยชนะของหนังดังแห่งปี The Grandmaster ที่คว้ารางวัลไปได้ถึง 12 สาขารวมถึงนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และสมทบชายยอดเยี่ยม ส่วน “น้องปอย” ก็มีโอกาสไปโชว์ตัวในงานครั้งนี้ด้วย

       The Grandmaster สร้างสถิติเป็นหนังที่กวาดรางวัลบนเวทีงานตุ๊กตาทองฮ่องกงไปได้มากที่สุดที่เคยมีมากถึง 12 สาขา ซึ่งเป็นการทำลายสถิติที่ Comrades: Almost a Love Story หรือ เถียน มี มี่ 3650 วันรักเธอคนเดียว เคยทำเอาไว้ด้วยการกวาดรางวัลไปทั้งหมด 9 สาขาในงานมอบรางวัลเมื่อปี 1996 นั่นเอง โดยนอกจากรางวัลด้านเทคนิค, รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยมแล้ว จางจื่ออี๋ (Zhang Ziyi) ผู้รับบทนำใน zก็คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงไปตามความคาดหมายด้วย
       
       “ขอบคุณชาวฮ่องกงทุกคนสำหรับกำลังใจ และการยอมรับครั้งนี้ด้วยค่ะ ขอบคุณนะคะคุณ เหลียงเฉาเหว่ย (Tony Leung) tไม่ว่าท้ายที่สุดแล้วใครจะได้รางวัลนักแสดงนำชายไป แต่สำหรับฉัน คุณจะเป็นนักแสดงยอดเยี่ยมเสมอ” นักแสดงสาววัย 32 ปี กล่าวหลังได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงจากบทจอมยุทธหญิงใน The Grandmaster และยังพูดต่อไปว่า “เมื่อปี 2009 หว่องกาไว (Wong Kar Wai) ติดต่อให้ฉันเล่นหนังเรื่องนี้ ตอนนั้นฉันเองดีใจมากๆ กระโดดเป็นกระต่ายเลย ไม่ใช่เพราะว่าถ้าได้เล่นหนังของเขาแล้วมีโอกาสจะได้รางวัลนะคะ แต่เพราะหนังของเขาสามารถดึงด้านที่ดีๆ ของนักแสดงออกมาได้ ตลอด 3 ปีของการถ่ายทำ ฉันได้รับประสบการณ์ต่างๆ มากมาย บางครั้งก็ต้องเช็ดน้ำตาด้วย มีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นบ่อยๆ แต่ฉันเชื่ออยู่เสมอว่าถ้าจะมีใครที่ช่วยให้ฉันลุกขึ้นอีกครั้ง และสามารถก้าวเดินต่อไปได้ คนผู้นั้นก็คือเป็น หว่องกาไว
       

ฟอร์มยักษ์เรื่องต่อไปจากจีน ฮ่องสิน (Feng Shen Bang) ได้ ซูฉี (Shu Qi) เป็นนางจิ้งจอก ต๋าจี (Daji)

Submitted by canjamm on 26 มีนาคม, 2014 - 19:35

       ดูเหมือนว่าความสำเร็จของหนัง “ไซอิ๋ว” ทั้ง 2 เวอร์ชัน กำลังจะทำให้หนังจากพงศาวดารแนวปาฏิหาริย์แฟนตาซีกลายเป็นกระแสใหม่ในวงการภาพยนตร์จีนขึ้นมาแล้ว ซึ่งล่าสุดมีข่าวว่ากำลังจะมีการนำพงศาวดารจีนเรื่อง “ฮ่องสิน” (ห้องสิน / Feng Shen Bang / 封神榜) มาสร้างใหม่ ที่จะระดมนักแสดงชื่อดังมาประชันบทบาทมากมาย
       
       หลัง ไซอิ๋ว ทั้ง 2 เวอร์ชันสามารถกวาดเงิน 1,000 ล้านหยวนไปได้ 2 ปีซ้อน ล่าสุดมีข่าวว่ากำลังจะมีผู้สร้างนำพงศาวดาร “ฮ่องสิน” หรือ “ตำนานการสถาปนาเทพเจ้าจีน” (The Investiture of the Gods / Feng Shen Yan Yi / 封神演義) มาสร้างเป็นภาพยนตร์แนวแฟนตาซีฟอร์มใหญ่ที่จะมีนักแสดงชื่อดังร่วมแสดงมากมาย อาทิ เจ็ต ลี (Jet Li / 李連杰), เหลียงเจียฮุย (Tony Leung Ka Fai / 梁家輝) และ ซูฉี (Shu Qi / 舒淇) ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนหนังน่าจะเปิดกล้องได้ในเดือน ก.ย.ที่จะถึงนี้ โดยผู้สร้างได้วางตัวให้ วิลสัน ยิป (Wilson Yip / 葉偉信) [Ip Man] และ สวีอัน (Koan Hui / 許安) [Snow Blossom] มาร่วมกันกำกับ

       ฮ่องสิน เป็น พงศาวดารที่เขียนขึ้นในยุคศตวรรษที่ 16 เพื่อเล่าเรื่องราวแนวอิงประวัติศาสตร์ในยุค 1046 ปีก่อนคริสตกาลที่ว่าด้วย กษัตริย์โจ้วอ๋อง (King Zhou of Shang) (รับบทโดย เหลียงเจียฮุย) แห่งราชวงศ์ซางผู้ชั่วร้าย ที่ทั้งกระหายเลือด, นิยมการฆ่าฟัน และหลงมัวเมาในอิสตรี โดยเฉพาะสนมเอกที่ชื่อ ต๋าจี (Da Ji) (ซูฉี) ซึ่งความจริงแล้วเป็นนางจิ้งจอกปลอมตัวมา
       

เปิดโผผู้เข้าชิง ไม้กวาดทอง (Golden Broom Awards) รางวัลแห่งความแย่วงการหนังจีน

Submitted by canjamm on 13 มกราคม, 2014 - 21:00

รางวัล "ไม้กวาดทองคำ" (Golden Broom Awards) ที่จะมอบให้กับหนัง และนักแสดง ที่น่าผิดหวังประจำปี 2014 ประกาศรายชื่อผู้มีโอกาสลุ้นรางวัลในสาขาต่าง ๆ ออกมาแล้ว และมีดาราดังได้ลุ้นรางวัลหลายคนทั้งสาวสวยชาวไต้หวัน "หลินจือหลิง" (Lin Chi Ling / 林志玲), ดาราสาวที่เพิ่งแต่งงานไป "หยางมี่" (Yang Mi / 楊冪) และดาวรุ่งมาแรง "จิงเทียน" (Jing Tian / 景甜) ส่วนฝ่ายชายก็มีทั้ง "หลิวเต๋อหัว" (Andy Lau) และ "เจินจือตัน" (Donnie Yen / 甄子丹) ที่ได้ลุ้นรางวัล
       
       ถือว่าเป็นปีที่ 5 แล้วสำหรับ รางวัลไม้กวาดทองคำ ซึ่งถูกเรียกว่า "รางวัลราสซี่แห่งจีนแผ่นดินใหญ่" ที่จะมอบให้กับผลงาน และนักแสดงที่น่าผิดหวังประจำปี โดยปีนี้มีคนดังในวงการหนังมีชื่อชิงรางวัลที่คงไม่มีใครอยากได้มากมายเช่นเคย
       
       โดยในสาขานักแสดงหญิงน่าผิดหวังแห่งปีก็มีทั้ง เฉินเหยียนซี (Michelle Chen / 陳妍希) จาก Badges of Fury (不二神探) และ Together (在一起) ที่ต้องแย่งรางวัลกับ หยางมี่ จากหนังสุดฮิต Tiny Times (小時代) ที่ทำเงินมากมาย แต่ตัวหนังและนักแสดงก็โดนจวกยับ และแน่นอนว่าสาวสวยชาวไต้หวัน หลินจือหลิง ที่ได้ชิงรางวัลนี้แทบทุกปี ก็ได้ลุ้นรางวัลจากทั้ง Sweetheart Chocolate (甜心巧克力) และ Switch (天機-富春山居圖) นอกจากนั้นดาวรุ่งมาแรง จิงเทียน ก็ชิงรางวัลจากหนัง 2 เรื่องคือ Special ID (特殊身份) และ Police Story 2013 (警察故事2013)
       

เจ็ท ลี (Jet Li) งดบู๊ ร่างเสื่อมป่วยไทรอยด์เป็นพิษ

Submitted by canjamm on 27 ธันวาคม, 2013 - 17:26

เรียกได้ว่านักแสดงชื่อดังระดับเอเชียอย่าง”เจ็ท ลี” (Jet Li) ที่โด่งดังสุดๆด้วยรูปร่างหน้าตาที่ดีและการแสดงบทบู๊ที่ดูสมจริง ล่าสุดเจ้าตัวโดนทักหนักเรื่องหุ่นเปลี่ยนไปดูบวมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก่อนยอมรับว่าตอนนี้ตนเองกำลังป่วยเพราะไทรอยด์เป็นพิษ
       
       เจ็ท ลี นักแสดงจอมบู๊ ได้เปิดเผยถึงปัญหาสุขภาพของตนเองหลังเจอแฟนๆและชาวเน็ตทักท้วงถึงรูปร่างที่ดูหนาขึ้นผิดหูผิดตา โดยเจ้าตัวยอมรับต่อสื่อว่ากำลังทนทุกข์กับโรคไฮเปอร์ไทรอยด์
       
       โดยเจ็ท ลี ได้กล่าวด้วยว่าในเวลานี้เขาไม่สามารถทำกิจกรรมที่ใช้แรงมากๆได้ และต้องการที่จะพักร่างกาย ซึ่งเขาได้ย้ำด้วยว่าเขาไม่ได้เป็นยอดนักบู๊อย่างหวงเฟยหงหรือฮั่วหยวนเจี่ย นักบู๊ในตำนานที่เขาเคยแสดงเมื่อในอดีตอีกแล้ว แต่ตอนนี้เขาเป็นเพียงคนธรรมดาๆ และเจ็บปวดกับโรคภัยต่างๆเฉกเช่นเดียวกับคนอื่นๆทั่วไป อย่างไรก็ตามเจ้าตัวก็ยืนยันว่าแม้จะป่วยหนักแต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกแย่กับโรคนี้และยังมองโลกในแง่ดีเสมอ
       
       โดยเขากล่าวอย่างยิ้มแย้มขณะไปออกรายการก่อนหน้านี้ว่า “ในที่สุดผมก็ได้แรงใจคอยเชียร์ให้ผมใส่เสื้อลายดอกนี้อย่างท่วมท้นเลย ดูเป็นไงบ้างครับ? หลังๆนี่เราได้เห็นความมุ่งมั่นของเด็กๆหนุ่มสาวมากมายตามรายการต่างๆ ซึ่งผมก็ได้นำประสบการณ์มากมายจากพวกเขามาใช้เช่นกัน
       
       โดยเจ็ท ลี ยังเผยต่อไปด้วยว่าเขาอยากให้กำลังใจคนอื่นๆจากสิ่งต่างๆที่เขาเคยประสบพบเจอมา ซึ่งเขายังเรียกร้องจากแฟนๆด้วยว่าอยากให้ทุกคน มีทัศนคติที่ดีต่อทุกๆสิ่ง “ตราบใดที่ความรักและความมุ่งมั่นปรารถนายังคงมีอยู่ ชีวิตก็จะมีสีสันเสมอ

 

 

Manager Online

เตรียมสร้าง หวงเฟยหง (Wong Fei-hung) ฉบับใหม่

Submitted by canjamm on 9 สิงหาคม, 2013 - 19:29

       เว็บไซต์ Filmbiz รายงานว่าบริษัทภาพยนตร์ Edko (安樂影片有限公司) เตรียมจะหยิบเอาเรื่องราวของ "หวงเฟยหง" (Wong Fei-hung) กลับมาสร้างเป็นหนังอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ผู้สร้างเลือกที่จะเล่าเรื่องในช่วงวัยหนุ่มของยอดจอมยุทธที่เคยมีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์
       
       โดยข่าวระบุว่าขณะนี้หนังได้รับไฟเขียวจากหน่วยงานควบคุมด้านภาพยนตร์ของรัฐบาลจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้มีการมอบหมายให้ คริสตีน ตู้ (Christine TO / 杜緻朗) ที่เคยเขียนบทหนังกังฟูดังๆ อาทิ Fearless (霍元甲 [2006]) ที่เล่าถึงเรื่องราวของ ฮั่วหยวนเจี๋ย และ True Legend (蘇乞兒 [2009]) หนังเกี่ยวกับยาจกซู ให้มารับผิดชอบบทภาพยนตร์
       
       ซึ่งตามข่าวหนัง หวงเฟงหง เรื่องใหม่จะใช้ชื่อว่า "Rise of the Legend" (黃飛鴻) และจะเน้นเรื่องราวในช่วงวัยหนุ่มของ หวงเฟยหง ก่อนที่เขาจะเติบโต และพัฒนาฝีมือจนกลายเป็นครูมวยแห่งตำนานอย่างที่ปรากฎในหนังหลายๆเรื่อง
       
       หวงเฟยหง (1847 - 1924) เป็นครูมวยผู้เชี่ยวชาญเพลงหมัดหงกวน ที่โด่งดังอยู่ในแถบกวางตุ้ง เมื่อช่วงยุคก่อนสิ้นสมัยราชวงศ์ชิง ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีการนำชีวิตของท่านมาดัดแปลงเป็นหนัง และหนังชุดเพื่อฉายทางโทรทัศน์มากมาย ทำให้มีนักแสดงชื่อดังได้สวมบทบาทเป็น หวงเฟยหง มาแล้วจำนวนไม่น้อย
       

เจ็ต ลี (Jet Li) ไฟเขียวลูกสาว เข้าวงการเตรียมเป็นสมาชิกวงไอดอล SNH48

Submitted by canjamm on 25 เมษายน, 2013 - 15:59

      นักแสดงแอ็กชั่นชื่อดังชาวจีนยืนยันว่าลูกสาวของเขาจะร่วมเป็นสมาชิก SNH48 วงน้องสาวของ AKB48 ประจำเซียงไฮ้ประเทศจีน
       
       NOWnews ยืนยันว่า เจ็ต ลี (Jet Li) หรือ หลี่เหลียนเจี๋ย ได้ตัดสินใจอนุญาตให้ลูกสาวคนโตของเขา ที่ผ่านการออดิชั่นเป็นสมาชิกรุ่นที่ 2 ของ SNH48 ได้เข้าร่วมทำงานกับวง เพื่อออกผลงานในวงการบันเทิงแล้ว
       
       SNH48 เป็นกลุ่มไอดอลสาวในเซียงไฮ้ ถือว่าเป็นวงน้องสาวของ AKB48 ประจำประเทศจีน ซึ่งเริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือน ต.ค. 2012 ด้วยสมาชิกรุ่นแรก 26 คน
       
       โดยในการให้สัมภาษณ์กับนักข่าว เจ็ต ลี บอกว่าเขาไม่อยากจะก้าวก่ายการตัดสินใจของลูก และปล่อยให้เธอได้เลือกสิ่งที่ตัวเองอยากทำเอง นอกจากจะพยายามสนับสนุนลูกให้เต็มที่ "ผมต้องยอมรับการตัดสินใจของเธออย่างใจเย็นครับ" พระเอกดังกล่าว
       
       หลี่โซ (Li Si / 李思) ลูกสาวจากภรรยาคนแรกของ เจ็ต ลี ที่กำลังจะมีอายุ 25 ปี ไม่ได้ใช้ชีวิตเติบโตขึ้นมากับผู้เป็นพ่อมากนัก ซึ่งฝ่ายของพระเอกชื่อดังก็เคยออกปาก ว่าเขาเสียใจกับเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย โดยหลังจบการศึกษาในระดับมัธยมปลาย เธอและน้องสาวได้ย้ายมาอยู่ที่สหรัฐฯ ซึ่งมีข่าวลือว่าเธอยังได้ "กรีนการ์ด" หรือ ใบอนุญาตที่รัฐบาลออกให้ชาวต่างชาติพำนักอยู่ในสหรัฐอเมริกา ด้วยความช่วยเหลือของผู้เป็นพ่อด้วย

 

 

Manager Online

เรื่องสาวๆ ของ กู่เทียนเล่อ (Louis Koo)

Submitted by canjamm on 22 มีนาคม, 2013 - 16:01

      ไม่ใช่ดาราที่มีข่าวเรื่องรักออกมาซักเท่าไหร่ แต่ล่าสุดสื่อในไต้หวันได้เปิดเผยถึงเรื่องสาวๆ ของ "กู่เทียนเล่อ" (Louis Koo) ว่าก่อนหน้านี้เขาเคยออกเดตสานสัมพันธ์กับดาราสาว "เฉินเฉี่ยวเอิน" (Joe Chen) อยู่ร่วมปี ก่อนจะแยกทางกันไป เพราะมีสาวไต้หวันอีกคนเข้ามาเป็นมือที่ 3
       
       ตามข่าว กู่เทียนเล่อ ดาราหนุ่มวัย 42 ปี มีโอกาสสานสัมพันธ์กับ เฉินเฉี่ยวเอิน สาวสวยชาวไต้หวันวัย 33 ปี ตั้งแต่ปี 2011 ก่อนจะแยกทางกันไปในปีที่แล้ว หลังที่ฝ่ายชายได้พบกับ เฉินเหยียนซี (Michelle Chen) สาวสวยชาวไต้หวันที่กำลังดังขึ้นมาอีกคน
       
       จากข้อมูลในข่าว กู่เทียนเล่อ ได้ทำความรู้จักกับ เฉินเฉี่ยวเอิน ผ่านการแนะนำของเพื่อนคนหนึ่งตั้งแต่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ก่อนจะเริ่มมาคบหากันแบบเป็นเรื่องเป็นราวในปี 2011 ก่อนจะห่างๆกันไป เพราะต่างฝ่ายต่างก็ยุ่งกับเรื่องงาน
       
       กระทั่งต่อมาชื่อของ เฉินเหยียนซี ได้ถูกนำมาโยงถึง กู่เทียนเล่อ หลังดาวตลกหญิงคนดัง อู๋จินหยู (Sandra Ng) ได้เล่าในรายการวาไรตี้โชว์ว่า เธอเพิ่งจะเป็นแม่สื่อให้ทั้งสองได้ทำความรู้จักกัน โดย กู่เทียนเล่อ ก็ค่อนข้างประทับใจในตัวสาวคนนี้ไม่น้อย และได้ไปออกเดตกับเธอหลายครั้งแล้ว
       
       ว่ากันว่าข่าวดังกล่าวถึงกับทำให้ เฉินเฉี่ยวเอิน โทรศัพท์มาถามความจริงกับกู่เทียนเล่อหลายครั้ง ซึ่งแม้เขาจะบอกไปว่าสาวคนใหม่เป็นแค่เพื่อนเท่านั้น และสุดท้ายทั้งสองก็แยกทางกันไปในที่สุด
       

มาแล้วหนังใหม่ เจ็ต ลี (Jet Li) : Badges of Fury

Submitted by canjamm on 13 กุมภาพันธ์, 2013 - 10:40

       ระหว่างงานตลาดหนัง European Film Market ได้มีการเผยภาพโปรโมตภาพแรกของหนัง Badges of Fury โดยบริษัทจัดจำหน่าย Easternlight Films ที่เป็นผลงานใหม่ของ “หลีเหลียนเจี๋ย” (Jet Li) ซึ่งครั้งนี้กลับมารับบทนำในหนังแอ็กชั่นร่วมสมัยอีกครั้ง
       
       ภาพ หลี่เหลียนเจี๋ย กับ เหวินจาง (Wen Zhang) ถือปืนและมีระเบิดอยู่ด้านหลัง ดูเป็นงานที่ให้ความรู้สึกคล้ายๆ กับหนังตำรวจคู่หูประเภท Bad Boys จากฮอลลีวูดอยู่บ้างเหมือนกัน
       
       โดยหนังเรื่อง Badges of Fury ที่เดิมเคยใช้ชื่อว่า The One Detective เป็นผลงานการกำกับเรื่องแรกของ หวางซือหมิง (Wang Zi Ming) ได้ เปาจูชุ่ย (Po Chu Chui) ที่เคยอยู่เบื้องหลัง Kung Fu Hustle และ Crouching Tiger, Hidden Dragon มาอำนวยการสร้าง ถือเป็นหนังแอ็กชั่นเรื่องล่าสุดของพระเอกกังฟู หลี่เหลียนเจี๋ย ที่ช่วงหลังๆ ลองเปลี่ยนแนวไปแสดงหนังแนวอื่นทั้ง กำลังภายใน, แฟนตาซี จนไปถึงดราม่าอยู่พักใหญ่
       

50 สุดยอดสาวสวย-หนุ่มหล่อแดนมังกรปี 2554

Submitted by canjamm on 19 พฤศจิกายน, 2011 - 17:12

หนังสือพิมพ์ซินจิงเป้าจัดอันดับ 50 บุคคลในวงการบันเทิงแดนมังกร ที่มีความสวย-หล่อในแบบต่างๆ ประจำปี พ.ศ.2554 โดยในจำนวนนั้นแน่นอนว่ามีชื่อของขาประจำอย่าง เจ้าเวย (Zhao Wei), จัง จื่ออี๋ (Zhang Ziyi), โจวซวิ่น (Zhou Xun), สี่ว์ จิ้งเหล่ย (Xu Jing Lei), ฟั่น ปิงปิง (Fan Bing Bing) และหลี่ ปิงปิง (Li Bing Bing) ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นตัวแทนความงามของสาวจีนยุคใหม่ นอกจากนี้ มุกเม็ดงามแห่งเกาะไต้หวัน ซูฉี (Shu Qi) และ หลิน จื้อหลิง (Lin Zhi Ling) ก็ติดอันดับด้วยเช่นกัน ซึ่งการจัดอันดับครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นการคัดเลือกโดยพิจารณาความสวย-หล่ออย่างรอบด้านเลยทีเดียว

แม้ว่า 50 อันดับคนเด่นส่วนใหญ่จะเป็นสาวๆ แต่ฝ่ายชายที่ติดอันดับก็มีอยู่ไม่น้อย รุ่นใหญ่ อาทิ เจียงเหวิน, เก่อโยว รุ่นรองลงมาอย่างราชานักบู๊ เจิง จื่อตัน (ดอนนี่ เยน / Donnie Yen)และ หลี่ เหลียนเจี๋ย (เจ็ทลี / Jet Li) ก็ติดอันดับเช่นกัน ส่วนรุ่นหนุ่มมีชื่อของดาราอาทิเช่น เฉินคุน, หวง เสี่ยวหมิง (Huang Xiaoming), หานเกิง (Han Geng) นอกจากนี้ยังมีดาราชายชื่อดังจากฮ่องกงและไต้หวันเช่น อู๋ เอี้ยนจู่ (แดเนียล วู / Daniel Wu), กู่ เทียนเล่อ (Louis Koo), หร่วน จิงเทียน (อีธาน / Ethan Ruan), เจ้า โย่วถิง เป็นต้น

“เจ็ต ลี” (Jet Li) ลดค่าตัวเล่นหนัง “นางพญางูขาว” แทนคุณเพื่อนเก่า

Submitted by canjamm on 26 กรกฎาคม, 2011 - 21:00

นักแสดงแอ็กชั่นชื่อดังชาวจีน “เจ็ต ลี” (Jet Li) กล่าวในการให้สัมภาษณ์ระหว่างงานเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องใหม่ The Sorcerer and the White Snake หรือ “นางพญางูขาว” ว่าเขายอมลดค่าตัวลงจากปกติ เพราะนี่คือผลงานของผู้อำนวยการสร้าง ที่มีส่วนทำให้เขาได้กลับมาโด่งดังในวงการอีกครั้งเมื่อ 20 ปีก่อน

The Sorcerer and the White Snake ผลงานเรื่องใหม่ของผู้กำกับ เฉินเสี่ยวตง ที่เคยโด่งดังมากับงานอย่าง “โปเยโปโลเย” คือการหยิบเอาตำนานอมตะอย่าง “นางพญางูขาว” กลับมาสร้างอีกครั้ง โดยงานนี้หนังได้ เจ็ต ลี หรือ หลี่เหลียนเจี๋ย มารับบทเป็น “หลวงจีนฝาไห่” ตัวละครเด่น ศัตรูของนางพญางูขาวในเรื่อง

ซึ่งในการแถลงข่าวเปิดตัวหนังเมื่อสัปดาห์ก่อน เจ็ต ลี เปิดเผยว่าเขาตัดสินใจรับงานนี้ และยังรับค่าตัวที่ต่ำกว่ามาตรฐานของตัวเอง ก็เพราะนี่เป็นงานของผู้อำนวยการสร้างหญิง เฉาเป่าจู ที่เคยอำนวยการสร้างหนังดัง Once Upon A Time In China หรือ “หวงเฟยหง” งานที่ทำให้ชื่อเสียงของ เจ็ต ลี กลับมาโด่งดังอีกครั้งเมื่อปี 1990 นั่นเอง

“เธอบอกผมว่านี่จะเป็นแค่บทรับเชิญ และใช้เวลาเข้าฉากแค่ประมาณ 10 กว่าวันน่ะครับ ซึ่งจริงๆ มันคือ 14 วัน แต่สุดท้ายการถ่ายทำส่วนของผมต้องขยายเป็น 25 วันในที่สุด” เจ็ต ลี กล่าวติดตลกถึงงานชิ้นนี้ด้วยเสียงหัวเราะ “แต่คุณจะปฏิเสธคนที่เคยช่วยเหลือคุณไว้เมื่อ 20 ปีก่อนได้ยังไง ผมได้แต่ตอบตกลงไป แต่คราวหน้าอย่ามาขอร้องกันแบบนี้อีกนะครับ”

เจ็ต ลี ที่เคยเป็นนักแสดงค่าตัวสูงที่สุดในวงการภาพยนตร์จีน กับรายรับในหนังเรื่องเดียวถึงระดับ 100 ล้านหยวน ยอมรับว่าทั้งเงินและงานหนัง ไม่ใช่เรื่องใหญ่ในชีวิตของเขาอีกแล้ว เมื่อปีก่อนเข้าตัดสินใจรับบทนำในหนัง Ocean Heaven งานแนวดราม่าเล่าเรื่องของพ่อ กับลูกชายผู้มีความผิดปกติทางสมอง เป็นหนังที่ไม่มีฉากแอ็กชั่นเลย และมีรายงานว่า เจ็ต ลี รับค่าตัวจากผลงานชิ้นนี้น้อยมากอย่างไม่น่าเชื่อ

ฟอบส์จัดอันดับ 10 คนดังจีนทำรายได้มากสุด "หลิวเต๋อหัว" (Andy Lau) ครองอันดับหนึ่ง

Submitted by canjamm on 17 พฤษภาคม, 2011 - 14:09

แม้เวลาจะผ่านไปนานเพียงใดแต่ "หลิวเต๋อหัว" นักแสดงชื่อดังแดนมังกรก็ยังคงเป็นซูเปอร์ยอดนิยมมีแฟนๆให้ความสนับสนุนไม่เคยขาด ล่าสุดฟอบส์จัดอันดับให้เป็นคนดังที่ทำรายได้มากสุดในจีนเลยทีเดียว

หลังจากที่เปิดคอนเสิร์ตกว่า 20 รอบและแสดงภาพยนตร์ไปถึง 5 เรื่องในปีที่แล้ว หลิวเต๋อหัว ได้รับการจัดอันดับจากฟอบส์ให้ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งคนดังของจีนประจำปี 2011 โดยประกาศออกมาเมื่อวันที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมา

นักแสดงหนุ่มใหญ่ชื่อดังวัย 50 ปี ยังคงมีพลังอย่างเหลือเฟือและยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องหลังจากที่เขาโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมานานกว่า 30 ปีซึ่งจากผลงานเมื่อปีที่แล้วที่เขาแสดงภาพยนตร์ไปถึง 5 เรื่องภายในปีเดียวเช่น Shaolin และ Detective Dee and the Mystery of the Phantom Flame นิยสารฟอบส์จึงได้จัดอันดับให้เขาขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง โดยดูจากรายได้ที่เขาสร้างขึ้นภายในหนึ่งปี ความนิยม และอิทธิพลในวงการบันเทิง

โดยเมื่อเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา หลิวเต๋อหัวจัดคอนเสิร์ตไปถึง 20 รอบที่ฮ่องกงโคลิเซียม เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 30 ปีในวงการบันเทิงของเขาเอง นับเป็นที่มาของรายได้และชื่อเสียงมหาศาลที่เขาได้รับในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา

โดยอันดับ 2 นั้นตกเป็นของ เจย์ โจว หรือ โจวเจี๋ยหลุน ที่สร้างกระแสและรายได้หลักจากผลงานอัลบั้มล่าสุดอย่าง The Era รวมทั้งการเล่นภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง The Green Hornet ด้วย

ทางด้านดีวาเพลงป็อปชื่อดังของจีนอย่าง เฟย์ หว่อง ก็กลับมาปล่อยผลงานเพลงอีกครั้งในปี 2010 หลังจากที่ห่างหายไปพักนานหลายปี ก็กลับมาอยู่ที่อันดับ 3

ส่วนทางด้านแจ็คกี ชาน หรือ เฉินหลง ที่ขึ้นอันดับ1 เมื่อปีที่แล้ว มาปีนี้เขาตกลงมาอยู่ที่อันดับ 4

10 อันดับคนดังจีนที่ทำรายได้และดังที่สุดประจำปี 2011
1. หลิวเต๋อหัว (Andy Lau)
2. เจย์ โจว (Jay Chou)
3. เฟย์ หว่อง (Faye Wong / Wang Fei)
4. เฉินหลง (Jackie Chan)
5. เหยาหมิง (Yao Ming)
6. เจินจื่อตัน (Donnie Yen)
7. จางจื้ออี้ (Zhang Ziyi)
8. เจ็ท ลี (Jet Li)
9. ฟ่านปิงปิง (Fan Bing Bing)
10. จ้าวเปิ่นซาน (Zhao Benshan)

"เจ็ต ลี" (Jet Li) ยืนยัน เป็นพลเมืองสิงคโปร์ เพื่อการศึกษาลูก, หนีนักข่าว

Submitted by canjamm on 26 มกราคม, 2011 - 17:39

AFP - ซุปเปอร์สตาร์กังฟูแห่งจีนแผ่นดินใหญ่ "เจ็ต ลี-หลี่เหลียนเจี๋ย" (Jet Li) ยืนยันเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ถึงการโอนสัญชาติเป็นชาวสิงคโปร์ นักแสดงวัย 47 ปี ยังกล่าวว่าต้องการให้ทายาททั้ง 2 คน เติบโตมาในสังคมที่มีสิ่งแวดล้อมที่ดี, ได้ใช้สองภาษา และไม่ถูกรังควานจากเหล่าปาปารัซซี่

"ลูกผมน่าจะได้รับการศึกษาที่ดี, ได้เรียนสองภาษา, ในสังคมที่มีเสถียรภาพมั่นคง และลูก ๆ ยังจะไม่ต้องถูกรังควานจากพวกช่างภาพ ผู้สื่อข่าวด้วย" หลี่เหลียนเจี๋ย กล่าวระหว่างงานสัมนาแห่งหนึ่งที่สิงคโปร์ นักแสดงวัย 47 ปี ยังยอมรับว่ารู้สึกแปลกใจเหมือนกัน ที่ผู้คนให้ความสนใจถึงเรื่องการย้ายถิ่นฐานของเขามากถึงขนาดนี้

"มันตลกดีเหมือนกันนะครับ ที่ผมถือพาสปอร์ตสหรัฐฯ และอยู่ที่นั่นมาเกือบ 20 ปี เต็ม แต่ไม่มีใครพูดอะไรเลย แต่พอมาที่สิงคโปร์ ทุกคนกลับสงสัยกันมาก ว่าทำไมผมถึงย้ายมาอยู่ที่นี่" ซึ่งนักแสดงชื่อดังที่มีพื้นเพเป็นชาวปักกิ่งโดยกำเนิด ไม่ได้ยืนยันว่าเขายังถือสัญชาติจีน และสหรัฐฯ อยู่อีกหรือไม่ แต่ตามกฏหมายของสิงคโปร์แล้วไม่อนุญาตให้ประชาชนถือพาสปอร์ตสองใบ

โดย เจ็ต ลี อธิบายว่าเขาตัดสินใจตั้งรกรากที่เมืองลอดช่อง เพราะเชื่อมั่นในความปลอดภัย และระบบการศึกษาของที่นี่ ซึ่งให้ความสำคัญกับการเรียนการสอน ในภาษาอังกฤษ และจีนกลาง อย่างเท่าเทียมกัน

สิงคโปร์ กลายเป็นที่สนใจของคนดัง และผู้มีอันจะกินในประเทศต่าง ๆ จากทั่วโลก เพราะชื่อเสียงด้านความปลอดภัย และอัตราการเสียภาษีที่ค่อนข้างต่ำ โดยข่าวเรื่องการโอนสัญชาติ และย้ายถิ่นฐานของ เจ็ต ลี เริ่มเป็นที่พูดถึงภายหลังมีข่าวว่าเขาจ่ายเงิน 20 ล้านเหรียญสิงคโปร์ เพื่อซื้อบ้านหลังหนึ่งที่นี่ เมื่อปี 2009

ซึ่งนอกจาก เจ็ต ลี แล้ว ในปี 2008 นักแสดงชื่อดังชาวจีนแผ่นดินใหญ่อีกคนอย่าง กงลี่ (Gong Li) ก็โอนสัญชาติเป็นสิงคโปร์ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งในครั้งนั้น กงลี่ ต้องตกเป็นเป้าถูกวิจารณ์ในแง่ลบจากชาวจีนเป็นจำนวนมาก

สำหรับในกรณีของ เจ็ต ลี เคยกล่าวว่าหัวใจของเขายังคงเป็นชาวจีน ดาราชื่อดังผู้เป็นที่รู้จักจากหนังอย่าง เสี้ยวลิ้มยี่ และหวงเฟยหง ยังก่อตั้งมูลนิธิ One Foundation เพื่อช่วยเหลือชาวจีนผู้ด้อยโอกาสในด้านต่าง ๆ รวมถึงร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากภัยธรรมชาติด้วย

"เจ็ท ลี" (Jet Li) กับบทจอมยุทธใน The Flying Swords of Dragon Gate

Submitted by canjamm on 10 มกราคม, 2011 - 13:13

"เจ็ท ลี" (Jet Li) จะกลับมาร่วมงานกับ "ฉีเคอะ" อีกครั้งในหนังกำลังภายใน The Flying Swords of Dragon Gate ผลงานเรื่องล่าสุดของยอดผู้กำกับชาวฮ่องกงที่พิเศษสุดด้วย การถ่ายทำ และเข้าฉายด้วยระบบภาพ 3 มิติ

บริษัทผู้สร้างภาพยนตร์เรื่อง The Flying Swords of Dragon Gate หนังกำลังภายในสามมิติของ ฉีเคอะ ได้เผยภาพแรกของ เจ็ท ลี หรือ หลี่เหลียนเจี๋ย ที่จะกลับมาสวมบทบาทเป็นจอมยุทธอีกครั้ง โดยในเรื่องพระเอกชื่อดังวัย 47 ปี สวมชุดที่เน้นสีดำตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เป็นเสื้อผ้าที่แฝงความเรียบง่ายแต่เคร่งขรึมเอาไว้ แม้กระทั่งกระบี่ก็เป็นแบบเรียบ ๆ

"เสื้อผ้าที่ฉูดฉาดเกินไป จะดึงดูสายตาของผู้ชมจากการแสดงของเขา ผมหวังว่าผู้ชมจะสามารถโฟกัสไปกับฉากแอ็กชั่น และลีลากระบี่ของเขาให้มากกว่า นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมลักษณะภายของตัวละครของ หลี่เหลียนเจี๋ย ถึงดูแล้วเรียบง่ายแบบนี้" ฉีเคอะอธิบาย

ผู้กำกับระดับตำนานยังกล่าวถึงการทำหนังสามมิติเป็นครั้งแรกว่า "เทคโนโลยีสามมิติจะมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับคนดูหนังกำลังภายในได้ การทำฉากแอ็กชั่นสองมิติมันเริ่มไม่ค่อยน่าสนใจแล้ว เราต้องออกแบบลีลาใหม่ ๆ เพื่อฉากแอ็กชั่นสำหรับหนังสามมิติโดยเฉพาะ"

ขณะที่ หยวนปิน ผู้กำกับฉากแอ็กชั่นชื่อดัง ที่รับหน้าที่ออกแบบลีลาพะบู๊ในหนัง ก็ยืนยันว่า เจ็ท ลี จะไม่ทำให้ทุกคนต้องผิดหวัง เขาออกแบบคิวบู๊ที่ยาก แต่ก็เหมาะสมกับฝีมือของนักแสดงชื่อดังคนนี้

The Flying Swords of Dragon Gate มีเค้าโครงเรื่องมาจาก Dragon Inn (新龍門客棧 / 新龍門客棧) หนังดังของ ฉีเคอะ ในปี 1992 (ที่หยิบเอางานคลาสสิคปี 1969 ของ คิง ฮู มาสร้างใหม่อีกต่อ) โดยฉบับปี 1992 มีนักแสดงนำได้แก่ เหลียงเจียฮุย (Tony Leung Ka-Fai), หลินชิงเสีย (Brigitte Lin Ching-Hsia), จางม่านอวี้ (Maggie Cheung Man-Yuk), เจินจื่อตัน (Donnie Yen) ขณะที่ฉบับใหม่นอกจาก เจ็ท ลี แล้วยังมี เฉินคุน (Chen Kun), โจวซวิ่น (Zhou Xun) และเกยหลุนเหมย (Guey Lun Mei) ร่วมแสดง

เจ็ท ลี วัย 47 ปี โด่งดังเป็นพิเศษกับหนังกังฟู โดยเฉพาะในงานอย่าง เสี่ยวลิ้มยี่, หวงเฟยหง, ฟงไซหยก ขณะเดียวกันเขายังเคยแสดงในหนังกำลังภายในยอดฮิต อย่าง เดชคัมภีร์เทวดา ภาค 2 เมื่อปี 1992 ซึ่งเป็นผลงานการสร้างของฉีเคอะ ด้วย

เจินจื่อตัน (Donnie Yen): กับวันที่ก้าวพ้นเงา “เฉินหลง” (Jackie Chan), “เจ็ท ลี” (Jet Li)

Submitted by canjamm on 30 กันยายน, 2010 - 16:36

นับเวลากว่า 20 ปีแล้ว ที่ “เจินจื่อตัน” (Donnie Yen) ต้องตกอยู่ใต้ร่มเงาของนักแสดงกังฟูรุ่นพี่อย่าง “เฉินหลง” (Jackie Chan) หรือรุ่นราวคราวเดียวกันอย่าง “หลี่เหลียนเจี๋ย” (Jet Li) เขาต้องรับบทรองในหนังของสองซุปเปอร์สตาร์ หรือไม่ก็เป็นดารานำในงานฟอร์มเล็กที่แทบไม่มีใครจดจำได้ แต่ตอนนี้ชื่อของนักแสดงวัย 47 ปี ได้กลายเป็นตัวเลือกแรกสำหรับทั้งผู้สร้างภาพยนตร์ชาวจีน และแฟนหนัง อาจจะเรียกได้ว่าเป็นหมายเลขหนึ่งอย่างเป็นทางการแล้ว

20 ปี ในวงการ ก่อนประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่

เจินจื่อตัน เกิดเมื่อวันที่ 27 ก.ค. 1963 ที่ กวางโจว ประเทศจีน ต่อมาครอบครัวได้ย้ายถิ่นฐานไปอาศัยอยู่ในฮ่องกงตั้งแต่เขายังเด็ก ก่อนจะย้ายบ้านอีกครั้ง โดยมีบอสตัน สหรัฐอเมริกา เป็นจุดหมายปลายทาง

นักแสดงแอ็กชั่นชื่อดังเติบโตและใช้ชีวิตช่วงเด็กจนถึงวัยรุ่นในสหรัฐอเมริกา ถูกเลี้ยงดูมาโดยบิดาผู้ประกอบอาชีพนักหนังสือพิมพ์ และมารดาที่ฝึกมวยไทเก๊กให้กับเขาตั้งแต่อายุแค่ 4 ขวบ และเจินจื่อตัน ยังฝึกฝนศิลปะป้องกันตัวอีกหลายแขนงตลอดการใช้ชีวิตในต่างประเทศ ในเวลาเดียวกันยังมีฝีมือทางเปียโน และเป็นนักเต้นเบรคแดนซ์อย่างที่เด็ก ๆ ในโลกตะวันตกหลายคนนิยมกัน แน่นอนว่าการเป็นเด็กจีนในสังคมตะวันตก ทำให้เขาเป็นแฟนตัวยงของหนังกังฟู ที่ฉายตามโรงหนังชั้นสอง และมี บรูซ ลี เป็นวีระบุรุษในดวงใจ

หลังใช้ชีวิตในบอสตันอยู่หลายปี พ่อและแม่เริ่มกังวลว่า เจินจื่อตัน ในวัยไม่ถึง 20 ปี อาจซึมซับความเป็นตะวันตกมากเกินไป จึงส่งลูกชายคนนี้กลับไปใช้ชีวิตที่เมืองจีน เพื่อเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนกังฟู Beijing Wushu Team อยู่สองปี เขาเป็นนักเรียนที่โดดเด่นคนหนึ่ง แต่การเติบโตมาในอเมริกา ก็สร้างปัญหาขึ้นบ้างเป็นครั้งคราว ในช่วงหนึ่งถึงกับมีปัญหากับครูฝึก ที่รู้สึกว่าทรงผม 'Mullet' (หน้าสั้นข้างสั้นแต่ด้านหลังปล่อยยาว) แบบวัยรุ่นยุค 80 ของหนุ่มน้อยจากบอสตันรายนี้ ดูจะไม่เหมาะสมกับการฝึกกังฟูเท่าไหร่

ภายหลังเมื่อถึงกำหนดเวลาต้องเดินทางกลับ เจินจื่อตัน ได้แวะไปที่ฮ่องกง และนั่นกลายเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต เมื่อเขาได้พบกับผู้กำกับคิวบู๊ชื่อดังนาม หยวนวูปิง ที่เป็นทั้งอาจารย์, เจ้านาย และเพื่อนร่วมงานกันไปอีกหลายปีหลังจากนั้น

เฉินเจิน (Chen Zhen) ฮีโร่กังฟู กับบทพิสูจน์ของซูเปอร์สตาร์

Submitted by canjamm on 25 กันยายน, 2010 - 16:55

ประวัติศาสตร์การถูกรุกรานของจีน นับเป็นขุมแห่งเรื่องราวมหาศาล ที่มักได้รับการหยิบยกมาบอกเล่าคุณธรรม ความรักชาติ และปกป้องศักดิ์ศรีให้ชนรุ่นหลังได้รับรู้เสมอๆ โดยเรื่องเหล่านั้นก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่ญี่ปุ่นและชาติตะวันตกจะเป็นตัวละครตรงข้าม เพราะประวัติศาสตร์ไม่อาจลบล้างสร้างใหม่ แม้ปัจจุบัน และอนาคตจะดำเนินไปในวิถีที่ต่างจากอดีตแล้วก็ตาม

ในประวัติศาสตร์เหล่านั้น ต่างดำเนินเรื่องด้วยบุคคลที่มีเลือดเนื้ออยู่จริงมากมาย ในรอบร้อยปีที่ผ่านมาก็มีอาทิ หวงเฟยฟง ฮั่วหยวนเจี่ย เฉินเจิน (อิงมาจากชีวิตของหลิว เจินเซิง ลูกศิษย์ของฮั่วหยวนเจีย) และ ยิปมัน ที่ล้วนถูกนำมาถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์และละครหลากหลายเวอร์ชั่น

ล่าสุด เฉินเจิน (Chen Zhen) ก็กลายเป็นตัวละครที่พิสูจน์ ความเป็นซูเปอร์สตาร์กังฟูไปเสียแล้ว หลังจากบรู๊ซลี ราชานักบู๊ และฮีโร่ของวัฒนธรรมจีนสวมบทไอ้หนุ่มซินตึ๊งในเรื่อง Fist of Fury (ไอ้หนุ่มซินตึ๊งล้างแค้น) ปี 1972 และต่อมา เจ็ต ลี (Jet Li) ก็ทาบรอย ใน FIST OF LEGEND (ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง หัวใจผงาดฟ้า, 1994) หรือแม้กระทั่ง เฉินหลง (Jackie Chan) ซึ่งไม่ค่อยรับบทหรือติดภาพลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ ก็ยังเคยเล่นเป็นลูกศิษย์ของเฉินเจิน ใน New Fist of Fury เมื่อปี 1976 อันเป็นการตอกย้ำความสำคัญของบทเฉินเจิน ว่า ต้องมีแต่ยอดดาราบู๊เท่านั้นที่จะได้รับเกียรติสวมบทนี้

เจิน จื่อตัน (甄子丹) หรือ ดอนนี่ เยน (Donnie Yen) นักแสดง, ผู้กำกับ และผู้ออกแบบคิวบู๊ ใช้เวลาบ่มและเปล่งรัศมีออกมาเรื่อยๆ นับแต่ บทบาทของ "ฟ้าเวิ้ง" ใน Hero "หวง จี้อิง" ใน Iron Monkey และถึงเวลาที่ความดังหยุดไม่อยู่ใน "ยิปมัน" Ip Man และ Ip Man 2

ดอนนี่เยน เคยรับบท เฉินเจิน ใน Fist of Fury (ซีรีส์) มาแล้ว แต่สำหรับฉบับจอใหญ่นี้ จะเป็นบทพิสูจน์แท้จริงของเขา ว่าสมราคานักบู๊ค่าตัวแพงที่สุดในเวลานี้หรือไม่ นอกจากนั้น Legend of the Fist: The Return of Chen Zhen ยังถือเป็นทางข้ามผ่านของ แอนดรูว์ เลา ผู้กำกับการแสดงที่โด่งดัง สร้างปรากฏการณ์ ไตรภาคภาพยนตร์รางวัลม้าทองคำ The Infernal Affairs (2 คน 2 คม) ซึ่งกำลังต้องการจะก้าวพ้นเงาแห่งความสำเร็จของอดีตที่ตนเคยทำไว้

"เจ็ต ลี" (Jet Li) เผยแต่งเมียคนแรกเพราะเรื่องโชคลาง

Submitted by canjamm on 6 กันยายน, 2010 - 01:29

ในการให้สัมภาษณ์ครั้งล่าสุด "เจ็ต ลี" (Jet Li) ออกมายอมรับว่าการเดินเข้าประตูวิวาห์กับภรรยาคนแรกของตน เกิดขึ้นจากเรื่องโชคลางเป็นสำคัญ เมื่อมีผู้ใหญ่คนหนึ่งเป็นผู้แนะว่า การแต่งงานกับเธอจะนำมาซึ่งโชค, ความรุ่งเรือง และความโด่งดังในอาชีพ สุดท้ายมันจึงเป็นชีวิตคู่ที่ต้องยุติลงในเวลาอันรวดเร็ว เพราะเขาไม่ได้รักเธอด้วยใจจริง - Channel News Asia รายงาน

ระหว่างโปรโมต Ocean Heaven ภาพยนตร์เรื่องล่าสุด เจ็ต ลี หรือ หลี่เหลียนเจี๋ย นักแสดงแอ็กชั่นชื่อดังชาวจีนแผ่นดินใหญ่วัย 47 ปี ออกมาเผยถึงความรู้สึกต่าง ๆ ต่อชีวิตแต่งงาน 2 ครั้งที่ผ่านมาของเขา โดยเฉพาะเหตุผลของการใช้ชีวิตคู่ครั้งแรก ที่พระเอกหนุ่มนักบู๊ยอมรับอย่างหน้าตาเฉยว่า เกิดขึ้นได้เพราะเหตุผลเรื่องโชคลางเป็นสำคัญ

"ผมแต่งงานกับเธอเพราะเรื่องของโชคลางน่ะครับ" นักแสดงบู๊ชื่อดังยอมรับว่า การตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ครั้งแรกของตนเอง เกิดจากความเชื่อในศาสตร์โบราณแบบจีน ที่ว่าด้วยการขจัดโชคร้ายให้ออกไปจากชีวิต ที่มีญาติผู้ใหญ่เป็นผู้ให้คำแนะนำ

เจ็ต ลี กล่าวว่าตอนที่ตัดสินใจเข้าพิธีสมรสกับ หวงชิวเหยียน (Huang Qiu Yan) ภรรยาคนแรกนั้น เป็นช่วงที่ชีวิตเขาไม่ค่อยจะลงตัวนัก, มีปัญหาทางสุขภาพ ขณะที่ชื่อเสียงความโด่งดังที่ได้รับจากหนัง เสี่ยวลิ้มยี่ ก็ดูจะหดหายลงเรื่อง ๆ จนกระทั่งคุณยายของตนเองเป็นผู้ให้แนะนำว่า การแต่งงานกับ หวงชิวเหยียน นักแสดงสาววัย 22 ปี ที่เขาสนิทสนมด้วย จากการร่วมงานกันในหนังถึง 2 เรื่อง จะสามารถเปลี่ยนแปลงโชควาสนาต่าง ๆ ในชีวิต รวมถึงทำให้กลับมาโด่งดังอีกครั้งได้

ทั้งคู่แต่งงานกันปี 1987 เมื่อฝ่ายชายมีอายุได้ 24 ปี แต่ชีวิตคู่ครั้งนั้นกลับจบลงภายในเวลาเพียงแค่ 2 ปีเศษเท่านั้น แต่กว่าจะหย่าขาดกันก็เมื่อเวลาล่วงเลยไปประมาณ 3 - 4 ปีต่อมา เจ็ต ลี ยอมรับว่าเขาไม่ได้รักผู้หญิงคนนี้อย่างจริงใจ และอธิบายว่าเธอมีความรักให้เขาอย่างเต็มรอย ตรงกันข้ามตนเองกลับสามารถรักเธอตอบได้แค่ 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

"เจ็ท ลี" (Jet Li) พักบู๊ รับบทชีวิตเป็นครั้งแรกใน "Ocean Heaven"

Submitted by canjamm on 9 มิถุนายน, 2010 - 16:34

"Ocean Heaven" จะเป็นหนังเรื่องแรกในชีวิตนักแสดงกว่า 30 ปี ของ "เจ็ท ลี" (Jet Li) ที่จะไม่มีฉากต่อสู้เลยแท้แต่วินาทีเดียวในหนัง แต่เรื่องจะเล่าเรื่องชีวิตอันรันทดของสองพ่อลูกแทน เพื่อส่งเสริมความเข้าใจต่อคนออทิสติก

พระเอกหนุ่มใหญ่ชาวจีน เจ็ท ลี ออกมาพูดถึงผลงานใหม่ของตัวเองที่มีชื่อว่า Ocean Heaven ซึ่งกำหนดเปิดฉายที่ประเทศจีนในหน้าร้อนนี้ และนับว่าเป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของดาวบู๊คนดัง กับการเล่นหนังที่ไม่มีฉากแอ็กชั่น แบบที่เคยเป็นจุดเด่นจุดขายของเขามาโดยตลอดเป็นเรื่องแรก

Ocean Heaven จะเล่าถึงชีวิตของสองพ่อลูก เจ็ท ลี จะรับบทเป็นพนักงานในสวนแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง และหวังใช้ชีวิตส่วนที่เหลือของตัวเองคอยดูแลลูกชายออทิสติก ขณะเดียวกันก็เฝ้าค้นหาแหล่งพักพิงสุดท้าย ก่อนที่โรคร้ายจะพรากชีวิตของตนไป ซึ่งในการรับบทดังกล่าวพระเอกชื่อดังต้องลดน้ำหนักถึง 8 กิโลกรัม เพื่อรับบทเป็นผู้ป่วยเลยทีเดียว

เจ็ท ลี หรือ หลี่เหลียนเจี๋ย เคยออกมาบอกกับสาธารณะชนว่า หลังจากนี้งานหลักของเขาคือการทำมูลนิธิและงานการกุศล ส่วนงานแสดงคงจะเป็นได้เพียงงานอดิเรกเท่านั้น ซึ่งกับผลงานล่าสุดพระเอกหนุ่มกังฟูวัย 47 กล่าวว่าการตัดสินใจรับหนังเรื่องนี้ของเขาเป็นเรื่องง่ายๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน "ผมไม่ได้ต้องการจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง หรือต้องการพิสูจน์อะไรเลยครับ แค่อ่านบทแล้วรู้สึกชอบ และรู้สึกว่าอยากมีส่วนร่วมในหนังเรื่องนี้เท่านั้นเอง" ซึ่งเขายังเปิดเผยว่า หลานสาวผู้เป็นเด็กออทิสติก ก็เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจในการรับบทหนังเรื่องนี้ของตัวเอง

ไม่เพียงตัวเองเท่านั้น พระเอกชื่อดังยังพยายามชักชวนคนดังคนอื่น ให้มาร่วมงานกันในหนังเรื่องนี้ รวมถึงนักร้องหนุ่มชาวไต้หวันอย่าง เจย์ โชว์ ที่จะกลับมาร้องเพลงประกอบให้กับ เจ็ท ลี อีกครั้ง หลังจากเคยร่วมงานกันในหนังเรื่อง Fearless เมื่อ 4 ปีก่อน "ทุกคนที่มาร่วมงานกันในหนังเรื่องนี้ ไม่ได้มาด้วยเหตุผลเรื่องเงิน แต่มันเป็นหน้าที่ของเรา ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ที่สามารถช่วยสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับคนออทิสติกได้"

"ฟอร์บส์" ยก "เฉินหลง" (Jackie Chan) อันดับ 1 คนดังชาวจีน ฟันรายได้เกือบพันล้านบาท

Submitted by canjamm on 30 เมษายน, 2010 - 11:49

”เฉินหลง” (Jackie Chan) กลายเป็นคนดังชาวอันดับ 1 ของนิตยสาร “Forbes” ด้วยรายได้เกือบ 200 ล้านหยวนในรออบปีที่ผ่านมา บวกกับการเป็นข่าวอย่างถี่ยิบ ในการจัดอันดับที่รวบรวมคนดังชาวจีนจากทั้ง วงการกีฬา และบันเทิงของ ไต้หวัน, ฮ่องกง, จีนแผ่นดินใหญ่

นิตยสาร Forbes ทำการจัดอันดับคนดังชาวจีนมาเป็นปีที่ 7 ติดต่อกันแล้ว ซึ่งนี่จะเป็นปีแรกที่เป็นการรวบรวมคนบันเทิงจากทั้ง จีนแผ่นดินใหญ่, ฮ่องกง และไต้หวัน เข้าด้วยกัน โดยประเมินจากทั้งรายได้ และความถี่ของการปรากฏตัวตามสื่อ เพื่อหาว่าใครกันแน่ที่เป็นคนบันเทิงเชื้อสายจีนอันดับ 1

ไม่น่าแปลกใจที่ชื่อของ เฉินหลง จะกลายเป็นอันดับ 1 ในการจัดอันดับปีนี้ของ Forbes นักแสดงวัย 56 ปี ผู้มีชื่อเสียงระดับโลก และตกเป็นข่าวไม่เว้นแต่ละวัน รวมถึงสามารถทำรายได้ไปเกือบ 200 ล้านหยวน (ประมาณ 940 ล้านบาท) ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเขา Little Big Soldier ทำรายได้ 150 ล้านหยวนเฉพาะในประเทศจีน นอกจากนั้นในวงการเพลง เฉินหลง ยังเป็นศิลปินคนแรก ที่ได้เปิดคอนเสิร์ตที่สนามกีฬารังนกอีกด้วย

สำหรับอันดับที่ 2 กลายเป็นของหนุ่ม โจวเจี๋ยหลุน หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ เจย์ โจว (Jay Chou) นักร้องคนดังจากไต้หวัน ที่ปีก่อนคนขยันคนนี้ ทำงานทั้งในวงการภาพยนตร์,เพลง และโทรทัศน์ เรียกว่าตลอดปี 2009 ชาวจีนแทบจะเจอพ่อหนุ่มคนนี้ตามสื่อต่างๆ กันเกือบทุกวันเลยทีเดียว และงานทั้งหมดในปีก่อน ก็ทำเงินทำทองให้เขาได้ถึง 120 ล้านหยวน (564 ล้านบาท) ปลายปีนี้ เจย์ โจว จะมีผลงานหนังระดับฮอลลีวูดเป็นเรื่องแรก ที่น่าจะทำให้ชื่อเสียงของเขาเป็นที่รู้จักขึ้นไปอีก

ขณะเดียวกัน โจลิน ไช่อี้หลิน (Jolin Tsai) สาวคนดังแห่งไต้หวัน อดีตคนเคยรักของหนุ่ม เจย์ ก็ยังติดอันดับมาถึงอันดับ 7 กับรายได้ 46.5 ล้านหยวน (218 ล้านบาท) และเป็นข่าวในไต้หวันตลอดทั้งปี

การถูกเปิดโปงเรื่องชีวิตสมรสเกือบตลอดช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้ภาพของ หลิวเต๋อหัว (Andy Lau) ปรากฏในสื่อจีนแบบข้ามปี จนนักร้องนักแสดงหนุ่มชาวฮ่องกง กลายเป็นคนบันเทิงอันดับ 3 ของ Forbes ซึ่งก็ไม่ใช่เฉพาะด้านฉาวเท่านั้น หนุ่มวัย 48 ปีคนนี้ยังคงทำงานแบบไม่มีหยุดไม่มี่หย่อน อย่างที่เป็นมาหลายปีแล้ว จนมีรายได้ตลอดปีถึง 86.2 ล้านหยวน (405 ล้านบาท) เลยทีเดียว

ในวันที่หนังเป็นเพียงงานอดิเรก "หลี่เหลียงเจี๋ย" (Jet Li) เผยซึนามิจุดเปลี่ยนของชีวิต

Submitted by canjamm on 25 กุมภาพันธ์, 2010 - 12:04

“หลี่เหลียนเจี๋ย” ออกมาเผยถึงสาเหตุที่เขารับงานแสดงน้อยลงในช่วงหลังๆ ว่า ในตอนนี้หนังคืองานอดิเรกเท่านั้น เพราะเขาได้ทุ่มเทกำลังกายและกำลังทรัพย์ ให้กับงานการกุศล หลังจากค้นพบสัจธรรมบางอย่างจากเหตุการณ์ซึนามิเมื่อหลายปีก่อน

ระหว่างการพบปะสื่อมวลชนครั้งล่าสุด “หลี่เหลียนเจี๋ย” นักแสดงชื่อดังที่ชาวตะวันตกรู้จักกันในชื่อว่า เจ็ท ลี (Jet Li) ปฏิเสธที่จะโพสต์ท่าตั้งการ์ดแบบเดิมๆ ให้นักข่าวถ่ายรูปอย่างที่เคยเป็นมา พร้อมกับอธิบายว่า ในโอกาสเช่นนี้ เขาไม่อยากจะทำอะไรที่เป็นการส่งเสริมความรุนแรงขึ้นมา

ในการรับมอบรางวัลจากการช่วยเหลืองานสังคมอย่างต่อเนื่องในหลายปีที่ผ่านมา หลี่เหลียนเจี๋ย นักแสดงวัย 46 กล่าวว่า พักหลังเขาหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องศาสนา และงานการกุศล และเรียกสิ่งพวกนี้ว่าเป็นงานหลัก และยังย้ำว่าสำหรับเขาในตอนนี้หนังเป็นแค่งานอดิเรกเท่านั้น

หลี่เหลียนเจี๋ยกล่าวว่า จุดเปลี่ยนในชีวิตของเขาเกิดขึ้นในปี 2004 ระหว่างการพักร้อนของครอบครัวที่หมู่เกาะมัลดีฟ ซึ่งต่อมา ได้พบกับเหตุการณ์สำคัญที่หลายๆ คนยังจำได้ เมื่อคลื่นยักษ์ซึนามิจากมหาสมุทธอินเดีย โหมเข้าถล่มชายฝั่งของหลายประเทศประเทศ อาทิ ไทย, อินโดนีเซีย, อินเดีย, ปากีสถาน และมัลดีฟที่เขาพำนักอยู่ในเวลานั้นด้วย

"มันแตกต่างจากในหนังโดยสิ้นเชิงครับ น้ำมาเร็วมาก ผมอุ้มลูกสาววัย 4 ปี ส่วนพี่เลี้ยงอุ้มลูกอีกคน เราวิ่งจากชายหาดไปที่โรงแรม น้ำขึ้นมาถึงที่เอวของผม อีกไม่กี่วินาทีก็ขึ้นมาถึงระดับหน้าอก" หลี่เหลียนเจี๋ย เล่าถึงประสบการณ์ที่เขาไม่มีวันลืม

พระเอกชาวจีนพูดถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า ทำให้เขารู้สึกว่า ความสามารถ หรือความสำเร็จใดๆ ที่เคยได้รับมา ไม่สามารถเทียบเคียงได้เลยกับพลังของธรรมชาติ ... "ทั้งเงิน, อำนาจ หรืออะไรก็ตามในโลกนี้ ไม่สามารถช่วยคุณจากคลื่นครั้งนั้นได้เลย" หลี่เหลียนเจี๋ยกล่าวว่า หลังจากนั้นเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ ไปในการศึกษาพระธรรม เดินทางไปทั่วโลก หาความหมายของชีวิต

หลังจากปรึกษากับภรรยา นีน่า ลี อดีตมิสฮ่องกง เขาบริจาคเงิน 500,000 เหรียญฮ่องกงให้กับผู้ประสบภัยซึนามิ ส่วนอีก 500,000 เหรียญฯ ใช้เป็นทุนสำหรับก่อตั้งมูลนิธิ ที่ให้ความช่วยเหลือทั้งในเรื่องภัยธรรมชาติ, การศึกษา, สุขภาพ และปัญหาสิ่งแวดล้อม

"เฉินหลง (Jackie Chan) - หลิวเต๋อหัว (Andy Lau) - เซียะถิงฟง (Nicholas Tse)" ปลุกตำนาน "เสี่ยวลิ้มยี่"

Submitted by canjamm on 26 ตุลาคม, 2009 - 14:07

สุดยอดาราฮ่องกงแห่งยุคอย่าง "เฉินหลง" (Jackie Chan) และ "หลิวเต๋อหัว" (Andy Lau) รวมถึงรุ่นใหม่ไฟแรงอย่าง “เซียะถิงฟง” (Nicholas Tse) เตรียมผนึกกำลังกัน ในการปลุกตำนานวัดเส้าหลินขึ้นมาอีกครั้ง กับการหยิบเอาหนังดังในอดีตอย่าง “เสี่ยวลิ้วยี่” กลับมาสร้างใหม่อีกครั้งด้วยหนังทุนสร้าง 1,000 ล้านบาท

เรื่องราวของวัดเส้าหลิน ศูนย์กลางแห่งวิชาหมัดมวยของจีนอันเก่าแก่กว่า 1,500 ปีจะถูกนำกลับมาสร้างเป็นภาพยนตร์อีกครั้ง โครงการหนังที่ถูกเรียกสั้นๆ ในขณะนี้ว่า Shaolin ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งนี่จะเป็นการร่วมงานกันอีกครั้ง ของสองสุดยอดดาราชื่อดังชาวจีนอย่าง เฉินหลง, หลิวเต๋อหัว ร่วมด้วยพระเอกหนุ่ม เซียะถิงฟง, ดาราบู๊จากแผ่นดินใหญ่ อู๋จิง และนางเอกสาวสวย ฟานปิงปิง (Fan Bing Bing)

วัดเส้าหลิน ถูกใช้เป็นฉากหลังในภาพยนตร์และหนังชุดมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ดาราชายชาวฮ่องกงถ้าไม่โชคร้ายจนเกินไปนัก ก็ล้วนต้องได้รับบทเป็นศิษย์ หรือผู้สืบทอดวิชา จากวัดต้นกำเนิดแห่งหมัดมวยจีนแห่งนี้มาสักครั้งด้วยกันทั้งนั้น แต่ถ้าจะพูดถึงหนังที่เกี่ยวข้องกับวัดเส้าหลินที่โด่งดัง และเป็นที่จดจำที่สุด ก็ต้องเป็นหนังดังปี 1982 The Shaolin Temple (เสี่ยวลิ้มยี่) งานที่เปลี่ยนให้ หลี่เหลียนเจี๋ย (Jet Li) แชมป์วูซู 9 สมัยของจีน กลายมาเป็นนักแสดงแอ็กชั่นผู้โด่งดังที่สุดคนหนึ่งของโลก ณ ปัจจุบัน

เสี่ยวลิ้มยี่ มีจุดขายอยู่ที่การได้รับอนุญาตให้ถ่ายทำในสถานที่จริงของวัดเส้าหลินตลอดทั้งเรื่อง จนกลายเป็นความฮือฮาในขณะนั้น หนัง Shaolin ที่กำลังจะสร้างขึ้นมาใหม่นี้ก็ได้รับอนุญาตอย่างเดียวกัน แต่ในฐานะเป็นหนังฉบับใหม่ของหนังดัง 1982 เรื่องนั้น จะมีรายละเอียดสำคัญหลายๆ อย่างที่ถูกเปลี่ยนแปลงไป Shaolin ที่กำลังจะเริ่มต้นถ่ายทำนี้ จะมีฉากหลังอยู่ในยุคสงครามกลางเมือง หรือเมื่อไม่ถึงร้อยปีที่ผ่านมานี้ แตกต่างกับในฉบับเก่า ที่เล่าเรื่องย้อนยุคไปถึงช่วงก่อนกำเนิดราชวงศ์ถัง

ที่สำคัญที่สุดก็คือ หลี่เหลียนเจี๋ย สัญลักษณ์ของหนังชุดนี้ จะไม่กลับมารับบทในหนังที่เคยสร้างชื่อให้เขาอีกแล้ว แต่หนังจะได้ดารากังฟูที่มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกันอย่าง เฉินหลง มาร่วมแสดงด้วยเป็นการทดแทน

หนังแห่งปี "The Founding of a Republic" ทำรายได้ผ่านหลัก 400 ล้านหยวน

Submitted by canjamm on 21 ตุลาคม, 2009 - 18:51

หนังจีนฟอร์มยักษ์แห่งปี "The Founding of a Republic" ที่สร้างออกมาเพื่อการฉลอง 60 ปีของสาธารณารัฐประชาชนจีน สามารถทำเงินผ่านหลัก 400 ล้านหยวนได้แล้ว และเป้าหมายต่อไปก็คือ การทำลายสถิติหนังทำเงินสูงสุดของจีนอย่าง "Transformers: Revenge of the Fallen" ที่ออกฉายเมื่อต้นปี

จากการเปิดเผยของ China Film Group บริษัททำหนังที่ใหญ่ที่สุดในจีน ตอนนี้นับถึงวันจันทร์ที่ผ่านมา The Founding of a Republic สามารถเก็บเงินไปได้ถึง 410 ล้านหยวน (ประมาณ 2,100 ล้านบาท) แล้ว ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นตัวเลขที่น้อยกว่า เจ้าของสถิติหนังทำเงินสูงสุดในจีน Transformers: Revenge of the Fallen ซึ่งสามารถกวาดเงินหยวนไปได้ถึง 430 ล้านหยวน (ประมาณ 2,200 ล้านบาท)) ที่ออกฉายเมื่อต้นปี และสามารถล้มสถิติ 11 ปีของหนัง Titanic ลงไปได้

โฆษกของ China Film Group ที่ออกมาแถลงครั้งนี้ ยังบอกว่าตามการคาดการของเขา The Founding of a Republic น่าจะสามารถขึ้นสู่ตำแหน่งแทนหนังหุ่นยนต์จากฮอลลีวูดเรื่องนั้น ซึ่งจะเป็นเรื่องน่าภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับคนจีน

The Founding of a Republic ถ่ายทอดเรื่องราวชัยชนะอันยิ่งใหญ่ ของพรรคคอมมิวนิสท์จีน ต่อก๊กมินตั๋ง ในการขึ้นสู่อำนาจการปกครองประเทศ ด้วยเนื้อเรื่องที่ยิ่งใหญ่ สามารถเรียกอารมณ์เรื่องจากผู้คนด้วยทั้งชาติ หนังยังได้รับการสนับสนุนจากดาราชื่อดังรวมถึง เฉินหลง, หลี่เหลียนเจี๋ย, หลิวเต๋อหัว และอีกนับไม่ถ้วนมาร่วมแสดงโดยไม่คิดค่าตัว กลายเป็นเครื่องดึงดูคนดูได้อย่างดี

อย่างไรก็ตามการกวาดเงินเอาชนะหนังจากต่างชาติ ไม่ใช่เป้าหมายหลักของหนังเรื่องนี้ ตัวแทนของบริษัท China Film Group กล่าวว่า "สิ่งที่เราต้องการที่สุดก็คือ กระจายหนังออกไปให้คนจีนได้มีโอกาสดีให้มากที่สุด หนังจะถูกนำไปฉายยังเขตชนบนที่ห่างใกล้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น" The Founding of a Republic กำลังกระจายไปฉายยังห้องสมุด และที่ชุมนุมของชาวบ้านในเขตที่ไม่มีโรงหนัง ขณะที่ในเมืองหนังก็ยังจะยืนโรงต่อไป "ถ้าคนยังมาดูหนังอยู่ มันก็จะฉายต่อไปเรื่อยๆ" ตัวแทนของผู้จัดจำหน่ายครั้งนี้บอก