Sean Lau (C)

        TVB เตรียมบุกวงการภาพยนตร์ฮ่องกงเต็มตัวด้วยการหยิบเอาซีรีส์สุดคลาสสิกในอดีตมาสร้างเป็นภาพยนตร์ รวมถึงซีรีส์ระดับตำนานที่สร้างปรากฏการณ์เรตติ้งถล่มทลายอย่าง "เจ้าพ่อตลาดหุ้น" ที่เคยทำให้ตลาดหุ้นฮ่องกงร่วงหลายร้อยจุด ก็กำลังจะถูกหยิบมาสร้างเป็นภาพยนตร์ด้วย
       
       TVB เพิ่งจะนำซีรีส์ เจ้าพ่อตลาดหุ้น หรือ The Greed of Man กลับมาออกอากาศใหม่ในช่วงเวลาดึก และสามารถทำยอดเรตติ้งสูงจนอย่างพอใจเฉลี่ย 5.6 จุด และช่วงที่สูงที่สุดเรตติ้งก็ทะยานไปถึง 6.4 จุดเลยทีเดียว (คิดเป็นตัวเลขผู้ชมประมาณ 360,000 คน) ซึ่งถือว่าสูงมากสำหรับซีรีส์เก่าแก่เกิน 20 ปีเรื่องนี้ นอกจากนั้นก็ยังเป็นสถิติสูงสุดสำหรับเรตติ้งของรายการช่วงดึกของ TVB ด้วย
       
       ซึ่งนอกจากเรตติ้งที่สูงมากแล้ว เจ้าพ่อตลาดหุ้น ยังกลับมาเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตฮ่องกงต่างพูดคุยกันเกี่ยวกับซีรีส์เรื่องนี้กันไปทั่วในบรรดาชุมชนออนไลน์ต่างๆ ของชาวฮ่องกง จนมีข่าวว่า TVB อาจจะหยิบซีรีส์มาสร้างเป็นภาพยนตร์ โดยข่าวระบุว่าทางสถานีโทรทัศน์ชื่อดังอาจจะเชิญ เจิ้งเส้าชิว (Adam Cheng) และ หลิวชิงหยุน (Sean Lau) ให้กลับมาแสดงในซีรีส์เรื่องนี้อีกครั้ง นอกจากนั้นก็อาจจะมีนักแสดงดาวรุ่งของสถานีทั้ง เฉินข่ายหลิน หรือ เซินลี่เสียง มาร่วมแสดงด้วย
       
       สำหรับ The Greed of Man เจ้าพ่อตลาดหุ้น เป็นซีรีส์ที่เล่าเรื่องความเปลี่ยนแปลง และเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจของฮ่องกงในระยะถึง 3 ทศวรรษ ทั้งความรุ่งเรือง และตกต่ำ รวมถึงด้านที่ฉ้อฉล เกี่ยวพันกับด้านมืดขององค์กรอาชญากรรมนอกกฎหมาย ผ่านชีวิตของตัวละครที่มีสีสันมากมาย
       

        The Golden Era ของผู้กำกับ "แอน ฮุย" คือหนังที่คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากเวทีงานมอบรางวัลภาพยนตร์ฮ่องกงครั้งที่ 34 ไปครอง ส่วน "หลิวชิงหยุน" (Sean Lau) และ "เจ้าเวย" (Zhao Wei) เป็นนักแสดงนำชาย-หญิง ยอดเยี่ยมประจำปี
       
       ภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องโศกนาฏกรรมในชีวิตของนักเขียนหญิงระดับตำนานแห่งวงการวรรณกรรมจีน The Golden Era คือหนังที่คว้ารางวัลไปถึง 5 สาขา ซึ่งถือว่ามากที่สุดในการมอบรางวัลภาพยนตร์ฮ่องกงครั้งที่ 34 ที่จัดขึ้นเมื่อค่ำคืนของวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา ทั้งรางวัลใหญ่ผู้กำกับยอดเยี่ยมของ แอน ฮุย และรางวัลใหญ่ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วย แม้สุดท้าย ทังเวย (Tang Wei) ผู้รับบทนำจะพลาดรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมไปก็ตาม
       
       โดยนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในปีนี้ตกเป็นของ "องค์หญิงกำมะลอ" เจ้าเวย กับการพลิกบทบาทในหนังเรื่อง Dearest ของ ปีเตอร์ ชาน (Peter Chan) ที่เธอต้องรับบทเป็นแม่ผู้ทนทุกข์กับการสูญเสียลูกไป
       
       ด้านนักแสดงนำชายดารามากฝีมือ หลิวชิงหยุน คว้ารางวัลได้จากหนังปิดไตรภาค Overh3ard ส่วนตัวหนังยังสามารถคว้ารางวัลนักแสดงสมทบชายโดย เจิงเจียง และรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากฝีมือของ อลัน มั๊ก และ เฟลิกซ์ ฉง ที่เคยสร้างความฮือฮาจากหนัง Infernal Affairs มาแล้วนั่นเอง
       

ภรรยาผู้อำนวยการสร้างคนดังออกมาให้สัมภาษณ์จวก “โจวซิงฉือ” (Stephen Chow) ยกใหญ่ หลังมีบทความเผยแพร่ในเน็ตที่ยกย่องดาวตลกคนดัง แต่กลับไปพาดพิงสามีของเธอ จนข้อกล่าวหาที่ว่า “โจวซิงฉือ” เป็นคนดังที่มีเบื้องหลังกับเบื้องหน้าแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงได้กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง
       
       เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีบทความที่ชื่อว่า “ทำไมใครๆ ก็เกลียด โจวซิงฉือ?” เผยแพร่ออกมาในเว็บไซต์ Art Western District ก่อนจะถูกส่งต่อไปในวงกว้าง
       
       โดยบทความที่มีความยาวประมาณ 50,000 ตัวอักษรได้เล่าประวัติส่วนตัวของดาวตลกคนดังทั้งวัยเด็ก, การทำงาน และเรื่องรัก แต่เนื้อหาส่วนใหญ่ดูจะมีจุดประสงค์เป็นการแก้ตัวให้กับ โจวซิงฉือ โดยเฉพาะประเด็นที่มีข่าวลือว่าเขาเป็นคนประเภท “หมาหัวเน่า” และ “ไม่มีใครคบ” เพราะมีนิสัยส่วนตัวที่ไม่น่าคบหา ซึ่งบทความอ้างว่าเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดเท่านั้น
       
       แต่ปัญหาของบทความกลับอยู่ตรงที่ประเด็นที่อธิบายว่า โจวซิงฉือ ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศแคนาดา เพราะเคยทำงานอยู่กับผู้อำนวยการสร้างคนดัง “เซี่ยงหัวเฉียง” ลูกชายของผู้ก่อตั้งแก๊งซันยี่อัน องค์กรนอกกฎหมายอันดับ 1 ของเกาะฮ่องกง ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทบันเทิง Win's Entertainment และ China Star Entertainment Group นั่นเอง ซึ่งเนื้อหาส่วนนี้ได้ทำให้ เฉินหลัน ภรรยาของ เซี่ยงหัวเฉียง ออกมาแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง ซึ่งเธอเชื่อว่าทีมงานของ โจวซิงฉือ เป็นคนอยู่เบื้องหลังบทความ และยังประกาศออกมาว่า “ฉันไม่กลัวที่จะมีเรื่องกับเขา และจะกระชากหน้ากากของ โจวซิงฉือ ออกมาเอง”
       

ผู้กำกับคู่ขวัญ "มาเบล เจิ้ง" และ "อเล็กซ์ หลอ" เปิดกล้องหนังใหม่ที่มี "ทังเวย" (Tang Wei) กับ "หลิวชิงหวิน" (Sean Lau) แสดงนำแล้ว พร้อมกับข่าวลือที่ว่าหนังรักย้อนยุคที่เล่าเรื่องในช่วงความวุ่นวายในประเทศจีนเมื่อปี 1930s เรื่องนี้ อาจจะเป็นหนังที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริงของพ่อกับแม่ของ "เฉินหลิง"
       
       เปิดกล้องเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ The Tale of Three Cities ของ มาเบล เจิ้ง และ อเล็กซ์ หลอ ที่ครั้งหนึ่งเคยสร้างความประทับใจให้แฟนหนังมาแล้วด้วยหนังรัก "ดอกไม้กับนายกระจอก" โดยผลงานชิ้นใหม่ของทั้งคู่จะมี หลิวชิงหลิง, ทังเวย, ฉินไห่ลู่ และจิงป๋อหรัน แสดงนำ พร้อมได้ จือหนานซุน มานั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการสร้างในเรื่องราวที่ว่าด้วยความรักของชายหญิงคู่หนึ่งในจีนแผ่นดินใหญ่ เมื่อช่วงที่ประเทศเต็มไปด้วยความวุ่นวายในยุค 1930s
       
       แต่สิ่งที่ทำให้โปรเจ็ค The Tale of Three Cities ได้รับความสนใจเป็นพิเศษก็คือ มีข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่า หนังเรื่องนี้ อันที่จริงแล้ว อ้างอิงมาจากชีวิตจริงของ ชาร์ล และ ลี่ลี่เฉิน ที่เป็นพ่อกับแม่ของ เฉินหลง (Jackie Chan) นั่นเอง โดยผู้กำกับทั้งสองไม่ได้ยอมรับหรือปฏิเสธในเรื่องนี้แต่อย่างใด
       

       "โจวซวิ่น" (Zhou Xun), "กู่เทียนเล่อ" (Louis Koo), "หลิวชิงเหวิน" (Sean Lau) และ "แดเนียล วู" (Daniel Wu) ร่วมงานฉลองปิดกล้องหนัง Overheard ภาค 3 ที่งานนี้ดาราสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ได้โอกาสยืนยันชัดเจน ว่าเธอไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับทั้ง "เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) หรือ "เหลียงเฉาเหว่ย" (Tony Leung) อย่างที่มีข่าวซุบซิบกันแน่นอน
       
       การเดินทางมาฮ่องกงทำให้สาวหน้าใสวัย 38 ปี โจวซวิ่น ต้องโดนกระแสข่าวลือจากสื่อในฮ่องกงมากมาย ทั้งที่ว่าเธอคือผู้หญิงคนใหม่ของ เซียะถิงฟง ที่ออกเดตกันมาได้ถึงร่วม 8 เดือนแล้ว ต่อมายังมีข่าวว่าอันที่จริงแล้วเธอกำลังปลูกต้นรักลักลอบมีความสัมพันธ์กับ เหลียงเฉาเหว่ย สามีของ หลิวเจียหลิง (Carina Lau) ต่างหาก
       
       และข่าวบางสำนักก็ไปไกลถึงขั้นวิเคราะห์ว่า โจวซวิ่น พยายามเข้าไปตีสนิทกับ เซียะถิงฟง ก็เพื่อทำให้ เหลียงเฉาเหว่ย หึงหวงนั่นเอง
       
       ซึ่งหลังจากปล่อยให้ผู้จัดการส่วนตัวปฏิเสธข่าวแทนมาพักใหญ่ ล่าสุดในงานอีเวนต์ดังกล่าว โจวซวิ่น จึงได้โอกาสปัดข่าวเองอย่างเป็นทางการ โดยเธอยืนยันว่าตนเองเดินทางมาฮ่องกงด้วยเหตุผลอื่น ไม่ได้มาเพราะ เหลียงเฉาเหว่ย หรือ เซียะถิงฟง แน่นอน แต่หากจะให้บอกว่าหนุ่นคนไหนทำให้เธอมาฮ่องกงจริงๆ ก็คงเป็น หลิวชิงหวิน เท่านั้นเอง
       

      ไม่ใช่ดาราที่มีข่าวเรื่องรักออกมาซักเท่าไหร่ แต่ล่าสุดสื่อในไต้หวันได้เปิดเผยถึงเรื่องสาวๆ ของ "กู่เทียนเล่อ" (Louis Koo) ว่าก่อนหน้านี้เขาเคยออกเดตสานสัมพันธ์กับดาราสาว "เฉินเฉี่ยวเอิน" (Joe Chen) อยู่ร่วมปี ก่อนจะแยกทางกันไป เพราะมีสาวไต้หวันอีกคนเข้ามาเป็นมือที่ 3
       
       ตามข่าว กู่เทียนเล่อ ดาราหนุ่มวัย 42 ปี มีโอกาสสานสัมพันธ์กับ เฉินเฉี่ยวเอิน สาวสวยชาวไต้หวันวัย 33 ปี ตั้งแต่ปี 2011 ก่อนจะแยกทางกันไปในปีที่แล้ว หลังที่ฝ่ายชายได้พบกับ เฉินเหยียนซี (Michelle Chen) สาวสวยชาวไต้หวันที่กำลังดังขึ้นมาอีกคน
       
       จากข้อมูลในข่าว กู่เทียนเล่อ ได้ทำความรู้จักกับ เฉินเฉี่ยวเอิน ผ่านการแนะนำของเพื่อนคนหนึ่งตั้งแต่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ก่อนจะเริ่มมาคบหากันแบบเป็นเรื่องเป็นราวในปี 2011 ก่อนจะห่างๆกันไป เพราะต่างฝ่ายต่างก็ยุ่งกับเรื่องงาน
       
       กระทั่งต่อมาชื่อของ เฉินเหยียนซี ได้ถูกนำมาโยงถึง กู่เทียนเล่อ หลังดาวตลกหญิงคนดัง อู๋จินหยู (Sandra Ng) ได้เล่าในรายการวาไรตี้โชว์ว่า เธอเพิ่งจะเป็นแม่สื่อให้ทั้งสองได้ทำความรู้จักกัน โดย กู่เทียนเล่อ ก็ค่อนข้างประทับใจในตัวสาวคนนี้ไม่น้อย และได้ไปออกเดตกับเธอหลายครั้งแล้ว
       
       ว่ากันว่าข่าวดังกล่าวถึงกับทำให้ เฉินเฉี่ยวเอิน โทรศัพท์มาถามความจริงกับกู่เทียนเล่อหลายครั้ง ซึ่งแม้เขาจะบอกไปว่าสาวคนใหม่เป็นแค่เพื่อนเท่านั้น และสุดท้ายทั้งสองก็แยกทางกันไปในที่สุด
       

       นักแสดงจากฮ่องกง หลิวชิงหวิน (Sean Lau / 刘青云) และ กุ้ยหลุนเหม่ย (Gwei Lun-mei / 桂綸鎂) สาวไต้หวัน คือผู้คว้ารางวัลนักแสดงนำชายและหญิงของงาน "ม้าทองคำ" (金馬獎) ครั้งที่ 49 ซึ่งประกาศกันไปเมื่อค่ำคืนวันเสาร์ที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา
       
       หลิวชิงหวิน ได้มีโอกาสขึ้นรับรางวัลทางการแสดงอีกครั้ง กับบทบาทในหนัง Life Without Principle ที่งานนี้มีภรรยาคนสวย กัวอ่ายหมิง (Amy Kwok / 郭蔼明) ที่ถึงกับหลั่งน้ำตา ร่วมดีใจอยู่ข้างๆ ... "ตอนผมได้ยินว่าตัวเองคือผู้ได้รับรางวัล ผมได้แต่มองไปที่เธอ เธอที่เป็นคนจัดแจงทุกอย่างให้กับผมในวันนี้ เธอคงจะดีใจมาก" หลิวชิงหวิน ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีตัวอย่างแห่งวงการบันเทิงฮ่องกง กล่าวหลังได้รับประกาศชื่อให้คว้ารางวัลในปีนี้
       
       ในสาขานักแสดงนำหญิงตกเป็นของสาวขวัญใจชาวไต้หวัน กุ้ยหลุนเหม่ย วัย 28 ปี ที่เอาชนะตัวเต็งอย่าง เหาเล่ย (Hao Lei / 郝蕾) มาได้ด้วยบทบาทการแสดงในหนังที่ว่าด้วยประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของไต้หวัน GF-BF และยังถือเป็นรางวัลทางการแสดงรางวัลแรก ของหญิงสาวที่โด่งขึ้นมาเมื่อร่วม 10 ปีก่อนจากหนัง Blue Gate Crossing ที่ตอนนั้นอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น นอกจากนั้นเธอยังเป็นสาวไต้หวันคนแรกในรอบ 7 ปี ที่คว้ารางวัลม้าทองคำสาขานักแสดงนำหญิงได้ หลังจาก ซูฉี (Shu Qi) เคยทำได้เมื่อปี 2005

       โดย Life Without Principle เป็นหนังที่เล่าเรื่องของนักเลงรุ่นใหญ่ ที่พยายามทวงเงินคืน จากพวกปล่อยเงินกู้ผิดกฏหมาย ส่วน GF-BF (Girlfriend-Boyfriend) เป็นหนังที่เสนอภาพความเปลี่ยนแปลงของไต้หวันผ่านช่วงเวลาหลายทศวรรษ ผ่านตัวละครชายหญิงคู่หนึ่ง