ข่าวจีน

สุดท้ายเป็นนักศึกษาปริญญาโท วัย 26 ปี ตัวแทนของฮ่องกง และ มาเก๊า ที่สามารถคว้ามงกุฎ “มิสเอเชีย” ในการประกวดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ส่วนสาวไทยคว้าตำแหน่งนางงามมิตรภาพ

      หลังใช้เวลาเตรียมงาน และคัดเลือกสาวงามผู้เข้าประกวดถึง 6 เดือนเต็ม การประกวดรอบสุดท้ายของเวทีสาวงาม มิสเอเชีย 2012 ของสถานีโทรทัศน์ ATV ที่มีเป้าหมายค้นหาสาวงามประจำทวีป ได้มีขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 21 ม.ค.2013 ที่ผ่านมา
       
       และเป็น เอมี เฉิน (Amy Chen / 陳彥蓉) ตัวแทนของฮ่องกง และมาเก๊า ที่คว้าตำแหน่ง มิสเอเชีย ไปได้ สามารถเอาชนะตัวเต็งอย่าง แอนนี ฉี (Annie Qi / 齊真晨) ที่สุดท้ายทำดีที่สุดเพียงตำแหน่งรองอันดับ 1 ส่วนรองอันดับ 2 เป็นของ สเว็ตลานา กูลาโควา (Svetlana Gulakova / 絲域蘭娜 古拉高華) ตัวแทนอินเดีย ที่ได้ตำแหน่งไป
       
       นอกจากมงกุฎมิสเอเชียแล้ว เอมี ยังคว้าตำแหน่งสาวงามเจ้าเสน่ห์ไปอีกรางวัลด้วย โดยเธอกล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่าหลังคว้าตำแหน่งได้แล้ว ก็อยากจะลองเข้าวงการบันเทิงดูบ้าง อย่างไรก็ตาม สาวเอมีซึ่งมีพื้นเพมาจากไต้หวัน ยังกล่าวว่าสิ่งที่เธอกำลังมุ่งมั่นที่สุดในตอนนี้ก็คือ การฝึกพูดภาษาจีนกวางตุ้งให้คล่องนั่นเอง
       

ดาราสาว "จงเจียซิน" (Linda Chung / 鍾嘉欣) และเพื่อนๆอีก 4 สาวที่ได้ชื่อว่าเป็น "สาวบริสุทธิ์แห่งสังกัดทีวีบี" กลังจะมีแผนรวมกลุ่มออกผลงานเพลงด้วยกัน ภายใต้แนวคิดที่คงจะเป็นข่าวใหญ่ กับการเป็น "เกิร์ลกรุ๊ปสาวบริสุทธิ์"
       
       มีดาราสังกัดสถานีโทรทัศน์ทีวีบีแห่งฮ่องกงจำนวนไม่น้อยที่ลองออกผลงานเพลงดู แต่ที่ประสบความสำเร็จกลายเป็นนักร้องเต็มตัวก็ถือว่ามีอยู่ไม่มากนัก แต่อย่างน้อยที่ถือว่ารุ่งก็ต้องนับสาวสวย จงเจียซิน อดีตมิสฮ่องกงไว้คนหนึ่งด้วย เพราะตอนนี้เธอมีอัลบั้มเพลงออกมาถึง 4 ชุดแล้ว
       
       ซึ่งล่าสุดเธอยังเปรยถึงแผนการในปีนี้ ว่าอยากจะจัดคอนเสิร์ตเดี่ยวของตัวเองดูเป็นครั้งแรก นอกจากนั้นยังอยากจะรวมกลุ่มเพื่อนๆ นักแสดงสาวอดีตนางงามในสังกัดทีวีบี มาทำเพลงร่วมกันด้วย ซึ่งก็คงเป็นประเด็นให้พูดถึงกันไม่น้อย เพราะข่าวระบุว่าอาจจะมีการใช้จุดขายที่สมาชิกแต่ละคนของวงยังเป็นสาวบริสุทธิ์กันล้วนๆ มาเป็นตัวสร้างกระแสเรียกร้องความสนใจด้วย
       
       เกิร์ลกรุ๊ปสาวบริสุทธิ์
       
       Face Magazine อ้างว่าตัวของ จงเจียซิน ได้เอ่ยปากขอกับ เฮอร์มัน โห (Herman Ho / 何哲圖) ซีอีโอ Stars Shine International ต้นสังกัดของเธอไปแล้ว ว่าอยากจะชวนเพื่อนร่วมสังกัดทีวีบี 4 คน ไม่ว่าจะเป็น ลี่ย่าหนาน (Leanne Li / 李亞男), เกรซ หว่อง (Grace Wong / 王君馨), เกาหยวนฮุ่ย (Christine Kuo / 苟芸慧) และ เซินลี่เสียง (Eliza Sam / 岑麗香) มาร่วมออกผลงานเพลงกัน โดยทั้ง 5 ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนสนิทที่ซี้สุดๆ นอกจากนั้นยังถูกตั้งฉายาโดยสื่อว่าเป็น "สาวบริสุทธิ์ทั้ง 5" แห่งครอบครัวทีวีบีด้วย

สองปีผ่านไป หลังจาก เซลิน่า (Selina Jen / 任家萱) ประสบอุบัติเหตุไฟไหม้ระหว่างการถ่ายทำ ณ ตอนนี้ แพทย์ของเธออนุญาตให้เธอหยุดใส่ผ้ารัด (Pressure Garment) ที่ขาของเธอตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม เธอกล่าวว่า เธอกังวลมากกว่าที่จะดีใจ "การเปิดเผยแผลเป็นต่อสาธารณะเป็นอะไรที่ท้าทายสำหรับฉัน"

นอกจากอาการคันและผิวหนังอุดตัน (Dermathemia / Congested Skin) ที่ลดลงแล้ว ผลตรวจทางการแพทย์ระบุว่า บาดแผลของเธอกำลังกลับมาดีขึ้น เซลิน่าวัย 31 ปี ซึ่งเคยผ่าตัดย้ายผิวหนังที่ขาของเธอมา ยังคงรอคอยวันที่เธอจะหยุดสวมใส่น้ำยาหล่อลื่นซิลิโคน, ถุงน่อง และผ้ารัด

"ฉันจะไม่โชว์ขาของฉันอยู่ตลอดเวลา ฉันจะใส่กางเกงขายาวเพื่อป้องกัน (ผิวหนัง)" เธอกล่าว

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับแผนการณ์ที่จะมีลูกกับสามีของเธอ เซลิน่ากล่าวว่า พวกเขาตั้งใจจะให้เป็นไปตามธรรมชาติ และปฎิเสธอย่างอายๆที่จะให้ข่าวอะไรเกี่ยวกับชีวิตคู่แต่งงานของเธอมากไปกว่านี้

xin.msn

แม้เจ้าตัวจะยอมรับว่าเคยฝันเอาไว้ว่าอยากจะมีลูก แต่ "หลิวเจียหลิง" (Carina Lau) กับ "เหลียงเฉาเหว่ย" (Tony Leung) ที่อายุเข้าสู่เลข 4 ปลายๆ และเลข 5 กันแล้ว ก็ยอมรับว่าคงเป็นเรื่องยากแล้วสำหรับการมีทายาท และพวกเขาก็คงปล่อยเรื่องนี้ให้เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่หวังพึ่งวิธีทางวิทยาศาสตร์ใดๆ
       
       หลิวเจียหลิง วัย 47 ปี กล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่าเธอคงจะไม่พึ่งวิธีผสมเทียม หรือการอุ้มบุญ สำหรับการมีทายาทอย่างแน่นอน และคงปล่อยให้เรื่องนี้เป็นไปตามโชคชะตา "โทนี (เหลียงเฉาเหว่ย) กับฉันเคยคุยกันถึงเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะถึงสมัยนี้เรายังอาจจะมีลูกได้ด้วยเทคโนโลยีต่างๆ แต่เราเองก็รู้สึกมีความสุข กับชีวิตที่เป็นไปตอนนี้อยู่แล้ว"
       
       "ซึ่งเราก็จะไม่ตกใจ หากเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นมา ถ้านั่นเป็นการจัดการของพระผู้เป็นเจ้าค่ะ" หลิวเจียหลิง กล่าว
       
       ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือว่าหลังแต่งงานกันเมื่อปี 2008 หลิวเจียหลิง และเหลียงเฉาเหว่ย เคยพยายามอย่างหนักเพื่อการมีทายาท อาศัยทั้งวิธีทางวิทยาศาสตร์ และเรื่องโชคลาง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ประสบความสำเร็จเสียที สุดท้ายเธอจึงขอยอมแพ้
       
       เมื่อเร็วๆนี้ เหลียงเฉาเหว่ย ก็ยังเปรยถึงเรื่องนี้ ว่าถึงจะได้แสดงเป็นพ่อในหนัง The Grandmasters แต่สำหรับชีวิตจริง เขากลับไม่เคยมีความคิดอยากเป็นพ่อคนแต่อย่างใด
       

       ดูจะเกิดปัญหาขึ้นกับดาราสาวชาวไต้หวัน “แอนนี อี้” (Annie Yi / 伊能靜) เสียแล้ว เมื่อเธอออกมากล่าวสนับสนุนหนังสือพิมพ์แนวเสรีนิยม “Southern Weekly” ที่มีปัญหากับรัฐบาลจีนอย่างต่อเนื่อง จนสร้างความกังวลในหมู่แฟนๆ ว่า ดาราวัย 42 ปีอาจพบอุปสรรคในการเข้าไปทำงานที่จีนต่อไป
       
       มีรายงานว่า ดารานักร้องสาวชาวไต้หวัน แอนนี อี้ โดนเรียกตัวไปสอบสวนหลังจากเธอแสดงความเห็นสนับสนุนหนังสือพิมพ์ Southern Weekly ที่มีจุดยืนในทางเสรีนิยม และเรียกร้องให้มีการให้ความสำคัญกับสิทธิด้านการแสดงออกในประเทศจีนมากขึ้น
       
       โดยข่าวระบุว่าบรรดาญาติๆ และคนใกล้ชิดไม่สามารถติดต่อดาราสาวได้อยู่ช่วงใหญ่ๆ จนเริ่มวิตกกังวลกัน กระทั่งเธอได้ส่งข้อความยืนยันว่าตัวเองยังคงปลอดภัยดี และทุกอย่างก็กลับคืนสู่ปกติแล้ว หนังสือเล่มใหม่ Fall in Love with Body (跟身體談戀愛) ที่เธอเผยถึงเคล็บลับความงาม และโชว์เรือนร่างสุดเซ็กซีในวัยสี่สิบเศษของเธอก็จะวางแผงเหมือนเดิม ไม่มีปัญหาใหญ่อย่างที่หลายคนกลัวกัน
       
       เป็นที่รู้ดีอยู่แล้วสำหรับการแสดงความเห็นอันเผ็ดร้อนต่อเรื่องต่างๆ ของดาราวัย 43 ปี รวมถึงครั้งล่าสุดที่เธอเปรยออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ตนเองสนับสนุนสื่อที่มีปัญหากับรัฐบาลจีนอย่าง Southern Weekly เต็มที่ และเรียกสื่อของรัฐบาลว่าเป็นพวก “สุนัขรับใช้”
       

ประกาศออกมาแล้วสำหรับผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิง “รางวัลภาพยนตร์เอเชียครั้งที่ 7” โดยหนังจีนแผ่นดินใหญ่ Mystery และหนังแก๊งสเตอร์จากเกาหลี Nameless Gangster: Rules of the Time ได้ชิงรางวัลมากที่สุดเรื่องละ 6 สาขา
       
       โดยในปีนี้มีหนัง 5 เรื่องจาก 4 ประเทศ ที่ได้ชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ได้แก่ Mystery หนังแนวระทึกขวัญของ โหลวเย่ และ เหาเหล่ย ที่เคยสร้างความฮือฮาให้กับโลกภาพยนตร์ด้วยกันใน Summer Palace เมื่อหลายปีก่อน, Drug War จากจีนแผ่นดินใหญ่ฝีมือของผู้กำกับชาวฮ่องกง ตู้ฉีฟง, Gangs of Wasseypur, Part 1 & 2 งานแนวอาชญากรรมจากอินเดีย, Outrage Beyond หนังยากูซาผลงานล่าสุดของ ทาเคชิ คิตาโนะ และ Pieta หนังดังของผู้กำกับ คิมคีดุ๊ก ที่เคยคว้ารางวัลที่เทศกาลหนังเมืองเวนิสมาแล้ว
       
       รางวัลภาพยนตร์เอเชียครั้งที่ 7 ของสมาคมเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติฮ่องกง มีกำหนดประกาศรายชื่อผู้ชนะได้รับรางวัลในวันที่ 18 มี.ค.โดยในการเผยรายชื่อผู้ชิงรางวัลทั้งหมดใน 14 สาขา หนึ่งในคณะกรรมการอย่าง หลิวเต๋อหัว (Andy Lau) ยังมาร่วมแถลงข่าวด้วย
       
       พระเอกคนดังที่เพิ่งจะได้มีโอกาสทำหน้าที่กรรมการรางวัลม้าทองคำมาหมาดๆ ยังกล่าวว่าตอนนี้เขาเริ่มชินและไม่เครียดกับการทำหน้าที่ตัดสินให้รางวัลหนังเรื่องต่างๆ แล้ว และยอมรับว่าวงการหนังฮ่องกงค่อนข้างจะตกต่ำในระยะหลัง ในปีนี้ก็มีเพียง เหลียงเจียฮุย เป็นตัวแทนจากหนังฮ่องกง ที่ได้ชิงรางวัลนักแสดงนำชายจาก Cold War เท่านั้น “ทำงานกันให้หนักขึ้นในอีกหนึ่งปีข้างหน้า ความรุ่งเรือง, ความตกต่ำเรื่องธรรมดาครับ”
       

       เอเยนซี-หลังจาก "เหรินไจ้จย่งถูจือไท่จย่ง (人再囧途之泰囧)" หรือ Lost in Thailand ภาพยนตร์จีนแนว road movie ฟอร์มเล็กที่ลงจอฉายในจีนเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2012 ได้ทุบสถิติรายได้สูงสุดของหนังสัญชาติจีน แซงหน้าแชมป์เก่าอย่าง "ฮว่าผี ภาค2 (画皮2)" หรือ Painted Skin 2 : The Resurrection ในขณะที่เพิ่งเข้าฉายได้เพียง 2 สัปดาห์ เมื่อวันอาทิตย์ (12 ม.ค.) ที่ผ่านมา และได้สร้างความแปลกใจให้วงการภาพยนตร์อีกครั้ง ด้วยการขึ้นแท่นอันดับหนึ่งแห่งประวัติศาสตร์บ็อกซ์ออฟฟิศ แซงหน้าหนังฮอลลีวู้ด แชมป์เก่าอย่าง Titanic 3D ด้วยรายได้ ณ ห้องขายตั๋วกว่า 1,200 ล้านหยวน (6 พันล้านบาท)

       เหรินไจ้จย่งถูจือไท่จย่ง (人再囧途之泰囧) หรือ Lost in Thailand เป็นหนังภาคต่อของ เหรินไจ้จย่งถู (人再囧途 : Lost On Journey) ปี 2553 ซึ่งกำกับและนำแสดงโดย สูเจิง (徐峥) พร้อมดาวตลกคู่หู หวัง เป่าเฉียง (王宝强) และ ฮวาง ปั๋ว (黄渤) เช่นเคย หนังตลกผจญภัยเรื่องนี้พาผู้ชมชาวจีนเดินทางออกจากแผ่นดินใหญ่สู่เมืองไทย ผ่านเรื่องราวของสองผู้จัดการหนุ่มที่มีความเห็นไม่ลงรอยกันเกี่ยวกับงานวิจัยผลิตภัณฑ์ประหยัดน้ำมันที่บริษัทคิดค้นขึ้น คนหนึ่งต้องการขายลิขสิทธิ์ให้บริษัทในฝรั่งเศส ขณะที่อีกคนต้องการวิจัยต่อเพื่อหวังผลระยะยาว แต่ผู้ที่จะตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไร คือ ประธานบริษัทที่พักผ่อนอยู่ในเมืองไทย ทั้งสองจึงต้องเดินทางมาเมืองไทยเพื่อแข่งกันเสนอความคิดและโน้มน้าวท่านประธาน และในระหว่างนี้เองที่ทั้งสองจะได้พบกับชีวิตที่หลุดกรอบ ทั้งบู๊กับมวยไทย ผจญภัยกับช้าง เพลินกายกับนวดแผนไทย เพลินตากับสาวไทย และเพลินใจกับสาวประเภทสอง ฯลฯ

“เฉินหลง” (Jackie Chan) นักแสดงดาวบู๊ชื่อดัง เปิดปากเผยถึงเรื่องประเด็นการเมืองให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้งแล้ว โดยล่าสุด เจ้าตัวพูดถึงพี่ใหญ่อเมริกาว่าเป็นประเทศที่มีการคอร์รัปชันมากที่สุดในโลก ทำเอาชาวมะกันถึงขั้นรับไม่ได้กันเลยทีเดียว
       
       เฉินหลง ที่กำลังมีผลงานล่าสุดอย่าง Chinese Zodiac และมีชื่อเสียงอย่างมากในอเมริกาได้ทำให้แฟนๆ ชาวมะกันของเขาออกอาการไม่ปลื้มแล้ว หลังการวิพากษ์วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนของเขา
       
       โดยระหว่างให้สัมภาษณ์ เฉินหลง ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า “ถ้าคุณพูดถึงเรื่องการคอร์รัปชัน ทั้งโลกนี้เลยนะ คุณว่าอเมริกาไม่มีการคอร์รัปชันเลยหรือไง?” จากนั้นเฉินหลงยังกล่าวเพิ่มเติมถึงอเมริกาอย่างเผ็ดร้อนว่า อเมริกานี่แหละเป็นประเทศที่มีการคอรัปชันมากที่สุดในโลกแล้ว
       
       “วิกฤตทางการเงินที่ยิ่งใหญ่นี้มันกำเนิดมาจากที่ไหนล่ะ? มันเริ่มต้นอย่างเห็นได้ชัดว่ามาจากโลกที่เรียกว่าอเมริกา เมื่อครั้งที่ผมเคยให้สัมภาษณ์ในอเมริกา มีคนถามผมผมก็พูดแบบเดียวกันนี่แหละ” นักแสดงดาวบู๊ ยังกล่าวต่อไปด้วยว่า “ผมพูดเลยว่าตอนนี้จีนกำลังแข็งแกร่ง ทุกๆคนต่างก็ตั้งประเด็นเกี่ยวกับจีน ถ้าคนในประเทศเราไม่สนับสนุนประเทศของเราเองแล้วใครจะมาสนับสนุนประเทศเราล่ะครับ? เรารู้ดีว่าประเทศเรามีปัญหามากมาย เราสามารถพูดเรื่องพวกนี้ได้เป็นการภายใน แต่กับคนนอกเราจะพูดว่าประเทศเราเยี่ยมยอดที่สุดแล้ว”
       

       ถึงแม้จะโชคร้ายได้รับบาดเจ็บระหว่างถ่ายทำหนัง แต่อย่างไรเสียปี 2012 ยังถือว่าเป็นปีที่ดีของพระเอกหนุ่ม "หวงเสี่ยวหมิง" (Huang Xiao Ming) ที่สามารถขึ้นแท่นเป็นนักแสดงผู้มีรายได้สูงสุดในประเทศได้สำเร็จ
       
       Jayne Stars เปิดเผยว่าตลอดปี 2012 ดาราหนุ่มชื่อดัง หวงเสี่ยวหมิง วัย 35 ปี มีรายได้ถึง 392 ล้านหยวน (ประมาณ 1,909 ล้านบาท) โดยเป็นรายได้จากการแสดงในหนังถึง 8 เรื่อง, ซีรีส์อีกหนึ่งเรื่อง นอกจากนั้นยังมาจากการลงทุนในธุรกิจบันเทิง รวมไปถึงหุ้น และอสังหาริมทรัพย์ ผ่านบริษัทที่เขาเพิ่งตั้งขึ้นมาด้วย
       
       ส่วนอันดับ 2 เป็นนักแสดงหนุ่ม อู๋ฉีหลง (Nicky Wu) ที่มาโด่งดังเป็นพลุแตกเมื่อวัย 40 ปีนี่เอง ที่ไม่ใช่เพียงแค่งานแสดงเท่านั้น แต่ผลงานการสร้างซีรีส์ด้วยบริษัทของตัวเอง 2 เรื่องในปีที่ผ่านมาซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ The Bride with White Hair ยังทำให้ดาราชาวไต้หวันคนนี้มีรายได้ในช่วงปี 2012 ถึง 200 ล้านหยวน (974 ล้านบาท)
       
       ในอันดับ 3 เป็นฝ่ายหญิงกันบ้าง และคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ดาราสาวคนดัง ฟั่นปิงปิง (Fan Bing Bing) ซึ่งในปี 2012 ทำเงินไปถึงเกือบ 200 ล้านหยวน สามารถพาหนังหนังระทึกขวัญฟอร์มไม่ใหญ่นักอย่าง Double Xposure ที่เธอทั้งแสดงนำ และอำนวยการสร้างทำเงินไปถึง 100 ล้านหยวน นอกจากนั้นบริษัท Fan Bingbing Studio ก็ยังไปได้สวย
       
       และอันดับ 4 เป็น หลี่ปิงปิง (Li Bing Bing) ที่ทำรายได้ในปี 2012 ไป 180 ล้านหยวน (876 ล้านบาท) จากงานแสดงและโฆษณา ส่วนอันดับ 5 เป็น หลินซินหยู (Ruby Lin) ที่ขึ้นแท่นเป็นผู้สร้างซีรีส์อีกคน ก็ทำรายได้ไปถึง 90 ล้านหยวน (438 ล้านบาท)
 

Manager Online

      เอเอฟพี - นักดูหนังในจีนแผ่นดินใหญ่จ่ายเงินค่าตั๋วหนังรวมกันถึง 17,000 ล้านหยวน (82,800 ล้านบาท) ในตลอดปี 2012 จนทำให้จีนกลายเป็นตลาดหนังที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลกอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม ปีที่ผ่านมาหนังท้องถิ่นของจีน ยังพ่ายแพ้ เสียส่วนแบ่งการตลาดครึ่งหนึ่งให้กับหนังต่างประเทศเป็นครั้งแรกด้วย
       
       สำนักงานวิทยุ, ภาพยนตร์ และโทรทัศน์แห่งรัฐฯ (SARFT) ยังเปิดเผยว่า ยอดรายได้ของวงการหนังจีนในปี 2012 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 30% เป็นอัตราการเจริญเติบโตที่รวดเร็วมากของตลาดหนังจีน จนกลายเป็นเป้าหมายใหม่ของบรรดาผู้สร้างในฮอลลีวูด แม้จีนจะยังคงมีกฎระเบียบเกี่ยวกับการฉายหนังต่างประเทศที่เข้มงวดก็ตาม
       
       ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จีนมีนโยบายจำกัดจำนวนหนังต่างประเทศที่จะได้เข้าโรงฉายในแต่ละปี อย่างไรก็ตาม หลังมีการกดดันกันมาพักใหญ่ เมื่อปีก่อนจีนได้ยอมตกลงที่จะเพิ่มจำนวนโควต้าของการฉายหนังจากสหรัฐฯ จากเดิมปีละ 20 เรื่อง เป็น 34 เรื่อง ส่วนหนังที่สร้างโดยคนทำหนังจีนเองที่ฉายตลอดปี 2012 ก็มีมากถึง 893 เรื่อง เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โรงภาพยนตร์จีนสามารถเก็บเงินได้มากมายตลอดปีที่แล้ว
       
       และถึงจำนวนหนังต่างประเทศที่ได้รับอนุญาตให้ฉายในโรงภาพยนตร์จีนจะยังมีอยู่ไม่มากนักเมื่อเทียบกับหนังท้องถิ่น แต่ก็ยังกินส่วนแบ่งการตลาดถึง 51% ถือว่าเป็นการเอาชนะหนังท้องถิ่นของจีนได้เป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี ส่วนหนังฮอลลีวูดก็มีส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้นจาก 18% เป็น 25% เลยทีเดียว
       
       แม้ในท้ายที่สุดปี 2012 หนังท้องถิ่นจีนจะเสียส่วนแบ่งการตลาดไป แต่ ถงกัง หัวหน้าแผนกภาพยนตร์ของ SARFT ก็มองว่าหากประเมินจากสถานการณ์ต่างๆ แล้วหนังในประเทศก็ยังถือว่าทำได้ดีกว่าที่คาดการณ์กันเอาไว้
       

      ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของ “เฉินหลง” (Jackie Chan) กำลังทำรายได้ถล่มทลายในหลายๆ ประเทศ แต่ในการฉายที่ฮ่องกง กลับเกิดปัญหาขึ้นมา เมื่อมีประชาชนบางส่วนเรียกร้องให้มีการบอยคอตหนัง Chinese Zodiac ด้วยข้อหาที่ว่า นักบู๊รุ่นใหญ่เป็นคนดังที่มีจุดยืนต่อต้านประชาธิปไตย
       
       สำนักข่าวในฮ่องกง เปิดเผยว่า ตอนนี้มีความเคลื่อนไหวในฮ่องกง เพื่อให้ประชาชนบอยคอต CZ12 หรือ Chinese Zodiac ด้วยเหตุผลที่ว่า หนังเรื่องนี้เป็นผลงานของ เฉินหลง ที่เคยออกมาแสดงความเห็น ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นการต่อต้านการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยอดีตผู้นำนักศึกษา หวางตัน เป็นผู้ออกมาเรียกร้องให้ชาวฮ่องกงแสดงจุดยืน ว่า “ไม่เห็นด้วย” กับเฉินหลง ด้วยการไม่ต้องไปดูหนังเรื่องล่าสุดของเขากัน
       
       ฝ่ายตัวของ เฉินหลง ได้กล่าวถึงกระแสบอยคอตที่เกิดขึ้นว่า “อย่าไปทำแบบนั้นเลยครับ ทุกคนมีสิทธิในการแสดงความเห็น จะไม่เห็นด้วยกับความเห็นของผมก็ไม่เป็นไร และผมเองก็เคารพความเห็นของคนอื่นเสมอ”
       
       เมื่อถามถึงเรื่องความกังวลของเขา ต่อกระแสที่กำลังเกิดขึ้น เฉินหลง ยืนยันว่า เขาไม่ได้วิตกอะไรเลย “หนังผมทำเงินในเมืองจีน 600 ล้านหยวนไปแล้ว และยังทำเงินในหลายประเทศแถบเอเชียด้วย ใครๆ ก็ไปดูหนังกัน ผมไม่รู้หรอกว่าจะทำเงินในฮ่องกงรึเปล่า ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะไปดู หรือไม่ดูก็ได้ ผมเฉยๆ นะครับ”
       
       ก่อนหน้านี้ เฉินหลง เคยแสดงความเห็นที่สร้างความไม่พอใจให้กับชาวฮ่องกงจำนวนมาก เมื่อเขาให้สัมภาษณ์กับ Southern People Weekly ว่า ชาวฮ่องกงดูจะมีอิสระเสรีภาพมากเกินไป
       

       โจวเหวินฟะ (Chow Yun Fat) คอหนังบ้านเราไหนเลยจะไม่เคยได้ยินชื่อของนักแสดงเรืองนามแห่งเอเชียผู้นี้ ไล่เรียงผลงานของเขาคงต้องใช้พื้นที่หลายสิบบรรทัด แต่ถ้าจะให้ขมวดเกียรติประวัติแบบสั้นๆ ก็คงได้ว่า เขาคือนักแสดงที่ถือเป็นหนึ่งความภาคภูมิใจของชาวเอเชีย
       
       ล่าสุด โจวเหวินฟะ ปรากฏตัวอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ ในหนังที่มาพร้อมกับฟอร์มอันใหญ่ยิ่ง ของผู้กำกับหวังจิง เรื่อง The Last Tycoon กับบทบาทเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้คนสุดท้าย แน่นอนว่า ก่อนหน้านี้ เราเคยเห็นโจวเหวินฟะในบทประมาณนี้มาแล้ว และนี่คือการกลับมาอีกครั้งหนึ่งในรอบ 27 ปี!!
       
       โจวเหวินฟะยิ่งใหญ่เพียงใด ผลงานของเขาเท่านั้นที่พิสูจน์แล้วด้วยตัวของมันเอง ท่ามกลางวันวัยที่ล่วงเลย และประสบการณ์ที่สั่งสม บางวูบของสายลมแห่งวันเวลา เขาฝันว่า สักครั้งในชีวิต เขาอยากพิชิตรางวัลออสการ์ในฐานะนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
       
       “แล้วถ้ามันเป็นไปไม่ได้ล่ะ คุณจะว่าไง” กระจิบข่าวบางสำนัก กระเซ้า...“ผมก็คงต้องหัวเราะไปกับมัน” เขาว่า แซมยิ้มบางๆ บนใบหน้า....

“ความสำเร็จของการเป็นเจ้าพ่อ ต่อให้ยิ่งใหญ่แค่ไหน มันก็ไม่เคยทำให้เขาไม่รู้สึกโดดเดี่ยว”

       “ฟั่นปิงปิง” (Fan Bing Bing) เป็นนักแสดงชาวจีนคนล่าสุด ที่จะได้ปรากฏตัวในหนังฟอร์มยักษ์ Iron Man 3 โดยข่าวดังกล่าวได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ จากภาพในกองถ่าย ซึ่งดาราวัย 31 ปี จะสวมบทบาทเป็นนางพยาบาลที่มีโอกาสช่วยรักษาดูแลตัวละครเอกของเรื่อง
       
       Iron Man 3 หนังร่วมทุนของ Walt Disney Co. จากสหรัฐฯ และ DMG Entertainment จากจีน จะเป็นหนังฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์ที่หวังเจาะตลาดหนังจีนแผ่นดินใหญ่เต็มตัว นอกจากจะถ่ายทำบางส่วนที่จีนแล้ว ยังจะมีนักแสดงชาวจีนมีบทบาทหลายคน
       
       โดยหนังได้ยกกองกันไปถ่ายทำที่เซียงไฮ้ และได้ดาราฝีมือดีชาวจีนแผ่นดินใหญ่ หวังเสวี่ยฉี (Wang Xueqi) มาสวมบทบาทเป็น “ดร.หวู” นักวิทยาศาสตร์ชาวจีน ซึ่งล่าสุดยังมีการเปิดเผยว่า ดาราสาวสวยสุดเซ็กซีชาวจีน ฟั่นปิงปิง ก็จะได้ร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้ด้วย
       
       ก่อนหน้านี้ ฟั่นปิงปิง เคยกล่าวเป็นนัยว่าเธออาจจะลองรับงานหนังฮอลลีวูดดู ซึ่งหลัง Iron Man 3 เปิดกล้อง ก็มีข่าวมาตลอดว่าดาราวัย 31 ปี จะได้ร่วมแสดงในผลงานสุดฮิตจากการ์ตูนของ Marvel เรื่องนี้ด้วย แต่ตลอดการถ่ายทำก็ยังไม่เคยมีการยืนยันอย่างเป็นทางการเลย มีแต่ข่าวของ หวังเสวี่ยฉี ที่ผู้สร้างแถลงออกมาไม่นานนี้
       
       อย่างไรก็ตาม เป็นที่รู้ดีว่านักแสดงรุ่นใหญ่ หวังเสวี่ยฉี เป็นนักแสดงในสังกัด Fan Bing Bing Studio จึงทำให้ ฟั่นปิงปิง มีส่วนในการเจรจากับผู้สร้าง Iron Man 3 มาตั้งแต่ต้น สุดท้ายจึงไม่มีใครแปลกใจเมื่อในที่สุด เธอเองก็จะได้มีส่วนร่วมในหนังเรื่องนี้ด้วยจนได้
       

       ท่ามกลางหนังทุนยักษ์ฟอร์มใหญ่ในช่วงเดือนสุดท้ายของปี 2012 หนังตลกที่ในชื่อเรื่องมีคำว่า Thailand กลับสามารถทำเงินอย่างมหาศาลถึงขั้นทุบสถิติบ็อกซ์ออฟฟิศในจีนแผ่นดินใหญ่ได้เลยทีเดียว
       
       หนังตลก Lost in Thailand ( 人再囧途之泰囧 [豆瓣] ) ที่มีการถ่ายทำที่ไทยตลอดทั้งเรื่อง เริ่มต้นสร้างความฮือฮา ด้วยการเปิดตัวกวาดรายได้เมื่อช่วงปลายปีก่อนตั้งแต่ 12-15 ธ.ค.ไปสูงถึง 320 ล้านหยวน (ประมาณ 1,600 ล้านบาท) ถือว่าเป็นหนังจีนที่ทำรายได้เปิดตัวสูงสุด ทุบสถิติเดิมของ Painted Skin II: The Resurrection ที่ทำเอาไว้ในปีเดียวกันนี้เอง นอกจากนั้น รายได้ในวันเสาร์ 100 ล้านหยวน (500 ล้านบาท) ก็ยังเป็นสถิติรายได้ของหนังวันเดียวที่สูงสุดตลอดกาลในจีนมากกว่าหนังฮอลลีวูดอย่าง Titanic 3-D และ Transformers 3 เสียอีก
       
       ถึงตอนนี้ Lost in Thailand ทำเงินเกิน 1 พันล้านหยวน (4,890 ล้านบาท) ไปแล้ว กลายเป็นหนังจีนที่ทำเงินสูงสุดในประเทศ เอาชนะเจ้าของสถิติเดิมอย่าง Painted Skin: The Resurrection ลงไปได้อย่างสวยงาม และยังคงเดินหน้าเก็บเงินต่อไปอย่างไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนแรง ทำเงินแซง Titanic 3-D หนังต่างประเทศที่ทำเงินสูงสุดแห่งปี 2012 ด้วยรายได้ 976 ล้านหยวน (4,770 ล้านบาท ) ได้แล้วด้วย ส่วนหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลในจีนยังเป็น Avatar ที่สร้างสถิติเอาไว้ 1,310 ล้านหยวน (6,400 ล้านบาท)
       
        Lost in Thailand : คนจีนเบื่อหนังเครียด
       

      ดาราสาวสวย "เกาไห่หนิง" (Samantha Ko Hoi Ning / 高海寧) และสถานีโทรทัศน์ดังแห่งฮ่องกง "ทีวีบี" สร้างความฮือฮาอีกแล้ว ด้วยการถ่ายทำฉากข่มขืน และยังมีการโชว์ความเซ็กซี กับแผ่นหลังอันเปลือยเปล่าของดาราสาวในซีรีส์ Friendly Fire (法網狙擊)
       
       ในซีรีส์เรื่องนี้ เกาไห่หนิง จะสวมบทบาทเป็นเด็กใหม่ของสำนักงานกฎหมายแห่งหนึ่ง ผู้เติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่ยากจน มีแม่เป็นคนขายของหาบเร่ ซึ่งเธอก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือที่บ้าน และมุ่งมั่นกับงานในสำนักงานกฏหมายให้มากที่สุด โดยผู้กำกับบอกว่ามีอะไรบางอย่างที่ใกล้เคียงกับชีวิตจริงของดาราสาวคนนี้อยู่เหมือนกัน
       
       อย่างไรก็ตามฉากที่ทำให้ Friendly Fire กลายเป็นประเด็นพูดถึงขึ้นมา คือตอนหนึ่งของเรื่อง เมื่อตัวละครของ เกาไห่หนิง พยายามจะช่วยเหลือเพื่อนบ้านที่กำลังถูกหนุ่มคนหนึ่งลวนลาม แต่สุดท้ายตัวเองกลับต้องกลายเป็นเหยื่อ
       
       และเพื่อการถ่ายทำฉากดังกล่าวดาราสาววัย 26 ปี ถึงกับยอมเล่นฉากนู้ดเปลือยแผ่นหลังออกโทรทัศน์เป็นครั้งแรก ซึ่งเธอบอกว่าไม่ได้รู้สึกอายอะไรเพราะตอนถ่ายทำใส่เกาะอก และยังติดเทปป้องกันความผิดพลาดเอาไว้แล้ว ตัวของ โรแนน ไป๋ (Ronan Pak / 白健恩) ที่แสดงฉากนี้ด้วยกันก็เป็นสุภาพบุรุษมาก ถึงเขาจะแสดงอย่างสมจริงสมจัง ถึงขั้นตบหน้าเธอจริงๆ แต่ก็กล่าวขอโทษตลอด "ฉันไม่คิดถึงเรื่องจะเจ็บตัวอะไรหรอกค่ะ แค่อยากถ่ายทำฉากนี้ให้เสร็จ ไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษ แค่ดูแลตัวเองให้ดี ฉันไม่กลัวด้วยกับการโชว์หลังแบบนี้"
       

       หลังแยกย้ายกันไปทำงานส่วนตัวหลายปี ล่าสุดมีข่าวเปิดเผยว่า 4 หนุ่ม F4 กำลังจะกลับมาร่วมตัวอีกครั้ง กับการแสดงในรายการพิเศษเทศกาลตรุษจีน ของสถานีโทรทัศน์ Jiangsu TV ประจำปีนี้

       หลังจากแฟนๆ ต้องรอคอยกันมาพักใหญ่ล่าสุดมีข่าวจากจีนว่า เจอร์รี (Jerry Yan / 言承旭), วิค (Vic Zhou / 周渝民), แวนเนส (Vanness Wu / 吳建豪) และ เคน (Ken Chu / 朱孝天) จะกลับมาร่วมตัวเป็น F4 อีกครั้งในการขึ้นแสดงที่รายการพิเศษวันตรุษจีนที่จะถึงนี้ของ Jiangsu TV ซึ่งข่าวระบุว่าหนุ่มๆ น่าจะได้รับทรัพย์ก้อนโตจากงานนี้ราว 6 ล้านหยวน (ประมาณ 29 ล้านบาท) เลยทีเดียว
       
       ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวมาตั้งแต่ปีก่อนแล้วว่า F4 อาจจะกลับมาร่วมตัวเพื่อขึ้นแสดงในรายการพิเศษช่วงตรุษจีนของ CCTV ประจำปี 2012 แต่สุดท้ายด้วยปัญหาเรื่องตารางการทำงานของสมาชิกแต่ละคน แผนดังกล่าวจึงไม่เกิดขึ้น
       
       4 หนุ่มจากไต้หวันเริ่มต้นสร้างชื่อเสียงจากการร่วมแสดงในซีรีส์ Meteor Garden (รักใสใสหัวใจ 4 ดวง) ที่ออกอากาศเมื่อ 12 ปีก่อน และฮิตถล่มทลายกลายเป็นกระแสทั้งใน ไต้หวัน, ฮ่องกง และจีน ตลอดจนอีกหลายประเทศในเอเชีย ทำให้พวกเขาได้มีโอกาสรวมวงออกผลงานเพลงด้วยกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว กับอัลบั้ม 2 ชุดระหว่างปี 2001 - 2002 จนหลังจากนั้นจึงพักวงไปช่วงหนึ่ง และกลับมาออกอัลบั้มใหม่อีกครั้งในปี 2007
       
       กระทั่งในปี 2008 สมาชิกแต่ละคนของ F4 จึงเริ่มหันไปทำงานเดี่ยวทั้งงานเพลง, ภาพยนตร์ รวมถึงงานแสดงทางโทรทัศน์ และลดการรับงานร่วมกัน จนกระทั่งได้ปรากฏตัวพร้อมกันเป็นครั้งสุดท้ายในการขึ้นคอนเสิร์ตที่ประเทศญี่ปุ่นในปีเดียวกันนั้นเอง แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็มีข่าวลือเรื่องการกลับมาของ F4 ให้แฟนๆได้ลุ้นกันตลอด

    The Grandmasters ที่กำลังจะเข้าฉายในวันที่ 10 เดือนหน้าได้ปล่อยภาพของนางเอกสาวชาวเกาหลีใต้ที่จะรับบทเด่นในหนังเรื่องนี้ด้วยมาให้ชมกันเพิ่มเติม งานนี้ "ซองเฮเคียว" (Song Hye Kyo) ยังให้สัมภาษณ์ยกย่องนักแสดงนำ "เหลียงเฉาเหว่ย" (Tony Leung) ว่าเต็มไปด้วยพลังในการแสดง และโดยเฉพาะการถ่ายทอดอารมณ์ผ่านดวงตา
       
       ภาพชุดใหม่จากหนัง The Grandmasters ที่มีกำหนดเข้าฉายในฮ่องกงวันที่ 10 ม.ค. 2013 เป็นภาพที่เผยโฉมดาราสาวชาวเกาหลีใต้ ซองเฮเคียว ในชุดกี่เพ้าสุดสวย กับบทภรรยาของอาจารย์ยิปมัน
       
       งานนี้นักแสดงสาวผู้โด่งดังขึ้นมากับบทตลกโรแมนติกโดยเฉพาะในซีรีส์ Full House ได้โอกาสลองงานในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างออกไป กับบทที่ไม่เหมือนเดิม โดยเฉพาะได้สวมชุดแบบชาวจีนซึ่งออกแบบโดย วิลเลียม จางซู่ผิง ดีไซเนอร์ และผู้กำกับศิลป์ที่ทำงานกับ หว่องกาไว ในหนังแทบทุกเรื่อง ซึ่ง ซองเฮเคียว ก็บอกว่าต้องใช้เวลานิดหน่อยถึงจะชินกับเสื้อผ้าแบบนี้ แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองสวยขึ้นเรื่อยๆ แม้ต้องระวังเรื่องรูปร่างนิดหน่อย เพื่อให้ใส่ชุดได้สวยตลอดรอดฝั่งการถ่ายทำ
       
       เธอยังกล่าวถึงพระเอกของเรื่องอย่าง เหลียงเฉาเหว่ย ผู้รับบทนำ ว่าแสดงออกด้วยดวงตาได้ดีมากๆ เธอเองก็เป็นแฟนคลับของเขาคนหนึ่ง ในฉากหนึ่งที่ต้องสบตากับพระเอกรุ่นใหญ่ชาวฮ่องกงรายนี้ ซองเฮเคียว ยอมรับว่ารู้สึกถึงพลังทางการแสดงของเขามากจริงๆ
       

กลายเป็นที่ถูกจับตามองอย่างมากทีเดียวสำหรับภาพถ่ายคู่ของ"แอริน ยุกตะทัต" นักแสดงสาวชาวไทย กับ 2 หนุ่มไอดอลชื่อดังของเกาหลี "ซึงรี" (Seungri) จากวง Big Bang และ "จองฮุน" (Choi Jong Hoon) จากวง FT Island ที่มาเยือนเมืองไทยพร้อมกับถ่ายภาพกับบรรดาแก็งค์เพื่อนไฮโซอย่างสนุกสนาน
       
       ทำเอาสาวกแฟนคลับของ 2 บอยแบนด์ดัง Big Bang และ FT Island ต่างกรี๊ดไปตามๆกัน เมื่อปรากฏภาพถ่ายในอินสตาแกรมของสาว แอริน ยุกตะทัต เป็นภาพที่เธอถ่ายคู่กับ ซึงรี จาก Big Bang และ จองฮุนจาก FT Island อย่างใกล้ชิดสนิทสนม พร้อมขึ้นใต้ภาพต้อนรับ 2 หนุ่มว่า "Let's Run BKK! Welcome boys!"

      นอกจากจะมีภาพในอินสตาแกรมของสาวไอรินแล้ว ภาพในอินสตาแกรมของ ก้อง กรุณ ซอโสตถิกุล ดาราหนุ่มชื่อดังก็มีภาพถ่ายร่วมกับ 2 หนุ่มด้วยเช่นกัน

       นอกจากนั้นยังมีเพื่อนชาวเกาหลีและน้อยหน่า-สิริผกา แฟนสาวของ ณัฐ เทพหัสดิน ณ อยุธยา รวมอยู่ในแก็งค์ปาร์ตี้ต้อนรับ 2 หนุ่มอีกด้วย

Manager Online

       นักแสดงรุ่นใหญ่ "เจิ้งจื่อเหว่ย" (Eric Tsang / 曾志伟) โดนจับกุมเมื่อกลางสัปดาห์ก่อน ด้วยข้อหาทำร้ายร่างกาย "เคนนี่ หว่อง" (Kenny Wong / 黄浩) สามีดาราสาวคนหนึ่ง และยังเป็นเจ้าของร้านอาหาร อันเป็นสถานที่ซึ่งมีข่าวการเสพยาของดารากลุ่มใหญ่หลุดออกมา จนกลายเป็นข่าวสั่นสะเทือนวงการบันเทิงตลอดเดือนที่ผ่านมา
       
       หลังโดนจับกุมในวันพุธที่แล้ว เจิ้งจื่อเหว่ย จึงได้รับการประกันตัวไปในวันเดียวกัน โดยนักแสดงรุ่นใหญ่โดนตั้งข้อหาทำร้ายร่างกาย และขู่กรรโชก ซึ่งเขาต้องมีกำหนดไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่อีกครั้งในเดือน ม.ค. ปีหน้า
       
       ปัญหาที่ทำให้นักแสดงวัย 57 ปี โดนดำเนินคดีเกิดขึ้นหลังเขาลงมือตบหน้าสั่งสอน เคนนี่ หว่อง สามีของดาราสาว ฉีซุ่หมิ่น (Suki Chui / 徐淑敏) ที่เป็นเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่ง หลังได้พบกันที่พิธีแต่งงานงานหนึ่งเมื่อช่วงต้นเดือน
       
       โดยฝ่าย เจิ้งจื่อเหว่ย แสดงความไม่พอใจ เคนนี่ หว่อง อย่างรุนแรงในกรณีที่คู่กรณีสร้างปัญหาให้กับดาราในวงการบันเทิงฮ่องกง เมื่อเกิดข่าวการเสพยาของดารากลุ่มใหญ่ที่ร้านอาหารของเขา นอกจากนั้นยังมีข่าวลือว่ามีคลิปที่เก็บภาพพฤติกรรมการใช้ยาของเหล่าดาราเอาไว้ด้วย โดยระหว่างการวิวาทกันในงานเลี้ยงแต่งงาน เจิ้งจื่อเหว่ย ยังขู่ห้ามไม่ให้ เคนนี่ หว่อง ส่งเทปอะไรให้กับเจ้าหน้าที่อย่างเด็ดขาดด้วย
       
       ประเด็นฉาวดังกล่าวยังทำ เคนนี่ หว่อง ต้องโดนรังควานจากสมาชิกแก๊งนอกกฏหมาย เพราะในงานปาร์ตี้ที่ว่ากันว่ามีการเสพยานั้น ยังมีดาราสาว โจซี เหอ (Josie Ho / 何超仪) ลูกสาวของเจ้าพ่อบ่อนพนันแห่งมาเก๊า สแตนลี เหอ (Stanley Ho / 何鸿燊) เข้าไปมีส่วนร่วมด้วย
       

"หลินจื้ออิง" (Jimmy Lin) คงต้องปวดหัวเรื่องแฟนตัวจริง กับแฟนคลับซึ่งเป็นผู้อุดหนุนสนับสนุนผลงานของเขามาตลอดไปอีกพักใหญ่ เพราะดูเหมือนว่าแฟนๆจะไม่ยอมรับนางแบบสาว "เคลลี" (Kelly Chen) เสียที แม้เขาจะแต่งงานกับเธอ และมีทายาทด้วยกันแล้วก็ตาม
       
       ดาราหนุ่มชาวไต้หวัน หลินจื้ออิง ดูจะสร้างความไม่พอใจให้กับแฟนคลับของตัวเองอีกครั้ง เมื่อเขาได้เปิดเผยถึงแผนการเดินทางไปจัดพิธีแต่งงานกับภรรยาสาว ที่ใช้ชีวิตด้วยกันมาหลายปี พร้อมพาเธอไปฮันนีมูนในปีหน้า โดยเป็นที่ทราบกันดีว่า เคลลี เฉิน วัย 28 ปี ที่จดทะเบียนสมรส และมีทายาทให้กับ หลินจื้ออิง ไม่เคยได้รับการยอมรับจากเหล่าแฟนคลับของเขาเลย
       
       แผนการจัดพิธีแต่งงานในปีหน้า ยังทำให้ภรรยา และแม่ของลูกวัย 3 ขวบของ หลินจื้ออิง ต้องโดนโจมตีหนักอีกครั้ง เพราะดูเหมือนว่าในหมู่แฟนคลับส่วนใหญ่ กลับอยากจะให้พระเอกขวัญใจของพวกเขา กลับไปคืนดีลงเอยกับอดีตแฟนสาวอย่าง หลินซินหยู (Ruby Lin) มากกว่า
       
       โดย หลินจื้ออิง กับ หลินซินหยู เคยคบหากันสมัยที่ตั้งคู่ยังเป็นวัยรุ่นเมื่อร่วม 17 ปีก่อน แต่สุดท้ายด้วยการงานที่ค่อนข้างยุ่งทำให้ห่างๆ และเลิกรากันไป แต่ดูเหมือนว่าแฟนๆ ก็ยังฝังใจกับคู่ขวัญคู่นี้ ถึงกับมีการโพสต์รูปของดาราทั้งสองคน และเขียนข้อความถึงภรรยาของ หลินจื้ออิง ว่า "ทั้งคู่ (หลินจื้ออิง กับ หลินซินหยู) ดูเข้ากันดีมาก, เคลลี เธอเห็นมั้ย"
       

       “เฉินหลง” (Jackie Chan / 成龙) อาจมีสิทธิ์ซวยหนักถึงขั้นติดคุกได้ หลังออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเขาเคยต้องพกปืน เพื่อป้องกันตัวจากความเถื่อนขององค์กรผิดกฎหมายในฮ่องกง ที่มักจะมาเอาเปรียบดารา อย่างไรก็ตาม กลับมีเสียงอีกด้านว่า หากมีการสืบสวนย้อนหลังการกระทำของ “เฉินหลง” เอง ก็อาจเข้าข่ายเป็นการละเมิดกฎหมายได้
       
       ในการให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆนี้ เฉินหลง ได้เปิดเผยว่า ในอดีตเมื่อหลายปีแล้ว เขาเคยโดนพวกสมาชิกแก๊งมาเฟียจำนวนร่วม 20 คนล้อมเอาไว้ แถมแต่ละคนมีมีดอยู่ในมือด้วย นอกจากนั้น ยังมีเหตุการณ์ต่างๆ ทำนองนี้เกิดขึ้นมากมาย เพราะฉะนั้นเพื่อเป็นการป้องกันตัวเอง เขาถึงขั้นต้องซื้อปืน 3 กระบอก และระเบิดมืออีก 6 ลูก มาเก็บเอาไว้กันเลยทีเดียว
       
       ดาราบู๊ชื่อดังยอมรับว่า ในอดีตวงการบันเทิงฮ่องกงเคยมีพวกองค์กรอิทธิพลเข้ามาจุ้นจ้าน และควบคุม จนการเป็นดาราก็ถือว่าเป็นเรื่องอันตรายกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะโด่งดังมีชื่อเสียงแค่ไหนก็หนีไม่พ้น ... “ในตอนนั้นพวกเขาถึงขั้นเคยเอาปืนจ่อ หลิวเต๋อหัว (Andy Lau / 刘德华) และอีกหลายๆ คนมาแล้วนะครับ คุณอาจกำลังถ่ายหนัง แต่อยู่ๆ ก็มีพวกนักเลงถือปืนเดินเข้ามาแล้วพูดว่าคุณต้องมาถ่ายหนังให้เรา”
       
       “ถึงคุณจะมีค่าตัวซัก 100,000 เหรียญ แต่เขาอาจจะจ่ายให้คุณแค่ 2,000 เหรียญ ก็ได้ นั่นเป็นวิธีที่เขาเคยทำกับเราครับ” เฉินหลง กล่าว พร้อมยอมรับว่า ในฐานะพี่ใหญ่ของวงการบันเทิงคนหนึ่ง เขาจึงต้องแข็งกร้าวเพื่อปกป้องนักแสดงอย่าง จางม่านอวี้ (Maggie Cheung / 张曼玉), หวังจู่เสียน (Joey Wong / 王祖賢) และ จางเซียะโหย่ว (Jacky Cheung / 张学友) ที่ในช่วงนั้นมีโอกาสร่วมงานกัน “ทุกวันผมต้องมีปืนไปด้วย ไม่ว่าจะไปไหน”

      นักแสดงสาวชาวฮ่องกง ประกาศข่าวการตั้งครรภ์ลูกคนที่ 2 ด้วยการโพสต์ภาพถ่ายอวดท้อง 3 เดือน ส่งให้กับแฟนๆ ได้ชมกัน ซึ่งงานนี้ยังมีเพื่อนนักแสดงหนุ่มที่สนิทสนมกับเธอมาร่วมปรากฏตัวในภาพเพื่อแสดงความยินดีด้วย
       
       ดาราสาววัย 34 ปี ที่ตอนนี้เป็นคุณแม่ของลูกสาวหนูน้อย เคย์ลา (Kayla) วัย 2 ขวบ ได้ประกาศข่าวดี เรื่องการตั้งท้องลูกคนที่ 2 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย หลินเจียซิน (Karena Lam) ยังบอกกับสื่อ ว่า เธอกับสามีคงจะไม่ใช้วิธีอัลตราซาวนด์เพื่อดูเพศลูกก่อนแน่ เพราะอยากจะไปลุ้นเอาเมื่อลูกลืมตาดูโลกนู้นเลย
       
       หลินเจียซิน ยังอวดหน้าท้องที่อุ้มท้องลูกได้ประมาณ 3 เดือน ให้กับแฟนๆ ได้ชมกันผ่านทางบล็อกส่วนตัว นอกจากนั้น เธอยังได้เพื่อนสนิทในวงการอย่าง เจิ้งอี้เจี้ยน (Ekin Cheng) มาร่วมถ่ายรูปในการประกาศข่าวดีครั้งนี้ด้วย เธอยังพูดเล่นกับนักแสดงหนุ่มเพื่อนซี้ว่า “ฉันจะต้องเป็นแม่อีกครั้ง, อี้เจี้ยน อยากเป็นพ่ออุปถัมภ์ของลูกฉันรึเปล่า”
       
       อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น หลินซินเจีย ยังกล่าวติดตลก ว่า ไม่รู้คิดผิดรึเปล่าที่จะให้ เจิ้งอี้เจี้ยน เป็นพ่ออุปถัมภ์ของลูก เพราะจากการที่ได้ร่วมงานกันที่งานอีเวนต์แห่งหนึ่งในวันนั้น เธอรู้สึกว่าเขาช่างเป็นคนที่เอาแต่เล่นตลก และซนจริงๆ “จะเป็นยังไงถ้าลูกฉันเป็นอย่างคุณเนี่ย” เธอบอก
       

หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยเดินทางมาประเทศไทยเพื่อร่วมทำบุญบริจาคเงินให้เด็กเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุด “เฉินหลง” (Jackie Chan) นักแสดงบู๊ชื่อดัง ได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยอีกครั้งเพื่อร่วมโปรโมทภาพยนตร์ “วิ่ง-ปล้น-ฟัด” (Chinese Zodiac) โดยจูงมือสองสาว “หลานซิง” (Zhang Lan Xin) และ “ซิงถง” (Yao Xing Tong) นักแสดงในเรื่องมาร่วมโปรโมตด้วย
       
       การมาเมืองไทยครั้งนี้ของ เฉินหลง เจ้าพ่อหนังแอ็กชัน-คอมเมดีชื่อดัง เพื่อร่วมโปรโมตภาพยนตร์เรื่อง วิ่ง-ปล้น-ฟัด (Chinese Zodiac) ที่เจ้าตัวทุ่มสุดตัว ทั้ง เขียนบท กำกับ นำแสดง และอำนวยการสร้างเอง โดยภาพยนตร์ “วิ่ง-ปล้น-ฟัด” (Chinese Zodiac) เป็นเรื่องราวที่ว่าด้วยการตามล่าหัวรูปปั้นทองแดง 6 ชิ้น ที่เป็นตัวแทนของ 12 นักษัตรของจีน ซึ่งถูกขโมยไปจากพระราชวังฤดูร้อนในกรุงปักกิ่ง ตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 โดยภาพยนตร์เรื่องนี้จะพาผู้ชมผจญภัยไปทั้ง 4 ทวีปใน 7 ประเทศทั่วโลก พร้อมฉากภูเขาไฟระเบิด และการแสดงที่สมจริง ที่นักแสดงเล่นจริงเจ็บจริงในสถานที่จริง
       
       โดยเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา เฉินหลง ได้พาสองสาวทั้ง หลานซิง และซิงถง 2 นักแสดงบู๊หน้าใหม่มาร่วมแถลงข่าวที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ ซึ่งทันทีที่มาถึงเจ้าตัวได้ร่วมถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก่อนให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ ทั้งสามกล่าวทักทายสื่อมวลชนเป็นภาษาไทย พร้อมให้สัมภาษณ์อย่างเป็นกันเอง โดยเฉพาะเฉินหลง ที่ทำหน้าที่ลูกพี่ จัดแจงท่าทาง และคอยบอกให้นักแสดงสาวทั้งสองหันซ้ายขวาให้สื่อมวลชนได้ถ่ายภาพอย่างทั่วถึง ซึ่งครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองสาวมาประเทศไทย โดย ซินถง ชื่นชมสาวไทยว่าสวยมาก และเป็นประเทศที่มีสไตล์ ก่อนจะโดนพิธีกรหนุ่ม พีเค แซวว่าแล้วหนุ่มไทยล่ะ....เธอหัวเราะก่อนตอบแบบเขินๆ ว่า “ก็หล่อเหมือนกันค่ะ”

      อดีตนักแสดงสาวสังกัด TVB “หงซิน” (Catherine Hung / 洪欣) ต้องโดนประจานให้อับอายโดยพวกบ่อนกาสิโน ด้วยการปิดโปสเตอร์ของเธอไว้ในหลายจุดของฮ่องกง พร้อมระบุดาราวัย 42 ปี ติดหนี้ทางบ่อนอยู่ถึง 4 ล้านเหรียญฮ่องกง และยังมีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นการฉ้อโกงด้วย
       
       Oriental Sunday เปิดเผยว่า มีโปสเตอร์ที่ปรากฏรูปของนักแสดงวัย 42 ปี หงซิน ปรากฏอยู่ในถนนสายต่างๆ ในฮ่องกง โดยเฉพาะแถบที่มีผู้คนพลุกพล่านเป็นจำนวนมาก ทั้งที่ เกาลูน, ท่าเรือเฟอร์รีจากฮ่องกงไปมาเก๊า, แฮปปีวัลเล, เขตฮ่องกงกลาง หรือแม้แต่โรงถ่าย TVB อันเป็นต้นสังกัดเก่าของทางดาราสาวเอง
       
       หงซิน เป็นดาราที่มีผลงานทางภาพยนตร์ และโทรทัศน์หลายเรื่อง บทเด่นที่หลายคนยังคงจดจำได้ก็คือในซีรีส์เรื่อง The Legendary Ranger (เทพบุตรผู้พิชิต / 原振俠) เมื่อปี 1993 ที่เธอแสดงคู่กับ หลีหมิง (Leon Lai / 黎明) โดยระยะหลังเธอหันไปรับงานที่แผ่นดินใหญ่เป็นหลัก และแม้จะไม่ได้มีงานกับทาง TVB มานานแล้ว แต่ก็ยังมีโปสเตอร์ประจานเธอไปแปะเอาไว้ที่ TVB เห็นได้ชัดว่าเป็นการพยายามทำเรื่องนี้ให้ใหญ่โต และเข้าถึงสายตาของสื่อให้ได้
       
       ข่าวระบุว่า บ่อนที่ตั้งอยู่ในมาเก๊าแห่งนี้ พยายามทวงเงินจากดาราสาวมาตั้งแต่เดือน ต.ค.แล้ว ซึ่งมาตรการล่าสุดที่พวกเขาใช้ ก็คือ การปิดโปสเตอร์ประจาน หลังจากเธอยังไม่ยอมชำระหนี้ก้อนโตที่ค้างมานานกว่า 1 ปีแล้ว
       

"เจย์ โจว" (Jay Chou) นักร้องหนุ่มซุปตาร์ชาวไต้หวันวัย 33 ปี ที่เป็นเจ้าแห่งแมนโดป็อป หรืออาณาจักรเพลงป็อปจีนใน 4 ประเทศอย่าง ไต้หวัน, ฮ่องกง, สิงคโปร์ และ มาเลเซีย ชวนศิลปินเลิกคลั่งกังนัมสไตล์ของเกาหลีและหันมาใส่ใจไชนีสสไตล์ให้มากขึ้น
       
       ไม่เพียงแค่ 11 อัลบั้มที่ผ่านมาของเจย์ โจว จะขึ้นไปติดอยู่ในอันดับท็อปของชาร์ตดังหลายๆชาร์ตเท่านั้น เขายังเป็นศิลปินที่มีการแสดงสดได้อย่างยอดเยี่ยมด้วย โดยเมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา การแสดงเดี่ยวของเขาก็สามารถเรียกคนให้มาชมได้มากถึง 35,000 คน ในงาน ซิงเทล สิงคโปร์ ฟอร์มูลา วัน แกรนด์พิกซ์ ที่ปาดัง แม้ว่าช่วงนี้จะยังเป็นช่วงกระแสเพลงป็อปเกาหลียังคงได้รับความนิยมอยู่ก็ตาม
       
       และในงานประกาศผลรางวัลไป่ตูมิวสิคครั้งที่ 10 ที่จัดขึ้นในปักกิ่ง นักร้องหนุ่มมากความสามารถที่ทั้งร้อง, แสดง, กำกับภาพยนตร์ และแต่งเพลงเองรายนี้ ได้กล่าวถึงความนิยมของเพลงกังนัม สไตล์ เป็นครั้งแรก โดยเจ้าตัวฝากเตือนรุ่นน้องศิลปินในแมนโดป็อปให้รวมกันเป็นหนึ่งเพื่อต่อสู้กับเพลงเกาหลี
       
       "ตอนนี้คลื่นเกาหลีค่อนข้างมาแรงจริงๆ แต่เราอย่าปล่อยให้เค-ป็อปเข้ามาแทนที่พวกเราได้ เพลงจีนเป็นเพลงที่ "เตียว" ( ศัพท์แสลงของไต้หวันที่แปลว่าเจ๋งและไม่ธรรมดา ) เหมือนกัน" นักร้องหนุ่มให้สัมภาษณ์กับนักข่าวที่ด้านหลังเวทีหลังจากคว้ารางวัลทั้ง นักร้องชายยอดเยี่ยมแห่งทศวรรษ และ ผู้นำด้านดนตรีแห่งทศวรรษ
       
       "พวกเราศิลปินทุกคนควรจะรวมตัวกันเป็นหนึ่งและหยุดยั้งกังนัม สไตล์...เราควรจะมีไชนีส สไตล์ ในแบบของพวกเราเอง"

Manager Online