ข่าวจีน

      สาวงามอันดับ 1 แห่งไต้หวัน ต้องโดนครหาเรื่องการทำศัลยกรรมพลาสติกมาหลายปีแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเมื่อวัยของเธอล่วงเลยมากขึ้นเรื่อยๆ ข่าวที่ว่าก็ถูกพูดถึงอย่างหนาหูขึ้นมาด้วย โดยเฉพาะในระยะหลังที่มีคนพูดกันไปว่าดาราวัย 37 ปี ต้องการรักษาความสวยของตัวเองเอาไว้ ถึงขั้นทำศัลยกรรมจนใบหน้าไม่สามารถขยับเขยื่อนแสดงความรู้สึกใดๆได้ ถึงขั้นที่เธอต้องพึ่งเอกสารใบรับรองจากแพทย์ เพื่อยืนยันว่าตนเองสวยอย่างธรรมชาติ
       
       "ตอนนี้ฉันรู้สึกไม่พอใจมากค่ะ ฉันยังคงเป็นฉันด้วยจมูกของตัวเอง, ดวงตาจริงๆ ของตัวเอง, หน้าอกของจริง และจิตใจที่เหมือนเดิม ฉันไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองต้องการ หรือจะต้องทำศัลยกรรมพลาสติกเลยแม้แต่น้อย" หลินจือหลิง (Lin Chi-ling / 林志玲) เขียนผ่านบล็อค Weibo ของตัวเอง หลังจากประเด็นข่าวลือการทำศัลยกรรมเสริมความงามของเธอ เริ่มต้นเป็นที่พูดถึงหนาหูขึ้นเรื่อยๆในระยะหลัง ดารานางแบบสาวสวยขวัญใจชาวไต้หวันยังยืนยันถึงเรื่องนี้ด้วยใบรับรองจากแพทย์ เพื่อการคอนเฟิร์มว่า หลินจือหลิง ยังคง "สวยธรรมชาติ" เหมือนเดิม
       
       ในเวลาเดียวกัน แม้ใบรับรองแพทย์อาจทำให้ชื่อเสียงในฐานะดาราสาวอมตะ สวยโดดเด่นไม่แพ้วัยรุ่นแม้อายุจะเข้าใกล้เลข 4 แล้วของ หลินจือหลิน ต้องมัวหมองไปบ้าง เพราะจากข้อมูลของแพทย์ระบุว่า การใช้เครื่องสำอางมาอย่างยาวนานจากอาชีพในวงการบันเทิง สุขภาพผิวของดาราสาวขวัญใจหนุ่มๆ จึงไม่ค่อยจะดีนัก มีอาการแพ้ง่าย และร่องรอยของผิวเสีย อย่างไรก็ตามจากใบรับรองแพทย์ยังยืนยันว่าเธอไม่เคยทำศัลยกรรมพลาสติก
       
       หลินจือหลิง ชาวไต้หวันประสบความสำเร็จในอาชีพนักแสดงทันที หลังแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกเมื่อหลายปีก่อน นอกจากนั้นในช่วงหลังยังมีชื่อเสียงประสบความสำเร็จกับการเข้าไปรับงานในจีนแผ่นดินใหญ่ และญี่ปุ่นด้วย
       

ดาราสาวสังกัด TVB ออกมาแถลงข่าวพร้อมแฟนหนุ่ม ปฏิเสธถึงภาพหวาดเสียวของเธอกับเขา ที่มีการตีพิมพ์ในสื่อ ว่า ไม่ได้เกิดอะไรบัดสี หรือไม่สมควรเกิดขึ้น อย่างที่สื่อหลายๆ เจ้าในฮ่องกงกล่าวกันเกินกว่าเหตุไปอย่างแน่นอน
       
       หยังอี้ วัย 33 ปี ต้องกลายเป็นข่าวฉาวกับภาพของเธอ ที่ก้มหน้าลงไปบนตักของแฟนหนุ่ม หลอจ้งเสียน (Him Law / 罗仲谦) ระหว่างอยู่ในรถยนต์ จนมีปาปารัสซีไปพบเข้า ทำให้ภาพถูกตีพิมพ์ในสื่อหลายๆ ฉบับ จนเกิดข้องสงสัยกันว่าทั้งสองทำอะไรอยู่กันแน่
       
       ตามข่าว เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น หลังฝ่ายชายได้อาสาไปรับไปส่งฝ่ายหญิงที่บ้าน ในคืนที่เธอไปร่วมทานอาหารค่ำ และดื่มกับเพื่อนสนิทสมัยเรียน โดยดาราสาวเดินทางออกจากร้านไปในช่วงเวลาประมาณตี 1 ด้วยรถแท็กซีกับกลุ่มเพื่อน ก่อนจะลงจากรถไปในซอยเปลี่ยวแห่งหนึ่ง เพื่อขึ้นรถของ หลอจ้งเสียน ที่ขับตามมา จนเกิดภาพอย่างที่มีตีพิมพ์สื่อขึ้น และเกิดการพูดกันไปใหญ่ ว่าทั้งสองทำอะไรในรถกันแน่
       
       เรื่องดังกล่าวกลายเป็นข่าวฉาวที่คนให้ความสนใจกัน จนล่าสุด ทั้งสองได้ควงกันออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าว ซึ่งฝ่ายหญิงได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด ยืนยันว่า ไม่ได้เกิดเรื่องไม่เหมาะสมขึ้นอย่างที่หลายๆ คนคิดแน่นอน
       
       “ก่อนที่ฉันจะไปทานอาหารค่ำ ฉันบอกกับเขาเอาไว้ก่อนแล้วว่าให้ช่วยไปรับหน่อย ฉันคงขับรถไม่ได้แน่ เพราะคงจะเมามาก อยากจะได้ใครซักคนที่เชื่อใจได้ให้ช่วยพากลับบ้าน กลุ่มของเราดื่มกันหนักมาก ทุกคนดื่มกันหมด ตอนที่ฉันออกมาก็เริ่มสงสัยแล้วว่าจะมีปาปารัสซีตามมาด้วย ฉันไม่ชอบถูกสนใจแบบนี้ และไม่ชอบให้มีใครมาตาม เลยขึ้นรถแท็กซีไปกับเพื่อนอีกสองคน เมื่อถึงบ้านของเพื่อน จึงเปลี่ยนไปนั่งรถของ หลอจ้งเสียน ซึ่งตอนนั้นก็เริ่มอ้วกตั้งแต่ตอนอยู่ในแท็กซีแล้ว จำอะไรหลังจากนั้นแทบไม่ได้เลยค่ะ”
       

       กระแสความขัดแย้งกรณีเกาะเตี้ยวอี๋ว์หรือเซนกากุระหว่างจีนและญี่ปุนยังคงคุกรุ่นอยู่ในทุกภาคส่วน ล่าสุดศิลปินจีน อาทิ เจย์ โจว (Jay Chou), โจว เหวินฟะ (Chow Yun Fat), เฟย์ หว่อง (Wang Fei), หลิน จื้อหลิง (Lin Chi Ling), ฟั่น ปิงปิง (Fan Bing Bing), หลี่ ปิงปิง (Li Bing Bing) รวม 260 ชีวิต ออกแถลงการณ์ในฐานะสมาชิกสมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์จีน สนับสนุนการอ้างกรรมสิทธิเหนือเกาะเตี้ยวอี๋ว์ของรัฐบาลจีนอย่างเต็มที่ พร้อมประณามกรณีรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศการซื้อเกาะจากเอกชน

       สื่อในจีนถึงกับบอกว่า เข้าขั้นเปลี่ยนผู้หญิงเหมือนเปลี่ยนรองเท้าไปแล้วสำหรับหนุ่ม “เฉินกว้านซี” (Edison Chen / 陈冠希) ที่ล่าสุดมีสาวคนใหม่มาให้ควงอีกแล้ว และหลังควงดารา, นักร้อง, นางแบบ ทั้งดัง และไม่ดังทั่ววงการไปแล้ว ล่าสุด หนุ่มสุดอื้อฉาวแห่งวงการบันเทิงก็ขอลองคบสาวสวยที่ไม่มีใครรู้จักดูบ้าง แต่เป็นสาวที่สนิทสนมกับเขาเป็นอย่างดี เพราะเป็นพนักงานในบริษัทของเขาเอง
       
       สื่อบันเทิงไต้หวันได้ภาพสาวล่าสุดของ เฉินกว้านซี มาตีพิมพ์เผยแพร่แล้ว เป็นภาพระหว่างเขาเดินทางไปไต้หวัน เพื่อดูแลแบรนด์เสื้อผ้า Juice ในเครือธุรกิจ CLOT ที่เขาเป็นหุ้นส่วนอยู่ โดยสาวคนที่ว่า ก็คือ แอนเจลา เมิ่ง (Angela Meng) วัย 22 ปี ลูกครึ่งเกาหลี-จีน ที่ทำงานให้กับบริษัทของ เฉิน และใกล้ชิดสนิทสนมกันมาหลายเดือนแล้ว
       
       โดยเพื่อนร่วมงานของฝ่ายหญิงคนหนึ่ง บอกว่า เฉินกว้านซี หลงเสน่ห์ แอนเจลา มาตั้งแต่เดือน ส.ค.แล้ว “ตอนที่เขาต้องเดินทางไปแคลิฟอร์เนียเพื่อพูดคุยเรื่องงาน ก็ยังพาเธอไปด้วย ตอนนั้นเธอเพิ่งจะมาทำงานได้สองสัปดาห์เอง แต่หลังจากนั้นฉันก็ไม่เห็นเธอมาทำงานอีกเลย”
       
       ตามข่าวระบุว่า เฉินกว้านซี กับสาวคนนี้ใช้เวลาร่วมเดือนที่แคลิฟอร์เนียด้วยกัน จนถึงต้นเดือน ก.ย.จึงเดินทางกลับมากรุงไทเป เพราะ เฉินกว้านซี ต้องมาร่วมงานอีเวนต์งานหนึ่ง เพื่อแจกลายเซ็น ซึ่งในคืนนั้นยังมีคนเห็นทั้งสองไปใช้เวลาด้วยกันที่ตลาดหนิงเซี่ยด้วย
       

ดรามาฉากใหญ่ของวงการบันเทิงฮ่องกง จบลงด้วยการขอโทษ หลังผู้กำกับรายหนึ่ง ใช้ความรุนแรงกดดันนักแสดงหญิงหน้าใหม่ จนเสียขวัญร้องห่มร้องไห้ระหว่างการทำงาน และคลิปดังกล่าวถูกปล่อยเผยแพร่ลงเน็ตจนเกิดเสียงวิจารณ์ต่างๆ ขึ้นมากมาย
       
       เกิดข้อกล่าวหาขึ้นเมื่อผู้กำกับ เจิ้งหยงโห (Gary Cheung / 张永豪) แห่งซีรีส์เรื่อง Heart Road GPS ได้ใช้ความรุนแรงเกินเหตุ ในการกดดันดาราสาวดาวรุ่ง เจนนี หลิว (Jenny Lau / 刘蔚萱) ถึงขั้นร้องห่มร้องไห้ แสดงอาการรับแรงกดดันดังกล่าวไม่ไหว จนหลายคนตั้งคำถามถึงการทำงานของ TVB ว่า อาจจะเข้าขั้นเกินเหตุ และล่วงละเมิดนักแสดงกันเลยทีเดียว
       
       เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในกองถ่ายซีรีส์เรื่อง Heart Road GPS กับฉากที่ตัวละครของดาราสาว เจนนี หลิว ต้องโดนพวกทวงหนี้ราวี ด้วยการถูกถุงพลาสติกคลุมหัว, ผลักติดกำแพง และใช้กบมาขู่ให้กลัว ซึ่งในภาพเบื้องหลัง ก็เผยให้เห็นว่าดาราสาวต้องโดนกดดัน ไม่แตกต่างอะไรจากตัวละครของเธอเลย
       
       การถ่ายทำฉากดังกล่าวกลายเป็นเรื่องเครียดขึ้นมาได้ เพราะผู้กำกับยังไม่พอใจกับการแสดงของเธอเสียที ดาราสาวจึงต้องแสดงฉากดังกล่าวซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ ฝ่ายผู้กำกับก็สอนการแสดงแบบค่อนข้างจะรุนแรง และบีบบังคับกดดันดาราหน้าใหม่อยู่ตลอด สุดท้าย เจนนี หลิว จึงร้องไห้ออกมา จนคลิปเบื้องหลังการถ่ายทำดังกล่าวถูกนำไปเผยแพร่ในเน็ต และกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ มากมาย
       
       จับมือขอโทษ - จบลงด้วยดี?
       

       โฆษณาผลิตภัณฑ์ชุดชั้นในที่มีดารานางแบบอันดับ 1 แห่งไต้หวัน เป็นพรีเซ็นเตอร์ ต้องโดนสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ของจีนแผ่นดินใหญ่ สั่งแบนห้ามออกอากาศด้วยข้อหาที่ว่ามัน “เซ็กซีมากเกินไป”

       สถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ของจีน CCTV สั่งแบนโฆษณาผลิตภัณฑ์ชุดชั้นในยี่ห้อ Cosmo Lady ของ หลินจือหลิง (Lin Chi Ling) ที่เพิ่งจะแพร่ภาพเมื่อเร็วๆ นี้ ด้วยเหตุผลของความเซ็กซียั่วยวนของนางแบบสาวคนสวย ที่โชว์โฉมอวดหุ่นในชุดวาบหวิวหลากหลายสีสัน
       
       ซึ่งทางการจีนมองว่า โฆษณาดังกล่าวมีเนื้อหาที่เข้าข่ายเป็นการ “กระตุ้นให้เกิดอาชญากรรม” ขึ้นมาได้ โดยในโฆษณาตัวนี้ มีฉากที่นางแบบวัย 37 ปี ต้องอวดหน้าอก 34 นิ้วอยู่หลายๆฉาก ซึ่งทางการจีน คิดว่า หวิวเกินกว่าจะออกอากาศได้
       
       สาวสวยขวัญใจชาวไต้หวันเข้าวงการตั้งแต่อายุ 15 ปี กับอาชีพนางแบบ และสร้างชื่อขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งในช่วงเข้าสู่ปี 2000 เธอแทบจะกลายเป็นนางแบบอันดับ 1 ของไต้หวัน มีผลงานปรากฏอยู่บนหน้าปกนิตยสารมากมาย และเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้าหลายๆ ประเภทถึงขั้นมีฉายาว่าเป็น “เจ้าแม่โฆษณา” และหลายคนก็เรียกความโด่งดังของเธอในเวลานั้นว่าเป็น “ปรากฏการณ์หลินจือหลิง” กันเลยทีเดียว
       

มีการออกมาเผยจากทางสถานีโทรทัศน์ MBC ของเกาหลีแล้วว่า เตรียมตัวจะทำภาคต่อของซีรีย์เรื่องดัง “แดจังกึม” (Dae Jang Geum) แล้ว หลังประธานบริหารเดินทางไปเยือนเมืองจีน และพูดคุยถึงซีรีย์เรื่องนี้
       
       ตามรายงานจาก MBC ระบุว่า คิมแจชอล ประธานของสถานี MBC เพิ่งเดินทางไปเยือน สถานีหูหนาน แซทเทิลไลท์ ของจีน พร้อมกับพูดคุยปรึกษาถึงความร่วมมือกันของสถานีในการทำเรื่อง แดจังกึมภาค 2 ซึ่งจะเกิดขึ้นในปีหน้านี้
       
       หลังจากที่ แดจังกึม หรือ Jewel in the Palace เมื่อปี 2005 ได้ออกอากาศในประเทศจีนทำเรตติ้งสูง และประสบความสำเร็จอย่างมาก ทาง หูหนาน ทีวี ก็แสดงความสนใจยอมจ่ายเงินล่วงหน้า พร้อมแสดงความสนใจจะลงทุนทำ แดจังกึม 2 กับทางเกาหลีเลยทีเดียว โดย คิมแจชอล ได้เผยว่า เขาจะดำเนินการเจรจาต่อรองกับทางหูหนาน ทีวี เกี่ยวกับการทำภาคต่อซีรีย์เรื่องยิ่งใหญ่นี้ให้สำเร็จลุล่วง
       
       แดจังกึม นับว่า เป็นซีรีย์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก และสร้างชื่อให้กับประเทศเกาหลีใต้มากทีเดียว โดยมีการออกอากาศซีรีย์เรื่องดังกล่าวไปทั้งหมด 87 ประเทศทั่วโลก ทั้งในเอเชีย, ยุโรป และ แอฟริกา ซึ่งทำเรทติ้งในประเทศสูงมากถึง 80% โดยครั้งนั้นสถานี MBC สามารถทำรายได้จากเรื่องดังกล่าวไปมากกว่า 12 พันล้านวอน จากค่าลิขสิทธิ์เลยทีเดียว
       
       อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวรายชื่อนักแสดง, ผู้กำกับ และ คนเขียนบท ที่จะมาร่วมงานในภาค 2 นี้แต่อย่างใด

Manager Online

       เกิดประเด็น “หลุด” ขึ้นกับวงการบันเทิงไต้หวันอีกครั้ง คราวนี้ถึงทีของฝ่ายหญิงบ้าง กับนางแบบสาวสุดเซ็กซี ที่ภาพส่วนตัวจำนวนมากเฉียด 500 ภาพหลุดว่อนเน็ต กลายเป็นเรื่องฉาวต่อจากกรณีของ “จัสติน ลี” (Justin Lee / 李宗瑞)
       
       หลังคดีคลิปหลุดของทายาทนักธุรกิจชื่อดัง ที่ขณะนี้ยังมีข้อสงสัยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องของการสมยอม หรือหนุ่ม “จัสติน ลี” จะมีพฤติกรรมเข้าข่ายอาชญากรจอมข่มขืนกันแน่ ล่าสุด ก็มีประเด็นภาพหลุดเกิดขึ้นกับวงการบันเทิงไต้หวันอีก สำหรับภาพหลุด 457 รูปของนางแบบสาว ไหลหยิงอี้ว์ (Lai Yingyu / 赖滢羽) ที่ชัดเจนว่า เป็นภาพที่จงใจถ่ายเก็บเอาไว้เอง เพราะตัวหญิงสาวหันหน้ามามองกล้อง มีทั้งภาพเดี่ยว และภาพที่ถ่ายกันแฟนหนุ่ม
       
       ไหลหยิงอี้ว์ เข้าวงการในฐานะสมาชิกของวง Blackie Girl เมื่อ 6 ปีก่อน จนต่อมาเบนเข็มสู่วงการแฟชั่น และเคยถ่ายภาพเซ็กซีในบิกีนี จนไปถึงภาพนู้ดกันมาแล้ว ซึ่งเธอยอมรับว่าตอนนั้นร้อนเงิน จึงรับงานถ่ายภาพลักษณะดังกล่าวไปสองครั้ง จนเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีเมื่อตัดสินใจถ่ายนู้ด ก็เลยไม่ได้ถ่ายแบบทำนองนี้อีก
       
       สำหรับภาพหวิวส่วนตัวที่หลุดออกมานี่ สื่อในใต้หวัน ระบุว่า บางรูปน่าจะถ่ายเก็บเอาไว้ ตั้งแต่ตอนที่นางแบบสาวมีอายุเพียง 17 ปี เท่านั้น เป็นภาพส่วนตัวที่บางภาพเป็นการถ่ายคู่กับแฟนหนุ่ม ขณะที่บางภาพเธอก็เป็นคนถือกล้องเอง นอกจากนั้นก็ยังมีทั้งประเภทภาพที่เซ็กซียั่วยวน จนไปถึงติดเรตเผยแพร่ไม่ได้ ซึ่งเชื่อกันว่าน่าจะมีภาพอีกจำนวนมาก ที่ยังไม่ได้หลุดออกมา

Manager Online

หลังเขียนข้อความสนับสนุนความสัมพันธ์ของ จีนกับญี่ปุ่น ให้กลับมาดีเหมือนเดิม “โซระ อาโออิ” (Sora Aoi) กลับโดนโจมตีจากชาวจีน เช่นเดียวกับบรรดาดาราหลายคน และหนังหลายเรื่อง ที่ตอนนี้ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างประเทศไปตามๆ กัน
       
       ดาราเอวีเลือดปลาดิบขวัญใจบรรดาอาตี๋ทั้งหลายอย่าง โซระ อาโออิ ได้แสดงจุดยืนเรื่องการแย่งเกาะเจ้าปัญหา ผ่านการเขียนลายมือตัวอักษรภาษาจีน ที่มีความหมายว่า “ความสัมพันธ์ ญี่ปุ่น-จีน” พร้อมกับเขียนแสดงความเห็นว่า “ฉันหวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนทั่วๆ ของทั้งสองประเทศยังจะดีเหมือนเดิม ฉันก็อยู่ในโลกใบเดียวกับทุกคน มันน่าเศร้าอยู่เหมือนกัน”
       
       หลังเริ่มรับงานในจีนมาตั้งแต่ปี 2010 กับงานโฆษณาเกมออนไลน์ โซระ อาโออิ ได้ตัดสินใจมุ่งหน้าสู่ถนนบันเทิงของจีนแผ่นดินใหญ่อย่างเต็มตัว โดยเฉพาะ Sina Weibo ของเธอนั้นมีคนจีนตามอยู่ถึง 13 ล้านคนเลยทีเดียว
       
       นอกจากนั้น หนุ่มจีนบางคนยังเรียก อาโออิ ว่าเป็น “ซินแส” หรือในภาษาญี่ปุ่นที่ว่า “เซนเซ” ซึ่งแปลว่า “อาจารย์” ก็เพราะเธอคนนี้เป็นสาวคนแรกที่สอนให้หนุ่มๆ หลายคนได้รู้จักเรื่องของเซ็กซ์ นั่นเอง
       
       โดยเมื่อเร็วๆ นี้ เมื่อเธอถามแฟนๆ ในเน็ต ว่า มีที่ไหนในจีนที่น่าเที่ยวบ้าง ก็มีคนเอ่ยชื่อของเกาะเตี้ยวอี๋ว์ที่กำลังเป็นปัญหาความขัดแย้งระหว่างชาติขึ้นมา ซึ่งดาราสาวคนดังยังบอกว่าเธอจะพยายามใช้ชื่อเสียงในประเทศบ้านเกิดของตัวเอง ผสานรอยร้าวระหว่างจีนกับญี่ปุ่นในอีกทางด้วย
       

       หลังมีข่าวเรื่องความรักครั้งใหม่ถึงขั้นมีเสียงลือถึงระฆังวันวิวาห์กันแล้ว ล่าสุด ดาราสาวชื่อดังชาวจีน จางจื่ออี๋ (Zhang Ziyi) ได้ยอมรับแล้วว่าเธอกำลังคบหาดูใจกับพิธีกรหนุ่มคนดังแห่งสถานีโทรทัศน์ CCTV จริง
       
       ข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ของ จางจื่ออี๋ กับพิธีกรหนุ่ม ซาเป่ยหนิง (Sa Beining) เริ่มต้นเป็นที่พูดถึงมาเกือบจะครบ 1 ปีแล้ว มีคนเห็นทั้งสองใช้เวลาร่วมกันในสถานที่ต่างๆ หลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยมีคำยืนยันถึงเรื่องการคบกันออกมาอย่างเป็นทางการเลย
       
       จนกระทั่งล่าสุดระหว่างเดินพรมแดงในเทศกาลหนังที่โตรอนโต เพื่อเปิดตัวผลงานใหม่ Dangerous Liaisons ที่เธอประชันบทบาทกัน จางป๋อจือ (Cecilia Cheung) และพระเอกชาวเกาหลีใต้ จางดองกอน (Jang Dong Gun) เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามีคนตั้งข้อสังเกตว่า จางจื่ออี๋ ดูยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นพิเศษเหมือนกำลังมีความรัก และระหว่างให้สัมภาษณ์เธอก็เอ่ยถึงเรื่องนี้เป็นครั้งแรก
       
       ในช่วงของการแถลงข่าวถึงหนัง ดาราชาวจีนบอกว่า เธอเป็นคนประเภทที่ให้ความสำคัญกับความรักเป็นอันดับแรก และเชื่อมั่นว่าสุดท้ายแล้วความรวยจนไม่มีผลอะไรกับเรื่องของความรักเลย สิ่งสำคัญก็คือว่ามันจะเป็นรักแท้หรือไม่เท่านั้น และหากมีความรักแล้ว เธอก็ไม่กลัวที่จะต้องเสียใจ
       
       แม้จะไม่ได้พูดถึงความรักครั้งใหม่กับ ซาเป่ยหนิง โดยตรง แต่เมื่อมีผู้สื่อข่าวรายหนึ่ง อวยพรให้ความสัมพันธ์ครั้งนี้ของเธอกับพิธีกรหนุ่มไปได้ดี จางจื่ออี๋ ก็ตอบรับสั้นๆ ง่ายๆ แต่ชัดเจนว่า “ขอบคุณค่ะ”
       

       อดีตสมาชิก AKB48 กำลังจะได้โอกาสพิสูจน์ฝีมือในการแสดง ด้วยการร่วมงานกับนักแสดงยอดฝืมือชาวฮ่องกง ในหนังใหม่ของผู้กำกับที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดคนหนึ่ง ของวงการภาพยนตร์ญี่ปุ่นในยุคปัจจุบัน
       
       มีการประกาศถึงโปรเจ็คหนังฟอร์มใหญ่ของญี่ปุ่น โดยบริษัท Prenom H ที่มีชื่อเรื่องว่า 1905 ซึ่งจะมีการดึงเอานักแสดงหนุ่มยอดฝีมือชาวญี่ปุ่น โชตะ มัตสึดะ (Shota Matsuda) มาประชันบทบาทกับซูเปอร์สตาร์แห่งฮ่องกง เหลียงเฉาเหว่ย (Tony Leung) และไอดอลสาวคนสวยอดีตสมาชิกวง AKB48 อย่าง มาเอดะ อัตสึโกะ (Maeda Atsuko)
       
       1905 จะเป็นผลงานของผู้กำกับ คิโยชิ คุโรซาวะ (Kurosawa Kiyoshi) เจ้าของหนังดังๆ มากมาย โดยเฉพาะในแนวสยองขวัญไม่ว่าจะเป็น Kairo และ Cure แต่งานในแนวทางอื่นอย่าง Tokyo Sonata ก็ได้รับการยกย่องเช่นเดียวกัน
       
       โดยหนังที่มีฉากหลังอยู่ในเมืองโยโกฮาม่า จะเล่าเรื่องของหนุ่มชาวจีน หยางหยุนหลง (เหลียงเฉาเหว่ย) เจ้าพ่อเงินกู้ที่เดินทางมาญี่ปุ่น เพื่อตามล่าชาวจีน 5 คนที่ติดหนี้เขาเอาไว้ แต่ในเวลาเดียวกันเขายังต้องปะทะกับหนุ่มชาวญี่ปุ่นแห่งกลุ่มชาตินิยม (มัตสึดะ) ที่ต้องการตัวชายทั้ง 5 คนด้วยเหตุผลบางอย่างเช่นเดียวกัน โดยระหว่างอยู่ในญี่ปุ่น หยาง ยังได้หญิงสาวชาวคนหนึ่ง (มาเอดะ) มาคอยช่วยเหลือดูแล
       

      มีมาเรื่อยๆ สำหรับข่าวประเด็นความเป็นไปได้ กับการหวนคืนดี กลับมาครองคู่ของอดีตคู่รัก "จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) กับ "เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) รวมถึงล่าสุดที่ทั้งสองพาลูกไปพักผ่อนตามประสาครอบครัวด้วย
       
       ชีวิตคู่ของสองซูเปอร์สตาร์แห่งวงการบันเทิงฮ่องกง ต้องถึงจุดสิ้นสุดเมื่อปีที่แล้ว หลังแต่งงานกันมาได้ 5 ปี ตามมาด้วยข่าวการทะเลาะกันอย่างรุนแรง โดยมีจุดเริ่มต้นกับข่าวลือที่ว่า จางป๋อจือ ได้พบกับกิ๊กเก่า เฉินกว้านซี (Edison Chen) ระหว่างการเดินทางบนเครื่องบิน และย้ายที่นั่งมาอยู่ติดกัน พูดคุยอย่างสนิทสนม รวมถึงถ่ายรูปด้วยกล้องมือถือเก็บเอาไว้ด้วย เป็นข่าวลือที่ไม่มีใครคิดว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการแยกทางในเวลาต่อมาเลย แม้หลังจากนั้นหลายๆฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะยืนยันว่า การหย่ากันของคนทั้งคู่ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับหนุ่มผู้อื้อฉาวอย่าง เฉินกว้านซี แน่นอน
       
       แต่ระยะหลังดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของ จางป๋อจือ กับ เซียะถิงฟง กลับดีขึ้นตามลำดับ จนมีข่าวออกมาเป็นระยะๆ ว่าทั้งสองอาจจะกลับหวนคืน เพื่อใช้ชีวิตเป็นสามีภรรยากันอีกครั้ง แม้ต่างฝ่ายจะออกมาปฏิเสธถึงความเป็นไปได้ของเรื่องนี้ พร้อมบอกว่าทุกอย่างที่เป็นตอนนี้ก็ดีอยู่แล้วก็ตาม
       

      หนุ่มคนหนึ่งที่ถูกนำชื่อมาโยงเข้ากับคดีของ “จัสติน ลี” (Justin Lee) มากที่สุด ก็คือ “เฉินกว้านซี” (Edison Chen) แม้เขาจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องโดยตรงก็ตาม แต่ด้วยรูปแบบของคดี และระดับความอื้อฉาวของเรื่องบนเตียง ก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่จะทำให้หนุ่มจีนทั้งสองถูกนำชื่อมาเปรียบเทียบกัน
       
       ล่าสุด หลังคดีของ จัสติน ลี เป็นข่าวครึกโครมอยู่ช่วงใหญ่ๆ เอดิสัน เฉินกว้านซี ดาราหนุ่มที่เคยเจอกับปัญหาคลิปส่วนตัวหลุดมาแล้วเช่นเดียวกัน ได้เปิดปากพูดถึงคดีที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ระหว่างอีเวนต์โปรโมตแบรนด์เสื้อผ้า CLOT ของเขาในไต้หวัน เมื่อมีผู้สื่อข่าวรายหนึ่งหยิบยกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาถาม เฉินกว้านซี ก็เป็นฝ่ายถามกลับไปว่า “คุณคิดว่าผมกับเขา แตกต่างกันรึเปล่าล่ะครับ”
       
       ซึ่งนักข่าวสาวคนหนึ่งที่อยู่ในงานวันนั้น ก็ตอบกลับไปโดยทันทีว่า ข้อแตกต่างระหว่างทั้งสองคน ก็คือ พฤติกรรมของ จัสติน ลี นั้น เข้าขั้นอาชญากรไปแล้ว ซึ่ง เฉินกว้านซี ก็ตอบรับด้วยการยิ้ม และขอบคุณผู้สื่อข่าวคนดังกล่าว เป็นการสื่อว่าเขาเห็นด้วยกับเหตุผลนี้
       
       เมื่อมีการเทียบเคียงเหตุการณ์สุดอื้อฉาวของดาราหนุ่มชาวฮ่องกง และลูกชายนักธุรกิจชาวไต้หวัน มีหลายคนแสดงความเห็นว่า การพูดว่าทั้งสองมีพฤติกรรมเหมือนกัน คงไม่ถูกต้องเสียทีเดียว เพราะค่อนข้างชัดเจนว่า สาวๆ ของ เฉินกว้านซี ทั้งหมดสมยอม และรับทราบเรื่องการถ่ายภาพระหว่างมีสัมพันธ์กันเก็บเอาไว้ ส่วนคดีของ จัสติน ลี นั้น ต้องสงสัยว่า ผู้หญิงบางรายอาจเข้าข่ายถูกข่มขืน และหลายคนก็ไม่ได้รับรู้ว่าพวกเธอถูกถ่ายคลิป
       

แม้จะเป็นนักแสดงบู๊ดุเดือด แต่"เฉินหลง" (Jackie Chan) นักแสดงชื่อดังก็ยังคงความเป็นสุภาพบุรุษไว้ได้เหมือนเดิม โดยเจ้าตัวยื่นตุ๊กตาหมีแพนด้าให้"เหยาซิงถง" (Yao Xingtong / 姚星彤) เพื่อนนักแสดงสาวที่เดินพรมแดงในชุดซีทรู เพื่อนำไปปิดหน้าอกที่เผยให้เห็นอย่างชัดเจน
       
       เฉินหลง นักแสดงบู๊ชื่อดังวัย 58 ปี ได้ช่วยเพื่อนนักแสดงสาวที่เดินพรมแดงในชุดลูกไม้สีขาวซีทรูโนบราเผยให้เห็นหน้าอกแบบเต็มๆ โดยยื่นตุ๊กตาหมีแพนด้าสัตว์ประจำชาติจีนที่เขาถือติดมือมาด้วยให้ เหยาซิงถง นำไปถือไว้เป็นการช่วยบังหน้าอกของเธอขณะถูกสื่อรุมถ่ายภาพ
       
       งานนี้ นอกจากเหยาซิงถงแล้ว ยังมีเพื่อนนักแสดงสาว จางหลานซิน (Zhang Lanxin / 张蓝心) มาร่วมงาน In Conversation With Jackie Chan ที่จัดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของงานเทศกาลภาพยนตร์ที่โตรอนโตด้วย ซึ่งสาวจางหลานซิน มาในชุดที่วาบหวิวน้อยกว่า กับชุดราตรีปักเลื่อมที่ซีทรูเฉพาะช่วงกลางอก เผยให้เห็นหน้าอกเล็กน้อย ส่วนเฉินหลง ที่มีผลงานภาพยนตร์มาแล้วมากกว่า 150 เรื่อง ก็มาในชุดเรียบง่ายสีครีม-น้ำตาล
       
       โดยในงาน เฉินหลง ได้พยายามเชิญชวนสื่อร่วมเผยแพร่วัฒนธรรมชาวจีนด้วย "ผมคิดว่าเราจำเป็นต้องจัดงานนี้ขึ้น โดยผมหวังว่าชาวตะวันตกส่วนใหญ่จะมาเยือนประเทศจีน รวมถึงโปรดิวเซอร์และผู้กำกับชาวตะวันตกด้วย และมีโอกาสได้ร่วมงานกันในส่วนของภาพยนตร์ ซึ่งภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับประเทศจีนนั้นจะสามารถแนะนำต่างชาติได้ ผมเชื่อว่านี่จะเป็นการช่วยสังคมตะวันตกให้เข้าใจวัฒนธรรมชาวจีนมากยิ่งขึ้น"

Manager Online

      ความประทับใจจากการไปถ่ายงานที่บาร์เซโลนาเมื่อปี 1992 ระหว่างมีการแข่งขันกีฬา "พาราลิมปิก" ทำให้พระเอกชื่อดังชาวฮ่องกง แสดงออกถึงความกระตือรือร้น ต่อการช่วยเหลือสนับสนุนกิจกรรมการแข่งขันรายการนี้มาตลอดทุกครั้ง เช่นเดียวกับการแข่งขันที่กรุงลอนดอนในปีนี้ ที่เขายังเดินทางมาชมการแข่งขันด้วย
       
       เมื่อวันอังคารที่แล้ว หลิวเต๋อหัว (Andy Lau) ได้มีโอกาสเดินทางไปกรุงลอนดอนเพื่อร่วมชมการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกครั้งล่าสุด ซึ่งยังเป็นโอกาสดีที่ทำให้พระเอกคนดังได้ใช้เวลาว่างกับการพักผ่อน อย่างที่ทำได้ไม่ค่อยจะง่ายนักระหว่างอยู่ที่ฮ่องกง หรือเมืองจีนด้วย
       
       หลังเดินทางถึงกรุงลอนดอน หลิวเต๋อหัว พอจะมีเวลาว่าง เพราะยังไม่ถึงกำหนดการใดๆ จึงใช้โอกาสเดินชอปในย่านถนนหนทางของกรุงลอนดอน ซึ่งเขายังโพสต์ภาพในการเยือนเมืองหลวงของอังกฤษให้กับแฟนๆได้ชมกันด้วย
       
       หลิวเต๋อหัว เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งของวงการบันเทิงจีน โด่งดังเป็นที่รู้จักในประเทศแถบเอเชียทุกประเทศ ซึ่งคงไม่สามารถไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกระหว่างอยู่ที่ประเทศบ้านเกิดแน่ แต่ไม่ใช่ในกรุงลอนดอนที่ไม่มีใครจดจำเขาได้ หลิวเต๋อหัว จึงได้ใช้เวลาว่าง กับอิสระอย่างที่หาไม่ค่อยได้ง่ายนัก เขายังไปที่ป้ายรถเมล์ ซึ่งมีคนยืนอยู่เต็มไปหมด และกล่าวติดตลกว่า "ไม่มีใครจำผมได้เลย"
       
       ด้วยเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายเรียบๆ ง่ายๆ สบายๆ แบบเดียวกับตัวละครของเขาในหนังเรื่อง A Simple Life หลิวเต๋อหัว ดูกลมกลืนไปในถนนหนทางที่ยุ่งเหยิง และดูเหมือนว่าทุกคนจะเดินผ่านพระเอกคนดังไปโดยไม่สนใจอะไร อย่างที่เขาบอกแฟนๆ ในเว็บไซต์ของตัวเองว่า "ไม่บ่อยเลยที่ผมจะได้มาเดินในที่แบบนี้ครับ"
       

      ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างจีน และญี่ปุ่น กำลังตึงเครียดด้วยประเด็นข้อพิพาทเกี่ยวกับการอ้างสิทธิ์เหนือเกาะ "เตียวหยู/เซนกากุ" ในอีกด้านที่วงการบันเทิง กลับเป็นภาพที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง เมื่อสาวจีนหลายหมื่นคน แสดงความกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก กับการสมัครเป็นสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ป วงน้องสาวของศิลปินดังจากประเทศญี่ปุ่น
       
       สำนักข่าวซินหัวในจีนรายงานว่ามีหญิงสาวจากทั่วประเทศถึง 38,000 คน ที่ส่งใบสมัครเข้ามาเพื่อลุ้นเป็นสมาชิก 16 คนแรกในการก่อตั้ง SNH48 หรือ "เซียงไฮ้ 48" วงน้องสาวชาวต่างชาติล่าสุดของ AKB48 โดยมีการเปิดรับสมัครกันตั้งแต่เดือน ก.ค. และหมดเขตไปในวันที่ 30 ส.ค. ที่ผ่านมา
       
       ในเวลาเดียวกันโฆษกสำนักงานของ SNH48 ในเซียงไฮ้ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในการยื่นใบสมัครวันแรกนั้น เว็บไซต์อย่างเป็นทางการถึงกับล่มไปพักใหญ่ เพราะมีคนเข้ามาพร้อมกันมากเกินไป ซึ่งหลังปิดรับสมัครกันไปแล้ว ขั้นตอนต่างๆ ก็จะเริ่มต้นขึ้น กับการคัดเลือกรอบสัมภาษณ์ในช่วงเดือนนี้ ทั้งที่ เฉิงตู, หังโจว, กวางโจว, ปักกิ่ง และเซียงไฮ้ เพื่อคัดเลือกหญิงสาวผู้ผ่านเข้ารอบต่อไป 1,000 คน ก่อนจะตัดให้เหลือ 16 คนในเดือน พ.ย. และเปิดคอนเสิร์ตครั้งแรกในเดือน ธ.ค.
       
       หลังประสบความสำเร็จในการปั้น AKB48 (อากิฮาบาระ) กลุ่มเกิร์ลกรุ๊ปที่มีสมาชิกจำนวนมาก และมีจุดเด่นกับการออกผลงานเพลง ควบคู่ไปกับการเปิดแสดงในโรงละครเวทีประจำ จึงมีการริเริ่มวงในแนวเดียวกันประจำเมืองอื่นๆ ออกมาอีกทั้ง SKE48 (ซากาเอะ 48) และ NMB48 (นัมบะ 48) ต่อมาจึงขยายไปถึงต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น JKT48 (จาการ์ตา 48) และ TPE48 (ไทเป 48)
       

      ผู้สร้างซีรีส์เรื่อง "Demi-Gods and Semi-Devils" (天龍八部 / 天龙八部) หรือ "8 เทพอสูรมังกรฟ้า" ฉบับใหม่ล่าสุดได้ยืนยันถึง 2 นักแสดงที่จะมาสวมบทบาทเป็นตัวละครสำคัญ และหนึ่งในนั้นเป็นนักแสดงชาวเกาหลีใต้ ซึ่งชาวจีนหลายคนได้แสดงความไม่พอใจออกมาทันที
       
       เปิดเผยกันออกมาแล้วสำหรับผู้ที่จะมารับบทเป็น 2 ตัวละครสำคัญใน 8 เทพอสูรมังกรฟ้า ฉบับล่าสุด โดย จงฮั่นเหลียง (Wallace Chung) จะสวมบทบาทเป็น "เฉียวฟง" (Xiao Feng) ประมุขพรรคกระยาจกสุดยอดฝีมือในเรื่อง ส่วน คิมคีบอม (Ki Bum) สมาชิกวง Super Junior จะรับบท "ต้วนอี้" (Duan Yu) องค์ชายหนุ่มแห่งแคว้นต้าหลี่
       
       สำหรับตัวละครสำคัญอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น หลวงจีนซีจุ๊ และ หวังอวี่เยียน จะเปิดโอกาสให้แฟนๆ ได้ร่วมโหวตลงคะแนนคัดเลือกกันต่อไป
       
       8 เทพอสูรมังกรฟ้า นิยายที่เล่าเรื่องเหตุการณ์ก่อนหน้าของไตรภาคมังกรหยก เป็นผลงานของ กิมย้ง ที่ถูกดัดแปลงเป็นซีรีส์ และภาพยนตร์มาแล้วหลายครั้ง ทั้งจากผู้สร้างชาวจีน, ฮ่องกง และไต้หวัน แต่ครั้งล่าสุดอาจถูกกระแสวิจารณ์หนักตั้งแต่ยังไม่เปิดกล้อง กับการมอบบทเด่นที่ถือว่าเป็นพระเอกของเรื่อง ให้กับนักแสดงหนุ่มชาวเกาหลีใต้ จนนำมาซึ่งเสียงวิจารณ์มากมายในอินเตอร์เน็ต
       
       โดยชาวจีนหลายคนเชื่อว่า น่าจะสงวนบทสำคัญ ในนิยายสุดดังของประเทศเรื่องนี้ ไว้ให้กับนักแสดงเชื้อสายจีนเท่านั้น ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องเลือกให้หนุ่มเกาหลีใต้มาแสดงบทดังกล่าวเลย
       

เรียกได้ว่าตอนนี้ "ฮีบี" (Hebe Tien / 田馥甄) กลายเป็นสมาชิกเพียงคนเดียวในวง S.H.E ที่ยังไม่สละโสด ส่งให้เธอถูกจับตามองเป็นอย่างมาก แต่ล่าสุดประเด็นที่เธอควงทอมก็กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง หลังมีคนเห็นพากันเข้าบ้านค้างด้วยกันทั้งคืน
       
       ตามรายงานระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง ฮีบี นักร้องสาวสวยจากวง S.H.E เกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังของไต้หวัน และผู้จัดการสาวหล่อของเธอได้ก่อให้เกิดข่าวลือถึงความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาขึ้นมาอีกครั้ง โดยมีคนสงสัยว่าเหลียวฮุ่ยเฉิง (Liao Hui-cheng) ผู้จัดการคนปัจจุบันของฮีบี เป็นคนรักของนักร้องสาว ซึ่งก่อนหน้านี้เธอเป็นเพื่อนและเป็นอดีตผู้ช่วยส่วนตัวของนักร้องสาว
       
       โดยเมื่อวันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา ทั้งคู่ก็เคยตกเป็นข่าวเมาท์หลังมีคนเห็นทั้งคู่กระซิบกระซาบกันที่หูอย่างใกล้ชิด ขณะเดินเล่นที่สวนสาธารณะพร้อมกับกอดกันตลอดทาง นอกจากนั้นเหลียวฮุ่ยเฉิงยังนวดให้ฮีบีระหว่างที่อยู่ในสวนสาธารณะด้วย
       
       จนกระทั่งล่าสุดนี่เอง ข่าวลือเรื่องการคบหาสาวหล่อของฮีบีก็ถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อมีรายงานว่า มีคนเห็นเหลียวฮุ่ยเฉิงอยู่กับนักร้องสาววัย 29 ปีตลอดคืน โดยหายเข้าไปที่อพาร์ทเมนท์ของฮีบีตั้งแต่เวลา 23.40 น. ก่อนจะออกจากอพาร์ทเมนท์ของนักร้องสาวในเวลา 13.00 น. ของวันถัดมา หลังจากใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานกว่า 13 ชม. ที่บ้านพักของฮีบี
       
       ทางด้าน HIM International ต้นสังกัดของฮีบี ได้ออกมาระบุถึงข่าวเมาท์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นใหญ่ และเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้จัดการจะไปบ้านของศิลปินที่ตนเองดูแลอยู่

Manager Online

       ความรักยาวนาน 13 ปี ของซูเปอร์สตาร์ดาวตลก กับอดีตแฟนสาวดูจะจบลงอย่างไม่สวยซะแล้ว เมื่อล่าสุดมีข่าวว่าฝ่ายหญิงได้ตัดสินใจฟ้องร้อง เพื่อเรียกร้องค่านายหน้าจำนวนถึง 70 ล้านเหรียญฮ่องกง จากการขายอสังหาริมทรัพย์ ที่ทำเงินจำนวนมหาศาลให้กับ “โจวซิงฉือ” (Stephen Chow / 周星驰) เมื่อเร็วๆ นี้
       
       โจวซิงฉือ ได้เลิกรากับแฟนสาว หยูเหวินฟ่ง (Yu Man-fung / 于文凤) ไปเมื่อปี 2010 หลังคบหากันมายาวนาน 13 ปี อย่างไรก็ตาม ทั้งสองยังรักษาความสัมพันธ์ทางธุรกิจเอาไว้ กับการที่ฝ่ายหญิงยังคงทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุนของ โจวซิงฉือ ต่อไป
       
       โดยที่บริษัทของเขาได้จ่ายเงินให้กับบริษัทของแฟนเก่าเป็นจำนวนเงินเดือนละ 59,000 เหรียญฮ่องกง (238,000 บาท) นอกจากนั้น ยังมีข้อตกลงจะแบ่งเงินให้ 10% จากกำไรของการลงทุน หลังหักภาษีแล้วด้วย
       
       อย่างไรก็ตาม อดีตคนรักของดาวตลกชื่อดัง ได้กล่าวหาว่า เมื่อ โจวซิงฉือ สามารถขายคอนโดฯ ที่เธอแนะนำให้เขาซื้อตามข้อมูลทางธุรกิจของเธอ จนเขาทำเงินได้ถึง 800 ล้านเหรียญฮ่องกง (3,200 ล้านบาท) แต่เขากลับไม่ได้แบ่งเงินให้กับเธอ 10% หรือคิดเป็น 80 ล้านเหรียญฮ่องกง (320 ล้านบาท) แต่อย่างใด
       
       โดย โจวซิงฉือ เพียงจ่ายเงินให้กับแฟนเก่า 10 ล้านเหรียญฮ่องกง เมื่อเดือน มี.ค.และยืนยันจะไม่จ่ายเงินค่านายหน้าให้อีก จนนำมาซึ่งการฟ้องร้องในที่สุด และถึงตอนนี้ดาวตลกซูเปอร์สตาร์ยังคงไม่ออกมาแก้ข่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
       

       ดาราสาวหุ่นเซ็กซี่โดนข้อกล่าวหาแรงๆ อีกครั้ง ว่าเธอเคยมีจ็อบพิเศษทำงานเป็นสาวนั่งดริ๊งค่าตัวแพง โดยรับงานผ่านบริษัทต้นสังกัด ที่ทำรายได้คิดเป็นเงินไทยคราวละเป็นหมื่นบาท
       
       ดาราสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ จางซินหยู (Viann Zhang / 張馨予) โดนแฉถึงงานพิเศษ ที่ทำได้ง่ายๆ ด้วยการนั่งโต๊ะเป็นเพื่อนกินเพื่อนดื่มในคลับ ของบรรดานักธุรกิจใหญ่ หรือมหาเศรษฐี แลกกับเงินครั้งละอย่างน้อย 3,000 หยวน (ประมาณ 14,700 บาท) โดยเป็นประธานของบริษัท Globaltrade Investment Consultant Co, LTD ที่ออกมาแฉนางแบบสาวผ่านทางไมโครบล็อคของเขา
       
       หลังตกเป็นข่าวฉาว ลี่เฉิน (Li Chen / 李晨) แฟนหนุ่มคนปัจจุบันของ จางซินหยู ได้ออกโรงวิวาทะกับนักธุรกิจจอมแฉโดยทันที โดยเขาเขียนผ่านบล็อคส่วนตัวไปเช่นเดียวกันว่า ให้นักธุรกิจคู่กรณีของแฟนสาวระวังตัวเอาไว้ให้ดี อย่ามัวแต่มาปล่อยข่าวทำร้ายคนอื่น จนตัวเองต้องล้มละลายไปก็แล้วกัน ขณะที่ต้นสังกัดของฝ่ายหญิงก็ปฏิเสธข้อกล่าวหา พร้อมเปรยใช้มาตรการทางกฎหมายตอบโต้ข้อกล่าวหาต่อไป
       
       จางซินหยู นางแบบสาววัย 25 ปี ที่มีพื้นเพมาจากซูโจว คือสาวเซ็กซีได้รับความนิยมมากที่สุดอีกคนในประเทศของเธอ นอกจากนั้นยังโด่งดังเป็นพิเศษเมื่อเธอได้คบหาดูใจกับนักแสดงหนุ่มสังกัดทีวีบี อู๋จั๊วอี้ (Ron Ng / 吳卓羲) ซึ่งความสัมพันธ์ของทั้งคู่กลายเป็นที่จับตามองจากทั้งสื่อในจีนแผ่นดินใหญ่ และฮ่องกง จนกระทั่งมาสิ้นสุดหมดรักกันไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน และฝ่ายหญิงจึงหันมาคบหาดูใจกับ ลี่เฉิน แทน

Manager Online

กลายเป็นเรื่องใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ กับปัญหาทางการเมืองทั้งระหว่าง จีน กับ ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ กับ ญี่ปุ่น ที่ล่าสุดถึงกับส่งผลกระทบไปสู่วงการบันเทิง ทำให้นักแสดงดังจากจีน และเกาหลีใต้ ต้องยกเลิกการเดินทางเข้าไปโปรโมตผลงาน รวมถึงดาราสาว “หลีปิงปิง” (Li Bing Bing) ที่ตัดสินใจไม่ไปร่วมการฉายรอบปฐมทัศน์ของ Resident Evil ในกรุงโตเกียว
       
       สุดท้าย หลีปิงปิง ก็ไม่ได้ร่วมเดินทางไปกับทีมงาน และนักแสดงของหนังเรื่อง Resident Evil: Retribution ในการฉายรอบปฐมทัศน์ของหนังแอ็กชั่นซอมบีสุดดังที่กรุงโตเกียว ซึ่งสื่อในฮ่องกงระบุว่าสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง เกี่ยวกับข้อพิพาทระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ต่อประเด็นการแย่งอ้างสิทธิ์เหนือเกาะ “เตียวหยู” หรือที่ญี่ปุ่นรู้จักกันในชื่อเกาะ “เซนกากุ” ที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ในเวลานี้นั่นเอง
       
       โดยใน Resident Evil: Retribution หลีปิงปิง ได้มีโอกาสสวมบทเป็นตัวละคร “เอดา หว่อง” (Ada Wong) ที่แฟนๆ ของเกม Resident Evil หรือ Biohazard น่าจะรู้จักกันดี โดยในหนังภาคล่าสุด ที่ถือว่าเป็นภาคที่ 5 กันแล้ว ยังมีส่วนหนึ่งของเรื่องที่เดินทางกันเข้าไปถ่ายทำในกรุงโตเกียวด้วย
       
       ล่าสุด จีเสียง ตัวแทนของหลีปิงปิงได้มีโอกาสตอบคำถามถึงเรื่องนี้ โดยมีคำอธิบายว่า หลีปิงปิง ไม่ได้เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น เพราะในช่วงเวลาเดียวกันเธอมีงานอยู่ที่กรุงปักกิ่งพอดี อย่างไรก็ตาม ตัวแทนของนักแสดงสาวยังกล่าวเป็นนัยว่าการตัดสินใจไม่เดินทางไปโตเกียวนั้น เกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเมืองอยู่บ้างเหมือนกัน และ หลีปิงปิง จะไม่ทำอะไรที่เป็นการขัดแย้งต่อจุดยืนของรัฐบาลจีนแน่นอน
       

      "เฉินหลง" (Jackie Chan) ได้มีโอกาสจัดงานแถลงข่าวถึงผลงานใหม่ที่กรุงปักกิ่งเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยงานนี้เขายังได้พาตัวสองสาวหน้าใหม่ ประจำหนังเรื่องนี้ของเขามาแนะนำตัวให้ทุกคนรู้จักกันด้วย
       
       ในหนัง เจมส์ บอนด์ ทุกภาคจะมีสาวสวยที่คอยมาสร้างสีสัน ที่ใครๆ ก็รู้จักกันภายใต้ชื่อ "บอนด์ เกิร์ล" ส่วนหนังของยอดผู้กำกับชาวจีน "จางอี้โหมว" ก็มักจะเป็นเวทีแจ้งเกิดดาราสาวยอดฝีมือหน้าใหม่ ซึ่งถูกเรียกว่า "โหมว เกิร์ล"
       
       เช่นเดียวกับหนังของยอดนักบู๊ เฉินหลง ในแต่ละเรื่องที่มักจะมีดาราสาวทั้งที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับแถวหน้า และสาวสวยดาวรุ่งสดใหม่มาแนะนำให้ผู้ชมได้รู้จักกัน ซึ่งคนดูอาจจะเรียกพวกเธอว่า "หลง เกิร์ลส์" (Lung Girls / 龙女郎) ได้เหมือนกัน
       
       ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา เฉินหลง วัย 58 ปี ได้จัดงานแถลงข่าวใหญ่โต ที่เขาเปิดตัวด้วยการขับรถสปอร์ตแลมบอร์กินีสุดหรูเข้างาน มาพร้อมกับดาราสาวสองคนคือ เหยาชิงถง (Yao Xingtong / 姚星彤) และ จางหลันซิน (Zhang Lanxin / 张蓝心) ที่ถือว่าเป็น หลง-เกิร์ลส์ คนใหม่ล่าสุดประจำปี 2012 ของเขาก็ว่าได้

       ระหว่างการแถลงข่าว เฉินหลง ยังกล่าวชื่นชม เหยาชิงถง ที่เขาบอกว่าตั้งใจทำงานมาก โดยเฉพาะการเตรียมพร้อมสำหรับการถ่ายทำแบบตลอด 24 ชั่วโมงของทุกวัน และใช้เวลาเรียนภาษาฝรั่งเศสภายในเวลาเพียง 3 เดือนเพื่อสำหรับใช้ในการแสดงหนังเรื่องนี้โดยเฉพาะ ขณะที่ จางหลันซิน อดีตนักกีฬาเทควอนโด ก็ได้โอกาสโชว์ลีลาเตะที่เธอภาคภูมิใจ ระหว่างการแถลงข่าวด้วย หลังสาวสวยคนนี้เคยเป็นแชมป์ในการแข่งขันเทควอนโดแห่งชาติ เมื่อปี 2004 ในรุ่น 55 กก. มาแล้ว

      ยืนยันแล้วสำหรับแผนการวิวาห์ของพระเอกหนุ่มคนดังชาวฮ่องกง กับแฟนสาวคนสวย ที่น่าจะมีขึ้นในปีหน้า ทำลายสถิติส่วนตัวของ "เจิ้งอี้เจี้ยน" (Ekin Cheng / 郑伊健) ที่เคยมีชีวิตรัก ซึ่งหมดอายุในระยะเวลา 7 ปีมาแล้วถึง 2 ครั้ง
       
       เลข 7 ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ตัวเลขที่ดีของ เจิ้งอี้เจี้ยน นัก โดยเฉพาะกับเรื่องความรัก หลังจากก่อนหน้านี้เขาเคยคบหากับนักแสดงสาวรุ่นพี่ เส้าเหม่ยฉี (Maggie Shiu / 邵美琪) อยู่ 7 ปี จึงแยกทางกันพร้อมข่าวฉาว ที่เขาหันไปคบหากับ เหลียงหยงฉี (Gigi Leung / 梁咏琪) ที่อายุน้อยกว่าแทน แต่แล้วก็เกิดเรื่องซ้ำสองขึ้น เมื่อความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง ที่ถือว่าฝ่าฟันอุปสรรค และเสียงวิจารณ์มากมาย ก็ต้องจบลงในช่วงเวลา 7 ปี เช่นเดียวกัน
       
       อย่างไรก็ตามตอนนี้อาถรรพ์ดังกล่าวกำลังจะถูกทำลายในที่สุด เมื่อมีคำยืนยันว่า เจิ้งอี้เจี้ยน ได้ขอแฟนสาว เมิ่งเจียฮุย (Yoyo Mung / 蒙嘉慧) นักแสดงสังกัดทีวีบีแต่งงานแล้ว และทั้งสองจะแต่งงานกันในปีหน้า ที่เป็นปีครบรอบการคบหากันมา 7 ปีพอดี
       
       ก่อนหน้านี้ เจิ้งอี้เจี้ยน วัย 44 ปี เคยกล่าวว่า เขาคงจะแต่งงานในซักวันแน่ๆ ก่อนที่จะถึงวันสิ้นโลก ซึ่งหลายคนก็ตีความไปว่าน่าจะเป็นในช่วงปี 2012 แน่ๆ เพราะพระเอกคนดังน่าจะหยิบมุขเกี่ยวกับวันสิ้นโลกตามปฏิทินของชาวมายัน มาเล่นมุขนั่นเอง แม้สุดท้ายข่าวดีจะยังไม่เกิดขึ้นในปีนี้ แต่ก็ถือว่าใกล้เคียงกันที่หลายๆคนเดาเอาไว้
       

เอเอฟพี - ผู้กำกับมือรางวัลแห่งวงการหนังจีนและฮ่องกง "หว่องกาไว" (Wong Kar Wai) ได้รับเลือกให้ทำหน้าที่เป็นประธานกรรมการ สำหรับการมอบรางวัลในเทศกาลหนังเมืองเบอร์ลินประจำปี 2013 ซึ่งจะเป็นปีที่เบอร์ลินจะให้ความสำคัญไปที่หนังเอเชียเป็นพิเศษ
       
       ผู้รับผิดชอบการจัดเทศการภาพยนตร์เมืองเบอร์ลินครั้งที่ 63 ที่จะมีขึ้นระหว่างวัน 7 - 17 ก.พ. ปีหน้า ได้ยืนยันว่า หว่องกาไว จะมานั่งหัวโต๊ะ เป็นประธานคณะกรรมการ เพื่อมอบรางวัลหมีทองคำ และหมีเงิน สำหรับภาพยนตร์ที่จะเข้าร่วมประกวด
       
       ดีเตอร์ กอสสลิก ผู้อำนวยการเทศกาลยังกล่าวถึง หว่องกาไว ผู้ประสบความสำเร็จสูงสุดกับหนังดราม่าเล่าเรื่องเชื่องช้าอ้อยอิ่ง In the Mood for Love เมื่อปี 2000 ว่า "หว่องกาไว คือผู้กำกับที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดผู้หนึ่งในยุคสมัยของเรา เอกลักษณ์เฉพาะตัว และเรื่องราวในแบบบทกวีของเขา ทำให้เราทุกคนลุ่มหลงกันมาแล้ว"
       
       "การได้เขามาเป็นประธานกรรมการ เรียกได้ว่าคือความฝันที่เป็นความจริง นับตั้งแต่ยุค 80s เป็นต้นมา เบอร์ลิน ได้รับการยอมรับในบทบาทเวทีสำหรับภาพยนตร์จีนร่วมสมัย ซึ่งนับเป็นอีกเหตุผลที่ถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่หว่องกาไว จะมาทำหน้าที่ในปี 2013" กอสสลิก กล่าว ขณะที่ตัวของคนทำหนังคนดังแห่งวงการภาพยนตร์ฮ่องกง ก็กล่าวว่าการได้รับคำเชิญจากเทศกาลหนังเบอร์ลิน ก็ถือว่าเป็นเกียรติสำหรับเขาเช่นเดียวกัน "มันคือประสบการณ์ที่สามารถเติมเต็มให้กับคนทำหนังได้ทุกคน"
       

      หลังหลบหนีอยู่พักใหญ่ ล่าสุดทายาทนักธุรกิจชื่อดังได้มอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว อย่างไรก็ตามข่าวจากไต้หวันยังรายงานว่า "จัสติน ลี" (Justin Lee‘s / 李宗瑞) ยังคงปฏิเสธข้อกล่าวหา ที่ว่าเขามอมยา และข่มขืนหญิงสาวบางคน แถมซ้ำยังกล่าวหากลับว่าพวกสาวๆ เหล่านี้เองที่ทำให้เขาต้องเดือดร้อน
       
       ดูเหมือนว่า จัสติน ลี จะไม่ยอมรับว่าเขาได้ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราเหยื่อ อย่างที่มีการกล่าวหากัน โดยทายาทนักธุรกิจชื่อดังชาวไต้หวัน ยืนยันว่าหญิงสาวทั้งหมดที่ร่วมหลับนอนกับเขาทำด้วยความสมัครใจของพวกเธอเอง เขายังอ้างว่าไม่ได้แอบถ่ายคลิปเก็บเอาไว้ และไม่ได้ตั้งใจเผยแพร่ไปสู่สาธารณะ แต่ฝ่ายหญิงต่างรับทราบการตั้งกล้องเก็บภาพระหว่างมีความสัมพันธ์ทางเพศเป็นอย่างดี
       
       เป็นข่าวครึกโครมมามากกว่า 1 เดือน กับประเด็นฉาวของทายาทนักธุรกิจชื่อดัง ที่ถูกตั้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราหญิงสาว และยังถ่ายคลิปภาพเก็บเอาไว้ด้วย รวมมีผู้เสียหายมากกว่า 60 ชีวิต ซึ่งหญิงสาวจำนวนไม่น้อยยังเป็นดาราสาวนางแบบผู้มีชื่อเสียง
       
       ซึ่งหลังเข้ามอบตัว เขายังอ้างอีกว่ามีนางแบบ และดาราสาวบางคนที่ยินดีจะให้เขาถ่ายคลิปเก็บเอาไว้เอง และยังทำท่ายั่วยวนเพื่อทำให้เขาพึงพอใจด้วย มีดาราสาวอยู่หนึ่งคนที่เสนอตัวให้กับเขา จนถึงขั้นปฏิเสธไม่ได้กันเลยทีเดียว จัสติน ลี ยังกล่าวโทษพฤติกรรมของผู้หญิงเหล่านี้ ว่าสุดท้ายเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องเจอปัญหา และถึงขั้นโดนประณามเป็นอาชญากรทางเพศ
       
       นอกจากสาวๆแล้ว หนุ่มจัสติน ยังกล่าวโทษไปถึง "เพื่อนๆ" ที่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมา ก็ทอดทิ้งเขาไปหมด ในช่วงเวลาที่เขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด