ข่าวจีน

       ในการให้สัมภาษณ์ครั้งล่าสุด ยอดนักแสดงชาวฮ่องกงได้เปิดใจถึงเรื่องชีวิตคู่ พร้อมยืนยันว่าเขายังเชื่อมั่นในตัว "หลิวเจียหลิง" (Carina Lau) เสมอ นอกจากนั้นยังกล่าวถึงการทำงานกับ "หว่องกาไว" (Wong Kar Wai) ผู้กำกับคู่ใจว่าตนยังคงยกย่องเขาเหมือนเดิม แม้ฝ่ายผู้กำกับดังจะทำหนังช้า และไม่ตามกำหนดเวลาจนนักแสดงหลายๆคนเข็ดขยาดที่จะร่วมงานด้วย
       
       ระหว่างออกรายการ BEST ACTOR ของพิธีกรคนดัง หลุยซา ไลนักแสดงวัย 50 ปี เหลียงเฉาเหว่ย (Tony Leung) ได้เปิดใจถึงเรื่องชีวิตสมรสอีกครั้ง หลังในช่วงที่ผ่านมาเริ่มมีข่าวในแง่ลบของฝ่าย หลิวเจียหลิง กับหนุ่มคนอื่นออกมาเป็นระยะ ว่าสำหรับเขาแล้วสิ่งสำคัญที่สุดในการใช้ชีวิตคู่ก็คือการเชื่อใจ และเข้าใจกัน แต่ละฝ่ายต้องมีพื้นที่ส่วนตัว และความเคารพให้แก่กันด้วย
       
       เมื่อพิธีกรถามถึงเรื่องการขอแต่งงาน เหลียงเฉาเหว่ย ยังบอกอีกว่าความจริงแล้วเขาเคยโดนภรรยาตอบปฏิเสธด้วยซ้ำไป "ใช่ครับ แต่ผมเคยโดนปฏิเสธไปเหมือนกัน จำไม่ค่อยได้แล้ว เรื่องแบบนี้ไม่ต้องจำเอาไว้ซะยังจะดีกว่า" เขายังบอกอีกว่าถึงตอนนี้ชีวิตคู่ยังมีความสุขเหมือนเดิม งานแต่งของเขากับ หลิวเจียหลิง ก็เป็นความทรงจำที่ดีมาก เธอเป็นคนเตรียมทุกอย่าง และมันก็ออกมายอดเยี่ยมจริงๆ
       

"โจวซิงฉือ" (Stephen Chow) ต้องเป็นฝ่ายแพ้ ในคดีฟ้องร้องกับอดีตลูกศิษย์สาวที่เขาผลักดันจนโด่งดังขึ้นมาในที่สุด กับประเด็นการเรียกร้องค่าเสียหายที่ฝ่ายหญิงขอยกเลิกสัญญาก่อนกำหนด ซึ่งศาลได้มีคำสั่งว่า "จางอวี้ฉี" (Kitty Zhang) ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเสียหายจำนวนมหาศาล ตามที่บริษัทของดาวตลกคนดังเรียกร้องไปแต่อย่างใด
       
       ศาลเซียงไฮ้ได้มีคำตัดสินในคดีความข้อพิพาทระหว่าง โจวซิงฉือ กับนักแสดงสาวสวยที่เขาปลุกปั้นขึ้นมาอย่าง จางอี่ว์ฉีออกมาแล้ว โดยศาลได้ยกคำร้องขออุทธรณ์ของบริษัท Star Overseas ของ โจวซิงฉือ ที่ขอเรียกร้องค่าเสียหายจากฝ่ายหญิงจำนวนมหาศาล หลังเธอตัดสินใจตีจากยกเลิกสัญญากับบริษัทเทิงแห่งนี้แบบกะทันหัน ซึ่งหมายความว่า จางอี่ว์ฉีจะไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินจำนวน 14 ล้านหยวน เป็นค่าเสียหายที่บริษัทของซูเปอร์สตาร์ดาวตลกเรียกร้องแต่อย่างใด
       
       จางอี่ว์ฉีเป็นนางเอกสาวที่ดาวตลกคนดังส่งเสริมให้ได้เล่นหนัง C7J ที่เขาแสดงนำและกำกับเอง จนเธอโด่งดังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงของวงการในตอนนั้น หลังจากนั้นเขายังมอบบทในหนังเรื่อง Shaolin Girl กับ Jump ที่ตนเองร่วมเป็นผู้สร้างให้อีกอย่างต่อเนื่อง
       
       แต่แล้วเมื่อ 2 ปีก่อนกลับเกิดความขัดแย้งขึ้นเมื่อ จางอี่ว์ฉีได้ตัดสินใจรับงานหนังเรื่อง White Deer Plain โดยไม่ได้แจ้งให้กับต้นสังกัดคือบริษัท Star Overseas ทราบ ซึ่งสื่อฮ่องกงรายงานว่าการตัดสินใจของนางเอกสาว ได้สร้างความไม่พอใจเป็นอย่างมากให้กับ โจวซิงฉือ เจ้าของบริษัท จนนำมาซึ่งการตัดสินใจฟ้องร้อง และทำให้เธอขอยกเลิกสัญญากับต้นสังกัดในที่สุด
       

สถานีโทรทัศน์ ATV ได้เปิดตัวสาวงามผู้เข้ารอบ 12 คนสุดท้าย สำหรับการประกวด "มิสเอเชีย" (2012 Miss Asia Pageant) ประจำปีนี้ ที่จะนำระบบการโหวตมาใช้เพื่อคัดเลือกสาวงามผู้ได้รับตำแหน่งตามสมัยนิยม แม้ทาง TVB จะเคยนำวิธีนี้ไปใช้แต่ต้องล้มเหลวเพราะระบบล้มมาแล้ว

       ได้ฤกษ์เปิดตัวกันแล้วสำหรับสาวงามทั้ง 12 คน ที่ผ่านเข้ารอบเพื่อขึ้นประกวดชิงมงกุฏ มิสเอเชีย ประจำปีนี้ ซึ่งล่าสุดทาง ATV สถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่แห่งฮ่องกง ผู้รับผิดชอบการประกวดได้พาสาวๆ ทั้งหมดมาแนะนำตัวให้กับสื่อมวลชน และชาวฮ่องกงได้รู้จักกัน ก่อนที่ทุกคนจะต้องมีส่วนร่วมในการลงคะแนนทางออนไลน์เพื่อเลือกสาวงามอันดับ 1 ประจำปีนี้ต่อไป
       
       โดยสาวๆปรากฏโฉมในชุดเดรสสั้นเข้ารูป ที่แต่ละคนต้องโชว์ลีลาเดินบนแคทวอล์กให้กับทุกคนชมด้วย ซึ่งสาวที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษได้แก่ ลีลี่ สวี่ [Lili Xu / 許麗莉] (หมายเลข 7) ที่สื่อชมว่ามีเรียวขาที่สวยที่สุด, สาวจีนแผ่นดินใหญ่ สการ์เล็ต เฉิน [Scarlett Chan / 陳超] (หมายเลข 10) และสาวลูกครึ่ง เบียงก้า หว่อง [Bianca Wong / 黃壁安](หมายเลข 2)

       สำหรับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ผู้เข้าประกวดทุกคนยังต้องแนะนำตัวเป็นภาษาจีนกวางตุ้งด้วย ซึ่งกลายเป็นความยากลำบากของสาวๆที่มาจากแผ่นดินใหญ่ ที่พูดกวางตุ้งด้วยสำเนียงจีนกลาง บางครั้งยังพูดผิดๆถูกๆ สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมในวันนั้นได้นิดหน่อย
       

       มีข่าวเรื่องสาวๆ ของนักร้อง/นักแสดงหนุ่มคนดังแห่งไต้หวันออกมาอีกแล้ว กับภาพถ่ายหลักฐาน ระหว่างที่เขาพาสาวสวยคนหนึ่งขึ้นไปบนห้องพักส่วนตัวในไทเป ซึ่งหลายคนยังตั้งข้อสังเกตว่า สาวคนนี้ยังมีหน้าตาชวนให้นึกถึง "ซูฉี" (Shu Qi / 舒淇) นักแสดงสาวคนดัง ที่มีข่าวเรื่องรักๆ กับ "หวังลี่หง" (Wang Lee Hom / 王力宏)มาพักใหญ่ๆด้วย
       
       ถึงไม่ได้มีข่าวกับตัวของ ซูฉี โดยตรงเหมือนเดิม แต่ล่าสุดกลับมีรายงานว่าศิลปินหนุ่มมากพรสวรรค์ หวังลี่หง ได้ควงสาวสวยคนหนึ่งที่มีหน้าตาใกล้เคียงกับ ซูฉี ขึ้นไปใช้เวลาส่วนตัวกันบนห้องพักสุดหรูของเขา ในย่านที่อยู่อาศัยที่แพงที่สุดจุดหนึ่งของกรุงไทเป
       
       ตามข่าวมีคนเห็นเขาขับรถ BMW ราคา 4.8 ล้านเหรียญไต้หวัน ไปรับสาวสวยที่ชื่อว่า หลินเสี่ยวหยุน (Lin Hsiao-yun / 林筱筠) ก่อนจะตรงไปที่ห้องพักของตัวเอง อย่างไรก็ตามผู้จัดการส่วนตัวของ หวังลี่หง ยังคงปฏิเสธข่าวพร้อมอ้างว่าเธอเป็นเพื่อนของเขาคนหนึ่ง ที่มาฉลองวันฮัลโลวีนด้วยกันเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรลึกซึ้งอย่างที่หลายคนคิด เช่นเดียวกับฝ่ายของ หวังลี่หง เองที่พูดถึงเรื่องนี้ว่า "ฮัลโลวีน คือวันที่ 31 แต่หลายๆคนก็แต่งตัวแฟนซีฉลองปาร์ตี้กันในวันนี้เลย"
       
       โดยผู้สื่อข่าวได้เปิดเผยว่าวันนั้นสาว หลินเสี่ยวหยุน ใช้เวลาอยู่ที่ห้องของ หวังลี่หง ประมาณครึ่งวัน ก่อนจะมีคนเห็นฝ่ายชายเดินทางออกจากตึกไปก่อนด้วยรถคันเดิม จนฝ่ายหญิงจะตามออกมา และขึ้นแท็กซีออกจากบริเวณนั้นไป

Apple Daily / Manager Online

       นักร้องรุ่นใหญ่ "เจินหนี่" (Zhen Ni / Jenny Tseng / 甄妮) ยอมเปิดเผยความลับ 25 ปีที่เธอปิดบังมาตลอดแล้วว่าพ่อของลูกสาววัย 25 ปี "เมโลดี้" (Melody) ก็คือสามีผู้ล่วงลับ "ฟู่เซิง" (Alexander Fu Sheng) นั่นเอง
       
       เป็นที่สงสัยมานานหลายปีแล้วว่าพ่อของ เมโลดี้ ลูกสาววัย 25 ปี ของ เจินหนี่ คือใครกันแน่ เพราะแม้เธอจะมีใบหน้าที่ละม้ายกับ ฟู่เซิง ยอดนักแสดงแห่งชอว์บราเดอร์สามีผู้ล่วงลับของ เจินหนี่ แต่เขาก็เสียชีวิตตั้งแต่เมื่อ 29 ปีก่อนแล้ว หรือก่อนที่ลูกสาวคนนี้จะเกิดถึง 4 ปีนั่นเอง ในอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเขาอายุ 29 ปี
       
       จนกระทั่งในการให้สัมภาษณ์กับรายการโทรทัศน์ในไต้หวัน เจินหนี่ ได้ทำเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจนในที่สุด โดยเธอยอมรับเป็นครั้งแรกว่าพ่อของลูกสาวก็คือ ฟู่เซิง จริงๆ
       
       "ใช่ค่ะพ่อของลูกคือ พี่ เซิง จริงๆ" เจินหนี่ เปิดเผยระหว่างให้สัมภาษณ์เปิดใจครั้งนี้ โดยเธออธิบายว่า ตนเองสามารถตั้งท้องลูกของสามีผู้ล่วงลับได้ ทั้งๆที่เขาเสียชีวิตไปก่อนหน้านั้นหลายปี ก็เพราะก่อนจะจากไป ฟู่เซิง ได้เก็บสเปิร์มไว้ที่ธนาคารสเปิร์มนั่นเอง
       
       โดยในช่วงนั้นเพิ่งมีการริเริ่มธนาคารสเปิร์มขึ้นในฮ่องกง ซึ่งดารากังฟูในวงการบันเทิงต่างนิยมเก็บเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองเอาไว้ เพื่อป้องกันความผิดพลาดใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้จากอุบัติเหตุในการแสดงฉากต่อสู้ต่างๆ ในหนัง ซึ่ง เจินหนี่ ก็ยอมรับว่าเป็นโชคดีของเธอ เพราะสามีก็ทำเช่นนั้นด้วยเหมือนกัน
       

       นักแสดงสาวชื่อดังชาวฮ่องกง “จูอิน” (Athena Chu / 朱茵) และสามี “พอล หว่อง” (Paul Wong / 黃貫中) ได้ประกาศข่าวดี เมื่อทายาทคนแรกของทั้งคู่หนูน้อย "ซาลาเปาไส้หมูแดง" ลืมตาดูโลก
       
       เมื่อช่วงคืนของวันที่ 23 ต.ค. พอล หว่อง สมาชิกวง Beyond ได้ประกาศข่าวดีผ่าน Weibo ว่า จูอิน แฟนสาวของเขาได้ให้กำเนิดลูกน้อยเพศหญิงที่ทั้งสองตั้งชื่อเล่นน่ารักน่าชังให้ว่า “ซาลาเปาไส้หมูแดง” โดยถือว่าลูกสาวลืมตาดูโลกขึ้นมาเพียง 2 วันก่อนหน้าวันคล้ายวันเกิดของคุณแม่ (25 ต.ค.) ที่จะมีอายุเต็ม 41 ปีในปีนี้
       
       “สวัสดีครับทุกคน 'ซาลาเปาไส้หมูแดง' เพิ่งออกจากเตาร้อนๆ เค้ายังอยากจะฝากบอกเพื่อนๆทุกคนว่า ‘พ่อกับแม่และหนูได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยแล้วค่ะ’ ด้วย” โดยศิลปินหนุ่มใหญ่วัย 48 ปี ยังโพสต์ภาพแรกเกิดของลูกสาวให้กับทุกคนดูในการประกาศข่าวดีครั้งนี้ด้วย
       
       ตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้วที่ผู้สื่อข่าวพยายามจะติดต่อกับคุณพ่อมือใหม่ตลอดทั้งวัน แต่เขาก็ยุ่งเกินกว่าที่จะพูดกับใครได้ ทั้งต้องดูแลลูก และดูแล จูอิน จนไม่สามารถรับโทรศัพท์ใครได้ อย่างไรก็ตามเขายังเปิดใจกับการได้เป็นพ่อในวัยเฉียด 50 แบบสั้นๆ ผ่านทาง Whatsapp ว่า “สมองผมงงไปหมด พูดอะไรไม่ออกเลย” ขณะเดียวกันยังมีเพื่อนนักแสดงร่วมอวยพรและแสดงความยินดีกับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่มากมาย

Manager Online

       ท่ามกลางสาวงามมากกว่า 60 ชีวิต สุดท้ายเป็นตัวแทนจากประเทศญี่ปุ่นเจ้าภาพ ที่สามารถคว้ามงกุฏเป็น "มิสอินเตอร์แนชั่นแนล" (Miss International) คนใหม่ไปครองได้ในการประกวดเมื่อค่ำคืนของวันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมา
       
       อิคุมิ โยชิมัตซึ (Ikumi Yoshimatsu) วัย 25 ปี กลายเป็นผู้คว้าตำแหน่ง มิสอินเตอร์แนชั่นแนล ในการประกวดซึ่งจัดขึ้นที่ โอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีผู้คนทั่วโลก 200,000 คนติดตามการถ่ายทอดสดทางอินเตอร์เน็ตเมื่อค่ำของวันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยสาวชาวปลาดิบยังกลายเป็นชาวญี่ปุ่นคนแรกที่สามารถคว้ารางวัลในการประกวดเวทีนี้ได้อีกด้วย
       
       สำหรับตำแหน่งรองอันดับ 1 ตกเป็นของ วีวี ซูมิเนน (Viivi Suominen) ตัวแทนจากฟินแลนด์ ส่วน มาดูซา มายาดันน์ (Madusha Mayadunne) (ศรีลังกา) และ เมโลดี เมียร์ (Melody Mir) (สาธารณะรัฐโดมินิกัน) คว้าตำแหน่งรองอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับ
     
       มิสอินเตอร์แนชั่นแนล หรือ มิสอินเตอร์แนชั่นแนลบิวตี้ เป็นการประกวดที่มีเป้าหมายค้นหาสาวงามเพื่อทำหน้าที่ "ทูตสันติภาพและความงาม" โดยผู้รับผิดชอบจัดประกวดระบุว่า การค้นหาหญิงสาวผู้ครองมงกุฏในเวทีนี้ จะไม่ได้ดูที่รูปร่างหน้าตาเพียงอย่างเดียว แต่จะประเมินจากผู้เข้าประกวดที่มีคุณสมบัติ ความนุ่มนวลอ่อนหวาน, จิตใจดี, เฉลียวฉลาด และพร้อมที่จะทำงาน รวมถึงมีไหวพริบต่อเรื่องนานาชาติ เป็นองค์ประกอบสำหรับการค้นหาหญิงสาว ที่จะสามารถทำหน้าที่ส่งเสริมสันติภาพ, ความปรองดอง และความเข้าใจกัน ในหมู่ประชาคมโลกได้
       

“แอรอย เซิน” (Arroy Shen) หรือ “เซินตงจิ้ง” อดีตนักร้องวง Comic Boyz บอยแบนด์ดังของไต้หวัน ได้เสียชีวิตลงแล้วหลังเข้ารับการผ่าตัดเลือดคั่งในสมอง ส่งให้เขาอยู่ในอาการโคมาก่อนจะจากโลกนี้ไปอย่างสงบ
       
       แอรอย เซิน อดีตสมาชิกบอยแบนด์ดังของไต้หวันอย่าง Comic Boyz วัย 29 ปี ที่เคยโด่งดังอย่างมากในเอเชีย ตามหลังรุ่นพี่อย่าง F4 ได้เข้ารับการผ่าตัดที่เสี่ยงอันตราย เพื่อกำจัดเลือดคั่งในสมอง โดยรายงานระบุว่า เขามีอาการเลือดออกที่สมองด้านขวา และนำไปสู่ภาวะไตวายเฉียบพลัน นอกจากนั้น เขายังอยู่ในอาการสมองตาย หรือสมองขาดออกซิเจนและมีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ ส่งให้ญาติตัดสินใจให้แพทย์ดึงเครื่องช่วยหายใจออก เพื่อให้เขาค่อยๆ จากไปอย่างสงบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
       
       การจากไปของแอรอย ได้สร้างความเศร้าโศกให้กับยายวัย 86 ปีของเขาอย่างมาก ซึ่งเป็นคนที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่ยังเล็กๆ โดยก่อนหน้านี้แอรอยเคยเผยถึงความรักที่เขามีต่อยาย ว่า ได้สักชื่อของยายไว้บนตัวเขา และอยากจะเจ็บป่วยแทนยายที่มีอายุมากแทน
       
       ส่วนทางด้านยายของเขาก็เสียใจต่อการจากไปของหลานรัก โดยระบุว่า “ทุกๆ คนต้องตาย ฉันควรจะเป็นฝ่ายไป เพราะว่าฉันแก่แล้ว แต่เขายังเด็กอยู่เลย เขาไม่สมควรจะต้องจากไปแบบนี้ ฉันอยากจะตายแทนหลานจริงๆ”
       
       ตามรายงานระบุว่า แอรอย เซิน มีชีวิตที่ค่อนข้างลำบากทีเดียว โดยพ่อแม่ของเขาแยกทางกันตั้งแต่เขาเกิด และเขาอยู่ภายใต้การดูแลของยายที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เล็กๆ หลังจากที่พ่อแม่ของเขาได้มองเขาเหมือนเป็นภาระเมื่อพวกเขาต่างแยกกันไปมีครอบครัวใหม่

Manager Online

คดีอื้อฉาวทางเพศที่เกี่ยวข้องกับวงการบันเทิงไต้หวัน ได้ข้อยุติในทางกฎหมายแล้ว เมื่อศาลได้ตัดสินโทษจำคุกทายาทนักธุรกิจชื่อดัง “จัสติน ลี” (Justin Lee) เป็นเวลา 14 ปี นอกจากนั้น ยังมีการเปิดเผยออกมาว่า “ลี” เคยลงมือกับแม่เลี้ยงตัวเองด้วย
       
       สื่อในฮ่องกงเปิดเผยว่า หญิงสาวที่เคยคบหากับบิดาของ จัสติน ลี และตอนนี้ได้แต่งงานจนมีฐานะเป็นแม่เลี้ยงของเขา ก็เคยถูกมอมยาและข่มขืนมาแล้ว โดยตามข่าวแม่เลี้ยงของหนุ่มผู้อื้อฉาว ไม่ได้มาให้การในฐานะพยาน แต่มีส่วนช่วยเหลือให้ข้อมูลกับพนักงานอัยการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักฐานที่มีส่วนต่อรูปคดี ซึ่งสุดท้ายแล้วสามารถพิสูจน์ได้ว่าเขามีความผิดจริงในที่สุด
       
       โดยประเด็นในคดีที่มีการถกเถียงกันอย่างมาก ก็คือ การหาหลักฐานะที่ว่า จัสติน ลี ได้วางยาในเครื่องดื่มของเหยื่อ ก่อนจะมีเพศสัมพันธ์กับพวกเธอจริงหรือไม่ โดยมีหญิงสาว 13 คนที่แจ้งข้อหาว่า พวกเธอถูกทายาทนักธุรกิจชื่อดังวางยา และข่มขืน รวมถึงโดนแอบถ่ายคลิประหว่างมีอะไรกันเก็บไว้โดยไม่ได้อนุญาต ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถยืนยันถึงประเด็นนี้ด้วยภาพจากคลิป, คำให้การของเหยื่อ และหลักฐานที่มีการค้นพบในห้องพักของหนุ่มจัสติน
       
       ได้ยามาจากอินเทอร์เน็ต
       
       ตลอดในขั้นตอนของการพิจารณาคดี ทนายความของ จัสติน ลี ยืนยันว่า หญิงสาวในคลิปทั้งหมดเต็มใจที่จะมีเพศสัมพันธ์กับเขา แต่ด้วยคำให้การของฝ่ายหญิง รวมถึงมีการค้นพบตัวอย่างยาในห้องพักของเขา ในที่สุดหนุ่มสุดฉาวก็ยอมรับว่า ได้ยามาจากการสั่งซื้อทางอินเทอร์เน็ต แต่ก็ยังยืนกรานปฏิเสธว่าเขาไม่ได้มีพฤติกรรมเป็นอาชญากร
       

"เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) นักแสดงหนุ่มชื่อดังที่มักปิดปากเงียบเสมอเกี่ยวกับเรื่องราวในครอบครัวของตนเอง ล่าสุดเจ้าตัวยอมเปิดเผยเบื้องลึกสาเหตุการหย่าร้างกับ"จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) แล้ว โดยบอกว่างานนี้ไม่เกี่ยวกับข่าวฉาวรูปหลุดของเธอกับ"เฉินกว้านซี" (Edison Chen)  รวมถึงเผยสัมพันธ์ในอดีตกับ"เฟย์ หว่อง" (Faye Wong / Wang Fei) ด้วย
       
       เซียะถิงฟง นักแสดงหนุ่มชื่อดัง ได้ไปให้สัมภาษณ์ออกรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง ซึ่งเขาได้พูดถึงการหย่าร้างกับ จางป๋อจือ อดีตภรรยาสาววัย 32 ปี ของเขาด้วยโดยอธิบายว่าการหย่าร้างกันครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับรูปฉาวในอดีตของเธอกับเฉินกว้านซี แต่สาเหตุที่แท้จริงที่นำไปสู่การแยกทางนั้น เนื่องมาจากความสัมพันธ์ที่ไม่สมบูรณ์
       
       เซียะถิงฟงยังกล่าวเพิ่มเติม โดยชื่นชมจางป๋อจือด้วย ว่าเธอเป็นคนที่แยกแยะได้อย่างชัดเจนระหว่างความรักและความเกลียดชัง ซึ่งเขารู้สึกดีมาก ที่แม้จะเลิกรากันไปแล้ว แต่ทั้งคู่ก็ยังคงเป็นเพื่อนกันได้ และไม่ดึงลูกเข้ามาเกี่ยวให้ต้องเจ็บปวดกับการแยกทางของพ่อและแม่
       
       แต่เมื่อถูกถามว่ามีโอกาสจะกลับมาคืนดีกันอีกครั้งหรือไม่ เจ้าตัวตอบยืนยันเสียงหนักแน่นเลยทีเดียวว่า "ไม่ครับ"
       

หลังโปสเตอร์แรกทำให้หนัง “กู๋หว่าไจ๋” ฉบับรีเมกโดนวิจารณ์หนักว่าหนุ่มๆ นักเลงแก๊งหงซิงในเวอร์ชั่นนี้ ดูเหมือนพวกบอยแบนด์ หรือไม่ก็เกย์มากกว่าจะเป็นนักเลงหัวไม้ ล่าสุดมีภาพจากกองถ่ายหนังแก็งสเตอร์วัยรุ่นเรื่องนี้มาให้ดูกันเพิ่มแล้ว กับการเผยโฉมตัวละครเอกทั้ง 2 ให้เห็นกันแบบเต็มๆ

ถึงจะโดนวิจารณ์หนักว่าจะหยิบกลับมาสร้างใหม่ทำไม เพราะฉบับเดิมก็สมบูรณ์แบบสุดๆ อยู่แล้ว แต่กองถ่ายหนัง Young and Dangerous Reloaded ก็ยังถ่ายทำต่อไป ล่าสุดยังยกกองกันไปที่ตลาดแห่งหนึ่ง ที่มีผู้คนมาดูการถ่ายทำกันมากมายนับร้อยคน เพื่อมาดู หลอจ้งเสียน ดาราหนุ่มที่ได้รับบทเป็น เฉินห้าวหนาน คนใหม่ที่มาพร้อมกับทรงผมในแบบฉบับของเขาเอง แตกต่างกับภาพของ เจิ้งอี้เจี้ยน (Ekin Cheng) ที่รับบทเป็นตัวละครเดียวกันในยุค 90s โดยสิ้นเชิง

เจิ้งอี้เจี้ยน โด่งดังเป็นพลุแตกกับหนังชุด Young and Dangerous หรือ กู๋หว่าไจ๋ เมื่อ 10 กว่าปีก่อน ที่บทบาทของเขากลายเป็นขวัญใจของบรรดาหนุ่มๆวัยเฮี้ยวในยุคนั้นทุกคน ว่ากันว่าเหล่าเด็กวัยรุ่น ไปถึงนักเลงหัวไม้ต่างพากันไปตัดผมทรง “ห้าวหนาน” กันทั่วฮ่องกง จนกลายเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของวัฒนธรรมวัยรุ่นฮ่องกงในยุค 90s ไปโดยปริยาย

อย่างไรก็ตาม ห้าวหนาน ที่สวมบทบาทโดย หลอจ้งเสียน จะไม่ได้มีทรงผมแบบเจิ้งอี้เจี้ยนอีกแล้ว นอกจากนั้นตัวละครเด่นอย่าง “ไก่ป่า” เพื่อนคู่หูตายแทนกันได้ของ ห้าวหนาน ที่สวมบทบาทโดย เหลียงลี่ฮุ่ย ก็แตกต่างจากผู้รับบทเดียวกันในฉบับเก่าอย่าง เฉินเสี่ยวชุน (Jordan Chan) ด้วยเช่นเดียวกัน

เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดตัวสาวๆ วัยรุ่นทั้ง 26 คน ที่เอาชนะคู่แข่งนับหมื่นเข้ารอบจนได้เป็นสมาชิกรุ่นแรกของ SNH48 น้องสาวกลุ่มล่าสุดของ AKB48 ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างจีนและญี่ปุ่น

สาวน้อยทั้ง 26 คน คือ ผู้ชนะได้รับเลือกจากบรรดาผู้สมัครมากมายถึง 38,000 คนที่ส่งใบสมัครกันเข้ามาจากทั่วประเทศจีน เพื่อโอกาสได้เป็นสมาชิกรุ่นแรกของ SNH48 เกิร์ลกรุ๊ปแห่งเมืองเซียงไฮ้ประเทศจีน

โดยสาวๆ ทั้งหมดจะใช้เวลาฝึกซ้อมเต้นและร้องเพลงอีกพักหนึ่ง ก่อนจะเริ่มเปิดการแสดงในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้าต่อไป

หลัง AKB48 กลุ่มศิลปินหญิงล้วน ที่เปิดการแสดงประจำในโรงละครของตัวเองในย่านอกิฮาบาระ ประสบความสำเร็จจนโด่งดังระดับเป็นปรากฏการณ์ของวงการบันเทิงแดนปลาดิบ ต่อมาได้มีการริเริ่มศิลปินแบบเดียวกันในเมืองต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในญี่ปุ่นเองและยังมีการฟอร์มวง “48” ขึ้นในอีกหลายๆ ประเทศ รวมถึง JKT48 ที่เป็นกลุ่มสาวๆ ประจำอินโดนีเซียด้วย

ข่าวการเปิดตัวของ SNH48 ยังนับว่าเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของจีนและญี่ปุ่นกำลังเปราะบางเป็นอย่างยิ่ง ก่อนหน้านี้ เมื่อทางบริษัทผู้รับผิดชอบ SNH48 ได้จัดงานแถลงข่าวขึ้นมาเมื่อวันที่ 14 ต.ค.จึงไม่ได้อนุญาตให้สื่อญี่ปุ่นเข้ามาทำข่าวแต่อย่างใด ซึ่งเชื่อว่ากันเป็นผลกระทบจากข้อพิพาทจีนและญี่ปุ่นในประเด็นเกาะเซนกากุ (หรือเกาะเตี้ยวอี๋ว์ ในภาษาจีน) ที่ยังคงคุกรุ่นนั่นเอง

Manager Online

       ศิลปินหนุ่มชาวไต้หวันกลายเป็นคนดังรายล่าสุด ที่โดนลูกหลงจากกรณีความขัดแย้งระหว่างญี่ปุ่น กับจีนที่ยังคงคุกรุ่นต่อไป ซึ่งทำให้เขาในฐานะศิลปินเชื้อสายจีน ต้องโดนโจมตีที่ไปรับเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์ของประเทศญี่ปุ่น
       
       ว่ากันว่า หวังลีหง (Wang Lee Hom) ได้รับเงินถึง 30 ล้านเหรียญไต้หวัน จากการเป็นพรีเซนเตอร์ของกล้อง Nikon สำหรับการทำตลาดทั้งในไต้หวัน, จีน และฮ่องกง เพราะในฐานะคนหนุ่มหน้าตาดีมีพรสวรรค์ ทำให้หนุ่มวัย 36 ปี เป็นคนดังที่รับทรัพย์จากงานเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าต่างๆมากที่สุดคนหนึ่ง ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวยังได้โพสต์ภาพกล้องของ Nikon ตัวใหม่ที่ได้รับมา และยังบอกอีกว่ากล้องตัวนี้ใช้ง่ายมาก ถึงขั้นที่ทำให้เขาสามารถพัฒนาฝีมือการถ่ายรูปขึ้นไปอีกขั้นเลยทีเดียว
       
       แต่แล้วการทำหน้าที่พรีเซนเตอร์ที่ดีของแบรนด์ Nikon กลับทำให้ศิลปินหนุ่มชาวไต้หวันต้องโดนโจมตีหนัก ในสถานการณ์ที่ญี่ปุ่น กับจีนกำลังมีปัญหาข้อพิพาทเรื่องเกาะ และสินค้าญี่ปุ่นจำนวนมากก็กำลังโดนต่อต้าน
       
       มีข้อความที่รุนแรงจากชาวจีนจำนวนมาก ส่งไปถึง Weibo ของ หวังลี่หง ทั้งความเห็นที่ว่า "ญี่ปุ่นสร้างความเจ็บปวดให้กับจีนมาแล้วเท่าไหร่!!!" และที่ว่า "เอาสินค้าญี่ปุ่นของนายมาอวดในช่วงเวลาละเอียดอ่อนแบบนี้ ไม่รู้หรือไงว่ากำลังมีอะไรเกิดขึ้น เราผิดหวังมาก" นอกจากนั้นก็มีข้อความรุนแรงถึงขั้นที่ว่า "ถ้ามาเหยียบแผ่นดินนี้ อย่าหวังได้มีชีวิตรอดกลับไปเลย เป็นซูเปอร์สตาร์ก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอกนะ"
       

"เจย์ โจว" (Jay Chou) หรือ "โจวเจี๋ยหลุน" นักร้องชื่อดังของไต้หวันตอกกลับปาปารัสซีซะอึ้งไปเลย เมื่อถูกยิงคำถามว่าเมื่อไหร่จะแต่งงาน หลังถูกพบขณะพากันออกมาจากโรงหนังพร้อมแม่และ"ฮันนาห์ ควินลิแวน" (Hannah Quinlivan) แฟนสาว
       
       เมื่อเหล่าปาปารัสซี ยิงคำถามใส่เขาเอวันศุกร์ที่ผ่านมา ว่าเมื่อไหร่จะแจกการ์ดเชิญงานแต่งงาน เจย์ โจว ก็ออกอาการเซ็งทันที พร้อมบอกกับพวกเขาว่า "ผมแต่งแน่เมื่อพวกคุณตาย!"
       
       ซึ่งพฤติกรรมสุดแรงต่อต้านปาปารัสซีของเขากลายเป็นข่าวดังในวันต่อมา แต่ทางเจย์ โจว ก็ไม่คิดจะขอโทษแต่อย่างใด เมื่อถูกสื่อรุมสัมภาษณ์ขณะร่วมงานโปรโมทผลงานของตนเองในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
       
       "มันก็ดีแล้วนะที่ผมไม่ได้ชกเขาเข้าให้น่ะ" เจย์ โจว เผย ก่อนอธิบายว่า ปาปารัสซีได้ถามคำถามที่ก้าวร้าวมากๆกับเขาในคืนวันนั้น ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจ พร้อมเผยเพิ่มเติมว่า "ไต้หวันน่าจะกลายเป็นที่ที่สุขสงบ ศิลปินหลายคนคงจะชอบแน่ๆ ถ้าในไต้หวันไม่มีปาปารัสซี"
       
       พร้อมกันนั้น เจย์ โจว ยังถือโอกาสนี้ เปิดเผยความจริงเกี่ยวกับข่าวคราวที่ออกมาก่อนหน้านี้ ว่าเขาได้ขอแฟนสาวแต่งงานระหว่างพากันไปลอนดอน ประเทศอังกฤษ
       
       "จริงๆแล้วผมไปที่นั่นเพื่อถ่ายทำมิวสิค วิดีโอครับ ผมไปเรื่องงาน แต่ก็ตลกดีนะที่จู่ๆมันกลายมาเป็นข่าวขอแต่งงานไปได้ยังไงเนี่ย"

Manager Online

       มีเสียงพูดกันอย่างหนาหูว่า "จางปือจือ" (Cecilia Cheung) ได้เปิดเผยเนื้อหนังอีกครั้ง ในผลงานล่าสุด Dangerous Liaisons ที่นอกจากจะมีให้ดูกันในโรงหนังแล้ว ภาพดังกล่าวยังหลุดออกไปตามเว็บไซต์ต่างๆ ให้ชาวจีนได้วิเคราะห์กัน เพราะถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีคำยืนยันว่าหญิงสาวเปลือยคนนี้คือ "จางป๋อจือ" จริงหรือไม่
       
       ภาพนู้ดของหญิงคนหนึ่งในหนังเรื่อง Dangerous Liaisons ที่ไม่ได้เปิดเผยใบหน้าให้เห็นอย่างชัดเจน ได้ทำให้เกิดข้อถกเถียงขึ้นมากมายในหมู่ชาวจีน ว่าแผ่นหลังและบั้นท้ายเปลือยเปล่าที่เห็นอยู่ในหนังนั้น จะใช้ของนางเอกสาวชื่อดังชาวฮ่องกงหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ จางป๋อจือ เองก็ยอมรับว่าเธอได้ถ่ายทำฉากบนเตียงกับ จางดอนกอน (Jang Dong Gun) พระเอกหนุ่มชาวเกาหลีใต้ ดารานำอีกคนของเรื่องไปหลายฉากอยู่เหมือนกัน
       
       ซึ่งแม้ว่าภาพรูปร่างของหญิงสาวคนดังกล่าว จะดูแตกต่างจากภาพหุ่นเปลือยเปล่าของ จางป๋อจือ ที่หลายคนเคยผ่านตากันมาก่อนไปบ้าง แต่ชาวจีนหลายคนก็วิเคราะห์กันว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมารูปร่างของ จางป๋อจือ อาจะเปลี่ยนแปลงไปนิดหน่อย เพราะหากเปรียบเทียบรูปร่างของหญิงในฉากนู้ด กับรูปอื่นๆ ของ จางป๋อจือ ในฉากอื่นๆ ของหนังเรื่องเดียวกัน ก็ถือว่ามีความใกล้เคียงกันอยู่ไม่น้อยเลย
       

       ข่าวจากจีนเปิดเผยว่าซีรีส์ยอดฮิต "Bu Bu Jing Xin" ภาค 2 น่าจะเปิดกล้องได้ภายในเดือน พ.ย. นี้ โดยนักแสดงนำทั้ง 3 ไม่ว่าจะเป็น "เจิ้งเจียอิง" (Kevin Cheng), "อู๋ฉีหลง" (Nicky Wu) และ "หลิวซือซือ" (Liu Shi Shi) จะกลับมารับบทเด่นเหมือนเดิม ในเรื่องราวที่จะไม่ได้ย้อนยุคไปถึงสมัยราชวงศ์ชิงแล้ว แต่จะมีฉากหลังอยู่ในยุคปัจจุบัน
       
       Bu Bu Jing Xin เป็นซีรีส์สุดฮิตที่เล่าเรื่อง ของหญิงสาวในยุคปัจจุบัน (หลิวซือซือ) ที่ได้เดินทางย้อนเวลากลับไปสมัยราชวงศ์ชิง ในช่วงของจักรพรรดิคังซี ด้วยการได้กลับไปอยู่ในร่างของชาติที่แล้วของตัวเอง ที่เป็นลูกสาวของนายทหารแห่งกองทัพแมนจู และทำให้เธอได้พบกับองค์ชาย 8 (เจิ้งเจี๋ยอิง) และองค์ชาย 4 (อู๋ฉีหลง) ผู้ที่ต่อมาได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิยงเจิ้งด้วย

      "เจย์ โจว" (Jay Chou) และ "โจลิน" (Jolin Tsai) ยังคงเป็นศิลปินอันดับหนึ่งและสองของไต้หวันต่อไป ซึ่งสำหรับปีนี้เป็นฝ่าย "โจลิน" ที่ทำรายได้แซงขึ้นมาเป็นอันดับ 1 บ้าง
       
       นอกจาก โจลิน ไช่อี้หลิน กับ เจย์ โจว จะเคยมีข่าวกุ๊กกิ๊กกันมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน สองศิลปินหนุ่มสาวทั้งสองยังถือว่าเป็นโฉมหน้าของวงการเพลงไต้หวันมาตลอดในรอบหลายปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เป็นเจ้าของตำแหน่งศิลปินอันดับหนึ่งทั้งฝ่ายหญิงและชายของประเทศมาพักใหญ่ๆแล้ว
       
       สำหรับในปีนี้เป็นทีของ โจลิน วัย 32 ปี ที่ครองแชมป์ศิลปินรายได้มากที่สุด โดยเธอสามารถกวาดเงินไปได้ถึง 650 ล้านเหรียญไต้หวัน กับการกลับมาทำงานเต็มตัวอีกครั้งในปีนี้ และมีผลงานอัลบั้มชุด MUSE เป็นงานเพลงแรกในรอบ 2 ปี ที่เพิ่งออกจำหน่ายไปเมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา
       
       สำหรับ เจย์ โจว ที่ในปีนี้เป็นอันดับสอง หลังจากครองแชมป์มาหลายปีซ้อน ทำเงินในช่วงปีนี้ไป 590 ล้านเหรียญไต้หวัน ถือว่าลดลงกว่าหลายๆปีที่ผ่านมา ซึ่งเขาเคยทำรายได้มากกว่านี้ อย่างในปี 2010 ก็สามารถทำเงินได้ถึง 790 ล้านเหรียญไต้หวันมาแล้ว โดยในปี 2012 เจย์ โจว ยังไม่มีผลงานเพลงชุดใหม่ แต่มีงานแสดงคือหนังเรื่อง The Viral Factor เข้าฉายเมื่อต้นปี และจะมีหนังเรื่อง Rooftop ที่เขากำกับ และแสดงนำเอง รอเข้าฉายในอนาคตอันใกล้ต่อไป

Manager Online

      โปสเตอร์คอนแรกของหนังแก๊งสเตอร์วัยรุ่น Young and Dangerous: Reloaded (古惑仔: 江湖新秩序) ได้ถูกนำมาโชว์ที่เทศกาลหนังเมืองปูซาน แต่กลับสร้างความผิดหวังให้กับหลายๆคนที่รู้สึกว่าเหล่า "กู๋หว่าไจ๋" ในฉบับนี้ทำไมถึงดูออกแนว "เกย์" โดยเฉพาะการแต่งตัวโชว์กล้ามกันจนเกินเหตุ
       
       หวังจิง (Wong Jing / 王晶) ได้สร้างความฮือฮาให้กับวงการภาพยนตร์ฮ่องกงอีกครั้งด้วยการหยิบเอาหนังดังจากการ์ตูนสุดฮิตของฮ่องกงที่ชื่อว่า "กู๋หว่าไจ๋" กลับมาสร้างใหม่ภายใต้ชื่อ Young and Dangerous: Reloaded พร้อมด้วยทีมนักแสดงชุดใหม่ไม่ว่าจะเป็น ออสการ์ เหลียง (Oscar Leung / 梁烈唯), ฟิลิป อู๋ (Philip Ng / 伍允龍), ดอมินิค เหอ (Dominic Ho / 何浩文) และดาราหนุ่มมาแรง หลอจ้งเสียน (Him Law / 羅仲謙) ที่จะรับบท "เฉินห้าวหนาน" (Chan Ho-nam / 陳浩南)

       โดยมีการนำโปสเตอร์แรกของหนังที่เป็นภาพของหนุ่มๆ ทั้ง 5 ไปโชว์ที่เทศกาลหนังเมืองปูซานครั้งล่าสุดด้วย แต่หลายคนดูจะไม่ค่อยถูกใจกับภาพแรกของนักเลงหนุ่มแห่งหงซิ่งฉบับนี้นัก เพราะภาพของทั้ง 5 ดูออกมาเกย์ๆ ชอบกลในความคิดของหลายคน
       
       Young and Dangerous เป็นสุดยอดหนังแก๊งสเตอร์วัยรุ่นแห่งยุค 90s ที่ว่าด้วยเรื่องราวการต่อสู้ของเหล่าแก๊งอิทธิพลในเขตมงก๊ก โดยมีตัวละครเอกเป็นเด็กหนุ่มที่ก้าวขึ้นมาจากชนชั้นหาเช้ากินค่ำ สู่ตำแหน่งเจ้าพ่อแห่งเขตถงหลอวาน ซึ่งในเวอร์ชั่นเดิมมี เจิ้งอี้เจี้ยน (Ekin Cheng / 鄭伊健) แสดงเอาไว้จนโด่งดัง ขณะที่ในฉบับใหม่เป็น หลอจ้งเสียน ซึ่งผู้สร้างอย่าง หวังจิง บอกว่าเป็นความตั้งใจของเขาเอง ที่อยากให้ตัวละครดูแข็งแรงบึกบึนกันมากขึ้น และหนังก็จะตื่นเต้นขึ้นด้วย
       

เมื่ออดีตนักแสดงหนังเกรด 3 "พอลลีน เฉินเป่าเหลียน" (Pauline Chan Bo-Lin / 陳寶蓮) ฆ่าตัวตาย ด้วยกระโดดลงมาจากหน้าต่างของอพาร์ตเมนต์ในเซียงไฮ้เมื่อปี 2002 เธอได้ทิ้งลูกน้อยวัย 15 สัปดาห์เอาไว้ 1 คน โดยในตอนนั้นไม่มีใครทราบว่าพ่อของเด็กคือใครกันแน่ กระทั่งในวาระการครบรอบการเสียชีวิต 10 ปีของเธอ ความจริงในเรื่องนี้อาจถึงเวลาของการเปิดเผย
       
       ราชินีหนังเกรด 3 ผู้มีจุดจบอันน่าเศร้า
       
       พอลลีน เฉินเป่าเหลียน อายุ 17 ปีเต็มในตอนที่เธอเข้าประกวดมิสเอเชียเมื่อปี 1990 ถึงแม้จะไม่ได้ชนะเลิศคว้าตำแหน่งสาวงามที่สุดบนเวทีประกวดของเอทีวีมาครอง แต่ก็ได้รับความสนใจจากบรรดาชาวฮ่องกง และผู้สร้างหนัง จนได้มีโอกาสเข้าวงการบันเทิง และโด่งดังขึ้นมากับงานประเภทวาบหวิว กลายเป็นราชินีหนังเกรด 3 อีกคนในยุคนั้น เฉินเป่าเหลียน ประสบความสำเร็จถึงขั้นได้รับการยกย่องเป็นเซ็กส์ซิมโบลแห่งยุค มีผลงานในแนวดังกล่าวมากกว่า 25 เรื่องเลยทีเดียว
       
       ซึ่งในปี 1992 ขณะที่กำลังมีชื่อเสียงนั่นเอง เฉินเป่าเหลียน ได้พบกับมหาเศรษฐีชาวไต้หวัน หวงเจินจง (Huang Jen Chung / 黃任中) ที่อายุมากกว่าเธอ 33 ปี ในตอนนั้นมีข่าวว่าเธอได้กลายเป็นเมียน้อยของชายผู้มีภรรยาอยู่แล้วคนนี้ จนกระทั่งเขาต้องออกมาแก้ข่าว บอกว่าระหว่างตนเองกับดาราสาวคนสวยไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรไปมากกว่าการเป็นพ่อบุญธรรมกับลูกสาวเท่านั้น
       
       อย่างไรก็ตาม สื่อกลับพบว่าทั้งสองมีพฤติกรรมแสดงความใกล้ชิดสนิทสนมมากขึ้นเรื่อยๆ และเกินเลยไปจากคำว่า พ่อกับลูกสาวอย่างที่ฝ่ายชายกล่าวอ้าง จนกระทั่งตัวของหวงต้องออกมายืนยันอีกครั้ง ว่าแม้เขาจะหลับนอนบนเตียงเดียวกับหญิงสาวอายุน้อยคราวลูกคนนี้มากกว่า 50 ครั้ง แต่เขาและเธอก็ไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางเพศต่อกันแต่อย่างใด
       

ดาราสาวชาวจีนยังคงใช้มาตรการทางกฏหมาย ปกป้องตัวเองในกรณีข่าวอื้อฉาวที่ลือกันว่าเธอยอมพลีกายเพื่อแลกกับเงินของบรรดาอภิมหาเศรษฐี และนักการเมืองคนใหญ่คนโต โดยทนายความส่วนตัวของ "จางจื่ออี๋" (Zhang Ziyi) ได้ยืนยันถึงการยื่นเอกสารฟ้องร้อง สื่อที่ตั้งอยู่ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้เริ่มต้นเผยแพร่ข่าวลือดังกล่าวเป็นเจ้าแรก
       
       จางจื่ออี๋ ผู้โด่งดังจากหนัง Crouching Tiger, Hidden Dragon ได้ตัดสินใจยื่นเอกสารฟ้องร้องที่ศาลลอสแอนเจลิส เพื่อเอาผิดกับสำนักข่าวที่ชื่อว่า Boxun News ที่ตั้งอยู่ในนอร์ธแคโรไลนา, สหรัฐอเมริกา เป็นสื่อที่นำเสนอข่าวภาษาอังกฤษ และจีน ซึ่งเป็นผู้เริ่มแพร่ข่าวฉาวเกี่ยวกับตัวเธอ ที่ดาราสาวคนดังยืนยันว่าเป็นข่าวเท็จ 100%
       
       "จุดเริ่มต้นของประเด็นการใส่ร้ายทำลายชื่อเสียง จางจื่ออี๋ ครั้งนี้ เผยแพร่ออกมาโดย Boxun News" อดัม เลอเบอร์ธอน ตัวแทนทางกฏหมายของนักแสดงสาวคนดังกล่าวกับ AFP เพื่อยืนกรานว่า จางจื่ออี๋ ไม่ได้รู้จักเกี่ยวข้องกับ ป๋อซีไหล นักการเมืองผู้อื้อฉาวที่ว่ากันว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเธออย่างแน่นอน "Boxun News ตีพิมพ์ข่าวดังกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่า กับการกล่าวหาว่า จางจื่ออี๋ ค้าบริการทางเพศ ทั้งๆที่เธอไม่รู้จักกับเขา, ไม่เคยพบ ไม่เคยมีอะไรยุ่งเกี่ยวกับเขาเลยแม้แต่น้อย"
       
       โดยศาลระบุนัดหมายการให้ข้อมูลครั้งต่อไป ว่าจะเป็นในวันที่ 16 ต.ค. และ 16 พ.ย. แต่ยังไม่มีการกำหนดวันพิจารณาคดีออกมา ซึ่งทางทนายความระบุว่า จางจื่ออี๋ จะมาที่ศาลหากจำเป็นเท่านั้น "เธอจะมาที่นี่แน่นอน แต่คงจะไม่มาปรากฏตัวในขั้นตอนก่อนพิจารณาคดีแต่อย่างใด"
       

      เอเอฟพี - นักแสดงนำหญิงเลื่องชื่อ "จัง จื่ออี๋" (Zhang Ziyi) กำลังดำเนินการฟ้องร้องบริษัทข่าวจีนออนไลน์ในสหรัฐฯ ที่เขียนข่าวเป็นเรื่องเป็นราวว่า เธอขายตัวให้กับอดีตนักการเมืองดาวรุ่งปั๋ว ซีไหล และอีกหลายต่อหลายคน
       
       นางเอกและนักแสดงนำ จัง จื่ออี๋ ผู้มีผลงานโดดเด่นในภาพยนตร์หลายเรื่อง อาทิ พยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลก (Crouching Tiger, Hidden Dragon) ฯ เธอตัดสินใจฟ้องหมิ่นประมาทเว็บไซต์ข่าวภาษาจีน-อังกฤษ "ปั๋วซวิ่น นิวส์" ซึ่งมีฐานอยู่ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ต่อศาลในเมืองลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา
       
       อาดัม ลีเบอร์ตัน ทนายความผู้แทนโจทก์ เผยวันพุธ (3 ต.ค.) ว่า จุดใหญ่ใจความของการฟ้องร้องคดีนี้อยู่ที่เนื้อข่าวที่ปั๋วซวิ่นเขียนเกี่ยวกับจัง จื่ออี๋ มีเนื้อหาหมิ่นประมาทและตีพิมพ์เผยแพร่ให้ได้รับความเสื่อมเสีย "ปั๋วซวิ่นนิวส์ เขียนข่าวย้ำๆ ว่า จัง จื่ออี๋ เป็นโสเภณี และข้อความนี้เป็นหัวใจหลักของการฟ้องร้องคดี จังไม่รู้จักเขา (ปั๋ว ซีไหล) ไม่เคยพบเขา และไม่เคยมีอะไรกับเขาทั้งสิ้น"
       
       ศาลนัดฟังคำฟ้องครั้งถัดไปวันที่ 16 ต.ค. และอีกครั้งในวันที่ 16 พ.ย. แต่วันพิจารณาคดีความยังไม่ได้กำหนดอย่างชัดเจน ลิเบอร์ตันเผยว่า นางเอกจัง จื่ออี๋ดูเหมือนจะไม่เข้าร่วมรับฟังการพิจาณาคดีของศาลในครั้งแรก(เบื้องต้น) แต่เธอจะต้องไปฟังการพิจารณาคดีในวันจริงอย่างแน่นอน "ผมไม่คิดว่าเธอจะปฏิบัติต่างไปจากคนอื่น"
       
       จังเคยฟ้องร้องแอปเปิลเดลีในฮ่องกงเมื่อเดือนมิ.ย. ตลอดจนนิตยสารรายสัปดาห์ เน็กซ์ท แมกกาซีน เครือเดียวกับแอปเปิลเดลี ที่รายงานข่าวว่า "เธอเป็นโสเภณีขายตัวให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน"
       

       ดาราสาวชาวจีน "หลิวอี้เฟย" (Liu Yi Fei) ที่โด่งดังมาพร้อมๆกับภาพความน่ารักสดใสบริสุทธิ์ กล่าวในการให้สัมภาษณ์หลังหนังเรื่องล่าสุดเข้าฉาย ว่าเธอพร้อมเล่นฉากนู้ดเปิดเผยเนื้อหนังได้เช่นเดียวกัน ไม่ใช่คนขี้อายใสซื่ออย่างที่ทุกๆคนชอบมองกัน
       
       หลิวอี้เฟย ยืนยันว่าเธอไม่ได้เป็นสาวหัวโบราณ เรียบร้อยเป็นผ้าพับไว้ อย่างที่หลายๆคนเชื่อกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผลงานเรื่องล่าสุด The Assassins ภาพยนตร์แนวอิงประวัติศาสตร์ที่เล่าเรื่องย้อนไปในยุคสมัย 3 ก๊ก ที่ดาราสาวผู้โด่งดังจากบท เซียวเหล่งนึ่ง จะได้โชว์ผิวขาวๆ สวยๆ ที่เธอบอกว่าเต็มใจ สำหรับการแสดงฉากทำนองนี้แน่นอน
       
       "ฉันคิดว่าตัวเองเป็นคนที่เข้มแข็งนะคะ ถึงมีบางจังหวะที่ฉันดูเป็นคนขี้อาย แต่มันก็เป็นแค่บางช่วงเท่านั้น จริงๆแล้วฉันเป็นคนเปิดเผยพอสมควรเลย" หลิวอี้เฟย วัย 25 ปี กล่าว "ผู้กำกับกลัวว่าฉันจะเกรงกับฉากนี้ ... แต่ฉันรู้ตัวดีค่ะ ว่าจะไม่ใครมามีอิทธิพลเหนือเราได้"
       
       ดาราสาวที่เคยร่วมงานกับทั้ง เจ็ต ลี (Jet Li) และ เฉินหลง (Jackie Chan) ใน The Forbidden Kingdom มาแล้ว จะได้ประชันบทบาทกับ โจวเหวินฟะ (Chow Yun Fat) ในผลงานเรื่องนี้ ที่เธอต้องสวมบทบาทถึง 2 ตัวละคร ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ เตียวเสี้ยน สตรีผู้มีบทบาทต่อความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยนั่นเอง อย่างไรก็ตามบทบาทหลักของเธอในหนังเรื่องนี้ คือตัวละครที่ชื่อว่า "หลิงจู" หญิงสาวผู้ได้รับการฝึกฝนให้เป็นนักฆ่า สำหรับภารกิจสำคัญ
       

       หลังมีข่าวลือเรื่องเตียงหักแยกทางมานับปี ล่าสุดพระเอกคนดังแห่งวงการบันเทิงฮ่องกง "หลี่หมิง" (Leon Lai) ได้ออกแถลงการณ์ยอมรับว่าเขาได้แยกทางกับภรรยาสาว "เล่อจี่เอ๋อ" (Gaile Lok) เป็นที่เรียบร้อยแล้วจริงๆ
       
       หลี่หมิง วัย 45 ปี คบหาดูใจกับ เล่อจีเอ๋อ เป็นเวลาถึง 5 ปี ก่อนที่ทั้งคู่จะจูงมือกันเข้าประตูวิวาห์ในปี 2008 อย่างไรก็ตาม ระยะหลังกลับมีข่าวไม่ค่อยดีออกมาอยู่เป็นระยะ ว่าชีวิตครอบครัวของพระเอกคนดังเริ่มร้าวฉาน ส่อแววว่าจะไปไม่รอด
       
       และนับวันข่าวก็ยิ่งใกล้ความเป็นจริงขึ้นมาเรื่อยๆ ที่ผ่านมามีทั้งประเด็นมือที่สาม, ภาพฝ่ายหญิงขนข้าวของออกจากบ้านที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน, ข่าวลือที่ว่า หลี่หมิง อาจจ่ายเงินเป็นค่าเซ็นใบหย่าให้กับภรรยาถึงร่วม 100 ล้านเหรียญฮ่องกง (395 ล้านบาท)
       
       รวมถึงล่าสุดเมื่อล่าสุดที่มีภาพของฝ่ายหญิง ไปใช้เวลาท่องเที่ยวกับเพื่อนชายชาวต่างชาติของเธอ ที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย มีทั้งภาพวาบหวิวที่ภรรยาสาวของพระเอกชื่อดัง นอนเปิดเผยให้เห็นถึงชุดชั้นในอยู่บนเตียง โพสต์อยู่ใน Instagram ของชายชาวต่างชาติคนดังกล่าวด้วย
       
       ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีข่าวอยู่เสมอว่า เล่อจีเอ๋อ เริ่มรู้สึกอึดอัด และไม่พอใจที่สามีเข้ามายุ่งเกี่ยวเจ้ากี้เจ้าการ กับชีวิตส่วนตัว และงานของเธอมากเกินไป ยังมีข่าวอีกว่าการใช้ชีวิตคู่ของคนทั้งสอง ไม่ราบรื่นอย่างที่ควร ก็เพราะตัวของ หลี่หมิง ค่อนข้างจะหัวโบราณ แตกต่างจากฝ่ายภรรยาที่ใช้ชีวิตเติบโตขึ้นมาในสหรัฐอเมริกา และเคยชินกับการเป็นอยู่อย่างอิสระไม่มีใครมาบังคับอะไร จนทำให้ทั้งคู่มีปากเสียงกันบ่อยครั้งขึ้นเรื่อยๆ
       

“หลิวเต๋อหัว” (Andy Lau) นักแสดงหนุ่มชื่อดังที่มักไม่ค่อยปรากฏตามรายการต่างๆ ได้ยอมออกมาเผยเรื่องราวชีวิตรักของตนเองออกรายการทีวีเป็นครั้งแรก โดยพูดถึงข่าวลือกับบรรดานักแสดงสาวในอดีตด้วย
       
       ก่อนที่จะมาลงเอยแต่งงานมีลูกสร้างครอบครัวกับ แครอล ชู (Carol Chu) แฟนสาวที่คบหากันมายาวนาน หลิวเต๋อหัวก็เคยผ่านประสบการณ์ความรักมาแล้วเช่นกัน โดยเขาเผยผ่านทางรายการวาไรตีของจีน เกี่ยวกับบรรดาข่าวลือในอดีตระหว่างเขากับเพื่อนนักแสดง สาวทั้ง เหมยเยี่ยนฟาง (Anita Mui), เฉินอวี้เหลียน (Idy Chan) และ กวนจือหลิน (Rosamund Kwan) โดยระบุว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยสารภาพรักกับเฉินอวี้เหลียน แล้ว แต่ถูกปฏิเสธ

       โดยหลิวเต๋อหัว พูดพร้อมกับหัวเราะออกมาว่า “ถ้าผมไม่มีแฟน ผมว่าเฉินอวี้เหลียน อาจจะได้เป็นแฟนผม”
       
       “คือ หลังจากนั้น ผมมารู้ด้วยว่าเธอเป็นแฟนของโจวเหวินฟะ (Chow Yun Fat) ไอดอลของผม ดังนั้น ผมก็เลยหยุดคิดเรื่องนั้นเลย ผมเคยสารภาพกับเธอเหมือนกันนะว่าผมชอบเธอ แต่เธอก็แค่หัวเราะตอบผมแค่นั้น”
       
       เขายังบอกต่อไปด้วยว่าเขากับ เหมยเยี่ยนฟาง ต่างก็เคารพและเข้าใจในกันและกัน และมีโอกาสได้พบเจอกันเพื่อกินข้าวกับเพื่อนๆ คนอื่นๆ
       
       นักแสดงหนุ่มใหญ่วัย 51 ปี ยังยอมรับด้วยว่า เขามองกวนจือหลินน่ารักและมีเสน่ห์มากๆ ทั้งภายนอกและภายใน “โชคไม่ค่อยดีครับที่ตอนนั้นผมมีคนที่คุยด้วยอยู่แล้ว ดังนั้น ผมเลยไม่ได้คิดเรื่องนั้น!”

Manager Online

ข่าวความร้าวฉานในครอบครัวของ "หลีหมิง" (Leon Lai / 黎明) กับภรรยาสาว "เล่อจีเอ๋อ" (Gaile Lok / 樂基兒) เริ่มชัดเจนขึ้นมาเรื่อยๆ ล่าสุดมีภาพถ่ายหลักฐานของฝ่ายหญิง จาก Instagram ของหนุ่มคนใหม่ที่เป็นชายชาวต่างชาติ หลุดเผยแพร่ออกไปตามเว็บไซต์ต่างๆ ยืนยันข่าวลือที่ถูกพูดถึงกันมานาน
       
       ประเด็นการหย่าร้างของซูเปอร์สตาร์วัย 45 ปี หลีหมิง กับภรรยาสาว เล่อจีเอ๋อ เป็นที่พูดถึงมานับปีแล้ว ล่าสุดข่าวดังกล่าวได้ถูกโหมกระพือขึ้นอีกครั้ง เมื่อมีภาพถ่ายของฝ่ายหญิงกับชายชาวต่างชาติคนหนึ่งปรากฏขึ้นมา ซึ่งว่ากันว่าชายคนนี้คือรักใหม่ของเธอนั่นเอง
       
       ยังมีภาพวาบหวิวที่ เล่อจีเอ๋อ นอนอยู่บนเตียงสุนัข กับตัวหนึ่ง และโชว์ความเซ็กซีเล็กๆ กับการเปิดเผยให้เห็นถึงชุดชั้นใน ซึ่งอาจเป็นหลักฐานของความสัมพันธ์ถึงขั้นลึกซึ้งของเธอกับชายคนใหม่ ในเวลาเดียวกันก็เป็นสิ่งยืนยันว่าชีวิตคู่ของนางแบบสาว กับพระเอกผู้โด่งดังแห่งวงการบันเทิงฮ่องกงใกล้จบลงเต็มที หรือจริงๆอาจสิ้นสุดไปแล้วก็ได้
       
       หลังแต่งงานกันเมื่อ 3 ปีก่อน ชีวิตคู่ของ หลีหมิง กับแฟนสาวก็เต็มไปด้วยข่าวลือ ทั้งเรื่องที่ว่าฝ่ายหญิงตั้งท้องและแท้งลูกเมื่อปีก่อน จนหลังจากนั้นก็เริ่มมีข่าวเตียงหักแยกทางออกมาอย่างต่อเนื่อง