ข่าวเกาหลี

       สื่อเกาหลีรายงานว่าเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์กับรถแวนที่สาวๆ วง Ladies' Code โดยสารมาด้วยกันจนทำให้สาว “อึนบี” (Go EunB) เสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน ส่วนสมาชิกอีก 2 คนของวงต้องเข้ารับการผ่าตัด และอาการยังน่าเป็นห่วง
       
       Polaris Entertainment ต้นสังกัดของ Ladies' Code ได้แถลงเปิดเผยถึงรายละเอียดเกี่ยวกับอุบัติเหตุอันน่าเศร้าที่เกิดขึ้นกับสาวๆ ในช่วงเช้ามืดเวลาประมาณ 1:30 น. ของวันที่ 3 ก.ย. ที่รถยนต์ซึ่งพวกเธอโดยสารมาได้เกิดเสียหลักจากถนนที่เปียกไปด้วยน้ำฝน จนพุ่งชนเข้ากับรั้วกั้นถนน ระหว่างที่พวกเธอกำลังเดินทางอยู่บนทางด่วนสายยงดง เพื่อเดินทางมุ่งหน้าสู่อินชอน ถึงขั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ 2 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นสมาชิกของ Ladies' Code ด้วย
       
       โดยหลังเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายคน และทั้งหมดได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล St. Vincent Hospital ของ Catholic University ใน ซูวอน ทันที
       
       อย่างไรก็ตามสาว อึนบี วัย 21 ปี ได้เสียชีวิตลงในที่เกิดเหตุไปก่อนหน้านั้นแล้ว ส่วน ไรซ หรือ ควอนริเซ (Kwon RiSe) และ โซจอง หรือ อีโซจอง (Lee Sojung) ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสก็ถูกนำตัวเข้ารับการผ่าตัดด่วน และจะถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลในกรุงโซลต่อไป
       
       Ladies' Code เป็นกลุ่มศิลปินสาวที่ประกอบไปด้วยสมาชิก 5 คน ที่เพิ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2013 ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งในอุบัติเหตุอันน่าเศร้าที่เกิดกับพวกเธอครั้งนี้ยังทำให้ผู้ขับรถเสียชีวิตทันทีในเหตุการณ์ด้วย ส่วนผู้จัดการ, สไตลิสต์ และสมาชิกที่เหลือของ Ladies' Code ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

Manager Online

       หลังมีข่าวว่า "อีบยองฮอน" (Lee Byung Hun) ได้ตัดสินใจแจ้งความกับตำรวจว่าเขาโดนหญิงสาววัย 20 ปีเศษ 2 คนขู่กรรโชกทรัพย์ด้วยคลิปวิดีโอที่บันทึกภาพ และเสียงสนทนาระหว่างที่เขาอยู่กับพวกเธอ ล่าสุดเปิดเผยออกมาแล้วว่าผู้ต้องหาในคดีก็คือไอดอลสาว "ดาฮี" (Dahee) แห่งวง GLAM กับเพื่อนนั่นเอง
       
       เกิดข่าวอื้อฉาวขึ้นในวงการบันเทิงเกาหลีใต้อีกครั้ง เมื่อพระเอกหนุ่มคนดัง อีบยองฮอน แห่งหนัง G.I. Joe ทั้งสองภาค ได้ตัดสินใจแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งเขตกังนัม กล่าวหาหญิงสาว 2 คนว่ามีพฤติกรรมแบล็คเมล์ขู่กรรโชกทรัพย์เขาด้วยคลิปวิดีโอ ซึ่งต่อมาจึงมีรายงานยืนยันว่า ผู้ต้องหาในคดีที่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปแล้วก็คือ คิมดาฮี สมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป GLAM ที่มีผลงานมาตั้งแต่ปี 2012
       
       ซึ่งข่าวระบุว่าตอนนี้ ดาฮี และเพื่อนนางแบบวัย 25 ปี คนหนึ่งได้สารภาพกับเจ้าหน้าที่แล้ว หลังถูกควบคุมตัวเพื่อการสอบปากคำ ก่อนที่จะมีการตั้งข้อหาต่อไป ส่วน Big Hit Entertainment ที่เป็นต้นสังกัดของไอดอลสาววัย 20 ปี ได้เปรยว่าคงต้องรอดูความคืบหน้าของคดีก่อน จึงจะสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตในวงการบันเทิงของสาววัย 20 ปีได้ ซึ่งผู้จัดการส่วนตัวที่ได้พบกับ ดาฮี ที่โรงพักก็ได้ยืนยันว่าเธอได้ยอมรับถึงการกระทำของตัวเอง และยังกล่าวคำขอโทษด้วย
       
       ฝ่าย BH Entertainment ต้นสังกัดของ อีบยองฮอน ได้อธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่านักแสดงหนุ่มชื่อดังได้พบกับหญิงสาวทั้ง 2 คนผ่านการแนะนำของเพื่อน และเคยร่วมดื่มด้วยกัน แต่พวกเธอกลับหวังใช้คลิประหว่างที่อยู่กับเขามาแบล็คเมล์เพื่อเรียกเงิน ซึ่งว่ากันว่าเป็นคลิปที่บันทึกเสียงการพูดลามกของนักแสดงหนุ่มคนดังกับหญิงสาวทั้งสองคนนั่นเอง
       

       ไอดอลหนุ่มชื่อดังอาจตัดสินเข้ากรมรับใช้ชาติภายในปีนี้ตามกำหนดเดิม หลังเคยขอเลื่อนการรับใช้ชาติเพราะติดเรื่องงาน แต่ล่าสุดมีข่าวว่าข่าวฉาวเรื่องการทำร้ายร่างกายอดีตหญิงคนรักอาจทำให้ “คิมฮยอนจุง” (Kim Hyun Joong) ตัดสินใจรายงานตัวเป็นทหารให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
       
       โดยแหล่งข่าวของ Sports.donga.com อ้างว่า คิมฮยอนจุง อาจตัดสินใจรายงานตัวเพื่อเข้ารับใช้ชาติให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อเป็นการไถ่โทษที่เขาได้ทำให้เกิดข่าวอื้อฉาวขึ้นมา ซึ่งก็อาจจะเป็นในปีนี้เลย ไม่ใช่ปีหน้าอย่างที่เขาเคยวางแผนเอาไว้
       
       ก่อนหน้านี้ คิมฮยอนจุง เคยมีกำหนดรายงานตัวที่กรมทหารในวันที่ 7 ต.ค. แต่สุดท้ายเขาได้ขอเลื่อนกำหนดออกไปก่อน เพราะติดแสดงคอนเสิร์ตในต่างประเทศ ซึ่งสุดท้ายหากเขาขอยกเลิกคำร้องขอเลื่อนการรายงานตัว คิมฮยอนจุง ก็อาจได้เป็นทหารเร็วกว่ากำหนด เพราะปัญหาเรื่องที่เขาถูกอดีตแฟนสาวแจ้งความว่าลงมือทำร้ายร่างกายเธอ
       
       ซึ่งแหล่งข่าวของสื่อเกาหลีได้แสดงความเห็นว่าตอนนี้ คิมฮยอนจุง และต้นสังกัดคงกำลังประเมินเรื่องตารางการทำงานที่เหลือ โดยหลังจากนี้เขาคงพยายามที่จะไม่ให้ข่าวใดๆ และหลีกเลี่ยงการพบปะกับสื่อมวลชนในตลอดช่วงเวลาที่เหลือก่อนจะเข้าไปทำหน้าที่รับใช้ชาติ

Manager Online

       สำนักข่าวจอมแฉ Dispatch สร้างความฮือฮาด้วยหลักฐานจากอดีตหญิงคนรักของไอดอลหนุ่มคนดัง “คิมฮยอนจุง” (Kim Hyun Joong) ที่เป็นภาพถ่ายซึ่งแสดงให้เห็นถึงร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยช้ำของเธอ เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าเธอเคยโดนเขาทำร้ายร่ายกายจนบาดเจ็บจริงๆ
       
       เรื่องอื้อฉาวของไอดอลหนุ่ม คิมฮยอนจุง และอดีตหญิงคนรักซึ่งสื่อเกาหลีใช้ชื่อเรียกว่า “A” เริ่มจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แล้วเมื่อล่าสุดฝ่ายหญิงได้ส่งภาพที่เธออ้างว่าเป็นหลักฐาน ว่าตนเองเคยโดนดาราหนุ่มขวัญใจสาวๆ ทำร้ายร่ายกายจนบอบช้ำไปทั้งตัวให้กับสื่อดัง Dispatch นำไปเผยแพร่
       
       โดยในเวลาเดียวกันเธอยังส่งภาพให้เจ้าหน้าที่แล้วด้วย ซึ่ง A ได้อ้างว่าภาพดังกล่าวถ่ายเอาไว้ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค. ปีนี้ อันเป็นช่วงที่เธอยังคบหาดูใจอยู่กับเขา และวันที่เกิดเหตุทั้งคู่ได้เกิดมีปากเสียงกันขึ้น เกี่ยวกับเรื่องที่ว่าฝ่ายหญิงเริ่มสงสัยว่า คิมฮยอนจุง อาจจะมีผู้หญิงคนอื่น สุดท้ายการถกเถียงจึงบานปลายไปเป็นการลงไม้ลงมือกัน
       
       ซึ่งนอกจากภาพถ่ายแล้ว ยังมีการยืนยันหลักฐานเป็นใบรับรองจากแพทย์ที่ตรวจดูอาการของ A ในตอนนั้นและพบว่าเธอมีรอยช้ำอยู่ทั่วร่าง ทั้งบริเวณหน้าอก, แขนทั้งสองข้าง, สะโพก รวมไปถึงด้านซ้ายของใบหน้าด้วย ซึ่งแพทย์ระบุว่าเป็นความบอบช้ำที่ต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์สำหรับการรักษาตัว โดยถึงตอนนี้ฝ่ายหญิงได้เข้าไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่มีกำหนดว่า คิมฮยอนจุง จะมาพบกับเจ้าหน้าที่เมื่อใด แต่เชื่อกันว่าน่าจะเป็นในช่วงต้นเดือน ก.ย. หรือสัปดาห์หน้านั่นเอง
       

       ไอดอลสาวชาวเกาหลีใต้ “นานะ” (Nana) แห่งวง After School กล่าวในการให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าการชอบทำท่าทาง “แอ๊บแบ๊ว” ของตัวเอง เป็นเหตุที่ทำให้สาวๆ หลายคนไม่ค่อยชอบเธอ โดยเฉพาะแฟนคลับเหล่าศิลปินชายที่ถึงขั้นเหม็นหน้าเธอกันเลยทีเดียว
       
       นานะ (Nana), ลิซซี (Lizzy) และ เรนะ (Raina) แห่งซับยูนิต Orange Caramel จากวง After School ที่กลับมาออกผลงานด้วยกันอีกครั้งกับซิงเกิล My Copycat ได้มีโอกาสไปร่วมรายการวิทยุ Choi Hwa Jung’s Power Time ของทาง SBS PowerFM ซึ่งในรายการดังกล่าวสาวๆ ยังได้มีโอกาสพูดถึงผลงาน และเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับพวกเธอมากมาย
       
       โดยในช่วงหนึ่งของรายการ ดีเจ ชอยฮวาจอง ได้กล่าวชม นานะ ว่าบุคลิกของเธอดูจะเข้ากับภาพลักษณ์น่ารักสดใสของ Orange Caramel มาก จนเขารู้สึกว่าเธอเป็นคนที่ทำท่าน่ารัก “แอ๊บแบ๊ว” (หรือ แอ-กโย ในภาษาเกาหลีซึ่งมีความหมายว่าทำท่าน่ารักแบบสุดๆ) ได้อย่างเป็นธรรมชาติมากจริงๆ
       
       ซึ่ง นานะ ก็บอกว่าเพราะเธอเป็นคนพูดไม่ค่อยเก่ง และยังเป็นคนที่ค่อนข้างนิ่งๆ เลยต้องอาศัยท่าทางพวกนี้ในการสร้างบรรยากาศเวลาไปร่วมรายการโทรทัศน์ อย่างไรก็ตามไอดอลสาวคนสวยก็ยอมรับว่าบางทีเธอก็ทำท่าทางแบบนี้เยอะเกินไปเหมือนกัน
       

       คู่รักญี่ปุ่น-เกาหลีอย่างนักแสดงสาว “มาริ เซคิเนะ” (Mari Sekine) และนักร้องหนุ่ม “K” ได้เข้าพิธีแต่งงานกันแล้ว ในงานที่จัดกันแบบประเพณีดั้งเดิมของญี่ปุ่น
       
       หลังคบหากันมาได้ 2 ปีเต็ม ล่าสุดดาราสาว มาริ เซคิเนะ วัย 29 ปี และ คังยุนซอง (Kang Yoon Sung) หรือ “K” วัย 30 ปี ได้เข้าพิธีแต่งงานกันแล้วในงานซึ่งจัดขึ้นที่วัดชินโตแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว โดยทั้งสองเลือกที่จะจัดพิธีแต่งงานแบบชินโตตามธรรมเนียมญี่ปุ่น แทนที่จะเป็นพิธีแบบตะวันตกเหมือนคนดังโดยทั่วไป ซึ่งฝ่ายชายมาในชุดฮากามะแบบเรียบๆ ส่วนเจ้าสาวสวมกิโมโนสีขาวสะอาดตา โดยในงานที่จัดกันแบบเรียบง่ายมีแขกที่เป็นญาติสนิท และเพื่อนๆ ของทั้งคู่มาร่วมเป็นพยานประมาณ 30 กว่าคน
       
       K เป็นศิลปินแนวอาร์แอนด์บีชาวเกาหลีใต้ที่เริ่มมีผลงานในบ้านเกิดเมื่อปี 2004 แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก แต่ต่อมาเขากลับโด่งดังเมื่อได้มีโอกาสออกผลงานที่ประเทศญีป่น โดยอัลบั้มชุด Beyond the Sea ที่เป็นงานภาษาญี่ปุ่นชุดแรกของ K สามารถทำยอดขายได้ถึง 300,000 แผ่นเลยทีเดียว ส่วนซิงเกิล Only Human ที่เป็นเพลงประกอบละครฮิต 1 Litre of Tears ก็ทำยอดขายถึง 200,000 แผ่นเช่นเดียวกัน
       
       โดยเขาเริ่มต้นคบหากับ มาริ เซคิเนะ เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว หลังที่ K เพิ่งจะเสร็จสิ้นจากการรับใช้ชาติในกองทัพไม่นานนัก

only human- ost one litre of tears
 

Manager Online

       สารคดีของโทรทัศน์เกาหลีอ้างการประมวลข้อมูลหลายด้าน ในการฟันธงว่านักแสดงหนุ่ม “จองอูซอง” (Jung Woo Sung) และดาราสาว “ฮันกาอิน” (Han Ga In) คือคนดังที่มีเครื่องหน้าสวยหล่อลงตัวได้สัดส่วนที่สุด จนเรียกได้ว่าใบหน้าของทั้งสองคนเข้าข่ายความ “สมบูรณ์แบบ” กันเลยทีเดียว
       
       โดยสถานีโทรทัศน์ EBS ได้เผยแพร่รายการสารคดีพิเศษที่ชื่อว่า The Secret of Golden Ratio เพื่อนำเสนอเรื่องความสวยงามแบบสมบูรณ์แบบ และค้นหาใบหน้าของคนดังที่เครื่องหน้ามีสัดส่วนสมบูรณ์แบบที่สุด จากการคำนวณทางทางวิชาการด้วยข้อมูลทางประวัติศาสตร์, คณิตศาสตร์ และทฤษฎีความงามทางศิลปะ
       
       ซึ่งผลสรุปออกมาว่า จองอูซอง กับ ฮันกาอิน คือคนดังที่เครื่องหน้าสมบูรณ์แบบที่สุดจนสามารถเรียกได้ว่าทั้งคู่เป็นเข้าของ “Golden Ratio”
       
       แกรี เมสเนอร์ ที่เป็นผู้คิดค้นซอฟต์แวร์ที่เรียกว่า PhiMatrix สำหรับการคำนวณหาเครื่องหน้าที่สมบูรณ์แบบ ได้อธิบายว่าแม้รูปหน้าของ ฮันกาอิน อาจจะไม่ได้สัดส่วนเข้าขั้นไร้ที่ติ แต่เมื่อพิจารณาจากใบหน้าของเธอทั้งหมดแล้วก็แสดงให้เห็นว่าเธอมีทั้งจมูก และแก้มที่สมบูรณ์แบบเอามากๆ นอกจากนั้นทั้งริมฝีปากล่าง, ริมฝีปากบน และคิ้วก็ได้สัดส่วนสมกับเป็น Golden Ratio ทั้งหมด
       

g
       
       เปิดตัวกันตั้งแต่ช่วงบ่ายด้วยศิลปินญี่ปุ่นวงน้องเล็กไฟแรงที่ถูกจับตามองมากที่สุดในญี่ปุ่นอย่าง Tempura Kidz ที่พกความสดใสน่ารักและพรสวรรค์ทั้งการร้องและการเต้น จัดเต็มเสื้อผ้าหน้าผม มาร่วมแดนซ์กระจายและนำเสนอเพลงฮิตอย่าง Mummy Killer, Cider Cider ให้ได้ร้องเต้นฟินกับลีลาน่ารักๆสไตล์ญี่ปุ่น
       
       ต่อกันด้วยศิลปินฝั่งเกาหลีที่ส่ง 7 หนุ่มบอยแบนด์ Got 7 มาเรียกน้ำย่อย ซึ่งนำทีมโดยหนุ่มไทยหนึ่งเดียวอย่าง แบมแบม กันต์พิมุก ภูวกุล ที่แม้ว่าจะเพิ่งเปิดตัวเดบิวท์ไปได้ไม่นาน แต่แฟนเพลงได้แห่มาให้ความรักและกำลังใจอย่างคับคั่ง เรียกเสียงเชียร์เสียงกรี๊ดจากแฟนๆชาวไทยได้อย่างล้นหลาม โดย 7 หนุ่มเปิดตัวด้วยเพลง Hello, Follow me และเพลงฮิตอย่าง ‘Girls Girls Girls’ โดยในช่วงทอล์ก 7 หนุ่มยังไม่พลาดที่จะหยอดสาวไทยด้วยการพูดไทยและถอดเสื้อเพิ่มอุณหภูมิความฮอต แถมยังนำเพลงจากอัลบั้มใหม่อย่าง ‘A’ มาเอาใจแฟนคลับชาวไทยอีกด้วย
       
       และหลังห่างหายจากเมืองไทยไปเกือบ 2 ปีเต็ม คราวนี้ 5 หนุ่ม SuG (ซักกุ) ได้ขนงานเพลงใหม่ กับลุคที่โตขึ้นและแนวเพลงใหม่ที่หนักหน่วงมาแสดงให้สมกับการรอคอยของสาวก J-rock ด้วยความแน่นของดนตรีและเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ กลายเป็นความมันส์ที่ทำให้แฟนเพลงเจ-ร็อกต้องกระโดดและโยกหัวตาม โดยขนเพลงใหม่อย่าง B.A.B.Y เพลงแดนซ์ฤดูร้อน มาเล่นสดๆให้อุณหภูมิในฮอลล์พุ่งปรี๊ด และยังไม่พลาดหยอดลูกอ้อนให้แฟนคลับได้กรี๊ดและฟินไปตามๆกันอีกด้วย
       
       ทางด้านหนุ่มใหญ่รุ่นพี่อย่าง ลูซิเฟอร์ (Lucifer) ที่งานนี้ได้รวมตัวครั้งพิเศษเพื่อแฟนเพลงชาวไทย กลับมาปล่อยของให้สาวกได้กรี๊ดและร้องตามกันดังกระหึ่ม ซึ่งจัดเต็มกว่าทุกครั้งดึงดูดสาวกขาร็อคได้อยู่หมัด ขนมาทั้งเพลงฮิตและเพลงที่ทุกคนสามารถร้องตามได้อย่าง LUCY , Carnation Crime, See You, Plasmagic, Dummy และอื่นๆมาโชว์ตลอด 1 ชม.เต็ม
       

       เรียกได้ว่าสมัยนี้หากใครคิดถึงเรื่องศัลยกรรมประเทศแรกๆที่ชาวไทยนึกถึงคงหนีไม่พ้นเกาหลีใต้แดนกิมจิ ที่ประชาชนส่วนใหญ่ต่างมองเรื่องการทำศัลยกรรมใบหน้าเป็นเรื่องธรรมดาจนถึงขั้นเชื่อว่าสาวเกาหลีคนไหนที่สวยตั้งแต่เกิดไม่มีจริงและมั่นใจว่าทุกคนไปนอนใต้มีดหมอมาแล้วแน่นอน แต่ก็มีหลายคนเช่นกันที่ไม่ได้ทำศัลยกรรมเพราะแก้ไขจุดบกพร่องเล็กๆน้อยๆของตนเอง แต่จำเป็นต้องทำศัลยกรรมเพราะใบหน้ามีปัญหาหนักจนกลายเป็นปมด้อยของชีวิต
       
       รายการทีวีที่ส่งเสริมเรื่องการทำศัลยกรรมอย่าง Let Me In ที่ว่าด้วยการเมคโอเวอร์ ( Make Over )เปลี่ยนโฉมคนที่กำลังต้องการความช่วยเหลือจากหน้ามือเป็นหลังมือจำเค้าเดิมแทบไม่ได้จึงได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากสาวๆในหลายประเทศ โดยรายการนำเสนอเรื่องราวคนที่มีปัญหาหนักในการใช้ชีวิตทั้งการมีตำหนิปมด้อย, อุบัติเหตุที่ทำให้บอบช้ำทางจิตใจ รวมถึง ความผิดปกติทางรูปร่าง หรือ ความพิการทางร่างกาย ซึ่งรายการจะเลือกช่วยรักษาบุคคลที่จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างแท้จริงเท่านั้น
       
       ซึ่งจากการรวบรวมภาพ ก่อน - หลัง ของบรรดาสาวๆที่มีปัญหาและเคยผ่านการ เมคโอเวอร์จากรายการ Let Me In มาก่อน ทำให้เห็นว่าไม่แปลกใจทีเดียวที่สาวๆหลายคนทึ่งกับการทำศัลยกรรมของแพทย์เกาหลี จนถึงขั้นก่อเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการตั้งเป้าทำศัลยกรรมใบหน้าของตนเองบ้าง แม้ไม่ได้มีปัญหาทางใบหน้าอย่างหนักเช่นผู้เข้าร่วมรายการเหล่านี้เลยก็ตาม

       “คิมฮยอนจุง” (Kim Hyun Joong) นักร้อง-นักแสดงหนุ่มชื่อดังที่กำลังจะเปิดการแสดงคอนเสิร์ต “2014 คิมฮยอนจุง เวิลด์ ทัวร์ อิน แบงคอก” ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 ส.ค. นี้ โดนหญิงสาวที่คาดว่าเป็นแฟนสาวเข้าแจ้งความดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกาย หลังโดนฝ่ายชายซ้อมน่วมไป 2 รอบ จนล่าสุดซี่โครงร้าวคาดสาเหตุมาจากเรื่องมือที่สาม
       
       ตามรายงานจากสื่อเกาหลีระบุว่า คิมฮยอนจุง โดนแฟนสาวที่ใช้ชื่อว่า อึนซอ เข้าแจ้งความดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกาย โดยเธอได้ให้ปากคำที่สถานีตำรวจซองปาว่า คิมฮยอนจุง ได้ทำร้ายร่างกายเธอช่วงปลายเดือน พ.ค. และ กลางเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา

       อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้เรียกตัว คิมฮยอนจุง มาสอบสวน ส่วนทางด้านต้นสังกัดอย่าง Keyeast Entertainment ยืนยันว่าต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อน จึงจะมีการชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดให้ทราบในภายหลัง
       
       รายงานระบุว่าเพื่อนสนิทของอึนซอ ยืนยันว่านักร้องหนุ่มและอึนซอคบหากันมาตั้งแต่ปี 2012 และเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ทั้งคู่มีปัญหากันเรื่องสาวมือที่สาม ส่งผลให้คิมฮยอนจุงทำร้ายร่างกายอึนซอ หลังทั้งคู่มีปากเสียงกัน
       
       โดยอึนซอ ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าเธอถูกทำร้ายที่อพาร์ทเมนต์ของ คิมฮยอนจุง ซึ่งเธอโดนทำร้ายร่างกายทั้งเตะและต่อย โดยครั้งแรกเธอบอบช้ำไปทั้งร่างไม่ว่าจะเป็นใบหน้า, หน้าอก, แขน, ขา และสะโพก ต้องรักษาตัวนาน 2 สัปดาห์ ส่วนครั้งหลังถึงขั้นซี่โครงร้าวจนต้องนอนพักรักษาตัวใน ร.พ. นานกว่า 6 สัปดาห์ และตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดีในที่สุด

Manager Online

ไอดอลหนุ่มไทยแห่งวง 2PM ปฏิเสธที่จะร่วมกิจกรรม Ice Bucket ที่กำลังฮิตเป็นกระแสไปทั่วโลกอยู่ในตอนนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่าสำหรับเขากิจกรรมดังกล่าวดูจะเป็นการใช้น้ำไปแบบไม่มีประโยชน์อะไร
       
       เป็นคนดังอีกคนที่ได้รับคำท้าทายจากผู้คนมากมาย ให้ร่วมเล่น Ice Bucket Challenge ที่เป็นการเทน้ำใส่แข็งใส่ตัวเอง พร้อมกับบริจาคเงินช่วยเหลือสังคม โดยเฉพาะเพื่อเป็นทุนสำหรับการวิจัยเพื่อผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS) แต่ล่าสุด นิชคุณ หรเวชกุล (NichKhun) แห่งวง 2PM กลับตอบปฏิเสธที่จะร่วมกิจกรรมผ่านทาง Twitter พร้อมให้เหตุผลที่ทำให้เกิดข้อถกเถียงตามมามากมายว่า “การช่วยชีวิตคนก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่การประหยัดน้ำก็สำคัญเหมือนกัน ขอโทษจริงๆ ครับที่ทำให้ผิดหวัง ผมขอบริจาคเงินเพื่อการกุศลแทนก็แล้วกัน”
       
       ซึ่งคำพูดดังกล่าวของ นิชคุณ ได้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปในวงกว้าง ทั้งที่เมืองไทย และในหมู่ชาวต่างชาติ โดยมีทั้งคนที่เห็นว่าเขาพูดจาตรงไปตรงมาดี แต่ก็มีอีกไม่น้อยที่มองว่าคำพูดของ นิชคุณ เป็นการหักหน้าคนดัง และผู้คนที่ร่วมกิจกรรมนี้ทั้งหมด นอกจากนั้น ก็ยังเป็นการมองข้ามประเด็นสำคัญของกิจกรรม Ice Bucket ไปอย่างไม่น่าให้อภัยด้วย
       
       ในเว็บบอร์ดของชาวไทยยังมีข้อความจิกกัด นิชคุณ ว่า หลังจากนี้เขาก็คงไม่มีสิทธิ์ชวนใครมาเที่ยว และเล่นสาดน้ำในประเพณีสงกรานต์ที่เมืองไทยอีกต่อไปแล้วด้วย
       

       เกิร์ลกรุ๊ปสาวสุดซ่าสัญชาติเกาหลี 2NE1 (ทูเอนี่วัน) เตรียมยกเวิลด์ทัวร์ “ALL OR NOTHING” (ออล ออร์ นอทธิง) คอนเสิร์ตเต็มรูปแบบ มาไว้ในเทศกาลดนตรีเอเชี่ยน “TOFU MUSIC FESTIVAL 2014” (โทฟู มิวสิค เฟสติวัล 2014) ในวันเสาร์ที่ 23 สิงหาคมนี้ ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี
       
       2NE1 เป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปฮิพฮอพเกาหลีจากค่าย YG Entertainment (วายจี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์) ที่รวมสมาชิก 4 คน 4 สไตล์ อย่าง CL (ซีแอล), SANDARA (ซานดารา), PARK BOM (พัคบม) และน้องสุดท้อง MINZY (มินจี) มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น นำเสนอความหลากหลายทางแนวดนตรีด้วยการผสมแนวเพลงใหม่ๆ และสร้างผลงานเพลงฮิตที่เข้าถึงแฟนเพลงออกมามากมาย ซึ่งส่งผลให้ 2NE1 กลายเป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่นำเทรนด์และพิเศษกว่ากลุ่มอื่น ในปี 2012 วง 2NE1 ได้กลายเป็นเกิร์ลกรุ๊ปวงแรกของเกาหลี ที่ได้ออกทัวร์คอนเสิร์ตไปทั่วโลกโดยใช้ชื่อทัวร์ครั้งนั้นว่า “NEW EVOLUTION” (นิว เอโวลูชั่น) ซึ่งได้พิสูจน์ความสามารถของพวกเธอให้แฟนเพลงทั่วโลกได้เห็น โดยคอนเสิร์ตครั้งนั้น YG ต้นสังกัดของพวกเธอได้ร่วมมือกับบริษัท LIVE NATION (ไลฟ์ เนชั่น) โปรดักชั่นเอเจนซี่ยักษ์ใหญ่ของโลก มีผลงานร่วมผลิตคอนเสิร์ตใหญ่ให้กับศิลปินระดับโลกมากมาย เช่น เลดี้ กาก้า, มาดอนน่า และ ยูทู จึงทำให้คอนเสิร์ตในครั้งนั้นดึงดูดความสนใจจากผู้คนมากเป็นพิเศษ นอกจากนี้ การทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลกของ 2NE1 ครั้งนั้น ยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน “คอนเสิร์ตที่ดีที่สุดของปี 2012 (Best Concerts of 2012)” ที่จัดลำดับโดยหนังสือพิมพ์ นิวยอร์ก ไทม์ ของสหรัฐอเมริกา ทำให้ความสามารถของพวกเธอเป็นที่รู้จักมากขึ้นในฐานะศิลปินเกาหลีที่ตระเวนแสดงมาแล้วรอบโลก
       

       นับถอยหลังเหลือเวลาอีกแค่ 2 เดือนเศษเท่านั้น ที่พระเอกหนุ่มสุดฮอตเจ้าของฉายาซูเปอร์สตาร์สายฟ้าแลบ "เจมส์" จิรายุ ตั้งศรีสุข จะเดินทางสู่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้เพื่อขึ้นโชว์การแสดงวันที่ 3 ต.ค. 2557 ในมหกรรมคอนเสิร์ตและวัฒนธรรมเกาหลีสุดยิ่งใหญ่ที่มีชื่อว่า “เดอะ เค เฟสติวัล” (The K Festival) ซึ่งจะจัดขึ้น ณ "ซองโด มูน ไลท์ เฟสติวัล ปาร์ค" ระหว่างวันที่ 3 - 4 ต.ค.2557 โดยมีทัพศิลปินดังแดนกิมจิแตรียมผลัดเปลี่ยนขึ้นแสดงบนเวทีอย่างล้นหลาม อาทิ "เจอา" (Ze:a), "ไนน์มิวส์" (Nine Muses), "จิวเวลรี่" (Jewelry), "โซเรียล" (So Real) และ "วี.โอ.เอส." (V.O.S), “เจ แรบบิท” (J rabbit), “ดิคพังส์” (DickPunks), เท็นซีเอ็ม (10 cm.), “จองจุนอิล” (Jung Joon Il) และนอกจากนี้ยังมีศิลปินดังร่วมโชว์การแสดงอีกมากมายซึ่งรายชื่อในล็อต2นั้นจะถูกปล่อยออกมาในวันที่ 16 ส.ค.นี้
       
       โดยก่อนที่หนุ่ม"เจมส์จิ"จะไปเปิดการแสดงในมหกรรมคอนเสิร์ตและวัฒนธรรมเกาหลี “เดอะ เค เฟสติวัล” ในวันที่ 3 ส.ค.นี้ เจ้าตัวได้เทคิวเพื่อฟิตซ้อมโชว์อย่างเต็มที่ ด้วยหวังว่าจะไม่ทำให้เสียชื่อคนไทย ซึ่ง“เจมส์จิ”ได้กล่าวถึงความรู้สึกที่จะบินไปเปิดการแสดงที่เกาหลีในครั้งนี้ โดยกล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้นมากๆและจะตั้งใจทำให้ดีที่สุดเพราะถือเป็นตัวแทนประเทศทำให้ตนต้องฝึกซ้อมทั้งร้องและเต้นอย่างหนัก อีกทั้งยังเผยอีกว่ากำลังซุ่มทำเพลงพิเศษไปแสดงบนเวทีนี้อีกด้วย
       

       บ่อยครั้งที่ได้เห็นนักแสดงและไอดอลสาวเกาหลีถ่ายแบบชุดชั้นในสุดเซ็กซี่ ล่าสุดได้รวบรวมการถ่ายแบบชุดชั้นในที่เซ็กซี่ที่สุดไว้ให้ได้ชมทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงแล้ว ใครเซ็กซี่เข้าตาบ้างไปดูกัน
 

Manager Online

       สุดท้ายก็เปิดเผยออกมาแล้วว่านักแสดงสาว “S” ที่โดนสรรพกรสอบสวนในประเด็นเลี่ยงภาษี ก็คือดาราคนสวย “ซองเฮเคียว” (Song Hye Kyo) นั่นเอง โดยล่าสุดเธอและต้นสังกัดได้ออกแถลงการณ์ขอโทษแล้ว และอธิบายว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาดของนักบัญชี ที่ทำให้เธอค้างจ่ายภาษีถึงมากกว่า 2 พันล้านวอน
       
       จากข่าวที่ว่าดาราสาว “S” โดนสอบสวนกรณีค้างจ่ายภาษี ทำให้มีชื่อของ ซอนเยจิน (Sn Ye Jin) รวมถึง ชินมินอา (Shin Min Ah) ตกเป็นผู้ต้องสงสัย ว่าเข้าข่ายอาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ก่อนที่จะมีการเปิดเผยว่าคนที่โดนสอบจริงๆ ก็คือ s นั่นเอง
       
       ซึ่งสื่อเกาหลีใต้รายงานว่าสรรพกรของเกาหลีใต้ ได้ตรวจสอบพบว่า ซองเฮเคียว ได้หลบเลี่ยงการจ่ายภาษีมาตั้งแต่ปี 2009 รวมเป็นเวลา 3 ปี กับจำนวนเงินถึง 2,557 ล้านวอน (80 ล้านบาท)
       
       ตามข้อมูลของสรรพกร และคณะกรรมการตรวจสอบบัญชีได้เปิดเผยว่า ซองเฮเคียว เคยยื่นขอหักภาษีจากรายจ่ายและส่วนลดหย่อนต่างๆ ถึง 5,953 ล้านวอน (186 ล้านบาท) แต่สุดท้ายเธอกลับไม่สามารถหาหลักฐานอะไรมายืนยันถึงค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ทั้งหมด จนทำให้ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ซองเฮเคียว ค้างจ่ายภาษีรวมเป็นจำนวนเงินถึง 2,557 ล้านวอน โดยในปี 2009 เป็นจำนวนเงิน 785 ล้านวอน (24 ล้านบาท), ปี 2010 เป็นจำนวนเงิน 818 ล้านวอน (25 ล้านบาท) และปี 2011 อีก 954 ล้านวอน (30 ล้านบาท)
       
       ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เปิดเผยว่าหลังตรวจสอบพบการค้างจ่ายภาษีแล้ว ซองเฮเคียว ก็ยินยอมจ่ายเงินตามจำนวนทันที โดยสรรพกรยังลงโทษปรับเงินนักบัญชี 2 ราย ที่มีส่วนต่อการกระทำที่เข้าข่ายเป็นการผิดกฎหมายของนักแสดงสาวคนดังด้วย
       

      นักแสดงสาว “คิมซูฮยอน” (Kim Soo Hyun) ที่หลังจากนี้จะใช้ชื่อในวงการบันเทิงว่า “คลอเดีย คิม” (Claudia Kim)ได้เซ็นสัญญากับเอเยนซียักษ์ใหญ่ United Talent Agency เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังเธอได้รับเลือกให้ร่วมแสดงในหนังซูเปอร์ฮีโร่ฟอร์มใหญ่ Avengers: Age of Ultron
       
       โดยการเซ็นสัญญากับ United Talent Agency ครั้งนี้จะทำให้สาว คลอเดีย คิม ได้เป็นเพื่อนร่วมสังกัดเดียวกับ จอห์นนี่ เดปป์ (Johnny Depp), แองเจลิน่า โจลี (Angelina Jolie), ยวน แม็คเกรเกอร์ (Ewan McGregor) และ แชนนิง เททัม (Channing Matthew Tatum) ด้วย
       
       แม้ก่อนหน้านี้ คิมซูฮยอน หรือ คลอเดีย คิม วัย 29 ปี อาจจะไม่ได้เป็นดาราหญิงระดับแถวหน้าของวงการบันเทิงเกาหลีใต้ แต่สุดท้ายเธอกลับสามารถเอาชนะนักแสดงหญิงซูเปอร์สตาร์ชาวเกาหลีจำนวนมากที่ไปคัดเลือกบทใน Avengers: Age of Ultron ซึ่งได้เดินทางเข้าไปถ่ายทำส่วนหนึ่งในเกาหลี จนทำให้เธอได้มีส่วนร่วมในหนังฮอลลีวูดฟอร์มใหญ่ที่สุดเรื่องหนึ่งที่จะเข้าฉายในปีหน้า และน่าจะเปิดโอกาสงานในต่างประเทศให้กับสาวคนนี้ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

Manager Online

เอเอฟพี - ภาพยนตร์ที่กล่าวถึงชัยชนะของกองทัพเรือเกาหลีในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 เหนือญี่ปุ่นผู้รุกราน คือหนังที่สั่นสะเทือนวงการภาพยนตร์เกาหลี ด้วยการทำลายสถิติต่างๆ ลงมากมาย รวมถึงการเป็นหนังท้องถิ่นเรื่องแรกที่ทำรายได้เกิน 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วย
       
       CJ Entertainment ผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์เรื่อง “มยองลยาง” หรือ Roaring Currents ได้เปิดเผยว่าหนังสงครามย้อนยุคอิงประวัติศาสตร์เรื่องนี้สามารถทำยอดขายตั๋วไปได้แล้วถึง 13.62 ล้านใบแล้ว หลังจากเข้าฉายมาได้แค่ 18 วันเท่านั้น ถือว่าเป็นการโค่นสถิติหนังที่มีผู้ชมมากที่สุดในเกาหลีของ Avatar ที่ทำยอดเอาไว้ 13.61 ล้านใบ จากการฉายถึง 4 เดือนเต็ม
       
       นอกจากนั้น เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Roaring Currents ยังเพิ่งจะทำเงินแตะระดับ 102,400 ล้านวอน (3,203 ล้านบาท) ซึ่งนับว่าเป็นหนังเกาหลีเรื่องแรกที่สามารถทำเงินถึงยอดหลักแสนล้านวอนด้วย
       
       Roaring Currents เป็นหนังที่มีนักแสดงอันดับ 1 ของเกาหลีใต้อย่าง ซอยมินซิค รับบทนำเป็น “ลีซุนชิน” พลเรือเอกแห่งยุคราชวงศ์โชซอน ที่นำกองเรือซึ่งมีจำนวนเรือแค่ 12 ลำเอาชนะกองเรืออันยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่นลงได้ในการศึกที่เรียกว่า "ยุทธการที่ช่องแคบมยองลยาง"
       
       โดยนอกจากคุณภาพของภาพยนตร์แล้ว เชื่อกันว่าปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่กำลังอยู่ในช่วงเลวร้ายของเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ซึ่งตกต่ำลงที่สุดนับจากปี 1910 - 1945 หรือช่วงที่เกาหลีอยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น ก็คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้หนังทำเงินถล่มทลายด้วย

Manager Online

ดาราสาว “อีจีอา” (Lee Ji Ah) ให้สัมภาษณ์เปิดเผยถึงชีวิต 7 ปี ในฐานะภรรยาของนักร้องดัง "ซอแทจี" (Seo Tae Ji) ที่เธอแทบจะต้องตัดญาติขาดมิตร และไม่ได้ออกไปไหนเลย เพราะไม่อยากให้ความลับเรื่องที่ว่าสามี ซึ่งเป็นนักร้องดังของเกาหลีใต้มีภรรยาแล้ว เป็นข่าวขึ้นมา
       
       ในรายการ Healing Camp นักแสดงสาว อีจีอา วัย 36 ปี ได้มีโอกาสพูดอธิบายถึงข้อสงสัยต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องที่เธอเคยแต่งงานกับ ซอแทจี ในปี 1997 หลังจากเริ่มคบหากันมาตั้งแต่ปี 1993 ขณะที่เขาโด่งดังอยู่แล้ว แต่เธอเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง และหย่ากันไปในอีก 3 ปีหลังจากนั้น
       
       จนเมื่อเธอโด่งดังเป็นนางเอกแถวหน้าของวงการ ความลับดังกล่าวกลับถูกเปิดเผยออกมา หลังทั้งคู่ต้องขึ้นศาลต่อสู้คดีกันในเรียกค่าเลี้ยงดู
       
       "ฉันได้เรียนรู้ว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่ายๆ ค่ะ ว่าคงเก็บความลับเอาไว้ไม่อยู่หรอก ถ้าเราเป็นคนที่ทั้งประเทศแทบจะรู้จัก ... ฉันเคยยอมสละอะไรไปเยอะมาก เพราะความลับพวกนี้ ... ความรักของฉันกลายความลับที่ไม่สามารถเปิดเผยให้ใครรู้ได้เลย ถึงจุดหนึ่งแทบจะไม่กล้าสบตาใครเลย... ฉันบอกใครไม่ได้เลย คงจะโดดเดี่ยวไปมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว จนมาถึงจุดที่ฉันเริ่มรู้สึกชินน่ะค่ะ เลยคิดว่าเริ่มจะไม่ดีแล้ว ทุกอย่างเริ่มจะเลยเถิดแล้ว"
       
       ตลอดระยะเวลาของการคบหาและแต่งงานกัน อีจีอา บอกว่าเธอต้องตัดขาดจากเพื่อน กับครอบครัวถึง 7 ปีเต็ม และแทบไม่ได้ไปไหนเลย เพราะไม่อยากจะทำให้ความลับของสามี ที่เป็นนักร้องที่ดังที่สุดคนหนึ่งของประเทศต้องถูกเปิดเผยออกมา โดยสมาชิกในครอบครัวก็แทบไม่มีใครรู้เลยว่าเธอได้แต่งงานแล้ว
       

       มีรายงานว่า Sony Pictures อาจจะแก้ไขบางฉากของหนัง The Interview ที่มีเนื้อหาล้อเลียน "คิมจองอึน" (Kim Jong-un) จนสร้างความไม่พอใจให้กับทางการเกาหลีเหนืออย่างรุนแรง
       
       The Hollywood Reporter รายงานว่าสุดท้ายความไม่พอใจของเกาหลีเหนือก็ดูจะมีผลกับหนัง The Interview ของ เซ็ธ โรเจน และ เจมส์ แฟรงโก อยู่บ้างเมื่อ Sony Pictures ที่เป็นเจ้าของหนังเรื่องนี้ได้ยอมที่จะแก้ไขบางส่วนของหนังแล้ว
       
       ซึ่งตามรายงานผู้สร้างได้ตัดสินใจที่จะใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิคลบเหรียญที่ประดับอยู่บนเสื้อของตัวละครทหารเกาหลีเหนือในเรื่องออก เพราะเหรียญดังกล่าวมีลักษณะเหมือนกับเหรียญซึ่งมีของจริง ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นเกียรติกับ คิมจองอึน และ คิมจองอิล บิดาผู้ล่วงลับของเขานั่นเอง
       
       นอกจากนั้นยังจะมีการตัดฉากสโลโมชั่นที่ใบหน้าของตัวละคร คิมจองอึน (สวมบทโดยนักแสดงชาวสหรัฐฯ เชื้อสายเกาหลี แรนเดล ปาร์ค) ถูกหลอมละลายออกไปด้วย อันเป็นฉากที่เชื่อว่าน่าจะทำให้ทางการเกาหลีเหนือไม่พอใจอย่างรุนแรงที่สุด ซึ่งการแก้ไขดังกล่าวอาจจะทำให้หนังต้องกลับไปถ่ายซ่อมกันอีกนิดหน่อย
       
       The Interview หนังตลกที่ว่าด้วยเรื่องราวของนักข่าวกับพิธีกรชาวอเมริกันที่ได้รับคำสั่งพิเศษจาก CIA ให้ลงมือลอบสังหาร คิมจองอึน หลังทั้งคู่ได้มีโอกาสเข้าสัมภาษณ์ผู้นำของเกาหลีเหนือ เป็นหนังที่ทางการเกาหลีเหนือโจมตีว่าเข้าข่ายเป็นการก่อการร้ายของทางสหรัฐฯ และยังขู่ว่าพวกเขาพร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้หนังเรื่องนี้ฉาย
       

       หลังโด่งดังไปทั่วเมืองจีนจากซีรีส์ “My Love from the Star” ทำให้นักแสดงสาวเจ้าของฉายา “ยัยตัวร้าย” ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพรีเซนเตอร์ของการท่องเที่ยวเกาหลี แต่ล่าสุดกลับมีกระแสต่อต้านการดำรงตำแหน่งดังกล่าวของ “จอนจีฮยอน” (Jun Ji Hyun) จากชาวเกาหลีบางส่วนที่มองว่าประเด็นอื้อฉาวที่เธอไปรับโฆษณาน้ำดื่มในเมืองจีน ทำให้เธอไม่น่าจะคู่ควรกับการเป็นพรีเซนเตอร์การท่องเที่ยว
       
       เมื่อวันที่ 12 ส.ค. นายบยอนชูซอก ประธานการท่องเที่ยวเกาหลี ได้จัดพิธีเพื่อมอบตำแหน่งทูตการท่องเที่ยวให้กับนักแสดงสาว จอนจีฮยอน ที่ดังสุดๆ จากซีรีส์ฮิต My Love from the Star โดยเฉพาะในจีนแผ่นดินใหญ่ที่ซีรีส์เรื่องนี้เข้าไปสร้างกระแส จนเธอกับ คิมซูฮยอน (Kim Soo Hyun) พระเอกของเรื่องกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ของที่นั่นไปเลย ซึ่งการท่องเที่ยวเกาหลีก็เชื่อว่าชื่อเสียงในระดับนานาชาติของ จอนจีฮยอน น่าจะช่วยดึงดูดคนให้มาเที่ยวเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นได้มาก
       
       โดยกระแสของ My Love from the Star ไม่ใช่แค่เรื่องของซีรีส์ที่ได้รับความนิยมเท่านั้น แต่ผลงานว่าด้วยความรักของดาราสาว กับมนุษย์ต่างหนุ่มหล่อกลับทำให้ชาวจีนจำนวนมากสนใจในวัฒนธรรมของเกาหลี ทั้งวัฒนธรรมการกินที่เรียกว่า “chimaek” ที่เป็นการดื่มเบียร์ พร้อมกินไก่ทอดแบบเกาหลี หรือเสื้อผ้า และแบรนด์เครื่องประดับของเกาหลีใต้ที่ปรากฏอยู่ในซีรีส์ก็ได้รับความสนใจไปด้วย
       
       อย่างก็ตามกลับมีกระแสวิจารณ์ออกมาว่า จอนจีนฮยอน ไม่น่าจะเหมาะสมกับตำแหน่งทูตการท่องเที่ยว เพราะเธอเคยรับงานเป็นพรีเซนเตอร์น้ำแร่ Hongda Bingchuan Mineral Water จากจีนแผ่นดินใหญ่ ที่ชาวเกาหลีบางส่วนเชื่อว่าเป็นการฉีกหน้าเกาหลีอย่างแรง!!!
       

       นักแสดงสาวขวัญใจชาวเกาหลีใต้ “ลียองเอ” (Lee Young Ae) ได้รับแต่งตั้งให้เป็นทูตพิเศษเพื่อประชาสัมพันธ์งาน “การประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี” ประจำปี 2014 ซึ่งจะจัดขึ้นในปลายปีนี้
       
       กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ได้จัดการแถลงข่าวขึ้นเมื่อวันที่ 12 ส.ค. เพื่อแต่งตั้งให้นักแสดงวัย 43 ปี ลียองเอ ที่โด่งดังจากบทในซีรีส์ “แดจังกึม” (Dae Jang Geum) ให้เป็นทูตพิเศษสำหรับงานระดับนานาชาติอย่าง “การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 – 12 ธ.ค. ในเมืองปูซาน
       
       ซึ่งกระทรวงต่างประเทศก็เชื่อว่าชื่อเสียงความดังโด่งดังของเธอจากบท แดจังกึม ซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชีย น่าจะทำให้เธอสามารถช่วยประชาสัมพันธ์งานให้ได้รับความสนใจมากขึ้นได้ ส่วน ลียองเอ ก็บอกว่าเธอภาคภูมิใจกับหน้าที่นี้มาก เพราะเป็นงานที่จะมีผู้นำจากประเทศต่างๆ มาร่วมประชุมกัน และเธอก็ยังย้ำว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด ในการช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้ กับประเทศในกลุ่มอาเซียนให้ดียิ่งขึ้นไป
       
       โดย ลียองเอ ที่หันหลังให้กับวงการบันเทิงมาร่วม 10 ปีแล้ว เลือกที่จะใช้ชีวิตเรียบง่าย และดูแลลูกๆ ทั้ง 2 คน ซึ่งล่าสุดเธอก็เพิ่งจะปัดโอกาสคืนจอ ด้วยการปฏิเสธที่จะรับงานแสดงในซีรีส์ แดจังกึม ภาค 2 หลังใช้เวลาตัดสินใจอยู่พักใหญ่ อย่างไรก็ตาม ลียองเอ ก็ยังคงรับงานประเภทถ่ายแบบ, โฆษณา และงานการกุศลต่างๆ อยู่เป็นระยะ ไม่ได้หายหน้าหายตาไปเสียทีเดยว

Manager Online

       2014 Miss Sexy Back Contest ซึ่งจัดกันที่ AX-Korea คือการประกวดความงามที่เน้นความสวยจาก "ด้านหลัง" ของสาวงามผู้เข้าประกวด ซึ่งผู้จัดงานบอกว่าอยากจะจัดการประกวดเพื่อค้นหาความงาม จากแง่มุมที่แตกต่างจากเวทีอื่นๆ ดูบ้าง
       
       การประกวด 2014 Miss Sexy Back Contest ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมาในกรุงโซล กลายเป็นงานที่คนให้ความสนใจกันเกิดคาด สำหรับการประกวดที่เปิดโอกาสให้สาวๆ ได้เผยเสน่ห์จากด้านหลังดูบ้าง โดยผู้จัดงานเผยว่าการประกวดจะเน้นความเซ็กซีแบบมีสุขภาพดีของสาวๆ ที่สามารถแสดงออกมาได้จากการโชว์รูปร่างจากด้านหลังเป็นหลัก
       
       ซึ่งสาวๆ ทั้ง 25 คน ที่เข้าร่วมโชว์ด้านหลังอันเซ็กซีครั้งนี้ก็มีทั้งนางแบบอาชีพ, นักแสดง จนไปถึงครู และพนักงานธนาคารกันเลยทีเดียว ซึ่งแต่ละคนต้องโชว์ความเซ็กซี และความฟิต ผ่านการประกวดใน 6 หมวด ทั้งการเดินโชว์ตัว, ออกลีลาการเต้น, โพสต์ท่า, รูปร่าง และพูดตอบคำถามด้วย และใช้เวลาเก็บตัวก่อนขึ้นประกวดถึงประมาณ 3 สัปดาห์
       
       โดยผู้ชนะจะได้ตำแหน่งพรีเซนเตอร์ของชุดชั้นใน Sexy Cookie เป็นรางวัล ซึ่งสุดท้ายสาวงามที่ชื่อว่า คิมฮานีล ที่ใช้หมายเลข 7 ในการประกวด คือคนที่คว้าตำแหน่งไป หลังคณะกรรมการลงมติว่าด้านหลังของเธอดูเซ็กซีมากที่สุด
       
       ซึ่งในรอบหนึ่งของการของการโชว์ตัวบนเวทีประกวด เธอและและผู้เข้าประกวดทุกคนต้องขึ้นอวดโฉม พร้อมสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าเอาไว้ กับการสวมเสื้อยืดสีแดงสุดเซ็กซี และบิกินีโชว์บั้นท้ายอวบอิ่มของแต่ละคน เพื่อที่กรรมการจะได้ตัดสินลงคะแนนจากรูปร่างของสาวๆ โดยไม่หวั่นไหวกับหน้าตาของแต่ละคน

Manager Online

       Nodame Cantabile ฉบับเกาหลีที่ได้พระนางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เริ่มเสริมทัพด้วยนักแสดงที่น่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดมีข่าวว่าหนังจะได้สาวสวยระดับประเทศ “คิมยูมิ” (Kim Yu Mi) อดีตเจ้าของตำแหน่ง “มิสเกาหลี” มารับบทเป็นหญิงผู้เป็นรักแรกของตัวเอกซึ่งสวมบทโดย “จูวอน” (Joo Won) ด้วย
       
       เอเยนซี Star Haus ประกาศข่าวยืนยันว่า คิมยูมิ เจ้าของตำแหน่ง มิสเกาหลี ประจำปี 2012 กำลังจะได้มีงานแสดงเป็นครั้งแรกในซีรีส์ที่ว่าด้วยชีวิตรัก และความฝันของเหล่านักศึกษาวิทยาลัยดนตรี Nodame Cantabile ฉบับกาหลีใต้ กับบทสมทบที่เธอจะรับบทเป็นนักศึกษาสาขาขับร้อง ที่เป็นเหมือนกับ “ราชินีแห่งวิทยาลัยดนตรี” และยังเป็นรักแรกของตัวละครเอกซึ่งสวมบทโดย จูวอน ด้วย
       
       คิมยูมิ วัย 24 ปี ที่เป็นตัวแทนของเกาหลีใต้บนเวทีมิสยูนิเวิร์สเมื่อปี 2013 ที่โดดเด่นด้วยรูปร่าง และรอยยิ้มอันน่าประทับใจ เคยตกเป็นประเด็นมากมายเมื่อมีภาพ ซึ่งว่ากันว่าเป็นเธอก่อนทำศัลยกรรมหลุดออกมาในโลกออนไลน์ ก่อนที่เจ้าตัวจะยอมรับว่าเป็นความจริง แต่ก็อ้างว่าเธอไม่เคยบอกกับใครว่าไม่ได้ทำศัลยกรรมมาก่อนแน่นอน
       
       อย่างไรก็ตามหลังหมดวาระครองมงกุฎ คิมยูมิ ก็ยังโด่งดังเป็นที่สนใจ และได้รับข้อเสนองานเรื่องงานแสดงมากมาย ก่อนจะตอบตกลงรับบทเด่นในซีรีส์ Nodame Cantabile ที่มีการวางตัว ชิมอึนคยอง (Shim Eun Kyung) กับ จูวอน เอาไว้ในบทนำ และมีกำหนดออกอากาศทาง KBS ในเดือน ต.ค. ที่จะถึงนี้

Manager Online

นักแสดงหญิงอดีตเจ้าของตำแหน่งรอง "มิสเกาหลี" ถูกตัดสินให้มีความผิดในข้อหาค้าประเวณี และโดนปรับเงินไป 2 ล้านวอน จากพฤติกรรมที่เธอยอมหลับนอนกับนักธุรกิจรายหนึ่งเพื่อแลกกับเงินก้อนโตถึง 50 ล้านวอน
       
       คดีความสุดอื้อฉาวของนักแสดงหญิง ซองฮยอนอา (Sung Hyun Ah) สิ้นสุดลงแล้วในการขึ้นศาลครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยผู้พิพากษาได้ตัดสินลงโทษดาราสาวด้วยการปรับเงินเป็นจำนวน 2 ล้านวอน (62,000 บาท) ตามการร้องขอของพนักงานอัยการ จากพฤติกรรมที่เธอยอมหลับนอนกับนักธุรกิจรายหนึ่งเพื่อแลกกับเงินก้อนโต
       
       ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างเดือน ก.พ. ถึง มี.ค. 2010 และอีกครั้งเมื่อเดือน ธ.ค. ปีก่อน ที่ ซองฮยอนอา ได้มีความสัมพันธ์ทางเพศกับนักธุรกิจคนหนึ่ง 3 ครั้ง หลังจากนั้นเธอจึงได้รับเงินถึง 50 ล้านวอน (ประมาณ 1.5 ล้านบาท) จากอีกฝ่าย โดยไม่ทราบว่าตนเองได้ถูกเจ้าหน้าที่จับตามองพฤติกรรมมาตลอด จนทำให้เธอถูกอัยการสั่งปรับเงินทันที แต่นักแสดงสาวอ้างว่าคำตัดสินดังกล่าวไม่มีความเป็นธรรม และเรียกร้องให้มีการไต่สวนตามขั้นตอนตามปกติของศาล หลังจากนั้นเธอจึงต้องเดินทางไปขึ้นศาลถึง 5 ครั้งในตลอดเดือน มี.ค. ถึง มิ.ย. ก่อนจะถูกสั่งปรับเป็นเงิน 2 ล้านวอน
       
       ข่าวยังระบุว่า ซองฮยอนอา ยังพยายามจะขอโอกาสต่อสู้เพื่อแก้ต่างให้กับตัวเองเพิ่มเติม ด้วยการเรียกร้องให้มีการพิจารณาเต็มคดี แต่ศาลเขตซูวอนปฏิเสธคำขอ ด้วยข้ออ้างว่านักธุรกิจที่ซื้อบริการทางเพศจากเธอได้ยอมรับสารภาพแล้ว โดยนักธุรกิจที่สื่อเกาหลีใต้เรียกว่า "แช" ก็ถูกดำเนินคดีด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งสุดท้ายศาลได้ลงโทษเขาเป็นการปรับเงิน 3 ล้านวอน (93,000 บาท) ในข้อหาซื้อบริการทางเพศ
       

       สามสาว Orange Caramel ยูนิตพิเศษของ After School เผยภาพล่าสุดของงานเพลงซิงเกิลใหม่ Do It Like I Do ที่พวกเธอมาพร้อมกับเสื้อผ้าแหวกแนวแบบที่ไม่น่าจะมีเกิร์ลกรุ๊ปกลุ่มอื่นทำมาก่อน ด้วยการสวมชุดแบบหญิงทำความสะอาด
       
       หลังเรียกน้ำย่อยแฟนๆ ด้วยการปล่อยภาพแรกของงานเพลงล่าสุดที่สาวๆ แต่งหน้าเป็นตัวการ์ตูนให้ชมไปเมื่อเร็วๆ นี้ล่าสุดสาวสาม Orange Caramel ได้ปล่อยภาพใหม่ออกมาอีกแล้ว และก็สร้างกระแสได้เช่นเคยเมื่อพวกเธอเลือกสวมชุดแบบคนทำความสะอาด ที่แต่ละมาพร้อมทั้งรองเท้าบู๊ต, ผ้ากันเปื้อน และอุปกรณ์ทำความสะอาดพร้อม สำหรับการแสดงในเอ็มวีเพลงใหม่ที่จะปล่อยให้แฟนๆ ได้ชมกันในเร็วๆ นี้
       
       Orange Caramel วงหญิงล้วนสัญชาติเกาหลีใต้เป็นซับยูนิตของวง After School ซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิกทั้งหมด 3 คนคือ เรนะ (Reina), นานะ (Nana) และ ลิซซี (Lizzy) โดยสาวๆ เริ่มรวมตัวกันเฉพาะกิจมาตั้งแต่ปี 2010 และประสบความสำเร็จจนมีผลงานต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน มีงานที่ได้รับความนิยมไม่แพ้วงหลักของตัวเองเลย ด้วยภาพลักษณ์น่ารักสดใส และเสื้อผ้าหน้าผมที่เต็มไปด้วยสีสัน โดยสาวๆ Orange Caramel มีกำหนดออกซิงเกิลล่าสุด Do It Like I Do ในวันที่ 18 ส.ค. นี้

Manager Online