Michelle Reis (C)

วิวาห์หวาน หยังไช่หนี (Charlie Yeung) สละโสดได้ หยวนหย่งอี๋ (Anita Yuen), หลี่ซินเจี๊ย (Michelle Reis) ร่วมยินดี

Submitted by canjamm on 4 พฤศจิกายน, 2013 - 20:50

       นางเอกสาวชื่อดังชาวฮ่องกง "หยังไฉ่หนี" (Charlie Yeung) ได้เข้าพิธีแต่งงานแล้ว หลังใช้เวลาดูใจกับแฟนหนุ่มนานถึง 19 ปี เคยผ่านทั้งช่วงเวลาดีๆ และมรสุม ถึงขั้นที่มีครั้งหนึ่งเคยแยกทางกันไปหลายปี แต่ก็หวนกลับมาครองคู่ จนลงเอยด้วยการแต่งงานในท้ายที่สุด
       
       หยังไฉ่หนี วัย 39 ปี และแฟนหนุ่ม กู่เจ้าเซียะวัย 43 ปี ได้จูงมือกันเข้าประตูวิวาห์เพื่อเริ่มต้นการใช้ชีวิตร่วมกันในฐานะครอบครัวเมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยข่าวระบุว่าครั้งหนึ่ง หยังไฉ่หนี เคยแยกทางกับแฟนหนุ่มคนนี้ไปถึง 7 ปีเต็ม แต่สุดท้ายบุพเพก็พาให้ทั้งคู่กลับมาครองคู่กันอีก
       
       โดยข่าวจากฮ่องกงระบุว่าทั้งสองใช้เงินไปถึง 2 ล้านเหรียญสิงคโปร์ (ประมาณ 50 ล้านบาท) ในการเนรมิตพิธีแต่งงานที่บ้านเกิดของฝ่ายชายขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาในโรงแรม ดับบลิว สิงค์โปร์ เซนโตซา โคฟ

       ซึ่งในพิธีแต่งงาน หยังไฉ่หนี ปรากฏตัวขึ้นในชุดวิวาห์สุดสวยของ Romona Keveza โดยฝ่ายชายมอบแหวนเพชรน้ำหนัก 2 กะรัตให้เป็นของแทนใจ และนอกจากการจัดพิธีแบบตะวันตกแล้ว เมื่อช่วงเช้าของวันแต่งงาน ยังมีการจัดพิธียกน้ำชาแบบประเพณีจีน ที่ หยังไฉ่หนี และเจ้าบ่าวได้ยกน้ำชาให้กับพ่อและแม่ของทั้งสองฝ่ายตามธรรมเนียม นอกจากนั้นทั้งคู่ก็ยังยกน้ำชาให้กับ ฉีเคอะ ผู้กำกับรุ่นใหญ่ที่เจ้าสาวเคารพมากๆด้วย
       
       โดยในพิธีแต่งงานครั้งนี้ยังมีคนดังจากวงการบันเทิงจีนมาร่วมงานด้วยหลายคน อาทิ หยวนหยงอี๋ (Anita Yuen), หลี่ซินเจี๊ย (Michelle Reis) ที่ควงสามี อ็อกไซ แปง มาร่วมงาน เช่นเดียวกัน เหลียงหย่งฉี ที่มางานกับสามีชาวต่างชาติ ส่วนนักร้องสาว สวีหรูยวิ๋นยังได้มาทำหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าสาวด้วย
       

รักพี่เสียดายน้อง! ดารามังกรสวยยกครัว

Submitted by canjamm on 17 มีนาคม, 2012 - 19:51
       ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า เบื้องหลังความสำเร็จของคนส่วนใหญ่ ล้วนมีแรงสนับสนุนจากคนในครอบครัวเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม ไม่ว่าจะลงแรงหรือเพียงแค่กำลังใจที่มีให้กัน สัปดาห์นี้มารู้จักกับบรรดาพี่น้องของดาราสาวมังกร ว่าจะหน้าตาเหมือนกันมากน้อยเพียงไร
       
       สีว์ซีเสียน : พี่สาวของต้าเอส (Da S) - เสี่ยวเอส (Xiao S
 
เสี่ยวเอส-ต้าเอส-สีว์ซีเสียน

       ปกติคนส่วนใหญ่จะรู้เพียงว่าต้าเอสและเสี่ยวเอสเป็นพี่น้องกัน โดยทั้งคู่เข้าสู่วงการบันเทิงจากการจับมือเป็นนักร้องคู่ดูโอภายใต้ชื่อวง ASOS แต่น้อยคนนักจะทราบว่า ความจริงแล้วพวกเธอยังมีพี่สาวคนโตอีกคนหนึ่ง ชื่อว่า “สีว์ซีเสียน”
       

“หลิวเต๋อหัว” (Andy Lau) เตรียมอุ้มลูกสาวปีมังกร

Submitted by canjamm on 1 กุมภาพันธ์, 2012 - 00:04

ปล่อยให้แฟนๆ และสื่อมวลชนได้แต่คาดเดากันอยู่พักใหญ่ ว่าทายาทคนแรกของ “หลิวเต๋อหัว” (Andy Lau) จะเป็นเด็กผู้หญิงหรือเด็กผู้ชายกันแน่ ล่าสุดพระเอกดังวัย 50 ปีเปิดเผยด้วยตัวเองว่าเขากำลังจะได้ลูกสาว
       
       เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หลิวเต๋อหัว ได้โพสต์ข้อความในเว็บไซต์แฟนคลับของตัวเองเปิดเผยถึงเรื่องเพศของลูกเป็นครั้งแรกว่า “ลูกของผมเป็นเด็กผู้หญิงครับ ผมจะเปิดเผยความลับเรื่องนี้กับแฟนคลับที่น่ารักเท่านั้นนะ”
       
       ซึ่ง sina.com รายงานว่าหลิวเต๋อหัวได้ทำตามสัญญากับแฟนคลับ ที่ว่าจะเปิดเผยเรื่องนี้ให้แฟนๆรู้ก่อนใครนั่นเอง โดยทายาทคนแรกของพระเอกดังวัย 50 ปี มีกำหนดลืมตาดูโลกในเดือน มิ.ย.
       
       นอกจากหลิวเต๋อหัวแล้วในปี 2012 ยังจะมีคนดังชาวจีนอีกหลายคนที่ถือฤกษ์ดีปีมังกรเป็นปีที่ให้กำเนิดทายาท รวมถึงอดีตมิสฮ่องกงคนดัง หลี่เจียซิน (Michelle Reis) ที่ข่าวว่าตั้งท้องถูกคนที่ 2 แล้ว หลังจากเมื่อปีก่อนเธอได้ให้กำเนิดลูกชายคนแรกกับสามีมหาเศรษฐี จูเลียน ฮุย
       
       โดยการตั้งท้องครั้งนี้ หลี่เจียซิน ที่มีลูกยากต้องใช้วิธี การกระตุ้นไข่และชักนำให้ไข่ตก (Ovulation Induction) นอกจากนั้นเธอก็ยังอยากได้ลูกสาวมาก ถึงขั้นปรึกษาหมอดูให้ช่วยในเรื่องนี้ โดยข่าวรายงานว่าขณะนี้ หลี่เจียซิน ตั้งท้องได้ 11 สัปดาห์แล้ว

 

Manager Online

"กัวฟู่เฉิง" (Aaron Kwok) ยังไม่ผ่านด่าน(ว่าที่)แม่ยาย - จะแต่ง "สงไต้หลิน" (Lynn Xiong) 8 แสนน้อยเกินไป

Submitted by canjamm on 19 พฤษภาคม, 2011 - 16:10

มีข่าวลือหนาหูว่า "กัวฟู่เฉิง" (Aaron Kwok) และ "สงไต้หลิน" (Lynn Xiong) จะเข้าประตูวิวาห์เพื่อใช้ชีวิตร่วมกันในฐานะสามีภรรยากันในปีนี้ อย่างไรก็ตามแผนการดังกล่าวยังติดชะงักอยู่ที่มารดาของฝ่ายหญิง ที่มองว่าค่าสินสอดจำนวน 8 แสนเหรียญฮ่องกงที่แฟนหนุ่มของลูกสาวเสนอมานั้นยังน้อยเกินไป

Asiaone อ้างรายงานจากสื่อในฮ่องกงว่า เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา กัวฟู่เฉิง ได้นัดพบพูดคุยกับ สงไต้หลิน และมารดาของเธอเพื่อวางแผนเรื่องการจัดงานแต่งงาน ซึ่งแหล่งข่าววงในเผยว่า ว่าที่แม่ยายของนักร้องชื่อดังมีข้อเรียกร้องสองประการคือ หนึ่งค่าสินสอดจำนวนที่สมน้ำสมเนื้อ และงานแต่งครั้งนี้ต้องจัดขึ้นที่หนานจิง ในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ อันเป็นบ้านเกิดของฝ่ายหญิงนั่นเอง

อย่างไรก็ตามข่าวยังอ้างว่า กัวฟู่เฉิง ยืนกรานว่าเขาจะจ่ายค่าสินสอดเพียง 8 แสนเหรียญฮ่องกงเท่านั้น (ประมาณ 3.1 ล้านบาท) ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับมารดาของฝ่ายหญิงเป็นอย่างมาก โดยขณะนี้ทั้ง สงไต้หลิน และแม่ของเธอยังปฏิเสธที่จะพูดคุยกับนักข่าวถึงเรื่องนี้

สงไต้หลิน นางแบบชื่อดังวัย 30 ปี ซึ่งโด่งดังเป็นที่รู้จักจากบทบาทการแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Ip Man ทั้ง 2 ภาค ได้พบกับกัวฟู่เฉิงครั้งแรกเมื่อ 4 ปีก่อนภายหลังเธอได้ร่วมแสดงในมิวสิควิดีโอของเขา หลังจากนั้นก็มีข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่อยู่ต่อเนื่อง แม้ต่างฝ่ายจะไม่เคยยอมรับหรือปฏิเสธข่าวคบหากันเลยก็ตาม

สำหรับเรื่องสินสอดของเหล่าดาราสาวชื่อดัง มีข้อมูลว่าสาวสวยอดีตมิสฮ่องกง หลีเจียซิน (Michelle Reis) เป็นเจ้าของสถิติค่าสินสอดในวงการบันเทิงสูงสุด ด้วยตัวเลขถึง 3.8 ล้านเหรียญฮ่องกง (14.7 ล้านบาท) เมื่อครั้งที่เธอเข้าประตูวิวาห์กับทายาทมหาเศรษฐี จูเลียน ฮุย เมื่อ 3 ปีก่อน

ขณะที่เมื่อสองปีก่อน พ่อแม่ของนักร้องสาวคนดัง หยังเชี่ยนหัว (Miriam Yeung) ก็เรียกค่าสินสอดเมื่อลูกสาวคนดังคนนี้แต่งงานไป 990,000 เหรียญฯ (3.8 ล้านบาท)

“หลี่เจียซิน” (Michelle Reis) รับทรัพย์ 100 ล้านเหรียญฯ หลังให้กำเนิดทายาทตระกูล “ฮุย”

Submitted by canjamm on 14 กุมภาพันธ์, 2011 - 15:42

สื่อจากฮ่องกงรายงานถึงข่าวดี ของอดีตนางงามมิสฮ่องกงคนสวย “หลี่เจียซิน” (Michelle Reis) ที่เพิ่งให้กำเนิดลูกชายคนแรกไปหมาดๆ เมื่อสัปดาห์ก่อน ว่าเธอยังได้รับเงินขวัญถุงจากครอบครัวสามี ถึง 100 ล้านเหรียญฮ่องกง ในฐานะให้กำเนิดทายาทแก่วงศ์ตระกูลได้สำเร็จ

หลี่เจียซิน ได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมาก เมื่อเธอโพสต์ภาพถ่ายหลังให้กำเนิดลูกน้อยเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่มีชาวฮ่องกงจำนวนมากเรียกอดีตมิสฮ่องกงรายนี้ว่าเป็น “คุณแม่ที่สวยที่สุดประวัติศาสตร์” กันเลยทีเดียว

ขณะที่ตัวของ หลี่เจียซิน กล่าวถึงลูกน้อยวัยแบเบาะว่ามีหน้าตาเหมือนกับ จูเลี่ยน ฮุย สามีของเธอมากที่สุด “เขาเหมือนกับเป็น จูเลี่ยน ตัวน้อย ๆ เลยค่ะ แต่ลูกมีตาเหมือนกับฉัน ตาโตและดูแจ่มใส”

ในเวลาเดียวกันยังมีรายงานว่า ปู่และย่าของหนูน้อย “เจย์เดน แม็กซ์ ฮุย” หรือ “เจเอ็ม” ได้มอบเงินขวัญถุงให้กับลูกสะใภ้คนสวยรายนี้ถึง 100 ล้านเหรียญฮ่องกง (ประมาณ 394 ล้านบาท) เป็นรางวัลในฐานะที่ให้กำเนิดทายาทรุ่นต่อไปของตระกูลฮุยได้สำเร็จ โดยมีการประมาณการณ์กันว่าตระกูลมหาเศรษฐีของฮ่องกงตระกูลนี้ มีทรัพย์สินอยู่ราวๆ ถึง 18,000 ล้านเหรียญฮ่องกง (ประมาณ 70,000 ล้านบาท) กันเลยทีเดียว

ซึ่งเมื่อเทียบแล้ว ถือว่าเงินรางวัลสำหรับการให้กำเนิดทายาทที่หลี่เจียซินได้รับนั้น อยู่ในระดับเดียวกับที่ดาราสาว อิซาเบลลา เหลียงลั่วซือ ก็เคยได้รับ 100 ล้านเหรียญฮ่องกง เช่นเดียวกัน หลังให้กำเนิดทายาทตระกูล “ลี” ของอัครมหาเศรษฐี ลีคาชิง มาแล้ว โดยสื่อในฮ่องกงเชื่อว่า เหลียงลั่วซื่อ วัย 22 ปี ที่มีลูกกับ ริชาร์ด ลี ลูกชายคนโตของ ลีคาชิง น่าจะรับทรัพย์ไปราวๆ 300 ล้านเหรียญฮ่องกงแล้ว จากการมีลูกกับเขา 3 คน

Manager Online

อดีตมิสฮ่องกง "หลี่เจียซิน" (Michelle Reis) เป็นคุณแม่มือใหม่ในวัย 40

Submitted by canjamm on 10 กุมภาพันธ์, 2011 - 15:48

นักแสดงสาวสวย "หลี่เจียซิน" (Michelle Reis) ภรรยาของมหาเศรษฐีชาวฮ่องกง "จูเลี่ยน ฮุย" (Julian Hui) ได้ให้กำเนิดลูกชายคนแรก หลังจากใช้ชีวิตแต่งงานมา 2 ปีเศษ ที่ทำให้เธอได้ทำหน้าที่คุณแม่ในวัย 40 ปีพอดี

สำนักข่าวต่างๆ ในฮ่องกง ได้ติดตามการให้กำเนิดทายาทของคู่รักคนดังคู่นี้มาตั้งแต่ต้น โดยมีรายงานว่า หลีเจียซิน ได้เข้าแอดมิตที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมาแล้ว และได้ให้กำเนิดลูกชายในช่วงบ่ายของวันที่ 8 ก.พ. ซึ่งมีข่าวว่าเป็นฤกษ์งามยามดี ที่ทางครอบครัวได้เลือกเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

ซึ่งนางเอกสาววัย 40 ปี และ จูเลี่ยน ฮุย สามีนักธุรกิจของเธอ ตั้งชื่อให้กับลูกคนนี้ว่า เจย์เดน แม็กซ์ ฮุย (Jayden Max)

โดยก่อนจะถึงการคลอดท้องแรก หลี่เจียซิน ยังส่งข่าวให้กับแฟน ๆ ผ่านบล็อค Weibo ของตัวเองอยู่เป็นระยะ เพื่อแบ่งปันความรู้สึกต่างๆ กับทุกคน ... "ทุกคนพยายามที่จะเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิม สำหรับการเปลี่ยนแปลงชีวิต ขอเพียงแค่มีความกล้าหาญเท่านั้นค่ะ! ความเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งดีเสมอ" ดาราสาวกล่าวกับทุกคนผ่านเว็บไซต์ ขณะเดียวกัน แฟนๆ ก็ต่างส่งกำลังใจ และอวยพรให้เธอ

ในวันที่ 8 ก.พ. หลีเจียซิน ยังเขียนถึงการให้กำเนิดลูกชายอีก พร้อมยอมรับว่าเธอทั้งกลัว และตื่นเต้นไปพร้อมๆ กัน ... "การคลอดลูกถือเป็นความสุขอย่างหนึ่งค่ะ เมื่อมองไปข้างหน้าแล้ว ฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก แต่ก็กลัวเหมือนกัน อยากจะขอบคุณทุกคนสำหรับการสนับสนุนต่างๆ, คำอวยพร และการให้กำลังใจทั้งหมดค่ะ"

จนกระทั่งในเวลาประมาณ 14.20 น. ของวันเดียวกัน พ่อและแม่ของฝ่ายสามี ได้เดินทางมาที่โรงพยาบาล, ตามมาด้วยสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ ขณะที่กองทัพนักข่าวกว่า 100 ก็พร้อมอยู่ที่นั้นแล้ว

หลังจากดาราสาวให้กำเนิดลูกชายคนแรกอย่างปลอดภัยทั้งแม่และลูก ตัวแทนของครอบครัวได้ประกาศเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ พร้อมให้ข้อมูลว่าลูกชายคนแรกของ หลี่เจียซิน และจูเลี่ยน ฮุย เป็นเด็กชายที่ทั้งสองตั้งชื่อให้ว่า เจย์เดน แม็กซ์ ฮุย มีน้ำหนัก 2.93 กก. และสูง 49 ซม.

PETA สุดแรง เปรียบเทียบ "กงลี่" (Gong Li) กับสาวเหยียบกระต่าย

Submitted by canjamm on 28 มกราคม, 2011 - 17:01

"กงลี่" (Gong Li) กลายเป็นเป้าหมายล่าสุด ขององค์กรพิทักษ์สิทธิสัตว์ PETA ที่เปรียบเทียบความนิยมในเสื้อผ้าขนสัตว์ของซุปเปอร์สตาร์ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ว่าไม่ได้แตกต่างอะไรกับพวกสาว ๆ 'เหยียบกระต่าย' ที่กลายเป็นข่าวครึกโครมในช่วงปลายปีที่ผ่านมาเลย

องค์กรเพื่อสิทธิสัตว์ PETA ประจำเอเซีย ปล่อยสื่อโฆษณาสุดอื้อฉาวออกมาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และมีเป้าหมายในการโจมตีไปที่นักแสดงหญิงชื่อดังระดับโลกอย่าง กงลี่ โดยเฉพาะ

ในโฆษณาดังกล่าวเป็นภาพส่วนขาของหญิงคนหนึ่ง ที่ใช้รองเท้าส้นสูงย่ำไปที่กระต่ายน้อยจนถึงแก่ความตาย และมีเลือดเปรอะไปทั่วพื้น โดยตัวอักษรภาษาจีนเขียนอธิบายภาพไว้ว่า "กงลี่: กับจุดยืนบนแฟชั่นชั้นระดับโลก?"

ซึ่งนี่เป็นการอ้างอิงเรื่องอื้อฉาวในสังคมออนไลน์ของจีนในช่วงปลายปีก่อน เมื่อปรากฏคลิปของหญิงสาววัยรุ่นหลายคน ใช้รองเท้าส้นสูงเหยียบกระต่าย หรือนั่งทับสัตว์โลกผู้น่ารักอย่างโหดเหี้ยมทารุณ และถูกเผยแพร่ส่งต่อกันไปเรื่อย ๆ ซึ่งต่อมามีคำอธิบายว่า พวกเธอประกอบกิจกรรมสุดโหดแบบนั้น และบันทึกภาพเอาไว้ ก็เพื่อขายให้กับชาวต่างชาติ ผู้มีรสนิยมแปลกประหลาดนั่นเอง

ภาพโฆษณาของ PETA ที่เปรียบเทียบกระแสความนิยมในชุดขนสัตว์ของเหล่าคนดัง กับกิจกรรมการสังหารโหดกระต่ายนั้นถูกวิจารณ์อย่างหนักจากหลายฝ่าย ว่านอกจากจะไม่เหมาะสมแล้ว อาจจะก่อให้เกิดกระแสเลียนแบบ ในการฆ่ากระต่ายขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นได้ แต่ในเวลาเดียวกัน มันก็เรียกร้องความสนใจจากทุกฝ่าย อย่างที่องค์กรพิทักษ์สัตว์ต้องการได้จริง ๆ

"กงลี่ ถูกโจมตีในเรื่องนี้จากคนจีนทั้งประเทศมาตลอด กับการเลือกเสื้อผ้าที่มีบ่อเกิดมาจากความโหดเหี้ยมต่อสัตว์ และไม่สนใจปัญหาสิ่งแวดล้อมของเธอ" โคโค่ หยู แห่ง PETA เอเชีย กล่าว พร้อมยืนยันว่าองค์กรพยายามติดต่อไปหานักแสดงหญิงคนดังรายนี้หลายครั้งแล้ว แต่ไม่ได้รับการตอบสนองใด ๆ "เปรียบเทียบแล้วมีดาราอีกหลาย ๆ คนที่สนใจปัญหาในเรื่องนี้มากกว่า กงลี่ รวมถึง เหอวั่นซือ (Denise Ho) จากฮ่องกง ที่ยืนยันกับพวกเราทันทีที่ได้รับการติดต่อ ว่าเธอจะไม่ใช้เสื้อผ้าขนสัตว์อีก"

10 ซูเปอร์สตาร์หญิงรุ่นใหญ่ กับเสน่ห์ความงามดั่งผลไม้สุก

Submitted by canjamm on 4 ตุลาคม, 2010 - 17:55

คราวนี้มายลโฉม 10 ซูเปอร์สตาร์หญิงรุ่นใหญ่แห่งฮ่องกง ผู้ได้ฝากผลงานการแสดงอันเลื่องลือในจอเงินและจอแก้ว เป็นที่กล่าวขานมาถึงปัจจุบัน แม้เวลาจะล่วงเลยไปนานแสนนาน รูปโฉมภายนอกบ้างก็ยังคงความงามของวันวานแห่งวัยกุหลาบแรกแย้ม บ้างก็เปลี่ยนแปรไปตามกาลอย่างไม่อาจฉุดรั้งเสียแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ยังทรงเสน่ห์ดั่งผลไม้ที่สุกเต็มที่

เจ้า หย่าจือ (Gigi Chiu Nga Chi / Angie Chiu)
ด้วยผลงานการแสดงเมื่อครั้งอายุ 20 กับเรื่องเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ และเมื่อตอนอายุ 38 กับผลงานเรื่องนางพญางูขาว ทำให้เธอโด่งดังไปทั่วแผ่นดินจีน แม้ตอนนี้เธอมีอายุได้ 56 ปีแล้ว ความอ่อนเยาว์อาจจะโรยราลงไป แต่ความงามของเธอกลับยิ่งเปล่งประกาย

จัง มั่นอี้ว์ / จางมั่นอวี้ (Maggie Cheung)
จัง มั่นอี้ว์ ซูเปอร์สตาร์ผู้มีผลงานประดับจอเงินจอแก้วไว้มากมาย กับบทบาทอันหลากหลาย อาทิ หยวนหลิงอี้ว์ (阮玲玉 หรือชื่อในพากษ์อังกฤษ Centre Stage) ตงเสียซีตู๋ (东邪西毒หรือชื่อในพากษ์อังกฤษ Ashes of Time) นางพญางูเขียว(青蛇) ตำนานมหายุทธ์ มังกรหยก และผลงานที่ชาวไทยชื่นชม เถียนมีมี่ (3,650 วันรักเธอคนเดียว) เป็นต้น แม้ย่างสู่วัย 46 ปี ก็ยังได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้มีความงดงามอันบริสุทธิ์และอบอุ่น

หลิว จยาหลิง / หลิวเจียหลิง (Carina Lau)
ความอ่อนโยน และความเซ็กซี่ยวนเย้า กอปรด้วยฝีมือการแสดง ทำให้เธอได้รับเสียงปรบมือจากผู้ชมมาแล้วนักต่อนัก แม้ตอนนี้เธอจะมีอายุได้ 45 ปีแล้ว แต่ลีลาท่าทางอันน่ารักของเธอก็ยังเป็นเสน่ห์ชวนหลงใหลอยู่เสมอ

หลิน ชิงสยา / หลินชิงเสีย (Brigitte Lin)

ลือกันอีกรอบ "หลี่เจียซิน" (Michelle Reis) ตั้งท้อง 3 เดือน หลังได้ยาดี

Submitted by canjamm on 16 สิงหาคม, 2010 - 15:22

หลัง "หลี่เจียซิน" (Michelle Reis) เข้าพิธีสมรสกับสามีมหาเศรษฐี "จูเลี่ยน ฮุย" (Julian Hui) เมื่อ 2 ปีก่อน มีรายงานข่าวเกี่ยวกับทายาทคนแรกของทั้งคู่มาโดยตลอด แต่สุดท้ายความหวังได้ลูกมาอุ้มของสองสามีภรรยาคนดังก็ไม่เกิดขึ้นเสียที ล่าสุดมีข่าวทำนองนี้ขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อสื่อรายหนึ่งได้อ้างว่า "หลี่เจียซิน" ตั้งครรภ์ได้ 3 เดือนแล้ว พร้อมหลักฐานเป็นภาพถ่าย และยังให้ข้อมูลว่ายาจีนที่ได้มาจากเพื่อน คือเคล็ดลับการตั้งท้องของเธอ

สื่อบันเทิงจากฮ่องกงรายงานอีกครั้งว่า หลี่เจียซิน นางเอกชาวฮ่องกงเจ้าของผลงาน เดชคัมภีร์เทวดาภาค 2 และหนังชุดสุดฮิต เทพบุตรผู้พิชิต เมื่อหลายปีก่อน ได้ตั้งท้อง 3 เดือนแล้ว อันเป็นเรื่องที่สร้างความยินดีแก่สามี และครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง หลังรอคอยทายาทของตระกูลมายาวนานเต็มทน

ข่าวยังระบุว่าแม้แต่แม่สามี ที่เคยไม่พอใจในตัวลูกสะใภ้คนสวยอย่างแรง ถึงเรื่องการมีบุตรยาก ก็ยินดีกับข่าวครั้งนี้เป็นอย่างมาก จนถึงกับสั่งกำชับให้ จูเลี่ยน ฮุย ลูกชายตัวเองดูแลหลี่เจียซินให้ดีที่สุด และหายาบำรุงสุขภาพเพื่อให้ลูกน้อยในครรภ์ได้เติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแรง

นับแต่เริ่มต้นใช้ชีวิตคู่ มีข่าวซุบซิบเกี่ยวกับนางเอกภาพยนตร์ และหนังชุดทางโทรทัศน์คนนี้ออกมาอยู่เสมอ โดยเฉพาะปัญหาหนักอกหนักใจของเธอ เกี่ยวกับการมีบุตรยากในวัย 40 ปี มีกระทั่งข่าวลือว่า แม่สามีไม่พอใจอย่างยิ่ง ที่เธอยังไม่หยุดรับงาน และมีการขู่ว่าถ้าไม่สามารถให้ทายาทแก่ตระกูลได้ อาจจะมีการหาหญิงสาวคนอื่นมาทำหน้าที่แทน

ขณะเดียวกันในข่าวดีดังกล่าว ยังมีการเปิดเผยด้วยว่าการตั้งท้องครั้งนี้มีเคล็ดลับสำคัญมาจากยาดี ที่หลีเจียซิน ได้รับมาจากเพื่อนคนหนึ่ง

แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับนักแสดงสาวคนดัง ได้ออกมาให้ข้อมูลถึงเรื่องนี้ว่า "ครอบครัวของสามีต้องการทายาทคนนี้มาโดยตลอด แต่พวกเขาเองก็ทราบดีว่าของแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องที่จะมาเร่งรัดกันได้ ฉันคิดว่าสุดท้ายแล้วเธอได้สูตรลับมาจากเพื่อนคนหนึ่ง เป็นยาจีนโบราณที่ทุกคนคิดว่าคงไม่เสียหายอะไรถ้าจะลองดู และสุดท้ายมันก็ได้ผลจริงๆ!!"

คู่ขวัญรีเทิร์น "หลี่หมิง-หลี่เจียซิน" (Leon Lai - Michelle Reis)ร่วมถ่ายแบบ และแสดงนำในหนังเรื่องใหม่

Submitted by canjamm on 6 ธันวาคม, 2009 - 23:18

อดีตคู่ขวัญทั้งนอกจอในจอเมื่อกว่า 10 ปีก่อน มีโอกาสกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในหนังฟอร์มใหญ่ของฮ่องกงเรื่อง "Bodyguard and Assassins" ซึ่งก่อนที่หนังจะเข้าฉายในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี่ ทั้งสองยังได้ร่วมกันถ่ายแบบลงนิตยสารที่เมืองจีนด้วย

สองดาราชื่อดังชาวฮ่องกง หลี่หมิง (Leon Lai)และหลี่เจียซิน (Michelle Reis)ควงคู่กันมาถ่ายแบบให้กับนิตยสาร Madame Figaro ฉบับจีนแผ่นดินใหญ่ภายใต้แนวคิดที่เรียกว่า "Blue" หรือความเศร้าที่มีทั้งภาพเดียว และภาพคู่ทั้งที่ดาราทั้งสองต้องแสดงท่าทาง เย็นชา,เฉยเมย และไม่ยินดียินร้ายต่อกัน เหมือนไม่สามารถจะสื่อสาร หรือกระทั่งสบสายต่ออีกฝ่ายได้

ย้อนไปกว่า 10 ปีก่อน ฝ่ายหญิงเป็นอดีตมิสฮ่องกงและถูกยกย่องว่า เป็นสาวที่สวยที่สุดในฮ่องกง ขณะที่ฝ่ายชายเป็นนักร้องดังหนึ่งใน 4 จตุรเทพแห่งฮ่องกง เมื่อมาร่วมงานกันหลายฝ่ายดาราชื่อดังทั้งสองเคยถูกยกให้เป็นคู่กิ่งทองใบหยก รวมงานกันในหนังถึง 4 เรื่อง และหนังทีวีซีรี่ย์อีก 1 เรื่อง โดยเฉพาะหนังชุดเรื่อง เทพบุตรผู้พิชิต ที่หลายๆ คนยังคงจดจำได้ และประทับใจอยู่

ความหวานในจอ ทำให้หลายๆ คนเชียร์ให้ทั้งคู่กลายเป็นแฟนกันนอกจอด้วย ซึ่งก็เกิดข่าวการคบกันของทั้งสองจริงๆ แต่ถึงตอนนี้ก็ยังเรียกว่าข่าวลือ เช่นเดียวกับข่าวเรื่องรักหลายๆ ครั้งของหลี่หมิง ที่ไม่เคยมีการยืนยันจากเจ้าตัว ซึ่งถึงตอนนี้ทั้ง หลี่หมิง และหลี่เจียซิน ต่างก็มีครอบครัวเป็นของตัวเองไปแล้ว

การถ่ายภาพชุดนี้ถือเป็นส่วนหนึ่ง ของการประชาสัมพันธ์หนังเรื่องใหม่ ซึ่งเป็นโอกาสที่ทำให้คู่รักคู่ลือทั้งสองได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง โดยในหนัง หลี่หมิงจะรับบทเป็นอดีตลูกหลานตระกูลใหญ่ที่เกิดเรื่องราวกระทบจิตใจบางอย่าง จึงเลือกใช้ชีวิตแบบขอทานข้างถนน จนกระทั่งได้พบกับตัวละครของหลี่เจียซิน ที่เป็นแรงบัลดาลใจให้เขา เริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีอีกครั้ง

"เหลียงเฉาเหว่ย-หลิวเจียหลิง" (Tony Leung - Carina Lau) วัยละอ่อนในแสตมป์การกุศล

Submitted by Rujiya on 2 ธันวาคม, 2009 - 14:48

ดาราฮ่องกงชื่อดัง 4 คน ได้มอบรูปที่เป็นตัวแทนแห่งช่วงเวลาที่สำคัญในชีวิต ให้กับโครงการการกุศล เพื่อการหาเงินเพื่อกองทุนสำหรับเด็ก

หลิวเจียหลิง (Carina Lau), เหลียงเฉาเหว่ย (Tony Leung), หลี่เจียซิน (Michelle Reis) และกัวฟู่เฉิง (Aaron Kwok) ได้ร่วมกันกองทุนเพื่อเด็กนานาชาติ และบริษัท IPS ในการผลิตแสตมป์ ภายใต้ชื่อโครงการว่า "Starlight Crystal Heartwarming Charity Stamp" เพื่อนำเงินรายได้ทั้งหมดมอบแก่กองทุนของ UNICEF

ในแสตมป์แต่ละชุด ดาราทั้งสี่คนได้มอบภาพที่สำคัญในช่วงเวลาอันน่าประทับใจของชีวิต สำหรับกัวฟู่เฉิงได้เลือกภาพเมื่อเขาได้รับรางวัลม้าทองคำเป็นครั้งแรกเมื่อ 4 ปีก่อน และภาพบนเวทีคอนเสิร์ตที่เคยทำให้หนุ่มเท้าไฟคนนี้ได้รับฉายาว่า ราชาคอนเสิร์ต มาแล้ว ขณะที่ที่สาวงามอย่าง หลี่เจียซิน มอบรูปการถ่ายแบบให้กับนิตยสารของอิตาลีมาให้

แต่ที่เป็นที่สนใจมากที่สุดก็คือ แสตมป์ชุดของคู่รักสุดหวาน หลิวเจียหลิง และเหลียงเฉาเหว่ย ที่มอบภาพวัยเด็กของทั้งคู่ รวมถึงภาพจุมพิตจากการแต่งงานที่ประเทศภูฎานเมื่อปีที่แล้ว

โดยแสตมป์แต่ละชุดจะขายคู่กับคริสตัลของสวารอฟสกี้ 2 ชิ้น ด้วยราคา 388 เหรียญฮ่องกงหรือประมาณ 1900 บาท

Manager Online

"หลี่เจียซิน" (Michelle Reis) เตรียมใช้การผสมเทียมเพื่อมีลูกหวังมัดใจสามีมหาเศรษฐี

Submitted by canjamm on 13 ตุลาคม, 2009 - 12:56

นางเอกสาวสวย "หลี่เจียซิน" (Michelle Reis) เตรียมใช้วิธีทางการแพทย์อย่างการผสมเทียม แก้ไขปัญหาการมีบุตรยาก หวังรักษาชีวิตสมรสที่เริ่มอยู่ในภาวะไม่มั่นคง หลังไม่สามารถให้กำเนิดทายาทกับตระกูลของฝ่ายสามีมหาเศรษฐีได้เสียที

ดูเหมือนว่าความสวยอย่างเดียวจะไม่สามารถเป็นเครื่องมัดใจสามีได้อีกแล้ว จากรายงานของสื่อในฮ่องกง หลี่เจียซิน นางเอกคนสวยชาวฮ่องกงต้องออกมาให้สัญญากับแม่สามีของเธอว่า หลังเสร็จสิ้นจากงานต่างๆ ที่ยังค้างอยู่ในตอนนี้ เธอจะทุ่มเทเวลาให้กับการมีลูก โดยถึงขั้นกำหนดเวลาไว้ว่าไม่เกินปี 2010 ตระกูลฮุยของสามี จะได้อุ้มหลานคนแรกแน่นอน

เมื่อปีที่แล้ว จูเลี่ยน ฮุย (Julian Hui) เศรษฐีหนุ่มวัย 46 ที่เคยหมั้นหมายกับดาราสาวหลิวเจียหลิง (Carina Lau) รวมถึงพานซี่ โห (Pansy Ho) ลูกสาวของเจ้าพ่อบ่อนการพนัน สแตนลี่ โห (Stanley Ho) เป็นหนุ่มเนื้อหอมคนหนึ่งในฮ่องกง ได้ตกลงปลงใจที่จะร่วมชีวิตกับ หลี่เจียซิน อดีตมิสฮ่องกง และมิสไชนิสอินเตอร์เนชั่นเนล ในปี 1988 นางเอกที่ได้รับการยอมรับว่าสวยที่สุดคนหนึ่งของฮ่องกง ท่ามกลางการจับตามองของหลายๆ คน

ทั้งสองได้เข้าพิธีแต่งงานกันไป เมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว หลังจากคบหาดูใจกันมาประมาณ 2 ปี ซึ่งกลายเป็นที่พูดถึงไปทั่วทั้งฮ่องกง โดยเฉพาะการใช้ค่าใช้จ่ายในงานแต่งครั้งนั้นไปถึง 100 ล้านเหรียญฮ่องกง

ตลอดการอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยาในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา ดาราสาวยังคงรับงานโฆษณา และโปรโมตสินค้าต่างๆ เช่นเดิม โดยยังไม่มีวี่แววที่ จะมีทายาทให้กับสามีแต่อย่างใด จนข่าวลื่อที่ว่านางเอกสาววัย 39 ปี มีปัญหามีลูกยากเริ่มถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ

หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวว่า หลี่เจียซิน อาจจะใช้การอุ้มบุญเพื่อมีบุตร เพราะไม่อยากจะตั้งท้องเอง และกลัวว่าถ้าตั้งครรภ์จะทำให้เธอมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามต่อมาเธอได้ออกมาปฏิเสธถึงเรื่องดังกล่าวว่า ถ้าจะมีลูกเธอก็จะเป็นผู้อุ้มท้องเอง