ข่าวจีน

ฮีบี้ เถียน (Hebe Tien) แห่งวง S.H.E. พูดเป็นนัยว่าเซลิน่า (Selina Jen) จะแต่งงานในเดือนตุลาคม?

Submitted by canjamm on 30 กรกฎาคม, 2011 - 17:26

จะมีการแต่งงานในเร็วๆนี้ สำหรับเซลิน่า (Selina Jen) แห่งวง S.H.E. และคู่หมั้นของเธอ Richard Chang?

กำลังมีการแพร่สะพัดเกี่ยวกับข่าวลือ ที่ว่าจะมีการแต่งงานกันในวันที่ 31 ตุลาคมนี้

เมื่อสองสามวันก่อน Richard ยอมรับว่า พวกเขากำลังพูดคุยในรายละเอียดเกี่ยวกับงานแต่งงานของพวกเขา และทุกอย่างควรจะเสร็จสิ้นภายในช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้า

ในงานเมื่อวันที่ 28 ที่ผ่านมา ฮีบี้ (Hebe Tien) แห่งวง S.H.E. ขณะที่เธอแสดงความเห็นเกี่ยวกับอาการของเซลิน่าเมื่อเร็วๆนี้ เธอกล่าวว่า "แม้ว่าเธอจะผ่านความยากลำบากมาอย่างมากมายในช่วงการทำกายภาพบำบัดของเธอ เธอฟื้นตัวกลับมาได้อย่างดี"

เมื่อถูกถามว่า งานแต่งงานของเซลิน่าจะมีขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคมหรือเปล่า ฮีบี้หัวเราะและกล่าวว่า "พวกเขากำลังอยู่ในระหว่างการเตรียมการ ฉันไม่ควรจะเปิดเผยอะไรในตอนนี้ ดังนั้น พวกเราจะรอจนกว่าบริษัทของพวกเราจะทำการแถลงการณ์"

แล้วเอลล่า (Ella Chen) หล่ะ ที่มีข่าวลือว่าจะแต่งงานในเร็วๆนี้เช่นกัน?

ฮีบี้ถอนหายใจอย่างเครียดๆโดยไม่ได้ให้คำตอบอะไร

ในขณะที่สมาชิกสองคนในวงของเธอกำลังมีความสุข ฮีบี้ ซึ่งยังคงโสดอยู่ แสดงความรู้สึกว่า เธอรู้สึกเหงาที่ต้องอยู่คนเดียวในตอนกลางคืน

เธอกล่าวเสริมว่า เพื่อนๆของเธอไม่แน่ใจว่า พวกเธอควรจะแนะนำผู้ชายคนไหนให้เธอ เนื่องจากเธอดูจะซีเรียสอยู่ตลอดเวลา

ฮีบี้กล่าวตลกๆ ถามทุกๆคนในงานว่า ช่วยเธอหาคนที่เหมาะสมกับเธอให้หน่อย

สำหรับงานแต่งงานของเซลิน่า HIM International บริษัทต้นสังกัดของเธอกล่าวว่า การตัดสินใจดังกล่าวขึ้นอยู่กับเธอและคู่หมั้นของเธอเอง

Xin.MSN

หลินชิงเสีย (Brigitte Lin) คัมแบ็ค โปรโมทหนังสือเล่มแรกในชีวิต ออกตัวเหนื่อยจะเป็นซุป'ตาร์ ขอเป็นนักเขียนดีกว่า

Submitted by canjamm on 29 กรกฎาคม, 2011 - 15:00

หลิน ชิงเสีย (Brigitte Lin) อดีตนางเอกสาวดาวค้างฟ้าแห่งวงการบันเทิงเอเชีย กลับมาอีกครั้งในมาดนักเขียน เปิดตัวหนังสือผลงานรวมเล่มบทความจากปลายปากกาของตัวเองที่มีชื่อว่า "ชวงหลี่ชวงไว่ (窗里窗外)" หรือ "window of the window" ในงานเทศกาลหนังสือฮ่องกงครั้งที่ 22 โดยมีผู้ใหญ่ในวงการตบเท้ามาร่วมแสดงความยินดีมากมาย เจ้าตัวพ้อกลางงาน เป็นผู้หญิงสวยนั้นแสนเหนื่อย วาดฝันอายุ 60 จะเป็นนักเขียนเต็มตัว

หลังจากผันตัวไปทำหน้าที่แม่ศรีเรือนให้กับสามีนักธุรกิจตั้งแต่กลางปี 2537 ข่าวคราวของดาราสาวเจ้าบทบาทที่ประทับใจแฟนๆ มิรู้ลืมจากบทบาทของ "ตงฟังปู้ไป้" หรือ "บูรพาไม่แพ้" อย่าง หลิน ชิงเสีย(林青霞) ก็ค่อยๆ ห่างหายไปจากวงการบันเทิงจีน ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา เธอกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งในฐานะนักเขียน โดยเปิดตัวหนังสือของเธอเองที่มีชื่อว่า "ชวงหลี่ชวงไว่ (窗里窗外)" หรือ "window of the window" ในงานเทศกาลหนังสือฮ่องกง ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 20-26 ก.ค. 2554 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงนิทรรศการ ฮ่องกง โดยในงานมีผู้ใหญ่ในวงการ อาทิ ฉีเคอะและภรรยาซือ หนานเซิง, หลี่เอ๋า(นักเขียนชื่อดัง), หลิน เอี้ยนหนี(นักเขียนชื่อดัง), ต่งเฉียว(นักเขียนและบรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์ apple daily) มาร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง งานนี้ดึงดูดให้แฟนๆ ของหลินชิงเสียนับพันคนมาร่วมงานกันหนาตา จนฝ่ายจัดงานต้องเปิดฮอลล์ที่สามารถจุคนได้ 600 คนถึง 2 ห้องทว่ายังคงมีผู้ร่วมงานจำนวนหนึ่งที่ล้นออกมาด้านนอก

เปลี่ยนสถานภาพจากซุป'ตาร์แสนสวยไปเป็นนักเขียน

เมื่อ "หม่า เจียฮุย" พิธีกรในงานนี้กล่าวคำเชิญ "หลิน ชิงเสีย ซุปเปอร์สตาร์แสนสวย" ขึ้นมาบนเวที อดีตดาราสาวในชุดเดรสสีดำกลับยิ้มพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงกระจ่างใสว่า "โปรดอย่าเรียกฉันว่าสาวสวยอีกเลย เพราะการเป็นคนสวยเหนื่อยมาก แล้วตอนนี้ฉันก็ไม่ใช่ดาราใหญ่ แต่ว่าเป็นนักเขียนคนหนึ่ง"

Seediq Bale อภิมหาภาพยนตร์แห่งไต้หวัน

Submitted by canjamm on 29 กรกฎาคม, 2011 - 14:56

ในอีกประมาณเดือนกว่าที่หนังฟอร์มยักษ์แห่งไต้หวัน Seeding Bale กำลังจะเข้าฉาย ก็มีข่าวดีเป็นกำลังใจ สำหรับทีมงานของภาพยนตร์เรื่องนี้ทุกคน เมื่อหนังได้รับเลือกให้เข้าฉายในสายหลักของเทศกาลหนังนานาชาติเมืองเวนิสปีล่าสุดด้วย

Seediq Bale เป็นเป็นงานของ เว่ย เต๋อเซิ่ง ผู้กำกับที่เคยสร้างชื่อโด่งดังกับหนัง Cape No.7 ผลงานที่กวาดทั้งเงินและคำชมจากประชาชนไต้หวันไปมากมาย แต่ในหนังเรื่องล่าสุด เว่ย เต๋อเซิ่ง พกความทะเยอทะยานมาเต็มกระเป๋า กับงานช้างในการสร้างหนังอิงประวัติศาสตร์ของไต้หวัน ที่ต้องอาศัยทั้งทุนสร้าง, ความอดทน และการดิ้นรนอย่างหนัก ชนิดเท่าที่คนทำหนังผู้หนึ่งจะสามารถทุ่มเทได้

ในเรื่องราวหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีภายใต้ชื่อ “เหตุการณ์อู๋เซ่อ” ที่เกิดขึ้นเมื่อผู้นำชนเผ่าท้องถิ่นคนหนึ่ง ได้สร้างวีรกรรมกล้าหาญ ในการนำกองกำลังนักรบพื้นเมืองจำนวน 400 ชีวิต เข้าต่อต้านกับผู้รุกรานอย่างกองทัพญี่ปุ่น เมื่อปี 1930 อันเป็นช่วงเวลาแห่งการล่าอาณานิคมของชนชาติแห่งพระอาทิตย์ ที่มีสิทธิ์เหนือการปกครองไต้หวันมาตั้งแต่ปี 1895 เป็นต้นมา

ซึ่ง “ซีดิก” (Seediq) ก็คือชื่อของชนเผ่าพื้นเมืองบนเกาะไต้หวัน เป็นชาวไต้หวันแท้ๆ ซึ่งอาศัยก่อนหน้าที่ชาวจีนจะอพยพเข้ามา มีภาษาเป็นของตัวเอง โดยส่วนมากมีถิ่นอาศัยอยู่ในมณฑลหนานโถว และมณฑลฮัวเหลียน ซึ่งเรื่องราวของพวกเขากลายเป็นวีรกรรมที่ถูกเล่าขานมานาน แต่เพิ่งจะได้รับการถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์เพื่อให้ทั่วโลกได้รับรู้

ผลงานชิ้นนี้จึงเป็นงานที่สำคัญทั้งต่อตัวผู้กำกับ และประเทศไต้หวันโดยตรง เป็นงานที่ เว่ย เต๋อเซิ่ง ต้องใช้ความทุ่มเทอย่างหมดทั้งตัวและหัวใจในการสร้างหนังเรื่องนี้ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เขายังไม่มีเครดิตเป็นผู้กำกับหนังเรื่องใดมาก่อนเลย โดยเงินก้อนแรก 2 ล้านเหรียญไต้หวัน ที่ผู้กำกับคนดังรวบรวมมาได้ในปี 2003 ถูกใช้สำหรับถ่ายทำฉากสั้นๆ ความยาว 5 นาที เพื่อเป็นตัวอย่าง ในการนำเสนอขอทุน สำหรับการแสดงภาพรวม และเนื้อหาของหนังว่ามีลักษณะขอบเขตเป็นอย่างไรบ้าง

ใกล้หย่าขาดแต่ "จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) ยังใช้บัตรเครดิต "เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse)

Submitted by canjamm on 27 กรกฎาคม, 2011 - 18:34

Xinmsn - แม้ชีวิตสมรสกำลังใกล้ถึงจุดสิ้นสุดอย่างเป็นทางการในเร็ววันนี้ แต่มีรายงานว่าเรื่องการเงิน "เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) และ "จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) ยังคงปล่อยให้เป็นไปตามเดิม ที่ฝ่ายหญิงยังคงใช้บัตรเครดิตการ์ดที่มีชื่อของสามี ในการจับจ่ายใช้สอยเช่นเดิม

เซียะถิงฟง และ จางป๋อจือ ใกล้ปิดฉากชีวิตคู่ 5 ปี ในเร็วๆนี้แล้ว โดยที่ทั้งสองยังอยู่ระหว่างการพูดคุยเจรจา เพื่อหาข้อตกลงเรื่องการแบ่งทรัพย์สิน, ค่าเลี้ยงดู และสิทธิ์การดูแลลูก

ซึ่งในระหว่างนี้มีรายงานว่า จางป๋อจือ ยังคงใช้ชีวิตแบบเดิม กับการใช้เงินของ เซียะถิงฟง ในการจับจ่ายใช้สอยต่างๆต่อไป แม้ว่าช่วงต้นปีที่ผ่านมา เธอเพิ่งจะได้รับเช็คมูลค่าระดับล้านเหรียญฮ่องกง จากการทำงานในกองถ่ายหนังเรื่อง All's Well, Ends Well 2011 ของ เรย์มอนด์ หว่อง เพียง 10 วันเท่านั้น

โดยสื่อในประเทศได้อ้างแหล่งข่าวที่เป็นคนวงใน ซึ่งออกมาเปิดเผยว่า จางป๋อจือ ใช้บัตรเครดิตของ เซียะถิงฟง สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนตัว นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายเรื่องลูก และครอบครัวโดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการซื้อเสื้อผ้าใหม่, ค่าอาหาร และซื้อกระเช้าของขวัญ ซึ่งบางส่วนเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างที่เธอเดินทางไปถ่ายทำหนังเรื่องใหม่ที่ประเทศจีนด้วย

ก่อนหน้านี้ เคยมีข่าวว่า เซียะถิงฟง เองเป็นห่วงในตัวของภรรยาสาวคนสวยไม่น้อย เพราะเธอมักจะเชื่อคนง่าย และใช้เงินมือเติบแบบไม่สมเหตุสมผล ที่ครั้งหนึ่งเคยจ่ายเงินค่าซ่อมรถยนต์ให้กับอู่แห่งหนึ่งถึง 200,000 เหรียญฮ่องกง ขณะที่ราคาจริงตกอยู่ที่ประมาณ 20,000 เหรียญฯ เท่านั้น

ซึ่งข่าวยังระบุว่าขณะนี้ เซียะถิงฟง ยังไม่ได้ยกเลิกบัตรเครดิตสำรองของเขาที่ จางป๋อจือ ถือเอาไว้แต่อย่างใด เพราะคิดว่ามันเป็นความรับผิดชอบในฐานะสามี ตราบที่ชีวิตคู่ของทั้งสองยังไม่จบลงอย่างเป็นทางการ

สำหรับรายละเอียดของหย่าร้างระหว่างคู่รักซูเปอร์สตาร์แห่งเกาะฮ่องกง มีรายงานจาก Guang Ming Daily ว่า เซียะถิงฟง ได้ส่งเอกสารการหย่าไปให้ จางป๋อจือ เซ็นถึง 3 ครั้งแล้ว แต่เธอยังคงปฏิเสธที่จะลงลายมือ เพื่อแยกทางกับสามีอย่างถูกต้องตามกฏหมาย เพราะยังไม่พอใจในข้อตกลงหลายๆอย่าง

เก็บตกภาพเซ็กซี่ร้อนฉ่า!! – เทศกาลหนังสือแห่งชาติฮ่องกง 2011

Submitted by canjamm on 27 กรกฎาคม, 2011 - 18:30

แทบจะเป็นประเพณีไปแล้วสำหรับการปรากฏตัวของสาวเซ็กซี่ในงานหนังสือแห่งชาติของฮ่องกง เช่นเดียวกับปี 2011 ที่งานประจำปีสำหรับนักอ่านยังคงร้อนแรงไปด้วยสาวเซ็กซี่ ที่ต่างเดินทางมาโปรโมตอัลบั้มรวมภาพกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะได้รับเชิญหรือไม่ก็ตาม

เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา สำหรับงานหนังสือแห่งชาติของฮ่องกงประจำปี 2011 ที่ยังคงมีปัญหากับนางแบบเซ็กซี่ที่หวังใช้งานดังกล่าวประชาสัมพันธ์อัลบั้มรวมภาพถ่ายของแต่ละคน ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าผิดวัตถุประสงค์ของการจัดงานเช่นเคย

ประเด็นความอื้อฉาวของบรรดานางแบบสาว ที่หวังใช้งานหนังสือแห่งชาติ ที่มีจุดมุ่งหมายหลักในการกระตุ้นนิสัยรักการอ่าน ของประชาชนทั่วไป และเด็กเยาวชน นั้นเป็นปัญหามาตั้งแต่ปี 2009 ซึ่งในตอนนั้นถึงกับมีพาดหัวข่าวในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นว่า “งานหนังสือโดนยึด” กันเลยทีเดียว หลังจากนั้นคณะผู้จัดงานก็พยายามแก้ปัญหาดังกล่าวมาโดยตลอด ... "กิจกรรมลักษณะเหล่านี้ ไม่ได้สอดคล้องกับจุดประสงค์หลักของสัปดาห์หนังสือ ในการส่งเสริมการอ่าน และพัฒนาแวดวงวรรณกรรมของชุมชนชาวฮ่องกงเลย" โฆษกของสภาพัฒนาการค้าผู้รับผิดชอบการจัดงาน กล่าวเมื่อปีก่อน

ฝ่ายผู้จัดงานได้ออกมาตรการป้องการความวุ่นวายจากเหล่านางแบบ และบรรดาแฟนคลับกลัดมันด้วยการปฏิเสธ การขอเปิดบู้ตของเหล่าสำนักพิมพ์ จากเมื่อปีก่อนมีสำนักพิมพ์ถึง 13 แห่งที่แบบฟอร์มไม่ผ่านจนไม่สามารถเปิดบู้ตในงานได้ หนึ่งในนั้นเพราะเหตุผลที่ว่าจะมีการจัดกิจกรรมร้องเพลงของนางแบบ เพื่อประชาสัมพันธ์หนังสือด้วย

ขณะที่ในปีนี้มีเพียง 3 สำนักพิมพ์เท่านั้น ที่ยื่นแบบฟอร์มแล้วไม่ผ่าน จนไม่สามารถจัดบู๊ตโปรโมตผลงานของสาวในสังกัดกัดได้ อาจจะเพราะสำนักพิมพ์ส่วนใหญ่เริ่มรู้จักขอบเขตความเหมาะสม ที่จะไม่ทำอะไรให้เลยเถิดจนเกินไป ขณะที่บางสำนักพิมพ์ก็เริ่ม "เป็นงาน" ในการประชาสัมพันธ์ผลงานของตัวเองผ่านงานครั้งนี้ โดยไม่จำเป็นต้องง้อผู้จัดงานหนังสืออย่างเป็นทางการอีกต่อไป

มีสำนักพิมพ์บางเจ้า ที่เลือกใช้วิธีการไปจัดกิจกรรมกันในบริเวณด้านนอกใกล้เคียง ของอาคารที่จัดงานหนังสือกันเลย ขณะที่นางแบบบางส่วน ก็เข้างานหนังสือแห่งชาติเพื่อโปรโมตผลงานของตัวเอง ด้วยการอ้างว่าเธอก็เป็นชาวฮ่องกงคนหนึ่ง ที่มีสิทธิ์เดินเข้างานนี้เหมือนๆกับคนอื่น

“เจ็ต ลี” (Jet Li) ลดค่าตัวเล่นหนัง “นางพญางูขาว” แทนคุณเพื่อนเก่า

Submitted by canjamm on 26 กรกฎาคม, 2011 - 21:00

นักแสดงแอ็กชั่นชื่อดังชาวจีน “เจ็ต ลี” (Jet Li) กล่าวในการให้สัมภาษณ์ระหว่างงานเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องใหม่ The Sorcerer and the White Snake หรือ “นางพญางูขาว” ว่าเขายอมลดค่าตัวลงจากปกติ เพราะนี่คือผลงานของผู้อำนวยการสร้าง ที่มีส่วนทำให้เขาได้กลับมาโด่งดังในวงการอีกครั้งเมื่อ 20 ปีก่อน

The Sorcerer and the White Snake ผลงานเรื่องใหม่ของผู้กำกับ เฉินเสี่ยวตง ที่เคยโด่งดังมากับงานอย่าง “โปเยโปโลเย” คือการหยิบเอาตำนานอมตะอย่าง “นางพญางูขาว” กลับมาสร้างอีกครั้ง โดยงานนี้หนังได้ เจ็ต ลี หรือ หลี่เหลียนเจี๋ย มารับบทเป็น “หลวงจีนฝาไห่” ตัวละครเด่น ศัตรูของนางพญางูขาวในเรื่อง

ซึ่งในการแถลงข่าวเปิดตัวหนังเมื่อสัปดาห์ก่อน เจ็ต ลี เปิดเผยว่าเขาตัดสินใจรับงานนี้ และยังรับค่าตัวที่ต่ำกว่ามาตรฐานของตัวเอง ก็เพราะนี่เป็นงานของผู้อำนวยการสร้างหญิง เฉาเป่าจู ที่เคยอำนวยการสร้างหนังดัง Once Upon A Time In China หรือ “หวงเฟยหง” งานที่ทำให้ชื่อเสียงของ เจ็ต ลี กลับมาโด่งดังอีกครั้งเมื่อปี 1990 นั่นเอง

“เธอบอกผมว่านี่จะเป็นแค่บทรับเชิญ และใช้เวลาเข้าฉากแค่ประมาณ 10 กว่าวันน่ะครับ ซึ่งจริงๆ มันคือ 14 วัน แต่สุดท้ายการถ่ายทำส่วนของผมต้องขยายเป็น 25 วันในที่สุด” เจ็ต ลี กล่าวติดตลกถึงงานชิ้นนี้ด้วยเสียงหัวเราะ “แต่คุณจะปฏิเสธคนที่เคยช่วยเหลือคุณไว้เมื่อ 20 ปีก่อนได้ยังไง ผมได้แต่ตอบตกลงไป แต่คราวหน้าอย่ามาขอร้องกันแบบนี้อีกนะครับ”

เจ็ต ลี ที่เคยเป็นนักแสดงค่าตัวสูงที่สุดในวงการภาพยนตร์จีน กับรายรับในหนังเรื่องเดียวถึงระดับ 100 ล้านหยวน ยอมรับว่าทั้งเงินและงานหนัง ไม่ใช่เรื่องใหญ่ในชีวิตของเขาอีกแล้ว เมื่อปีก่อนเข้าตัดสินใจรับบทนำในหนัง Ocean Heaven งานแนวดราม่าเล่าเรื่องของพ่อ กับลูกชายผู้มีความผิดปกติทางสมอง เป็นหนังที่ไม่มีฉากแอ็กชั่นเลย และมีรายงานว่า เจ็ต ลี รับค่าตัวจากผลงานชิ้นนี้น้อยมากอย่างไม่น่าเชื่อ

ซูเปอร์สตาร์หนังโป๊ญี่ปุ่น ท้าทายกฎหมายฮ่องกง

Submitted by canjamm on 26 กรกฎาคม, 2011 - 20:49

กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมาทันที เมื่อนักแสดงหนังโป๊ฝ่ายชายอันดับ 1 แห่งวงการเอวีแดนอาทิตย์อุทัย ที่เข้าไปถ่ายทำผลงานเรื่องใหม่ในฮ่องกง นำชุดตำรวจฮ่องกงมาสวม โดยไม่มีได้การขออนุญาตอย่างถูกต้อง

นักแสดงหนังโป๊ผู้โด่งดังในวงการเอวี ทากะ คาโต้ ได้เดินทางไปถ่ายทำผลงานเรื่องใหม่ถึงที่ฮ่องกง จนเกิดเป็นเรื่องขึ้นมา เพราะในส่วนหนึ่งของผลงานชิ้นนี้ คาโต้ต้องแต่งกายด้วยชุดตำรวจฮ่องกงเพื่อถ่ายทำฉากข่มขืน ซึ่งต่อมาถูกเปิดเผยว่า ทีมงานผู้สร้างไม่ได้ขออนุญาตล่วงหน้า ถึงเรื่องการใช้เครื่องแบบในการถ่ายทำหนัง ต่อเจ้าหน้าที่อย่างถูกต้อง จนเจ้าหน้าที่ตำรวจของฮ่องกงได้เข้ามาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และควบคุมตัวนักแสดงรายนี้เอาไว้ในที่สุด

ยังมีรายงานอีกกระแสที่เปิดเผยว่า อันที่จริงทีมงานของหนังเรื่องนี้ ได้ขออนุญาตเรื่องการขอใช้เครื่องแบบตำรวจในการถ่ายหนังแล้ว แต่พวกเขาปกปิดเรื่องที่ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนังโป๊เอาไว้ จนสื่อท้องถิ่นเป็นผู้เปิดเผยความจริงในเวลาต่อมา

แม้แต่คนในอุตสาหกรรมบันเทิงของฮ่องกงเองก็ดูจะไม่ค่อยสบายใจกับเรื่องนี้นัก เทียนข่ายหมั่น รุ่นใหญ่ในวงการหนังฮ่องกง ได้แสดงความคิดเห็นต่อสิ่งที่เกิดขึ้นว่า “ผมคิดว่าไม่ควรมีการปิดบังอะไรกับเจ้าหน้าที่ พวกเขาคิดว่าจะเอาตัวรอดไปได้ง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ”

ซึ่งปัญหาอีกประเด็นที่เกิดขึ้นก็คือ การที่หนังถ่ายทำบางส่วนของเรื่อง ในบริเวณที่สาธารณะใกล้เคียงกับเซ็นทรัลพลาซา ซึ่ง เทียนข่ายหมั่น เองก็มองว่าขนาดหนังฮ่องกงเองยังไม่สามารถทำแบบนี้ได้เลย “คนฮ่องกงต้องมองออกอยู่แล้ว ซึ่งถ้ามันเกินขอบเขตมากเกินไป ก็อาจจะกลายเป็นเรื่องวิพากษ์วิจารณ์กันใหญ่โตได้เหมือนกัน ตอนนั้นหนังฮ่องกงเรื่อง Naked Ambition เคยถ่ายทำฉากนู้ดที่ โกลเด้น โบฮิเนีย สแควร์ ทางการก็ยังไม่ให้เผยแพร่ฉากที่ว่าเลย”

ในเวลาเดียวกันข่าวดังกล่าวยังข้ามน้ำข้ามทะเล ไปถึงสื่อญี่ปุ่นผ่านเว็บไซต์ดังอย่าง Yahoo! Japan โดยชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ล้วนไม่พอใจการกระทำของนาย ทากะ คาโต้ เป็นอย่างมาก และคิดว่านักแสดงหนังโป๊คนนี้กระทำการหมิ่นเกียรติของตำรวจฮ่องกง ซึ่งถือเป็นเรื่องขายหน้าสำหรับคนญี่ปุ่นไปด้วย บางคนถึงขั้นด่าทอและไม่ต้องการให้ คาโต้ กลับมาเหยียบญี่ปุ่นอีกครั้งกันเลยทีเดียว

เกมออนไลน์จีนเอาใจ “โอตากุ” ผุดบริการ “เมดสาว” ส่งสินค้าถึงบ้าน

Submitted by canjamm on 26 กรกฎาคม, 2011 - 20:46

เรียกว่าเอาใจบรรดา “โอตากุ” (Otaku / おたく / オタク) แดนมังกรที่นิยมชมชอบสาวๆ ในเครื่องแบบ แต่อาจจะไม่ค่อยชอบออกนอกบ้านโดยแท้ สำหรับบริการพิเศษของบริษัทเกมออนไลน์แห่งหนึ่ง ที่ผุดไอเดียส่งสินค้าถึงบ้านของลูกค้าโดยตรง โดยมีสาวๆ ในชุด “เมด” หรือ “แอร์โอสเตส” เป็นผู้ส่งของให้ถึงมือของลูกค้ากันเลยทีเดียว

เป็นบริการพิเศษที่เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย เมื่อบริษัทเกมออนไลน์ Shanda ที่ร่วมกับร้านขายของทางอินเตอร์เน็ต groupon.cn เปิดบริการส่งสินค้าตรงถึงบ้านแบบพิเศษสุด ด้วยค่าบริการแสนถูก ที่ทางแหล่งข่าวในเมืองจีนบอกว่า มีค่าใช้จ่ายเพียงหยวนเดียว ต่อสินค้าหนึ่งชิ้นเท่านั้น

ซึ่งความพิเศษของบริการดังกล่าวจะอยู่ที่พนักงานส่งของสาวสวย ที่จะมาพร้อมกับชุด “เมด” หรือชุดสาวใช้ รวมถึงชุด “แอร์โฮสเตส” ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่บรรดาหนุ่มๆ กลุ่มหนึ่ง โดยพวกสาวๆ จะนำของมาส่งให้กับผู้เรียกใช้บริการ ชนิดมือถึงมือกันเลยทีเดียว

โดยลูกค้าส่วนใหญ่ของบริการดังกล่าว จะอยู่ในกลุ่มเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่ถูกเรียกกันว่า “โอตากุ” อันเป็นศัพท์แสลงจากญี่ปุ่น ที่หมายถึงผู้ลุ่มหลงในสิ่งใดสิ่งหนึ่งชนิดมากเป็นพิเศษ ซึ่งในกรณีนี้ก็คือสื่อบันเทิงประเภทการ์ตูนและเกมนั่นเอง นอกจากนั้นบางคนอาจจะยังเป็นพวก “ฮิกิโกะโมะริ” หรือบุคคลที่ใช้ชีวิตแยกตัวโดดเดี่ยวจากสังคม นี่จึงเป็นบริการที่เหมาะสมสำหรับคนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ

สำหรับบริการดังกล่าวถูกตั้งชื่อไว้ว่า “บริการส่งของสำหรับโอตากุ” ซึ่งดูเหมือนว่าสาวๆ คนส่งของ จะกลายเป็นจุดขายที่สำคัญยิ่งกว่าตัวสินค้าเสียอีก

Manager Online

“หลี่ปิงปิง” (Li Bing Bing) เดินสายโปรโมตหนัง - เยือนทอล์กโชว์ฮิตแดนมะกัน

Submitted by canjamm on 26 กรกฎาคม, 2011 - 20:42

ผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุด Snow Flower and the Secret Fan ได้พาให้นักแสดงสาวชาวจีน “หลี่ปิงปิง” (Li Bing Bing) ไปไกลถึงการร่วมรายการโทรทัศน์ในสหรัฐฯ รวมถึงรายการสุดฮิตอย่าง The View ที่เธอได้แสดงทักษะการพูดภาษาอังกฤษที่ฝึกฝนด้วยตัวเองให้ทุกคนได้ฟังกันด้วย

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลี่ปิงปิง อยู่ระหว่างการเดินทางไปโปรโมตภาพยนตร์เรื่อง Snow Flower and the Secret Fan ที่สหรัฐฯ ซึ่งล่าสุดเธอได้มีโอกาสเป็นแขกรับเชิญของ The View รายการทอล์กโชว์สุดดังของ ABC ที่มี จอย เบฮาร์, อลิซาเบ็ธ ฮัสเซลเบ็ค, เชอร์รี เชพพาร์ด, วูปี โกลด์เบิร์ก และ บาร์บารา วอลเตอร์ส ร่วมกันเป็นพิธีกร

ซึ่งนี่ถือว่าเป็นการปรากฏตัวในรายการทอล์กโชว์ของสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกของ หลี่ปิงปิง ที่เธอยอมรับในรายการวันนั้นว่า กำลังอยู่ระหว่างการพยายามฝึกฝนภาษาอังกฤษให้ดีขึ้นเรื่อยๆด้วยตัวเอง “ฉันกำลังพยายามเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองอยู่ค่ะ ทุกแห่งที่ไปถ้าเจอคำแปลกๆ ก็จะพยายามถามคนอื่น หรือไม่ก็เปิดพจนานุกรมในโทรศัพท์มือถือดู แล้วก็ยังเรียนรู้จากรายการทีวี แล้วก็พวกแผ่นดีวีดีด้วยค่ะ”

และแม้จะเป็นหน้าใหม่สำหรับชาวอเมริกันส่วนใหญ่ แต่นักแสดงวัย 35 ปีถือว่าเป็นซูเปอร์สตาร์คนหนึ่งที่บ้านเกิดของตนเอง หลี่ปิงปิง ยังได้พูดถึงการเป็นคนดังในประเทศจีนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเธอเหมือนกัน “ฉันคิดว่ามันก็คล้ายๆกับในอเมริกานี่ล่ะค่ะ มันไม่สะดวกซักเท่าไหร่สำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ฉันก็ชินแล้วนะคะ พอดีตัวเองเป็นคนน่าเบื่อ ที่ชอบอยู่บ้านมากกว่าอยู่แล้ว เรียนภาษาอังกฤษของตัวเองไปเรื่อยๆ”

Snow Flower and the Secret Fan ซึ่งเข้าฉายไปแล้วเมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา เป็นผลงานในระดับนานาชาติเรื่องที่สองของ หลี่ปิงปิง หลังเธอจากเคยร่วมรับบทสมทบใน The Forbidden Kingdom เมื่อหลายปีก่อนมาแล้ว โดยในครั้งนี้เธอได้ทำงานกับผู้กำกับเชื้อสายจีน เวย์น หวัง ในหนังที่มีดาราสาวชาวเกาหลีใต้ จอนจีฮยอน ร่วมแสดงอยู่ด้วย

ซึ่งนอกจากรายการ The View แล้ว หลี่ปิงปิง ยังได้ไปปรากฏตัวในรายการ Fox & Friends รวมถึงรายการภาคเช้า CBS Early Show และรายการ Charlie Rose Show ของ PBS ด้วย

Manager Online

ตัวอย่างแรก “ยิปมัน” (Ipman) ฉบับ “เหลียงเฉาเหว่ย” (Tony Leung), “หว่องกาไว” (Wong Kar Wai)

Submitted by canjamm on 20 กรกฎาคม, 2011 - 17:59

เผยโฉมออกมาแล้วสำหรับตัวอย่างแรกของ The Grandmasters หรือ “ยิปมัน” (Ip Man) ฉบับของผู้กำกับ “หว่องกาไว” (Wong Kar Wai) ที่มี “เหลียงเฉาเหว่ย” (Tony Leung) รับบทเป็นครูมวยยอดฝีมือหมัดหย่งชุน นับเป็นโครงการที่ใช้เวลาสร้างและถ่ายทำอย่างยาวนาน ซึ่งในที่สุดก็จะมีโปรแกรมเข้าฉายในปลายปีนี้แล้ว

ในหนังกังฟูทุนสูงที่ทุกคนรอคอยกันมากที่สุดเรื่องหนึ่งที่ เหลียงเฉาเหว่ย ยอดนักแสดงวัย 49 ปี ได้สวมบทบาทเป็น “ยิปมัน” ปรมาจารย์กังฟูเจ้าของวิชาหย่งชุน ผู้เป็นที่รู้จักกันอีกฐานะ กับการเป็นอาจารย์ของยอดนักบู๊ หลี่เสี่ยวหลง หรือ “บรูซ ลี” นั่นเองโดยในตัวอย่างความยาวประมาณ 1 นาที 20 วินาที เป็นฉากที่ยิปมันต้องต่อสู้อย่างถึงเลือดถึงเนื้อเอาชีวิตกับนักสู้กลุ่มใหญ่ ท่ามกลางสายฝน นับเป็นฉากที่ผู้สร้างต้องการตอบถึงประเด็นที่ว่าดารายอดฝีมืออย่าง เหลียงเฉาเหว่ย ไม่มีปัญหาอะไรกับการแสดงฉากแอ็กชั่น อย่างที่หลายคนเคยกังวลแน่นอน

เหลียงเฉาเหว่ย เป็นดาราคนเดียวที่ปรากฏตัวในตัวอย่างเรียกน้ำย่อยครั้งนี้ แต่หนังยังมีทีมนักแสดงชื่อดังอีกมากมาย เช่น จางจื่ออี๋ (Zhang Ziyi), ซองเฮเคียว (Song Hye Kyo), จ้าวเบิ่นฉาน และจางเจิ้น ที่จะมาร่วมประชันบทบาทกัน

โดย The Grandmasters มีกำหนดเข้าฉายในเดือน ธ.ค. นี้ นับเป็นเวลา 8 ปีเต็มแล้ว หลังหว่องกาไววางแผนสร้างหนังเรื่องนี้อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในปี 2003

Trailer de THE GRANDMASTERS - ip man wing chun

Manager Online

หนุ่มรักเรียน “เคลย์ตัน ลี่” (Clayton Li) คว้าตำแหน่ง “มิสเตอร์ฮ่องกง” 2011

Submitted by canjamm on 20 กรกฎาคม, 2011 - 17:53

กลายเป็นงานประจำปีที่สาวๆ ในฮ่องกงให้ความสนใจอย่างพร้อมเพรียงกันสำหรับการประกวด “มิสเตอร์ฮ่องกง” ประจำปี 2011 ซึ่งจัดกันขึ้นในค่ำคืนของวันที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยหนุ่มหล่ออิมพอร์ตจากแคนาดาเป็นผู้คว้าตำแหน่งสูงสุดไปครอง ซึ่งแม้จะยอมรับว่าอยากจะเข้าสู่วงการบันเทิงอยู่เหมือนกัน มิสเตอร์ฮ่องกงคนล่าสุดยืนยันว่าเขาคงเลือกที่จะกลับไปเรียนต่อให้จบเสียก่อน จึงจะกลับมาสานต่องานในวงการอีกครั้งในอนาคต

ผู้เข้าประกวดหมายเลข #10 เคลย์ตัน ลี่ (ลี่จินเจียง / Clayton Li / 李晉強) กลายเป็นมิสเตอร์ฮ่องกงคนล่าสุด หลังเอาชนะผู้เข้าแข่งขันอีก 11 คน ได้ในการประกวดที่จัดขึ้นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หนุ่มวัย 24 ปีนักศึกษามหาวิทยาลัยเจ้าของความสูง 178 ซม. และน้ำหนักตัว 67 กก. ยังคว้ารางวัลพิเศษ Best Stage Presence Award กลับบ้านไปอีกสาขาด้วย แม้จะถูกวิจารณ์เรื่องสำเนียงพูดกวางตุ้งภาษาถิ่นของฮ่องกง ที่ไม่ค่อยชัดซักเท่าไหร่ก็ตาม

หนุ่มเชื้อสายฮ่องกงสัญชาติแคนาดายังกล่าวว่า เขาอยากจะเข้าสู่วงการบันเทิงอยู่เหมือนกัน แต่สำหรับตอนนี้คงต้องเดินทางกลับไปแคนาดา เพื่อสานต่อหน้าที่ทางการเรียนให้เสร็จสิ้นเสียก่อน

“มีความสุขมากๆครับ ไม่เคยคิดเลยว่าผมจะได้รับรางวัล ไม่รู้เหมือนกับครับว่าทำไมผมถึงได้ตำแหน่ง อาจจะเพราะว่าการเป็นตัวของตัวเองก็ได้” หนุ่มเคลย์ตัน มิสเตอร์ฮ่องกงคนล่าสุด กล่าวอย่างตื่นเต้นถึงตำแหน่งที่ได้รับ “ผมจะกลับบ้านไปหาแม่ก่อนเลยครับ และยังเหลือเวลาเรียนอีกปีหนึ่งด้วย ถึงจะจบ ก่อนที่จะได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง”

สำหรับรางวัลพิเศษอื่นๆ ผู้เข้าประกวดหมายเลข #3 เดอเรค หวง (หวงจินต่ง) วัย 29 ปี คว้าตำแหน่งผู้มีศักยภาพยอดเยี่ยมในการแสดง จากการแสดงความสามารถพิเศษด้วยการร้องเพลงที่เขาเป็นผู้แต่งเอง ส่วนนายแบบหนุ่ม เอ็ดมอน เสี่ยว (เสี่ยวเจียเห่า) วัย 25 ปี ได้รางวัล iMr Award ที่ตัดสินจากการโหวตของประชาชนชาวฮ่องกงไปได้

นอกจากหนุ่มๆที่เป็นพระเอกของงานแล้ว ยังมีอดีตรองมิสฮ่องกง “หลี่ฮุ่ยอี้” ที่กลายเป็นดาวเด่นฝ่ายหญิง กับการขโมยซีนด้วยชุดราตรีสุดเซ็กซี่อีกครั้ง

3 เงื่อนไขหย่าสุดเขี้ยวของ “จางป๋อจือ” (Cecilia Cheung)

Submitted by canjamm on 15 กรกฎาคม, 2011 - 13:30

มีรายงานความคืบหน้าถึงการเจรจา เกี่ยวกับข้อตกลงเรื่องการหย่าขาดจากกันระหว่าง “จางป๋อจือ” (Cecilia Cheung) และ “เซียะถิงฟง” (Nicholas Tse) กับข้อเสนอของฝ่ายหญิงซึ่งถูกเปิดเผยออกมาในสื่อฮ่องกง และกลายเป็นที่พูดถึงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง

สื่อในฮ่องกงได้เปิดเผยถึงรายละเอียดต่างๆของการเจรจาตกลงเกี่ยวกับการหย่าขาดยุติความสัมพันธ์ ของสองนักแสดงชื่อดังแห่งฮ่องกง ที่ทั้งคู่ได้มาพบกันอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว โดยใช้บ้านหลังหนึ่งที่ จางป๋อจือ เช่าเอาไว้เป็นที่นัดหมาย

มีคำกล่าวอ้างว่าในการพบกันครั้งนั้น ทั้งสองพยายามจะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า โดยแต่ละฝ่ายเลือกที่จะใช้ห้องคนละห้องกัน และพูดคุยเจรจากันทางโทรศัพท์ แต่ดูเหมือนว่า เซียะถิงฟง ที่ได้กลับมาพบหน้าลูกอีกครั้ง ดูจะให้ความสำคัญไปกับการเล่นกับลูกๆเสียมากกว่า

ซึ่งนั่นกลายเป็นเหตุให้ จางป๋อจือ คิดว่าสามีของเธอกำลังเล่นบทเย็นชา ไม่สนใจใยดีกับการเจรจาเรื่องการหย่า จนนางเอกคนดังถึงขั้นไม่สามารถควบคุมอารมณ์ไว้ได้อีกต่อไป จนเธอต้องลุกขึ้น เพื่อเดินเข้าไปที่ห้องของ เซียะถิงฟง พร้อมกับขว้างโทรศัพท์ใส่หน้า และพูดออกไปด้วยความโกรธว่า “ถ้าจะเอาแต่เงียบแบบนี้ ก็ทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่โตไปเลยก็แล้วกัน” สื่อในฮ่องกงอ้าง

โดยมีการรายงานถึงข้อเรียกร้อง 3 ข้อจาก จางป๋อจือ สำหรับการเซ็นใบหย่าซึ่งได้แก่

1. เธอต้องการค่าเลี้ยงดูเป็นเงิน 6 ล้านเหรียญฮ่องกง (ประมาณ 23 ล้านบาท) ต่อเดือน
2. เซียะถิงฟง มีสิทธิ์มาพบลูกทั้งสองคนได้ 1 ครั้งต่อเดือน
3. เธอต้องการบริษัท Post Production Office (PO) ที่ เซียะถิงฟง ก่อตั้งขึ้นและมีมูลค่าราว 100 ล้านเหรียญฮ่องกง (386 ล้านบาท)

อย่างไรก็ตามในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เซียะถิงฟง ได้ปฏิเสธเรื่องข้อเรียกร้องของ จางป๋อจือ และกล่าวว่า ส่วนใหญ่ในการเจรจา เขาและว่าที่อดีตภรรยาก็เห็นคล้อยตามกันในหลายๆประเด็น

แต่ในทางตรงกันข้าม กลับมีรายงานความไม่พอใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จากหุ้นส่วนในบริษัท Post Production Office ของ เซียะถิงฟง ที่กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ถ้าเราต้องยกบริษัท PO ให้เธอไป ก็ปิดมันไปเสียเลยจะดีกว่า”

Manager Online

“เหลียงเฉาเหว่ย” (Tony Leung) เป็น “ลีกวนยู” (Lee Kuan Yew) ในหนังฟอร์มยักษ์ของสิงคโปร์

Submitted by canjamm on 15 กรกฎาคม, 2011 - 13:27

นักแสดงชื่อดังชาวฮ่องกง “เหลียงเฉาเหว่ย” (Tony Leung) กำลังจะได้สวมบทบาทเป็น “ลีกวนยู” (Lee Kuan Yew) นายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศสิงคโปร์ ในหนังฟอร์มใหญ่ที่มีชื่อว่า 1965 ผลงานการสร้างของ “ปีเตอร์ ชาน” (Peter Chan)

Sina.com รายงานว่า เหลียงเฉาเหว่ย ในวัย 49 ปี กำลังจะได้รับบทเป็นบุคคลผู้มีตัวตนอยู่จริง และยังคงมีชีวิตอยู่อย่าง ลีกวนยู ผู้นำคนแรกของประเทศสิงคโปร์ ในช่วงที่ท่านมีวัยประมาณ 40 ปีเศษในหนังฟอร์ใหญ่ที่ขณะนี้มีการวางตัวนักแสดงชื่อดังทั้ง จางม่านอวี้ (Maggie Cheung) และดาราฮอลลีวูด จูลีแอน มัวร์ ภายใต้การกำกับของ ปีเตอร์ ชาน และผู้กำกับชาวสิงคโปร์ ลีเถียนเจน

1965 จะบอกเล่าเรื่องราวการประกาศเอกราชของสิงคโปร์ จากสหพันธรัฐมาเลเซีย ในวันที่ 9 ส.ค. 1965 ทั้งเรื่องความขัดแย้งทางเชื้อชาติ และปัญหาทางการเมือง

หนังมีกำหนดเปิดกล้องในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ที่จะถ่ายทำกันในสิงคโปร์ และมาเลเซีย ด้วยทุนสร้างประมาณ 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยวางโปรแกรมเอาไว้ที่วันชาติของปีหน้า ซึ่งก็คือ 9 ส.ค. 2012 นั่นเอง

โดยในการแถลงข่าวถึงภาพยนตร์เรื่องนี้เมื่อเดือน มิ.ย. แดเนียล หยุน ผู้อำนวยการสร้างยืนยันว่า 1965 จะไม่ใช่หนังการเมือง แต่เขารู้สึกว่ามันกล่าวถึงเรื่องสำคัญกว่า อย่างความรู้สึกของผู้คนในช่วงเวลานั้น โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ต้องย้ายถิ่นฐานมายังเกาะเล็กๆ และเริ่มต้นเรียกที่นี่ว่าบ้าน เช่นเดียวกับลีเถียนเจน ผู้กำกับร่วมที่มองว่า 1965 เป็นหนังที่พูดถึงประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของชาวสิงคโปร์ทุกคน “มันเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของชีวิต ภายใต้การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ผู้คนกับการเลือกครั้งสำคัญ ที่มันจะส่งผลไปถึงทั้งชีวิตของพวกเขา”

ลือ! “เบนนี่ เฉิน” (Benny Chan) ซุ่มจดทะเทียนสาวเซ็กซี่ อดีตสแตนอิน “จางป๋อจือ” (Cecilia Cheung)

Submitted by canjamm on 13 กรกฎาคม, 2011 - 14:49

มีข่าวว่านักแสดงหนุ่มชาวฮ่องกง “เบนนี่ เฉิน” (Benny Chan / 陈浩民) ได้จดทะเบียนแบบเงียบๆ กับแฟนสาวไปเรียบร้อยแล้ว โดยคู่ครองของเขามีดีกรีเป็นถึงนางแบบสุดฮ็อตที่เคยโด่งดังขึ้นมาในฐานะ “สแตนอิน-หน้าอก” ของ “จางป๋อจือ” (Cecilia Cheung / 张柏芝) ด้วย

สื่อจีนได้รายงานถึงการตัดสินใจสละโสดของนักแสดงหนุ่มชาวฮ่องกง เบนนี่ เฉิน หรือ เฉินเฮ่าหมิน ซึ่งตามข่าวเขาได้จดทะเทียบสมรสกับแฟนสาว เจียงลี่ซา (Jiang Lisha / 蒋丽莎) ที่บ้านเกิดของฝ่ายหญิงใน ฉางซา มณฑลหูหนาน ไปเรียบร้อยแล้ว

โดยในขณะนี้ทั้งสองยังคงปฏิเสธข่าวดังกล่าว แต่สื่อในจีนได้อ้างคำยืนยันจากเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่เปิดเผยว่า เบนนี่ เฉิน กับ เจียงลี่ซา ได้หมั้นหมายกันมาตั้งแต่เดือน ก.พ. หรือช่วงตรุษจีนแล้ว โดยทั้งสองมีแผนที่จะจัดงานมงคลสมรสขึ้นมาทั้งที่ฮ่องกง และ ฉางซา ในปีหน้าด้วย

นางแบบสาว เจียงลี่ซา เข้าวงการบันเทิงมาประมาณ 6 ปี หลังคว้ารองอันดับ 1 ในการประกวด Miss Bikini of the Universe เมื่อปี 2005 ที่จัดขึ้นในเมืองจีนมาได้ นอกจากนั้นยังเคยปรากฏตัวในมิวสิควิดีโอของศิลปินหนุ่มชื่อดัง เจย์ โจว (Jay Chou / 周杰倫) มาก่อน

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เธอคนนี้โด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศจีน ก็คืองานที่เธอเคยทำหน้าที่เป็น “สแตนอิน-หน้าอก” ของนางเอกสาวคนดัง จางป๋อจือ สำหรับการถ่ายทำโฆษณาชุดชั้นในเมื่อหลายปีก่อน ที่ในโฆษณาดังกล่าวซึ่งมี จางป๋อจือ เป็นพรีเซนเตอร์หลัก ได้เลือกใช้บริการของสาว เจียงลี่ซา สำหรับการถ่ายทำฉากที่เน้นหน้าอกในบางฉาก

สำหรับฝ่ายชาย เบนนี่ เฉิน วัย 41 ปี เป็นนักแสดงผู้มีผลงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางโทรทัศน์มาแล้วมากมาย และถือว่าโด่งดังเป็นพิเศษ กับการสวมบทบาทเป็นตัวละคร “ต้วนอี้” (Duan Yu / 段誉) ใน “8 เทพอสูรมังกรฟ้า” (Demi-Gods and Semi-Devils / 天龙八部) ฉบับปี 1997 ของบริษัททีวีบี ส่วนในด้านชีวิตส่วนตัวเขาเคยคบหาอยู่กับเพื่อนนักแสดงจากค่ายทีวีบี เสอซือมั่น (Charmaine Sheh / 佘诗曼) อยู่ประมาณ 4 ปี จึงแยกทางกันไปในช่วงปลายปี 2006

MayDaily / Manager Online

"อาเจียว" (Gillian Chung) ยันไม่ยกโทษให้ "เฉินกวานซี" (Edison Chen) เชื่อ "จางป๋อจือ (Cecilia Cheung) - เซียะถิงฟง (Nicholas Tse)" ได้คืนดีกันแน่นอน

Submitted by canjamm on 12 กรกฎาคม, 2011 - 15:37

"อาเจียว" (Gillian Chung) สมาชิกวง Twin หนึ่งในสาวที่พัวพันกับคดีภาพหลุดของ "เฉินกวานซี" (Edison Chen) ยืนยันว่าตัวเธอไม่มีทางยกโทษให้เขาเหมือนที่ "จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) ทำได้แน่นอน พร้อมระบุ"จางป๋อจือ"น่าจะกลับไปคืนดีกับ "เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) ได้อีกครั้งเหมือนในอดีต

ตามรายงานระบุว่าอาเจียว นักร้อง-นักแสดงสาวชื่อดังได้เข้าร่วมงานฉลองครบรอบ Metro Radio Hong Kong ที่จัดขึ้นในเมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งงานนี้เธอถูกบรรดาผู้สื่อข่าวของจีนแผ่นดินใหญ่รุมสัมภาษณ์ โดยกระหน่ำยิงคำถามใส่เธอ ว่าเธอจะยกโทษให้กับเฉินกวานซีเช่นเดียวกับที่จางป๋อจือทำได้หรือไม่ ซึ่งเธอมีสีหน้าเป็นกังวลและหลีกเลี่ยงที่จะไม่ตอบคำถามดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ทางสื่อต่างๆก็พยายามกันตัวเธอไว้ไม่ให้เดินหนีไป เพื่อเป็นการยุติปัญหาเจ้าตัวจึงตอบกับสื่อเพียงสั้นๆว่า "ไม่มีทางเป็นไปได้"

นอกจากนั้นในรายงานระบุว่า เธอยังแสดงความเห็นเรื่องที่ว่าเซียะถิงฟงจะหย่าขาดกับจางป๋อจือจริงหรือไม่ โดยเธอเชื่อว่าพวกเขาจะกลับมาคืนดีกันในวันใดวันหนึ่งแน่นอน เหมือนกับที่พวกเขาเคยแยกทางกันไป ก่อนจะกลับมาคืนดีกันและแต่งงานกันในที่สุด

ซึ่งนักข่าวยังถามเธอเกี่ยวกับข่าวลือที่ว่า เซียซินหยู นางแบบสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ที่มีข่าวกับเซียะถิงฟง ได้แสดงออกชัดเจนว่าเธอต้องการให้เซียะถิงฟงตกเป็นของเธอ อาเจียวตอบแบบเชื่อมั่นในตัวเซียะถิงฟงว่า "เชื่อว่าเธอคงปรารถนาให้เป็นอย่างนั้น แต่เซียะถิงฟงเป็นคนดี"

Manager Online

“เจิ้งจื่อเหว่ย” (Eric Tsang) แนะ “จางป๋อจือ” (Cecilia Cheugn), “เซียะถิงฟง” (Nicholas Tse) หย่าอย่างถูกวิธี

Submitted by canjamm on 11 กรกฎาคม, 2011 - 17:40

นักแสดงตลกชื่อดัง “เจิ้งจื่อเหว่ย” (Eric Tsang) ใช้ประสบการณ์ส่วนตัว แนะนำสองนักแสดงรุ่นน้องอย่าง “จางป๋อจือ” (Cecilia Cheung) และ “เซียะถิงฟง” (Nicholas Tse) ว่าหากหมดรักกันแล้ว การหย่าก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ผิด แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเรื่องลูก ที่ต้องคิดถึงพวกเขาไว้ให้มาก

“การหย่ากันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายหรอกครับ” เจิ้งจื่อเหว่ย ที่เคยผ่านการหย่าร้างมาแล้ว แนะนำไปถึงนักแสดงรุ่นน้องที่เขาเคยร่วมงานด้วยทั้งสองคน “โดยเฉพาะคู่ที่ไม่สามารถทำความเข้าใจกันได้แล้ว และไม่สามารถให้อภัยกันได้”

เจิ้งจื่อเหว่ย ยังเชื่อว่าทุกวันนี้ผู้หญิงพึ่งพาตัวเองได้มากขึ้น เรื่องการใช้ชีวิตจึงไม่ได้เป็นปัญหาอีกต่อไป “มันไม่มีแล้วล่ะครับ ที่ผู้หญิงต้องมาพึ่งพาอาศัยสามี และต้องเลี้ยงลูกเพียงอย่างเดียว เซียะถิงฟง กับจางป๋อจือ มีรายได้ระดับหัวแถวด้วยกันทั้งคู่ เรื่องเดียวที่ต้องคิดก็คือ จะทำอย่างไรที่จะยุติธรรมสำหรับเด็กๆมากที่สุด”

เจิ้งจื่อเหว่ย เองก็เคยผ่านประสบการณ์เลี้ยงลูกในฐานะพ่อม่ายมาแล้ว ซึ่งเขามองว่ามันเป็นสิ่งที่หนักหนาสาหัสเอาเรื่อง แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ “มันคือประเด็นสำคัญสำหรับพ่อแม่ที่แยกทางกันเลย คือต้องซื่อสัตย์กับลูก พูดตรงๆไปเลยว่าอะไรเกิดขึ้นกันแน่ ทำไมพ่อกับแม่ถึงจะไม่อยู่ด้วยกันอีกแล้ว และยืนยันกับลูกให้ได้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจะไม่กระทบต่อความรักของเราที่มีให้กับพวกเขาเลย ลูกๆจะต้องเข้าใจแน่นอนครับ”

Manager Online

เขี่ย "ฉีเว่ย" (Qi Wei) พ้นหนัง Coming Back : สั่งสอนฝืนกฎ "กาม" บันเทิงจีน

Submitted by canjamm on 8 กรกฎาคม, 2011 - 18:07

กลายเป็นกระแสข่าวลือในวงการบันเทิงจีน ว่าภาพและการแสดงของ "ฉีเว่ย" (Qi Wei) นักแสดงสาววัย 25 ปี จะถูกตัดทิ้งจากหนัง Coming Back ทั้งหมด ภายหลังเธอปฏิเสธจะเดินทางไปพบกับผู้บริหารของแบรนด์สินค้าชื่อดัง เพื่อแลกเปลี่ยนกับการช่วยสนับสนุนเงินทุนให้กับหนัง

สื่อจีนรายงานว่า ฉีเว่ย นักแสดงสาววัย 25 ปี ต้องถูกตัดจากการมีส่วนร่วมใน Coming Back ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเธอทั้งหมด ภายหลังเจ้าตัวปฏิเสธที่จะทำตามข้อเรียกร้องของสปอนเซอร์รายหนึ่ง ตามคำสั่งของผู้สร้าง

โดยแหล่งข่าวคนวงในวงการบันเทิงจีนรายหนึ่งอ้างว่า รองประธานของแบรนด์สินค้าที่มีชื่อเสียงยี่ห้อหนึ่ง ได้เสนอเงินสนับสนุนภาพยนตร์เรื่องนี้ถึง 5 ล้านหยวน (ประมาณ 23 ล้านบาท) แต่ก่อนจะเซ็นสัญญา บริษัทเจ้าของสินค้าได้ระบุเงื่อนไขให้ นักแสดงหญิงของหนังคนหนึ่ง ต้องเดินทางไปพบกับผู้บริหารของบริษัทเป็นกรณีพิเศษที่มาเก๊าด้วย

แต่หลังจากมีการเจรจาตกลงกันหลายรอบ โดยผู้สร้างหนังพยายามโน้มน้าวดาราคนดังกล่าวกันอย่างสุดฤทธิ์ แต่เธอก็ยังคงยืนกรานปฏิเสธจะทำตามข้อเรียกร้อง เพราะมันไม่ได้เป็นสิ่งที่มีระบุไว้ในสัญญาตั้งแต่ต้น

สุดท้ายการตกลงเจรจาเรื่องสปอนเซอร์ของหนังจึงเป็นอันต้องล้มโต๊ะกันไป และว่ากันว่า ผู้สร้างหนังถึงขั้นเดือด และไม่พอใจกับการกระทำของดาราคนที่ว่านี้มาก ที่ไม่ยอมเข้าใจในเรื่องของธุรกิจ จนทำให้หนังต้องสูญเสียผู้สนับสนุนรายใหญ่ไป ถึงขั้นที่ว่ามีการตัดดาราสาวผู้โชคร้าย ออกจากการมีส่วนร่วมในหนังเรื่องนี้ทั้งหมด

สำหรับความสัมพันธ์พิเศษของดาราสาวดาวรุ่ง กับคนใหญ่คนโตในวงการบันเทิง หรือเจ้าของสินค้า ซึ่งถูกเรียกกันในแวดวงว่า "กฏที่ใครๆก็รู้กันโดยไม่ต้องพูด" ของวงการบันเทิงจีน หมายถึงการขายตัวขายเรือนร่าง เพื่อแลกกับชื่อเสียง, เงินทอง และอนาคตในวงการของดาราสาวๆ ... แต่ดูเหมือนว่าดาราสาวคนที่ปรากฏเป็นข่าว จะไม่ต้องการทำตามกฎที่ว่า

3D Sex and Zen แชมป์ครึ่งปีแรก บ็อกซ์ออฟฟิศหนังฮ่องกง

Submitted by canjamm on 8 กรกฎาคม, 2011 - 18:00

The Hollywood Report – วงการภาพยนตร์ฮ่องกงในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2011 มีตัวเลขรายได้รวมที่ลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย แต่สำหรับหนังฮ่องกงเอง ยังเรียกว่าไปได้ดี โดยมี 3D Sex and Zen เป็นหนังท้องถิ่นที่ทำเงินมาเป็นอันดับ 1

รายได้รวมของวงการภาพยนตร์ฮ่องกงในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2011 หรือนับจากวันที่ 1 ม.ค. ถึง 30 มิ.ย. มีตัวเลขรวมอยู่ที่ 633 ล้านเหรียญฮ่องกง ถือว่าตกลงจากตัวเลขของช่วงเวลาเดียวกันจากปี 2010 ที่ 662 ล้านเหรียญฯ อยู่ 4.4% ขณะที่จำนวนหนังทั้งจากผู้สร้างชาวฮ่องกง และหนังนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งเข้าฉายฉายในฮ่องกง มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจากปีก่อน 137 เรื่องเป็น 143 เรื่องในปีนี้

ซึ่งในช่วง 6 เดือนแรก มีหนังฮ่องกงอยู่ 4 เรื่องที่ทำรายได้ระดับเกิน 20 ล้านเหรียญฯ ที่นำโด่งมาเลยก็คือ 3D Sex and Zen หนังอีโรติกซอฟต์คอร์สามมิติ ที่เข้าฉายตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย. และกวาดรายได้ไปแล้ว 41 ล้านเหรียญฯ เป็นหนังฮ่องกงทำเงินสูงสุดแห่งปีในขณะนี้

ขณะที่หนังตลกที่เข้าฉายในช่วงตรุษจีน 2 เรื่องก็ติดเข้ามาในอันดับต้น ๆ ทั้ง I Love Hong Kong ผลงานการร่วมกันสร้างของ Shaw Brothers/TVB ที่กวาดเงินไป 27 ล้านเหรียญฯ ส่วน All's Well, Ends Well 2011 หนังตลกภาคต่อที่สร้างต่อเนื่องกันมาหลายภาค ก็ทำเงินไปสูงถึง 20.3 ล้านเหรียญฯ โดยมี Shaolin ของ Emperor Pictures เป็นหนังแอ็กชั่นที่ทำรายได้สูงสุดในครึ่งปีแรกกับยอด 20.5 ล้านเหรียญฯ

สำหรับหนังต่างประเทศที่เข้าไปโกยเงินในฮ่องกงในช่วงครึ่งปีแรกประกอบไปด้วย Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides นำมาด้วยรายได้ 45 ล้านเหรียญฮ่องกง, หนังซูเปอร์ฮีโร่ขวัญใจนักวิจารณ์ X Men: First Class กวาด 25 ล้าน ส่วน Sanctum ที่มี เจมส์ แคเมรอน เป็นผู้อำนวยการสร้าง ก็ฮิตอย่างเหลือเชื่อในฮ่องกงกับรายได้ 22 ล้านเหรียญฯ

Manager Online

หรือเป็น “เซียะถิงฟง” (Nicholas Tse) ที่นอกใจ “จางป๋อจือ” (Cecilia Cheung)

Submitted by canjamm on 7 กรกฎาคม, 2011 - 21:20

เรื่องราวว่าด้วยชีวิตแต่งงานที่กำลังใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของ “เซียะถิงฟง” (Nicholas Tse / 谢霆锋) และ “จางป๋อจือ” (Cecilia Cheung / 张柏芝) ยังเป็นข่าวในสื่อจีนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีการอ้างถึงมือที่สาม ที่เป็นนางแบบสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่คนหนึ่ง ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าทำให้พระเอกหนุ่มชื่อดังหมดรักในตัวภรรยา

นางแบบสาววัยรุ่น เซียซินหยู (Xia Xinyu / 夏馨雨) กลายเป็นตัวละครล่าสุด ในดราม่าฉากใหญ่ของ เซียะถิงฟง และ จางป๋อจือ กับข้อกล่าวหาที่ว่าเธอมีส่วนต่อการทำลายชีวิตแต่งงาน 5 ปี ของพระเอกนางเอกคนดังแห่งเกาะฮ่องกงให้จบสิ้นลง

สาววัย 21 ปี ได้พบกับ เซียะถิงฟง ครั้งแรกเมื่อต้นปีที่ผ่านมา กับการร่วมงานกันในการถ่ายแบบโฆษณา ว่ากันว่าพระเอกชื่อดังชาวฮ่องกงเริ่มพัฒนาความรู้สึกอันลึกซึ้งต่อเธอคนนี้ เพราะเธอมีส่วนคล้ายกับ จางป๋อจือ ภรรยาของเขา แต่เป็นในแบบที่ดูมีความใสซื่อบริสุทธิ์ และแน่นอนว่าอายุน้อยกว่า

จากข้อความในบล็อคส่วนตัว เซียซินหยู เองก็กล่าวว่า เซียะถิงฟง คือไอดอลของเธอมาตั้งแต่สมัยเรียนชั้นประถมแล้ว และรู้สึกตื่นเต้นมากที่วันหนึ่งจะได้ร่วมงานกับเขาจริงๆ นางแบบสาวยอมรับว่าตนเองเป็นคนขี้อาย แต่เซียะถิงฟงก็มักจะพูดอะไรตลกๆ ให้ฟังเพื่อช่วยผ่อนคลายระหว่างการทำงานอยู่เสมอ

ข่าวระบุว่า เซียะถิงฟง พยายามหาข้ออ้าง เรื่องธุรกิจเพื่อเดินทางจากฮ่องกงไปเมืองจีนแผ่นดินใหญ่อยู่เสมอ เพียงเพื่อจะได้หาโอกาสนัดพบกับ เซียซินหยู ไม่ว่าจะเป็นที่ปักกิ่ง หรือเซียงไฮ้

อย่างไรก็ตามล่าสุด ผู้จัดการส่วนตัวของ เซียะถิงฟง ได้ออกมาปฏิเสธข่าวนี้แล้ว และเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวเป็นข่าวขึ้นมาได้ ก็เพราะตัวของนางแบบสาว เซียซินหยู พยายามเกาะกระแสข่าวของ เซียะถิงฟง เพื่ออัพชื่อเสียงให้ตัวเองมากกว่า

แต่นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีข่าวของ เซียะถิงฟง กับผู้หญิงคนอื่น เพราะก่อนหน้านี้เคยมีรายงานว่าดาราหนุ่มยอดฝีมือ ได้คบหากับหญิงสาวนามว่า หรวนเว่ยซี ชาวจีนแผ่นดินใหญ่มาได้ประมาณ 2 ปีแล้ว โดยสาวที่มีอายุราวๆ 20 ปี คนนี้มาจากครอบครัวผู้มีอันจะกินในปักกิ่ง

“หลิวเสวี่ยหัว” (Leanne Liu) สุดเศร้า สามีดิ่งตึกเสียชีวิต - ปิดฉากคู่รักจากหนังชุด “เปาบุ้นจิ้น”

Submitted by canjamm on 6 กรกฎาคม, 2011 - 13:34

นักแสดงหญิงรุ่นใหญ่ “หลิวเสวี่ยหัว” (Leanne Liu / 劉雪華) ผู้มีผลงานโดดเด่นในวงการโทรทัศน์ช่วงยุค 1980s ต้องพบกับเรื่องเศร้าครั้งสำคัญในชีวิต กับการสูญเสียสามีคู่ทุกข์คู่ยาก ที่ใช้ชีวิตร่วมกันมากว่า 10 ปี หลังฝ่ายสามีนักเขียนบทชื่อดังเสียชีวิตจากการตกลงมาจากตึกสูง ที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะเป็นการฆ่าตัวตายหรือไม่

มีรายงานจากสื่อในประเทศจีนถึงการเสียชีวิตของ เติ้งอวี้คุน (Deng Yukun / 鄧育昆) นักเขียนบทชื่อดัง สามีของ หลิวเสวี่ยหัว นางเอกผู้มีผลงานโดดเด่นมากมายเมื่อประมาณ 20 ปี ก่อน โดยเฉพาะการรับบทเป็น “ซูสีไทเฮา” ในหนังชุดเรื่องดัง, ร่วมแสดงใน “เปาบุ้นจิ้น” และยังแสดงนำในหนังชุดของไต้หวันที่ดัดแปลงมาจากนิยายของ “ฉงเหยา” อีกหลายเรื่อง

ซึ่งข่าวระบุว่า เติ้งอวี้คุน กระโดดลงมาจากอาคารสูง ที่เขาและภรรยาพักอาศัยอยู่บนชั้น 3 ของตึก ใกล้เคียงกับ เวลลิงค์ตัน การ์เดน ในเซียงไฮ้ ในช่วงเวลาประมาณตี 4 ของวันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ตัดประเด็นการฆาตกรรมออกไป และตั้งสมมุติฐานว่าการเสียชีวิต อาจเป็นเหตุฆ่าตัวตาย

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ ว่าการเสียชีวิตครั้งนี้อาจเกิดจากอุบัติเหตุก็เป็นไปได้ โดยคนใกล้ชิดสันนิษฐานว่า เนื่องด้วยทั้งสองอาศัยกันอยู่บนชั้นที่ 3 ของตึกเท่านั้น จึงอาจจะเป็นชั้นที่ต่ำเกินไปสำหรับการกระโดดตึกฆ่าตัวตาย และมีความเป็นไปได้อยู่เหมือนกันที่ผู้ตายอาจพลัดตกลงมา หลังจากพยายามซ่อมจานรับสัญญาณดาวเทียมที่มีปัญหาอะไรทำนองนั้น

จากข้อมูลของเพื่อนสนิทคนหนึ่ง หลิวเสวี่ยหัว ตื่นขึ้นมาในเวลาเช้ามืด และพบว่าสามีของเธอไม่ได้นอนอยู่บนเตียงด้วย แต่กลับเห็นบริเวณระเบียงดูไม่ค่อยเรียบร้อยผิดปกติจากทุกครั้ง แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะยังรู้สึกกังวลเกี่ยวกับการหายตัวไปของสามี ต่อมาจึงโทรศัพท์เรียกเพื่อนคนหนึ่งให้มาช่วยตามหาเขา จนกระทั่งพบข่าวร้ายในเวลาต่อมา

ข่าวระบุว่าหลังเกิดเหตุ ตัวของหลิวเสวี่ยหัว เก็บตัวอยู่ในบ้านตลอดทั้งวัน ขณะที่ผู้สื่อข่าวจากทั้งในประเทศจีน และไต้หวัน ต่างเดินทางเข้ามาทำข่าว โดยเฉพาะในอาคารที่เกิดเหตุ จนสร้างความวุ่นวายให้กับทีมรักษาความปลอดภัยอยู่พอสมควร

เอเรียล หลิน (Ariel Lin) จะหยุดงานด้านการแสดง และไม่มีแผนที่จะออกอัลบั้มใหม่

Submitted by canjamm on 6 กรกฎาคม, 2011 - 11:26

มีการคาดการกันมากมาย ว่าสุขภาพของเอเรียล หลิน (Ariel Lin) นักแสดงสาวชาวไต้หวัน กำลังไม่ค่อยจะดีนัก เมื่ออยู่ๆเธอก็ประกาศว่า เธอจะหยุดงานด้านการแสดงในช่วง 2 -3 ปีข้างหน้า

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เอเรียล ที่เป็นโรคเนื้องอกที่ต่อมใต้สมอง (Pituitary Gland) เมื่อประมาณสองปีก่อน กล่าวว่า เธอจะลดงานในอนาคตของเธอ และไม่มีแผนที่จะออกอัลบั้มใหม่ด้วย

บางคนคาดว่า เธออาจจะป่วยอีกครั้งหนึ่ง ในขณะที่อีกหลายๆคนสงสัยว่า เธอตัดสินใจเรื่องนี้เนื่องจากเธอกำลังมีความรักหรือเปล่า

เอเรียลให้เหตุผลว่า อาการป่วยของเธอรักษาให้หายขาดไม่ได้ และอาจจะเกิดขึ้นอีกครั้ง แม้ว่าจะทำการผ่าตัดไปแล้ว การรับฟังคำแนะนำของแม่ของเธอ เธอตัดสินใจว่า ครอบครัวของเธอสำคัญมากกว่า

"ฉันยังรักที่จะแสดง แต่สุขภาพของฉันไม่ได้ดีเหมือนที่เคยเป็นมาก่อน ฉันคิดว่า ฉันควรจะทำงานไม่หนักเกินที่ร่างกายจะรับได้ และแบ่งเวลาส่วนหนึ่งให้กับคนที่สำคัญสำหรับฉัน" เอเรียลกล่าว

เมื่อตอนที่เอเรียลถ่ายทำละครเรื่องใหม่ I May Not Love You ในเดือนเมษายน เธอป่วยอยู่บ่อยครั้ง เพราะว่าอากาศร้อน และกระบวนการเมตาบอลิซึม (metabolism) ที่เชื่องช้า ของเธอ

"มันยากที่จะรับบทเป็นนักแสดงนำหญิงในละคร มันเหมือนกับการเข้าสู่ค่ายทหาร ที่ทั้งจิตและวิญญาณไม่สามารถทำให้สมดุลกันได้" นักแสดงหญิงอธิบาย

Cheng Jia Yao (Zhen Jia Yao) แฟนของเอเรียลแวะมาเยี่ยมเยียนเธอที่สถานที่ถ่ายทำอยู่บ่อยครั้ง

เมื่อถามเธอว่า เธอออกจากวงการบันเทิง เพราะว่าความรักหรือเปล่า เอเรียลหัวเราะ และกล่าวว่า "ฉันแค่ต้องการให้เขาเข้าใจในงานของฉัน เพราะว่าหลังจากนี้ เขาอาจจะเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวของฉัน"

อย่างไรก็ตาม เอเรียลหวังว่าเธอจะมีความเป็นส่วนตัวเมื่อเธอแต่งงาน

"ฉันมักจะทำตามที่ทุกๆคนคาดหวังไว้ตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เมื่อถึงเวลาที่ฉันแต่งงาน ฉันอาจจะต้องเห็นแก่ตัวบ้างเล็กน้อย" เอเรียลกล่าวเป็นนัยๆว่า เธออาจจะไม่ได้จัดงานแต่งงานที่ใหญ่โตอะไร

Channel NewsAsia / Xin.MSN

อัลบั้มใหม่ของเรนนี่ หยาง (Rainie Yang)

Submitted by canjamm on 6 กรกฎาคม, 2011 - 11:01

เรนนี่ หยาง (Rainie Yang) เติบโตขึ้น เปลี่ยนแปลงจากบุคลิกทอมบอยมาเป็นผู้หญิงที่งดงาม สำหรับอัลบั้มใหม่ของเธอ เธอจะเปิดเผยให้เห็นร่างกายของเธอมากขึ้น ก่อนหน้านี้ เธอมักจะสวมใส่ชุดที่ปิดบังขาของเธอ แต่ในครั้งนี้ เธอกล่าวว่า เธอจะเปิดเผยขาและบ่าของเธอมากขึ้น

เรนนี่กลายเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่เธอกล่าวว่า ในใจของเธอ เธอยังเป็นเด็กอยู่ เธอแสดงความคิดเห็นของเธอเกี่ยวกับความรัก โดยเฉพาะเรื่องของความเจ็บปวด ในขณะที่เธอออกเดทกับคู่เดทของเธอคนนึงอยู่สองสามครั้ง เธอสังเกตว่าเขามักจะปิดโทรศัพท์มือถือเขาตลอด เธอบอกกับเขาว่า เขาไม่จำเป็นต้องปิดโทรศัพท์ตลอดเวลา เผื่อว่าจะมีใครโทรมาในเรื่องสำคัญๆ คู่เดทของเธอกล่าวว่า เขาต้องการใช้เวลาอย่างมีค่ากับเธอ โดยไม่มีใครมาขัดจังหวะ และเธอก็ชื่นชอบคำกล่าวนั้นของเขา แต่เธอมาพบความจริงในภายหลังว่า เขาทำอย่างนั้นอยู่ตลอดเวลา เพราะว่าเขากำลังหลอกเธออยู่ด้วยการคบกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งอยู่ เรนนี่กล่าวว่า เธอรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองโง่สุดๆที่เชื่อว่าความสัมพันธ์นั้นเป็นจริง

อัลบั้มใหม่ของเธอยังไม่มีชื่อ โดยคอนเซ็ปนั้นจะเหมือนกับรูปประกอบที่เธอออกแบบด้วยตัวเธอเอง

JPopAsia

แฟนๆนับพันเข้าร่วมงานพบปะแฟนๆกับอู๋จุน (Wu Chun) เป็นครั้งแรก ตั้งแต่เขาออกจากวง Fahrenheit

Submitted by canjamm on 6 กรกฎาคม, 2011 - 10:39

อู๋จุน (Wu Chun) ศิลปินชื่อดังจากไต้หวัน ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเขาที่มีชื่อว่า Happy Magic ใช้เวลาสองสามวันในการพบปะกับแฟนๆของเขาในญี่ปุ่น

เป็นครั้งแรกของเขาที่ฉายเดี่ยวในการพบปะแฟนๆ หลังจากเขาออกจากวง Fahrenheit ในงานที่ชื่อว่า ~CHUN ZONE FANMEETING 2011~ โดยมีแฟนๆเข้าร่วมงานนับพันๆคน

เมื่อสัมภาษณ์อู๋จุน เขาเปิดเผยว่า จริงๆแล้ว เขามีกำหนดการที่จะพบปะแฟนๆ พร้อมกับการแจกลายเซ็นด้วย แต่ว่าเขาขอให้ทำการยกเลิกงานแจกลายเซ็น เนื่องจากเขาต้องการใช้เวลากับแฟนๆมากกว่า หวังว่าจะมีโอกาสจดจำหน้าตาของแฟนๆที่สนับสนุนเขา

ในระหว่างที่เขาพักอยู่ในญี่ปุ่น มีรายงานว่าเขาช็อปปิ้งไปเกือบ 2 แสนเหรียญไต้หวันในเวลาเพียงแค่ครึ่งวัน

สำหรับข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้องกันนั้น อู๋จุนปฏิเสธข่าวลือที่ว่า เขาแต่งงานแล้ว และมีลูกสาวแล้วหนึ่งคน

ในช่วงเวลาเดียวกัน แคลวิน (Calvin Chen) อดีตเพื่อนร่วมวงของเขาก็มีข่าวลือว่า เขาเพิ่งจดทะเบียนกับแฟนสาวชาวมาเลเซียที่คบกันมา 6 ปีแล้ว แคลวินชี้แจงเรื่องนี้ผ่านทางผู้จัดการของเขา ทำการปฏิเสธข่าวลือนี้ โดยกล่าวว่า "กรุณาอย่าทำอย่างนี้กับผม ผมยังต้องการมีแฟนนะ!"

Xin MSN

จางม่านอี้ว์ (Maggie Cheung) รับปริญญาดุษฎีฯ จากสกอตแลนด์ 20 ปีแห่งความสำเร็จสูงสุด

Submitted by canjamm on 5 กรกฎาคม, 2011 - 14:13

เอเยนซี - จางม่านอี้ว์ (Maggie Cheung) ดารายอดนิยมชาวจีน รับปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาศิลปะการแสดงจากมหาวิทยาลัยเอดินบะระ (Edinburgh) ในสกอตแลนด์

สื่อต่างประเทศรายงานวันที่ 2 ก.ค. ว่า จางม่านอี้ว์ (แม็กกี้ ชุง) ดารายอดนิยมมากฝีมือชาวจีน ได้เข้าพิธีรับมอบปริญญาดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยเอดินบะระ หนึ่งในสี่มหาวิทยาลัยเก่าแก่ของสกอตแลนด์ และยังเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่สำคัญที่สุดของทวีปยุโรป ก่อตั้ง พ.ศ. 2126 (ค.ศ. 1583)

รายงานข่าวกล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ค. จางม่านอี้ว์ ซึ่งเป็นที่คุ้นเคยจากบทบาทการแสดงชุดโบราณจีนตลอดจนถึงชุดกี่เพ้า เข้าพิธีรับปริญญาบัตร ดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาศิลปะการแสดง ณ ห้องโถงดอกเตอร์แม็กอีแวนฯ ของมหาวิทยาลัยฯ ในชุดครุยสีแดง ด้วยใบหน้าสวยงามตามธรรมชาติ ไร้เครื่องปรุงโฉม ได้รับเสียงปรบมือจากบัณฑิตและคณาจารย์ ขณะที่ดาราขวัญใจชาวจีน ก็แสดงความเขินอาย และยิ้มอย่างมีความสุข

ทั้งนี้ จางม่านอี้ว์ เป็นหนึ่งในดารายอดฝีมือของฮ่องกง วัย 45 ปี มีผลงานการแสดงอย่างต่อเนื่องครอบคลุมทุกบทบาท ตลอดเวลา 20 ปีในวงการภาพยนตร์ มีผลงานมากกว่า 80 เรื่อง ได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย โดยเริ่มเป็นที่รู้จักจากภาพยนตร์เรื่อง ‘Police Story’ (1985) ของเฉินหลง จนกระทั่งก้าวขึ้นสู่ความเป็นสุดยอดดาราจากบทบาทในภาพยนตร์เรื่อง ‘‘In the Mood for Love’ (2000) ของหว่องกาไว เป็นเจ้าของห้ารางวัล Best Actress จากTaiwan’s Golden Horse Film Awards ด้วยผลงานของเธอในเรื่อง ‘Full Moon in New York’ (1989), ‘Red Dust’ (1990), ‘Actress’ (1992), ‘Comrades: Almost a Love Story’ (1996) และ ‘In the Mood for Love’ (2000) และเป็นดาราเพียงคนเดียวที่ได้ 5 รางวัล HKFA Best Actress จนถึงทุกวันนี้ (As Tears Go By (1988), A Fishy Story (1990), ‘Actress’ (‘Yuen Ling-Yuk’) (1992), ‘Comrades: Almost a Love Story’ (1996), The Soong Sisters (1997) In the Mood for Love (2000) และสามารถคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ จากภาพยนตร์เรื่อง Clean (2004)

ฝันร้ายของ “ไป่หลิง” (Bai Ling) เรื่องคาวในกองทัพจีน

Submitted by canjamm on 5 กรกฎาคม, 2011 - 14:07

นักแสดงสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ “ไป่หลิง” (Bai Ling) ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องราวดำมืดในอดีต กับการใช้ชีวิตในประเทศจีนในฐานะนักแสดงของกองทัพ ที่เธอเคยถูกทหารผู้บังคับบัญชา ล่วงละเมิดทางเพศ จนกลายเป็นบาดแผลในใจจนถึงปัจจุบัน
       
       นักแสดงชาวจีนผู้มีผลงานระดับอินเตอร์ ไป่หลิง วัย 44 ปี เติบโตมาในฐานะสมาชิกคณะนักแสดงของ กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ระหว่างที่เธอมีอายุประมาณ 14 – 17 ปี แต่ล่าสุดเธอได้เปิดเผยถึงฝันร้ายของอดีตในช่วงนั้น ในการให้สัมภาษณ์กับเอพี ซึ่ง ไปหลิง กล่าวถึงเรื่องราวเหล่านั้นว่า “กลายเป็นบาดแผลในชีวิตของฉัน ซึ่งแม้แต่พ่อแม่ก็ยังไม่เคยรู้เลย”
       
       ซึ่งเสี้ยวหนึ่งในชีวิต ได้ถูกขุดคุ้ยขึ้นมา ภายหลังเธอได้ร่วมรายการเรียลลิตี้โชว์ว่าด้วยการบำบัดอาการติดสุรา และยาเสพติดอย่าง Celebrity Rehab with Dr. Drew ที่ดาราสาวระบุว่ากลายเป็นสิ่งที่ช่วยให้เธอได้เข้าใจต่อเรื่องราว และบาดแผลในอดีตของตัวเอง
       
       “ไป่หลิง” เด็กสาวขี้อาย
       
       ไปหลิง เป็นชาวเฉิงตู ในมณฑลเสฉวน โดยกำเนิด เธอเคยอธิบายว่าตัวเองเป็นเด็กขี้อาย ที่พบว่าการแสดงคือเครื่องมือ สำหรับการถ่ายทอดความรู้สึกต่างๆในจิตใจของตัวเองออกมา และเนื่องด้วยการที่มีบิดาเป็นนักดนตรีของกองทัพ เธอจึงเข้าเป็น “ศิลปินทหาร” ทันที เมื่อจบการศึกษาในระดับชั้นต้น และได้ประจำการในหลินจือ ทิเบต มีหน้าที่หลักกับการให้ความบันเทิงกับประชาชนและเหล่าทหาร ผ่านการแสดงละครเพลง นอกจากนั้นยังเคยทำงานเป็นพยาบาลของกองทัพ โดยประจำการอยู่ 3 ปี จึงปลดประจำการออกมา