ข่าวจีน

ท่ามกลางข่าวว่า "เฉินกว้านซี" (Edison Chen) ได้ถูกแฟนสาวที่คบหาดูใจกันมานานขอยุติความสัมพันธ์ไปเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ล่าสุดดาราหนุ่มจอมฉาวได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวแล้ว ยืนยันว่าเขาและหญิงคนรักที่เป็นหลานของ "อัลเบิร์ต หยัง" บอสใหญ่แห่ง Emperor Entertainment Group ยังคบหากันเหมือนเดิม

กลายเป็นข่าวที่ถูกพูดถึงกันเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน กับประเด็นที่ว่า วินซี หยัง (Vincy Yeung) หลานสาว อัลเบิร์ต หยัง เจ้าพ่อธุรกิจบันเทิงแห่งฮ่องกง ได้ตัดใจบอกเลิกกับ เฉินกว้านซี ในที่สุดหลังทนกับพฤติกรรมซุกซน เที่ยวว่านเสน่ห์กับสาวๆของเขาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

อย่างไรก็ตามล่าสุด เฉินกว้านซี ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ด้วยตัวเป็นเป็นครั้งแรก และยืนยันว่าข่าวดังกล่าวไม่ได้เป็นความจริง เพราะเขาและแฟนสาวยังคงคบหากันอยู่เหมือนเดิม นอกจากนั้นช่วงนี้เขากำลังวางแผนจะจัดงานวันเกิดปีที่ 31 ปีให้กับเธอด้วย ... "เรายังมีความสุขกันเหมือนเดิมครับ" เขากล่าวกับนักข่าว

อย่างไรก็ตามในระยะหลังที่เขาทุ่มเทไปกับธุรกิจแฟชั่น และต้องเดินทางไปไหนมาไหนอยู่เสมอ เฉินกว้านซี ยอมรับว่าความหวานโรแมนติกที่มีให้กับ วินซี หยัง อาจจะลดน้อยลงไปบ้าง แต่ศิลปินหนุ่มวัย 31 ปีก็ยืนยันว่าเขาพยายามหาเวลาให้กับเธออย่างสม่ำเสมอทุกเดือน

เฉินกว้านซี กล่าวอีกว่าเขาคงจะไม่ตัดสินใจลงหลักปักฐานแต่งงานแต่งการในเร็ววันนี้แน่ เพราะขณะนี้กำลังมุ่งมั่นกับการคืนสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัว นอกจากจะปล่อยอัลบั้มเพลงออกมาแล้วเขาก็ยืนยันว่าในปีหน้า "คงจะได้กลับไปรับงานหนังอีกครั้งค่อนข้างแน่"

"ผมยุ่งเกินไปครับ แต่เราก็แทบจะเป็นเหมือนคู่แต่งงานกันไปแล้ว เพราะเรามีความสุขอยู่ทุกวัน" เฉินกว่านซี กล่าว อย่างไรก็ตามดาราหนุ่มคนดังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นถึงประเด็นการแยกทางของเพื่อนเก่ากับอดีตคนรักอย่าง เซียะถิงฟง (Nicholas Tse) และ จางป๋อจือ (Cecilia Cheung) พร้อมกล่าวว่าเขายุ่งกับงานมากเกินไป จนไม่ได้ติดตามข่าวว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

Manager Online

คราวที่แล้วเม้าท์มอยกันไปพอหอมปากหอมคอสำหรับดาราสาวต้องสงสัยยกเครื่องหน้า คนเราพอยิ่งมีชื่อเสียงมากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นจุดสนใจมากเท่านั้น และยิ่งถ้าหน้าตาผิดแผกไปจากเดิม ทั้งที่สวยขึ้นหรือแย่ลงก็ตาม ก็ไม่แคล้วถูกเม้าท์ว่าไปทำศัลยกรรมมา

สาวฮอตคนล่าสุดที่ถูกสงสัยว่าสวยเพราะมีดหมอไม่ใช่ใครที่ไหน เธอคือ ซูเปอร์โมเดลลูกครึ่งจีน-เยอรมัน ที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้ “แองเจล่าเบบี้” (AngelaBaby)

จากอดีตสาวฟันจอบกลายมาเป็นสาวสวยรวยเสน่ห์ขวัญใจหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ ไม่น่าแปลกใจที่หลายคนจะคิดว่าเธอไปทำอะไรกับหน้ามา แองเจล่าเบบี้ชี้แจงว่าที่หน้าเธอเปลี่ยนไปเป็นเพราะเธอไปจัดฟันมาเท่านั้น ไม่ได้ไปศัลยกรรมหน้าตาอย่างที่เป็นข่าว แถมยังเชิญแพทย์ศัลยกรรมมาร่วมด้วยช่วยยืนยันอีกแรง แต่ยังไงบรรดาขาเม้าท์ก็ยังไม่ปักใจเชื่อ แถมยังมีคนตาดีแอบเห็นรอยแผลเป็นบริเวณคางของเธอระหว่างงานแถลงข่าวภาพยนตร์เรื่อง Love in Space 《全球热恋》จึงยิ่งเป็นการกระพือข่าวลือดังกล่าวขึ้นมาอีก

ด้านผู้เชี่ยวชาญในวงการศัลยกรรมความงามวิเคราะห์รูปอดีตและปัจจุบันของเธอ แล้วแสดงความคิดเห็นว่า เป็นไปได้ที่เธอจะผ่านการผ่าตัดเย็บมุมปากบนล่างให้บางลง รวมถึงอาจตัดกรามทำหน้าเล็ก หรืออาจแค่ฉีดโบท็อกซ์ให้หน้าเรียวก็เป็นได้

เย่เสวียน อดีตนางเอกดาวรุ่งของทีวีบีที่ตัดสินใจบินเดี่ยวหันรับงานแสดงอิสระในแผ่นดินใหญ่ เธอแจ้งเกิดจากการคว้ามงกุฎมิสไชนิสอินเตอร์เนชั่นแนลที่ทีวีบีเป็นเจ้าภาพจัดประกวด และพ่วงรางวัลนางงามบุคลิกภาพดีมาอีกตำแหน่ง หลังจากนั้นเธอก็เซ็นสัญญาเข้าเป็นนักแสดงในสังกัดทีวีบี มีผลงานแสดงมากมายหลายเรื่อง

จำได้ว่าช่วงเข้าวงการใหม่ๆ เย่เสวียนเป็นสาวหมวยตาสองชั้นหลบใน แต่ช่วงหลังๆ ดูเธอสวยขึ้นผิดหูผิดตา โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้น ดูเหมือนจะเห็นชั้นตาชัดเจนขึ้นมาก

ประเด็นชิงดีชิงเด่นระหว่างสองสาว กลายเป็นหัวข้อหลักของการเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง Dangerous Liaisons ที่มี "จางดองกอน" (Jang Dong Gun), "จางจื่ออี๋" (Zhang Ziyi) และ จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) แสดงนำไปแล้ว โดยเฉพาะที่ว่าใครจะเด่นกว่าใคร? ใครคือนางเอกตัวจริง? ที่ทำให้ฝ่ายของ "จางจื่ออี๋" ที่ถูกถามย้ำถึงเรื่องนี้หลายครั้ง ออกอาการอารมณ์เสียระหว่างงานกันเลยทีเดียว

งานแถลงข่าวเปิดกล้องภาพยนตร์เรื่อง Dangerous Liaisons ได้จัดขึ้นเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้รับความสนใจไปไม่น้อย สำหรับผลงานร่วมทุนระหว่างเกาหลีใต้ และจีนเรื่องนี้ ที่ถูกจับตามองขึ้นมาทันที ในฐานะงานชิ้นใหม่ของผู้กำกับชื่อดัง เฮอจินโฮ (Christmas In August) และมี 3 นักแสดงชั้นนำของเอเชีย อย่าง จางดองกอน, จางจื่ออี๋ และ จางป๋อจือ รับบทนำ

อย่างไรก็ตามประเด็นการชิงดีชิงเด่นระหว่างสองสาว กลับเป็นที่ถูกพูดถึงมากกว่า แม้ จางจื่ออี๋ กับ จางป๋อจือ จะดูยิ้มแย้มแจ่มใส และดูเป็นมิตรต่อกันดีในช่วงเริ่มต้นของงาน จนกระทั่งผู้สื่อข่าวเริ่มถามถึงเรื่องที่ว่าบทใครจะเด่นกว่ากัน บรรยากาศก็เริ่มเปลี่ยนไปทันที

Dangerous Liaisons ผลงานของนักเขียนขาวฝรั่งเศส Pierre Choderlos de Laclos ที่ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้วหลายครั้ง โดยในครั้งนี้เรื่องราวได้ถูกดัดแปลงให้เกิดขึ้นในฉากหลังเซียงไฮ้ยุค 1930s ที่ประเทศจีนถูกปกคลุมไปด้วยไฟสงคราม หนังจะมีจุดศูนย์กลางอยู่กับคู่รักที่จะสวมบทบาทโดย จางดองกอน และ จางป๋อจือ ที่ความสัมพันธ์ต้องเปลี่ยนแปลงไป เมื่อฝ่ายชายได้พบกับผู้หญิงอีกคน ที่จะสวมบทบาทโดย จางจื่ออี๋

ซึ่งจากข้อมูลเรื่องย่อที่เปิดเผยออกมา หลายฝ่ายจึงคาดเดากันไปว่าตัวละครของ จางป๋อจือ ที่ต้องแสดงอารมณ์ซับซ้อนรุนแรง ทั้งการสูญเสียความรัก และความอาฆาตมาดร้ายถึงขั้นลงมือทำลายชีวิตผู้หญิงอีกคนที่มายุ่งกับผู้ชายของเธอ น่าจะเป็นตัวละครเอก และเป็นจุดศูนย์กลางของเรื่อง แม้เธอจะรับทรัพย์ไป 16 ล้านหยวน น้อยกว่าที่จางจื่ออี๋ได้เงินเข้ากระเป๋าจากหนังเรื่องนี้ไป 20 ล้านหยวน ก็ตาม

"โจวเว่ยตง" (Cica Zhou) โชว์ลีลาบู๊ประเคนเท้าใส่พวกขาหื่น ในฉากหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องใหม่ผลงานล่าสุดของเธอ เป็นคิวบู๊ที่นางแบบสุดเซ็กซี่แห่งจีนแผ่นดินใหญ่ ทุ่มเทแสดงแบบยกแข้งยกขา ชนิดไม่กลัวโป๊กันเลยทีเดียว

โจวเว่ยตง หรือ Cica Zhou นางแบบสาวแถวหน้าแห่งวงการ ที่กลายเป็นขวัญใจหนุ่มๆในโลกออนไลน์ และภาพเซ็กซี่ของเธอกลายเป็นของฮิต ถูกกระจายไปตามเว็บไซต์ต่างๆมากมาย จนทำให้ในช่วงปีที่ผ่านมา สาวคนนี้มีงานต่างๆมากมาย ทั้งพรีเซนเตอร์โฆษณา, ถ่ายแบบ และได้ร่วมปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์ต่างๆ ไม่เว้นแต่ละวัน นอกจากนั้นล่าสุดสาวสวยชาวกุ้ยโจววัย 29 ปีคนนี้กำลังจะมีงานแสดงชิ้นใหม่ให้แฟนๆ ได้ติดตามชมกันอีกแล้ว

ซึ่งล่าสุดมีภาพส่วนหนึ่งจากการถ่ายทำเมื่อวันที่ 24 ก.ย. ของหนังที่มีชื่อแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า Single Terminator ซึ่ง โจวเว่ยตง ร่วมแสดงอยู่ด้วยเผยแพร่ออกมา ซึ่งก็สามารถเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย กับลีลาบู๊แบบเซ็กซี่ของนางแบบสาวคนดัง

โดยฉากดังกล่าวเป็นตอน โจวเว่ยตง ต้องระดมแข้งระบายความโกรธใส่หนุ่มใหญ่รายหนึ่ง ที่ข่าวจากจีนระบุว่าเป็นตัวละครประเภทขาหื่นของหนัง ถือเป็นฉากที่ เธอทุ่มเทมอบการแสดงให้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะกับการยกขาขึ้นเตะ จนเห็นไปถึงกางเกงชั้นใน ชนิดไม่ยี่หระต่อกล้องของช่างภาพ, เหล่าตัวประกอบ, ทีมงาน และผู้คนที่มาสังเกตการณ์การถ่ายทำกันเลย

Manager Online

A Simple Life ภาพยนตร์ของ "แอน ฮุย" (Ann Hui) ซึ่งมี "หลิวเต๋อหัว" (Andy Lau) อำนวยการสร้าง และส่งให้ชื่อของ "เยี่ยเต๋อเสียน" (Deanie Ip) คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงในเทศกาลหนังเมืองเวนิส คือตัวแทนของฮ่องกงในการชิงรางวัลสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศ ประจำงานออสการ์ ครั้งที่ 84 ที่จะแจกกันในต้นปี 2012

ในภาพยนตร์เรื่องนี้ นักแสดงรุ่นใหญ่ "เยี่ยเต๋อเสียน" ได้ก้าวไปสู่จุดสูงสุดในอาชีพ กับรับบทเป็นหญิงรับใช้ ที่ทำงานให้กับครอบครัวหนึ่งกินเวลาครึ่งศตวรรษ และช่วยเหลือเลี้ยงลูกชายของบ้าน ที่รับบทโดย "หลิวเต๋อหัว" จนเติบใหญ่ ถือเป็นหนังขวัญใจนักวิจารณ์ และไปไกลถึงสายประกวดของเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองเวนิสที่ผ่านมา จนสุดท้ายสามารถคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมกลับฮ่องกงไปได้ด้วย

A Simple Life เป็นเรื่องราวที่มีเค้าโครงมาจากประสบการณ์ในชีวิตจริงของโปรดิวเซอร์ โรเจอร์ ลี และเป็นผลงานการสร้างของบริษัท Poly Bona กับ Focus Films ของ หลิวเต๋อหัว ผู้รับบทสำคัญอยู่ในหนังด้วย

โดยคณะกรรมการคัดสรรของสหพันธ์ภาพยนตร์ฮ่องกง 11 ท่านได้ตัดสินใจเลือก A Simple Life เป็นหนังตัวแทนของประเทศ แทนที่จะเป็น Wu Xia ของ ปีเตอร์ ชาน หรือ Overheard 2 ของ อลัน มัก กับ เฟลิกซ์ ชอง ซึ่งเป็นหนังอีก 2 เรื่องที่อยู่ในการพิจารณารอบสุดท้าย

ฝ่าย ครูซินโด หง ประธานคณะกรรมการคัดสรรเรียก A Simple Life ว่าเป็น "ภาพยนตร์ของผู้กำกับที่โดดเด่น ซึ่งมอบการแสดงที่ไม่ฟูมฟายโดยนักแสดงหญิงคนพิเศษ" และยกย่องหนังในฐานะที่นำเสนอเอกลักษณ์ของชาวฮ่องกง ผ่านสายสัมพันธ์และความผูกพันระหว่างหญิงรับใช้ กับเจ้านาย ที่สามารถสะท้อนไปถึงวิถีชีวิตของผู้คนในประเทศได้อย่างสมจริง

ซึ่งสหพันธ์หวังว่า A Simple Life จะสามารถเข้าไปถึงรอบ 5 เรื่องสุดท้ายได้ แม้ก่อนหน้านี้ตัวแทนของฮ่องกงอย่าง Raise the Red Lantern และ Farewell My Concubine จะเคยทำได้มาแล้ว แต่ก็เป็นที่รับรู้กันอย่างกว้างขวาง ว่าหนังทั้งสองเรื่องเป็นผลงานของผู้กำกับชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ไม่ใช่ผลงานของคนทำหนังฮ่องกงแท้ๆ

ว่ากันว่า ฮีบี้ต่อว่าคู่หมั้นของเพื่อนสนิทของเธอ สำหรับการกระทำที่ไม่ถูกต้อง

หลังจากมีข่าวเกี่ยวกับการไม่มีความสุขของริชาร์ด (Richard Chang) คู่หมั้นของเซลิน่า (Selina Jen) ทำให้ฮีบี้ (Hebe Tian) เพื่อนร่วมวงของเซลิน่าต้องออกมาโพสข้อความในบล็อกของเธออีกครั้งหนึ่งในช่วงเที่ยงคืนเมื่อคืนนี้

เธอกล่าวกับแฟนๆว่า เธอมาถึงที่โรงแรมในเซี่ยงไฮ้แล้ว และเธอตื่นขึ้นมาจากการที่ไฟในห้องนอนของเธอกระพริบ นอกจากนั้นแล้ว ไฟในห้องน้ำของเธอเปิดไม่ติดเลย

"สายไฟและวงจรไฟหลุดการควบคุม โชคดีที่ฉันเคยพบอะไรแปลกๆและน่ากลัวมากกว่านี้อีกเยอะ" เธอเขียน

เธอเขียนอวยพรให้แฟนๆของเธอ "ฉันหวังว่า ไฟและวงจรไฟในบ้านของพวกคุณจะดีและเชื่อฟังนะ"

ดูเหมือนว่า ฮีบี้จะเลือกให้คำแปลกๆ เช่น "หลุดการควบคุม" และ "ดีและเชื่อฟัง" ทำให้มีการคาดการณ์กันไปว่า เธอกำลังส่งข้อความไปที่ริชาร์ท คู่หมั้นของเซลิน่า

แฟนๆหลายๆคนที่ได้อ่านข้อความนี้ตอบกลับไปว่า "เนื่องจากมักจะมีคนที่หลุดการควบคุมปรากฎในชีวิตของคุณ ฉันหวังว่า คุณจะสามารถป้องกันพวกนั้นได้ด้วยการมองโลกในแง่ดีของคุณ"

แฟนอีกคนหนึ่งเขียนว่า "น่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือ?

เมื่อพยายามถามเกี่ยวกับปัญหา บริษัทต้นสังกัดของเธอปฎิเสธเรื่องที่ข้อความที่โพสนั้นมีความหมายอะไรซ่อนอยู่ กล่าวว่า ฮีบี้เพียงแค่บอกเล่าประสบการณ์ที่เขย่าขวัญของเธอในโรงแรมเท่านั้น

ทั้งฮีบี้และริชาร์ดต่างก็ปฎิเสธที่จะให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้

Xin MSN

มีรายงานว่า สมาชิกกลุ่มศิลปิน S.H.E. แห่งไต้หวันต่างก็โมโหกับคู่หมั้นของเซลิน่า สำหรับการกระทำที่ก่อให้เกิดความแตกแยกระหว่างสมาชิกในวง

เซลิน่า (Selina Ren) สมาชิกวง S.H.E. จะแต่งงานกับริชาร์ด (Richard Chang) คู่หมั้นของเธอในวันที่ 31 ตุลาคมนี้

อย่างไรก็ตาม เพื่อนๆสมาชิกวงที่เป็นทั้งเพื่อนสนิทด้วย ฮีบี้ (Hebe Tian) และเอลล่า (Ella Chen) ต่างก็ว่ากันว่า พวกเธอไม่พอใจในตัวเจ้าบ่าว หลังจากการโพสแสดงอาการโมโหเมื่อเร็วๆนี้ผ่านทางเฟซบุ๊ก (Facebook)

เมื่อสองสามวันก่อน ฮีบี้โพสอัพเดทบนเฟซบุ๊กของเธอว่า "คุณ ไม่ ใช่ ผู้ชาย [และ] ไม่ใช่แม้กระทั้งคน"

สถานะดังกล่าว ถูกตอบกลับโดยเอลล่าในทันที เอลล่าเขียนตอบกับไปว่า "[คุณ] เทียบไม่ได้แม้แต่คราบระหว่างฟันของฉัน!"

คาดกันว่า ทั้งสองคนต่างก็เขียนต่อว่าริชาร์ด ที่พยายามจะทำให้เกิดการแตกแยกของเพื่อนๆในวง

จากรายงาน หลังจากที่เซลิน่าประสบอุบัติเหตุในระหว่างการถ่ายทำ I Have A Date With Spring เธอไม่สามารถเข้าร่วมงานพรีเซนเตอร์ต่างๆได้เลย

ทำให้ริชาร์ดเกิดความไม่พอใจกับ HIM International บริษัทต้นสังกัดของพวกเขา ที่ยังคงหางานพรีเซนเตอร์ต่างๆให้กับฮีบี้ และเอลล่า ในระหว่างที่เซลิน่ากำลังรักษาตัว

มีรายงานว่า เขาเดินทางไปยังบริษัทต้นสังกัดของคู่หมั้นของเขา และร้องขอความเป็นธรรม ซึ่งในที่สุด ก็ทำให้มีการตกลงกันว่า เซลิน่าจะได้ส่วนแบ่งในการทำการพรีเซนเตอร์ของวงด้วย

นอกจากนี้แล้ว ริชาร์ดยังไม่พอใจกับการออกเพลง You เพลงล่าสุดของฮีบี้ ซึ่งตอกย้ำอาการบาดเจ็บอย่างหนักของเซลิน่าที่เพิ่งเกิดขึ้น ว่ากันว่า เขาไม่พอใจที่ฮีบี้ไม่ได้บอกกับเซลิน่าเกี่ยวกับเพลงนี้ ก่อนที่จะออกวางจำหน่าย ซึ่งทำให้เซลิน่ารู้สึกว่าไม่ได้รับการเคารพ

ว่ากันว่า ทั้งฮีบี้และเอลล่าต่างก็งง เมื่อเธอมารู้ข่าวนี้เข้า และกล่าวย้ำว่า เป็นไปไม่ได้ ที่เซลิน่า เพื่อนรักของเธอจะรู้สึกไม่ดีกับเพลงนี้ ทั้งสองคนยังกล่าวอีกว่า ริชาร์ดอาจจะเป็นคนที่กำลังทำลายความสนิทกันของสมาชิกในวง

เมื่อถูกถามให้ชี้แจงเกี่ยวกับการเรียกร้องด้านการเงินของริชาร์ด ตัวแทนของ HIM International กล่าวว่า "มันเป็นสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้อยู่แล้ว!"

1911 ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของ "เฉินหลง" (Jackie Chan) ได้เปิดฉายรอบปฐมทัศน์ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากพระเอกนักบู๊คนดังแห่งฮ่องกงแล้ว ดาราคนอื่นยังเดินทางมาร่วมงานอย่างคับคั่ง แต่ประเด็นที่หลายคนสนใจก็คือฉากเลิฟซีนร้อนแรงในหนังระหว่าง "เฉินหลง" กับ "หลีปิงปิง" (Li Bing Bing) ซึ่งล่าสุดมีการเปิดเผยว่า ฉากที่ว่าได้ถูกตัดออกจากหนังฉบับสมบูรณ์ไปเรียบร้อยแล้ว

ในหนังเรื่องนี้ เฉินหลง จะรับบทเป็น หวงซิน นายทหารผู้นำแห่งคณะปฏิวัติ ที่ต่อมายังมีบทบาทในการก่อตั้งพรรคก๊กมินตั๋ง ส่วน หลีปิงปิง สวมบทบาทเป็นหญิงคนรักของเขาที่ชื่อว่า สวีจงฮั่น ซึ่งถูกเรียกว่าเป็นวีรสตรีแห่งเซียงซาน ผู้มีบทบาทช่วยเหลือในสงครามปฏิวัติมากมาย

ซึ่งจากเนื้อหาที่อ้างอิงจากเหตุการณ์จริง และฉากสงครามยิ่งใหญ่ตระการตาแล้ว ฉากเลิฟซีนของตัวละครสามีภรรยานักปฏิวัติ ที่รับบทโดยสองนักแสดงชื่อดัง ก็ได้รับความสนใจจากทุกฝ่ายด้วย

โดยนางเอกของเรื่องอย่าง หลีปิงปิง เล่าว่าเธอต้องอาศัยไวน์แดง เพื่อเพิ่มความกล้าในการแสดงฉากเซ็กซี่ และต้องเผยเนื้อตัวในฉากนี้กันเลยทีเดียว

นางเอกสาวคนดังยังกล่าวถึงการร่วมงานกับ เฉินหลง ซึ่งปกติจะถนัดกับฉากประเภทพะบู๊มากกว่าว่า "ตอนถ่ายซีนนี้กัน เขาจะค่อนข้างอาย, ประหม่า และเครียดเหมือนกันนะคะ แต่เราต้องลืมตัวตนและแสดงออกไปให้ได้ค่ะ" ซึ่งเธอเผยว่าสุดท้ายแล้ว เฉินหลง ก็ให้การแสดงที่ดีมากในฉากนี้

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าผู้ชมจะไม่ได้พิสูจน์ถึงความร้อนแรงของฉากเลิฟซีนนี้แล้ว เพราะสุดท้ายผู้กำกับเลือกที่จะตัดฉากดังกล่าวออกจากหนังฉบับสมบูรณ์ไปในที่สุด

นอกจากคู่พระนางที่อายุห่างกันประมาณ 22 ปีแล้ว งานเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมีดาราคนอื่นมาปรากฏตัวอย่างพร้อมเพรียงกัน ทั้งนักแสดงหญิงยอดฝีมือ "โจน เช็ง", "วินสตัน เชา" ผู้สวมบทบาทเป็น "ดร. ซุนยัดเซ็น" รวมถึง "เจซี ชาน" (Jaycee Chan) ลูกชายของเฉินหลง ก็ร่วมแสดงอยู่ในหนังเรื่องนี้ด้วย

เพื่อฉลองกับการอยู่ในวงการบันเทิงมาครบ 8 ปี นักแสดงหนุ่ม "ไมค์ เหอ" (Mike He) ได้ปล่อยอัลบั้มรวมภาพถ่ายออกมาเป็มเล่มแรก ภายใต้ชื่อ Mike He: Retour Du Sud De La France เป็นงานที่หนุ่มวัย 27 ปี ได้โชว์หุ่นให้ทั้งสาวแท้สาวเทียมน้ำลายหกกันถ้วนหน้า

อดีตนายแบบที่ประสบความสำเร็จอย่างสวยงามกับอาชีพนักแสดง ไมค์ เหอ หรือ เฮ่อจวินเสียง ได้เผยภาพตัวอย่างจาก Mike He: Retour Du Sud De La France อัลบั้มรวมภาพเล่มแรกของเขาออกมาให้เห็นกันแล้ว ซึ่งภาพนู้ดสุดเซ็กซี่ ตัวอย่างส่วนหนึ่งที่จะปรากฏอยู่ในหนังสือได้สร้างความร้อนแรงให้กับผลงานชิ้นนี้ ตั้งแต่ยังไม่ได้ออกวางแผงจริงกันเลยทีเดียว

โดย ไมค์ เหอ ปล่อยภาพตัวอย่างชุดนี้ออกมาในวันที่ 19 ก.ย. และที่ฮือฮาสุดๆ ก็เห็นจะเป็นภาพที่เขานอนอยู่บนเตียง และมีเพียงหนังสือเล่มเดียวปิดจุดสำคัญของร่างกายเอาไว้เท่านั้น

หลังเผยภาพชุดนี้ออกไปก็มีความเห็นต่างๆออกมาทันที มีทั้งที่ชื่นชม และมองว่ามันดูเซ็กซี่มากเกินไป ซึ่งตัวของนักแสดงหนุ่มกล่าวว่า เขาต้องการเสนอภาพด้านที่สมบูรณ์แบบที่สุดให้กับแฟนคลับได้เห็น เป็นภาพในมุมที่ดูดีสุดของตัวเอง จึงเป็นเหตุที่อัลบั้มภาพค่อนข้างออกมาเซ็กซี่

หนุ่มวัย 27 ปี ยังแสดงความหวังว่าผู้คนจะมองผลงานชิ้นนี้ในทางศิลปะ มากกว่าจะไปสนใจกับรูปร่างของเขา หรือความโป๊เปลือยของภาพเป็นประเด็นสำคัญ

ขณะที่เมื่อผู้สื่อข่าวถามไปถึงเรื่องการเกณฑ์ทหาร จู่ๆ ไมค์ เหอ กลับเลี่ยงไปพูดถึงเรื่องการเรียนแทน โดยเขาเปรยว่าต่อไปหวังว่าต้นสังกัดจะไม่เลือกรับงานที่ตรงกับวันที่เขามีเรียน จะได้ไม่ต้องขาดเรียนอีกในอนาคต เป็นคำตอบที่ดูเหมือนจะสอดคล้องกับข้อกล่าวหาจากชาวไต้หวันและสื่อในระยะหลัง ว่านักแสดงหนุ่มหลายรายเลือกที่จะใช้เรื่องเรียน มาเป็นข้ออ้างในการหลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร ถึงขั้นที่ว่าบางคนใช้เวลาเรียนในระดับอุดมศึกษาเป็นสิบปี และดูทีท่าว่าจะไม่มีทางเรียนจบเสียทีด้วย

ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวถามซ้ำในประเด็นนี้อีก ไมค์ เหอ จึงตอบกลับไปว่า "ผมจะเกณฑ์ทหารหลังจากที่ หรวนจิงเทียน (Ethan Ruan) กับ เจิ้งหยวนช่าง (Joe Cheng) ทำหน้าที่เป็นทหารรับใช้ชาติเสร็จสิ้นก็แล้วกัน"

Manager Online

มีรายงานข่าวว่านักร้อง/นักแสดงสาวชาวฮ่องกง "อาเจียว" (Gillian Chung) กำลังเริ่มต้นสานสัมพันธ์กับหนุ่มคนใหม่แล้ว เป็นศิลปินหนุ่มสมาชิกวงบอยแบนด์แห่งไต้หวันที่อายุน้อยกว่าเธอ 2 ปี และว่ากันว่ามีหน้าตาคล้ายกับอดีตหนุ่มคนรักเก่าอย่าง "เฉินกว้านซี" (Edison Chen) ด้วย

นับแต่อยู่ในวงการบันเทิงมาได้เกิน 10 ปีแล้ว อาเจียว หรือ จงซินถง สมาชิกดูโอ Twin แห่งฮ่องกงเคยมีข่าวกุ๊กกิ๊กกับดารานักร้องหนุ่มมาหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ชอว์น หยู (Shawn Yu), จูโน มัก (Juno Mak), โปรดิวเซอร์ เบเนดิ๊กท์ ฉง (Benedict Chong) รวมถึงหนุ่มจอมฉาว เอดิสัน เฉินกว้านซี ที่ภาพระหว่างประกอบกิจกรรมทางเพศของเขาและเธอหลุดออกไปว่อนเน็ต กลายเป็นประเด็นร้อนสุดฉาวเมื่อ 3 ปีก่อน

อย่างไรก็ตามในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา อาเจียว แทบไม่เคยเปิดปากพูดถึงเรื่องรักอีกเลย จนกระทั่งล่าสุดมีรายงานว่าเธอได้เริ่มต้นสานสัมพันธ์กับหนุ่มคนใหม่แล้ว เป็นศิลปินหนุ่มที่มีชื่อในวงการว่า Owodog ที่โด่งดังขึ้นมาในฐานะสมาชิกของของวงบอยแบนด์ Lollipop F นั่นเอง

Owodog วัย 28 ปี ที่มีชื่อจริงว่า จวงหาวเฉวียน (Zhuang Hao Quan / Ao Quan) เข้าวงการบันเทิงมาตั้งแต่ปี 2006 มีทั้งงานเพลงและงานแสดง นอกจากนั้นหลายคนยังคิดว่าเขามีหน้าตาที่ใกล้เคียงกับ เฉินกว้านซี อยู่ไม่น้อย จนมีข่าวลือถึงขั้นที่ว่า อาเจียว เป็นฝ่ายขายขนมจีบเข้าหาหนุ่มรุ่นน้องที่อายุน้อยกว่าเธอ 2 ปีคนนี้ก่อนเลยทีเดียว

โดยในงานแจกรางวัลรายการหนึ่งที่ฮ่องกง ซึ่งจัดขึ้นเมื่อประมาณ 1 เดือนก่อน มีรายงานว่า Owodog ได้เดินไปด้านหลังเวที เพื่อมอบดอกไม้ให้กับ Twin ซึ่ง อาเจียว ก็รับเอาไว้และขอบคุณกลับว่า "ขอบคุณสำหรับดอกกุหลาบนะ, Owodog"

เช่นเดียวกับเมื่อเร็วๆนี้ อาเจียว ก็เปรยผ่านเว็บไซต์ถึงหนัง You Are The Apple of my Eye งานใหม่ของ Owodog ที่เปิดฉายไปเมื่อวันที่ 19 ส.ค. ว่าเธออยากดูหนังเรื่องนี้มาก จนรอแทบไม่ไหวแล้ว ซึ่งฝ่ายชายก็ตอบถึงเรื่องนี้ว่า "หนังจะเข้าที่ฮ่องกงในเดือน พ.ย. นะครับ แต่ถ้ารอไม่ไหวก็มาดูที่ไต้หวันเลยซิ"

ซึ่ง อาเจียว ก็เขียนข้อความกลับไปอีกครั้งว่า "ฉันจะไม่ได้อยู่ฮ่องกงตั้งแต่เดือน ต.ค. จนถึงช่วงปีใหม่เลย เธอช่วยซื้อตั๋วเครื่องบินไปไต้หวันให้หน่อยซิ ฉันจะได้ดูหนังตอนนี้เลย"

หลังจากเตรียมงานกันมานานในที่สุดงาน “ปาร์ค ยูชอน เอ็กซ์คลูซีฟ แฟน มีตติ้ง อิน ไทยแลนด์ : อะ เดท วิท ยูชอน” (Park Yuchun Exclusive Fan Meeting in Thailand :A Date with Yuchun) ค่ำคืนแห่ง ‘เดทแรก’ ระหว่าง ปาร์คยูชอน นักร้องซูเปอร์สตาร์วง JYJ และพระเอกดาวรุ่งจากซีรีส์ Sungkyunkwan Scandal (บัณฑิตหน้าใส...หัวใจว้าวุ่น) และ Miss Ripley ที่บริษัท โฟร์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด นำทีมโดย “กึ้ง” เฉลิมชัย มหากิจศิริ ทุ่มเททำเพื่อเอาใจคนรักปาร์คยูชอน ก็จบลงด้วยความประทับใจ ทำเอาบรรยากาศในอิมแพ็ค ฮอลล์ 3 อบอวลด้วยรอยยิ้ม

โดยยูชอนปรากฏตัวขึ้นบนเวทีในคอสตูมเสื้อขาวทับด้วยแจ็กเก็ตดำ ที่ใครเห็นก็ต้องกรี๊ดสลบในความหล่อ หลังจากทักทายผู้ชมกันพอหอมปากหอมคอ เจ้าตัวก็ได้เผยถึงความรู้สึกที่ได้จัดแฟนมีตติ้ง ว่าตื่นเต้นเนื่องจากเป็นครั้งแรกที่เดินทางมาประเทศไทยคนเดียว และไม่คิดว่าจะมีแฟนคลับมารอเยอะขนาดนี้ ซึ่งที่จริงเขา และแจจุงกับจุนซู สมาชิก JYJ อีก 2 คนที่เหลือ วางแพลนไว้ว่าจะมาเที่ยวเมืองไทยแบบลับๆ หลังปิดกล้องซีรีส์ Miss Ripley แต่ด้วยคิวงานที่ไม่ตรงกันจึงทำให้คิวงานต้องพับเก็บไปโดยปริยาย แต่เจ้าตัวก็กระซิบมาว่าชอบเมืองไทยมาก รับรองว่าจะต้องแอบมาเที่ยวให้สำเร็จจงได้... ไหนๆก็พูดถึง 2 หน่อ JYJ ก็เลยอยากรู้ว่าก่อนเดินทางมาฉายเดี่ยวที่เมืองไทย 2 หนุ่มได้ให้กำลังใจเขาอย่างไรบ้าง ปรากฏว่าคำตอบของยูชอน ได้รับเสียงกรี๊ดสนั่นฮอลล์ “จุนซูบอกผมว่า เดินทางดีๆนะ ส่วนแจจุงเข้ามากอดผมครับ... อ๊ะ..กอดแบบเพื่อนนะครับ อย่าคิดลึก” ส่วนใครที่รออัลบั้มใหม่ของ JYJ ยูชอนก็แง้มข่าวดีว่า อัลบั้ม JYJ In Heaven วางจำหน่ายแล้ว

ในวันที่ 27 ก.ย. นี้จะเป็นวันเกิดอายุครบรอบ 50 ปี ของ "หลิวเต๋อหัว" (Andy Lau) แต่พระเอกซูเปอร์สตาร์แห่งวงการบันเทิงฮ่องกงเลือกที่จะจัดงานฉลองขึ้นก่อนเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว เป็นงานที่ห้อมล้อมไปด้วยทั้งแฟนคลับ และเพื่อนสนิทในวงการมากมาย ไม่ว่าจะเป็น "เจิ้งจื่อเหว่ย" (Eric Tsang Chi Wai) กับ "เฉินเจียเล่อ" (Chin Kar Lok) ที่รับหน้าที่พิธีกร หรือ "หลี่เคอะฉิน" (Lee Hak Kun), "หวงซิวเซิง" (Anthony Wong Chau Sun) ฯลฯ ที่ร่วมเป็นแขกในงาน

ทุกปี หลิวเต๋อหัว จะจัดงานฉลองวันเกิดขึ้นกับแฟนๆ แต่ในปีนี้ที่เขาจะมีอายุ 50 ปีเต็มพระเอกคนดังเลือกที่จะจัดงานพิเศษแบบล่วงหน้าไปแล้วเมื่อวันที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา เป็นงานที่เชิญเหล่าแฟนคลับ และพี่น้องในวงการมาร่วมงาน โดยแขกทุกคนต้องร่วมบริจาคเงินให้กับองค์กรการกุศลด้วย

ขณะที่เพื่อนๆที่ไม่ได้เดินทางมาร่วมงานอย่าง เจิ้งซิ่วเหวิน (Sammi Cheng Sau Man), หลินจื่อเสียง (George Lam Chi Cheung), อู๋เจิ้นหยู (Sandra Ng Kwan Yu), กงลี่ (Gong Li) รวมถึงคนอื่นๆ ก็ส่งวิดีโอมาแสดงความยินดี

ในช่วงหนึ่งของงาน เจิ้งจื่อเหว่ย กับ เฉินเจียเล่อ ที่เป็นพิธีกรได้เปิดโอกาสให้บรรดาแขกร่วมเล่นเกม กับการตอบคำถามในหัวข้อที่ว่า "หากคุณได้เป็นหลิวเต๋อหัว" โดย หลี่เคอะฉิน บอกว่าถ้าเขาได้เป็นพี่หลิวขึ้นมาจริงๆ ก็จะเจียดเงินไปซื้อสถานีโทรทัศน์และสถานีวิทยุมาเป็นของตัวเองซะเลย

ขณะที่หวงซิวเซิงคิดว่าถ้าตัวเองได้เป็นพระเอกอันดับ 1 แห่งวงการบันเทิงฮ่องกง ก็คงจะซื้อย่านคอสเวย์เบย์มาเป็นของตัวเองซักวัน สำหรับปิดถนนฉลองกับแฟนๆ และอาจจะพาภรรยามาเดินเล่นโดยไม่ต้องกังวลกับกล้องของปาปารัสซี่ด้วย

ท่ามกลางแขกเหรื่อมากมายในงานวันเกิดปีที่ 50 ของ หลิวเต๋อหัว นักแสดงหญิงรุ่นพี่ที่เขาเคารพอย่าง “เยี่ยเต๋อเสียน” กลายเป็นดาวเด่นแห่งคำคืนในวันนั้น

“อู๋ฉีลี่” (Elaine Ng) อดีตชู้รักของดาราแอ็กชั่นคนดังแห่งฮ่องกง กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสื่อครั้งล่าสุด ว่าเธอมีแผนจะเล่าเรื่อง เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของตนเองกับ “เฉินหลง” (Jackie Chan) ให้ลูกฟังมากขึ้น ที่แม้ความสัมพันธ์ของเขากับเธอจะเริ่มต้นและจบลงอย่างไม่ค่อยสวย แต่อดีต “มิสเอเชีย” ก็ยืนยันว่าเธอจะไม่สอนลูกให้เกลียดพ่ออย่างเด็ดขาด

ข่าวฉาวเมื่อปี 1999 ที่ อู๋ฉีลี่ นักแสดงและอดีตมิสเอเซีย ปี 1990 ประกาศว่าเธอได้ตั้งท้องโดยที่ยังไม่ได้แต่งงาน และพ่อของเด็กก็คือซูเปอร์สตาร์แห่งวงการภาพยนตร์ฮ่องกง เฉินหลง ผู้มีภรรยาอยู่แล้ว จนเรื่องนี้กลายเป็นปัญหาเป็นเรื่องเสื่อมเสียที่ติดตัวนักบู๊ชื่อดังมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา รวมถึงถ้อยคำที่เขากล่าวออกมาจนถูกวิจารณ์ไปทั่วว่า “ผมทำเรื่องผิดพลาดลงไป เป็นความผิดแบบที่ผู้ชายหลายๆคนเคยทำ ... ผมยินดีรับผิดชอบ ถ้าเด็กเป็นลูกของผมครับ”

ถึงตอนนี้ เอ็ตต้า อู๋ ลูกสาวของ เฉินหลง ใกล้มีอายุได้ 12 ขวบแล้ว และผู้เป็นแม่อย่าง อู๋ฉีลี่ ก็กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าเธอกำลังจะตัดสินใจจะพูดกับลูก ในหลายๆเรื่องเกี่ยวกับตัวเอง และผู้เป็นพ่ออย่าง เฉินหลง ให้มากขึ้น ….“ฉันไม่ต้องการให้ลูกเกลียดเขาค่ะ นั่นเป็นวิธีที่ฉันเลี้ยงลูกมา” เธอกล่าวยืนยัน

ในการเลี้ยงดูหนูน้อย เอ็ตต้า อู๋ ตามลำพังคนเดียว อู๋ฉีลี่ กล่าวว่าเธอพยายามสอนลูกให้มองถึงด้านที่ดีงามในชีวิต “ฉันบอกลูกเสมอค่ะ ว่าเหรียญต้องมีสองด้าน ลูกอาจจะไม่มีพ่ออยู่ด้วย แต่ก็ได้อะไรหลายๆอย่างในชีวิตที่คนอื่นขาด”

“แม้อาจจะรู้สึกไม่ชอบอะไรบางสิ่งบางอย่าง ที่เกิดขึ้นในชีวิตอยู่บ้าง แต่ไม่เคยเลย, ไม่เคยเลยจริงๆ ที่จะมีความเกลียดชังในหัวใจของแก” อู๋ฉีลี่ กล่าว “เวลาลูกถามเกี่ยวกับอดีตของฉัน ฉันจะบอกแกว่าตัวเองเคยพลั้งเผลอทำเรื่องผิดพลาดไป เมื่อตอนที่ยังอายุน้อย ฉันเป็นคนชอบเอาชนะ ทำแต่สิ่งที่ตัวเองพอใจ ไม่เคยคิดถึงผลที่ตามมา แต่สุดท้ายก็ไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย เพราะท้ายที่สุดลูกก็คือสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตที่เกิดขึ้นกับฉัน”

Manager Online

ซูเปอร์สตาร์ไต้หวัน “เจย์ โชว” (Jay Chou) ควักกระเป๋าลงทุนในบริษัทผลิตแอปพลิเคชันมือถือ 31SMS หวังแข่งกับแอปฯ แชตยอดฮิตอย่าง Whatsapp ช่วงชิงตลาดผู้ใช้งานชาวจีนไต้หวัน-ฮ่องกง-แผ่นดินใหญ่กว่า 300 ล้านคน

หลังจากที่ Whatsapp แอปพลิเคชันแชต ยอดฮิตบนโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเป็นที่ตอบรับทั่วโลก โดยมีผู้ใช้กว่า 15 ล้านคน และก้าวมาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของแบล็กเบอรี แมสเซนเจอร์ (BBM) เนื่องจาก Whatsapp เอื้ออำนวยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานข้ามระบบหรือแพลตฟอร์มที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น บีบี ไอโฟน แอนดรอยด์ หรือโนเกีย ล่าสุดดารา-นักร้องระดับซูเปอร์สตาร์ของเกาะไต้หวันอย่าง โจว เจี๋ยวหลุน หรือ เจย์ โชว ก็มองเห็นโอกาสในเส้นทางของนักลงทุนด้านอุตสาหกรรมไอที ด้วยการควักกระเป๋าตัวเองเพื่อลงทุนกับบริษัทผู้ผลิต แอปฯ ในลักษณะดังกล่าวบ้างแล้ว

เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ไชน่าไทมส์ของไต้หวันรายงานข่าวว่า ดารานักร้องชื่อก้องอย่าง เจย์ โชว ได้ควักกระเป๋าลงทุนในบริษัทผู้พัฒนาแอปพลิเคชันที่ชื่อ 31SMS (อ่านว่า ซานอีเอสเอ็มเอส) แอปพลิเคชันในลักษณะเดียวกันกับ Whatsapp ทว่า ผู้พัฒนาเป็นชาวไต้หวัน โดยหวังว่าในอนาคตแอปพลิเคชันนี้จะสามารถทำรายได้ให้กับตัวเองและบริษัทได้ถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน ทว่าไม่มีการเปิดเผยแต่อย่างใดว่าเขาทุ่มเงินลงทุนไปเท่าไหร่

รายงานดังกล่าวระบุด้วยว่า จากสถิติปัจจุบันไต้หวันที่มีประชากรทั้งสิ้นราว 23 ล้านคน ใช้บริการแอปฯ ฟรีประเภทนี้เพื่อส่งข้อความและข้อมูลระหว่างกันมากถึงวันละ 100 ล้านครั้ง ขณะที่เจย์ โชว ก็ตั้งเป้าหมายว่า นอกจากทำตลาดบนเกาะไต้หวันแล้ว เขาจะนำแอปพลิเคชันดังกล่าวบุกตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ โดยตั้งเป้าหมายว่าชาวจีนแผ่นดินใหญ่ 300 ล้านคนจะดาวน์โหลดแอปฯ ดังกล่าวไปใช้ นอกจากนี้ยังวางแผนใช้ 31SMS เป็นพื้นฐานในการเผยแพร่ผลงานชิ้นใหม่ของตัวเอง รวมถึงให้บริการอื่นๆ เช่น ติดตามข้อมูลข่าวสาร, เรียนภาษา, หางาน อีกด้วย

“เจย์ โชว ตั้งเป้าหมายว่าต่อไปมิวสิกวิดีโอ, คอนเสิร์ต, รายงานข่าวเกี่ยวกับผลงานใหม่ของเขา จะใช้แอปฯ 31SMS นี้เป็นแหล่งเผยแพร่ เหมือนกับที่เขาใฝ่ฝันว่าจะมี ‘ช่อง J’ เป็นของตัวเอง” ไชน่าไทมส์ระบุ

นักแสดงหญิงชื่อดังแห่งวงการบันเทิงฮ่องกง "หยวนหย่งอี้" (Anita Yuen) ยอมรับในการให้สัมภาษณ์ครั้งล่าสุดกับสื่อท้องถิ่น ว่าครั้งหนึ่งในชีวิตเธอเคยมีสถานภาพเป็นมือที่สาม เมื่อตัดสินใจสานสัมพันธ์กับคนที่มีครอบครัวแล้ว

Channel News Asia อ้างบทสัมภาษณ์ของ หยวนหย่งอี้ กับนิตยสารแนวแท็ปลอยด์ฉบับหนึ่งในฮ่องกง ที่ดาราวัย 40 ปี ยอมรับว่าเธอเคยมีประสบการณ์เป็น "อีหนู" หลังเลือกที่จะสานสัมพันธ์กับชายที่มีครอบครัวแล้ว เมื่อสมัยเข้าวงการบันเทิงมาใหม่ๆ หรือเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน

โดยเธอยอมรับว่าคบหากับนักธุรกิจผู้ร่ำรวยรายนี้ ภายหลังตนเองเพิ่งได้ครองตำแหน่งมิสฮ่องกงเมื่อปี 1990 หรือตอนที่อายุได้ 18 ปี เป็นช่วงที่เริ่มมีงานในวงการเข้ามาบ้างแล้ว หลายคนจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าเหตุใดเธอจึงตัดสินใจเช่นนั้น

"คนเยอะแยะเลยที่ไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงได้ยอมรับ 'การดูแล' จากเขา และยอมเป็นมือที่ 3 แต่ตอนนั้นฉันเคยคิดว่ามันไม่น่าจะผิดอะไร กับความสัมพันธ์แบบนั้น" หยวนหย่งอี้ กล่าว

"มันเกิดขึ้นง่ายๆค่ะ เขาเข้ามาจีบ และฉันก็ตกลง เป็นความสัมพันธ์ที่แฮปปี้ดี เขาซื้อดอกไม้ให้ในวันเกิด ฉันไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นเมียน้อย และมีความรู้สึกดีๆให้กับเขา"

"ตอนฉันเป็นมือที่สาม ความสุขมันบังตาไปหมดทุกอย่าง แน่นอนเมื่อเติบโตขึ้นในช่วงหลายปีมานี้ ฉันรู้ว่าตัวเองได้ทำให้บางคนต้องเจ็บปวด โชคดีที่ฉันกลับตัวทัน และไม่ได้ทำอะไรเสียหายมากมายอย่างที่อาจจะเกิดขึ้นได้"

ก่อนหน้านี้ หยวนหย่งอี้ เคยเปรยถึงเรื่องที่ว่า เธอเคยเป็นมือที่สามของใครบางคน ในการให้สัมภาษณ์กับรายการโทรทัศน์ของ TVB มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 4 ปีก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอพูดถึงรายละเอียดของเรื่องราวต่างๆในครั้งนั้น เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุใดเธอจึงยอมเปิดเผยเรื่องแบบนี้ หยวนหย่งอี้ อธิบายว่า มันคือสิ่งที่เธอได้ทำลงไปจริงๆและคิดว่าการยอมรับความจริงก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร

นักแสดงหญิงชื่อดังแห่งวงการบันเทิงฮ่องกง “จางม่านอวี้” (Maggie Cheung) คบหากับแฟนหนุ่มวัย 39 ปี “โอเล เชียเรน” มาได้ 4 ปีเต็มแล้ว ครั้งหนึ่งถึงขั้นมีข่าวว่าทั้งสองจะจูงมือกันเข้าประตูวิวาห์ แต่ล่าสุดกลับมีข่าวว่าคู่รักคนดังคู่นี้ ได้ยุติความสัมพันธ์กันแล้ว

เมื่อครั้งหนึ่ง จางม่านอวี้ วัย 46 ปี เคยเปรยถึงเรื่องการเข้าประตูวิวาห์ครั้งที่สอง ว่าเป็นหนึ่งของแผนการในชีวิตของเธอ นอกจากนั้นยังกล่าวถึงแฟนหนุ่มรุ่นน้อง โอเล เชียเรน สถาปนิกระดับโลกชาวเยอรมันว่าทั้ง “หล่อ, มีพรสวรรค์ และเอาใจใส่”

อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นกลับมีข่าวว่า เชียเรน นอกใจเธอด้วยการไปสานสัมพันธ์กับดีไซเนอร์สาวจีนวัย 30 เศษคนหนึ่ง ข่าวลือเรื่องการยุติความสัมพันธ์ที่ดำเนินมา 4 ปีเต็มจึงเริ่มถูกพูดถึง

หลังข่าวเรื่องการคบหากับหญิงคนใหม่เริ่มถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ จางม่านอวี้กลับกล่าวว่า “เธอไม่มีแผนจะแต่งงานใหม่อีกแล้ว” ข่าวการเลิกราจึงร้อนแรงขึ้นมาอีก นอกจากนั้นยังมีรายงานว่าเธอได้ย้ายออกมาจากรังรักที่ใช้พักอาศัยกับแฟนหนุ่มในปักกิ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

และไม่กี่วันที่ผ่านมานี่เอง ที่สื่อฮ่องกงได้ตีพิมพ์ภาพล่าสุดของ จางม่านอวี้ ระหว่างเดินทางกลับมาที่ฮ่องกง ซึ่งเธอดูซูบผอมไปมาก เรียกว่าผอมจนเห็นกระดูก และท่าทางเหมือนอยู่ในอาการช้ำรัก

จางม่านอวี้ ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักแสดงชาวจีนที่มีฝีไม้ลายมือทางการแสดงยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งในยุคปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม สำหรับการมีคู่ ดูเหมือนว่าชีวิตของเธอจะไม่ค่อยราบรื่นนัก ก่อนหน้านี้เธอเคยแต่งงานกับผู้กำกับชาวฝรั่งเศส โอลิวิเยร์ อัสซายาส อยู่ 3 ปี ก่อนชีวิตคู่ครั้งนั้นจะจบลงด้วยการหย่าร้าง

โดยช่วง 6 ปีที่ผ่านมา จางม่านอวี้ เลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย และรับงานน้อยมาก เธอแทบจะไม่ได้แสดงหนังอะไรเป็นจริงเป็นจังเลย มีเพียงการแสดงรับเชิญ และหนังสั้นแนวทดลองอยู่บางเรื่องเท่านั้น

Manager Online

นักแสดงหนุ่มจอมฉาว "เฉินกว้านซี" (Edison Chen) ต้องถึงคราวต้องเป็นฝ่ายถูกหักอกบ้าง ภายหลังมีรายงานว่าแฟนสาวที่คบหากันมานาน 5 ปีเต็มได้สะบั้นรักตัดสัมพันธ์กับเขาเป็นที่เรียบร้อย

หลังจากคบหาดูใจกันมาได้ 5 ปีเต็ม ผ่านทั้งมรสุมชีวิต และเคยกระทั่งมีข่าวว่าจะเข้าพิธีแต่งงานกัน ล่าสุดมีข่าวระบุว่า เอดิสัน เฉินกว้านซี กับแฟนสาว วินซี หยังหยงจิง (Vincy Yeung) ได้ยุติความสัมพันธ์กันแล้ว ซึ่งตามรายละเอียดของข่าว กลายเป็นเป็นฝ่ายชายที่ถูกทิ้ง เพราะพฤติกรรมในระยะหลังของเขา ซึ่งยังมีข่าวกับผู้หญิงไม่หยุดไม่หย่อยเสียทีนั่นเอง

โดยสื่อจากจีนเชื่อกันว่า การตัดสินใจดังกล่าว เกิดขึ้นจากความไม่พอใจในหลายๆ เหตุการณ์ทั้งเมื่อครั้งที่ เฉินกว้านซี ได้พบกับ จางป๋อจือ (Cecilia Cheung) บนเที่ยวบนโดยบังเอิญ และแสดงความสนิทสนมกันเกินปกติว่าคือหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญ จนกลายเป็นเรื่องใหญ่ในสื่อ เช่นเดียวกับเมื่อเร็วๆนี้ ที่มีข่าวนางแบบเซ็กซี่ กลอเรีย หว่อง ออกมาเผยถึงความสัมพันธ์กับเขา กับคำอ้างที่ว่า เอดิสัน ส่งข้อความทางอินเตอร์เน็ทมาขอขึ้นเตียงกับเธอ

วินซี หยัง เป็นหลานสาวของ อัลเบิร์ต หยัง ผู้ก่อตั้งบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ EGG โดยข่าวการคบหากันของเธอกับศิลปินหนุ่มจอมฉาว เริ่มเป็นที่รับรู้กันในวงกว้างเมื่อช่วงปี 2007 เมื่อฝ่ายของ เอดิสัน เปิดเผยว่าเขากำลังคบหาอยู่กับผู้หญิงที่มีชื่อว่า "V" ต่อมาจึงประกาศต่อสาธารณะชนว่า วินซี หยัง คือแฟนสาวของเขา นอกจากนั้นที่ผ่านมาศิลปินหนุ่มชื่อดังยังเคยให้สัมภาษณ์ว่าเพราะแฟนสาวคนนี้ ที่ทำให้เขาเลิกนิสัยเพลย์บอย และเสือผู้หญิง นอกจากนั้นยังเคยวางแผนจะแต่งงานกับเธอด้วย

ที่ผ่านมา วินซี หยัง ถือว่าเป็นคนที่ยืนเคียงข้างศิลปินหนุ่มจอมฉาวมาโดยตลอด แม้ในตอนที่เอดิสันจะต้องตกเป็นจำเลยของสังคม ในเหตุการณ์ที่ภาพหวิวของเขา กับดาราสาวหลายคนในวงการ หลุดออกไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์ จนเป็นเรื่องอื้อฉาวนานหลายปี

"บางครั้งมันเหมือนกับโลกจะแตก มันหนักหนาสาหัสจนแทบจะวัดไม่ได้เลยว่ารุนแรงแค่ไหน ผมอยู่กับแฟนของผม เธอช่วยให้ผมคิดอะไรในแง่บวก เธอจะอยู่ตรงนั้นเพื่อผมเสมอ" เอดิสัน กล่าวถึงแฟนสาวกับชีวิตของเขาเมื่อต้องเจอกับวิกฤติหนัก

แม้จะยังไม่ได้ตอบรับยืนยันในความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับศิลปินหนุ่มคนดังของประเทศ แต่นางแบบสาววัย 18 ปี “ฮันนาห์ ควินลิแวน” (Hannah Quinlivan) ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวในงานอีเวนต์แห่งหนึ่ง ว่าตนเองพร้อมที่จะแต่งงานเป็นเจ้าสาวแล้ว

ในงานอีเวนต์แสดงเครื่องเพชรแห่งหนึ่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ฮันนาห์ ควินลิแวน นางแบบลูกครึ่งวัย 18 ปี ได้โอกาสพูดถึงการเดินทางไปพักผ่อนที่ฝรั่งเศสของเธอเองกับ เจย์ โจว (Jay Chou) หรือ โจวเจี๋ยหลุน ศิลปินหนุ่มคนดังแห่งไต้หวัน เมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมาว่า “ส่วนใหญ่เราจะคุยกันด้วยภาษาจีนกลางค่ะ และตอนทริปที่ฝรั่งเศส ฉันก็นอนคนเดียวนะคะ”

ฮันนาห์ ที่เรียกความสัมพันธ์ของเธอกับศิลปินหนุ่มคนดังว่า “เป็นเพื่อนสนิทกัน” ยังแสดงความเห็นว่าการจะบอกว่าใครเป็นแฟนกันนั้น ก็คงต้องให้ถูกพบเห็นไปไหนมาไหนแบบจับมือถือแขนกันก่อน อย่างไรก็ตามนางแบบวัย 18 ปี ยังปฏิเสธที่จะยืนยันถึงสถานภาพความสัมพันธ์ของเธอกับ เจย์ โจว ในตอนนี้ แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องการแต่งงาน เธอสามารถตอบได้ทันทีว่า “ฉันพร้อมแล้วนะคะ”

ก่อนหน้านี้ Sina.com เคยอ้างคำพูดจากเพื่อนสนิทคนหนึ่งของนางแบบสาวลูกครึ่งออสเตรเลีย-ไต้หวันที่ว่า “เธอจริงจังกับ เจย์, เธออยากจะแต่งงานกับเขา และเขาก็อยากจะมีลูกกับเธอด้วย”

ด้านต้นสังกัดของฝ่ายหญิงก็กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ฮันนาห์ อายุ 18 ปีแล้ว ถ้าหากเธออยากจะแต่งงานจริงๆ เราก็จะไม่ห้าม เพราะมันเป็นเรื่องที่ดีออก”

Manager Online

ในงานประกาศรางวัลทางภาพยนตร์ Huabiao Film Awards ครั้งที่ 14 เมื่อสัปดาห์ก่อน การปรากฏตัวในชุด “ซีทรู” สุดเซ็กซี่ของนักแสดงสาว “หยวนลี่” (Yuan Li) กลายเป็นสิ่งที่เบียดทุกข่าว ไม่ว่าจะเป็นผลรางวัล หรือการมาร่วมงานของดาราชื่อดังระดับโลก ให้ตกขอบไปหมด … ซึ่งล่าสุดหลังโดนวิจารณ์หนักดาราสาวคนดังกล่าวได้ออกมาขอโทษต่อความผิดพลาดครั้งนั้นแล้ว

งานแจกรางวัล Huabiao Film Awards มีนักแสดงชื่อดังเดินทางมาร่วมงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น จางจื่ออี๋ (Zhang Ziyi) หรือ กงลี่ (Gong Li) ที่ปรากฏโฉมด้วยมาดนางพญาแห่งวงการบันเทิงจีนเช่นเดิม

แต่สุดท้ายกลับเป็นดาราสาวชื่อเสียงระดับรองอย่าง หยวนลี่ ที่กลายเป็นข่าวใหญ่ที่สุดในงานดังกล่าว กับชุดราตรีซีทรูสีดำสุดเซ็กซี่ ที่บางจนเผยให้เห็นบั้นท้ายกับกางเกงชั้นในจีสตริงที่เธอสวมอยู่เลยทีเดียว

หลังภาพของเธอปรากฏในสื่อหลายสำนัก เรื่องดังกล่าวจึงถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานา บางคนบอกว่า หยวนลี่ ดูสวยมีเสน่ห์ในชุดดังกล่าว ขณะที่บางคนมองว่าเธอดูจะอวดเนื้อหนังมังสามากเกินพอดีไปหน่อย

ขณะที่ตัวเธอยอมรับว่ารู้สึกตกใจเหมือนกันที่เห็นรูปตัวเองในสื่อ และอ้างว่าเป็นเพราะไม่ได้คิดเรื่องแสงแดดแรงๆในวันนั้น ที่สุดท้ายทำให้ชุดของเธอมองทะลุไปถึงชั้นใน จนต้องเปิดเผยเนื้อตัวมากเกินกว่าที่คิดแบบนั้น

กระทั่งล่าสุด หยวนลี่ ได้เขียนข้อความในเว็บไซต์ Weibo เพื่อขออภัยถึงเรื่องทั้งหมดอย่างเป็นทางการแล้ว โดยยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีเจตนา ที่จะอยากดังอย่างที่มีคนกล่าวหาอย่างแน่นอน “มันเป็นชุดเซ็กซี่ค่ะ แต่ด้วยความผิดพลาดของตัวฉันเอง มันจึงดูไม่ค่อยเหมาะสมกับงานในวันนั้นเท่าไหร่ สุดท้ายนี้อยากจะขอโทษคณะกรรมการผู้จัดงานแจกรางวัลอีกครั้งค่ะ”

Manager Online

นักร้องสาวชื่อดัง “โคโค ลี” (Coco Lee) กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์กับแฟนหนุ่มชาวต่างชาติ ที่งานนี้มีข่าวว่าคู่บ่าวสาวทุ่มทุนจัดงานด้วยเม็ดเงินมหาศาลที่คิดเป็นเงินไทยแล้วตกราว 300 ล้านบาทเลยทีเดียว

โคโค ลี และแฟนหนุ่มมหาเศรษฐีชาวแคนาดา บรูซ ร็อคโควิตซ์ กำลังจะจูงมือกันเข้าประตูวิวาห์ในวันที่ 28 ต.ค. นี้ ซึ่งว่ากันว่าพิธีดังกล่าวจะใช้เงินราว 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 300 ล้านบาท เลยทีเดียว

นอกจากค่าใช้จ่ายทั่วๆไปแล้ว ในพิธีซึ่งจะจัดกันในฮ่องกงนี้ คู่บ่าวสาวจะรับผิดชอบอำนวยความสะดวกในการเดินทางของเพื่อนๆ และญาติๆ ด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว นอกจากนั้นยังจะจัดเตรียมช่างทำผม และช่างแต่งหน้าให้กับแขกทุกคนด้วย

โดยมีข่าวว่าพิธีสมรสของ โคโค ลี จะเต็มไปด้วยแขกคนดังจากแวดวงบันเทิงระดับโลก ซึ่งมีรายงานยืนยันว่า โอปราห์ วินฟรีย์ พิธีกรผู้ทรงอิทธิพลแห่งวงการโทรทัศน์สหรัฐฯ ก็จะร่วมเดินทางมาเป็นเกียรติในงานด้วย ขณะเดียวกันยังมีการส่งบัตรเชิญไปให้กับนักร้องสาวชื่อดังชาวอเมริกา บียอนเซ่ ด้วย แต่ขณะนี้เพราะเธอกำลังอยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ลูกคนแรก จึงยังไม่มีการยืนยันว่าสุดท้ายแล้ว บียอนเซ่ จะสามารถเดินทางไกลมาร่วมงานครั้งนี้ได้หรือไม่

โคโค ลี หรือ หลี่เหวิน วัย 36 ปี ได้หมั้นหมายกับ บรูซ ร็อคโควิตซ์ ประธานแห่ง Li & Fung บริษัทจัดหาสินค้ายักษ์ใหญ่ที่มีมูลค่าประมาณ 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังจากคบหาดูใจกันมาประมาณ 7 ปี

ซึ่งนอกจาก โคโค ลี แล้วในเดือน ต.ค. ปี 2011 ยังจะมีดาราสาวชาวจีนอีกอย่างน้อย 2 คนที่ตัดสินใจเข้าประตูวิวาห์เพื่อเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่ด้วยเช่นเดียวกัน

โดยนักร้องสาว แคเรน ม็อก (Karen Mok) กับแฟนหนุ่มชาวต่างชาติ จะจัดพิธีแต่งงานเล็กๆ ที่เป็นส่วนตัวขึ้น ในวันที่ 1 ต.ค. ในเมือง ฟลอเรนซ์ อิตาลี ซึ่งจะไม่มีการเชิญแขกคนดังในวงการให้มาร่วมงานครั้งนี้แต่อย่างใด แต่คู่บ่าวสาวจะกลับไปจัดพิธีฉลองกันที่ฮ่องกงกันในโอกาสต่อไปแทน

ส่วน เซลีนา (Selina) แห่งวง S.H.E. ที่ต้องเลื่อนวันสมรสจากปีก่อน เพราะอุบัติเหตุถูกไฟคลอกในกองถ่ายหนัง ก็จะเข้าประตูวิวาห์กับแฟนหนุ่ม ริชาร์ด จาง ในวันที่ 31 ต.ค. นี้แล้ว ซึ่งในวันนั้นยังถือว่าเป็นวันคล้ายวันเกิดปีที่ 30 ของเจ้าสาวด้วย

ภาพของหนุ่มคนหนึ่ง ที่เปลือยกายล่อนจ้อนต่อหน้ากล้อง กลายเป็นประเด็นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพราะใบหน้าที่คล้ายกับ "เจอรี" (Jerry Yan) แห่งวง F4 จนทำให้หลายๆคนเกิดอาการไขว้เขว แต่สุดท้ายต้นสังกัดของศิลปินหนุ่มคนดังก็สามารถไขข้อข้องใจได้ ว่าหนุ่มคนนี้สุดท้ายก็เป็นเพียงคนหน้าคล้ายเท่านั้นจริงๆ

แม้จะมีการเซ็นเซอร์บางส่วนของภาพเอาไว้แล้ว แต่ภาพเปลือยด้านหน้าของหนุ่มคนหนึ่งที่วาบหวิวสุดๆ ก็กลายเป็นประเด็นใหญ่ในวงการบันเทิงจีนขึ้นมาจนได้ เพราะหนุ่มคนดังกล่าวมีใบหน้าที่ละม้ายคล้ายคลึงกับ เจอรี เอฟโฟ หรือ เหยียนเฉิงซวี่ อยู่มากทีเดียว จนถึงขั้นมีการถกเถียงในประเด็นดังกล่าวมากมาย บ้างก็ว่าเป็นเพียงคนหน้าคล้าย, บ้างก็ว่าชายในภาพไม่เห็นเหมือนกับนักร้องคนดังจากไต้หวันเลย ขณะที่มีอีกหลายคนสงสัยว่านี่จะกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวสุดๆ ของวงการบันเทิงในอนาคตอันใกล้นี้หรือไม่

จนกระทั่งเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ต้นสังกัดของนักร้องหนุ่มคนดังได้พยายามค้นหาความจริงในเรื่องนี้ เพื่อพิสูจน์ว่าเจอรี่จะไม่ได้ไปพัวพันอยู่กับเหตุอื้อฉาวใดๆ และในที่สุดก็สามารถค้นหาผู้ที่ปล่อยภาพนี้เป็นคนแรกได้ เป็นนักท่องเน็ตรายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Huayi staff ที่เขาหมายถึง Huayi Brothers Media Corporation บริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ของจีนแผ่นดินใหญ่นั่นเอง

Huayi staff ยอมรับว่าเขาเป็นผู้ปล่อยภาพดังกล่าวลงเน็ต และหนุ่มในภาพก็ไม่ใช่ เจอรี เอฟโฟ แต่เป็นดาราหนังโป๊จากญี่ปุ่น นอกจากนั้นยังอ้างว่าตนเองไม่เคยบอกว่าคนในรูปคือ เจอรี แต่อย่างใด

หลังความจริงปรากฏตัวของ เจอรี ที่ขณะนี้ทำงานอยู่ในประเทศจีน ยอมรับว่าเขา “แฮปปี้สุดๆ” ที่ปัญหาทั้งหมดสามารถคลี่คลายได้ในเวลาอันรวดเร็ว ถึงกระนั้นศิลปินหนุ่มคนดังยังอารมณ์ดีพอที่จะปล่อยมุขว่า พระเอกหนังโป๊ที่หน้าคล้ายตนนั้น มีรูปร่างดีกว่า จนทำให้เขาอิจฉาอยู่เหมือนกัน

“มีเบอร์โทรศัพท์ของเขาบ้างรึเปล่าครับ เผื่ออีกหน่อยผมต้องเล่นฉากเปลือยบั้นท้าย จะได้ให้เขามาแสดงแทน” ดาราหนุ่มคนดังกล่าวติดตลก

Manager Online

พอมีข่าวการหย่าขาดอย่างเป็นทางการระหว่างคู่รักคนดังสุดฉาว "จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) และ "เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) ประกาศออกมา ดูเหมือนว่า"จางป๋อจือ"จะโดนแกล้งหนัก มีคนปล่อยคลิปขณะเธอถูกจับมัดออกมา ซึ่งเป็นภาพในอดีตขณะถ่ายงานศิลปะให้เพื่อน

เมื่อวานนี้จางป๋อจือต้องมาโดนชาวจีนแผ่นดินใหญ่เล่นงานอย่างหนัก หลังมีคนกระจายคลิปที่เธอถูกมัดไปทั่วอินเตอร์เน็ต พร้อมกันนั้นสื่อจีนยังพร้อมใจกันรายงานระบุว่าเป็นคลิปที่เกี่ยวเนื่องกับภาพฉาวในอดีต

แต่งานนี้เอมิลี ผู้จัดการส่วนตัวของ จางป๋อจือได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมระบุว่าคลิปดังกล่าวถ่ายไว้เมื่อปี 2006 ก่อนที่จางป๋อจือจะแต่งงานเสียอีก และยังกล่าวด้วยว่างานชิ้นนี้เป็นงานศิลปะ ไม่ใช่คลิปฉาวแต่อย่างใด และไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเพิ่งถูกนำมาเผยแพร่ทั่วอินเตอร์เน็ตในช่วงเวลานี้

หลังจากที่วิกฤติชีวิตคู่ระหว่างจางป๋อจือและเซียะถิงฟงเพิ่งจะมาถึงจุดจบ คือการแยกทางและพยายามเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ดูเหมือนอะไรๆจะไม่ง่ายดายอย่างที่คิด โดยเมื่อวานนี้ในจีนแผ่นดินใหญ่ ได้มีการส่งต่อคลิปไปทั่วอินเตอร์เน็ต ซึ่งในคลิปดังกล่าวเป็นภาพของ จางป๋อจืออยู่ในเสื้อกล้ามสีขาวและกางเกงชั้นในขาสั้นสีดำ โดยถูกมัดมือไว้ด้านหลัง และถูกรัดปากด้วยเชือกพร้อมลูกบอล ซึ่งเมื่อโคลสอัพเข้าไปจะเห็นได้ชัดว่าจางป๋อจือมีทั้งหยาดเหงื่อและคราบน้ำตา

จากคลิปดังกล่าว เอมิลีได้ออกมาเปิดเผยทันที ว่าคลิปนั้นได้ถ่ายทำไว้ตั้งแต่ปี 2006 ซึ่งเป็นงานศิลปะล้วนๆ "เธอถ่ายคลิปนี้เพื่อช่วยเพื่อนของเธอ (เวอร์นี เหยียง) เป็นการถ่ายทำคลิปศิลปะ คลิปถูกเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ตมาสักพักแล้ว ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมต้องเอามาขายมาเผยแพร่ตอนนี้ด้วย!" เอมิลี กล่าวอย่างเหลืออด

Manager Online

นักแสดงสาวที่เรียกได้ว่าโด่งดัง มีผลงานมากมายที่สุด ในวงการบันเทิงจีนยุคปัจจุบัน "ฟั่นปิงปิง" (Fan Bing Bing) เผยภาพแฟชั่นชุดใหม่ออกมา เป็นโฉมใหม่แบบ ที่แฟนๆของเธอไม่เคยเห็นกันอย่างแน่นอน เป็นความพิเศษเพื่อฉลองครบรอบ 15 ปีของนิตยสารดังโดยเฉพาะ

ในหน้าปกนิตยสาร Esquire ฉบับล่าสุด นักแสดงสาว ฟั่นปิงปิง วัย 29 ปี ตัดสินใจทิ้งผมยาวสลวยที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอไป พร้อมกับโฉมใหม่ กับผมที่เรียกว่าโกนจนเกรียนติดหนังศีรษะ แบบเดียวกับที่นักแสดงคนดังอย่างฮอลลีวูดทั้ง เดมี มัวร์ หรือ นาตาลี พอร์ตแมน เคยโกนมาแล้ว นอกจากนั้นเธอยังได้ช้าง 2 เชือกมาร่วมถ่ายแบบ สร้างความแตกต่างให้กับงานครั้งนี้ด้วย

โดยภาพชุดดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการฉลองวาระครบรอบ 15 ปีของการเปิดตัวนิตยสาร Esquire ในประเทศจีน โดยนิตยสารฉบับดังกล่าวออกจำหน่ายไปเมื่อวันที่ 28 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากดาราสาวคนดังแล้ว Esquire ยังได้คนดังจากแวดวงต่างๆอีก 14 ชีวิตมาร่วมถ่ายภาพปกนิตยสารเล่มพิเศษฉบับนี้รวมเป็น 15 แบบเลยทีเดียว

Manager Online

ในการร่วมงานอีเวนต์ของแบรนด์หรูยี่ห้อหนึ่งที่เฉิงตู เมื่อไม่กี่วันก่อน “หลิวเจียหลิง” (Carina Lau) ได้โอกาสเปิดใจในประเด็นข่าวต่างๆ เกี่ยวข้องกับตัวเธอ ทั้งเรื่องชีวิตสมรส และภาพคู่กับหนุ่มรุ่นน้อง “เฉินกว้านซี” (Edison Chen) ที่เธอโพสต์ลงเน็ตด้วยตัวเอง และนำมาซึ่งเสียงวิจารณ์ไปต่างๆนานา

เมื่อสัปดาห์ก่อน หลิวเจียหลิง ได้โพสต์ภาพที่เธอถ่ายคู่กับเพื่อนนักแสดงหนุ่มรุ่นน้อง เฉินกว้านซี ที่ได้เจอกันในงานอีเวนต์แห่งหนึ่ง ลงในบล็อกส่วนตัว เป็นภาพที่ทั้งสองแสดงความใกล้ชิดสนิทสนมกันดี ซึ่งมันคงจะไม่ได้เป็นปัญหาอะไรเลย หากฝ่ายชายจะไม่ได้เป็นนักแสดงหนุ่มตัวปัญหา เจ้าของกรณีภาพหลุดอันลือลั่น ที่ทำให้วงการบันเทิงฮ่องกงสั่นสะเทือนเมื่อ 3 ปีก่อน

ในการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ หลิวเจียหลิง ที่เคยร่วมงานกับเพื่อนรุ่นน้องคนนี้มาแล้วในหนัง Infernal Affairs II และ Sex and the Beauties ได้กล่าวให้กำลังใจ และขอโอกาสให้นักแสดงหนุ่มรุ่นน้องคนนี้ว่า “ฉันอยากจะบอก เอดิสัน (เฉินกว้านซี) ว่าเขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยม แม้จะต้องผ่านบททดสอบมามากมายในชีวิต ซึ่งเมื่อเขาได้รับผลจากสิ่งที่ทำลงไปแล้ว ฉันก็หวังว่าเขาน่าจะได้รับโอกาสอีกครั้งค่ะ”

กับประเด็นที่ถูกชาวเน็ตบางส่วนวิจารณ์ ว่าในภาพถ่ายดาราดังทั้งสองดูจะแสดงความใกล้ชิดกันมากเกินไปนั้น หลิวเจียหลิง ไม่ได้คิดอะไรมาก และน้อมรับกับทุกคำวิจารณ์ “การรู้จักกับ เอดิสัน ทำให้ฉันรู้สึกเด็กลงเยอะเลยค่ะ เราปิดปังความจริงเรื่องมิตรภาพไม่ได้หรอกค่ะ แล้วก็จะให้แสร้งทำอะไรที่ไม่เป็นจริง ไม่ได้เช่นเดียวกัน”

ถึงตอนนี้มีข่าวลือกระทั่งว่า หลิวเจียหลิง คือหนึ่งในสาวจากคอลเล็คชั่นภาพฉาวของอาเฉิน ที่เธอก็ยืนยันว่าไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน “เอาภาพมาให้ฉันดูซิคะ ฉันก็อยากจะเห็นเหมือนกัน แต่อย่าเอาภาพใครก็ไม่รู้มาบอกว่าเป็นฉันนะ”

ในการเปิดใจครั้งนี้ "หลิวเจียหลิง" ยังยอมรับเป็นครั้งแรก ว่าชีวิตสมรสของเธอกับ "เหลียงเฉาเหว่ย" (Tony Leung) ที่จูงมือกันเข้าประตูวิวาห์เมื่อปี 2008 เกิดปัญหาบางอย่างเกิดขึ้น และเป็นสิ่งที่เธอพยายามแก้ไข

หลังจากสองซูเปอร์สตาร์วงการบันเทิงฮ่องกงได้หย่าขาด ยุติความสัมพันธ์ในฐานะสามีภรรยาที่มีมากว่า 5 ปีลงแล้ว ล่าสุดมีข้อมูลจากสื่อในฮ่องกงที่เปิดเผยว่า ในขั้นตอนของการเจรจา “จางป๋อจือ” (Cecilia Cheung) ได้ตัดสินใจถอนข้อเรียกร้องขอแบ่งทรัพย์สินจำนวนครึ่งหนึ่งของสามี เพื่อสิทธิ์ที่จะให้ลูกได้อยู่กับตัวของเธอ

จางป๋อจือ กับ เซียะถิงฟง (Nicholas Tse) หย่าขาดจากการเป็นสามีภรรยาไปเรียบร้อยแล้ว โดยทั้งสองไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับข้อตกลงในการหย่า

แต่ล่าสุดมีสื่อจากฮ่องกงที่ได้รายงานว่า ในขั้นตอนสุดท้ายของการเจรจาเพื่อหาข้อตกลงในการหย่า จางป๋อจือ ได้ตัดสินใจถอนข้อเรียกร้องในการแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของสามีหรือคิดเป็นเงินมูลค่า 300 ล้านเหรียญฮ่องกง (ประมาณ 1,150 ล้านบาท) แลกเปลี่ยนกับการให้ลูกได้อยู่กับเธอ

อย่างไรก็ตามรายงานข่าวยังระบุว่าเงินจำนวน 300 ล้านเหรียญฮ่องกงที่ถือว่าเป็นทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของเซียะถิงฟงนั้น ได้ถูกโอนเข้าบัญชีของ ลูคัส (Lucas) และควินตัส (Quintus) คนละ 150 ล้านเหรียญฯ (570 ล้านบาท) ซึ่งพวกเขาจะสามารถเบิกใช้เงินก้อนนี้ได้เมื่อมีอายุบรรลุนิติภาวะแล้วเท่านั้น

คนใกล้ชิดยังให้ข้อมูลว่าหลังจากนี้ จางป๋อจือ กับ เซียะถิงฟง จะพยายามรักษามิตรภาพที่ดีต่อกันเอาไว้ แม้จะยุติความสัมพันธ์ในฐานะสามีภรรยาแล้วก็ตาม นอกจากนั้นยังหวังว่า จะสามารถให้เวลากับลูกๆได้อย่างเต็มที่ ในช่วงที่พวกเขากำลังเติบโตขึ้นมาด้วย

ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่าถึงขณะนี้ ลูคัส วัย 4 ขวบลูกชายคนโตของสองนักแสดงชื่อดัง ยังไม่ทราบเรื่องการแยกทางกันของพ่อแม่เลย ซึ่งเพื่อนคนหนึ่งของ จางป๋อจือ ได้เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า “ฉันคิดว่า เซซิเลีย (จางป๋อจือ) คงจะบอกเรื่องนี้กับลูกๆแน่ มั่นใจว่าเธอคงจะหาวิธีที่จะบอกกับพวกเขาได้ แต่ตอนนี้ ลูคัส ยังดูร่าเริงมาก เลยไม่รู้เหมือนกันว่าเขารู้แล้วรึยัง ว่าพ่อกับแม่แยกทางกันไปแล้ว”

ซึ่งเมื่อวานหลังมีข่าวเรื่องรายละเอียดของข้อตกลงในการหย่าเผยแพร่ออกมาในหน้าสื่อ ผู้จัดการส่วนตัวของ เซียะถิงฟง ไม่ได้ออกมาตอบรับหรือปฏิเสธ เพียงแต่กล่าวว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนตัว และหวังว่าสื่อจะให้ความเป็นส่วนตัวกับดาราชื่อดังทั้งสองด้วย

Manager Online