ข่าวจีน

เซลิน่า (Selina Jen / 任家萱) แห่งวง S.H.E. ที่เพิ่งแต่งงานไป กลัวกับเหตุการณ์อุบัติเหตุในกองถ่ายเมื่อปีที่แล้ว และทำให้เธอต้องทำการรักษาตัวมาจนถึงขณะนี้

ในการสัมภาษณ์เมื่อเร็วๆนี้ กับ Kirsten (任容萱)น้องสาวของเซลิน่า เธอกล่าวว่า เซลิน่าจะกลับมาสู่วงการบันเทิงในเร็วๆนี้

Kirsten ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการถ่ายทำหนังในประเทศจีน ยอมรับว่า เธอคิดถึงบ้าน และตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุกับพี่สาวของเธอ พ่อแม่ของเธอกังวลเกี่ยวกับเธออย่างมาก ถึงขนาดทำการซื้อประกันเพิ่มเติมให้เธอ

เกี่ยวกับอาการของพี่สาวเธอ Kirsten เปิดเผยว่า เซลิน่าใช้เวลาครึ่งหนึ่งของเธอกับการทำกายภาพบำบัด (Physiotherapy) ในเวลาที่เหลือ เธอใช้เวลาดูรายการวาไรตี้และละครต่างๆ บางครั้ง เธอใช้เวลาเดินเล่นกับครอบครัว

"เธอเดินได้ปกติแล้ว แต่ยังไม่สามารถยืน หรือนั่งนานๆได้" Kirsten กล่าว

เมื่อถามว่า เมื่อไหร่ที่เซลิน่าจะกลับมา Kirsten กล่าวว่า นั่นขึ้นอยู่กับสุขภาพของเซลิน่า

สำหรับอนาคตของเซลิน่านั่น Kirsten กล่าวว่า "[เซลิน่า] จะไม่แสดงหลังจากกลับมา และจะเน้นไปทำการด้านการเป็นพิธีกรและร้องเพลง"

Kirsten ยังเปิดเผยว่า เซลิน่ากำลังสนุกกับความรักหลังการแต่งงาน "พี่เขยของฉันจะจูบเธอทุกเช้าก่อนจะออกไปทำงาน"

เซลิน่าและสามี Richard Chang ยังไม่ได้จดทะเบียนแต่งงานกัน เนื่องจากเซลิน่าไม่ต้องการถ่ายรูปโดยไม่ได้ทำการแต่งหน้า

"ฉันแน่ใจว่าพี่เขยของฉันและพี่สาวฉันจะพยายามหาเวลาไปจดทะเบียนในเร็วๆนี้" Kirsten กล่าวเสริม

Xin MSN

หลังจากที่มีรายงานข่าวสุดฉาวของบันเทิงฮ่องกงออกมา เกี่ยวกับกรณี นักแสดงชายรุ่นพี่ลวนลามนักแสดงสาวรุ่นน้อง ส่งให้คนในวงการบันเทิงแสดงความคิดเห็นไม่พอใจต่อพฤติกรรมดังกล่าวเป็นอย่างมาก ด้าน"อาเจียว" (Gilliang Chung / 钟欣桐) เผยเป็นนัยไม่ใช่ความผิดครั้งแรก
       
       โรส เฉิน (Rose Chan) หรือ เฉินหัวซุน (陈嘉桓) ที่ตกเป็นเหยื่อถูกคุกคามทางเพศโดยรุ่นพี่นักแสดงชาย เบนนี เฉิน (Benny Chan) หรือ เฉินเฮ่าหมิน (陈浩民) และ โจ หม่า (Joe Ma) หรือ หม่าเต๋อจง (马德钟) ขณะอยู่ในเหิงเตียน จีนแผ่นดินใหญ่เมื่อไม่กี่วันก่อน ซึ่งนิตยสารซันเดย์ได้ตีพิมพ์ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวจนกลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่ว นอกจากสร้างความไม่พอใจให้คนทั่วไปแล้วคนในวงการบันเทิงเอง ก็แสดงความไม่พอใจออกมาต่อต้านพฤติกรรมดังกล่าวเช่นกัน
       
       โดย จางเจียฮุย (Nick Cheung / 張家輝) และ เยิ่นต๊ะหัว (Simon Yam / 任達華) 2 นักแสดงชื่อดังต่างก็แสดงความไม่พอใจต่อพฤติกรรมของฝ่ายชาย โดยจางเจียฮุย ถึงขั้นระเบิดอารมณ์แบบโกรธเคืองว่า "ถ้ามีใครมาทำกับลูกสาวผมแบบนี้นะ ผมจะฆ่ามัน!"
       
       "ผมและภรรยาผม (กวงหย่งเหอ / Esther Kwan / 關詠荷) ต่างก็เป็นนักแสดงและยังเป็นพ่อแม่ของลูกสาวด้วย ถ้ามีการลวนลามแบบนี้เกิดขึ้น ผมสนับสนุนให้ตำรวจยื่นมือเข้ามาช่วยจัดการในสถานการณ์แบบนี้ ถ้านึกในส่วนของครอบครัวเฉินหัวซุน พวกเขาคงต้องเจ็บปวดมากๆ"
       
       "ถ้ามีใครมาทำกับลูกสาวผมแบบนี้ล่ะก็ ผมจะฆ่ามัน! แม้ว่าคุณจะเมา คุณก็ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง!"
       

CineAsia ได้เลือกให้นักแสดงสาว "หลี่ปิงปิง" (Li Bing Bing) เป็น "ดาราหญิงแห่งปี 2011" จากผลงานที่โดดเด่นทั้งในเมืองจีน และยังมีโอกาสได้ก้าวไปรับงานแสดงยังต่างประเทศด้วย

โดย CineAsia มีกำหนดจะมอบรางวัลดังกล่าวให้กับ หลี่ปิงปิง ในงานสัมนาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของเอเซียที่จะจัดขึ้นในวันที่ 8 ธ.ค. นี้ที่ฮ่องกง

หลี่ปิงปิง วัย 35 ปี ที่เข้าวงการบันเทิงมาตั้งแต่ปี 1994 ได้รับการย่องในฝีมือการแสดงที่มีพัฒนาการขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ได้รับรางวัลในเทศกาลหนังแห่งชาติสิงคโปร์เมื่อปี 2000 จากหนังเรื่อง Seventeen Years ต่อมาในปี 2007 เธอยังสามารถคว้ารางวัลใหญ่ของวงการแผ่นฟิล์มจีนแผ่นดินใหญ่ทั้ง Golden Rooster และ Hundred Flowers จากหนังเรื่อง The Knot ด้วย

ในปี 2009 การประชันบทบาทกับ โจวซวิ่น (Zhou Xun) ทำให้หนัง The Message ประสบความสำเร็จทำเงินถล่มทะลาย และได้มีโอกาสไปฉายในหลายๆประเทศ นอกจากนั้นยังส่งให้ หลี่ปิงปิง คว้ารางวัลม้าทองคำของไต้หวันมาครองด้วย

ที่ผ่านมาดาราสาวชาวฮาร์บินคนนี้ยังได้ร่วมงานกับนักแสดงชื่อดังมากมาย ทั้งในจีนและต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น การรับบทเป็นนางพญาผมขาวใน The Forbidden Kingdom หนังเรื่องแรกที่ เฉินหลง (Jackie Chan) กับ เจ็ท ลี (Jet Li) แสดงร่วมกัน, เป็นนางเอกของ หลิวเต๋อหัว (Andy Lau) ใน Detective Dee and the Mystery of the Phantom Flame, ส่วน Snow Flower and the Secret Fan ก็ทำให้เธอได้ร่วมงานกับทั้งซูเปอร์สตาร์แห่งเกาหลีใต้ จวนจีฮยอน (Jun Ji Hyun) และดาราฮอลลีวูด ฮิวจ์ แจ็คแมน (Hugh Jackman) ด้วย

สำหรับผลงานเรื่องล่าสุดของ หลี่ปิงปิง ก็คือการกลับไปร่วมงานกับนักบู๊คนดัง เฉินหลง อีกครั้งในหนังสงคราม 1911 ส่วนงานเรื่องต่อไปเป็นการสวมบทบาทตัวละคร "เอด้า หว่อง" ในหนังฮอลลีวูดที่สร้างจากวิดีโอเกมดัง Resident Evil ภาคล่าสุดซึ่งอยู่ระหว่างการถ่ายทำที่แคนาดา

Manager Online

เกิดเรื่องอื้อฉาวกับวงการบันเทิงฮ่องกงขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อสองนักแสดงดัง "เฉินเฮ่าหมิน" (Benny Chan / 陳浩民) และ "หม่าเต๋อจง" (Joe Ma / 馬德鐘) ตกเป็นผู้ต้องหาว่ามีพฤติกรรมลวนลามดาราสาววัย 19 ปี "โรส เฉิน" (Rose Chan / 陳嘉桓) ทั้งกอดจูบโดยที่เธอไม่ยินยอม ส่วน "หงเทียนหมิง" (Timmy Hung / 洪天明) ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ไม่พยายามช่วยเหลืออะไรนักแสดงรุ่นน้องเลย
       
       เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อนนี่เอง ระหว่างที่ดาราสาว "โรส เฉิน" หรือ เฉินหัวชุน เดิน ทางเข้าไปถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่เหิงเตียนในจีนแผ่นดินใหญ่ และได้ร่วมงานเลี้ยงที่มีนักแสดงชื่อดังหลายคนเป็นแขกรับเชิญ แต่สิ่งที่ดาราสาววัย 19 ปีคงไม่ได้คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเธอก็คือ การถูกลวนลามล่วงละเมิดทางเพศจาก 2 นักแสดงรุ่นพี่
       
       โดยข่าวรายงานว่านักแสดงชื่อดัง เฉินเฮ่าหมิน ที่เริ่มเกิดอาการคึกคะนองหลังดื่มสุราเข้าไปพอสมควร ได้แสดงพฤติกรรมพยายามจูบกอดดาราสาวรุ่นน้อง โดยที่เธอไม่จำยอมแต่อย่างใด ฝ่ายของ เฉินเฮ่าหมิน นอกจากจะจูบไปที่ปากของเธอแล้ว ก็ยังใช้มือจับเข้าไปที่หน้าอก และล้วงลงไปข้างล่างด้วย
       
       แม้ โรส เฉิน จะแสดงอาการไม่พอใจ และหวาดกลัวออกมาอย่างชัดเจน ส่วน หม่าเต๋อจง ที่นั่งอยู่ข้างๆ กลับไม่แสดงปฏิกิริยาใดๆ ออกมาเลยราวกับว่าสิ่งที่ เฉินเฮ่าหมิน ทำเป็นเรื่องปกติธรรมดา และที่ยิ่งแย่กว่าก็คือ เมื่อเวลาผ่านไปได้ซักชั่วครู่ หม่าเต๋อจง ก็กลับไปร่วมวงลวนลามนักแสดงวัย 19 ปีด้วย
       
       ส่วน หงเทียนหมิง ที่นั่งอยู่ในบริเวณเดียวกันก็ดูเหมือนจะเมามายและไม่สนใจใยดีอะไร เช่นเดียวกับคนอื่นๆที่อยู่ในงานเลี้ยงก็ดูเหมือนจะไม่มีใครพยายามช่วยเหลือดาราสาวผู้เคราะห์ร้ายแต่อย่างใด

ข่าวการหย่าขาดกับภรรยา ไม่ได้มีผลต่อชื่อเสียงและความรุ่งโรจน์ในวงการของ "เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) เลย ตรงกันข้าม เขายังเป็นนักแสดงที่มีงานชุกที่สุดคนหนึ่งในวงการ จนทำให้ไม่สามารถรับงานที่ยื่นข้อเสนอมาให้ทั้งหมดได้ ถึงขั้นที่มีบริษัทในจีนแผ่นดินใหญ่เลือกใช้บริการ "คนหน้าเหมือน" เพื่อให้ได้ชื่อว่ามี "หนุ่มเซียะ" มาอยู่ร่วมในงานอีเวนต์ของตัวเองกันเลยทีเดียว

มีรายงานจากจีนแผ่นดินใหญ่ว่าบริษัทแห่งหนึ่งในกวางสี ได้ประชาสัมพันธ์ว่าพวกเขาได้เชิญ เซียะถิงฟง มาร่วมตัดริบบิ้นในงานอีเวนต์ของบริษัท ถึงขนาดมีการระบุชื่อดาราหนุ่มชาวฮ่องกงในแผ่นป้ายโฆษณาใหญ่โต ซึ่งก็เรียกร้องความสนใจได้จริงๆ เพราะมีผู้คนให้ความสนใจมางานมากมาย ... แต่แล้วเซียะถิงฟงกลับไม่ได้มาปรากฏตัวในงานครั้งนี้แต่อย่างใด

สิ่งที่บริษัทจีนแผ่นดินใหญ่แห่งนี้ทำก็คือ การติดต่อให้หนุ่มนาม หวงหนิง คนหน้าคล้ายเซียะถิงฟง ให้มาร่วมงานแทน อย่างไรก็ตาม แฟนๆหลายคนก็ยังดูออกและรู้สึกทันทีว่าชายคนนี้ไม่ใช่เซียะถิงฟง ถึงขั้นมีการแฉเรื่องที่เกิดขึ้นลงในอินเตอร์เน็ท และแจ้งให้กับผู้จัดการส่วนตัวของ เซียะถิงฟง ทราบถึงเรื่องนี้ด้วย

หลังจากนั้นไม่นาน ฝ่ายผู้จัดการส่วนตัวของดาราหนุ่มชาวฮ่องกงจึงได้อธิบายเรื่องนี้ผ่านทางบล็อคของตนเองว่า ตัวของเธอและเซียะถิงฟงไม่ได้รู้เห็นถึงเรื่องนี้ด้วยแต่อย่างใด และไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก "บริษัทของเราคงจะไม่ยอมให้ใครมาอ้างตัวเป็นศิลปินของเรา ที่อาจจะทำให้เกิดเรื่องเสียหายขึ้นได้ เราจะดำเนินการทางกฎหมายเพื่อปกป้องสิทธิ์อย่างแน่นอน"

ฝ่ายเซียะถิงฟงตัวปลอมอย่างหนุ่มหวงหนิง ก็รีบออกมาแก้ตัวว่า เขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องต้มตุ๋นครั้งนี้ด้วย และไม่ได้ล่วงรู้มาก่อนเลยตนเองจะได้รับการเชิญมางาน เพื่อให้ปลอมตัวเป็นดาราหนุ่มชื่อดัง หนุ่มคนนี้ยังอ้างว่าตัวเองไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรในการร่วมอีเวนต์ครั้งนี้เลยด้วยซ้ำไป

"ผมบอกคนจัดงาน และย้ำไปแล้วนะครับ ว่าไม่ควรจะอ้างถึงชื่อของ เซียะถิงฟง ในงานครั้งนี้ หรือการโปรโมตใดๆทั้งสิ้น ผมเองก็ไม่ได้รับค่าจ้างอะไรเลย ที่มานี่ก็เพราะว่าเพื่อนชวนเท่านั้นเอง" หนุ่มหน้าคล้ายดาราคนดังกล่าว

Manager Online

ดาราสาวชื่อดังชาวฮ่องกง "เคลลี่ เฉินฮุ่ยหลิน" (Kelly Chen) ได้ยืนยันข่าวว่าเธอได้ตั้งครรภ์อีกครั้งแล้ว หลังจากต้องเสียลูกน้อยฝาแฝดไปกับการแท้งเมื่อหลายเดือนก่อน อย่างไรก็ตามเธอยังยืนยันว่าจะไม่หยุดรับงานแต่อย่างใด

ถือเป็นการอุ้มท้องลูกครั้งที่ 3 แล้วสำหรับ เฉินฮุ่ยหลิน ดารานักร้องสาว หนึ่งในราชินีเพลงภาษากวางตุ้งแห่งวงการบันเทิงฮ่องกง ที่เคยให้กำเนิดลูกชายซึ่งเป็นทายาทของเธอกับสามี อเล็กซ์ หลิว ไปเมื่อ 2 ปีก่อน แต่เมื่อตั้งท้องครั้งที่สอง ดาราสาวคนสวยที่ตั้งครรภ์ด้วยวิธีผสมเทียม ต้องพบกับเรื่องเศร้าเมื่อเธอเสียลูกน้อยที่เป็นลูกสาวฝาแฝดไปกับการแท้งในที่สุด เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม เฉินฮุ่ยหลิน ที่เพิ่งจะมีอายุ 39 ปีไปเมื่อเดือน ก.ย. เคยบอกเอาไว้ว่าเธออยากจะมีลูกอีกคนก่อนอายุ 40 ปี จึงตัดสินใจเข้ารับการทำผสมเทียมอีกครั้ง และประสบความสำเร็จในที่สุด ถึงตอนนี้ตั้งท้องได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว

กับการอุ้มท้องครั้งนี้ เฉินฮุ่ยหลิน ยืนยันว่าจะทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ด้วยการพยายามรับงานที่ไม่หนักมากนัก ว่ากันว่าคุณแม่คนดังแห่งวงการบันเทิงฮ่องกงปฏิเสธข้อเสนองานไปแล้วกว่า 30 ชิ้น โดยเฉพาะงานในจีนแผ่นดินใหญ่เพราะไม่ต้องการเดินทางด้วยเครื่องบิน ที่อาจจะทำให้เกิดอันตรายกับลูกน้อยในครรภ์นั่นเอง

แต่ เฉินฮุ่ยหลิน ยังกล่าวอย่างชัดเจนว่าแม้กำลังจะเป็นคุณแม่ลูกสอง เธอก็จะไม่หันหลังให้กับวงการบันเทิงอย่างดาราคุณแม่คนอื่นๆ แน่นอน "ฉันไม่อยากจะเลิกทำงาน และอยู่แต่บ้านแน่นอนค่ะ แบบนั้นคงเบื่อน่าดูเลย ฉันเพิ่งจะเข้าฉากในหนังเรื่อง Eight Happiness 2012 ไป และกำลังรอถ่ายโฆษณาอีกสองตัว ... หมอบอกว่าให้ฉันพยายามผ่อนคลาย และอย่าไปคิดอะไรมากค่ะ"

Manager Online

หนังสือพิมพ์ซินจิงเป้าจัดอันดับ 50 บุคคลในวงการบันเทิงแดนมังกร ที่มีความสวย-หล่อในแบบต่างๆ ประจำปี พ.ศ.2554 โดยในจำนวนนั้นแน่นอนว่ามีชื่อของขาประจำอย่าง เจ้าเวย (Zhao Wei), จัง จื่ออี๋ (Zhang Ziyi), โจวซวิ่น (Zhou Xun), สี่ว์ จิ้งเหล่ย (Xu Jing Lei), ฟั่น ปิงปิง (Fan Bing Bing) และหลี่ ปิงปิง (Li Bing Bing) ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นตัวแทนความงามของสาวจีนยุคใหม่ นอกจากนี้ มุกเม็ดงามแห่งเกาะไต้หวัน ซูฉี (Shu Qi) และ หลิน จื้อหลิง (Lin Zhi Ling) ก็ติดอันดับด้วยเช่นกัน ซึ่งการจัดอันดับครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นการคัดเลือกโดยพิจารณาความสวย-หล่ออย่างรอบด้านเลยทีเดียว

แม้ว่า 50 อันดับคนเด่นส่วนใหญ่จะเป็นสาวๆ แต่ฝ่ายชายที่ติดอันดับก็มีอยู่ไม่น้อย รุ่นใหญ่ อาทิ เจียงเหวิน, เก่อโยว รุ่นรองลงมาอย่างราชานักบู๊ เจิง จื่อตัน (ดอนนี่ เยน / Donnie Yen)และ หลี่ เหลียนเจี๋ย (เจ็ทลี / Jet Li) ก็ติดอันดับเช่นกัน ส่วนรุ่นหนุ่มมีชื่อของดาราอาทิเช่น เฉินคุน, หวง เสี่ยวหมิง (Huang Xiaoming), หานเกิง (Han Geng) นอกจากนี้ยังมีดาราชายชื่อดังจากฮ่องกงและไต้หวันเช่น อู๋ เอี้ยนจู่ (แดเนียล วู / Daniel Wu), กู่ เทียนเล่อ (Louis Koo), หร่วน จิงเทียน (อีธาน / Ethan Ruan), เจ้า โย่วถิง เป็นต้น

"หลิวเต๋อหัว" (Andy Lau) กำลังจะเป็นพ่อคน "แครอล จู"ตั้งครรภ์แล้ว - ดูจะเป็นข่าวลือที่เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้งในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่พระเอกคนดังแห่งวงการบันเทิงฮ่องกงเปิดเผยเรื่องชีวิตครอบครัว ซึ่งครั้งล่าสุดสื่อฮ่องกงรายงานโดยอ้างหลักฐานที่ว่า พระเอกวัย 50 ปี เพิ่งจะจัดพิธีทางพุทธครั้งใหญ่ขึ้นที่บ้าน ก็เพราะหวังว่าพิธีจะช่วยให้ภรรยาคลอดลูกอย่างปลอดภัยไร้กังวลนั่นเอง

เป็นเรื่องที่สื่อมวลชนในฮ่องกงรายงานมาเป็นระยะๆ ว่าพระเอกชื่อดังวัย 50 ปี หลิวเต๋อหัว และภรรยา แครอล จู พยายามที่จะมีทายาทสืบสกุลมาพักใหญ่แล้ว หลังจากคบหา จนอยู่กินกันมา 25 ปีเต็ม และเพิ่งจะจดทะเบียนสมรสกันอย่างถูกต้องตามกฎหมายไปเมื่อ 3 ปีก่อนนี่เอง

ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า หลิวเต๋อหัว เคยควงภรรยาไปต่างประเทศหวังใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ช่วยในการตั้งครรภ์ แต่ก็ต้องกลับฮ่องกงด้วยความผิดหวัง จนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี่เองที่มีข่าวว่าในที่สุดคู่สามีภรรยาคนดังแห่งวงการบันเทิงเอเชียก็ได้พบกับข่าวดีเรื่องการมีทายาทในที่สุด หลังจากหันมาพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนาแทน

โดยเร็วๆนี้ มีคนสังเกตเห็นว่าพระเอกคนดังดูจะดูแลเอาใจใส่ภรรยาเป็นพิเศษ ระหว่างที่พาเธอไปไหว้พระโพธิสัตว์กวนอิมที่วัดแห่งหนึ่ง จนกระทั่งเมื่อไม่กี่วันนี่เอง ที่หลิวเต๋อหัวได้นิมนต์หลวงจีนและแม่ชีจำนวน 20 รูป มาจากไต้หวัน เพื่อทำพิธีที่บ้านซึ่งกินเวลาถึง 72 ชั่วโมง จากที่ก่อนหน้านี้เคยไปทำพิธีเคารพพระกษิติครรภมหาโพธิสัตว์ที่ไต้หวัน และบริจาคเงินสร้างวัดในฮ่องกงเป็นหลัก 10 ล้านเหรียญฮ่องกงกันมาแล้ว

ข่าวยังอ้างว่าที่ผู้เป็นภรรยาไม่ได้มาร่วมงานวันเกิดครบรอบ 50 ปีของ หลิวเต๋อหัว ที่จัดกันขึ้นเมื่อเดือนก่อน ก็เพราะเขาเป็นห่วงว่างานฉลองจะกระทบกับลูกในครรภ์

กับกระแสข่าวการมีทายาทครั้งนี้ พระเอกชื่อดังไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธเพียงแต่บอกว่า "ผมจะไม่แสดงความคิดเห็นอะไรกับข่าวในนิตยสารเล่มนั้น อยู่ที่คนอ่านก็แล้วกันครับว่าจะเลือกเชื่อข่าวหรือไม่" ซึ่งสื่อก็เชื่ออีกว่าที่ หลิวเต๋อหัว ไม่ยอมรับเรื่องลูกเสียที ก็เพราะเขาถือเคล็ด ที่ว่าต้องไม่บอกให้ใครรู้เรื่องการตั้งครรภ์ของภรรยาในช่วง 3 เดือนแรกนั่นเอง

Manager Online

ระหว่างให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆนี้ นายแบบหนุ่ม "วิเวียน ดอว์สัน" (Vivian Dawson) ยอมรับว่าเขาอาจจะหมดสิทธิ์ได้แต่งงานกับดาราสาวซูเปอร์สตาร์แห่งไต้หวัน "โจลิน ไช่อี้หลิง" (Jolin Tsai) ไปแล้ว หลังมีข่าวว่าครอบครัวของฝ่ายหญิงไม่ค่อยจะเห็นชอบกับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น และต้องการลูกเขยที่ "คู่ควร" กับลูกสาวมากกว่านี้

สื่อในไต้หวันรายงานว่า วิเวียน ดอว์สัน ยอมรับเป็นครั้งแรกว่าเขาอาจจะ "ไม่มีสิทธิ์" แต่งงานกับแฟนสาวซูเปอร์สตาร์ โจลิน ไช่อี้หลิง อย่างไรก็ตามหลังคิดว่าคำตอบที่บอกออกไปดูจะเป็นเรื่องไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ นายแบบลูกครึ่ง จึงเปลี่ยนมาบอกว่าเขา "ไม่มีคำตอบสำหรับเรื่องนี้" แทน นอกจากนั้นเขายังยืนยันว่าตนเองกับแฟนสาวรุ่นพี่มีความสุขกันดี ซึ่งความรู้สึกคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการคบหากัน

ความสัมพันธ์ของ ไช่อี้หลิง ศิลปินหญิงอันดับ 1 แห่งไต้หวันยุคปัจจุบัน กับแฟนหนุ่มเป็นที่สนอกสนใจของสื่อมาตลอด 16 เดือนที่ผ่านมา นับจากทั้งคู่เริ่มต้นคบหากัน โดยเฉพาะในประเด็นที่ว่าคู่รักคู่นี้ช่าง "ไม่เหมาะสม" กันเอาเสียเลย

ซึ่งนอกจากฝ่ายชายจะมีอายุน้อยกว่าถึง 6 ปีแล้ว เขายังมีรายได้ที่น้อยกว่าเธอมาก โดยนายแบบหนุ่มวัย 25 ปี มีรายรับจากงานถ่ายแบบเดินแบบในปีนี้อยู่ราว 2 ล้านเหรียญไต้หวัน (1 เหรียญไต้หวัน = 1.0194 บาท) ขณะที่ฝ่ายหญิงมีรายได้จากการแสดงคอนเสิร์ต, งานโฆษณา และเป็นพรีเซนเตอร์สินค้ารวมถึง 624 ล้านเหรียญฯ เป็นรายได้ทั้งๆที่ในปีนี้เธอยังไม่ได้มีผลงานเพลงชุดใหม่เลย เรียกว่ามีรายได้แตกต่างกันร่วม 300 เท่าเลยทีเดียว

ข่าวจากไต้หวันยังระบุว่าแม่ของ โจลิน ไม่ค่อยจะพอใจกับความรักครั้งนี้ของลูกสาวซักเท่าไหร่ ยิ่งเมื่อเวลาผ่านไปได้ 16 เดือน ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นยังดูไปได้สวยไม่มีอุปสรรคอะไรมาคอยรบกวน ผู้เป็นแม่จึงเริ่มวิตกขึ้นเรื่อยๆ นิตยสาร Next อ้างว่าตอนนี้แม่ของ โจลิน จึงเริ่มเป็นธุระคอยนัดหมายลูกสาวให้พบปะกับบรรดาหนุ่มๆ ลูกหลานของนักธุรกิจชั้นนำของประเทศ หวังว่าเธอจะได้พบกับว่าที่สามีที่เหมาะสมกว่าแฟนหนุ่มคนปัจจุบันได้ในที่สุด

Manager Online

โจลิน ไช่ (Jolin Tsai) ศิลปินชื่อดังจากไต้หวัน เดินทางไปเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนเมื่อเร็วๆนี้ เพื่อโปรโมทหนังสือเล่มใหม่ของเธอที่มีชื่อว่า Living Slim ในงานนี้ เธอยังเล่าให้ฟังเกี่ยวกับการลดน้ำหนักของเธอ ซึ่งมีผลอย่างมากสำหรับเธอ

เธอใส่ชุดที่สั้นมาก และตอนที่เธอนั่ง ทำให้เห็นกางเกงในของเธอ เธอมารู้เรื่องนี้เมื่อสื่อบอกเธอ

เกี่ยวกับหนังสือของเธอ โจลินกล่าวว่า เธอใช้เวลานานมากในการเรียบเรียงเนื้อหาของหนังสือ และการเป็นนักเขียนเป็นสิ่งที่ท้าทายมากสำหรับเธอ

โจลินกล่าวว่า Living Slim แนะนำเทคนิคต่างๆมากมาย ที่เธอใช้ในการลดน้ำหนักตลอดเวลาหลายๆปีที่ผ่านมา หนังสือยังมีบทนำเขียนโดยเพื่อนสนิทของเธอ ซูฉี (Shu Qi)

เธอเปิดเผยว่า เธอลองวิธีการลดน้ำหนักหลายๆแบบ รวมถึงการทานข้าวเพียงแค่หนึ่งมื้อต่อวันเท่านั้น เธอลองถึงขนาดเอากระดาษแก้วมาห่อนิ้วเธอไว้ด้วย

"ฉันเสียใจอย่างมากที่ใช้วิธีการอย่างรุนแรงในการลดน้ำหนัก ฉันเกือบจะกลายเป็นคนเบื่ออาหารไปเลย ฉันหวังว่าคนอื่นๆจะไม่เป็นเหมือนฉัน" เธอกล่าว

มันเป็นความพยายามอย่างหนักในการลดน้ำหนักสำหรับโจลิน ซึ่งในที่สุด เธอก็สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินออกไปได้ก่อนที่จะถึงวันเปิดตัวเข้าสู่วงการ เมื่อถูกถามว่า เธอเสียใจไหมที่เข้าสู่วงการบันเทิง เธอรีบปฏิเสธอย่างทันที

โจลินกล่าวสนับสนุนแฟนๆผู้หญิงให้ทำการลดน้ำหนักอย่างถูกต้อง และกล่าวว่า Living Slim เป็นผลงานตลอดชีวิต ซึ่งไม่สามารถจะทำได้เพียงแค่เวลาสองสามเดือน

XinMSN

ชายชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นตัวการในการว่าจ้างนางแบบชาวจีน 10 คนเพื่อถ่ายภาพนู้ดเรตเอ็กซ์ จนเป็นข่าวเกรียวกราวเมื่อ 2 ปีก่อนได้ถูกตัดสินความผิดลงโทษจำคุกเป็นเวลา 5 ปี ปรับเงิน 20,000 หยวน และจะถูกขับออกจากประเทศจีนหลังจากนี้ต่อไป

ศาลกลางของเซียงไฮ้ได้ตัดสินให้นาย ไช่กวงหมิง (Cai Guangming / 蔡光明) ชาวฟิลิปปินส์เชื้อสายจีน มีความผิดในข้อหาการถ่ายภาพลามกอนาจาร ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2009 ที่เขาว่าจ้างนางแบบชาวจีน 10 คนเพื่อถ่ายภาพนู้ดสุดวาบหวาม จนต่อมา ภาพดังกล่าวได้ถูกอัพโหลดลงอินเตอร์เน็ต และเป็นข่าวใหญ่โตตามมา

มีการตั้งข้อหาข้อหามีพฤติกรรมลามกอนาจาร และคดีเซ็กส์หมู่ในเดือน มี.ค. จนตามมาด้วยการจับกุมกันในวันที่ 8 เม.ย. ซึ่งศาลพบว่า ไช่กวงหมิง ได้ร่วมกับนาย เซิ่นหลิน, ลี่อวี้จุน และตงจือเหยา ในการจัดหานางแบบสำหรับการถ่ายภาพนู้ดผิดกฎหมาย ซึ่งมีข้อมูลว่าเขากระทำการแบบนี้ถึง 40 ครั้ง ในโรงแรมหลายแห่งที่เซียงไฮ้ และมีภาพถ่ายอยู่ในครอบครองถึงมากกว่า 1,300 ภาพ

โดยหนึ่งในนางแบบที่ตกเป็นเหยื่อก็รวมถึง เหยียนเฟิงเจียว (Yan Fengjiao / 闫凤娇) สาวผู้โด่งดังจากการร่วมรายการประเภทหาคู่เรตติ้งสูง If You Are The One ซึ่งเธอเป็นที่ชื่นชอบด้วยภาพลักษณ์อ่อนหวานดูใสซื่อบริสุทธิ์ จนกลายเป็นตัวเลือกของผู้เข้าแข่งขันชายหลายๆคน แต่แล้วภาพและบทบาทของเธอในรายการดังกล่าว กลับถูกตัดออกจากเทปตอนสุดท้ายอย่างสิ้นเชิง หลังปรากฏภาพหวิวหลุดออกมาทางอินเตอร์เน็ต จนมีการแจ้งความดำเนินคดีกับนายไช่กวงหมิง และทำให้เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นระดับประเทศ

ในการถ่ายแบบดังกล่าว เหล่าสาวๆอ้างว่าพวกเธอถูกหลอกให้ไปที่โรงแรมเพื่อทำการถ่ายภาพ ในแบบที่ผู้ว่าจ้างเรียกว่าเป็น "งานศิลป์" แต่แล้วเมื่อไปถึงพวกเธอกลับถูกบีบบังคับให้ถอดเสื้อผ้าออก เพื่อถ่ายภาพแนวลามกแทน

ส่วนตัวของ เหยียนเฟิงเจียว ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ตนเองเป็นเหยื่อเช่นเดียวกัน และเธอต้องการดำเนินคดีกับเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด โดยเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ตนเองถูกผู้ต้องหาหลอกลวง โดยการติดต่อเพื่อถ่ายแบบโฆษณา สำหรับสินค้าเครื่องแต่งกายยี่ห้อหนึ่ง แต่เมื่อถึงสถานที่ถ่ายทำ เธอกลับถูกบีบบังคับด้วยกำลัง ให้ถ่ายภาพไม่เหมาะสม

สาวๆเกิร์ลกรุ๊ป 7 คนที่เรียกตัวเองว่า Super 7 ต้องเผชิญกับข้อวิพากษ์วิจารณ์ตั้งแต่เริ่มต้นเปิดตัวกันเลยทีเดียว กับเรื่องที่ว่าพวกเธอคือ “โคลนนิ่ง” ของ SNSD ซึ่งสาวๆ แห่งไต้หวันก็ดูจะทำให้สถานการณ์ร้อนแรงขึ้นไปอีก กับการพูดผ่านสื่อว่าพวกเธอไม่น่าจะเหมือนกับรุ่นพี่จากเกาหลีใต้ เพราะทุกคนในวงสวยแบบธรรมชาติ ไม่ได้ผ่านศัลยกรรม

สื่อท้องถิ่นได้นำเสนอบทสัมภาษณ์เปิดใจสาวๆเกิร์ลกรุ๊ปแห่งไต้หวัน Super 7 ที่เพิ่งจะก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง และเริ่มได้รับความสนใจโดยทันที ด้วยเหตุที่ว่าพวกเธอมีหลายๆอย่างที่คล้ายกับศิลปินสาวจากเกาหลีใต้อย่าง Girls' Generation แบบที่เรียกได้ว่ามากเกินจะเป็นเพียงจะความบังเอิญ ทั้งเสื้อผ้า, ทรงผม และคอนเซ็ปต่างๆ ที่ดูแล้วชวนให้นึกถึงสาวๆ แห่งเกาหลีใต้กับเพลง Hoot ของพวกเธออย่างช่วยไม่ได้

โดยสาวๆ Super 7 พูดถึงเรื่องนี้ในบทสัมภาษณ์ว่า "ตั้งแต่เปิดตัวพวกเราก็ถูกต่อต้านทันทีเลย จนพวกเราร้องไห้กันเยอะมากเลยค่ะ แต่ตอนนี้ก็เข้าใจขึ้นมาบ้างแล้วว่า ทำไมมีคนไม่ค่อยพอใจมิวสิควิดีโอของพวกเรา เลยเริ่มคิดซะว่าการถูกวิจารณ์ก็คือการได้รับความสนใจเหมือนกัน และเราก็ทำใจกับความเห็นในทางลบพวกนี้ได้มากขึ้นเรื่อยๆ แล้วค่ะ"

พวกเธอยังพูดถึงรุ่นพี่จากเกาหลีใต้ ที่หลายคนมองว่าเป็นต้นแบบของ Super 7 ด้วยว่า "มีสมาชิกบางคนของ SNSD เท่านั้นที่ทั้งเต้นและร้องเพลงได้ดี แต่สมาชิกคนที่เหลือก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย พวกสาวๆ SNSD ยังทำศัลยกรรมกันทุกคน แต่เราสวยแบบธรรมชาติ และรูปร่างของพวกเธอก็เปรียบเทียบกับพวกเราไม่ได้เลย"

อย่างไรก็ตาม Super 7 รีบอธิบายว่าพวกเธอไม่ได้คิดว่าตัวเองเหนือกว่าแต่อย่างใด "เราไม่ได้บอกนะคะว่าพวกเราดีกว่า SNSD แต่เราจะมองพวกเค้าเป็นต้นแบบของพวกเรามากกว่า"

แน่นอนว่าถ้อยคำทั้งหมดที่ถูกเผยแพร่ไปถึงเกาหลีใต้ ได้สร้างความไม่พอใจขึ้นมาอย่างกว้างขวาง มีการอ้างอิงความเห็นของชาวเน็ตเกาหลีบางส่วนว่า "พวกเธอน่าจะเรียนรู้จักการอ่อนน้อมถ่อมตนบ้าง", "พวกเธอไม่ได้สวยแบบธรรมชาติซักหน่อย แต่เป็นธรรมดาแบบธรรมชาติซะมากกว่า"

ยังมีข้อมูลว่าเกิร์ลกรุ๊ป Super 7 มีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 22 ปี มีจุดเด่นอีกอย่างก็คือพวกเธอทุกคนมีหน้าอก “คัพซี” เหมือนกันหมดด้วย

เมื่อ 2 ปีก่อนมีข่าวว่าอดีตนางเอกชื่อดัง “อู๋เชี่ยนเหลียน” (Jacklyn - Wu Chien-Lien) ได้แต่งงานไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใด อีก จนกระทั่งล่าสุดนักแสดงผู้โด่งดังจากบทนางเอกในหนัง “ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ” ได้ประกาศเรื่องสำคัญ ว่าเธอเป็นคุณแม่แล้ว … และตามสไตล์สาวที่หวงความเป็นส่วนตัว การประกาศข่าวครั้งนี้ถึงเกิดขึ้นเมื่อลูกชายของเธอมีอายุได้ 2 ขวบแล้ว

เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา ในงานพบปะสื่อมวลชนของหนังเรื่อง Romance of the Tang Dynasty Hero นักแสดงชื่อดังวัย 43 ปี อู๋เชี่ยนเหลียน ที่ร่วมปรากฏตัวในงานดังกล่าว ในฐานะของนักแสดงรับเชิญคนหนึ่งในหนังเรื่องนี้ ได้อัพเดทเรื่องราวในชีวิตของเธอให้กับสื่อมวลชนได้ฟัง แตกต่างจากปกติที่เธอไม่ค่อยจะพูดถึงเรื่องส่วนตัวอะไรมากนัก

แม้แต่เรื่องการแต่งงาน อู๋เชี่ยนเหลียน ก็ไม่เคยพูดถึงเลย จนเรื่องการตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตคู่ของเธอเป็นข่าวขึ้นมาเมื่อปี 2009 แต่ในวันนี้ดาราที่โด่งดังสุดๆ เมื่อประมาณ 10 กว่าปีก่อนกลับตัดสินใจประกาศว่าเธอได้กลายเป็นคุณแม่แล้ว หลังให้กำเนิดลูกชายเมื่อ 2 ปีก่อน แต่ที่ผ่านมาไม่ได้เปิดเผยเรื่องนี้ให้กับสื่อมวลชนทราบมาก่อน

นอกเหนือจากนี้ อู๋เชี่ยนเหลียน ก็ขอไม่พูดอะไรอีก และไม่ตอบคำถามหรือเปิดโอกาสให้สัมภาษณ์ใดๆทั้งสิ้น

เป็นที่รู้กันว่า อู๋เชี่ยนเหลียน ไม่ค่อยได้เปิดเผยถึงเรื่องราวรายละเอียดเกี่ยวกับชีวิตคู่ของเธอให้คนอื่นรับทราบนัก แต่สื่อเชื่อว่าเธอน่าจะแต่งงานแบบเงียบๆไปแล้ว ที่ลาสเวกัสเมื่อปี 2007 หรือขณะที่เธอมีอายุได้ 39 ปี จนเมื่อ 2 ปีก่อนเรื่องนี้จึงเป็นข่าวขึ้นมา พร้อมๆกับช่วงที่เรื่องชีวิตแต่งงานของอดีตคู่ขวัญของเธออย่าง หลิวเต๋อหัว กับ แครอล จู เป็นประเด็นใหญ่โตในหน้าบันเทิงของสื่อฮ่องกงนั่นเอง

อย่างก็ตามถึงตอนนี้ดาราชื่อดังจากหนัง ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ก็ยังไม่เคยเปิดตัวสามี ทราบกันแต่เพียงว่าเขามีแซ่ว่า "จ้าว" และทำงานในอุตสาหกรรมเภสัชภัณฑ์เท่านั้น

เพลง "3650" เป็นเพลงที่ออกมาเนื่องในวาระครบครอบ 10 ปีวง Twins ของสองนักร้องสาวไอดอลดูโอสุดฮอตอย่าง กิลเลี่ยน หรือ อาเจียว (จงซินถง / Gillian Chung) และ ชาร์ลีน หรือ อาซา (ไช่จั๊วเหยียน / Charlene Choi) ซึ่งทั้งคู่เพิ่งจัดงานฉลองครบรอบ 10 ปีไปเมื่อกลางที่ผ่านมา โดยเพลง 3650 นั้นอยู่ในอัลบั้มใหม่ของเธอทั้งสองที่ออกวางจำหน่ายมาตั้งแต่เดือนกรกฏาคม 2554
       
       หลังจากอาเจียววัย 20 ปีกับอาซาวัย 19 ปี เซ็นสัญญาเข้าเป็นศิลปินในสังกัด EEG ทั้งคู่เข้ารับการฝึกอบรมต่างๆ จนกลายเป็นเพื่อนกัน กระทั่งแมนี่ ผู้จัดการเห็นแววจึงผลักดันให้พวกเธอรวมตัวกันเป็นศิลปินคู่ภายใต้ชื่อวง Twins โดยเริ่มเปิดตัวครั้งแรกกับ EP (อัลบั้มเพลงที่ยังไม่ใช่อัลบั้มเต็ม) ชุด 《Twins》 ชื่อเดียวกับวงในปี 2001 พร้อมกับภาพลักษณ์สาวน้อยร่าเริงสดใส ซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม ทำลายข้อครหาที่ว่า “นักร้องวงหญิงของฮ่องกงดังยาก” ลง ทำให้ EEG เดินเครื่องเต็มสูบดันพวกเธอให้ออกอัลบั้มเพลงกวางตุ้งฉบับเต็มชุดแรกชื่อ ว่า อ้ายฉิงตังรู่จุน 《爱情当入樽》
       
       หลังจากเปิดตัวเพียงแค่ปีเดียว พวกเธอก็มีโอกาสเปิดการแสดงคอนเสิร์ตครั้งแรกที่ฮ่องกง โคลิเซี่ยม ซึ่งเป็นสุดยอดสถานที่จัดการแสดงของซูเปอร์สตาร์ทั่วฟ้าฮ่องกง โดยอาซาในขณะนั้นกลายเป็นนักร้องหญิงอายุน้อยสุดที่ได้แสดงคอนเสิร์ตที่นี่ ในปี 2005 พวกเธอเริ่มฝึกฝนภาษาจีนกลาง เพื่อเจาะตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ โดยออกอัลบั้มเพลงจีนกลางชุดแรกชื่อ เจี้ยนสีอ้ายเสิน 《见习爱神》 ยอดขายสูงถึง 8 แสนแผ่น
       

หน้าดำคร่ำเครียดกันไปทุกหย่อมหญ้า ทั้งคนที่ “น้องน้ำ” มาเยือนแล้ว และกำลังจะไปเคาะประตูหา วันนี้มุมจีนจึงขอหยิบรูปอิริยาบทฮากระจายของดาราสาวหมวย ที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตากันดี มาให้อมยิ้มคลายเครียดไปกับท่าทางเป็นธรรมชาติแบบไม่เก๊กของพวกเธอ

และหวังว่าหลังจากผ่านมรสุมครั้งนี้ไปแล้ว พวกเราทุกคนจะได้ยิ้มร่าเย้ยยุทธจักรดังเช่นพวกนางเหล่านี้เช่นกัน ไทยแลนด์ สู้ สู้!....

Manager Online

รอบแรกบอก “โนเซ็กส์”, ต่อมายอมรับว่าได้เสียสาวให้เขาไปแล้ว ล่าสุดนางแบบวัย 16 ปี “แคมมี่ เซียะ” (Cammi Tse) กลับคำอีกครั้งในการให้สัมภาษณ์กับสื่อที่ฮ่องกง อ้างว่าเธอเองยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับ “เฉินกว้านซี” (Edison Chen) จนมีข่าวลือตามมาว่า นักแสดงหนุ่มเพลย์บอยรายนี้อาจจะมีปัญหาสุขภาพ เสื่อมสมรรถภาพทางเพศไปแล้วก็ได้

“เขาหลอกฉันให้ถ่ายคลิปค่ะ บอกว่าจะเอาไปใช้สำหรับเรื่องงาน ฉันบอกได้แค่ว่ามันอาจจะเรียกว่าคลิปอีโรติกก็ได้ แต่ฉันยังใส่เสื้อผ้าอยู่ตลอดทุกขั้นตอน” แคมมี่ เซียะ กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Sudden Weekly เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา พร้อมยอมรับว่าเธอได้เสีย “ครั้งแรก” ให้กับนักแสดงหนุ่มผู้อื้อฉาววัย 31 ปี เฉินกว้านซี ไปแล้ว

แต่ล่าสุดคล้อยหลังจากนั้นไปวันเดียว นางแบบวัยรุ่นอายุ 16 ปีคนนี้กลับให้สัมภาษณ์กับสื่ออีกเจ้าไปคนละเรื่อง ปฏิเสธว่าไม่ได้ถ่ายคลิปอีโรติกอะไรทั้งนั้น นักข่าวเขียนไปเองทั้งเพ พร้อมอธิบายว่า ส่วนใหญ่ระหว่างอยู่ที่บ้านของฝ่ายชาย เธอก็เพียงไปดูทีวีเท่านั้น และยังยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ระหว่างเธอกับเขานั้นไม่ได้มีอะไรเกินเลยเกิดขึ้น เธอยังคง “บริสุทธิ์ผุดผ่อง” และพร้อมจะเข้ารับการตรวจทางการแพทย์ เพื่อพิสูจน์ความจริงในข้อนี้

การพูดจากลับไปกลับมาเป็นคนละเรื่องแบบนี้ ทำให้หลายคนเริ่มคิดถึงข้อกล่าวหาที่ว่าเธอคนนี้อาจจะทั้งปล่อยภาพ และตีกระพือข่าวทั้งหมดขึ้นมา เพื่อชื่อเสียงของตัวเอง ว่ามีสิทธิ์เป็นไปได้อยู่เหมือนกัน … ขณะเดียวกันก็มีข้อสงสัยไปถึงฝ่ายของ “เฉินกว้านซี” ว่า “สุขภาพร่างกาย” ของเขายังคงแข็งแรงดีอยู่หรือไม่

ในการให้สัมภาษณ์ครั้งหลังนี้ แคมมี่ เซียะ อธิบายถึงเรื่อง “คลิป” ที่เธอเป็นแบบให้ อาเฉิน บันทึกภาพว่า ไม่ได้เป็นคลิปแนว "อีโรติก" อย่างที่หลายๆคนเข้าใจ เพราะเธอใส่เสื้อผ้าครบชิ้นอยู่ตลอด ไม่ได้เอาชุดนักเรียนของตัวเองไปด้วยอย่างที่เขาบอก, ไม่ได้ใส่ชุดชั้นในที่เขาเตรียมให้ เพียงแต่ใส่ชุดสาวใช้แบบตะวันตกอย่างที่เขาหามาเท่านั้น เพื่อโพสต์ท่าตามแต่ที่นักแสดงหนุ่มคนดังจะสั่ง และการถ่ายภาพส่วนใหญ่จะทำกันบนเตียง

ลาโลกแล้ว “ริกกี้ ฮุย” (Ricky Hui / 許冠英 / 许冠英 / Hui Koon-Ying) ดาวตลกชาวฮ่องกงวัย 65 ปี ผู้โด่งดังขึ้นมาด้วยฐานะ 1 ใน 3 “พี่น้องตระกูลฮุย” ผู้พลิกโฉมวงการหนังฮ่องกง และยังมีผลงานมากมายในยุค 1970s - 1980s รวมถึงบท “ลูกศิษย์จอมเซ่อ” ของอาจารย์ปราบปีในหนัง “ผีกัดอย่ากัดตอบ” ด้วย

ริกกี้ ฮุย หรือ สวีกวนอิง วัย 65 ปี ถูกพบเป็นศพบนเตียง ในบ้านของเขาที่ตั้งอยู่ในเขตเกาลูนฮ่องกง เมื่อคืนของวันที่ 8 พ.ย. โดยคาดว่าเขาน่าจะเสียชีวิตมาเป็นเวลาพอสมควรแล้ว และน่าจะเป็นการเสียชีวิตจากโรคหัวใจ ที่เขาเองป่วยอยู่ และรักษามานานหลายปี

จากพื้นเพเดิมเป็นคน อำเภอพานอวี๋ กวางโจว ริกกี้ ฮุย อพยพเข้ามาอยู่ในฮ่องกงพร้อมกับครอบครัวตั้งแต่ยังเด็กๆ และเป็นคนรองในพี่น้องที่มีกันอยู่ 4 คนของตระกูล ซึ่งแม้ทางครอบครัวจะมีความเป็นอยู่อัตคัดขัดสนเงินทอง พ่อต้องทำงานทุกอย่างเพื่อจุนเจือครอบครัว แต่บ้านตระกูลฮุยก็ไม่เคยขาดเสียงเพลง ทั้งเสียงไวโอลินที่พ่อมักจะบรรเลง และเพลงงิ้วปักกิ่งที่แม่ของเขาชอบโดยส่วนตัว

เมื่อจบการศึกษา ริกกี้ เริ่มทำงานเป็นนักข่าวของ Agence France-Presse ต่อมาได้ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง จากตัวบทประกอบที่บริษัทชอว์บราเดอร์ จนประสบความสำเร็จอย่างสูงในการร่วมงานกับ ไมเคิล ฮุย พี่ชายคนโต และ แซม ฮุย น้องชายคนที่ 3 ซึ่งได้รับการจดจำในฐานะ “พี่น้องตระกูลฮุย” อันโด่งดังแห่งยุค 70s กับหนังตลกภาษากวางตุ้ง ที่เข้ามาแทนหนังภาษาจีนกลาง และเปลี่ยนแปลงวงการภาพยนตร์ฮ่องกงไปตลอดกาล

ผลงานที่ทั้ง 3 ได้ร่วมงานกันและโด่งดังที่สุดก็คือ หนังตลกที่เล่าเรื่องชีวิตปากกัดตีนถีบของชนชั้นหาเช้ากินค่ำในฮ่องกงอย่าง “เก่งกับเฮง” (The Private Eyes) ในปี 1976 นอกจากนั้นยังมีงานที่ทั้งสามพี่น้องได้ร่วมงานกันอีกอย่าง The Contract (1978), Games Gamblers Play (1974) และ Security Unlimited (1981)

นอกจากการร่วมงานกันในหมู่พี่น้องแล้ว ริกกี้ ฮุย ก็ยังมีผลงานเด่นอีกหลายเรื่อง แสดงหนังภายใต้การกำกับของ จอห์น วู ในยุคก่อนที่คนทำหนังระดับโลกคนนี้จะโด่งดังเป็นพลุแตกกับหนังแนวแอ็กชั่น ในผลงานหนังตลกถึง 3 เรื่อง ได้แก่ From Riches To Rags (1979), To Hell with the Devil (1982) และ Plain Jane To The Rescue (1982)

สถานีโทรทัศน์ ATV ได้เริ่มเปิดรับสมัคร สำหรับเวทีประกวดหนุ่มหล่อ Mr. Asia Contest 2011 ขึ้นเมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา พร้อมกติกาที่ไม่จำกัดคุณสมบัติทั้งเรื่องรูปร่าง, ส่วนสูง หรือายุใดๆ ทั้งสิ้น จนมีผู้สมัครหลากหลายรูปแบบ อย่างที่เวทีประกวดหนุ่มหล่อเวทีอื่นไม่มีทางเหมือน

การประกวด Mr. Asia Contest 2011 ของสถานีโทรทัศน์ ATV แห่งฮ่องกงได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน และมีผู้สมัครมาเพื่อรับการสัมภาษณ์รอบแรกที่หลากหลาย ครอบคลุมตั้งแต่อายุ 19 – 53 ปี ซึ่งส่วนใหญ่ ยังแสดงความมั่นใจด้วยการอวดหุ่นในกางเกงว่ายน้ำด้วย แม้บางคนจะไม่มีอะไรให้โชว์นักก็ตาม

เหล่าหนุ่มๆ ที่เดินทางมาสมัครเข้าร่วมการประกวด Mr. Asia Contest 2011 ในวันนั้นและได้รับความสนใจจากเหล่าสื่อมวลชน ก็มีทั้งหนุ่มฉายา Chocolate Ball ที่มาพร้อมๆ กับการเกงในทีแบ็ค, หนุ่มใหญ่มือกีตาร์ ที่ไม่ได้อวดหุ่นเหมือนคนอื่น แต่โชว์ความสามารถทางการร้องเพลง และเล่นดนตรีแทน, ยังมีหนุ่มแว่นทีได้รับฉายาเป็น “แฮร์รี พ็อตเตอร์ แห่งมาเก๊า”, “ทนายความสุดหล่อ” และหนุ่มคนหนึ่งที่โดดเด่นด้วยการโชว์รอยสักบนหัวไหล่

เฉินจิงกัวะ ที่ได้รับฉายาว่าเป็น “หลี่เหลียงเหว่ยอก 44” ดูจะเป็นผู้ประกวดที่โดดเด่นได้ด้วยรูปร่างหน้าตา แทนที่จะเป็นจุดขายแปลกๆ อย่างคนอื่น โดยระหว่างการให้สัมภาษณ์เขายังพูดถึงการมีหน้าตาคล้ายคลึงกับ นักแสดงรุ่นใหญ่ “หลี่เหลียงเหว่ย” ที่โด่งดังมาจากบท “ติงลี่” ว่า “ผมก็คิดแบบนั้นนะครับ หลี่เหลียงเหว่ยเป็นไอดอลของผม ผมมีความมั่นใจในการประกวดครั้งนี้พอสมควรครับ แต่คู่แข่งคนอื่นๆ ก็ยอดเยี่ยมกันทั้งนั้น ผมจะทุ่มเทให้มากที่สุดครับ”

ส่วน สวี่อันติ๊ก ผู้เข้าประกวดผิวสีเข้มที่สวมกางเกงว่ายน้ำ “ทีแบ็ค” ขึ้นมาบนเวที จนทีมงานขอให้ลงไปเปลี่ยนชุด ก็เชื่อว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรแปลกประหลาด “ไปสระว่ายน้ำผมก็แต่งแบบนี้ตลอดนะครับ เรื่องปกติ” เขายังปัดข้อกล่าวหาว่ากำลังจะทำให้การประกวด Mr. Asia Contest 2011 กลายเป็นเรื่องเพศมากเกินไปด้วยว่า “ไม่น่านะครับ ผมใส่ชุดแบบนี้มาหลายปีแล้ว ตัวผมเองก็แต่งงานแล้วด้วย”

ยังคงมีความคืบหน้าออกมาเรื่อยๆ สำหรับกรณีความสัมพันธ์ระหว่างนักแสดงหนุ่มจอมฉาว “เฉินกว้านซี” (Edison Chen) กับ “แคมมี่ เซียะ” (Cammi Tse) ที่ล่าสุดฝ่ายหญิงได้ออกมาให้ข่าวเพิ่มเติมถึงประเด็นต่างๆ เช่นเดียวกับที่มี “บุคคลที่ 3” ที่เริ่มออกมาพูดถึงเรื่องนี้กันมากขึ้นเรื่อยๆ … ขณะเดียวกับยังมี “คลิปเซ็กส์” ที่ว่ากันว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หลุดสู่โลกออนไลน์แล้ว

หลังจากมีภาพถ่ายจำนวนหนึ่งเผยแพร่ออกมาในสื่อต่างๆ จนฝ่ายของนักแสดงหนุ่มวัย 31 ปี เฉินกว้านซี ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการถึงเรื่องนี้ไปแล้ว โดยยอมรับตรงๆ ว่าเขาเคยคบหากับสาวคนนี้ แต่ก็ได้เลิกรากันไป

เช่นเดียวกับฝ่ายหญิงที่ได้เปิดปากให้สัมภาษณ์ พร้อมยืนยันว่าระหว่างเธอกับเขาไม่ได้มีเรื่องเกินเลยไปถึงขั้นมีเพศสัมภาษณ์กัน เพียงแต่ใช้เวลาด้วยกัน โดยเฉพาะกับการถ่ายรูป ที่เธอจะแต่งตัวด้วยชุดต่างๆ ตามแต่ที่เขาบอกเท่านั้น

แต่ล่าสุด แคมมี่ เซียะ ได้ให้สัมภาษณ์กับ Sudden Weekly เพิ่มเติม ซึ่งครั้งนี้สาวน้อยวัย 16 ปี ได้ขอกลับคำและยอมรับแล้วว่าเธอได้มอบ “ครั้งแรก” ให้กับหนุ่มเฉินไปแล้ว นอกจากนั้นเธอยังยอมรับว่ามีคลิปแนว “อีโรติก” ของตัวเอง ที่ เฉินกว้านซี ถ่ายเก็บเอาไว้ด้วย

“แคมมี่ เซียะ” เปิดใจยอมรับความจริง (เสียที)

นางแบบวัยกระเตาะได้ให้สัมภาษณ์ด้วยน้ำตาว่า อาเฉิน เคยขอกับเธอเอาไว้ ให้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ แต่ด้วยความดีใจ เธอจึงโพสต์ภาพคู่ที่ถ่ายกับเขาลงบล็อก แต่ยืนยันว่าไม่ได้เป็นภาพที่ปรากฏในข่าวแต่อย่างใด นอกจากนั้นแล้วก็ยังเคยโพสต์ภาพของขวัญที่เขาซื้อให้ ที่เป็นบราเซีย Hello Kitty ราคา 5,000 เหรียญฮ่องกง ลงบนบล็อคด้วยเช่นเดียวกัน

นางแบบสาวยังเล่าถึงตอนที่ถูกนักแสดงหนุ่มคนดังตัดความสัมพันธ์ ว่าตัวเองต้องร้องไห้อยู่หนึ่งคืนหนึ่งวันเต็มๆ เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นกะทันหัน และยังทำใจไม่ได้ “ฉันเสียใจค่ะ มันเป็นเรื่องส่วนตัวมาตลอด แต่ตอนนี้ทั้งโลกพูดถึงฉัน โจมตีฉัน ฉันไม่มีความสุข และกดดันมากจริงๆ”

ฮีบี้ เถียน (Hebe Tian) แห่งวง S.H.E. ซึ่งรสนิยมทางเพศยังคงเป็นปริศนาอยู่จนถึงทุกวันนี้ เมื่อเร็วๆนี้ เธอเป็นคนที่รับช่อดอกไม้ในงานแต่งงานของเซลิน่า (Selina Jen) เพื่อนสนิทของเธอ

ในคืนนั้น ฮีบี้กล่าวว่า "ฉันคิดว่า ฉันไม่มีทางที่จะแต่งงาน!"

สองวันต่อมา เธอถูกพบเห็นว่าไปดูหนังกับเพื่อนหญิงคนสนิทของเธอคนหนึ่ง ซึ่งก็คือ Zhong Ruo Han ผู้จัดการของ A-Mei นี่เป็นครั้งที่สองที่ทั้งคู่ถูกพบเห็นว่าออกไปเที่ยวด้วยกัน

ในตอนแรก ทั้งสองคนเดินคู่กันมา Ruo Han เอนไปทางฮีบี้เพื่อแนะนำอาหารบริเวณนั้น เมื่อพวกเขารู้ว่า พวกเขาถูกตาม Ruo Han รีบทำตัวห่างจากฮีบี้ ต่อมา เธอจากไป ก่อนที่จะดูหนัง

เมื่อฮี้บี้ถูกสื่อทัก เธอถูกถามว่า เธอไปที่นั่นดูหนังกับเพื่อนหรือเปล่า ฮีบี้ปิดปากด้วยมือ และส่ายหัว นักข่าวทดสอบว่าเธอมากับ Ruo Han หรือเปล่า แต่ฮีบี้ทำท่าเฉยๆและไม่กล่าวอะไร

จากนั้น ฮี้บี้กล่าวว่า เธอต้องการจะปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ เมื่อนักข่าวถามเธอว่า เธอต้องการจะแต่งงานอย่างเร็วที่สุดหรือเปล่า เนื่องจากเธอเป็นคนที่ได้รับช่อดอกไม้ในงานแต่งงานของเซลิน่า จากนั้นฮีบี้จึงออกไปด้วยรถอย่างรวดเร็ว

ข่าวลือเกี่ยวกับคนรักของฮี้บี้ ซึ่งก็คือ Ruo Han มีอยู่มาพักหนึ่งแล้วจนถึงตอนนี้

ก่อนหน้านี้ ยังมีการคาดการณ์ว่า Ruo Han ซึ่งเคยเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของนักร้องเจย์ โจว์ (Jay Chou) เป็นสาเหตุที่ทำให้เจย์ และฮีบี้เลิกกัน ลือกันว่าเจย์ และฮีบี้เคยคบกัน เจย์ไล่ Ruo Han ออกในเวลาต่อมา และเธอจึงเข้าร่วมกับบริษัทของ A-Mei

Xin

หลินจื้ออิง (Jimmy Lin) และจางนารา (Jang Na-ra) ปรากฏตัวในปักกิ่งเมื่อวันก่อน ในงานแถลงข่าวภาพยนตร์เรื่องใหม่ Flying With You

ภาพยนตร์นี้จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬากระโดดร่ม บทของหลินจื้ออิงคือทหารผ่านศึกหน่วยพิเศษ ในฐานะทหารผ่านศึกจริงๆ เขารู้สึกชื่นชอบในบทละครนี้ "ผมรับเล่นหนังเรื่องนี้เพราะว่าผมชอบช่วงเวลาที่ผมอยู่ในกองทัพ คุณเห็นผมสั้นของผมไหม นี่เป็นเพียงแค่ก้าวแรก ผู้กำกับจะสร้างหลินจื้ออิงขึ้นมาใหม่ คุณผู้ชมจะไม่สามารถบอกได้ว่าคนๆนั้นคือผมในช่วง 30 นาทีแรกของหนัง"

แม้ว่าเขาจะไม่เคยลองกระโดดร่มมาก่อน แต่ในฐานะนักขับรถแข่ง เขาไม่กังวล "เพราะว่าผมแข่งรถ ผมชอบทุกๆอย่างที่เกี่ยวกับความเร็ว ผมลองทุกๆอย่างบนพื้นดินแล้ว และถึงเวลาที่ผมจะลองอะไรในท้องฟ้าบ้าง!"

สำหรับนักแสดงหญิงชาวเกาหลี จางนารา ถือได้ว่าเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์จีนเรื่องแรกของเธอ เธอพูดเป็นภาษาจีนในระหว่างการแถลงข่าว แม้ว่าเธอจะพยายามอย่างมาก แต่พวกเราก็ยังสามารถบอกได้ว่า ภาษาจีนของเธอยังไม่ดีพอ เธอกล่าวว่า เธอกังวลมากเกี่ยวกับภาพยนตร์ใหม่นี้ "หลินจื้ออิงเป็นไอด้อลของฉัน ฉันพบเขาครั้งแรกวันนี้ และฉันเครียดมากๆ" เธอจะรับบทในหนังด้วยการพูดเป็นภาษาจีน บทของเธอเป็นลูกสาวของนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่เติบโตในเกาหลีเนื่องจากธุรกิจของพ่อเธอ"

Sina

เจิ้งอี้เจี้ยน (Ekin Cheng / 郑伊健) นักแสดงชาวฮ่องกง ที่กลัวการผูกมัด แต่กลายเป็นว่า ต้องการจะแต่งงานในใต้ทะเล

ว่ากันว่า เขามีแผนที่จะแต่งงานกับนักแสดงหญิงเมิ่งเจียฮุย (Yoyo Mung / 蒙嘉慧) ซึ่งเขาคบอยู่มา 5 ปี

หลังจากเข้าร่วมงานแต่งงานของเพื่อนนักแสดงของเขา เฉินเสี่ยวชุ่น (Jordan Chan / 陈小春) เขากล่าวว่า มันทำให้เขาเปลี่ยนความรู้สึกของเขา เจิ้งอี้เจี้ยนกล่าวว่า เขามีแผนที่จะแต่งงาน แต่ยังไม่มีกำหนดการณ์ใดๆ

เจิ้งอี้เจี้ยน และ เมิ่งเจียฮุย ต่างก็ชื่นชอบในกีฬา และว่ากันว่า ต้องการจะแต่งงานกันใต้ทะเล อย่างไรก็ตาม เมิ่งเจียฮุยยืนยันว่า เธอยังไม่ได้ยินคำขอแต่งงานใดๆในขณะนี้

Sina

เซลิน่า (Selina Jen / 任家萱) แห่งวง S.H.E. จะต้องรออย่างน้อย 3 ปี ที่จะท้องได้ เนื่องจากเธอต้องทานยามากมายหลายแบบ เพื่อรักษาแผลไฟไหม้ของเธอ

พ่อของเธอกล่าวว่า ความสำคัญในขณะนี้คือ ให้ผิวหนังของเซลิน่ากลับมาเป็นปกติก่อน

เซลิน่าแต่งงานกับริชาร์ด (Richard Chang / 張承中) เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว แต่ทั้งสองไม่สามารถนอนร่วมเตียงเดียวกันได้ เนื่องจากเธอยังคงเจ็บแผลอยู่ และทำให้สัมผัสตัวเธอไม่ได้

แม่ของเธอกล่าวว่า เซลิน่าวัย 30 ปี เคยคิดที่จะฆ่าตัวตายอยู่สองสามครั้ง

แม่ของเธอเคยกล่าวว่า "พวกเราไม่ควรให้กำเนิดเธอออกมา ซึ่งจะทำให้เธอไม่ต้องมาพบเจอกับอุบัติเหตุในครั้งนี้"

Apple Daily

สร้างประเด็นอื้อฉาวขึ้นมาอีกแล้ว สำหรับหนุ่ม “เอดิสัน เฉินกว้านซี” (Edison Chen) ที่ล่าสุดปรากฏภาพของเขา ที่แสดงความใกล้ชิดสนิทสนมชนิดเกินความเป็นเพื่อนไปมาก กับนางแบบสาวน้อย “แคมมี เซียะ” (Cammi Tse) ที่มีวัยเพียง 16 ปี ล่าสุดเพลย์บอยคนดังแห่งฮ่องกงได้เปิดปากยอมรับแล้วว่าเขา “เคย” คบหากับเธอคนนี้จริง ส่วนฝ่ายหญิงก็ออกมาให้ข่าวว่าความสัมพันธ์ของเธอกับ “เฉิน” นั้นไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปถึงขั้นเรื่องทางเพศแต่อย่างใด

เฉิน: “ฉันขอถ่ายรูปเธอด้วยได้มั้ย??? เสร็จแล้วก็จะลบทิ้ง … แค่สนุกๆ”
แคมมี: “รูปอะไรคะ”
เฉิน: “ไม่รู้ซิ ฮิฮิฮิ”
แคมมี: “โอ่”
เฉิน: “ฉันมีชุดให้เธอด้วยนะ … บางชุดก็ออกแนวน่ารัก … บางชุดเซ็กซี … บางชุด … ความลับ … เธอไม่บอกใครนะ?”
เฉิน: “อย่าลืมเอาชุดนักเรียน, ชุดว่ายน้ำมาด้วยนะ แล้วก็ชุดน่ารักๆด้วยล่ะ”
แคมมี: ”โอเคค่ะ”
เฉิน: “รอไม่ไหวแล้ว”
เฉิน: “มันต้องสนุกแน่เลย … สำหรับเราทั้งคู่ … แล้วก็สำหรับเธอโดยเฉพาะ”

ข้อความข้างต้น คือบทสนทนาทางอินเตอร์เน็ต ที่สื่อในฮ่องกงอ้างว่าเป็นการแช็ตโต้ตอบกันของ เอดิสัน เฉินกว้านซี กับนางแบบสาววัย 16 ปี แคมมี เซียะ ที่ข่าวระบุว่าสานสันพันธ์กันมาพักใหญ่ๆแล้ว จนกระทั่งปรากฏหลักฐานภาพถ่ายออกมาในหน้าสื่อเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

หลังเกิดกรณีอื้อฉาวที่ภาพเรตเอ็กซ์ของเขา กับดาราสาวมากหน้าหลายตา หลุดสู่โลกออนไลน์ จนกลายเป็นเรื่องใหญ่ระดับประเทศเมื่อปี 2008 หลายคนคิดว่า เฉินกว้านซี จะเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้าง แต่สื่อในฮ่องกงยืนยันว่า เขายังคงเป็นคนเดิม ที่หมกมุ่นกับเรื่องทางเพศ และการถ่ายภาพสาวๆเก็บเอาไว้แบบคอลเล็กชั่นส่วนตัว

แหล่งข่าวอ้างว่า เฉิน วัย 31 ปี มักจะชวนสาวน้อย แคมมี มาที่บ้าน เพื่อให้เธอเป็นนางแบบสวมใส่ชุดหลายๆแบบที่เขาเตรียมเอาไว้ให้ รวมถึงชุดชั้นในสุดเซ็กซีสไตล์ “สาวใช้แบบตะวันตก” หรือชุดว่ายน้ำ และชุดนักเรียนของเธอเอง ตามแต่ที่จะกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของเขาได้

แต่อย่างน้อยขณะนี้ก็ยังไม่มีภาพระดับรุนแรงออกอากาศไม่ได้ หรือภาพที่ฝ่ายหญิงสวมใส่เครื่องแบบและชุดต่างๆที่ว่า หลุดไปถึงมือที่ 3 แต่อย่างใด มีเพียงภาพที่ทั้งคู่แสดงความใกล้ชิด โอบกอด และจุมพิตกัน ปรากฏอยู่ในหน้าสื่อเท่านั้น

เรนี่ หยาง (Rainie Yang) นักร้องและพิธีกรชื่อดัง ถูกโซนี่คว้าตัวขึ้นมาเป็นพรีเซนเตอร์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของบริษัทเพลย์สเตชันวีตาที่ประเทศไต้หวัน แต่ดันถือเครื่องเกมกลับหัว พร้อมหลุดปากบอกเกมโปรดคือซูเปอร์มาริโอบราเธอร์ส

ปกติแล้วในทวีปเอเชีย เวลามีงานเปิดตัวอุปกรณ์เครื่องเกมใหม่ๆ ส่วนมากจะใช้ดารานักแสดงหรือนักร้องที่ได้รับความนิยมในขณะนั้น ขึ้นมาบนเวทีเพื่อแสดงผลิตภัณฑ์ ซึ่งเหล่าดาราแต่ละคน อาจจะไม่ใช่นักเล่นเกมตัวยง หรือมีความรู้เกี่ยวกับเกมมากนัก

ล่าสุดในงานแถลงข่าวที่บริษัทโซนี่จัดขึ้นในประเทศไต้หวัน เพื่อเปิดตัวเครื่องเกมพกพาตัวใหม่ของบริษัทเพลย์สเตชันวีตาและเตรียมวางจำหน่ายในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ที่ไต้หวัน โดยทางโซนี่ได้จ้าง "เรนี่ หยาง" พิธีกรและนักร้องไต้หวันชื่อดังมาโปรโมทเครื่องเกมดังกล่าว และในระหว่างที่เธอให้สัมภาษณ์กับนักข่าวตามปกตินั้น เธอกลับหลุดปากพูดในสิ่งที่โซนี่ไม่อยากได้ยินขึ้นมา ว่าเกมโปรดที่เธอชอบเล่นมากที่สุด คือซูเปอร์มาริโอบราเธอร์ส ซึ่งมันเป็นเกมของบริษัทคู่แข่งนินเทนโด

นอกจากนี้ เมื่อจบจากการให้สัมภาษณ์ เรนี่ หยาง ก็ได้ขึ้นมาบนเวทีเพื่อโชว์เครื่องวีตาออกสู่สายตาสาธาณชน แต่ทว่าเธอกลับถือเครื่องวีตาในลักษณะกลับหัว แล้วยิ้มให้กล้องถ่ายรูปอีกด้วย ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอทำพลาด หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2003 เธอคนนี้ได้เคยบอกว่า สงครามไซโนครั้งที่สองระหว่างญี่ปุ่นกับจีนนั้นกินเวลายาวนานกว่า 11 ปี ทั้งที่ความจริงแล้วสงครามดังกล่าวใช้ระยะเวลาเพียง 8 ปีเท่านั้น (ค.ศ. 1937 - 1945)

ซึ่งหลังจากจบงานแถลงข่าวของทางโซนี่ เรนี่ หยาง ก็ได้ถูกสื่อวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แถมยังโดนแบนจากรายการทีวีอีกด้วย ส่วนเธอเองก็ได้เขียนข้อความขอโทษแก่สื่อสาธารณชน โดยระบุว่า ตัวเธอนั้นได้ออกจากโรงเรียนก่อนกำหนดเพื่อเข้าสู่วงการบันเทิง และเธอสัญญาว่าจะศึกษาประวัติศาสตร์ให้มากกว่านี้รวมไปถึงวงการเกมด้วย

อัพเดทรายงานล่าสุด เรนี่ หยาง ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อระบุว่าในงานแถลงข่าวของโซนี่นั้น เธออ้างว่ามีคนถามเธอว่าชอบเล่นเกมอะไรตอนเด็ก เธอจึงตอบเกมซูเปอร์มาริโอบราเธอร์สไป แต่ตอนนี้เธอชอบเกมโซนี่แล้ว