ข่าวญี่ปุ่น

มีนักแสดงหนุ่มแดนกิมจิไม่น้อยทีเดียว ที่เป็นขวัญใจของสาวๆแดนอาทิตย์อุทัยและกวาดรายได้มาแล้วมากมายจากเหล่าบรรดาแฟนคลับที่นั่น ซึ่งหลังจากที่ประเทศญี่ปุ่นประสบภัยธรรมชาติขั้นรุนแรง เหล่าพระเอกชื่อดังแดนกิมจิก็ไม่นิ่งนอนใจ พาเหรดกันออกมาบริจาคเงินช่วยเหลือเป็นการด่วน

แบยองจุน (Bae Yong Jun) นักแสดงเกาหลีที่ขึ้นชื่อว่าโด่งดังมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่นจากผลงานซีรีย์เรื่อง Winter Love Song จนมีชื่อเรียกติดปากแฟนๆชาวญี่ปุ่นว่า ยุนซามะ ก็ได้เป็นนักแสดงคนแรกที่รีบออกมาบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยซึ่งเขาบริจาคเงินมากที่สุดเป็นจำนวนถึง หนึ่งพันล้านวอนหรือประมาณ 27,585,000 บาทเพื่อช่วยเหลือชาวญี่ปุ่นที่ประสบภัยพิบัติครั้งนี้

โดยตัวแทนบริษัทของแบยองจุนได้ออกมาแถลงว่า "หลังจากที่ได้ยินว่าญี่ปุ่นมีเครื่องมือและความช่วยเหลืออย่างจำกัด แบยองจุนก็รีบตัดสินใจบริจาคเงินทันทีหนึ่งพันล้านวอนเพื่อช่วยเหลือในภาวะฉุกเฉินนี้ โดยหวังว่าจะช่วยฟื้นฟูและช่วยผู้ประสบภัยได้อย่างเร็วที่สุด ซึ่งเงินจะถูกบริจาคให้กับตัวแทนการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นที่เป็นผู้จัดตั้งองค์กรรับบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุแผ่นดินไหวและภัยสึนามิ แบยองจุนยังกังวลเกี่ยวกับเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายในเรื่องของอาหารและสิ่งดำรงชีพขั้นพื้นฐานซึ่งเขาได้ตัดสินใจว่าจะจัดหาอาหาร, ผ้าห่ม และสิ่งของจำเป็นอื่นๆเพื่อนำไปมอบให้ผู้ประสบภัยครั้งนี้ด้วย"

แบยองจุน ไม่ใช่นักแสดงคนเดียวที่บริจาคเงินให้กับญี่ปุ่น โดยงานนี้นักแสดงชายอีกหลายคนที่โด่งดังอย่างมาก และได้รับกระแสการตอบรับเป็นอย่างดีจากแฟนๆในญี่ปุ่นก็ออกมาบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยเช่นกัน ซึ่งนักแสดงหนุ่มชื่อดัง ซองซึงฮอน (Song Seung Heon) ก็ร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือด้วยเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 200 ล้านวอนหรือประมาณ 5,363,750 บาท ให้กับองค์กรการกุศล Salvation Army

โดยทางตัวแทนจากองค์กรดังกล่าวก็ได้ออกมายืนยันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ว่าได้รับเงินบริจาคโดยตรงจากทางนักแสดงหนุ่มชื่อดังจริง ซึ่งซองซึงฮอนได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ว่า

ในช่วงเวลาที่ประเทศกำลังประสบกับภัยพิบัติ "โยชิกิ" (Yoshiki) ผู้นำวงร็อค X-Japan ได้ประกาศนำ 'เปียโนคริสตัล' สมบัติสุดรักสุดหวงของเขา ออกประมูลเพื่อเรี่ยไรเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในครั้งนี้

โยชิกิ ซึ่งปกติจะใช้ชีวิตอยู่ที่ ลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เดินทางกลับสู่กรุงโตเกียวเมื่อเร็วๆนี้ เพื่อดูแลเรื่องงานแฟชั่นโชว์ และงานเพลงของตนเอง โดยศิลปินชื่อดังกล่าวว่าเขาเองก็รู้สึกถึงแรงสะเทือน ระหว่างกำลังเข้าห้องอัดเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา และยิ่งรู้สึกสะเทือนใจขึ้นไปอีก เมื่อได้เห็นภาพความเสียหายต่างๆที่เกิดขึ้นทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่นในรายงานข่าว จึงเริ่มรู้สึกว่าตนเองควรจะ "ต้องทำอะไรบ้าง" กับสิ่งที่เกิดขึ้น

เปียโนคริสตัล เป็นเครื่องดนตรีคู่กาย ที่เป็นสัญลักษณ์ของ โยชิกิ มานาน โดยผู้เชี่ยวชาญกล่าวถึงของชิ้นนี้ว่า "ประเมินค่าไม่ได้" เพราะมันคือเครื่องดนตรี ที่ร็อคเกอร์ วัย 45 ปี ใช้มานานหลายปีในการเดินทางเพื่อออกแสดงตามประเทศต่างๆทั่วโลก

ซึ่งรายได้จากการประมูลเปียโนคริสตัล จะถูกส่งให้กับองค์กรการกุศลเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยจะมีการเปิดเผยถึงรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับขั้นตอนการประมูลภายในวันนี้ (14 มี.ค.) นอกจากนั้น โยชิกิ ยังจะร่วมเรี่ยไรเงินจากผู้บริจาคผ่านมูลนิธิส่วนตัวของเขา เพื่อสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วย

โยชิกิ ยังทวีตข้อความถึงแฟนๆว่า "ขอบคุณทุกคนครับ ที่เป็นห่วงผม แม้ว่ายังจะมีเพื่อนบางคนที่ผมไม่สามารถติดต่อได้ แต่ตอนนี้สามารถติดต่อสมาชิกในครอบครัวทุกคนได้แล้ว และเผื่อว่าจะมีอะไรที่พอจะช่วยเหลือทุกๆคนได้บ้าง ผมจะยืดเวลาในการอยู่ที่ญี่ปุ่นให้นานขึ้นครับ"

นอกจากโยชิกิแล้ว ศิลปินและคนจากแวดวงบันเทิงอีกหลายราย ยังพยายามมีส่วนช่วยเหลือ ในภัยพิบัติของประเทศครั้งนี้ อาทิ T.M. Revolution ซึ่งกำลังจะจัดคอนเสิร์ตเพื่อเรี่ยไรเงินขึ้น ส่วนร็อคเกอร์หนุ่ม Gackt ก็จัดโครงการระดมทุน Show Your Heart ขึ้นมาอย่างเร่งด่วน โดยเขากล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "พวกเราแต่ละคนอาจจะทำอะไรไม่ได้มาก แต่ถ้าร่วมมือกันแล้ว มันจะกลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ครับ ในเวลาเช่นนี้ เราต้องมีความกล้าที่จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือกัน"

ดาวตลกรุ่นใหญ่แห่งแดนอาทิตย์อุทัย “คาโต้ ชะ” ผู้โด่งดัง และเป็นที่รู้จักจากรายการตลกอย่าง “คู่หูคู่ฮา” ได้ฉลองการอยู่ในวงการบันเทิงมาครบ 50 ปี ในวันเกิดปีที่ 68 ปีของตัวเอง
       
       เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมาเป็นวันคล้ายวันเกิดปีที่ 68 ของดาวตลกรุ่นใหญ่ คาโต้ ชะ หรือ คาโต้ ฮิเดยูกิ ซึ่งเขายังใช้โอกาสดังกล่าวเพื่อฉลองการอยู่ในวงการบันเทิงมาครบ 50 ปีของตัวเองด้วย
       
       คาโต้ ชะ เข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่ปี 1961 จนกระทั่งอีกหนึ่งปีต่อมา เขาได้กลายเป็นมือกลองของ The Drifters กลุ่มวงดนตรีที่ร็อค ที่สามารถนำเสนออารมณ์ขัน และการแสดงตลก ในโชว์ของพวกเขาได้อย่างลงตัว จนโด่งดังขึ้นมาในยุค 60s
       
       The Drifters รุ่งโรจน์สุดขีดเมื่อประมาณ 40 กว่าปีก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายการวาไรตี้โชว์ Hachijidayo, Zen'inshugo! ที่กลายเป็นรายการเรตติ้งสูงสุดของประเทศอยู่ช่วงใหญ่ ๆ ระหว่างปี 1969 – 1985 และยังเป็นหนึ่งในรายการบันเทิงที่ครองสถิติเรตติ้งสูงสุด ในประวัติศาสตร์วงการโทรทัศน์ของประเทศญี่ปุ่น
       
       ด้วยมุขตลกง่าย ๆ รายการดังกล่าวจึงเป็นที่นิยมในกลุ่มเด็ก ๆ เป็นพิเศษด้วย ซึ่งมุขตลกติดเรตประเภททะลึ่งทะเล้นบางอย่างของพวกเขา ถึงกับทำให้ Hachijidayo, Zen'inshugo! เป็นรายการต้องห้าม ที่พ่อแม่ผู้ปกครองในยุคนั้นหลาย ๆ คน ไม่ยอมปล่อยให้ลูกหลานได้ชมรายการนี้กันเลยทีเดียว
       
       โดย The Drifters มี โชซึเกะ อิคาริยะ มือเบสเป็นผู้นำวงเป็น และมีการสับเปลี่ยนสมาชิกหลายครั้ง รวมถึง ชิมูระ เคน ที่เริ่มเข้ามาทำงานกับวงในปี 1968 ก่อนจะกลายเป็นสมาชิกหลักในปี 1974

ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่และคลื่นยักษ์สึนามิ ที่สร้างความเสียหาย รวมถึงคร่าชีวิตผู้คนในประเทศญี่ปุ่นไปมากมาย กลายเป็นที่มาของข่าวลือต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับข่าวการสูญหายของคนดัง รวมถึงดาราเอวีขวัญใจหนุ่ม ๆ อย่าง “มิยาบิ” (Maria Ozawa) ที่มีข่าวลือว่าขาดการติดต่อไป หลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นด้วย

สมาชิกของวง AKB48, Exile, X-Japan, Luna Sea, Morning Musume, RIZE และนักร้องนักแสดงแสดงชื่อดังอย่าง แอนนา ซึจิยะ, อูทาดะ ฮิคารุ (Utada Hikaru), YUI, GACKT, อายากะ (Ayaka) เป็นส่วนหนึ่งของคนดังที่ยืนยันความปลอดภัยของตัวเอง ในเหตุการณ์แผ่นดินไหว และคลื่นยักษ์สึนามิ เข้าถล่มประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันยังมีข่าวลือข่าวปล่อย ที่ว่าด้วยการเสียชีวิตและสูญหาย ของคนดังในช่วงเวลาอันเลวร้ายดังกล่าวเกิดขึ้นมามากมาย ในโลกออนไลน์

ในช่วงของการเช็คข่าวต่าง ๆ ข่าวการหายตัวไปของ ซาโตชิ ทาจิริ (Satoshi Tajiri) เกมดีไซเนอร์ผู้สร้างสรรค์เกมสุดฮิตอย่าง Pokemon และ ยูโกะ ยามากูจิ (Yuko Yamaguchi) ดีไซเนอร์แห่ง Hello Kitty กลายเป็นชื่อที่ตกเป็นข่าวลือมากที่สุดในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ว่าคนดังทั้งคู่ได้สาบสูญไประหว่างเกิดเหตุการณ์ขึ้น มีกระทั่งมีข่าวการเสียชีวิตของทั้งคู่ ที่ถูกลือแพร่สะพัดตามเว็บไซต์ต่าง ๆ

อย่างไรก็ตามล่าสุดทั้ง ซาโตชิ ทาจิริ และ ยูโกะ ยามากูจิ ได้ออกมายืนยันผ่านเว็บไซต์ของตัวเองแล้วว่า ตอนเองยังคงปลอดภัยดีอยู่ทุกประการ

นอกจากนั้นยังมีข่าวลือการหายตัวไปของ มาเรีย โอซาว่า หรือ “มิยาบิ” ดาราสาวคนดังแห่งวงการเอวีปลาดิบ ที่มีรายงานว่าสาววัย 25 ปี คนนี้ได้ขาดการติดต่อไป หลังจากเธอไม่รับโทรศัพท์ และไม่ได้ส่งข้อความตอบกลับคนรู้จัก

โดยผู้สร้างภาพยนตร์ชาวอินโดนีเซีย เป็นผู้ออกมาสร้างกระแสถึงเรื่องนี้เป็นครั้งแรก โดยเขาให้ข่าวในเว็บไซต์ของตัวเองว่า "ผมขาดการติดต่อกับเธอไปแล้ว ครั้งสุดท้ายที่ติดต่อได้คือตอน ประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง ก่อนจะเกิดแผ่นดินไหว 8.9 ริกเตอร์และสึนามิขึ้น ผมได้ส่งเอสเอ็มเอส และโทรศัพท์ไปหา แต่เธอก็ไม่ได้รับโทรศัพท์ หรือส่งข้อความใด ๆ ตอบกลับมาเลย"

บริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่แห่งเกาหลีใต้ SM Entertainment ได้แถลงถึงการได้ลิขสิทธิ์การ์ตูนสุดดังจากแดนอาทิตย์อุทัยอย่าง Hanazakari no Kimitachi e หรือ “ปิ๊งรักสลับขั้ว” มาสร้างใหม่เป็นซีรีส์ เพื่อฉายในหน้าร้อนนี้แล้ว

หนังสือการ์ตูนสำหรับเด็กผู้หญิงเรื่อง Hanazakari no Kimitachi e หรือ Hana-Kimi ของ ฮิซายะ นาคาโจ ที่ตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 1996 – 2004 เป็นผลงานที่ได้รับความนิยมอย่างสูงมียอดขายเฉพาะในญี่ปุ่นถึง 17 ล้านเล่ม นอกจากนั้นยังเคยถูกดัดแปลงเป็นซีรีส์สำหรับฉายในโทรทัศน์ ทั้งจากทีมงานผู้สร้างในไต้หวัน และญี่ปุ่นมาแล้ว

Hana-Kimi ยังเป็นงานที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศเกาหลีใต้ด้วย โดยล่าสุดตัวแทนของบริษัท SM Entertainment ได้แถลงในวันนี้ (10 มี.ค.) ว่าพวกเขาได้ลิขสิทธิ์ของการ์ตูนชุดนี้มาสร้าง เป็นฉบับของชาวเกาหลีใต้แล้ว

การ์ตูนสุดดังความยาว 23 เล่มจบ เล่าเรื่องราวที่ว่าด้วยชีวิตของเหล่าวัยรุ่น มีจุดศูนย์กลางของเรื่องอยู่ที่ สาวน้อย มิซึกิ อาชิยะ ผู้ลงทุนเดินทางข้ามทวีป กลับจากประเทศสหรัฐอเมริกาสู่ญี่ปุ่นบ้านเกิด เพื่อปลอมตัวเป็นผู้ชาย สมัครเข้าเรียนในโรงเรียนชายล้วน ด้วยเหตุผลบางอย่าง

โดยตัวแทนของ SM Entertainment ให้รายละเอียดถึงซีรีส์ฉบับเกาหลีใต้ว่า “เป็นซีรีส์ที่มีความยาว 16 ตอนจบ เพื่อเล่าเรื่องราวของความหวัง และความฝัน เป็นเรื่องราวแนวตลกวัยรุ่น ที่มีโครงเรื่องแข็งแรง และจะประกอบไปด้วยนักแสดงหนุ่มรูปงามมากมาย เราวางแผนเอาไว้ว่าจะเริ่มต้นออกอากาศซีรีส์ในหน้าร้อนที่จะถึงนี้”

Manager Online

นักแสดงสาววัย 29 ปี "โค ชิบาซากิ" (Kou Shibasaki) กำลังจะได้โอกาสชิมลางงานแสดงในภาพยนตร์ฮอลลีวูดดูบ้างแล้ว กับหนังฟอร์มใหญ่ 47 Ronin ที่ดัดแปลงมาจากเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น

47 Ronin หรือ ชูชินกูระ คือตำนานอิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญของแดนอาทิตย์อุทัย เกี่ยวกับซามูไร 47 คน ที่ตัดสินใจร่วมกันสละชีพเพื่อล้างแค้นให้กับ ไดเมียว อาซาโนะ นาคาโนริ ผู้เป็นเจ้านายซึ่งต้องจบชีวิตด้วยการคว้านท้อง

ที่ผ่านมาเรื่องราวดังกล่าว ได้ถูกดัดแปลงเป็น ภาพยนตร์, ละครเวที และหนังชุดทางโทรทัศน์ มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่นี่จะเป็นครั้งแรกที่ผู้สร้างจากฮอลลีวูด จะหยิบเอาเรื่องราวซึ่งเกิดขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 18 ที่ญี่ปุ่น มาสร้างเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ โดย Universal Pictures วางงบประมาณคร่าวๆของหนังไว้ที่ 200 ล้านเหรียญฯ และมีกำหนดเข้าฉายในเดือน ธ.ค. 2012 ในรูปแบบของหนังสามมิติ

นักแสดงฮอลลีวูด เคียนู รีฟส์ ผู้โด่งดังจากไตรภาค The Matrix จะสวมบทบาทเป็น คาอิ (Kai) ชายหนุ่มเลือดผสมญี่ปุ่นและตะวันตก หนึ่งในกลุ่มซามูไร 47 คน ขณะที่ โค ชิบาซากิ จะแสดงเป็นลูกสาวของไดเมียว อาซาโนะ นาคาโนริ ที่มีชื่อว่า มิกะ (Mika) ตัวนำของเรื่องที่ตกหลุ่มรัก คาอิ

ซึ่งขั้นตอนการคัดเลือกนักแสดงนำหญิงเกิดขึ้นอย่างปิดเงียบในช่วงเดือน พ.ย. ปีก่อน และมีรายงานว่า ชิบาซากิ ถูกเลือกเพราะผู้สร้างประทับใจในฝีไม้ลายมือในการแสดงของเธอมาก

ผู้กำกับ คาร์ล รินช์ (Carl Erik Rinsch) กล่าวในงานแถลงข่าว ถึงดาราสาวชาวญี่ปุ่นคนนี้ว่า "เธอมีคุณสมบัติบางอย่างที่หาไม่ค่อยได้จากดาราฝั่งตะวันตก มีความสง่างามแบบ ออเดรย์ เฮปเบิร์น ด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเลยถ้าเธอจะประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ และผมจะได้เป็นคนแจ้งเกิดให้กับเธอ"

ขณะที่ เคียนู รีฟส์ ก็กล่าวชื่นชมในตัวของ ชิบาซากิ เช่นเดียวกัน "เธอมีทั้งความงาม และเสน่ห์ที่ลี้ลับ เป็นนักแสดงหญิงที่สามารถแสดงได้ในทุกบทบาท"

Toei Company สร้างความฮือฮาให้กับสาวกของไอ้มดแดง และหนังยอดมนุษย์รุ่นเก่า ด้วยการดึง 4 ฮีโร่รุ่นลุงร่วมปรากฏตัวใน OOO Den-O All Riders: Let's Go Kamen Rider หนังไอ้มดแดงฉบับล่าสุด ที่มีกำหนดเข้าฉายในเร็วๆ นี้

บริษัทผู้สร้างได้ประกาศยืนยันว่า ในภาพยนตร์เรื่อง OOO Den-O All Riders: Let's Go Kamen Rider จะมีฮีโร่รุ่นเก่าจากฝีมือการสร้างสรรค์ของ อิชิโนโมริ โชทาโร่ มาร่วมปรากฏตัวเป็นแขกรับเชิญสร้างสีสันด้วย ซึ่ง 4 ฮีโร่ที่ว่าได้แก่ อินาสแมน, คิไคเดอร์, คิไคเดอร์ 01 และ ซูแบต ยอดนักสู้

โดยนี่จะเป็นโอกาสแรกที่ยอดมนุษย์ทั้ง 4 จะได้ร่วมแจมเข้าฉากกับไอ้มดแดง ซึ่งทางผู้สร้างคุยว่า จะเป็นเหตุการณ์ระดับประวัติศาสตร์ของวงการซีรีส์ฮีโร่ยอดมนุษย์ของประเทศญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว นอกจากนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้ยังถือว่าเป็นการเฉลิมฉลองในวาระครบ 40 ปี ของซีรีส์ไอ้มดแดงด้วย

สำหรับหนังเรื่องนี้จะมีตัวละครไอ้มดแดงตั้งแต่ภาคแรก จนถึงปัจจุบัน ขณะที่ตัวละครหลัก ซึ่งทำหน้าที่เดินเรื่องจะได้แก่ ไรเดอร์ OOO, ไรเดอร์ เดน-โอ และ คาเมน ไรเดอร์ #1 หรือ ไอ้มดแดง V1 นั้นเอง

OOO Den-O All Riders: Let’s Go Kamen Rider มีกำหนดเข้าโรงภาพยนตร์ที่ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 1 เม.ย. นี้

Manager Online

ดาราสาวสวยแดนปลาดิบ “เอริกะ ซาวาจิริ” (Erika Sawajiri) ที่ปรากฏตัวในงานเปิดตัวโฆษณาชุดใหม่ของ Takano Yuri Beauty Clinic ได้มีโอกาสพูดคุยถึงประเด็นข่าวลือต่างๆ เกี่ยวกับตัวเธอ ทั้งแผนงานในอนาคต, ความรู้สึกต่ออดีตสามี และข่าวลือเรื่องที่ว่าคนรักใหม่ของเธอเป็นคนปลูกกัญชา ซึ่งนักแสดงสาววัย 24 ปี ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน

ระหว่างการร่วมกิจกรรมประชาสัมพันธ์ของ Takano Yuri Beauty Clinic ที่ตนเองเป็นพรีเซนเตอร์อยู่ เอริกะ ซาวาจิริ มีโอกาสได้พูดถึงการหย่าร้างกับสามี ทากาชิโร่ ซึโยชิ ซึ่งจะมีกำหนดการเซ็นใบหย่ากันในวัน 16 พ.ค. นี้ โดยเธอกล่าวถึงอดีตคนรักว่า “ฉันหมดความเชื่อใจในตัวเขาไปแล้วค่ะ และคงไม่มีวันเรียกมันให้กลับคืนมาได้อีก”

นอกจากนั้น เอริกะ ยังกล่าวถึงข่าวลือจากสื่อแนวแท็ปลอยด์ฉบับหนึ่ง ที่อ้างว่าเธอมีคนรักใหม่ เป็นคนปลูกกัญชา ว่าไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน

“เรื่องนี้ไม่ได้มีพื้นฐานมาจากความเป็นจริงเลยค่ะ เรารู้จักกัน แต่ฉันไม่เคยรู้เลยว่าเขาทำอะไรมา และเขาก็บอกว่าตัวเองเป็นดีเจ ซึ่งก็เป็น ทากาชิโร่ (อดีตสามี) นั่นแหละ ที่ไปคุยว่าเขาคนนี้คือแฟนใหม่ของฉัน ซึ่งไม่จริงเลย เราแค่เคยไปคลับกัน และกินข้าวกันบ้าง เป็นเหมือนเพื่อนกัน เขาเคยมาบ้านฉันแค่ครั้งหรือสองครั้งเท่านั้นเองค่ะ”

ระหว่างที่ชีวิตส่วนตัวยังเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ซาวาจิริ กล่าวถึงแผนการในอนาคตว่า เธอยังต้องการจะรับงานแสดงต่อไป แต่ขอรอให้ทุกอย่างเอื้ออำนวยเสียก่อน

“มีบทหนังเสนอเข้ามาเยอะแยะค่ะ ช่วงนี้ชีวิตส่วนตัวของฉันยังมีปัญหาอยู่ แต่ฉันยังจะเป็นนักแสดงต่อไป และจะยินดีมาก ถ้าได้ยืนอยู่ต่อหน้าทุกคนอีกครั้ง มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีความวิตกในเรื่องนี้ ฉันรู้ว่าตัวเองเคยทำเรื่องผิดพลาดมาก่อน ถึงอย่างนั้นก็ยังอยากจะทำอาชีพนี้ต่อไป เรากำลังจัดการทุกๆอย่าง เพื่อให้ฉันได้กลับมารับงานภาพยนตร์อีกครั้ง ซึ่งอาจจะเป็นปีหน้าค่ะ ระหว่างนี้ก็อยากจะลองรับงานแสดงทางโทรทัศน์ หรือละครเวทีไปก่อน”

สำหรับผลงานชิ้นใหม่ของ เอริกะ ซาวาจิริ ซึ่งเป็นโฆษณาที่มีชื่อว่า Sawajiri Erika, Akujo Densetsu ของ Takano Yuri Beauty Clinic จะมีกำหนดแพร่ภาพทั่วประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 7 มี.ค. นี้

Manager Online

สาวๆ จากกลุ่ม Ebisu Muscats (恵比寿マスカッツ) มีโอกาสโชว์ตัวในชุดลายพรางแบบทหาร ระหว่างร่วมโปรโมตแผ่นดีวีดี และ บลู-เรย์ ของหนังเรื่อง The Expendables พร้อมกับเรียกตัวเองว่าเป็น The Sexpendables – Japan Today รายงาน

ริโอะ (Rio) วัย 24 ปี, ยูมะ อาซามิ (Yuma Asami) วัย 23 และ อากิโฮ โยชิซาวะ (Akiho Yoshizawa) วัย 26 ปี เป็น 3 จาก 25 คน ของสมาชิกกลุ่มศิลปินสาวล้วน Ebisu Muscats ที่ได้มีโอกาสร่วมงานโปรโมตแผ่นดีวีดี และบลู-เรย์ ของภาพยนตร์แอ็กชั่นสุดดัง The Expendables ผลงานกำกับ และแสดงนำโดยพระเอกนักบู๊ระดับโลก ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน (Sylvester Stallone) ซึ่งเข้าฉายที่ญี่ปุ่นเมื่อปลายปีก่อน และทำรายได้ไปประมาณ 818 ล้านเยน (ประมาณ 305 ล้านบาท) และกำลังจะถูกนำออกวางจำหน่ายในรูปแบบโฮมวิดีโอในแดนปลาดิบ ภายในสัปดาห์หน้านี้แล้ว บริษัทผู้จัดจำหน่ายจึงได้จัดงานโปรโมตภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้ง

งานนี้สาวๆ Ebisu Muscats แต่งกายด้วยชุดลายพรางพร้อมอาวุธปืนในมือดูทะมัดทะแมงเป็นพิเศษ เพื่อความกลมกลืนไปกับหนังแอ็กชั่นดุเดือดเรื่องนี้ พร้อมกันนั้นพวกเธอยังเรียกตัวเองว่าเป็น “The Sexpendables” หรือ The Expendables ในเวอร์ชั่นเซ็กซี่ยั่วยวนด้วย

Ebisu Muscats คือ กลุ่มศิลปินหญิงที่รวบรวมเอา 25 สาวดาวเด่นของวงการเอวี และกราเวียร์ไอดอล มาออกผลงานเพลงและเปิดการแสดงในสถานที่ต่างๆ ร่วมกัน หลังจากสาวๆ เหล่านี้ เคยร่วมเป็นแขกรับเชิญของรายการ Onegai! Muscat ที่เคยออกอากาศในช่วงเวลาตั้งแต่ตี 1 – ตี 1 ครึ่ง ทางช่อง TV Tokyo และ TV Osaka มาก่อน

โดย Ebisu Muscats ได้ดาราเอวีสุดดังอย่าง โซระ อาโออิ (Sora Aoi) วัย 26 ปี มารับหน้าที่เป็นลีดเดอร์ นอกจากนั้นยังมีสมาชิกที่น่าสนใจ อาทิ ยูมะ อาซามิ, ริสะ คาซูมิ (Risa Kasumi) วัย 25 ปี, มิโนริ ฮาซึเนะ (Minori Hatsune) วัย 22 ปี, ริน ซากูรากิ (Rin Sakuragi), โช นิชิโนะ (Shou Nishino), ไอริ นางาซากิ (Airi Nagasaki), คาเอรา อูเอฮาระ (Kaera Uehara) และ ทีน่า ยูซูกิ หรือที่รู้จักกันดีในนาม ริโอะ นั่นเอง

Japan Today / Manager Online

ในช่วงเดือน เม.ย. ที่จะถึงนี้ กลุ่มนักแสดงชาย D-Boys จะเปิดการแสดงละครเวทีเรื่อง The Merchant of Venice ซึ่งมีความพิเศษอยู่ที่ สมาชิกของนักแสดงกลุ่มหนุ่มล้วนๆ กลุ่มนี้ จะเหมาแสดงทั้งบทตัวละครชาย และหญิงกันเองทั้งหมด

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา สมาชิกของกลุ่มนักแสดงหนุ่มๆ D-Boys แห่งค่าย Watanabe Entertainment ได้เปิดการแถลงข่าวขึ้น สำหรับการแสดงละครเวทีเรื่อง The Merchant of Venice หรือ เวนิสวานิช จากบทประพันธ์ของนักเขียนชาวอังกฤษ วิลเลียม เชกสเปียร์ ที่จะมีขึ้นในเดือน เม.ย. ที่จะถึงนี้

โดยในการแสดงครั้งนี้ มาซาโตะ วาดะ (Masato Wada) วัย 31 ปี สมาชิกที่มีอายุมากที่สุดของ D-Boys จะรับบทเป็น อันโตนิโย ตัวละครเอกของเรื่อง ขณะที่ มาซากิ คาจิ (Masaki Kaji) วัย 23 ปี และ ฮิโรกิ ซูซูกิ (Hiroki Suzuki) วัย 27 ปี จะรับบทเป็นตัวละครที่มีชื่อว่า บัสสานิโย และ ลอเรนโซ ตามลำดับ

นอกจากนั้นละครเรื่องนี้ยังจะย้อนรอยรูปแบบของละครเชกสเปียร์ในยุคโบราณของอังกฤษ ที่ตัวละครหญิงจะรับบทโดยนักแสดงชายด้วย ซึ่ง มาซาฮิโระ อูซูอิ (Masahiro Usui) วัย 19 ปี จะสวมบทเป็น ปอร์เชีย นางเอกของเรื่อง ส่วนหนุ่มวัย 25 ปี โคทาโร่ ยานางิ (Kotaro Yanagi) จะรับบทเป็น เจสสิกา

หนึ่งในนักแสดงนำ มาซาโตะ วาดะ กล่าวถึงงานชิ้นนี้ว่า สร้างความรู้สึกวิตกกังวล และกดดันให้กับเขาเหมือนกัน อย่างไรก็ตามเขาก็แสดงความมั่นใจว่า นี่น่าจะเป็นงานที่เปิดโอกาสให้ทุกๆคนได้แสดงความสามารถในฐานะนักแสดงคนหนึ่ง

ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเขารู้สึกชอบ “สาว” คนไหนที่ร่วมแสดงในละครเรื่องนี้ด้วยมากกว่ากัน วาดะ สวมกอดไปที่ อูซูอิ พร้อมกับบอกว่า “คนนี้แน่นอนครับ!! ยานากิออกจะดูเหมือนสาวน้อยไปหน่อย ผมชอบผู้หญิงที่ดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่า”

ซึ่งที่ผ่านมา D-Boys เคยเปิดการแสดงละครเวที และละครเพลงมาแล้วหลายเรื่อง แต่นี่จะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาหยิบเอาบทประพันธ์ของ เชกสเปียร์ มาแสดง

Nikkan Sports / Tokyohive / Manager Online

นักแสดงหนุ่มชาวญี่ปุ่น "เอตะ" (Eita) ต้องพบกับเรื่องเศร้าที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต เมื่อบิดาบังเกิดเกล้าของเขาตัดสินใจจบชีวิตตัวเองอย่างกะทันหัน โดยสื่อแดนปลาดิบสันนิษฐานว่าการตัดสินใจดังกล่าว อาจมีสาเหตุมาจากความล้มเหลวในธุรกิจร้านอาหาร และปัญหาสุขภาพ

เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจของกรุงโตเกียวได้รายงานข่าวการเสียชีวิตของชายวัย 55 ปีรายหนึ่ง ที่เลือกจบชีวิตตัวเองด้วยการแขวนคอ ในอพาร์ตเมนต์ที่พักอาศัย ซึ่งรายงานยังระบุว่าผู้ตายเป็นบิดาของ เอตะ นักแสดงชื่อดังระดับประเทศนั่นเอง

จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พี่สาวของผู้ตาย ซึ่งพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์เดียวกัน เป็นผู้พบศพของเขาเป็นคนแรก ในช่วงเวลาเย็นของวันที่ 16 ก.พ. แม้จะมีการรีบเรียกรถพยาบาลเพื่อพยายามยื้อชีวิตของเขาเอาไว้แต่ก็ไม่ทันการ

โดยสื่อในประเทศญี่ปุ่นได้พบข้อความลาตายจากพ่อของ เอตะ ที่ฝากเอาไว้ให้กับลูกชายคนดังของเขาว่า "เอตะ ลูกคงจะทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพงานศพครั้งนี้ พ่อเสียใจจริงๆที่สร้างปัญหาให้กับลูก"

จากคำบอกเล่าของผู้เป็นพี่สาว ผู้เสียชีวิตรายนี้ต้องประสบปัญหาอย่างหนักในการบริหารร้านยากินิคุ (Yakiniku - ร้านขายอาหารแนวปิ้งย่างแบบญี่ปุ่น) ที่เขาเป็นเจ้าของ นอกจากนั้นยังมีปัญหาสุขภาพ ภายหลังเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดเมื่อปีก่อน เพื่อเอาเนื้องอกออกจากสมอง แต่การผ่าตัดกลับไม่ประสบความสำเร็จเสียทีเดียว เมื่อมันทำให้เขาต้องทนทุกข์กับอาการนอนไม่หลับนับแต่นั้นมา

เอตะ ที่มีชื่อจริงว่า เอตะ นางายามะ (Eita Nagayama) มีผลงานทั้งทางโทรทัศน์ และภาพยนตร์มากมาย นอกจากนั้นเขายังมีพี่น้องอีกสองคนคือ เคนโตะ (Kento) และทัตซึยะ (Tatsuya) ซึ่งเป็นนักแสดงในวงการบันเทิงด้วยเช่นเดียวกัน

และดูเหมือนว่าผู้ตายจะภูมิใจในตัวลูกชายทั้ง 3 เป็นอย่างยิ่ง และถึงกับตั้งชื่อร้านยากินิคุจากชื่อของลูกทั้ง 3 ว่า "ร้านเอโดยะ" (Edoya) โดยผู้ใกล้ชิดกับครอบครัวของนักแสดงหนุ่มคนเล่าว่า "แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้อาศัยอยู่ด้วยกันแล้ว แต่ในช่วงปลายปีของทุกปี ทุกคนในครอบครัวจะมารวมตัวเพื่อรับประทานอาหารร่วมกัน รวมถึงผู้เป็นแม่ด้วย"

เอเยนต์ส่วนตัวได้ออกมายืนยันข่าวการหย่าของ "ลีอาห์ ดิซอน" (Leah Dizon) ที่ทำให้คุณแม่ลูกหนึ่งวัย 24 ปี รายนี้กลับมาโสดสนิทอีกครั้ง นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า ตอนนี้เธอกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่สหรัฐอเมริกาแล้ว แต่ก็ไม่ปิดโอกาสกลับมารับงานที่ญี่ปุ่นแต่อย่างใด

เมื่อช่วงเดือน ต.ค. ปีก่อน มีรายงานว่า ลีอาห์ ดิซอน นางแบบคนดังได้หอบลูกย้ายออกมาจากบ้านพักที่เธอร่วมใช้ชีวิตอยู่กับสามีสไตลิสต์วัย 31 ปี จนกระทั่งล่าสุดเอเยนต์ส่วนตัวของ ลีอาห์ เป็นผู้ยืนยันว่านางแบบสาวสวยคุณแม่ลูกหนึ่ง ได้กลับมาเป็นโสดอีกครั้ง ภายหลังขั้นตอนทางกฏหมายของการหย่าขาดกับอดีตสามี ได้เสร็จสิ้นไปตั้งแต่เมื่อช่วงปลายปีก่อนแล้ว

สาววัย 24 ปี เชื้อสาย ฝรั่งเศส, อเมริกา, จีน และฟิลิปปินส์ ใช้ชีวิตเติบโตมาใน ลาส เวกัส จนกระทั่งได้เริ่มงานถ่ายแบบที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งจากงานถ่ายภาพแนวเซ็กซี่ต่างๆ นี่เองที่ทำให้ลีอาห์มีชื่อเสียง และกลายเป็นขวัญใจของชาวเน็ตทั่วโลก รวมถึงในแดนอาทิตย์อุทัย ที่ทำให้เธอได้ก้าวเข้าสู่โลกบันเทิงของที่นั้น มีทั้งงานถ่ายแบบ, ออกรายการโทรทัศน์ต่างๆ และได้ออกผลงานเพลงด้วย

แต่แล้วในเดือน ส.ค. 2008 นางแบบสาวคนดังที่ขณะนั้นมีอายุเพียง 21 ปี ได้ประกาศข่าวที่สร้างความตกตะลึกให้กับทุกฝ่าย เมื่อเธอยอมรับว่าได้ตั้งครรภ์กับสไตลิสต์หนุ่มวัย 31 ปี ที่มีชื่อว่า "บัน" และไม่นานจากนั้นทั้งสองจึงจูงมือกันเข้าประตูวิวาห์

ลีอาห์ ดิซอน ได้ให้กำเนิดลูกสาวเมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2009 แต่แล้วหลังจากใช้ชีวิตคู่เพียงประมาณ 2 ปี ในเดือน ต.ค. ปี 2010 นางแบบสาวจึงยอมรับว่าได้ตัดสินใจแยกทางกับสามีสไตลิสต์คนนี้แล้ว ซึ่งหลังจากการดำเนินเรื่องทางกฏหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับสิทธิ์การเลี้ยงดูลูกน้อย ลีอาห์ จึงได้กลับมาเป็นโสดอีกครั้งเมื่อช่วงปลายปีก่อนนี่เอง

ขณะเดียวกันสื่อจากประเทศญี่ปุ่นเชื่อว่าขณะนี้ ลีอาห์ ใช้ชีวิตอยู่กับลูกสาวอยู่ที่ กรุงนิวยอร์ก นอกจากนั้นเธอยังหาโอกาสเรียนรู้การแสดงเพิ่มเติม โดยผู้ใกล้ชิดได้ยืนยันว่านางแบบสาววัย 24 ปี มีแผนจะเริ่มต้นการทำงานที่นั่น แต่ก็ไม่ปิดโอกาส ที่จะเดินทางกลับมารับงานในประเทศญี่ปุ่นที่มีแฟนๆ ของเธออยู่เป็นจำนวนมากแต่อย่างใด

Manager Online

มีรายงานโดยเว็บไซต์จากต่างประเทศ ถึงโครงการหยิบการ์ตูนสุดฮิตในอดีตอย่าง Star Blazers มาสร้างเป็นภาพยนตร์โดยผู้สร้างจากฮอลลีวูด ซึ่งการ์ตูนเรื่องดังกล่าว ก็คือเรื่องเดียวกับ Space Battleship Yamato อันโด่งดังของญี่ป่น ที่เพิ่งถูกสร้างเป็นภาพยนตร์โดยทางญี่ปุ่นเองไปเมื่อเร็วๆ นี้นั่นเอง

เว็บไซต์ Deadline รายงานว่า Skydance Productions ผู้สร้างภาพยนตร์เจ้าของผลงาน True Grit และ Mission: Impossible – Ghost Protocol ที่กำลังจะเข้าฉายในปีนี้ ได้เริ่มต้นพัฒนาโครงการภาพยนตร์ไซไฟฟอร์มยักษ์ ที่จะเป็นการหยิบเอาการ์ตูนสุดฮิตในอดีต Star Blazers มาดัดแปลงเป็นฉบับภาพยนตร์ โดยขณะนี้ทาง Skydance ซึ่งร่วมกับ Paramount Pictures ได้มอบหมายให้ คริสโตเฟอร์ แม็คคิวรี (เจ้าของผลงาน The Usual Suspects, Valkyrie) ให้มารับผิดชอบในเรื่องบทหนังแล้ว

Space Battleship Yamato ผลงานการ์ตูนของ เลย์จิ มัตสึโมโตะ ที่เล่าเรื่องของ ยามาโต้ เรือรบขนาดยักษ์จากสงครามโลก ที่ถูกจมอยู่ในใต้สมุทร และถูกกู้ขึ้นมาเพื่อดัดแปลงเป็นยานอวกาศ เป็นความหวังสุดท้ายในการต่อสู้กับผู้รุกรานจากต่างดาว และกู้โลกจากภัยพิบัติทางสิ่งแวดล้อม นับเป็นผลงานที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงมากในยุค 70s จนกระทั่งถูกนำไปฉายทั่วโลก รวมถึงในประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย

โดยในการฉายที่สหรัฐฯ ด้วยชื่อใหม่ว่า Star Blazers มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับผู้ชมของที่นั่นมากขึ้น อาทิ เปลี่ยนชื่อตัวละคร, ลดทอนความรุนแรง และฉากเซ็กซี่ รวมถึงตัดเนื้อหาที่อ้างอิงถึงสงครามโลกครั้งที่สองออกทั้งหมด อย่างไรก็ตามเรือรบซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของเรื่อง ยังคงถูกเรียกว่า "ยามาโต้" เช่นเดิม

ซึ่งเมื่อไม่กี่เดือนก่อน Space Battleship Yamato ฉบับภาพยนตร์ของทางผู้สร้างจากญี่ปุ่น ที่มีพระเอกหนุ่มซุปเปอร์สตาร์ ทาคุยะ คิมูระ ก็เพิ่งเข้าฉาย และทำรายได้ไปประมาณ 4,000 ล้านเยน

Manager Online

ควีนออฟฮิปป๊อป แห่งวงการเพลงปลาดิบ "นามิเอะ อามุโระ" (Namie Amuro) สร้างความฮือฮาด้วยการดึงศิลปินชื่อดังร่วมงานในอัลบั้มใหม่ของเธอมากมาย รวมถึง "ยามาชิตะ โทโมฮิสะ" (Yamashita Tomohisa) และกลุ่มศิลปินสาวจากแดนกิมจิ After School ที่ถือเป็นการเดินทางมาเปิดตัว รับงานในประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกของพวกเธอด้วย

อัลบั้มชุดใหม่ของ นามิเอะ อามุโระ ที่มีชื่อว่า Checkmate จะได้ศิลปินชื่อดังมากมายมาร่วมงานด้วย ไม่ว่าจะเป็น Ai, ยามาชิตะ โทโมฮิสะ, คานาเมะ คาวาบาตะ (Kaname Kawabata) [CHEMISTRY] และที่พิเศษสุดก็คือ ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปจากเกาหลีใต้ After School ที่ได้มาฟีเจอริ่งกับ อามุโระ ในผลงานเพลงที่มีชื่อว่า Make It Happen

ในการร่วมงานกับ After School นามิเอะ ยังกล่าวถึงวงการบันเทิงของประเทศเพื่อนบ้านว่า "ฉันติดตามวงการเพลงเกาหลี มาเป็นเวลาพอสมควรแล้วค่ะ" ซึ่งการทำงานร่วมกันในครั้งนี้ ยังถือว่าเป็นการเปิดตัวของเกิร์ลกรุ๊ป 9 ชีวิต After School สู่วงการเพลงญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการด้วย

ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณ 1 สัปดาห์ Pledis Entertainment ได้ประกาศข่าวการเตรียมความพร้อมสู่ตลาดเพลงญี่ปุ่นของ After School นอกจากนั้นยังมีการเปิดตัวเว็บไซต์ภาษาญี่ปุ่นของพวกเธอด้วย

After School ซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิกสาวๆวัยตั้งแต่ 18 - 30 ปี เริ่มเป็นที่รู้จักตั้งแต่ปี 2009 โดยเป็นกลุ่มศิลปินหญิงล้วน ที่ถูกเรียกว่าเป็น Pussycat Dolls แห่งเกาหลีใต้

ซึ่งนอกจากการเปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นครั้งนี้แล้ว ก่อนหน้านี้พวกเธอยังเคยหยิบเอาผลงานเพลงเก่าของ Morning Musume เกิร์ลกรุ๊ปสุดดังแห่งแดนปลาดิบ ที่มีชื่อว่า Love Machine กลับมาขับร้องใหม่ พร้อมเปลี่ยนชื่อเพลงเป็น Dream Girl มาแล้ว

สำหรับอัลบั้มชุด Checkmate ของ อามุโระ จะมีกำหนดวางแผงในวันที่ 23 มี.ค. นี้ และมีให้เลือกทั้งแบบ CD+DVD และเฉพาะแผ่น CD อย่างเดียว

D-2 กลุ่มไอดอลหนุ่มที่โด่งดัง กำลังจะมีงานภาพยนตร์ ในผลงานของผู้กำกับ "ชูซูเกะ คาเนโกะ" (Shusuke Kaneko) ที่มีชื่อว่า Pole Dancing Boys ที่หนุ่มๆ กลุ่มนี้จะสวมบทบาทเป็นนักเต้นระบำรูดเสา

Pole Dancing Boys จะเล่าเรื่องของ นักแสดงตลกหนุ่มดาวรุ่งสองคน ที่ถูกต้มตุ๋นจนสูญเงินกว่า 100,000 เยน ที่พวกเขาเตรียมไว้สำหรับเปิดการแสดงไปจนหมด เพื่อให้ได้เงินก้อนดังกล่าวกลับคืนมาอีกครั้ง ทั้งสองจึงรวบรวมกลุ่มหนุ่มๆ ที่มีปัญหาเงินขาดมือเหมือนๆกันอีกกลุ่มใหญ่ เพื่อเปิดการแสดงเต้นรูดเสา ในแบบชายล้วนขึ้นมา

นักแสดงผู้รับบทนำในภาพยนตร์เรื่องนี้จะประกอบไปด้วย อัตซึชิ อาราอิ (Atsushi Arai), ชินทาโร่ อาคุตสึ (Shintaro Akutsu), โทรุ คามิตซึรุ (Toru Kamitsuru), เคนกิ ยามางูจิ (Kenki Yamaguchi), โยชิโระ โอมิ (Yoichiro Omi), เรียว มิตซึยะ (Ryo Mitsuya), ยูกิโตะ นิชิอิ (Yukito Nishii), เรียวซึเกะ อิเคะโอกะ (Ryosuke Ikeoka), ทากูยะ เนงิชิ (Takuya Negishi) และโช จินไน (Sho Jinnai) ซึ่งทั้งหมดเป็นสมาชิกของกลุ่มศิลปินไอดอล D-2 ซึ่งเป็นวงพี่น้องของ D-Days จากสังกัด Watanabe Entertainment ซึ่งค่อนข้างเป็นที่รู้จักดีสำหรับชาวญี่ปุ่นนั้นเอง

สำหรับในรายของ ยูกิโตะ นิชิอิ ยังเคยได้รับบทเด่นในหนังดังแห่งปี 2010 เรื่อง Kokuhaku ที่เป็นตัวแทนของญี่ปุ่น สำหรับการส่งประกวดรางวัลสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศของเวทีออสการ์ด้วย

โดยในภาพยนตร์เรื่องนี้หนุ่มๆ D-2 จะได้โอกาสแสดงความสามารถทางการกีฬา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลีลาประเภทผาดโผน กับการเต้นรูดเส้า การแสดงซึ่งก่อนหน้านี้ดูจะเป็นการเต้นสำหรับสุภาพสตรีมากกว่า จึงไม่น่าแปลกใจนักที่ภาพยนตร์เรื่อง Pole Dancing Boys จะทำให้หลายๆ คนนึกถึงงานใกล้เคียงกันของประเทศญี่ปุ่นอย่าง Water Boys ที่เล่าเรื่องของกลุ่มหนุ่มๆ นักเรียนมัธยม ที่ตั้งทีมระบำใต้น้ำเพื่อเข้าแข่งขันกับสาวๆ

ระหว่างงานโปรโมตดีวีดีแผ่นใหม่ นางแบบสาวสุดเซ็กซี่ "ชิบาตะ โชโกะ" (Shibata Shoko) ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเกาหลีใต้ โดยเธอกล่าวว่ารู้สึกชื่นชอบประเทศเกาหลีอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะเมื่อได้ชมผลงานของศิลปินอย่าง SNSD แต่สาวคนนี้กลับปฏิเสธโอกาสชิมลางรับงานในเกาหลีใต้ดูบ้าง เพราะเธอรู้สึกว่าวงการบันเทิงของที่นั้นช่างดูน่ากลัวเหลือเกิน

เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ที่ผ่านมา นางแบบสาว ชิบาตะ โชโกะ ได้ปรากฏตัวที่งานอีเวนต์ เพื่อโปรโมตผลงานแผ่น DVD ชุดใหม่ของเธอที่มีชื่อว่า Show!Show!Show! โดย ชิบาตะ เคยมีผลงาน DVD มาแล้วถึง 9 แผ่น นอกจากนั้นเธอยังเป็นที่รู้จักจากการร่วมรายการวาไรตี้ Choito Muscat และ Ariken ของ TV Tokyo ด้วย

นางแบบสาวผู้มีเครื่องหมายการค้าอยู่ที่ผิวสวยๆ และรูปร่างอวบอัด กล่าวถึงผลงานใหม่ของตนเองว่า "ครั้งนี้ฉันอยากจะลองอะไรใหม่บ้าง ๆ ค่ะ ตัวอย่างเช่น ฉากที่ฉันอยู่ในโคลน หรือใส่ชุดยูคาตะ อยากให้ทุกคนได้ดูฉากในโคลนของฉันจริงๆ ฉันใส่ชุดคล้ายๆ ชุดว่ายน้ำ และทำผมน่ารักมากๆ ฉันคิดว่าตัวเองดูคล้ายๆ AKB48 อยู่เหมือนกันนะคะ"

ขณะเดียวกันในงานวันนั้น นางแบบสาวชาวปลาดิบยังเปิดประเด็น กล่าวถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างเกาหลีใต้ ที่เธอยอมรับว่ารู้สึกสนใจอยู่เหมือนกัน หลังจากได้ชมผลงานของศิลปินจากเกาหลีใต้ที่เดินทางข้ามฟากเข้ามาเผยแพร่ผลงานในญี่ปุ่นมากมาย ... "หลังจากดู SNSD แล้ว ฉันก็เริ่มรู้สึกชอบเกาหลีขึ้นมาบ้างแล้วค่ะ ฉันเคยไปเกาหลีทั้งหมด 4 ครั้ง การออกเสียงภาษาเกาหลีของฉันก็ใช้ได้ทีเดียวนะคะ มีคนเข้าใจผิดว่าฉันเป็นชาวเกาหลีใต้บ่อยๆ ด้วย"

อย่างไรก็ตาม ชิบาตะ กลับยืนยันว่าไม่ต้องการจะไปเปิดตัวในวงการบันเทิงของเกาหลีใต้แต่อย่างใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากทราบข่าวเกี่ยวกับปัญหาของศิลปินกิมจิอย่าง TVXQ และ KARA ที่มีความขัดแย้งเรื่องการทำงาน และค่าตัวกับบริษัทต้นสังกัด ..."เรื่องไปเปิดตัวที่เกาหลีใต้เหรอคะ? มันจะโอเครึเปล่านะ? เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นกับ TVXQ และ KARA ฉันคิดว่าวงการบันเทิงของเกาหลีใต้น่ากลัวอยู่เหมือนกันนะคะ"

Tokyohive / Manager Online

งานมอบรางวัลแกรมมี่ครั้งล่าสุด ดูจะเป็นค่ำคืนที่ดีของศิลปินจากแดนอาทิตย์อุทัย เพราะมีนักดนตรีชาวญี่ปุ่น ที่มีรายชื่อติดอยู่ในกลุ่มของผู้คว้ารางวัลอยู่ด้วย รวมถึง "ทัค มัตซึโมโตะ" (Tak Matsumoto) มือกีตาร์ชื่อดังแห่งวง B'z ที่สามารถคว้ารางวัลในสาขาอัลบั้มบรรเลงป็อปยอดเยี่ยมไปได้

มัตซึโมโตะ ทากาฮิโระ หรือ ทัค มัตซึโมโตะ วัย 49 ปี มือกีตาร์ระดับเทพแห่งวงร็อค B'z กลายเป็นเจ้าของรางวัลแกรมมี่ปีล่าสุด เมื่ออัลบั้ม Take Your Pick ที่เขาได้ร่วมงานกับมีกีตาร์แจ๊ซรุ่นใหญ่ แลร์รี่ คาร์ลตัน (Larry Carlton) สามารถคว้ารางวัลแกรมมี่ประจำปี 2011 ในสาขาอัลบั้มบรรเลงป็อปยอดเยี่ยมมาได้

ก่อนหน้านี้สื่อในประเทศญี่ปุ่นอย่าง Daily Yomiuri ได้กล่าวถึงอัลบั้มเพลงบรรเลงแนวผสมผสานที่ประกอบไปด้วย 12 บทเพลงชุดนี้ว่า "เป็นงานที่ผสมผสานแนวเพลงหลากหลายทั้ง แจ๊ซ, บลูส์, ร็อค และป๊อป ออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องดันทุรังมากมาย นอกจากนั้นยังให้กลิ่นอายของดนตรีฟิวชั่นแจ๊ซจากยุค 70s - 80s ที่ยังฟังสดใหม่, สนุกสนาน และร่วมสมัย"

โดยตัวของ มัตซึโมโตะ กล่าวแสดงความยินดีถึงการได้รับรางวัลครั้งนี้ว่า "ผมไม่เคยได้พูดกับใครมาก่อนนะครับ แต่รางวัลแกรมมี่เป็นหนึ่งในความใฝ่ฝันของผม เป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่" โดยนักดนตรีวัย 49 ปี อยู่ในวงการเพลงมาแล้ว 30 ปี และเป็นที่รู้จักในฐานะคู่ดูโอ่ร็อค B'z ที่มียอดขายอัลบั้มกว่า 44 ล้านแผ่น เป็นศิลปินร็อคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลกลุ่มหนึ่งของญี่ปุ่น

ซึ่งนอกจากมือกีตาร์ระดับซุปเปอร์สตาร์แล้ว ยังมีศิลปินจากแดนปลาดินมีส่วนร่วมในงานแกรมมี่ครั้งนี้อีกหลายคน

นักเปียโนวัย 62 ปี อุจิดะ มิตซึโกะ (Uchida Mitsuko) ซึ่งเป็นที่รู้จักดี ในวงการเพลงคลาสสิคระดับนานาชาติ คว้ารางวัลการแสดงเดี่ยวเปียโนกับวงออเครสต้า ในการบันทึกเสียงเพลงของโมสาร์ตกับ คลีฟแลนด์ ออเครสต้า (The Cleveland Orchestra) ขณะที่นักเปียโนวัย 31 ปี อุเอฮาระ ฮิโรมิ ก็คว้ารางวัลอัลบั้มแจ๊ซร่วมสมัยยอดเยี่ยมในฐานะส่วนหนึ่งของวง Stanley Clarke Band

นอกจากนั้น คิทาโร่ (Kitaro) ศิลปินแนวนิวเอจชื่อดัง ยังมีชื่อเป็นผู้เข้าชิงในสาขาอัลบั้มเพลงนิวเอจยอดเยี่ยม จากผลงานเพลงชุด Sacred Journey of Ku-Kai, Volume 4 ด้วย

นางแบบสาวเซ็กซี่ชาวอาทิตย์อุทัย "อากิ โฮชิโนะ" (Aki Hoshino) ยอมรับในการให้สัมภาษณ์ระหว่างร่วมงานอีเวนต์แห่งหนึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่าเธอได้ตัดสินใจผ่าตัดลดขนาดหน้าอกคัพเอฟของตัวเอง ให้เหลือเพียงคัพอีเท่านั้นแล้ว

ระหว่างการร่วมงาน ของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ที่มีดาวตลก ชูเฮ ชิมาตะ ร่วมงานอยู่ด้วย นางแบบสาวเซ็กซี่ อากิ โฮชิโนะ ได้ยอมรับกับผู้สื่อข่าว ถึงเรื่องที่เธอเพิ่งไปผ่าตัดลดขนาดหน้าอกมา จากเดิมที่มีขนาด 88F ให้เหลือเพียง 80E เท่านั้น โดยเป็นการผ่าตัดเอาซีลีโคนออก ซึ่งนางแบบสาวคนดังยอมรับว่า เธอต้องการมีรูปร่างที่ดูธรรมชาติมากขึ้นกว่าเดิม

สาว โฮชิโนะ ซึ่งกำลังจะมีอายุ 34 ปี ในเดือน มี.ค. ที่จะถึงนี้ โด่งดังกับการถ่ายภาพชุดว่ายน้ำ และได้รับการยกย่องให้เป็นสาวเซ็กซี่แถวหน้าของวงการบันเทิงแดนปลาดิบมาหลายปีแล้ว โดยเธอยังกล่าวด้วยว่า ต้องการจะโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงอายุ 40 ปี เลยทีเดียว

Manager Online

มีข่าวดีของนักแสดงหนุ่มชื่อดังแดนปลาดิบ "โจ โอดากิริ" (Odagiri Joe) ในช่วงวันอังคารที่ผ่านมา เมื่อเขาได้เป็นพ่อคนในวัย 34 ปี ภายหลังภรรยาคนสวย "ยู คาชิอิ" (Yu Kashii) ได้ให้กำเนิดลูกชายคนแรก นับจากทั้งสองตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกันเมื่อ 3 ปีก่อน

สองนักแสดงชื่อดังของวงการบันเทิงญี่ปุ่น โจ โอดากิริ และ ยู คาชิอิ วัย 23 ปี ผู้เป็นภรรยา กำลังจะต้องเริ่มต้นบทบาทใหม่ในชีวิต กับการทำหน้าที่เป็นพ่อแม่ เมื่อทั้งสองได้ประกาศด้วยความชื่นมื่นว่า คาชิอิ ได้ให้กำเนิดทายาทคนแรกของทั้งสอง เป็นเด็กชายที่มีสุขภาพแข็งแรง และลืมตาดูโลกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ซึ่งข่าวครั้งนี้ได้รับการเผยแพร่โดยบริษัทเอเยนซี่ของฝ่ายหญิง ที่ยังไม่ได้ยืนยันถึงการกลับมารับงานบันเทิงอีกครั้งของเธอ เพียงแต่กล่าวแบบกว้างๆว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสุขภาพของ คาชิอิ และการทำหน้าที่เป็นคุณแม่ในอนาคตของเธอ

โจ โอดากิริ เริ่มต้นเป็นที่รู้จักจากการรับบทตัวเอกในซีรีส์ยอดมนุษย์เรื่อง Kamen Rider Kuuga จนถึงปัจจุบันเขานับว่าเป็นนักแสดงยอดฝีมือของวงการหนังเอเชียคนหนึ่ง ได้ร่วมงานกับผู้กำกับระดับนานาชาติมากมาย อาทิ เทียนจวงจวง ใน The Warrior and the Wolf, Princess Raccon ของผู้กำกับรุ่นใหญ่ เซอิชุน ซูซูกิ และ Dream ของผู้กำกับชาวเกาหลีใต้ คิมคีด๊อก เป็นต้น

ในด้านชีวิตส่วนตัว โอดากิริ พบรักกับนักแสดงสาวรุ่นน้อง ยู คาชิอิ ซึ่งอายุน้อยกว่าเขา 11 ปี เมื่อช่วงปี 2006 ระหว่างร่วมงานกันในภาพยนตร์เรื่อง The Pavillion Salamandre โดยในปี 2007 ทั้งสองได้หมั้นหมายกัน และอีกหนึ่งปีให้หลังจึงจูงมือกันเข้าประตูวิวาห์ เพื่อเริ่มต้นการใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ในวันที่ 16 ก.พ. ที่เป็นวันคล้ายวันเกิดของทั้งคู่ด้วย

Manager Online

เหล่าสมาชิก Supernova บอยแบนด์จากเกาหลีต้องกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกไซเบอร์ หลังจากพวกเขาไปออกรายการทีวีของญี่ปุ่น แล้วพูดถึงเรื่องการทำศัลยกรรมของไอดอลเกาหลี

สมาชิกบอยแบนด์ Supernova ได้เดินทางไปออกรายการที่มีชื่อว่า Kuraberu Kurabera ทางสถานี TBS ของญี่ปุ่น ซึ่งเมื่อถูกพิธีกรถามถึงความแตกต่างเรื่องการเทรนของไอดอลเกาหลี และวัฒนธรรมที่แตกต่างกันระหว่างทำการโปรโมทที่ญี่ปุ่นและที่เกาหลีคืออะไร

ซึ่งระหว่างทำการสัมภาษณ์ เหล่าสมาชิกวง Supernova ได้แสดงความเห็นเรื่องการโปรโมทว่า "ไอดอลเกาหลีค่อนข้างมั่นใจที่จะสารภาพว่าตนนั้นได้ไปทำศัลยกรรมมา ซึ่งมันกลายเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมไปทั่วในช่วงหลังๆ และกลายเป็นการพีอาร์ไปในตัว เมื่อไอดอลคนไหนสารภาพกับแฟนๆว่า พวกเขาไปทำศัลยกรรมมา พวกเขาจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น"

กึนอิล (Geon-il) สมาชิกวงได้กล่าวเสริมว่า "มันไม่มีอะไรต้องโอ้อวด แต่ผมก็คิดว่ามันไม่มีอะไรต้องปิดบัง มันไม่มีอะไรน่าอาย"

ทางผู้ร่วมรายการคนอื่นได้กล่าวขึ้นมาว่า "พ่อแม่ชาวเกาหลีได้ให้ของขวัญลูกเป็นการทำศัลยกรรมที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้หรือไม่ก็เมื่อถึงวัยอันสมควร" ซึ่งสมาชิก Supernova ได้กล่าวเสริมความเห็นนั้นว่า "ในเกาหลี มันเป็นเหมือนใบประกาศนียบัตรของขวัญทีให้เพื่อไปทำศัลยกรรม"

ซึ่งทันทีที่เทปดังกล่าวได้รับการออกอากาศและเผยแพร่ไปทั่วอินเตอร์เน็ต เหล่าชาวเน็ตเกาหลีต่างก็แสดงความเห็นไปในทางไม่พอใจ เพราะเชื่อว่าเป็นเหมือนการโจมตีไอดอลเกาหลีด้วยกันเสียมากกว่า โดยบางความเห็นระบุว่า

"ฉันไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมพวกเขาถึงรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่สมควรพูด", "ภาพลักษณ์ของศิลปินเกาหลีที่ดังในต่างประเทศเริ่มอยู่ในภาวะเสี่ยงนับตั้งแต่การขัดแย้งกันของ KARA แล้ว พวกเขาไม่น่าออกมาพูดอะไรแบบนั้นเลย", นั่นมันเป็นการแสดงออกที่ติดลบแบบสุดๆในการปกป้องไอดอลชาวเกาหลีเลยนะ"

ทางด้านตัวแทนจากต้นสังกัดของ Supernova ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเผยว่าการสัมภาษณ์ของ Supernova นั้น ทั้งหมดเป็นการชื่นชมเหล่าคนดังเกาหลีไม่ใช่การโจมตีแต่อย่างใด

เส้นทางของวงการเอวี และวงการไอดอล เป็นอันต้องมาเกี่ยวข้องกันอีกครั้ง เมื่อมีการประกาศอย่างเป็นทางการ ว่าน้องสาวของ "นากานิชิ รินะ" (Nakanishi Rina) อดีตสมาชิกของเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังแห่งแดนปลาดิบ AKB48 จะเดินตามรอยพี่สาวของเธอ เข้าสู่วงการเอวีไปอีกคน

เมื่อประมาณ 1 ปีก่อนกลายเป็นข่าวสะเทือนวงการไอดอล เมื่อ นากานิชิ รินะ อดีตสมาชิกของกลุ่มศิลปินหญิงล้วน AKB48 ได้ตัดสินใจถ่ายภาพอัลบั้มนู้ด ก่อนจะเดินเข้าสู่วงการหนังโป๊ญี่ปุ่น หรือที่นิยมเรียกติดปากกันว่า 'หนังเอวี' โดยเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงปัญหากับอดีตต้นสังกัด เธอได้เริ่มต้นในเส้นทางสายนี้ด้วยชื่อใหม่ว่า 'ยามากูจิ ริโกะ' (Yamaguchi Riko) แทนที่จะเป็น นากานิชิ รินะ อย่างที่หลาย ๆ คนรู้จัก ถึงกระนั้นข่าวดังกล่าวก็เป็นที่พูดถึง และมีผลกระทบต่อ AKB48 อยู่บ้างไม่มากก็น้อย

แต่ล่าสุดดูเหมือนจะมีข่าวช็อคมาให้แฟน ๆ ของ AKB48 ได้ฮือฮากันอีกครั้ง เมื่อมีการประกาศว่าน้องสาวของ นากานิชิ รินะ ก็จะเดินตามรอยพี่สาว สู่ถนนสายเอวีด้วยเช่นเดียวกัน

ซึ่งหลังจากมีภาพของเธอตีพิมพ์ลงในนิตยสารของ Soft of Demand (SOD) จึงมีคำยืนยันจากบริษัทหนังเอวีชื่อดังแห่งนี้ว่า ผลงานในแนววาบหวิวของน้องสาวอดีตสมาชิกวง AKB48 จะวางจำหน่ายภายในเดือน มี.ค. ที่จะถึงนี้

สาวคนนี้จะใช้ชื่อในวงการเอวีว่า "ยามากุจิ ริกุ" (Yamaguchi Riku) อย่างไรก็ตามหลายคนยังอดสงสัยไม่ได้ ว่าเธอจะเป็นน้องสาวคลานตามกันมาของอดีตสมาชิก AKB48 ตัวจริง หรือเป็นเพียงแค่สาวหน้าเหมือน ที่บริษัทหนังโป๊อุปโลกน์ให้เป็นน้องสาวของอดีตไอดอลคนดัง เพื่อเรียกร้องความสนใจเท่านั้น แต่แฟนคลับของ AKB48 หลาย ๆ คนเชื่อว่าเธอน่าจะเป็นน้องสาวของ นากานิชิ รินะ จริงอย่างที่มีการกล่าวอ้าง

ขณะนี้ SOD ได้เปิดเว็บไซต์สำหรับการโปรโมตผลงาน DVD แผ่นแรกของ ริกุ ที่มีกำหนดจะวางจำหน่ายในวันที่ 5 มี.ค. ที่จะถึงนี้แล้ว และได้ปล่อยภาพตัวอย่าง (ที่ไม่มีภาพวาบหวิวอยู่ในนั้นแต่อย่างใด) มาให้แฟน ๆ ได้ชมกันด้วย ซึ่งจะมีการเปิดเผยถึงข้อมูลต่าง ๆ ในวันที่ 18 ก.พ. ที่จะถึงนี้ต่อไป

กลายเป็นข่าวที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากขณะนี้ของญี่ปุ่น สำหรับกรณี "ทาคาสุ มิกิยะ" (Takasu Mikiya) เจ้าของคลินิคความงาม Takasu Clinic ที่ออกมาพูดถึงการทำศัลยกรรมของสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปสุดฮิต AKB48

โดยเมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมา ทาคาสุ ได้มีการเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ในบล็อกของเขา แต่นักข่าวเพิ่งจะหยิบยกเรื่องนี้มาเป็นประเด็นใหญ่เมื่อวานนี้ ซึ่งทางทาคาสุเองก็ได้มีการเขียนชี้แจงรายละเอียดแก้ต่างเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวในวันนี้ ว่าเป็นการรายงานข่าวที่บิดเบือนและเชื่อว่าการเล่นข่าวครั้งนี้ของสื่อ สืบเนื่องจากต้องการสร้างกระแสจากการเปิดตัวในฐานะศิลปินเดี่ยวของ อิตาโนะ โทโมมิ (Itano Tomomi) เมื่อไม่นานนี้ก็เป็นได้

อย่างไรก็ตามข้อความที่เขาโพสท์ก่อนหน้านี้และทำให้เขาโดนโจมตีนั้นระบุว่ามีเด็กสาวหลายต่อหลายคนต่างมาที่คลินิคของเขาเพื่อต้องการที่จะมีใบหน้าแบบเดียวกับ อิตาโนะ โทโมมิ พร้อมให้รายละเอียดและบอกเหตุผลว่าทำไมมันถึงง่ายที่จะทำศัลยกรรมเพื่อเติมเต็มความต้องการของสาวๆ โดยมีข้อความที่เขาเขียนและดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างมาก ซึ่งมีใจความว่า

"มีสาวๆที่มีใบหน้าเป็นที่นิยมมากขึ้นทั้ง มาเอดะ อัตสึโกะ (Maeda Atsuko), โอชิมา ยูโกะ (Oshima Yuko), ชิโนดะ มาริโกะ (Shinoda Mariko) และ วาตานาเบ มายู (Watanabe Mayu) [ รายชื่อจากความต้องการของคนไข้ที่มาทำศัลยกรรม ] อย่างไรก็ตาม พวกเธอนับเป็นนางแบบที่ยากต่อการเลียนแบบที่สุด เพราะพวกเธอ 4 คนมีใบหน้าที่สวยธรรมชาติไม่แตกต่างกันเลยระหว่างแต่งหน้ากับไม่แต่ง มันจะง่ายขึ้นเมื่อคนไข้มีรูปหน้าที่คล้ายคลึงกับต้นแบบอยู่แล้ว แต่ส่วนมากจะมีรูปหน้าไม่เหมือนเลย ซึ่งถือว่าค่อนข้างยากสำหรับเรามากทีเดียว"

ซึ่งสื่อที่นำเสนอข่าวนั้น ได้ตีความการโพสท์ข้อความของทาคาสุไปในทำนองที่ว่า ทาคาสุต้องการจะบอกว่าอิตาโนะ โทโมมิไม่ได้สวยธรรมชาติ และใบหน้าของเธอก็ง่ายที่จะทำศัลยกรรมให้กับสาวๆรายอื่นมากกว่าเนื่องจากหน้าของอิตาโนะผ่านการทำศัลยกรรมมาหมดแล้ว

หลังการตีความของสื่อ ทางด้านทาคาสุจึงได้รีบออกมาชี้แจงในวันนี้ว่า เขาไม่ได้หมายความอย่างที่สื่อเข้าใจแต่อย่างใด

หนังที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนชื่อดัง Gantz เข้าฉายในประเทศญี่ปุ่น เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และสามารถทำเงินได้สูงถึง 592 ล้านเยน หรือประมาณ 7.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีการคาดการณ์ว่า หนังที่มีความยาวสองภาคจบ ของบริษัท "โตโฮ" ชุดนี้ น่าจะทำเงินรวมกันได้สูงถึง 10,000 ล้านเยนเลยทีเดียว

นอกจากเข้าฉายกวาดเงินเยนในประเทศไปแล้ว Gantz ยังมีกำหนดปูพรมฉายในอีก 21 ประเทศทั่วโลกที่ซื้อลิขสิทธิ์การจัดจำหน่ายไปแล้ว รวมถึงสหรัฐฯ อเมริกาที่มีกำหนดลงโรงในช่วงเดือน ก.พ. นี้ด้วย และน่าจะเป็นงานที่ทำเงินทำทองให้กับ โตโฮ ผู้สร้างได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว

จากแบบสำรวจของสื่อท้องถิ่นถึงความนิยมในภาพยนตร์เรื่องนี้ 31.5% ยอมรับว่าตีตั๋วเข้าไปชม ก็เพราะพระเอกหนุ่มคนดัง นิโนะมิยะ คาซึนาริ (Kazunari Ninomiya) แห่งวง Arashi, ขณะที่ 14.6% บอกว่าไปดูเพราะต้องการดูหนังแอ็กชั่นมันส์ ๆ ซักเรื่อง, และอีก 7% ไปดูเพราะนักแสดงหนุ่ม มัตสึยามะ เคนอิจิ (Matsuyama Kenichi) ที่โด่งดังเป็นที่รู้จักจากบท L ในหนังเรื่อง Death Note

นอกจากนั้นจากข้อมูลยังระบุว่ากว่า 75% ของกลุ่มผู้ชมหนังแอ็กชั่นดุเดือนเรื่องนี้ กลับเป็นผู้หญิง และถึง 40% มีอายุระหว่าง 13 - 19 ปี ซึ่งเป็นข้อมูลที่สามารถการันตีความโด่งดังของนักแสดงหนุ่มทั้งสองได้เป็นอย่างดี

Gantz หรือ กันซึ ผลงานของ ฮิโรยะ โอคุ นักเขียนการ์ตูนชื่อดัง เริ่มต้นเรื่องราวขึ้นเมื่อเด็กหนุ่มนาม เคอิ คุโรโนะ และมาซารุ คาโตะ พบว่าชีวิตหลังความตาย ของพวกเขาและคนอีกกลุ่มหนึ่งได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ "เกม" อะไรบางอย่าง ที่ต้องทำตามสั่งคำสั่งในการตามล่า และสังหารบุคคลตามภาพถ่าย ด้วยอาวุธและอุปกรณ์สุดไฮเทค เพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนน ที่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นรางวัล ไม่ว่าจะเป็นอาวุธที่รุนแรงมากขึ้น หรือโอกาสการได้กลับไปใช้ชีวิตปกติอีกครั้ง

โดยในวันที่ 23 เม.ย. หนังภาคที่ 2 ที่ใช้ชื่อว่า Gantz Perfect Answer จะมีกำหนดเข้าฉาย โดยหนึ่งในผู้แสดงนำอย่าง มัตสึยามะ เผยว่าจะเป็นภาคต่อที่มีเนื้อหาแตกต่างจากต้นฉบับที่เป็นหนังสือการ์ตูน และจะเผยถึงบทสรุปของ Gantz ฉบับภาพยนตร์ให้แฟนๆ ได้รับทราบกันด้วย

"ซายากะ อากิโมโตะ" (Sayaka Akimoto) วัย 22 ปี จะเข้าร่วมแข่งขันวิ่งระยะไกล "โตเกียวมาราธอน" ประจำปี 2011 หลังภายเมื่อปีก่อนเธอเคยเข้าแข่งขันในรายการฮาล์ฟมาราธอนมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยนักร้องสาวคนดังจะเข้าร่วมแข่งขัน "ฮอกไกโด มาราธอน" เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าด้วย

Japan Today รายงานว่าขณะนี้ นักร้องสาวคนดัง ซายากะ อากิโมโตะ อยู่ระหว่างการฟิตซ้อม และเตรียมความพร้อมของร่างกาย โดยเธอได้ อาเคมิ โอซากิ (Akemi Ozaki) ผู้ชนะการแข่งขัน Athens Classic Marathon เมื่อปี 2009 มาช่วยเป็นโค้ชส่วนตัวให้ด้วย

โดย นักร้องสาววัย 22 ปี หวังว่าจะใช้การแข่งขันวิ่งมาราธอนครั้งนี้ เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นใหม่ของตัวเอง หลังจากต้องพบกับข่าวฉาว เรื่องความสัมพันธ์กับนักเขียนการ์ตูนหนุ่มใหญ่วัย 55 ปี เมื่อมีข่าวลือว่าเขาได้มาอาศัยค้างคืนที่อพาร์ตเมนต์ของเธอเมื่อปีก่อน

แม้ อากิโมโตะ จะปฏิเสธข่าวดังกล่าว เธอยังแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากการเป็นหัวหน้าทีม K ของ AKB48 ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวได้กล่าวกับแฟน ๆ ว่าจะแสดงความมุ่งมั่นในการเริ่มต้นชีวิตใหม่กับการแข่งขันวิ่งระยะไกลครั้งนี้ "เพราะเมื่อปีก่อน ฉันทำให้เพื่อน ๆ และแฟน ๆ ที่คอยสนับสนุนต้องเป็นห่วงมาก ฉันเลยอยากจะแสดงให้ทุกคนได้เห็น ว่าฉันจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ในปี 2011 นี้ค่ะ"

ซึ่งนอกจากนักร้องสาวขวัญใจหนุ่ม ๆ แล้ว ยังมีคนดังอีกจำนวนมาก ที่จะเข้าร่วมแข่งขัน โตเกียว มาราธอน ประจำปี 2011 รวมถึง โคคุบุน ไทจิ แห่ง TOKIO ด้วย

Manager Online

โทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์ขอบุกตลาดญี่ปุ่น โดยทำมาร์เก็ตติ้งแบบใหม่ใช้บอยแบนด์ดัง"อาราชิ" (ARASHI) มาเป็นพรีเซ็นเตอร์พร้อมประกาศขอทำลายสถิติกินเนส เวิล์ด เรคคอร์ด หลังจัดถ่ายโฆษณาไปแล้วกว่า 60 ตัว

การทำลายสถิติกินเนส เวิล์ด เรคคอร์ด ครั้งนี้ 5 หนุ่มจากวงอาราชิ ขอท้าชนด้วยการทำลายสถิติ 3 ประเภทคือ

- ทำลายสถิติออกอากาศโฆษณาสินค้าตัวเดียวกันมากที่สุด ภายในระยะเวลา 24 ชม. ทางทีวีทั่วไป

- ทำลายสถิติออกอากาศโฆษณาสินค้าตัวเดียวกันมากที่สุด ภายในระยะเวลา 8 ชม. ทางเพย์-ทีวี

- ทำลายสถิติออกอากาศโฆษณาสินค้าตัวเดียวกันมากที่สุด ภายใน 30 นาทีทางรายการทีวีหนึ่งรายการ

ตามรายงานระบุว่า ในโฆษณาเหล่าสมาชิกอาราชิ จะแสดงให้เห็นถึงความสามารถของโทรศัพท์แอนดรอยด์ ทั้งในเรื่องของ Voice Search และ Google Translate ซึ่งมาซากิ ไอบะ (Masaki Aiba) ได้ใช้โปรแกรมการแปลภาษาด้วยเสียงส่งข้อความจากภาษาอังกฤษหาเพื่อนร่วมวงเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า "นิโนมิยะ ฉันรักนาย" ซึ่งคาสุนาริ นิโนมิยะ (Kazunari Ninomiya) ได้ตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษว่า "ฉันไม่ได้รักนาย" ซึ่งไอบะ เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมในโฆษณาด้วยการระบุว่า"การถูกปฏิเสธเป็นภาษาอังกฤษไม่เจ็บปวดมากเท่าไหร่"

โฆษณาทั้ง 60 ตัว จะเริ่มออกอากาศในวันนี้ โดยพยายามจะทำลาย 2 สถิติแรก และจะทำลายสถิติที่ 3 ในวันที่ 30 ม.ค. นี้จากการออกอากาศทางรายการ Music Lovers

Manager Online