ข่าวจีน

        เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นในงานวันเกิดของนักแสดงชาวจีนแผ่นดินใหญ่รายหนึ่ง เมื่อสุนัขที่ดาราสาวชาวฮ่องกง "เยี่ยเซิน" (Michelle Yip / 葉璇) พามาในงานด้วยได้เข้าไปกัดทำร้ายนักแสดงสาว "ลี่อีว์เซียว" (Li Yixiao / 李依曉) จนได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นแผลใหญ่บริเวณศีรษะ จนต้องเจ็บไปหลายเข็ม
       
       เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนรักสุนัขที่ชอบพาหมาที่ตัวเองเลี้ยงไปยังที่ต่างๆ ได้เป็นอย่างดีทีเดียว สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันเกิดของนักแสดงชาวจีนแผ่นดินใหญ่ หยินเสียวเถียน (Yin Xiaotian’s / 印小天) เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งมีนักแสดงชื่อดังหลายคนมาร่วมยินดี รวมถึงดาราสาวคนสวยชาวฮ่องกง เยี่ยเซินที่พาสุนัขที่เธอเลี้ยงมาด้วยถึง 2 ตัว ทั้งเจ้าหมาพันธ์พื้นเมืองของจีน และหมาพันธุ์อลาสกันตัวใหญ่
       
       แต่แล้วก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นในงานเมื่อหมาอลาสกันของ เยี่ยเซิน ได้เข้าไปกัดทำร้ายนักแสดงสาว ลี่อีว์เซียว ที่มาร่วมงานวันเกิดครั้งนี้ด้วย และเนื่องจาก เยี่ยเซิน ไม่ได้ใช้เชือกผู้สุนัขของเธอเอาไว้ เธอจึงไม่สามารถควบคุมหมาได้ทันเวลา จนเพื่อนดาราถูกต้องกัดไปหลายแผลทั้งที่หลัง, ศีรษะ และด้านหลังหู จนเป็นแผลขนาดใหญ่ที่มีเลือดออกมากพอสมควร จึงต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน และยังต้องเย็บแผลไปหลายเข็ม เฉพาะที่ศีรษะก็ต้องเย็บถึง 20 เข็มเลยทีเดียว
       

        กลายเป็นศึกปะทะคารมกันแล้วสำหรับศิลปินและแฟนคลับ หลังจากที่ “เซฮุน” (Sehun) สมาชิกอายุน้อยสุดของวง EXO เปิดแอคเคาท์ใน Weibo สังคมออนไลน์ของจีน ทางแฟนคลับเกาหลีกระหน่ำด่าอย่างหนักไม่อยากให้เปิด ล่าสุด “หวงจื่อเทา” (Tao) สมาชิกชาวจีนของวงทนไม่ไหว เหน็บแฟนคลับว่า ไม่ใช่แฟนตัวจริง ถ้ารักกันจริงจะไม่ทำแบบนี้
       
       เป็นเรื่องราวที่บรรดาแฟนคลับได้ปวดหัวกับการเปิดศึกระหว่างศิลปิน EXO กับ แฟนคลับกันเลยทีเดียว เมื่อมีรายงานว่า เซฮุน สมาชิกน้องเล็กของวง EXO ได้เปิดแอคเคาท์ใน Weibo สื่อสังคมออนไลน์ของจีน โดยความช่วยเหลือของหนุ่ม เทา หรือ หวงจื่อเทา เพื่อนสมาชิกวงชาวจีน เพื่อเป็นช่องทางพูดคุยกับแฟนคลับชาวจีน งานนี้แฟนคลับชาวเกาหลีออกอาการไม่พอใจ พร้อมโวยวายว่าไปเปิดทำไมพร้อมข้อความเหน็บแนมอีกมากมาย โดยเฉพาะกลุ่มแฟนคลับที่ไม่ชอบการสนิทสนมกันระหว่าง เซฮุน กับ หนุ่มเทา
       
       ส่งให้หนุ่มเทาออกอาการทนไม่ไหว ต้องออกมาโพสต์ข้อความตอกกลับแฟนคลับทันที “เซฮุนมาเล่น Weibo เป็นเรื่องที่น่ายินดีไม่ใช่เหรอครับ? ถ้าคุณชอบเขา ก็ติดตามเขา แต่ถ้าคุณไม่ชอบก็อย่าใช้คำพูดไม่ดีเลยนะ พวกคุณคือ EXO-L  ทำไมพวกคุณถึงทำแบบนี้? “

        หลังจากแยกทางกับสามีไปได้หลายปี เพิ่งจะมีข่าวความรักครั้งใหม่ของ "จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) ออกมาบ้าง โดยมีรายงานว่าดาราสาวคุณแม่ลูก 2 ได้เริ่มสานสัมพันธ์กับหนุ่มชาวสิงคโปร์วัย 41 ปี ที่ไม่ได้เป็นคนในวงการบันเทิงแต่อย่างใด
       
       ขณะที่มีข่าวว่า เซียะถิงฟง (Nicholas Tse) กลับไปควงกับคนรักเก่าอย่าง หวังเฟย (Wang Fei) ล่าสุดก็มีข่าวเรื่องความรักครั้งใหม่ของ จางป๋อจือ ออกมาบ้าง โดยมีรายงานว่านักแสดงสาววัย 34 ปี กำลังเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่ แต่คราวนี้เธอเลือกที่จะคบกับหนุ่มนอกวงการดูบ้างหลังจากที่ผ่านมามีแต่แฟนที่เป็นคนในวงการบันเทิงด้วยกัน
       
       The Straits Times รายงานว่าเพื่อนชายคนสนิทของ จางป๋อจือ เป็นหนุ่มวัย 41 ปี ชาวสิงคโปร์ ซึ่งมีชื่อว่า เอิร์น เฉิน โดยเขาเป็นเจ้าของกิจการร้านขายเสื้อผ้าสำหรับผู้ชาย และยังทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างครีเอทีฟของร้านอาหารสุดฮิป Potato Head Folk ด้วย ซึ่งแม้เขาจะไม่ได้เป็นคนในวงการบันเทิงโดยตรง แต่หนุ่มวัย 41 ปี คนนี้ก็ยังสนิทสนมกับคนในวงการบันเทิงหลายคน ทั้งหนุ่ม จี-ดรากอน (G-Dragon) แห่งวง Big Bang รวมถึงรู้จักกับนักร้องสาวชาวฮ่องกง ซิข่ายฉี (Fiona Sit) เป็นอย่างดีด้วย
       
       ยังมีรายงานว่าเขายังเป็นคนไปรับ จางป๋อจือ ถึงที่สนามบินในสิงคโปร์ด้วยตัวเอง เมื่อตอนที่ดาราสาวชื่อดังชาวฮ่องกงเดินทางมาถึงที่นี่เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ก่อนจะพาทั้ง จางป๋อจือ กับลูกๆ ทั้ง 2 คนที่ทานอาหารที่ร้านอาหารไทยแห่งหนึ่ง และพาดาราสาวชาวฮ่องกงกับลูกๆ ไปส่งที่บ้านของเธอ ก่อนที่ในช่วงค่ำเขาจะกลับมารับ จางป๋อจือ ไปเที่ยวด้วยกัน โดยคราวนี้ไม่ได้พาลูกๆ ไปด้วย
       

        นักแสดงกังฟูชื่อดังชาวจีนแผ่นดินใหญ่เผยภาพล่าสุด หลังเขาได้รับบาดเจ็บบริเวณขาทั้งสองข้าง จากการถ่ายทำหนังเรื่องล่าสุด โดย "อู๋จิง" (Wu Jing) วัย 40 ปี ยอมรับว่าอาการบาดเจ็บครั้งนี้อาจทำให้เขาต้องเลิกเล่นหนังแอ็กชั่นไปเลยก็ได้
       
       อู๋จิง ดารากังฟูชาวจีนแผ่นดินใหญ่เผยภาพการเข้าไปรับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลังได้รับบาดเจ็บจากการถ่ายทำภาพยนตร์เมื่อเร็วๆ นี้ โดยเขาบอกกับผู้สื่อข่าวว่าแม้การผ่าตัดจะผ่านไปได้อย่างเรียบร้อย แต่สุดท้ายการบาดเจ็บครั้งร้ายแรงนี้ก็อาจทำให้เขาไม่สามารถกลับมาแสดงหนังแอ็กชั่น และแสดงบทบู๊ได้อีก โดย อู๋จิง ที่เข้าวงการบันเทิงมาได้เกือบ 20 ปีเต็มยังเปรยว่าหากเล่นหนังบู๊ไม่ได้อีกแล้วจริงๆ เขาก็คงจะได้มีเวลาให้กับภรรยา และลูกชายมากขึ้น
       
       โดยตลอดปีที่ผ่านมา อู๋จิง ถ่ายทำหนังแอ็กชั่นเก็บเอาไว้สองเรื่องคือ Wolf Warrior ที่เขาทั้งกำกับ, แสดงนำ และเขียนบทด้วยตัวเอง ส่วน SPL 2 ก็เป็นงานที่เขาได้มีโอกาสร่วมแสดงกับ จา พนม (Tony Jaa) นักบู๊ชื่อดังชาวไทย ซึ่งหากอาการบาดเจ็บของ อู๋จิง ร้ายแรงจริงๆ หนังทั้ง 2 เรื่องก็อาจจะเป็นหนังแอ็กชั่น 2 เรื่องสุดท้ายของดารากังฟูวัย 40 ปี

Manager Online

        "ทังเจิ้นเย่" (Kent Tong) เผยว่าเขาคงจะไม่ไปร่วมพิธีรำลึกถึงการจากไปของอดีตนางเอกชื่อดัง "องเหม่ยหลิง" (Barbara Yung) อดีตหญิงคนรักของเขาแต่อย่างใด โดยนักแสดงรุ่นใหญ่วัย 56 ปี ยัง เปรยว่าเขาไม่ได้คิดถึงอดีตแฟนสาวแล้ว เพราะรู้สึกว่าการคิดแบบนั้นคงจะเป็นเรื่องไม่ยุติธรรมกับภรรยาคนปัจจุบันของเขา
       
       ทังเจิ้นเย่ อดีตนักแสดงในกลุ่ม "5 พยัคฆ์ทีวีบี" ของสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ของฮ่องกง เคยเป็นซูเปอร์สตาร์มาแรงแห่งยุค 80s แต่หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยของสังคมว่าเขาคือสาเหตุที่ทำให้นางเอกชื่อดัง องเหม่ยหลิง ที่เป็นอดีตแฟนสาวของเขาฆ่าตัวตายอย่างน่าเศร้าเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 1985 ชีวิตของ ทังเจิ้นเย่ ก็เปลี่ยนแปลงไปทันที โดยปีหน้าจะถือว่าปีครบรอบ 30 ปีการจากไปของ องเหม่ยหลิง แล้ว
       
       โดยตอนนั้น ทังเจิ้นเย่ ต้องถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าไม่สามารถรประคับประคองชีวิตคู่เอาไว้ได้ จนอดีตแฟนสาวต้องคิดสั้นถึงกับฆ่าตัวตายด้วยการรมแก๊สตัวเองในห้องพัก และเสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า ซึ่งต่อมา ทังเจิ้นเย่ ก็ได้ตัดสินใจออกจากบริษัททีวีบีไปในที่สุด โดยล่าสุดในวัย 56 ปี ทังเจิ้นเย่ ได้มีโอกาสให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวในอดีตอีกครั้ง รวมถึงได้โอกาสในการชี้แจงประเด็นที่เขาได้ตัดสินใจออกจากต้นสังกัดที่ปั้นให้เขาโด่งดังขึ้นมาด้วย
       

        “โจวซิงฉือ” (Stephen Chow) เลือกนักแสดงสาวคนสวย “จางอี่ว์ฉี” (Kitty Zhang) ที่เขาเป็นผู้ปั้นให้ดังขึ้นมาในวงการ ให้มาร่วมแสดงในหนังผลงานการกำกับเรื่องต่อไปของเขาที่มีชื่อว่า Mermaid ซึ่งจะมีทั้ง “หลัวจื้อเสียง” (Show Luo) และ “เติ้งเชา” (Deng Chao) ร่วมแสดงกับสาวๆ หน้าใหม่ที่ผ่านขั้นตอนคัดเลือกไปเมื่อเดือนก่อน
       
       จางอี่ว์ฉี ที่แจ้งเกิดจากหนังเรื่อง CJ7 ของ โจวซิงฉือ เมื่อ 6 ปีก่อน กำลังจะได้กลับมาร่วมงานกับดาวตลกซูเปอร์สตาร์อีกครั้ง แม้หลังโด่งขึ้นมานักแสดงสาวคนสวยจะตัดสินใจฟ้องร้องเอเยนซีต้นสังกัด ซึ่งเป็นบริษัทของ โจวซิงฉือ เพื่อของยกเลิกสัญญา และยังฟ้องชนะในท้ายที่สุดด้วย แต่เมื่อไม่กี่เดือนก่อนเมื่อ โจวซิงฉือ ถูกคนในวงการออกมาโจมตีอย่างหนัก ว่าเป็นคนประเภทที่มีนิสัยเห็นแก่เงินมากกว่าเห็นแก่เพื่อน ซึ่ง จางอี่ว์ฉี ก็คือหนึ่งในคนที่ออกมาปกป้องเขา พร้อมยืนยันว่า โจวซิงฉือ ไม่ใช่คนเลวร้าย แต่อาจจะจริงจังกับงานมากเท่านั้น ซึ่งสุดท้ายทั้งสองก็ได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งจนได้
       
       สำหรับนักแสดงนำชาย โจวซิงฉือ มอบบทนำให้กับดาราหนุ่มมากฝีมือ เติ้งเชา แม้ก่อนหน้านี้จะมีข่าวว่าเขาอาจจะเลือก หลัวจื้อเสียง ที่เคยร่วมงานกันมาแล้วใน Journey to the West: Conquering the Demons ให้มารับบทนำในหนังเรื่องนี้ แต่สุดท้ายเขาก็เลือก เติ้งเชา ด้วยเหตุผลเรื่องชื่อเสียงความโด่งดังในจีนแผ่นดินใหญ่ของนักแสดงหนุ่มวัย 35 ปีคนนี้นั่นเอง นอกจากนั้น เติ้งเชา ยังเพิ่งจะพิสูจน์ฝีมือการเล่นบทตลกในหนังตลก The Breakup Guru ไป และยังจะได้มีส่วนร่วมในรายการวาไรตี้ที่ทุกฝ่ายจับตามองอยู่อย่าง Running Man ฉบับจีนแผ่นดินใหญ่ด้วย
       

        นักแสดงสาวชื่อดังชาวเกาหลีใต้ "แชริม" (Chae Rim) และแฟนหนุ่มชาวจีน "เกาจื่อฉี" (Gao Tzi Qi) จูงมือกันเข้าประตูวิวาห์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในงานซึ่งจัดกันที่ประเทศจีน ซึ่งหลังจากนี้จะมีการจัดพิธีขึ้นที่เกาหลีใต้บ้านเกิดของฝ่ายหญิงขึ้นอีกครั้ง
       
       แชริม และ เกาจื่อฉี ได้จัดพิธีสมรสขึ้นที่เมืองไท่หยวน มณฑลซานซี อันเป็นบ้านเกิดของฝ่ายชาย เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยเจ้าสาวเข้าพิธีในชุดกี่เพ้าสีแดง ส่วนเจ้าบ่าวมาในชุดทักซิโด้ ซึ่งข่าวระบุว่าพิธีเป็นการจัดขึ้นตามแบบประเพณีจีน ส่วนงานกลางคืนดาราสาวชาวเกาหลีใต้เลือกใช้ชุดเจ้าสาวสีขาวแบบตะวันตก ซึ่งหลังจากนี้ทั้งสองจะจัดงานในแบบพิธีเกาหลีในวันที่ 23 ต.ค. ที่กรุงโซล บ้านเกิดของฝ่ายหญิงบ้าง
       
       โดยในช่วงหนึ่งของงาน แชริม วัย 35 ปี ได้กล่าวกับเจ้าบ่าวที่อายุน้อยกว่าเธอ 2 ปีว่า "จื่อฉี เป็นคนอบอุ่นและเอาใจใส่มาก เขาจะทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้เราประทับใจอยูเสมอ เขาจะแคร์แต่เราเพียงคนเดียว ดูแลฉันเหมือนกับเป็นคุณพ่อเลย และมีความรักให้เหมือนเป็นพี่ชายด้วย ฉันคิดว่านี่แหละคือความรักแบบที่เคยจินตนาการเอาไว้ค่ะ" ส่วนเจ้าบ่าวชาวจีนก็กล่าวถึงความรักครั้งนี้ว่า "ถ้ามีเครื่องย้อนเวลาผมก็อยากจะเจอเธอให้เร็วกว่านี้ครับ เพื่อที่ว่าจะได้อยู่กับเธอ และรักเธอให้เร็วขึ้น"
       
       แชริม และ เกาจื่อฉี เริ่มพัฒนาความสัมพันธ์กันระหว่างร่วมงานถ่ายทำซีรีส์ The Lee Family ของ CCTV เมื่อปีก่อน ซึ่งทั้งมีโอกาสได้รับบทเป็นคู่แต่งงานกัน โดยนักแสดงสาวชื่อดังชาวเกาหลีใต้ และดาราหนุ่มชาวจีนได้ประกาศข่าวว่าทั้งสองกำลังคบหาดูใจกันเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา กระทั่งจนถึงช่วงกลางปีทั้งสองจึงได้ประกาศข่าวดีเรื่องการแต่งงาน
       

        สื่อเกาหลีใต้เปิดเผยว่าเหตุผลที่ “ลู่หาน” (Lu Han) ตัดสินใจฟ้องร้องขอยกเลิกสัญญากับต้นสังกัด SM Ent. นั้น ส่วนหนึ่งมาจากเรื่องรายได้ที่ตลอดระยะ 1 ปีที่ผ่านมาเขาได้รับจากบริษัทเพียงแค่ 530 ล้านวอนเท่านั้น ซึ่งไอดอลหนุ่มวัย 24 ปี มองว่าเป็นส่วนแบ่งที่ไม่เป็นธรรม
           
       มีรายละเอียดคดีความระหว่าง ลู่หาน แห่งวง EXO และ SM Entertainment บริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ต้นสังกัดของเขาออกมาเรื่อยๆ ล่าสุดสื่อ Star News ของเกาหลีได้เปิดเผยถึงรายละเอียดว่าศาลเขตกรุงโซลกลางได้รับคำฟ้องของ ลู่หาน เอาไว้แล้ว โดยน่าจะมีการกำหนดวันเริ่มพิจารณาคดีออกมาในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตามก็มียังมีโอกาสที่ทั้งสองฝ่ายจะสามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้
       
       ข่าวระบุว่าในการฟ้องร้องต้นสังกัดครั้งนี้ ลู่หาน ได้เลือกให้ทนายความคนเดียวกับที่ว่าความให้กับเพื่อนร่วมวง EXO อย่าง คริส (Kris) ในการฟ้องร้องคดีความลักษณะเดียวกันเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมาด้วย
       
       โดยตัวแทนทางกฎหมายของลู่หาน ยังได้ชี้แจงถึงเหตุผลที่ไอดอลหนุ่มต้องการยกเลิกสัญญาว่าเขารู้สึกว่าตนเองได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม โดย SM Entertainment มักจะปฏิบัติกับสมาชิกของ EXO-M ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีน แตกต่างจาก EXO-K ที่เป็นเกาหลีใต้อยู่เสมอ นับตั้งแต่เปิดตัวเป็นต้นมา ทั้งเรื่องงานต่างๆ ที่ EXO-K ได้รับโอกาสต่างๆ และการสนับสนุนเรื่องเงินสำหรับกิจกรรมต่างๆ มากกว่ามาตลอด
       

        หลังห่างหายจากงานแสดงทางโทรทัศน์ไปหลายปี “โจวซวิ่น” (Zhou Xun) ได้มีโอกาสกลับมารับงานประเภทซีรีส์อีกครั้งในซีรีส์ฟอร์มใหญ่ Red Sorghum ที่ดัดแปลงมาจากนิยายของนักเขียนระดับรางวัลโนเบล และเป็นภาพยนตร์ที่ “กงลี่” (Gong Li) เคยแสดงเอาไว้จนโด่งดัง
       
       Red Sorghum หรือ “หงเกาเหลียง” เป็นนิยายของนักเขียนรางวัลโนเบลชาวจีน โม่เหยียน ที่ก่อนหน้านี้ผู้กำกับชื่อดัง จางอี้โหมว เคยนำไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ที่มี กงลี่ และ เจียงเหวิน แสดงจนโด่งดังและคว้ารางวัลเทศกาลภาพยนตร์เมืองเบอร์ลินเมื่อปี 1988 มาแล้ว ซึ่งล่าสุดนิยายคลาสสิคเรื่องนี้ได้ถูกนำมาดัดแปลงอีกครั้งในรูปแบบของซีรีส์เพื่อฉายทางโทรทัศน์ และได้นักแสดงหญิงชาวจีนที่ถือว่าดังที่สุดอีกคนในยุคนี้มารับบทนำ
       
       เมื่อ 25 ปีก่อนภาพยนตร์เรื่อง Red Sorghum เคยทำให้ กงลี่ แจ้งเกิดขึ้นมาในวงการภาพยนตร์โลก และสำหรับซีรีส์ Red Sorghum ผู้สร้างได้เลือกให้ โจวซวิ่น มารับบทนำ พร้อมกับข่าวลือที่ว่าเธอได้รับค่าตัวสำหรับงานแสดงครั้งนี้ 1 ล้านหยวนต่อตอนเลยทีเดียว ซึ่งหมายความว่าเธอจะได้รับเงินประมาณ 50 ล้านหยวน (ประมาณ 265 ล้านบาท) จากซีรีส์ทั้งหมด 50 ตอนสำหรับการกลับมารับงานแสดงทางโทรทัศน์อีกครั้งหลังการรับบทเป็น “อึ้งย้ง” ในซีรีส์ มังกรหยก เมื่อ 10 ปีก่อน
       

        ภาพล่าสุดของนางแบบสาวคนสวย “ลี่อิงจื่อ” (Li Ying Zhi / 李颖芝) แทบจะทำให้ชาวเน็ตจีนตกตะลึงไปตามๆ กัน เพราะใบหน้าของเธอดูเปลี่ยนแปลงไปมากในระยะเวลาอันสั้นเพียงไม่กี่ปี จนทำให้เกิดข่าวลือว่านี่อาจจะเป็นผลกระทบของการทำศัลยกรรมพลาสติก ที่สุดท้ายแล้วความสวยจะ “หมดอายุ” ในเวลาอันรวดเร็ว
       
       ลี่อิงจื่อ เป็นนางแบบจีนอีกคนที่มาพร้อมกับใบหน้าพิมพ์นิยมไม่ว่าจะเป็นคางอันเรียวยาว และจมูกที่โด่งเป็นสัน แม้จะโดนค่อนขอดว่าใบหน้าของเธอดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ และสงสัยว่าจะเป็นสาวจีนประเภทสวยด้วยแพทย์อีกคน แต่ภาพของนางแบบคนนี้ก็ยังได้รับความนิยมถูกนำไปโพสต์ต่อในเว็บไซต์ต่างๆ มากมาย
       
       ล่าสุดชื่อของ ลี่อิงจื่อ กลับถูกพูดถึงในชุมชนออนไลน์ของจีนอย่างมากมายอีกครั้ง จากการไปร่วมในงานอีเวนต์แสดงรถยนต์เมื่อเร็วๆ นี้ แต่กลับเป็นในแง่ที่เธอหน้าตาของเธอดูเปลี่ยนแปลงไปเป็นคนละคน คางดูผิดรูป และมีริ้วรอยต่างๆ ให้เห็นอย่างชัดเจน ซึ่งแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับเมื่อครั้งที่เธอไปโชว์ตัวที่งาน 2012 Beijing Motor Show ที่วันนั้นเธอกลายเป็นดาวเด่นของงาน และมีคนสนใจถ่ายภาพกันมากมาย
       
       มีการแสดงความเห็นมากมายเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของนางแบบสาวชาวชิงเต่า แต่ประเด็นที่ชาวเน็ตจีนแสดงความเห็นกันมากที่สุดก็คือข้อสงสัยว่านี่อาจจะเป็นหลักฐานว่าสุดท้ายแล้วการทำศัลยกรรมอาจจะมี “วันหมดอายุ” ก็ได้
       
       จากภาพทำให้ชาวจีนจำนวนไม่น้อยต่างเชื่อว่าการทำศัลยกรรมความงาม อาจจะไม่สามารถคงความสวยสมบูรณ์แบบเอาไว้ได้นานนัก แต่ความสวยจะคงอยู่เพียงไม่กี่ปี โดยเฉพาะการทำศัลยกรรมจมูก, ตาสองชั้น และคางที่น่าจะมีระยะเวลา “หมดอายุ” ด้วยกันทั้งนั้น และสำหรับบางกรณีเวลาหมดอายุอาจจะมาเร็วกว่าที่คิดด้วย

        เรียกได้ว่าตอนนี้ข่าวคราวของหนุ่มๆ EXO ออกมาเขย่าวงการอย่างต่อเนื่องทีเดียว โดยหลังข่าวประกาศฉีกสัญญาของ “คริส” (Kris) และ “ลู่หาน” (Luhan) สมาชิก EXO-M แล้ว ล่าสุดหนุ่ม “เทา” (Tao) หรือ “หวงจื่อเทา” (Huang Zitao) จาก EXO-M ก็เจอสื่อจีนเผยคลิปขณะเจ้าตัวกำลังกอดจูบสาวด้วย
       
       หลังการประกาศออกจากวงของ คริส และ ลู่หาน สมาชิกชาวจีนจากวง EXO-M ทางสมาชิกชาวจีนอีกหนึ่งคนอย่าง เทา หรือ หวงจื่อเทา ก็มีข่าวทำเอาแฟนคลับตะลึงเช่นกัน เมื่อสื่อจีนที่คอยจับบตาดูความเคลื่อนไหวสมาชิกวงที่เหลือ ได้จับภาพของ เทา ขณะออกไปสังสรรค์กับเพื่อนไว้ได้ โดยหลังการล่ำลากัน หญิงสาวที่อยู่ในกลุ่มได้แสดงความใกล้ชิดกอด-จูบหนุ่มเทาอย่างสนิทสนมด้วย
       
       โดยคลิปดังกล่าวนับว่าเรียกความสนใจจากบรรดาแฟนคลับได้ไม่น้อย ซึ่งตอนนี้ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกอินเตอร์เน็ต พร้อมข้อสงสัยที่ว่าหญิงสาวคนดังกล่าวเป็นใครกันแน่
       
       อย่างไรก็ตามแม้จะยังไม่มีการยืนยันว่าหนุ่มเสื้อขาวในคลิปใช่หนุ่มเทาจากวง EXO จริงหรือไม่ แต่จากรูปร่างหน้าตาแล้วค่อนข้างใกล้เคียงหนุ่มเทามากทีเดียว
 

Manager Online

        องค์กรที่มีหน้าที่กำกับดูแลสื่อในจีนแผ่นดินใหญ่ได้ออกคำสั่งแบนหนังที่เป็นผลงานการแสดงของดาราที่มีปัญหาเรื่องยาเสพติด ซึ่งแน่นอนว่าทำให้หนังหลายๆ เรื่องที่ “ไค โค” (Kai Ko) และ “เจย์ซี ชาน” (Jaycee Chan) สองนักแสดงหนุ่มที่เข้าไปพัวพันกับคดียาเสพติดต้องเจอปัญหาขึ้นมาทันที
       
       มีรายงานจากสื่อจีนว่า สำนักงานบริหารวิทยุ ภาพยนตร์ และภาพยนตร์โทรทัศน์แห่งรัฐ หรือ SARFT ได้ออกคำสั่งแบนห้ามให้มีการฉายหนัง อันเป็นผลงานของนักแสดงที่ถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติด โดยหน่วยงานของทางการจีนได้ออกจดหมายแจ้งเดือนไปยังบริษัทจัดจำหน่ายทุกแห่งตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย. เป็นต้นมา ซึ่งทำให้เกิดปัญหากับผู้สร้างหลายๆ รายที่ถ่ายทำหนังซึ่งมี เจย์ซี ชาน กับ ไค โค หรือ เคอเจิ้นตง สองนักแสดงหนุ่มผู้อื้อฉาวได้แสดงนำเอาไว้
       
       โดยข่าวระบุว่า ไค โค มีผลงานการแสดงที่ยังไม่ได้ฉายอยู่หลายเรื่อง รวมถึงหนังโรแมนติก A Choo ที่เขารับบทนำคู่กับ หลินอีเฉิน (Ariel Lin) ซึ่งเดิมทีมีกำหนดฉายตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค. แต่ได้ถูกเลื่อนโปรแกรมออกไปอย่างไม่มีกำหนดหลังเกิดคดีความขึ้น
       
       นอกจากนั้น ไค โค ชาวไต้หวันยังมีผลงานที่ถ่ายทำเอาไว้ในจีนแผ่นดินใหญ่อยู่อีก 2 เรื่องคือหนังวัยรุ่นฟอร์มใหญ่ Tiny Times 4.0 ที่เขาร่วมแสดงนำมาตั้งแต่ภาคแรก และหนัง Monster Hunt ที่จะเข้าฉายในช่วงตรุษจีนปีหน้าทั้งคู่ และสำหรับ Monster Hunt ยังเคยมีกำหนดจะจัดแถลงข่าวในเดือน ต.ค. นี้ด้วย แต่สุดท้ายผู้สร้างได้ตัดสินใจยกเลิกการแถลงข่าวดังกล่าวในวินาทีสุดท้าย นอกจากนั้นผู้อำนวยการสร้างยังได้เปรยว่าหนังยังไม่ได้มีแผนการเรื่องเลื่อนฉายแต่อย่างใด
       

“เทา” (Tao) หวง จื่อเทา (Huang Zitao) 1 ใน 2 ศิลปินชาวจีนที่ยังเหลือในวง EXO โพสต์คลิปผ่านเวยปั๋วส่วนตัวชูนิ้วรูปตัว “V” และ “OK” ก่อนลบทิ้ง หลัง “ลู่หาน” (Lu Han) รุ่นพี่ศิลปินชาวจีนในวงฟ้องศาลขอยกเลิกสัญญากับ SM Entertainment ต้นสังกัดเกาหลี
       
       หลังจากตั้งแต่วันศุกร์ (10 ต.ค.) ที่ผ่านมามีข่าวยืนยันว่า “ลู่หาน” ไอดอลหนุ่มชาวจีนคนดังแห่งวง EXO ได้ยื่นฟ้องร้องต่อศาลในเมืองโซล ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อยกเลิกสัญญากับ SM Entertainment ตั้งแต่ในช่วงเช้าวันที่ 10 ต.ค. โดยเหตุผลหนึ่งของการฟ้องยกเลิกสัญญาระบุว่า มีการปฏิบัติกับสมาชิกวงชาวเกาหลีและชาวจีนอย่างไม่เท่าเทียม ด้วยเหตุนี้ทำให้สื่อหันมาจับตาสมาชิกชาวจีนที่เหลืออีก 2 คนในวงคือ เลย์ (Lay) หรือ จาง อี้ซิง (Zhang Yixing) และ เทา หรือ หวง จื่อเทา
       
       วันนี้ (12 ต.ค.) ตงหนานไคว่เป้า รายงานว่าช่วงบ่ายวานนี้ (11 ต.ค.) เวยปั๋วของ “เทา” หวง จื่อเทา สมาชิกวัย 21 ปี ซึ่งถือว่าเป็นสมาชิกชาวจีนที่อายุน้อยที่สุดแห่งวงเอ็กโซ-เอ็ม ได้โพสต์คลิปสั้นๆ ลงในเวยปั๋ว (สื่อสังคมออนไลน์ที่แพร่หลายในจีน) โดยเขียนข้อความว่า “ในที่ซึ่งเงียบสงัด~Iv” ขณะที่ในคลิปซึ่งเทาถ่ายด้วยตัวเองเขายิ้ม ก่อนที่จะทำภาษามือ ชูสองนิ้วเป็นอักษร “V” และ “OK” ก่อนที่จะเดินห่างออกไป อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาปรากฎว่าโพสต์ดังกล่าวถูกลบออกไป
       

        ซูเปอร์สตาร์ชาวฮ่องกงแสดงความเห็นเกี่ยวกับกระแสการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยเป็นครั้งแรก ด้วยการแสดงความวิตกกังวลว่าความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เกิดขึ้น อาจจะกลายเป็นการทำลายเศรษฐกิจ และบทบาทในฐานะศูนย์กลางทางการเงินของฮ่องกง
       
       ดูเหมือนว่า เฉินหลง (Jackie Chan) ได้เลือกที่จะแสดงจุดยืนอยู่ข้างเดียวกับรัฐบาลปักกิ่ง แทนที่จะเป็นประชาชนที่เรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง เมื่อล่าสุดเขาได้เขียนข้อความผ่าน Weibo ว่าตนเองรู้สึก “กังวล” กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่าการประท้วงอาจจะส่งผลลบต่อตลาดทางการเงินตลอดจนระบบเศรษฐกิจของฮ่องกง และเรียกร้องให้ทุกคน “ใช้เหตุผล” กันมากกว่านี้
       
       ความเห็นของ เฉินหลง ไม่ได้สร้างความแปลกใจให้กับชาวฮ่องกง หรือชาวจีนแผ่นดินใหญ่เลย เพราะที่แล้วมาเขาก็มักจะแสดงความเห็นโน้มเอียงไปทางพรรคคอมมิวนิสต์ และรัฐบาลจีนอยูเสมอ
       
       “ผมทราบจากข่าวว่าเศรษฐกิจฮ่องกงเสียหายไปแล้ว 350 ล้านเหรียญฮ่องกง จึงรู้สึกเป็นห่วงจริงๆ … ผมเชื่อว่าทุกคนรักฮ่องกง และมีความปรารถนาดี อนาคตอันสดใสของฮ่องกงจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุน และทำงานหนัก” นักแสดงเจ้าของหนังชุด “วิ่งสู้ฟัด” กล่าวต่อไปว่า “ในเพลงที่ชื่อว่า Country มีเนื้อร้องท่อนหนึ่งว่า “บ้านจะไม่มั่งคั่งหากประเทศไม่มั่นคง” ซึ่งผมจะทำงานให้หนักเช่นเดียวกับทุกคน และกลับไปใช้เหตุใช้ผลกันอีกครั้ง เพื่อเผชิญหน้ากับอนาคต, รักประเทศของเรา และรักฮ่องกงของเรา”
       

        “ลู่หาน” (Lu Han) โพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดียคอนเฟิร์มออกจาก EXO กลับบ้านที่จีนแล้ว หลังยื่นฟ้องยกเลิกสัญญากับ SM Entertainment ระบุรักทุกคนเหมือนเดิม สื่อจีนระบุ 4 เหตุผลหลักของคำฟ้อง ชี้คล้ายกับกรณี “คริส” (Kris) คือ บ.เกาหลีใช้งานศิลปินหนักเกินไปส่งผลต่อสุขภาพอย่างรุนแรง ปฏิบัติต่อศิลปินจีน-เกาหลีไม่เท่าเทียม ทั้งยังให้ส่วนแบ่งไม่เหมาะสม
       
       ช่วงเช้าวันนี้ (11 ต.ค.) สื่อบันเทิงจีนหลายสายต่างรายงานตรงกันว่า “ลู่หาน” ไอดอลหนุ่มชาวจีนคนดังแห่งวง EXO ได้ยื่นฟ้องร้องต่อศาลในเมืองโซล ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อยกเลิกสัญญากับ SM Entertainment ตั้งแต่ในช่วงเช้าวานนี้ (10 ต.ค.) ขณะเดียวกันก็ยืนยันข้อมูลดังกล่าวด้วย ข้อความในเวยปั๋วของลู่หาน (สื่อสังคมออนไลน์ของจีนคล้ายกับทวิตเตอร์) ที่ใช้ชื่อว่า M鹿M ซึ่งระบุข้อความล่าสุดว่า “ผมกลับบ้านแล้วนะ” โดยเวยปั๋วดังกล่าวถูกโพสต์เมื่อเวลา 15.21น. ทำให้ผู้ติดตามมากถึง 3.64 ล้านคน เข้ามาแสดงปฏิกิริยากับข่าวดังกล่าวอย่างล้นหลาม โดยข้อความถูกส่งต่อมากกว่า 400,000 ครั้ง และมีการเข้ามาแสดงความเห็นมากกว่า 280,000 ครั้ง

        นอกจากนี้วานนี้ในอินสตาแกรมของลู่หาน luexolu ก็โพสต์ภาพเป็นข้อความระบุว่า “I just wanna all of you to know that i love you all”
       
       ขณะที่ข่าวบันเทิงจากเว็บไซต์ซิน่า ซึ่งเป็นเว็บท่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ก็ระบุเหตุผลของการฟ้องขอยกเลิกสัญญาของลู่หาน กับทาง SM Entertainment ว่าเกิดจากสาเหตุหลัก 4 ประการด้วยกันคือ
       
       1. บริษัทไม่สามารถให้คำตอบเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาในอนาคตของลู่หานได้

การยื่นฟ้องร้องของไอดอลหนุ่มคนดังแห่งวง EXO ได้ทำให้หุ้นของบริษัท SM Entertainment ร่วงลงมาทันที โดยล่าสุดได้มีรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุผลของการขอยกเลิกสัญญาออกมาแล้วว่าเกี่ยวกับเรื่องของผลประโยชน์ และไอดอลหนุ่มชาวจีนก็อยากกลับไปทำงานที่บ้านมากกว่าด้วย
       
       สำนักข่าว Yonhap ได้อ้างอิงข้อมูลจากตัวแทนทางกฏหมายของ ลู่หาน (Lu Han) ที่ให้ข่าวว่าเหตุผลของการตัดสินใจยื่นฟ้องร้องเพื่อยกเลิกสัญญากับ SM Entertainment ก็คือเรื่องประเด็นของเรื่องส่วนแบ่งรายได้นั่นเอง … “ลู่หาน ต้องรับงานโฆษณา และกิจกรรมอื่นๆ มากกว่าใครในวง (EXO) แต่กลับได้รับส่วนแบ่งที่ไม่ยุติธรรม”
       
       ฝ่าย SM Ent. ก็ออกแถลงการณ์ยอมรับว่าไอดอลหนุ่มวัย 24 ปี ได้ฟ้องร้องเพื่อยกเลิกสัญญาจริง และยังให้ความเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือเรื่องของผลประโยชน์ที่ ลู่หาน ดูจะอยากรับงานเองมากกว่าร่วมวงกับ EXO ต่อไป นอกจากนั้นบริษัทยังแสดงความเห็นที่ทั้ง คริส (Kris) และ ลู่หาน ให้เหตุผลในการขอยกเลิกสัญญาเหมือนกัน และยังใช้บริการของสำนักงานกฎหมายแห่งเดียวกันว่า “ทำให้เราคิดได้ว่าหลังจากพวกเขามีชื่อเสียงจากวง ก็อยากจะได้รับผลประโยชน์ของตัวเองโดยตรง โดยไม่ใส่ใจต่อผู้ที่จะได้รับผลกระทบจากการยกเลิกสัญญาครั้งนี้เลย นอกจากนั้นก็ยังดูเหมือนว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลังในการตัดสินใจของพวกเขาด้วย”
       

        สื่อฮ่องกงรายงานว่านักแสดงหญิงรุ่นใหญ่ “จงฉู่หง” (Cherie Chung / 鍾楚紅) กลับมาเปิดใจให้กับความรักอีกครั้ง หลังครองตัวเป็นโสดมาหลายปี นับตั้งแต่สามีของเธอเสียชีวิต โดยมีรายงานว่าในช่วงปีที่ผ่านมานักแสดงวัย 54 ปี ได้กลับมาออกเดตอีกครั้งแล้ว
       
       จงฉู่หง ได้ถอนตัวจากวงการบันเทิงไปหลังแต่งงานกับ ไมค์ จู ผู้บริหารบริษัทโฆษณาเมื่อปี 1991 ก่อนที่สามีของเธอจะเสียชีวิตลงเมื่อปี 2007 จากโรคมะเร็ง ซึ่งหลังจากนั้นนักแสดงสาวจากหนัง “ดอกไม้กับนายกระจอก” ก็ไม่ได้มีข่าวกับใครอีก และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำงานด้านการกุศลโดยเฉพาะเกี่ยวกับด้านสิ่งแวดล้อม นอกจากนั้นก็ยังรับงานโฆษณาอยู่เป็นระยะ และแทบจะไม่มีข่าวเรื่องความรักครั้งใหม่เลย
       
       กระทั่งล่าสุดจึงมีข่าวว่า จงฉู่หง ดูจะพร้อมสำหรับความรักครั้งใหม่แล้ว หลังมีรายงานว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเธอได้ลองไปออกเดตกับหนุ่มใหญ่มหาเศรษฐีมาแล้วถึง 2 คน ซึ่งหนึ่งนั้นก็คือนักธุรกิจใหญ่ โดนัลด์ เหยา ที่ตามข่าวลือระบุว่าทั้งสองรู้จักกันผ่านการแนะนำของเพื่อนสนิทคนหนึ่ง จนได้สานสัมพันธ์กันมาเรื่อยๆ นอกจากนั้นเขาคนนี้ยังช่วยจัดการให้ จงฉู่หง ได้จัดงานแสดงภาพถ่ายผลงานของตัวเองเป็นครั้งแรกด้วย
       
       แม้ตอนนี้อดีตนางเอกดังวัย 54 ปี จะยังไม่ได้ให้ข่าวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ครั้งใหม่อย่างเป็นทางการ แต่สื่อฮ่องกงก็เชื่อว่าตอนนี้เธอสนิทสนิมกับ โดนัลด์ เหยา มากอย่างแน่นอน โดยเมื่อเร็วๆ นี้ก็เพิ่งจะมีคนเห็นเธอกับเขา และนักร้องดัง เจิ้งซิ่วเหวิน ไปทานอาหารกันที่ร้านในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง และดูเหมือนว่าทั้ง 3 จะค่อนข้างสนุกกันมาก นอกจากจะหัวเราะจนดังแล้วก็ยังพูดคุยกันไม่หยุด ข่าวยังอ้างว่า จงฉู่หง ดูจะให้ความสำคัญกับเพื่อนชายคนใหม่มาก และแทบจะมองเขาอยู่ตลอดเวลาเลยทีเดียว

        สื่อจีน และเกาหลีใต้ รายงานว่า หนุ่ม “ลู่หาน” (Lu Han) แห่งวง EXO ได้ตัดสินใจยื่นเอกสารเพื่อขอยกเลิกสัญญากับ SM Entertainment ต้นสังกัด ตามรอยสมาชิกชาวจีนของวงอย่าง “คริส” (Kris) ที่ออกจาก EXO ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมาแล้ว
       
       โดยรายงานที่อ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานศาลของกรุงโซลส่วนกลางได้เปิดเผยว่า ลู่หาน หนุ่มจีนสมาชิกของวง EXO กลุ่มไอดอลที่ดังที่สุดกลุ่มหนึ่งของเกาหลีใต้ในยุคนี้ ได้ยื่นเอกสารเพื่อฟ้องร้องขอยกเลิกสัญญากับ SM Entertainment ในช่วงเช้าเวลาประมาณ 9:00 น. ของวันนี้ (10 ต.ค.) โดยการดำเนินการทางกฎหมายของไอดอลหนุ่มแห่งวง EXO ถือว่าเป็นแนวทางเดียวกับที่ คริส สมาชิกอีกคนของวง ได้ยื่นเอกสารขอยกเลิกสัญญากับ EXO ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
       
       ข่าวยังระบุว่าในเอกสารคำฟ้อง ลูห่าน วัย 24 ปี ได้พยายามชี้ให้เห็นถึงรายละเอียดของสัญญาในหลายๆ จุดที่เขียนขึ้นอย่างไม่ถูกต้อง และไม่สามารถบังคับใช้ได้ ซึ่งหากศาลมีคำตัดสินว่าสัญญาระหว่าง SM Entertainment และ ลู่หาน เขียนขึ้นอย่างไม่ถูกต้องจริงๆ ก็จะถือว่าสัญญาไม่มีผลมาตั้งแต่ต้น
       
       โดยขณะนี้ทาง SM Entertainment ยังไม่ได้ออกมาให้ข่าวเห็นใดๆ ต่อเรื่องที่เกิดขึ้น

Manager Online

        มีรายงานว่า “จางจิ้งชู” (Zhang Jingchu) ได้รับเลือกให้ร่วมรับบทสำคัญในหนังแอ็กชั่นภาคต่อ Mission: Impossible 5 ของ “ทอม ครูซ” (Tom Cruise) ที่กำลังอยู่ระหว่างถ่ายทำอยู่ในขณะนี้
       
       โดยข่าวระบุว่าตอนนี้ดาราสาวชาวจีน จางจิ้งชู ได้เดินทางไปถ่ายทำหนังที่อังกฤษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยว่าเธอจะรับบทบาทใดในหนัง แต่ The Variety ก็ยังเสริมว่าบทของเธอจะมีความลับบางอย่าง และมีส่วนสำคัญกับจุดหักมุมในหนังด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้มีชาวจีนที่ได้พบเธอไปเดินซื้อของอยู่ที่กรุงลอนดอน แต่ดาราสาวก็ไม่ยอมเปิดเผยว่าเธอมาทำงาน หรือมาเที่ยวส่วนตัวกันแน่
       
       จางจิ้งชู วัย 33 ปี จบการศึกษาสาขาการกำกับภาพยนตร์จากสถาบันภาพยนตร์กรุงปักกิ่ง โดยหญิงสาวที่เติบโตมาจากครอบครัวชนชั้นกลางในฝูเจี้ยน สนใจการเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งเด็ก และเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนภาษา Beijing New Oriental Institute จนสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว และกลายเป็นคุณสมบัติที่ทำให้เธอได้รับเลือกให้เล่นหนังฮอลลีวูดมาแล้วในผลงานของ เฉินหลง (Jackie Chan) เรื่อง Rush Hour 3 นอกจากนั้นการได้ร่วมงานกับ ทอม ครูซ ใน Mission: Impossible 5 ก็น่าจะทำให้โอกาสในฮอลลีวูดของสาวคนนี้เปิดกว้างขึ้นด้วย
       
       นอกจากหนังฮอลลีวูดแล้ว จางจิ้งชู ยังมีผลงานเด่นในวงการหนังจีนอยู่อีกหลายเรื่อง อาทิ Aftershock ของ เผิงเสี่ยวกัง, Seven Swords ของ ฉีเคอะ และ Beast Stalker ของ ดังเต้ แลม ส่วนการรับบทนำใน Peacock ของ กู้ฉางเว่ย ก็ทำให้เธอได้รับรางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติมากมาย
       

       หวงเชิ่งอี (Eva Huang / 黃聖依) วัย 31 ปี ที่โด่งดังและแจ้งเกิดมาจากบทใสๆ ในหนังแอ็กชั่นตลก Kung Fu Hustle ของ โจวซิงฉือ (Stephen Chow) และยังเพิ่งจะมีผลงานเรื่องล่าสุดอย่างหนัง Iceman 3D เข้าฉาย ได้กลายเป็นดาราสาวคนล่าสุดที่ตัดสินใจลุกขึ้นมาเปลื้องผ้า ในการถ่ายภาพนู้ดขาวดำสำหรับโครงการ Pink Ribbon ในนิตยสาร Trends Health ของจีนแผ่นดินใหญ่ฉบับล่าสุด
       
       นอกจากนั้นโครงการของนิตยสารดังในปี 2014 นี้ก็ยังมีดาราสาว จางซินอีว์ (Zhang Xinyi / 張歆藝) วัย 31 ปี และนักร้องสาวดาวรุ่ง โมโม วู (Momo Wu / 吳莫愁) หรือ อู๋โม่โฉว วัย 22 ปี ที่ดังมาจากการเป็นรองแชมป์ The Voice of China มาร่วมกันเปลื้องผ้าในการถ่ายแบบ และขึ้นปก สำหรับกิจกรรมรณรงค์เพื่อการกุศลครั้งนี้ด้วย
       
       ซึ่งทาง Trends Health เป็นผู้ริเริ่มและดำเนินโครงการ Pink Ribbon มาได้มากกว่า 10 ปีแล้ว จนมีดาราสาวในวงการบันเทิงจีนแผ่นดินใหญ่ได้มีส่วนร่วมในการเปลื้องผ้าเพื่อการกุศลมากมาย ในนิตยสาร Trends Health ฉบับพิเศษเพื่อการรณรงค์กระตุ้นเตือนให้ผู้หญิงไปตรวจมะเร็งเต้านมในฉบับของเดือน ต.ค. ในทุกๆ ปี
       
       นอกจากนั้นใน Trends Health เล่มล่าสุดยังมีภาพของนางแบบสาวคนดัง หลินจือหลิง (Lin Chi Ling / 林志玲) ชาวไต้หวันวัย 39 ปี มาเปลื้องผ้าถ่ายรูปนู้ด ที่ดูมีความเป็นศิลปะ เน้นการนำเสนอรูปร่างของผู้หญิงที่มีสุขภาพดี และเป็นภาพที่ไม่ได้ออกไปในทางวาบหวิวยั่วยวนใจให้คนได้ชมกันด้วยเช่นเดียวกัน
       
       โดยการถ่ายแบบคราวนี้ออกมาภายใต้คอนเซ็ปของเรื่องกีฬา ที่สาวๆ แต่ละคนจะเลือกอุปกรณ์กีฬาชนิดต่างๆ มาใช้ในการโพสต์ท่าไม่ว่าจะเป็นแร็กเก็ตเทนนิส, นวมสำหรับชกมวย รวมถึงสเก็ตบอร์ด และเซิร์ฟบอร์ด ด้วย
       

        ระหว่างโปรโมตหนังเรื่องใหม่ "ตู้หมิ่นเจ๋อ" (Chapman To / 杜汶澤) ได้แสดงจุดยืนปฏิเสธที่จะถอดริบบินสีเหลือง ที่เขาติดเอาไว้เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนกลุ่มชาวฮ่องกงผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย หลังนักข่าว TVB ได้ขอให้เขาปลดริบบินออกก่อนให้สัมภาษณ์
       
       ในกิจกรรมโปรโมตหนัง Flirting in the Air ผลงานการแสดงเรื่องล่าสุดที่กำลังทำเงินในฮ่องกงอยู่ในขณะนี้ ตู้หมิ่นเจ๋อ ได้เปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ แต่เมื่อผู้สื่อข่าว TVB ได้ขอให้ดาวตลกชื่อดังถอดริบบินสีเหลืองที่เขาติดเอาไว้ที่เสื้อ เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงออก ก็ทำให้ดาวตลกคนดังแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน พร้อมกล่าวออกมาว่า "TVB ไม่ยอมให้คนติดริบบินเหลืองแล้วใช่ไหม บ้าไปแล้ว! ถ้าโอเคจะเอาไปออกอากาศก็ได้นะ แต่ถ้าไม่ก็ไม่ต้อง"
       
       ตู้หมิ่นเจ๋อ ที่กำลังมีหนังเรื่อง Naked Ambition 3D หรือ “ซั่มกระฉูด ทะลุโตเกียว” เข้าฉายในเมืองไทยอยู่ในขณะนี้ ยังได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับจุดยืนทางการเมืองของคนดังในวงการบันเทิงว่า เขาเคารพความคิดของทุกคน รวมถึง หวังจิง (Wong Jing) ที่ติดริบบินสีน้ำเงินเพื่อสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เขาก็ไม่ขอวิจารณ์ใดๆ เพราะ หวังจิง ดีกับเขา และสนับสนุนงานของเขามาตลอด "ทั้งครอบครัว หรือเพื่อนก็มีความเห็นต่างกันได้ครับ ผมไม่คิดมากอะไร ได้คุยกับ หวังจิง ไปนิดหน่อยแล้วด้วย ทั้งๆ ที่ปกติผมไม่ได้คุยเรื่องการเมืองหรือศาสนากับเพื่อนเท่าไหร่"
       

        ที่ผ่านมามีข่าวเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของนักธุรกิจชาวฮ่องกง "เอ็ดเวิร์ด เฉิน" พ่อของ "เฉินกว้านซี" (Edison Chen) ออกมาเป็นระยะ โดยเฉพาะเรื่องรสนิยมทางเพศ ที่เขามักจะเปลี่ยนคู่ควงมีหนุ่มคนใหม่มาอยู่ข้างกายอยู่เสมอ ซึ่งล่าสุดสื่อฮ่องกงรายงานว่าพ่อของนักแสดงหนุ่มชื่อดังได้พาผู้ชายคนใหม่มาแนะนำให้กับลูกชายรู้จักอีกแล้ว
       
       ระหว่างที่ลูกชายมีข่าวกับสาวๆ มากหน้าหลายตา ตลอด 3 - 4 ปีที่ผ่านมาพ่อของ เฉินกว้านซี ก็มีข่าวเรื่องความสัมพันธ์ออกมาเรื่อยๆ กับข่าวที่ว่าเขามักจะควงกับเหล่าหนุ่มๆ เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเมื่อหลายปีก่อนที่มีข่าวว่านักธุรกิจรุ่นใหญ่ เอ็ดเวิร์ด เฉิน พ่อของ เอดิสัน เฉิน ได้ควงกับนักแสดงชาวไต้หวัน หูปิง ก่อนที่เมื่อ 2 ปีก่อนจะมีข่าวของเขากับ ไรอัน จู อดีตเจ้าของตำแหน่ง มิสเตอร์ เอเชีย ซึ่งสุดก็มีข่าวว่าพ่อของ เฉินกว้านซี มีผู้ชายคนใหม่อีกแล้ว
       
       โดยพ่อกับแม่ของ เฉินกว้านซี ได้หย่าขาดกันไปตั้งแต่เขายังเด็กๆ แต่ยังปิดเรื่องดังกล่าวเป็นความลับ นอกจากนั้นตอนเป็นเด็กดาราหนุ่มชื่อดังก็ไม่ค่อยจะมีโอกาสได้อยู่กับพ่อ กว่าที่เขาจะทราบเรื่องที่ว่าพ่อกับแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วก็เมื่ออายุ 14 ปีเลยทีเดียว
       
       ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาข่าวชีวิตส่วนตัว และรสนิยมทางเพศของ เอ็ดเวิร์ด เฉิน ก็มักจะเป็นข่าวในสื่อฮ่องกงอยู่เสมอ เรียกว่าขณะที่สื่อฮ่องกงมักจะตีพิมพ์ภาพและข่าวซุบซิบเกี่ยวกับ เฉินกว้านซี กับสาวๆ แต่ในเวลาเดียวกันก็มักจะมีภาพของพ่อของเขาไปดินเนอร์กับหนุ่มๆ ตีพิมพ์ออกมาด้วยเช่นเดียวกัน
       

แฟนคลับผู้อื้อฉาวของ “หลิวเต๋อหัว” (Andy Lau) ได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับสื่อเป็นครั้งแรก หลังเหตุการณ์อันน่าตกตะลึงเมื่อ 7 ปีก่อนที่พ่อของเธอได้ตัดสินใจฆ่าตัวตาย เพื่อหวังว่าจะสร้างโอกาสให้ลูกสาวได้พบกับ “หลิวเต๋อหัว” จนกลายเป็นข่าวใหญ่ในสื่อจีนและฮ่องกง
       
       เมื่อปี 2007 ชื่อของ หยางลี่จวน เคยเป็นข่าวใหญ่ในสื่อทุกฉบับ จากพฤติกรรมสุดโต่งของเธอในฐานะแฟนคลับของ หลิวเต๋อหัว ที่พยายามใช้ทุกวิธีในการเข้าหาพระเอกคนดัง แม้ทางบ้านจะไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่พ่อกับแม่ของเธอก็ยังเห็นอกเห็นใจลูกสาว และพยายามสนับสนุนเรื่องเงินในการจับจ่ายใช้สอยเพื่อ หลิวเต๋อหัว ของลูกสาวเสมอ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาที่ฮ่องกงหลายๆ ครั้งต่อปี ถึงขั้นที่สุดท้ายพ่อของเธอได้ตัดสินใจฆ่าตัวตาย หวังว่าการตายของเขาจะกลายเป็นข่าวใหญ่ และทำให้ลูกได้พบกับ หลิวเต๋อหัว ขึ้นมาจริงๆ
       
       โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเดือน มี.ค. 2007 ที่ หยางลี่จวน และพ่อได้เดินทางจากบ้านที่จีนแผ่นดินใหญ่มาถึงฮ่องกง เพื่อพบปะกับ หลิวเต๋อหัว ในแฟนมีตติง แต่ลูกสาวกลับยังไม่พอใจ และเปรยกับพ่อของเธอว่าตนอยากจะพบกับ หลิวเต๋อหัว แบบเป็นส่วนตัว เผื่อจะได้มีโอกาสแนะนำตัวเองให้เขารู้จัก เพราะในงานแฟนมีตติงแม้จะได้ถ่ายรูปคู่อย่างใกล้ชิด แต่เธอก็ไม่ได้คุยอะไรกับเขามากนัก วันต่อมาพ่อของ หยางลี่จวน จึงได้ตัดสินใจกระโดดทะเลเพื่อฆ่าตัวตาย และทิ้งจดหมายลาตายเอาไว้ว่า เขาอยากจะใช้การเสียชีวิตของตัวเอง เป็นการข้อร้องให้ หลิวเต๋อหัว มาพบกับลูกสาวสักครั้ง
       
       แต่สุดท้าย หลิวเต๋อหัว ก็ไม่ได้ให้โอกาสกับแฟนคลับผู้คลั่งไคล้เขาอย่างสุดโต่งคนนี้แต่อย่างใด
       

        เหล่านักแสดงชื่อดังในวงการบันเทิงฮ่องกงต่างแสดงความเห็นเรียกร้องให้ทางการหยุดการใช้ความรุนแรงกับเหล่าผู้ประท้วง รวมถึง "หวงซิวเซิง" (Anthony Wong) ที่บอกว่าผู้ชุมนุมไม่ใช่ "หวงเฟยหง" ทุกคนมีแต่ร่มจะไปทำอะไรใครได้
       
       นักแสดงรุ่นใหญ่เจ้าของบท "ซาลาเปาเนื้อคน" อันลือลั่น หวงซิวเซิง แทบจะเป็นนักแสดงคนแรกๆ ที่ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น โดยเขาได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ "หยุดทำสงคราม" กับประชาชนได้แล้ว เพราะทุกคนที่มาประท้วงมาตัวเปล่าโดยไม่ได้มีอาวุธอะไรเลย "พอแล้วสงครามแบบนี้!! ผู้ประท้วงมีอาวุธอะไรด้วยรึ? หวงเฟยหง เท่านั้นล่ะที่จะใช้ร่มเป็นอาวุธได้ แก๊สน้ำตา 87 ลูกกับคนที่ถือแค่ร่มเนี่ยนะ ตำรวจฮ่องกงนี่เจ๋งโคตรๆ เลย"
       
       นอกจากนั้นเขายังกล่าวอีกว่า "แก๊สน้ำตา 87 ลูก กลายเป็นเรื่องตลก 87 ครั้งไปแล้ว นอกจากนั้นนะ เพราะเกิดการประท้วงขึ้นก็ควรเลิกงานจุดพลุในวันที่ 1 ต.ค. (วันชาติจีน) ด้วย เปลี่ยนไปจุดแก๊สน้ำตาแทนก็แล้วกัน ... ส่วนใครจะไปไหนช่วงนี้ก็อย่าลืมพกร่มไปด้วยแล้วกัน!"
       
       โดยการประท้วงครั้งนี้ถูกเรียกว่า Umbrella Revolution เป็นครั้งแรกจากทวิตเตอร์ของ อดัม คอตตอน แห่ง New Yorker ที่อธิบายถึงเหล่าผู้ชุมนุนที่มักจะพกร่มติดตัวเพื่อป้องกันตัวเองจาก แก๊สน้ำตา และระเบิดควันนั่นเอง
       

        ผู้สร้างหนังกำลังภายในฟอร์มใหญ่ Crouching Tiger, Hidden Dragon ภาค 2 ที่ได้ "มิเชล โหยว" (Michelle Yeoh) มารับบทนำคู่กับ "ดอนนี เยน" (Donnie Yen) เผยภาพแรกจากหนังมาให้ชมกันแล้ว พร้อมกำหนดเข้าฉายที่หนังจะลงโรงภายในปีหน้า พร้อมกับปล่อยให้ดาวน์โหลดไปดูกันที่บ้าน ในวันแรกของการเข้าฉายด้วย
       
       โดยล่าสุดมีข่าวว่า The Weinstein Co. ผู้สร้างหนังเรื่องนี้ได้เซ็นสัญญากับบริษัทจัดจำหน่ายภาพยนตร์ทางระบบออนไลน์ชื่อดัง Netflix ในการจัดจำหน่ายหนังทางอินเตอร์เน็ตแล้ว ซึ่งมีข่าวว่าหนังจะเข้าโรงพร้อมๆ กับการปล่อยให้โหลดกันทางอินเตอร์เน็ตในวันที่ 28 ส.ค. 2015 นี้เลยทีเดียว
       
       Crouching Tiger, Hidden Dragon ผลงานการกำกับของ อังลี ที่ใช้ทุนสร้างเพียง 17 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กลายเป็นงานที่ทำเงินอย่างมหาศาลถึง 213 ล้านเหรียญฯเมื่อปี 1999 และยังคว้ารางวัลออสการ์ไปหลายสาขา รวมถึงหนังภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมด้วย
       
       ส่วนหนังภาค 2 ที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Crouching Tiger, Hidden Dragon 2: The Green Legend ยังจะมี เจสัน สก็อต ลี, แฮร์รี ชุม จูเนียร์ จากหนังทีวีชุด Glee และ โรเจอร์ หยวน ร่วมแสดงด้วย ส่วนหน้าที่กำกับจะตกเป็นของ หยวนวูปิง และยังมีผู้กำกับเชื้อสายเวียดนาม ชาร์ลี เหงียน มากำกับกอง 2 ของหนัง