Simon Yam (C)

        SPL 2 ผลงานหนังจีนเรื่องแรกของ “จา พนม” (Tony Jaa) ทำรายได้เกิน 1,000 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว จากการฉาย 3 วันแรกในหลายประเทศ รวมถึงที่จีนแผ่นดินใหญ่ด้วย
       
       แม้จะมี Jurassic World และ Inside Out การ์ตูนเรื่องใหม่ของ Pixar เข้าฉายในสัปดาห์เดียวกัน แต่ SPL II: A Time For Consequences ที่มี จา พนม (Tony Jaa), อู๋จิง (Wu Jing), เยิ่นต๊ะหัว (Simon Yam) และ จางจิ้น (Zhang Jin) แสดงนำก็ยังทำเงินได้สวย โดยใน 4 วันแรก หนังเก็บรายได้ไปถึง 40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1,349 ล้านบาท จากทุนสร้างประมาณ 23 ล้านเหรียญฯ (775 ล้านบาท)
       
       ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายได้มาจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่หนังทำไปได้แล้วถึง 29 ล้านเหรียญฯ นอกจากนั้นหนังก็ยังทำเงินที่ฮ่องกงไปไม่น้อยด้วย

Manager Online

        “จา พนม” (Tony Jaa) ที่กำลังเดินสายโปรโมตหนัง SPL 2 ได้มีโอกาสโชว์ทักษะคิวบู๊ระหว่างการฉายรอบปฐมทัศน์ที่กรุงปักกิ่ง จนนักแสดงแอ็กชั่นชื่อดังของฝั่งจีนยังทึ่ง
       
       อู๋จิง (Wu Jing), เยิ่นต๊ะหัว (Simon Yam), กู่เทียนเล่อ (Louis Koo), จางจื่อ, จางจื่อ (Zhang Jin) รวมถึง จา พนม ที่ร่วมแสดงในหนังบู๊ระห่ำ SPL 2 ได้ไปร่วมในงานฉายรอบปฐมทัศน์ที่กรุงปักกิ่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
       
       โดยโปรดิวเซอร์ เปโก้ หว่อง, ผู้กำกับ เจิ้งป๋อไช่ และผู้กับคิวบู๊ชื่อดัง ลี่จงจื่อ ก็ได้มาร่วมอยู่ในงานด้วยรวมถึงนักแสดงชื่อดังของจีนอย่าง อู๋ฉีหลง และ ลู่เฉิน ก็มาเป็นเกียรติเช่นเดียวกัน ซึ่งงานสื่อจีนยังรายงานว่าหลายๆ คนมางานนี้เพื่อชมการโชว์ลีลาแอ็กชั่นของ จา พนม “นักบู๊ตัวจริง” โดยเฉพาะด้วย
       
       SPL 2 หนังบู๊อาชญากรรมจะเป็นส่วนผสมของเนื้อเรื่องที่เข้มข้น และฉากแอ็กชั่นมากมาย รวมถึงฉากตะลุมบอนที่ใช้ตัวประกอบถึง 200 คน ซึ่งสื่อจีนบอกว่าการโชว์คิวบู๊ของ อู๋จิง กับ จา พนม ในฉากนี้จะทำให้ทุกคน “อ้าปากค้าง” อย่างแน่นอน โดย อู๋จิง บอกว่าถึงจะฉายให้ดูกันไม่นานนัก แต่ก็เป็นฉากที่ถ่ายทำถึง 20 เทค จนนักแสดงทุกคน “น่วม” ไปตามๆ กัน
       
       โดยในงานฉายรอบปฐมทัศน์ครั้งนี้ จา ยังได้โชว์ทักษะด้านคิวบู๊แนวเหิรเวหาตามถนัด กับการกระโดดเตะถังป๊อปคอน ที่เพื่อนนักแสดงต่อตัวกันถือเอาไว้ จนสร้างความประทับใจให้กับทุกคน

        “จา พนม” (Tony Jaa) ร่วมงานเปิดตัวหนังแอ็กชั่นฟอร์มใหญ่ SPL 2 ที่มาเก๊า ร่วมกับนักแสดงชั้นนำ อาทิ “อู๋จิง” (Wu Jing) และ “เยิ่นต๊ะหัว” (Simon Yam) ก่อนหนังเข้าฉายในหลายประเทศ 18 มิ.ย. นี้

       โดย เยิ่นต๊ะหัว ที่ร่วมรับบทเด่นในหนังเรื่องนี้ยังคุยว่า SPL 2 เป็นงานที่รวมสุดยอดดาราบู๊เอาไว้ทั้ง โทนี จา หรือ จา พนม, อู๋จิง และ จางจิ้น (Zhang Jin) ดารามาแรง เจ้าของรางวัลตุ๊กตาทองฮ่องกงคนล่าสุด ซึ่ง เยิ่นต๊ะหัว มองว่านี่คือหนังรวมดาราบู๊ แบบเดียวกับที่ทีมบาร์เซโลน่ารวมสุดยอดนักฟุตบอลระดับโลกอย่างไงอย่างงั้น
       
       ส่วน จา พนม ที่กล่าวแนะนำตัวเป็นภาษาจีนกวางตุ้งก็ขอบคุณทุกๆ คนที่สนับสนุนเขามาตลอด โดย จา บอกว่าเขาเดินทางมามาเก๊าด้วยเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งนี่ก็ถือว่าเป็นการมาโปรโมตหนังที่มาเก๊าครั้งแรกของตัวเองด้วย จา ยังบอกว่าการเล่นหนังบู๊นั้น ความผิดพลาด และการบาดเจ็บเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ เขาจึงต้องถ่ายทำหนังแบบระมัดระวังมากเป็นพิเศษ ซึ่ง จา ก็ยอมรับว่าทีมงานหนังฮ่องกง ก็ค่อนข้างดูแลเรื่องการป้องกันความผิดพลาดต่างๆ ได้ดีมาก
       

        หนังเกรด 3 “Sara” ผลงานการแสดงของ “อาซา” (Charlene Choi) และ “เยิ่นต๊ะหัว” (Simon Yam) ที่มี “น้องเนส สุนัฐชา” ร่วมแสดงอยู่ด้วยสามารถเอาชนะทั้งหนังจีนแผ่นดินใหญ่ และหนังฮอลลีวูดขึ้นเป็นหนังทำเงินอันดับ 1 ประจำสัปดาห์ของฮ่องกงได้อย่างไร้คู่แข่ง
       
       ภาพยนตร์เรื่อง Sara ที่เล่าเรื่องธุรกิจค้าบริการทางเพศในประเทศไทย ผลงานของผู้กำกับ ชิวลี่เทา ที่มี อาซา แห่งวง Twin และ เยิ่นต๊ะหัว นำแสดง สามารถทำรายได้ถึง 6.27 ล้านเหรียญฮ่องกง (26 ล้านบาท) จากการถ่าย 4 วันแรกใน 41 โรงภาพยนตร์ที่ฮ่องกง จนขึ้นเป็นหนังทำเงินอันดับ 1 ประจำสัปดาห์ของที่นั่นด้วย นอกจากนั้น Sara ยังได้ชื่อว่าเป็นหนังภาษาจีนนอกเทศกาลตรุษจีนที่เปิดตัวได้ดีที่สุดในปี 2015 ด้วย
       
       โดยในสัปดาห์เดียวกันหนังฮอลลีวูดเรื่อง Chappie ก็เปิดตัวเข้าฉายด้วยใน 40 โรงภาพยนตร์ และทำเงินไปได้ 5 ล้านเหรียญฮ่องกง (21 ล้านบาท) ส่วน Somewhere Only We Know ที่มี อู๋อี้ฟาน อดีตสมาชิกวง EXO นั้นได้โรงฉายเพียง 3 โรง และทำเงินไปเพียง 51,500 เหรียญฮ่องกง (218,000 บาท) เท่านั้น
       
       สำหรับ Sara เป็นหนังที่เล่าถึงชีวิตของนักข่าวสาวชาวฮ่องกง ที่เดินทางเข้ามาในเมืองไทยเพื่อฆ่าตัวตาย แต่แล้วเธอกลับได้พบกับโสเภณีวัยรุ่นคนหนึ่งที่จังหวัดเชียงใหม่ และสัญญากับตัวเองว่าจะพยายามช่วยเหลือหญิงสาวคนนี้ให้ได้ แต่แล้วเมื่อนักข่าวสาวพยายามจะช่วยเหลือเด็กสาวชาวไทย ให้หลุดพ้นวงการค้ากาม กลับเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ความทรงจำบางอย่างในอดีต กลับมาหลอกหลอนเธออีกครั้ง
       

        “เยิ่น ต๊ะหัว” (Simon Yam) บินด่วนจากจีนเข้าฉากหนังสั้นเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโครงการ “ทศพิธธรรมราชา” บอกรัก และเคารพในหลวง เล่นให้ฟรีๆ ไม่เอาค่าตัว ย้ำเมืองไทยเหมือนบ้านหลังที่สอง ด้าน “อ้อม พิยดา” ปลื้มประกบซุป’ตาร์เอเชีย
       
       เรียกว่าสร้างกระแสฮือฮาได้ดีเลยทีเดียว สำหรับมูลนิธิไทยพึ่งไทย ที่ได้จัดโครงการ “ทศพิธธรรมราชา” เนื่องในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ และในโอกาสเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติ ๖๘ ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 โดยนำเสนอเป็นภาพยนตร์สั้น 10 เรื่อง ซึ่งหนึ่งในนั้นได้นักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์เอเชีย “เยิ่น ต๊ะหัว” มาร่วมแสดง รับบทเป็นคนจรจัดชื่อ “บุญเหม็น” ในหัวข้อ “ทาน” เรื่อง “บ้านของบุญเหม็น” โดยมีนางเอกสาว “อ้อม พิยดา จุฑารัตนกุล” ร่วมแสดงด้วย กำกับการแสดงโดย “หนุ่ม อรรถพร ธีมากร” และได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้เก็บภาพเบื้องหลังการถ่ายทำ และเปิดใจนักแสดงฮ่องกงคนดัง โดยเยิ่น ต๊ะหัว ได้เผยว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมแสดงภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติในครั้งนี้ เพราะมีความรัก และเคารพในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทยอยู่แล้ว และคิดว่าประเทศไทยเป็นบ้านหลังที่สองของตน
       

ภรรยาผู้อำนวยการสร้างคนดังออกมาให้สัมภาษณ์จวก “โจวซิงฉือ” (Stephen Chow) ยกใหญ่ หลังมีบทความเผยแพร่ในเน็ตที่ยกย่องดาวตลกคนดัง แต่กลับไปพาดพิงสามีของเธอ จนข้อกล่าวหาที่ว่า “โจวซิงฉือ” เป็นคนดังที่มีเบื้องหลังกับเบื้องหน้าแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงได้กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง
       
       เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีบทความที่ชื่อว่า “ทำไมใครๆ ก็เกลียด โจวซิงฉือ?” เผยแพร่ออกมาในเว็บไซต์ Art Western District ก่อนจะถูกส่งต่อไปในวงกว้าง
       
       โดยบทความที่มีความยาวประมาณ 50,000 ตัวอักษรได้เล่าประวัติส่วนตัวของดาวตลกคนดังทั้งวัยเด็ก, การทำงาน และเรื่องรัก แต่เนื้อหาส่วนใหญ่ดูจะมีจุดประสงค์เป็นการแก้ตัวให้กับ โจวซิงฉือ โดยเฉพาะประเด็นที่มีข่าวลือว่าเขาเป็นคนประเภท “หมาหัวเน่า” และ “ไม่มีใครคบ” เพราะมีนิสัยส่วนตัวที่ไม่น่าคบหา ซึ่งบทความอ้างว่าเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดเท่านั้น
       
       แต่ปัญหาของบทความกลับอยู่ตรงที่ประเด็นที่อธิบายว่า โจวซิงฉือ ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศแคนาดา เพราะเคยทำงานอยู่กับผู้อำนวยการสร้างคนดัง “เซี่ยงหัวเฉียง” ลูกชายของผู้ก่อตั้งแก๊งซันยี่อัน องค์กรนอกกฎหมายอันดับ 1 ของเกาะฮ่องกง ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทบันเทิง Win's Entertainment และ China Star Entertainment Group นั่นเอง ซึ่งเนื้อหาส่วนนี้ได้ทำให้ เฉินหลัน ภรรยาของ เซี่ยงหัวเฉียง ออกมาแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง ซึ่งเธอเชื่อว่าทีมงานของ โจวซิงฉือ เป็นคนอยู่เบื้องหลังบทความ และยังประกาศออกมาว่า “ฉันไม่กลัวที่จะมีเรื่องกับเขา และจะกระชากหน้ากากของ โจวซิงฉือ ออกมาเอง”
       

       หลังใช้เวลาถ่ายทำกันมาหลายเดือนทั้งที่ฮ่องกง และเมืองไทยล่าสุดภาพยนตร์ฮ่องกงเรื่องแรกของ "จา พนม" (Tony Jaa) ได้ปิดกล้องลงแล้ว โดยหนังมีกำหนดฉายในปีหน้าต่อไป
       
       โดยหนัง SPL 2 ที่นำทีมโดย เจิ้งป๋อไช่ ได้เดินทางมาถ่ายทำในเมืองไทยตั้งแต่กลางเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งแม้ทีมงานหนังชาวฮ่องกงหลายคนจะไม่ค่อยชินกับอาการร้อนในเมืองไทย แต่บรรยากาศการทำงานก็เป็นไปอย่างเรียบร้อย ทีมงานทั้งชาวฮ่องกง และชาวไทยทำงานร่วมกันอย่างเข้าขา จนการถ่ายทำดำเนินไปอย่างเรียบร้อยดี และหนังก็ได้ปิดกล้องลงอย่างสมบูรณ์แล้ว
       
       SPL 2 เป็นภาคต่อของหนังแอ็กชั่นสุดดังเมื่อหลายปีก่อน ที่ภาคแรกเคยมี เจินจือตัน (Donnie Yen) แสดงนำเอาไว้ ซึ่งแม้จะไม่ได้มีพระเอกคนดังกลับมาเล่นแล้ว แต่หนังกลับได้รับการจับตามองจากแฟนหนังแอ็กชั่นทั่วโลกอย่างใกล้ชิด เพราะผู้สร้างสามารถดึงเอา จา พนม มาประชันบทบาทกับดาวบู๊ชาวจีนทั้ง อู๋จิง (Wu Jing) และ จางจิน (Max Zhang) เจ้าของตุ๊กตาทองฮ่องกงคนล่าสุดจากหนัง The Grandmasters และยังมี เยิ่นต๊ะหัว (Simon Yam) และ กู๋เทียนเล่อ (Louis Koo) ซึ่งจะรับบทเป็นตัวร้าย มาร่วมแสดงด้วย ในเรื่องราวที่ว่าด้วยตำรวจชาวฮ่องกงที่โดนแก๊งมาเฟียตลบหลังจนต้องเข้าไปติดคุกในเมืองไทย แต่ในคุกตำรวจหนุ่มกลับได้เจอหนทางที่จะได้กลับไปแก้แค้น เมื่อเขาได้รู้จักกับผู้คุมคุกยอดฝีมือ ที่กำลังพยายามทำทุกอย่างเพื่อหาทางรักษาลูกสาวที่ป่วยเป็นโรคร้าย
       
       แม้ตลอด 11 ปีที่ผ่านมา จา พนม จะมีผลงานการแสดงในหนังอยู่เพียง 5 เรื่องเท่านั้น แต่ในปี 2015 พระเอกนักบู๊ชื่อดังชาวไทยจะมีผลงานเข้าฉายถึงอย่างน้อยก็ 3 เรื่องเลยทีเดียว
       

       นักบู๊ชื่อดังชาวไทย “จา พนม” (Tony Ja) ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวหนังแอ็กชั่นฟอร์มใหญ่ SPL II ร่วมกับนักแสดงชื่อดังจากฮ่องกงมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “กู่เทียนเล่อ” (Louis Koo), “อู๋จิง” (Wu Jing), “จางจิน” และผู้กำกับ “เจิ้งป๋อไช่”
       
       เปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ SPL II ผลงานหนังฮ่องกงเรื่องแรกของ จา พนม โดยสื่อในฮ่องกงรายงานว่าดาราบู๊ชื่อดังชาวไทยกลายเป็นดาวเด่นในการแถลงข่าวเปิดตัวหนัง ซึ่งจัดขึ้นที่ฮ่องกงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่งานนี้ จา ได้มีโอกาสร่วมงานกับดาราชื่อดังชาวฮ่องกงหลายคน ไม่ว่าจะเป็น เยิ่นต๊ะหัว (Simon Yam), จางจิน (Max Zhang) เจ้าของรางวัลตุ๊กตาทองฮ่องกงคนล่าสุดจากหนัง The Grandmaster, ดาวบู๊กังฟูคนดัง อู๋จิง จากหนัง SPL ภาคแรก นอกจากนั้นยังจะมี กู่เทียนเล่อ รับบทตัวร้ายประจำเรื่องด้วย
       
       ข่าวระบุว่าหนังอยู่ระหว่างการถ่ายทำในฮ่องกง ซึ่งแน่นอนว่าส่วนใหญ่จะเป็นฉากแอ็กชันต่างๆ และทางทีมงานยังจัดหน่วยรักษาความปลอดภัยมาให้ จา พนม ถึง 20 ชีวิตเลยทีเดียว โดย จา ต้องออกลีลาคิวบู๊ในฉากต่อสู้มากมายในหนัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องปะทะกับยอดฝีมือกังฟูอย่าง อู๋จิง และ จางจิน ซึ่งเขาบอกว่าเก่งกันทั้งคู่ และ จา ยังกล่าวว่าดาราแอ็กชันทุกคนในหนังเรื่องนี้ล้วนมีลีลาการต่อสู้เป็นของตัวเอง
       
       ในการแถลงข่าว จา ยังแนะนำตัวเองด้วยภาษาจีนกวางตุ้ง และเผยใจว่าเขาสนุกกับการทำงานมากๆ แม้จะต้องใช้ล่ามตลอดการถ่ายทำก็ตาม
       

       “จา พนม” (Tony Ja) เดินทางไปฮ่องกงเพื่อเริ่มถ่ายทำหนังแอ็กชั่น SPL 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และล่าสุดได้มีภาพแรกของนักแสดงแอ็กชั่นชาวไทย ระหว่างกำลังถ่ายทำหนังภาคต่อเรื่องนี้ออกมาให้ชมกันเป็นครั้งแรก
       
       นอกจาก Fast & Furious 7 ที่เพิ่งจะได้กลับมาถ่ายทำต่อเมื่อเดือนก่อน จา พนม ยังจะมีหนังต่างประเทศอีกเรื่องก็คือภาพยนตร์แอ็กชั่น SPL 2 ซึ่งล่าสุด จา เพิ่งจะเดินทางไปฮ่องกง เพื่อเปิดกล้องหนังเรื่องนี้เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา และมีภาพระหว่างการถ่ายทำออกมาให้ชมกันแล้วจาก Facebook อย่างเป็นทางการของเขาเอง
       
       SPL ภาคแรกที่มี เจินจื่อตัน (Donnie Yen), หงจินเป่า (Sammo Hung), เยิ่นต๊ะหัว (Simon Yam) และ อู๋จิง (Wu Jing) แสดงร่วมกันเข้าฉายเมื่อปี 2005 และประสบความสำเร็จจนส่งให้พระเอก เจินจื่อตัน กลายเป็นนักบู๊สุดฮ็อตแห่งยุค จนกระทั่งล่าสุดทาง Sil-Metropole Organization Ltd. ได้ตัดสินใจสร้างหนังภาคต่อของ SPL และแม้จะไม่มี เจินจื่อตัน รับบทนำเหมือนภาคแรก แต่ก็ได้ จา พนม ดาราแอ็กชั่นชาวไทยมาร่วมแสดงกับ หงจินเป่า, เยิ้นต๊ะหัว, อู๋จิง และยังมี จางจิ้น นักแสดงเจ้าของรางวัลตุ๊กตาองฮ่องกงสาขาสมทบชายจากหนัง The Grandmaster ร่วมแสดงด้วย
       

       มีข่าวลืออีกครั้งว่านักร้อง/นักแสดงหนุ่มซูเปอร์สตาร์แห่งไต้หวัน "เจย์ โจวเจี๋ยหลุน" (Jay Chou / 周杰倫) เตรียมกลับมารับบทยอดนักแข่งรถส่งเต้าหู้ใน Initial D 2 ที่จะได้ทั้งผู้กำกับจากหนังภาคแรก และสองนักแสดงหนุ่มชาวฮ่องกงกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง
       
       หลังภาพยนตร์จากการ์ตูนยอดฮิต Initial D ทำเงินถล่มทลายในการเข้าฉายเมื่อปี 2005 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็มีข่าวเกี่ยวกับหนังภาค 2 มาเป็นระยะ แต่สุดท้ายข่าวก็เป็นได้แค่ข่าวลือ หนังที่แฟนๆ รอคอยก็ยังไม่มีทีท่าจะเป็นรูปเป็นร่างเสียที ครั้งหนึ่งมีข่าวกระทั่งว่า เจย์ โจว อาจจะลงมือกำกับหนังภาค 2 เองก็เคยมีมาแล้ว
       
       จนล่าสุดมีข่าวลือเกี่ยวกับ Initial D เกิดขึ้นอีกครั้ง แต่ที่หลายฝ่ายให้ความสนใจกันเป็นพิเศษ ก็เพราะครั้งนี้เป็นการให้ข่าวของนักแสดงนำของเรื่องเองโดย เจย์ โจว ได้โพสต์ภาพรถยนต์โตโยต้า AE86 พาหนะคู่ใจในหนังของเขาผ่านเว็บไซต์ส่วนตัวพร้อมเขียนข้อความถึงเพื่อนนักแสดงชาวฮ่องกง หยูเหวินเล่อ ที่ร่วมงานกันมาในหนังภาคแรกว่า "AE86 ของฉันพร้อมแล้วนะ แล้วนายล่ะ ชอว์น" ส่วน หยูเหวินเล่อ (Shawn Yu) ก็เขียนข้อความใน Instagram ตอบไปว่า "เจย์เพิ่งโพสต์ถึงผม ถ้ามีหนังภาคต่อจะไปดูกันรึเปล่าครับ?"
       

       “วิเวียน ชู” (Vivian Hsu) นักแสดงสาวเซ็กซี่ชาวไต้หวัน ที่หมั้นหมายกับ “ฌอน ลี” แฟนหนุ่มไปเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ได้ควงกันเข้าพิธีแต่งงานเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเกิดขึ้นก่อนกำหนดการจริงที่คาดว่าจะจัดขึ้นในเดือน มิ.ย. ด้วย
       
       ตามรายงานระบุว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา วิเวียน นักแสดงดังวัย 38 ปี ได้โชว์แหวนเพชรเม็ดโตซึ่งเรียกความสนใจจากบรรดาชาวเน็ตได้เป็นอย่างมาก ก่อนจะตามมาด้วยข่าวลือที่ว่าเธอเข้าพิธีแต่งงานไปแล้วเมื่อวานนี้
       
       โดยพิธีแต่งงานแบบส่วนตัวจัดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นงานที่มีเพียงเพื่อนสนิทของทั้งคู่และครอบครัวของทั้งสองฝ่ายเท่านั้น อย่างไรก็ตามเพื่อนในวงการที่สนิทๆก็มาร่วมแสดงความยินดีด้วยเช่นกันไม่ว่าจะเป็น หลินซินหยู (Ruby Lin) นางเอกสาวชื่อดัง รวมถึง เยิ่นต๊ะหัว (Simon Yam) ที่ควงคู่มากับ โซเฟีย เกา ภรรยานางแบบอินเตอร์
       
       ตามรายงานระบุด้วยว่า เยิ่นต๊ะหัว ได้ยืนยันว่าเขาไปร่วมงานแต่งงานจริง โดยระบุว่าวิเวียนต้องการจัดพิธีแบบส่วนตัวไม่อยากเปิดเผยต่อสื่อแต่อย่างใด
       
       ด้าน ฌอน ลี สามีวัย 36 ปีของวิเวียน ซีอีโอหนุ่มของกลุ่มขนส่งทางน้ำเลื่องชื่อ Marco Polo Marine ได้คบหากับวิเวียนมาตั้งแต่เดือนเม.ย. ปีที่แล้ว โดยเขาเป็นผู้ลงทุนทำหนังโรแมนติก-คอมเมดีเรื่อง Sex Agogo ซึ่งมีวิเวียนนำแสดง ทำให้ทั้งคู่ได้เริ่มสานสัมพันธ์กันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หลังจากเดตกันได้ 7 เดือน ก็มีคนเห็นทั้งคู่ควงกันไปดูชัดแต่งงานที่ร้าน Vera Wang ในไต้หวัน เมื่อเดือน พ.ย. จนเกิดเป็นข่าวตามมาว่าทั้งคู่จะสละโสดกันแล้ว
       

ยืนยันแล้วว่าต่อจากร่วมแสดงในหนังฮอลลีวูด The Fast And Furious 7 แล้ว "จา พนม" (Tony Jaa) จะได้ร่วมแสดงในหนังแอ็กชั่นฟอร์มใหญ่จากฮ่องกง SPL 2 ที่งานนี้เขาจะได้ประชันบทบู๊กับดารากังฟูชาวจีนแผ่นดินใหญ่ "อู๋จิง" (Wu Jing) ด้วย
       
       SPL ที่มี เจินจื่อตัน (Donnie Yen), หงจินเป่า (Sammo Hung), เยิ่นต๊ะหัว (Simon Yam) และ อู๋จิง แสดงร่วมกัน ได้ชื่อว่าเป็นหนังแอ็กชั่นที่สร้างความฮือฮาให้กับวงการภาพยนตร์ฮ่องกงเมื่อปี 2005 และล่าสุดทาง Sil-Metropole Organization Ltd. เพิ่งจะไฟเขียวให้มีการสร้างภาคต่อของหนังว่าด้วยการต่อสู้ระหว่างตำรวจ และมาเฟียเรื่องนี้เมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งข่าวระบุว่าหนังภาคนี้จะได้ แอนดี้ อัน (Andy On) กับ อู๋เจินอวี้ (Philip Ng) มาร่วมแสดงกับ หงจินเป่า กับ อู๋จิงจากหนังภาคแรก ส่วน เจินจื่อตัน พระเอกของหนังภาคแรก ไม่สามารถหาเวลากลับมารับบทนำได้ แต่อาจจะมาแสดงบทรับเชิญแทน
       
       อย่างไรก็ตามในเวลาเดียวกันก็มีข่าวลือว่า ผู้สร้างกำลังพยายามดึงตัวนักแสดงแอ็กชั่นระดับโลกอีกคนอย่าง จา พนม ให้มาร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้แทน ซึ่งแฟนหนังฮ่องกงเองก็ดูจะตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย เพราะทั้งองค์บาก และ ต้มยำกุ้ง ก็เป็นที่รู้จักดีของแฟนหนังที่นั่นดีอยู่แล้ว แต่สุดท้าย จา พนม ได้ตัดสินใจรับงานในฮอลลีวูดเป็นครั้งแรกในหนัง The Fast And Furious 7 ข่าวการรับหนังฮ่องกงจึงดูเงียบๆไป
       
       แต่เมื่อเร็วๆนี้ มีรายงานว่าระหว่างถ่ายทำ The Fast And Furious 7 จา พนม ได้หาเวลาเดินทางไปฮ่องกง และมีข่าวตามมาทันทีว่าอาจจะเป็นการเดินทางไปเพื่อเจรจาร่วมแสดงใน SPL 2 นั่นเอง

ภาพยนตร์เรื่อง The Thieves ประสบความสำเร็จอย่างมากที่ประเทศจีนหลังจากที่สร้างสถิติที่เกาหลีไปแล้ว

ภาพยนตร์เริ่มฉายในวันที่ 15 มกราคมทั้งหมด 3,000 โรงและสร้างรายได้ทั้งหมด 18,600,000 หยวนในสุดสัปดาห์แรก ก่อนหน้านั้นมีภาพยนตร์เกาหลีที่ได้รับความนิยมที่ประเทศจีนเช่น The Host, The Man From Nowhere และ 200 Pound Beauty ที่มีรายได้เข้าชม 14,000,000 หยวน ภาพยนตร์เรื่องที่ทำให้ The Thieves กลายเป็นอันดับ 2 คือเรื่อง Late Autumn

โปรดิวเซอร์กล่าวว่า “ผู้กำกับชเวดงฮุน (Choi Dong Hoon) และนักแสดงชายคิมยูนซอค (Kim Yoon Suk) และจอนจิฮยอน (Jun Ji Hyun) ที่เดินทางไปประเทศจีนและทำงานอย่างหนักเพื่อโปรโมทภาพยนตร์ในการทักทายแฟนๆ และงานแถลงข่าว คิดว่าหลายๆ คนให้ความสนใจและสนุกเพลิดเพลินไปกับภาพยนตร์ เพราะว่าภาพยนตร์นี้ถ่ายทำกันที่ฮ่องกงและมาเก๊า และยังมีนักแสดงจีน Simon Yam และ Angelica Lee ร่วมแสดงอีกด้วย”

หนังสุดฮิต The Thieves ของ "ชเวดงฮุน" (Choi Dong-hun) ยังทำรายได้สวยงามต่อไป และกำลังจะเป็นหนังเรื่องที่ 6 ของเกาหลีที่สามารถผ่านหลักยอดคนดู 10 ล้านคนได้สำเร็จ
       
       เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Showbox Mediaplex ผู้จัดจำหน่ายได้เปิดเผยว่าขณะนี้ The Thieves สามารถขายตั๋วไปได้ถึง 9.24 ล้านใบแล้ว หากไม่มีอะไรผิดพลาดหนังที่มี จอนจีฮยอน (Jeon Ji Hyun), อีจองแจ (Lee Jung Jae), โอดัลซู (Oh Dal-soo), คิมเฮซุก (Kim Hae-sook), สาวเซ็กซีวัย 42 ปี คิมเฮซู (Kim Hye Soo) และดาราเจ้าบทบาทชาวฮ่องกง เยิ่นต๋ะหัว (Simon Yam) ร่วมประชันบทบาทก็น่าจะสามารถทะลุหลัก 10 ล้านใบได้ในวันพฤหัสที่จะถึงนี้ หลังเข้าฉายมาตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค.
       
       ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวยังจะทำให้ผลงานของ ชเวดงฮุน เรื่องนี้กลายเป็นหนังเกาหลีเรื่องแรกในรอบ 3 ปี ที่มีคนดูเกิน 10 ล้าน และมีหนังเพียง 6 เรื่องเท่านั้นที่มียอดผู้ชมมหาศาลเช่นนี้ โดย Silmido ของ คังอูซอก เป็นหนังเรื่องแรกที่ผ่านหลักไมล์ดังกล่าวไปได้
       
       ตัวผู้กำกับ ชเวดงอุน คือคนที่ได้รับเครดิตไปมากที่สุด หลังจากเคยประสบความสำเร็จทำหนังได้เงินถูกใจคนดูมาแล้วหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น The Big Swindle ที่มียอดคนดู 2.12 ล้านคน, The War Of Flower กับตัวเลข 5.68 ล้าน และ JEON WOO CHI : The Taoist Wizard ที่ขายตั๋วไปได้ 6.13 ล้านใบ
       

       เจ้าสาวหมาดๆ "จอนจีฮยอน" (Jeon Ji Hyun) กำลังจะกลับมามีผลงานใหม่กับหนังเกาหลีใต้อีกครั้ง หลังใช้เวลาช่วงหลายปีที่ผ่านมาไปกับการทำงานในต่างประเทศ ด้วยผลงานแนวหักเหลี่ยมเฉือนคมของเหล่าจารชน The Thieves ที่มีนักแสดงร่วมประชันบทบาทมากมาย
       
       The Thieves เป็นหนังแอ็กชั่นทริลเลอร์ที่เล่าเรื่องของ 5 สุดยอดนักโจรกรรมแห่งเกาหลีใต้ ที่ได้รับคำสั่งจากอดีตเจ้านายให้รับงานขโมยโคตรเพชรที่มีชื่อว่า Tear of the Sun ซึ่งจะทำให้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับสุดยอดนักโจรกรรมแห่งฮ่องกง กับฉากหลังบ่อนคาสิโนในมาเก๊า เป็นงานแนวแอ็กชั่นจารกรรม ที่ตัวอย่างอาจทำให้หลายๆคนนึกไปถึงงานประเภทเดียวกันจากฮอลลีวูดอย่าง Ocean Eleven ขึ้นมาได้
       
       ผลงานเรื่องนี้เป็นฝีมือของผู้กำกับ ชเวดงฮุน ที่แจ้งเกิดกับหนังตลก The Big Swindle และมีงานฮิตมาแล้วหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น The War Of Flower และ JEON WOO CHI : The Taoist Wizard
       

หลังจากที่มีรายงานข่าวสุดฉาวของบันเทิงฮ่องกงออกมา เกี่ยวกับกรณี นักแสดงชายรุ่นพี่ลวนลามนักแสดงสาวรุ่นน้อง ส่งให้คนในวงการบันเทิงแสดงความคิดเห็นไม่พอใจต่อพฤติกรรมดังกล่าวเป็นอย่างมาก ด้าน"อาเจียว" (Gilliang Chung / 钟欣桐) เผยเป็นนัยไม่ใช่ความผิดครั้งแรก
       
       โรส เฉิน (Rose Chan) หรือ เฉินหัวซุน (陈嘉桓) ที่ตกเป็นเหยื่อถูกคุกคามทางเพศโดยรุ่นพี่นักแสดงชาย เบนนี เฉิน (Benny Chan) หรือ เฉินเฮ่าหมิน (陈浩民) และ โจ หม่า (Joe Ma) หรือ หม่าเต๋อจง (马德钟) ขณะอยู่ในเหิงเตียน จีนแผ่นดินใหญ่เมื่อไม่กี่วันก่อน ซึ่งนิตยสารซันเดย์ได้ตีพิมพ์ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวจนกลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่ว นอกจากสร้างความไม่พอใจให้คนทั่วไปแล้วคนในวงการบันเทิงเอง ก็แสดงความไม่พอใจออกมาต่อต้านพฤติกรรมดังกล่าวเช่นกัน
       
       โดย จางเจียฮุย (Nick Cheung / 張家輝) และ เยิ่นต๊ะหัว (Simon Yam / 任達華) 2 นักแสดงชื่อดังต่างก็แสดงความไม่พอใจต่อพฤติกรรมของฝ่ายชาย โดยจางเจียฮุย ถึงขั้นระเบิดอารมณ์แบบโกรธเคืองว่า "ถ้ามีใครมาทำกับลูกสาวผมแบบนี้นะ ผมจะฆ่ามัน!"
       
       "ผมและภรรยาผม (กวงหย่งเหอ / Esther Kwan / 關詠荷) ต่างก็เป็นนักแสดงและยังเป็นพ่อแม่ของลูกสาวด้วย ถ้ามีการลวนลามแบบนี้เกิดขึ้น ผมสนับสนุนให้ตำรวจยื่นมือเข้ามาช่วยจัดการในสถานการณ์แบบนี้ ถ้านึกในส่วนของครอบครัวเฉินหัวซุน พวกเขาคงต้องเจ็บปวดมากๆ"
       
       "ถ้ามีใครมาทำกับลูกสาวผมแบบนี้ล่ะก็ ผมจะฆ่ามัน! แม้ว่าคุณจะเมา คุณก็ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง!"
       

"เยิ่นเสียนฉี" (Richie Ren) ตัดสินใจยกเลิกคอนเสิร์ตซึ่งจะจัดขึ้นที่ฟิลิปปินส์แล้ว หลังการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกง ในเหตุการณ์จับตัวประกัน นักร้องชื่อดังชาวไต้หวัน ยังตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ ในโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับนักแสดงชาวจีนอีกหลายคนที่ยอมรับว่า คงจะไม่เดินทางไปเยือนฟิลิปปินส์ในอนาคตอันใกล้

"คอนเสิร์ตที่จะจัดขึ้นในเดือน พ.ย. นี้ เป็นงานที่มีจุดมุ่งหมายระดมทุนเพื่อช่วยเหลือชาวจีนในฟิลิปปินส์ แต่แฟนเพลงของผมแสดงความกังวลในเรื่องความปลอดภัย ขณะที่บริษัทต้นสังกัดก็รู้สึกว่าบรรยากาศในขณะนี้ไม่เหมาะสำหรับการแสดงคอนเสิร์ตเลย" เยิ่นเสียนฉี นักร้องหนุ่มชื่อดังชาวไต้หวันกล่าวถึงเหตุผลของการยกเลิกคอนเสิร์ตในแดนตากาล็อก หลังเกิดเรื่องเศร้ากับนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกง

อย่างไรก็ตามเขายังแสดงเจตนารมณ์ว่า จุดมุ่งหมายการให้ความช่วยเหลือชาวจีนโพ้นทะเลจะต้องดำเนินต่อไป "เรากำลังขบคิดกันอยู่ว่าจะทำอย่างไรจึงจะสามารถช่วยเหลือโรงเรียนของชาวจีนในฟิลิปปินส์ได้"

กลายเป็นเรื่องใหญ่ระดับชาติ เมื่อตัวประกันชาวฮ่องกง 8 คนถูกสังหารในเหตุการณ์ที่อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจชาวฟิลิปปินส์จี้รถบัสของนักท่องเที่ยว ในกรุงมนิลาเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนักร้องหนุ่มวัย 44 ปี ยังแสดงความคิดเห็นตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ ที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตมากมายเช่นนี้ว่า "การที่นักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงต้องเสียชีวิตมากมายเช่นนี้ ผมรู้สึกว่าเจ้าหน้าที่ของฟิลิปปินส์ปล่อยปละละเลย อันที่จริงความปลอดภัยของตัวประกันต้องมาเป็นอันดับแรก แล้วเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน"

"การเดินทางท่องเที่ยวควรจะเป็นเรื่องของความสนุกสนาน มันน่าเศร้าที่ต้องเกิดเรื่องสูญเสียแบบนี้ขึ้น" หนุ่มชาวไต้หวันกล่าว

เยิ่นเสียนฉี ไม่ใช่คนดังชาวจีนคนเดียวที่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าว เซียะเทียนหัว นักแสดงทางโทรทัศน์ ผู้โด่งดังกับหนังแนวอาชญากรรมเรื่อง E.U. ก็ออกมาแสดงความรู้สึกว่า สำหรับตนเองแล้วฟิลิปปินส์ไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยอีกต่อไป เขายังตัดสินใจเปลี่ยนแปลงโปรแกรมท่องเที่ยวดำน้ำของตนเอง ไปเป็นที่มาเลเซียแทนด้วย

งานแถลงข่าวสำหรับภาพยนตร์เรื่องใหม่ "ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า ภาค 2" (Storm Riders 2) ได้จัดขึ้นในฮ่องกง เมื่อเวลาบ่ายๆของวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา ที่ซึ่งผู้กำกับสองพี่น้องแปง (Pang Brothers - อ็อกไซ, แดนนี่) และนักแสดงนำ เช่น เจิ้งอี้เจี้ยน (Ekin Cheng), กัวฟู่เฉิง (Aaron Kwok), เซี่ยถิงฟง (Nicholas Tse), อาซา (Charlene Choi) ร่วมปรากฎตัวด้วย

พวกเขายังแนะนำนักแสดงหญิงชาวจีนคนใหม่ Tiffany (唐嫣) ซึ่งจะมาแสดงในบท Chu Chu ที่ซูฉี (Shu Qi) เคยแสดง เรียกได้ว่าเธอถูกเลือกขึ้นมาได้อย่างเหมาะสม จากการที่เธอกลายเป็นจุดสนใจจากสื่อต่างๆ

"ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า" ได้ถ่ายทำเป็นภาพยนตร์ตั้งแต่ปี 1998 และ 10 ปีต่อมา เหล่าดารานักแสดงคนเดิมๆก็กลับมาร่วมแสดงฝีมือกันอีกครั้ง

พี่น้องแปงให้ข้อมูลว่า "Storm Riders 2" นี้ จะไม่ใช่การรีเมค หรือเป็นภาคต่อของภาคแรก แต่เนื้อหาจะเป็นเรื่องราวใหม่ๆ

เยิ่นต๊ะหัว (Simon Yam) นักแสดงที่คุ้นหน้าคุ้นตาบ้านเราดี เป็นหนึ่งนักแสดงที่เคยมีผลงานมากมายตอนยุค 90 เฉลี่ยเดือนหนึ่ง เขาต้องถ่ายหนังประมาณ 1 เรื่อง มาถึงวันนี้ เขาก็ยังเป็นนักแสดงชาวฮ่องกงที่มีหนังให้เล่นเรื่องต่อเรื่อง แต่กระนั้น หนังที่เขาปัดไป ก็ยังมากกว่าหนังที่เขารับเล่นหลายเท่าตัวนัก