ข่าวจีน

       สร้างความฮือฮาทันทีที่ ผู้อำนวยการสร้างคนดัง "หยูเจิ้ง" (Yu Zheng) ประกาศหยิบ "มังกรหยก 2" (Return of the Condor Heroes / 神雕侠侣) กลับมาสร้างใหม่ ซึ่งล่าสุดมีการเผยรายชื่อนักแสดงนำ และความเปลี่ยนแปลงในเรื่องราวของ "เอี้ยก๊วย" (Yang Guo) กับ "เซียวเหล่งนึ่ง" (Xiaolongnü / Little Dragon Maiden) ให้ทราบกันแล้ว
       
       หลังสร้าง "กระบี่เย้ยยุทธจักร 2013" ที่ประสบความสำเร็จด้วยการผูกเรื่องใหม่ให้ "ตงฟางปุ๊กป้าย" กลายเป็นสาวสวยและมีบทบาทเด่นเสียจนแทบจะกลายเป็นนางเอกของเรื่องมาแล้ว ผู้อำนวยการสร้าง หยูเจิ้ง กำลังจะทำให้ มังกรหยก ภาค 2 หรือ "จอมยุทธอินทรี" ฉบับล่าสุดได้รับการวิจารณ์มากมายในอนาคตข้างหน้าแน่ ในการหยิบเอาภาค 2 ของไตรภาค "มังกรหยก" มาสร้างเป็นหนังชุดทางโทรทัศน์อีกครั้ง ที่ตอนนี้แค่เปิดเผยรายชื่อนักแสดงออกมาก็กลายเป็นประเด็นให้แฟนๆ ของนิยายต้นฉบับได้พูดถึงกันมากมายแล้ว

       "เซียวเหล่งนึ่ง" โดน "ลี้มกโช้ว" ขโมยซีน
       
       โดย หยูเจิ้ง ได้เลือกให้ดาราสาว เฉินเหยียนซี (Michelle Chen) วัย 30 ปี ผู้โด่งดังในหนังฮิต You Are the Apple of My Eye (那些年，我们一起追的女孩) มารับบทเป็น "เซียวเหล่งนึ่ง" คนใหม่ ที่หลายคนดูจะไม่ค่อยถูกใจดาราสาวที่กำลังจะมาแสดงในบทที่ เฉินอวี้เหลียน, หลี่ยั่วถง และ หลิวอี้เฟย (Liu Yi Fei) แสดงเอาไว้จนกลายเป็นขวัญใจของแฟนนิยายมาแล้วนัก
       

"เจอร์รี" (Jerry) อดีตไอดอลดังไต้หวันจากวง F4 ที่เคยคบหากับ "หลินจื่อหลิง" (Lin Chi Ling) นางแบบสาวชื่อดัง มาตอนนี้เจ้าตัวพบรักใหม่ควงกับนางแบบสาวลูกครึ่งญี่ปุ่น-สวิสมานานร่วมครึ่งปีแล้ว
       
       ตามรายงานจากสื่อไต้หวันระบุว่า เจอร์รี่ F4 หรือ เหยียนเฉิงซวี่ นักร้อง-นักแสดงชื่อดัง กำลังคบหาอยู่กับโชโกะ (Shoko) นางแบบสาวลูกครึ่งญี่ปุ่น-สวิสเซอร์แลนด์ โดยทั้งคู่แอบคบหากันมานานตั้งแต่ช่วงต้นปีแล้ว
       
       โดยนางแบบสาวรายนี้มีอายุอ่อนกว่าเจอร์รีถึง 9 ปี มีพ่อเป็นชาวญี่ปุ่นและมีแม่เป็นชาวสวิสฯ ซึ่งแหล่งข่าววงในเปิดเผยว่า ทั้งคู่รู้จักกันผ่านการแนะนำของเพื่อนๆตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว โดยเจอร์รีเป็นฝ่ายรุกเข้าจีบเธอก่อน แม้ว่าจะมีอุปสรรคด้านภาษาก็ตาม
       
       แหล่งข่าวระบุว่า เจอร์รีรู้สึกพึงพอใจเธอจากภาพลักษณ์สวยหวานภายนอกของเธอ ก่อนจะเข้าไปขอเบอร์โทรศัพท์ของฝ่ายหญิงพร้อมกับอ้างว่าอยากเรียนภาษาญี่ปุ่น
       
       ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มแปรเปลี่ยนไปเป็นรักโรแมนติกเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งทั้งคู่นัดเจอกันที่บ้านของเจอร์รีในไต้หวันอยู่เสมอ หรือนัดพบกันระหว่างเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ
       
       ตามรายงานระบุว่า โชโกะ วัย 27 ปี ยังเป็นหน้าใหม่ในวงการไม่ค่อยมีใครรู้จักเท่าใดนัก โดยเธอย้ายมาที่ไต้หวันตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อนเพื่อรับงานนางแบบ โดยเธอเคยปรากฏตัวในสื่อโฆษณาต่างๆ และภาพยนตร์ Double Trouble รวมถึงในมิวสิควิดีโอ Yu Xa Yi Zheng Wan ของเจย์ โจว (Jay Chou) ด้วย
       

       "เกรซ เฉิน" (Grace Chan / 陳凱琳) ตัวเต็งในการประกวด "มิสฮ่องกง 2013" (Miss Hong Kong 2013) คว้ามงกุฏไปได้ตามความคาดหมาย พร้อมรับรางวัลพิเศษไปอีก 2 สาขา ในการประกวด "มิสฮ่องกง" ที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมมีส่วนร่วมโหวตให้คะแนนสาวงาม ที่ปีนี้ไม่มีปัญหาเรื่องระบบเหมือนปีก่อนอีกแล้ว
       
       เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้วสำหรับการประกวด มิสฮ่องกง 2013 เมื่อค่ำคืนของวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมาโดย เกรซ เฉิน สามารถคว้าตำแหน่งสาวงามอันดับ 1 แห่งเกาะฮ่องกงไปได้ตามการคาดเดาของหลายๆคน พร้อมรับรางวัลพิเศษอีก 2 รางวัล รวมถึง ขวัญใจช่างภาพ ในการประกวดที่มีสาวงามขึ้นโชว์โฉมในรอบสุดท้าย 10 คน
       
       เกรซ เฉิน ยังถือว่าเป็นสาวงามขวัญใจชาวฮ่องกงอย่างแท้จริง ด้วยคะแนนโหวตถึง 61.5% ส่วน นางงามจอมฉาว แทมมี โอหยัง (Tammy Ou Yang / 歐陽巧瑩) ที่ได้รับฉายา "มิสกอสซิป" ที่มีข่าวเสียๆ หายๆ มากมายได้รับเสียงโหวตมาในอันดับ 8 และ เป็กกี้ สวี (Peggy Tsui / 徐韶蓓) มีเสียงโหวตอยู่ในอันดับสุดท้าย

       นักศึกษาสาววัย 22 ปี โดดเด่นด้วยส่วนสูง 5 ฟุต 4 นิ้ว กับสัดส่วน 30-22-33 และน้ำหนัก 87 ปอนด์ ที่หลายคนคิดว่าเธอผอมเกินไปหน่อยสำหรับตำแหน่งมิสฮ่องกง นอกจากนั้นก็ยังโดนลือว่าอาจจะไปทำสวยด้วยแพทย์มาอย่างที่สาวงามในยุคนี้หลายๆคนโดนด้วย อย่างไรก็ตาม เกรซ เฉิน ก็ยังทำได้ดีที่สุดในการประกวดรอบสุดท้ายเมื่อค่ำคืนในวันอาทิตย์ และคว้าตำแหน่งไปครองได้ในท้ายที่สุด
       

       บรรดานักแสดงนำ, ผู้กำกับ และผู้อำนวยการสร้างหนังสุดฮิต Infernal Affairsหรือ "สองคมสองคน" ต่างเดินทางมาเมืองไทย เพื่อเคารพศพ "อาจารย์กิมน้ำ แซ่จิว" หรือ "หลวงปู่มังกรขาว" ที่ถือว่ามีส่วนต่อความสำเร็จของหนังไม่น้อย
       
       หลังเสียชีวิตลงตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค. ยังมีคนบันเทิงฮ่องกงเดินทางมาเมื่อไทยเพื่อเคารพศพ "อาจารย์กิมน้ำ แซ่จิว" กันอย่างเนืองแน่น ก่อนที่จะถึงพิธีฝังศพในวันที่ 1 ก.ย. ที่จะถึงนี้ โดยล่าสุดเจ้าพ่อวงการบันเทิง "ปีเตอร์ แลม" (Peter Lam / 林建岳) ผู้สร้างหนังดัง Infernal Affairs ก็เดินทางมาเพื่อไว้อาลัยให้กับ "หลวงปู่มังกรขาว" ด้วย
       
       ปีเตอร์ แลม ประธาน/ซีอีโอของ Media Asia Entertainment Group ยักษ์ใหญ่แห่งวงการบันเทิงฮ่องกง ได้เดินทางมาถึงเมืองไทย เพื่อเคารพศพของ อาจารย์กิมน้ำ แซ่จิว เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยเดินทางมาพร้อมกับลูกชาย และ มิเชล แลม ที่ว่ากันว่าเป็นแฟนสาวคนปัจจุบันของเขา นอกจากนั้นสื่อฮ่องกงยังรายงานว่าคณะของ ปีเตอร์ แลม ยังได้เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยช่วยอำนวยความสะดวกระหว่างการเดินทางมาถึงตำหนักมังกรขาวด้วย
       

"ชาลีน ชอย" (Charlene Choi) หรือ "อาซา" (Ah Sa) นักร้องสาวดูโอจากวง Twins ที่ร่วมโปรโมทผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุดอย่าง The Midas ที่ฮ่องกงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้เปิดเผยว่ากำลังเตรียมรับบทภาพยนตร์เรื่องใหม่ โดยคราวนี้เป็นหนังเรทอาร์
       
       ตามรายงานจากสื่อฮ่องกงระบุว่า อาซา ได้แง้มถึงโปรเจ็คท์หนังเรื่องใหม่ของตนเองว่าตอนนี้กำลังจะเล่นภาพยนตร์เรทอาร์ ที่กำกับโดย แชพแมน ในปีหน้านี้
       
       ซึ่งเจ้าตัวระบุว่า บทดังกล่าวผู้กำกับเจาะจงให้เธอรับบทนี้โดยเฉพาะ ซึ่งเธอจะต้องโชว์เนื้อหนังมังสาบางส่วนด้วย "ฉันคิดว่าไม่ถึงกับต้องเปลือยหมด ซึ่งธีมของเรื่องนี้เกี่ยวกับประเด็นที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคม" นักร้อง-นักแสดงสาวเผย
       
       โดยหลังจากกล่าวถึงผลงานภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว เจ้าตัวยังเผยด้วยว่าในอนาคตเธอใฝ่ฝันอยากได้รางวัล "นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม" แม้ว่านักแสดงสาววัย 30 ปี จะไม่เห็นด้วยกับการยอมเปลือยเล่นบทแรงๆเพื่อให้ได้รางวัลดังกล่าวมาครองก็ตาม
       
       นอกจากจะพูดถึงผลงานใหม่แล้ว อาซา ยังตอบคำถามเกี่ยวกับประเด็นที่เธอเดินทางไปหา วิลเลียม เฉิน (William Chan) แฟนหนุ่มที่กำลังถ่ายทำภาพยนตร์ในเหิงเตี่ยนด้วย โดยเธอยอมสารภาพอย่างตรงไปตรงมา ว่าทั้งคู่เข้าพักที่โรงแรมในห้องเดียวกัน ก่อนระบุว่า "บางเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรออกมามากนะคะ" เจ้าตัวตอบหลังถูกสื่อซักถามอย่างหนัก

Manager Online

      เกิร์ลกรุ๊ปหน้าใหม่ของไต้หวัน “ซัน เลดี้” (Sun Lady) อาศัยท่าเต้นเพลง “รักต้องเปิด (แน่นอก)” ของไทย แจ้งเกิดในโลกออนไลน์ สร้างความฮือฮาบนเกาะไต้หวันและจีนแผ่นดินใหญ่หวังตามรอยวงญี่ปุ่น-เกาหลี
       
       หลังจากที่เพลง รักต้องเปิด (แน่นอก) โดย 3.2.1 feat. ใบเตย อาร์สยาม มียอดชมมิวสิคในเว็บไซต์ยูทิวบ์ทะลุ 60 ล้านวิวไปเรียบร้อยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เพลงดังกล่าวก็สร้างเสียงฮือฮาบนเกาะไต้หวัน เมื่อวงเกิร์ลกรุ๊ปหน้าใหม่อย่างวง Sun Lady หรือ ไท่หยางหนี่ว์เสิน (太陽女神) ซึ่งมีสมาชิกจำนวน 5 คนนำไปเต้นคัฟเวอร์ ออกเผยแพร่เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ที่ผ่านมา จนล่าสุดมียอดผู้ชมทะลุ 8 แสนวิวไปเรียบร้อยแล้ว

       การประกวด "มิสฮ่องกง" (Miss Hong Kong) ประจำปี 2013 ดำเนินมาถึงรอบที่คัดเลือกให้สาวงามเหลือเพียง 10 คนสุดท้ายกันแล้ว โดยในปีนี้กองประกวดยังออกไอเดียใหม่ ให้สาวๆผู้เข้ารอบ ได้ตอบคำถามเคลียร์ข่าวฉาวของแต่ละคนด้วย
       
       แทนที่จะตอบคำถามกันตามปกติ ที่เป็นการทดสอบความรู้ทั่วไป หรือแสดงความคิดเห็นแบบเดิมๆ แต่การประกวด มิสฮ่องกง ในปีนี้กองประกวดได้จัดให้มีการตอบคำถามรอบพิเศษ ระหว่างการขึ้นประชันโฉมในรอบแรกเมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา ที่สาวงามผู้เข้าประกวดจะได้โอกาสเคลียร์ข่าวฉาว ที่แต่ละคนเคยโดนกระแสข่าวเล่นงานกันไป ระหว่างเก็บตัวตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
       
       โดยผู้เข้าประกวดหมายเลย 13 แทมมี โอหยัง (Tammy Ou Yang / 歐陽巧瑩) คือสาวงามที่มีข่าวลือ, ข่าวฉาว มากที่สุด ถึงกับได้รับฉายา "มิสกอสซิป" จากสื่อมวลชนกันเลยทีเดียว งานนี้เธอจึงได้โอกาสปฏิเสธถึงข่าวฉาวต่างๆ ทั้งที่ว่าเธอติดหนี้เงินกู้เถื่อน, เคยทำงานไนท์คลับ, มีแฟนหนุ่มมหาเศรษฐีคอย "เลี้ยงดู" จนไปถึงข่าวที่ว่าเธอทั้งสูบบุหรี่หนัก และยังติดเที่ยวด้วย นอกจากนั้นสาวจอมฉาวคนนี้ยังได้อธิบายถึงข้อกล่าวหาที่ว่าเธอโกหกเรื่องประวัติส่วนตัว ที่ว่าจบการศึกษาในระดับปริญญา ว่าเธอไม่เคยอ้างว่าตัวเองจบการศึกษาแล้ว เพียงแต่บอกว่ากำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรีเท่านั้น
       
       ผู้เข้าประกวดหมายเลข 1 เคนดี้ เจิ้ง (Kendy Cheung / 張敬仁)  ที่มีข่าวฉาวว่าเป็นพวกไบเซ็กชวลได้ทั้งหญิงและชาย นอกจากนั้นยังเจอข้อกล่าวหาเรื่องการทำศัลยกรรมอีก, ส่วน มูน หลิว (#6 - Moon Lau / 劉佩玥) ก็ได้โอกาสพูดถึงข่าวลือที่ว่าเธอชอบพูดคำหยาบอยู่เป็นประจำจนติดปาก ส่วนหมายเลข 9 เวอร์จีเนีย หลิว (Virginia Lau / 劉溫馨) โดนกล่าวหาว่าเธอชอบใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนมของปลอม ซึ่งเธอก็ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริงแน่นอน

       มีการปล่อยภาพโปสเตอร์แนะนำตัวละครของหนัง “ตี๋เหรินเจี๋ย” (Di Renjie) ภาค 2 ออกมาให้ชมกันแล้ว ที่ถือว่าเป็นการเผยให้เห็นสไตล์การออกแบบ และเสื้อผ้าของหนังที่สุดพิสดารตามสไตล์ของผู้กำกับชาวฮ่องกง “ฉีเคอะ”
       
       หลังจากภาคแรกเล่าเรื่องเหตุฆาตกรรมลึกลับที่เกี่ยวข้องกับไฟไปแล้ว เรื่องราวการผจญภัยครั้งใหม่ของ ตี๋เหรินเจี๋ย ในชื่อ Young Detective Dee: Rise of the Sea Dragon จะเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับน้ำบ้าง โดยหนังจะย้อนไปกล่าวถึงเรื่องราวในช่วงก่อนหน้าหนังภาคแรก ซึ่งยอดนักสืบ ตี๋เหรินเจี๋ย ยังคงอยู่ในวัยหนุ่มแน่นโดยได้ จ้าวโหย่วถิง (Mark Zhao) มาสวมบทบาทนำแทน หลิวเต๋อหัว (Andy Lau)
       
       ตี๋เหรินเจี๋ย ภาค 2 ยังจะประกอบไปด้วยนักแสดงอย่าง เผิงจ้าวเผิง, คิมบอม (Kim Bum), หลินเกิ้งซิน, แอนเจลาเบบี้ (Angela Baby) ร่วมประชันบทบาทกัน ส่วน หลิวเจียหลิง (Carina Lau) จะกลับมาแสดงเป็น พระนางบูเช็คเทียน เช่นเดียวกับหนังภาคแรก ซึ่งจากใบปิดก็พอจะบ่งบอกได้ว่าหนังน่าจะมีงานภาพที่หวือหวา และไม่ได้เน้นความสมจริงในสไตล์ของ ฉีเคอะ เช่นเคย
       
       Young Detective Dee: Rise of the Sea Dragon เป็นผลงานของ Huayi Brothers มี เฉินเกาฟู เขียนบท และเตรียมลงโรงในจีนแผ่นดินใหญ่ในวันที่ 28 ก.ย. นี้

Manager Online

       “หลิวเต๋อหัว” (Andy Lau) นักแสดงชื่อดังชาวฮ่องกงบินตรงร่วมเคารพศพ อาจารย์ “กิมน้ำ แซ่จิว” หรือ “หลวงปู่มังกรขาว” ที่ประเทศไทยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าตัวนับถือเป็นบุคคลที่เคารพรัก
       
       ตามรายการจากสื่อฮ่องกงระบุว่า หลิวเต๋อหัว นักแสดงชื่อดังได้เดินทางมาที่ประเทศไทยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยมาถึงที่วัดจัดพิธีศพในช่วงบ่าย โดยมีภรรยาของอาจารย์กิมน้ำให้การต้อนรับ ก่อนที่ทั้งคู่จะโผเข้ากอดปลอบใจกันและกัน
       
       โดยหลิวเต๋อหัวมาร่วมงานด้วยชุดสีขาว เดินเข้าไปเคารพศพด้วยเท้าเปล่า จุดธูปเพื่อเคารพศพของอาจารย์ ซึ่งก่อนหน้านี้ แอนดรูว์ เลา หรือ หลิวเหว่ยเฉียงก็เคยหยุดงานเพื่อมาร่วมเคารพศพหลวงปู่มังกรขาวทันทีที่ทราบข่าวการเสียชีวิต
       
       ซึ่งหลิวเต๋อหัว ได้เปิดเผยด้วยว่าเขาเคารพอาจารย์กิมน้ำหรือหลวงปู่มังกรขาวเสมือนพ่อแท้ๆ ของเขา และเป็นคนที่เขาสนิทใกล้ชิดมากที่สุดคนหนึ่งในชีวิตด้วย
       
       การปรากฏตัวของหลิวเต๋อหัว สามารถเรียกความสนใจจากสื่อ ผู้มาร่วมงานศพ และคนในท้องถิ่นได้เป็นอย่างมาก มีคนขอถ่ายรูปตลอดงานและโพสต์สู่โลกออนไลน์ ซึ่งหลิวเต๋อหัวยังได้พบกับลูกสาวของอาจารย์กิมน้ำโดยเขาเข้าสวมกอดเพื่อให้กำลังใจเธอพร้อมกับถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับเธอและลูกชายของเธอ รวมถึงภาพถ่ายรวมญาติที่ถ่ายร่วมกับรูปหน้าศพของอาจารย์กิมน้ำ ก่อนจะอยู่ร่วมพิธีศพจนกระทั่งถึงเวลา 2.00 น.เลยทีเดียว
       

       “หวังจู่เสียน” (Joey Wong) เดินทางออกจากฮ่องกงเป็นทันที เมื่อภาพล่าสุดของเธอกลายเป็นข่าวใหญ่สร้างความฮือฮา ว่าอดีตนางฟ้าแห่งวงการบันเทิงหมดสวย และแทบจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนด้วยผลของการทำศัลยกรรม
       
       นักแสดงชาวไต้หวันกลายเป็นข่าวใหญ่ ว่าเธอสูญเสียความสวยระดับนางฟ้าเมื่อครั้งยังสาวไปแล้ว ด้วยพิษของการทำศัลยกรรม จนล่าสุด “หวังจู่เสียน” ตัดสินใจเดินทางออกจากฮ่องกงไปเป็นที่เรียบร้อย หลังโดนสื่อตามถ่ายภาพ ฝ่ายเพื่อนสนิทยังโพสต์ภาพของนักแสดงวัย 46 ปี ว่าเธอไม่ได้ดูแย่อะไรขนาดนั้น ภาพที่ปรากฏและทำให้หลายคนตกใจ เป็นปัญหาของเรื่องมุมกล้องเท่านั้น
       
       ชื่อของ หวังจู่เสียน ที่ออกจากวงการบันเทิงไปร่วม 10 ปีเต็มกลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง เมื่อสื่อได้ภาพปัจจุบันของเธอ ที่ดูเหมือนว่ารูปโฉมแทบจะไม่เหลือเค้าความงามของเดิม จนมีข่าวลือว่าเธอได้ทำศัลยกรรม แต่ผลกลับออกมาไม่เป็นอย่างที่หวัง หน้าตาเปลี่ยนไปแทบจะเป็นคนละคน
       
       อย่างไรก็ตามหลังข่าวได้สร้างความฮือฮาเป็นที่วิจารณ์กันมากมาย เพื่อนสนิทของ หวังจู่เสียน ได้โพสต์ภาพอื่นๆของเธอให้ชมกัน เพื่อพิสูจน์ว่านางเอกผู้โด่งดังจากบทผีสาวสุดเซ็กซีในหนัง “โปเยโปโลเย” ยังดูสวยสมวัยในช่วงอายุ 46 ปี และไม่ได้ดูแย่อะไรขนาดนั้น
       
       กระทั่งล่าสุดคล้อยหลังแค่ไม่กี่วัน หวังจู่เสียน จึงได้ตัดสินใจเดินทางออกจากฮ่องกงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะกลัวว่าตนจะกลายเป็นข่าว มีภาพลงหน้าหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอีก
       

       บริษัทจัดจำหน่ายภาพยนตร์ชื่อดังของสหรัฐฯ โดนวิจารณ์อย่างหนัก กับแผนการตลาด และการตัดหนังหลายๆเรื่องใหม่ โดยเฉพาะหนังเอเซียอย่าง Snowpiercer ที่กำลังจะโดนตัดทิ้งร่วม 20 นาที ส่วน The Grandmaster ใส่เพลงแร็พเข้าไปในตัวอย่าง
       
       Snowpiercer หนังไซไฟร่วมทุนสร้างหลายชาติผลงานของ ผกก. ชาวเกาหลีใต้ บองจุนโฮ กำลังทำเงินอย่างถล่มทลายในการฉายที่เกาหลี สำหรับหนังที่เต็มไปด้วยนักแสดงจากหลายชาติ ในการเล่าเรื่องโลกอนาคตที่ใกล้ถึงวาระสุดท้ายของมนุษย์ เมื่อการทดลองแก้ไขปัญหาโลกร้อนกลับทำให้เกิดยุคน้ำแข็งขึ้น และเหลือผู้รอดชีวิตเพียงกลุ่มสุดท้าย ที่ใช้ชีวิตกันบนรถไฟซึ่งแล่นไปแบบไร้จุดหมาย
       
       อย่างไรก็ตามกลับมีข่าวไม่ค่อยดีจากบริษัทจัดจำหน่ายในสหรัฐฯ เมื่อมีคำยืนยันว่า The Weinstein Company เจ้าของสิทธิ์การฉายในสหรัฐฯ จะตัดหนังฉบับเต็มที่มีความยาวประมาณ 126 นาที ออกไปซัก 20 นาที เพราะพวกเขาเชื่อว่า คนดูที่นั่นบางคนอาจจะ "ดูหนังไม่รู้เรื่อง"
       
       นักวิจารณ์ชื่อดัง โทนี เรย์น เป็นผู้เปิดเผยถึงเรื่องนี้ ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อรายหนึ่งที่ว่า "คนที่ The Weinstein Company บอกผู้กำกับ บองจุนโฮ ไปว่า พวกเขาแค่ต้องทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ชมอาจจะเป็นที่ ไอโอวา หรือ โอคลาโฮมา จะสามารถดูหนังได้เข้าใจด้วย" นอกจากนั้นยังมีข่าวว่าหนังอาจจะเพิ่มเสียงบรรยายเข้าไปด้วย
       

      ขณะที่ TVB ครองความยิ่งใหญ่ในวงการโทรทัศน์ฮ่องกงอย่างต่อเนื่อง แต่อดีตยักษ์หลับ ATV กลับต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก ความนิยมของซีรีส์และรายการต่างๆ ตกต่ำลงถึงขั้นที่ไม่ได้มีการสร้างหนังชุดเรื่องใหม่มา 3 ปีแล้ว กระทั่งล่าสุดทาง ATV กำลังจะกลับมาผลิตหนังชุดอีกครั้ง ด้วยการนำผลงานเก่าสุดคลาสสิคมาสร้างใหม่
       
       นับจากซีรีส์ซิตคอม GO GO GO Hong Kong (香港GoGoGo) เมื่อปี 2010 สถานีโทรทัศน์ ATV ก็ไม่ได้ผลิตซีรีส์เรื่องใหม่อีกเลย
       
       กระทั่งในปีนี้ ที่การแข่งขันของสถานีโทรทัศน์ฮ่องกงร้อนแรง ด้วยสถานีช่องใหม่ HKTV ที่เพิ่งเปิดตัวเข้าสู่ตลาดฟรีทีวี ATV จึงเริ่มขยับกลับมาลงทุนสร้างซีรีส์อีกครั้ง ด้วยหนังชุดกำลังภายใน “กระบี่ไร้เทียมทาน” ที่จะเป็นการร่วมทุนสร้างกับบริษัทจากจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งถือถือว่าเป็นการหยิบเอางานสุดคลาสสิคที่เคยทำให้ ATV เป็นผู้นำตลาดซีรีส์กำลังภายในเมื่อปี 1979 กลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง
       
       Reincarnated หรือ กระบี่ไร้เทียมทาน (天蠶變) หนังชุดความยาว 60 ตอน ฉบับดั้งเดิมที่เริ่มฉายในปี 1979 เป็นผลงานที่ออกอากาศตั้งแต่สมัย ATV ยังใช้ชื่อว่า RTV (Rediffusion Television) โดยมีนักแสดงชื่อดัง ฉีเส้าเฉียน (Norman Chui / 徐少強) รับบทเป็นจอมยุทธหนุ่ม “ฮุ้นปวยเอี้ยง” ร่วมด้วย เหมียวเข่อซิ่ว (Nora Miao / 苗可秀), หม่าเหมียนเอ๋อ (Ma Man Yee / 馬敏兒) และ หวีอันอัน (Candice Yu / 余安安) ที่ประสบความสำเร็จสร้างกระแสความนิยมมากมายขึ้นทั้งในฮ่องกง และประเทศต่างๆทั่วเอเชีย

      11 ปีแล้วที่นางเอกสาวสวยชาวไต้หวันหายหน้าหายตาไปจากวงการบันเทิง แต่การกลับมาฮ่องกงครั้งแรกในรอบหลายปีกลับทำให้แฟนๆ ที่ได้เห็นภาพของเธอในวัย 46 ปี รู้สึกว่า “หวังจู่เสียน” (Joey Wong) เปลี่ยนไป
       
       หลังไปใช้ชีวิตอยู่ที่แคนาดาถึง 11 ปีเต็มล่าสุดมีคนพบ หวังจู่เสียน เดินทางกลับมาฮ่องกงอีกครั้ง และเพิ่งมีคนเจอเธอไปใช้เวลาช็อปปิ่งอยู่ที่ย่านคอสเวย์เบย์เมื่อไม่กี่วันก่อน แต่หลายคนที่ได้เห็นภาพกลับรู้สึกว่านางเอกคนสวยในวัย 46 ปี ดูมีใบหน้าที่แตกต่างออกไป ข่าวลือเรื่องการทำศัลยกรรมจึงตามมาทันที
       
       ก่อนหน้านี้แม้จะมีอายุขึ้นเลข 4 แล้วแต่หลายคนที่ได้เห็นภาพระหว่างที่เธออาศัยอยู่ในแวนคูเวอร์ ก็ยังเอ่ยปากชมว่า หวังจู่เสียน ดูสวยตามวัย ซึ่งแตกต่างกับภาพล่าสุดที่จมูกของเธอดูไม่ได้รูปเหมือนเดิม นอกจากนั้นแก้มก็ยังดูแน่นจนผิดปกติ
       
       ดาราวัย 46 ปีที่โด่งดังมาจากหนังชุด “โปโยโปโลเย” ปรากฏตัวในย่านช็อปปิ้งดังของฮ่องกงด้วยชุดสีขาว และกระโปรงสีน้ำเงิน ที่เธอดูจะมีความสุขกับการใช้เวลาช็อปปิ้งกับเพื่อนๆ ดี แต่ก็ไม่ค่อยสะดวกใจกับการตามติดของเหล่าปาปารัสซี และพยายามมองดูอยู่ตลอดว่าจะมีช่างภาพคอยตามมารึเปล่า
       
       โดยหลังช้อปปิ้งเสร็จ หวังจู่เสียน ยังไปทานอาหารกับเพื่อนๆ ก่อนจะตกใจนิดหน่อยเมื่อเจอผู้สื่อข่าว แต่ก็ยังยิ้มรับต่อหน้ากล้องด้วยดี โดยเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเธอมีแผนจะกลับมารับงานหรือไม่ หวังจู่เสียน ได้แต่ขอบคุณ และปฏิเสธที่จะตอบคำถามใดๆ รวมถึงไม่ขอเปิดเผยว่าเธอกลับมาฮ่องกงด้วยเหตุผลอะไรเป็นหลัก แต่ก็มีข่าวลือว่าเธออาจจะรับงานอะไรบางอย่างในเดือน ก.ย.

Manager Online

ดาราชื่อดัง “หลิวเต๋อหัว” (Andy Lau) เคลียร์คิวซ้อมคอนเสิร์ตใหญ่ที่ฮ่องกง บินตรงเข้าไทยเพื่อเดินทางเคารพศพ อ.กิมน้ำ จิรรัตนพิเชษฐ ที่จังหวัดชลบุรี ผู้เป็นที่เคารพ และเปรียบเสมือนพ่อ และบุคคลในครอบครัว ก่อนเดินทางกลับในวันเดียวกัน ขณะที่ก่อนหน้านี้ เหลียงเฉาเหว่ย (Tony Leung) และหยูเหวินเล่อ (Shawn Yu) ได้เดินทางมาเคารพศพท่ามกลางกองทัพนักข่าวทั้งไทย จีน ฮ่องกง มาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่เกาะติดบรรยากาศ
       
       เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (24 ส.ค.) หลิวเต๋อหัว ซูเปอร์สตร์คนดังจากฮ่องกง ได้เดินทางมายังตำหนักหลวงปู่มังกรขาว “White Dragon King temple” ซึ่งตั้งอยู่ในเขตตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อเคารพศพอาจารย์กิมน้ำ จิรรัตนพิเชษฐ์ ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีกองทัพนักข่าวทั้งจากฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย และประเทศไทย ที่เฝ้าติดตามการเดินทางมาของเหล่าซูเปอร์สตาร์คนดังจากฮ่องกง เพื่อเคารพศพอาจารย์ที่นับถือเป็นจำนวนมาก
           
       หลังจากที่ หลิวเต๋อหัว เดินทางมาถึงได้ตรงเข้าทักทายบุคคลในครอบครัวของอาจารย์กิมน้ำ จิรรัตนพิเชษฐ์ โดยมีนางศรีรัตน์ ชิดวิเศษ ภรรยา พร้อมบุตร และบุคคลในครอบครัวให้การต้อนรับ ก่อนจะเข้าเคารพศพตามธรรมเนียมจีน และไทย หลังจากนั้น เปิดโอกาสให้บรรดาแฟนคลับชาวไทย และผู้ที่เดินทางมาเคารพศพได้ถ่ายภาพ
           
       หลังจากนั้น ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงการเดินทางมายังจังหวัดชลบุรีในครั้งนี้ว่า ไม่ใช่ครั้งแรก และได้เดินทางมาหลายครั้งแล้ว เนื่องจากอาจารย์กิมน้ำ จิรรัตนพิเชษฐ์ เปรียบเสมือนบิดา และครอบครัวของอาจารย์เปรียบเสมือนครอบครัวของตน แต่เนื่องจากติดภารกิจในฮ่องกง จึงจำเป็นต้องเดินทางกลับทันที
           

เหมียวเฉียวเหว่ย (Michael Miu) - ชิเหม่ยเจิน (Jaime Chik) ดาราฮ่องกงชื่อดัง เดินทางมาร่วมงานสวดอภิธรรมศพ “อาจารย์กิมน้ำ” พร้อมทั้งมีนักการเมือง นักธุรกิจ นักแสดงต่างชาติ ห้างร้าน ต่างส่งพวงหรีดแสดงความเคารพ ก่อนเดินทางมาร่วมงานอย่างเป็นทางการในช่วงวันที่ 30-31 ส.ค.อย่างเนืองแน่น
       
       เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา (21 ส.ค.) ที่บ้านเลขที่ 80/9 ม.5 ซอยโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพ “อาจารย์กิมน้ำ” หรือ “หลวงปู่มังกรขาว” โดย เหมียว เฉียวเหว่ย - ชิ เหม่ย เจิน ดาราฮ่องกงชื่อดัง และนักธุรกิจทั้งชาวไทย และนักธุรกิจชาวฮ่องกงที่เป็นลูกศิษย์ได้เดินทางมาเคารพศพ และร่วมประกอบพิธีทางศาสนาพุทธ โดยนิมนต์พระสงฆ์มาสวดอภิธรรมศพ ในคืนดังกล่าวเป็นการตั้งสวดอภิธรรมศพคืนที่ 5
       
       ส่วนในบริเวณงานมีรายชื่อนักการเมือง นักธุรกิจ และนักแสดงต่างชาติ ได้ส่งพวงหรีดมาแสดงความเคารพอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่เจ้าของพวงหรีดจะเดินทางมาร่วมงานอย่างเป็นทางการ นอกจากพวงหรีดดอกไม้สดแล้ว ยังมีหรีดที่เป็นรถจักรยานโดยทางเจ้าภาพจะนำไปมอบให้แก่เด็กยากจนหลังเสร็จพิธีงานศพกันต่อไป
       
       คาดว่าประมาณวันที่ 30-31 ส.ค.นี้ จะมีลูกศิษย์ที่เคารพอาจารย์กิมน้ำ เดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน โดยเฉพาะจากต่างประเทศ เช่น ปีเตอร์ลัม, เอลเบิร์กหยาง ซึ่งเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงมากจากฮ่องกง และนักแสดงชื่อดัง เช่น หลิว เต๋อ หัว (Andy Lau), เหลียง เฉา เหว่ย (Tony Leung), ซู ฉี (Shu Qi), เยิ่น เสียนฉี (Richie Ren)
       

รายงานข่าวจากฮ่องกงเปิดเผยว่าเหล่านักแสดง, ผู้กำกับ และผู้คนในแวดวงบันเทิงฮ่องกงต่างเดินทางมาเมืองไทย เพื่อเคารพศพ "หลวงปู่มังกรขาว-อาจารย์กิมน้ำ แซ่จิว" ที่ถึงแก่กรรมด้วยโรคหลอดลมอักเสบในวัย 76 ปี
       
       ข่าวระบุว่า แอนดรู เลา หรือ หลิวเหว่ยเฉียง ผู้กำกับหนังชุด Infernal Affairs ถึงกับหยุดงานทันทีเมื่อได้ทราบข่าว และเดินทางมาถึงประเทศไทยเพื่อเคารพศพร่างทรงของ "หลวงปู่มังกรขาว" อาจารย์กิมน้ำ แซ่จิว ที่เสียชีวิตลงเมื่อไม่กี่วันก่อน เช่นเดียวกับ นักแสดงตลกชื่อดัง เจิ้งจือเหว่ย (Eric Tsang) ก็เดินทางตรงมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ทันที
       
       ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า หลิวเหว่ยเฉียง เดินทางกลับถึงฮ่องกงด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสตามปกติ แต่ระหว่างให้สัมภาษณ์เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการเดินทางไปเคารพศพของหลวงปู่มังกรขาว ผกก. ชื่อดังก็ดูมีใบหน้าที่เศร้าหมองลงทันที
       
       โดยเขาเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือน เขาเพิ่งจะเดินทางมาเมืองไทยเพื่อพบกับหลวงปู่มังกรขาว และได้รับคำแนะนำให้ทำงานให้หนักต่อไป หลิวเหว่ยเฉียง ยังเปรยว่าเขาอาจจะไม่สามารถมาร่วมในพิธีศพในวันที่ 1 ก.ย. ได้เพราะติดงานถ่ายในหนังช่วงนั้นพอดี "งานต้องมาก่อน ตอนนี้กำลังถ่ายทำ From Vegas to Macau อยู่ด้วย ถ้าหาเวลามาได้ก็จะมาแน่นอน คนในวงการคงไปกันเยอะนะครับในวันนั้น"
       
       ฝ่าย เจิ้งจือเหว่ย ก็กล่าวว่าเขาทำใจกับความสูญเสียได้แล้ว ส่วนเรื่องพิธีศพนั้นอาจจะต้องดูตารางการทำงานก่อน เพราะในช่วงนั้นจะมีการประกวดมิสฮ่องกงพอดี ถ้าบริษัทอนุญาตเขาก็อยากจะไปร่วมไว้อาลัย
       

"หวาง เจี้ยนหลิน " (Wang Jianlin) นักธุรกิจที่ครองตำแหน่งผู้ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของจีนกำลังขยายอาณาจักรธุรกิจของตัวเอง ไปสู่ตลาดสินค้าทางวัฒนธรรม เพื่อตำแหน่งผู้นำแห่งอุตสาหกรรมบันเทิง หลังครองความยิ่งใหญ่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาแล้ว
       
       Wanda Media บริษัทผลิต และจัดจำหน่ายภาพยนตร์ ที่เป็นบริษัทลูกของ Dalian Wanda Group กำลังรุกอย่างหนักในธุรกิจสายบันเทิง และวัฒนธรรม ด้วยการเปิดตัวหนังฟอร์มใหญ่ที่ว่าด้วยเรื่องรักในราชสำนักชิง The Palace
       
       The Palace ที่มีฉากหลังอยู่ในสมัยราชวงศ์ชิง มีดาราสาว โจวตงยู่ ผู้แจ้งเกิดจาก Under The Hawthorn Tree ของ จางอวี้โหมว รับบทนำร่วมกับ ลู่ยี่, จ้าวลี่หยิง และเฉินเซียว ภายใต้การกำกับของ พานอันซื่อ เพิ่งได้เปิดฉายในจีนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และถือว่าเป็นผลงานล่าสุดของบริษัทผลิตภาพยนตร์ ที่กำลังเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานทั้งในตลาดหนังจีน และธุรกิจบันเทิงระดับโลก
       
       เมื่อปีก่อน Wanda เพิ่งจะสร้างความฮือฮาด้วยการทุ่มเม็ดเงินมหาศาล 2,600 ล้านเหรียญฯ เพื่อซื้อ AMC Entertainment เครือโรงภาพยนตร์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐฯ จนทำให้ Wanda กลายเป็นบริษัทที่ดำเนินกิจการโรงภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่ในเวลาเดียวกันก็ยังขยายงานธุรกิจด้านการจัดจำหน่าย และผลิตภาพยนตร์ควบคู่กันไปด้วย
       
       โดยตลอด 3 ปีข้างหน้า Wanda ยังมีแผนที่จะจัดสร้าง และจัดจำหน่ายภาพยนตร์ให้ได้ปีละ 9 และ 8 เรื่องเป็นอย่างต่ำ ทั้งกับการจัดจำหน่ายหนังฮอลลีวูดที่ฉายในเมืองจีน และยังมองไปที่โอกาสการร่วมทุนสร้างหนังกับบริษัทจากต่างประเทศ

       "โจวซวิ่น" (Zhou Xun), "กู่เทียนเล่อ" (Louis Koo), "หลิวชิงเหวิน" (Sean Lau) และ "แดเนียล วู" (Daniel Wu) ร่วมงานฉลองปิดกล้องหนัง Overheard ภาค 3 ที่งานนี้ดาราสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ได้โอกาสยืนยันชัดเจน ว่าเธอไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับทั้ง "เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) หรือ "เหลียงเฉาเหว่ย" (Tony Leung) อย่างที่มีข่าวซุบซิบกันแน่นอน
       
       การเดินทางมาฮ่องกงทำให้สาวหน้าใสวัย 38 ปี โจวซวิ่น ต้องโดนกระแสข่าวลือจากสื่อในฮ่องกงมากมาย ทั้งที่ว่าเธอคือผู้หญิงคนใหม่ของ เซียะถิงฟง ที่ออกเดตกันมาได้ถึงร่วม 8 เดือนแล้ว ต่อมายังมีข่าวว่าอันที่จริงแล้วเธอกำลังปลูกต้นรักลักลอบมีความสัมพันธ์กับ เหลียงเฉาเหว่ย สามีของ หลิวเจียหลิง (Carina Lau) ต่างหาก
       
       และข่าวบางสำนักก็ไปไกลถึงขั้นวิเคราะห์ว่า โจวซวิ่น พยายามเข้าไปตีสนิทกับ เซียะถิงฟง ก็เพื่อทำให้ เหลียงเฉาเหว่ย หึงหวงนั่นเอง
       
       ซึ่งหลังจากปล่อยให้ผู้จัดการส่วนตัวปฏิเสธข่าวแทนมาพักใหญ่ ล่าสุดในงานอีเวนต์ดังกล่าว โจวซวิ่น จึงได้โอกาสปัดข่าวเองอย่างเป็นทางการ โดยเธอยืนยันว่าตนเองเดินทางมาฮ่องกงด้วยเหตุผลอื่น ไม่ได้มาเพราะ เหลียงเฉาเหว่ย หรือ เซียะถิงฟง แน่นอน แต่หากจะให้บอกว่าหนุ่นคนไหนทำให้เธอมาฮ่องกงจริงๆ ก็คงเป็น หลิวชิงหวิน เท่านั้นเอง
       

"จางจื่อหลิน" (Zhang Zilin) อดีตมิสเวิล์ดปี 2007 ได้ควงแฟนหนุ่มสลโสดแล้วที่ภูเก็ต ประเทศไทย โดยจัดพิธีแต่งงานสุดเรียบง่ายริมทะเลท่ามกลางสักขึพยานเป็นสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนสนิทไม่กี่คนเท่านั้น
       
       ตามรายงานระบุว่าพิธีแต่งงานที่จัดขึ้นนี้ใช้เวลาประมาณ 2 เดือนในการเตรียมงาน และจัดการรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับพิธีดังกล่าว ซึ่งรวมถึงการจองที่พักและตั๋วเครื่องบินเพื่อใช้สำหรับงานแต่งงานครั้งนี้ด้วย
       
       โดยทั้งคู่ได้เลือกสถานที่จัดพิธีแต่งงานที่ประเทศไทย เพราะทั้งจางจื่อหลินและคู่หมั้นก็เป็นคนรักธรรมชาติด้วยกันทั้งคู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่างก็ชื่นชอบทะเลเป็นพิเศษ และเมื่อมีโอกาสเดินทางมาที่เกาะภูเก็ตเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทั้งคู่ต่างก็ตกหลุมรักสถานที่แห่งนี้และตัดสินใจร่วมกันว่าจะให้ภูเก็ตเป็นสถานที่จัดงานแต่งงานของพวกเขา
       
       ในรายงานยังระบุด้วยว่า นีล (Neil) สามีของจางจื่อหลินไม่ใช่คนในวงการบันเทิงและไม่ได้มีชื่อเสียงใดๆทั้งสิ้น โดยทั้งคู่ไม่ได้เชิญสื่อหรือคนดังคนอื่นๆมาร่วมงานครั้งนี้ ซึ่งมีเพียงแต่สมาชิกในครอบครัวและเพื่อนสนิทอีกสิบกว่าคนของทั้งสองฝ่ายเท่านั้น
       
       จางจื่อหลิน สาวงามจากประเทศจีน ได้ครองตำแหน่งมิสเวิล์ดประจำปี 2007 ซึ่งครั้งนั้นจัดขึ้นที่ ไห่หนาน ทางตอนใต้ของประเทศจีน

      ผู้เข้ารอบในการประกวดค้นหาสาวงามแห่งเกาะฮ่องกงประจำปี 2013 ได้โอกาสโชว์รูปร่างในชุดว่ายน้ำให้สื่อมวลชนเก็บภาพเป็นครั้งแรก ในวันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา
       
       เช่นเดียวกับการประกวดในทุกเวทีที่การโชว์รูปร่างในชุดว่ายน้ำดูจะกลายเป็นไฮไลท์สำคัญอย่างหนึ่งไปแล้ว และผู้เข้ารอบสุดท้ายของมิสฮ่องกงประจำปี 2013 ก็ได้อวดสัดส่วนรูปร่างให้เห็นเต็มตาเป็นครั้งแรก ในทูพีซสีชมพู และสีฟ้าสดใสไปเมื่อวันอังคาร
       
       ซึ่งผู้เข้าประกวดที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ก็มี

• หมายเลข 2 วิทนีย์ ลอว์ (Whitney Law / 羅紫君),
• หมายเลข 5 แอชลี จู (Ashley Chu / 朱智賢),
• หมายเลข 7 อัสกา ซัม (Acca Sum / 沈桂澄),
• หมายเลข 13 แทมมี อู๋หยาง (Tammy Ou Yang / 歐陽巧瑩),
• หมายเลข 14 ซารา หลิม (Sara Lam / 林思韻),
• หมายเลข 16 แป็กกี สวี (Peggy Tsui / 徐韶蓓) 
• และหมายเลข 20 วิกกี้ เฉิน (Vicky Chan / 陳偉琪)

ส่วนหมายเลข 17 เกรซ เฉิน (Grace Chan / 陳凱琳) ก็คว้ารางวัลพิเศษเป็น Tourism Ambassador Award ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
       
       โดยมิสฮ่องกงเวทีประกวดความงามที่เก่าแก่และจัดต่อเนื่องมาหลายสิบปีของ TVB จะประกวดรอบสุดท้ายกันในวันที่ 1 ก.ย. ที่จะถึงนี้ต่อไป

Manager Online

"อู๋เจี้ยนหาว" หรือ "แวนเนส F4" (Vanness Wu) ประกาศแต่งงานแล้วกับ "อริสซา เหยา" (Arissa Yao) หรือ "เหยาเจียหนิง" แฟนสาวชาวสิงคโปร์ โดยยื่นเรื่องขอจดทะเบียนสมรสไปแล้วตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา
       
       หลังจากคบหากันมานานกว่า 7 ปี นักร้อง-นักแสดงหนุ่มชาวไต้หวัน แวนเนส อู๋ และ อริสซา เหยา แฟนสาวชาวสิงคโปร์ได้ ยื่นเรื่องขอจดทะเบียนสมรสกันเรียบร้อยแล้วที่สิงคโปร์บ้านเกิดฝ่ายหญิงเมื่อวันชาติสิงคโปร์ หรือวันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา
       
       ซึ่งการประกาศข่าวดีครั้งนี้เป็นการประกาศผ่านโลกสังคมออนไลน์ตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 ส.ค. โดยแวนเนส ที่เพิ่งอายุครบ 35 ปีไปเมื่อวันที่ 7 ส.ค. ก็ได้แชร์ข่าวดีโดยระบุว่าการแต่งงานนี้เป็นของขวัญที่ดีที่สุดของเขา "ผมเลือกที่จะประกาศข่าวดีนี้ในวันวาเลนไทน์ของจีน ( 13 ส.ค. ) เพราะว่ามันเป็นวันที่โรแมนติกดีครับ"
       
       พร้อมกันนั้น แวนเนส ยังได้โพสต์ภาพถ่ายวัยเด็กของทั้งคู่ลงในไมโครบล็อกของตนเอง พร้อมเขียนว่า "ผมได้ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว! ขอพระเจ้าอวยพรพวกเราด้วย"
       
       ทางด้านต้นสังกัดของเขาก็ได้แถลงข่าวถึงเรื่องนี้เช่นกัน โดยระบุยืนยันว่า "แวนเนส และ อริสซา อยากแบ่งปันความสุขของพวกเขากับเพื่อนๆทุกๆคน และพวกเขาหวังว่าทุกๆคนจะอวยพรให้กับพวกเขาเช่นกัน"
       
       ขณะเดียวกันแวนเนส ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการแต่งงานหลังจากที่เขากลับมาถึงไต้หวันเพียงลำพังเมื่อคืนนี้ โดยเจ้าตัวมีสีหน้าร่าเริงแจ่มใสพร้อมกล่าวอย่างอารมณ์ดี "ผมเชื่อว่าแฟนๆจะแสดงความยินดีกับผมในเรื่องนี้นะครับ"

       ผู้สร้างได้ปล่อยภาพของ 2 นักแสดงนำจาก Young Detective Dee: Rise of the Sea Dragon หรือภาคล่าสุดของหนังนักสืบแห่งราชวงศ์ถัง “ตี๋เหรินเจี๋ย” ให้ชมเป็นการเรียกน้ำย่อย สำหรับภาคที่จะกลับไปเล่าเรื่องในช่วงที่ตัวละครยังหนุ่มแน่น และแน่นอนว่าไม่ได้มี “หลิวเต๋อหัว” (Andy Lau) กลับมารับบทนำแต่อย่างใด
       
       Huayi Brothers ได้ปล่อยภาพชุดล่าสุดของ Young Detective Dee: Rise of the Sea Dragon ให้แฟนๆ ได้ชมกันกับภาพตัวละครคู่รักที่สวมบทบาทโดยนางแบบสุดฮอต แอนเจลาเบบี้ (Angela Baby) และดาราหนุ่มชาวเกาหลีใต้ คิมบอม (Kim Bum) เพื่อเป็นการฉลองวันแห่งความรักแบบจีน หรือวันเจ็ดนางฟ้านั่นเอง
       
       ซึ่งทั้งสองถือเป็นส่วนหนึ่งของนักแสดงรุ่นใหม่ที่จะมารับบทเด่นในภาคล่าสุดของ ตี๋เหรินเจี๋ย ที่คราวนี้จะกลับไปเล่าถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าในหนังภาคแรก ที่ประกอบไปด้วยดาราดังอาทิ เฝิงเจ้าเฝิง, เคนนี หลิน และสำหรับบทนำผู้สร้างได้เลือก จ้าวโหย่วถิง (Mark Zhao) ให้มาสืบทอดบท ตี๋เหรินเจี๋ย แทน หลิวเต๋อหัว
       
       โดยหนังจะมีนักแสดงจากภาคแรกเพียงคนเดียวที่กลับมารับบทเดิมคือ หลิวเจียหลิง (Carina Lau) ที่จะสวมบทบาทเป็นพระนางบูเช็กเทียนในวัยสาวกว่าที่เธอเคยแสดงเอาไว้จนได้รับคำชมนั่นเอง
       
       Young Detective Dee: Rise of the Sea Dragon เป็นผลงานของ ฉีเคอะ เช่นเดียวกับหนังภาคแรก และมีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 28 ก.ย.ที่ทั้งฮ่องกง และจีนแผ่นดินใหญ่
     

       "จางจื้อยี่" (Zhang Ziyi) นักแสดงหญิงชื่อดังประสบความสำเร็จจากการชิงตำแหน่งนักแสดงหญิงรายได้มากที่สุดของจีนมาครองจาก "จางม่านอวี้" (Maggie Cheung) ที่ปีนี้ตกไปอยู่อันดับสอง
       
       ตามรายงานจาก หูหนาน ทีวี ได้มีการจัดอันดับ 10 นักแสดงหญิงที่ทำรายได้มากที่สุด โดยรวบรวมจากจีนแผ่นดินใหญ่, ฮ่องกง และ ไต้หวัน โดยดูรายได้จากงานโฆษณา, ผลงานเพลง, ภาพยนตร์ และการปรากฏตัวตามสื่อที่ถูกตีพิมพ์
       
       ซึ่งการจัดอันดับครั้งนี้ จางจื้อยี่ ขึ้นแท่นมาเป็นอันดับ 1 ซึ่งนักแสดงสาวที่โด่งดังสุดๆจากเรื่อง Crouching Tiger, Hidden Dragon เมื่อปี 2000 ได้ปรากฏตัวในภาพยนตร์สุดฮิตหลายต่อหลายเรื่องนับจากนั้นทั้ง House Of Flying Daggers และ Memoirs Of A Geisha ซึ่งชื่อเสียงต่างๆส่งให้เธอมีรายได้มากถึง 120 ล้านหยวน หรือ 19.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
       
       โดยที่ 2 ตกเป็นของ จางม่านอวี้ นักแสดงสาวชื่อดังที่โด่งดังเป็นพลุแตกเมื่อสมัยยุค 90 โดยจางม่านอวี้มีรายได้อยู่ที่ 110 ล้านหยวน ซึ่งเสียตำแหน่งดังกล่าวให้จางจื้อยี่เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเจ้าตัวไม่ค่อยปรากฏตัวออกสื่อมากนัก
       

       อดีตนางเอกหนังชุดกำลังภายในแห่งยุค 70s - 80s ที่ถึงตอนนี้ด้วยวัยขึ้นเลข 5 ไปแล้ว แต่ "หวีอันอัน" (Candice Yu / 余安安) ก็ยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงต่อไป มีผลงานออกมาให้เห็นต่อเนื่อง ในบทบาทหลากหลายที่แทบไม่เหลือภาพของจอมยุทธหญิงในหนังยุทธจักรให้เห็นอีกแล้ว
       
       นอกจาก หมีเซียะ (Michelle Yim) ที่เพิ่งสร้างความฮือฮาด้วยรูปโฉมในวัยเฉียด 60 แล้ว ก็ยังมี หวีอันอัน อีกคน ที่เริ่มต้นงานอาชีพนักแสดงกันตั้งแต่ในยุค 70s และยังคงอยู่เป็นตัวแม่ของวงการบันเทิงฮ่องกงจนถึงปัจจุบัน
       
       หวีอันอัน (แคนดิซ อวี่) ที่มีชื่อจริงว่า "อวี่เตอหยิง" เริ่มต้นอาชีพนักแสดงตั้งแต่อายุแค่ 16 ปี ในหนังเรื่อง Let's Rock ที่ทำให้เธอได้เซ็นสัญญากับบริษัทชอว์บราเดอร์ จนได้เปิดตัวในหนังแนวสะท้อนสังคม ที่นำเสนอชีวิตของผู้หญิงค้าบริการ Massage Girls ประกบคู่กับ โจวเหวินฟะ (Chow Yun Fat) ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าหลังจากนั้นอีก 6 ปี ทั้งสองได้กลายเป็นสามีภรรยากันอยู่ช่วงสั้นๆ เป็นข่าวที่เกรียวกราวอยู่ในช่วงนั้นไม่น้อยเลย
       

      จากเดิมที่เคยถูกวางโปรแกรมไว้ปลายปี Tiny Times 2.0 ของ "กัวจิงหมิง" (Guo Jingming) ถูกเลื่อนมาลงโรงในช่วงนี้ตามกระแสที่กำลังเป็นที่พูดถึง ซึ่งถือว่าเป็นการเข้าฉายหลังภาคแรกเพียงไม่กี่เดือน แต่ก็ยังสามารถทำเงินได้มหาศาลตามคาด
       
       Tiny Times 2.0 ที่เล่าเรื่องชีวิตของเพื่อนผู้หญิง 4 คน เป็นผลงานการกำกับของ กัวจิงหมิง ที่นำนิยายของตัวเองมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ และสามารถทำรายได้ในการฉายวันแรกไปถึง 52.1 ล้านหยวน (ประมาณ 265.4 ล้านบาท) เฉพาะแค่รอบมิดไนท์ปฐมทัศน์ก็กวาดรายได้ไปถึง 2.26 ล้านหยวนแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นหนังที่ฉายเฉพาะระบบ 2D ที่เปิดตัวได้สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ในวงการหนังจีนไปแล้ว
       
       โดยหนัง 2D ที่ทำเงินมากที่สุดก็คือ Tiny Times ภาคแรกที่มีนักแสดงนำอย่าง หยางมี่ (Yang Mi) และ แอมเบอร์ กัว (Amber Kuo) นั่นเอง กับการทำรายได้ในสัปดาห์แรกที่เข้าฉายเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ไปถึง 77.4 ล้านหยวน (394.4 ล้านบาท) ที่ถือว่าเป็นการคว่ำหนังฮอลลีวูด Man of Steel ที่เปิดตัวพร้อมกันได้ และยังกวาดเงินไปตลอดโปรแกรม 483 ล้านหยวน (2464 ล้านบาท) จากทุนสร้างแค่ 45 ล้านหยวน (229.3 ล้านบาท) เท่านั้น
       
       ในเวลาเดียวกันแม้หนังจะประสบความสำเร็จทางด้านธุรกิจอย่างสวยงาม แต่ Tiny Times กลับไม่เป็นที่ชื่นชอบของนักวิจารณ์นัก และยิ่งไปกว่านั้นหนังยังถูกโจมตีจากคนจำนวนไม่น้อย ว่ากำลังสร้างค่านิยมในทางลบให้กับคนรุ่นใหม่ของประเทศ โดยเฉพาะการเพาะบ่มกระแสวัตถุนิยมขึ้นในหมู่คนจีนรุ่นใหม่ อย่างไรก็ตามบรรณาธิการของ People's Daily เชื่อว่าหนังไม่น่าจะอันตรายร้ายแรงอะไรขนาดนั้น