ข่าวจีน

       เพิ่งจะคว้ารางวัลนักแสดงดาวรุ่งแห่งปี พร้อมรางวัลนักแสดงสมทบหญิงของเวทีมอบรางวัลภาพยนตร์ฮ่องกง แต่ล่าสุด "ดาด้า-เฉินจิง" (Dada Chan Ching) กลับประกาศผ่านบล็อคส่วนตัวว่าเธอขอตัดสินใจถอนตัวจากวงการบันเทิงแบบดื้อๆ จนบรรดาผู้สร้างไม่พอใจ และต่อว่าเธอว่าทำตัวไม่เป็นมืออาชีพเอาเสียเลย
       
       "ชีวิตที่เต็มไปด้วยความเหน็ดเหนื่อย, ทั้งความน่ากลัวของข่าวกอสซิป, แรงกดดัน และความเจ็บปวดจากเรื่องต่าง ๆ เริ่มประดังมาพร้อมกัน เพื่อครอบครัว, สภาพจิตใจ และสุขภาพ รวมถึงปัญหาความรักของฉันเอง ทำให้ถึงเวลาต้องตัดสินใจค่ะ .... ฉันจะขอถอนตัวจากวงการ และอาชีพนักแสดง เพื่อขอกลับไปใช้ชีวิตเป็นคนธรรมดาอีกครั้ง เป็นแค่คนธรรมดาๆ มีชีวิตที่สามัญเหมือนคนอื่น ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจมาตลอด ขอบคุณจริงๆค่ะ" ดาด้า-เฉินจิง เขียนผ่านบล็อคส่วนตัว
       
       ดาราสาววัย 24 ปี ผู้โด่งดังมากับบทเซ็กซีวับๆ แวมๆ เพิ่งจะสร้างความฮือฮาด้วยการคว้ารางวัลตุ๊กตาทองสาขานักแสดงดาวรุ่งแห่งปี และนักแสดงประกอบหญิงยอดเยี่ยม จากผลงานการแสดงในหนังขวัญใจนักวิจารณ์ Vulgaria ที่งานมอบรางวัลตุ๊กตาทองฮ่องกงเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา แต่ในเวลาเดียวกันระยะหลัง เฉินจิง เองกลับต้องเผชิญกับข่าวในด้านลบอยู่เป็นระยะ
       
       โดยเมื่อไม่กี่วันก่อน เฉินจิง เพิ่งไปร่วมงานเปิดกล้อง Lan Kwai Fong 3 แต่กลับโดนวิจารณ์ว่าทำตัวเป็นดาราใหญ่ โดยข่าวระบุว่าระหว่างการสัมภาษณ์กลุ่ม เธอได้แสดงทีท่าว่าไม่อยากสัมภาษณ์พร้อมกับนักแสดงคนอื่น แต่เปรยให้นักข่าวสัมภาษณ์คนอื่นๆ ไปก่อน และยังแสดงออกเหมือนไม่อยากร่วมงานกับดาราสาวบางคนในวันนั้นด้วย
       
       ยังมีข่าวที่ว่าระยะหลังเธอเริ่มมีปัญหาเรื่องรูปร่าง จากการที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นถึง 8 ปอนด์ และรู้สึกเครียดกับเรื่องนี้มาก

สื่อดังแดนมะกันตีข่าวบริษัทผลิตภาพยนตร์อันดับ 1 ของประเทศไทย เตรียมสร้างหนังเพื่อตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ ที่งานนี้จะได้ดาวตลกซูเปอร์สตาร์ "โจวซิงฉือ" (Stephen Chow) มาร่วมงานด้วย
       
       The Hollywood Reporter รายงานว่า GTH กำลังเตรียมเดินเครื่องโปรเจ็คยักษ์ใหญ่สำหรับภาพยนตร์ที่จะสร้างเพื่อฉายที่ประเทศจีนโดยเฉพาะ ที่งานนี้จะได้ โจวซิงฉือ มาร่วมสร้างด้วย เป็นโปรเจ็คภาพยนตร์ร่วมทุนสร้างระหว่าง จีน/ไทย ที่จะมี บรรจง ปิสัญธนะกูลเจ้าของหนังทำเงินอันดับ 1 ตลอดกาลในเมืองไทย "พี่มาก..พระโขนง " เป็นผู้กำกับ
       
       โดยมีการอ้างอิงคำพูดของ ยงยุทธ ทองกองทุน ผู้บริหารของ GTH ที่กล่าวว่านี่จะถือเป็นความท้าทายใหม่ของ GTH กับการทำหนังที่มีเป้าหมายอยู่ที่ตลาดต่างประเทศเป็นหลัก และน่าจะเป็นก้าวแรกสำหรับความร่วมมือระยะยาวในอนาคตต่อไป
       
       ทาง GTH ยังเปิดเผยว่า โจวซิงฉือ เป็นฝ่ายที่เปิดโอกาสการทำงานร่วมกันครั้งนี้ขึ้น เพราะเขาเป็นแฟนหนังของ บรรจง และชื่นชอบในผลงานเก่าๆ ของผู้กำกับคนนี้หลายเรื่อง ทั้งหนังสยองขวัญ Shutter เมื่อปี 2004, กวนมึนโฮ ในปี 2010 และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังสั้น "คนกอง" ที่เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจ็ค "5 แพร่ง" ที่ดาวตลกชาวฮ่องกงเปรยว่าอยากจะเอามาสร้างใหม่มาก
       
       ซึ่งข่าวระบุว่าโครงการหนังเรื่องนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มของการพัฒนาเท่านั้น ข้อมูลคร่าวๆ คือหนังที่ทั้งสองฝ่ายร่วมกันสร้างจะเป็นแนวเขย่าขวัญ ที่นำแสดงโดยนักแสดงจีน และพูดภาษาจีนเป็นหลัก ด้วยทุนสร้างระหว่าง 15 - 40 ล้านหยวน (76 - 200 ล้านบาท) และถึงตอนนี้ยังไม่มีกำหนดเปิดกล้องที่แน่นอนแต่อย่างใด

       เว็บไซต์ Filmbiz รายงานว่าบริษัทภาพยนตร์ Edko (安樂影片有限公司) เตรียมจะหยิบเอาเรื่องราวของ "หวงเฟยหง" (Wong Fei-hung) กลับมาสร้างเป็นหนังอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ผู้สร้างเลือกที่จะเล่าเรื่องในช่วงวัยหนุ่มของยอดจอมยุทธที่เคยมีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์
       
       โดยข่าวระบุว่าขณะนี้หนังได้รับไฟเขียวจากหน่วยงานควบคุมด้านภาพยนตร์ของรัฐบาลจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้มีการมอบหมายให้ คริสตีน ตู้ (Christine TO / 杜緻朗) ที่เคยเขียนบทหนังกังฟูดังๆ อาทิ Fearless (霍元甲 [2006]) ที่เล่าถึงเรื่องราวของ ฮั่วหยวนเจี๋ย และ True Legend (蘇乞兒 [2009]) หนังเกี่ยวกับยาจกซู ให้มารับผิดชอบบทภาพยนตร์
       
       ซึ่งตามข่าวหนัง หวงเฟงหง เรื่องใหม่จะใช้ชื่อว่า "Rise of the Legend" (黃飛鴻) และจะเน้นเรื่องราวในช่วงวัยหนุ่มของ หวงเฟยหง ก่อนที่เขาจะเติบโต และพัฒนาฝีมือจนกลายเป็นครูมวยแห่งตำนานอย่างที่ปรากฎในหนังหลายๆเรื่อง
       
       หวงเฟยหง (1847 - 1924) เป็นครูมวยผู้เชี่ยวชาญเพลงหมัดหงกวน ที่โด่งดังอยู่ในแถบกวางตุ้ง เมื่อช่วงยุคก่อนสิ้นสมัยราชวงศ์ชิง ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีการนำชีวิตของท่านมาดัดแปลงเป็นหนัง และหนังชุดเพื่อฉายทางโทรทัศน์มากมาย ทำให้มีนักแสดงชื่อดังได้สวมบทบาทเป็น หวงเฟยหง มาแล้วจำนวนไม่น้อย
       

       ในหนังแฟนตาซี 3D The Fox Lover ของจีนแผ่นดินใหญ่ที่ดาราหนุ่ม "จางจือหลิน" (Julian Cheung) กับ "อาเจียว-จงซินถง" (Gillian Chung) รับบทนำ กลับปรากฏฉากโชว์แผ่นหลังอันเซ็กซีของดาราสาวคนสวยในตัวอย่างที่เพิ่งปล่อยออกมาให้ชมกัน แต่เธอเองกลับยืนยันว่าตนเองไม่ได้ถ่ายทำฉากดังกล่าวไปแน่นอน
       
       ในฉากหนึ่งของตัวอย่างหนัง The Fox Lover ที่มีกำหนดเข้าฉายในปลายเดือน ก.ย. ได้สร้างความฮือฮาด้วยภาพในตอนหนึ่งที่ อาเจียว ซึ่งรับบทนำเป็นปีศาจจิ้งจอกสาว ได้ลงทุนโชว์แผ่นหลังเซ็กซีให้ผู้ชมได้ดูกัน อย่างไรก็ตามผู้ชมบางส่วนกลับแสดงความเห็นว่า ดูจากรูปร่างแล้วไม่ค่อยเหมือนกับ อาเจียว ซักเท่าไหร่ หลายคนจึงเชื่อว่าน่าจะเป็นสแตนอินแน่ๆ
       
       ซึ่งผู้จัดการส่วนตัวของ อาเจียว ก็ได้แถลงยืนยันว่าคนที่เล่นฉากดังกล่าวคือสแตนอินแน่นอน เพราะดาราสาวไม่เคยถ่ายทำฉากนี้เองแต่อย่างใด พร้อมแจงว่า อาเจียว ยังไม่เคยรู้ว่ามีการถ่ายทำฉากแบบนี้ด้วยซ้ำ และในสัญญาก็ยังเขียนระบุชัดเจน ว่าหากจะมีการใช้สแตนอินมาเข้าฉากแทนเธอ ก็ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าก่อน เธอจึงไม่ค่อยพอใจที่ผู้สร้างหนังไม่ปกป้องเธออย่างที่ควรจะเป็น และต้องการคำอธิบายในเรื่องนี้ให้ชัดเจน

Manager Online

       คงจะไม่ใช่ความลับอะไรที่ทำให้พระเอกรุ่นใหญ่วัย 58 ปี มีรูปร่างผอมสะโอดสะองไม่แตกต่างอะไรกับตอนหนุ่มแน่น นอกจากการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง
       
       ผู้สื่อข่าวในฮ่องกงเพิ่งจะได้ภาพล่าสุดของ โจวเหวินฟะ (Chow Yun Fat) วัย 58 ปี ระหว่างออกมาจากบ้านในเวลาเช้ามืด ของเมื่อไม่กี่วันก่อน เพื่อออกกำลังกายด้วยการวิ่งตอนเช้าตามปกติ แม้ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งจะต้องเข้าฉากหนัง From Vegas To Macau จนดึกจนดื่นมาถึง 2 คืนติดกันแล้วก็ตาม
       
       และก็ไม่ใช่เพียงตัวของ โจวเหวินฟะ เท่านั้น แต่ เฉินลี่ฟง มารดาวัย 92 ปีของพระเอกดัง ก็ดูจะมีสุขภาพที่แข็งแรงด้วยเหมือนกัน โดยแม่ของพระเอกขวัญใจชาวฮ่องกงเพิ่งจะได้มีโอกาสมาร่วมงานเลี้ยงงานหนึ่ง และกล่าวถึงการรักษาสุขภาพของตัวเองว่า
       
       "ฉันจะออกจากบ้านไปว่ายน้ำที่ South China Club ทุกเช้าเวลาประมาณตี 4 ครึ่ง ถ้าไม่ว่ายน้ำเดี๋ยวพิการแน่ ตอนแรกๆ ลูกชายเขาก็ไปด้วย เป็นคนสอนฉันว่ายน้ำเอง แต่ถ้าไม่มีใครช่วยพาไป ก็ต้องไปเอง คนแก่เราต้องพยายามออกกำลังกายกันให้มาก"

Manager Online

สื่อในฮ่องกงเปิดเผยสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่แห่งฮ่องกงเล่นบทโหด ถึงขั้นขึ้นบัญชีดำนักแสดงชื่อดังหลายคน ที่มีพฤติกรรมปันใจไปให้คู่แข่ง รวมถึงเคยออกปากวิจารณ์สถานี โดยมีข้อมูลระบุว่านักแสดงชื่อดังอย่าง “หวงเย่อหัว” (Felix Wong / 黃日華) ก็มีชื่ออยู่ในบัญชีดำดังกล่าวด้วย

       หวงเย่อหัว ผู้โด่งดังจากบท ก๊วยเจ๋ง และหนังชุดหลายๆ เรื่องในยุค 80s, นักแสดงรุ่นใหญ่ ฉินเผ่ย (Paul Chun / 秦沛), วิลสัน ฉี (Wilson Tsui / 艾威) และ เซี่ยอวี่ (Ha Yu / 夏雨) คือส่วนหนึ่งของนักแสดงที่สื่อในฮ่องกงอ้างว่าโดนสถานีโทรทัศน์ TVB แบน ไม่ให้กลับมารับงานในช่องอีก
       
       โดยมาตรการดังกล่าวมีที่มาจากข้อพิพาทเรื่องการออกใบอนุญาตสถานีโทรทัศน์แห่งใหม่ในฮ่องกงที่ชื่อว่า HKTV ที่ดึงตัวนักแสดงหลายคนไปร่วมงาน ด้วยค่าตัวที่มากกว่า แต่แล้วกลับเกิดปัญหา ที่ทำให้ใบอนุญาตออกอากาศของ HKTV ถูกเลื่อนออกไปแบบไม่มีกำหนด จนนักแสดงหลายคนที่ตัดสินใจย้ายช่องไปแล้วเกิดอาการเซ็ง และบางคนก็ต้องการกลับไปทำงานกับ TVB อีกครั้ง
       
       และแม้ทาง TVB จะให้ข่าวว่าทางสถานีโทรทัศน์ยินดีต้อนรับทุกคนกลับบ้านหลังเดิม แต่ก็มีข่าวจากสื่อในฮ่องกงที่อ้างว่า นักแสดงบางคนคงจะหมดสิทธิ์กลับไปรับงานที่ TVB อีกครั้ง อย่างน้อยก็ในช่วงใกล้ๆนี้
       
       หวงเย่อหัว เป็นคนหนึ่งที่ข่าวบอกว่าโดน TVB หมายหัวไปแล้ว หลังเขาเคยวิจารณ์สถานีโทรทัศน์อย่างรุนแรงในปี 2010 ตอนที่พระเอกรุ่นใหญ่ไม่พอใจทาง TVB ว่าไม่ยอมโปรโมตผลงานเรื่อง Gun Metal Grey ที่เขาแสดงนำเลย และออกปากวิจารณ์ว่าสถานีโทรทัศน์ดังแห่งฮ่องกง มักจะให้สิทธิพิเศษกับดาราบางคน หรือหนังชุดบางเรื่องอย่างไม่เป็นธรรม

"หลินจื้ออิง" (Jimmy Lin) อดีตไอดอลหนุ่มชื่อดังแห่งไต้หวันที่สละโสดไปแล้วกับสาวนอกวงการ ล่าสุดเจ้าตัวเผยภาพถ่ายงานแต่งงานใน Weibo งานนี้ภรรยาสาวโดนแฟนคลับรุมด่าเต็มๆบอกหน้าเหมือนม้า เจ้าตัวรุดปกป้องบอกแต่งกับคนสวยแค่ไหนก็โดนด่าอยู่ดี
       
       หลินจื้ออิง นักแสดงหนุ่มชื่อดังวัย 38 ปี ต้องปวดหัวอย่างหนัก เมื่อ เคลลี เฉิน นางแบบสาวภรรยาของเขาวัย 28 ปี โดนวิจารณ์จากบรรดาแฟนคลับว่าหน้าตาเหมือนม้า หลังเห็นภาพถ่ายฉลองแต่งงานที่มัลดีฟส์ที่ฝ่ายชายโพสต์ใน Weibo เมื่อคืนวันพฤหัสฯที่ผ่านมา
       
       โดยไชน่า ไทมส์ ได้รายงานว่าแฟนๆต่างพากันเปรียบเทียบว่าเธอสวยไม่เท่า รูบี้ หลิน (Ruby Lin) หรือ หลินซินหยู นักแสดงสาวสวยชื่อดังอดีตแฟนสาวของหลินจื้ออิง ก่อนที่พวกเขาจะทิ้งข้อความถึงนักแสดงสาวอีกมากมาย โดยหนึ่งในนั้นระบุว่า "โชคร้ายจัง ที่เจ้าสาวไม่ใช่คุณ"
       
       ด้าน หลินจื้ออิง ได้จัดพิธีแต่งงานกับภรรยาสาวอย่างเป็นเรื่องเป็นราว หลังจากที่ภรรยาของเขาให้กำเนิดลูกชายตั้งแต่ปี 2009 ที่ผ่านมา
       
       และเพื่อเป็นการปกป้องภรรยาของเขาจากบรรดาแฟนๆ นักแสดงหนุ่มได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "ต่อให้หลินจื้อหลิง (Lin Chi Ling) มาเป็นภรรยาผม เธอก็จะโดนด่าอยู่ดีแหละครับ ผมแค่ทำในสิ่งที่ในชีวิตผมควรทำแค่นั้นเอง"

Manager Online

หลังมีรายงานข่าวออกมาว่า "เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) ม่ายหนุ่มชื่อดังกำลังซุ่มคบักแสดงสาวสวย "โจวซวิ่น" (Zhou Xun) จนกลายเป็นข่าวฮือฮาก่อนหน้านี้ ล่าสุดมีรายงานว่าทั้งคู่ได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวแล้วพร้อมแจงเรื่อง "จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) หอบลูกหนีไปแคนาดาบอก"เซียะถิงฟง"เป็นคนอนุญาตให้ไปเอง
       
       เรียกได้ว่ากลายเป็นข่าวใหญ่ทีเดียวเมื่อมีรายงานว่า เซียะถิงฟง นักแสดงหนุ่มชื่อดัง กำลังซุ่มคบหากับ โจวซวิ่น นักแสดงสาวสวยจากจีนแผ่นดินใหญ่ หลังมีคนเห็นทั้งคู่พักอยู่ในตึกเดียวกันและฝ่ายหญิงเดินทางมาฮ่องกงบ่อยครั้ง ล่าสุดทั้งคู่ได้ส่งตัวแทนออกมาปฏิเสธข่าวลือที่เกิดขึ้นแล้ว
       
       โดยข่าวลือทั้งหมดเกิดขึ้นโดยระบุว่า โจวซวิ่นและเซียะถิงฟงพบกันครั้งแรกในปาร์ตี้ดนตรีร็อกใต้ดินที่กรุงปักกิ่ง เมื่อช่วงปลายปีก่อน ทางโจวซวิ่นที่ถือสัญชาติฮ่องกงก็ได้เดินทางไปกลับฮ่องกงกับจีนแผ่นดินใหญ่อยู่หลายต่อหลายครั้งเพื่อทำงาน แต่หลังๆมานี้นักแสดงสาววัย 38 ปีได้ใช้เวลาอยู่ที่ฮ่องกงบ่อยขึ้นหลังมีข่าวว่าเธอกำลังคบหากับ เซียะถิงฟง โดยแหล่งข่าวระบุว่าการคบหากันของทั้งคู่รู้กันเฉพาะวงในเท่านั้น
       
       อย่างไรก็ตามหลังมีข่าวดังกล่าวออกมา เซียะถิงฟง ก็ได้ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ขณะโชว์ตัวในงานแห่งหนึ่ง โดยระบุเพียงว่า "อย่าเชื่อสิ่งที่คุณอ่านในรายงานพวกนั้น" ส่วนทางฟากผู้จัดการส่วนตัวก็ได้ออกมาชี้แจงข่าวลือในนามของนักแสดงดังว่า "เซียะถิงฟงครองตัวเป็นโสดนับตั้งแต่หย่าขาดกับจางป๋อจือ เป็นความจริงที่เซียะถิงฟงและโจวซวิ่นอาศัยอยู่ในตึกเดียวกัน แต่พวกเขาไม่ได้คบกันอย่างที่เป็นข่าว"
       

      ภาพนู้ดจำนวนหนึ่งของดาราเซ็กซี "แอนเจลินา จาง" (Angelina Zhang / Cheung Woon Nga) หลุดออกเผยแพร่ในเว็บไซต์ต่างๆ ที่เจ้าตัวยอมรับเป็นภาพที่เธอถ่ายเอาไว้ตั้งแต่ปี 2009 และเป็นการรับงานถ่ายภาพเพื่อศิลปะเท่านั้น
       
       ภาพนู้ดจำนวนทั้งสิ้น 17 ภาพของดาราสาว แอนเจลินา จาง เริ่มหลุดออกมาตามเว็บไซต์ต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค. และถูกส่งต่อในชุ่มชนออนไลน์ต่างๆ อย่างรวดเร็ว เป็นภาพที่ถ่ายจากบนเตียง และห้องอาบน้ำโดยไม่มีการเซนเซอร์ใดๆ ทั้งสิ้น ในภาพที่นางแบบเปลือยตัวล่อนจ่อน โดยเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นภาพของเธอจริง ที่ถ่ายเอาไว้ตั้งแต่ปี 2009 และยังย้ำว่า "เป็นภาพแนวศิลปะ" เท่านั้น
       
       อ้าง "งานศิลปะ"
       
       สื่อในฮ่องกงแสดงความเห็นว่าในภาพเมื่อ 4 ปีก่อน รูปโฉมของดาราสาวดูจะแตกต่างจากที่เห็นกันในปัจจุบันพอสมควร โดยเฉพาะหน้าอกขนาด 34D ของเธอ ซึ่งก็น่าจะแสดงให้เห็นว่า ภาพทั้งหมดถ่ายเอาไว้ก่อนที่เธอจะแปลงโฉมใหม่อย่างที่คนคุ้นเคยกันในปัจจุบัน แต่อย่างน้อย รอยสักบนร่างก็พอจะยืนยันได้ว่าหญิงในภาพคือเธอจริงๆ
       
       โดยดาราสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่เป็นที่รู้จักจากบทในหนังเซ็กซีทั้ง Lan Kwai Fong 2 และ Due West: Our Sex Journey ซึ่งมีข่าวลือกันว่าภาพหลุดเหล่านี้ อาจเป็นฝีมือการปล่อยของ "ปีเตอร์" อดีตผู้จัดการส่วนตัวของเธอ หลังดาราสาวมีปัญหาเรื่องสัญญากับต้นสังกัด

นับได้ว่าข่าวคราวระหว่าง 2 นักร้องดัง "โจลิน ไช่" (Jolin Tsai) และ "โจวเจี๋ยหลุน" หรือ "เจย์ โจว" (Jay Chou) ได้ยุติไปนานแล้ว หลังทั้งคู่เคยมีข่าวเป็นแฟนกัน สมัยกระแสไต้หวันกำลังมาแรง โดยตอนนี้ต่างฝ่ายต่างมีคนรักใหม่แล้ว ทำให้ "โจลิน"ยอมเผยถึงเรื่องดังกล่าวเป็นครั้งแรก
       
       ระหว่างการให้สัมภาษณ์ทางสถานีวิทยุแห่งหนึ่ง ขณะกำลังพูดถึงเรื่องราวของตนเอง โจลิน ก็ได้เปิดเผยถึงช่วงเวลาอกหักของตนเองที่ใช้เวลายาวนานถึงหนึ่งปี กว่าจะเดินออกมาจากความสัมพันธ์ครั้งเก่าได้
       
       โดยโจลิน ได้เผยว่า ความรักระหว่างเธอกับเจย์ โจว ไม่ได้เปิดเผยต่อสื่อ และเป็นสัมพันธ์รักที่จริงจังมั่นคง จนกระทั่งเจย์ โจว ได้ไปพบรักกับ แพตตี โหว (Patty Hou) เมื่อเดือน ก.พ. ปี 2005 ซึ่งในเวลานั้นมีข่าวต่างๆออกมามากมาย แต่โจลิน ก็ยังคงปฏิเสธสัมพันธ์รักระหว่างเธอกับเจย์ โจว ถึง 2 ครั้ง ด้วยกันเมื่อเจอสื่อถามถึงเรื่องของเจย์ หลังมีข่าวลือรักครั้งใหม่ของเขาหลุดออกมา
       
       โดยหลังจากนั้นไม่นาน ภาพถ่ายสุดสวีทระหว่างเจย์ โจว กับ แพตตี โหว ที่ควงกันที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่นถูกเผยแพร่ไปทั่ว โจลินกล่าวว่า ตอนนั้นเธอยังลังเลที่จะเลิกกับเขา แม้จะมีภาพถ่ายหลุดออกมาแล้วก็ตาม "ตอนนั้นฉันทนไม่ได้ที่จะปล่อยเขาไป และคิดหาหนทางให้ความสัมพันธ์ของเรากลับมาดีเหมือนเดิม"
       

เอเอฟพี - ด้วยข้อขัดแย้งเรื่องภาษีจากรายได้ของหนัง สื่อจากสหรัฐฯ ได้รายงานว่าจีนได้หยุดจ่ายเงินส่วนแบ่งจากรายได้หนังเรื่องต่างๆ ให้กับสตูดิโอฮอลลีวูดมาพักหนึ่งแล้ว และถึงตอนนี้น่าจะมีตัวเลขค้างจ่ายระดับหลายสิบล้านเหรียญฯ ไปแล้ว
       
       The Hollywood Reporter เปิดเผยว่าตอนนี้สตูดิโอใหญ่ในฮอลลีวูด ทั้ง Disney, Warner, Universal, Paramount, Fox และ Sony ต่างยังไม่ได้รับเงินจำนวนรวมกันหลายสิบล้านเหรียญฯ จากบริษัทจัดจำหน่ายภาพยนตร์ในจีน ที่เป็นของรัฐบาลเลย
       
       โดยนิตยสารชื่อดังอ้างว่า บริษัทจัดจำหน่ายยักษ์ใหญ่ China Film Group ที่เป็นของรัฐบาลจีน ค้างจ่ายเงินจำนวน 31 ล้านเหรียญฯ ที่เป็นกำไรจาก Man of Steel ให้ Warner, 23 ล้าเหรียญฯ จาก Skyfall สำหรับ Sony และ 23 ล้านเหรียญฯ จาก Life of Pi สำหรับกรณีของ Fox
       
       จีน เพิ่งจะมาเริ่มหยุดส่งเงินส่วนแบ่งให้กับบริษัทหนังจากสหรัฐฯ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา หลังสตูดิโอใหญ่หลายแห่งมีปัญหา ไม่พอใจการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มพิเศษอีก 2% จากรายได้ของหนังฮอลลีวูดที่เข้ามาฉายในเมืองจีน โดยฝ่ายเจ้าหน้าที่จีนต้องการให้ทางสตูดิโอจากตะวันตกรับผิดชอบจ่ายภาษีในส่วนนี้ แต่เหล่าสตูดิโอต่างๆ กลับโต้เถียงว่านี่ถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงด้านการซื้อขายภาพยนตร์ ขององค์กรการค้าโลก
       
       โดยเมื่อปีก่อนเพิ่งเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้นเมื่อสองประเทศได้บรรลุข้อตกลงสำคัญ ที่จีนได้ตัดสินใจเพิ่มโควต้าจำนวนหนังฮอลลีวูด ที่จะอนุญาตให้ฉายในประเทศจากเดิม 20 เรื่องต่อปี เป็น 34 เรื่องต่อปี ส่วนสตูดิโอจากฮอลลีวูดก็จะได้ส่วนแบ่งรายได้เพิ่มขึ้นจาก 13% เป็น 17%

       ห่างหายจากการเล่นหนังว่าด้วยเกมการพนันไปพักใหญ่ ล่าสุด "โจวเหวินฟะ" (Chow Yun Fat / 周潤發) เตรียมหวนคืนสู่บทบาทที่แฟนๆ คุ้นเคยกันอีกครั้งใน Casino (賭城風雲) ผลงานใหม่ที่เตรียมเข้าฉายในช่วงตรุษจีนปีหน้าที่มี "หวังจิง" (Wong Jing / 王晶) เป็นผู้กำกับ และร่วมแสดงด้วย "เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse / 謝霆鋒) และ "ตู้เหวินเจ๋อ" (Chapman To / 杜汶澤)
      
       อย่างไรก็ตามผู้สร้างยังยืนยันว่าบทบาทการแสดงในหนังเรื่องนี้ของ โจวเหวินฟะ จะไม่ใช่บท "โคตรเซียน-เกาจิ้ง" แต่อย่างใด แม้ชื่อหนังภาษาจีนจะมีคำว่า "Du Shen" ที่แปลว่าโคตรเซียนอยู่ด้วยก็ตาม
       
       โดย Casino จะเป็นหนังตรุษจีนเรื่องแรกในรอบ 25 ปีของ โจวเหวินฟะ ถัดจากเรื่องที่แล้วอย่าง "สามคู่ชู้เฮง" (Eight Happiness / 八星報喜) ที่เข้าฉายในเทศกาลปีใหม่จีนในฮ่องกงเมื่อ 1988 นอกจากนั้นหนังเรื่องนี้ยังเป็นผลงานการสร้างของ TVB จึงถือว่าเป็นงานที่ทำให้พระเอกรุ่นใหญ่ได้กลับบ้านหลังเดิม ที่เคยสร้างชื่อให้เขาโด่งดังขึ้นมาในวงการโทรทัศน์เมื่อ 30 ปีก่อนด้วย
       
       "เซียะถิงฟง เป็นไอดอลของผมเลยครับ" โจวเหวินฟะ กล่าวในการแถลงข่าวถึงนักแสดงหนุ่มรุ่นหลาน ที่กำลังจะได้ร่วมงานกันเป็นครั้งแรก หลังเขาเคยร่วมงานกับ เซียะเสียน (Patrick Tse / 謝賢) ผู้เป็นพ่อของเซียะถิงฟงมาแล้ว "ถ้าไม่เล่นหนังกับเขา ก็ไม่รู้จะเข้าหน้าพ่อกับแม่ของเขายังไงเลยนะครับ ... พ่อเขาดูแลผมมาดีมา ก็จะพยายามไม่รังแกอะไรเขาก็แล้วกันนะ"
       

      หลังกลับมาเป็นโสด "เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) ก็มีข่าวกับสาวในวงการอยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนเรื่องรักครั้งใหม่ของเขาจะเงียบๆไป กระทั่งล่าสุดมีรายงานว่านักแสดงหนุ่มชาวฮ่องกง กำลังปลูกต้นรักอยู่กับซูเปอร์สตาร์แห่งวงการบันเทิงจีนแผ่นดินใหญ่ที่ชื่อว่า "โจวซวิ่น" (Zhou Xun)
       
       เรียกว่าดาราหนุ่มลูกสองคนนี้คบหาแต่สาวๆ ที่โด่งดังระดับซูเปอร์สตาร์แถวหน้าล้วนๆ ตั้งแต่เมื่อครั้งเคยดูใจอยู่กับนักร้องดัง หวังเฟย (Wang Fei) จนแต่งงานกัน จางป๋อจือ ก่อนจะหย่าขาดจากกันไปในที่สุด และกระทั่งล่าสุดมีรายงานว่า เซียะถิงฟง ได้เริ่มออกเดตกับ โจวซวิ่น ดาราสาวหน้าใสวัย 38 ปี แบบเงียบๆ มาเป็นเวลาถึง 6 เดือนแล้ว
       
       โดยสื่อในฮ่องกงเปิดเผยว่าหลัง เซียะถิงฟง วัย 32 ปี เลิกรากับ จางป๋อจือ ไป โจวซวิ่น คือผู้หญิงคนแรกที่เขาค่อนข้างจะจริงจังด้วย โดยทั้งคู่เริ่มสนิทสนมกันมาตั้งแต่ปลายปีก่อน เพราะระยะหลังเขามีโอกาสไปใช้เวลาอยู่ที่กรุงปักกิ่งบ่อยๆ ด้วยเรื่องงาน จนมีโอกาสได้ทำความรู้จักกับ โจวซวิ่น ในช่วงนี้เอง ซึ่งเพราะทั้งสองดูจะมีความสนใจในอะไรที่คล้ายๆกัน ความสัมพันธ์จึงคืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว ล่าสุดข่าวยังเปิดเผยว่าตอนนี้ โจวซวิ่น ขอเป็นฝ่ายย้ายมาพักอยู่ที่ฮ่องกงบ้าง และยังเลือกที่พักเป็นอาคารหลังเดียวกับ เซียะถิงฟง เพื่อว่าจะได้ใช้เวลาด้วยกันให้มากขึ้นด้วย
       

       เอเอฟพี--ณ เวลานี้ ซูเปอร์สตาร์จากแดนกิมจิ ช็อน จี-ฮย็อน (Jun Ji Hyun) ได้ก้าวขึ้นมาผงาดบนเวทีแฟชั่นของคริสเตียน ดิออร์ ในกรุงปารีส แทนที่ซูเปอร์สตาร์รางวัลออสการ์ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ (Jennifer Lawrence) ไปเรียบร้อยแล้ว
       
       ก่อนหน้านี้ เหล่าดีไซเนอร์ชื่อก้อง ได้ส่งมองแมวไปคัดสรรซูเปอร์สตาร์แห่งฮอลลีวูด มาช่วยขายคอลเลคชั่น แต่เมื่ออำนาจการซื้อได้ตกอยู่ในมือของผู้บริโภคในโลกตะวันออก อย่างจีน และเกาหลีใต้ โอกาสบนเวทีแฟชั่นหมายเลขหนึ่งแห่งแดนน้ำหอม ก็ตกเป็นของเหล่านางแบบเอเชียไปด้วย
       
       หลิน จื้อหลิง (Lin Chi Ling) นางแบบและดาราชื่อดังมาแรงแห่งไต้หวัน ก็ได้เข้าร่วมวงแฟชั่นชั้นสูงในกรุงปารีสอย่างถี่ๆ ห้องเสื้อดัง อย่าง ชาเนล (Chanel) ของอัจฉริยะนักออกแบบ คาร์ล ลาเกอร์เฟล (Karl Lagerfeld) ต้องปูพรมแดงต้อนรับเธอเข้ามาเฉิดฉายในงานแฟชั่นโชว์
       
       ขณะนี้บรรดาห้องเสื้อแฟชั่นชั้นสูงของโลกกำลังสรรหาวิธีชนะใจลูกค้าในโลกตะวันออกทั้ง จีนไปถึงสิงคโปร์ ลาเกอร์เฟลก็ได้เน้นย้ำความสำคัญของโลกตะวันออก โดยเปิดงานแฟชั่นที่ฉายจินตนาการแห่งโลกอนาคตของเมืองต่างๆในเอเชีย

Manager Online

จากเด็กผู้หญิงที่แจ้งเกิดด้วยบทเด็กผู้ชาย “ซูเจียว” (Xu Jiao) ที่กำลังเข้ามาโปรโมตหนังใหม่เมืองไทยกลายเป็นสาวสะพรั่งในวัย 15 ปี และทิ้งภาพ “ลูกชาย” ของ “โจวซิงฉือ” (Stephen Chow) ไปโดยสิ้นเชิง

"เซเลนา" (Selina) นักร้องสาวจากเกิร์ลกรุ๊ปดังของไต้หวันอย่าง S.H.E ได้ตัดสินใจเลิกปิดบังรอยแผลเป็นจากอุบัติเหตุไฟไหม้ที่ทำให้เธอต้องเสียโฉมแล้ว โดยระหว่างขึ้นคอนเสิร์ตที่มาเลเซีย เจ้าตัวสุดมั่นใส่ชุดสวยโชว์ผิวขาวโดยไม่ปิดบังรอยแผลเป็นเลยแม้แต่น้อย
       
       เซเลนา นักร้องสาววัย 31 ปี จากวง S.H.E เกิร์ลกรุ๊ปดังจากไต้หวัน ที่เคยเจออุบัติเหตุไฟไหม้กลางกองถ่ายทำละครที่เซี่ยงไฮ้จนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดนไฟไหม้ผิวหนังบริเวณแขน, ขา และหลัง ซึ่งเป็นแผลไฟไหม้รุนแรงระดับ 3 กลายเป็นแผลฉกรรจ์ ตั้งแต่เดือน ต.ค. ปี 2010 โดยช่วงเวลานั้นนอกจากนักร้อง-นักแสดงสาวต้องเข้ารับการฟื้นฟูร่างกายแล้วเธอยังต้องเข้ารับการฟื้นฟูด้านจิตใจด้วย
       
       และล่าสุดกับการขึ้นคอนเสิร์ต 2gether4ever ของ S.H.E ที่บัตรขายหมดเกลี้ยงในกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เซเลนา ก็เลิกอายกับแผลเป็นบนเรือนร่างของตนเองและหันมาใช้ชีวิตตามปกติ แต่งตัวสวยโดยไม่ปกปิดแผลเป็นตามร่างกายของตนเองอีกต่อไป เช่นเดียวกับเพื่อนร่วงวงทั้ง ฮีบี เทียน (Hebe Tian) วัย 30 ปี และ เอลลา เฉิน (Ella Chen) วัย 32 ปี ที่แต่งตัวในสไตล์เดียวกันขณะขึ้นแสดง
       
       ในช่วงที่มีการโซโลเดี่ยวของเซเลนา ได้มีการฉายภาพขณะที่เธอต้องทำกายภาพบำบัดจากการบาดเจ็บดังกล่าวด้วย ทำเอาแฟนๆของเซเลนาต่างรู้สึกเจ็บปวดไปพร้อมกับเธอ ก่อนที่ในตอนท้ายของคลิปนักร้องสาวจะยิ้มให้กล้องอย่างเต็มที่ เพื่อเบรกอารมณ์ศร้าของแฟนๆ
       

       “ทังเวย” (Tang Wei) ยังคงอยู่ระหว่างถ่ายทำหนังฮอลลีวูดเรื่องแรกของเธอในฮ่องกง และแม้นักแสดงสาวชาวจีนจะได้ชื่อ ว่ามีฝีมือทางการแสดงอันจัดจ้านอยู่ในแถวหน้า แต่การต้องเล่นหนังด้วยบทพูดภาษาอังกฤษ กลับทำให้การรับงานฮอลลีวูดเรื่องแรก เป็นไปอย่างติดขัด
       
       ทังเวย เดินทางมาถ่ายทำหนังที่ฮ่องกงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งคราวนี้ไม่ใช่หนังจีน หรือฮ่องกง แต่เป็นการประเดิมรับงานฮอลลีวูดเป็นครั้งแรกใน Cyber หนังเกี่ยวกับการโจรกรรมข้อมูลทางไซเบอร์ ผลงานของผู้กำกับ ไมเคิล มานน์ ที่เธอได้ร่วมงานกับ คริส เฮมสเวิร์ธ (Chris Hemsworth) นักแสดงจากหนังเรื่อง Thor และนักร้องซูเปอร์สตาร์ชาวไต้หวัน หวังลี่หง (Wang Lee Hom)
       
       แต่ข่าวรายงานว่า การรับงานฮอลลีวูดเป็นครั้งแรกของยอดฝีมือสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ กลับไม่ค่อยจะราบรื่นนัก แม้เธอจะได้ชื่อว่ามีฝีมือการแสดงอันจัดจ้าน อยู่แถวหน้าในหมู่นักแสดงสาวรุ่นเดียวกัน แต่เพราะความไม่เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ ก็ทำให้การเริ่มรับงานในหนังฮอลลีวูดเรื่องแรก เป็นไปด้วยความติดขัด
       
       ซึ่งข่าวรายงานว่าการถ่ายทำในวันที่ 21 ก.ค.นั้น การถ่ายทำเป็นไปอย่างเชื่องช้า กองถ่ายสามารถถ่ายทำไปได้เพียงไม่กี่ฉากเท่านั้น
       
       Cyber เป็นผลงานการสร้างของบริษัท Legendary Pictures เจ้าของหนังดังอย่าง The Dark Knight Rises และ Man of Steel โดยหนังได้พระเอกชาวออสเตรเลียมาแสดงเป็นเอฟบีไอหนุ่ม ที่ต้องร่วมงานกับเจ้าหน้าที่ชาวจีน ในการแกะรอยแฮคเกอร์ผู้ลึกลับ ที่ฝังตัวอยู่ในแถบเอเซียโดย ทังเวย จะสวมบทบาทเป็นคู่รักของ คริส เฮมสเวิร์ธ ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมงานของเขาด้วย

บันเทิงยักษ์ใหญ่แห่งเกาหลีได้ จะร่วมมือกับ Samsung Electronics ในการรุกคืบไปสู่ตลาดจีนแผ่นดินใหญ่

       ยอดนักบู๊แห่งฮ่องกงได้โอกาสกลับมาทำหนังแอ็กชั่นที่หนักหน่วง และรุนแรงอีกครั้งใน Special ID ที่เพิ่งปล่อยตัวอย่างแรกให้ชมกันพร้อมการแถลงข่าวเปิดตัวหนังที่ปักกิ่ง ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่ผ่านมา

       เกิร์ลกรุ๊ปซูเปอร์สตาร์จากเกาหลีใต้ ประสบความสำเร็จในการเริ่มต้นทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลก ที่กรุงไทเป ในไต้หวัน ท่ามกลางแฟนคลับมากกว่าสองหมื่นชีวิต ก่อนเดินทางไปแสดงในประเทศอื่นๆ ทั้งเอเชีย และอเมริกา
       
       2013 Girls' Generation World Tour - Girls & Peace เริ่มต้นขึ้นแล้วที่ไต้หวัน โดยสาวๆจากเกาหลีใต้ได้เปิดการแสดงที่ ไทเป อารีนา ต่อหน้าแฟนเพลง 22,000 ชีวิต ที่ได้ชมการแสดงเต็มอิ่ม 28 เพลง รวมถึงงานฮิตอย่าง Gee, Tell Me Your Wish และ The Boys โดยสาวๆ ยังมีโอกาสเปิดแถลงข่าวก่อนการแสดงในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจะเริ่มต้นขึ้นด้วย
       
       ในเดือน เม.ย. S.M. Entertainment ได้แถลงข่าวถึงการทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลกของสาวๆ ที่จะเริ่มต้นจากการแสดงในกรุงโซล 2 รอบ ซึ่งนี่จะถือว่าเป็นเวิลด์ทัวร์ครั้งแรกของพวกเธอ หลังเคยมีการทัวร์คอนเสิร์ตในเอเซียมาแล้ว 5 ครั้ง โดยมีคำยืนยันว่า Girls' Generation (SNSD) จะไปเปิดคอนเสิร์ตในสหรัฐอเมริกาด้วย

Manager Online

เอพี - ด้วยมูลค่าทางธุรกิจ และยอดคนดูที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมหนังจีน ได้ทำให้หนังฮอลลีวูดหลายเรื่องพยายามใส่ “องค์ประกอบ” ความเป็นจีนเข้าไปด้วย หวังสร้างจุดขายในการฉายที่แดนมังกร ซึ่ง ผกก.ชื่อดังเจ้าของหนังอย่าง ID4 ได้ยืนยันว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น จะไม่ได้มีผลมากมายต่อหนังฮอลลีวูดโดยเฉพาะพล็อตเรื่องอย่างที่หลายคนกังวลกัน

       นักแสดงหนุ่มชาวฮ่องกง และนางแบบซูเปอร์โมเดลชาวไต้หวันถูกโหวตให้เป็นนักแสดงชาย-หญิงยอดแย่ของวงการภาพยนตร์จีนในช่วงครึ่งปีแรกของ 2013
       
       เว็บไซต์ Yes Entertainment ได้เปิดให้ชาวจีนได้โหวตเลือกผลงานยอดแย่ และนักแสดงยอดแย่จากหนังในครึ่งปีแรก ที่ปรากฏว่ามีหนังดังๆ ติดอันดับเข้ามาหลายเรื่อง อาทิ Natural Born Lovers ของ จางจื่อหลิน, Badges Of Fury หนังบู๊เรื่องใหม่ของ หลี่เหลียนเจี๋ย (Jet Li), Tiny Times หนังวัยรุ่นสุดดังแห่งปี แม้แต่ The Grandmaster ของ หว่องกาไว ที่มี เหลียงเฉาเหว่ย (Tony Leung) เป็นนักแสดงนำก็ถูกโหวตให้ติดอันดับเข้ามาด้วย
       
       โดยหนังที่ถูกโหวตให้เป็นหนังที่แย่ที่สุดในรอบ 6 เดือนแรกก็คือ Switch ที่ หลิวเต๋อหัว (Andy Lau) แสดงคู่กับ หลินจือหลิง (Lin Chi Ling) หนังที่ดารานำอย่าง หลิวเต๋อหัว ยังยอมรับว่าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และปรับทุกข์กับสื่อมวลชนว่าต่อไปเขาคงจะพิถีพิถันกับการเลือกงานมากกว่านี้
       
       สำหรับดารายอดแย่ตกเป็นของสาวสวยแห่งไต้หวันอย่าง หลินจือหลิง นั่นเอง แม้เธอคนนี้จะเปิดตัวในวงการหนังอย่างสวยงามด้วย Red Cliff แต่หลังจากนั้นกลับเล่นหนังที่โดนวิจารณ์ว่าแย่ติดต่อกันหลายเรื่อง ส่วนดาราชายยอดแย่ตกเป็นของ เจิ้งอี้เจี้ยน (Ekin Cheng / 鄭伊健) จากผลงานล่าสุด Saving General Yang (忠烈楊家將) ที่คนลงคะแนนกันกว่า 4,000 เสียง ว่าสำหรับผลงานเรื่องนี้ดาราหนุ่มชาวฮ่องกงแสดงหนังได้แย่จริงๆ แทบไม่สามารถสื่อความรู้สึกใดๆได้เลย

Manager Online

       นักแสดงหนุ่มที่เคยโด่งดังขึ้นมาด้วยกัน กับหนังชุด "กู๋หว่าไจ๋" (Young and Dangerous) เตรียมกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง บนเวทีคอนเสิร์ตที่ Hong Kong Coliseum ที่จะจัดขึ้นในเดือน พ.ย. ที่จะถึงนี้

       เจิ้งอี้เจี้ยน (Ekin Cheng), เฉินเสี่ยวชุน (Jordan Chan), เซียะเทียนหัว (Michael Tse), หลินเสี่ยวฟง (Jerry Lamb) และเฉินเจียเล่อ (Chin Kar Lok) ได้ตัดสินใจเปิดคอนเสิร์ตร่วมกัน ที่จะทำการแสดง 3 รอบระหว่างวันที่ 7 - 9 พ.ย. นี้ โดยนักแสดงหนุ่มทั้ง 5 คน สนิทสนมคุ้นเคยกลายเป็นเพื่อนกันในชีวิตจริง หลังร่วมแสดงในหนังนักเลงวัยรุ่น Young and Dangerous หรือ กู๋หว่าไจ๋ ที่ภาคแรกเข้าฉายในปี 1996 และประสบความสำเร็จ จนมีภาคต่อตามออกมามากมาย
       
       โดยทั้ง 5 ได้ร่วมกันถ่ายโปสเตอร์สำหรับโปรโมตคอนเสิร์ตไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เจิ้งอี้เจี้ยน ยังเปรยว่าอยากจะเชิญเพื่อนคนอื่นๆ ที่เคยแสดงด้วยกันในหนังเรื่องนี้ ให้มาเป็นแขกรับเชิญในคอนเสิร์ตด้วย "ผมเชิญ ซูฉี (Shu Qi) ที่แสดงเป็นแฟนกันในหนังให้มาเป็นแขกรับเชิญไปแล้วครับ ส่วนแฟนในหนังอีกคนของผมอย่าง หลี่จือ (Gigi Lai) ถอนตัวจากวงการไปแล้ว แต่เธอก็อาจจะมาร่วมสนุกด้วยกันได้ หวังว่าเราจะเชิญคนอื่นได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น ชูหยุ่นถัง, ม่อเหวินเหว่ย, อู๋จวินหรู, อู๋เจิ้นอวี้, ว่านจื่อเหลียง หรือ หลี่ซิ่วเสียน ให้มาร่วมงานครั้งนี้ด้วย"
       

       "จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) ได้พาลูกชายทั้งสองคนเดินทางไปพักผ่อนที่แคนาดา อย่างไรก็ตามมีข้อมูลเปิดเผยออกมาว่า ดาราสาวชาวฮ่องกงอาจไม่เพียงใช้เวลาอยู่ที่ต่างประเทศนี้ในระยะสั้นๆ แต่อาจจะย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่แคนาดาแบบระยะยาวเลยทีเดียว
       
       ชาวจีนที่อาศัยอยู่ในแถบเซอร์เรย์ บริติช โคลัมเบีย ในแคนาดามีโอกาสถ่ายภาพของ จางป๋อจือ และลูกชายทั้งสองคนระหว่างมาว่ายน้ำเล่นที่สระแห่งหนึ่ง จนมีข่าวตามมาว่าดาราชาวฮ่องกงกำลังขอสัญชาติแคนาดา เพื่อพำนักอยู่ที่นี่เป็นการถาวร โดยตอนนี้เธอยังได้ติดต่อโรงเรียนแห่งหนึ่งที่นี่ให้กับลูกแล้ว
       
       โดยระหว่างนี้ จางป๋อจือ อยู่ในช่วงพักร้อน ไม่ได้รับงานหนังเรื่องใหม่ จึงตัดสินใจไปใช้เวลาที่ต่างประเทศ พร้อมพาลูกน้อยไปด้วย ซึ่งสื่อในฮ่องกงก็เชื่อว่าเธอกำลังจะย้ายมาอยู่ที่แคนาดาแบบระยะยาว และยังเป็นการตัดสินใจที่ผ่านการปรึกษาหารือกับ เซียะถิงฟง (Nicholas Tse) อดีตสามี พ่อของลูกทั้งสองคนแล้วด้วย
       
       ข่าวระบุว่าดาราสาววัย 33 ปี ดูจะมีความสุขกับชีวิตที่นี่มาก เธอพา ลูคัส (Lucas) และ ควินตัส (Quintus) ไปว่ายน้ำมาเมื่อวันจันทร์ ซึ่งตลอดช่วงดังกล่าวเธอยังมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับคนในละแวกนั้นโดยเฉพาะชาวจีนที่อาศัยอยู่ที่นี่ และจดจำเธอได้ ทั้งถ่ายภาพกับแฟนๆ อย่างเป็นมิตร และเต็มใจ คนที่ได้พบกับ จางป๋อจือ ยังยืนยันว่าเธอมีความสุขกับชีวิตแบบนี้ ที่ไม่มีเหล่าสื่อมาคอยติดตามความเคลื่อนไหวในทุกฝีก้าวเหมือนที่ฮ่องกง หรือจีนแผ่นดินใหญ่
       
       "เธอทำตัวสบายๆ ใครๆ ก็คุยด้วยได้ง่ายๆ" แฟนที่แคนาดาคนหนึ่งกล่าวชื่นชม
       

       ดูเหมือนว่า "เจย์ โจว" (Jay Chou) ศิลปินหนุ่มมากความสามารถ จะต้องพบกับความล้มเหลวบ้างแล้ว เมื่อผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเขาเปิดตัวทำรายได้ไม่ค่อยสูงอย่างที่หวัง ส่วนคำวิจารณ์จากทั้งคนดู และนักวิจารณ์ก็ค่อนข้างจะเป็นไปในทางลบ
       
       Rooftop ผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ของ เจย์ โจว หรือ โจวเจี๋ยหลุน ได้เริ่มต้นเข้าโรงฉายไปเมื่อวันพฤหัสที่แล้ว แต่ผลตอบรับกลับไม่ค่อยดีนัก โดยหนังเก็บเงินในการเข้าฉายวันแรกได้แค่ 3.53 ล้านเหรียญไต้หวัน รวมรายได้ 4 วันเป็น 10.1 ล้านเหรียญฯ ดูแล้วยังห่างไกลจากทุนสร้างที่ว่ากันว่าสูงถึง 100 ล้านเหรียญไต้หวันอยู่พอสมควร
       
       ส่วนในการฉายที่จีนแผ่นดินใหญ่ก็พ่ายแพ้ให้กับหนังฮอลลีวูด After Earth และ Blind Detective หนังใหม่ของ หลิวเต๋อหัว (Andy Lau)
       
       ซึ่งนอกจากรายได้จะไม่ค่อยดีแล้ว กระแสตอบรับของ Rooftop ก็เป็นไปในแง่ลบเสียส่วนใหญ่ ทั้งในแง่เนื้อหา, ความฉูดฉาดเกินพอดี และนักแสดงสมทบที่ไม่น่าสนใจ
       
       หนังยังมีปัญหาเรื่องการพากย์เสียง บางคนถึงขั้นเรียกผลงานล่าสุดของซูเปอร์สตาร์แห่งไต้หวันว่าเป็น "มิวสิควิดีโอขนาดยาว" ที่มีเนื้อเรื่องสุดเชย โดยหนังจะมีฉากหลังอยู่ในเมืองที่คนกลุ่มหนึ่งใช้ชีวิตกันบนหลังคา เป็นคนประเภทที่ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่โดยไม่ได้สนใจความร่ำรวย หรือความสำเร็จใดๆเหมือนคนอื่น ซึ่งตัวเอกของเรื่องจะเป็นเด็กหนุ่มที่เอาชนะใจหญิงสาว ด้วยการแสดงให้เธอเห็นถึงการใช้ชีวิตอย่างเสรีของคนบนหลังคา