ข่าวจีน

       มีรายงานระบุว่าเว็บไซต์ชื่อดังของจีนได้จัดทำผลสำรวจหา”ศิลปินหญิงสวยที่สุดในเอเชีย ประจำปี 2013” โดยเปิดให้มีการโหวตตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย. – 20 ธ.ค. ซึ่งผลปรากฏว่าสาว”ยุนอา (YoonA) SNSD มาแรงอันดับหนึ่งโดยมีเพื่อนร่วมวงติดโผอีกสองคนด้วย
       
       โดยรายงานระบุว่าเว็บไซต์ชื่อดังของจีนได้มีการเปิดโหวตใน http://topm.vdfly.com/ โดยเปิดโอกาสให้ชาวจีนและแฟนๆจากประเทศต่างๆทั่วโลกได้มีสิทธิ์ร่วมโหวตเพื่อหาศิลปินสาวงามที่สุดของเอเชีย
       
       ผลปรากฏว่าสาวยุนอา จากวง SNSD มาแรงแซงทุกนางขึ้นเป็นอันดับ 1 โดยมีผลโหวตอยู่ที่ 8.762 ล้านโหวต ตามมาด้วย เจสสิกา (Jessica) อีกหนึ่งสาวจากวงเดียวกันที่อยู่ในอันดับ 2 ด้วยผลโหวต 8.75 ล้านโหวต
       
       นอกจากสองสาวที่ติดท็อปไฟว์แล้วยังมีหัวหน้าวงอย่าง แทยอน (TaeYeon) ตามมาอยู่ที่อันดับ 6 ด้วย โดยมีผลคะแนนอยู่ที่ 5.72 ล้านโหวต นอกจากนั้นยังมีนักแสดงสาวจากเกาหลีอีกหนึ่งคนที่ดกำลังมาแรงสุดๆจากซีรีย์เรื่อง Heirs อย่างปาร์คชินเฮ (Park Shin Hye) ก็เข้าไปปิดท้ายที่อันดับ 10 ด้วยด้วยผลโหวต 1.55 ล้านโหวต
       
       โดยอันดับอื่นๆนั้นตกเป็นของนักแสดงสาวจีนที่มีชื่อเสียงในประเทศเป็นอย่างมาก ซึ่งทั้งหลิวซือซือ (Liu Shi Shi) และ หยางมี่ (Yang Mi) ต่างก็โด่งดังและได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศจีนขณะนี้เลยทีเดียว
       
       10 อันดับผลโหวตศิลปินหญิงที่สวยที่สุดในเอเชียปี 2013
       
       1. ยุนอา (YoonA)  8.762 ล้านโหวต

เรียกได้ว่านักแสดงชื่อดังระดับเอเชียอย่าง”เจ็ท ลี” (Jet Li) ที่โด่งดังสุดๆด้วยรูปร่างหน้าตาที่ดีและการแสดงบทบู๊ที่ดูสมจริง ล่าสุดเจ้าตัวโดนทักหนักเรื่องหุ่นเปลี่ยนไปดูบวมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก่อนยอมรับว่าตอนนี้ตนเองกำลังป่วยเพราะไทรอยด์เป็นพิษ
       
       เจ็ท ลี นักแสดงจอมบู๊ ได้เปิดเผยถึงปัญหาสุขภาพของตนเองหลังเจอแฟนๆและชาวเน็ตทักท้วงถึงรูปร่างที่ดูหนาขึ้นผิดหูผิดตา โดยเจ้าตัวยอมรับต่อสื่อว่ากำลังทนทุกข์กับโรคไฮเปอร์ไทรอยด์
       
       โดยเจ็ท ลี ได้กล่าวด้วยว่าในเวลานี้เขาไม่สามารถทำกิจกรรมที่ใช้แรงมากๆได้ และต้องการที่จะพักร่างกาย ซึ่งเขาได้ย้ำด้วยว่าเขาไม่ได้เป็นยอดนักบู๊อย่างหวงเฟยหงหรือฮั่วหยวนเจี่ย นักบู๊ในตำนานที่เขาเคยแสดงเมื่อในอดีตอีกแล้ว แต่ตอนนี้เขาเป็นเพียงคนธรรมดาๆ และเจ็บปวดกับโรคภัยต่างๆเฉกเช่นเดียวกับคนอื่นๆทั่วไป อย่างไรก็ตามเจ้าตัวก็ยืนยันว่าแม้จะป่วยหนักแต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกแย่กับโรคนี้และยังมองโลกในแง่ดีเสมอ
       
       โดยเขากล่าวอย่างยิ้มแย้มขณะไปออกรายการก่อนหน้านี้ว่า “ในที่สุดผมก็ได้แรงใจคอยเชียร์ให้ผมใส่เสื้อลายดอกนี้อย่างท่วมท้นเลย ดูเป็นไงบ้างครับ? หลังๆนี่เราได้เห็นความมุ่งมั่นของเด็กๆหนุ่มสาวมากมายตามรายการต่างๆ ซึ่งผมก็ได้นำประสบการณ์มากมายจากพวกเขามาใช้เช่นกัน”
       
       โดยเจ็ท ลี ยังเผยต่อไปด้วยว่าเขาอยากให้กำลังใจคนอื่นๆจากสิ่งต่างๆที่เขาเคยประสบพบเจอมา ซึ่งเขายังเรียกร้องจากแฟนๆด้วยว่าอยากให้ทุกคน มีทัศนคติที่ดีต่อทุกๆสิ่ง “ตราบใดที่ความรักและความมุ่งมั่นปรารถนายังคงมีอยู่ ชีวิตก็จะมีสีสันเสมอ”

Manager Online

“เซียะถิงฟง” (Nicholas Tse) นักแสดงฮ่องกงชื่อดังได้ยืนยันต่อสื่อแล้วว่าเตรียมส่ง”ลูคัส” (Lucas Tse) และ “ควินตัส” (Quintus Tse) ลูกชายทั้งสองไปเข้าเรียนที่สิงคโปร์ หลังไปสำรวจที่เรียนกับ”จางป๋อจือ” (Cecilia Cheung) อดีตภรรยามาก่อนหน้านี้
       
       ตามรายงานจากเว็บไซต์ XINHUA ระบุว่า ขณะกำลังพูดคุยกับสื่อในงานกาลารอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเขาอย่าง As The Light Goes Out นักแสดงดังได้ปฏิเสธข่าวลือว่าเขาและจางป๋อจือ อดีตภรรยากลับมาคืนดีกันหลังจากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าทั้งคู่ควงกันไปสวีทถึงสิงคโปร์พร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัว โดยเซียะถิงฟงถึงขั้นยืนยันว่าการกลับมาคืนดีกันไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว
       
       โดยเขายอมรับว่าการเดินทางไปสิงคโปร์ครั้งนั้นก็เพื่อที่จะให้ ลูคัส ลูกชายวัย 6 ปี และ ควินตัส ลูกชายวัย 3 ปี เข้าเรียนที่สิงคโปร์เร็วๆนี้
       
       “ลูคัสกับควินตัสจะอยู่ที่สิงคโปร์พร้อมกับจางป๋อจือครับ เราตัดสินใจกันแบบนี้เพราะรู้สึกว่าสภาพแวสดล้อมที่นั่นเหมาะกับการเจริญเติบโตของพวกเขาครับ” เซียะถิงฟงเผยถึงอนาคตลูกๆ
       
       นอกจากจะคุยถึงเรื่องลูกๆแล้ว เซียะถิงฟงยังถูกถามถึงข่าวลือที่เขามีข่าวกับ เจนิส ม่าน (Janice Man) นางแบบสาวสวย ช่วงเดียวกับที่ภาพยนตร์เรื่องใหม่กำลังจะออกฉาย โดยสื่อระบุว่าเป็นการสร้างกระแสให้ตัวเองใช่หรือไม่ เจ้าตัวถึงขั้นฉุนขาดโดยตอบสื่อว่า
       

ปีเดียวรับงานหนังไป 8 เรื่อง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ “กู่เทียนเล่อ” (Louis Koo) จะกลายเป็นคนบันเทิงฮ่องกงอันดับ 1 แห่งปี 2013 ไปแล้ว ด้วยการทำรายได้แซงหน้าแชมป์เก่า 3 ปีซ้อนอย่าง “เจินจื่อตัน” (Donnie Yen) ได้ในปีนี้
       
       อดีตขวัญใจวัยรุ่นจาก TVB ใช้ความพยายามในวงการภาพยนตร์อยู่ถึงร่วม 2 ทศวรรษจนสามารถก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าได้อย่างเต็มตัว และถึงตอนนี้ก็พูดได้แล้วว่า กู่เทียนเล่อ คือซูเปอร์สตาร์แห่งวงการหนังฮ่องกง ด้วยการมีงานมากถึง 8 เรื่องในปีนี้ โดยในปี 2013 มีหนังของเขาเข้าฉายไปแล้ว 3 เรื่องได้แก่ The White Storm, Out of Inferno และ Drug War นอกจากนั้นยังมีหนังอีก 5 เรื่องที่ถ่ายทำไปแล้วและรอฉายอยู่ในปีหน้า ซึ่งทั้งหมดก็กลายมาเป็นแหล่งรายได้ก้อนโตของเขาไปแล้ว
       
       โดยสื่อฮ่องกงประมาณการว่า กู่เทียนเล่อ น่าจะมีรายได้ในปี 2013 อยู่ที่ 236 ล้านเหรียญฮ่องกง (หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท) นกจากนั้นปีหน้าเขาจะยังมีงานหนังอีกหลายเรื่อง ได้แก่หนังตลก Hello Babies, Golden Chicken SSS หนังภาคต่อสุดฮิตทั้ง Overheard 3 และ Don't Go Breaking My Heart 2 นอกจากนั้น กู่เทียนเล่อ ยังได้แสดงในหนังเรื่อง Aberdeen ของ เผิงเฮ่าเสียง และถูกวางตัวในหนังแอ็กชั่น Z Storm รวมถึงกำลังเจรจาเพื่อรับบทนำในหนังว่าด้วยชีวิตของเหล่านักบิน และแอร์โฮสเตสที่ดัดแปลงมาจากหนังชุดของทีวีบีอย่าง Triumph in the Skies ด้วย เรียกว่าปี 2014 จะเห็นหน้ากันจนเบื่อแน่นอน
       

       นักร้องหนุ่มชื่อดัง “สวีจื่ออัน” (Andy Hui / 許志安) และศิลปินสาวระดับราชินีเพลงกวางตุ้ง “เจิ้งซิ่วเหวิน” (Sammi Cheng / 鄭秀文) ได้หมั้นหมายกันอย่างเป็นทางการแล้ว หลังคบหาดูใจกันมาได้ 22 ปี และมีกำหนดจัดงานวิวาห์ขึ้นที่ฮ่องกงในปีหน้าต่อไป
       
       ชีวิตรักของ สวีจื่ออัน กับ เจิ้งซิ่วเหวิน ที่ดำเนินมามากกว่า 20 ปี และยังเคยเลิกราห่างกันไปพักหนึ่ง ก่อนจะกลับมาคบหากันอีกครั้ง กำลังจะลงเอยด้วยการแต่งงานสร้างครอบครัวแล้ว หลังนักร้องสาววัย 41 ปี ได้ตอบตกลงคำขอแต่งงานของแฟนหนุ่มวัย 46 ปี ระหว่างทั้งคู่เดินทางไปพักผ่อนที่บาหลี โดยทั้งสองมีแผนจะจัดงานเลี้ยงแต่งงานขึ้นที่ฮ่องกงบ้านเกิดในปีหน้าต่อไป
       
       เจิ้งซิ่วเหวิน กับ สวีจื่ออันเริ่มออกเดตกันครั้งแรกในปี 1991 ก่อนจะแยกทางกันท่ามกลางความเสียใจของแฟนๆ ที่เชียร์ให้ทั้งคู่ลงเอ่ยกันมาตลอดเมื่อปี 2004 แต่แล้วหลังห่างกันไป 7 ปี ทั้งสองก็กลับมาติดต่อกันอีกครั้ง และมีโอกาสควงกันไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยกันจนกลับมาคบหากันอย่างเป็นเรื่องเป็นราวในปี 2011 เป็นต้นมา ซึ่งตลอด 3 ปีที่ผ่านมาก็มีข่าวลือเรื่องการแต่งงานของทั้งคู่ออกมาเป็นระยะ แม้ฝ่ายหญิงจะเปรยอยู่เสมอว่าเธอไม่เคยคิดอยากแต่งงานเลย ถึงขั้นที่เมื่อต้นปี 2012 เธอเคยให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันไม่เคยคิดเรื่องจะแต่งงานอะไรเลย ถ้าแฟนที่คบกันอยู่ขอแต่งงานต่อหน้าคนอื่น ก็คงจะหนีไปจากตรงนั้นเดี๋ยวนั้นเลยค่ะ”
       

       นักแสดงสาวชาวฮ่องกง “โจวลี่ฉี” (Niki Chow /周麗淇) เปิดตัวเป็นแฟนกัน “สวีเจิ้งฉี” (Jeremy Tsui / 徐正曦) หลังดูใจกันมาได้ 6 เดือน ด้วยเหตุผลเพื่อเป็นการแก้เผ็ดปาปารัสซี่รายหนึ่ง ที่พยายามแบล็คเมล์ขายภาพคู่ของทั้งสองด้วยราคาแพงสุดกู่จนดาราสาวชื่อดังรับไม่ได้ และเลือกที่จะบอกความบอกความจริงสาธารณะชนไปเลยดีกว่า
       
       ภาพคู่สุดหวานระหว่าง โจวลี่ฉี และ สวีเจิ้งฉีถูกโพสต์ผ่านทางเว็บต์ Weibo โดยผู้จัดการส่วนตัวของฝ่ายหญิงเอง ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวเป็นแฟนกันอย่างเป็นทางการ หลังนักแสดงชาวฮ่องกงทั้งสองคนเริ่มออกเดตกันมาได้ 6 เดือนเต็ม โดยการตัดสินใจเปิดตัวครั้งนี้ เกิดขึ้นจากสาเหตุที่ทั้งคู่โดนปาปารัสซีรายหนึ่งถ่ายภาพคู่ได้ที่เซียงไฮ้ และช่างภาพคนดังกล่าวพยายามเรียกร้องเงินก้อนโต แต่สุดท้ายเมื่อทั้งสองเปิดตัวเป็นแฟนกันแบบนี้ภาพที่ว่าก็หมดราคาไปในทันที
       
       ย้อนหลังไปเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน โจวลี่ฉี กับ สวีเจิ้งฉีไปร่วมปาร์ตี้เลี้ยงฉลองวันเกิดงานหนึ่งที่เซียงไฮ้ และเผอิญมีปาปารัสซีรายหนึ่งหลุดเข้าไปในงาน จนมีโอกาสถ่ายภาพคู่ของทั้งสอง จนผู้จัดการส่วนตัวของฝ่ายหญิงได้เสนอเงินจ่าย 2,000 หยวน เพื่อแลกกับภาพดังกล่าว แต่ดูเหมือนว่าปาปารัสซีจะต้องการเงินมากกว่านั้น เพราะตัวเลขที่เขาต้องการก็คือจำนวน 80,000 หยวน
       
       ตากล้องหัวหมอยังโชว์ภาพของดาราดังหลายๆคนใน iPad ของตัวเองให้ดูว่าเขาเคยถ่ายภาพเพื่อแบล็คเมล์ดารามาหลายคนแล้ว และทั้งหมดก็ยอมจ่ายเงินเพื่อไม่ให้ภาพส่วนตัวถูกตีพิมพ์ในสื่อเหมือนกันหมด
       

ชื่อของนักแสดงหญิงวัย 50 ปี “หลันเจี๋ยอิง” (Yammie Nam) กลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง เมื่อสื่อฉบับหนึ่งอ้างว่าเธอได้ให้สัมภาษณ์ยอมรับเป็นครั้งแรก ว่าที่ชีวิตของตัวเองต้องดิ่งลงเหว มีปัญหาทางจิต และส่งผลไปถึงการทำงาน จนมีสภาพชีวิตความเป็นอยู่อันย่ำแย่ในทุกวันนี้ เป็นผลของการถูกขาใหญ่ในวงการบันเทิงข่มขืน เมื่อประมาณเกือบ 30 ปี
       
       เมื่อเดือนก่อนเคยมีรายงานข่าวในสื่อของที่ฮ่องกงว่า หลันเจี๋ยอิง ได้หายตัวไป แต่ล่าสุดนิตยสาร Next Magazine ได้อ้างว่าพวกเขาได้คลิปวิดีโอที่เป็นเสียงสัมภาษณ์ของ หลันเจี๋ยอิง มา และในคลิปดาราวัย 50 ปี ยังพูดถึงเรื่องที่ตัวเองโดนล่วงละเมิดทางเพศเป็นครั้งแรก และยังเปิดเผยถึงชื่อของชาย 2 คนที่ลงมือย่ำยีเธอด้วย
       
       ตามข้อมูลจากปากของ หลันเจี๋ยอิง เธอได้เปิดเผยว่า ชายคนหนึ่งที่ข่มขืนเธอได้เสียชีวิตไปแล้ว โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ และเป็นประสบการณ์อันเลวร้ายที่ส่งผลกระทบถึงเธอทั้งทางร่างกาย และจิตใจ อดีตดาราสาวคนสวยแห่งยุค 80s ยังเปิดเผยว่าเธอเคยเชือดข้อมือตัวเอง เพื่อพยายามฆ่าตัวตายมาแล้วด้วย
       
       จากคำสัมภาษณ์ที่ หลันเจี๋ยอิง พูดเอาไว้ เธอเล่าว่าในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สิงคโปร์นั้น ขาใหญ่แห่งวงการหนังคนหนึ่งใช้กุญแจสำรอง เปิดเข้ามาในห้องพักในโรงแรมของเธอ ระหว่างที่เธอมาเยี่ยมกองถ่ายหนัง และลงมือขืนใจเธอ โดย หลินเจี๋ยอิง ยังกล่าวว่าเขาดูจะมีอาการมึนเมา และไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่ เธอจึงไม่ได้แจ้งความให้กับตำรวจทราบ เพราะไม่อยากให้เรื่องใหญ่โตขึ้นมา แต่สิ่งที่วิตกกังวลมากที่สุดในตอนนั้นก็คือ กลัวว่าเธอตัวเองจะท้องขึ้นมา จึงไปพบแพทย์เพื่อขอยายุติการตั้งครรภ์
       

“เซียะถิงฟง” (Nicholas Tse) นักแสดงชื่อดังคุณพ่อลูกสองโต้ข่าวลือกลับไปคืนดีอดีตภรรยาอย่าง”จางป๋อจือ” (Cecilia Cheung) พร้อมลั่นไม่มีลมหวน โอกาสคืนดีเป็นไปไม่ได้แน่นอน
       
       หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่า เซียะถิงฟง ได้เดินทางไปพักผ่อนที่สิงคโปร์พร้อมกับ จางป๋อจือ อดีตภรรยาและลูกชายทั้งสองคน ก็มีข่าวลือตามมาว่าสามี-ภรรยาคู่ร้างได้กลับมาคืนดีกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
       
       อย่างไรก็ตาม ตามรายงานจาก 21CN ได้ระบุว่า นักแสดงหนุ่มได้ปฏิเสธข่าวลือดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย ขณะกำลังโปรโมทภาพยนตร์เรื่องล่าสุดอย่าง As The Light Goes Out
       
       โดยเซียะถิงฟงระบุว่า “ดูเหมือนว่าคนจะมองข้ามความจริงที่ว่าผมไปเยี่ยมลูกชายทั้งสองของผมนะครับ ถ้าตอนช่วงคริสต์มาสผมว่าง ผมก็จะไปเจอลูกๆอีก แล้วข่าวลือเรื่องคืนดีแบบนี้ก็จะมีออกมาอีก สิ่งที่จะบอกก็คือ การคืนดีมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ครับ”
       
       ตามรายงานระบุว่า เซียะถิงฟงออกอาการเบื่อข่าวลือเรื่องนี้อย่างเห็นได้ชัด และกล่าวด้วยว่าเขาไม่สนใจที่จะอ่านข่าวกอสซิปเกี่ยวกับตัวเขาด้วย
       
       ทางเซียะถิงฟงยังปฏิเสธข่าวลือที่ว่า จางป๋อจือ และ ลูกชายทั้งสองได้ย้ายไปอยู่ที่สิงคโปร์แล้ว และยังกล่าวิ้งท้ายแบบสุดเซ็งว่า “ผมรู้สึกว่าทุกคนจะกังวลเรื่องความสัมพันธ์ของผมเหลือเกิน เอาเป็นว่าผมจะทำงานให้หนักขึ้นแล้วกันนะครับ”

Manager Online

       หลังประสบความสำเร็จจากหนังกำลังภายในสามมิติมา 2 เรื่องล่าสุด "ฉีเคอะ" (Tsui Hark / 徐克) เตรียมเปิดกล้องผลงานใหม่ ที่งานนี้ผู้กำกับชาวฮ่องกงจะหยิบเอานิยายชื่อดังที่ว่าด้วยการต่อสู้ในภูมิประเทศหนาวเหน็บมาสร้างเป็นหนังแอ็กชั่น 3-D
       
       Tracks in the Snowy Forest 3-D คือผลงานเรื่องต่อไปของ ฉีเคอะ ที่ได้เริ่มดำเนินการสร้างอย่างเป็นทางการแล้ว โดยหนังเรื่องนี้จะอ้างอิงมาจากนิยายของนักเขียนดัง ฉีปั๋ว ที่เล่าเรื่องการศึกระหว่างทหารของกองทัพคอมมิวนิสต์ และเหล่าโจรป่า ในแถบภูมิประเทศที่หนาวเหน็บของภาคเหนือของประเทศจีนจีน เป็นนิยายเรื่องดังที่มียอดพิมพ์หลายล้านเล่ม และยังเคยถูกดัดแปลงเป็นงิ้วปักกิ่งในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงมาแล้ว
       
       โดย ฉีเคอะ กล่าวว่าเขาเองเคยชมงิ้วเรื่องนี้ขณะที่เรียนหนังสืออยู่ที่สหรัฐอเมริกา และรู้สึกฝังใจในเรื่องราวการต่อสู้อันเข้มข้นภายใต้ภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยความเหี้ยมโหดมาก และเมื่อยิ่งได้ไปหานิยายต้นฉบับมาอ่านก็ยิ่งชอบเข้าไปอีก จึงอยากจะหยิบเอา Tracks in the Snowy Forest มาสร้างเป็นหนังมาตลอด และความฝันก็เป็นจริงจนได้หลัง อวี้ตง แห่งบริษัท Bona Film Group Co., Ltd. ได้ลิขสิทธิ์นิยายเรื่องนี้มา และเริ่มดำเนินการสร้างมาตั้งแต่ปี 2009 แล้ว
       
       Tracks in the Snowy Forest ยังจะนับเป็นหนัง 3-D เรื่องที่ 4 ของฉีเคอะแล้ว โดยผู้กำกับรุ่นใหญ่บอกว่าเขาและทีมงานได้พัฒนาเทคนิคการถ่ายทำหนังสามมิติสำหรับการถ่ายฉากหิมะตกขึ้นมาโดยเฉพาะและน่าจะออกมาตื่นตาตื่นใจแน่นอน
       

       ความรักครั้งล่าสุดของ "เจย์ โจว" (Jay Chou) กับนางแบบสาวลูกครึ่งดูจะเงียบๆ มาพักใหญ่ แต่จากภาพล่าสุดก็คงพอจะยืนยันได้ว่าทั้งสองยังคงคบหาดูใจกันเหมือนเดิม เมื่อสื่อไต้หวันได้ภาพที่ซูเปอร์สตาร์หนุ่มและแฟนสาวไปใช้เวลาพักผ่อนเดินซื้อของอยู่ด้วยกันในกรุงไทเป
       
       ข่าวระบุว่านี่คือภาพคู่ของ เจย์ โจวเจี๋ยหลุน กับแฟนสาว ฮันนาห์ ควินลิแวน (Hannah Quinlivan) รูปแรกในรอบ 2 ปีเลยทีเดียว หลังทั้งคู่พยายามใช้ชีวิตกันอย่างเงียบๆ ไม่ทำตัวให้เป็นข่าวอะไรมากมาย จนแฟนๆเริ่มสงสัย ว่าทั้งสองยังคงคบหากันอยู่รึเปล่า แต่จากภาพก็คงจะยืนยันได้ระดับหนึ่ง ว่าความรักครั้งล่าสุดของหนุ่มสุดฮ็อตแห่งไต้หวันยังมั่นคงเหมือนเดิม
       
       โดยในภาพทั้ง เจย์ และฮันนาห์ ที่สวมหน้ากากปิดบังส่วนหนึ่งของใบหน้าได้ไปซื้อของใช้ทั่วๆไปที่ซูเปอร์มาเก็ตแห่งหนึ่งในกรุงไทเปเมื่อบ่ายวันอังคารที่ผ่านมา โดยมีผู้ช่วยส่วนตัวของฝ่ายชายไปช่วยถือของให้ด้วย ก่อนจะเริ่มมีปาปารัสซีเข้ามาเดินตามเพื่อเก็บภาพของศิลปินหนุ่มคนดังและแฟนสาว
       
       แต่งานนี้ดูเหมือนว่าทั้งสองก็ไม่ได้เร่งรีบที่จะซื้อของให้เสร็จเพื่อหนีกล้องแต่อย่างใด แต่กลับค่อยๆจับจ่ายกันไปเรื่อยๆ แตกต่างจากโดยทั่วไป ที่ทั้งคู่มักจะดูค่อนข้างระวังตัวจากเหล่าตากล้องอิสระเหล่านี้เป็นพิเศษ ข่าวระบุว่าระหว่างจ่ายเงิน เจย์ ยังชำเลืองมองกับพวกปาปารัสซีด้วย ก่อนที่เขา, แฟนสาว และผู้ช่วยจะนั่งรถออกไปจากสถานที่ดังกล่าวโดยไม่ได้มีอาการเร่งรีบ ต้องการหลบหนีใดๆ
       

       เอพี - จาง จื่ออี๋ (Zhang Ziyi) ดาราสาวชื่อดังระดับฮอลลีวูดจากภาพยนตร์เรื่องพยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลก ( Crouching Tiger, Hidden Dragon) ชนะคดี หลังจากปั๋วซ่วนนิวส์ เว็บไซต์ต่อต้านรัฐบาลจีน ยอมขอขมา ที่เสนอข่าวจางขายตัวให้เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลแดนมังกร และผู้เสียหายฟ้องร้องต่อศาลสหรัฐฯ ในข้อหาหมิ่นประมาท แต่ในที่สุดก็เจรจายอมความกันได้
       
       ในการขอขมาของปั๋วซ่วนนิวส์ ซึ่งเป็นเว็บไซต์ภาคภาษาอังกฤษ ตั้งอยู่ในสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (18 ธ.ค.) ระบุว่า ได้ถอนรายงานข่าว “ เชิงลบและไม่เป็นความจริง” เกี่ยวกับจาง ซึ่งมีการเสนอข่าวครั้งแรกเมื่อเดือนมี.ค. 2555 ทั้งหมดแล้ว
       
        จางได้ยื่นฟ้องคดีดังกล่าวต่อศาลนครลอสแองเจลิส โดยจำเลยคือบริษัทไชน่า ฟรี เพรส ,อิงก์ (China Free Press, Inc.) ซึ่งเป็นผู้เปิดเว็บไซต์ปั๋วซ่วนนิวส์ และนาย Weican Null Meng พลเมืองอเมริกัน ผู้ก่อตั้งบริษัทดังกล่าว ซึ่งไม่แสวงหากำไร ตั้งอยู่ในรัฐนอร์ท แคโรไลน่า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและประชาธิปไตยในจีน และเว็บไซต์ปั๋วซ่วนนิวส์มักเสนอข่าวการละเมิดสิทธิมนุษยชน และคดีอื้อฉาวทางการเมือง ข่าวประเภทนี้ถูกปิดกั้นบนแดนมังกร
       
       จากเอกสารของศาล จาง วัย 34 ปีอ้างว่า รายงานข่าวดังกล่าวได้ทำลายชื่อเสียงและผลประโยชน์ทางธุรกิจ ที่เธอควรจะได้รับ โดยเธอระบุว่า ปั๋วซ่วนนิวส์เผยแพร่รายงานข่าว ซึ่งเป็นความเท็จอยู่ซ้ำๆว่า เธอเป็นโสเภณี มีรายได้กว่า 100 ล้านดอลลาร์จากการนอนกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนและคนอื่นๆ อีกหลายคน โดยรายงานข่าวเหล่านี้ถูกเผยแพร่โดยสื่อมวลชนทั่วโลก
       

       นักแสดงสาวชาวจีนผู้โด่งดังที่สุดคนหนึ่งในยุคนี้ สามารถเคลียร์ข้อกล่าวหาเรื่องค้าบริการทางเพศได้ในที่สุด เมื่อเธอสามารถยอมความกับสื่อที่ลงข่าวกล่าวหาว่าเธอขายตัวได้เป็นที่เรียบร้อย หลังคู่กรณียอมแถลงขอโทษ และยอมรับว่าได้ลงข่าวที่ผิดพลาดลงไป
       
       โดยทางเว็บไซต์ Boxun News ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ได้ยอมรับว่าประเด็นข่าวที่พวกเขาเคยรายงานว่า จางจื่ออี๋ (Zhang Ziyi) มีพฤติกรรมขายตัวนั้น "เป็นเรื่องเสียหาย และไม่เป็นความจริง" แต่อย่างใด หลังเรื่องดังกล่าวได้สร้างความเสียหายกับนักแสดงวัย 34 ปี มาตั้งแต่กลางปีก่อน
       
       ชื่อของ จางจื่ออี๋ กลายเป็นข่าวพาดหัวใหญ่เมื่อมีรายงานจากเว็บไซต์แห่งหนึ่งอ้างว่า เธอหาเงินได้จำนวนมากถึง 700 ล้านหยวน จากการหลับนอนมีความสัมพันธ์ทางเพศกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลจีน และเศรษฐีใหญ่มากมาย โดยเฉพาะนักการเมืองผู้อื้อฉาว ป๋อซีไหล ที่ว่ากันว่า มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเธอนับสิบครั้ง ผ่านการแนะนำของนักธุรกิจใหญ่ สวี่หมิง
       
       เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ จางจื่ออี๋ ต้องตัดสินใจใช้มาตรการทางกฎหมายเข้ามาปกป้องตัวเอง ด้วยการฟ้องร้องบริษัท China Free Press, Inc ที่เป็นเจ้าของกิจการเว็บไซต์ Boxun News ว่าข่าวดังกล่าวได้ทำลายทั้งชื่อเสียง และโอกาสทางธุรกิจของเธอไปมากมาย
       
       ซึ่งล่าสุดทาง Boxun News จึงได้ยอมรับว่าพวกเขารายงานข้อมูลที่ไม่เป็นจริงไป และยังเอ่ยปากว่าไม่ควรนำเสนอข่าวเรื่องนี้ไปตั้งแต่ต้น โดยเอกสารทางศาลที่ออกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นแคลิฟอร์เนีย ยังเปิดเผยว่าคดีระหว่างทั้งสองฝ่ายได้ถือว่ายุติลงอย่างเป็นทางการแล้ว หลังคู่กรณีสามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้

       นักแสดงหญิงคนสวยผู้โด่งดังขึ้นมาในยุค 80s แต่ชีวิตในช่วงหลังตกต่ำอย่างหนัก และมีปัญหาสุขภาพจิตจนน่าเป็นห่วง ได้ให้สัมภาษณ์ยอมรับเป็นครั้งแรกว่าปัญหาทั้งหมดของเธอ มีสาเหตุมาจากการถูกข่มขืน เมื่อหลายปีก่อน โดยชาย 2 คนที่เป็นขาใหญ่ในวงการบันเทิงฮ่องกง
       
       รูปโฉมที่เปลี่ยนแปลงไปจนไม่เหลือเค้าเดิม, พฤติกรรมแปลกประหลาด, เดินตามท้องถนนแบบไร้จุดหมาย และปัญหาในชีวิตอีกหลายๆด้าน คือภาพของ หลันเจี๋ยอิง (Yammie Nam) ที่มักจะปรากฏอยู่ในสื่อในช่วงปีหลังๆ โดยมีข่าวลือมาตลอดว่าความเปลี่ยนแปลงในทางลบที่เกิดขึ้นของเธอ เป็นผลของการถูกล่วงละเมิดทางเพศระหว่างที่เธออยู่ในวงการบันเทิง
       
       ซึ่งล่าสุด หลันเจี๋ยอิง ได้มีโอกาสให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Next Magazine ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เธอได้ยอมรับตรงๆ ว่าปัญหาทางสุขภาพจิตของเธอ เป็นผลมาจากการถูกข่มขืนจริงๆ โดยคนที่เป็นผู้ใหญ่ในวงการบันเทิง ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์เมื่อหลายปีก่อน
       
       ปัญหาในชีวิตของ หลันเจี๋ยอิง เริ่มเป็นข่าวครั้งแรกในปี 2004 เมื่อมีรายงานข่าวว่าเธอเกิดภาวะความเจ็บป่วยทางอารมณ์และจิตใจ จนพยายามฆ่าตัวตาย หลังจากนั้นจึงมีข่าวปัญหาต่างๆ ออกมาเรื่อยๆ ทั้งปัญหาทางการเงินจากธุรกิจที่ล้มเหลว, โรคซึมเศร้า และปัญหาสุขภาพจิต จนในปี 2006 หลันเจี๋ยอิง จึงเริ่มเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยทางจิต และเข้าบำบัดมาเรื่อยๆ
       

       หลังหนังภาค 2 ลงโรงไปเมื่อ 10 ปีก่อน ล่าสุดหนังตลกสุดฮิต Golden Chicken หรือ "นางสาวกำไก่" จากฮ่องกงได้ถูกนำกลับมาสร้างอีกครั้ง โดยมี "อู๋จินหยู" (Sandra Ng) รับบทนำพร้อมดาราชายชื่อดังมากมายเหมือนเดิม
       
       เรื่องราวว่าด้วยชีวิตของโสเภณีรุ่นใหญ่ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของฮ่องกง ที่นำแสดงโดย อู๋จินหยู เตรียมกลับมาสร้างเสียงหัวเราะ และความประทับใจอีกครั้งในภาคที่ 3 ภายใต้ชื่อ Golden Chicken SSS ที่คราวนี้จะมี จางเจียฮุย (Nick Cheung), กู่เทียนเล่อ (Louis Koo), หวงซิวเซิง (Anthony Wong), หยูเหวินเล่อ (Shawn Yu), เจิ้งจงจี (Ronald Cheng) ร่วมแสดงรวมถึงนักแสดงนำจากภาคเก่า ตู้เต๋อเหว่ย ก็จะกลับมารับบทรับเชิญในหนังภาคนี้ด้วย
       
       โดยหนังเพิ่งจะถ่ายทำฉากสำคัญอีกตอนไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่ อู๋จินหยู จะต้องเข้าฉากกับ จางเจียฮุย นักแสดงสุดฮ็อตแห่งยุค ที่จะรับบทเป็นมาเฟียตกกระป๋อง ชายอีกคนที่มีความสัมพันธ์กับตัวละครของ อู๋จินหยู ในหนังภาคนี้
       
       ซึ่งแม้จะเป็นเพียงบทรับเชิญเท่านั้น แต่ผู้สร้างก็ยืนยันว่าผู้ชมจะประทับใจกับบทของ จางเจียฮุย แน่นอน ส่วนเจ้าตัวก็กล่าวว่าถือเป็นโอกาสดีที่เขาจะได้กลับมารับงานในหนังตลกอีกครั้ง หลังจากห่างจากหนังประเภทนี้ไปนาน
       

       กลายเป็นที่จับตามองอย่างมากทีเดียวสำหรับ”ม่านหยงซาน” หรือ ”เจนิส ม่าน”  (Janice Man / 文詠珊) นางแบบสาวสวยที่ลือกันว่าเป็นแฟนสาวคนล่าสุดของ”เซียะถิงฟง” (Nicholas Tse / 謝霆鋒) พ่อม่ายหนุ่มชื่อดัง โดยหลังเก็บตัวเงียบมาตอนนี้เจ้าตัวยอมเปิดปากพูดถึงความสัมพันธ์แล้วบอกให้เป็นไปตามธรรมชาติ
       
       ม่านหยงซาน นางแบบสาวชาวฮ่องกงวัย 24 ปี ได้เข้าร่วมงานอีเวนต์ในมาเก๊าเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งการพบสื่อครั้งนี้เจ้าตัวยอมตอบคำถามสื่อด้วยดีถึงข้อสงสัย ที่ลือว่าเธอเป็นสาวคนใหม่ของเซียะถิงฟง ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ตอบคำถามไม่ต่างจากฝ่ายชายโดยระบุว่า “เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้น”
       
       ข่าวลือของคู่นี้เกิดขึ้น เมื่อมีคนเห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกันในกลุ่มเพื่อน แต่พูดคุยกันสองคนอย่างสนิทสนม ซึ่งในงานอีเวนต์ ม่านหยงซาน ได้ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดกับผู้สื่อข่าว ว่าเธอและเซียะถิงฟงมาเป็นเพื่อนกันได้อย่างไร แต่ยอมรับเพียงว่า ในวันที่เป็นข่าวพวกเขาแค่พบกันในงานปาร์ตี้วันเกิดของเพื่อนที่รู้จักกันเท่านั้น
       
       เมื่อถูกถามว่าไม่อยากให้ความสัมพันธ์ครั้งนี้ถูกจับตามองและอยากคบหากันแบบเงียบๆเพราะเกรงใจ จางป๋อจือ (Cecilia Cheung) อดีตภรรยาของเซียะถิงฟงใช่หรือไม่ เจ้าตัวก็รีบตอบทันที “ไม่มีอะไรที่ต้องหลบใครทั้งนั้นค่ะ พวกเราคุยกันแบบบริสุทธิ์ใจ”
       
       เมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ ม่านหยงซาน ก็ตอบเพียงว่าตอนนี้เจ้าตัวมุ่งเรื่องงานเพียงอย่างเดียว “ตอนนี้สนใจเรื่องงานอย่างเดียวเลยค่ะ ส่วนเรื่องอื่นก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติค่ะ”

Manager Online

       มีข่าวความรักครั้งใหม่ของ "เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse / 謝霆鋒) ออกมาอีกแล้ว โดยลือกันว่าเขากำลังคบหาดูใจกับนางแบบสาวสุดฮ็อต "หมั่นหยงซาน" (Janice Man / 文詠珊) วัย 24 ปี
       
       สื่อฮ่องกงได้โอกาสสัมภาษณ์ เซียะถิงฟง ที่เดินออกมาจากอพาร์ตเมนต์ของตัวเอง และดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ พร้อมตอบคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับนางแบบรุ่นน้อง หมั่นหยงซาน เป็นครั้งแรก โดยเขาไม่ได้ปฏิเสธอะไรแต่ตอบด้วยรอยยิ้มว่าเขากับเธอ "เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน" ซึ่งสื่อฮ่องกงบอกว่าแตกต่างจากที่ พระเอกวัย 33 ปี เคยปฏิเสธเรื่องนี้อย่างหนักแน่นมาตลอด
       
       เซียะถิงฟง กลับมาเป็นโสดได้ 2 ปีแล้วหลังเขาแยกทางกับ จางป๋อจือ (Cecilia Cheung / 張栢芝) เมื่อปี 2011 ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พระเอกหนุ่มคนดังก็มีข่าวกับสาวๆ อยู่เป็นระยะแต่สุดท้ายส่วนใหญ่ข่าวก็เป็นแค่ข่าวที่ค่อยๆเงียบหายไป จนล่าสุดมีรายงานว่าระยะหลัง เซียะถิงฟง ดูจะสนิทสนมกับ หมั่นหยงซาน เป็นพิเศษ โดยทั้งคู่แสดงความใกล้ชิดกันระหว่างร่วมปาร์ตี้วันเกิดของเพื่อนคนหนึ่ง ถึงขั้นป้อนอาหารกันถึงปากเลยทีเดียว
       
       แม้แต่ จางเจียฮุย (Nick Cheung / 張家輝) ที่ร่วมงานในหนังเรื่องใหม่กับ หมั่นหยงซาน ก็ยังพูดเล่นกับสื่อว่าเขาเองก็สงสัยเหมือนกันว่าตกลงแล้วนางแบบสาวสวยคนนี้เป็นแฟนคนใหม่ของ เซียะถิงฟง รึเปล่า แต่ถึงตอนนี้ฝ่ายหญิงก็ยังไม่ยอมพูดอะไรถึงเรื่องนี้เช่นเดียวกัน

Manager Online

ชีวิตอีกด้านของพระเอกยอดนักบู๊ "เฉินหลง" (Jackie Chan / 成龍) ถูกเปิดเผยออกมาอีกแล้ว เมื่อนักแสดงนางแบบสาวชาวญี่ปุ่น "อากิ มิซึซาว่า" (Aki Mizusawa / 水沢アキ) ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโทรทัศน์ที่บ้านเกิด ว่าเธอเคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระเอกจมูกโต จนถูกถูกบันทึกเข้าเป็นอีก 1 ของสาวๆ ในคอลเล็คชั่นของ "แจ็คกี้ ชาน" ไปเรียบร้อยแล้ว
       
       จากการทำงานมาถึง 40 ปีในวงการภาพยนตร์ เฉินหลง สามารถไต่เต้าจากตำแหน่งสตั้นแมน กลายเป็นดาราหน้ากล้อง จนปัจจุบันได้ชื่อว่าเป็นดาราแอ็กชั่นที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งของวงการภาพยนตร์โลก แต่ในอีกด้านเขาก็ได้ชื่อว่าเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ที่มีข่าวกับผู้หญิงมาแล้วมากมาย แม้ เฉินหลง จะสละโสดมานานหลายปีแล้วก็ตาม
       
       โดยในปี 1981 เฉินหลง ได้พบกับนักแสดงสาวชาวไต้หวัน หลินฟงเจียว (Joan Lin / 林鳳嬌)ก่อนจะแต่งงานกันแบบเงียบๆ ที่สหรัฐอเมริกาในอีก 1 ปีต่อมา เมื่อฝ่ายหญิงเกิดตั้งท้องขึ้นมา โดย เฉินหลง ได้ขอร้องให้ภรรยาถอนตัวจากวงการบันเทิง เพื่อทำหน้าที่เป็นแม่บ้านและเลี้ยงลูกให้กับเขาเต็มเวลา โดยหลังแต่งงานแล้วมีข่าวว่าเฉินหลงจะกลับบ้านแค่ปีละไม่กี่ครั้ง และปล่อยให้ภรรยาเลี้ยงลูกไปตามลำพัง
       
       ซึ่งตลอดมาหลังจากแต่งงานแล้ว เฉินหลง ก็มีข่าวกับสาวๆ คนอื่นมาตลอด ทั้งศิลปินระดับตำนาน เติ้งลี่จวิน (Teresa Teng / 鄧麗君) และนักแสดงซูเปอร์สตาร์ชาวไต้หวัน หลินชิงเสีย (Brigitte Lin / 林青霞) แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นข่าวลือที่ไม่ได้มีหลักฐานอะไรชัดเจน
       

หลัง หม่าไซ่ (Sire Ma / 馬賽) แถลงข่าวปฏิเสธว่าตัวเองไม่ได้มีรสนิยมเป็นพวกรักร่วมเพศ และอธิบายว่าข่าวเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิด ล่าสุด "หวางเซียะฉี" ที่ว่ากันว่าเป็นคนรักของ "หม่าไซ่" ได้ให้ข่าวโจมตีดาราสาวว่าทุกอย่างที่อีกฝ่ายพูดเป็นร้องโกหก และความสัมพันธ์ครั้งนี้มีแต่ความหลอกลวง
       
       ดาราสาวดาวรุ่งชาวฮ่องกง หม่าไซ่ ที่ยืนกรานปฏิเสธข่าวเรื่องรักร่วมเพศมาตลอด หลังมีข่าวลือว่าเรื่องดังกล่าวทำให้เธอโดน TVB ต้นสังกัดพักงาน และยังโบ้ยไปว่าสื่อเป็นคนพยายามแพร่ข่าวลือผิดๆพวกนี้ หลังมีภาพที่เธอแสดงความใกล้ชิดจูบปากเพื่อนสาวที่ชื่อว่า หวางเซียะฉี ระหว่างที่ทั้งคู่ควงกันไปเที่ยวต่างประเทศ ออกมาในสื่อ ได้ยอมรับในการแถลงข่าวด้วยน้ำตาเมื่อไม่กี่วันก่อน และยอมรับว่าเธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนักธุรกิจสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ได้เลิกคบหากันไปแล้ว นอกจากนั้นก็ยังเปรยว่าสื่อทำให้คนเข้าใจเธอผิด
       
       อย่างไรก็ตามเรื่องราวดังกล่าวดูจะบานปลายมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผู้หญิงที่อ้างตัวเป็นอดีตคนรักของ หวางเซียะฉี ได้ออกมาให้ข่าวว่า หม่าไซ่ แย่งคนรักของเธอไป และพยายามหลอกเอาเงินของ หวางเซียะฉี มาตลอด ถึงขั้นที่ครั้งหนึ่งเคยได้เงินค่าใช้จ่ายเดือนละถึง 200,000 เหรียญฯ จากมหาเศรษฐีหญิงชาวจีนแผ่นดินใหญ่อย่าง หวางเซียะฉี มาแล้ว นอกจากนั้นยังเคยพลาญเงินไปมหาศาลที่บ่อนกาสิโนในสิงคโปร์ด้วย
       
       กระทั่งล่าสุด หวางเซียะฉี ได้เป็นฝ่ายให้ข่าวผ่านทางเว็บไซต์ Sina Weibo เอง พร้อมจวกอดีตคู่รักอย่างสาว หม่าไซ่ ยับเยิน ด้วยการเกริ่นเริ่มต้นว่าในตอนแรกเธอคิดว่าได้เจอรักแท้แล้ว แต่หลังคบหากันไปซักระยะจึงรู้ตัวว่าตัวเองกำลังโดนหลอก
       

       “วิค โจวอี๋หมิน” (Vic Zhou) หรือ “ไจ่ไจ๋” จากวง F4 ที่ตอนนี้กลายเป็นนักแสดงดังเต็มตัวในวัย 32 ปี ล่าสุดมีรายงานว่าแฟนสาวคนปัจจุบันอย่าง”รีน หยู” (Reen Yu) หรือ “หยูหงหยวน” นักแสดงสาววัย 26 ปี ได้ตั้งครรภ์แล้วหลังอ้วนขึ้นผิดหูผิดตา
       
       วิค โจว นักแสดงหนุ่มชื่อดัง และ แฟนสาว รีน หยู ได้พากันขับรถเข้าไปในโรงรถ ซึ่งสื่อสามารถจับภาพได้ ก่อนพบว่านักแสดงสาววัย 26 ปี ดูผิดตากว่าที่เคยมีน้ำมีนวลและอวบขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งหน้าที่กลมขึ้นรวมถึงรูปร่างที่ดูหนาขึ้นด้วย จนเป็นเหตุให้สื่อสันนิษฐานกันว่าเธอกำลังตั้งครรภ์อย่างแน่นอน
       
       วิค และ รีน หยู ได้พบกันเมื่อครั้งร่วมงานกันในละครไต้หวันเรื่อง Black and White เมื่อปี 2008 หลังจากนั้นทั้งคู่ก็แอบคบหากันเรื่อยมานานมากกว่า 3 ปี แต่ก็ปฏิเสธความสัมพันธ์กันมาตลอด จนเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา สื่อสามารถเก็บภาพที่รีน หยู ยืนอยู่ในอ้อมอกของวิค โจว ขณะกำลังดูพลุอยู่ที่ระเบียงห้องของวิค จนทำให้วิค ต้องออกมายอมรับในที่สุดว่าเธอคืออีกครึ่งชีวิตของเขา
       
       โดยหลังจากเปิดตัวคบหากันอย่างเป็นทางการกับสื่อแล้ว ก็มีข่าวลือตามมาอีกว่า วิคได้ยอมทุ่มเงินกว่า 2.48 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน เพื่อซื้อรถ BMW M135i ให้แฟนสาว ซึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อนมีรายงานด้วยว่ารถหรูคันดังกล่าวถูกขับออกมาจากอพาร์ทเมนต์ของวิคด้วย
       

ผู้กำกับคู่ขวัญ "มาเบล เจิ้ง" และ "อเล็กซ์ หลอ" เปิดกล้องหนังใหม่ที่มี "ทังเวย" (Tang Wei) กับ "หลิวชิงหวิน" (Sean Lau) แสดงนำแล้ว พร้อมกับข่าวลือที่ว่าหนังรักย้อนยุคที่เล่าเรื่องในช่วงความวุ่นวายในประเทศจีนเมื่อปี 1930s เรื่องนี้ อาจจะเป็นหนังที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริงของพ่อกับแม่ของ "เฉินหลิง"
       
       เปิดกล้องเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ The Tale of Three Cities ของ มาเบล เจิ้ง และ อเล็กซ์ หลอ ที่ครั้งหนึ่งเคยสร้างความประทับใจให้แฟนหนังมาแล้วด้วยหนังรัก "ดอกไม้กับนายกระจอก" โดยผลงานชิ้นใหม่ของทั้งคู่จะมี หลิวชิงหลิง, ทังเวย, ฉินไห่ลู่ และจิงป๋อหรัน แสดงนำ พร้อมได้ จือหนานซุน มานั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการสร้างในเรื่องราวที่ว่าด้วยความรักของชายหญิงคู่หนึ่งในจีนแผ่นดินใหญ่ เมื่อช่วงที่ประเทศเต็มไปด้วยความวุ่นวายในยุค 1930s
       
       แต่สิ่งที่ทำให้โปรเจ็ค The Tale of Three Cities ได้รับความสนใจเป็นพิเศษก็คือ มีข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่า หนังเรื่องนี้ อันที่จริงแล้ว อ้างอิงมาจากชีวิตจริงของ ชาร์ล และ ลี่ลี่เฉิน ที่เป็นพ่อกับแม่ของ เฉินหลง (Jackie Chan) นั่นเอง โดยผู้กำกับทั้งสองไม่ได้ยอมรับหรือปฏิเสธในเรื่องนี้แต่อย่างใด
       

       “หวังลี่หง” (Wang Lee Hom) นักร้องหนุ่มชื่อดังที่เพิ่งประกาศกาศแต่งงานและเปิดตัวแฟนสาวได้ไม่นาน ออกมาขู่บรรดาแฟนคลับที่พยายามขุดคุ้ยอดีตของคนรักรวมถึงพูดไม่ดีสร้างข่าวลือเกี่ยวกับเธอโดยเตรียมปรึกษาทนายดำเนินคดีทางกฎหมายแล้ว
       
       ภรรยาสาวของหวังลี่หง นักร้อง-นักแต่งเพลงชื่อดังเรียกความสนใจจากสื่อและบรรดาแฟนๆได้เป็นอย่างมาก หลังจากที่หวังลี่หงประกาศว่าเขาแต่งงานกับเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
       
       โดยการประกาศข่าวดีนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เขาเปิดตัว หลี่จิงเล่ย นักศึกษาสาวจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย วัย 27 ปีต่อสื่อไปได้ไม่นาน ซึ่งได้สร้างความประหลาดใจให้แฟนๆทั่วเอเชีย หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ และมีข่าวของเธอปรากฏออกมาอย่างต่อเนื่อง
       
       โดยข่าวเกี่ยวกับภรรยาสาววัยห่างจากหวังลี่หงถึงสิบปี ได้รายงานว่าหลี่จิงเล่ยเป็นลูกครึ่งไต้หวัน-ญี่ปุ่น เคยศึกษาในโรงเรียนโดมินิกันอินเตอร์เนชันแนลในไต้หวัน พร้อมกับนำรูปถ่ายสมัยประถมของเธอออกมาเผยแพร่ โดยเปรียบเทียบรูปเธอในอดีตและปัจจุบันที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง โดยในอดีตเธอมีตาชั้นเดียวและริมฝีปากหนาซึ่งผิดกับปัจจุบันที่มีตาสองชั้นและหน้าตาที่ดูสวยหวานขึ้นผิดกับอดีต จนเป็นเหตุให้ชาวเน็ตเชื่อว่าเธอไปทำศัลยกรรมมา และยังลือด้วยว่าที่บอกว่าเธอเป็นจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียเป็นแค่เรื่องแต่งขึ้นเท่านั้น
       

       นักแสดงสาวชาวไต้หวัน “สวีซีหยวน” ยืนยันข่าวการตั้งครรภ์ลูกคนแรกให้กับสามี “วังเสี่ยวเฟย” แล้ว หลังทั้งสองแต่งงานกันอย่างยิ่งใหญ่เมื่อปี 2011
       
       ข่าวลือเรื่องการตั้งครรภ์ของ ต้าเอส (Da S) หรือ สวีซีหยวน เริ่มถูกพูดถึงตั้งแต่เธอประกาศเตรียมแต่งงานกับ วังเสี่ยวเฟย อย่างกะทันหันเมื่อปี 2011 แต่สุดท้ายข่าวดีดังกล่าวก็ยังไม่เกิดขึ้นเสียที จนมีเสียงลือว่านักแสดงเจ้าของบท ซันช่าย อาจจะมีปัญหามีลูกยาก อย่างไรก็ตามล่าสุดดาราวัย 37 ปี ก็ลบคำครหาดังกล่าวได้เสียที เมื่อเธอได้ยืนยันอย่างเป็นทางการ ว่าตัวเองกำลังจะได้เป็นคุณแม่แล้ว พร้อมโพสต์ภาพท้องแรกของตัวเองให้แฟนๆ ได้ชมกัน
       
       ต้าเอส กับแฟนหนุ่มที่อายุน้อยกว่าเธอ 4 ปี พบกันเป็นครั้งแรกในงานเลี้ยงวันเกิดของ อันอี่เซวียน เมื่อปลายปี 2010 และตกหลุมรักกันในเวลาอันรวดเร็ว จนหมั้นหมายหลังพบกันครั้งแรกเพียง 20 วันเท่านั้น ก่อนจะจัดพิธีแต่งงานสุดยิ่งใหญ่อลังการขึ้นในเดือน มี.ค. 2011
       
       โดยฝ่ายหญิงได้ตัดสินใจถอนตัวจากวงการบันเทิงนับแต่ตอนนั้น อย่างไรก็ตามตลอดระยะเวลาของการครองคู่ แม้จะมีข่าวลือเรื่องการมีทายาทของทั้งสองออกมาเป็นระยะ แต่สุดท้ายข่าวลือก็ไม่กลายเป็นความจริงเสียที จนมีข่าวออกมาอีกกระแสว่า ต้าเอส อาจจะมีปัญหาในการมีลูก ข่าวในตอนนั้นไปไกลถึงขั้นที่ว่าเรื่องนี้ ได้สร้างความไม่พอใจให้กับฝ่ายแม่สามี มหาเศรษฐีนีเจ้าของเครือร้านอาหารในจีนแผ่นดินใหญ่ ที่อยากอุ้มหลานไวๆ
       

ข่าวระบุหน่วยวางแผนครอบครัวได้ประกาศว่ากำลังจะมีการตรวจสอบกรณีที่ผู้กำกับชื่อดัง "จางอี้โหมว" (Zhang Yimou) ถูกกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมฝ่าฝืนโยบายลูกคนเดียว และหากเขาผิดจริงก็อาจถูกปรับเงินเป็นจำนวนมหาศาล
       
       โดยความเคลื่อนไหวของหน่วยงานรัฐบาลได้ทำให้ฝ่ายของ จางอี้โหมว ตัดสินใจแถลงผ่านตัวแทนที่โพสต์ข้อความทาง Weibo อย่างเป็นทางการของเขาเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ในการยอมรับว่าผู้กำกับชื่อดังได้ละเมิดนโยบายลูกคนเดียวของรัฐบาลจีนจริง
       
       ในแถลงการณ์ระบุ จางอี้โหมว มีลูกชาย 2 คน และลูกสาว 1 คน ที่เกิดจากหญิงสาวคนรักที่ชื่อว่า เจิ้งถิง โดยเด็กทั้งสามลืมตาดูโลกในปี 2001, 2004 และ 2006 ตามลำดับ เป็นช่วงที่ จางอี้โหมว กับแฟนสาวได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ก่อนจะจดทะเบียนในเดือน ก.ย. 2011 ที่ผ่านมา
       
       ซึ่งก่อนจะมาใช้ชีวิตคู่กับ เจิ้งถิง จางอี้โหมว ยังมีลูกสาวอยู่คนหนึ่งที่ชื่อว่า จางโมว เป็นทายาทของเขา ที่เกิดจากอดีตภรรยานาม เสี่ยวฮัว ซึ่งได้เลิกรากันไปแล้วด้วย
       
       ในแถลงการณ์ จางอี้โหมว ยังยืนยันว่าเขาและภรรยาจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่ และจะให้ข้อมูลที่จำเป็นทุกอย่างสำหรับการสอบสวน เขายังปฏิเสธข่าวลือที่ว่าตัวเองมีลูกถึง 7 คนกับผู้หญิงอีกหลายคน โดยกล่าวอย่างหนักแน่นอนว่าตัวเองมีทายาทกับ เจิ้งถิง เพียง 3 คนเท่านั้น ก่อนจะกล่าวสรุปด้วยการขออภัยสาธารณะชนที่เขาละเมิดนโยบายลูกคนเดียว และจะยอมรับผลกระทบที่เกิดจากการกระทำของตัวเองทั้งหมด
       

       เรียกได้ว่ายังคงเป็นที่จับตามองของสื่อฮ่องกงมากทีเดียวสำหรับ ”ปอย ตรีชฎา” สาวประเภทสองที่โกอินเตอร์ไปแสดงหนังประกบนักแสดงแถวหน้าของฮ่องกง โดยล่าสุดสื่อที่นั่นพร้อมใจรายงานว่า ”ปอย” เลิกกับ ”เอ็ม พีร์ระพงษ์ เคารพไทย” เพราะ ”กู่เทียนเล่อ” (Louis Koo) ตามจีบ
       
       สื่อฮ่องกงได้พากันรายงานว่ามีข่าวลือว่า ปอย ตรีชฎา เพชรรัตน์ นักแสดงสาวประเภทสองชื่อดังของไทย พบรักกับหนุ่ม กู่เทียนเล่อ ขณะกำลังถ่ายทำภาพยนตร์ The White Storm จนเป็นเหตุให้เจ้าตัวทิ้งแฟนหนุ่มที่คบหากันมานานอย่าง เอ็ม พีร์ระพงษ์ เคารพไทย ไป เพื่อไปคบหากับนักแสดงชื่อดังของฮ่องกง
       
       โดยข่าวลือการคบหากันของทั้งคู่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนที่แล้ว โดยสื่อฮ่องกงรายงานว่าทั้งคู่มีการหยอกล้อกัน และต่างมีใจให้กันจนเป็นเหตุให้ปอย ตรีชฎา ต้องเลิกรากับแฟนหนุ่มที่คบกันมาเกือบ 5 ปีไป ซึ่งปอย ตรีชฎา ก็เคยได้ออกมาให้สัมภาษณ์ปฏิเสธต่อสื่อไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า ไม่มีเรื่องของมือที่สาม โดยระบุว่า
       
       “เลิกกันแล้วค่ะ จริงๆ เราไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเลย เป็นเรื่องของไลฟ์สไตล์ที่ไม่เหมือนกันของคนสองคนมันก็แค่นี้ ไม่ใช่ว่าคุณเอ็มไม่ดีนะคะ เขาเป็นคนดีมากๆ ใครได้เขาเป็นแฟนก็ถือว่าเป็นคนที่โชคดี”
       
       “เราก็คบกันมานานแล้ว เกือบ 5 ปี จริงๆ เราห่างกันมาประมาณเกือบ 2 เดือน แต่ใช้คำว่าเลิกจริงๆ น่าจะประมาณวันก่อน ไม่ได้ยื้อนะคะ ตอนแรกเราคุยกัน ว่าเราห่างกันดีไหม พอเราห่างกันมันโอเคขึ้นสำหรับเราทั้งสองคน ก็เลยคุยกันเหมือนเป็นทางการว่าเลิกกันดีกว่าถ้าอย่างนั้น ไม่มีมือที่ 3 (เห็นว่ามีหนุ่มใหม่ดามใจแล้ว?) ไม่มีค่ะ”
       

       ผู้สร้างเผยภาพล่าสุดของ “จางจื่ออี๋” (Zhang Ziyi) ในฉากหนึ่งของหนังฟอร์มยักษ์ The Crossing ของ “จอห์น วู” (John Woo) ให้ดูกันแล้ว หลังดาราสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่เพิ่งจะคว้ารางวัลม้าทองคำมาได้เมื่อสัปดาห์ก่อน
       
       จางจื่ออี๋ เดินทางกลับไปถ่ายทำหนังเรื่อง The Crossing ที่เซียงไฮ้ทันที โดยผู้กำกับ จอห์น วู และทีมงานได้ร่วมแสดงความยินดีกับดาราสาวเจ้าของรางวัลม้าทองคำสาขานักแสดงหญิงยอดเยี่ยมคนล่าสุดด้วย งานนี้ผู้กำกับชาวฮ่องกงยังยกย่องเธอว่าเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยม และเป็นความภาคภูมิใจของกองถ่าย ซึ่งการคว้ารางวัลของเธอ ก็คงทำให้ทุกคนตั้งตารอดู The Crossing ที่จะเป็นหนังเรื่องใหม่ของ จางจื่ออี๋ กันแน่นอน
       
       ซึ่งในภาพล่าสุดของ The Crossing ที่เผยแพร่ออกมาให้ชมกันเป็นฉากการเอาชีวิตของ จางจื่ออี๋ หลังเรือที่เธอโดยสารมาจมลง ซึ่งว่ากันว่าเธอต้องแช่น้ำเพื่อเล่นฉากนี้ถึง 5 ชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งหนังจะสิ้นเสร็จจากการถ่ายทำที่เซียงไฮ้ในต้นเดือน ธ.ค. นี้ก่อนจะยกกองกันไปทำงานที่ไต้หวันต่อไป
       
       The Crossing ของ จอห์น วู จะเล่าถึงคนสามคู่ที่เดินทางจากจีนไปไต้หวันด้วยเรือจักรไอน้ำขนาดยักษ์ ระหว่างช่วงเวลาของการปฏิวัติในปี 1949 โดยทางผู้สร้างเรียกหนังเรื่องนี้ว่าเป็น “ไททานิค” ฉบับจีนแผ่นดินใหญ่กันเลยทีเดียว ซึ่งหนังยังจะมี ทาเคชิ คาเนชิโร่ (Takeshi Kaneshiro), ซองฮเยเคียว (Song Hye Kyo), หวงเสี่ยวหมิง (Huang Xiaoming) และ มาซามิ นากาซาว่า (Masami Nagasawa) ร่วมแสดงด้วย The Crossing จะแบ่งออกเป็นสองภาค และเริ่มฉายในปี 2014 - 2015

Manager Online