ข่าวจีน

      “อู๋จุน” (Wu Zun) นักร้อง-นักแสดงหนุ่มชื่อดังจากไต้หวันที่ออกมาประกาศข่าวช็อคแฟนๆว่าแต่งงานและมีลูกไปเมื่อปีที่แล้ว จนต้องหายหน้าหายตาไปจากวงการเพราะเจอแฟนๆรุมต่อว่าอย่างหนักที่ปิดบังความจริง ล่าสุดเจ้าตัวเผยโฉมลูกสาวออกสื่อแบบบสุดภูมิใจไม่ปิดบังอีกต่อไปแล้ว
       
       หลังจากที่แฟนๆเริ่มทำใจได้และยอมรับชีวิตแต่งงานของ อู๋จุน นักร้องหนุ่มได้แล้ว อู๋จุนที่เพิ่งต้อนรับลูกชาย ลูกคนที่สองเข้าสู่ครอบครัวเมื่อปีที่แล้วก็ได้อวดโฉม เน่ยเน่ย (Nei Nei) ลูกสาวคนแรกของตนเองให้แฟนๆได้ยลโฉม
       
       โดยอู๋จุน โพสต์ภาพลูกสาวในหน้าเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของตนเอง และยืนยันต่อแฟนๆว่า เน่ยเน่ย และ เขา จะเข้าร่วมรายการเรียลิตี Dad Is Back เวอร์ชันจีน ที่ดัดแปลงมาจาก Superman Is Back ของเกาหลี โดยเป็นรายการตามติดชีวิตคุณพ่อคนดังขณะใช้ชีวิตอยู่กับลูกๆที่บ้าน
       
       โดยรายงานระบุว่าการเข้าร่วมรายการ Dad Is Back ครั้งนี้ของอู๋จุน เขาถูกเสนอเงินด้วยค่าตัวสูงถึง 12 ล้านหยวนเลยทีเดียว
       
       เมื่อพูดถึงลูกสาว อู๋จุน หลงลูกสาวยิ่งกว่าภรรยาเสียอีก “ผมหลงลูกมากกว่าภรรยาอีกครับ เพราะผมไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับลูกมากนัก ผมแทบไม่เคยโมโหใส่ลูกเลย แม้แต่เวลาที่เธอทำอะไรผิด พอมองตาลูกผมก็ดุลูกไม่ลงเลยครับ”
       

       ชาวเน็ตจีนกล่าวหาองค์กรการกุศล One Foundation ของ "หลีเหลียนเจี๋ย" (Jet Li) ว่ายักยอกเงินบริจาคไปมากกว่า 300 ล้านหยวน ด้วยหลักฐานที่ว่าองค์กรได้รับเงินหลังเกิดแผ่นดินใหญ่ครั้งใหญ่เมื่อปี 2013 ไปถึง 385 ล้านหยวน แต่กลับใช้จ่ายเพื่อกิจกรรมการกุศลต่างๆ ไปเพียง 47 ล้านหยวนเท่านั้น
       
       มูลนิธิ One Foundation ที่ก่อตั้งโดย เจ็ต ลี หรือ หลี่เหลียนเจี๋ย สามารถเรี่ยไรเงินได้ถึง 385 ล้านหยวน หลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในยาอัน เมื่อเดือน เม.ย. 2013 ซึ่งทาง One Foundation ได้มีส่วนในการส่งอาสาสมัครจำนวนถึง 1,000 คน ในการช่วยค้นหาผู้รอดชีวิต และให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ด้วย
       
       แต่กลับเกิดข้อสงสัยออกมาว่า มูลนิธิของนักแสดงเจ้าของบท หวงเฟยหง อาจจะมีพฤติกรรมยักยอกทรัพย์ เพราะมีรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินเพียงแค่ 47 ล้านฯ เท่านั้น
       
       ชาวเน็ตจีนยังแสดงความเห็นว่านับจากเหตุการณ์เมื่อปี 2013 มูลนิธิต่างๆ ในจีน 219 แห่งได้รับเงินบริจาครวมกันถึง 1,696 ล้านหยวน และใช้จ่ายเงินไปทั้งหมด 645 ล้านหยวน หรือคิดเป็น 38% แต่ One Foundation กลับใช้จ่ายเงินไปแค่ 9% เท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมาก
       
       ซึ่ง หยางเผิง เลขาธิการของ One Foundation ได้อธิบายถึงข้อกล่าวหาเหล่านี้ว่าที่เห็นว่าองค์กรจ่ายเงินในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเพียง 47 ล้านหยวนฯ ก็เพราะทางองค์กรยังมีค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆ เกี่ยวกับกิจกรรมการช่วยเหลือด้านอื่นอีก นอกจากนั้นเงินส่วนใหญ่ก็ยังถูกเก็บเอาไว้สำหรับโครงการใหญ่ๆ ที่จะเป็นการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในระยะยาว ทั้งการสร้างโรงเรียน 5 แห่ง รวมถึงแผนการต่างๆ อีก ซึ่งสามารถตรวจสอบผ่านระบบข้อมูลของมูลนิธิได้อยู่แล้ว
       

       นักแสดงสาวผู้โด่งดังจากซีรีส์ "รักใสใสหัวใจ 4 ดวง" ได้เป็นคุณแม่ครั้งแรกในวัย 37 ปี หลังเธอได้ให้กำเนิดลูกน้อยทายาทคนแรกเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา
       
       ลูกสาวของ ต้าเอส (Da S) หรือ สวีซีว์หยวน ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยคุณแม่มือใหม่และสามีของเธอยังได้โพสต์ภาพรอยเท้าของลูกให้แฟนๆ ทุกคนได้ชมกันด้วย
       
       นักแสดงสาวชาวไต้หวัน และ วังเสี่ยวเฟย ลูกชายของนักธุรกิจชื่อดังชาวจีนแผ่นดินใหญ่ได้ประกาศแต่งงานกันอย่างรวดเร็ว หลังจากคบหาเพียงแค่ 20 วันเท่านั้น เมื่อปลายปี 2011 ก่อนจะได้จัดพิธีสมรสสุดหรูหราขึ้นที่เกาะไห่หนานในต้นปี 2012 หลังจากนั้น ต้าเอส ก็ลดงานในวงการบันเทิงเพื่อเริ่มต้นชีวิตครอบครัวทันที พร้อมกับมีข่าวว่าเธออาจจะท้องก่อนแต่ง จึงตัดสินใจจัดงานวิวาห์ขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่สุดท้ายนักแสดงสาวชื่อดังก็ไม่ได้ตั้งท้องแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้ามกลับเกิดข่าวลืออีกด้าน ที่ว่าเธออาจจะมีลูกยาก อย่างไรก็ตามสุดท้ายเธอก็ได้ประกาศข่าวดีเรื่องการตั้งท้องลูกคนแรกเมื่อปลายปี 2013 ที่ผ่านมา
       
       ข่าวระบุว่าระหว่างอุ้มท้อง ต้าเอส ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ จนคลอดลูกด้วยวิธีการผ่าตัดทำคลอดเมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่โรงพยาบาลเวสต์การ์เดนในกรุงไทเป ซึ่งสามีของ ต้าเอส ก็อยู่ให้กำลังใจภรรยาสาวในห้องคลอดด้วย ส่วนสมาชิกในครอบครัวของทั้งคู่ต่างมารอฟังข่าวดีกันอยู่ที่โรงพยาบาล รวมถึงน้องสาวของ ต้าเอส ที่กล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า "ตอนนี้กำลังรออยู่ด้านนอกค่ะ ตื่นเต้นกว่าตอนฉันคลอดลูกเองอีก"
       

“เอ๋อตงเซิน” (Derek Yee) ร่วมกับ “ฉีเคอะ” (Tsui Hark) หยิบ “ซาเสี่ยวเอี้ย” (The Sword Master / The Sword of the Third Master) นิยายกำลังภายในอมตะของ “โกวเล้ง” (Koo Long) มาสร้างเป็นภาพยนตร์สามมิติ และได้ฤกษ์เปิดกล้องไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีนักแสดงหนุ่มมาแรง “หลินเกิงซิน” (Kenny Lin / Lin Gengxin) รับบทนำร่วมด้วย “เหอหยุนตง” (Peter Ho), “เจียงอีว์เหยียน” (Jiang Yiyan) และ “เจียงเมิ่งเจี๋ย” (Jiang Mengjie) ท่ามกลางกระแสวิจารณ์ว่าหนังดูจะขาดดาราดังที่จะมาเป็นจุดขายให้กับหนัง

       ซาเสี่ยวเอี้ย ผลงานการเขียนของ โกวเล้ง เป็นเรื่องราวแนวกำลังภายในที่ว่าด้วยสุดยอดมือกระบี่อัจฉริยะ เจี่ยเฮียวฮง คุณชายเล็กแห่งหมู่บ้านกระบี่เทพเจ้า ซึ่งมีชีวิตที่แทบจะสมบูรณ์แบบ มีพร้อมทั้งสติปัญญา และฝีมือในเชิงกระบี่ แต่แล้วเขากลับหายตัวจากยุทธจักรไปใช้ชีวิตอย่างคนไร้ชื่อคนหนึ่ง จนกระทั่ง เจี่ยเฮียวฮงกลับต้องหวนคืนสู่ยุทธภพอีกครั้ง เพื่อพิสูจน์ฝีมือกับ อี้จับซา ยอดมือกระบี่ที่เป็นเหมือนคู่ปรับแห่งชะตากรรมของกันและกัน
       
       ในอดีต ซาเสี่ยวเอี้ย เคยถูกดัดแปลงเป็นซีรีส์และภาพยนตร์มาแล้ว รวมถึงฉบับของ ชอว์บราเดอร์ ซึ่งใช้ชื่อว่า ศึกล้างเจ้ายุทธจักร ที่มี เอ๋อตงเซิน รับบทนำเป็น เจี่ยเฮียวฮง
       
       ล่าสุด เอ๋อตงเซิน ที่ตอนนี้มีฐานะเป็นผู้กำกับภาพยนตร์แถวหน้า ได้ตัดสินใจหยิบวรรณกรรมที่เคยแจ้งเกิดเขาในฐานะดารามาสร้างเป็นภาพยนตร์อีกครั้งภายใต้การร่วมมือของบริษัท Bona Film Group Co Ltd และ Film Unlimited Production Co Ltd นอกจากนั้นก็ยังได้ ฉีเคอะ มาร่วมเขียนบทกับ ชุนเทียนหนัม ด้วย
       

       “จางป๋อจือ” (Cecilia Cheung) นักแสดงสาวสุดฉาวชื่อดังได้ให้สัมภาษณ์ออกสื่อยืนยันว่าหากย้อนเวลาได้ เธอยังคงเลือกแต่งงานกับ”เซียะถิงฟง” (Nicholas Tse) อดีตสามีของตนเองแม้จะรู้ว่าอนาคตจะต้องจบลงที่การหย่าร้างก็ตาม
       
       ตามรายงานจากซินหัว นิวส์ เอเยนซี ระบุว่า จางป๋อจือ นักแสดงดังชาวฮ่องกง ได้เดินทางไปให้สัมภาษณ์ออกรายการวิทยุเมื่อเร็วๆนี้ โดยเมื่อถูกดีเจถามว่าหากย้อนเวลากลับไปได้ เธอยังคงเลือกจะแต่งงานกับเซียะถิงฟง อดีตสามีอีกหรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ตอบกลับทีนทีแบบไม่ต้องคิดว่า “แน่นอนค่ะ ฉันจะแต่งกับเขา”
       
       ซึ่งดีเจยังคงถามต่อไปด้วยว่า แม้จะรู้ว่าสุดท้ายจะลงเอยที่การหย่าร้าง เธอก็ยังคงเลือกแต่งงานกับเขาต่อไปใช่หรือไม่? “แน่นอนค่ะ เบื้องบนเป็นผู้กำกับที่ดีมากนะคะ ถ้าฉันไม่ได้รับประสบการณ์เหล่านี้ในชีวิต ฉันก็คงจะไม่โตสักที”
       
       อย่างไรก็ตามแม้ว่าชีวิตแต่งงานของเธอจะสิ้นสุดลงแล้ว แต่จางป๋อจือก็ยังยืนยันว่าเธออยากจะมีลูกอีกถ้าหากในอนาคตเธอได้แต่งงานอีกครั้ง
       
       จางป๋อจือ ยังคงไม่อยากพูดถึงความสัมพันธ์ของเธอในอดีตมากนัก โดยเจ้าตัวให้เหตุผลว่าอดีตก็คืออดีต และไม่อยากถอยกลับไปอีกแล้ว “ฉันอาจจะหนีจากโลกความจริงไปเลยก็ได้นะคะถ้าฉันยังพยายามกลับไปพูดถึงอดีตอีก”
       
       “อดีตคือประวัติศาสตร์นะคะ ทุกๆคนควรที่จะเคารพคนอื่นด้วย ฉันอยากจะมองความอ่อนแอของคนอื่นเป็นพลังมากกว่าค่ะ ซึ่งฉันก็มีความอ่อนแอมากๆเหมือนกัน คำเดียวเลยนะคะ อดทนและเปิดใจให้กว้างค่ะ”
       

       เป็นสาวฮอตที่ครองตัวเป็นโสดอยู่นานทีเดียวสำหรับ “หลินจื่อหลิง” (Lin Chi Ling) นางแบบสาวชาวไต้หวันวัย 39 ปี โดยตอนนี้มีข่าวลือว่าเธอได้ไปปรึกษาหมอเพื่อนำไข่ของเธอไปแช่แข็ง เพื่อเก็บไว้ใช้ในอนาคตแล้ว
       
       รายงานจากสื่อไต้หวันระบุว่า แม่ของหลินจื่อหลิงเป็นกังวลในตัวลูกสาว ว่าอาจต้องประสบกับปัญหามีบุตรยาก เนื่องจากตอนนี้นางแบบสาวเริ่มมีอายุมากขึ้นแล้ว โดยลือว่าแม่ของนางแบบสาวได้พาลูกสาวไปพบกับ ดร. อู๋หมิงอี้ เพื่อทำการนำไข่ของเธอไปแช่แข็งเก็บไว้เรียบร้อยแล้ว
       
       อย่างไรก็ตาม หลินจื่อหลิง ที่เพิ่งเข้าร่วมงานอีเวนต์ในไต้หวันก็ออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าว โดยระบุว่าเธอไม่รู้จักคุณหมอที่ถูกอ้างชื่อถึงเลยแม้แต่น้อย แต่เจ้าตัวยอมรับว่าเธออาจใช้วิธีการเช่นนี้ในอนาคตก็เป็นได้
       
       โดยหลินจื่อหลิง ยังระบุด้วยว่า ด้วยตารางงานของเธอที่ยุ่งมาก ทำให้เธอไม่มีเวลาออกเดตหรือคบหากับใคร ส่งให้แพลนแต่งงานของเธอคงต้องเลื่อนออกไปอีกอย่างไม่มีกำหนด และถ้าได้แต่งงาน เธอก็อยากจะมีลูกของตนเองเช่นกัน แม้จะต้องพึ่งพาวิทยาการทางการแพทย์ก็ตาม
       
       หลินจื่อหลิง นางแบบสาวชื่อดังเริ่มโด่งดังและเป็นที่จับตามองทั่วเอเชียหลังจากเจ้าตัวมีข่าวคบหากับ เจอร์รี (Jerry) จากวง F4 ซึ่งหลังจากเลิกรากัน หลินจื่อหลิง ก็มีข่าวกับ ฉิวจื่อคาย นักธุรกิจชาวไต้หวัน แต่ตอนนี้เจ้าตัวยังคงยืนยันว่าตนเองโสดสนิท และยังคงหวังว่าจะได้พบกับครึ่งชีวิตของตนเองเพื่อสร้างครอบครัวด้วยกันต่อไป โดยนางแบบสาวยังกล่าวติดตลกด้วยว่า สื่อต่างเป็นห่วงเรื่องการแต่งงานของเธอมากกว่าแม่แท้ๆของเธอเสียอีก

Manager Online

       สื่อในเกาหลีรายงานว่า "คิมซูฮยอน" (Kim Soo Hyun) และ "จอนจีฮยอน" (Jun Ji Hyun)  ต้องไปร่วมงานอีเวนต์เปิดตัว Samsung Galaxy S5 ในจีนแผ่นดินใหญ่ด้วยความลำบากใจ หลังประเทศเกาหลีใต้ยังอยู่ในบรรยากาศแห่งความสูญเสีย จากเหตุการณ์เรือเฟอร์รีอับปาง
       
       สองนักแสดงนำจากซีรีส์สุดฮิต You Who Came From the Stars ที่ครองใจผู้ชมชาวจีนมากมายอย่าง จอนจีฮยอน และ คิมซูฮยอน ได้ปรากฏตัวรวมกันในงานอีเวนต์เปิดตัวโทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy S5 ในกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งมีชาวจีนจำนวนถึง 8,000 คนที่มารอคอยพบนักแสดงขวัญใจจากเกาหลีใต้ และว่ากันว่าตั๋วเข้างานได้ถูกปั่นราคาในตลาดมืดจนสูงถึง 100,000 หยวน หรือประมาณ 520,000 บาทเลยทีเดียว
       
       แต่ข่าวกลับรายงานว่า สองซูเปอร์สตาร์แดนกิมจิต้องร่วมอีเวนต์โปรโมตสินค้าครั้งนี้ด้วยความลำบากใจ ซึ่งแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนจากสีหน้าแสดงความอึดอัด เพราะในเวลานี้ที่ประเทศเกาหลีใต้ของพวกเขากำลังอยู่ในบรรยากาศแห่งความสลดใจ ในเหตุการณ์เรือเฟอร์รีอับปางที่มีผู้เสียชีวิต และสูญหายร่วมกันถึงประมาณ 300 ชีวิต จนมีข่าวว่ามีความพยายามของหลายภาคส่วน ที่เรียกร้องให้ยกเลิกงานอีเวนต์ครั้งนี้ หรือเลื่อนไปก่อน แต่สุดท้ายงานก็ยังดำเนินต่อไป
       
       ก่อนหน้านี้ คิมซูฮยอน และ จอนจีฮยอน ได้ตัดสินใจยกเลิกการปรากฏตัวในงานอีเวนต์เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ไปแล้ว แต่สุดท้ายทั้งสองก็ไม่สามารถยกเลิกกำหนดงานในวันที่ 18 ที่เป็นการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือยี่ห้อดังที่ Diamond Arena ในกรุงปักกิ่งได้ โดยในงานยังมีการจัดคอนเสิร์ตที่มี ซองซีคยอง และ ลิน มาร่วมโชว์ด้วย
       

       Evisu บริษัทผลิตเสื้อผ้ายีนจากญี่ปุ่นได้ตัดสินใจเลิกสัญญากับ “เฉินกวานซี” (Edison Chen / 陳冠希) พร้อมกับข่าวที่ผู้บริหารของบริษัทบอกว่า คงจะไม่มีการร่วมงานกับนักแสดงหนุ่มผู้อื้อฉาวรายนี้อีกแล้ว ซ้ำเติมสถานการณ์อันย่ำแย่ของนักแสดงวัย 33 ปีต่อไป
       
       เป็นเวลาถึง 6 ปีแล้วสำหรับเหตุการณ์สุดอื้อฉาว “ภาพหลุด” ชุดใหญ่ของ เอดิสัน เฉินกวานซี ที่ทำให้เขาเคยต้องประกาศถอนตัวจากวงการบันเทิงไปช่วงหนึ่ง และยังเดินทางออกจากฮ่องกงไปใช้ชีวิตที่แวนคูเวอร์แคนาดาอย่างเงียบๆ ก่อนจะเดินทางกลับฮ่องกงเมื่อ 2 ปีก่อน และค่อยๆ กลับคืนสู่วงการบันเทิง เริ่มจากการออกอัลบั้มชุด Confusion ที่เขาลงมือโปรดิวซ์เอง แต่ดูเหมือนว่าข่าวสุดอื้อฉาวเมื่อปี 2008 คงจะทำให้ เฉินกว้านซี ไม่สามารถกลับไปสู่จุดเดิมได้อีกแล้ว
       
       ข่าวจากสื่อฮ่องกงระบุว่าระยะหลัง เฉินกวานซี ถึงขั้นต้องหันไปรับงานทัวร์ตามไนต์คลับที่จีนแผ่นดินใหญ่ เพราะไม่สามารถหาหนังเล่นได้ โดยใน 4 ปีที่ผ่านมาเขามีผลงานการแสดงเป็นภาพยนตร์เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น นอกจากบทรับเชิญในบางโอกาส ขณะที่หญิงสาวที่มีข่าวกับเขาหลายๆ คนยังคงมีงานในวงการบันเทิงอย่างต่อเนื่อง
       
       แต่แม้เส้นทางในวงการบันเทิงจีนและฮ่องกงจะดูตีบตัน แต่ เฉินกวานซี ยังพอเอาตัวรอดได้จากธุรกิจแฟชั่นทั้งแบรนด์ CLOT ซึ่งเขาเป็นหุ้นส่วนและมีสาขาอยู่ในหลายประเทศ นอกจากนั้นเมื่อปี 2012 เขายังยอมลดค่าตัวของตนเองเพื่อเซ็นสัญญา 2 ปีกับ Evisu เป็นมูลค่า 800,000 เหรียญฮ่องกง จากเดิมก่อนหน้าเป็นข่าวอื้อฉาวเขาจะมีค่าตัวเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าอยู่ที่ 1 ล้านเหรียญฮ่องกงขึ้นไป
       

       “จอห์น วู” (John Woo) อธิบายถึง The Crossing ผลงานเรื่องล่าสุดของเขาว่าจะเป็นหนังมหากาพย์ที่ใกล้เคียงกับหนังตำนานแห่งฮอลลีวูด Gone with the Wind มากกว่าจะเป็น “Titanic” ฉบับจีนแผ่นดินใหญ่อย่างที่สื่อพยายามพูดกัน
       
       ผู้กำกับชื่อดังชาวฮ่องกง จอห์น วู แถลงเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องใหม่ร่วมกับนักแสดงดังทั้ง จางจื่ออี๋ (Zhang Ziyi), ซองเฮเคียว (Song Hye Kyo) และ หวงเสี่ยวหมิง (Huang Xiaoming) ร่วมด้วยผู้อำนวยการสร้าง เทอร์เรนซ์ ฉาง เมื่อสัปดาห์ที่แล้วในเทศกาลภาพยนตร์กรุงปักกิ่งครั้งที่ 4 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 - 23 เม.ย.
       
       The Crossing เล่าเรื่องความรักของคนหลายคู่ ที่เกี่ยวข้องกับเรือจักรไอน้ำที่อับปางลงระหว่างบรรทุกคนจากจีนแผ่นดินใหญ่ไปไต้หวันหลังสิ้นสงสงครามที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนเอาชนะจนได้ปกครองประเทศ
       
       อย่างไรก็ตาม วู กลับไม่อยากให้ทุกคนเรียกหนังของเขาว่าเป็น “Titanic ฉบับจีนแผ่นดินใหญ่” ถึงแม้หนังจะว่าด้วยเรื่องราวของเรืออับปางเหมือนกันก็ตาม เพราะเรื่องราวในหนังของเขาที่มีฉากหลังอยู่ในช่วงยุค 1940s จะไม่ได้เกิดขึ้นบนเรือเท่านั้น แต่จะเล่าเรื่องของตัวละครมากมาย ในหลายๆ สถานที่เพื่อเล่าถึงชะตากรรมของผู้คนในช่วงเวลาของสงคราม แบบเดียวกับ Gone with the Wind หนังโรแมนซ์ปี 1939 ของฮอลลีวูดที่เล่าเรื่องราวในช่วงสงครามกลางเมือง
       

       “แองเจลาเบบี้” (Angela Baby) นางแบบนักแสดงสาวสวยที่กำลังฮอตสุดๆในวงการบันเทิงแดนมังกร ล่าสุดเจ้าตัวเจอจับภาพได้ขณะกำลังสูบบุหรี่ ส่งผลให้สื่อต่างโจมตีที่เธอทำลายภาพลักษณ์สาวสวยใสดาวรุ่งของวงการของตนเองจนหมดสิ้น
       
       ตามรายงานจากสื่อฮ่องกงระบุว่า ในปาร์ตี้หลังงานประกาศผลรางวัล Hong Kong Film Awards ครั้งที่ 33 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แองเจลาเบบี้ นักแสดงสาวชื่อดังที่อยู่ในงานวันนั้นได้รับความสนใจเป็นพิเศษ
       
       โดยในงานปาร์ตี้เธอถูกพาไปทำความรู้จักกับผู้กำกับชื่อดังทั้งหว่องกาไว (Wong Kar Wai) และ แอนดรูว์ หลอ พร้อมถ่ายรูปร่วมกับผู้กำกับดัง ก่อนที่เธอจะทำความเคารพพร้อมแยกตัวไปยังห้องรับรองวีไอพี ก่อนจะมาถูกจับภาพได้ว่าเจ้าตัวกำลังสูบบุหรี่อยู่ในห้องดังกล่าว
       
       โดยหลังจากภาพสูบบุหรี่ถูกเผยแพร่ออกไป สื่อต่างรายงานว่าภาพดังกล่าวเป็นการทำลายภาพลักษณ์สาวหวานใสของแองเจลาเบบี้ออกไปจนหมดสิ้น โดยชาวเน็ตต่างก็วิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของเธออย่างต่อเนื่องในสังคมออนไลน์ต่างๆด้วย
       
       อย่างไรก็ตาม นับว่าครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่แองเจลาเบบี้ถูกจับภาพได้ขณะกำลังสูบบุหรี่ เพราะก่อนหน้านี้เมื่อปี 2008 เธอก็เคยถูกจับได้มาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งครั้งนั้นเธอออกมาแก้ข่าวโดยระบุว่าเธอเพิ่งเริ่มหัดสูบเพื่อความสนุกเท่านั้นและสาบานว่าเธอจะเลิกและไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับมันอีกอย่างเด็ดขาด
       
       โดยหลังจากมีภาพสูบบุหรี่ครั้งล่าสุดเผยแพร่ออกมา แองเจลาเบบี้ยังไม่ออกมาให้สัมภาษณ์หรือชี้แจงถึงภาพที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด

Manager Online

       “หลิวเต๋อหัว” (Andy Lau) ต้องวิ่งหนีตำรวจตัวจริง หลังรับบทพ่อผู้ตามหาลูกชายที่ถูกลักพาตัวไปอย่างสมบทบาทเกินเหตุในผลงานเรื่องใหม่ล่าสุดที่ชื่อว่า Lost and Lonely
       
       หลังเปิดกล้องเริ่มถ่ายทำที่ฉวนโจวมาตั้งแต่เดือน มี.ค. ล่าสุดหนังเรื่อง Lost and Lonely ของ หลิวเต๋อหัว ได้ยกกองไปถ่ายทำถึงฝูเจี้ยนแล้ว โดยในหนังเรื่องนี้พระเอกวัย 52 ปี จะต้องสวมบทบาทเป็นเกษตรกรหนุ่มใหญ่ ที่ใช้เวลา 10 ปี เดินทางไปทั่วประเทศจีน เพื่อตามหาลูกชายที่ถูกแก๊งลักเด็กลักพาตัวไป
       
       ซึ่งเพื่อความสมจริงสมจังของหนังทางผู้กำกับได้ใช้วิธีถ่ายทำแบบซ่อนกล้อง ให้หลิวเต๋อหัวในคราบตัวละครเดินปะปนเข้าไปกับฝูงชนที่ฝูเจี้ยน โดยพระเอกขวัญใจชาวจีนดูจะสวมบทบาทได้อย่างสมจริงจนไม่มีใครสังเกตเห็น จากทั้งเสื้อผ้าซอมซ่อ และยังลดน้ำหนักตัวจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม
       
       โดยในการแสดงฉากดังกล่าว หลิวเต๋อหัว ยังต้องไปติดภาพประกาศคนหายที่สถานีรถไฟในย่านดังกล่าว จนเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงกับมาไล่เขา เพราะติดโปสเตอร์ในบริเวณที่ไม่ได้รับอนุญาตกันเลยทีเดียว

Manager Online

ไม่มีภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยมประจำปี 2013 ในการมอบรางวัลของสมาคมผู้กำกับจีน หลังที่ประชุมซึ่งประกอบไปด้วยผู้กำกับแถวหน้าของประเทศมีความเห็นร่วมกันว่าไม่มีผลงานเรื่องใดที่มีคุณภาพถึงมาตรฐานที่จะได้รับรางวัลใหญ่ทั้งสอง แต่ในเวลาเดียวกันก็เกิดข้อสงสัยว่านี่คือการแสดงจุดยืนบางอย่างของคนทำหนังจีน เพื่อประท้วงต่อระบบเซนเซอร์ที่ไม่เป็นธรรม
       
       คนทำหนังแถวหน้าของจีน เผิงเสี่ยวกัง ที่ร่วมเป็นคณะกรรมการพิจารณารางวัลของสมาคมผู้กำกับจีน ได้กล่าวระหว่างการถ่ายทอดสดการประกาศรางวัลของสมาคมผู้กำกับเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าในตลอด 1 ปีที่ผ่านมาแม้วงการหนังจีนจะประสบความสำเร็จสามารถส่งผลงานทำรายได้มากเป็นประวัติการณ์ แต่ในด้านคุณภาพทางศิลปะ และจิตวิญญาณแห่งความเป็นมนุษย์ในภาพยนตร์เรื่องต่างๆ กลับดูตกต่ำลง
       
       “นี่เป็นการตัดสินใจอย่างรอบคอบแล้ว ถือเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบของคนทำหนัง” เผิง ผู้กำกับที่หนังซึ่งสามารถทำรายได้อย่างมหาศาลในหลายปีที่ผ่านมากล่าว “วงการหนังจีนไม่ได้ต้องการความสะดวกสบาย แต่ต้องการการยกระดับมาตรฐานที่สูงขึ้น ถึงระดับที่ทุกคนต้องใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อไปให้ถึงมาตรฐานนั้น และควรจะเป็นมาตรฐานที่ทำให้เหล่าคนทำหนังรู้สึกภาคภูมิใจไปกับมันด้วย”
       
       แม้จะไม่ได้กล่าวถึงเจ้าหน้าที่ หรือบทบาทของรัฐบาล แต่หลายฝ่ายกลับมองว่าการตัดสินใจของสมาคมผู้กำกับฯ อาจจะเป็นการประกาศจุดยืนประท้วงต่อรัฐบาลปักกิ่งที่ขัดขวางไม่ให้ “A Touch of Sin” ผลงานเรื่องล่าสุดของ “เจียจางเค่อ” ได้เข้าฉาย
       

งานประกาศและมอบรางวัลตุ๊กตาทองฮ่องกงครั้งที่ 33 เสร็จสิ้นกันไปเรียบร้อยเมื่อค่ำคืนของวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา ด้วยชัยชนะของหนังดังแห่งปี The Grandmaster ที่คว้ารางวัลไปได้ถึง 12 สาขารวมถึงนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และสมทบชายยอดเยี่ยม ส่วน “น้องปอย” ก็มีโอกาสไปโชว์ตัวในงานครั้งนี้ด้วย

       The Grandmaster สร้างสถิติเป็นหนังที่กวาดรางวัลบนเวทีงานตุ๊กตาทองฮ่องกงไปได้มากที่สุดที่เคยมีมากถึง 12 สาขา ซึ่งเป็นการทำลายสถิติที่ Comrades: Almost a Love Story หรือ เถียน มี มี่ 3650 วันรักเธอคนเดียว เคยทำเอาไว้ด้วยการกวาดรางวัลไปทั้งหมด 9 สาขาในงานมอบรางวัลเมื่อปี 1996 นั่นเอง โดยนอกจากรางวัลด้านเทคนิค, รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยมแล้ว จางจื่ออี๋ (Zhang Ziyi) ผู้รับบทนำใน zก็คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงไปตามความคาดหมายด้วย
       
       “ขอบคุณชาวฮ่องกงทุกคนสำหรับกำลังใจ และการยอมรับครั้งนี้ด้วยค่ะ ขอบคุณนะคะคุณ เหลียงเฉาเหว่ย (Tony Leung) tไม่ว่าท้ายที่สุดแล้วใครจะได้รางวัลนักแสดงนำชายไป แต่สำหรับฉัน คุณจะเป็นนักแสดงยอดเยี่ยมเสมอ” นักแสดงสาววัย 32 ปี กล่าวหลังได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงจากบทจอมยุทธหญิงใน The Grandmaster และยังพูดต่อไปว่า “เมื่อปี 2009 หว่องกาไว (Wong Kar Wai) ติดต่อให้ฉันเล่นหนังเรื่องนี้ ตอนนั้นฉันเองดีใจมากๆ กระโดดเป็นกระต่ายเลย ไม่ใช่เพราะว่าถ้าได้เล่นหนังของเขาแล้วมีโอกาสจะได้รางวัลนะคะ แต่เพราะหนังของเขาสามารถดึงด้านที่ดีๆ ของนักแสดงออกมาได้ ตลอด 3 ปีของการถ่ายทำ ฉันได้รับประสบการณ์ต่างๆ มากมาย บางครั้งก็ต้องเช็ดน้ำตาด้วย มีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นบ่อยๆ แต่ฉันเชื่ออยู่เสมอว่าถ้าจะมีใครที่ช่วยให้ฉันลุกขึ้นอีกครั้ง และสามารถก้าวเดินต่อไปได้ คนผู้นั้นก็คือเป็น หว่องกาไว”
       

       ซูเปอร์สตาร์ชาวเกาหลีใต้บริจาคเงินให้กับองค์กรการกุศลในจีนถึง 1.2 ล้านหยวน หลังเพิ่งจะมีรายงานว่าในระยะหลังภาพพจน์ของดาราเกาหลีในจีนดูจะไม่ค่อยสวยสักเท่าไหร่ เพราะชาวจีนส่วนใหญ่มองว่าคนดังแดนกิมจิมักจะมาเมืองจีนเพื่อหวังกอบโกยเท่านั้น
       
       “ผมได้รับความรักมากมายเหลือเกิน และได้รับความสนใจมากมายจากคนที่นี่ จึงรู้สึกตื้นตันมากกับอีเวนต์ครั้งนี้ ที่เราสามารถช่วยเหลือเด็กๆ ที่ขาดโอกาสได้” คิมซูฮยอน กล่าวระหว่างอีเวนต์ที่ปักกิ่งเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยนักแสดงวัย 26 ปี ได้ร่วมกับ Gucci ในการบริจาคเงิน 1.2 ล้านหยวน (6.2 ล้านบาท) ให้กับกองทุนเด็กและวัยรุ่นจีน ที่ช่วยเหลือด้านการศึกษาให้กับเด็กที่ขาดโอกาส
       
       ข่าวการบริจาคเงินของ คิมซูฮยอน เกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกับที่สำนักข่าว ยอนฮัป ได้รายงานอ้างอิงความเห็นของสื่อจีน เกี่ยวกับความรู้สึกของชาวจีน ต่อนักแสดงชาวเกาหลีใต้ ที่ระยะหลังเข้าไปสร้างกระแสความนิยมในจีนได้อย่างต่อเนื่อง แต่ชาวจีนส่วนใหญ่กลับรู้สึกกับดาราแดนกิมจิในแง่ลบมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะพวกเขาเริ่มรู้สึกว่าดาราเกาหลีมักจะหวังมากอบโกยในเมืองจีน โดยไม่ได้ตอบแทนอะไรให้เลย
       
       “ดาราเกาหลีโด่งดังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แต่กระแสก็ตีกลับในเวลาอันสั้นเหมือนกัน ดาราเกาหลีมักจะมาพร้อมกับภาพว่ามาเมืองจีนเพื่อกอบโกย แล้วก็จากไปในเวลาอันสั้น ขณะที่ดาราชาวจีนมักจะไปร่วมอีเวนต์เพื่อการกุสลโดยไม่คิดค่าตัว แต่ดาราเกาหลีกลับแทบไม่เคยปรากฏตัวในงานประเภทนั้นเลยถ้าไม่ได้เงิน ชาวจีนส่วนใหญ่เชื่อว่าถ้าจะมาเอาเงินของพวกเขา ก็ควรจะตอบแทนอะไรบ้าง แต่ข่าวแบบนี้ของดาราเกาหลีมีน้อยมาก จึงเริ่มมีความรู้สึกว่าดาราเกาหลีใช้ความดังมารับงาน และเปิดตูดเดินทางออกจากเมืองจีนไปทันทีหลังจากได้เงิน” Max Times Entertainment กล่าว

Manager Online

       ได้มีการเปิดโผสำรวจความนิยมในตัวศิลปินชายทั่วเอเชีย ให้ครองตำแหน่ง 2014 Asian Male God ซึ่งงานนี้ “อีมินโฮ” (Lee Min Ho) มาแรงเป็นอันดับหนึ่งได้รับคะแนนโหวตกว่าสิบล้านคะแนน เบียด “คิมซูฮยอน” (Kim Soo Hyun) ที่ตามมาที่อันดับสาม
       
       รายงานระบุว่าเว็บไซต์จีนได้จัดทำผลสำรวจออนไลน์ขึ้นมาเป็นเวลา 2 เดือน เพื่อหาซูเปอร์สตาร์หนุ่มขวัญใจแฟนๆครองตำแหน่ง Asian Male God ปี 2014 ซึ่งงานนี้ 2 นักแสดงหนุ่มแดนกิมจิทั้ง อีมินโฮ จากซีรีย์ดัง The Heirs และ คิมซูฮยอน จากซีรีย์ You Who Came From The Star ต่างก็ได้รับคะแนนโหวตอย่างท่วมถ้น
       
       โดยอีมินโฮ ขึ้นแท่นมาเป็นอันดับหนึ่งด้วยคะแนนโหวตมากกว่า 10 ล้านคะแนน ตามมาด้วยหนุ่ม คริส (Kris) จากบอยแบนด์ Exo-M ที่ตามมาเป็นอันดับ 2 ด้วยคะแนนโหวต 9.99 ล้านคะแนน ส่วนหนุ่มeตามมาอยู่ที่อันดับ 3 ด้วยคะแนนโหวต 9.96 ล้านคะแนน
       
       โดยรายงานระบุด้วยว่า ผลโหวตนี้ให้แฟนๆ ร่วมกันโหวตโดยพิจารณาจากรูปร่าง, หน้าตา, เสน่ห์, ความสามารถ และจิตใจที่ดีของศิลปิน
       
       ซึ่งนอกจากจะมีชื่อของศิลปินเกาหลีติดอันดับท็อปแล้วยังมีหนุ่มๆ ชาวไต้หวันอย่าง เจอร์รี (Jerry Yan) F4 และ หลัวจื้อเสียง (Show Luo) ติดอันดับด้วย
       
       10 อันดับ 2014 Asian Male God
       
       1.    อีมินโฮ - 10 ล้านโหวต
       2.    คริส Exo-M - 9.99 ล้านโหวต

“เฉินหลง” (Jackie Chan) จัดงานฉลองใหญ่เป็นพิเศษ สำหรับวาระวันคล้ายวันเกิดปีที่ 60 ทั้งการจัดคอนเสิร์ต 2 รอบที่มีศิลปินมาร่วมโชว์มากมาย และยังมีการจัดงานฉลองกับแฟนคลับซึ่งเดินทางมาจากทั่วโลก รวมถึงจัดงานการกุศลที่สามารถหาเงินได้ถึง 70 ล้านหยวนด้วย

       เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ถือว่าเป็นวันคล้ายวันเกิดปีที่ 60 ของ เฉินหลง ซึ่งถือเป็นวาระสำคัญสำหรับชาวจีน จึงมีการเฉลิมฉลองที่มากเป็นพิเศษ เขาจึงได้จัดคอนเสิร์ตขึ้นเพื่อฉลองวาระนี้เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยการแสดงทั้งหมด 2 รอบ พร้อมมีศิลปินชื่อดังมากมายขึ้นแสดง อาทิ หวังลีหง (Wang Lee Hom), เจย์ โจว (Jay Chou), โคโค ลี (Coco Lee), กู่จี้จี รวมไปถึงกลุ่มไอดอล EXO, ดาราสาวชาวเกาหลี คิมเฮซุน และนักร้องสาวเสียงดีจากญี่ปุ่น MISIA ก็ร่วมขึ้นเวทีเพื่อมอบความสุขให้กับทุกคนด้วย
       
       โดยในการแสดงรอบสุดท้าย เจย์ ซี เฉิน กับ เซียะถิงฟง ได้มีโอกาสอวยพรวันเกิดปีที่ 60 ปีของเฉินหลงด้วยเค้กที่มีข้อความว่า JC60 ส่วนเจ้าของงานก็กล่าวถึงวาระสำคัญของตัวเองอย่างชื่นมื่นว่า “ผมประทับใจมากครับ พูดไม่ออกเลย ทำให้ทุกคนยุ่งกันไปหมด อยากจะอวยพรทุกคน ด้วยคำอวยพรดีๆ ทั้งหมดที่มอบให้กับผมด้วย”
       
       ในช่วงบ่ายของวันต่อมาซึ่งถือว่าเป็นวันเกิดของเขา เฉินหลง จึงมีโอกาสได้ฉลองกับแฟนๆ สมาชิกของกลุ่มแฟนคลับอย่างเป็นทางการของเขาจำนวนถึง 800 คน ที่เดินทางมาจากทั่วโลก แต่เป็นที่น่าเสียดายเพราะ เฉินหลง เกิดเสียงหายเพราะใช้เสียงมาอย่างหนักตั้งแต่วันก่อน จึงต้องยกเลิกช่วงของการร้องเพลงออกไป ถึงอย่างไรก็ตาม เขาก็ยังกล่าวด้วยเสียงที่แทบจะพูดไม่ออก ในการขอบคุณทุกๆ คน และยังเล่นเกมกับแฟนคลับ รวมถึงถ่ายภาพกับแฟนๆ ทีละคนเลยทีเดียว
       

       "ปีเตอร์ ชาน" (Peter Chan) หยิบประเด็นร้อนในประเทศจีน เกี่ยวกับการลักพาตัวเด็กมาสร้างเป็นภาพยนตร์ภายใต้ชื่อ Dear Child ที่ได้นักแสดงสาวแถวหน้าของวงการ "จ้าวเวย" (Zhao Wei) รับบทนำหลังปีก่อนทุ่มเวลาให้กับการเป็นผู้กำกับจนประสบความสำเร็จงดงาม
       
       ปีเตอร์ ชาน พร้อมด้วย จ้าวเวย, หวงเป่า (Huang Bo) และ ตงต้าเว่ย (Tong Dawei) ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวหนัง Dear Child ที่จะพูดถึงประเด็นการลักพาตัวเด็ก ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมจีน โดยข่าวระบุว่าหนังเพิ่งจะเปิดกล้องไปในวันที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา
       
       Dear Child จะเล่าถึงเรื่องราวของคนเป็นพ่อเป็นแม่กลุ่มหนึ่ง ที่ชีวิตของพวกเขาต้องเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง หลังจากสูญเสียเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองไปจากการโดนลักพาตัว โดยจ้าวเวย จะรับบทเป็นหญิงสาวผู้ประกอบอาชีพเกษตกร ซึ่งโดนลักพาตัวลูกไป โดยหนังเรื่องนี้จะถือเป็นการกลับมารับงานแสดงอีกครั้ง หลังจากนักแสดงวัย 38 ปี เพิ่งจะประสบความสำเร็จจากการประเดิมกำกับหนังไปเมื่อปีก่อน ซึ่งผลงานเรื่อง So Young ของเธอสามารถทำเงินได้อย่างถล่มทลาย
       
       นอกจากนั้น Dear Child ยังนับเป็นงานแสดงครั้งแรกในรอบ 2 ปีของเธอหลังจากฝากการแสดงเอาไว้ใน Painted Skin: The Resurrection ด้วย
       
       "ผู้กำกับ ปีเตอร์ ชาน มอบบทที่ยากมากๆ ให้กันฉันค่ะ" นักแสดงสาวคุณแม่ลูกหนึ่ง กล่าวถึงความท้าทายครั้งใหม่ "ก่อนหน้านี้รู้สึกวิตกกังวลเหมือนกัน แต่ตอนนี้เริ่มทำใจได้แล้ว ถือเป็นความท้าทายครั้งสำคัญจริงๆ"
       

       ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเพลงเกาหลีได้ฤกษ์เปิดบริษัทผลิตภาพยนตร์ภายใต้ชื่อ JYP Pictures เพื่อส่งผลงานฉายทั้งที่เกาหลี และยังมีเป้าหมายหลักคือกลุ่มผู้ชมที่ใช้ภาษาจีนในหลายๆ ประเทศ ซึ่งเชื่อว่าหนังจะสามารถทำเงินได้อย่างมหาศาลจากผู้ชมในกลุ่มนี้
       
       โดยผลงานเรื่องแรกภายใต้การสร้างของ JYP Pictures จะมีชื่อว่า I Wanna Hold Your Hand ที่ทางผู้ผลิตบอกว่าจะเป็นหนังชีวิตที่มีทั้งเรื่องราวของการเต้นรำ และร้องเพลงเป็นสีสัน โดยหนังจะได้ผู้กำกับมิวสิควิดีโอชื่อดัง ฮวางซูอาห์ ที่เคยกำกับมิวสิกวิดีโอ The Chaser ของ INFINITE, Good Day ของ ไอยู (IU) และ Bloom ของ กาอิน (Gain) มารับหน้าที่กำกับ
       
       ความเคลื่อนไหวสู่วงการภาพยนตร์จีนของ JYP Entertainment เกิดขึ้นหลังวงการบันเทิงเกาหลีใต้ เริ่มสร้างกระแสความนิยมในจีนแผ่นดินใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ หลายฝ่ายจึงตั้งความหวังว่าจีนอาจจะกลายเป็นตลาดหลักของ K-Pop แทนที่ญี่ปุ่นได้ในอนาคต หลังระยะหลังธุรกิจบันเทิงเกาหลีในแดนอาทิตย์อุทัยเริ่มไม่ร้อนแรงเหมือนเดิม
       
       ซึ่งทาง JYP Pictures ก็เชื่อว่าหนังเรื่องแรกของพวกเขาน่าจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก เพราะเฉพาะที่จีนเองก็มียอดผู้ชมภาพยนตร์อยู่ถึง 500 ล้านคนแล้ว โดยคาดกันว่าหนังอาจจะได้ดาวเด่นอันดับต้นๆ ของ JYP Entertainment ในยุคนี้อย่าง ซูจี, เทคยอน หรือ ชานซอง มารับบทนำในเรื่อง ที่ถึงตอนนี้ยังไม่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อหา หรือนักแสดงแต่อย่างใด โดยหนังมีกำหยดจะเปิดกล้องในเดือน พ.ค.นี้ และเข้าฉายในช่วงครึ่งหลังของปี 2015

Manager Online

       ระหว่างแถลงข่าวเปิดตัวหนังร่วมกันซูเปอร์สตาร์แดนกิมจิ “เรน” (Rain) เอ่ยปากชมสาว “หลิวอี้เฟย” (Liu Yi Fei) นางเอกคู่ขวัญในหนังใหม่ของเขา ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในจีนเลยทีเดียว
       
       Beauty’s Dew หนังรักที่ดัดแปลงมาจากนิยายของ จางเสี่ยวหาน เป็นหนังสือที่ทั้งผู้กำกับ เกาซีซี และนักแสดงสาว หลิวอี้เฟย ชื่นชอบมาก โดยเฉพาะผู้กำกับที่ถึงกับเดินทางไปฮ่องกงเพื่อขอสิทธิ์นำนิยายเรื่องนี้มาสร้างเป็นหนังเลยทีเดียว ก่อนที่หนังจะได้รับความสนใจขึ้นไปอีกหลังได้ เรน ซูเปอร์สตาร์แดนกิมจิ มารับพระเอกของเรื่อง
       
       โดยในงานแถลงข่าวเปิดตัวหนังเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา นางเอกสาวคนดัง หลิวอี้เฟย ได้กล่าวว่าเธอคือแฟนคลับของ เรน คนหนึ่ง และมองว่าเขาเป็น “ศิลปินที่ทำได้ทุกอย่าง” นอกจากนั้นก็ยังเอ่ยปากว่า อยากให้ไอดอลหนุ่มคนดังแห่งเกาหลีใต้สอนเธอเต้นด้วย
       
       ฝ่ายหนุ่ม เรน ก็ชม หลิวอี้เฟย กลับด้วยการเรียกเธอว่าเป็น “ผู้หญิงที่สวยที่สุดในเมืองจีน” และยังพูดถึงการทำงานกับผู้กำกับ เกาซีซี ว่าถึงจะดูภายนอกแล้วเขาจะเป็นคนจริงจัง แต่ก็สุภาพ และเข้าใจนักแสดงมากๆ เรน ยังบอกว่าตนต้องฝึกพูดจีนกลางอีกเยอะ ตอนนี้สื่อสารได้เฉพาะคำพูดง่ายๆ พื้นๆ เท่านั้น เพราะการออกเสียงและหลักภาษาจีนเป็นสิ่งที่เรียนรู้ได้ยากพอสมควร แต่สำหรับ หลิวอี้เฟย กลับคิดว่าพระเอกของเธอทำได้ดีมากๆ แล้ว “ฉันเองคงไม่กล้าที่จะเรียนภาษาเกาหลีเพื่อถ่ายหนังแน่นอน แต่เขาทำได้” เธอกล่าว
       

นักแสดงชื่อดังชาวจีนแผ่นดินใหญ่ผู้โด่งดังจากหนังสุดฮิต Journey to the West: Conquering the Demons ยอมรับผิดว่าเขามีพฤติกรรมนอกใจภรรยา ทั้งๆ ที่ตอนนี้เธอกำลังตั้งท้องลูกคนที่สองอยู่ด้วย
       
       เป็นข่าวใหญ่ในวงการบันเทิงจีนเมื่อพระเอกดัง เหวินจาง (Wen Zhang / 文章) ที่ดังจากหนังรักโรแมนติก Love Is Not Blind และรับบทเด่นเป็นพระถังซำจั๋ง ในหนังสุดฮิต Journey to the West: Conquering the Demons ได้ออกปากยอมรับว่าเขานอกใจภรรยาสาวนักแสดงมากฝีมือ หม่าอวี้ลี่ (Ma Yi Li) อย่างที่เป็นประเด็นข่าวจริงๆ
       
       ก่อนหน้านี้สื่อบันเทิงในจีนได้รายงานว่า เหวินจาง วัย 29 ปี ได้ลับลอบมีความสัมพันธ์กับนักแสดงสาวรุ่นพี่ เหยาตี้ (Yao Di) วัย 32 หลังได้ร่วมงานกันในซีรีส์ Naked Wedding แม้ฝ่ายชายจะยืนยันมาตลอดว่าเขากับเธอเป็นเพียงเพื่อนสนิทกันเท่านั้น
       
       อย่างไรก็ตาม ข่าวลือกลับถูกพูดถึงมากขึ้นเมื่อมีภาพที่ทั้งสองแอบนัดพบกันที่เซินเจิ้น ก่อนจะเดินทางไปฮ่องกงด้วยกัน จนมีปาปารัสซีถ่ายภาพระหว่างนักแสดงดังทั้งสองใช้เวลาอยู่ด้วยกันมาได้ ซึ่งหมายความว่าทั้งสองน่าจะแอบคบหากันมาพักใหญ่แล้ว
       
       กระทั่งช่วงกลางดึกของวันที่ 31 มี.ค.เหวินจาง จึงได้โพสต์ข้อความผ่านทาง Weibo เพื่อยอมรับผิด และยอมรับว่าเขามีพฤติกรรมนอกใจภรรยาจริงๆ โดยพระเอกหนุ่มคนดังยอมรับแบบไม่มีอะไรแก้ตัวว่า “ผมคงโทษได้แต่ตัวเองเท่านั้น ความผิดก็คือความผิด มันไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้น คงเพราะอาชีพนักแสดงของตัวเองกำลังไปได้สวย ผมจึงเริ่มอวดดีและยโสโอหังจนมีพฤติกรรมแบบนั้นไป ผมอยากจะขอรับผิดชอบสิ่งที่เกิดจากการกระทำของตัวเองทั้งหมดครับ”
       

       มีข่าวลืออีกครั้งว่านักร้อง/นักแสดงหนุ่มซูเปอร์สตาร์แห่งไต้หวัน "เจย์ โจวเจี๋ยหลุน" (Jay Chou / 周杰倫) เตรียมกลับมารับบทยอดนักแข่งรถส่งเต้าหู้ใน Initial D 2 ที่จะได้ทั้งผู้กำกับจากหนังภาคแรก และสองนักแสดงหนุ่มชาวฮ่องกงกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง
       
       หลังภาพยนตร์จากการ์ตูนยอดฮิต Initial D ทำเงินถล่มทลายในการเข้าฉายเมื่อปี 2005 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็มีข่าวเกี่ยวกับหนังภาค 2 มาเป็นระยะ แต่สุดท้ายข่าวก็เป็นได้แค่ข่าวลือ หนังที่แฟนๆ รอคอยก็ยังไม่มีทีท่าจะเป็นรูปเป็นร่างเสียที ครั้งหนึ่งมีข่าวกระทั่งว่า เจย์ โจว อาจจะลงมือกำกับหนังภาค 2 เองก็เคยมีมาแล้ว
       
       จนล่าสุดมีข่าวลือเกี่ยวกับ Initial D เกิดขึ้นอีกครั้ง แต่ที่หลายฝ่ายให้ความสนใจกันเป็นพิเศษ ก็เพราะครั้งนี้เป็นการให้ข่าวของนักแสดงนำของเรื่องเองโดย เจย์ โจว ได้โพสต์ภาพรถยนต์โตโยต้า AE86 พาหนะคู่ใจในหนังของเขาผ่านเว็บไซต์ส่วนตัวพร้อมเขียนข้อความถึงเพื่อนนักแสดงชาวฮ่องกง หยูเหวินเล่อ ที่ร่วมงานกันมาในหนังภาคแรกว่า "AE86 ของฉันพร้อมแล้วนะ แล้วนายล่ะ ชอว์น" ส่วน หยูเหวินเล่อ (Shawn Yu) ก็เขียนข้อความใน Instagram ตอบไปว่า "เจย์เพิ่งโพสต์ถึงผม ถ้ามีหนังภาคต่อจะไปดูกันรึเปล่าครับ?"
       

       เอเยนซี - สืบเนื่องจากกรณีเครื่องบินโบอิ้ง 777 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH370 สูญหายอย่างลึกลับเมื่อวันที่ 8 มี.ค. โดยปัจจุบันนานาชาติยังคงระดมกำลังค้นหาอย่างสุดความสามารถ ทว่าอีกด้านหนึ่งหลายฝ่ายต่างคับข้องใจกับรัฐบาลมาเลเซียที่ไม่มีความชัดเจนในการชี้แจงข้อมูลและความคืบหน้าต่างๆ นำไปสู่กระแสขุ่นเคืองจากประชาชน โดยเฉพาะญาติมิตรผู้โดยสารที่มิอาจทราบชะตากรรมของคนที่รักได้
       
       ล่าสุด บรรดาคนดังจากวงการบันเทิงจีนได้ตบเท้าจวกสับทางการมาเลเซียผ่านเวยปั๋ว (weibo) เว็บไมโครบล็อค (คล้ายทวิตเตอร์) ของจีน โดยส่วนใหญ่ร้องขอให้เปิดเผยเรื่องราวและความจริงทั้งหมดออกมา

       เฉิน คุน (Chen Kun)
       “สำหรับคำโกหกและความพยายามเลี่ยงไม่พูดความจริงของรัฐบาลมาเลเซียและสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส รวมถึงการไม่เคารพในชีวิตเพื่อนร่วมชาติของเรา ผมขอคว่ำบาตรทุกผลิตภัณฑ์และการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับ “มาเลเซีย” และไม่ใช่เพียงแค่ระยะชั่วคราวของกรณีเครื่องบินสูญหายครั้งนี้แต่เป็นตลอดไป เว้นเสียแต่รัฐบาลมาเลเซียจะถอดหน้ากากออกมาและเปิดเผยความจริง”
       “ผมมิใช่เพียงนักแสดงคนหนึ่ง แต่ผมคือประชาชนคนจีน!”

       จาง จื่ออี้ (Zhang Zhiyi)
       “รัฐบาลมาเลเซียได้ทำร้ายโลกทั้งใบ ขณะที่พวกเราพยายามค้นหาเครื่องบินแต่คุณกลับเสาะหาโอกาสอื่น ... รัฐบาลมาเลเซียวันนี้คุณทำผิดพลาดแล้ว คุณผิดกับภาระหน้าที่ที่รัฐบาลของประเทศหนึ่งๆ ควรมี ผิดที่ไม่เคารพในชีวิตผู้อื่น ผิดที่ไม่เคารพการร้องขอความจริงจากคนทั้งโลก”

       หวัง จยาเว่ย

       หนังที่ว่าด้วยเรื่องราวของศิลปะป้องกันตัว The Grandmaster ประสบความสำเร็จบนเวทีรางวัลระดับนานาชาติอีกครั้งด้วยการคว้ารางวัลต่างๆ ไปถึง 7 สาขาในการประกาศรางวัลภาพยนตร์เอเชีย ที่จัดมอบกันไปเมื่อวันพฤหัสที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้กำกับชื่อดังชาวฮ่องกง “หว่องกาไว” (Wong Kar Wai) ยังกล่าวคำไว้อาลัยให้กับผู้โดยสารบนเครื่องบนของสายการบินมาเลเซียที่สูญหายไปด้วย
       
       โดยนอกจาก The Grandmaster ที่คว้ารางวัลไปถึง 7 สาขาแล้ว มีเพียงหนังอินเดีย The Lunchbox เท่านั้นที่คว้ารางวัลได้มากกว่าหนึ่งสาขา ส่วนหนังเรื่องอื่นๆ ก็แบ่งกันคนไปละรางวัล ในงานประกาศและประกาศรางวัลภาพยนตร์เอเซีย ซึ่งจัดกันที่รีสอร์ต City of Dreams ในเมืองมาเก๊า
       
       ซึ่งนอกจากรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแล้วหนัง The Grandmaster ที่เล่าเรื่องราวของปรมาจารย์กังฟู ยิปมัน อาจารย์ของ บรูซ ลี ยังคว้ารางวัลสำคัญๆ ไปอีกหลายสาขา ทั้งนักแสดงนำหญิงของ จางจื่ออี๋ (Zhang Ziyi) และผู้กำกับยอดเยี่ยมของ หว่องกาไว อย่างไรก็ตามยอดผู้กำกับชาวฮ่องกงกลับไม่ได้แสดงอาการยินดีกับความสำเร็จครั้งนี้ แต่ใช้โอกาสในการรับรางวัลเพื่อรำลึกถึงลูกเรือ 239 คนบนเครื่องบิน MH370 ของสายการบิน Malaysia Airlines ที่สูญหายไปตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. แทน
       

       “ซูฉี” (Shu Qi) นักแสดงสาวเซ็กซีชื่อดังที่เคยมีข่าวกับ “ฝงเต๋อหลุน” (Stephen Fung) มาตั้งแต่ปี 1997 และควงกันไปไหนมานานหลายครั้งแต่ไม่ยอมรับออกสื่อว่ากำลังคบหาดูใจกันอยู่หรือไม่ ล่าสุดต่างฝ่ายต่างโพสต์รูปลงอินสตาแกรม ทำเอาแฟนคลับลุ้นให้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเสียที
       
       มีข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ของ ซูฉี และ ฝงเต๋อหลุน มาตั้งแต่ปี 1997 และลือกันว่าทั้งคู่รักๆ เลิกๆ กันหลายต่อหลายครั้ง และแม้จะถูกสื่อจับได้ว่าแอบควงกันไปไหนมาไหน แต่ทั้งสองฝ่ายก็ยังคงปากหนักบอกกับสื่อว่าเป็นเพียงเพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้นจนทำเอาแฟนๆ เลิกลุ้น
       
       ล่าสุดเมื่อวานนี้ ซูฉี ได้เซอร์ไพรส์แฟนๆ ด้วยการโพสต์รูปของ ฝงเต๋อหลุน พร้อมกับแมวแสนรักของเธอลงในอินสตาแกรมพร้อมข้อความใต้ภาพว่า “ดินเนอร์ ของหนุ่มๆ!”
       
       ซึ่งภาพดังกล่าวได้รับการคลิกไลค์จากแฟนๆ เป็นจำนวนมาก โดยหลายคนต่างแสดงความยินดีต่อทั้งคู่ หลังเชื่อกันว่าเป็นสัญญาณเริ่มต้นในการเปิดตัวคบกันออกสื่ออย่างเป็นทางการ
       
       ซึ่งหลังจากซูฉีโพสต์รูปได้ไม่นาน ทางฝงเต๋อหลุน ก็โพสต์ภาพแมวของซูฉีลงในอินสตาแกรมของตนเองด้วย ทำเอาแฟนๆ ต่างจิ้นกันไปต่างๆนานาว่าเป็นการยอมรับความสัมพันธ์ทางอ้อมของทั้งคู่แล้ว โดยต่างตื่นเต้นว่าไม่แน่เร็วๆ นี้ อาจมีข่าวดีสละโสดของทั้งคู่ตามมาก็เป็นได้
       

       ดาวตลก “ตู้หมิ่นเจ๋อ” (Chapman To / 杜汶澤) สร้างความฮือฮาด้วยการนำทัพนักแสดงเอวีร่วมโปรโมตหนัง Naked Ambition 3D (3D豪情) ที่เขาร่วมแสดงกับนักแสดงวาบหวิวจากญี่ปุ่นหลายๆ คนในการเล่าเรื่องราวเบื้องหลังการสร้างหนังโป๊จากแดนอาทิตย์อุทัย

       ยูเมะ คานะ (Kana Yume / 由愛可奈), สึคาสะ อาโออิ (Aoi Tsukasa / 葵司), อันริ โอคิตะ (Anri Okita / 沖田杏梨), ยุอิ ทัตสึมิ (Yui Tatsumi / 辰巳唯) และมาอิโกะ ยูกิ (Maiko Yuki / 夕樹舞子) คือเหล่านักแสดงหนัง AV จากแดนอาทิตย์อุทัยที่เดินทางมาฮ่องกงเพื่อร่วมโปรโมตหนัง Naked Ambition 3D ที่พวกเธอร่วมแสดงกับดาวตลกคนดัง แชปแมน ตู้หมิ่นเจ่อ ที่ใกล้จะเข้าฉายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยสาวๆ ยังอวดรูปร่างความเซ็กซีในชุดบิกินีให้แฟนๆ ชาวฮ่องกงได้ชม และถ่ายภาพกันอย่างเต็มที่ด้วย
       
       แม้ Naked Ambition 3D จะเป็นหนังตลกขายความขำ แต่ ตู้หมิ่นเจ่อ ก็ยืนยันว่าการทำงานในหนังเรื่องนี้ไม่ได้ง่าย และสนุกอย่างที่ใครๆ คิด ก่อนจะพูดเล่นว่าถ้าสาวๆ คิดจะลวนลามเขาในวันนี้ก็คงถือสาอะไรไม่ได้ เพราะถ้าบอกปัดไปก็คงจะเป็นการไม่ให้เกียรติกันมากกว่า ส่วน อันริ โอคิตะ ก็กล่าวว่านี่เป็นการมาฮ่องกงครั้งแรกของเธอ จึงไม่ได้รู้สึกเขินอะไรกับงานในวันนี้ แต่รู้สึกตื่นเต้นมากกว่า
       
       ดาวตลกวัย 41 ปี ยังขอเป็นตัวแทนชาวฮ่องกงกล่าวต้อนรับสาวๆ ดาว AV และยืนยันว่าภรรยาของเขาไม่ได้ว่าอะไรกับการรับเล่นหนังเรื่องนี้ แต่เธอยังเป็นคนแรกที่ได้ดูหนัง แถมยังตลกจนหัวเราะตกเก้าอี้กันเลยทีเดียว

Manager Online