ข่าวจีน

       หลังส่ง Journey to the West: Conquering the Demon ทำเงินถล่มทลายไปเมื่อปีก่อน ล่าสุด "โจวซิงฉือ" (Stephen Chow) ได้เผยถึงผลงานเรื่องล่าสุดออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว กับหนังแนวไซไฟแฟนตาซี Mermaid ที่ดาวตลกชื่อดังจะนำเทพนิยายสุดคลาสสิคมาดัดแปลงให้เป็นหนังในสไตล์ของเขา พร้อมเตรียมแจ้งเกิดนางเอกคนใหม่ที่จะรับบทเด่นในหนังเรื่องนี้
       
       หลังมีข่าวมานานล่าสุด โจวซิงฉือ ได้ปล่อยโปสเตอร์ทีเซอร์ของหนัง Mermaid ให้แฟนๆ ได้ชมกันเป็นครั้งแรก โดยหนังน่าจะเปิดกล้องได้ในปีนี้ ก่อนที่จะเข้าฉายในช่วงตรุษจีนปี 2016 ที่ดาวตลกชื่อดังเตรียมคัดเลือกนักแสดงสาวหน้าใหม่เพื่อมารับบทนำในหนังเรื่องนี้ ซึ่งนอกจากต้องสวยแบบสุดๆ แล้วยังต้องเล่นบทตลกได้เป็นธรรมชาติด้วย โดยหลายฝ่ายก็คาดว่านางเอกใหม่ของ โจวซิงฉือ คนนี้น่าจะโด่งดังไม่แพ้ จางป๋อจือ (Cecilia Cheung), จางอวี้ฉี (Kitty Zhang) และ หวงเซิ่งอี (Eva Huang) ที่แจ้งเกิดได้จากการเล่นหนังเรื่องก่อนๆ ของเขามาแล้ว
       
       ถึงตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับหนัง Mermaid นอกจากข้อมูลเบื้องต้นว่าหนังจะได้รับอิทธิพลมาจากนิยายแฟนตาซีของ ฮาน คริสเตียน แอนเดอร์สัน และยังมีแง่มุมที่ค่อนข้างจริงจังมากกว่าผลงานเรื่องก่อนๆ ของเขา แต่ก็ยังจะมีส่วนของอารมณ์ขันอยู่เหมือนเดิม โดย โจวซิงฉือ จะรับหน้าที่กำกับเพียงอย่างเดียวเหมือนหนังเรื่องก่อน ส่วนขั้นตอนของการคัดเลือกนักแสดงนั้นดำเนินมาตั้งแต่กลางเดือนก่อนแล้ว และจะเปิดรับสมัครไปจนถึงวันที่ 15 ส.ค. ก่อนที่จะมีการเลือกผู้เข้ารอบ 40 คน และจะมี 4 คนที่จะได้แสดงในหนังของ โจวซิงฉือ รวมถึงนางเอกของเรื่องด้วย

Manager Online

       "หลินฟง" (Raymond Lam) ประกาศขอออกจาก TVB อันเป็นต้นสังกัดที่ปั้นให้เขาโด่งดัง และทำงานที่สถานีโทรทัศน์แห่งนี้มาถึง 16 ปีเต็ม โดยนักแสดงหนุ่มกล่าวแสดงความขอบคุณอดีตต้นสังกัดที่ทำให้เขามีวันนี้ และไม่ปิดโอกาสที่จะกลับมาทำงานที่ TVB อีกครั้ง
       
       หลังสัญญาล่าสุดสิ้นสุดนักแสดงหนุ่มวัย 34 ปี หลินฟง ได้ตัดสินใจที่จะไม่ต่อสัญญากับ TVB ออกไปอีก เพื่อหันไปเป็นนักแสดงอิสระแทน โดยเขาได้ยืนยันถึงข่าวดังกล่าวระหว่างงานแถลงข่าวเปิดตัวซีรีส์ The Virtuous Queen of Han ที่ หลินฟิง ได้กล่าวว่ารู้สึกมีความสุขในการทำงานที่ TVB มาตลอด แต่หลังจากนี้อยากจะลองหาโอกาสใหม่ๆ ดูบ้าง อย่างไรก็ตามพระเอกคนดังก็ยังเปรยว่า ในอนาคตเขาน่าจะมีโอกาสกลับมาทำงานที่นี่อีกครั้ง
       
       "ผมรู้สึกว่าตอนนี้เป็นอิสระมาก และไม่ค่อยเครียดอะไรกับการมางานอีเวนต์แบบนี้ รู้สึกแปลกใหม่ที่สามารถให้สัมภาษณ์กับสื่ออะไรก็ได้" หลินฟง กล่าว และยังปฏิเสธข่าวที่ว่าเขาไม่ยอมต่อสัญญากับ TVB เพราะพลาดรางวัลนักแสดงแห่งปีประจำปี 2013 ไป และนอกจากนั้นก็ยังปฏิเสธข่าวลือที่ว่าเขาเตรียมตั้งบริษัทของตัวเองด้วย ซึ่ง หลินฟง บอกว่าเขาขอมุ่งมั่นกับการทำหน้าที่นักแสดงให้ดีที่สุดก่อน
       
       หลินฟง หรือ Raymond Lam เริ่มมีงานในวงการบันเทิงตอนอายุ 20 ปี และโด่งดังจากบทเด่นในหนังกำลังภายในที่สร้างจากนิยายของ หวงอี้ ทั้งบท "โค่วจง" ใน มังกรคู่ สู้สิบทิศ และบท "อิ๋งเจิ้ง" ใน เจาะเวลาหาจิ๋นซี โดยระยะหลังเขาได้ผันตัวมารับงานในจีนแผ่นดินใหญ่ และงานภาพยนตร์มากขึ้น อาทิ ภาพยนตร์เรื่อง Saving General Yang และ Baby Blues

       นักร้องชายอันดับ 1 ของฝั่งฮ่องกงในยุคนี้อย่าง "เฉินอี้ซิ่น" (Eason Chan) เปรยว่าเขาเริ่มหมดกำลังใจที่จะร้องเพลงแล้ว และอาจจะถอนตัวจากวงการภายในอีก 2 ปีข้างหน้า เพราะยอดขายผลงานเพลงในยุคนี้มันน้อยจนน่าใจหายจริงๆ และยังกล่าวว่าเขารู้สึกเหนื่อยกับการทำงานในวงการมาอย่างยาวนานด้วย
       
       หลังทำงานในวงการบันเทิงมาได้ 19 ปีเต็มล่าสุด เฉินอี้ซิ่น ได้กล่าวระหว่างออกรายการวิทยุรายการหนึ่งว่าเขา "ไม่อยากจะทำงานอีกต่อไปแล้ว" และอาจจะถอนตัวจากวงการภายใน 2 ปีข้างหน้า โดยศิลปินวัย 39 ปี ยังกล่าวว่าที่เขาประกาศออกมาแบบนี้ก็เพราะอยากจะให้ทุกคนช่วยกันเป็นพยานให้กับเขาด้วย เพราะหากเก็บเรื่องนี้เอาไว้กับตัวเองเพียงคนเดียว ในอีก 2 ปีข้างหน้าก็อาจจะหวั่นไหว และเปลี่ยนใจได้หากเห็นแก่เงินขึ้นมา
       
       เฉินอี้ซิ่น ยังเปิดใจว่าการตัดสินใจครั้งนี้ส่วนหนึ่งก็เพราะ เขารู้สึกว่าอุตสาหกรรมเพลงมีแต่ตกต่ำลงทุนวัน เพราะเดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ดาวน์โหลดเพลงแบบผิดกฎหมายกันหมด จนแทบไม่มีใครจ่ายเงินซื้อผลงานของศิลปินกันอีกต่อไปแล้ว เขายังเผยว่าเคยมีอัลบั้มชุดหนึ่งของตัวเองที่ขายได้ไม่ถึง 1,000 แผ่นมาแล้ว
       
       เฉินอี้ซิ่น ถือเป็นนักร้องฝ่ายชายที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งของวงการดนตรีจีน และฮ่องกงในยุคปัจจุบัน โดยอัลบั้มชุดล่าสุดที่ชื่อว่า Rise & Shine ของเขาเพิ่งจะออกออกจำหน่ายภายในปีนี้ และเขายังเหลือสัญญากับ Cinepoly Records ที่จะออกอัลบั้มอีก 2 ชุด ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนหลังงาน 2 ชุดนี้แล้ว เฉินอี้ซิ่น ก็อาจจะตัดสินใจหันหลังให้กับวงการไปเลยก็ได้
       

ดาราชาวฮ่องกง "ทังอิ๋งอิ๋ง" (Angela Tong / 湯盈盈) ขำไม่ออกเลยทีเดียวเมื่อเกิดกระแสล้อเลียนว่าลูกสาวของเธอช่างเกิดมาเป็นเด็กมีกรรม เพราะหน้าตาดันไปเหมือน "เฉินเจียเล่อ" (Chin Kar Lok / 錢嘉樂) ผู้เป็นพ่อ จนแทบจะหาความน่ารักแบบเด็กผู้หญิงไม่เจอ
       
       ตั้งแต่ลูกสาวที่ชื่อว่า อาลีซา เฉิน (Alyssa Chin / 錢凱晴) ลืมตาดูโลกเมื่อเดือน มี.ค. นักแสดงสาว ทังอิ๋งอิ๋ง ก็มักจะพาลูกไปไหนต่อไหนด้วยเสมอตามประสาคุณแม่มือใหม่ แม้แต่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อก็ยังพาลูกไปด้วย จนมีภาพของลูกสาวปรากฏในสื่อต่างๆ มากมาย
       
       แต่ล่าสุดกลับเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงรูปร่างหน้าตาของลูกสาวที่ยังอายุไม่ถึงขวบของเธอกับดารานักบู๊ เฉินเจียเล่อ เมื่อหลายคนแสดงความเห็นแบบค่อนข้างจะหยาบคายออกมาว่าลูกสาวของทั้งคู่ช่างดูไม่เหมือนเด็กผู้หญิงเอาเสียเลย และหน้าตาไม่น่าจะสวยเหมือนแม่เพราะดูคล้ายกับคุณพ่อ เฉินเจียเล่อ เสียมากกว่า
       
       โดยชาวเน็ตฮ่องกงคนหนึ่งได้เขียนข้อความแบบไม่มีเกรงใจสองนักแสดงดังเลยว่า "พูดตามตรงนะ ลูกของทั้งคู่ขี้เหร่โคตรๆ เลย" ส่วนอีกคนก็แสดงความเห็นได้รุนแรงพอกันว่าถ้า เฉินเจียเล่อ แต่งงานกับแฟนคนก่อนไปลูกสาวก็อาจจะน่ารักกว่านี้ "ถ้าแม่เด็กคือ หลีซานซาน (Lee San San / 李珊珊) ลูกจะสวยกว่านี้รึเปล่านะ?"
       

       บรรดาคนรักแมวในฮ่องกงต่างออกมาแสดงความเห็นโจมตีดาราสาว "เฉินอิงเหว่ย" (Aimee Chan) โดยทันที หลังมีข่าวว่านักแสดงเจ้าของตำแหน่งอดีตมิสฮ่องกงถึงกับทิ้งแมวที่เลี้ยงดูกันมา 6 ปีเต็ม เมื่อตั้งท้อง และมีลูกสาวคนแรก
       
       เป็นเรื่องขึ้นมาเมื่อสื่อฮ่องกงเปิดเผยว่า เฉินอิงเหว่ย ถึงกับทิ้งแมว 3 ตัว ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงที่เธอดูแลมาถึง 6 ปี หลังตั้งท้องลูกคนแรก เพราะกลัวว่าจะเกิดอาการแพ้ขึ้นมา โดยเธอส่งแมวทั้งหมดไปให้กับเพื่อนคนหนึ่งเป็นคนเลี้ยงให้แทน
       
       นอกจากนั้นหลังคลอดลูกคนแรกของเธอกับพระเอกดัง เฉินห้าว (Moses Chan) แล้ว เฉินอิงเหว่ย ก็ไม่ได้มีแผนจะรับแมวทั้ง 3 ตัวกลับมาเลี้ยงแต่อย่างใด เพราะกลัวว่าขนของแมวจะทำให้ลูกวัยแรกเกิดมีปัญหาเรื่องทางเดินหายใจขึ้นมา แต่ก็ยังยืนยันว่าแมวทั้งหมดของเธอมีความสุขที่บ้านใหม่ และเธออาจจะรับแมวกลับมาเลี้ยงเองก็ได้ในอนาคต หากลูกสาวโตขึ้นมากกว่านี้
       
       งานนี้นักแสดงสาวโดนบรรดาคนเลี้ยงแมวจวกยับทันที โดยเหล่าคนรักแมวต่างไปฝากข้อความโจมตี เฉินอิงเหว่ย ใน Weibo ของเธอและบอกว่าเธอใช้ลูกมาเป็นข้ออ้างเพื่อปกป้องพฤติกรรมไร้ความรับผิดชอบของตัวเองเท่านั้น ที่สามารถทิ้งแมวที่เลี้ยงดูมาหลายปีได้ง่ายๆ โดยไม่ได้แคร์อะไรเลย ยังมีคนนำกรณีของนักร้องสาว มินี หลอ มาเปรียบเทียบว่าเธอสามารถเลี้ยงแมวทั้ง 7 ตัวต่อไปได้ แม้จะมีลูกเล็กๆ อยู่ด้วยก็ตาม
       

       มีภาพหลุดของหญิงสาวคนหนึ่งในสภาพเปลือยอกออกมาในเว็บไซต์ และชุมชมออนไลน์ของชาวจีน ซึ่งหลายคนคิดว่าหน้าตาสาวในภาพดูละม้ายกับ “เติ้งจื่อฉี” (Gloria Tang Tsz-kei) หรือ G.E.M ศิลปินคนดังแห่งเกาะฮ่องกง งานนี้เจ้าตัวปฏิเสธลั่นพร้อมแสดงความไม่พอใจในข้อกล่าวหาอย่างรุนแรง
       
       เป็นปีที่วุ่นวายจริงๆ สำหรับชีวิตของสาวเสียงดี เติ้งจื่อฉี หรือ G.E.M หลังมีข่าวเป็นมือที่สามที่ไปแทรกกลางระหว่างความสัมพันธ์ของดาราชาวจีนแผ่นดินใหญ่ จางเจี๋ย และภรรยาแล้วล่าสุดก็มีภาพสาวหน้าคล้ายเธอในสภาพเปลือยอกสุดวาบหวิวหลุดออกมาในโลกออนไลน์อีก
       
       อย่างไรก็ตามนักร้องสาววัย 22 ปี ได้ยืนยันอย่างหนักแน่น ว่าหญิงสาวในรูปไม่เธอแน่นอน และเปรยว่าเธอคงจะไม่ขออธิบายอะไรให้มากความ ซึ่งสื่อในจีนบางสำนักก็เชื่อว่าน่าจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะแม้หญิงในภาพจะดูมีหน้าตาที่ใกล้เคียงกับ G.E.M มาก แต่บางจุดก็มีส่วนแตกต่างกันอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะส่วนแนวขากรรไกร ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าสาว G.E.M เกิดมามีขากรรไกรที่ไม่เท่ากันมาตั้งแต่เกิด จนทำให้ไม่สามารถกัดฟันให้ประกบติดกันได้เหมือนคนทั่วๆ ไป แต่หญิงในภาพกลับดูกัดฟันได้ปกติดี
       
       โดยลือกันว่าคนที่พยายามปล่อยภาพทำลายชื่อเสียงของนักร้องสาวคนดังอาจจะเป็นกลุ่มแฟนคลับศิลปินไอดอลจากเกาหลีใต้ EXO ที่ก่อนหน้านี้เคยออกตัวโจมตีเธออย่างหนัก หลังพวกเขาสงสัยว่า G.E.M พยายามจะกุข่าวความสัมพันธ์ของตัวเองกับกลุ่มไอดอลชื่อดัง เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง
       

       มีรายงานข่าวว่า “ทังเวย” (Tang Wei) ได้แต่งงานกับแฟนหนุ่มผู้กำกับชาวเกาหลีใต้ไปเรียบร้อยแล้ว นอกจากนั้นสื่อจีนตั้งข้อสงสัยว่าการประกาศแต่งงานครั้งนี้อาจจะเกิดขึ้นเพราะเรื่องการท้องก่อนแต่ง หลังมีคนสังเกตเห็นว่านักแสดงสาววัย 34 ปี ดูมีรูปร่างเหมือนกันสาวที่กำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ
       
       โดยสื่อจีนแผ่นดินใหญ่ได้เปิดเผยว่า ทังเวย ได้เลือกบ้าน อันเป็นอนุสรณ์สถานของผู้กำกับระดับตำนานภาพยนตร์ อิงมาร์ เบิร์กแมน ในหมู่เกาะแฟโรเป็นที่จัดงานวิวาห์แบบเล็กๆ เป็นส่วนตัว ซึ่งมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา
       
       ซึ่งผู้จัดการส่วนตัวของเธอก็ได้ออกแถลงการณ์ยอมรับว่าข่าวดังกล่าวเป็นความจริง พร้อมอธิบายว่า ทังเวย กับแฟนหนุ่ม คิมแทยอง ได้มีโอกาสเดินทางเพื่อไปแสดงความเคารพต่อผู้กำกับระดับตำนานผู้ล่วงลับไปแล้ว และด้วยบรรยากาศอันโรแมนติกของที่นั้นทำให้ทั้งสองได้ตัดสินใจแต่งงานกัน โดยเป็นการตัดสินใจแบบปัจจุบันทันด่วน ที่ไม่ได้มีการวางแผนเอาไว้ล่วงหน้าแต่อย่างใด
       
       ทันทีที่ ทังเวย ประกาศข่าวว่าเธอเตรียมเข้าพิธีวิวาห์กับแฟนหนุ่มผู้กำกับชาวเกาหลีใต้ คิมแทยอง เมื่อประมาณช่วงต้นเดือน ก.ค. ก็มีข่าวลือเรื่องที่ว่าเธออาจจะท้องก่อนแต่งออกมาทันที จนผู้จัดการส่วนตัวของนักแสดงสาวคนสวยต้องออกมาให้ข่าวปฏิเสธ อย่างไรก็ตามล่าสุดข่าวลือก็ยังมีคนพูดถึงกันอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อ ทังเวย ไปร่วมงานอีเวนต์ของ SK-II ในเซียงไฮ้เมื่อไม่กี่วันก่อน
       

ดาราสาวชาวฮ่องกงตัดสินใจแถลงข่าวทันที หลังมีคลิปภาพที่เธอเต้นแบบร่างกายเกือบเปลือยเปล่าสวมเพียงชุดชั้นใน หลุดออกมาในโลกออนไลน์ โดย “หม่าไช่” (Sire Ma) ยังยืนยันว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิด แต่สิ่งที่พลาดไปจริงๆ ก็คือการเชื่อใจต่อคนที่ไม่สมควรจะเชื่อใจเลยนั่นเอง
       
       นักแสดงสาววัย 26 ปี หม่าไช่ หรือ Sire Ma ยอมรับว่าเธอรักคนผิด และยังถูกทรยศหักหลังจนต้องเผชิญหน้ากับข่าวอื้อฉาวครั้งล่าสุด ที่มีคลิปภาพที่เธอออกลีลาเต้นต่อหน้ากล้อง ในชุดชั้นในออกมาในเว็บไซต์ต่างๆ มากมาย และยังยอมรับว่าถ่ายคลิปเซ็กซีทำนองนี้เอาไว้อีกมาก แต่ก็ไม่กลัวอีกแล้ว ถ้าจะมีคลิปหลุดออกมาอีก โดยลือกันว่าคู่รักเลสเบียนของเธอที่ชื่อว่าอาจจะอยู่เบื้องหลังการปล่อยคลิปสุดฉาวครั้งนี้ หลังจากเมื่อไม่กี่เดือนก่อนทั้งสองเพิ่งจะมีปัญหาวิวาทะผ่านสื่อ เมื่อฝ่ายนักธุรกิจหญิง หวางเซียะฉี ได้ให้ข่าวผ่านสื่อว่าเธอโดน หม่าไช่ หลอก
       
       ซึ่งการตกเป็นข่าวอื้อฉาวอีกครั้งได้ทำให้ หม่าไช่ ถูกต้นสังกัด TVB พักงานทันที โดยทางสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่แห่งฮ่องกงได้เปิดเผยว่า จะมีการพักงานเธอไปแบบไม่มีกำหนด ส่วน หม่าไช่ ก็ยอมรับโทษดังกล่าวอย่างไม่มีอะไรจะแก้ตัว “ในฐานะผู้ใหญ่คนหนึ่งฉันคงต้องรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง ยอมรับการตัดสินใจของบริษัท ที่จะพักงานฉันค่ะ”
       
       หม่าไช่ ยังเผยว่าเธอกำลังเตรียมดำเนินการทางกฎหมาย หลังตนเองโดนละเมิดสิทธิ์ส่วนตัว และตอนนี้ได้แจ้งความไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โดยเธอได้เผยว่าตนเองไม่มีคลิปดังกล่าวอยู่ด้วยซ้ำ และทราบดีว่าใครเป็นคนมีคลิปเอาไว้ในครอบครอง แต่ก็ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นว่าอดีตคู่รักเลสเบียนของตัวเองอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หรือไม่
       

       ต้นสังกัดของนักแสดงสาวคุณแม่มือใหม่ “ลี่เสี่ยวลู่” (Li Xiao Lu) เตรียมดำเนินคดีกับสื่อ และบุคคลใดๆ ที่อ้างว่าหญิงสาวหน้าคล้ายในคลิปวาบหวิวเรตเอ็กซ์คือเธอ หลังเธอและผู้จัดการส่วนตัวได้ปฏิเสธไปหลายรอบแล้ว
       
       มีคลิปภาพสุดสยิวของหญิงสาวคนหนึ่งแพร่ออกมาในชุมชนออนไลน์ต่างๆ ของจีน ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าหญิงในคลิปมีส่วนคล้ายๆ กับนักแสดงสาว ลี่เสี่ยวลู่ มาก โดยในช่วงนั้นเธอกำลังตั้งท้อง ก่อนจะให้กำเนิดทายาทคนแรกเป็นลูกสาวเมื่อเร็วๆ นี้
       
       โดยต้นสังกัดของเธอได้ออกมาปฏิเสธ พร้อมยืนยันว่าหญิงสาวในคลิปไม่ใช่ ลี่เสี่ยวลู่ อย่างแน่นอน และนอกจากจะปฏิเสธอย่างเป็นทางการแล้ว ยังจะมีการดำเนินการทางกฏหมายกับคนที่พยายามแพร่ข่าวลือว่าหญิงในคลิปคือ ลี่เสี่ยวลู่ ด้วย
       
       ส่วนตัวของเธอได้พูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่า “มันไม่เกี่ยวกับฉันเลย โดนเรื่องแบบนี้จนชินแล้ว ก็ถือว่าเป็นปัญหาสำหรับฉันเหมือนกันค่ะ คิดว่าพยายามทำตัวให้ดีที่สุดก็คงเพียงพอแล้ว เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก็ดีฉันจะได้ใช้เป็นบทเรียนในการสอนลูกสาวด้วย”
       
       โดยหลังเกิดข่าวลือเรื่องเซ็กซ์เทปขึ้น ลี่เสี่ยวลู่ ก็ตัดสินใจยกเลิกการร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวผลงานเรื่องใหม่ทันที ส่วนสามีของเธออย่าง เจียไน่เหลียง ที่ร่วมแสดงในซีรีส์เรื่องนี้ด้วยก็ตอบแทนภรรยาไปว่า ที่เธอไม่มาร่วมงานด้วยก็เพราะอยากจะอยู่บ้านใช้เวลากับลูกสาวมากกว่า
       

       “น้องปอย-ตรีชฎา เพชรรัตน์” นักแสดงสาวประเภทสองชาวไทยเผยภาพคู่ของตนเองกับพระเอกรุ่นใหญ่ชาวฮ่องกง “โจวเหวินฟะ” (Chow Yun Fat) ในโอกาสที่ได้ร่วมงานกันในหนัง “โคตรเซียนมาเก๊าเขย่าเวกัส ภาค 2” ที่กำลังอยู่ระหว่างถ่ายทำในเมืองไทย
       
       โดย น้องปอย ได้มีโอกาสเผยภาพของตัวเองกับ โจวเหวินฟะ และทีมนักแสดงรวมถึงผู้กำกับของหนัง “โคตรเซียนมาเก๊าเขย่าเวกัส ภาค 2” พร้อมเขียนข้อความถึงแฟนๆ ว่า “พี่โจเหวินฟะ ไม่ชอบถ่ายรูปจริงๆคะ สาบาน 5555 ถ่ายเป็นอัลบั้มเลยวันนี้ ติดตามบทบาทของปอยในเรื่องเซียนตัดเซียนภาค2เร็วๆนี้นะคะ พี่จางเจียฮุย (Nick Cheung) สามีจากเรื่องที่แล้วก็เล่นด้วยคะ”
       
       ซึ่งตอนนี้ โจวเหวินฟะ วัย 59 ปี กำลังอยู่ระหว่างถ่ายทำหนัง From Vegas to Macau หรือ โคตรเซียนมาเก๊าเขย่าเวกัส ภาค 2 ในเมืองไทย หลังจากหนังภาคแรกกวาดเงินในจีนแผ่นดินใหญ่ไปมหาศาลถึง 500 ล้านหยวนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และเพิ่งมีโอกาสได้เข้ามาฉายในเมืองไทยในสุดสัปดาห์นี้ โดยในหนังภาคสองจะมีการเสริมนักแสดงเจ้าบทบาท จางเจียฮุย เข้ามาร่วมสร้างสีสันแทน เซียะถิงฟง (Nicholas Tse) ที่รับบทเป็นลูกศิษย์ของ โจวเหวินฟะ ในหนังภาคที่แล้ว เช่นเดียวกับ หลิวเจียหลิง (Carina Lau) ก็จะมารับบทเป็นหญิงสาวที่มีความสัมพันธ์กับตัวละคร โคตรเซียน ของ โจวเหวินฟะ
       

       หนังโรแมนติกจากเจ้าถิ่น Tiny Times 3.0 โค่นแชมป์เก่า Transformers: Age of Extinction จากตำแหน่งอันดับ 1 บ็อกซ์ออฟฟิศจีนได้สำเร็จ พร้อมทำสถิติยอดรายได้เปิดตัวหนัง 2D ที่สูงที่สุดตลอดกาลในจีนแผ่นดินใหญ่
       
       หลังหนังภาค 1 และ 2 ทำเงินถล่มทลายในการฉายห่างกันเพียงไม่กี่เดือนเมื่อกลางปี 2013 ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาหนังฮิตในหมู่วัยรุ่นชาวจีนแผ่นดินใหญ่ Tiny Times 3.0 ก็เข้าฉายพร้อมกวาดรายได้ไปมหาศาลเช่นเดียวกันด้วยการทำเงินไปถึง 310 ล้านหยวน (1,588 ล้านบาท) ในการฉาย 4 วันของสุดสัปดาห์แรก มากกว่ารายได้ในช่วงเวลาเดียวกันของหนังภาคแรกที่กวาดเงินในสุดสัปดาห์แรกไป 267 ล้านหยวน (1,367 ล้านบาท) ก่อนจะเก็บเงินตลอดโปรแกรมไปได้ 483 ล้านหยวน (2,474 ล้านบาท)
       
       Tiny Times 3.0 เป็นผลงานการกำกับของ กัวจิงหมิง ที่ดัดแปลงมาจากนิยายของตัวเองในการเล่าเรื่องชีวิต, ความรัก และความก้าวหน้าในอาชีพของหญิงสาวที่มีพื้นเพแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง 4 คน โดยนอกจากเนื้อหาที่สร้างความประทับใจให้กับวัยรุ่นแล้ว หนังชุดนี้ยังมีจุดขายอยู่ที่ฉากหลังอันดูหรูหรา และตัวละครที่ใช้ชีวิตกันด้วยสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ มากมายเต็มตัว โดยก่อนหน้านี้สำนักข่าว Xinhua ก็เคยให้คำจำกัดความว่า Tiny Times ก็คือ “Sex and the City” ที่ไม่ค่อยมีเรื่องเกี่ยวกับ “Sex” มาแล้ว
       
       ส่วน Transformers: Age of Extinction แม้จะเสียแชมป์อันดับหนึ่งบนบ็อกซ์ออฟฟิศไปแล้ว แต่สัปดาห์ล่าสุดก็ยังทำรายได้ไปถึง 66.9 ล้านหยวน ส่วนรายได้รวมในจีนก็สูงถึง 1,880 ล้านหยวน (9,631 ล้านบาท) แซง Avatar ขึ้นเป็นหนังทำเงินอันดับ 1 ตลอดกาลในจีนไปแล้วหลังฉายมาได้ 24 วัน

Manager Online

       “โจวซวิ่น” (Zhou Xun) นักแสดงดังชาวจีนวัย 39 ปี ประกาศแต่งงานกับ “อาร์ชี เกา” (Archie Kao) นักแสดงชาวจีน-อเมริกันวัย 44 ปี กลางงานกาลาการกุศลสร้างความประหลาดใจให้กับสื่อและผู้ร่วมงานเป็นอย่างมาก
       
       ตามรายงานระบุว่าในงานคอนเสิร์ตการกุศลที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา โจวซวิ่น เซอร์ไพร์สผู้มาร่วมงานวันนั้น โดยช่วงท้ายของงานเจ้าตัวปรากฏตัวบนเวทีในชุดแต่งงานสีขาวพร้อมถือช่อดอกไม้ โดยเธอได้แนะนำ อาร์ชี เกา หรือ เกาเซิ่งหยวน ว่าเป็นสามีของเธอ พร้อมจับมือกันเดินออกมาหน้าเวที
       
       โดยนักแสดงหนุ่มจากซีรีย์ CSI ได้กล่าวต่อหน้าผู้ร่วมงานขณะอยู่บนเวทีว่า “เซอร์ไพร์ส! ผมมีความสุขสุดๆเลยครับ ความรักได้นำพาให้ผมและภรรยามาอยู่ด้วยกัน ผมรู้ว่าคุณคงสงสัยว่าทำไมผมถึงได้โชคดีขนาดนี้ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากๆเลยครับ”
       
       ทางด้านโจวซวิ่น เองก็ได้กล่าวแสดงความในใจถึงสามีของเธอเช่นกัน “คุณเกาขอฉันแต่งงานมาสักพักแล้วค่ะ แล้วฉันก็ตอบตกลงไปแล้ว ฉันเคยถ่ายหนังมาแล้วหลายเรื่องและต้องแสดงเป็นเจ้าสาวบ้างในบางครั้ง และยังเคยท่องคำสาบานหลายต่อหลายครั้งในภาพยนตร์ แต่วันนี้ ในที่สุดมันจะเป็นแบบฉบับของโจวซวิ่นจริงๆค่ะ”
       
       เกาเซิ่งหยวน ได้ขอ โจวซวิ่น แต่งงาน ซึ่งนักแสดงสาวก็ได้ตอบตกลงบนเวทีโดยเธอก็ขอเขาแต่งงานเช่นกัน จากนั้นทั้งคู่ก็ได้แลกเปลี่ยนแหวนพร้อมกับแลกจูบกันยาวนาน
       

       “หลีซินเจี๋ย” (Angelica Lee) และ “อ็อกไซค์ แปง” (Oxide Pang) ควงกันกลับฮ่องกงแล้วหลังชีวิตคู่ของทั้งสองสั่นคลอนอย่างหนักมาหลายสัปดาห์ เมื่อฝ่ายสามีสร้างข่าวฉาวนอกใจไปควงนางแบบสาวออกหน้าออกตา จนชีวิตแต่งงานเกือบจะไปไม่รอด
       
       ผู้สื่อข่าวในฮ่องกงได้ภาพของ อ็อกไซค์ แปง กับ หลีซินเจี๋ย ที่กลับมาถึงฮ่องกงพร้อมกันเมื่อไม่กี่วันก่อน โดยนักแสดงสาวและผู้กำกับคู่ขวัญที่โด่งดังมาด้วยกันจากหนัง The Eye ได้แวะซื้อเครื่องสำอางที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในฮ่องกง และดูเหมือนว่าจะกลับมาหวานกันเหมือนเดิมแล้วหลังชีวิตคู่ต้องผ่านมรสุมมาลูกใหญ่
       
       เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมาได้เกิดข่าวฉาวขึ้น เมื่อปรากฏภาพของ อ็อกไซค์ แปง กอดจูบกับนางแบบสาววัยใส ลิดดี ลี่ (Liddy Li) ระหว่างควงกันไปดูหนัง ในช่วงที่ หลีซินเจี๋ย ภรรยาของ อ็อกไซค์ เดินทางไปพำนักอยู่ที่มาเลเซียบ้านเกิด จนทำให้ทุกฝ่ายต่างจับตามองว่าสุดท้ายชีวิตแต่งงานของทั้งคู่จะสามารถเดินต่อไปได้หรือไม่ โดยผู้กำกับหนุ่มได้เขียนข้อความขอโทษ และสำนึกผิด ส่วนฝ่ายภรรยาก็ให้อภัยเขา แม้จะเปรยว่าชีวิตคู่ยังไม่แน่นอนว่าจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้หรือไม่ แต่สุดท้ายก็ดูเหมือนว่าทั้งสองจะกลับมาคืนดีกันได้จริงๆ
       
       ข่าวระบุว่าระหว่างเดินชอปปิ้งไปถึงร้านเบเกอร์รีแห่งหนึ่งได้มีชาวฮ่องกงคนหนึ่งที่จดจำทั้งคู่ได้ และตะโกนด่า อ็อกไซค์ ไปว่า “ไอ้บื้อ” ด้วย อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ก็ดูจะไม่ได้สนใจอะไรนัก ก่อนจะจ่ายเงินและตรงไปเรียกแท็กซี
       

       กำลังจะมีการนำซีรีส์ฮิตจากเกาหลี Man from the Stars มาตัดต่อใหม่เพื่อฉายในโรงภาพยนตร์ที่จีนแผ่นดินใหญ่ แต่ล่าสุดแผนการกลับสะดุดเพราะหนังไม่ผ่านการตรวจพิจารณาจากทางการจีน เพราะเนื้อหาที่เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว
       
       โดยตัวแทนของบริษัทที่จะนำซีรีส์ Man from the Stars มาตัดต่อใหม่ เพื่อเข้าไปฉายในโรงภาพยนตร์จีนแผ่นดินใหญ่ได้ให้ข้อมูลว่าเหตุผลที่หนังไม่ผ่านเซนเซอร์อาจจะเป็นเพราะเนื้อเรื่องที่เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวที่เดินทางมาโลกเมื่อ 400 ปี ก่อนและใช้ชีวิตมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งหน่วยงานผู้ตรวจสอบพิจารณาอาจจะมองว่าเข้าข่ายจะสร้างความเข้าใจผิดๆ ให้กับผู้ชมชาวจีนได้ พร้อมกันนั้นผู้จัดจำหน่ายยังเผยว่าจะพยายามตัดต่อหนังใหม่อีกครั้ง เพื่อให้ผ่านกฎเกณฑ์และเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ประเทศจีนให้ได้
       
       อันที่จริงก่อนหน้านี้หน่วยงานด้านโทรทัศน์ และภาพยนตร์ของจีนก็เคยมีคำสั่งแบนซีรีส์ หรือหนังหลายๆ เรื่องที่ว่าด้วยเนื้อหาเหนือจริงประเภทการเดินทางย้อนเวลามาแล้ว โดยเฉพาะเรื่องที่นำเนื้อหาในจินตนาการไปผสมกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์
       
       Man from the Stars กลายเป็นซีรีส์สุดฮิตในจีนแผ่นดินใหญ่จนทำให้สองคู่พระนาง จอนจีฮยอน (Jun Ji Hyun) และ คิมซูฮยอน (Kim Soo Hyun) กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ที่ชาวจีนคลั่งไคล้ จนมีความพยายามที่จะนำซีรีส์มาตัดต่อใหม่เพื่อฉายในโรงภาพยนตร์ที่จีน อย่างไรก็ตาม จะไม่มีการถ่ายทำฉากใหม่ๆ เข้าไปแต่อย่างใด แต่จะใช้ภาพจากซีรีส์ต้นฉบับเท่านั้น แตกต่างจากเมื่อครั้งที่มีการนำซีรีส์เกาหลีเรื่อง Doctor Stranger มาตัดต่อใหม่เพื่อฉายในจีนแผ่นดินใหญ่ ที่มีการถ่ายเพิ่มอีกถึง 3 วัน

Manager Online

       แม้จะโดน TVB ไล่ออกด้วยการยกเลิกสัญญาไปแล้ว แต่นักแสดงสาว "หลันเยี่ยหัว" (Coffee Lam) ที่ตอนนี้ดังระเบิดจากเรื่องฉาวมีเซ็กส์ในห้องน้ำ ได้ขออธิบายถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในมุมมองของเธอ ว่าตนไม่ได้มีพฤติกรรมถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์กับแฟนหนุ่มในห้องน้ำสาธารณะอย่างที่สื่อลงข่าว เพียงแค่จูบกันธรรมดาเท่านั้น
       
       หลังเป็นข่าวใหญ่โตอยู่หลายวันติดต่อกัน ล่าสุดดาราสาวดาวรุ่ง หลันเยี่ยหัว ขออธิบายถึงประเด็นข่าวสุดฉาว และที่มาของคลิปเสียง 30 นาที ที่ว่ากันว่าเป็นเสียงระหว่างเธอและ วิล หลิน แฟนหนุ่มลูกชายมหาเศรษฐีกำลังมีความสัมพันธ์ทางเพศกัน ว่าเธอและเขาไม่ได้ทำเรื่องไม่เหมาะสมขนาดนั้นแน่นอน
       
       โดย หลันเยี่ยหัว ได้ยอมให้ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์เป็นครั้งแรก หลังจากประเด็นกลายเป็นข่าวร้อนมาหลายสัปดาห์ จนเธอโดน TVB ต้นสังกัดยกเลิกสัญญาไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน ด้วยการยืนยันว่าทุกคนเข้าใจเธอผิดไปหมดแล้ว ทั้งสื่อที่บอกว่าเธอกับแฟนหนุ่มมีเพศสัมพันธ์กันในห้องน้ำ และที่ทางอดีตต้นสังกัดพยายามกล่าวหาว่าเธอเป็นผู้จัดฉากสร้างเรื่องขึ้นมา ซึ่ง หลันเยี่ยหัว ชี้แจ้งว่าไม่เป็นความจริงทั้งสองเรื่อง
       
       หลันเยี่ยหัว ยังปกป้องแฟนหนุ่มที่หนีหายไปเก็บตัวอยู่ที่หังโจวตั้งแต่เกิดเรื่อง จนไม่มีใครติดต่อได้เลย ซึ่งดาราสาวบอกว่า วิล หลิน เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับที่บ้านมาก จึงเลือกที่จะกลับบ้านไปอธิบายเรื่องทุกอย่างให้พ่อกับแม่ฟังก่อน แต่เธอก็ยอมรับว่าแฟนหนุ่มเป็นผู้ดึงเธอเข้าไปในห้องน้ำก่อน ... "ใช่ค่ะ ฉันไม่อยากจะพูดอะไรมาก เพราะไม่อยากทำให้เขาเสียหาย" เธอบอก
       

       นักร้องหนุ่ม “กู่จี้ว์จี” (Leo Ku) เตรียมจูงมือแฟนสาวเข้าประตูวิวาห์ หลังคบหาดูใจกันมายาวนานถึง 20 ปีเต็ม โดยเขาได้ประกาศผ่านเว็บไซต์ส่วนตัวว่าจะแต่งงานกับเธอภายในปลายปีนี้
       
       โดย กู่จี้ว์จี ประกาศข่าวดีเกี่ยวกับเรื่องความรักของตัวเองกับแฟนสาว ลอรีน เฉิน ที่ยังมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยส่วนตัวผ่านทางเครือข่าย weibo ว่า “ตั้งแต่เมื่อปี 1994 ที่อัลบั้มแรกของผมออกจำหน่าย คุณก็คอยดูแลทั้งตัวผม และเรื่องงานมาตลอด นับแต่นี้เป็นต้นไปผมก็จะได้ดูแลคุณด้วย”
       
       สำหรับ กู่จี้ว์จี วัย 41 ปี เป็นศิลปินหนุ่มชาวฮ่องกงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในยุคปัจจุบัน แต่กว่าจะดังอย่างทุกวันนี้ กู่จี้ว์จี ก็ต้องใช้เวลาสะสมชื่อเสียงอยู่นาน โดยเขาเคยกล่าวว่าตนประสบความสำเร็จจริงๆ ก็เมื่อปีที่ 12 ที่อยู่ในวงการบันเทิงนั่นเอง โดยเมื่อ 3 ปีก่อนตอนที่ฉลองวันเกิดปีที่ 39 กู่จี้ว์จี ได้เปิดเผยว่าเขาได้คบหาดูใจกับผู้ช่วยสาว ลอรีน เฉิน มาถึง 17 ปีเต็มแล้ว แต่แม้จะประกาศข่าวเรื่องความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ เขาและแฟนสาวก็ยังคงใช้ชีวิตส่วนตัวกันอย่างเงียบๆ เหมือนเดิม

Manager Online

นักแสดงสาวขวัญใจชาวจีน "เจ้าเวย" (Zhao Wei) ได้โอกาสกลับมารับงานแสดงทางโทรทัศน์อีกครั้ง และล่าสุดมีภาพจากซีรีส์เรื่องใหม่ของเธอมาให้ดูกันที่นักแสดงสาวคุณแม่ลูกหนึ่งจะรับบทเป็นสาวเก่งที่ต้องทั้งทำงานไปด้วยเลี้ยงลูกไปด้วย
       
       เป็นที่ฮือฮาไม่น้อยสำหรับผลงานการแสดงทางโทรทัศน์เรื่องล่าสุดของ เจ้าเวย ในซีรีส์ Tiger Mom ซึ่งเป็นงานที่ได้รับแรงบันดาลใจหนังสือ Battle Hymn of the Tiger Mother ของนักเขียนหญิงคนดังแห่งยุค เอมี่ ฉั่ว ที่จะเล่าเรื่องการเลี้ยงลูกของเวิร์กกิ้งวูแมนคนหนึ่งด้วยวิธีที่ค่อนข้างจะสุดโต่ง
       
       Battle Hymn of the Tiger Mother หรือ "แม่เสือสอนลูก" ที่ตีพิมพ์เมื่อปี 2011 เคยสร้างข้อถกเถียงในวงกว้างในหมู่ผู้ปกครองทั้งในสังคมจีน และตะวันตก ด้วยเนื้อหาที่ว่าด้วยการเลี้ยงลูกอย่างสุดขั้วของผู้เขียน ซึ่งเป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัยเยล ที่ตัดสินใจว่าจะเลี้ยงดูลูกในแนวทางของวัฒนธรรมจีน ด้วยการวางแผนและกำหนดเส้นทางอย่างเข้มงวดให้ลูกๆ ของเธอเติบโตด้วยความเป็นเลิศในทุกด้าน
       
       ซึ่งแนวทางในการเลี้ยงลูกของ เอมี่ ฉั่ว ได้ทำให้หนังสือของเธอถูกวิจารณ์อย่างรุนแรงทั้งในแง่บวก และแง่ลบ นอกจากนั้นก็ยังก่อให้เกิดกระแสถกเถียงขึ้นมาว่าระหว่างการเลี้ยงลูกแบบตะวันตก และตะวันออก อะไรจะดีกว่ากัน ซึ่งความสำเร็จของ Battle Hymn of the Tiger Mother ก็ถึงกับส่งให้ เอมี่ ฉั่ว เคยเป็น 1 ใน 100 บุคคลทรงอิทธิพลของนิตยสาร Times เมื่อปี 2011 กันเลยทีเดียว
       

       มีรายงานว่า “รอย จาง” (Roy Cheung Yiu-Yeung / 張耀揚) หรือ “จางเหย่าหยาง” นักแสดงฮ่องกงถูกตำรวจจับที่ปักกิ่งตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. ที่ผ่านมา ด้วยข้อหามียาเสพติดในครอบครองหลังเจ้าตัวกลับจากงานแต่งงานของเพื่อนที่เหอเป่ย
       
       โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นระบุว่า พบกัญชาขนาด 1.15 กรัมในกล่องไม้ขีดที่เขากำไว้ในมือขณะตำรวจเข้าค้นห้องพักของเขาที่โรงแรม โดยเขาได้ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ว่าเขานำกัญชาติดตัวมาจากฮ่องกง ซึ่งหลังตรวจหาสารเสพติดก็พบว่ามีสารเสพติดอยู่ในตัวเขาด้วย โดยขณะนั้นเจ้าตัวได้กล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า หญิงสาวที่อยู่ภายในห้องพักคือแฟนสาวของเขา ซึ่งตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ และสงสัยว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับการค้าประเวณี ทำให้เขาถูกตำรวจสอบสวนเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย ซึ่งภายใต้กฎหมายของกรุงปักกิ่งเขาจะต้องถูกควบคุมตัวเป็นเวลา 20 วัน
       
       โดยเหตุการณ์ทั้งหมดได้ถูกบันทึกภาพไว้ ซึ่งสถานีโทรทัศน์ของปักกิ่งได้เผยแพร่ภาพการเข้าตรวจค้นห้องพักของเขาซึ่งมีความยาว 3 นาที โดยในเทปบันทึกภาพเผยให้เห็นว่า จางเหย่าหยาง กำลังนั่งดูบอลอยู่ในห้อง ซึ่งเขามีสีหน้าประหลาดใจทันทีที่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจถามว่าหญิงสาวในห้องคือแฟนของเขาใช่หรือไม่ เขาก็ตอบว่า “ครับ” โดยระหว่างที่เขาสนทนากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เขาก็ได้ซ่อนกล่องไม้ขีดไว้ในมือ ทำให้เจ้าหน้าที่สอบถามเขาว่าถืออะไรอยู่ เขาตอบว่า “ไม้ขีด” เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้น พร้อมกับถามสิ่งที่พบอยู่ภายใน ซึ่งเขาได้ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ว่า “เป็นกัญชาครับ ผมนำมันมาจากฮ่องกง...” จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวทั้งสองคนออกไป
       

       หลังจากประกาศยุบแฟนคลับและพักงานในวงการ รวมถึงเหตุการณ์เฉียดตายเมื่อครั้งปฏิบัติธรรมที่ประเทศไทย ล่าสุด ข่าวคราวเรื่องการสละโสดของ “เคน” (Ken Chu) ก็ยังคงได้รับความสนใจจากแฟนคลับ โดยล่าสุดมีการเผยภาพหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งเชื่อว่าเป็นแฟนสาวนอกวงการของเขาขณะทั้งคู่ควงกันไปกินข้าว
       
       เมื่อไม่นานนี้ เคน F4 หรือ จูเสี้ยวเทียน นักร้อง-นักแสดงหนุ่มชื่อดัง ได้ทำเอาแฟนๆ ชาวไทยถึงกับช็อกกับภาพล่าสุดของเขาที่เปลี่ยนไปขณะมาปฏิบัติธรรมในประเทศไทย
       
       โดยเคน ในวัย 35 ปี ได้ยอมรับว่าเขามีแฟนแล้ว พร้อมเผยความต้องการว่าตอนนี้อยากมีลูกมากกว่ามีแฟนเสียอีก แต่ติดตรงที่ยังหาคนที่จะมาอุ้มท้องเป็นแม่ของลูกไม่ได้ โดยระบุว่าผู้หญิงที่มาจากครอบครัวดีๆ มักจะห้ามไม่ให้ลูกแต่งงานกับคนในวงการ
       
       เมื่อถูกสื่อถามว่าเขาจะซุ่มเงียบแอบแต่งงานโดยปิดเป็นความลับหรือไม่ เจ้าตัวตอบเพียงว่า “ไม่มีความหมาย ยังไงก็ต้องรู้อยู่ดี”
       
       โดยเมื่อวานนี้ เคน ก็ได้ควงหญิงสาวไปกินอาหารที่ร้านแห่งหนึ่งในกรุงไทเป โดยหญิงสาวรายนี้มีอายุประมาณ 25 ปี สูง ขาว ผมยาว หุ่นดี และพูดภาษาจีนชัด โดยทั้งสองคนไม่ได้พูดคุยกันมากนักและต่างกินอาหารกันเงียบๆ ซึ่งพฤติกรรมของทั้งคู่เหมือนกับคู่สามี-ภรรยาที่แต่งงานอยู่กินกันมานานแล้ว ไม่ได้หวือหวาเหมือนคู่รักหนุ่มสาวที่เพิ่งคบหากันทั่วไป
       
       ตามรายงานระบุว่าหลังจากที่หญิงสาว สังเกตเห็นว่ามีปาปารัสซีกำลังเก็บภาพอยู่ ทั้งคู่จึงได้ยุติการกินอาหารและออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว
       

       “หลินซินหยู” (Ruby Lin) นักแสดงสาวชื่อดังที่เคยสานสัมพันธ์รักกับนักแสดงหนุ่มหล่อขวัญใจสาวๆอย่าง “หลินจื้ออิง” (Jimmy Lin) ได้ออกมาเผยสาเหตุที่แท้จริงของการเลิกรากัน โดยระบุว่าเป็นเพราะฝ่ายชายหึง “ซูโหย่วเผิง” (Alec Su)
       
       หลินซินหยู ได้คบหากับ หลินจื้ออิง เมื่อปี 1995 หลังจากได้ร่วมงานกันในละครวัยรุ่นเรื่อง School Days สมัยเข้าวงการใหม่ๆ และต่างเก็บความสัมพันธ์เป็นความลับไม่ให้สื่อรู้
       
       แต่หลังจากที่หลินซินหยูได้แสดงในละครสุดฮิตเรื่อง Princess Pearl เธอก็ได้รับความนิยมอย่างมากและมีชื่อเสียงโด่งดัง ซึ่งตรงข้ามกับหลินจื้ออิง ที่หลังจากปลดประจำการจากค่ายทหารชื่อเสียงของเขาก็ตกลง โดยช่วงเวลานั้นทั้งคู่มีข่าวเลิกรากันโดยระบุสาเหตุว่าเป็นเพราะตารางงานที่ยุ่งมากของหลินซินหยู ทำให้ต่างไม่มีเวลาให้กันซึ่งเป็นช่วงที่หลินซินหยูต้องบินไปถ่ายทำละครที่จีนแผ่นดินใหญ่อยู่บ่อยๆด้วย
       
       แต่จากการออกรายการครั้งล่าสุดของหลินซินหยู ความจริงทุกอย่างก็ได้รับการเปิดเผย โดยสาเหตุข้างต้น ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เลิกรากัน โดยหลินซินหยูได้เผยว่า เป็นเพราะความหึงหวงของ หลินจื้ออิง ทำให้ต้องเลิก เนื่องจากเธอกล่าวชมซูโหย่วเผิงขณะให้สัมภาษณ์ออกสื่อ
       
       ซึ่งหลินจื้ออิง รู้สึกว่าตนเองเสียหน้าและเสียใจที่หลินซินหยู ไปกล่าวชื่นชมชายอื่น และผลจากการหึงเกินเหตุนี้เอง หลินจื้ออิงยังได้ส่งข้อความผ่านทางแฟ็กซ์ระบุว่า “ผมอยากเลิกกับคุณ” ไปยังทีมงานทุกคนด้วย ซึ่งทำให้หลินซินหยูรู้สึกอับอายอย่างมาก

       นักแสดงหนุ่มคนดังได้เป็นคุณพ่ออย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วเมื่อภรรยาสาวของเขาที่เพิ่งจะแต่งงานกันเมื่อปลายปีก่อน ได้คลอดลูกคนแรกเมื่อ 2 วันก่อน (10 ก.ค.) เป็นลูกสาวที่ "หวังลี่หง" (Wang Lee Hom) ตั้งชื่อให้ว่า "หวังเจียลี่" (Wang Jia Li) โดยเป็นการคลอดก่อนกำหนดประมาณหนึ่งเดือน
       
       หลังจากแต่งงานกันไปเมื่อปลายเดือน พ.ย. ปีก่อนคู่สามีภรรยา หวังลี่หง และ หลีจิงเล่ย (Lee Jing Lei) ก็ได้เป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อลูกสาวของเขาลืมตาดูโลกก่อนกำหนดนิดหน่อย
       
       โดยทั้งสองรู้จักคุ้นเคยกันมามากกว่า 10 ปีแล้ว นอกจากนั้นครอบครัวของทั้งสองฝ่ายก็สนิทสนมกันเป็นอย่างดีด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างกันจึงพัฒนาไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว หลังจากทั้งสองได้ตัดสินใจว่าจะคบหากันในฐานะคนรัก และตัดสินใจจูงมือกันเข้าประตูวิวาห์เพื่อสร้างครอบครัวทันที
       
       กระทั่งเมื่อเดือน พ.ค. ศิลปินหนุ่มวัย 38 ปี ได้ประกาศกลางปาร์ตี้หลังคอนเสิร์ตว่าภรรยาของเขาได้ตั้งท้องเป็นเวลา 5 เดือนแล้ว ซึ่งในตอนแรกทั้งสองเคยวางแผนเอาไว้ว่าจะมาพักที่ไต้หวันในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของการตั้งครรภ์ แต่เพราะมีการคลอดก่อนกำหนดขณะที่ทั้งคู่อาศัยอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแผนนิดหน่อย โดยนักร้องหนุ่มซูเปอร์สตาร์ยังเขียนข้อความแสดงความยินดีกับความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิตที่เกิดขึ้น และบอกว่านี่คือรักแรกพบที่แท้จริง เพราะเขาคิดฝันถึงการมีทายาทมานานแล้ว จนสุดท้ายฝันก็เป็นความจริงจนได้
       
       หวังลี่หง ยังได้โพสต์ภาพฝ่าเท้าของลูกสาวลง Facebook ให้แฟนๆ ได้ร่วมยินดีกัน และแม้ลูกสาวจะมีน้ำหนักน้อยกว่าเด็กแรกเกิดโดยทั่วไปนิดหน่อย เพราะเป็นการคลอดก่อนกำหนด แต่เขาก็เปิดเผยว่าทั้งภรรยา และลูกสาวมีสุขภาพแข็งแรงดีทุกประการ

       เพราะกระแสซีรีย์วัยรุ่น One and a Half Summer ของ “นิชคุณ” (NichKhun) มาแรงเกินคาดทำให้อนาคตในฐานะนักแสดงที่วงการบันเทิงจีนของไอดอลหนุ่มเชื้อสายไทยที่ปกติปักหลักทำงานอยู่ในเกาหลีใต้ดูจะสดใสขึ้นมาทันที
       
       ซีรีย์ One and a Half Summer ที่ นิชคุณ แสดงเป็นหนุ่มอเมริกันเชื้อสายจีนที่เดินทางมาพบรักในเมืองจีน เป็นผลงานที่ออกอากาศทาง Dragon TV ด้วยจำนวนทั้งสิ้น 27 ตอน นอกจากนั้น ซีรีย์ยังเผยแพร่ภาพเว็บไซต์วิดีโอออนไลน์ต่างๆ ด้วย ซึ่งยอดผู้ชมผ่านเว็บไซต์เหล่านี้นี่เองที่กลายเป็นดัชนีชี้วัดความนิยมของซีรีย์ เพราะจากข้อมูลมีคนชมผลงานการแสดงของ นิชคุณ เรื่องนี้ถึง 400 ล้านครั้งเข้าไปแล้ว
       
       ถึงตอนนี้ซีรีย์ One and a Half Summer ยังติดอันดับคำค้นของเซิร์จเอ็นจินสุดฮิตของชาวจีนอย่าง Baidu และเป็นซีรีย์ที่คนค้นหาในเว็บ Weibo มากเป็นอันดับ 3 ด้วย ส่วนยอดผู้ชมในเว็บไซต์วิดีโอออนไลน์ Youku Tudou ก็มาเป็นอันดับ 1 ในหมวดซีรีย์
       
       โดยทาง JYP Entertainment ก็แสดงความยินดีในความสำเร็จของสมาชิกวง 2PM ที่ดูจะมีอนาคตสนใจในวงการบันเทิงจีนในฐานะนักแสดงไปแล้ว โดยขณะนี้ นิชคุณ ก็กำลังอยู่ระหว่างถ่ายทำซีรีย์จีนอีกเรื่องคือ Bucket List

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Transformers: Age of Extinction ของ “ไมเคิล เบย์” สามารถสร้างสถิติหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลในจีนแผ่นดินใหญ่ได้เรียบร้อย ด้วยการกวาดรายได้ในประเทศจีนไปแล้วทั้งสิ้น 219 ล้านเหรียญฯ
       
       การเลือกนักแสดงชาวจีนให้มีบทบาทในเรื่อง และถ่ายทำบางส่วนของหนังในจีนกับฮ่องกงดูจะกลายเป็นกลยุทธที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงไปแล้วเพราะล่าสุด Transformers: Age of Extinction สามารถกวาดเงินจากนักดูหนังชาวจีนไปได้ถึง 219.2 ล้านเหรียญฯ หรือ 1,476 ล้านหยวน โค่นสถิติเดิมของ Avatar ที่สร้างเอาไว้เมื่อปี 2009 ด้วยตัวเลข 1,391 ล้านหยวนอย่างง่ายดายด้วยการฉายเพียงแค่ 11 วันเท่านั้น
       
       นับว่ารายได้ของ Transformers ภาค 4 ในจีนแผ่นดินใหญ่ยังสูงกว่ารายได้ในสหรัฐฯ ที่หนังทำไปแล้วทั้งสิ้น 180 ล้านเหรียญฯ เสียอีก โดยตอนนี้หนังกวาดเงินทั่วโลกไปแล้วทั้งสิ้น 592 ล้านเหรียญฯ
       
       โดยนักวิเคราะห์จาก Box Office Mojo มองว่าสาเหตุหลัก 3 ประการที่ทำให้ Transformers ทำเงินอย่างถล่มทลายในแดนมังกรก็คือ (1) หนังชุดนี้ครองใจผู้ชมชาวจีนอยู่แล้ว เพราะภาคก่อนก็ทำเงินไปสูงถึง 1,112 ล้านหยวน (2) ตลาดธุรกิจภาพยนตร์ในจีนกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นที่อัตรายอดขายตั๋วแทบจะสูงขึ้นในทุกวัน โดยในปี 2014 มีหนัง 5 เรื่องที่ทำเงินเกิน 100 ล้านเหรียญฯ ไปแล้ว แล้วขณะที่ตลอดทั้งปี 2013 มีหนังทำเงินเกิน 100 ล้านอยู่แค่ 5 เท่านั้น
       
       และที่สำคัญที่สุดก็คือประการที่ (3) ซึ่งนักวิเคราะห์ก็มองว่าการใส่องค์ประกอบความเป็น “จีน” ทั้งนักแสดง และฉากหลังของเรื่องราวที่เกิดขึ้นในจีนกับฮ่องกง รวมถึงสินค้าโฆษณาแฝงต่างๆ คือส่วนสำคัญที่ทำให้หนังดึงดูดผู้ชมกลุ่มต่างๆ ให้มาชมกันอย่างคับคั่งนั่นเอง
       

       เจอข่าวแรงเลยทีเดียวสำหรับ “ลิลลี เหอ” (Lily Ho) นักแสดงสาวชาวฮ่องกง ที่ล่าสุดโดนลือว่ามีสัมพันธ์รักต่างวัยกับนักธุรกิจดัง “หลินกินหมิง” (Lam Kin Ming) ชายแก่คราวปู่วัย 76 ปี
       
       โดยสื่อฮ่องกงได้รายงานว่า หลินกินหมิง เจ้าของสื่อยักษ์ใหญ่อย่าง Big Honor Entertainment มักจะถูกพบเห็นขณะพา ลิลลี ไปไหนมาไหนและออกงานอีเวนต์ของบริษัทเขาบ่อยๆ
       
       โดยเมื่อไม่นานมานี้ทั้งคู่ก็ถูกถ่ายภาพขณะควงกันไปดูคอนเสิร์ตของ พริสซิลลา เฉิน (Priscilla Chan) และยังแสดงออกต่อกันไม่ต่างจากคนรักขณะชมคอนเสิร์ตด้วย โดยเมื่อปี 2009 ลิลลี เหอ ก็เคยถูกจับภาพขณะเต้นรำกับหลินกินหมิง ในงานการกุศลแห่งหนึ่ง โดยแหล่งข่าววงในระบุว่าพ่อของลิลลี เป็นผู้พาลิลลีมาให้พบกับหลินกินหมิงอยู่บ่อยๆ
       
       อย่างไรก็ตาม ทางด้านลิลลี เหอ ได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือเรื่องที่เธอหลอกคนแก่หวังดันให้ตนเองดัง โดยระบุว่าหลินกินหมิงเป็นเพียงเพื่อนของพ่อเธอเท่านั้น
       
       “คุณหลินกินหมิงเป็นเพื่อนกับคุณพ่อฉันค่ะ เมื่อไหร่ก็ตามที่มีคอนเสิร์ต ท่านจะเชิญพวกเราไปด้วย ศิลปินส่วนใหญ่จะถูกจัดให้นั่งอยู่แถวด้านหน้า โดยคุณพ่อกับเพื่อนของเขานั่งอยู่ที่ด้านหลังค่ะ พวกท่านก็ถูกถ่ายรูปเหมือนกัน แต่ฉันก็ไม่แน่ใจว่าทำไมถึงออกมามีแค่ฉันกับคุณหลินและถูกนำเสนอข่าวออกมาทำนองนี้ เป็นเรื่องที่งงมากค่ะ”
       

       นักแสดงชื่อดังชาวฮ่องกง “เฉินจิ่นหง” (Sunny Chan / Chen Jin Hong / 陳錦鴻) ได้ภูมิใจในตัวลูกชายอีกครั้ง เมื่อทายาทของเขาสามารถสอบได้อันดับ 1 ในโรงเรียนระดับประถมที่กำลังศึกษาอยู่ ทั้งๆ ที่เด็กชาย “เอ็ดการ์ เฉิน” ลูกของพวกเขาจะเคยมีอาการของออทิสติกก็ตาม
       
       ก่อนหน้านี้ นักแสดงเจ้าบทบาท เฉินจิ่นหง เคยประกาศลดรับงานเพื่อขอทุ่มเวลาดูแลลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่มีอาการของออทิสติก จนมีปัญหาด้านการสื่อสารถึงขั้นที่อายุ 2 ขวบแล้วก็ยังไม่สามารถพูดได้เลย แต่หลังจากทุ่มเทเพื่อลูกอย่างเต็มที่ตอนนี้ เอ็ดการ์ หรือ เฉินเจียหัว (Edgar Chan / 陳駕樺) ก็เริ่มแสดงพัฒนาการที่ดีให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะล่าสุดที่มีข่าวว่าลูกชายของ เฉินจิ่นหง ถึงกับสอบได้ที่ 1 ของโรงเรียนกันเลยทีเดียว
       
       โดยคุณแม่ ตู้ม่านเหว่ย (Ada To / 杜雯惠) ได้กล่าวว่าเธอไม่ได้คิดว่าอันดับผลการเรียนคือเรื่องสำคัญอะไร เพราะสิ่งที่สำคัญก็คือการแสดงให้เห็นว่าพ่อและแม่ทุกคนจะสิ้นหวังกับลูกที่เป็นออทิสติกไม่ได้เด็ดขาด เพียงแค่พวกเขาได้รับการดูแลเอาใจใส่ ก็สามารถเข้าศึกษาในสถาบันทั่วๆ ไปกับเด็กคนอื่นได้ตามปกติแล้ว
       
       “ในการเลี้ยงดูพวกเขาเราต้องพยายามมองโลกในแง่ดีให้มากที่สุดค่ะ” ตู้ม่านเหว่ย กล่าว “แม้พวกเขาจะไม่สามารถเข้าสังคมได้ทันที, บางทีอาจจะสื่อสารกับคนอื่นได้อย่างยากเย็นก็ตาม จากจุดนั้นพวกเขาจะค่อยๆ เรียนรู้ที่จะมีความสุขในแบบของตัวเอง”

Manager Online