ข่าวจีน

       ผู้สร้างหนังซูเปอร์ฮีโร่ X-Men: Days of Future Past เปิดเผยภาพอย่างเป็นทางการของ "ฟั่นปิงปิง" (Fan Bing Bing) ที่จะรับบทเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ที่ชื่อว่า "บลิงค์" ผู้มีความสามารถในการเทเลพอร์ต หรือเคลื่อนย้ายวัตถุผ่านมิติให้ชมกันแล้ว ซึ่งถือว่านี่คือการเปิดตัวสู่วงการภาพยนตร์ระดับโลกอย่างเป็นทางการของซูเปอร์สตาร์สาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่
       
       หลังเผยโฉมผ่านตัวอย่างภาพยนตร์ที่เผยแพร่เมื่อหลายเดือนก่อนไปนิดหน่อย ล่าสุดผู้สร้างได้เผยโฉมรูปลักษณ์ของ ฟั่นปิงปิง กับการแสดงหนังฮอลลีวูดอย่างเต็มตัวเป็นครั้งแรก ที่เธอมาพร้อมชุดเกราะหนัง, ผมสีม่วง และดวงตาสีเขียว ในการสวมบทบาทเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ที่ชื่อว่า บลิงค์
       
       โดยในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของหนัง Days of Future Past ยังระบุรายละเอียดเกี่ยวกับตัวละครที่เธอสวมบทว่ามีความสามารถในการเคลื่อนที่ผ่านมิติ รวมถึงส่งสิ่งของหรือมนุษย์ไปยังมิติอื่นด้วย บลิงค์ ถือเป็นสมาชิกคนสำคัญของ X-Men แต่ในช่วงเวลาที่การคงอยู่ของมนุษย์กลายพันธุ์กำลังตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย ที่แม้แต่เธอเองก็ไม่สามารถที่จะช่วยเหลืออะไรได้มากนัก
       
       ก่อนหน้านี้เมื่อมีการประกาศว่า ฟั่นปิงปิง จะได้ร่วมแสดงในหนัง X-Men: Days of Future Past แฟนๆ ของนักแสดงวัย 32 ปี ก็ลุ้นกันอยู่พอสมควรว่าสุดท้ายแล้วเธอจะมีบทในหนังมากน้อยเพียงใด ซึ่งแม้บท บลิงค์ น่าจะแค่ตัวละครสมทบในหนังที่มีนักแสดงชื่อดังปรากฏตัวมากมาย แต่อย่างน้อยบทบาทของเธอก็น่าจะถูกจดจำได้บ้าง ไม่เหมือนตอนที่มีข่าวว่าเธอได้ร่วมแสดงในหนัง Iron Man 3 แต่สุดท้ายกลายเป็นว่าฉากที่ ฟั่นปิงปิง แสดงในหนังเรื่องนั้นได้ปรากฏอยู่เฉพาะหนังเวอร์ชั่นที่ฉายในจีนแผ่นดินใหญ่เท่านั้น
       

       หนังรักที่ว่าด้วยชีวิตคนหลายคู่ Beijing Love Story (北京愛情故事) เปิดตัวเข้าฉายในวันวาแลนไทน์ของเมืองจีน และสร้างสถิติเป็นหนัง 2-D ที่ทำรายได้ในวันแรกสูงสุดตลอดกาล นอกจากนั้นยังได้ชื่อว่าเป็นหนังโรแมนติกที่ประสบความสำเร็จที่เคยมีมาในตลาดหนังจีนด้วย
       
       Beijing Love Story สามารถทำรายได้ในการเปิดฉายเมื่อวันที่ 14 ก.พ. ไปถึง 102 ล้านหยวน (545 ล้านบาท) ซึ่งกลายเป็นการทำลายสถิติรายได้วันแรกของหนังในระบบ 2-D ที่ฉายในประเทศจีนเลยทีเดียว โดยเป็นการโค่นสถิติเดิมที่เพิ่งจะถูกบันทึกเอาไว้ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันของ Dad, Where Are You Going? (爸爸去哪兒) ที่เข้าฉายในวันตรุษจีนนี่เอง
       
       หนังรักที่มีนักแสดงทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ และฮ่องกงร่วมประชันบทบาทกันยังสร้างสถิติขึ้นอีกหลายอย่าง ทั้งเป็นหนังที่ทำรายได้ในวันวาแลนไทน์มากที่สุดตลอดกาล, เป็นหนังที่ทำรายได้ในวันธรรมดา ไม่ใช่เสาร์อาทิตย์ที่มากที่สุดที่เคยมีมา และเป็นหนังรักที่ทำเงินได้มากที่สุดในการฉายวันเดียวด้วย โดยถึงตอนนี้หนังทำรายได้ไป 200 ล้านหยวน (1070 ล้านบาท) เป็นที่เรียบร้อย
       
       ผลงานการกำกับภาพยนตร์เป็นครั้งแรกของ เฉินซีเจิ้ง (CHEN Sicheng / 陳思誠) ดัดแปลงมาจากซีรีส์ชื่อเดียวกัน ที่เขาเป็นผู้เขียนเองเช่นเดียวกัน โดยหนังเล่าเรื่องความรักหลาย ๆ แบบของผู้คนอันหลากหลาย และมีนักแสดงชื่อดังรวมแสดงด้วยมากมาย อาทิ เหลียงเจียฮุย, หลิวเจียหลิง, ถงลียา, วังสวีปิง, อวี้หนาน, วังฉินเสียง, ซีฉินเกาหัว และ อีเลน จิน เป็นต้น นอกจากนั้นตัวผู้กำกับก็ร่วมแสดงในหนังด้วย
       

       นักแสดงชื่อดังมากมายร่วมแถลงข่าวเปิดตัวซีรีส์ฟอร์มยักษ์ The Empress of China ที่งานนี้นักแสดงหญิงแถวหน้าแห่งวงการอย่าง “ฟั่นปิงปิง” (Fan Bing Bing) จะได้รับบทท้าทายอีกครั้ง กับการแสดงเป็นพระนาง “บูเช็คเทียน” ตั้งแต่วัยสาวแรกรุ่น จนถึงช่วงสวรรคต
       
       ทีมงาน และนักแสดงจากซีรีส์ The Empress of China ได้ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวผลงาน ในอีเวนต์ซึ่งจัดกันขึ้นที่เมืองอู๋ซี เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมา นำโดยดาราสาวคนดังที่ยังนั่งตำแหน่งผู้อำนวยการสร้างด้วยอย่าง ฟั่นปิงปิง ที่ถือว่าได้กลับมารับงานแสดงทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีเลยทีเดียว โดยเธอจะต้องแสดงเป็นจักรพรรดินีองค์แรกและองค์เดียวของประวัติศาสตร์จีน ตั้งแต่ยังมีอายุแค่ 18 ปี จนไปถึง 80 ปี และเป็นงานที่เจ้าตัวบอกว่าท้ายทายมากๆ
       
       โดยซีรีส์เรื่องนี้ยังมีนักแสดงร่วมประชันบทบาทอีกคับคั่ง อาทิ จางเฝิงอวี้, อารีฟ ลี, ถิงจาง, จางซินอวี้, จางจวินหนิง, อู๋ซิ่วปอ , โจวไห่เม่ย และ ลี่เฉิน

Manager Online

ปัญหาความขัดแย้งของสมาคมนักแสดงฮ่องกงดูจะได้ข้อยุติลงแล้ว เมื่อขาใหญ่แห่งวงการภาพยนตร์ "เฉินหลง" (Jackie Chan) ได้กลับมารับหน้าที่เป็นนายกสมาคมอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้เกิดข้อพิพาทเกี่ยวกับการเลือกตั้งนายกขึ้นใหม่ จนตำแหน่งดังกล่าวต้องว่างลงหลายเดือน
       
       นับจาก เจิ้งจื่อเหว่ย (Eric Tsang) ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งนายกสมาคมนักแสดงไปเมื่อเดือน ต.ค. ปีก่อน ตำแหน่งดังกล่าวก็ว่างลง และไม่สามารถเลือกตั้งคนใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทนได้เสียที เพราะนักแสดงเจ้าบทบาท หวงซิวเซิง (Anthony Wong) แสดงเจตจำนงต้องการสมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมฯ แต่ เฉินซันชง เลขานุการของสมาคมปฏิเสธไม่ให้เขาเข้าร่วมชิงตำแหน่ง ด้วยเหตุผลที่ว่า "หวงซิวเซิง ไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคม" ซึ่งเธอคิดว่าหากให้เขาลงสมัครชิงตำแหน่ง จะเป็นเรื่องไม่ยุติธรรมกับผู้สมัครรายอื่น จนทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในหมู่สมาชิก และไม่สามารถลงมติเลือกนายกฯ คนใหม่ได้
       
       จนสุดท้าย เฉินหลง ที่เคยดำรงตำแหน่งดังกล่าวเมื่อหลายปีก่อนจึงตัดสินใจกลับมารับหน้าที่เดิมอีกครั้ง
       
       โดย เฉินหลง อยู่ระหว่างทำงานที่ต่างประเทศ จึงไม่สามารถมาร่วมแถลงข่าวการรับตำแหน่งนายกสมาคมคนใหม่ที่จัดขึ้นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ เจิ้งจือเหว่ย จึงรับหน้าที่แถลงข่าวแทน และอธิบายว่าทุกคนมองตรงกันว่า เฉินหลง คือผู้มีความเหมาะสมกับตำแหน่งนี้มากที่สุด อย่างไรก็ตามเพราะเขาทำงานอยู่ต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ จึงต้องการทีมงานที่มีประสิทธิภาพมาคอยช่วยเหลือด้วย
       

       พระเอกหนุ่มรุ่นใหญ่ “จางจื่อหลิน” (Julian Cheung) และดาราสาวเซ็กซี “โจวซิ่วนา” (Chrissie Chau) คือนักแสดงที่ถูกวางตัวเอาไว้ในบทนำ สำหรับหนังรักว่าด้วยเรื่องราวความสัมพันธ์ของมหาเศรษฐีหนุ่มเจ้าเสน่ห์ และโสเภณีสาวแบบเดียวกับในหนัง Pretty Woman อันโด่งดัง
       
       ข่าวระบุว่า Billionaire Demon Falls in Love with Me จะเป็นหนังรักที่ดัดแปลงมาจาก Pretty Woman (ผู้หญิงบานฉ่ำ) ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทั่วโลกเมื่อ 20 ปีก่อน โดย จางจื่อหลิน และ โจวซิ่วนา ถูกวางตัวให้รับบทนำเป็นคู่ขวัญที่ไม่น่าจะมาเจอกันได้ ซึ่งในต้นฉบับ ริชาร์ด เกียร์ และ จูเลีย โรเบิร์ตส์ เคยแสดงเอาไว้ ในเรื่องราวที่เป็นเหมือน ซินเดอเรลลา แห่งยุคสมัยใหม่
       
       ผู้หญิงบานฉ่ำ ฉบับจีนจะเล่าเรื่องของมหาเศรษฐีคาสโนวา ที่ใช้เงินในการหว่านเสน่ห์มัดใจสาวๆ ยอมกระทั่งทุ่มทุนพาผู้หญิงที่เขาหมายปองบินไปญี่ปุ่นเพื่อไปกินราเม็งด้วยกันเท่านั้น หรือพาฝ่ายหญิงไปกรุงปารีส เพื่อซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมที่เธออยากได้ จนวันหนึ่งเขาได้ตัดสินใจว่าจ้างหญิงสาวที่หากินอยู่ในแถบมงก๊กคนหนึ่ง หวังจะทำให้แฟนสาวคนปัจจุบันรู้สึกหึงหวงให้ได้ แต่แล้วคาสโนวาหนุ่ม กลับเริ่มมีความรู้สึกอะไรบางอย่างกับสาวที่แทบไม่มีอะไรคู่ควรกับเขาเลยคนนี้
       

ดาราสาว “ฟั่นปิงปิง” (Fan Bing Bing) กลับคืนจอโทรทัศน์อีกครั้ง ในซีรีส์ The Empress of China ที่จะบอกเล่าเรื่องราวของจักรพรรดินี “บูเช็คเทียน” และได้นักแสดงชื่อดังร่วมประชันบทบาทมากมาย

       หลังจากแสดงนำในซีรีส์ The Last Night of Madam Chin เมื่อปี 2009 นักแสดงสาวคนดังแห่งวงการบันเทิงจีน ฟั่นปิงปิง ก็หันหลังให้กับวงการทีวี และเลือกที่จะมุ่งมั่นกับการรับงานภาพยนตร์ จนประสบความสำเร็จสร้างชื่อขึ้นมาจนโด่งดังทั้งระดับประเทศ และนานาชาติ จนล่าสุดเธอกำลังจะได้กลับมาแสดงละครชุดทางโทรทัศน์อีกครั้ง ในซีรีส์ที่ว่าด้วยเรื่องราวของพระนางบูเช็คเทียนที่จะใช้ชื่อว่า The Empress of China
       
       ไม่ใช่แค่แสดงนำเท่านั้น The Empress of China ยังถือว่าเป็นผลงานซีรีส์เรื่องที่ 3 ที่บริษัทของ ฟั่นปิงปิง เป็นผู้ออกเงินสร้างด้วย โดยเรื่องราวในซีรีส์จะเริ่มต้นตั้งแต่ บูเช็คเทียน มีอายุแค่ 14 ปี ที่ถูกส่งตัวไปเป็นนางสนมของ พระเจ้าถังไท่จง (รับบทโดยนักแสดงเจ้าบทบาท จางเฝิงอวี้) ต่อมาจึงได้ขึ้นสู่อำนาจ และร่วมบริหารราชการในยุคของจักรพรรดิถังเกาจง (อารีฟ ลี) จนแผ่นดินสงบสุข และสามารถยึดครองอำนาจเอาไว้ได้แต่เพียงผู้เดียวในปีที่ 34 เมื่อ ถังเกาจง ไม่สามารถบริหารราชการแผ่นดินต่อไปได้ โดยซีรีส์จะเล่าเรื่องไปถึงวาระสุดท้ายของ บูเช็คเทียน ที่สิ้นพระชนม์ตอน 81 พรรษา เลยทีเดียว
       
       โดย ฟั่นปิงปิง ที่จะรับบทเป็น บูเช็คเทียน ในหลายช่วงอายุได้กล่าวถึงความท้าทายครั้งนี้ว่า “นักแสดงหญิงคนไหนที่ไม่อยากเล่นบท บูเช็คเทียน ก็คงเป็นนักแสดงที่ดีไปไม่ได้ บทนี้คือความฝันของนักแสดงหญิงทุกคนจริงๆ ค่ะ”
       

มีการประกาศรายชื่อหนังที่ได้ชิงรางวัลภาพยนตร์เอเซียครั้งที่ 8 ออกมาแล้ว โดย The Grandmaster จากฮ่องกงคืองานที่ได้ลุ้นรางวัลมากที่สุด กับการถูกเสนอชื่อถึง 11 สาขาจากทั้งหมด 14 สาขา ส่วนหนังไทยไม่ได้ชิงรางวัลสาขาใดๆ เลยในปีนี้
       
       The Grandmaster มีชื่อชิงรางวัลภาพยนตร์เอเซียครั้งที่ 8 รวมทั้งหมด 11 สาขารวมถึงรางวัลสำคัญ อาทิ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม, นักแสดงนำชาย, นักแสดงนำหญิง, บทภาพยนตร์ และถ่ายภาพยอดเยี่ยม ส่วน Snowpiercer ของ บองจุนโฮ คืองานที่ได้ชิงรางวัลมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 คือได้ชิงรางวัลใน 5 สาขา
       
       สำหรับหนังอีก 4 เรื่องที่ได้ชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมยังประกอบไปด้วยหนังญี่ปุ่น The Great Passage, The Lunchbox ตัวแทนจากอินเดีย, หนังจีนแผ่นดินใหญ่ No Man's Land และหนังไต้หวัน Stray Dogs
       
       โดยในปีนี้มีหนัง 28 เรื่องจาก 10 ประเทศที่ได้ชิงรางวัล ซึ่งหนังฮ่องกงมีลุ้นรางวัลมากที่สุดใน 19 สาขาจากหนัง 5 เรื่องได้แก่ Grandmaster, Rigor Mortis (4 สาขา), Young Detective Dee: Rise of the Sea Dragon (3 สาขา) และ The Way We Dance (1 สาขา)
       

       Aberdeen หนังใหม่ของ "เผิงเฮ่าเสียง" ปล่อยตัวอย่าง และภาพชุดแรก ออกมาให้ชมกันแล้ว สำหรับภาพยนตร์ที่รวมนักแสดงชื่อดังเอาไว้มากมาย เพื่อบอกเล่าเรื่องราวชีวิตครอบครัวของคนฮ่องกง แต่งานนี้ "เหลียงหยงฉี" (Gigi Leung) กลายเป็นคนขโมยซีนได้รับความสนใจมากที่สุด จากภาพในชุดว่ายน้ำที่หน้าอกหน้าใจของดาราสาววัย 37 ปี ดูอวบอิ่มผิดหูผิดตา
       
       ผู้กำกับ เผิงเฮ่าเสียง ใช้ประสบการณ์ส่วนตัว ในฐานะคนที่เกิดและเติบโตขึ้นมาในย่านอเบอร์ดีน ถิ่นที่อยู่อาศัยทางตอนใต้ของฮ่องกง ในการสร้างหนังเรื่อง Aberdeen ที่จะบอกเล่าเรื่องราวของครอบครัวชาวฮ่องกง ทั้งความรักความผูกพันและการเก็บซ้อนความเจ็บปวดเอาไว้ในจิตใจ
       
       โดยหนังจะเล่าเรื่องด้วยจังหวะที่แตกต่างจากงานที่แล้วๆมาของตัวผู้กำกับเอง ด้วยกลุ่มนักแสดงชื่อดังที่จะมาประชันบทบาทกันมากมายทั้ง กู่เทียนเล่อ, หยังเชี่ยนหัว, เหลียงหย่งฉี, อู๋เจียลี่, เจิ้งจื่อเหว่ย และ อู๋ม่งต๊ะ ใช้เวลาการถ่ายทำถึง 8 เดือน และมีกำหนดฉายในเดือน พ.ค. ที่จะถึงนี้

       Aberdeen จะว่าด้วยชีวิตของสองพี่น้อง ถังไป่จื่อ (หยังเชี่ยนหัว) และ ทังเหว่ยถู (กู่เทียนเล่อ) ที่มีปัญหาชีวิตต่างกันไป โดยพี่สาวต้องใช้ชีวิตอย่างเจ็บปวด จากความสัมพันธ์อันระหองระแหงกับแม่ของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่เธอเคยทำให้แม่ต้องเจ็บปวด และช้ำใจอย่างหนัก แม้ท่านจะจากไปแล้ว แต่ ถังไป่จื่อ ก็กลับไม่สามารถทำใจกับเรื่องที่เคยเกิดขึ้นได้ และเก็บทุกอย่างเอาไว้ในใจเสมอมา ส่วนน้องชายที่เหมือนมีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์แบบกับภรรยาแสนสวย แต่ลึกๆแล้วเขากลับไม่แน่ใจว่าลูกสาวของตัวเอง จะเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเองจริงๆรึเปล่า
       

       "เจิงข่ายซวน" (Alice Tseng) นักแสดงสาวสวยที่เคยปรากฏตัวในหนัง Secret ของ "เจย์ โจว์" (Jay Chou) ประกาศข่าวดีว่าเธอได้ตั้งท้องลูกคนแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากแต่งงานไปเมื่อ 2 เดือนก่อน
       
       แม้จะไม่ได้เป็นนางเอกในหนัง Secret ที่ เจย์ โจว์ แสดงนำและกำกับเมื่อ 4 ปีก่อน แต่ความสวยหวานของสาว เจิงข่ายซวน ที่รับบทตัวรองในหนังเรื่องนั้นก็สร้างความประทับใจให้กับหนุ่มๆ ที่ได้ดูหนังกันไปทุกคน ซึ่งล่าสุดดาราสาววัย 29 ปี เปิดเผยว่าเธอได้ตั้งครรภ์ลูกคนแรกแล้ว หลังจากแต่งงานไปเมื่อปลายปีก่อน
       
       ข่าวระบุว่าดาราสาวชาวไต้หวันวัย 29 ปี เพิ่งจะแต่งงานกับนักธุรกิจวัย 46 ปี โจเซฟ เฉิน ไปเมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว หลังจากคบหาดูใจกันมานานพอสมควร และตอนนี้เธอตั้งท้องได้ 6 เดือนแล้ว ซึ่งในการประกาศข่าวดีครั้งนี้สาว เจิงข่ายซวน ยังโพสต์ภาพท้องของเธอให้ทุกคนได้ดูกัน พร้อมเขียนข้อความสั้นๆ เอาไว้ว่า "มีลูกอยู่ในนี้ค่ะ"
       
       เจิงข่ายซวน หรือ อลิซ เจิง เข้าวงการบันเทิงมาในฐานะนางแบบ ก่อนจะแจ้งเกิดในฐานะนักแสดงจากหนังโรแมนติกเรื่อง Secret ของ เจย์ โจว์ ที่เธอฉายแววความโดดเด่นถึงขั้นได้รับการเสนอชื่อให้ชิงรางวัลม้าทองคำ สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมเลยทีเดียว โดย เจิงข่ายซวน เผยว่าเธอคงจะหยุดรับงานทั้งหมดเพื่อเตรียมตัวทำหน้าที่แม่ และกำลังคิดว่าอาจจะเดินทางไปคลอดลูกที่ต่างประเทศด้วย

Manager Online

       นักแสดงสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ "ซุนลี่" (Sun Li) ประกาศว่าเธอได้ตั้งท้องลูกคนที่ 2 แล้ว จนเกิดคำถามขึ้นทันทีว่าเธอกำลังจะละเมิดนโยบาย "ลูกคนเดียว" ของรัฐบาลจีน จนต้องโดนปรับเงินแบบเดียวกับที่ผู้กำกับดัง "จางอี้โหมว" (Zhang Yimou) โดนมาแล้วหรือไม่
       
       ซุนลี่ ประกาศข่าวดีว่าเธอและสามี เติ้งเชา (Deng Chao) กำลังจะมีลูกคนที่ 2 แล้ว โดยนักแสดงสาววัย 31 ปี บอกข่าวดีให้กับแฟนๆ รับรู้กันผ่านบล็อคส่วนตัวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังก่อนหน้านี้มีข่าวลือเรื่องการตั้งท้องลูกคนที่ 2 ของ ซุนลี่ มาตั้งแต่เดือน ต.ค. แล้ว แต่เธอก็ปฏิเสธข่าวมาตลอด และยังพิสูจน์ว่าข่าวลือเรื่องที่ว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ด้วยการสวมรองดท้าส้นสูงไปร่วมงานอีเวนต์งานหนึ่งด้วย
       
       แต่ล่าสุด ซุนลี่ ได้โพสต์ภาพที่เธอและลูกชายเดินกันอยู่ด้วยกันบนชายหาด และยังมีภาพที่เผยให้เห็นท้องอ่อนๆ ของเธอที่น่าจะมีอายุครรภ์ 5 เดือนแล้วด้วย พร้อมกับเขียนข้อความว่าครอบครัวของเธอกำลังจะมีสมาชิกคนที่ 4 แล้ว
       
       ในเวลาเดียวกับข่าวการตั้งท้องลูกคนที่สองของคู่รักดาราชื่อดังแห่งวงการบันเทิงจีนคู่นี้ยังทำให้เกิดคำถามขึ้นมาด้วย ว่าพวกเขากำลังฝ่าฝืนกฏเหล็กสำคัญของรัฐบาลจีนเรื่องนโยบาย "ลูกคนเดียว" อยู่รึเปล่า
       
       นโยบายลูกคนเดียวของรัฐบาลจีน เริ่มบังคับใช้ในปี 1979 โดยมีวัตถุประสงค์ในการป้องกันปัญหาประชากรล้นประเทศ โดยนโยบายจะอนุญาตให้ประชากรในเขตเมืองมีลูกได้เพียงคนเดียว ส่วนประชากรในเขตชนบทจะมีลูกได้ 2 คน หากลูกคนแรกเป็นลูกผู้หญิง ส่วนผู้ฝ่าฝืนจะถูกปรับเป็นจำนวนเงินตามระดับรายได้สุทธิ
       

สื่อฮ่องกงพบอดีตนักแสดงหนังเกรด 3 "เจิ้งเยี่ยนหลี่" (Julia Cheng Yim-Lai / 鄭艷麗) วัย 42 ปี ผันตัวประกอบอาชีพนักงานประจำร้าน "แมคโดนัลด์" (McDonald's) พร้อมข่าวที่ว่าเธอหมดเนื้อหมดตัวจากการทำธุรกิจล้มเหลว ขณะที่ชาวเน็ตฮ่องกงต่างยกย่องดาราสาวดิ้นรนหาเลี้ยงชีพโดยไม่แบมือขอใคร
       
       ครั้งหนึ่ง เจิ้งเยี่ยนหลี่ ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในดาวเด่นของวงการหนังเกรด 3 (ภาพยนตร์แนววาบหวิวของฮ่องกง) ที่มีผลงานให้เห็นกันมากมายเมื่อต้นยุค 90s ด้วยการมีผลงานในหนังดังๆ หลายเรื่อง อาทิ Whore & Policewoman, Daughter of Darkness II, The Woman Behind และ Lover of the Last Empress เป็นต้น ก่อนจะหายหน้าหายตาไปหลายปีก่อนจะกลับมามีผลงานในบทสมทบเล็กๆ อยู่ในหนัง 2 - 3 เรื่องเมื่อ 3 ปีก่อน
       
       จนกระทั่งล่าสุดสื่อดังนิตยสาร Next ได้พบ เจิ้งเยี่ยนหลี่ อีกครั้ง โดยในวัย 42 ปี อดีตนักแสดงสุดเซ็กซีได้ผันตัวไปทำงานเป็นพนักงานในร้านขายอาหารฟาสต์ฟู๊ตแบรนด์ดัง แมคโดนัลด์ ที่ได้ค่าจ้างอยู่ที่ 32 เหรียญฮ่องกง ต่อชั่วโมง และมีรายได้ต่อเดือนจากอาชีพพนักงานฟาสต์ฟู๊ตอยู่ที่ 10,000 เหรียญฯ
       
       ตามข้อมูลในข่าว เจิ้งเยี่ยนหลี่ จะทำงานในกะกลางคืน และเลิกงานประมาณ 7 โมงเช้า โดยในตอนแรกมีคนเห็นเธอใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนมมาทำงานด้วย แต่ระยะหลังอดีตดาราดาวสาวผู้ร้อนแรงก็ดูจะสนใจเรื่องการแต่งเนื้อแต่งตัวน้อยลงไปมาก และบางครั้งก็กลับบ้านในชุดพนักงานโดยไม่สนใจจะเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยซ้ำ
       

       เทศกาลภาพยนตร์เมืองเบอร์ลินได้รูดม่านเปิดฉากขึ้นแล้ว และในปีนี้มีคนบันเทิงฮ่องกงหลายคนได้มีส่วนร่วม ทั้งในฐานะตัวแทนหนังที่ได้เข้าฉายโชว์ ส่วน “เหลียงเฉาเหว่ย” (Tony Leung) ที่ไม่ได้มีผลงานใหม่ มาเบอร์ลินเพื่อดูหนังในบทบาทกรรมการที่ทำหน้าที่ตัดสินมอบรางวัลให้กับหนัง
       
       That Demon Within ของ Emperor Motion Picture โดยผู้กำกับ ดังเต้ แลม และ The Midnight After ของ ฟรุ๊ต ชาน คือหนังสองเรื่องจากวงการบันเทิงฮ่องกงที่ได้เข้าฉายในเทศกาลหนังเมืองเบอร์ลินปีนี้ ในส่วนของสาย Panorama ที่เปิดโอกาสให้หนังอิสระและหนังแนวอาร์ตเฮาส์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ “เรื่องราวอันน่าถกเถียง หรือเล่าเรื่องด้วยวิธีที่ผิดแปลกไปจากงานภาพยนตร์ดั้งเดิม” ที่มีความโดดเด่นได้ร่วมฉายโชว์
       
       โดย That Demon Within มี จางเจียฮุย หนึ่งในนักแสดงนำมาร่วมงานด้วย เป็นหนังแนวตำรวจจับผู้ร้ายที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับไสยศาสตร์จีนโบราณ ส่วน The Midnight After ที่นักแสดงยกขบวนกันมาร่วมเทศกาลภาพยนตร์ครั้งนี้ทั้ง ฮุ่ยอิงหง, หมั่นหย่งซาน, หวังเย้าหนาน และ สวีเทียนเหยา เป็นงานที่ดัดแปลงมาจากนิยายออนไลน์ ว่าด้วยคนแปลกหน้า 17 คนที่ขึ้นรถเมล์คันเดียวกันไป จนก่อนพบว่าพวกเขาข้ามมาอยู่ในจักรวาลคู่ขนานของโลก ที่ทุกอย่างดูเหมือนจะปกติดี แต่ไม่มีมนุษย์คนใดๆ หลงเหลืออยู่เลย นอกจากพวกเขาทั้ง 17 คนเท่านั้น
       

      สมาชิกวง Twin และแฟนหนุ่มเผยภาพส่วนตัวระหว่างทั้งคู่ควงกันไปพักผ่อนที่ชายทะเลแห่งหนึ่งให้แฟนๆ ได้ชมกันผ่านเว็บไซต์ส่วนตัว ซึ่งแม้จะไม่ได้บอกเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับการท่องเที่ยวครั้งนี้มากนัก แต่แฟนๆของเธอเห็นภาพแล้วก็ทราบทันทีว่ าทั้งคู่มาเที่ยวเมืองไทย ประเทศสุดฮิตของคนจีนในยุคนี้แน่นอน
       
       อาซา (Ah Sa) หรือ ไช่จั๋วเอี๋ยน และแฟนหนุ่ม วิลเลียม เฉิน (William Chan) ที่คบหาดูใจกันมา 3 ปี เพิ่งจะมีโอกาสไปพักร้อนกันในช่วงวันหยุดปีใหม่ที่ผ่านมา โดยศิลปินสาววัย 31 ปี และแฟนหนุ่มต่างโพสต์ภาพระหว่างการใช้เวลาส่วนตัวครั้งนี้ให้แฟนๆได้ชมกันผ่านเว็บไซต์ส่วนตัว ทั้งภาพโชว์หุ่นของฝ่ายชาย และภาพฝ่ายหญิงในชุดว่ายน้ำ อย่างไรก็ตามทั้งคู่ก็ยังอุบรายละเอียดไม่ได้บอกว่าพวกเขาไปเที่ยวที่ไหนมากันแน่
       
       อย่างไรก็ตามหลังแฟนๆ ของเธอได้เห็นภาพกัน ก็ดูเหมือนทุกคนจะทราบกันทันทีว่า อาซา กับแฟนหนุ่มเดินทางมาเที่ยวในแถบเมืองท่องเที่ยวชายหาดของประเทศไทย
       
       อาซา คบหาดูใจกับ วิลเลียม เฉิน ดารา/นักร้องอดีตสมาชิกวง Sun Boy'z ที่อายุน้อยกว่าเธอ 3 ปี มาตั้งแต่ปี 2010 แล้ว ซึ่งที่ผ่านมานักร้องสาวแห่งวง Twin ดูจะพยายามเก็บเรื่องของความรักเอาไว้ให้เป็นเรื่องส่วนตัวมาตลอด โดยเฉพาะเมื่อครั้งที่เธอแต่งงานกับ เจิ้งจงจีน (Ronald Cheng) นั้น ทั้งสองไม่เคยเปิดเผยเรื่องนี้ให้กับสาธารณะชนทราบเลย กว่าที่สื่อและชาวฮ่องกงจะรู้เรื่องก็คือวันที่ทั้งคู่หย่ากันนั่นเอง

Manager Online

       “วิเวียน ชู” (Vivian Hsu) นักแสดงสาวเซ็กซี่ชาวไต้หวัน ที่หมั้นหมายกับ “ฌอน ลี” แฟนหนุ่มไปเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ได้ควงกันเข้าพิธีแต่งงานเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเกิดขึ้นก่อนกำหนดการจริงที่คาดว่าจะจัดขึ้นในเดือน มิ.ย. ด้วย
       
       ตามรายงานระบุว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา วิเวียน นักแสดงดังวัย 38 ปี ได้โชว์แหวนเพชรเม็ดโตซึ่งเรียกความสนใจจากบรรดาชาวเน็ตได้เป็นอย่างมาก ก่อนจะตามมาด้วยข่าวลือที่ว่าเธอเข้าพิธีแต่งงานไปแล้วเมื่อวานนี้
       
       โดยพิธีแต่งงานแบบส่วนตัวจัดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นงานที่มีเพียงเพื่อนสนิทของทั้งคู่และครอบครัวของทั้งสองฝ่ายเท่านั้น อย่างไรก็ตามเพื่อนในวงการที่สนิทๆก็มาร่วมแสดงความยินดีด้วยเช่นกันไม่ว่าจะเป็น หลินซินหยู (Ruby Lin) นางเอกสาวชื่อดัง รวมถึง เยิ่นต๊ะหัว (Simon Yam) ที่ควงคู่มากับ โซเฟีย เกา ภรรยานางแบบอินเตอร์
       
       ตามรายงานระบุด้วยว่า เยิ่นต๊ะหัว ได้ยืนยันว่าเขาไปร่วมงานแต่งงานจริง โดยระบุว่าวิเวียนต้องการจัดพิธีแบบส่วนตัวไม่อยากเปิดเผยต่อสื่อแต่อย่างใด
       
       ด้าน ฌอน ลี สามีวัย 36 ปีของวิเวียน ซีอีโอหนุ่มของกลุ่มขนส่งทางน้ำเลื่องชื่อ Marco Polo Marine ได้คบหากับวิเวียนมาตั้งแต่เดือนเม.ย. ปีที่แล้ว โดยเขาเป็นผู้ลงทุนทำหนังโรแมนติก-คอมเมดีเรื่อง Sex Agogo ซึ่งมีวิเวียนนำแสดง ทำให้ทั้งคู่ได้เริ่มสานสัมพันธ์กันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หลังจากเดตกันได้ 7 เดือน ก็มีคนเห็นทั้งคู่ควงกันไปดูชัดแต่งงานที่ร้าน Vera Wang ในไต้หวัน เมื่อเดือน พ.ย. จนเกิดเป็นข่าวตามมาว่าทั้งคู่จะสละโสดกันแล้ว
       

       คู่รักอันดับ 1 แห่งวงการบันเทิงสิงคโปร์เตรียมเป็นคุณพ่อคุณแม่แล้ว โดยรายงานข่าวท้องถิ่นยืนยันว่าดาราสาววัย 43 ปี "ฟั่นเหวินฟาง" (Fan Wen Fang / 范文芳) ได้ตั้งท้องลูกคนแรกที่เป็นทายาทของเธอกับสามี "หลีหมิงซุ่น" (Christopher Lee) แล้ว
       
       ว่าที่คุณพ่อ หลีหมิงซุ่น วัย 42 ปี เป็นผู้ยืนยันข่าวดังกล่าวกับนักข่าวในไต้หวันด้วยตัวเอง โดยเขายังขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงมาโดยตลอด และคิดว่าปีนี้คงจะเป็นปีที่ดีแน่ๆ เพราะเขากำลังจะได้เป็นพ่อคนแล้ว ส่วนว่าที่คุณแม่ ฟั่นเหวินฟาง ก็เขียนข้อความขอบคุณกำลังใจของแฟนๆ ผ่านทาง Instagram ว่า "ใช่ค่ะเรากำลังจะมีลูกแล้ว รอไม่ไหวแล้วที่จะได้เห็นหน้าลูก ... ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ หวังว่าลูกจะคลอดอย่างปลอดภัย และมีสุขภาพดีอย่างที่ทุกคนอวยพรกัน" ซึ่งข่าวระบุว่าเธอน่าจะตั้งท้องได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว
       
       ฟั่นเหวินฟาง ที่เข้าวงการบันเทิงมาตั้งแต่ปี 1993 มีทั้งงานเพลงและงานแสดงมากมาย ทั้งที่บ้านเกิด, ฮ่องกง และไต้หวัน จนน่าจะเรียกได้ว่าเป็นดาราที่ดังที่สุดคนหนึ่งของสิงคโปร์ในยุคปัจจุบัน นอกจากนั้นเธอยังเคยมีผลงานในหนังฮอลลีวูดเรื่อง Shanghai Knights มาแล้ว
       
       อย่างไรก็ตามบทบาทที่ทำให้เธอเป็นที่จดจำได้มากที่สุดก็คือการสวมบท เซียวเหล่งนึ่ง ในซีรีส์มังกรหยก 2 ฉบับปี 1996 หรือเมื่อ 18 ปีก่อนที่มี หลีหมิงซุ่น รับบทเป็น เอี้ยก๊วย ก่อนที่ทั้งสองคนจะคบหาดูใจกันในอีก 6 ปีหลังจากนั้น และแต่งงานกันไปเมื่อปี 2009 ที่ผ่านมา โดยทั้งสองยังมีผลงานร่วมกันอีกหลายเรื่อง ทั้งซีรีส์ นางพญางูขาว และภาพยนตร์เรื่อง The Wedding Game

Manager Online

       "อู๋หม่า" (Wu Ma) นักแสดงรุ่นใหญ่ที่มีผลงานมากมายในหนังฮ่องกงยุค 1980s โดยเฉพาะบทนักพรตปราบปีศาจในหนังคลาสสิค "โปเยโปโลเย" ได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัย 71 ปี จากสาเหตุโรคมะเร็งปอด
       
       ข่าวระบุว่า อู๋หม่า ต้องเข้ารับการรักษามะเร็งปอดมาถึง 10 เดือน หลังจากเซลมะเร็งเริ่มลุกลาม โดยเขาได้กลับไปรักษาตัวอยู่ที่บ้านมาหลายเดือน ก่อนจะเสียชีวิตลงเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 4 ก.พ.
       
       อู๋หม่า เกิดที่หงหยวน ในเทียนจิน ประเทศจีน และเคยทำงานเป็นช่างซ่อมเครื่องยนต์ ก่อนจะเริ่มต้นอาชีพในวงการภาพยนตร์หลังอพยพมาอยู่ฮ่องกง ด้วยการเป็นนักแสดงตัวประกอบของบริษัทชอว์บราเดอร์ ก่อนจะเริ่มทำงานเบื้องหลังกับการเป็นผู้กำกับในยุค 1980s และมีงานออกมาหลายเรื่อง
       
       โดยเขาเล่าว่าอาชีพในสายงานเบื้องหลังของตัวเอง ถือว่าเริ่มต้นด้วยความบังเอิญอย่างแท้จริง เพราะเขามีโอกาสร่วมเดินทางไปถ่ายทำหนังที่ญี่ปุ่นกับ จางเชอะ ในฐานะตัวประกอบคนหนึ่งของหนัง แต่ผู้ช่วยกำกับของหนังเรื่องนั้น กลับไม่สามารถเดินทางไปกับกองถ่ายได้ เพราะวีซ่าไม่ผ่าน จางเชอะ จึงมอบหมายให้เขา ที่เคยมีประสบการณ์การทำงานในกองถ่ายหนังมานาน รับตำแหน่งผู้ช่วยผู้กำกับไปแทน
       

      The Monkey King ที่มี “เจินจื่อตัน” (Donnie Yen) และนักแสดงชื่อดังชาวจีนประชันบทบาทมากมาย ไม่เพียงเป็นหนังทำเงินอันดับ 1 ในจีนเท่านั้น แต่ยังได้ชื่อว่าเป็นหนังทำเงินอันดับ 1 ของโลกในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเลยทีเดียว
       
       โดยหนังแฟนตาซีที่เต็มไปด้วยเทคนิคพิเศษ The Monkey King ที่ว่ากันว่าใช้ทุนสร้างถึง 400 ล้านหยวน สามารถทำเงินในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาไปถึง 46 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (1,515 ล้านบาท) โดยส่วนใหญ่เป็นรายได้จากการฉายในจีนแผ่นดินใหญ่ที่ตรงกับช่วยเทศกาลตรุษจีนพอดี ซึ่งทาง The Hollywood Reporter ยังรายงานว่าถึงตอนนี้หนังน่าจะทำเงินไปเกิน 54 ล้านเหรียญฯ แล้ว ซึ่งก็ต้องลุ้นกันต่อไปว่าหนังจะสามารถทำรายได้แซงหน้า Journey to the West: Conquering the Demons หนังไซอิ๋วของ โจวซิงฉือ (Stephen Chow) ที่ทำเงินถล่มทลายตรุษจีนปีก่อน จนกวาดรายได้รวมไปถึง 208 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือไม่
       
       สำหรับหนังที่ทำเงินสูงที่สุดในโลกเป็นอันดับ 2 ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ยังเป็นหนังจีนอย่าง Where Are We Going, Dad? ที่เป็นการหยิบเรียลลิตี้โชว์สุดฮิตของชาวจีน (ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาจากเกาหลีอีกต่อหนึ่ง) มาขึ้นจอใหญ่ และประสบความสำเร็จอย่างงดงามด้วยการกวาดรายได้ 34 ล้านเหรียญฯ
       
       ส่วนอันดับ 3 เป็นหนังการ์ตูนจากค่ายดิสนีย์ Frozen ที่กวาดเงินทั่วโลกเพิ่มไปอีก 33 ล้านเหรียญฯ (รายได้รวม 864 ล้านเหรียญฯ) และอันดับ 4 ได้แก่ The Wolf of Wall Street ที่กวาดเงินเพิ่มไป 29.6 ล้านเหรียญฯ (รายได้รวม 226 ล้านเหรียญฯ)

Manager Online

ท่ามกลางหนังตลกต้อนรับตรุษจีนที่เข้าฉายพร้อมกันหลายเรื่อง สุดท้าย ในฮ่องกงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สุดท้าย Golden Chicken SSS หรือ "นางสาวกำไก่ ภาค 3" คือหนังที่สามารถทำเงินครองแชมป์เป็นอันดับ 1 ด้วยการเปิดตัวเก็บรายได้ไปถึง 1.7 ล้านเหรียญฮ่องกง ในการฉายวันแรก
       
       Golden Chicken SSS ที่ อู๋เจิ้นหยู ทั้งอำนวยการสร้าง และแสดงนำเป็น "อากั๋ม" โสเภณีสาวใหญ่ ในหนังที่บอกเล่าเรื่องราวร่วมสมัยของฮ่องกง ซึ่งนอกจากดาราตลกหญิงคนดังแล้วหนังก็ระดมดารามาเป็นแขกรับเชิญคับคั้ง อาทิ เจินจื่อตัน, หลิวเต๋อหัว, จางเจียฮุย รวมถึงไปหนุ่มผู้อื้อฉาว เฉินกว้านซี ที่คืนวงการหนังฮ่องกงครั้งแรกในรอบหลายปี สามารถทำรายได้ในการเปิดตัวเมื่อวันที่ 30 ม.ค. ไปได้ถึง 1,723,634 เหรียญฮ่องกง (7.2 ล้านบาท) นับเป็นหนังที่ทำรายได้มาเป็นอันดับ 1 เหนือหนังฟอร์มยักษ์ทุกเรื่อง แม้หนังภาคนี้จะฉายห่างจากภาคก่อนที่เข้าฉายในปี 2002 - 2003 มากกว่า 10 ปีก็ตาม
       
       สำหรับอันดับ 2 เป็นหนังตลกของ เรย์มอน หว่อง เรื่อง Hello Babies ที่ทำเงินไป 1,666,153 เหรียญฮ่องกง (6.8 ล้านบาท) ในวันแรก โดยหนังเรื่องนี้ก็มี อู๋เจินหยู ร่วมแสดงนำเช่นเดียวกัน
       
       สำหรับหนังแฟนตาซีฟอร์มใหญ่ The Monkey King ที่มี เจินจื่อตัน, โจวเหวินฟะ และ กัวฟู่เฉิง ตามมาเป็นอันดับ 3 ด้วยรายได้ 1,491,073 เหรียญฯ (6.3 ล้านบาท) ส่วน From Vegas to Macau หนังพนันของ หวังจิง ที่ได้ โจวเหวินฟะ กับ เซียะถิงฟง ประชันบทบาทกันทำรายได้ไป 1,349,128 เหรียญฮ่องกง (5.6 ล้านบาท)
       

ลือกันสนั่นทีเดียวว่าซูเปอร์สตาร์ฮ่องกง “หลิวเต๋อหัว” (Andy Lau) ได้รับการทาบทามมานั่งแท่นผู้ตัดสินและโค้ชให้กับรายการ The Voice ของ จีน โดยไดรับการเสนอเงินให้มากถึง 165 ล้านบาทเลยทีเดียว
       
       China News ได้รายงานว่า บริษัทผลิตรายการเรียลลิตีร้องเพลงชื่อดังได้เสนอให้ หลิวเต๋อหัว มารับหน้าที่โค้ชแทน ฮาร์เลม หยู (Harlem Yu) หลังจากที่เขาตัดสินใจออกจากรายการหลังรับหน้าที่ผู้ตัดสินและโค้ชของรายการมาได้ 2 ปี
       
       ในส่วนของตัวเลขค่าตัวที่ถูกเสนอไปนั้น มีรายงานว่าเป็นค่าตัวที่สูงที่สุดในบรรดาผู้ตัดสินและโค้ชของรายการทั้งหมดทั้งจากจีนแผ่นดินใหญ่, ฮ่องกง และ ไต้หวัน
       
       เมื่อถูกถามถึงข่าวลือเรื่องการร่วมงานกับหลิวเต๋อหัว ทาง ลู่เหว่ย ผู้กำกับรายการได้ยอมรับว่าได้มีการตัดสินใจว่าอยากได้หลิวเต๋อหัวมาร่วมรายการ แต่ทางทีมงานก็ได้ติดต่อคนอื่นไว้ด้วยเหมือนกันอย่าง เฉินอี้ซิ่น และ จางเสวียโหย่ว
       
       “เราไม่สามารถยืนยันได้ว่าใครจะสามารถมาร่วมรายการนี้ได้ เราเลยต้องหาตัวเลือกอื่นที่น่าจะเป็นไปได้เพิ่มด้วย” โดยผู้กำกับรายการยังยืนยันด้วยว่ามีการพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อตกลงกับหลิวเต๋อหัวบ้างแล้ว เพียงแต่ทางฝ่ายหลิวเต๋อหัวยังไม่ได้ให้คำตอบที่แน่ชัดเท่านั้น
       
       อย่างไรก็ตาม ทางผู้กำกับยังได้ปฏิเสธข่าวลือที่ว่า หลิวเต๋อหัวได้รับการเสนอเงินสูงถึง 165 ล้านบาทเพื่อร่วมรายการดังกล่าวด้วย
       

      “หวังลี่หง” (Wang Lee Hom) นักร้อง-นักแสดงชื่อดังชาวไต้หวันที่ซุ่มเงียบแต่งงานไปกับสาวนอกวงการ”หลี่จิงเล่ย”ไปได้ไม่นาน จนโดนข้อหาว่าแอ๊บแต่งเมียบังหน้ากลบกระแสข่าวเป็นเกย์ ล่าสุดเจ้าตัวควงออกงานแถมจุ๊บโชว์สื่อด้วย
       
       หวังลี่หง และ หลี่จิงเล่ย ปรากฏตัวออกสื่ออย่างเป็นทางการร่วมกันครั้งแรกเมื่อวานนี้ โดยรายงานระบุว่า เดิมทีคู่รักคู่นี้ได้สั่งขนมสำหรับงานแต่งงานจากร้านเบเกอรีฝรั่งเศสร้านหนึ่งไว้ แต่รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก เมื่อร้านดังกล่าวนำภาพถ่ายของพวกเขาไปใช้ในการโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่เนื่องจากไม่สามารถยกเลิกออเดอร์ที่เขาได้สั่งไปแล้วได้ หวังลี่หงจึงแก้ปัญหาเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส นำขนมกว่า 270 กล่องบริจาคให้กับโรงเรียนอนุบาลเสียเลย
       
       โดยเมื่อวานนี้ทั้งคู่ได้แสดงความใกล้ชิดและความรักต่อกัน โดยการป้อนคุกกี้และขนมให้กันและกันอย่างสุดสวีต นอกจากนั้นหวังลี่หงยังกอดและจูบแก้มภรรยาต่อหน้าสื่อด้วย
       
       หลังปรากฏตัวร่วมกันอย่างเป็นทางการครั้งแรก สื่อจึงได้ซักถามหลี่จิงเล่ยว่า เธอเคยเป็นแฟนคลับของหวังลี่หงด้วยหรือไม่ เจ้าตัวอึกอักเล็กน้อยก่อนตอบอายๆ “ไม่ค่ะ” สร้างความผิดหวังให้กับฝ่ายชายเป็นอย่างมาก ทำเอานักร้องดังถึงขั้นพูดออกมาว่า “คุณไม่ได้เป็นแฟนคลับผมเหรอ? เจ็บจัง!” หลี่จิงเล่ย ต้องรีบเอาใจสามีทันทีโดยตอบกลับว่า “ค่ะๆๆ ฉันเป็นแฟนคุณค่ะ”
       
       หลี่จิงเล่ย ได้ยอมรับด้วยว่าเธอตกหลุมรักหวังลี่หงตรงความใจดีและการใส่ใจดูแลผู้อื่นของเขา “เขาเป็นคนใจดีค่ะ ใส่ใจ เป็นห่วงเป็นใย โรแมนติก และยังช่วยทำงานบ้านทุกอย่างเลยค่ะ”
       

       "เจินจื่อตัน" (Donnie Yen) นักแสดงบู๊ชื่อดังที่ควบ 2 ตำแหน่งทั้งนักแสดงนำ และ ผกก.คิวบู๊ เนรมิตรภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์สุดอลังการแห่งปี "The Monkey King 3D" ประกาศกร้าวยกพวกบุกชัทดาวน์โรงหนังทั่วกรุงเทพ 27 ก.พ.นี้ พร้อมเผยส่วนที่โหดสุดของการถ่ายทำไม่ใช่การเล่นฉากบู๊แต่เป็นการแต่งเอฟเฟ็กต์หงอคง
       
       ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ยิ่งใหญ่แห่งปีใน "The Monkey King 3D"หรือชื่อภาษาไทยว่า "ไซอิ๋ว 3D ตอนกำเนิดราชาวานร" ภาพยนตร์แอ็คชั่นสุดอลังการที่ทุ่มทุนสร้างกว่า 200 ล้านบาทและยังคว้าตัวทีมงานผู้สร้างภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Avatar (อวตาร) และภาพยนตร์เรื่อง 300 มาร่วมเนรมิตรฉากบู๊สุดอลังการ
       
       นำแสดงโดยสุดยอดนักแสดงแถวหน้าชื่อดัง อาทิ เจินจื่อตัน ที่งานนี้เจ้าตัวควบ 2 ตำแหน่งทั้งนักแสดงนำและผู้กำกับคิวบู๊ ร่วมด้วย กัวฟู่เฉิน (Aaron Kwok), โจวเหวินฟะ (Chow Yun Fat), เหอยุ่นตง (Peter Ho), เซียะถิงฟง (Nicholas Tse), เฉินฮุ่ยหลิน (Kelly Chen), เฉินเฉียวเอิน (Joe Chen), ไอรีน หวัง ฯลฯ จากผลงานการกำกับของเจิ้งป๋อไช่
       
       เจินจื่อตัน ซึ่งรับบท ซุนหงอคง นักแสดงนำของเรื่องและยังควบตำแหน่งผู้กำกับคิวบู๊เล่าถึงบรรยากาศการถ่ายทำภาพยนตร์สุดอลังการ The Monkey King 3D นี้ว่า
       

สิ้นสุดการรอยคอยสำหรับเจ้าภาพ "มิสไชนิสอินเตอร์เนชั่นแนล" (The 2014 Miss Chinese International) เมื่อ "มิสฮ่องกง" คนล่าสุด "เกรซ เฉิน" (Grace Chan / 陳凱琳) สามารถคว้ามงกุฏในการประกวดค้นหาสาวจีนที่สวยที่สุดประจำปี 2014 มาได้ นับเป็นตัวแทนฮ่องกงคนแรกในรอบ 10 ปีที่ประสบความสำเร็จบนเวทีนี้เลยทีเดียว

       ในที่สุด เกรซ เฉิน สาวงามหมายเลข 5 ตัวแทนเกาะฮ่องกงก็สามารถคว้ามงกุฏมิสไชนิสอินเตอร์เนชั่นแนลมาครองได้สำเร็จ ในการประกวดค้นหาสาวจีนที่สวยโดดเด่นประจำปี 2014 ที่ TVB เป็นผู้จัดขึ้นเมื่อค่ำคืนที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา โดย ซินดี ฉง (Cindy Zhong / 鍾熠)
จาก แวนคูเวอร์ เป็นรองอันดับ 1, ลูเซีย ลอริเกียโน (Lucia Lorigiano / 黃婷麗) ตัวแทนของ มอนทรีออล เป็นรองอันดับ 2 และ แมนดี เจิ้ง (Mandi Cheung / 張佩雯) สาวสิงคโปร์ เป็นนางงามมิตรภาพ
       
       แม้จะไม่ได้มีรูปร่างทรวดทรงองค์เอวที่โดดเด่นแต่ เกรซ เฉิน วัย 22 ปี ก็อาศัยใบหน้าสวยหวาน และความมั่นใจขึ้นเวทีประกวด จนคว้ามงกุฏไปได้ ท่ามกลางเสียงเชียร์จากผู้ชมชาวฮ่องกง ที่ส่งเสียงสนับสนุนเธอตั้งแต่เริ่มต้นการประกวด ซึ่งเธอก็เก็บคะแนนสะสมได้สูงตั้งแต่รอบโชว์ความสามารถพิเศษ ที่เลือกการเป่าฟลุตมาโชว์บนเวที
       
       สำหรับช่วงตอบคำถาม เกรซ ก็ทำคะแนนได้จากการแสดงความเห็นว่าผู้ครองมงกุฎมิสอินเตอร์เนชั่นแนลไม่ควรจะมีคุณสมบัติด้านความงามภายนอก หรือสติปัญญาเท่านั้น แต่ควรมีจิตใจที่งดงามด้วย
       
       โดย เกรซ เฉิน ยังเป็นสาวงามชาวฮ่องกงคนแรกในรอบ 14 ปี ที่คว้ามงกุฎมิสไชนิสอินเตอร์เนชั่นแนลมาครองได้หลังจาก กัวเชี่ยนหนี (Sonija Kwok / 郭羨妮) เคยครองตำแหน่งนี้มาเมื่อปี 2000

      นางแบบสาวลูกครึ่งญี่ปุ่น-สวิสเซอร์แลนด์ที่ชื่อว่า "โชโกะ" (Shoko) ซึ่งมีข่าวว่าเป็นคนรักใหม่ของ "เจอร์รี (Jerry Yan) - F4" ได้ออกมาให้ข่าวถึงประเด็นความรักครั้งนี้เป็นครั้งแรก โดยยอมรับว่าตนเคยไปดินเนอร์กับดาราหนุ่มชื่อดังมาจริง แต่ความสัมพันธ์ในตอนนี้ยังถือว่าเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น
       
       โดยสื่อไต้หวันรายงานว่า เจอร์รี กับ โชโกะ ได้ทำความรู้จักกันผ่านการแนะนำของเพื่อนสนิทคนหนึ่ง และกำลังอยู่ระหว่างสานสัมพันธ์กันมาพักหนึ่ง ซึ่งน่าจะกินเวลามาประมาณเกือบปีแล้ว
       
       ซึ่งล่าสุดฝ่ายหญิงเพิ่งจะมีโอกาสได้ไปออกรายการวาไรตี้โชว์ KangXi Lai le ที่พิธีกรคือ เสี่ยวเอส และ เควิน ไช่ ได้ถามเธอถึงเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับหนุ่ม เจอร์รี ซึ่งสาว โชโกะ ที่ถึงกับมีอาการหน้าแดง หลังถูกถามถึงเรื่องนี้ ได้ยอมรับว่าเธอกับสมาชิกวง F4 เคยไปทานอาหารกันสองต่อสองจริง แต่ก็ไม่ได้พิเศษอะไรแบบที่ทุกคนคิด "เป็นสถานที่ปกติธรรมดา ไม่ได้พิเศษอะไรค่ะ" ซึ่งเมื่อพิธีกรถามเธอต่อไปว่าได้จูบบอกลาตอนที่ เจอร์รี พาไปส่งบ้านรึเปล่าสาวลูกครึ่งญี่ปุ่นก็ตอบแต่เพียงว่า "เราเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นค่ะ"
       
       ส่วนเมื่อพิธีกรถามว่าเธอรู้สึกเปล่าว่าหนุ่ม เจอร์รี ชอบกินอาหารประเภทไหน สาวโชโกะ บอกว่าเธอก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน "แต่ฉันชอบอาหารไต้หวันนะคะ เขากับฉันคงจะได้ไปกินด้วยกัน"
       

ถึงจะสวมบทโคตรเซียนพนันในหนังมาแล้วหลายเรื่อง แต่ยอดนักแสดงชาวฮ่องกง "โจวเหวินฟะ" (Chow Yun Fat) เปิดเผยว่าอันที่จริงแล้วเขาเกลียดการพนันชนิดเข้าไส้ เพราะมีประสบการณ์วัยเด็กเกี่ยวกับการเล่นพนันของพ่อที่ไม่ค่อยจะน่าจดจำนัก ถึงขั้นทำให้เมื่อโตขึ้นก็ไม่คิดจะเข้ากาสิโนไปเสี่ยงโชคแต่อย่างใด
       
       ระหว่างโปรโมตผลงานเรื่องใหม่ The Man from Macau ที่ โจวเหวินฟะ จะรับบทยอดนักพนันที่หันหลังให้กับวงการ ก่อนจะหวนคืนสู่โลกของบ่อนกาสิโนอีกครั้ง พร้อมรับเด็กหนุ่มสองคน (เซียะถิงฟง [Nicholas Tse] cกับ แชปแมน ตู้ [Chapman To]) เป็นศิษย์ พระเอกรุ่นใหญ่ได้เปิดเผยว่าชีวิตจริงของเขานั้น ไม่ได้มีอะไรใกล้เคียงกับการเป็น "โคตรเซียน" เลยแม้แต่นิดเดียว
       
       ในงานแถลงข่าวเปิดตัวหนังที่จัดขึ้นในฮ่องกงเมื่อวันที่ 21 ม.ค. โจวเหวินฟะ เล่าว่า ตัวจริงของเขานั้นไม่ได้ชื่นชอบการเล่นพนันเลย ความจริงแล้วเกลียดการเสี่ยงโชคในลักษณะนี้ด้วยซ้ำ เพราะทำให้ชีวิตวัยเด็กของเขาต้องพบกับความลำบากมาแล้ว
       
       โจวเหวินฟะ ที่เคยรับบทเป็น "โคตรเซียน" ยอดนักพนันผู้ลึกลับในหนังชุด God of Gamblers หรือ คนตัดคน กล่าวว่าอันที่จริงแล้วเขาเกลียดการพนัน เพราะครั้งหนึ่งพ่อที่มีอาชีพเป็นชาวประมง เคยเสียเงินค่าจ้างจากการทำงานให้กับการพนันไปทั้งหมด จนครอบครัวไม่เหลืออะไรเลย นอกจากน้ำมันถั่วเหลืองขวดเดียวเท่านั้น
       
       "ครั้งนั้นแม่ผมไปที่บริษัทของพ่อ เพื่อไปรับเงินเดือน แต่กลับมาพร้อมกับน้ำมันถั่วเหลืองขวดเดียว พอผมถาม แม่บอกว่าพ่อเสียพนันไปหมดแล้ว น้ำมันที่ได้มาเพื่อนของพ่อก็ให้มาเพราะกลัวเราจะไม่มีอะไรกินเท่านั้นเอง"
       

       ศาลไต้หวันสั่ง”หลิวเต๋อหัว” (Andy Lau) นักแสดงหนุ่มชื่อดังให้จ่ายเงินเป็นจำนวนกว่า 2.9 ล้านบาท เป็นค่าเสียหายหลังเฮลิคอปเตอร์ Daily Air พังขณะกำลังถ่ายหนัง
       
       คดียาวนานของหลิวเต๋อหัว สมัยถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Island of Greed เมื่อปี 1997 ได้ลากยาวมาถึงตอนนี้ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อหลิวเต๋อหัวได้เตะเหวี่ยงไปโดนคันบังคับในห้องนักบินขณะกำลังแสดงฉากพยายามหลบหนีออกจากเฮลิคอปเตอร์ ส่งผลให้เครื่องสั่นและใบพัดของเฮลิคอปเตอร์ไปโดนเข้ากับวัตถุบางอย่างได้รับความเสียหาย
       
       ซึ่งทางหลิวเต๋อหัวยืนยันว่า เป็นความผิดของนักบินที่ต้องทำหน้าที่ควบคุมเครื่องให้ได้ ขณะที่ทางฝ่ายนักบินเองได้ชี้แจงว่า เขาได้เตือนหลิวเต๋อหัวแล้วว่าอย่าโดนคันบังคับ แต่เขาก็ยังพลาดไปโดน ซึ่งศาลเล็งเห็นว่า ทางผู้กำกับเป็นฝ่ายขอให้นักบินผู้ควบคุมเฮลิคอปเตอร์ไม่ปรากฏตัวอยู่ในฉากดังกล่าว ทางฝั่งหลิวเต๋อหัวจึงไม่สามารถโทษว่าเป็นความผิดของนักบินได้เมื่อเขาไม่สามารถนั่งอยู่ในที่นั่งนักบินเพื่อทำหน้าที่ของตนเองได้ ในครั้งนั้นศาลจึงได้ตัดสินว่าเป็นความผิดพลาดของหลิวเต๋อหัวที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุและความเสียหายขึ้น
       
       โดยในปี 2008 ศาลแขวงได้ออกคำสั่งให้หลิวเต๋อหัวชดใช้เป็นเงิน 5.5 ล้านบาท ก่อนที่จะเพิ่มเป็นเงินถึง 7.26 ล้านบาทเมื่อศาลสูงเป็นผู้ตัดสิน
       
       หลังจากขึ้นศาลไต่สวนไปถึง 4 รอบ คณะลูกขุนก็ได้มีมติสุดท้ายร่วมกันถือเป็นที่สิ้นสุดว่าให้ หลิวเต๋อหัว ชดใช้ด้วยเงินเป็นจำนวน 2.9 ล้านบาท