ข่าวจีน

"เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) โต้ข่าวแยกทาง "จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung)

Submitted by canjamm on 31 พฤษภาคม, 2011 - 22:24

"เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) ได้ออกมาให้ข่าวยืนยันว่าเขาไม่ได้มีความคิดจะหย่าขาดกับ "จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) อย่างที่มีรายงานในสื่อฮ่องกง ภายหลังข่าวเรื่องชีวิตคู่ของทั้งสองกลายเป็นข่าวที่ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่อง นับจากมีรายงานการพบหน้าของฝ่ายหญิงกับอดีตคนรักอย่าง "เฉินกว้านซี" (Edison Chen)

"ผม เซียะถิงฟง ไม่เคยส่งเอกสารขอหย่ากับ จางป๋อจือ อย่างแน่นอน" นักแสดงหนุ่มชาวฮ่องกง ออกมาให้ข่าวผ่านแถลงการณ์เป็นครั้งแรก หลังเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับภรรยาคนสวยกลายเป็นข่าวซึ่งถูกนำเสนออย่างต่อเนื่องในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา "ซึ่งจากที่มีรายงานอันเป็นเท็จเกี่ยวกับตัวผมใน 'Apple Daily' (สื่อแนวแท็ปลอยด์ที่จำหน่ายในฮ่องกง และไต้หวัน) ผมจึงขอใช้สิทธิ์ที่จะดำเนินการทางกฏหมายกับเรื่องนี้ต่อไป"

ผลกระทบของข่าวการพบกันบนเครื่องบินระหว่าง จางป๋อจือ และ เฉินกว้านซี ดูจะลุกลามไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมีเสียงลือจากสื่อในฮ่องกงว่า เซียะถิงฟง อาจจะต้องการยุติความยุ่งยากเหล่านี้แล้ว ด้วยการขอหย่าจากภรรยาหลังจากครองรัก และผ่านอุปสรรคต่างๆ ด้วยกันมานาน แต่สุดท้ายเขาก็เป็นผู้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวด้วยตนเอง

ก่อนหน้านี้ จางป๋อจือ ทำให้เกิดข้อสงสัยเรื่องความสัมพันธ์กับสามีอีกครั้ง เมื่อเธอเบี้ยวนัดการแถลงข่าวเปิดกล้องภาพยนตร์เรื่อง Repeat I Love You เมื่อเร็วๆนี้ พร้อมกับมีข่าวลือว่าปัญหาส่วนตัวของ จางป๋อจือ ยังมีผลไปถึงกำหนดถ่ายทำของหนังเรื่องนี้ และอาจจะกระทบไปถึงตารางการทำงานของนักแสดงหนุ่มชาวเกาหลีใต้ ควอนซังวู (Kwon Sang Woo) ที่ร่วมแสดงในหนัง Repeat I Love You ด้วย

ซึ่งนักแสดงสาวชาวฮ่องกงยืนยันว่าเธอจะไม่สร้างปัญหาให้กับกองถ่าย หรือนักแสดงร่วมอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตามเธอยังปฏิเสธที่จะพูดถึงปัญหาความสัมพันธ์กับสามี ... จนกลายเป็นที่มาของข่าวลือที่ว่า เซียะถิงฟง เตรียมขอหย่า และจางป๋อจือเองก็ย้ายจากบ้านที่ทั้งสองอาศัยอยู่ร่วมกันไปแล้ว

ยังมีคนเห็น เทอร์เรนซ์ หยาง ประธานบริษัท Emperor Entertainment และผู้บริหารอีกคนเดินทางไปมาเลเซียเพื่อพูดคุยในเรื่องนี้กับ เซียะถิงฟง ด้วย

เรื่องฉาว “หวังจู่เสียน” (Joey Wong) : ตั้งท้อง, ทำแท้ง, ทิ้งลูก ?

Submitted by canjamm on 30 พฤษภาคม, 2011 - 16:41

ชื่อของอดีตนางเอกคนดังแห่งวงการภาพยนตร์ฮ่องกง "หวังจู่เสียน" (Joey Wong) ที่ถอนตัวจากวงการบันเทิงไปมากกว่า 10 ปี กลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง เมื่อมีรายงานจากสื่อแนวแท็ปลอยด์ฉบับหนึ่งในฮ่องกง ถึงลูกสาวที่เธอทอดทิ้งเอาไว้ถึง 17 ปีเต็ม

สื่ออย่าง Next Magazine อ้างแหล่งข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 17 ปีก่อน เมื่อมีหญิงคนหนึ่งเดินทางไปหาสูตินารีแพทย์ชื่อดังคนหนึ่งในกรุงไทเป หญิงคนดังกล่าวร้องขอให้หมอช่วยทำแท้งลูกในครรภ์วัย 7 เดือนให้กับเธอ ด้วยการชักนำให้เกิดการคลอดก่อนครบกำหนด แต่สุดท้ายเด็กสามารถรอดชีวิตมาได้ แต่หญิงคนดังกล่าวกลับปฏิเสธที่จะนำเด็กทารกเลือดเนื้อเชื้อไขตัวเองกลับไปด้วย

แหล่งข่าวเล่าถึงเหตุการณ์เมื่อปี 1994 อีกว่าเด็กทารกคนนั้นถูกขายให้กับ ฟุรุ่ยเจียว (Fu Rui-Jio) ผู้ลักลอบค้าเด็กทารกคนดังแห่งวงการอาชญากรรมไต้หวัน ที่ถูกส่งเข้าเรือนจำไปเมื่อหลายปีก่อน หลังเคยขายเด็กทารกกว่า 40 คน พร้อมเคยอ้างว่าเด็กทารกบางคนเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของนักแสดงสาวในวงการบันเทิงด้วย

ด้วยมือของ ฟุรุ่ยเจียว ต่อมาเด็กทารกถูกส่งต่อให้กับผู้หญิงแซ่ "ตู้" โดยเธอได้รับการบอกกล่าวจาก ฟุรุ่ยเจียว ว่าแม่ของเด็กเป็นดาราชื่อดังจากวงการบันเทิงฮ่องกง, เป็นโสด และเคยมีข่าวกับหลิวเต๋อหัว จนตู้ตามกลับไปว่า "เธอคือ หวังจู่เสียนเหรอ" ซึ่ง ฟุรุ่ยเจียว ก็ตอบว่า "ใช่แล้ว"

ซึ่งก่อนหน้านั้น ทารกน้อยยังเคยถูกขายให้กับ "ครอบครัวแซ่เยี่ย" ไปแล้ว แต่เด็กถูกนำมาส่งคืน หลังจากคู่สามีภรรยาพบว่า เด็กทารกน้อยคนนี้หูหนวก

โดยขณะนี้เด็กทารกน้อยได้เติบโตเป็นสาวน้อยวัย 17 ปี ที่มีชื่อว่า “เสี่ยวหยู” (Xiao Yu) และกำลังศึกษาในระดับมัธยมปลาย ซึ่ง ตู้ ที่เลี้ยงดูเธอขึ้นมายังนำรูปในช่วงวัยต่างๆมาเปรียบเทียบให้ผู้สื่อข่าวได้ชมกันด้วยว่า เธอมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับหวังจู่เสียนจึงรึเปล่า

เพื่อน, พ่อ ประสานเสียงออกโรงปฏิเสธ

Sex and Zen เตรียมบุกสหรัฐฯ !!

Submitted by canjamm on 26 พฤษภาคม, 2011 - 19:17

หนังอีโรติกสุดดังจากฮ่องกง กำลังจะได้เข้าไปฉายสร้างความฮือฮาในสหรัฐฯ และแคนาดา เร็วๆนี้ หลังจากได้ผู้จัดจำหน่ายแล้ว

China Lion Film Distribution กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันพุธว่าบริษัทได้สิทธิ์การจัดจำหน่ายหนังดังแห่งฮ่องกง 3D Sex and Zen: Extreme Ecstasy ในทวีปอเมริกาเหนือไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากสามารถตกลงรายละเอียดต่างๆกันได้ระหว่างเทศกาลหนังเมืองคานส์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามบริษัทร่วมทุนจีน-นิวซีแลนด์ที่เปิดทำการมาได้ประมาณ 1 ปี แห่งนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับวันเข้าฉาย และจำนวนโรงที่หนังจะเข้า เพราะอยู่ระหว่างการตัดสินใจและดูความเหมาะสมกันอยู่

หนังโป๊สามมิติ 3D Sex and Zen: Extreme Ecstasy เป็นตอนล่าสุดของหนังเกรดสามระดับตำนานของฮ่องกง ที่ภาคแรกสร้างออกมาเมื่อปี 1991 เล่าเรื่องการผจญภัยทางเพศของบัณฑิตหนุ่มรายหนึ่ง มีนักแสดงทั้งชาวจีนและญี่ปุ่นมาปรากฏตัวอย่างคับคั่ง อาทิ ซาโอริ ฮาระ, ยูกิโกะ ซุโอะ และ เหลยไห่เหยียน เป็นต้น

หนังภาษากวางตุ้งทุนสร้าง 3.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นที่ฮือฮาทันทีหลังเข้าฉายในฮ่องกงเมื่อวันที่ 14 เม.ย. ทำลายสถิติรายได้เปิดตัวของหนังดังจากฮอลลีวูดอย่าง Avatar ด้วยยอดรายได้ในวันแรก 360,000 เหรียญฯ

ในฮ่องกงหนังดังแห่งปีเรื่องนี้ทำรายได้ไปแล้ว 4.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อถึงวันพุธที่ผ่านมา และกลายเป็นหนังท้องถิ่นที่ทำรายได้สูงสุดในฮ่องกงประจำปีนี้ไปแล้ว ขณะที่ในไต้หวันก็กวาดรายได้ไปถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และ 1.2 ล้านที่ออสเตรเลีย

โดยล่าสุดในการเข้าฉายที่ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ Sex and Zen ยังสามารถทำรายได้ต่อโรงมากกว่าหนังฮอลลีวูดอย่าง Scream 4 และ Fast Five เสียอีก

“เรากำลังมองโอกาสที่จะนำหนังเรื่องนี้เข้าฉายในวงกว้างให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในแถบอเมริกาเหนือ กำลังทำงานอยู่กับเครือข่ายโรงภาพยนตร์อย่าง AMC ในอเมริกา และโตรอนโต, Cineplex ในแวนคูเวอร์ และ Consolidated ในฮาวาย” มิลต์ บาร์โลว์ ซีอีโอของ China Lion Film กล่าวกับ THR “การประกาศอย่างเป็นทางการคงมีขึ้นในสัปดาห์หน้า”

สำหรับในประเทศไทย ภาพยนตร์สุดดังเรื่องนี้จะลงโรงในวันที่ 9 มิ.ย. และติดเรต ฉ. 20+

Manager Online

“จางป๋อจือ” (Cecilia Cheung) ฉลองวันเกิดไร้เงาสามี : ความผิด “เฉินกว้านซี” (Edision Chen) ?

Submitted by canjamm on 26 พฤษภาคม, 2011 - 19:14

ดาราสาวชื่อดังชาวฮ่องกง “จางป๋อจือ” (Cecilia Cheung) ที่อายุครบ 31 ปี ไปเมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา ต้องฉลองวันเกิดโดยไม่มีสามีอยู่เคียงข้าง เพราะ “เซียะถิงฟง” (Nicholas Tse) ติดถ่ายทำภาพยนตร์อยู่ที่ต่างประเทศ แต่หลายคนยังสงสัยว่าเป็นเพราะเหตุอื้อฉาว เรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับ “เฉินกว้านซี” (Edison Chen) ที่ปะทุขึ้นมาอีกครั้งรึเปล่า ที่เป็นสาเหตุสำคัญของการหายหน้าไปของ “เซียะถิงฟง” ในครั้งนี้

ในการฉลองวันเกิดปีที่ 31 จางป๋อจือ ได้เดินทางไปจัดงานที่ไต้หวัน โดยมี ลูคัส (Lucas) ลูกชายคนโตติดตามไปด้วย เพื่อฉลองกับเพื่อนๆ คนดังแห่งไต้หวันอย่าง คริสตีน ฟาน, ต้าเอส, เสี่ยวเอส, อู๋เผ่ยฉือ และเกรซ ยิป

ขณะที่ฝ่ายสามีอย่างหนุ่ม เซียะถิงฟง วัย 30 ปี กลับไม่ได้มาร่วมงานครั้งนี้ เพราะเขาติดถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Against War ของผู้กำกับ ดังเต้ แลม อยู่ที่ กัวลาลัมเปอร์

โดยสื่อฮ่องกงอ้างว่าทุกปีไม่ว่าจะงานยุ่งแค่ไหน เซียะถิงฟง ก็จะพยายามหาเวลามาร่วมงานวันเกิดของภรรยาอยู่เสมอ เขายังจะหาของขวัญไม่ว่าจะเป็นรถยนต์สุดหรู หรือกระเป๋าแบรนด์เนมมามอบให้ทุกปี ขณะที่เมื่อปีก่อน เซียะถิงฟง ถึงกับยอมพักงาน เพื่ออยู่ดูแลจางป๋อจือที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอดเลยทีเดียว

จนกลายเป็นคำถามว่าข่าวลือที่ จางป๋อจือ ได้พบกับ เฉินกว้านซี บนเที่ยวบินระหว่างไต้หวันฮ่องกง ทำให้ชีวิตแต่งงานของเธอเริ่มมีปัญหาขึ้นหรือไม่ ซึ่งนักแสดงสาวคนดังปฏิเสธที่จะตอบคำถามถึงเรื่องนี้ … “วันนี้เป็นวันเกิดของฉันนะคะ อย่ามาถามคำถามแบบนี้กันเลย” เธอกล่าว

“จางป๋อจือ” ปฏิเสธ, “เฉินกว้านซี” ยอมรับ

เหตุอื้อฉาวเรื่องภาพหลุดเมื่อปี 2008 กลับมาเป็นข่าวในหน้าสื่อฮ่องกงอีกครั้ง เมื่อมีรายงานว่า สองนักแสดงหนุ่มสาวที่มีส่วนต่อเรื่องครั้งนั้นอย่าง เฉินกว้านซี และ จางป๋อจือ ได้มีโอกาสพบกันโดยบังเอิญ ซึ่งตามรายงานข่าวทั้งสองไม่ได้ปฏิบัติต่อกันอย่างเย็นชา เหมือนศัตรูอย่างที่หลายคนคิด

ลือ "ฟ่านปิงปิง" (Fan Bing Bing) เตรียมสละโสดกับนักแสดงชายอายุ 65 ปี

Submitted by canjamm on 26 พฤษภาคม, 2011 - 19:09

มีรายงานออกมาว่า"ฟ่านปิงปิง" (Fan Bing Bing) นักแสดงสาวชื่อดังชาวจีนเตรียมสละโสดจะเข้าพิธีแต่งงานกับ "หวังซิวฉี" (Wang Xueqi) นักแสดงรุ่นใหญ่มากฝีมือวัย 65 ปี

เมื่อปลายปีที่แล้ว สื่อต่างๆได้พร้อมใจกันรายงานว่าฟ่านปิงปิง นักแสดงสาววัย 29 ปีได้อาศัยอยู่กับหวังมานานกว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งทั้งคู่ยังถูกจับภาพได้ว่าจับมือกันขณะกำลังโปรโมทเรื่อง Sacrifice ซึ่งแหล่งข่าวที่เป็นเพื่อนสนิทของฝ่ายชายยังออกมายืนยันด้วยว่าเหตุผลที่ทำให้หวังขอหย่ากับภรรยาเป็นเพราะเขากำลังรักอยู่กับ ฟ่านปิงปิง

ซึ่งครั้งหนึ่งหวังเคยพูดให้ทุกคนพากันสงสัยว่า เขาจะทำให้ทุกคนประหลาดใจ "ฟ่านเป็นคนดีมากๆ บางทีเราอาจจะทำอะไรบางอย่างที่ทำให้ทุกคนช็อคในเร็วๆนี้ก็ได้"

บุคคลที่เป็นผู้แนะนำให้ทั้งสองคนรู้จักกันนั้นก็คือ มู่เสี่ยวกัง ผู้จัดการส่วนตัวของฟ่านปิงปิง โดยหวังและฟ่านได้พบกันในกองถ่ายทำภาพยนตร์ ซึ่งมู่เสี่ยวกัง ชื่นชมในฝีมือการแสดงของหวังซิวฉีและต้องการเซ็นสัญญากับเขา เขาจึงได้ส่งฟ่านปิงปิงให้ช่วยเหลือเขาโดยใช้เธอเป็นสื่อกลางเพื่อต่อรอง และทุกอย่างจบลงด้วยการที่ทั้งสองคนรักกันและมู่เสี่ยวกังก็ได้เซ็นสัญญาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้กับหวังซิวฉีด้วย

ซึ่งจากข่าวลือที่ว่าพวกเขาอยู่กินด้วยกันแล้ว หวังซิวฉีได้เคยออกมาตอบโต้แบบเซ็งๆว่า "ผมเองก็อายุ 60 กว่าแล้ว ชีวิตของผมคงอยู่ได้อีกไม่นานนัก และผมไม่อยากให้ใครมาสร้างความเสื่อมเสียให้กับนักแสดงสาวมากฝีมือแบบนี้เลย"

ทางด้านฟ่านปิงปิงเองก็ได้เคยออกมาตอบโต้สื่อถึงข่าวดังกล่าวเช่นกัน "ไม่มีสมองตอนแต่งเรื่องนี้เหรอ ถ้ามีอะไร ก็มาลงที่ฉันโดยตรง และหยุดเอารุ่นพี่ฉันมาเกี่ยวข้องได้แล้ว"

Manager Online

อุทาหรณ์คนบันเทิง : นางแบบจีนโหมงานหนักจนสิ้นใจ

Submitted by canjamm on 25 พฤษภาคม, 2011 - 17:31

ชื่อของนางแบบสาว "อ้ายเหว่ยเหว่ย" (Ai Weiwei) อาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักอะไรมากมาย แต่ข่าวการเสียชีวิตของเธอกลายเป็นข่าวใหญ่ ที่สื่อในประเทศจีนต่างให้ความสนใจ เพราะมันมีสาเหตุมาจากการทำงานหนัก ที่สะท้อนไปถึงชีวิตที่เต็มไปด้วยการปากกัดตีนถีบ และแข่งขันของคนรุ่นใหม่

เมื่อวันที่ 16 พ.ค. มีเปิดเผยถึงข่าวเศร้าว่า นางแบบสาวชาวจีน อ้ายเหว่ยเหว่ย ได้สิ้นลมลงเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 14 พ.ค. ที่โรงพยาบาลในมณฑลฝูเจี้ยน จากสาเหตุการป่วยเป็น ลูคีเมีย หรือ มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน อันเป็นผลจากการทำงานหนักมาอย่างยาวนาน

นางแบบ สาววัย 22 ปี ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในหมู่ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตชาวจีน จากผลงานหลายๆชิ้นที่ถูกเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์รวมถึงภาพถ่ายแบบโปรโมตกิจกรรมการแข่งขันฟุตบอลโลกเมื่อปี 2010 ของเว็บไซต์แห่งหนึ่ง และเป็นนางแบบชื่อดังในแวดวงเกมออนไลน์ นอกจากนั้นเธอยังทำงานเบื้องหลังเป็นกรรมการผู้จัดการของสื่อท้องถิ่นแห่งหนึ่งด้วย

ซึ่งที่ผ่านมา อ้ายเหว่ยเหว่ย ได้รับการจดจำจากบรรดาคนใกล้ชิด รวมถึงแฟนๆ ในฐานะ “สาวบ้างาน” ที่ทำงานหนักจนเรียกว่าละเลยการดูแลรักษาสุขภาพ โดย จูซิ่ง ผู้จัดการส่วนตัวของเธอ ก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่ยืนยันถึงเรื่องนี้ได้ “การทำงานข้ามวันข้ามคืนถือเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเธอ บางทีก็ทำงานติดต่อโดยไม่ได้พักผ่อนเลยถึง 3 วันติดต่อกันเลย”

“อ้ายเหว่ยเหว่ย ยังมีปัญหาเกี่ยวกับท้อง เพราะเธอกินอาหารไม่ค่อยเป็นเวลา ป่วยเป็นหวัดบ่อยๆ แต่เธอก็ไม่ค่อยจะคิดมากเกี่ยวกับปัญหาพวกนี้ เพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่นางแบบทุกคนต้องเผชิญอยู่แล้ว”

จากข้อมูลของผู้จัดการส่วนตัวรายนี้ นางแบบสาวผู้ล่วงลับเกิดและเติบโตมาในเจียงซู จนกระทั่งตัดสินใจเดินทางจากบ้านเกิดตั้งแต่มีอายุเพียง 16 ปี และเริ่มต้นทำงานเสริมตั้งแต่ยังเรียนอยู่ในวิทยาลัยศิลปะ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการศึกษา ในปี 2006 เธอได้เดินทางไปที่ ฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน เพื่อเข้าสังกัดของ Julong Network กระทั่งเมื่อเรียนจบจึงรับงานอย่างเต็มตัว

“แค่กินข้าวโอ๊ตนิดเดียวตอนเช้า ตอนนี้ฉันก็เริ่มปวดท้องอีกแล้ว” อ้ายเหว่ยเหว่ย เขียนในบล็อคส่วนตัวของเธอเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา “เทศกาลโคมไฟก็ต้องอยู่คนเดียวอีกแล้ว คิดถึงพ่อมากๆค่ะ”

"จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) โต้ข่าวถ่านไฟเก่าคุ! ยันไม่ได้อี๋อ๋อ "เฉินกว้านซี" (Edison Chen) บนเครื่องบิน

Submitted by canjamm on 23 พฤษภาคม, 2011 - 16:45

เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่าง “จางป๋อจือ” (Cecilia Cheung) และอดีตคนรักอย่าง “เฉินกว้านซี” (Edison Chen) ดูจะยุ่งเหยิงขึ้นเรื่อยๆ หลังมีรายงานว่าอดีตถ่ายไฟเก่าคู่นี้ ได้พบกันบนเที่ยวบินโดยบังเอิญ ถึงขนาดยอมหาแลกตั๋วเพื่อย้ายมานั่งใกล้ๆกัน ซึ่งล่าสุดฝ่ายหญิงได้ออกมาปฏิเสธแล้ว ยืนกรานว่าไม่เคยเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นอย่างแน่นอน

จากรายงานของเว็บไซต์บันเทิงในฮ่องกงแห่งหนึ่ง ได้อ้างถึงการพบกันของ จางป๋อจือ และ เฉินกว้านซี อดีตคู่รักที่เคยมีส่วนร่วมต่อเรื่องอื้อฉาวภาพหลุดว่อนเน็ต ที่เกือบทำลายอาชีพในวงการบันเทิงของทั้งสองเมื่อ 3 ปีก่อน ที่ได้โคจรกลับมาพบกันโดยบังเอิญ บนเที่ยวบินของสายการบิน คาเธย์ แปซิฟิก เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา แต่แทนที่ทั้งคู่จะเย็นชาต่อกันอย่างที่หลายคนคาด แหล่งข่าวในฮ่องกงกลับให้ข้อมูลว่า นักแสดงหนุ่มหล่อสาวสวยคู่นี้กลับยังแสดงความสนิทสนมต่อกันเช่นเคย

โดยมีพยานรายหนึ่งที่อยู่บนเที่ยวบินวันนั้น ได้อ้างว่า เฉินกว้านซี และ จางป๋อจือ ที่เดินทางด้วยเที่ยวบนเดียวกัน ถึงกับขอแลกที่นั่งกับผู้โดยสารท่านอื่น เพื่อให้ได้นั่งอยู่ด้วยกัน, ระหว่างการเดินทางยังคุยกันอย่างออกรส และถ่ายรูปร่วมกันด้วย

หลังข่าวดังกล่าวกลายเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวาง ล่าสุด จางป๋อจือ ได้ปฏิเสธเรื่องนี้ผ่านบล็อคของตัวเองแล้ว ยืนยันว่ารายงานข่าวเป็นเรื่องแต่งขึ้นมาทั้งหมด เธอยังเรียกเฉินกว้านซีว่า Chen Nobody ตลอดการเขียนบล็อกครั้งนี้ นอกจากนั้นยังแสดงความไม่พอใจที่เว็บไซต์บันเทิงสร้างเรื่องขึ้นมาโดยไม่มีมูลความเป็นจริงอะไรเลย

นักแสดงสาวคุณแม่ลูกสองอธิบายว่า ขณะที่เธออยู่ที่สถานบินฮ่องกงในช่วงบ่ายของวันที่ 8 พ.ค. นั้น เฉินกว้านซียังคงอยู่ที่ไต้หวัน เพื่อร่วมงานโปรโมตธุรกิจแฟชั่นร่วมกับนักร้องหนุ่มคนดังแห่งไต้หวัน เจย์ โจว (Jay Chou) อยู่เลย เพราะฉะนั้นเรื่องที่ว่าไม่มีทางเป็นความจริงได้เลย

ซึ่งข่าวที่เกิดขึ้นยังส่งผลกระทบไปถึงหลายๆคน นอกจาก เซียะถิงฟง (Nicholas Tse) สามีของ จางป๋อจือแล้ว ศิลปินสาว อาเจียว (Gillian Chung) แห่ง Twin สาวอีกคนที่มีชื่อเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ภาพหลุดเมื่อปี 2008 ก็ต้องมาตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกัน

"จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) เจอ "เฉินกวานซี" (Edison Chen) บนเครื่องบิน ขอย้ายที่นั่งร่วมเมาท์กันตลอดทาง

Submitted by canjamm on 23 พฤษภาคม, 2011 - 12:29

นับเป็นเรื่องที่เกินความคาดหมายของหลายๆคนทีเดียว เมื่อ"จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) นักแสดงสาวชื่อดังที่ตกเป็นเหยื่อรูปฉาวกับ"เฉินกวานซี" (Edison Chen) ได้บังเอิญเจอกันบนเครื่องบิน โดยงานนี้ทั้งสองฝ่ายต่างเผชิญหน้ากันด้วยดี พร้อมพูดคุยกันตลอดการเดินทาง

หากย้อนไปเมื่อปี 2008 เรียกได้ว่าเรื่องราวข่าวฉาวของเฉินกวานซี ที่มีส่วนเกี่ยวข้อกับรูปหลุดร่วมกับนักร้อง-นักแสดงสาวชื่อดังมากมายได้ทำให้เขากลายเป็นศัตรูกับอดีตแฟนสาวของเขาหลายต่อหลายคนรวมทั้งจางป๋อจือและอาเจียว (Gillian Chung) แห่งวง Twins

ซึ่งงานในวงการบันเทิงของทั้งอาเจียว และ จางป๋อจือ ต่างก็ต้องหยุดชะงัก และทำให้ทั้งสองคนหายหน้าไปจากวงการพักใหญ่ๆ จนกระทั่งมีข่าวการแต่งงานของจางป๋อจือกับเซียะถิงฟงออกมาท่ามกลางข่าวลือว่าเขากำลังจะทิ้งเธอเพราะข่าวฉาวดังกล่าว

โดยระหว่างการให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงเรื่องนี้เมื่อปี 2008 จางป๋อจือ เองก็ได้กล่าวทั้งน้ำตานองหน้าว่า เฉินกวานซี ไม่เคยมาขอโทษเธอด้วยตนเองเลยสักครั้งหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

หลังจากเหตุการณ์สุดฉาวผ่านไปได้ 3 ปี ตอนนี้จางป๋อจือคลอด ควินตัส ลูกชายคนที่สองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเธอกำลังจะหวนคืนวงการบันเทิงอีกครั้ง ส่วนทางด้านเฉินกวานซีก็ไปได้สวยกับการทำธุรกิจส่วนตัวของเขา รวมทั้งการเปิดแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นของเขาเอง

แต่แล้วเรื่องที่เกินคาดก็ได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา เมื่อทั้งสองคนต่างก็ขึ้นเครื่องบินลำเดียวกัน เพื่อโดยสารจากไทเปกลับมาที่ฮ่องกง

โดยทันทีที่จางป๋อจือเห็นเฉินกวานซี เธอได้ขอพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเปลี่ยนที่นั่งเพื่อไปนั่งใกล้กับเฉินกวานซีทันที ซึ่งตัวเขาเองก็ยินดีและยอมให้เธอได้นั่งที่นั่งริมหน้าต่างด้วย

ตามรายงานจากผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่าทั้งจางป๋อจือและเฉินกวานซีต่างก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนานและหัวเราะกันตลอดการเดินทาง นอกจากนั้นจางป๋อจือยังนำโทรศัพท์มือถือของเธอออกมาถ่ายรูปกับเขา และมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ราวกับว่าไม่เคยมีเรื่องบาดหมางเกิดขึ้นมาก่อน

“ทังเหวย” (Tang Wei) ไม่คู่ควรเป็นรักแรก "ประธานเหมา" ในหนังแห่งชาติ

Submitted by canjamm on 23 พฤษภาคม, 2011 - 12:15

แม้ภาพยนตร์เรื่อง Lust, Caution จะเข้าฉายไปถึง 4 ปีเต็มแล้ว แต่มันก็ยังคงส่งผลกระทบถึงสาว "ทังเหวย" (Tang Wei) ไม่จบไม่สิ้น ล่าสุดมีรายงานถึงคำสั่ง ให้ตัดฉากที่เธอแสดงเป็นคนรักในอดีตของ "ประธานเหมา" ในหนัง The Founding of a Party ออกให้หมด เนื่องจากประวัติไม่เหมาะสม ที่ดาราสาววัย 29 ปี เคยแสดงหนังวาบหวามมาก่อน

จากรายงานของสื่อในประเทศจีน มีกระแสข่าวว่าการแสดงของ ทังเหวย ในหนัง The Founding of a Party จะถูกตัดทิ้งออกทั้งหมดเมื่อหนังเข้าฉายในวงกว้างให้ชาวจีนทุกคนได้ชมกัน เพื่อฉลองวาระครบรอบ 90 ปี ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในช่วงกลางเดือน มิ.ย. นี้

ทังเหวย มีโอกาสได้สวมบทบาทเป็น เถาอี้ว์ หญิงสาวผู้เป็นรักแรกของ เหมาเจ๋อตง ขณะที่อดีตผู้นำจีนยังหนุ่มแน่น แต่ด้วยความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกัน ทำให้ทั้งสองต้องแยกทางกันไป แต่ฝ่ายหญิงก็ยังครองตัวเป็นโสด ไปจนถึงวาระสุดท้ายของเธอ

อย่างไรก็ตามเรื่องโรแมนติกในวัยหนุ่มของประธานเหมา อาจจะไม่ได้มีโอกาสเผยแพร่ผ่านจอภาพยนตร์แล้ว และสาเหตุก็มาจาก ทังเหวย ที่หลายคนคิดว่า เธอซึ่งเคยผ่านบทโป๊เปลือยล่อแหลมมาก่อน ไม่มีความเหมาะสมที่จะรับบทนี้

ถึงขณะนี้ยังมีคำยืนยันว่า ทังเหวย ยังปรากฏอยู่ในหนังฉบับที่ฉายให้กับคนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ดูกัน ในช่วงระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่แหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่ออ้างว่า บทของเธอคงถูกตัดออกไปในท้ายที่สุด เพราะ เหมาซินอี่ว์ หลานเหมาเจ๋อตง ซึ่งเป็นถึงนายพลที่อายุน้อยที่สุดของกองทัพฯ ต้องการเช่นนั้น

คนที่กล่าวถึงเรื่องนี้อย่างเปิดเผยเป็นคนแรกก็คือผู้กำกับชื่อดัง เหอผิง ที่เขียนในบล็อคของตนเองว่า "มีสาวน้อยคนหนึ่งได้เล่นหนังเรื่องนี้ด้วย แต่บทของเธอถูกตัดออกไปในที่สุด" ซึ่งทุกฝ่ายเชื่อว่าเขาหมายถึง ทังเหวย อย่างแน่นอน

"กัวฟู่เฉิง" (Aaron Kwok) ยังไม่ผ่านด่าน(ว่าที่)แม่ยาย - จะแต่ง "สงไต้หลิน" (Lynn Xiong) 8 แสนน้อยเกินไป

Submitted by canjamm on 19 พฤษภาคม, 2011 - 16:10

มีข่าวลือหนาหูว่า "กัวฟู่เฉิง" (Aaron Kwok) และ "สงไต้หลิน" (Lynn Xiong) จะเข้าประตูวิวาห์เพื่อใช้ชีวิตร่วมกันในฐานะสามีภรรยากันในปีนี้ อย่างไรก็ตามแผนการดังกล่าวยังติดชะงักอยู่ที่มารดาของฝ่ายหญิง ที่มองว่าค่าสินสอดจำนวน 8 แสนเหรียญฮ่องกงที่แฟนหนุ่มของลูกสาวเสนอมานั้นยังน้อยเกินไป

Asiaone อ้างรายงานจากสื่อในฮ่องกงว่า เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา กัวฟู่เฉิง ได้นัดพบพูดคุยกับ สงไต้หลิน และมารดาของเธอเพื่อวางแผนเรื่องการจัดงานแต่งงาน ซึ่งแหล่งข่าววงในเผยว่า ว่าที่แม่ยายของนักร้องชื่อดังมีข้อเรียกร้องสองประการคือ หนึ่งค่าสินสอดจำนวนที่สมน้ำสมเนื้อ และงานแต่งครั้งนี้ต้องจัดขึ้นที่หนานจิง ในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ อันเป็นบ้านเกิดของฝ่ายหญิงนั่นเอง

อย่างไรก็ตามข่าวยังอ้างว่า กัวฟู่เฉิง ยืนกรานว่าเขาจะจ่ายค่าสินสอดเพียง 8 แสนเหรียญฮ่องกงเท่านั้น (ประมาณ 3.1 ล้านบาท) ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับมารดาของฝ่ายหญิงเป็นอย่างมาก โดยขณะนี้ทั้ง สงไต้หลิน และแม่ของเธอยังปฏิเสธที่จะพูดคุยกับนักข่าวถึงเรื่องนี้

สงไต้หลิน นางแบบชื่อดังวัย 30 ปี ซึ่งโด่งดังเป็นที่รู้จักจากบทบาทการแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Ip Man ทั้ง 2 ภาค ได้พบกับกัวฟู่เฉิงครั้งแรกเมื่อ 4 ปีก่อนภายหลังเธอได้ร่วมแสดงในมิวสิควิดีโอของเขา หลังจากนั้นก็มีข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่อยู่ต่อเนื่อง แม้ต่างฝ่ายจะไม่เคยยอมรับหรือปฏิเสธข่าวคบหากันเลยก็ตาม

สำหรับเรื่องสินสอดของเหล่าดาราสาวชื่อดัง มีข้อมูลว่าสาวสวยอดีตมิสฮ่องกง หลีเจียซิน (Michelle Reis) เป็นเจ้าของสถิติค่าสินสอดในวงการบันเทิงสูงสุด ด้วยตัวเลขถึง 3.8 ล้านเหรียญฮ่องกง (14.7 ล้านบาท) เมื่อครั้งที่เธอเข้าประตูวิวาห์กับทายาทมหาเศรษฐี จูเลียน ฮุย เมื่อ 3 ปีก่อน

ขณะที่เมื่อสองปีก่อน พ่อแม่ของนักร้องสาวคนดัง หยังเชี่ยนหัว (Miriam Yeung) ก็เรียกค่าสินสอดเมื่อลูกสาวคนดังคนนี้แต่งงานไป 990,000 เหรียญฯ (3.8 ล้านบาท)

Relics of An Emissary ซีรีส์ฉาว TVB : Sex & Zen แห่งจอโทรทัศน์ !?

Submitted by canjamm on 19 พฤษภาคม, 2011 - 16:00

กลายเป็นประเด็นร้อนประจำจอโทรทัศน์ของฮ่องกงในปี 2011 ไปแล้วสำหรับซีรีส์เรื่อง Relics of An Emissary ของทีวีบี ที่เต็มไปด้วยฉากล่อแหลมทั้ง การข่มขืน, รักร่วมเพศ และ S&M จนถูกเรียกว่าเป็น Sex and Zen แห่งจอทีวีไปเรียบร้อยแล้ว
       
       ซีรีส์เรื่อง Relics of An Emissary ของทีวีบีได้รับความนิยมถึง 26 จุด หรือหมายความว่ามีชาวฮ่องกงติดตามชมซีรีส์เรื่องนี้อยู่ถึง 1.66 ล้านคนเมื่อสัปดาห์ก่อน เป็นตัวเลขที่เรียกว่าสูงมาก สำหรับความนิยมของรายการโทรทัศน์ในยุคปัจจุบัน ซึ่งเมื่อซีรีส์เดินทางเข้าถึงจุดไครซ์แม็กซ์ในช่วงท้ายของเรื่อง หลายฝ่ายก็เชื่อว่าดัชนีความนิยมก็น่าจะพุ่งสูงขึ้นไปอีก
       
       Relics of An Emissary เล่าเรื่องในประวัติศาสตร์กับการขึ้นสู่อำนาจของ จักรพรรดิหย่งเล่อ หรือชื่อเดิมว่า "จูตี้" ฮ่องเต้พระองค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์หมิง ที่นักแสดงชื่อดังอย่าง โจหม่า (หม่าเต๋อจง) เป็นผู้สวมบทบาทนี้
       
       แม้จะว่าด้วยเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์ ซีรีส์สุดดังเรื่องนี้กลับเต็มไปด้วยฉากล่อแหลม ซึ่งมีรายงานว่า Relics of An Emissary ถูกเซนเซอร์ไปถึง 5 แต่มันก็ยังเต็มไปด้วยฉากที่หลายฝ่ายมองว่า "ไม่เหมาะสม" อยู่ดี
       
       มีหลายเสียงเชื่อว่าซีรีส์เรื่องนี้ไม่ควรถูกฉายในช่วงเวลา 20:30 - 21:30 ในฮ่องกง ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่สมาชิกในครอบครัวจะมาร่วมรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน จนมีคนโทรศัพท์เข้าไปร้องเรียนถึงเรื่องทางเพศที่เกินขอบเขต นอกจากนั้นยังมีเสียงจากผู้ชม 1 สาย ที่ร้องเรียนว่าภาพการฆ่าปลาเป็นๆ ที่ปรากฏในซีรีส์ก็โหดเหี้ยมเกินไป
       

"ทาเคชิ คาเนชิโร่" (Takeshi Kaneshiro) ในเมืองคานส์ - ยันยังโสดสนิทไร้คู่ครอง

Submitted by canjamm on 19 พฤษภาคม, 2011 - 15:41

ระหว่างร่วมเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ "ทาเคชิ คาเนชิโร่" (Takeshi Kaneshiro) ได้โอกาสพูดถึงเรื่องราวส่วนตัวของตนเอง ที่ปกติเขาเองไม่ค่อยจะกล่าวถึงนัก โดยนักแสดงหนุ่มขวัญใจสาวๆ ยืนยันว่าตัวเองยังโสดสนิท, ไม่ได้คบหากับสาวคนไหน และยังไม่เคยแต่งงาน อย่างที่เคยมีข่าวลือแต่อย่างใด

ด้วยการใช้ชีวิตส่วนตัวอย่างเก็บเงียบ ทำให้ที่ผ่านมามีข่าวลือต่างๆเกี่ยวกับ ทาเคชิ คาเนชิโร่ มากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องการคบหาดูใจกับอดีตมิสเจแปน คุราระ ชิบานะ รวมถึงข่าวลือเรื่องการเข้าพิธีวิวาห์กับแฟนสาวเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งตอนนั้นข่าวยังอ้างด้วยว่า งานวิวาห์ถูกจัดขึ้นระหว่างที่ฝ่ายหญิงตั้งท้องแล้วด้วย ซึ่งแม้ว่าผู้จัดการส่วนตัวของเขาจะปฏิเสธข่าวทั้งหมดแทนไปแล้ว แต่นักแสดงหนุ่มวัย 37 ปี ก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้ด้วยตนเองเลย

กระทั่งล่าสุดระหว่างโปรโมตภาพยนตร์เรื่อง Wuxia ที่เมืองคานส์ คาเนชิโร่ ได้โอกาสกล่าวถึงข่าวต่างๆเหล่านั้นเป็นครั้งแรกว่า"ผมไม่เคยแต่งงานนะครับ ไม่เคยเลย มันเป็นสิ่งที่สื่อสนใจมาตลอด ผมยังเป็นโสดแน่นอน" นอกจากนั้นเขายังกล่าวว่าจะปล่อยเรื่องความรักให้เป็นไปตามโชคชะตา ไม่เร่งรีบที่จะหาคู่ครองแต่อย่างใด

สำหรับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดที่มีชื่อว่า Wuxia ทาเคชิ คาเนชิโร่ จะได้ร่วมงานกับดารากังฟูผู้ร้อนแรงแห่งยุคอย่าง เจินจื่อตัน (Donnie Yen), นางเอกสาวคนดัง ทังเว่ย (Tang Wei) และ นักแสดงรุ่นใหญ่ หวังหยู่ จากการกำกับของ ปีเตอร์ ชาน

ซึ่งสำหรับตัวเขาเอง สิ่งที่ท้าท้ายในหนังเรื่องก็คือการพูดสำเนียงเสฉวนซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า หลังถ่ายทำเสร็จก็ลืมเลือนมันไปหมดแล้ว

ในการพูดคุยระหว่างนักข่าวกับทีมงานนักแสดงของ Wuxia นักแสดงสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ หลีเสี่ยวหรัน ก็ทำให้ ทาเคชิ ต้องเขินอยู่ไม่น้อย เมื่อเธอสารภาพว่า การรับบทเป็นภรรยาของนักแสดงหนุ่มลูกครึ่งไต้หวัน-ญี่ปุ่น เป็นสิ่งที่ยากสำหรับตัวเองพอสมควร เพราะเธอเองก็ชอบ ทาเคชิ อยู่ไม่น้อยเลย

Wuxia เป็นภาพยนตร์จีนเรื่องเดียวที่ได้มีส่วนร่วมในเทศกาลหนังนานาชาติคานส์ครั้งที่ 64 โดยรอบปฐมทัศน์ของหนังที่ฉายที่นี่ มีผู้ชมสนใจเข้าชมกว่า 2,300 คน และยืนปรบมือให้ถึง 3 นาทีเมื่อหนังฉายจบลง สร้างความประทับใจให้กับนักแสดง และทีมงานของหนังทุกคน

ฟอบส์จัดอันดับ 10 คนดังจีนทำรายได้มากสุด "หลิวเต๋อหัว" (Andy Lau) ครองอันดับหนึ่ง

Submitted by canjamm on 17 พฤษภาคม, 2011 - 14:09

แม้เวลาจะผ่านไปนานเพียงใดแต่ "หลิวเต๋อหัว" นักแสดงชื่อดังแดนมังกรก็ยังคงเป็นซูเปอร์ยอดนิยมมีแฟนๆให้ความสนับสนุนไม่เคยขาด ล่าสุดฟอบส์จัดอันดับให้เป็นคนดังที่ทำรายได้มากสุดในจีนเลยทีเดียว

หลังจากที่เปิดคอนเสิร์ตกว่า 20 รอบและแสดงภาพยนตร์ไปถึง 5 เรื่องในปีที่แล้ว หลิวเต๋อหัว ได้รับการจัดอันดับจากฟอบส์ให้ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งคนดังของจีนประจำปี 2011 โดยประกาศออกมาเมื่อวันที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมา

นักแสดงหนุ่มใหญ่ชื่อดังวัย 50 ปี ยังคงมีพลังอย่างเหลือเฟือและยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องหลังจากที่เขาโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมานานกว่า 30 ปีซึ่งจากผลงานเมื่อปีที่แล้วที่เขาแสดงภาพยนตร์ไปถึง 5 เรื่องภายในปีเดียวเช่น Shaolin และ Detective Dee and the Mystery of the Phantom Flame นิยสารฟอบส์จึงได้จัดอันดับให้เขาขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง โดยดูจากรายได้ที่เขาสร้างขึ้นภายในหนึ่งปี ความนิยม และอิทธิพลในวงการบันเทิง

โดยเมื่อเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา หลิวเต๋อหัวจัดคอนเสิร์ตไปถึง 20 รอบที่ฮ่องกงโคลิเซียม เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 30 ปีในวงการบันเทิงของเขาเอง นับเป็นที่มาของรายได้และชื่อเสียงมหาศาลที่เขาได้รับในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา

โดยอันดับ 2 นั้นตกเป็นของ เจย์ โจว หรือ โจวเจี๋ยหลุน ที่สร้างกระแสและรายได้หลักจากผลงานอัลบั้มล่าสุดอย่าง The Era รวมทั้งการเล่นภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง The Green Hornet ด้วย

ทางด้านดีวาเพลงป็อปชื่อดังของจีนอย่าง เฟย์ หว่อง ก็กลับมาปล่อยผลงานเพลงอีกครั้งในปี 2010 หลังจากที่ห่างหายไปพักนานหลายปี ก็กลับมาอยู่ที่อันดับ 3

ส่วนทางด้านแจ็คกี ชาน หรือ เฉินหลง ที่ขึ้นอันดับ1 เมื่อปีที่แล้ว มาปีนี้เขาตกลงมาอยู่ที่อันดับ 4

10 อันดับคนดังจีนที่ทำรายได้และดังที่สุดประจำปี 2011
1. หลิวเต๋อหัว (Andy Lau)
2. เจย์ โจว (Jay Chou)
3. เฟย์ หว่อง (Faye Wong / Wang Fei)
4. เฉินหลง (Jackie Chan)
5. เหยาหมิง (Yao Ming)
6. เจินจื่อตัน (Donnie Yen)
7. จางจื้ออี้ (Zhang Ziyi)
8. เจ็ท ลี (Jet Li)
9. ฟ่านปิงปิง (Fan Bing Bing)
10. จ้าวเปิ่นซาน (Zhao Benshan)

"จางจื่ออี๋" (Zhang Ziyi) สปิริตแรง เล่นฉากเปลือยใน Love For Live

Submitted by canjamm on 13 พฤษภาคม, 2011 - 15:55

ระหว่างการให้สัมภาษณ์เพื่อโปรโมตหนังเรื่องใหม่ นักแสดงสาวคนเก่ง "จางจื่ออี๋" (Zhang Ziyi) ออกมาแสดงสปิริตยืนยันว่าเธอพร้อมจะแสดงฉากเปลือยในหนัง ถ้าหากมันมีความจำเป็นเพียงพอ รวมถึงผลงานเรื่อง Love For Live ที่เธอสวมบทบาทเป็นคู่รักที่ติดเชื้อเอดส์กับนักแสดงหนุ่มชาวฮ่องกง “กัวฟู่เฉิง” (Aaron Kwok) ด้วย

กัวฟู่เฉิง และ จางจื่ออี๋ ได้รวมเดินสายเพื่อโปรโมตภาพยนตร์เรื่องใหม่ซึ่งทั้งคู่แสดงนำร่วมกัน ซึ่งหลังจากไปเยือน ปักกิ่ง, เฉิงตู และเซินเจิ้นมาแล้ว เมื่อไม่กี่วันก่อนนักแสดงหนุ่มชาวฮ่องกง และนักแสดงสาวชาวจีน ได้เดินทางไปโปรโมตหนังเรื่องดังกล่าวที่เซียงไฮ้

"ฉันยินดีทำทุกอย่างเพื่อหนังเรื่องนี้ค่ะ" จางจื่ออี๋ กล่าวถึงความทุ่มเทของตนเอง ในการรับบทเป็นสาวชาวบ้านผู้ติดเชื้อเอชไอวีในหนังเรื่อง Love For Live "ฉันอินอยู่กับบทนานเลย ต้องใช้เวลาเป็นปี กว่าจะสลัดมันออกไปได้"

ซึ่งส่วนหนึ่งของความทุ่มเทที่ว่า ก็คือฉากหนึ่งในหนัง ที่ จางจื่ออี๋ ต้องแช่อยู่ในน้ำเย็นด้วยร่างกายเปลือยเปล่า และใช้ความเย็นดังกล่าวบรรเทาอาการไข้ของสามี ซึ่งรับบทโดย กัวฟู่เฉิง ซึ่งเธอยืนกรานว่าไม่ต้องการใช้ตัวแสดงแทน เพราะเชื่อในบทหนัง และเรื่องราวของมัน "ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับฉันจริงๆ ฉันก็พร้อมจะทำเหมือนกันค่ะ มันเป็นเรื่องของความรัก ที่ไม่ได้เกี่ยวกับเซ็กส์ เป็นฉากที่คุ้มค่าที่จะทำทุกอย่างเพื่อมัน"

ในหนังเรื่องนี้ ทีมนักแสดงยังมีโอกาสได้ร่วมงานกับผู้ติดเชื้อเอชไอวีจริงๆ ซึ่งจางจื่ออี๋กล่าวว่าเป็นการทำงานที่สร้างความประทับใจ และสะเทือนใจให้กับเธอไม่น้อย "ตอนที่เราถ่ายทำหนังกัน เขาร้องไห้เยอะมาก ฉันเข้าใจนะคะว่าน้ำตาพวกนั้นมาจาก การถูกเหยียดหยามและความเข้าใจผิด เขาต้องเผชิญกับเรื่องแบบนั้นจากสังคม ฉันรู้สึกเสียใจกับเขามากจริงๆค่ะ"

Love For Live ดัดแปลงมาจากนิยายชื่อดังของจีน เล่าเรื่องรักอันแสนเศร้าของคู่รักที่ป่วยเป็นโรคเอดส์ กัวฟู่เฉิง จะรับบทเป็นครูโรงเรียนประถมที่ถูกย้ายจากเมืองใหญ่ ให้ไปทำงานยังโรงเรียนเขตชนบทห่างไกล จนกระทั่งเขาติดเชื้อเอชไอวี และได้พบรักกับหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ป่วยเอดส์เช่นเดียวกัน

"ม่อเส้าชง" (Max Mok), "ซุนซิ่ง" (Sun Xing) ขอโทษประชาชน หลังถูกจับคดีพี้กัญชา

Submitted by canjamm on 13 พฤษภาคม, 2011 - 15:37

สองนักแสดงรุ่นใหญ่ "ม่อเส้าชง" (Max Mok Siu Chung) และ "ซุนซิ่ง" (Sun Xing / Suen Hing) ได้เปิดแถลงข่าวเพื่อขออภัยต่อความผิด ภายหลังทั้งคู่ถูกจับดำเนินคดี ขณะเสพยาที่ปักกิ่ง เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนจนกลายเป็นข่าวฉาวโฉ่ไปทั่ว

หลังเดินทางกลับถึงฮ่องกง ม่อเส้าชง ได้ตัดสินใจจัดงานแถลงข่าวขึ้น เพื่อขอโทษต่อความผิดในคดียาเสพติดของเขา ในการแถลงดังกล่าวพระเอกรุ่นใหญ่วัย 50 ปี ถึงกับโค้งคำนับเพื่อขออภัย 4 ครั้งต่อหน้ากล้องเลยทีเดียว

โดยเขายังได้ยืนยันถึงคำพูดของตนเอง ว่าการกระทำความผิดครั้งนี้เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ที่เขารับยามาสูบตามมารยาท หลังจากมีผู้หยิบยื่นให้ระหว่างร่วมงานเลี้ยงแห่งหนึ่งในปักกิ่ง พร้อมยังยืนยันว่าเขาไม่เคยใช้ยาเสพติดมาก่อน และจะไม่ทำผิดซ้ำอีกแล้วอย่างแน่นอน

ม่อเส้าชง ยังปฏิเสธข่าวลือเรื่องที่ว่า เขาฉวยโอกาสรับทรัพย์ก้อนโตจาก Sina.com ในการให้สัมภาษณ์พิเศษหลังจากเกิดเรื่องขึ้น ว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวยังถามถึงเรื่องที่ว่าลูกชายวัย 10 ขวบ ของเขาที่เกิดจากอดีตแฟน หงซิ่น ต้องรับเคราะห์จากข่าวฉาวที่พ่อถูกจับ จนถูกเพื่อนที่โรงเรียนล้อเลียน ซึ่ง ม่อเส้าชง ตอบแต่เพียงสั้นๆว่านับจากเกิดเรื่อง เขายังไม่ได้ติดต่อพูดคุยกับลูกเลย

ซึ่งเพียงวันเดียวหลังจากที่ "ม่อเส้าชง" แถลงยอมรับผิด และขอโทษถึงเรื่องที่เกิดขึ้น นักแสดงชาวจีน "ซุนซิ่ง" ที่ถูกจับกุมในเหตุการณ์เดียวกัน ก็จัดการแถลงข่าวขึ้น เพื่อขอโทษอย่างเป็นทางการด้วยเช่นเดียวกัน

ในงานแถลงข่าวซึ่งจัดขึ้นที่ปักกิ่ง ซุนซิ่ง ที่ขอโทษด้วยสภาพน้ำตานองหน้า กล่าวยอมรับผิดในคดียาเสพติด ยอมรับว่าเขาใช้ยามาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว และสัญญาว่าจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับกัญชาอีกแล้วอย่างเด็ดขาด

ซุนซิ่ง ยังปฏิเสธข่าวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ว่า เขาเอ่ยชื่อของดารานักแสดงชื่อดังคนอื่นๆออกไปว่าพัวพันกับยาเสพติด ระหว่างการสอบสวนหลังถูกจับกุม รวมถึงข่าวลือที่ว่าเขาอาจจะลงถูกโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือโทษประหารชีวิต ว่าเป็นเพียงข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริง

ดาราสาวขี้ยา “ซูซาน เซียว” (Suzanne Xiao) เข้าคุกอีกแล้ว / เริ่มสำนึกหลังติดตะรางรอบ 2

Submitted by canjamm on 7 พฤษภาคม, 2011 - 15:28

“ซูซาน เซียว” (Suzanne Xiao) ต้องถูกจับเข้าตะรางในข้อหายาเสพติดเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 4 ปี โดยเจ้าตัวกล่าวยอมรับผิดหลังจากเคยปฏิเสธในชั้นของการพิจารณาคดี พร้อมยืนยันหลังพ้นความผิดจะพยายามเปลี่ยนแปลงเป็นคนใหม่ให้ได้

นักแสดงสาวชาวไต้หวัน ซูซาน เซียว หรือ เซียวซูเซิน ต้องหมดอิสรภาพนับจากวันที่ 4 พ.ค. เป็นต้นไป หลังจากถูกศาลตัดสินให้มีความผิดในคดีใช้ยาเสพติดผิดกฎหมายเป็นครั้งที่ 3 แล้ว เป็นเหตุให้เธอต้องโทษจำคุกเป็นเวลา 1 ปี กับ 7 เดือน และยังต้องถูกคุมประพฤติอีก 4 ปี แต่ถ้ามีความประพฤติดีก็อาจจะได้รับอิสรภาพเร็วกว่านั้น

โดยดาราสาวผู้ยังอยู่ในระหว่างการคุมประพฤติ จากการถูกลงโทษในคดียาเสพติดครั้งก่อน ได้ถูกดำเนินคดีอีกครั้ง หลังจากผลตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย 3 ครั้งในเดือน พ.ค., มิ.ย. และ ก.ค. เมื่อปีก่อนชี้ว่าเธอมีสารเสพติดประเภทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) อยู่ในตัว แม้เจ้าตัวจะเคยอ้างก่อนหน้านี้ว่า ผลตรวจปัสสาวะเป็นบวกเพราะเธอใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการของโรคซึมเศร้าก็ตาม

นักแสดงหญิงวัย 34 ปี เข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 21 ปี มีผลงานเป็นภาพยนตร์อย่าง March of Happiness และ Never Compromise รวมถึงงานแสดงทางโทรทัศน์อีกมากมาย อย่างไรก็ตามอาชีพในวงการบันเทิงของเธอต้องสะดุดลงหลายครั้ง จากปัญหายาเสพติด โดยถูกจับกุมมาแล้วถึง 3 ครั้ง ต้องเข้าไปบำบัดอาการติดยาในครั้งแรก แต่ก็ยังทำผิดซ้ำจนถูกจับเข้าตะรางในที่สุด

ในการถูกจับข้อหาใช้ยาเสพติดในปี 2006 ซูซาน เซียว ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง หลังผลการตรวจเส้นผมเป็นบวกจากการใช้โคเคน เป็นเหตุให้เธอต้องโทษจำคุกเป็นเวลา 1 ปี กับ 7 เดือนมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งในครั้งนั้น เจ้าตัวอ้างว่าผลการตรวจเส้นผมที่เป็นบวกนั้น เป็นผลที่คลาดเคลื่อน ซึ่งเกิดจากการที่เธอเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรม ตา, หู และหน้าอก ต่างหาก แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นข้อแก้ตัวที่ไม่มีใครจะให้น้ำหนักเชื่อถือนัก

"ดอนนี่ เยน" (Donnie Yen) ไม่สนคำวิจารณ์เป็น "กวนอู" ฉบับเตี้ยม่อต้อ

Submitted by canjamm on 5 พฤษภาคม, 2011 - 15:43

"ดอนนี่ เยน" (Donnie Yen) พาผลงานชิ้นใหม่ The Lost Bladesman กวาดเงินอย่างสวยหรูในการฉายที่จีนแผ่นดินใหญ่ โดยไม่กังวลกับเสียงวิจารณ์ว่าเขาตัวเตี้ยเกินกว่าจะมาสวมบทบาทเป็น "กวนอู"

แม้ผลงานใหม่อย่าง The Lost Bladesman จะประสบความสำเร็จไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พระเอกนักบู๊ชื่อดัง เจินจื่อตัน ยังไม่สามารถรอดพ้นจากคำวิจารณ์ไปได้ โดยเฉพาะกับเรื่องที่ว่าเขาดูจะตัวเตี้ยเกินไปกว่าจะมารับบทเป็น 'กวนอู' เทพนักรบร่างสูงใหญ่น่าเกรงขาม ในภาพจินตนการของทุกคนได้

"ผมไม่สนใจความคิดเห็นของคนอื่นหรอกครับ กวนอู เป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ ภาพแรกในหัวของแต่ละคนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว" นักแสดงแอ็กชั่นวัย 47 ปี ผู้มีส่วนสูงประมาณ 173 ซม. ยังยืนยันว่าส่วนสูงไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดของนักแสดง หากแต่เป็นฝีมือต่างหาก "ลองดูนักแสดงแอ็กชั่นคนอื่นๆซิครับ ตั้งแต่ บรูซ ลี, เฉินหลง, เจ็ท ลี หรือนักแสดงชายชาวจีนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ตัวสูงอะไรเลย แล้วเรื่องส่วนสูงมีผลอะไรกับการรับบทเป็นตัวละครต่างๆของพวกเขารึเปล่า ความจริงก็คือเรื่องของฝีมือการแสดงต่างหาก ที่สำคัญที่สุด คนตัวสูงๆแบบ เหยาหมิง จะเป็นนักแสดงที่ดีได้เพราะความสูงเหรอ? มันไม่ได้สมเหตุสมผลเลยครับ"

ในตอนที่แสดงหนังเรื่อง Ip Man ก็มีหลายเสียงแซว ดอนนี่ เยน ว่าเขารู้สึกเขินรึเปล่าที่ต้องแสดงคู่กับนางเอกที่ตัวสูงกว่าอย่าง สงไต้หลิน ซึ่งพระเอกนักบู๊ก็ยืนยันว่าเขาไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะภรรยาตัวจริงก็สูงกว่าเขานิดหน่อยเหมือนกัน

ตอนนี้ The Lost Bladesman สามารถทำเงินได้ทะลุ 40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการฉายที่เมืองจีนแผ่นดินใหญ่ไปแล้วทิ้งคู่แข่ง A Chinese Ghost Story อย่างขาดลอย ขณะที่ในการเปิดฉายที่ฮ่องกงหนังเปิดตัวเป็นอันดับ 2 ด้วยรายได้ 781,250 เหรียญสหรัฐฯ แพ้ให้กับหนังจากฮอลลีวูดอย่าง Thor เท่านั้น

เจินจื่อตัน กล่าวว่าเขาพอใจกับความสำเร็จของหนัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฮ่องกง ซึ่งกระแสหนังเกรด 3 สามมิติ 3D Sex and Zen ดึงความสนใจของทุกคนไปแบบนี้ และย้ำว่าสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ความสำเร็จของอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนโดยรวม

"เติ้งเชา" (Deng Chao), "ซุนลี่" (Sun Li) ยอมรับ จดทะเทียนสมรสเป็นสามีภรรยากันมากว่า 1 ปีแล้ว

Submitted by canjamm on 5 พฤษภาคม, 2011 - 15:41

เป็นฝั่งเป็นฝาไปอีกคู่ สำหรับ "เติ้งเชา" (Deng Chao) และ "ซุนลี่" (Sun Li) ที่ได้ประกาศถึงข่าวดี ว่าทั้งคู่ได้จูงมือกันไปจดทะเบียนสมรส เป็นสามีภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว แต่ที่สร้างความแปลกใจให้กับทุกคนก็คือ การจดทะเทียนสมรสที่ว่า เกิดขึ้นมาตั้งแต่ 14 เดือนก่อนแล้ว แต่ทั้งสองเพิ่งจะมาเปิดเผยเรื่องให้ทุกคนได้ทราบกันเมื่อช่วงปลายเดือน เม.ย. ที่ผ่านมานี่เอง

"เราจดทะเทียนสมรสกันในวันเกิดของผม (8 ก.พ.) เมื่อปีก่อนครับ" เติ้งเชา วัย 32 ปี กล่าวถึงข่าวดีของเขากับแฟนสาวนักแสดงชื่อดัง ชุนลี่ ที่ได้ตัดสินใจใช้ชีวิตครอบครัวในฐานะสามีภรรยากันมามากกว่า 1 ปีแล้ว แต่เพิ่งมีโอกาสเปิดเผยให้ทุกคนได้รับรู้เมื่อเร็วๆนี้เอง

ซึ่ง เติ้งเชา และชุนลี่ ยังมีแผนจะจัดงานฉลองมงคลสมรสในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ด้วย โดยนักแสดงหนุ่มคนดังอธิบายถึงเหตุผลที่เขา และภรรยาปิดเรื่องดังกล่าวมามากกว่า 1 ปี ก็เพราะว่าต่างฝ่ายต่างวุ่นอยู่กับเรื่องงานของแต่ละคนนั่นเอง

"ผมอยากจะเปิดเผยเรื่องนี้มาตลอดอยู่แล้ว แต่หาโอกาสเหมาะๆไม่ได้เสียที ตอนแรกกะจะประกาศบนเวทีตุ๊กตาทองฮ่องกงน่ะครับ ถ้าเกิดคว้ารางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมได้ขึ้นมา แต่สุดท้ายก็แห้ว" เติ้งเชา กล่าวติดตลกถึงเรื่องการประกาศข่าวดีของเขา

เติ้งเชา ถือเป็นนักแสดงหนุ่มที่มาแรงที่สุดคนหนึ่งในวงการบันเทิงจีนยุคปัจจุบัน บทบาทเจ้าหน้าที่ยุติธรรม "เพ่ยตงไหล" ผู้มีผิวกายและสีผมสีขาวซีดในหนังฟอร์มยักษ์ Detective Dee and the Mystery of the Phantom Flame กลายเป็นตัวละครขโมยซีนที่ใคร ๆ ก็พูดถึง

ขณะที่ ชุนลี่ ก็เป็นนักแสดงหญิงแถวหน้าในวงการบันเทิง ที่มีส่วนร่วมในหนังฟอร์มใหญ่ มาแล้วหลายเรื่อง อาทิ Painted Skin, Fearless, Iron Road และ The Lost Bladesman

Manager Online

ระวัง!! กล่าวหา "แอนเจล่าเบบี้" (Angela Baby) ทำศัลยกรรมมีสิทธิ์โดนฟ้อง !!!

Submitted by canjamm on 3 พฤษภาคม, 2011 - 18:29

สื่อในฮ่องกงฉบับหนึ่งต้องลงข้อความขอโทษ "แอนเจล่าเบบี้" (Angela Baby) อย่างเป็นทางการ ภายหลังเสนอข่าวหมิ่นประมาท กล่าวหาว่านางแบบสาวคนดังผ่านการทำศัลยกรรมพลาสติกจนแทบจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

Three Weekly นิตยสารในฮ่องกงได้ลงข้อความขอโทษ แอนแจล่าเบบี้ อย่างเป็นทางการมีใจความว่า "Three Weekly ต้องขออภัยอย่างสุดซึ้งต่อคุณ แอนเจล่าเบบี้ จากที่รายงานข่าวก่อนหน้านี้ของเรา ได้สร้างความเสียหาย และทำให้เสียความรู้สึก"

ปัญหาที่เกิดขึ้นมีที่มาจากรายงานข่าวเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2010 ของ Three Weekly ที่อ้างว่านับจาก แอนเจล่าเบบี้ เข้าวงการบันเทิงมาตั้งแต่ 7 ปีก่อน เธอแทบจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน หลังผ่านการผ่าตัดศัลยกรรมหลายๆครั้งเ พื่อเปลี่ยนแปลงส่วนต่างๆบนใบหน้า อันเป็นข้อกล่าวหาที่ แอนเจล่าเบบี้ ต้องเผชิญอยู่ตลอดนับตั้งแต่มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมา

ซึ่งนางแบบสาวคนดังไม่พอใจกับเรื่องนี้มาก ถึงขั้นตัดสินใจใช้มาตรการทางกฎหมายเพื่อปกป้องชื่อเสียง และขอความช่วยเหลือจากแพทย์เพื่อพิสูจน์ว่าความสวยของเธอนั้นเป็นของธรรมชาติแท้ ... "หมอได้ตรวจสอบใบหน้าของฉันประมาณครึ่งชั่วโมง เพื่อหาว่ามีอะไรเสริมแต่งขึ้นมา หรือผิดปกติจากธรรมชาติของโครงหน้ารึเปล่า .... ฉันพยายามหาหลักฐานมาหักล้างเรื่องนี้ เพราะรู้สึกว่ามันกลายเป็นประเด็นที่พูดกันมากเกินไปแล้วค่ะ" แอนแจล่าเบบี้ กล่าวเมื่อปีก่อน หลังพบแพทย์เพื่อขอการรับรองว่าเธอไม่ได้ผ่านการทำศัลยกรรมมา

หลังได้รับคำขอโทษแล้ว แอนแจล่าเบบี้ กล่าวผ่านเว็บไซต์ส่วนตัวว่า "ที่จริงแล้วฉันก็จำไม่ได้แล้วนะคะ ว่าชินกับข้อกล่าวหาความเข้าใจผิดพวกนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่แล้ว ยังไงก็ขอบคุณบริษัทของฉันด้วย ที่ช่วยสร้างความยุติธรรมให้ ... และขอบคุณทุกคนที่จะช่วยส่งต่อข้อความนี้ออกไปเรื่อยๆด้วยค่ะ"

ในเวลาเดียวกันยังมีรายงานว่า หวงเสี่ยวหมิง นักแสดงชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ก็สนับสนุนการต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความจริงของหวานใจอย่างเต็มที่ เขายังช่วยเธอปฏิเสธข้อกล่าวหา และแสดงความมั่นใจว่า แอนเจล่าเบบี้ ไม่ได้สวยด้วยแพทย์อย่างแน่นอน

Manager Online

เปิดตัวหุ่นขี้ผึ้ง “ฟั่นปิงปิง” (Fan Bing Bing) ในชุดลายมังกรที่ “มาดามทุสโซ”

Submitted by canjamm on 2 พฤษภาคม, 2011 - 16:30

ดาราสาวสวยชาวจีน “ฟั่นปิงปิง” (Fan Bing Bing) ร่วมเปิดตัวหุ่นขี้ผึ้งของตนเองที่ “พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ” ในนครเซี่ยงไฮ้โดยเป็นหุ่นขี้ผึ้งที่สวมชุดลายมังกรอันโด่งดังซึ่ง “ฟั่นปิงปิง” เคยใส่อวดโฉมในการเดินพรมแดง ณ เทศกาลหนังเมืองคานส์เมื่อปีก่อนนั่นเอง

เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ฟั่นปิงปิง ได้ร่วมเปิดหุ่นขี้ผึ้งของเธอที่ พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ โดยหุ่นขี้ผึ้งของดาราสาวคนดัง ปรากฏโฉมภายใต้ชุดลายมังกรอันโด่งดัง ซึ่งเป็นชุดที่พูดถึงกันอย่างมากในเทศกาลหนังเมืองคานส์เมื่อปีก่อน

โดยในตอนนั้นเธอได้รับความสนใจจากสื่อตะวันตกเป็นอย่างมาก ถึงความสวยแบบเอเชีย รวมถึงการแต่งกายอันโดดเด่น จนถูกยกย่องว่าเป็นดาวเด่น บนพรมแดงของคานส์ปี 2010 คนหนึ่งเลยทีเดียว

ในทางตรงข้าม ฟั่นปิงปิง กลับต้องเคยถูกวิจารณ์ในทางลบจากเพื่อนร่วมชาติบางส่วน โดยมีสาเหตุมาจากชุดสีเหลืองทอง ลายมังกรของเธอ ที่หลายคนมองว่าเป็นชุดที่ไม่เหมาะสม, ดูโอเวอร์ โดยเฉพาะในทัศนะคติของชาวจีนซึ่งมองว่ามังกรเป็นของคู่กับบุรุษเพศมากกว่า และสำหรับผู้หญิงต้องเป็นหงส์เท่านั้น นอกจากนั้น สี และลวดลายของเสื้อผ้าชุดนี้ ยิ่งทำให้เธอถูกเสียดสีว่า อยากแต่งกายเลียนแบบจักรพรรดินี อีกด้วย…

ซึ่งตอนนั้นเจ้าตัวได้กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆว่า “ฟั่นปิงปิง เป็นคนธรรมดาๆค่ะ ไม่ได้วิเศษวิโสอะไร ฉันแค่อยากจะเผยแพร่วัฒนธรรมจีนผ่านชุดเสื้อผ้าของตัวเองเท่านั้นเอง"

ฟั่นปิงปิง วัย 29 ปี เป็นดาราสาวชาวจีนผู้โด่งดังที่สุดคนหนึ่งในยุคปัจจุบัน เธอมีผลงานเข้าฉายเมื่อปีที่แล้วถึง 5 เรื่อง ขณะที่ในปีนี้ก็มีหนังใหม่ๆรอเปิดตัวและถ่ายทำอยู่อีกมากมาย รวมถึงจะได้สวมบทบาทเป็น สมเด็จพระพันปีหลวงหลงยู่ ในหนังฟอร์มใหญ่ฉลอง 90 ปี พรรคคอมมิวนิสต์จีนเรื่อง The Founding of a Party ด้วย

Manager Online

“องค์หญิงกำมะลอ 2011” (Princess Returning Pearl 2011) มาแล้ว! เปลี่ยนนักแสดงใหม่ยกเซ็ต

Submitted by canjamm on 30 เมษายน, 2011 - 14:34

คอภาพยนตร์จีนหลายคนคงยังจำซีรี่ย์ “องค์หญิงกำมะลอ” ( 还珠格格 ) ที่เคยสร้างกระแสฟีเวอร์ไปทั่วเอเชียเมื่อกว่าสิบปีก่อนได้ องค์หญิงกำมะลอเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของ “ฉงเหยา” นักเขียนและผู้สร้างละครชื่อดังของไต้หวัน เมื่อครั้งเริ่มฉายในปี 1998 ได้แจ้งเกิดดารานำแสดงได้แก่ เจ้าเวย, หลินซินหยู, ซูโหย่วเผิง, โจวเจี๋ย และแม้กระทั่งดารารุ่นใหญ่อย่างจางเถี่ยหลิน ให้ดังเป็นพลุแตก และเกิดกระแสเรียกร้องจากแฟนๆ ให้มีการสร้างซีรี่ย์ภาคสองในปีต่อมา

อานิสงส์จากซีรี่ย์เรื่องนี้ส่งผลให้ดารานำทั้งชายหญิงมีงานพุ่งชนไม่ขาดสาย กระทั่งเมื่อฉงเหยาตัดสินใจสร้างภาคสาม ซึ่งเป็นบทสรุปเรื่องราวความรักความแค้นทั้งหมดของซีรี่ย์เรื่องนี้ ดารานำชุดเดิมกลับงานชุกจนไม่อาจเทคิวให้ได้ เป็นเหตุให้บทของเสี่ยวเยี่ยนจื่อ, จื่อเวย, องค์ชายห้า หรือแม้แต่ฮ่องเต้เฉียนหลง มีอันต้องเปลี่ยนตัวแสดงโดยให้ หวงอี้, หม่าอี๋ลี่, กู่จี้ว์จี, และตี้หลุง รับไม้ต่อแทน

และองค์หญิงกำมะลอภาคสามนี่เอง ที่นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ทั้งเรื่องบทโทรทัศน์ที่มีเนื้อหาดราม่าเครียดกว่าสองภาคแรก รวมทั้งตัวนักแสดงใหม่ที่หลายคนมองว่าไม่อาจเทียบเท่าคนเก่าได้

นี่อาจเป็นปมลึกๆ ในใจของฉงเหยาที่อยากจะแก้ไข “องค์หญิงกำมะลอ” ผลงานสร้างและประพันธ์ที่ตัวเองรักที่สุดเรื่องหนึ่งให้สมบูรณ์ไร้ที่ติ จึงเป็นที่มาของ “โครงการปัดฝุ่นคืนชีพองค์หญิงกำมะลอ” โดยฉงเหยาที่หายหน้าหายตาจากสื่อไปหลายปีให้สัมภาษณ์ว่า เธอได้ปรับปรุงและเรียบเรียงนิยายเรื่ององค์หญิงกำมะลอขึ้นใหม่ “ความจริงฉันแค่ต้องการรวมสามภาคให้เป็นหนึ่งเดียวกัน นึกว่าเป็นงานง่าย แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากเริ่มงานแล้ว ยิ่งเขียนก็ยิ่งเยอะขึ้น นอกจากฉากที่ฉันชอบมากและตัดไม่ลงแล้ว ฉันยังแต่งเพิ่มอีกเกือบ 70%” ในจำนวนฉากที่แต่งขึ้นใหม่นี้ ฉงเหยายังได้เพิ่มตัวละครชายชาวต่างชาติชื่อ “เบนจามิน” เข้ามาเป็นรักสามเส้าระหว่างเสี่ยวเยี่ยนจื่อกับองค์ชายห้าด้วยอีกต่างหาก

"Twins" เตรียมกลับมาอีกครั้ง ครบสิบปี อุ่นเครื่องด้วยละครซีรีย์

Submitted by canjamm on 30 เมษายน, 2011 - 14:01

หลังจากที่ต่างก็เจอมรสุมข่าวกันทั้งสองสาวจนต้องแยกย้ายกันไป มาตอนนี้ Twins ที่ประกอบด้วย "อาเจียว" (Gillian Chung) และ "อาซา" (Charlene Choi) ก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อต้อนรับการครบรอบ 10 ปีของวง Twins ด้วยการอุ่นเครื่องเล็กๆชิมลางซีรีย์เรื่องใหม่

เพื่อเป็นการต้อนรับการครบรอบ 10 ปีในวงการบันเทิงของ Twins ทั้ง 2 สาว ก็ได้รับงานละครซีรีย์ของจีนแผ่นดินใหญ่ที่มีชื่อว่า Happy Marshal (歡樂元帥) ร่วมกับ ลีโอ กู (Leo Ku) หรือ กูจี้จี และ โรเจอร์ กัว (Roger Kwok) หรือ กัวจิ้นอัน

ซึ่งการกลับมารวมตัวกันครั้งนี้ของอาเจียวและอาซา เรียกได้ว่าผ่านไปด้วยดี ซึ่งตั้งแต่เริ่มงาน ทั้งคู่ต่างก็มีความสุขที่ได้ทำงานร่วมกันอีกครั้ง และยังหวนระลึกถึงช่วงเวลาเก่าๆในอดีตที่ทั้งคู่เคยทำงานด้วยกันมาตลอด

อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้ อาเจียว เป็นเพียงดารารับเชิญในเรื่องเท่านั้น ซึ่งเธอและอาซาจะใช้การแสดงครั้งนี้เป็นเหมือนการอุ่นเครื่อง เพื่อฉลองต้อนรับการครบรอบ 10 ปีในวงการบันเทิงของทั้งคู่ในฐานะคู่ดูโอจากวง Twins

ผู้กำกับซีรีย์เรื่องนี้ได้เผยว่าตัวละครในเรื่องนี้เดิมมาจาก Journey to the West หรือ ไซอิ๋ว แต่ไม่ใช่บทละครดั้งเดิมแต่อย่างใด กูจี้จี จะรับบทเป็น ตือโป๊ยก่าย ขณะที่อาซารับบทเป็นสาวมังกรน้อยและบทของอาเจียวเป็นบทใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาอีกที

Manager Online

นางแบบไต้หวันสุดช้ำ อดีตแฟนปูดข่าวขายตัว, ขู่ปล่อยคลิป

Submitted by canjamm on 29 เมษายน, 2011 - 19:51

ต้องออกมาแก้ข่าวกันเป็นการใหญ่สำหรับ "ชูชู" (Shu Shu / 舒舒) นางแบบขวัญใจหนุ่ม ๆ ไต้หวัน หลังโดน "จูเลียน หยาง" (Julian Yang / 楊士萱) อดีตแฟนหนุ่มนักแสดงของเธอ ออกมาปล่อยข่าวเสียๆ หายๆ ทั้งเรื่องการขายตัว รวมถึงอาจจะนำภาพถ่ายและคลิปวิดีโอส่วนตัวปล่อยทางอินเตอร์เน็ตเพื่อทำลายชื่อเสียงด้วย

นางแบบเซ็กซี่วัย 26 ปี ชูชู ตัดสินใจออกมาแก้ข่าวเพื่อตอบโต้ จูเลียน หยาง อดีตแฟนหนุ่ม ภายหลังเขาได้ส่งข้อความ SMS มาขู่ว่าจะปล่อยภาพหวิวส่วนตัวที่ถ่ายเอาไว้ขณะอยู่ด้วยกัน และก่อนหน้านี้เขาก็ได้ปล่อยข่าวสร้างเรื่อง ว่าเธอมีอาชีพพิเศษเป็นการขายบริการทางเพศ เพื่อหารายได้สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกินตัวมาแล้ว

โดย จูเลียน หยาง ได้ให้สัมภาษณ์แฉอดีตหญิงคนรักกับสื่อหลายๆสำนักในไต้หวันว่าระยะหลัง ชูชู ซึ่งไม่ได้มีงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แต่กลับมีเงินจับจ่ายใช้สอยมากมาย และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่หรูหรา ทั้งเช่าห้องราคาร่วม 30,000 เหรียญไต้หวัน (ประมาณ 30,900 บาท) ต่อเดือน และใช้เวลาในแต่ละวันไปกับการช็อปปิ้งกับเพื่อนๆ โดยอาศัยรายได้จากอาชีพพิเศษอย่างการขายบริการทางเพศนั่นเอง

ซึ่งเรื่องนี้ยังไปสอดคล้องกับข่าวการทะลายแก็งค์ค้าบริการทางเพศ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไต้หวัน ซึ่งไม่เพียงสามารถจับกุมตัวหัวหน้าขบวนการได้เท่านั้น แต่ยังพบหลักฐานเป็นชื่อของเหล่าดาราหญิงดาวรุ่งที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมกามเหล่านั้น ซึ่งปรากฏเป็นชื่อตัวอักษรย่อ L, S และ K ในหน้าสื่อไต้หวัน จนหลายฝ่ายคาดเดากันไปว่า S ก็คือนางแบบสาว ชูชู นั่นเอง

จูเลี่ยน หยาง ยังเคยออกมาวิจารณ์อดีตหญิงคนรักในทางเสียๆหายๆ ว่าเธอมักจะปฏิบัติตัวสูงส่งราวกับเป็น หลินจือหลิง (Lin Chi Ling) นางแบบคนดังแห่งไต้หวัน ทั้งๆที่ตัวเองก็ยังไม่ได้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากมายอะไรเลย

"เขากุเรื่องขึ้นมาทั้งหมดค่ะ ... เขาเป็นพวกโรคจิตไปแล้ว เราเลิกกันหลายครั้งเพราะเขาชอบใช้ความรุนแรงกับฉัน ซึ่งพอเลิกกันเขาก็จะมาคุกเข่าขอโทษ อ้อนวอนให้ฉันยกโทษให้ทุกที" นางแบบสาวกล่าว "ถ้าเรื่องพวกนี้คลี่คลายไปได้ ฉันก็อยากจะขอพักงานจากวงการบันเทิงไปซักพักเหมือนกัน และอาจจะหาโอกาสเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศค่ะ"

“ฮีบี้ (Hebe) - S.H.E” ควงสาวหล่อช็อปปิ้ง

Submitted by canjamm on 29 เมษายน, 2011 - 19:47

ข่าวลือเรื่องรสนิยมชอบเพศเดียวกันของสาว "ฮีบี้" (Hebe) แห่งวง S.H.E จากไต้หวันนั้นเป็นที่พูดถึงมาโดยตลอด รวมถึงครั้งล่าสุดเมื่อมีหลักฐานซึ่งยืนยันถึงเรื่องถูกเผยแพร่ออกมาอีกครั้ง กับภาพถ่ายและรายงานข่าวที่ว่านักร้องสาวชื่อดัง ได้ใช้เวลาพักผ่อน ไปเที่ยวกับเพื่อนสาวหล่อคนหนึ่ง

สื่อแท็ปลอยด์ในฮ่องกงรายหนึ่งได้รายงานว่า มีคนพบเห็น ฮีบี้ หรือ เถียนฟู่เจิน วัย 28 ปี สมาชิกหนึ่งใน 3 สาว S.H.E ไปเดินช็อปปิ่ง และดูหนังกับเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อว่า หรั่วฮั่น โดยฝ่ายหลังมีบุคลิกไปทางสาวหล่อ แต่งตัวคล้ายผู้ชายด้วยเสื้อลายตารางหมากรุก และสวมหมวก ขณะที่นักร้องสาวคนดังแต่งกายด้วยชุดสีดำ และแม้เธอจะไม่ได้แต่งหน้าแต่งตา แต่ก็ยังเป็นที่จดจำได้

โดยข่าวระบุว่าทั้งคู่เดินช็อปปิ้งด้วยกัน จนกระทั่งเวลาผ่านไปได้ซักหน่อย จึงซื้อป๊อปคอร์น แล้วก็เดินเข้าโรงหนังไป และหลังจากนั้นก็ยังไปทานอาหารเย็นด้วยกันอีก

มีหลายคนคาดเดาว่า ฮีบี้ คงจะรู้สึกเหงาอยู่ไม่น้อย ในช่วงเวลาที่ S.H.E อยู่ระหว่างพักวง นอกจากนั้นเพื่อนๆร่วมวงคนอื่นๆ ก็ดูเหมือนจะมีคู่กันไปหมดแล้ว ทั้ง เซลีน่า ที่เกือบจะได้เข้าประตูวิวาห์ไปแล้ว แต่งานมงคลต้องถูกเลื่อนออกไป ภายหลังประสบอุบัติเหตุถูกไฟคลอกระหว่างการรับงานในเมืองจีน ขณะที่ เอลล่า ก็เคยออกมาให้ข่าวว่าเธอเองก็อยากจะมีครอบครัวแล้วเช่นเดียวกัน

Manager Online

"เฉินฮุ่ยหลิน" (Kelly Chen) ยิ้มได้อีกครั้ง หลังแท้งลูกแฝด

Submitted by canjamm on 28 เมษายน, 2011 - 20:22

นับตั้งแต่เสียลูกแฝดไปเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา "เคลลี เฉิน" (Kelly Chen) หรือ "เฉินฮุ่ยหลิน" นักแสดงสาวชื่อดังก็ยังอยู่ในช่วงพักรักษาตัวเป็นเวลา 2 เดือน ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวเริ่มทำใจได้แล้วพร้อมกับมีสีหน้ายิ้มแย้มทำให้แฟนๆหายห่วงได้ หลังเจ้าตัวโพสท์ภาพแช่มชื่นขณะอยู่กับลูกชาย

โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เฉินฮุ่ยหลิน ได้เข้าร่วมงานเปิดตัวร้าน 3D-GOLD แห่งใหม่ พร้อมกับตัดริบบิ้นร่วมกับเพื่อนซี้อย่าง เอริค ถาง พร้อมรับทราบถึงความห่วงใยที่แฟนๆ, สื่อ และเหล่าเพื่อนๆมีต่อเธอเป็นอย่างมาก หลังจากที่เธอต้องเสียลูกแฝดเพศหญิงขณะตั้งครรภ์ได้ 5 เดือนไป

ส่งให้เมื่อวานนี้นักแสดงสาวชื่อดังได้อัพโหลดภาพของเธอกับ หลอ ซิง ลูกชายของเธอซึ่งเธอเรียกเขาว่า "เด็กชายขนมจีบกุ้ง" โดยทั้งคู่ถ่ายภาพร่วมกันที่ทะเล พร้อมเขียนข้อความถึงทุกคนว่า "ขอบคุณ" เพื่อแทนความรู้สึกขอบคุณที่ทุกๆคนห่วงใยและคอยเป็นกำลังใจให้กับเธอ นอกจากนั้นเธอยังเขียนข้อความเอาไว้ในบล็อกด้วยว่า

"เมื่อไม่กี่เดือนก่อน ฉันได้รับข้อความที่อบอุ่นมากมาย ฉันอยากจะขอบคุณแต่ละคนจริงๆทั้งคนในครอบครัว, เพื่อนๆ, แฟนๆ ,สื่อ และทุกๆคนที่เป็นห่วงในตัวฉัน ทั้งคำอวยพรและความห่วงใยที่พวกคุณมีให้ฉัน ฉันได้รับทั้งหมดค่ะ!! หลังๆมานี้สุขภาพร่างกายฉันค่อยๆแข็งแรงขึ้นแล้ว ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับฉันแล้วค่ะ ตอนนี้ หลอ ซิง โตขึ้นมากเลย! เขาแสดงออกมากขึ้นมากขึ้น เขาตลกมากๆ อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ฉันจะกลับมาทำงานอีกครั้ง เมื่อเวลานั้นมาถึง ฉันจะได้เจอพวกคุณทุกคน!! ไว้เจอกันค่ะ!"

ตามรายงานระบุว่าทรงผมของหลอ ซิง ลูกชายของเธอนั้นทำให้เขาดูเหมือนเด็กผู้หญิงเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดข้อสงสัยกันว่าเป็นเพราะเฉินฮุ่ยหลินต้องการลูกสาวมากขนาดนั้นเลยหรือ? ซึ่งประเด็นนี้ทางตัวแทนของนักแสดงสาวได้ออกมาอธิบายว่าเฉินฮุ่ยหลินเป็นคนตัดผมลูกชาย เธอรู้สึกว่าลูกชายผมหนาเหมือนเธอและเธอก็อยากให้ลูกชายมีสไตล์เป็นของเขาเอง และด้วยผมยาวทรงนี้เองที่ทำให้มีคนพูดกันว่าลูกชายของเธอช่างเหมือน วิงกี้ หนูน้อยจาก 'Little Sister Man Ling' เป็นอย่างมาก ซึ่งเฉินฮุ่ยหลินเองก็ยอมรับรู้สึกเหมือนกันว่าทั้งคู่เหมือนกันจริงๆ และที่สำคัญทั้งสองคนยังน่ารักมากๆอีกด้วย

Manager Online