Micky Yoochun [TVXQ / JYJ] (K)

นักแสดงละครเรื่อง Ripley ของทางสถานี MBC ถูกปฏิเสธจากรายการ Come to Play และทำให้ชาวอินเทอร์เน็ทหลายคนสนใจถึงเหตุผล

ละครเรื่องนี้มีนักแสดงคือคิมซึงวู (Kim Seung Woo), คังเฮจอง (Kang Hye Jung), ลีดาเฮ (Lee Da Hae) และปาร์คยูชอน (Park Yoochun) มีการพูดคุยที่จะมาเป็นแขกรับเชิญในรายการ Come to Play ในเดือนนี้

แต่โชคร้ายที่โปรดิวเซอร์รายการขอร้องทีม Ripley ว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะไม่ให้ปาร์คยูชอนมาร่วมในรายการ และมีเพียงแค่แขกรับเชิญ 3 ท่านมาเป็นแขกในรายการ ท้ายสุดทีมนักแสดงของละครเรื่อง Ripley ตัดสินใจที่จะปล่อยไป ราวกับว่าไม่เคยมีพูดคุยมาร่วมรายการกันมาก่อน

เกี่ยวกับเรื่องฟ้องศาลกับทาง SM Entertainment ปาร์คยูชอนและสมาชิก JYJ ต้องฟันฝ่าอุปสรรคมากมายในการที่จะมาร่วมรายการออกอากาศ แม้กระทั่งเวลานี้ก็ตาม ทำให้หลายๆ คนสงสัยว่านี่เป็นการกระทำกดดันด้านหลังม่านอีกครั้งหรือไร

ตัวแทนของรายการออกอากาศที่ไม่เปิดเผยกล่าวว่า “ละครเรื่อง Sungkyunkwan Scandal ของปาร์คยูชอนได้รับความนิยมอย่างมาก แต่เขาไม่สามารถเป็นแขกรับเชิญที่รายการวาไรตี้ที่ไหนได้เลย ผมรู้สึกว่ามันคงเป็นเช่นเดียวกับทาง MBC ดูเหมือนว่าจะยังมีข้อขัดแย้งระหว่างทีมงานละครและรายการวาไรตี้ของ MBC”

JYJ บอยแบนด์สุดดังแห่งแดนกิมจิ ต้องวุ่นวายกับปัญหาทางกฎหมายอีกครั้ง เมื่อพวกเขาได้ตัดสินใจฟ้องร้อง Avex Entertainment ต้นสังกัดผู้เผยแพร่ผลงานในประเทศญี่ปุ่น ว่ามีส่วนขัดขวางการจัดคอนเสิร์ตการกุศลของพวกเขาในแดนปลาดิบ

JYJ บอยแบนด์ที่ประกอบไปด้วยสามหนุ่มอดีตสมาชิกของ ดงบังชินกิ ได้แก่ คิมแจจุง (Kim Jae Joong), คิมจุนซู (Kim Jun Su) และปาร์คยูชอน (Park Yoo Chun) มีแผนจะจัดงานคอนเสิร์ตเพื่อหารายได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในประเทศญี่ปุ่น แต่สุดท้ายคอนเสิร์ตต้องถูกยกเลิกไป เมื่อเจ้าของสถานที่ได้ขอยกเลิกสัญญาการจัดคอนเสิร์ต หลังถูกกดดันจาก Avex Entertainment บริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่

กลายเป็นเหตุให้ C-JeS Entertainment บริษัทต้นสังกัดของ JYJ ในเกาหลีใต้ และ Zak Corporation ผู้ดำเนินการจัดคอนเสิร์ตได้ร่วมกับยื่นเอกสารที่ศาลเขตโตเกียว เพื่อฟ้องร้อง Avex แล้ว

ฝ่าย Avex ที่ได้ออกแถลงการณ์ในเรื่องนี้ ไม่ได้ปฏิเสธการกระทำดังกล่าว แต่อ้างว่าสิ่งที่ทำไปนั้น เป็นส่วนหนึ่งของการปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทเท่านั้น “บริษัทของเรามีสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในกิจกรรมของ JYJ ที่ประเทศญี่ปุ่น และเราเพียงแค่พยายามยับยั้งการละเมิดต่อสิทธิ์ดังกล่าวเท่านั้น”

Avex เคยเป็นต้นสังกัดที่ดูแลการทำงานของ ดงบันชินกิ ในประเทศญี่ปุ่น และต่อมาก็ทำหน้าที่เดียวกันนี้ให้กับ JYJ ด้วย แต่แล้วก็เกิดปัญหาขึ้น เมื่อฝ่ายของ Avex ได้ออกมาประกาศยุติการเผยแพร่ผลงานของ JYJ ในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่เดือน ก.ย. ปีก่อน โดยอ้างว่าพวกเขาตรวจสอบพบว่าผู้บริหารของบริษัท C-JES Entertainment ที่ดูแลการจัดการธุรกิจต่างๆให้กับ JYJ มีชื่อพัวพันอยู่กับองค์กรอาชญากรรม

ไม่เพียงแต่ปัญหาในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น JYJ ยังต้องเผชิญหน้ากับข้อพิพาทในการออกผลงานที่ประเทศบ้านเกิดด้วย เพราะแม้พวกเขาจะสามารถวางจำหน่ายผลงาน และมีงานแสดงได้ แต่กลับพบกับความยากลำบากในการโปรโมตผลงานต่างๆ เนื่องจากไม่สามารถไปร่วมรายการบันเทิงต่างๆได้อย่างอิสระ

โดยมีข้อกล่าวหาว่าอดีตต้นสังกัดของสามหนุ่มอย่าง SM Entertainment ที่มีอิทธิพลมากมายในวงการบันเทิง คือผู้อยู่เบื้องหลังที่ทำให้ JYJ ไม่สามารถทำงานในเกาหลีใต้ได้อย่างราบรื่น

Manager Online

ยูชอน (Yoochun) จาก JYJ เพิ่งถูกส่งเข้าโรงพยาบาลเนื่องจากกระเพาะอักเสบแบบเฉียบพลัน

ในวันที่ 27 เมษายนตัวแทนของเอเจนซี่ของเขาเปิดเผยว่า “ในวันที่ 25 เมษายนยูชอนถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินหลังจากที่เขาได้รับความทรมานจากการเจ็บปวด เขาถูกวินิจฉัยโรคว่าเป็นกระเพาะอักเสบ ดังนั้นเขาจึงต้องอยู่ที่โรงพยาบาล ตารางการแสดงละครของเขาต้องถูกเลื่อนเวลาออกไป เพื่อที่เขาจะได้ฟื้นฟูสภาพร่างกายของเขา”

พวกเขากล่าวเพิ่มว่า “ตอนนี้เพราะว่าเขาต้องถ่ายทำละครเรื่อง Ripley ของทางสถานี MBC พวกเรารู้สึกว่าตารางงานของเขาในการทำงานต่างประเทศสำหรับคอนเสิร์ตของเขา และอีกทั้งงานละครจึงทำให้ภูมิร่างกายของเขาตกลงไป”

ยูชอนออกจากโรงพยาบาลในวันที่ 27 เมษายน และจะพักผ่อนที่บ้านก่อนที่จะเริ่มการถ่ายทำละครอีก

แฟนๆ ชาวจีนต่างเชื่อว่า G-Dragon จากวง Big Bang เป็นไอดอลผู้นำของศิลปินกระแสคลื่นเกาหลีที่มีแฟชั่นเป็นเอกลักษณ์

ทางโฮมเพจจีนของ TV Daily ที่ชื่อว่า Koreastardaily เพิ่งทำโพลสำรวจด้วยการโหวดจากชาวอินเทอร์เน็ทจำนวน 14,547 คนจากจีน, ไต้หวัน และฮ่องกงว่า “ใครในกลุ่มไอดอลศิลปินกระแสคลื่นเกาหลีคือคนที่มีแฟชั่นเป็นเอกลักษณ์ที่ดีที่สุด?”

ในการสำรวจนี้ G-Dragon จากวง Big Bang ได้อันดับ 1 ด้วยเสียงโหวด 37.21% หรือ 5,413 โหวด เนื่องจากเขาเป็นคนที่มีสไตล์ที่แตกต่างที่แฟนๆ ชื่นชอบ ด้วยสไตล์แฟชั่นที่มีเอกลักษณ์ของเขายังทำให้เขาถูกทาบทามเป็นพรีเซ็นเตอร์เครื่องแต่งกายหลายๆ แบรนด์ และมีอีกหลายแบรนด์ที่เป็นแบรนด์หรูหราอีกด้วย

คีย์ (Key) จากวง SHINee ได้อันดับ 2 ด้วยเสียงโหวด 25.58%, คิมฮยอนจุง (Kim Hyun Joong) จากวง SS501 ได้อันดับ 3 ด้วยเสียงโหวด 13.15%, ปาร์คยูชอน (Park Yoochun) จาก JYJ ได้อันดับ 4 ด้วยเสียงโหวด 12.23% และคิมแจจุง (Kim Jae Joong) ได้อันดับ 5 ด้วยเสียงโหวด 11.83%

แฟนๆ JYJ จะรู้สึใจละลายด้วยภาพนี้ ซึ่งเป็นภาพของแบรนด์ NII ที่มีแจจุง (Jae Joong) และยูชอน (Yoochun) พร้อมกับนักแสดงหญิงรุ่นเด็กคิมยูบิน (Kim Yoo Bin)

ในวันที่ 18 เมษายนที่แบรนด์ได้อัพโหลดภาพทางออนไลน์ด้วยหัวข้อว่า “คุณได้รอมาแสนนานใช่หรือไม่? เริ่มตั้งแต่วันนี้ พวกเราจะค่อยๆ เปิดตัวทีละหนึ่งๆ!”

ทีมฟุตบอล FC Men ที่เป็นทีมของซีลิบิตี้ต่างๆ มาร่วมกันเพื่อกิจกรรมการกุศลโดยมีจุนซู (Junsu) จาก JYJ เป็นหัวหน้าทีมจะมีการจัดการแข่งขันกระชับมิตรอีกครั้งใน 2011 Peace Star Cup Celebrity Soccer Championship

โดยที่ FC Men ประกอบไปด้วย ยูชอน (Yoochun) และแจจุง (Jae Joong) จาก JYJ, คิมฮยอนจุง (Kim Hyun Joong) จากวง SS501, ดูจุน (Doo Joon) และคิควาง (Ki Kwang) จากวง B2ST, ชางมิน (Changmin) จากวง 2AM, มินวู (Min Woo) จากวง Shinhwa, คิมจุนโฮ (Kim Junho) ที่เป็นพี่ชายของจุนซู, ซงจุงกิ (Song Joong Ki), คิมบอม (Kim Bum), อิมจูฮวาน (Im Ju Hwan), ปาร์คกอนฮยอง (Park Gun Hyung), ปาร์คซองกวาง (Park Sung Gwang) ฯลฯ โดยมีโค้ชคือจองซองรยอง (Jung Sung Ryong) ที่เป็นนักเล่นบอลจริงๆ ส่วนปาร์คจิซอน (Park Ji Sun) เป็นผู้จัดการ

ซึ่งทีม FC Men จะแข่งกับ Super Stars ที่มีหัวหน้าทีมคือนักแสดงชายจองจุนโฮ (Jung Jun Ho) นอกจากนั้นจะแข่งกับ FC Libero ที่มีหัวหน้าทีมคือนักแสดงตลกโซคยองซอค (Seo Kyung Suk) และแข่งกับ FC Miracle ที่มีหัวหน้าทีมคือนักแสดงตลกคิมยงมัน (Kim Yong Man) อีกด้วย

จุนซูเขียนข้อความว่า

“สวัสดีครับนี่คือหัวหน้าทีมซีลิบิตี้ FC Men ครับ
ตอนนี้พวกเราเข้าร่วมแข่งขันของ Peace Starcup ในปีที่ 5
เพราะว่าพวกเราเป็นทีมหนึ่งที่ไม่ได้รวมตัวกันนานนัก และถึงแม้จะยังขาดทักษะไปบ้าง แต่ผมไม่เชื่อว่าความรักในการเล่นบอลของพวกเราจะทำให้ทีมของเราสู้ทีมอื่นไม่ได้
พวกเราทุกคนต่างตื่นเต้นที่สามารถมากร่วมใน Peace Starcup นี้ได้ และเพราะว่ามันเป็นการแข่งขันที่เริ่มต้นด้วยความตั้งใจดี ผมรู้สึกว่าผมสามารถสัมผัสถึงจิตใจที่เป็นสุขที่ได้
ผมยังไม่สามารถนอนหลับลงได้ เวลาที่ผมคิดว่าพวกเราต้องแข่งบอลกับพวกรุ่นพี่ที่ผมเคารพได้ ผมหวังว่าจะไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ และจะเป็นการแข่งขันที่สนุกสนาน
ผมไม่ได้อยากเข้าร่วมการแข่งขันแค่ปีนี้ แต่ยังอยากเข้าร่วมปีหน้าอีกด้วย
กรุณาให้ความรักในการแข่ง Peace Starcup และให้กำลังใจสนับสนุนไม่เพียงแค่ FC Men เท่านั้น แต่ทีมอื่นๆ ด้วยเช่นกันครับ”

ในวันที่ 2 และ 3 เมษายนที่แจจุง (Jae Joong) จาก JYJ ได้เปิดตัวในฐานะผู้กำกับคอนเสิร์ตครั้งแรกสำหรับคอนเสิร์ต JYJ World Tour ที่กรุงเทพ ประเทศไทย

ไม่เพียงแค่เขากำกับเวที แต่ทั้งระบบเสียงและแสงอีกด้วย เขาทุ่มเทให้กับงานนี้ด้วยการเดินทางมาที่ประเทศไทยก่อน 2 สัปดาห์ที่คอนเสิร์ตจะแสดง เพื่อเตรียมตัวเขาให้คุ้นเคยกับบรรยากาศและไปร่วมการเตรียมตัวขั้นสุดท้าย

จุนซู (Junsu) แสดงความคิดเห็นว่า “พวกเราเริ่มเรียกพี่เขาว่า “ผู้กำกับคิม” ครับ นั่นคือบทบาทที่สำคัญมากของเขาในคอนเสิร์ตนี้”

ในการสัมภาษณ์กับทาง Sports Chosun แจจุงถูกขอให้อธิบายความคิดของเขาในการเริ่มต้นงานผู้กำกับนี้ครั้งแรก เขาตอบว่า “ผมได้เรียนรู้มากมายจากประสบการณ์ครั้งนี้ ในเรื่องของขนาดคอนเสิร์ตแล้ว ผมไม่มั่นใจว่ามันใหญ่กว่าคอนเสิร์ตที่พวกเราจัดในฐานะนักร้องใหม่หรือไม่ แต่ผมซ้อมเยอะมากครับ”

เมื่อถามความรู้สึกของการที่ได้กลายมาเป็นผู้กำกับแล้ว “ผมมักสนใจในการกำกับมาตลอด มีผู้กำกับมากมายมาร่วมทำคอนเสิร์ตให้กับพวกเรา แต่มีไม่มากนักที่เข้าใจในความรู้สึกจริงๆ ของนักร้อง มันจึงเป็นเหมือนความฝันของผมที่จะช่วยสร้างสรรค์คอนเสิร์ตที่รวมไอเดียของนักร้องและผู้กำกับเป็นหนึ่งเดียวกัน”

แจจุงถูกขอให้ลองบอกรายชื่อที่สำคัญสำหรับคอนเสิร์ตนี้ “มากกว่า 80% ของคอนเสิร์ตนี้ถูกเตรียมตัวด้วยสมาชิกโดยตรง พวกเราพยายามอย่างหนักเพื่อสร้างสรรค์คอนเสิร์ตหนึ่งที่จะโชว์ความเป็นตัวของพวกเราในทัวร์คอนเสิร์ตระดับโลก มันจะเป็นเวทีที่เน้นที่เพลงของพวกเราครับ”

ในการปิดการสัมภาษณ์ แจจุงเปิดเผยถึงความรู้สึกของเขาในช่วง 8 เดือนนี้ว่า “มันเป็นเรื่องยากมาก ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ สิ่งที่พวกเราต้องทำคือแค่หยิบช้อนที่วางอยู่บนโต๊ะอาหารเข้าปาก แต่ครั้งนี้พวกเราต้องทำอาหารบนโต๊ะเอง อย่างไรก็ตามผมคิดว่า ถึงแม้ว่าครั้งนี้จะยากจากจุดยืนนี้ ผมก็ไม่เป็นไรและพร้อมที่จะทำครับ”

ในวันที่ 2 และ 3 เมษายนที่ JYJ เริ่มต้นคอนเสิร์ต World Tour ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทยที่อิมแพคอารีน่า คอนเสิร์ต JYJ World Tour นี้มีแฟนๆ มาชมทั้งหมดจำนวน 22,000 คน พิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นศิลปินกระแสคลื่นเกาหลีที่ยังได้รับความนิยมไม่เปลี่ยนแปลงของพวกเขา

คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของพวกเขาอย่างเป็นทางการ หลังจากแยกตัวออกมาจากทาง SM Entertainment และตัวแทนของพวกเขาทั้งเกาหลีและต่างประเทศต่างเฝ้าจับตามองกิจกรรมนี้

สมาชิกยังคงไม่ลืมที่จะขอบคุณแฟนๆ ของพวกเขาในคอนเสิร์ตครั้งนี้สำหรับการที่ไม่ลืมพวกเขา และการที่ยอมใช้ช่วงเวลานี้มาร่วมคอนเสิร์ตครั้งนี้กับพวกเขา ในคอนเสิร์ตนี้มีการแสดงเลเซอร์ที่ประทับใจทุกๆ คน และพวกเขายังร่วมกันแสดงด้วยเพลง Empty, IDS, Nine และ Pierrot

นอกจากนั้นแฟนๆ ชาวไทยยังเป็นแฟนๆ กลุ่มแรกที่ได้ยินเพลงไลฟ์เปิดตัวของ Untitled Song Part 1 ซึ่งเป็นเพลงจากอัลบั้มที่จำหน่ายดีที่สุดชุดใหม่สุดของพวกเขา JYJ Music Essay

แล้วพวกเขายังแสดงเพลงใหม่ที่พวกเขาแต่งเองและเขียนเนื้อร้องเองอีกด้วย คือ เพลง Get Out, In Heaven, Boy’s Letter และ You Are

ยูชอน (Yoochun) กล่าวว่า “ผมรู้สึกภูมิใจมากที่พวกเรามีเพลงพอที่จะจัดคอนเสิร์ตหนึ่งได้ ในรูปแบบทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลก พวกเราอยากฝากความทรงจำและความประทับใจในการแสดงของพวกเราครั้งนี้ให้มากกว่า Showcase ครั้งฤดูใบไม้ร่วง ถ้าพวกเราพอใจในคอนเสิร์ตนี้ ก็จะเป็นช่วงเวลาที่ให้พวกเราย้อนกลับไปมองและสำรวจตัวเองว่าขาดทักษะอะไรบ้าง”

จุนซู (Junsu) กล่าวเพิ่มว่า “ผมรู้สึกภูมิใจในตัวพี่แจจุงที่กำกับคอนเสิร์ตนี้มาก ถึงแม้ว่าพวกเราไม่ได้มีเวลาเตรียมตัวมากนัก แต่เขาได้ทำอย่างดีที่สุด และไม่เคยแม้กระทั่งสักนิดเดียวที่ทำให้ผมรู้สึกไม่สะดวกสบายในคอนเสิร์ตนี้”

ทัวร์คอนเสิร์ตนี้จะแสดงที่ไต้หวันในวันที่ 23 เมษายนนี้ และที่กรุงปักกิ่งในวันที่ 7 พฤษภาคม นอกจากนั้นยังจะแสดงที่เมืองต่างๆ ที่สหรัฐฯ อีก 4 เมือง และปิดการแสดงที่เกาหลีในวันที่ 11 และ 12 มิถุนายน

1. Boy’s Letter – lyrics by Jaejoong

เรียกได้ว่าคุ้มค่าการรอคอยสำหรับแฟนๆสาวกของ 3 หนุ่ม "JYJ" ที่ประกอบด้วย "คิมแจจุง" (JaeJoong), "ปาร์คยูชอน" (Yoochun) และ "คิมจุนซู" (Junsu) ที่พวกเขาพากันมาเปิดเวิล์ดทัวร์เมืองไทยก่อนเป็นที่แรก โดย"คิมแจจุง" ที่รับหน้าที่กำกับเวทีครั้งนี้ขนแสงสีเสียงมาแบบอลังการเพื่อแฟนๆโดยเฉพาะ

เรียกว่าเป็นคอนเสิร์ตที่ร้อนแรงและอลังการสมกับการรอคอยของศิลปินสุดฮอตจากเกาหลี JYJ ทีเดียวกับคอนเสิร์ต น้ำดื่มช้าง พรีเซ้นต์ "2011 เจวายเจ เวิลด์ทัวร์ คอนเสิร์ต อิน ไทยแลนด์” (Chang Drinking Water Presents "2011 JYJ WORLD TOUR CONCERT IN THAILAND") เมื่อวันที่ 2 และ 3 เม.ย. ที่ผ่านมากับคอนเสิร์ต 2 รอบสุดประทับใจ ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศแรกในการเปิดเวิร์ลทัวร์ งานนี้ไดเรคเตอร์คอนเสิร์ตอย่าง คิมแจจุง เลยจัดเต็มทั้ง แสง-สี-เสียง-เวที ที่ออกแบบมาให้ได้ใกล้ชิดกับแฟนๆ ทั่วทั้งฮอลล์จริงๆ พร้อมกับเซอร์ไพร์สต่างๆ มากมาย จนสาวกของ JYJ ระเบิดเสียงกรี๊ดไม่หยุดตลอด 2 ชั่วโมงเต็ม

ทันทีที่ไฟในฮอลล์ดับลงทั่วทั้งฮอลล์ก็แปรเปลี่ยนเป็นRed Ocean จากบรรดาแท่งไฟสีแดงของแฟนคลับที่ต่างส่งเสียงกรี๊ดตะโกนเรียก JYJ ก่อนจะเปิดเวทีด้วยโชว์เลเซอร์สุดอลังการยิงจากเวทีเมนไปยังแสตนด์ด้านหลัง ประกอบกับVTRแนะนำตัวก่อนที่สามหนุ่มตัวเป็นๆ จะกระโดดขึ้นมาจากพื้นเวทีด้านล่างด้วยเครื่องจั้มพ์ปิ้งอย่างเท่ และก็เริ่มระเบิดความมันส์กับเพลง EMPTY และ I.D.S โดย 3 หนุ่มมาในชุดสูทสีสะดุดตาแจจุงสีแแดง, ยูชอนสีน้ำเงิน และจุนซูสีเขียว โชว์สเต็ปการเต้น และพลังเสียงขั้นเทพ ไปพร้อมๆ กับพลุและเอฟเฟ็คที่จัดเต็มมาไม่แพ้กัน ก่อนจะเบรกอารมณ์ด้วยเพลงช้าๆ เพราะๆ อย่าง NINE ที่ 3 หนุ่มมูฟจากเวทีเมนมายังเวทีหน้าสุด ก่อนจะกระจายตัวไปทักทายแฟนๆ ทั้งด้านซ้าย และด้านขวาของฮอลล์ จากนั้นก็ลับมาคึกคักอีกครั้งในเพลง PIERROT คราวนี้ 3 หนุ่มซึ่งกลับมาประจำการที่เวทีเมน ได้เพิ่มความไฮโซด้วยเวทีไฮโดรลิคยกสูงขึ้นกว่า 3 เมตรเพื่อให้แฟนๆ ได้เห็นกันชัดๆ

ในวันที่ 28 มีนาคมงานรางวัล Shorty Awards ประจำปีครั้งที่ 3 ที่เป็นการจัดรางวัลมีเกียรติสำหรับทาง Twitter ในด้านที่ดีที่สุดหลายๆ ด้าน โดยจะประกาศผู้ชนะและผู้เข้าชิงทั้งหลาย และซีลิบิตี้เกาหลีกำลังได้รับความสนใจอย่างมากแล้วก็ได้รับความนิยมอย่างมากผ่านทาง Twitter ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกเขาได้ติดอันดับต่างๆ ในการจัดงานรางวัลนี้

ที่พิเศษที่สุดคือแจจุง (Jae Joong) จาก JYJ ที่ชนะรางวัล Best Celebrity on Twitter ด้วยเสียงโหวด 5,668 เสียงและเอาชนะศิลปินยอดนิยมได้อย่าง Justin Bieber ที่ได้เสียงโหวด 5,136 เสียง ส่วนฮีชอล (Hee Chul) จากวง Super Junior ได้อันดับ 3 ด้วยเสียงโหวด 2,990 เสียง และยังมีซีลิบิตี้อื่นๆ ของเกาหลีที่ติดอันดับสูงเช่นกัน คือ Jay Park ได้อันดับ 6, ยูชอน (Yoochun) จาก JYJ ได้อันดับ 10, จุนซู (Junsu) จาก JYJ ได้อันดับ 11, ลีทึก (Lee Teuk) จากวง Super Junior ได้อันดับ 24, อึนฮยอค (Eun Hyuk) จากวง Super Junior ได้อันดับ 39 และดองเฮ (Dong Hae) จากวง Super Junior ได้อันดับ 47

ซีลิบิตี้เกาหลียังได้รางวัลด้าน Best Music on Twitter อีกด้วย โดยที่จุนซู จาก JYJ ได้อันดับ 4, แจจุงได้อันดับ 11 และ Jay Park ได้อันดับ 13, ฮีชอลได้อันดับ 26 และยูชอนได้อันดับ 36

ส่วนรางวัล Best Actor on Twitter คือ ยูชอนจาก JYJ ได้อันดับ 9, แจจุงจาก JYJ ได้อันดับ 12 และจุนซูจาก JYJ ได้อันดับ 26 ส่วนดองเฮและฮีชอลได้อันดับ 28 และ 29 ตามลำดับ ในขณะที่เรน (Rain) ได้อันดับที่ 46

สำหรับ Best Entertainment on Twitter และยูชอนจาก JYJ ได้เสียงโหวดมากที่สุดด้วยจำนวนเสียง 2,221 เสียง และมีแจจุงได้อันดับ 10, ฮีชอลได้อันดับ 16, Jay Park ได้อันดับ 19 และจุนซูได้อันดับ 28

ส่วนในหัวข้อ Best Fashion on Twitter แจจุงได้อันดับ 3, ฮีชอลได้อันดับ 8, ยูชอนได้อันดับ 11, Jay Park ได้อันดับ 36 และจุนซูได้อันดับ 43

นอกจากนั้นแล้ว Jay Park ยังได้เข้าชิงรางวัล Connecting People Award ที่เป็นรางวัลพิเศษ โดยที่ให้เกียรติเขาและเอ่ยถึงเขาที่เวบไซท์ว่า

“Jay Park หรือที่รู้จักกันในชื่อของปาร์คแจบอม (Park Jaebeom) ที่เป็นนักร้องชาวเกาหลีอเมริกัน, ร้องแร็พ, นักแสดง และเป็นสมาชิกจาก b-boy จากเกาหลีใต้ที่ใช้ชีวิตอยู่ที่ซีแอตเทิล”

ชาวอินเทอร์เน็ทได้พูดคุยกันเกี่ยวกับภาพของยูชอน (Yoochun) จาก JYJ และนักแสดงหญิงลีดาเฮ (Lee Da Hae)

โดยที่ทั้ง 2 คนต่างมีผลงานใหม่ร่วมกันเรื่อง Miss Ripley ของทางสถานี MBC และดูเหมือนว่าพวกเขาจะสนิทกันเนื่องจากงาน

ในวันที่ 25 มีนาคมนี้ทางออนไลน์ได้มีภาพของศิลปินทั้ง 2 คนที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตในระหว่างที่กำลังถ่ายทำละครของพวกเขากันอยู่ เนื่องจากที่ดูพวกเขาสนิทกันเลยทำให้ชาวอินเทอร์เน็ทให้ความสนใจว่าพวกเขาอาจจะสนิทกันทั้งต่อหน้ากล้องและหลังกล้องด้วยเช่นกัน

ละครเรื่องใหม่ Ripley หรือ Goodbye Miss Ripley ของทางสถานี MBC ที่เปิดเผยรายชื่อนักแสดงออกมาอย่างแน่นอนแล้ว!

โดยที่ในวันที่ 21 มีนาคมที่ทาง MBC เปิดเผยรายชื่อนักแสดงว่ามี คิมซึงวู (Kim Seung Woo), ลีดาเฮ (Lee Da Hae), ปาร์คยูชอน (Park Yoochun) และคังเฮจอง (Kang Hye Jung) มาร่วมแสดงในเรื่องนี้

ลีดาเฮรับบทเป็นนักแสดงนำหญิงที่ชื่อว่าจางมิริ (Jang Miri) ส่วนคิมซึงวูรับบทเป็นผู้ชายที่เย็นชาที่สามารถก่อร่างสร้างตัวจากที่เคยจนมาก่อนมาเป็นผู้จัดการโรงแรม และตกหลุมรักลีดาเฮ และยอมเสี่ยงที่จะสูญเสียทุกอย่างที่เขาพยายามสร้างเนื้อสร้างตัวมาทั้งหมด

ปาร์คยูชอนจะรับบทเป็นรักสามเส้า และจะรับบทเป็นยูคาตะ (Yukata) ที่เป็นลูกชายของเจ้าของรีสอร์ตที่ร่ำรวยของญี่ปุ่น ซึ่งภายหลังทั้งลีดาเฮและปาร์คยูชอนจะรู้จักความรักจริงๆ คืออะไรกันแน่

ส่วนคังเฮจองรับบทเป็นสาวน้อยบริสุทธิ์นาฮีจู (Na Hee Ju) ที่เป็นน้องสาวไม่แท้ของลีดาเฮ และเมื่อผู้ชาย 2 คนต่างแย่งชิงความรักจากลีดาเฮ แต่คังเฮจองถูกทำให้มาเกี่ยวข้องกับเรื่องอันตราย เนื่องจากที่เธอปฏิเสธที่จะบอกในเรื่องความลับของพี่สาวของเธอ

ทาง Curtain Call Media แสดงความคิดเห็นว่า “เนื่องจากที่ได้นักแสดงยอดนิยมมากมายมาร่วมงาน พวกเราทุกคนต่างคอยติดตามว่าละครจะออกมาในรูปแบบไหน ไม่เพียงเนื้อเรื่องที่ชวนติดตาม แต่ผู้กำกับที่จะทำให้ละครเรื่องนี้เกิดในแบบที่ไม่เคยเห็นกันมาก่อน”

ละครเรื่องนี้จะออกอากาศในเดือนพฤษภาคมนี้

ก่อนจะถึงวันคอนเสิร์ตใหญ่ของ 3 หนุ่ม "JYJ" ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 2 เม.ย. ที่จะถึงนี้ ล่าสุด "แจจุง" (Jae Joong) หนึ่งในสมาชิกวงได้บินตรงมาไทยก่อนเพื่อร่วมประชุมกับทีมงานหลังเจ้าตัวรับหน้าที่เป็นผู้กำกับคอนเสิร์ต

ว่าจะแอบมาไทยอย่างเงียบๆ เพื่อเตรียมงานคอนเสิร์ต น้ำดื่มช้าง พรีเซนต์ 2011 เจวายเจ เวิลด์ทัวร์ คอนเสิร์ต อิน ไทยแลนด์ (Chang Drinking Water Presents "2011 JYJ WORLD TOUR CONCERT IN THAILAND" ) ร่วมกับผู้จัดไทยคือ บริษัท โฟร์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด แต่ด้วยความแรงของ คิมแจจุง 1 ใน 3 สมาชิกวง เจวายเจ (JYJ) แล้ว มีหรือที่จะเล็ดรอดจากหูตาบรรดาแฟนคลับไปได้ งานนี้สนามบินสุวรรณภูมิเลยต้องแตกทะลักกันไปโดยมิต้องสงสัย

โดยช่วงบ่ายของวันที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมา คิมแจจุง ได้เดินทางมาถึงประเทศไทยเพื่อร่วมประชุมเตรียมงานคอนเสิร์ตที่กำลังจะจัดขึ้นในเดือนหน้านี้ ความพิเศษของคอนเสิร์ตครั้งนี้นอกจาก แสง สี เสียง จะอลังการงานสร้างเต็มรูปแบบแล้ว เบื้องหลังสำคัญคือ แจจุง ยังรับหน้าที่เป็นไดเรคเตอร์คอนเสิร์ตอย่างเต็มตัว ซึ่งเขาจะลงมาดูแลงานโปรดักชันต่างๆ ด้วยตนเอง โดยเฉพาะประเทศไทยซึ่งนับเป็นประเทศแรกในการเปิดเวิลด์ทัวร์ครั้งนี้ หนุ่มแจจุงตั้งอกตั้งใจเต็มที่เป็นพิเศษ เทคิวบินตรงถึงไทยล่วงหน้าก่อนเพื่อนๆ สมาชิกในวงอีก 2 คน คือ ปาร์คยูชอน (Park Yuchun) และ คิมจุนซู (Kim Junsu) เพื่อมาดูแลงานด้วยตนเองกันเลยทีเดียว

จากประสบการณ์การทำงานในวงการดนตรีมานานกว่า 7 ปีของ แจจุง ซึ่งเคยได้ร่วมงานกับทีมงานมือฉมังมานับไม่ถ้วน บวกกับความสนใจส่วนตัวเกี่ยวกับการวางแผนเรื่องโชว์บนเวที ทำให้เขาได้เริ่มเรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์อย่างต่อเนื่อง นี่คือที่มาของการจุดประกายให้หนุ่มคนนี้ก้าวเข้ามามีบทบาทในงานเบื้องหลัง เริ่มจากได้มีโอกาสโชว์ฝีมือร่วมกำกับเวทีในคอนเสิร์ต และมีส่วนร่วมในงานด้านวิชวลเอฟเฟ็กต์ร่วมกับทีมงานในโชว์เคสที่สหรัฐอเมริกา, คอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่น และคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งล่าสุดที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้

สมาชิก JYJ ทั้ง 3 คนมีภาพกิจกรรมล่าสุดของพวกเขาซึ่งทำให้ชาวอินเทอร์เน็ทต่างสนใจ

โดยที่คิมแจจุง (Kim Jae Joong) อัพโหลดภาพในวันที่ 17 มีนาคมช่วงบ่ายที่ Twitter ของเขาว่า “เรามาตั้งใจซ้อมให้หนักยิ่งขึ้น!”

ภาพของคิมจุนซู (Kim Junsu), คิมแจจุง และปาร์คยูชอน (Park Yoochun) ต่างแต่งเครื่องแต่งกายแบบออกกำลังกาย ถึงแม้ว่าพวกเขาจะแต่งกายแบบสบายๆ แต่สมาชิกก็ยังเป็นที่สนใจของหลายๆ คน พิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาเป็นศิลปินยอดนิยมของเกาหลีจริงๆ

อีกเรื่องที่ทุกคนให้ความสนใจคือคิมแจจุงที่ยืนอยู่ตรงกลาง และภาพนี้ถ่ายในที่ร่ม แต่ว่าคิมแจจุงยังใส่แว่นกันแดด ซึ่งทำให้ทุกคนหัวเราะ และเขายังสวมชุด Hello Kitty ที่เป็นแฟชั่นที่ปกติจะไม่ค่อยเห็นผู้ชายสวม

ข่าวรายงานยืนยันว่า ยูชอน (Yoochun) จะร่วมแสดงละครเรื่องใหม่ Goodbye Miss Ripley ของทางสถานี MBC

และตอนนี้มีการยืนยันแล้วว่า นักแสดงนำหญิงเรื่องนี้คือลีดาเฮ (Lee Da Hae) หลังจากที่เสร็จสิ้นการถ่ายทำภาพยนตร์ 2 เรื่องคือ Hyun’s Song และ Gabee แล้ว เธอตัดสินใจกลับมาทำงานละครอีกครั้ง

นอกจากนั้นจะมีคังเฮจอง (Kang Hye Jung) จะมาร่วมแสดงในละครเรื่องนี้ด้วย หลังจากที่เธอเคยแสดงในละครเรื่อง Flowers For My Life ในปี 2007

โดยที่ละครเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ ชินจองอา (Shin Jeong Ah) ที่ปลอมวุฒิการศึกษา ซึ่งยูชอน, ลีดาเฮ, คังเฮจอง และนักแสดงอื่นๆ ไปอ่านบทกันที่ฟุกุโอกะที่ประเทศญี่ปุ่น และเริ่มการถ่ายทำอย่างเป็นทางการไปบ้างแล้ว

ละครเรื่องนี้จะเริ่มออกอากาศในเดือนพฤษภาคมนี้

ทาง Star News รายงานว่า ยูชอน (Yoochun) จาก JYJ ยืนยันที่จะร่วมแสดงในละครเรื่องใหม่ Goodbye Miss Ripley ของทางสถานี MBC แล้ว

ตัวแทนของละครเปิดเผยว่า ยูชอนและตัวแทนของเขาเพิ่งเดินทางไปที่สถานที่ถ่ายทำละครที่ฟุกุโอกะ และยืนยันที่จะนำแสดงในบทนักแสดงนำชายของเขา เขาได้ร่วมอ่านบทในวันเดียวกัน และยังมีการพบกับนักแสดงอื่นๆ ในภายหลัง

ยูชอนได้สร้างความประทับใจให้กับตัวแทนในวงการมากมาหลังจากที่เขานำแสดงในเรื่อง Sungkyunkwan Scandal ของทางสถานี KBS และเขาได้รับความรักอย่างมากมายตั้งแต่นั้นมา หลังจากที่ได้ยินข่าวยืนยันที่จะนำแสดงในละครเรื่องที่ 2 ของยูชอน หลายๆ คนต่างแสดงความคิดเห็นว่า อยากเห็นสมาชิก JYJ ค่อยๆ ผ่านพ้นอุปสรรคของพวกเขาไปได้

ซึ่งละครเรื่อง Goodbye Miss Ripley จะออกอากาศในเดือนพฤษภาคมนี้

ในวันที่ 12 มีนาคมที่ JYJ จัดงานแฟนมีทติ้งอย่างเป็นทางการกับแฟนๆ จำนวน 7,000 คนเรียบร้อยแล้ว นี่เป็นงานมีทติ้งครั้งแรกในรอบ 4 เดือนของพวกเขา หลังจากครั้งสุดท้ายคือเดือนพฤศจิกายน

โดยมีพิธีกรคิมบอมยง (Kim Bum Yong) เป็นคนดำเนินงานทั้งหมด 3 ชั่วโมงโดยมีการแสดงทั้งหมด 7 ชุดโดยมีเพลง Empty, Be My Girl, Found You, Mission และ Nine

จุนซู (Junsu) กล่าวว่า “ผมกังวลมากว่า ผมจะสามารถมาร่วมงานแฟนมีทติ้งนี้ได้หรือไม่ในวันนี้ แต่ผมก็ดีใจที่ผมสามารถมาร่วมจัดงานนี้ได้อย่างปลอดภัย สถานการณ์แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นรุนแรงมาก พวกเรามาร่วมกันภาวนาให้แฟนๆ ของพวกเราที่ญี่ปุ่นปลอดภัยกัน”

เนื่องจากงานแฟนมีทติ้งนี้แบ่งเป็น 2 ส่วน คือช่วงหลังจะมีแขกรับเชิญมาร่วมด้วยคือ ชินยองซุค (Shin Young Sook), คิมซองซู (Kim Sung Soo) จาก Cool และปาร์คยูฮวาน (Park Yoo Hwan) น้องชายของยูชอน (Yoochun)

คิมซองซูชมแจจุง (Jae Joong) ว่า “ผมไม่ได้รู้จักแจจุงนานมากนัก แต่จิตใจของเขาบริสุทธิ์มากๆ” ปาร์คยูฮวานยังกล่าวชมแจจุงอีกด้วย เมื่อให้เขาเลือกชื่อของคนที่เขาอยากคล้ายคนๆ นั้นมากที่สุด เขาได้เลือกแจจุง

ในงานแฟนมีทติ้งนี้ยังมีกิจกรรมพิเศษอีกด้วย โดยมีแฟนๆ ทั้งหมด 16 คนถูกเลือกสำหรับการแข่งขัน World Cup และสมาชิกค่อยๆ คัดเลือกจนกระทั่งเหลือเพียงแค่คนเดียว โดยที่แฟนคนนั้นถูกเลือกเพราะคำกล่าวที่ว่า “ฉันเป็นแฟนคนหนึ่งที่เพียงแค่เชื่อและไว้ใจเท่านั้น”

JYJ แสดงความคิดเห็นว่า “พวกเราอยากให้แฟนๆ ของพวกเราเชื่อในตัวของพวกเราเสมอ และอดใจรอ พวกเราจะตั้งใจทำงานอยากหนักเพื่อเป็นการตอบแทนความไว้ใจของแฟนๆ

ทาง CJES Entertainment กล่าวว่า “เนื่องจากที่ทุกๆ คนกังวลและให้การสนับสนุนพวกเขา คิมจุนซูจึงสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัย และรักษาสัญญากับแฟนๆ ของเขา พวกเราหวังว่างานแฟนมีทติ้งนี้จะยังคงอยู่ในใจและไม่มีวันลืมเลือนสำหรับเทศกาลไวทเดย์”

“ปาร์คยูชอน” (Park Yoo Chun) สมาชิกของบอยแบนด์ JYJ ถึงขั้นต้องออกมาร้องขอผ่าน Twitter ให้เหล่าแฟนคลับประเภทสุดขั้วที่เรียกกันว่า “ซาแซง” ให้เลิกแสดงความคลั่งไคล้เขาแบบเกินขอบเขต ชนิดติดตามมาถึงบ้านพักที่อยู่อาศัยกันเสียที

เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา ยูชอน หนึ่งในสมาชิกของบอยแบนด์ JYJ ได้ทวีตข้อความ ส่งตรงถึงบรรดาแฟนคลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าแฟนผู้แสดงออกถึงความชื่นชอบในตัวของเขาแบบเป็นเกินพอดีว่า “ได้โปรดอย่าสะกดรอยตามพวกเราเลยครับ แล้วก็อย่ามาที่บ้านของเราด้วยครับ ซาแซง”

โดยคำว่า 'ซาแซง' ที่มีความหมายโดยตรงว่า “ชีวิตส่วนตัว” เป็นคำแสลงที่หมายความถึงเหล่าแฟนคลับของศิลปินไอดอล ที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับศิลปินในดวงใจ จนเลยเถิดถึงขั้นล่วงละเมิดไปถึงชีวิตส่วนตัวของเหล่าคนดัง และปรากฏเป็นพฤติกรรมประเภทสะกดรอยตาม หรือเดินทางไปเฝ้าถึงบ้านของเหล่าศิลปิน โดยนับว่า ซาแซง เป็นชนกลุ่มน้อย ที่สร้างภาพลบให้กับบรรดาเหล่าแฟนคลับส่วนใหญ่ของศิลปินชาวกิมจิที่ไม่ได้มีพฤติกรรมอะไรแบบนั้น ต้องเสื่อมเสียไปด้วย

ซึ่งชาวเกาหลีใต้หลายคน ต่างแสดงความเห็นใจในตัวของนักร้องหนุ่มอยู่ไม่น้อยเลย … “ฉันคิดว่า ปาร์คยูชอน จะต้องเซ็งมาก ๆ ที่มี ซาแซง ตามไปถึงบ้านของเขาแบบนี้” ชาวเน็ตเกาหลีคนหนึ่งแสดงความเห็น ขณะที่อีกคนกล่าวว่า “การแสดงความรักต่อศิลปินก็ควรจะมีขอบเขตบ้าง”

และไม่ใช่เพียงไอดอลหนุ่มแห่งวง JYJ เท่านั้น เพราะเมื่อเร็วๆนี้สมาชิกวง ดงบันชินกิ (Dong Bang Shin Gi) อย่าง ชางมิน (Chang Min) และยุนโฮ (Yunho) อดีตเพื่อนร่วมวงของ ยูชอน ก็ออกมาพูดถึงความอึดอัดใจกับบรรดาซาแซงด้วยเช่นเดียวกัน

โดยในรายการ Knee-Drop Guru เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ที่ผ่านมา ยุนโฮ เล่าถึงประสบการณ์ของเขากับซาแซงว่า “ผมต้องเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ ก็เพราะมีสายโทรเข้ามาแกล้งกันทุก 5 นาทีเลยครับ ซึ่งหลังจากเปลี่ยนเบอร์แล้ว นาทีเดียวกลับมีข้อความส่งมาที่เบอร์ของผมบอกว่า 'เธอเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์แล้วใช่ไหม' พูดตรงๆ ผมช็อคมากเลยครับ”

หนุ่ม ยุนโฮ เล่าต่อไปว่า “มันน่าพิศวงเหมือนกันนะครับ ผมยังได้รับข้อความอีกว่า 'เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์บ่อยๆไม่ดีนะ' แล้วยังได้รับภาพถ่ายสิ่งของจากหอพักของเรา ผมแปลกใจมากๆตอนนั้น”

ปาร์คยูชอน (Park Yoochun) จาก JYJ เพิ่งแสดงความรู้สึกออกมาเกี่ยวกับ Sasaeng แฟน
ในวันที่ 12 มีนาคม ยูชอนฝากข้อความที่ Twitter ของเขาว่า “กรุณาอย่าไล่ตามพวกเรา และกรุณาอย่ามาที่บ้านของพวกเราด้วยเช่นกัน Sasaeng!” แล้ว Sasaeng นั้นหมายถึง กลุ่มแฟนๆ ที่คอยติดตามชีวิตส่วนของศิลปินที่พวกเขาชอบ และติดตามทุกๆ การเคลื่อนไหวด้วยความรู้สึกที่มากเกินแฟนๆ ปกติ

ชาวอินเทอร์เน็ทแสดงความคิดเห็น “คิดว่ายูชอนคงทนทุกข์ทรมานจากแฟนๆ พวกนี้ที่ติดตามเขาไปที่บ้าน”

สถานีของแฟนๆ JYJ ปิดตัวลง หลังจากที่เปิดทำการ 4 วัน

การเปิดสถานี ilovejyj.com มีแฟนๆ เข้าไปที่เวบไซท์มากมาย ทางฝ่ายดูแลตัดสินใจเลื่อนวันอย่างเป็นทางการออกไปเป็นวันที่ 4 มีนาคม แต่แฟนๆ ต่างเข้าไปชมกันที่เวบไซท์ใหม่มากมาย และเวบไซท์นี้จัดทำโดยแฟนๆ

แฟนๆ บางคนเริ่มพบว่า ภาพ, วีดีโอ และเนื้อหาถูกนำมาใช้ที่เวบโดยไม่มีการขออนุญาต นอกจากนั้นแล้วทางฝ่ายดูแลพยายามขอบัตรแฟนมีทติ้งจากทางเอเจนซี่ของ JYJ ที่ก่อให้เกิดการตำหนิทางฝ่ายดูแลว่า ทำไมถึงใช้อำนาจของสถานีเช่นนั้น

นอกจากนั้นแล้วทางสถานียังมีการสัมภาษณ์นักการเมืองหญิงที่พบว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสมาชิกยูชอน (Yoochun) เลย ถึงแม้ว่าทางฝ่ายดูแลประกาศขอโทษและอธิบายอย่างสั้นๆ แล้ว แต่แฟนๆ ยังคงตำหนิทางสถานีทันทีที่ฝ่ายดูแล “พูดไม่ค่อยดีเกี่ยวกับคิมจุนซู (Kim Junsu)” ซึ่งเป็นเหตุให้แฟนๆ เริ่มขอให้สถานีปิดตัวลง

ในวันที่ 8 มีนาคมทางฝ่ายดูแลเขียนข้อความว่า

“พวกเราอยากขอโทษสำหรับการรบกวนแฟนๆ และในวันนี้ทางสถานีอินเทอร์เน็ทจะปิดตัวลง ทีมงานที่ตอนนี้กำลังทำงานกันจะปิดสถานี เนื่องจากเป็นห่วงเกี่ยวกับผลลัพธ์ในแง่ลบจะเกิดขึ้นกับ JYJ พวกเรารู้สึกว่า การออกอากาศในระยะเพียงแค่สั้นๆ นี้ทำให้เกิดความสับสนทุกๆ ครั้งที่เนื้อหาในรายการออกอากาศไปสู่สาธารณ

ภายใต้ความคิดที่ว่า คงไม่มีใครเชื่อถือในตัวทีมงานที่เหลืออีกต่อไป พวกเราจึงตัดสินใจปิดสถานี

พวกเราอยากแสดงความเสียใจจริงๆ กับทาง JYJ และครอบครัวของพวกเขา, ทางเอเจนซี่ของพวกเขา และผู้เกี่ยวข้องกับพวกเขาทั้งหมด ส่วนคนที่เห็นความตั้งใจจริงของพวกเราในเชิงบวก และพวกเราอยากขอบคุณและขอโทษสำหรับความช่วยเหลือและการให้การสนับสนุนพวกเรา”

ตัวแทนของทางสถานีกล่าวเพิ่มว่า “เนื่องจากความเลินเล่อของฉัน ฉันได้สร้างบาดแผลให้กับ JYJ, ครอบครัวของพวกเขา และคนที่เกี่ยวข้องที่เห็นด้วยมาสัมภาษณ์กับทางเรา สำหรับเรื่องนั้นฉันขอโค้งคำนับด้วยความเสียใจ ทางสถานีอินเทอร์เน็ทของพวกเราจะปิด เนื่องจากความไม่ระมัดระวังของฉัน ฉันอยากจะขอโทษเป็นร้อยๆ ครั้ง”

ในช่วงที่จู่ๆ ก็ปิดตัวทางสถานีทางอินเทอร์เน็ทลงทำให้แฟนๆ ของ JYJ, ชาวอินเทอร์เน็ทที่ทำงานเป็นตัวแทนต่างเข้ามาโพสท์ข้อความขอโทษ

ทาง MBC เปิดเผยเกี่ยวกับนักแสดงสำหรับละครเรื่องใหม่ประจำวันจันทร์และวันอังคารเรื่อง Goodbye Miss Ripley

ผู้ร่วมงานในละครแจงว่ามี คังเฮจอง (Kang Hye Jung), คิมซึงวู (Kim Seung Woo), ลีดาเฮ (Lee Da Hae), ปาร์คยูชอน (Park Yoo Chun) จาก JYJ อย่างไรก็ตามทางทีมงานของนักแสดงแต่ละคนแจ้งว่า พวกเขาได้เพียงแค่อ่านละครแบบคร่าวๆ และยังไม่ได้มีการยืนยันออกมา

แต่ที่น่าสนใจคือ ศิลปินทั้ง 4 คนถูกข่าวรายงานว่าเดินทางไปญี่ปุ่น ซึ่งไม่ได้มีคำอธิบายที่แน่ชัดว่าไปถ่ายทำ หรือว่าไปเที่ยว ซึ่งทั้ง 4 คนต่างเดินทางไปญี่ปุ่นในช่วงเวลาเดียวกัน

แฟนๆ JYJ สร้างสรรค์งานโฆษณาล่าสุดสำหรับพวกเขา หลังจากที่เริ่มโปรเจคทางอินเทอร์เน็ทไปแล้ว

ในวันที่ 7 มีนาคม ชาวอินเทอร์เน็ทคนหนึ่งอัพโหลดภาพโฆษณาที่สถานีซินชอนและฮงเด กรุงโซล โดยเป็นภาพของ JYJ คือแจจุง (Jae Joong), ยูชอน (Yoochun) และจุนซู (Junsu) และเขียนว่า “JYJ พวกเราให้การสนับสนุนพวกคุณ” แต่งานโฆษณาที่มหาวิทยาลัยฮงเดเขียนว่า “คิมแจจุง, ปาร์คยูชอน และคิมจุนซูขึ้นรถไฟด่วนสาธารณ”

ซึ่งงานโฆษณาเหล่านี้มาจากแฟนคลับ JYJ และเริ่มโฆษณาตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม โดยจะมีติดโฆษณานี้ที่ Sunreung, Jamshil, Shinchon, Hongdae, Gundae, Kangbyun, Apgujung, Chungmuro และ Jongno 3 ซึ่งแฟนๆ ได้ทำงานโฆษณาติดไว้ทั้งหมด 21 ทางออกของรถไฟใต้ดิน

โดยงานโฆษณานี้มีมูลค่าประมาณ 160,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ และแฟนคลับเริ่มงานโฆษณาตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยเริ่มแคมเปญแรกด้วยรถประจำทาง 120 คัน

ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ มหาวิทยาลัย Sahmyook เชิญซีลิบิตี้ทีมบอลคือ FC MEN มาร่วมงานการกุศลพิเศษมาแข่งกับทีมของมหาวิทยาลัยรวมรุ่น

ทาง FC MENT เคยไปร่วมงานนี้ในปีที่แล้วเช่นกัน ซึ่งทีมนี้ปกติประกอบไปด้วย จุนซู (Junsu) จาก JYJ, ยูชอน (Yoochun), คิมฮยอนจุง (Kim Hyun Joong) จากวง SS501, คิมบอม (Kim Bum), ซงจุงกิ (Song Joong Ki) ฯลฯ

ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ หัวหน้าทีมจุนซูและคิมฮยอนจุงนำเสนอเงินจำนวน 10,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ บริจาคให้กับผู้ด้อยโอกาส นอกจากนั้นแล้วพวกเขายังร่วมในกิจกรรมอื่นๆ เช่นแจกลายเซ็นต์

จุนซูกล่าวว่า “สำหรับผู้ด้อยโอกาส ผมจะได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมใจนี้ ผมหวังว่ากิจกรรมนี้จะสามารถช่วยคนรุ่นเยาว์ให้ช่วยสร้างสรรค์สังคมที่ดียิ่งขึ้น”

01

02

03