ข่าวจีน

หนังตลกกำลังภายใน Treasure Inn ประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม ในการเข้าฉายที่ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ กลายเป็นข้อพิสูจน์ว่าหนังตลกแบบฮ่องกง จากผู้กำกับอย่าง "หวังจิง" (Wong Jing) เริ่มสามารถปรับตัว เพื่อสร้างความบันเทิงให้กับคนจีนแผ่นดินใหญ่ได้เหมือนกัน

Treasure Inn ที่เปิดฉายทั่วประเทศจีนไปเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ที่ผ่านมาสามารถทำรายได้ในวันเปิดตัวไปถึง 10 ล้านหยวน (ประมาณ 47 ล้านบาท) กลายเป็นหนังทำเงินอันดับ 1 ประจำวัน ถึงขั้นที่ผู้กำกับชาวฮ่องกง หวังจิง เจ้าของผลงานชิ้นนี้ กล่าวว่าเขาเริ่มจะเข้าใจในการทำหนังตลก ให้คนจีนแผ่นดินใหญ่ถูกอกถูกใจได้แล้ว

"ทุกวันนี้ ในปีนึงผมแทบจะอยู่ในปักกิ่งเป็นส่วนใหญ่ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นคนจีนแผ่นดินใหญ่ครึ่งตัวไปแล้ว ได้มีโอกาสค้นหาว่าหนังตลกแบบใด ที่คนจีนแผ่นดินใหญ่ชอบดูกันแน่ ได้ทำรีเซิร์ชในเรื่องนี้อย่างละเอียด ตอนที่ถ่ายทำหนังเรื่อง Treasure Inn ยังหวังว่าจะทำหนังตลกที่ถูกรสนิยมของคนที่นี่ และวางแผนไว้ว่าจะทำหนังตลกที่ดูได้สำหรับทุกเพศทุกวัย เมื่อมองผลที่ออกมาก็ถือว่าเป็นงานที่น่าพอใจ การถ่ายทำประสบความสำเร็จได้ด้วยดี หวังว่าหนังจะไปได้ดีในแง่ธุรกิจด้วย"

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการจับมือร่วมงานกันของ หวังจิง และ คอรีย์ หยวน ผู้กำกับคิวบู๊ที่โด่งดังเคยมีผลงานในฮอลลีวูดมาแล้ว กับนักแสดงชื่อดังกลุ่มใหญ่ทั้ง อาซา (Charlene Choi), หวงอี้ (Huang Yi), เดวิด ตง, หลิวหยาง, พานช่วงช่วง (Mavis Pan) โดยมีสองดาราหนุ่ม จางเจียฮุย กับ เซียะถิงฟง (Nicholas Tse) ผู้ได้รับความสนใจเป็นพิเศษกับข่าวชีวิตครอบครัวที่กำลังร้าวฉานอย่างหนัก เป็นตัวเอกของเรื่อง ส่วน เหอเจียจิ้ง ผู้โด่งดังกับบท "จั่นเจา" ในหนังชุด "เป้าปุ้นจิ้น" มาคราวนี้จะรับบทเป็นตัวร้าย

หนังเล่าเรื่องของเจ้าหน้าที่มือปราบยอดฝีมือสองคน ที่แทบไม่เคยมีโอกาสได้พิสูจน์ถึงความเก่งกาจของตัวเองเลย กระทั่งเกิดคดีฆาตกรรมเศรษฐีใหญ่ประจำเมืองขึ้น โดยมีประเด็นเรื่องขุมทรัพย์ประจำตระกูลเป็นสาเหตุสำคัญ สองมือปราบจึงได้โอกาสสางคดีครั้งนี้ แม้ทั้งคู่จะไม่ได้รับมอบหน้าที่อย่างเป็นทางการก็ตาม

การทำโทรศัพท์มือถือหาย กลายเป็นหนึ่งในประเด็นฉาวของคนบันเทิงในยุคปัจจุบัน เช่นเดียวกับในวงการบันเทิงจีน ที่ประเด็นทำนองนี้ มักจะมาพร้อมกับเรื่องราวคล้ายๆกัน เริ่มต้นด้วยภาพวาบหวิวถูกเผยแพร่, ตามมาด้วยคราบน้ำตา หรือคำสารภาพของหญิงสาวผู้เคราะห์ร้าย ซึ่งสุดท้ายกลายเป็นคำถามว่า นี่คือความโชคร้ายของพวกเธอ หรือเป็นการจัดฉากจงใจให้เกิดขึ้นกันแน่

โทรศัพท์มือถือของประจำกายของคนยุคนี้ กลายเป็นของส่วนตัวที่เก็บความลับ และรูปถ่ายต่างๆไว้มากมาย เมื่อมันหายขึ้นมาจึงเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสาวๆในวงการบันเทิง

ซึ่งในวงการบันเทิงจีนตอนนี้ เรียกว่าได้กลายเป็น "แฟชั่น" ไปแล้ว สำหรับเรื่องทำนองนี้ ที่เกิดขึ้นบ่อยเหลือเกิน กับสาว ๆ นักแสดงและนางแบบ ประเภทที่สื่อท้องถิ่นในฮ่องกงและจีนเรียกว่าเป็น "ดาราชื่อเสียงระดับรอง" ที่กำลัง "ไต้เต้า" อยู่ในวงการบันเทิง รวมถึงสาวฮ่องกง ฟีบี้ ฮุย (Phoebe Hui) ที่โดดเด่นด้วยหน้าอกหน้าใจ 34-D ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ ได้ให้ข่าวยอมรับว่า ภาพเซ็กซี่ของสาวรายหนึ่ง ที่ถูกปล่อยว่อนในเน็ต และต่อมาก็ถูกตีพิมพ์ตามหน้าสื่อต่างๆคือภาพส่วนตัวของเธอเอง ที่เก็บเอาไว้ในโทรศัพท์มือถือเครื่องที่หายไป

นางแบบสาวกล่าวตัดพ้อถึงเรื่องนี้ในการแถลงข่าวว่า โทรศัพท์เครื่องดังกล่าวนั้นมีพาสเวิร์ดป้องกันเอาไว้แล้ว แต่สุดท้ายมือดีก็ยังสามารถฝ่าด้านไปถึงข้อมูล และภาพส่วนตัวของเธอได้ ฟีบี้ ฮุย ยังกล่าวว่าคนที่พบโทรศัพท์เครื่องนั้น และนำภาพของเธอไปเผยแพร่ ถือเป็นพฤติกรรมที่ล่วงละเมิดต่อสิทธิส่วนตัวของเธออย่างแน่นอน

ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวถามทำไมเธอถึงถ่ายภาพพวกนี้ขึ้นมาตั้งแต่ต้น ฟีบี้ ฮุย ตอบถึงเรื่องนี้ว่า "เพราะว่าเป็นภาพที่สวยดีไงค่ะ ถ้าจะถ่ายภาพแบบนี้ก็ควรจะทำตั้งแต่ยังอายุน้อยๆ หวังว่าคนจะไม่คิดอะไรมาก เพราะคนดังต่างประเทศหลายคนก็ถ่ายภาพแบบนี้กัน" นอกจากนั้นเธอแสดงความมั่นใจว่าภาพทั้งหมดเป็นภาพของเธอเองคนเดียว ไม่มีภาพที่อยู่กับหนุ่มคนใดแน่ๆ

โดยภายในเร็วๆนี้ ฟีบี้ ฮุย จะมีผลงานเป็นอัลบั้มภาพถ่ายแนวเซ็กซี่ออกวางจำหน่าย ซึ่งเธอยืนยันว่าทั้งสองเรื่องไม่ได้เกี่ยวข้องกัน และเรื่องโทรศัพท์หายก็ไม่ได้เป็นแผนการประชาสัมพันธ์ผลงานอะไรอย่างแน่นอน

ชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัยของนักแสดงหนุ่มวัย 31 ปี "หมิงเต้า" (Ming Dao) ดำเนินมาถึง 11 ปีแล้ว และยังมีทีท่าว่าเขาจะยังไม่สำเร็จการศึกษาในเร็วๆนี้ด้วย จนกลายเป็นเสียงวิจารณ์ว่า "หมิงเต้า" และเพื่อนนักแสดงหนุ่มอีกหลายคน กำลังใช้เรื่องการศึกษาเป็นข้ออ้างเพื่อหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหารหรือไม่

นักแสดง/นายแบบหนุ่มชาวไต้หวัน หมิงเต้า กลายเป็นคนดังรายล่าสุด ที่ต้องเผชิญหน้ากับข้อกล่าวหาพยายามหลบเลี่ยงการรับใช้ชาติ ด้วยการใช้เรื่องการศึกษามาบังหน้า

เมื่อไม่กี่วันก่อนมีข่าวลือว่า หนุ่มวัย 31 ปีรายนี้ได้รับหมายเรียกให้เข้าเกณฑ์ทหาร และให้รายงานตัวในทันที มิเช่นนั้นก็อาจจะถูกบันทึกรายชื่อลงในแบล็คลิสต์ของรัฐบาลไต้หวันได้

ต่อมาต้นสังกัดของเขาได้ออกมาปฏิเสธเรื่องนี้ และอ้างว่าตอนนี้ หมิงเต้า ได้จ่ายเงินลงทะเบียนเรียนเทอมต่อไป สำหรับการศึกษาที่สถาบันเทคโนโลยีตงหนันเรียบร้อยแล้ว และต้นสังกัดยังยืนยันว่า หมิงเต้า มีแผนจะเข้ารับการเกณฑ์ทหารโดยทันทีในปี 2013 เมื่อภารกิจต่างๆ ของเขาเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วนั่นเอง

อย่างไรก็ตามรองผู้อำนวยการของสถานศึกษาได้ออกมาเปิดเผยว่า หมิงเต้า คงจะไม่สามารถเรียนจบได้ง่ายๆแน่ ทั้งที่เขาก็เข้าเรียนมาหลายปีแล้ว เพราะถึงตอนนี้สามารถเก็บหน่วยกิตไปได้เพียง 6 จาก 74 หน่วยกิตเท่านั้น ซึ่งถ้าทุกอย่างยังเป็นแบบนี้ หมิงเต้า ก็อาจจะใช้เวลาเรียนเกินกว่า 20 ปี ถึงจะได้รับปริญญาบัตร

หมิงเต้า ใช้ชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัยมาถึง 11 ปีเต็ม และย้ายที่เรียนมาถึง 3 ครั้งแล้วจากมหาวิทยาลัยศึกษาศาสตร์แห่งชาติฉางหัว, มหาวิทยาลัยจินเหวิน จนกระทั่งปัจจุบันมหาวิทยาลัยตงหนัน กับสาขาภาษาอังกฤษ

ยิ่งไปกว่านั้นนักแสดงหนุ่มรายนี้ยังไม่ใช่คนดังชาวไต้หวันเพียงคนเดียว ที่ใช้ชีวิตการเป็นนักศึกษายาวนานเป็นพิเศษ จนถูกข้อกล่าวหาว่าอาจใช้เรื่องการเรียนมาบังหน้า เพื่อหลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร ซึ่งตอนนี้เรียกว่าทำกันจนเป็นเรื่องธรรมดาในวงการบันเทิงไปแล้ว

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมาเป็นวันคล้ายวันเกิดปีที่ 49 ของ "เหลียงเฉาเหว่ย" (Tony Leung) และด้วยความเป็นคนเรียบง่ายของพระเอกชื่อดังชาวฮ่องกงรายนี้ เขาเลือกที่จะจัดงานฉลองกับภรรยากันแบบง่ายๆ ในคืนวันที่ 26 มิ.ย. และจัดงานเลี้ยงกับแฟนๆ ซึ่งล่าสุดบริษัทต้นสังกัด ได้นำภาพงานฉลองในวันนั้นมาแบ่งปันให้แฟนๆของ "เหลียงเฉาเหว่ย" ได้ร่วมอวยพรให้กับเขาด้วย

ตลอดกว่า 1 ปีที่ผ่านมา เหลียงเฉาเหว่ย มีงานยุ่งชนิดแทบหาเวลาพักผ่อนไม่ได้เลย กับการถ่ายทำหนังถึงสองเรื่องติดต่อกัน ทั้ง The Grandmaster ของ หว่องกาไว (Wong Kar Wai) และ The Great Magician ของ เอ๋อตงเซิน (Derek Yee) โดยในการแถลงข่าวของภาพยนตร์เรื่องหลัง มีหลายคนสังเกตเห็นว่า เหลียงเฉาเหว่ย มีท่าทางค่อนข้างจะอิดโรยอยู่พอสมควรเลย

กระทั่งล่าสุดเขาได้กลับมาฮ่องกง ได้มีเวลาพักผ่อนอีกครั้ง และดูมีรอยยิ้มที่สดชื่นในวันคล้ายวันเกิดของตัวเอง ซึ่งจัดฉลองล่วงหน้าก่อนจะถึงวันจริงไปเมื่อคืนของวันที่ 26 มิ.ย. ที่ผ่านมา เพราะภรรยาคนสวย หลิวเจียหลิง (Carina Lau) อยู่ร่วมฉลองงานในวันนั้นด้วย

นอกจากนั้นทุกปีแฟนคลับของเหลียงเฉาเหว่ยทั้งในฮ่องกง รวมถึงจากเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น จะเดินทางมาร่วมอวยพรให้กับเขาพร้อมมอบของขวัญ เป็นกิจกรรมที่ทำกันมาต่อเนื่องหลายปีแล้ว เช่นเดียวกับในปีนี้ อันเป็นปีที่พระเอกยอดฝีมือมีอายุครบ 49 ด้วย

ยังมีข่าวว่า The Grandmaster หนังชีวประวัติปรมาจารย์ยิปมันที่ถ่ายทำกันมาข้ามปี ก็ยังไม่สามารถปิดกล้องได้ เพราะเหลือส่วนของการถ่ายทำอยู่อีกนิดหน่อย ซึ่ง เหลียงเฉาเหว่ย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า หว่องกาไว ผู้กำกับของเรื่องยังไม่ได้บอกอะไรเขาเพิ่มเติมถึงกำหนดการถ่ายทำครั้งต่อไป

พระเอกชื่อดังวัย 49 ปีหมาดๆ กล่าวแต่เพียงว่าด้วยเวลาว่างที่มีในขณะนี้ น่าจะทำให้เขาได้ใช้เวลากับภรรยาได้มากขึ้น ฝ่าย หลิวเจียหลิง ก็อวยพรวันเกิด เรียกเหลียงเฉาเหว่ยว่า "ท่านอาจารย์" ตามบทบาทตัวละคร "อาจารย์ยิปมัน" ในหนังเรื่องต่อไปของเขาว่า "ท่านอาจารย์, สุขสันต์วันเกิดนะคะ"

AP - มีรายงานยืนยันจากเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลพม่า ว่านักแสดงชาวมาเลเซีย "มิเชลล์ โหย่ว" (Michelle Yeoh) ได้ถูกเนรเทศออกจากประเทศพม่าในวันเดียวกับที่เธอเดินทางไปถึง เนื่องจากมีรายชื่อของเธอติดบัญชีดำของรัฐบาล ภายหลังรับเล่นหนังสวมบทบาทเป็น "ออง ซาน ซูจี" ในผลงานเรื่องล่าสุด

เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลพม่าที่ปฏิเสธจะเปิดเผยตัวตน ได้ยืนยันกับ AP ว่า มิเชลล์ โหย่ว ได้เดินทางมาถึงเมืองย่างกุ้ง ในวันที่ 22 มิ.ย. ที่ผ่านมา และถูกเนรเทศออกจากประเทศในวันเดียวกันนั้นเอง สืบเนื่องจากเธอมีรายชื่ออยู่ในบัญชีดำห้ามเข้าประเทศพม่า

โดยเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวไม่ได้ให้เหตุผลว่าทำไมชื่อของ มิเชลล์ โหย่ว จึงไปอยู่ในบัญชีดำได้ เช่นเดียวกับนาย เนียนวิน โฆษกกลุ่มการเมืองของนาง ออง ซาน ซูจี ที่ได้ยืนยันถึงเรื่องนี้ ก็ไม่ได้ให้เหตุผลของการถูกเนรเทศเช่นเดียวกัน

แม้จะไม่มีการให้เหตุผลอย่างเป็นทางการ แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าการที่ มิเชลล์ โหย่ว มีรายชื่ออยู่ในบัญชีดำห้ามเข้าประเทศพม่า น่าจะเกี่ยวข้องกับการรับบทเป็น ออง ซาน ซูจี ในหนังเรื่อง The Lady ของผู้กำกับชาวฝรั่งเศส ลุก แบซง ที่มีกำหนดจะเข้าฉายในปลายปีนี้

The Lady จะเล่าถึงเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของ ซูจี รวมถึงการถูกจับกุมในปี 1989 และถูกกักบริเวณในบ้านพักเป็นเวลาถึง 24 ปี ซึ่งหนังได้เข้ามาถ่ายทำบางส่วนในประเทศไทย นอกจากนั้นในช่วงปลายปี 2010 มิเชลล์ โหย่ว ยังได้เดินทางเยือนพม่าเพื่อเข้าพบ ออง ซาน ซูจี เพื่อพูดคุยถึงรายละเอียดต่างๆ ในการสวมบทบาทเป็นเธอในภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วด้วย

เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่พม่าระบุวันนี้ (28 มิ.ย.) ว่า มิเชล โหยว นักแสดงสาวฮอลลีวู้ดที่รับบทบาทเป็นนางอองซานซูจี ผู้สนับสนุนระบอบประชาธิปไตย ในภาพยนตร์ที่กำลังจะฉายในเร็วๆนี้ ถูกทางการพม่าขับออกนอกประเทศและอยู่ในบัญชีดำห้ามเข้าประเทศ

"เธอไม่มีโอกาสจะเดินทางเข้าพม่าได้อีก เธอถูกเนรเทศกลับประเทศในเที่ยวบินแรกทันทีหลังเดินทางถึงสนามบินนานาชาติกรุงย่างกุ้ง" เจ้าหน้าที่พม่า กล่าว

"เธอมีชื่ออยู่ในบัญชีดำ" เจ้าหน้าที่พม่าอีกคน กล่าว แต่ปฏิเสธที่จะระบุถึงเหตุผล

ดราม่าฉากใหญ่ของคู่รักคนดัง “จางป๋อจือ” (Cecilia Cheung) และ “เซียะถิงฟง” (Nicholas Tse) เดินทางมาถึงจุดสำคัญแล้ว และดูเหมือนแนวโน้มที่ออกมาจะไม่ใช่ในทางที่ดีด้วย เมื่อดาราสาวคนดังได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้เป็นครั้งแรก และกล่าวโจมตีสามีเป็นการใหญ่ ว่าเป็นคนที่เต็มไปด้วยความเสแสร้ง แกล้งทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ แต่กลับปล่อยข่าวสร้างความเสื่อมเสียให้กับเธออยู่ตลอด
       
       “ฉันจะไม่ทนอีกต่อไปแล้วค่ะ” จางป๋อจือ กล่าวในการเปิดใจกับสื่อเป็นครั้งแรก นับจากเรื่องความสัมพันธ์ของเธอและ เซียะถิงฟง ผู้เป็นสามีกลายเป็นข่าวใหญ่ในฮ่องกงมามากกว่าเดือน ในการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ Oriental Daily พร้อมแฉถึงพฤติกรรมต่างๆ ของสามี ที่พยายามปล่อยข่าวเพื่อทำลายชื่อเสียงของเธอมาโดยตลอด
       
       “ฉันอยู่กินกับเขามา 5 ปีเต็ม รู้จักกันตั้งแต่ฉันอายุแค่ 18 แน่นอนเขาเป็นคนแบบไหนฉันรู้ดีค่ะ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาพยายามสร้างภาพว่าตัวเองเป็นคนใจเย็น เป็นคนอ่อนโยนเสียเหลือเกิน เขาจะใส่แว่นตาดำอยู่ตลอดเวลา ครั้งหนึ่งฉันเคยถามเขาว่าทำไมต้องใส่แว่นอยู่ตลอดด้วย ซึ่งเขาบอกว่าแว่นตาจะช่วยปิดบังไม่ให้คนรู้ว่าเขาพูดจริง หรือโกหกกันแน่ … นั่นแหละค่ะเขาถึงได้รับรางวัล ‘นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม’ เหมาะสมจริงๆ”
       
       รอยร้าวลึกที่อาจจะไม่สามารถผสานให้กลับคืนดังเดิมได้แล้ว เกิดขึ้นเมื่อ จางป๋อจือ เชื่อว่า เซียะถิงฟง นี่เอง ที่เป็นคนออกมาปล่อยข่าวลือเสียหายมากมาย ที่มีต่อตัวเธอ ไม่ใช่แม่ของเขาอย่างที่หลายคนสงสัยกันแน่นอน
       

หลังจากเป็นข่าวมากว่าเดือน ถึงการถอนตัวออกจากวง Fahrenheit ของหนุ่ม “อู๋จุน” (Wu Zun) ล่าสุดข่าวดังกล่าวได้รับการยืนยันจากต้นสังกัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามยังมีการเปิดเผยว่าสมาชิกที่เหลือ 3 คน ยังจะทำงานด้วยกันในฐานะ Fahrenheit ต่อไป

HIM International ได้ประกาศถึงข่าวการถอนตัวออกจากวง Fahrenheit ของหนุ่ม อู๋จุน เมื่อช่วงวันพุธ (22 มิ.ย.) ที่ผ่านมาว่า “อู๋จุน หวังว่าเขาจะสามารถให้เวลากับครอบครัวได้มากกว่านี้ นอกจากนั้นเขายังไม่ค่อยสนใจในงานเพลงแล้ว แต่ต้องการทุ่มเทให้กับงานแสดงมากกว่า จึงได้ตัดสินใจที่จะถอนตัวออกจาก Fahrenheit ไป”

โดยต้นสังกัดได้เปิดเผยว่า อู๋จุน ได้แจ้งจุดยืนดังกล่าวให้กับบริษัทได้รับทราบตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา แม้จะมีความพยายามในการพูดคุยเพื่อให้เขาทำงานกับวงต่อไปแล้วก็ตาม แต่สุดท้าย HIM International ก็ยืนยันว่าต้องเคารพการตัดสินใจของเจ้าตัว ส่วนสมาชิกที่เหลือก็จะทำงานในฐานะ Fahrenheit ต่อไป “Fahrenheit จะยังไม่ยุบวง ตอนนี้ก็มีการเตรียมการสำหรับอัลบั้มชุดต่อไปแล้ว” ตัวแทนของบริษัทกล่าวอย่างชัดเจน

ขณะเดียวกันก็มีรายงานว่า อู๋จุน จะเซ็นสัญญาเข้าสังกัดเดียวกับนักแสดงหนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่นไต้หวัน ทาเคชิ คาเนะชิโร่ เพื่อเบนเข็มสู่งานภาพยนตร์อย่างเต็มตัวในอนาคต

4 หนุ่ม แอรอน เหยียน (Aaron Yan), อู๋จุน, คัลวิน เฉิน (Calvin Chen) และ จิโร่ หวัง (Jiro Wang) เปิดตัวในฐานะกลุ่มบอยแบนด์ Fahrenheit ตั้งแต่เมื่อปี 2005 มีอัลบั้มออกมาแล้ว 4 ชุดจนกลายเป็นศิลปินที่โด่งดังทั้งใน ไต้หวัน, ฮ่องกง และจีนแผ่นดินใหญ่

แต่ระยะหลังสมาชิกดาวเด่นของวงอย่าง อู๋จุน กลับประสบความสำเร็จกับการรับงานแสดงทั้งทางจอโทรทัศน์ และภาพยนตร์จอเงิน ที่มีผลงาน อาทิ The Butterfly Lovers, 14 Blades และ My Kingdom ภาพยนตร์ที่เขาได้ร่วมงานกับสาว ต้าเอส (Da S) และหนุ่ม ฮันเกิง (Han Geng) อดีตสมาชิกของวง Super Junior ที่มีกำหนดเข้าฉายอยู่ในช่วงนี้พอดี

ซึ่งข่าวการลาออกจาก Fahrenheit ของ อู๋จุน ยังเกิดขึ้นในเวลาเดียวกับที่มีรายงานข่าวในสื่อแนวแท็ปลอยด์ว่าหนุ่มวัย 31 ปี คนนี้แต่งงานและมีลูกสาวอยู่ที่ประเทศบรูไนบ้านเกิด ซึ่งต้นสังกัดได้ออกมาปฏิเสธแทนในเวลาต่อมา

Manager Online

Yam News – กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาได้ เมื่อสำนักข่าวในฮ่องกงแห่งหนึ่งรายงานถึงข่าวลือที่ว่า นักแสดงหนุ่มจอมเจ้าชู้ "เฉินกว้านซี" (Edison Chen) อาจจะติดโรคร้ายที่ไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้อย่างเอดส์ จนมีข่าวลือตามมาว่า เป็นกระแสที่ทำให้ผู้หญิงกว่า 100 ชีวิตที่เคยมีสัมพันธ์กับเขา ต้องรับการตรวจเลือดด่วน นอกจากนั้นยังทำให้มีการพูดไปถึงขั้นที่ว่า นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ "เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) และ "จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) เตรียมตัวหย่าขาดจากกันในเร็วๆนี้ด้วย

ชื่อของ เฉินกว้านซี, เซียะถิงฟง และจางป๋อจือ คงไม่หลุดจากคลื่นกระแสข่าวลือไปได้ง่ายๆ โดยเฉพาะกับข่าวลือล่าสุดที่ดูจะแรงเป็นพิเศษ เมื่อมีรายงานในสื่อบันเทิงของฮ่องกงฉบับหนึ่ง อ้างว่าหนุ่มจอมฉาว เฉินกว้านซี ติดเชื้อเอดส์เข้าให้แล้ว

แม้ข่าวที่ว่า “เฉินกว้านซี ติดเชื้อเอดส์แล้ว - สาวๆกว่า 100 ชีวิต อกสั่นขวัญหาย” ยังจะไม่ได้รับการพิสูจน์ หรือมีการให้ข่าวใดๆจากเจ้าตัว แต่สำนักข่าวในฮ่องกงก็อ้างว่า นี่กลายเป็นกระแสที่สร้างความแตกตื่นในวงการบันเทิง และถูกพูดถึงกันอย่างแพร่หลายในชุมชนออนไลน์ของชาวฮ่องกง

ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นานนัก นางแบบเซ็กซี่ กลอเรีย หว่อง วัย 30 ปี ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวอ้างว่า เฉินกว้านซี มีคู่นอนอยู่เป็น 100 คน ในจำนวนนี้ก็มีทั้งดารา, คนดัง แม้แต่นักข่าวก็ไม่เว้น เธอยังยอมรับว่า เมื่อกล่าวกันถึงเรื่องพฤติกรรมในการเลือกคู่นอนของพ่อหนุ่มแซ่เฉิน อาจจะพูดได้ว่าเขานั้นเข้าขั้นป่วย และขาดการยับยั้งชั่งใจกันเลยทีเดียว ซึ่งเขาก็ยังเคยมาขอขึ้นเตียงกับเธอด้วย

และหลังจากเรื่องนี้กลายเป็นข่าวในหน้าสื่อฮ่องกงขึ้นมา ผู้ได้รับผลกระทบตัวจริงกลับเป็น คู่รัก เซียะถิงฟง และจางป๋อจือ ที่ตอนนี้ชีวิตแต่งงานกำลังอยู่บนเส้นด้าย ซึ่งด้วยความที่ว่าครั้งหนึ่งฝ่ายหญิงเคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ เฉินกว้านซี ทำให้หลายคนสงสัยว่าเรื่องโรคเอดส์คือต้นตอที่แท้จริงของการแยกทางหรือไม่

นักแสดงชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน "มิเชลล์ โหย่ว" (Michelle Yeoh) หรือ "หยางจื่อฉยง" ยอมรับว่าเธอคาดหวังอยู่เหมือนกัน ว่าการสวมบทเป็น "ออง ซาน ซูจี" อาจจะพาไปสู่การเป็นผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในปีหน้า

"ถ้าผลตอบรับจากสื่อต่อหนัง และคำวิจารณ์เป็นไปในแง่ดี มันก็อาจจะเป็นความจริงขึ้นมาได้เหมือนกันค่ะ" มิเชลล์ โหย่ว กล่าวถึงโอกาสเข้าชิงรางวัลออสการ์ของThe Lady หนังที่เธอรับบทนำ ระหว่างงานแถลงข่าวที่เทศกาลหนังนานาชาติ Ipoh Run 2011 ซึ่งจัดขึ้นที่ เมืองอีโปห์ รัฐเประ มาเลเซีย ซึ่งเธอยังมีตำแหน่งเป็นทูตพิเศษแห่งงานเทศกาลครั้งนี้

มิเชลล์ โหย่ว ชาวอีโปห์โดยกำเนิด ที่เคยร่วมแสดงในหนังฟอร์มใหญ่อย่าง Crouching Tiger, Hidden Dragon และ Memoirs of the Geisha ยังแสดงความหวังว่า การสวมบทบาทเป็น ออง ซาน ซูจี นักเรียกร้องประชาธิปไตยชาวพม่าใน The Lady ผลงานการกำกับของคนทำหนังชาวฝรั่งเศส ลุก แบซง ก็อาจทำให้เธอถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงบนเวทีออสการ์ เป็นครั้งแรกด้วย

The Lady อยู่ระหว่างการเตรียมเข้าฉาย หลังจากปิดกล้องไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่ง มิเชลล์ โหย่ว กล่าวว่าเป็นเกียรติสำหรับเธออย่างยิ่ง ที่ได้มาแสดงหนังเรื่องนี้ พร้อมยังกล่าวอวยพรวันเกิดให้กับ ออง ซาน ซูจี ที่เพิ่งจะมีอายุครบ 66 ปี ไปเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมาด้วยว่า

"ฉันอยากจะอวยพรให้เธอมีสุขภาพดี เป็นเสาหลักของประเทศ และประชาชน ส่วนตัวของฉันก็จะพยายามช่วยประชาสัมพันธ์ให้กับหนังเรื่องนี้ จนกว่าจะถึงวันฉายจริงต่อไปค่ะ"

The Lady ที่ถ่ายทำบางส่วนของเรื่องในประเทศไทย จะเล่าถึงเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของ ซูจี รวมถึงการถูกจับกุมในปี 1989 และถูกกักบริเวณในบ้านพักเป็นเวลาถึง 24 ปี ซึ่งนอกจาก มิเชลล์ โหย่ว แล้ว เดวิด ธิวลิส ซึ่งเป็นที่รู้จักจากการรับบทเป็น รีมัส ลูปิน ตัวละครสำคัญใน Harry Potter จะสวมบทบาทเป็น ดร. ไมเคิล อริส สามีผู้ล่วงลับของซูจี โดยหนังมีกำหนดจะเข้าฉายภายในปลายปีนี้

Manager Online

เริ่มต้นขึ้นแล้วสำหรับการประกวดค้นหาสาวงามจากฮ่องกง หรือ Miss Hong Kong ประจำปี 2011 ที่ล่าสุด 14 สาวงามผู้เข้าประกวดรอบสุดท้าย ได้โอกาสโชว์หุ่นความเซ็กซี่ในชุดว่ายน้ำเป็นครั้งแรก

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทีวีบี ได้เริ่มต้นกิจกรรมรอบแรกของการประกวดมิสฮ่องกงประจำปี 2011 ที่สาวๆผู้เข้าประกวดทั้ง 14 คนได้เดินทางไปเก็บตัวกันที่เมืองอี้หลาน ไต้หวัน และได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลได้เก็บภาพของพวกเธอในชุดว่ายน้ำเป็นครั้งแรก

ก่อนหน้านี้ ข่าวคาวเรื่องหนุ่มๆ เคยทำให้สาวงามหมายเลข 3 วิตนีย์ ฮุย ได้รับความสนใจเป็นพิเศษมาแล้ว แต่ดูเหมือนว่าด้วยต้นขาและเอวที่หนาไปซักหน่อยทำให้เธอเสียเปรียบ กับการโชว์รูปร่างภายใต้ชุดว่ายน้ำวันนี้อยู่ไม่น้อย

ขณะเดียวกันสาวงามคนอื่นๆ ต่างก็เริ่มฉาวแววความโดดเด่นขึ้นมาแทน ไม่ว่าจะเป็น เจมมา ไช่ (หมายเลข #13) ก็ขโมยซีนด้วยฉากหวิวเล็กๆ กับชุดว่ายน้ำที่มีขนาดไม่พอดีตัวจนเกิดเหตุการณ์ “นมหก” ขึ้นมา โชคดีที่ทีมงานของกองประกวดเข้ามาแก้ไขสถานการณ์ได้ทัน ส่วนสาวสวยหมายเลข #10 ลีนา ลี ก็โดดเด้งด้วยความอวบอิ่มของหน้าอกหน้าใจ และ แซนดี วู หมายเลข #7 ก็เป็นหนึ่งในสาวสวยหุ่นดี ที่มีจุดขายอยู่ที่ช่วงขาที่ยาวถึง 33.5 ซม.

อย่างไรก็ตามท่ามกลางบรรยากาศสวย ๆ จากบรรดาสาวหมวย กลับกลายเป็นนักแสดงหนุ่ม “หลอจงเฉียน” หรือ "Law Him" ที่ขโมยความเด่นไปด้วยหุ่นล่ำบึ๊กโดยเฉพาะขนาดรอบอก 40 ซม. ของเขา เรียกว่ากลายเป็นดาวเด่นท่ามกลางสาวงามไปเลย

นักแสดงหนุ่มวัย 26 ปี หลอจงเฉียน ได้ร่วมเป็นแขกรับเชิญของการถ่ายภาพสาวๆ ในชุดว่ายน้ำครั้งนี้ด้วย เขาปรากฏตัวในกางเกงว่ายน้ำ และดูมีท่าทางเขินอายหน่อยๆ เมื่อต้องมาร่วมงานกับสาวๆ 14 คนในชุดว่ายน้ำ แต่บรรยากาศของงานยิ่งร้อนขึ้นไปอีก เมื่อดาราหนุ่มคนดังถอดเสื้อออก เพื่อโชว์หุ่นฟิตเฟิร์มของเขา จนหลายๆคนเลือกให้ หลอจงเฉียน เป็นผู้ชนะในการประชัน “หน้าอก” ในวันนั้นกันเลยทีเดียว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เขารู้สึกอย่างไรกับการทำงานกับสาวๆผู้เข้าประกวดมิสฮ่องกง หลอจงเฉียน ตอบโดยทันทีว่า “ผมไม่ค่อยได้มองพวกเธอเท่าไหร่หรอกนะครับ โดยเฉพาะเมื่อสาวๆต้องโชว์รูปร่างในชุดแบบนี้เป็นครั้งแรก ผมยิ่งต้องอยู่ให้ห่าง เดี๋ยวจะเกิดเหตุการณ์อะไรให้ได้เขินกันขึ้นมาอีก”

นักร้องสาวชื่อดัง “คาเรน ม็อก” (Karen Mok) ใช้โอกาสที่เธอคว้ารางวัลจากเวที Golden Melody Awards ประกาศข่าวดีเรื่องแผนการแต่งงานกับหนุ่มชาวเยอรมัน แฟนที่ยังถือว่าเป็นรักแรกของเธอ ซึ่งคบหากันครั้งแรกตั้งแต่ยังมีอายุเพียง 17 ปี ด้วย

“ฉันไม่ได้พูดเล่นนะคะ เป็นเรื่องจริงเลย ฉันกำลังจะแต่งงาน และเขาก็คือรักแรกของฉันด้วยค่ะ” คาเรน ม็อก หรือ ม่อเหวินเว่ย ประกาศข่าวดีเรื่องการเตรียมตัวเข้าสู่พิธีแต่งงาน ระหว่างการขึ้นรับรางวัล นักร้องหญิงยอดเยี่ยมในประเภทเพลงภาษาจีนกลางบทเวที Golden Melody Awards ของไต้หวันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

คาเรน ม็อก วัย 41 ปี เล่าว่ารู้จักว่าที่สามีชาวเยอรมันที่ชื่อว่า โจฮานเนส คนนี้ตั้งแต่เธอยังเรียนอยู่ที่อิตาลี และมีอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น ในตอนนั้นความสัมพันธ์ระหว่างกันยืนยาวอยู่ประมาณ 1 ปี จนกระทั่งต่างฝ่ายต่างแยกทางกันไป และตัวของเธอก็เดินทางกลับฮ่องกง โดยคาเรนยังกล่าวถึงความรักครั้งนั้นว่าเป็น “รักที่บริสุทธิ์” ซึ่งไม่มีเรื่องเซ็กส์เข้ามาเกี่ยวข้องเลย

ตลอดเวลาที่ผ่านมาเคยมีข่าวคราวเรื่องความสัมพันธ์ของ คาเรน ม็อก กับหนุ่มๆ อีกหลายคน อาทิ ฟงเต๋อหลุน, โจวซิงฉือ และนักแต่งเพลงชื่อดัง จางหย่าตง แต่แล้วเธอก็ได้กลับมาพบกับ โจฮานเนส อีกครั้ง และกลับมาคบหากันอีกตั้งแต่ปี 2009 เป็นตอนที่เธอเพิ่งเลิกรากับ ฟงเต๋อหลุน ไปไม่นานนัก

ซึ่งขณะนี้หนุ่มเยอรมันเป็นคุณพ่อลูก 3 แล้ว และทำงานอยู่ในแวดวงการเงิน โดยฝ่ายชายได้ขอ คาเรน แต่งงานเมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน ซึ่งเธอยังแจ้งให้ทุกฝ่ายได้ทราบว่า กำหนดการเข้าประตูวิวาห์จะเกิดขึ้นภายในเดือน ต.ค. ในสถานที่โรแมนติกอย่างเมือง ฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี

นอกจากนั้นนักร้องสาวคนดังยังยืนยันว่า การตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องท้องก่อนแต่งอย่างแน่นอน … “ไม่แน่นอนค่ะ ดูรูปร่างของฉันซิค่ะ” คาเรน ม็อก กล่าวพร้อมกับเสียงหัวเราะ

Manager Online

"บอสโก หว่อง" (Bosco Wong) หรือ "หวงจงเจ๋อ" นักแสดงหนุ่มหน้าหล่อจาก TVB ต้องตกเป็นเหยื่อช่างภาพปาปารัสซี หลังเจ้าตัวถูกแอบถ่ายขณะเดินโป๊ล่อนจ้อนในห้องนอน

บอสโก หว่อง ถูกถ่ายภาพนู้ดเต็มตัวเดินร่อนไปทั่วบ้านของเขาซึ่งเผยให้เห็นสัดส่วนของเขาทั้งหมดแบบไม่มีอะไรปิดบัง ซึ่งในรายงานระบุด้วยว่า เขาอยู่บ้านรอ เหมี่ยวลี่ อู๋ (Myolie Wu) แฟนสาวของเขากลับมา ( ซึ่งในนิตยสารยังลงรูปภาพที่ทั้งคู่แนบชิดกันด้วย )

หลังจากที่นิตยสารดังกล่าววางจำหน่าย บอสโก ก็ได้เดินทางไปทำงานตามปกติที่ตึก TVB เพื่อถ่ายทำละคร ซึ่งเขาอยู่กับผู้จัดการส่วนตัว โดยเจ้าตัวตอบกองทัพนักข่าวถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นว่า

"แน่นอนครับ ว่าผมไม่รู้สึกดีเลยกับเรื่องนี้ ในฐานะศิลปิน ผมเตรียมพร้อมสำหรับความไม่เป็นส่วนตัวที่ต้องเผชิญ แต่ว่านี่มันในห้องนอนผม มันเกินลิมิตไปหน่อยแล้ว"

บอสโก ระบุว่าเขาชอบบ้านที่เปิดรับแสงอาทิตย์ และชอบเดินโป๊ไปทั่วบ้านหลังจากอาบน้ำ เมื่อถูกถามว่า เหมี่ยวลี่ แฟนสาวของเขาอยู่ที่ห้องขณะนั้นด้วยหรือไม่ เจ้าตัวปฏิเสธเสียงลั่น "ไม่ครับ! รูปนั้นถ่ายกันคนละเวลาเลย เธอพักอยู่ชั้นบน แต่เธอจะลงมากินข้าวด้วยกันบ่อยๆ"

เมื่อถูกถามว่าเมื่อไหร่พวกเขาจะเปิดตัวว่าคบกันอย่างเป็นทางการเสียที เจ้าตัวออกอาการไม่มีอารมณ์จะตอบ "ไว้ค่อยคุยเรื่องนี้กันทีหลัง ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์เลย การถ่ายทำไม่ได้กระทบอะไร ผมออกไปถ่ายฉากข้างนอกตอนบ่าย ผู้จัดการผมก็ส่งรูปจากนิตยสารมาให้ดู ผมยังเอาให้ไมเคิล เซียะ กับผู้กำกับดูเลย"

เมื่อนักข่าวระบุว่ามีแต่คนชมว่าเขาก้นสวย เจ้าตัวก็ยิ้มรับพร้อมบอกว่า "ขอบคุณนะครับทุกคน ในฐานะศิลปิน ผมไม่อยากเปลี่ยน ผมไม่อยากให้ข่าวมามีผลกระทบอะไรกับตัวผม แค่ต่อไปต้องระวังตัวมากขึ้นแค่นั้นเอง เมื่อไหร่ที่ผมถอดเสื้อผ้าออกหมด ผมจะดึงม่านปิดให้หมดเลย"

CRIENGLISH.com - ในการแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง My Kingdom เมื่อเร็วๆนี้ดาราสาวคนดังแห่งไต้หวัน “ต้าเอส” (Da S) ประกาศว่าผลงานชิ้นนี้ จะเป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของเธอ ที่หลังจากนี้จะทุ่มเทให้กับการสร้างครอบครัว และมีทายาทเป็นหลัก

“นี่จะเป็นหนังเรื่องสุดท้าย หลังจากที่ฉันแต่งงานไป ต่อจากนี่จะพยายามมีลูก และคงจะไม่มีโอกาสได้รับงานแสดงแล้ว” ต้าเอส หรือ สวีซีหยวน วัย 34 ปี กล่าวระหว่างการเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง My Kingdom ที่มีสองนักแสดงหนุ่มชื่อดัง ฮันเกิง (Han Geng) และ อู๋จุน (Wu Zun) ร่วมแสดง รวมถึงมาปรากฏตัวในงานครั้งนี้ด้วย

ต้าเอส ยังกล่าวถึงสามี หวางเสี่ยวเฟย (Wang Xiaofei) ระหว่างการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ด้วยว่า “ฉันชอบคนที่ยังมีความเป็นเด็กค่ะ แต่เขาก็ยังมีความเป็นลูกผู้ชายในเวลาเดียวกัน สามีของฉันเป็นคนแบบนั้นเอง เขาแข็งแกร่ง แม้หลายๆครั้งจะทำตัวเป็นเด็กๆก็เถอะ”

ฝ่าย จางหลัน แม่ของฝ่ายชาย ก็แสดงท่าทีเห็นด้วย กับการตัดสินใจของ ต้าเอส ที่ต้องการจริงจังกับการใช้ชีวิตครอบครัวเป็นหลัก “การถ่ายหนังมันต้องใช้เวลานานมาก เธออยากจะใช้เวลาพักผ่อน หลังจากที่เธอแต่งงาน และคงไม่รับงานอะไรไปอีกพักหนึ่ง ในช่วงต่อไปนี้เธอจะให้ความสำคัญไปกับงานโฆษณาแทน เธออยากจะมีลูกขณะที่อายุยังไม่มากเกินไป การเริ่มครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้”

ในประเด็นข่าวเกี่ยวข้องกัน ที่มีรายงานเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของ หวางเสี่ยวเฟย กับนางแบบสาวนาม แอนเจลิน ที่เกิดขึ้นก่อนเขาจะเข้าประตูวิวาห์ไม่นานนัก เศรษฐีหนุ่มสามีของ ต้าเอส กล่าวแต่เพียงว่า “มันไม่ใช่เรื่องจริง” และย้ำว่าจะไม่อธิบายอะไรไปให้มากความ เพราะจะไปเข้าทางนักข่าว เป็นการช่วยโหมให้เรื่องนี้ใหญ่ขึ้นไปอีกโดยไม่จำเป็น

นักธุรกิจหนุ่มยืนยันว่าชีวิตครอบครัวของเขามีความสุขดี และเพิ่งให้ข่าวผ่านเว็บไซต์ส่วนตัวเมื่อเร็วๆนี้ว่าเขากำลังจะรับตำแหน่งซีอีโอของบริษัท F&B group เครือภัตตาคารที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศจีน ซึ่งมีมารดาเป็นผู้ก่อตั้งในเร็วๆนี้แล้ว

"อู๋จุน" (Wu Zun) นักร้อง-นักแสดงหนุ่มชื่อดังชาวไต้หวันกำลังตกเป็นข่าวใหญ่ว่าเขาแอบแต่งงานและมีลูกน้อยวัย 4 เดือนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวรีบออกมาเคลียร์ข่าวเป็นการใหญ่

หลิวชูชวน ผู้จัดการส่วนตัวของ อู๋จุน ได้ออกมาปกป้องนักแสดงหนุ่มพร้อมชี้แจงต่อสื่อหลังมีรายงานว่าเขาแต่งงานแล้วและมีลูกสาววัย 4 เดือนเป็นที่เรียบร้อย

ข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังมีสื่อพร้อมใจกันรายงานและตีพิมพ์ภาพอู๋จุนกับหญิงสาวรายหนึ่งขณะอยู่ในรถ โดยระบุว่าหญิงสาวรายนั้นคือภรรยาของอู๋จุน ขณะเดียวกันบุคคลที่อ้างตนว่าเป็นเพื่อนบ้านของอู๋จุนที่ได้รับการระบุว่าเป็นผู้เผยความลับก็ยืนยันว่านักร้อง-นักแสดงหนุ่มรายนี้แต่งงานมีลูก มีภรรยาแล้ว

อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการส่วนตัวก็ได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวทั้งหมดพร้อมชี้แจงว่า "คนที่อยู่ในภาพถ่ายคือพี่สะใภ้ของอู๋จุน พวกเขาระบุตัวผิด" ผู้จัดการส่วนตัวอธิบายต่อสื่อ

นอกจากนั้นเธอยังกล่าวเพิ่มเติมด้วย ว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่อู๋จุนจะเริ่มต้นชีวิตครอบครัว เนื่องจากเขามีตารางงานที่ยุ่งมากทั้งงานถ่ายหนังและละคร

"เขาต้องบินไปนู่นมานี่ทุกวัน เขาจะเอาเวลาที่ไหนไปแต่งงาน?" ผู้จัดการส่วนตัวกล่าวอย่างเหลืออด พร้อมชี้ให้เห็นว่านักร้อง-นักแสดงหนุ่มรายนี้บ้างานเป็นที่สุด

Manager Online

"เอดิสัน-เฉินกว้านซี" (Edison Chen) ถึงกับควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ และระเบิดความโกรธใส่ผู้สื่อข่าว ที่มาคอยติดตามขอสัมภาษณ์เขาที่สนามบินฮ่องกง เกี่ยวกับประเด็นชีวิตคู่ของ "จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) และ "เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) ... ขณะที่อีกด้านเรื่อง “เซ็กส์” ของหนุ่มฉาวรายนี้ก็ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อมีนางแบบสาวรายหนึ่ง ออกมาแฉว่า "อาเฉิน" ได้ส่งข้อความ เพื่อขอขึ้นเตียงกับเธอ

เฉินกว้านซี กลายเป็นที่ต้องการตัว จากบรรดาเหล่าผู้สื่อข่าวอีกครั้ง หลังชื่อของเขาถูกผูกเข้ากับ ประเด็นรักร้าวของ จางป๋อจือ และ เซียะถิงฟง จึงไม่ใช่เรื่องผิดความคาดหมาย เมื่อมีบรรดาผู้สื่อข่าวติดตามรอขอสัมภาษณ์ระหว่างที่ เฉินกว้านซี เดินทางมาถึงสนามบินฮ่องกง ในช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ในวันนั้นดาราหนุ่มคนดังเลือกที่จะใส่หูฟังเอาไว้ และพยายามเร่งเดินให้เร็ว เพื่อหนีการติดตามของนักข่าวให้ได้

แต่แล้วก็เกิดความวุ่นวายเล็กๆขึ้นมาจนได้ เมื่อมีนักข่าวรายหนึ่ง เดินมาชนกับตัวของ เฉินกว้านซี จนทำให้ความอดทนของดาราหนุ่มหมดสิ้นลงทันที ซึ่งข่าวรายงานว่าเขาโกรธจนหน้าแดง และชี้นิ้วไปที่นักข่าวคนนั้น และพูดขึ้นว่า "ทำไมต้องทำกันแบบนี้ด้วย"

แม้นักข่าวคู่กรณีจะกล่าวขอโทษ แต่ เฉินกว้านซี ก็ดูเหมือนจะยังไม่พอใจ เขาตะโกนกลับไปอีกว่า "ถ้าผมต่อยคุณ แล้วขอโทษง่ายๆ แบบนี้มันจะโอเคไหม? ถ้าผมชนคุณล้ม คุณก็คงเอาไปเขียนถึง 5 วันติดๆกัน แต่พอคุณมาชนผมแบบนี้ กลับคิดว่ามันไม่เห็นเป็นไรเลยใช่ไหม"

นางแบบสาวแฉ “เฉินกว้านซี” ขอขึ้นเตียง

ขณะที่ถูกกล่าวหาว่า กำลังจะทำให้ชีวิตคู่ของอดีตคนรัก และเพื่อนเก่าอย่าง จางป๋อจือ กับ เซียะถิงฟง พังลง ตัวของหนุ่มจอมอื้อฉาว เฉินกว้านซี เองก็ต้องพบกับศึกอีกด้านด้วย เมื่อนางแบบสาวรายหนึ่ง ได้ออกมาแฉถึงเรื่องลับๆเกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศของอาเฉิน โดยเฉพาะเรื่องที่เขาติดต่อขอมีอะไรกับเธอ

ข่าวลือเกี่ยวกับปัญหาชีวิตคู่ ของสองนักแสดงชาวฮ่องกงชื่อดังอย่าง “เซียะถิงฟง” (Nicholas Tse) และ “จางป๋อจือ” (Cecilia Cheung) ยังคงไม่จบลงง่ายๆ โดยสื่อหลายสำนักยืนยันตรงกันว่า ชีวิตคู่ของทั้งสองกำลังจะจบลงแล้ว และปัญหาไม่ได้มาจาก “เฉินกว้านซี” (Edison Chen) เพียงอย่างเดียว แต่ชีวิตคู่ที่ผ่านมาของทั้งสอง เต็มไปด้วยปัญหาเกรอะกรังที่ขณะนี้กลายเป็นแผลที่ยากจะผสานไปแล้ว
       
       แม้จะมีสำนักข่าวบางแห่ง อ้างคำพูดจากคนใกล้ชิดของฝ่ายชาย ว่าสามีภรรยาคนดังแห่งวงการบันเทิงฮ่องกงจะยังไม่แยกทางกันอย่างแน่นอน แต่ยังมีสื่อหลายสำนักในฮ่องกงได้ยืนยันว่าชีวิตแต่งงาน 5 ปีของ เซียะถิงฟง และ จางป๋อจือ ได้จบสิ้นลงแล้ว
       
       ตามข่าวฝ่ายชายได้พบปะพูดคุยกับทนายความส่วนตัวของเขาเมื่อสัปดาห์ ก่อน และตัดสินใจจะหย่าขาดกับภรรยาสาวที่มีทายาทด้วยกัน 2 คน พร้อมกับยื่นเอกสารการหย่าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
       
       ยังมีรายงานว่า จางป๋อจือ ตกใจมากเมื่อเธอได้รับเอกสารการหย่า โดยตลอดช่วงปลายเดือนก่อน เมื่อทั้งสองมีปัญหากันมีข่าวว่า จางป๋อจือ พยายามส่งข้อความหาสามีหลายครั้ง ในครั้งหนึ่งเธอยังเป็นฝ่ายขู่ เซียะถิงฟง ว่าถ้าชีวิตแต่งงานมีแต่ปัญหาแบบนี้ก็หย่าขาดจากกันไปเลยจะดีเสียกว่า
       
       โดยผู้จัดการส่วนตัวของ เซียะถิงฟง ยังไม่ได้ออกมาตอบข้อซักถามใด ๆ ขณะที่ผู้ช่วยส่วนตัวของเขาก็ตอบแต่เพียงว่า ไม่ทราบรายละเอียดของเรื่องนี้
       
       มรสุมข่าวลือ “เซียะถิงฟง” “จางป๋อจือ” : แค่ข่าวหรือสะท้อนปัญหาหมักหมม
       

หนังโป๊สามมิติ, ผลงานสุดอื้อฉาว, สร้างข่าวโปรโมตหนัง, โดนแบนในแผ่นดินใหญ่, ชาวจีนแห่ข้ามแดนมาดู, ดาราเอวีจากญี่ปุ่น, ไดเร็คเตอร์คัท, การกลับมาของหนังเกรด III …. ทุกคำถามจากหนัง "สุดหวือหวา และอื้อฉาว" แห่งปี 3D Sex and Zen: Extreme Ecstasy มีคำตอบที่นี่แล้ว โดยผู้กำกับ และมือเขียนบทตัวจริง
       
       มาร์ค วู และ คริสโตเฟอร์ ซุน อาจจะไม่ใช่คนทำหนังระดับเด่นดังอะไรของฮ่องกงนัก รายแรกเป็นนักเขียนบทที่มีผลงานทางโทรทัศน์เป็นส่วนใหญ่ ผลงานโดดเด่นที่สุดก็คือการเขียนบทหนังผีอย่าง The Eye 10 ขณะที่รายหลังก็ก้าวมาจากวงการวิทยุ, เบนเข็มไปทำโทรทัศน์ จนในที่สุดก็เดินทางมาถึสายงานภาพยนตร์
       
       แต่ผลงานล่าสุดจากทั้งสอง กลับกลายเป็นหนังที่สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วโลก 3D Sex and Zen: Extreme Ecstasy ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนังโป๊สามมิติเรื่องแรกของโลก แม้ผู้สร้างจะยืนยันว่านี่ไม่ใช่หนังโป๊ แต่เป็นผลงานภาพยนตร์สไตล์เซ็กซี่แบบฮ่องกง ที่เรียกกันว่า “หนังเกรด III” ถึงอย่างไรมันก็กลายเป็นที่สนใจไปทั่วโลกแล้ว
       
       กว่า 18 เดือนที่ข่าวการสร้าง, คัดเลือกนักแสดง, การถ่ายทำ จนไปถึงขั้นตอนทำประชาสัมพันธ์ และเข้าโรงฉาย 3D Sex and Zen: Extreme Ecstasy กลายเป็นข่าวมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในการเดินทางมาเยือนประเทศไทย ทั้งผู้เขียนบท และผู้กำกับได้ให้โอกาส “Super บันเทิง” ไขข้อสงสัยทั้งหมดที่มีต่อผลงานชิ้นนี้
       
       คริสโตเฟอร์ ซุน เริ่มรื้อฟื้นถึงโครงการนำภาพยนตร์ Sex and Zen กลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง ซึ่งถึงตอนนี้ก็เป็นโครงการมีที่อายุยาวนานถึงกว่า 10 ปีแล้ว
       

คู่รักคนดังแห่งวงการบันเทิงจีนแผ่นดินใหญ่ “เติ้งเชา” (Deng Chao) และ “ซุนลี่” (Sun Li) ได้จูงมือกันเข้าพิธีวิวาห์อย่างหวานชื่นเมื่อช่วงวันอังคารที่ 7 มิ.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่ฝ่ายเจ้าสาวคนสวยได้ประกาศในพิธีดังกล่าวเป็นครั้งแรก ว่าเธอได้ตั้งท้องแล้ว

สำนักข่าวในจีนถึงกับกล่าวว่า แม้จะจัดกันแบบเรียบง่าย แต่พิธีแต่งงานของ เติ้งเชา และซุนลี่ กลายเป็นอีเวนต์ที่ใครๆก็ให้ความสนใจ ชนิดที่ว่างาน Shanghai TV Festival ที่มีคนบันเทิงเข้าร่วมมากมายยังถูกบดบังรัศมีไปเลย

ในงานมงคลครั้งนี้ดาราสาววัย 28 ปีปรากฏตัวขึ้นในชุดเจ้าสาวสีขาว และดูมีน้ำมีนวลกว่าปกติเล็กน้อย จนในตอนหนึ่งของงาน ซุนลี่ จึงได้ประกาศต่อหน้าทุกคนว่าเธอได้ตั้งครรภ์แล้ว ... "คุณต้องทำดีกับฉันและลูกมากกว่าเดิมนะคะ" ซุนลี่ กล่าวกับสามีของเธอ

โดยก่อนหน้านี้มีข่าวลือถึงเรื่องการตั้งครรภ์ของนางเอกสาวคนดังแห่งซีรีส์ เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ มาซักระยะเวลาหนึ่งแล้ว ซึ่งข่าวยังระบุว่า เพราะภรรยากำลังตั้งท้อง ฝ่ายชายจึงเป็นผู้รับผิดชอบดูแลการจัดเตรียมพิธีแต่งงานครั้งนี้ด้วยตัวของเขาเองเพียงคนเดียว

เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา เติ้งเชา และซุนลี่ ได้ประกาศยอมรับเป็นครั้งแรก ว่าพวกเขาทั้งสองได้จดทะเทียนสมรสกันอย่างถูกต้องตามกฏหมายตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ. 2010 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดปีที่ 31 ของฝ่ายชายแล้ว และอธิบายว่าไม่ได้เปิดเผยเรื่องดังกล่าวให้กับสาธารณะชนได้ทราบตั้งแต่แรก เพราะต่างฝ่ายต่างมีภารกิจในเรื่องงานจนแทบไม่ว่างเลย กระทั่งเมื่อถึงเวลาอันสมควรจึงได้ประกาศข่าวดีให้ทุกคนได้ทราบ พร้อมประกาศข่าวเรื่องการจัดพิธีแต่งงาน ซึ่งมีขึ้นในเดือน มิ.ย. ด้วย

"ผมอยากจะเปิดเผยเรื่องนี้มาตลอดอยู่แล้ว แต่หาโอกาสเหมาะๆไม่ได้เสียที ตอนแรกกะจะประกาศบนเวทีตุ๊กตาทองฮ่องกงน่ะครับ ถ้าเกิดคว้ารางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมได้ขึ้นมา แต่สุดท้ายก็แห้วไป" เติ้งเชา กล่าวติดตลกถึงเรื่องการหาจังหวะในการประกาศข่าวดีของตนเอง ระหว่างพูดคุยกับผู้สื่อข่าวเมื่อเดือนก่อน

เพิ่งแต่งงานกันไปได้ไม่ทันไรก็มีข่าวออกมาให้คนได้ช็อคเล่น โดยล่าสุดสื่อจีนตีข่าวกล่าวหา "หวังเสี่ยวเฟย" (Wang Xiao Fei) นักธุรกิจหนุ่มชื่อดัง แอบนอกใจ "ต้าเอส" (Da S) หรือ "สวีซีหยวน" ภรรยานักแสดงสาวก่อนทั้งคู่เข้าพิธีแต่งงาน

โดยสาวมือที่สามรายนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็น แองเจลิน เลิฟ หรือที่รู้จักในนาม แองเจลา เบบี้ (Angela Baby) นางแบบสาวชื่อดัง ซึ่งมีรายงานว่า หวังเสี่ยวเฟย ส่งข้อความหวานๆหานางแบบสาวเป็นประจำ

แองเจลา เบบี้ หรือ แองเจลิน นางแบบสาวรายนี้เป็นนางแบบเจ้าของคัพขนาด 33c ซึ่งก่อนหน้านี้เธอเคยออกหนังสือภาพเซ็กซี่ที่เธอถ่ายทำในประเทศไทย ก่อนจะโด่งดังไปได้สวยกับงานบันเทิงในฮ่องกง

ตามรายงานระบุว่า หวังเสี่ยวเฟย ได้พบกับ แองเจลิน ครั้งแรกในเดือน มิ.ย. ปีที่แล้ว หลังจากทั้งคู่ได้รู้จักกัน ก็พากันไปกินข้าวด้วยกัน โดยหวังเสี่ยวเฟยพาเธอไปยัง Lan Club ( คลับที่เปิดกิจการโดยจางหลาน แม่ของหวังเสี่ยวเฟย )

และข้อความที่ทั้งสองคนส่งถึงกันนั้น ยกตัวอย่างเช่น "ผมร้อนรุ่ม", "ผมคิดถึงคุณเหมือนกัน" ซึ่งสื่อให้เห็นว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์กัน

ในเวลานั้น หวังเสี่ยวเฟย กำลังมีข่าวควงอยู่กับ ต้าเอส อย่างเปิดเผย แม้ว่าตัวเขาเองนั้นดูเหมือนยังไม่ได้จบสัมพันธ์กับ แองเจลิน อย่างเด็ดขาดเลยก็ตาม จนกระทั่งต้าเอสและหวังเสี่ยวเฟยได้เข้าพิธีวิวาห์สายฟ้าแล่บกันไปเมื่อ 3 เดือนก่อน

ในรายงานยังระบุเพิ่มเติมด้วยว่า แองเจลิน เคยโพสท์ภาพถ่ายขณะเธอกำลังดินเนอร์สุดโรแมนติกกับหวังเสี่ยวเฟยในบล็อกส่วนตัวของเธอเอง ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ข่าวการควงกันของหวังเสี่ยวเฟยและต้าเอสปรากฏต่อสื่อ โดยในเวลานั้นต้าเอสนักแสดงสาวชาวไต้หวัน ถึงขั้นมีรายงานว่าเธอส่งคนไปแบล็คเมลแองเจลิน และบังคับให้เธอลบรูปออกจากบล็อคเลยทีเดียว

ซึ่งหลังจากนั้น แองเจลิน ได้โพสท์ข้อความที่เป็นปริศนาลงในบล็อคของเธอว่า

"แมวหลงรักปลาตัวหนึ่งที่อยู่ในอ่าง วันหนึ่งอ่างนั้นได้แตกไปและปลาตัวนั้นก็ตาย ในที่สุดแมวก็ได้เข้าใจว่าการรักใครสักคนไม่จำเป็นต้องอยู่กับเขาเสมอไป"

มีรายงานสถานการณ์ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องชีวิตคู่ของ "จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) และ "เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) โดยสื่อจีนอ้างข้อมูลจากเพื่อนสนิทคนหนึ่งของฝ่ายชาย ว่าคู่สามีภรรยาสุดดังแห่งวงการบันเทิงฮ่องกงคู่นี้กลับมาคืนดีกันแล้ว หลังมือที่สามอย่าง "เฉินกว้านซี" (Edison Chen) กลับมาทำให้ชีวิตแต่งงานของทั้งสองต้องวุ่นอยู่พักใหญ่ๆอีกครั้ง

ข่าวชีวิตแต่งงานที่มีปัญหาของ เซียะถิงฟง และ จางป๋อจือ กำลังเป็นประเด็นใหญ่ในสื่อบันเทิงของฮ่องกง ภายหลังมีรายงานความระหองระแหง ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากฝ่ายหญิงได้ไปพบกับอดีตคนรักอย่าง เฉินกว้านซี บนเที่ยวบินระหว่างการเดินทางจากไต้หวันไปฮ่องกงเมื่อเร็วๆนี้

จนมีข่าวลือต่างๆ แพร่สะพัดออกมามากมายในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตั้งแต่ข่าว จางป๋อจือขู่จะฆ่าตัวตาย, เซียะถิงฟงประชดด้วยการนิ่งเงียบไม่พูดจากับเธอ รวมถึงเรื่องที่ว่าทั้งคู่จะหย่าขาดจากกันในเร็วๆนี้ และอาจจะเซ็นใบหย่ากันในสัปดาห์นี้เลย ถ้าหากตกลงเรื่องการแบ่งสินสมรสได้

ซึ่งขณะนี้ เซียะถิงฟง กำลังถ่ายทำหนังเรื่องใหม่อยู่ที่มาเลเซีย ขณะที่ จางป๋อจือ ก็ปักหลักทำงานอยู่ที่เซินเจิ้น จนผู้สื่อข่าวต้องแยกออกไปเป็นสองทางเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของดาราชื่อดังทั้งสอง แต่ล่าสุด Sina ได้อ้างข้อมูลจากเพื่อนสนิทคนหนึ่งของ เซียะถิงฟง ยืนยันว่าปัญหาต่างๆได้คลี่คลายไปแล้ว

นักดนตรีชื่อดังคนหนึ่ง ที่เป็นเพื่อนสนิทของ เซียะถิงฟง ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้กับสื่อเป็นครั้งแรก เพราะเหตุผลว่าเขาไม่ต้องการให้ข่าวลือลุกลามบานปลายไปมากกว่านี้แล้ว

โดยมีการเปิดเผยว่า สองสามีภรรยาคนดังมีปากเสียงกันจริง หลังจาก จางป๋อจือ ได้พบกับ เฉินกว้านซี แต่ก็สามารถพูดจาทำความเข้าใจกันได้ นอกจากนั้นเขายังยอมรับว่า เซียะถิงฟง ไม่พอใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ไม่น้อย แต่สุดท้ายนักแสดงหนุ่มชื่อดังก็พร้อมจะอภัยให้กับภรรยาคนสวยอีกครั้ง และตลอดเวลาหลังจากเกิดเรื่องทั้งคู่ยังคงติดต่อ เพื่อพูดคุยถึงเรื่องต่างๆด้วยกันอยู่ตลอด ไม่ได้ขาดการติดต่อไปอย่างที่มีรายงานในข่าว ยิ่งเรื่องการหย่าขาดยิ่งไม่มีมูลความจริงเลย

Manager Online

จ่อลงโรงฉายในไทยให้ได้ซี้ดกันเต็มๆตา ในวันที่ 9 มิถุนายน ที่จะถึงนี้แล้ว สำหรับภาพยนตร์อีโรติก 3 มิติสุดอื้อฉาว "3D SEX AND ZEN : EXTREME EXSTASY" หรือชื่อไทย "เซ็กซ์แอนด์เซน ตำรารักทะลุจอ"

โดยเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดตัวรอบสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการ ที่โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย ชั้น 6 พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ในงานมีตัวแทนนักแสดงนำในเรื่อง บินมาสร้างความฮือฮาให้หนุ่มไทยเลือดกำเดาไหลก่อนชมเวอร์ชั่นเต็ม ได้แก่ ฮิโร ฮายามา ผู้รับบท เหว่ยหยางเซ็ง ร่วมด้วย หลัน เหยียน (Lan Yan) ผู้รับบท เตียหยูเซียง และ ผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ ซุน ซึ่งงานนี้ได้รับความสนใจจากบรรดาสื่อมวลชน รวมไปถึงประชาชนทั่วไปที่เฝ้ารอชมภาพยนตร์ร้อนแรงแห่งปีเรื่องนี้อย่างคับคั่ง โดยมีกำหนดเข้าฉายในบ้านเราเพียง 1 สัปดาห์ เฉพาะในโรงภาพยนตร์ระบบ 3D เท่านั้น

Manager Online

กำลังจะกลายเป็นเกาเหลาคู่ใหม่ในวงการภาพยนตร์จีนไปแล้ว ? เมื่อ "กงลี่" (Gong Li) ออกมาวิจารณ์นักแสดงรุ่นน้องที่ไม่ได้ระบุชื่อคนหนึ่ง แต่ใครๆก็นึกไปถึง "ฟั่นปิงปิง" (Fan Bing Bing) ว่าการไปเดินพรมแดงเทศกาลหนังเมืองคานส์ ทั้งๆที่ไม่ได้มีหนังของตัวเองเข้าร่วมในสายประกวด หรือถูกฉายอย่างเป็นทางการนั้น ช่างเป็นการกระทำที่โง่จริงๆ

เมื่อไม่กี่วันก่อน กงลี่ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงนักแสดงรุ่นน้องรายหนึ่ง ซึ่งเธอไม่ได้ระบุชื่อว่าเป็นใคร ในแง่ที่ไม่ค่อยจะดีนัก โดยแสดงความคิดเห็นว่า เป็นเรื่องที่โง่มาก ที่นักแสดงสาวคนนั้นสามารถเสนอหน้าไปเดินเฉิดฉายบนพรมแดงของเทศกาลหนังซึ่งสำคัญที่สุดในวงการ ทั้งๆที่หนังของตัวเองก็ไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรเลย ... "ผลงานทางการแสดงของเธอคนนั้นแทบไม่เคยถูกเลือกโดยคณะกรรมการของงานเลย ... ทั้งๆที่ไม่ได้มีงานอะไรโดดเด่นมากนัก แต่กลับไปเดินพรมแดงแบบนั้น เป็นเรื่องโง่จริงๆ สำหรับนักแสดงหญิงคนหนึ่ง" กงลี่ กล่าว

เช่นเดียวกันกับเมื่อเร็วๆนี้ที่ จางจื่ออี๋ (Zhang Ziyi) ก็เคยกล่าวออกมาว่า เธอจะไปเดินพรมแดงในเทศกาลหนัง ตราบเท่าที่มีงานของตัวเองเข้าฉายอยู่ด้วยเท่านั้น ซึ่งสำนักข่าวในเมืองจีนไม่ลังเลเลยที่จะชี้เป้าไปว่า ทั้ง กงลี่ และ จางจื๋ออี้ กำลังกล่าวเหน็บแนมไปถึง ฟั่นปิงปิง ดาราสาวจีนที่กลายเป็นดาวเด่นบนพรมแดงของเทศกาลหนังเมืองคานส์ในช่วง 2 - 3 ปีหลัง ด้วยชุดสวยๆของเธอ แทนที่จะเป็นความโดดเด่นในเรื่องผลงานอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามเมื่อผู้สื่อข่าวไปถามความเห็นจากเจ้าตัว ฟั่นปิงปิง ยังคงมองโลกในแง่ดี และคิดว่า กงลี่ ไม่ได้พูดถึงเธอ "ถ้าเธอไม่ได้พูดถึงชื่อของฉันขึ้นมา มันก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรให้ฉันคิดว่า เธอหมายถึงฉันนะคะ กงลี่ อาจจะพูดถึงคนอื่นอยู่ก็ได้ ฉันจะสนใจและเอาใจใส่ต่อเรื่องงานของตัวเอง และทำทุกอย่างใด้ดีที่สุดเท่านั้น กงลี่ เป็นนักแสดงในดวงใจของฉัน ตั้งแต่ดูการแสดงของเธอใน Red Sorghum แล้ว ไม่คิดว่าเธอจะพูดอะไรแบบนั้นกับฉันหรอกค่ะ"

"ฉันให้ความสำคัญกับงานของตัวเองมากที่สุด และจะพยายามทำงานให้หนักขึ้น เพื่อให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบกว่าเดิม นี่เป็นทัศนคติในการทำงานของฉันมาตลอดค่ะ และเชื่อว่านี่ก็น่าจะเป็นแนวทางสำหรับนักแสดงทุกคนด้วย"

เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมาเป็นวันเด็กของหลายๆชาติ รวมถึงในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ที่คนในวงการบันเทิงส่วนหนึ่งต่างได้ร่วมฉลองและทำกิจกรรมกัน รวมถึงดาราสาว "ฟั่นปิงปิง" (Fan Bing Bing) ด้วย

สาธารณรัฐประชาชนจีนได้ถือเอาวันที่ 1 มิ.ย. ของทุกปีเป็นวันเด็กแห่งชาติ ในวันนี้ของทุกปีโรงเรียนทั่วประเทศจะจัดให้มีกิจกรรมพิเศษสำหรับเด็กๆ ทั้งจัดงานฉลอง, การละเล่น รวมถึงพาเด็กๆ ไปทัศนศึกษาตามสถานที่ต่างๆ

ดาราสาวคนดัง ฟั่นปิงปิง เป็นหนึ่งในคนดังที่ร่วมกิจกรรมกับเด็กๆ ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง โดยเธอเลือกที่จะแต่งตัวด้วยเครื่องแบบนักเรียนแบบกะลาสี พร้อมผ้าผูกคอสีแดงแบบอนุชนจีน เพื่อมอบของขวัญ และอุปกรณ์การเรียนให้กับเด็กโดยเฉพาะเหล่าเด็กกำพร้า ที่จังหวัดเหอหนาน อันเป็นฐานที่มั่นของพรรคคอมมิวนิสต์ในอดีต

นอกจากนั้นในวันเด็กดาราสาวคนดังยังมอบของขวัญเป็นโทรศัพท์มือถือ iPhones สีขาวรุ่นใหม่ให้กับทีมงาน สำหรับการทำงานอย่างหนัก ระหว่างการเยือนเทศกาลหนังเมืองคานส์ของเธอเมื่อเร็วๆนี้ด้วย

ในภาพที่แตกต่างของกิจกรรมวันเด็ก นิตยสารเล่มหนึ่งในประเทศจีน ได้นำเสนอภาพแฟชั่นวันเด็ก โดยนางแบบสาวเซ็กซี่ 6 คน กับเสื้อผ้า, ถุงเท้า, รองเท้า ที่เต็มไปด้วยสีสันกับภาพกิจกรรมเลียนแบบเด็กๆของพวกเธอ ... แม้ทางนิตยสารจะอธิบายว่าภาพดังกล่าว มีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นถึงจิตสำนึกการดูแลบุตรหลาน แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นภาพที่มุ่งเอาใจบรรดากลุ่มผู้ใหญ่ด้วยสาวๆเซ็กซี่เสียมากกว่า

Manager Online

"หวงเย่อหัว" (Felix Wong), "เหมียวเฉียวเหว่ย" (Michael Miu), "หยังพ่านพ่าน" (Sharon Yeung), "ฉินเพ่ย" (Paul Chun) คือส่วนหนึ่งของทีมนักแสดงจากหนังชุด "มังกรหยก" (Legend of the Condor Heroes) ฉบับปี 1983 อันโด่งดัง ซึ่งได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ในรายการของโทรทัศน์จีนแผ่นดินใหญ่ช่องหนึ่ง ที่ทำให้แฟนเก่าๆ ได้หายคิดถึงนักแสดงจากหนังชุดมังกรหยกที่ยังอยู่ในความทรงจำของหลายๆคน - Asianfanatics.net

จากวันเวลาที่ผ่านไปถึง 28 ปีแล้ว ริ้วรอยของวัยปรากฏบนใบหน้าของ ก๊วยเจ๋ง และ เอี้ยคัง อย่างชัดเจน, ส่วน เฒ่าทารก-จิวแป๊ะทง ก็ยอมรับว่าเขาเริ่มนั่งและลุกขึ้นยืนช้าลงเรื่อยๆ ขณะที่ เจงกิสข่าน ผู้มีผมและเคราสีหงอกขาว ก็กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าเขาอยู่ในช่วง "กึ่งเกษียณอายุ" และหลังจากนี้คงจะเลือกรับงานแต่ที่จำเป็นเท่านั้น

หนังชุดมังกรหยก เป็นความทรงจำของคนมารุ่นแล้วรุ่นเล่า ไม่ว่าจะเป็นมังกรหยกปี 1959 ที่มี เฉาต๊ะหัว และ หรงเสี่ยวอี้ เป็น ก๊วยเจ๋ง,อึ้งย้ง, ฉบับปี 1976 ของ ไปเปียว และ หมีเซียะ หรือฉบับจีนแผ่นดินใหญ่ของ CCTV ของคู่ขวัญ หลี่เย่าเผิง กับ โจวซวิ่น กระทั่งล่าสุด กับมังกรหยกฉบับดาราวัยรุ่นเมื่อปี 2008 ที่มีสองดาราขวัญใจของหลายๆคนอย่าง หูเกอ และ หลินอี้เฉิน รับบทนำ

หนึ่งใน มังกรหยก ที่ยังอยู่ในความทรงจำของผู้คนมากมายที่สุดก็คือ ฉบับหนังชุดของทีวีบีเมื่อปี 1983 ซึ่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเจ้อเจียงทีวีได้รวบรวมผู้แสดงเด่นๆในหนังชุดเรื่องนั้นกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง จะขาดก็เพียง องเหม่ยหลิง ผู้รับบทเป็น อึ้งย้ง ที่เสียชีวิตไปแล้วเท่านั้น

เหล่านักแสดงได้โอกาสย้อนกลับไปมอง งานเมื่อ 28 ปีก่อนของพวกเขาอีกครั้ง โดยในรายของหยางพ่านพ่าน ผู้รับบทเป็น มกเนี่ยมชื้อ กล่าวยอมรับว่าเมื่อลองนึกถึงคำแนะนำของผู้กำกับเกี่ยวกับฉากการเสียชีวิตของ เอี้ยคัง ก็ทำให้เธอสามารถเรียกน้ำตาได้ในวันนี้เลย ขณะที่อีกหลายคนก็ยังจดจำความซื่อของ ก๊วยเจ๋ง และความเจ้าเล่ห์ของ เอี้ยคัง ได้ดี

มารดาของ "เหมยเยี่ยนฟาง" หวังใช้สื่อเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม ในคดีความที่เธอเป็นฝ่ายแพ้ ไม่สามารถเข้าไปดูแลจัดการกองมรดกของลูกสาวได้อย่างที่หวัง

ถันเหม่ยจิน ได้จัดการแถลงข่าวขึ้นที่โรงพยาบาลระหว่างรักษาตัวอาการป่วยเกี่ยวกับโรคหัวใจ เมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ในคดีที่เธอยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอเข้าไปดูแลจัดการกองมรดกของลูกสาว ที่เสียชีวิตไปเมื่อ 8 ปีก่อน

สื่อในฮ่องกงรายงานว่าแม้จะมีสุขภาพไม่ค่อยจะดีนัก แต่หญิงวัย 88 ปี ยังแถลงข่าวด้วยเสียงอันดัง กับเรื่องที่เจ้าตัวอ้างว่า ทรัพย์สินของเหมยเยี่ยนฟาง กำลังถูกผู้จัดการมรดกผลาญให้หมดสิ้นลง โดยเธอไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลย

เธอยังอ้างว่าตนเองถูกขัดขวางไม่ให้เข้าไปดูแลการปล่อยเช่าบ้านบนเขาหลังหนึ่งของเหมยเยี่ยนฟาง ทั้งๆที่ลูกสาวได้มอบให้กับเธอแล้ว "อาเหมยบอกกับฉันด้วยตัวของเธอเองก่อนจะเสียชีวิต ว่าให้ฉันดูแลปล่อยเช่าบ้านหลังนั้น สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันต่างๆ"

"แต่เมื่อ แอน เหมย (พี่สาวของเหมยเยี่ยนฟาง) เสียชีวิตในปี 2000 เกิดความเข้าใจผิดบางอย่างขึ้นเกี่ยวกับเรื่องการเสียภาษี จนฉันไม่ได้เซ็นเอกสารเพื่อยืนยันกรรมสิทธิ์ในการดูแลบ้านหลังนั้น"

นอกจากนั้น ถันเหม่ยจิน ยังอ้างว่าผู้จัดการกองทุนมรดกของลูกสาว ยังหยุดจ่ายค่าใช้จ่ายรายเดือนหลังจากเธอยื่นเอกสารต่อศาล เพื่อขอเข้าไปดูแลกองมรดกของลูกสาวด้วยตัวเอง จนกระทั่งศาลได้สั่งยกฟ้องไปเมื่อต้นเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา

ถันเหม่ยจิน อ้างว่าเธอกำลังประสบสภาวะทางการเงิน ไม่มีกระทั่งค่าใช้จ่ายสำหรับซ่อมรถยนต์ หรือจ่ายค่าโรงพยาบาล นอกจากนั้นมารดาของนักร้องผู้โด่งดังได้ประกาศว่า "จะขอเรียกร้องความยุติธรรมทางโทรทัศน์" เพื่อบอกเล่าความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้

คดีการฟ้องร้องระหว่างครอบครัวของ เหมยเยี่ยนฟาง และผู้จัดการมรดก เป็นเรื่องอื้อฉาวในวงการบันเทิงฮ่องกงมาหลายปี จนได้ข้อยุติเมื่อในวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยศาลตัดสินยกฟ้องคำร้องของฝ่ายครอบครัวซึ่งได้แก่มารดา และพี่ชาย ที่ขอเข้าไปจัดการมรดก เพราะเป็นคำร้องที่ขัดแย้งกับพินัยกรรมที่นักร้องคนดังได้เขียนเอาไว้ก่อนเสียชีวิต