ข่าวจีน

“เฉินหลง” แถลงขอโทษคนฮ่องกง หลังถูกถล่มกรณีจับตัวประกันในมะนิลา

Submitted by canjamm on 29 สิงหาคม, 2010 - 04:01

บีบีซีไชนีส – เฉินหลง (Jackie Chan) ใส่เกียร์ถอย ออกมาขอโทษชาวฮ่องกง หลังทวีตข้อความเห็นอกเห็นใจเจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ กรณีนักท่องเที่ยวฮ่องกงถูกคนร้ายจับเป็นตัวประกัน และถูกสังหารกลางกรุงมะนิลา อ้างผู้ช่วยแปลความเป็นภาษาอังกฤษไม่ครบถ้วน ยันเป็นคนจีนฮ่องกงเต็มร้อยรู้สึกเสียใจต่อผู้สูญเสียและครอบครัว แต่ไม่โกรธคนฟิลิปปินส์

หลังจากที่เฉินหลง หรือ แจ็คกี้ ชาน ซูเปอร์สตาร์นักบู๊ชาวฮ่องกง ออกมาแสดงความเห็นผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว (@eyeofjackiechan) เกี่ยวกับเหตุการณ์โศกนาฏกรรมคนร้ายจับนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงเป็นตัวประกันที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์เมื่อวันจันทร์ (23 ส.ค.) และมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุอย่างน้อย 8 คน โดยเฉินหลงได้ทวีตความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวในทวิตเตอร์ของตัวเอง โดยข้อความมีน้ำเสียงแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจฟิลิปปินส์

“ถ้าตำรวจสังหารคนร้ายเร็วกว่านี้ พวกเขา (คนวิพากษ์วิจารณ์) ก็จะบอกว่า 'ทำไมไม่เจรจาก่อน?' และถ้าตำรวจเจรจาก่อน พวกเขาก็จะถามว่า 'ทำไมไม่สังหารคนร้ายให้เร็วกว่านี้'” เฉินหลงระบุ ซึ่งข้อความดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับชาวฮ่องกงจำนวนมาก โดยบางคนได้ออกมาประณามและบอกให้เฉินหลงหุบปากเสีย

ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 27 ส.ค. เฉินหลงก็ออกมากล่าวขอโทษชาวฮ่องกง โดยอ้างว่าข้อความภาษาอังกฤษบนทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขาถูกแปลจากภาษาจีนโดยผู้ช่วยชาวอเมริกัน ทว่าไม่ได้ถ่ายทอดความรู้สึกที่แท้จริงของเขา จนทำให้เกิดความเข้าใจผิด

“ผมเห็นว่า การที่ชาวฮ่องกงประสบเหตุถูกจับตัวประกันและสังหารระหว่างการท่องเที่ยวในฟิลิปปินส์ เป็นโศกนาฏกรรมที่ทำให้ผู้คนเศร้าเสียใจ” เฉินหลงระบุ “ผมคือคนจีน และเป็นคนฮ่องกงเต็มร้อย ผมรู้สึกเจ็บปวดกับเหตุการณ์การสูญเสียชีวิตชาวฮ่องกงครั้งนี้ และรู้สึกเห็นอกเห็นใจกับญาติสนิทมิตรสหายของผู้สูญเสียอย่างยิ่ง และคาดหวังว่าผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจะหายวันหายคืน”

อย่างไรก็ตาม เฉินหลงยืนยันว่า เขาไม่มีทางที่จะโกรธเกลียดคนฟิลิปินส์เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ เพราะมีชาวฟิลิปปินส์หลายหมื่นคนทำงานอยู่ในฮ่องกง และมีคนฮ่องกงจำนวนไม่น้อยที่ทำงานอยู่ในฟิลิปปินส์

แฟชั่นแบบพระนาง "บูเช็กเทียน" ของ "หลิวเจียหลิง" (Carina Lau) ในหนัง "Detective Dee"

Submitted by canjamm on 28 สิงหาคม, 2010 - 11:55

"Detective Dee" ภาพยนตร์ย้อนยุคเรื่องใหม่ของ "ฉีเคอะ" ที่ใช้ทุนสร้างมหาศาล เป็นงานที่ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการออกแบบเครื่องแต่งกาย ที่ว่ากันว่ามีถึง 5,000 ชิ้นเลยทีเดียว โดยดาวเด่นของงานก็คือ เสื้อผ้าสำหรับตัวละคร "พระนางบูเช็กเทียน" (Empress Wu Zetian) ซึ่งสวมบทบาทโดย "หลิวเจียหลิง" (Carina Lau) ที่ทั้งแปลกใหม่, ราคาแพง, หรูหรา และบางชิ้นมีน้ำหนักร่วม 10 กิโลกรัมเลยทีเดียว

เครื่องแต่งกายของ หลิวเจียหลิง ในหนังฟอร์มยักษ์ Detective Dee มีมากมายหลายชุด หนึ่งในนั้นมีน้ำหนักถึง 10 กิโลกรัม ขณะเดียวกันเว็บไซต์จากประเทศจีนยังอ้างว่า ฉีเคอะได้เสื้อผ้าที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์แฟชั่นระดับโลกอย่าง จอห์น กัลลิอาโน และอเล็กซานเดอร์ แม็คควีน ผู้ล่วงลับมาใช้ในหนังเรื่องนี้ด้วย

นอกจากนั้นดูเหมือนว่าแฟชั่นคิ้วของนางเอกชื่อดังวัย 44 ปี ก็กลายเป็นจุดสนใจไปด้วย บรูซ หยู ผู้กำกับศิลป์เผยว่าเขาออกแบบให้แฟชั่นคิ้วของพระนางบูเช็กเทียนมีหลาย ๆ รูปแบบ ซึ่งนางเอกคนดังยังยอมลงทุนย้อมคิ้วของตัวเองให้กลายเป็นสีขาว เพื่อง่ายต่อการทำงานของเหล่าช่างแต่งหน้า และทีมงานฝ่ายศิลป์ด้วย

Detective Dee ที่มีชื่อเต็มว่า Detective Dee and the Mystery of the Phantom Flame เล่าเรื่องอิงประวัติศาสตร์สมัยปลายราชวงศ์ถัง หลิวเต๋อหัว (Andy Lau) รับบทเป็น ตี๋เหรินเจี๋ย (Di Renjie) ยอดขุนนางผู้ตงฉิน ที่พระนางเจ้าบูเช็กเทียน (จักรพรรดินีอู่เจ๋อเทียน) ตามตัวมาเพื่อคลี่คลายคดีฆาตรกรรมต่อเนื่อง ที่เกิดขึ้นในวังหลวง

นอกจากนักแสดงชื่อดังทั้งสองแล้วหนังยังมี หลี่ปิงปิง (Li Bing Bing), เหลียงเจียฮุย (Tony Leung Ka-Fai) และเติ้งเชา (Deng Chao) ร่วมแสดงด้วย โดย Detective Dee มีกำหนดเข้าฉายในหลายประเทศทั่วเอเชียในวันที่ 29 ก.ย. นี้ นอกจากนั้นผลงานเรื่องล่าสุดของ ฉีเคอะ ยังเป็นหนังภาษาจีนเรื่องเดียว ที่ได้เข้าฉายสายประกวด ชิงรางวัลสิงโตทองคำ ของเทศกาลภาพยนตร์เมืองเวนิสประจำปีนี้ด้วย

สื่อจีนแขวะแรง "Wonder Girls" ตัวจริงไม่สวยเหมือนในรูปถ่าย

Submitted by canjamm on 28 สิงหาคม, 2010 - 11:48

สำนักข่าวแห่งหนึ่งจากประเทศจีน ออกมาแสดงความคิดอย่างเผ็ดร้อน ในเรื่องความสวยความงามของสาว ๆ "Wonder Girls" วงเกิร์ลกรุปชื่อดังแดนกิมจิ ว่าตัวจริงของพวกเธอดูไม่สวย, หุ่นไม่ดี แตกต่างจากในรูปภาพแบบแทบจะเป็นคนละคนกัน ซึ่งความเห็นเหล่านี้ ได้สร้างความไม่พอใจให้กับ "WonderFuls" กลุ่มแฟนคลับของเกิร์ลกรุปชื่อดังวงนี้เป็นอย่างมาก

เว็บไซต์บันเทิงเกาหลีชื่อดัง Allkpop อ้างถึงบทความชิ้นหนึ่งของเว็บไซต์ข่าวจากประเทศจีน Shenzhen News Web ที่แสดงความผิดหวังอย่างยิ่ง หลังได้ชมการแสดงครั้งหนึ่งของ Wonder Girls ทางโทรทัศน์ จนกลายเป็นที่มาของการวิพากษ์วิจารณ์ในประเด็นที่ว่า รูปโฉมของพวกเธอทั้ง 5 ช่างไม่น่าประทับใจเอาเสียเลย และแตกต่างจากที่เคยเห็นมาตามรูปถ่าย หรือสื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์อื่น ๆ โดยสิ้นเชิง

โดยเว็บไซต์ข่าวดังกล่าวใช้ภาพการปรากฎตัวของ Wonder Girls ในรายการ Happy Camp เป็นหลังฐานอ้างอิงในการวิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนในครั้งนี้

ในบทความชิ้นนี้สื่อจีนยังวิจารณ์กลุ่มสาว ๆ ชาวเกาหลีใต้ด้วยถ้อยคำอันรุนแรงต่าง ๆ นา ๆ ว่า "Wonder Girls ในรูปภาพสำหรับการโปรโมต กับ Wonder Girls ตัวจริงช่างแตกต่างกันเหลือเกิน เกิดอะไรขึ้นกับเรียวขาสวย ๆ และรูปร่างอันมีเสน่ห์ของพวกเธอกันแน่ ทรงผมของ เยอึน (Ye Eun) ทำให้นึกถึงแม่เล้าชั้นสูงในยุค 1930s เลย ขณะที่ โซฮี (So Hee) ก็ทำหน้าทำตาเหมือนกับศพอยู่ตลอดเวลา เพราะเธอใช้โบท๊อกซ์กับใบหน้ามากเกินไปรึเปล่าเนี่ย?"

หลังบทความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมา กลุ่มแฟนคลับของ Wonder Girls ทั้งชาวเกาหลีใต้ และที่เป็นชาวจีน ต่างออกมาตอบโต้อย่างทันควัน หลายคนคิดว่าถ้อยคำต่าง ๆ หยาบคายจนเกินไป และอีกจำนวนไม่น้อยที่คิดว่ามันรุนแรงถึงขั้นเป็นการหมิ่นประมาท "ทำไมจีนต้องทำแบบนี้ด้วย" แฟนคลับคนหนึ่งแสดงความคิดเห็นอย่างไม่พอใจ

Manger Online

“เฉินหลง” (Jackie Chan) หูชา! ชาวเน็ตฮ่องกงรุมด่า พูดป้องตำรวจปินส์

Submitted by canjamm on 27 สิงหาคม, 2010 - 16:49

เอเยนซี - “เฉินหลง” (Jackie Chan) เจอชาวเน็ตฮ่องกงรุมประณามหลังทวีตข้อความแสดงความเห็นอกเห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจฟิลิปปินส์ที่ปฏิบัติการผิดพลาดในเหตุการณ์จับตัวประกันที่มะนิลาจนทำให้คนฮ่องกงเสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย ขณะที่บางคนถึงกับแช่งชักหักกระดูซูเปอร์สตาร์นักบู๊ เจ้าตัวเตือนสติเพื่อนร่วมชาติ พูดป้องชาวฟิลิปปินส์ที่ทำงานในจีน

จากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมคนร้ายจับนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงเป็นตัวประกันที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์เมื่อวันจันทร์ (23 ส.ค.) จนในที่สุดทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุอย่างน้อย 8 คน ได้ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์และความไม่พอใจต่อความไร้ประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจฟิลิปปินส์ ในหมู่ชาวจีนทั้งฮ่องกงและแผ่นดินใหญ่และกลายเป็นปัญหาทางการเมืองลุกลามกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ล่าสุดในฮ่องกงได้เกิดต่อต้าน “เฉินหลง” หรือ “แจ๊คกี้ ชาน” ดารานักบู๊ชื่อดังก้องโลกชาวฮ่องกงขึ้น เมื่อเฉินหลงได้ทวีตความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวในทวิตเตอร์ของตัวเอง (@eyeofjackiechan) โดยข้อความมีน้ำเสียงแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจฟิลิปปินส์

“ถ้าตำรวจสังหารคนร้ายเร็วกว่านี้ พวกเขา (คนวิพากษ์วิจารณ์) ก็จะบอกว่า 'ทำไมไม่เจรจาก่อน?' และถ้าตำรวจเจรจาก่อน พวกเขาก็จะถามว่า 'ทำไมไม่สังหารคนร้ายให้เร็วกว่านี้'” เฉินหลงเขียนในทวิตเตอร์ของตัวเองหลังจากที่เพิ่งกลับมาถึงฮ่องกง พร้อมกันนั้นยังกล่าวเตือนสติเพื่อนร่วมชาติด้วยว่า โศกนาฏกรรมอย่างที่เกิดขึ้นในฟิลิปปินส์เกิดขึ้นบ่อยครั้งทั่วโลกเพียงแต่คนฮ่องกงไม่ได้ให้ความสนใจเท่านั้น และว่าคนฮ่องกงไม่ควรจะระบายความโกรธแค้นไปที่กลุ่มชาวฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะแม่บ้านจำนวนหลายหมื่นคนที่ทำงานอยู่บนเกาะฮ่องกง

“ผมนึกถึงวันก่อนที่เกาหลี เราพูดกันว่าผู้คนควรรักกันเช่นไร พวกเราต่างต้องเผชิญภัยธรรมชาติมากมายอยู่แล้ว … ไต้ฝุ่น สึนามิ และทุกๆ อย่าง มนุษย์ควรสามัคคี ไม่ฆ่าแกงหรือเกลียดชังผู้อื่น” เฉินหลงเขียน

หลังจากที่เฉินหลงทวีตข้อความดังกล่าวออกไปสู่สาธารณชน ซึ่งทวิตเตอร์ของเขามีผู้ติดตามมากกว่า 115,000 คน ก็มีปฏิกิริยาจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวฮ่องกงที่แสดงความไม่พอใจต่อทัศนะของซูเปอร์สตาร์สัญชาติเดียวกัน โดยหลายคนด่าและสาปแช่งเขาด้วยข้อความที่รุนแรง เช่น

"เยิ่นเสียนฉี" (Richie Ren) จวกฟิลิปปินส์ปล่อยนักท่องเที่ยวฮ่องกงเสียชีวิต

Submitted by canjamm on 27 สิงหาคม, 2010 - 15:48

"เยิ่นเสียนฉี" (Richie Ren) ตัดสินใจยกเลิกคอนเสิร์ตซึ่งจะจัดขึ้นที่ฟิลิปปินส์แล้ว หลังการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกง ในเหตุการณ์จับตัวประกัน นักร้องชื่อดังชาวไต้หวัน ยังตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ ในโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับนักแสดงชาวจีนอีกหลายคนที่ยอมรับว่า คงจะไม่เดินทางไปเยือนฟิลิปปินส์ในอนาคตอันใกล้

"คอนเสิร์ตที่จะจัดขึ้นในเดือน พ.ย. นี้ เป็นงานที่มีจุดมุ่งหมายระดมทุนเพื่อช่วยเหลือชาวจีนในฟิลิปปินส์ แต่แฟนเพลงของผมแสดงความกังวลในเรื่องความปลอดภัย ขณะที่บริษัทต้นสังกัดก็รู้สึกว่าบรรยากาศในขณะนี้ไม่เหมาะสำหรับการแสดงคอนเสิร์ตเลย" เยิ่นเสียนฉี นักร้องหนุ่มชื่อดังชาวไต้หวันกล่าวถึงเหตุผลของการยกเลิกคอนเสิร์ตในแดนตากาล็อก หลังเกิดเรื่องเศร้ากับนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกง

อย่างไรก็ตามเขายังแสดงเจตนารมณ์ว่า จุดมุ่งหมายการให้ความช่วยเหลือชาวจีนโพ้นทะเลจะต้องดำเนินต่อไป "เรากำลังขบคิดกันอยู่ว่าจะทำอย่างไรจึงจะสามารถช่วยเหลือโรงเรียนของชาวจีนในฟิลิปปินส์ได้"

กลายเป็นเรื่องใหญ่ระดับชาติ เมื่อตัวประกันชาวฮ่องกง 8 คนถูกสังหารในเหตุการณ์ที่อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจชาวฟิลิปปินส์จี้รถบัสของนักท่องเที่ยว ในกรุงมนิลาเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนักร้องหนุ่มวัย 44 ปี ยังแสดงความคิดเห็นตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ ที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตมากมายเช่นนี้ว่า "การที่นักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงต้องเสียชีวิตมากมายเช่นนี้ ผมรู้สึกว่าเจ้าหน้าที่ของฟิลิปปินส์ปล่อยปละละเลย อันที่จริงความปลอดภัยของตัวประกันต้องมาเป็นอันดับแรก แล้วเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน"

"การเดินทางท่องเที่ยวควรจะเป็นเรื่องของความสนุกสนาน มันน่าเศร้าที่ต้องเกิดเรื่องสูญเสียแบบนี้ขึ้น" หนุ่มชาวไต้หวันกล่าว

เยิ่นเสียนฉี ไม่ใช่คนดังชาวจีนคนเดียวที่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าว เซียะเทียนหัว นักแสดงทางโทรทัศน์ ผู้โด่งดังกับหนังแนวอาชญากรรมเรื่อง E.U. ก็ออกมาแสดงความรู้สึกว่า สำหรับตนเองแล้วฟิลิปปินส์ไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยอีกต่อไป เขายังตัดสินใจเปลี่ยนแปลงโปรแกรมท่องเที่ยวดำน้ำของตนเอง ไปเป็นที่มาเลเซียแทนด้วย

"หลิวเย่" (Liu Ye) รับบท "ประธานเหมา" (Mao Zedong) หนังฉลอง 90 ปีพรรคคอมมิวนิสต์จีน

Submitted by canjamm on 25 สิงหาคม, 2010 - 14:39

นักแสดงหนุ่มคนดัง "หลิวเย่" (Liu Ye) ได้รับเลือกให้รับบท "ประธานเหมาเจ๋อตง" (Mao Zedong) ในหนังฟอร์มยักษ์ "The Founding of A Party" (Jian Dang Wei Ye) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 90 ปี พรรคคอมมิวนิสต์จีนในปี 2011

The Founding of A Party หนังฟอร์มยักษ์ประจำปี 2011 ของวงการภาพยนตร์แดนมังกร เป็นผลงานของผู้สร้างและผู้กำกับอย่าง ฮั่นซานผิง (Han Sanping) และฮวงเจี้ยนซิน (Huang Jianxin) ที่เคยสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับ The Founding of A Republic หนังฉลอง 60 ปีการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนมาแล้วเมื่อปีก่อนมาแล้ว

ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว เริ่มต้นดำเนินการสร้างอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และเป็นนักแสดงหนุ่มแถวหน้าของประเทศ หลิวเย่ วัย 32 ปี ที่โด่งดังจากหนังอย่าง Curse of the Golden Flower และ Lan Yu ที่ได้รับเลือกให้สวมบทบาทเป็น เหมาเจ๋อตง อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน และประธานาธิบดีคนแรกแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ส่วนนักแสดงสาวดาวรุ่ง หลี่ฉิน (Li Qin) ซึ่งโด่งดังมาจากหนังชุดทางโทรทัศน์ The Dream of Red Chamber จะรับบทเป็น หยางไคฮุย (Yang Kaihui) ภรรยาคนที่ 2 ของประธานเหมา

ขณะเดียวกันก็มีการยืนยันแล้วว่า ผู้กำกับชื่อดังชาวฮ่องกง จอห์น วู จะมารับบทเด่นในหนังเรื่องนี้ด้วย กับการสวมบทบาทเป็น หลินเสิน (Lin Sen) อดีตประธานรัฐบาลจีนชาตินิยม ก่อนหน้านี้ จอห์น วู เคยไปเข้าฉากในหนังเรื่อง The Founding of A Republic มาแล้ว แต่บทของเขาและนักแสดงอีกหลายคนถูกตัดทิ้งในขั้นตอนการตัดต่อ

The Founding of A Party จะเล่าเรื่องระหว่างปี 1911 - 1921 ตั้งแต่การปฏิวัติชิงไฮ จนถึงการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบ 90 ปีของพรรคในปี 2011 ที่จะถึงนี้

ผกก.แดนมังกรโอด สาวงามแบบจีนแท้หายาก

Submitted by canjamm on 23 สิงหาคม, 2010 - 22:26

ผู้กำกับ/ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ในประเทศจีน ออกมาบ่นถึงการคัดเลือกค้นหานักแสดงสาว ๆ เพื่อแสดงในหนังย้อนยุคที่มีฉากหลังเป็นสมัยคอมมิวนิสต์ ว่าเป็นเรื่องยากเย็นเหลือเกินในยุคนี้ เพราะสาว ๆ ส่วนใหญ่ในประเทศต่างใช้ชีวิตในสังคมสมัยใหม่ จนแทบจะละทิ้งความงามแบบจีนแท้ไปกันหมดแล้ว

แม้ประเทศจีนจะมีประชากรถึง 1,300 ล้านคน (ซึ่งเป็นผู้หญิงประมาณเกือบครึ่งหนึ่ง) แต่ผู้สร้างหนังหลายรายยังออกมาบ่นถึงความลำบากยากเย็น ในการคัดเลือกตัวนักแสดง ค้นหาสาว ๆ หน้าใหม่ โดยเฉพาะในหนังย้อนยุคที่มีฉากหลังเป็นประเทศจีนเมื่อ 40 - 60 ปีก่อน เล่าเรื่องสมัยแนวคิดคอมมิวนิสต์ยังคงเข้มข้น ซึ่งบรรดาผู้กำกับต่างต้องการหญิงสาวที่ยังดูมีความใสซื่อบริสุทธิ์ เหมือนหญิงยุคก่อน ซึ่งหาได้แยกเต็มทนในประเทศจีนยุคปัจจุบัน

โจวตงหยู่ (Zhou Dongyu / 周冬雨) เด็กสาววัย 17 ปี ถูกเลือกจากผู้สมัครนับพันคนทั่วประเทศ ให้รับบท Jing Qiu (静秋) บทนำในหนัง Romance Under the Hawthorne Tree ของจางอี้โหมว (Zhang Yimou / 张艺谋) แม้ชาวจีนบางส่วนจะคิดว่า สาวคนนี้สวยน้อยเกินกว่าจะมารับบทนำ ในภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่โดยผู้กำกับแถวหน้าของประเทศ ถึงกับตั้งฉายาให้เธอว่าเป็น 'แม่สาวปากปลาหมึก' ล้อเลียนจะงอยปากที่ยื่นของมาของเธอ กันเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามจางอี้โหมวยังยืนยันว่า นางเอกคนใหม่ของเขาเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง

"เธอไม่ต้องพยายามเลย ในการแสดงความบริสุทธิ์ออกมา เธอยังไม่รู้ถึงกระทั่งความงามของตัวเองด้วยซ้ำไป" จางอี้โหมว กล่าวถึงนางเอกใหม่ของเขา พร้อมอธิบายว่าเด็กสาวบุคลิกแบบนี้ ไม่ได้มีมากนักในเมืองจีนยุคปัจจุบัน "เด็กรุ่นใหม่ทุกวันนี้เหลือน้อยมากแล้ว ที่จะมีภาพบริสุทธิ์แบบที่เราเห็นกันในภาพถ่ายเก่า ๆ สมัยยุค 1960s หรือ 1970s"

ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ผู้กำกับดังท่านนี้ เลือกนักแสดงไร้ชื่อให้รับบทนำในหนัง เพราะต้องการความสมจริงสมจังเป็นหลัง เมื่อหลายปีก่อนจางอี้โหมวก็เคยเลือกเอา เวยหมิ่นซื่อ (Wei Minzhi) เด็กสาวอายุเพียง 13 ปี จากหมู่บ้านเล็ก ๆ ในเหอเป่ยที่แทบไม่เคยสัมผัสโลกภายนอกเลย ให้รับบทเด่นในภาพยนตร์เรื่อง Not One Less

"แม็กกี้ คิว" (Maggie Q) เซ็กซี่เกินเหตุ ห้างดังสั่งแบนป้ายโฆษณา "Nikita"

Submitted by canjamm on 23 สิงหาคม, 2010 - 16:55

แผ่นป้ายบิลบอร์ดเพื่อการประสาสัมพันธ์ซีรีส์เรื่อง "Nikita" ที่มี แม็กกี้ คิว" (Maggie Q) ดาราสาวเชื้อสายเวียดนามรับบทนำ ต้องถูกปฏิเสธโดยห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ ทั้งในอเมริกา และแคนาดา หลังเจ้าของห้างรู้สึกว่า ลีลาเซ็กซี่ของ "แม็กกี้ คิว" บนแผ่นป้ายดังกล่าว ดูจะร้อนแรงเกินกว่าที่จะสามารถแสดงในที่สาธารณะได้

Variety ได้รายงานว่า ผู้บริหารระดับสูงของ The Grove ห้างดังในลอสแอนเจลิส ปฏิเสธที่จะให้มีการติดตั้งภาพบิลบอร์ดของซีรีส์ Nikita ที่ปรากฎรูปของ แม็กกี้ คิว นางเอกสาวคนสวยในชุดเปิดเผยเนื้อตัว และมีท่าทางอันเย้ายวน

เช่นเดียวกับห้างดังในชิคาโก้, อีลีนอยส์ และนิวยอร์ก ที่มองเห็นแบบเดียวกันว่าภาพดังกล่าวดูจะวาบหวิวเกินกว่าจะถูกติดตั้งอยู่ในห้างของตนเอง ที่มีลูกค้าตัวน้อย ๆ เดินผ่านไปผ่านมาเป็นประจำ แต่ที่สร้างความไม่พอใจมากกว่าก็คือ การร้องเรียนจากชุมชนหลาย ๆ แห่งในแถบลอสแอนเจลิสด้วย ว่าแผ่นป้ายโฆษณาดังกล่าวยังถูกตัดเอาไว้ในเขตใกล้เคียงกับโรงพยาบาล และโบสถ์

"แน่นอนว่าเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้อยู่บ้างเหมือนกัน กับงานโฆษณาของเรา" ริค แฮสกินส์ หัวหน้าฝ่ายการตลาดของสถานีโทรทัศน์ CW กล่าวกับนิตยสาร Variety "เราคิดไว้เสมอว่าควรเตรียมตัวเลือกที่แตกต่างเอาไว้บ้าง สำหรับสถานการณ์ที่จำเป็นแบบนี้" ซึ่งในกรณีนี้ผู้บริหารของ CW หมายความถึง รูปสำหรับป้ายประชาสัมพันธ์อีกแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นภาพของ แม็กกี้ คิว ในชุดยาวสีแดงกับปืนกลยาว ที่ดูจะร้อนแรงน้อยกว่าแบบเดิมนิดหน่อย แต่ก็เพียงพอที่จะให้สถานที่ต่าง ๆ ยอมรับติดตั้งภาพดังกล่าว เพื่อการประชาสัมพันธ์ซีรีส์เรื่องดังได้

แม็กกี้ คิว กลายเป็นสาวคนที่ 4 ที่ได้สวมบทบาท นิกิต้า นักฆ่าสาว ในซีรีส์ Nikita ฉบับล่าสุดของสถานีโทรทัศน์ CW ซึ่งตัวละครดังกล่าวถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยผู้กำกับชื่อดังชาวฝรั่งเศส ลุค แบสซง ในปี 1990 กับภาพยนตร์เรื่อง La Femme Nikita ต่อมาถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูดนำแสดงโดย บริเจ็ตต์ ฟอนด้า จนกระทั่งถูกดัดแปลงเป็นซีรีส์ เพื่อฉายทางโทรทัศน์ได้นักแสดงสาว พีต้า วิลสัน แสดงนำ และฉายติดต่อกันอยู่หลายปีในช่วงยุค 90s

Manager Online

"กงลี่" (Gong Li) โต้ข่าวลือเรื่องหย่า ยันไม่เคยกุ๊กกิ๊ก "จอห์น คูแซก" (John Cusack)

Submitted by canjamm on 23 สิงหาคม, 2010 - 14:15

นักแสดงหญิงแถวหน้าแห่งประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ "กงลี่" (Gong Li) ออกมาโต้ข่าวลือเรื่องการหย่าร้างของเธอ และสามีนักธุรกิจชาวสิงคโปร์แล้ว พร้อมปฏิเสธข่าวความสัมพันธ์นอกจอกับ "จอห์น คูแซก" (John Cusack) พระเอกหนุ่มฮอลลีวูดที่เพิ่งร่วมงานกันในหนังเรื่อง "Shanghai" ว่าไม่เป็นอย่างจริงอย่างแน่นอน

ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมามีเสียงลือเกี่ยวกับเรื่องเตียงหักของ กงลี่ แพร่สะพัดมาเป็นระยะ ๆ ทั้งรายงานข่าวที่ว่าเธอ และ อุ้ยเฮ่อเซียง สามีนักธุรกิจใหญ่ชาวสิงคโปร์เจ้าของกิจการยาสูบ ได้แยกกันอยู่เป็นเวลามากกว่า 1 ปีแล้ว รวมถึงข่าวลือครั้งล่าสุดเมื่อต้นเดือน มิ.ย. ซึ่งสำนักข่าวแห่งหนึ่งในประเทศจีนได้อ้างคำยืนยันจากผู้จัดการส่วนตัวของกงลี่ว่า ชีวิตสมรสของคู่รักคนดังคู่นี้ได้ยุติลงแล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินการทางกฏหมายเพื่อการหย่าร้าง

อย่างไรก็ตามระหว่างในการพบปะกับสื่อมวลชน เพื่อประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่อง Shanghai นักแสดงหญิงวัย 44 ปีได้ออกมายุติข่าวลือดังกล่าวด้วยตนเองว่า "ใครเป็นคนพูดคะ ฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ามาจากไหน มันเป็นแค่ข่าวลือเท่านั้นค่ะ"

กงลี่ ยังออกมาเครียร์ข่าวลือเรื่องกุ๊กกิ๊กนอกจอ ของตนเองและนักแสดงหนุ่มชาวอเมริกัน จอห์น คูแซก ระหว่างการถ่ายทำหนัง Shanghai ด้วย ว่าไม่เป็นความจริงเช่นเดียวกัน "มันเป็นประสบการณ์ที่ดี ที่ได้รวมงานกับนักแสดงหลาย ๆ คนในหนังเรื่องนั้น แต่ข่าวลือพวกนี้ไม่มีมูลความจริงเลย การออกไปเที่ยวไปดื่มกัน กับการคบหาในฐานะคู่รักเป็นเรื่องที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เอาเถอะค่ะใครอยากจะพูดอะไรก็พูดไป"

Manager Online

ดาวโป๊สามมิติแฉสัมพันธ์ลึกผู้กำกับดัง แถมคุยเสน่ห์แรงจน "เจย์ โจว" (Jay Chou) ตามตื้อ

Submitted by canjamm on 21 สิงหาคม, 2010 - 14:05

"หลันเหยียน" (Leni Lan) นางแบบสาวเซ็กซี่ที่กำลังโด่งดังกับการรับบทเด่นในหนัง "3D Sex and Zen" ออกมาแฉถึงเรื่องลับ ๆ ของตนเองกับหนุ่มคนดังในวงการบันเทิง ทั้งความสัมพันธ์กับ "สแตนลีย์ ตง" (Stanley Tong) ผู้กำกับหนังบู๊คนดัง รวมถึงคำกล่าวอ้างที่ว่า นักร้องหนุ่มซุปเปอร์สตาร์แห่งไต้หวัน "เจย์ โจว" (Jay Chou) เคยโทรศัพท์ตามตื้อ เพื่อของดินเนอร์กับเธอมาแล้ว

ดาวยั่วคนใหม่แห่งวงการบันเทิงฮ่องกง หลันเหยียน เริ่มกลายเป็นที่สนอกสนใจของสื่อมวลชนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในนักแสดงนำของหนังเรื่อง 3D Sex and Zen: Extreme Ecstasy หนังโป๊สามมิติที่กำลังเป็นข่าวเกรียวกราวทั่วโลกในขณะนี้ สาวเซี่ยงไฮ้คนนี้เริ่มต้นเป็นที่รู้จัก และโด่งดังขึ้นมาในเมืองจีน ก็เพราะหลายคนลงความเห็นว่าเธอมีใบหน้าคล้ายกับ จางป๋อจือ (Cecilia Cheung) นักแสดงสาวคนดังชาวฮ่องกงนั่นเอง

ในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Oriental Daily นางแบบเซ็กซี่วัย 20 ปี คนนี้ ได้ออกมาเผยเรื่องราวความสัมพันธ์ของตนเอง กับหนุ่มคนดังแห่งวงการบันเทิงหลายคน รวมถึงนักร้องคนดังแห่งไต้หวัน เจย์ โจวที่เคยหลงเสน่ห์ในตัวเธอ และโทรศัพท์ตามตื้อถึง 4 หนในวันเดียว เพื่อขอนัดทานอาหารค่ำมาแล้ว "ฉันไม่ค่อยแน่ใจนัก แต่ฉันคิดว่าเขาอยากจะจีบฉันนะคะ ครั้งหนึ่งที่เขาเดินทางมาปักกิ่ง เจย์ โทรศัพท์มาหาฉันสองครั้งในตอนเช้า และอีก 2 ครั้งในช่วงเย็น เพื่อชวนฉันไปดินเนอร์"

แต่สุดท้ายความสัมพันธ์ครั้งนั้นไม่ได้เริ่มต้นขึ้น นางแบบสาวคนดังให้เหตุผลในเรื่องนี้ว่า "เพราะฉันอยู่ที่เมืองจีนแผ่นดินใหญ่ ส่วนเขาอยู่ในไต้หวัน ระยะทางมันมากเกินไปค่ะ"

หลันเหยียน ยังเคยโพสต์รูปคู่ของตนเอง และเจย์โชว์ลงบนเว็บต์ Facebook เพื่อยืนยันว่าทั้งสองรู้จักกันจริง ไม่ได้เป็นเพียงการกุเรื่องขึ้นมาเท่านั้น เพราะเหตุการณ์กุเรื่องทำนองนี้ เกิดขึ้นกับนักร้องหนุ่มชาวไต้หวันอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงเมื่อไม่กี่เดือนที่แล้ว ซึ่งมีนางแบบสาวรายหนึ่งที่ชื่อว่า ฮันนี่ เฉิน ออกมาอ้างถึงเรื่องกุ๊กกิ๊กระหว่างตนเอง และเจย์ ต่อมามีหลักฐานหลายอย่างที่ชี้ว่า ฮันนี่ เฉิน (Honey Chen) เพียงสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อโปรโมตตัวเองเท่านั้น

"เฉินกว้านซี" (Edison Chen) เล็งร่วมงาน "เลดี้ กาก้า" (Lady Gaga)

Submitted by canjamm on 20 สิงหาคม, 2010 - 14:09

"เฉินกว้านซี" (Edison Chen) นักแสดงหนุ่มผู้โด่งดังสุดขีดกับความอื้อฉาว ยังคงดิ้นรนเพื่อกลับมาออกผลงานในวงการบันเทิงต่อไป หลังจากก่อนหน้านี้ เคยพยายามดึงตัวนักร้องนักแต่งเพลงชื่อดังชาวจีนมาร่วมงาน ล่าสุดมีข่าวว่า "อาเฉิน" กำลังเตรียมตัวบินไปสหรัฐฯ เพื่อพบ "เลดี้ กาก้า" (Lady Gag) นักร้องสาวสุดสุดซ่าที่ร้อนแรงที่สุดในวงการเพลงโลกยุคปัจจุบัน เพื่อถกถึงโอกาสร่วมงานกันในอนาคต - Channel News Asia รายงาน

ผู้ช่วยส่วนตัวของ เฉินกว้านซี ซึ่งใช้ชื่อว่า มิสเตอร์เทย์ ที่ออกมาให้ข่าวถึงเรื่องความเป็นไปได้ในการร่วมงานกันของสองศิลปินดังครั้งนี้ ... "เลดี้ กาก้า จะเดินทางมาทำงานที่เอเชียในปีหน้า เธอพอจะรับรู้ถึงผลงานของเฉินกว้านซี ทั้งแบรนด์เสื้อผ้ารวมถึงงานเพลงอยู่ก่อนแล้ว และมองถึงโอกาสในการร่วมงานกับเขา"

ผู้ช่วยส่วนตัวคนดังกล่าว ยังอ้างว่าสองศิลปินจากสองซีกโลกรู้จักกันมานานหลายปีแล้ว และต่างฝ่ายต่างยกย่องในสไตล์ของแต่ละคน เทย์ กล่าวปิดท้ายด้วยการชื่นชม เลดี้ กาก้าว่าเป็นศิลปินที่ทำงานหนัก, ฉลาด และยืนหยัดในแนวทางของตนเอง

อย่างไรก็ตามตัว เทย์ ปฏิเสธข่าวลือที่ว่า เฉินกวนซี เดินทางจะเดินทางไปสหรัฐฯ เพื่อขอความช่วยเหลือในด้านความคิดสร้างสรรค์ จากนักร้องสาวคนดังแดนมะกัน สำหรับผลงานเพลงชุดใหม่ที่กำลังจะวางจำหน่ายของเขา พร้อมให้เหตุผลว่าช่วงนี้ เลดี้ กาก้า ยังคงยุ่งอยู่กับการทัวร์คอนเสิร์ตของตัวเอง จึงยังไม่สามารถปลีกตัวมาร่วมงานในอัลบั้มใหม่ของเฉินกว้านซี ก็มีกำหนดออกวางจำหน่ายในเดือน พ.ย. ไปนี้ได้ทัน

คำกล่าวอ้างจากผู้ช่วยส่วนตัว ดูจะสอดคล้องกับข้อมูลจากบล็อคของเฉินกว้านซีเอง ซึ่งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้มีการโพสต์ภาพคู่ของตนเองและนักร้องสาวชาวสหรัฐฯ ที่ใกล้ชิดกันแบบแก้มชนแก้ม เมื่อครั้งพบกันที่งานแห่งหนึ่งในไต้หวัน ต่อมาในวันอังคารเฉินกว้านซียังโพสต์ขอบคุณทั้งตัวของ เลดี้ กาก้า และ Atomic Factory บริษัทจัดการของเธอ ที่มอบที่นั่งพิเศษในคอนเสิร์ตเมื่อเร็ว ๆ นี้ให้แก่เขา

ถึงจุดอิ่มตัว "คาเรน่า - หลินเจียซิน" (Karena Lam) ขอถอนตัววงการบันเทิง

Submitted by canjamm on 19 สิงหาคม, 2010 - 15:46

ข่าวลือเรื่องการถอนตัวจากวงการบันเทิงของ "คาเรน่า - หลินเจียซิน" (Karena Lam) เริ่มจะกลายเป็นจริงขึ้นเรื่อย ๆ หลังเธอไม่ได้รับงานเลยในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และต้นสังกัดยังออกมายอมรับว่า สัญญาของนักแสดงสาววัย 32 ปี ได้หมดไปเป็นที่เรียบร้อย ถ้า "หลินเจียซิน" ยุติบทบาทในฐานะนักแสดงจริง หนังฟอร์มใหญ่ "Don Quixote" ที่มีกำหนดเข้าฉายในปลายปีนี้ ก็น่าจะเป็นงานเรื่องสุดท้ายของเธอ

เว็บไซต์บันเทิงจากประเทศจีนหลายแห่งรายงานตรงกันว่า ดาราสาวชาวฮ่องกงวัย 32 ปี หลินเจียซิน กำลังจะบอกลาอาชีพนักแสดงแล้ว สืบเนื่องจากพักใหญ่ ๆ ที่ผ่านมา เธอได้หายตัวไปจากหน้าสื่อ, ติดต่อไม่ได้ และไม่รับงานใหม่ ๆ อีกเลย หลังเสร็จสิ้นการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Don Quixote จนข่าวลือการถอนตัวออกจากวงการบันเทิง เริ่มถูกลือสะพัดออกมาเรื่อย ๆ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องนี้ไปทางบริษัทเอเยนซี่ ว่าเหตุใดจึงไม่สามารถติดต่อนักแสดงสาวยอดฝีมือคนนี้ได้ นอกจากนั้น เธอยังไม่ปรากฎตัวร่วมกิจกรรมประชาสัมพันธ์หนังเรื่อง Don Quixote เหมือนกับนักแสดงคนอื่น ๆ เลย Filmko Holdings ซึ่งเป็นต้นสังกัด จึงออกมายอมรับว่าสัญญาระยะเวลา 8 ปีของ หลินเจียซินกับบริษัท ได้หมดไปตั้งแต่ปีก่อนแล้ว หมายความว่าการทำงานของเธอในระยะหลัง อยู่ภายใต้สัญญาใจระหว่างกันเพียงอย่างเดียว "เธอไม่จำเป็นต้องร่วมกิจกรรมโปรโมตภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวแล้ว และเราเคารพความต้องการส่วนตัวของเธอ" ตัวแทนของบริษัทกล่าว

Channel News Asia เชื่อว่าสาเหตุเบื้องหลังของการตัดสินใจในครั้งนี้ น่าเกิดขึ้นจากความรู้สึกส่วนตัวของเธอเอง ว่าเส้นทางในอาชีพนักแสดงของตนเองเริ่มเดินทางมาถึงจุดอิ่มตัวแล้ว

นับแต่เข้าวงการบันเทิงเมื่อปี 2002 หลินเจียซิน สามารถคว้ารางวัลทางการแสดงได้ถึง 3 สถาบัน จากภาพยนตรเรื่อง July Rhapsody ซึ่งเป็นผลงานการแสดงครั้งแรก รวมถึงรางวัลม้าทองคำอันยิ่งใหญ่ด้วย แต่หลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยเฉียดเข้าใกล้ความสำเร็จระดับเดียวกันนั้นอีกเลย

กรรมการมิสเตอร์ฮ่องกงจ๋อย TVB ห้ามแตะเนื้อต้องตัวหนุ่มผู้เข้าประกวด

Submitted by canjamm on 19 สิงหาคม, 2010 - 11:03

หลังมีการร้องเรียนจากกลุ่มสิทธิและความเท่าเทียมกันระหว่างเพศ "ทีวีบี" เจ้าของลิขสิทธิ์การจัดประกวด "มิสเตอร์ฮ่องกง" ได้ตัดสินใจปรับเปลี่ยนรูปแบบการประกวด โดยเฉพาะการห้ามมิให้เหล่ากลุ่มกรรมการที่เป็นหญิงล้วน แตะเนื้อต้องตัวหนุ่ม ๆ ผู้เข้าประกวด แบบที่เคยทำได้ในปีก่อน ๆ อีกต่อไปแล้ว นอกจากนั้นยังจะมีการจำกัดช่วงเวลา ของการประกวดชุดว่ายน้ำให้กระชับกว่าเดิมด้วย

ตั้งแต่เริ่มต้นประกาศรับสมัคร มิสเตอร์ฮ่องกง 2010 ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงมาโดยตลอด ทั้งจากสื่อมวลชน, องค์กรสิทธิ์ความเท่าเทียมระหว่างเพศ และองค์กรที่ออกมาเรียกร้องเพื่อสิทธิของบุรุษ กับข้อกล่าวหาว่า การประกวดมิสเตอร์ฮ่องกงมีแนวโน้มจะส่อไปในทางดูหมิ่น และมองเพศชายเป็นวัตถุทางเพศ รวมถึงหมิ่นเหม่จะเป็นการผิดต่อศีลธรรมอันดี กับกติกาพิเศษที่อนุญาตให้กลุ่มกรรมการ ซึ่งประกอบไปด้วยสาว ๆ คนดังจากหลากหลายวงการ สามารถแตะเนื้อต้องตัว พิสูจน์ความสมบูรณ์แบบของร่างกายของเหล่าผู้เข้าประกวดได้

จากการเปิดเผยของสื่อมวลชน ทีวีบียอมรับฟังคำร้องเรียนจากกลุ่มต่าง ๆ และยินยอมเปลี่ยนแปลงกติกาบางประการแล้ว เพราะไม่ต้องการให้ปัญหาลุกลามใหญ่โตมากกว่าที่เป็นอยู่ จึงได้มีการออกคำสั่งไปยังกรรมการหญิง ที่ได้รับเชิญให้ทำหน้าที่ทุกคนว่า พวกเธอไม่มีสิทธิ์แตะเนื้อต้องตัวเหล่าผู้เข้าชิงตำแหน่งมิสเตอร์ฮ่องกง ระหว่างช่วงการประกวดชุดว่ายน้ำโดยเด็ดขาด นอกจากนั้นระยะเวลาการโชว์หุ่นในช่วงดังกล่าว ก็จะถูกลดให้สั้นลงกว่าเดิมด้วย

เจสซิก้า ซี (Jessica C.) นางแบบสาวชื่อดัง และอาหลิน (A-Lin) สองสาวที่จะร่วมเป็นคณะกรรมการออกมาแสดงความผิดหวัง ถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ และเอ่ยปากว่าเป็นเรื่องน่าเสียดาย ที่พวกเธอไม่สามารถแตะเนื้อต้องตัวผู้เข้าร่วมประกวดได้ นางแบบคนดังยังกล่าวยืนยันว่า มองทั้งหมดเป็นงานเท่านั้น ไม่ได้คิดอะไรนอกเหนือไปจากนั้น "ถ้าจะมีใครที่ฉันอยากจะสัมผัสจริง ๆ ก็น่าจะเป็นแฟนของตัวเองมากกว่าค่ะ" ทางด้านอาหลินกล่าวว่า "โอ้ ฉันก็แค่สัมผัสคนที่อยู่ใกล้ฉันเท่านั้น"

"อาเจียว" (Gillian Chung) ยืนกรานไม่เข็ดความรัก

Submitted by canjamm on 18 สิงหาคม, 2010 - 17:53

แม้ความสัมพันธ์ครั้งเก่า ได้เกือบทำลายอาชีพในวงการบันเทิงของตนเองมาแล้ว "อาเจียว" (Gillian Chung) นักร้องสาวคนดังแห่งวง "Twins" ยังคงยืนยันว่าเธอเองไม่ได้เข็ดขยาดจากความรัก เพียงแต่ถ้าจะมีรักครั้งใหม่ ก็ขอให้ฝ่ายชายเป็นคนที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ และเข้าใจในตัวเธอก็เป็นพอ

อาเจียว หรือ จงซินถง สมาชิกของดูโอไอดอล Twins แห่งเกาะฮ่องกง ได้เดินทางเยือนกรุงกัวลาลัมเปอร์ประเทศมาเลเซีย เพื่อโปรโมตสินค้ายี่ห้อหนึ่ง ในการพบปะกับผู้สื่อข่าวท้องถิ่น นักร้องสาวที่เพิ่งผ่านมรสุมชีวิตครั้งใหญ่มาเมื่อ 2 ปีก่อน ได้เปิดปากพูดถึงเรื่องส่วนตัว, ความสัมพันธ์ และโอกาสของความรักครั้งใหม่

"ผู้ชายไม่ได้เลวไปเสียทุกคนหรอกค่ะ" อาเจียว กล่าวยืนกรานว่าตนเองไม่ได้ปิดประตูหัวใจแต่อย่างใด แม้ความสัมพันธ์ครั้งก่อน จะกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวที่นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงในชีวิตมากมายก็ตามที ... "ฉันอยากจะได้แฟนที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ คนที่รักอย่างที่ฉันเป็น ไม่พยายามจะเปลี่ยนแปลงอะไรในตัวเราค่ะ"

ในการเดินทางเพื่อร่วมงานเปิดตัว Jaz Fresh สินค้าตัวใหม่ของ Jaz Beer เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อดังของมาเลเซีย มีแฟนคลับจำนวนหนึ่งที่มารับในวันนั้นด้วย อาเจียว ยังกล่าวถึงแผนการในอนาคตของตนเองกับอาชีพนักแสดงว่า "เมื่อก่อนฉันเคยรับแต่บทวัยรุ่น ตอนนี้อยากจะหาอะไรที่ท้าทายตัวเอง อาจจะเป็นบทบาทตัวละครเพี้ยน ๆ ในหนังตลกก็ได้" นักร้องสาวคนดังชาวฮ่องกง กล่าวกับนิตยสาร The Star ต่อไปว่า "ฉันโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก คงเป็นเรื่องธรรมดาน่ะค่ะ ที่อยากจะลองทำอะไรที่แตกต่างจากเดิมดูบ้าง"

เมื่อปี 2001 อาเจียว เข้าสู่วงการบันเทิงฮ่องกงพร้อมกับเพื่อนคู่หู อาซา (Charlene Choi) ในฐานะดูโอ Twins ด้วยภาพใส ๆ เป็นเด็กสาววัยรุ่นที่น่ารักอ่อนเยาว์ต่อโลก ได้ทำให้สองสาวกลายเป็นขวัญใจชาวฮ่องกงรวมถึงอีกหลายประเทศในเอเซีย กระทั่งภาพฉาวของเธอและ เฉินกว้านซี (Edison Chen) ถูกเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตเมื่อปี 2008 ภาพความใสที่ว่าจึงถูกทำลายไปโดยสิ้นเชิง

หลังเก็บตัวอยู่ระยะเวลาหนึ่งนักร้องวัย 29 ปี ได้กลับเข้าสู่วงการบันเทิงอีกครั้ง และกล่าวขออภัยในความผิดพลาดของตนเอง ซึ่งกลายเป็นสิ่งที่ทำร้ายจิตใจผู้คนรอบ ๆ ตัวทั้งแฟนคลับ, ครอบครัว และเพื่อนสนิทอย่าง อาซา ด้วย

จางป๋อจือ (Cecilia Cheung) พาลูคัสไปดิสนีย์แลนด์โตเกียว เพื่อฉลองวันครบรอบวันเกิดปีที่ 3

Submitted by canjamm on 17 สิงหาคม, 2010 - 16:52

จางป๋อจือ (Cecilia Cheung) ให้้กำเนิดลูกชายคนที่สอง โดยให้ชื่อเขาว่า ควินตัส (Quintus) เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แม้ว่าจะได้ลูกชายคนใหม่ เธอก็ไม่ได้เมินเฉยลูคัส (Lucas) ลูกชายคนโตของเธอ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม เป็นวันครบรอบวันเกิดปีที่ 3 ของลูคัส จางป๋อจือทำการจัดเตรียมการท่องเที่ยวไปยังดิสนีย์แลนด์ (Disneyland) ในโตเกียว เพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้แก่ลูคัส จางป๋อจือไม่ยอมหลับนอนเพื่อทำการอัพโหลดรูปภาพการท่องเที่ยวที่เพิ่งผ่านมาไปบน Weibo และ Facebook เพื่อให้แฟนๆได้ชมกัน เมื่อวันก่อน ผู้ช่วยของจางป๋อจือยอมรับว่า จางป๋อจือพาลูคัสไปโตเกียวเพื่อฉลองวันเกิดจริงๆ แต่เซี่ยถิงฟง (Nicholas Tse) ไม่ได้ไปด้วย เนื่องจากต้องทำงาน

นอกจากนี้แล้ว ลูคัสที่เต็มไปด้วยความน่ารัก และความซุกซนของเขาก่อนหน้านี้ในงาน ทำให้เขามีแฟนๆก่อนที่เขาจะเข้าสู่วงการซะอีก เมื่อไม่นานมานี้ ชาวอินเทอร์เน็ทสร้างกลุ่มแฟนคลับของลูคัสทาง Weibo และทำการอัพโหลดภาพต่างๆของลูคัสขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นภาพของลูคัสคนเดียว, ภาพที่เขาถ่ายกับควินตัส รวมถึงภาพของเขากับพ่อแม่ของเขา

จางป๋อจือเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า เซี่ยถิงฟงพาลูคัสไปชมภาพยนต์สามมิติเป็นครั้งแรกของเขา

The Sun

ลุคใหม่ของจางลี่อิน (Zhang Li Yin) ในผมสีบลอนด์

Submitted by canjamm on 17 สิงหาคม, 2010 - 09:40

ระยะนึงแล้วที่เราไม่ได้ข่าวเกี่ยวกับศิลปิน KPop ชาวจีน จางลี่อิน (Zhang Li Yin) เธอเพิ่งทำการอัพเดท Cyworld ของเธอ ด้วยภาพใหม่ๆของตัวเธอเอง

จางลี่อินอัพโหลดรูปภาพที่ถ่ายด้วยตัวเธอเองไปบน Cyworld และในรูปเหล่านี้ แสดงให้เห็นผมของเธอที่เปลี่ยนไปเป็นสีบลอนด์ เธอยังเขียนข้อความสั้นๆแบบพินอินว่า :

ภาพใหม่~~!!
ขอโทษ, ฮาฮา
ไม่สามารถพิมพ์ภาษาจีนได้ !!
เฮลโลทุกๆคน ไม่ได้เจอกันนานแล้วนะ !

Cyworld

ลือกันอีกรอบ "หลี่เจียซิน" (Michelle Reis) ตั้งท้อง 3 เดือน หลังได้ยาดี

Submitted by canjamm on 16 สิงหาคม, 2010 - 15:22

หลัง "หลี่เจียซิน" (Michelle Reis) เข้าพิธีสมรสกับสามีมหาเศรษฐี "จูเลี่ยน ฮุย" (Julian Hui) เมื่อ 2 ปีก่อน มีรายงานข่าวเกี่ยวกับทายาทคนแรกของทั้งคู่มาโดยตลอด แต่สุดท้ายความหวังได้ลูกมาอุ้มของสองสามีภรรยาคนดังก็ไม่เกิดขึ้นเสียที ล่าสุดมีข่าวทำนองนี้ขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อสื่อรายหนึ่งได้อ้างว่า "หลี่เจียซิน" ตั้งครรภ์ได้ 3 เดือนแล้ว พร้อมหลักฐานเป็นภาพถ่าย และยังให้ข้อมูลว่ายาจีนที่ได้มาจากเพื่อน คือเคล็ดลับการตั้งท้องของเธอ

สื่อบันเทิงจากฮ่องกงรายงานอีกครั้งว่า หลี่เจียซิน นางเอกชาวฮ่องกงเจ้าของผลงาน เดชคัมภีร์เทวดาภาค 2 และหนังชุดสุดฮิต เทพบุตรผู้พิชิต เมื่อหลายปีก่อน ได้ตั้งท้อง 3 เดือนแล้ว อันเป็นเรื่องที่สร้างความยินดีแก่สามี และครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง หลังรอคอยทายาทของตระกูลมายาวนานเต็มทน

ข่าวยังระบุว่าแม้แต่แม่สามี ที่เคยไม่พอใจในตัวลูกสะใภ้คนสวยอย่างแรง ถึงเรื่องการมีบุตรยาก ก็ยินดีกับข่าวครั้งนี้เป็นอย่างมาก จนถึงกับสั่งกำชับให้ จูเลี่ยน ฮุย ลูกชายตัวเองดูแลหลี่เจียซินให้ดีที่สุด และหายาบำรุงสุขภาพเพื่อให้ลูกน้อยในครรภ์ได้เติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแรง

นับแต่เริ่มต้นใช้ชีวิตคู่ มีข่าวซุบซิบเกี่ยวกับนางเอกภาพยนตร์ และหนังชุดทางโทรทัศน์คนนี้ออกมาอยู่เสมอ โดยเฉพาะปัญหาหนักอกหนักใจของเธอ เกี่ยวกับการมีบุตรยากในวัย 40 ปี มีกระทั่งข่าวลือว่า แม่สามีไม่พอใจอย่างยิ่ง ที่เธอยังไม่หยุดรับงาน และมีการขู่ว่าถ้าไม่สามารถให้ทายาทแก่ตระกูลได้ อาจจะมีการหาหญิงสาวคนอื่นมาทำหน้าที่แทน

ขณะเดียวกันในข่าวดีดังกล่าว ยังมีการเปิดเผยด้วยว่าการตั้งท้องครั้งนี้มีเคล็ดลับสำคัญมาจากยาดี ที่หลีเจียซิน ได้รับมาจากเพื่อนคนหนึ่ง

แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับนักแสดงสาวคนดัง ได้ออกมาให้ข้อมูลถึงเรื่องนี้ว่า "ครอบครัวของสามีต้องการทายาทคนนี้มาโดยตลอด แต่พวกเขาเองก็ทราบดีว่าของแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องที่จะมาเร่งรัดกันได้ ฉันคิดว่าสุดท้ายแล้วเธอได้สูตรลับมาจากเพื่อนคนหนึ่ง เป็นยาจีนโบราณที่ทุกคนคิดว่าคงไม่เสียหายอะไรถ้าจะลองดู และสุดท้ายมันก็ได้ผลจริงๆ!!"

"หวงเสี่ยวหมิง" (Huang Xiaoming) เจอรุมสวด เหวี่ยงหนัก แม้กระทั่งแฟนก็ไม่เว้น

Submitted by canjamm on 16 สิงหาคม, 2010 - 13:45

เรียกได้ว่าตอนนี้เจอแต่ข่าวแง่ลบของ"หวงเสี่ยวหมิง" (Huang Xiaoming) พระเอกชื่อดังจากเรื่องเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ออกมาอยู่ตลอด ถึงความแรงและนิสัยอารมณ์ร้อนของเจ้าตัว ล่าสุดแม้กระทั่งกับแฟนสาวที่ได้ชื่อว่าศัลยกรรมตัวแม่ของฮ่องกงอย่าง "แองเจล่าเบบี้" (Angela Baby) ก็โดนตะคอกใส่ในสนามบินด้วย

หวงเสี่ยวหมิง นักแสดงชื่อดังปรากฏเป็นข่าวหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งล้วนแต่เป็นไปในแง่ลบ โดยล่าสุดก็มีข่าวลือออกมาว่าเขาตะคอกเสียงดังใส่แองเจลาเบบี้ แฟนสาวในที่สาธารณะ ขณะทั้งคู่เดินทางมาถึงสนามบินปักกิ่ง

ซึ่งขณะอยู่ในลานจอดรถ ผู้เห็นเหตุการณ์ยืนยันว่า เห็นเสี่ยวหมิงตะคอกใส่แองเจลา ก่อนจะทุบกระจกรถด้วยความโมโห ซึ่งแองเจลารู้สึกกลัวและอยากเข้าไปในรถ แต่เสี่ยวหมิงเอามือดันประตูปิดไว้และไม่ยอมให้เธอขึ้นรถจนกว่าเขาจะด่าเธอจบ

หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ออกไปด้วยรถคนละคัน ก่อนจะมีคนเห็นทั้งคู่หายเข้าไปในบ้านพักที่ทั้งคู่อาศัยอยู่ด้วยกัน ซึ่งตามรายงานระบุว่า บ้านหลังดังกล่าวคือบ้านหลังใหม่ที่ฝ่ายชายซื้อไว้

เรียกได้ว่า ข่าวนี้ได้สร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ค่อยจะดีนักให้กับนักแสดงหนุ่มมากทีเดียว และสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาค่อนข้างมาก ถึงนิสัยส่วนตัวของเขาที่ไม่ค่อยจะดี เพราะก่อนหน้านี้เขาก็เจอข่าวด้านลบมามากมาย

ทั้งเรื่องที่โดนวิพากษ์วิจารณ์ว่าเขาไปทำศัลยกรรมมา เพื่อปรับปรุงรูปหน้าของตนเอง และการได้รับเลือกจากเว็บไซต์ในจีนให้เป็น "ราชาหนังห่วย" รวมถึงเรื่องที่เขาวิจารณ์นักแสดงชื่อดังอย่าง ทาคุยะ คิมุระ (Takuya Kimura) เมื่อครั้งที่ได้ถ่ายแบบขึ้นปกนิตยสารร่วมกัน ว่าเป็นคนที่ทำงานด้วยยาก จนกระทั่งโดนโจมตีจากเหล่าบรรดาแฟนคลับของหนุ่มคิมุทาคุ

อย่างไรก็ตาม หวงเสี่ยวหมิง ก็ไม่รู้สึกสะทกสะท้านต่อข่าวแง่ลบของตนเองหรือกลัวการถูกแบนแต่อย่างใด โดยเจ้าตัวได้เขียนข้อความระบายความในใจผ่านทาง Weibo ( เว็บเพจส่วนตัวที่ได้รับความนิยมมากในจีนเช่นเดียวกับทวิตเตอร์หรือเฟซบุ๊ค ) ซึ่งระบุว่า "ผมไม่กลัวที่จะตกต่ำ สิ่งเดียวที่ผมกลัวคือผมจะลงไปไม่ถึงจุดต่ำสุด เพราะไม่ว่ามันจะยากลำบากขนาดไหน ผมก็จะยืนหยัดขึ้นด้วยสองเท้าของผมให้ได้อีกครั้ง"

XinMSN / Manager Online

หนังแผ่นดินไหวฟอร์มยักษ์ "Aftershock" ปลุกกระแสจัดเรตติ้งในจีน

Submitted by canjamm on 16 สิงหาคม, 2010 - 09:37

หนังอิงประวัติศาสตร์ว่าด้วยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในอดีต "Aftershock" กลายเป็นภาพยนตร์จีนที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลไปแล้ว หลังเข้าฉายเพียงแค่สองสัปดาห์ ในเวลาเดียวกันก็มีกระแสวิจารณ์ ว่าด้วยภาพและเนื้อหาอันรุนแรงของหนัง ประเทศจีนสมควรถึงเวลาของการจัดเรตติ้งภาพยนตร์ได้แล้ว

Aftershock ผลงานของผู้กำกับบล็อคบัสเตอร์อันดับหนึ่งแห่งแดนมังกร เฝิงเสี่ยวกัง กลายเป็นหนังภาษาจีนที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากเข้าฉายมาได้เพียง 2 สัปดาห์

จากการเปิดเผยของ Huayi Brothers บริษัทผู้จัดจำหน่าย หนังว่าด้วยเหตุการณ์จริงของภัยพิบัติแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ในถังชานเมื่อ 34 ปีก่อน ที่เต็มไปด้วยเทคนิคพิเศษ ผสมกับเนื้อหาอันน่าสะเทือนใจ สามารถกวาดรายได้ถึง 510 ล้านหยวน (ประมาณ 2,390 ล้านบาท) ในการเข้าฉายเพียงสองสัปดาห์แรก

นับเป็นครั้งที่สองแล้วที่ เฝิงเสี่ยวกัง สามารถทุบสถิติหนังภาษาจีนทำเงินอันดับสูงสุดได้สำเร็จ หลังเคยพาหนังตลกโรแมนติก If You Are the One ที่มีดาราสาวชาวไต้หวัน ซูฉี นำแสดง สามารถเก็บเงินไปได้กว่า 350 ล้านหยวน (1,640 ล้านบาท) เมื่อปี 2008 สูงสุดกว่าหนังเรื่องใดๆ ในตอนนั้น ก่อนจะถูกหนังฉลอง 60 ปี สาธารณรัฐประชาชนจีน The Founding of a Republic ทำลายสถิติด้วยรายได้ 415 ล้านหยวน (1,940 ล้านบาท) จนกระทั่งผู้กำกับดังชาวปักกิ่งกลับมายึดครองเข็มขัดแชมป์ หนังจีนทำเงินสูงสุดกลับมาได้อีกครั้งในปีนี้ด้วย Aftershock

Aftershock เป็นหนังจีนเรื่องแรกที่เปิดฉายในโรง IMAX และโกยเงินอย่างต่อเนื่องนับแต่รอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ผ่านหลัก 100 หยวนได้ภายใน 3 วันเท่านั้น ล่าสุดผู้กำกับคนเก่งยังคาดเดาว่า หนังของเขาน่าจะทำเงินแตะระดับ 600 ล้านหยวน ในสัปดาห์ต่อไป อย่างไรก็ตาม การจะชิงตำแหน่งหนังทำเงินสูงสุดในจีนกลับมา จากหนังต่างชาติที่ชื่อว่า Avatar คงเป็นเรื่องยากสักหน่อย เพราะผลงานหนัง 3-D ของ เจมส์ แคเมรอน เรื่องนั้นกวาดเงินชาวจีนไปกว่า 1,800 ล้านหยวน (8,440 ล้านบาท) ถึงกระนั้นความสำเร็จของ Aftershock ก็ยังเป็นที่พูดถึงมากอยู่ดี

ครองรัก 5 ปี "เคน F4 (Ken Chu) - หลินซีเหลย (Kelly Lin)" แยกทางกันแล้ว

Submitted by canjamm on 14 สิงหาคม, 2010 - 10:06

หลังจากร่วมงานกันในภาพยนตร์เรื่องหนึ่งเมื่อปี 2005 "เคน F4" (Ken Chu) และนักแสดงสาวเซ็กซี่ "หลินซีเหลย" (Kelly Lin) ได้คบหากันมาเป็นระยะเวลาถึง 5 ปีแล้ว แต่ล่าสุดมีข่าวลือว่าคู่ขวัญวงการบันเทิงไต้หวันคู่นี้ ได้ยุติความสัมพันธ์กันแล้ว หลังจากไม่สามารถปรับตัวเข้าหากันได้

จากรายงานของสื่อในประเทศจีน จูเสี้ยวเทียน หรือ เคน นักร้องหนุ่มวัย 31 ปี สมาชิกวงบอยแบนด์ F4 และ เคลลี่ หลินซีเหลย สาวร้อนวัย 34 ปีแห่งวงการบันเทิงไต้หวัน ได้ตัดสินใจที่จะแยกทางกันแล้ว โดยฝ่ายหญิงเพิ่งย้ายข้าวของออกจากบ้านที่ทั้งสองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดยังเปิดเผยว่า นิสัยที่แตกต่างกันเกินไป เป็นสาเหตุหลักของการสิ้นสุดความเป็นคู่รักครั้งนี้

ตามรายงานว่าระบุว่าโดยพื้นฐาน หลินซีเหลย เป็นคนใจเย็น และไม่แสดงความรู้สึกต่ออะไรเท่าไหร่นัก แต่แฟนหนุ่มของเธอดูจะเป็นด้านตรงกันข้าม เคน ค่อนข้างจะมีนิสัยหุนหันพลันแล่น และอารมณ์เสียได้ง่าย ซึ่งสื่อต่างประเทศยังให้ข้อมูลว่า ด้วยนิสัยที่ต่างกันเกินไป ทำให้เกิดเรื่องทะเลาะเบาะแว้งขึ้นบ่อยครั้ง แม้กระทั่งเรื่องเล็ก ๆ อย่างการดูโทรทัศน์ก็ทำให้ทั้งสองมีปากเสียงกันได้

ในตอนที่เริ่มคบหากันใหม่ ๆ ฝ่ายหญิงเคยออกมาเปิดใจว่า ความรักที่มีต่อกันทำให้สามารถผ่านพ้นอุปสรรคหลาย ๆ อย่างไปได้ แต่เมื่อการคบหาเดินทางมาถึงปีที่ 5 นิสัยและการใช้ชีวิตอันแตกต่างเริ่มเป็นประเด็นใหญ่ขึ้นมาเรื่อย ๆ จนสุดท้ายทำให้คู่รักคนดังแห่งไต้หวันต้องตัดสินใจยอมแพ้ ยุติความสัมพันธ์ที่มีต่อกันในที่สุด

เคน และหลินซีเหลย พบกับครั้งแรกเมื่อปี 2005 ด้วยฐานะเพื่อนร่วมงานในภาพยนตร์เรื่อง The Tokyo Trail จนเริ่มมีความสนิทสนม และพัฒนาความสัมพันธ์ จนคบหาดูใจกันแบบเงียบ ๆ นับแต่ตอนนั้น ซึ่งเมื่อ 3 ปีก่อน สื่อยังได้ภาพ ที่ทั้งสองใส่เสื้อคู่รักอยู่ด้วยกันในบ้านหลังหนึ่ง เป็นหลักฐานที่ยืนยันถึงการคบหาครั้งนี้

ที่ผ่านมาทั้งฝ่ายหญิง และชายซึ่งเป็นคนดังระดับประเทศ ไม่ค่อยยอมพูดถึงเรื่องการคบหากันกับสื่อมากนัก ขณะที่ตลอด 5 ปีแห่งการครองคู่ ก็มีข่าวลือต่าง ๆ ของทั้งสองออกมามากมาย ทั้งข่าวลือเรื่องการแยกทาง หรือกระทั่งข่าวลือที่ว่า สองนักแสดงคนดังอาจตัดสินใจจูงมือกันเขาประตูวิวาห์เมื่อปีที่แล้ว

"เฉินหลง" (Jackie Chan) ป้อง "บาหวาง" โต้ข่าวลือแชมพูดังมีสารก่อมะเร็ง

Submitted by canjamm on 11 สิงหาคม, 2010 - 14:27

"เฉินหลง" (Jackie Chan) และ "หวังเฟย" (Wang Fei) ต้องถูกสื่อในประเทศจีน และฮ่องกง วิจารณ์อย่างหนัก ว่ามีส่วนร่วมส่งเสริมสนับสนุนให้กับแชมพูดังยี่ห้อหนึ่ง ที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่ามีสารก่อมะเร็ง ล่าสุดพระเอกนักบู๊จมูกโต ได้ออกมาพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมยืนยัน "บาหวาง" (Bawang) แชมพูที่เขารับเป็นพรีเซนเตอร์ ไม่ได้มีอันตรายแบบที่ลือกันอย่างแน่นอน

ระหว่างปรากฏตัวที่งานประมูลการกุศลแห่งหนึ่งที่เซียงไฮ้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พระเอกจมูกโตวัย 56 ปี ออกมาพูดถึงข่าวลือด้านลบเกี่ยวกับสินค้าตัวที่เขาเป็นพรีเซนเตอร์ ว่าเป็นเพียงการโจมตีจากคู่แข่งเท่านั้น "เหตุการณ์แบบนี้ ที่แชมพูถูกล่าวหาว่ามีปัญหา ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรเลย มีใครบางคนพยายามให้ร้ายผม และบาหวาง มันก็เหมือนกับเวลาที่สร้างหนัง พวกคู่แข่งของผมก็มักออกมาพูดว่าหนังต้องห่วยแน่ๆ อยู่แล้ว เป็นเรื่องธรรมดามากๆ"

เมื่อเดือนก่อน สื่อในฮ่องกงรวมถึง Sina.com และ Xinhuanet.com ได้ตีข่าวว่า มีการตรวจสอบตัวอย่างของแชมพูยาจากประเทศจีนยี่ห้อ 'บาหวาง' และแชมพูยี่ห้อ 'Royal Wind' และพบว่าสินค้าทั้งสองมีสารไดออกเซน (1,4-Dioxane) อยู่ในส่วนผสม ซึ่งสารดังกล่าวถูกตีตราจาก หน่วยงานสาธารณะสุข และบริการสังคมของรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าเป็นสารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง

ข่าวลือด้านลบดังกล่าวกลายเป็นประเด็นใหญ่ในฮ่องกง นอกจากนั้นยังมีผลไปถึงตลาดหุ้น ที่ต้องระงับการซื้อขายหุ้นของบริษัทผู้ผลิตแชมพูยี่ห้อดัง หลังจากเสียงลือแพร่กระจายออกไปเรื่อยๆ จนทำให้หุ้นของบริษัทดังกล่าวดิ่งลงไปถึง 18 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเวลาหนึ่ง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากกฎระเบียบใหม่ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เมื่อปีก่อน ซึ่งอาจทำให้สินค้าถูกระงับการจำหน่ายได้ หากมีข้อสงสัยว่ามีอันตรายต่อผู้บริโภค

นอกจากตัวสินค้าที่ได้รับผลกระทบโดยตรงแล้ว นักแสดงนักร้องคนดังในวงการอย่าง “เฉินหลง” พรีเซนเตอร์ของ “บาหวาง” และ “หวังเฟย” นักร้องสาวชาวจีน ที่ทำหน้าที่เป็นพรีเซนเตอร์ของแชมพู “Royal Wind” ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปด้วย ว่าช่วยเหลือโฆษณาสินค้าที่ไม่มีความปลอดภัยเพียงพอ

กลุ่มสิทธิบุรุษโวยการประกวด "มิสเตอร์ฮ่องกง" ดูถูกเพศชาย

Submitted by canjamm on 10 สิงหาคม, 2010 - 14:32

หนุ่มๆ จากองค์กรครอบครัว และสิทธิความเท่าเทียมทางเพศ ออกมาโวยการประกวดชายงาม "มิสเตอร์ฮ่องกง" ว่ามีเนื้อหาที่เข้าข่ายการดูถูกเพศชาย โดยเฉพาะการให้เหล่าคณะกรรมการหญิงล้วน พิจารณารูปร่างหนุ่มๆ ผู้เข้าประกวดแบบถึงเนื้อถึงตัว โดยกลุ่มผู้ประท้วงยังขู่ว่าถ้าไม่มีการแก้ไข วันประกวดจริงอาจมีการเดินทางไปประท้วงถึงในงานด้วย

มิสเตอร์ฮ่องกง 2010 การประกวดชายงามเวทีดัง ของสถานีโทรทัศน์ทีวีบีปีล่าสุด ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 21 ส.ค. นี้ ต้องพบกับการร้องเรียนตั้งแต่งานจริงยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อกลุ่มรณรงค์สิทธิครอบครัว และความเท่าเทียมกันระหว่างเพศ ได้แก่ Love Parents & Family Association และ Equal Justice Society ได้ส่งจดหมายร้องเรียนไปถึงทีวีบี ถึงประเด็นล่อแหลมในการประกวดชายงามแห่งนี้ กล่าวหาว่ามีแนวโน้มในการส่งเสริมการดูถูกเหยียดหยาม มองเพศชายเป็นวัตถุทางเพศ

ส่วนที่เป็นประเด็นมากที่สุดในการประกวดมิสเตอร์ฮ่องกงทุกๆ ปีก็คือ ในรอบประกวดชุดว่ายน้ำ และตอบคำถาม ที่หนุ่มๆ ผู้เข้าประกวดต้องเดินโชว์โฉมในกางเกงว่ายน้ำตัวจิ๋ว มากไปกว่านั้นเหล่าคณะกรรมการที่เป็นหญิงทั้งหมด ยังได้โอกาสในการพิสูจน์ความสมบูรณ์แบบของรูปร่างของเหล่าผู้เข้าประกวดแต่ละคน ด้วยการสัมผัสแบบประชิดถึงเนื้อถึงตัว ซึ่งเหล่ากลุ่มสิทธิมนุษยชนมองว่า ล้วนเป็นสิ่งไม่เหมาะสม

ตลอด 3 ปีของมิสเตอร์ฮ่องกง กองประกวดต้องถูกร้องเรียนอย่างเป็นทางการ จากทั้งประชาชนทั่วไปและองค์กรเอกชน ที่ส่งจดหมายประท้วง ไปถึงหน่วยงานรัฐ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบด้านสื่อของฮ่องกงกว่า 86 ครั้ง ถือว่ามากกว่าการร้องเรียนงานประกวดมิสฮ่องกงเสียอีก แต่ตามเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้ออกมาแถลงไขว่า ไม่ได้มีหน้าที่โดยตรงที่จะสามารถทำอะไรมากไปกว่า การส่งข้อร้องเรียนทั้งหมดไปยังทีวีบี ผู้จัดงานอีกต่อหนึ่ง เพื่อให้สถานีโทรทัศน์เป็นผู้ตัดสินใจแก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วยตนเอง

เผยภาพ "เฉินหลง" (Jackie Chan) ในวัยหนุ่ม กับบทบาทพระเอกหนังโป๊

Submitted by canjamm on 9 สิงหาคม, 2010 - 18:03

นอกจากการเปิดเผยเรื่องความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่าง "เฉินหลง" (Jackie Chan) และ "เติ้งลี่จวิน" (Teresa Teng) แล้ว "ตู้ฮุยตง" (Du Huidong) ผู้อำนวยการสร้างจอมแฉ ยังออกมาเผยภาพเก่าเก็บของนักบู๊วัย 56 ปี กับบทบาทในฐานะพระเอกหนังโป๊ เมื่อสมัยที่เขาก้าวสู่วงการภาพยนตร์ใหม่ๆ เมื่อเกือบ 40 ปีก่อนด้วย

ในหนังสือ Little Stars ของอดีตผู้อำนวยการสร้าง ตู้ฮุยตง ที่เขียนขึ้นเพื่อเปิดเผยเรื่องลับๆ ในวงการบันเทิงฮ่องกง เล่าเรื่องซึ่งไม่เคยเปิดเผยของนักร้องนักแสดงมากมาย อาทิ หวังจู่เสียน (Joey Wong), เหมยเยี่ยฟาง (Anita Mui), เติ้งลี่จวิน

รวมถึงพระเอกนักบู๊ เฉินหลง ที่นอกจากจะถูกแฉเรื่องรักกับ เติ้งลี่จวิน และภรรยาคนปัจจุบัน หลินฟงเจียว (Lin Feng-jiao) แล้ว ยังถูกขุดเอาอดีตอีกด้าน ที่เขาเองอาจจะไม่ยินดีกับมันนัก กับการเป็นพระเอกหนังโป๊ในสมัยที่เข้าสู่วงการบันเทิงใหม่ ๆ มาแฉด้วย

ตู้ฮุยตง เล่าเรื่องงานในยุคแรกของเฉินหลง พร้อมหลักฐานภาพถ่าย ที่ชี้ว่าดาวบู๊รุ่นใหญ่เคยแสดงในหนังประเภทโป๊เปลือยอยู่หลายเรื่อง เมื่อเกือบ 40 ปีที่แล้ว ต่อมาจึงสามารถแจ้งเกิดได้ในฐานะดาราแอ็กชั่นระดับค้างฟ้าที่ยังคงมีผลงานมาถึงยุคปัจจุบัน

อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ประเด็นการเป็นพระเอกหนังโป๊ของเฉินหลงถูกพูดถึงผ่านสื่อ เมื่อ 4 ปีก่อน ก็เคยมีภาพจากภาพยนตร์แนววาบหวามเก่า ๆ ที่เขาเคยแสดง ออกเผยแพร่ในสื่อหลายๆ เล่ม ซึ่ง เฉินหลง ก็ออกมายอมรับว่าอย่างเต็มอกว่าตนเองเคยรับงานประเภทดังกล่าวจริง

หนึ่งในงานที่ยังคงหลงเหลือมาถึงยุคปัจจุบัน ก็คือหนังตลกเซ็กซี่ที่มีชื่อว่า All in the Family ในปี 1975 ผลงานการสร้างของ เรย์มอน เชา ที่ยังมีนักแสดงมีชื่ออีกหลายคน อาทิ หงจินเป่า, ซื่อเทียน และ เถียนหนิว ร่วมแสดงอยู่ด้วย ซึ่งก็น่าจะเป็นหนังแนวนี้เรื่องท้ายๆ ของเฉินหลงแล้ว ก่อนที่เขาจะโด่งดังเป็นพลุแตกกับหนังกังฟู ไอ้หนุ่มพันมือ ในเวลาต่อมา

มรสุมชีวิตเป็นเหตุ "จางจื่ออี๋" (Zhang Ziyi) เกือบฆ่าตัวตายเลียนแบบ "หรวนหลิงอี้ว์"

Submitted by canjamm on 9 สิงหาคม, 2010 - 10:13

ช่วง 6 เดือนแรกในปี 2010 ชีวิตของนักแสดงสาวหมวยอินเตอร์ "จางจื่ออี๋" (Zhang Ziyi) ต้องพบกับมรสุมลูกใหญ่จากข่าวลือด้านลบต่างๆ ซึ่งกว่าจะผ่านมันไปได้ สื่อรายหนึ่งในจีนอ้างว่า ครั้งหนึ่งเธอเคยเกือบเลือกจบชีวิตตัวเอง เพื่อยุติปัญหาต่างๆ เหล่านี้มาแล้ว

บทความของบรรณาธิการบริหารแห่งนิตยสาร Harper’s Bazaar ฉบับประเทศจีน เป็นผู้ออกมาเล่าถึงเรื่องที่ว่า นักแสดงสาวแถวหน้าของวงการภาพยนตร์จีน จางจื่ออี๋ เคยมีความคิดชั่ววูบ เกือบคิดสั้นฆ่าตัวตาย เพื่อจบสารพันปัญหา ที่รุมเร้าเข้ามาในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งบรรณาธิการคนดังกล่าว อ้างว่าได้รับรู้เรื่องเหล่านี้ จากการไปเยี่ยมนักแสดงสาวคนดังระหว่างการถ่ายทำหนัง The Tale of Magic ผลงานเรื่องล่าสุดของเธอนั่นเอง

จางจื่ออี๋ ต้องเผชิญกับปัญหาชีวิตและข่าวลือด้านลบมากมาย ในช่วงตั้งแต่ปลายปีก่อน กินเวลาหลายเดือน กับหลายเรื่องหลายราว อาทิ ต้องถอนตัวจากโครงการหนังฟอร์มใหญ่ ที่ตัวเองเป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มสร้าง, ข่าวลือคบชู้กับนักธุรกิจใหญ่ชาวจีน และที่ร้ายแรงที่สุดก็คือ ข่าวโกงเงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ผ่านมูลนิธิของตนเอง เรื่องครั้งนั้นกลายเป็นข่าวใหญ่ระดับโลก ขณะที่ในประเทศก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนาหู สร้างแรงกดดันมหาศาลแก่นักแสดงหญิงวัย 31 ปี

ซึ่งสื่อจีนรายนี้ยังอ้างว่าสิ่งที่สร้างความสะเทือนใจให้กับ จางจื่ออี๋ มากที่สุดก็คือ การต้องเห็นน้ำตาของผู้เป็นแม่ที่ทนทุกข์ต่อปัญหาของลูกสาวไปด้วย รวมถึงกังวลว่าความฉาวจะสร้างผลกระทบต่อเพื่อนฝูงรอบๆ ตัวของเธอ ซึ่งในครั้งหนึ่ง ความคิดเรื่องฆ่าตัวตาย ได้แล่นเข้าหัวนักแสดงสาวคนดัง หลังเธอได้ชมหนังเรื่อง Centre Stage ที่ฉายอยู่ในโทรทัศน์ช่วงนั้นพอดิบพอดี

Centre Stage ผลงานของผู้กำกับชาวฮ่องกง สแตนลี่ กวาน คือหนังดังที่กวาดรางวัลมามากมายเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน นำแสดงโดย จางม่านอวี้ (Maggie Cheung) ที่ถ่ายทอดชีวิตจริงของ หรวนหลิงอี้ว์ (Ruan Lingyu) อดีตนักแสดงหญิงชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ผู้โด่งดังในยุคหนังเงียบ ซึ่งตัดสินใจจบชีวิตตนเอง หลังไม่สามารถแบกรับความกดดัน ที่มีสาเหตุมาจากข่าวฉาวต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์และชีวิตส่วนตัวของเธอ ซึ่งเป็นที่พูดถึงอย่างมากในเซี่ยงไฮ้เวลานั้น

ลือ "กัวฟู่เฉิง" (Aaron Kwok) เขี่ย "สงไต้หลิน" (Lynn Hung) พ้นตำแหน่งแฟน เหตุไม่ปลื้มสาวศัลยกรรม

Submitted by canjamm on 6 สิงหาคม, 2010 - 17:20

ข่าวลือข่าวเลิกของคู่รักคนดังแห่งวงการบันเทิงฮ่องกง "กัวฟู่เฉิง" (Aaron Kwok) และ "สงไต้หลิน" (Lynn Hung / Lynn Xiong) แพร่สะพัดขึ้นมาอีกครั้ง กับเรื่องที่ว่าฝ่ายชายออกอาการไม่ปลื้มจนถึงขั้นขอบอกเลิก หลังแฟนสาวนางแบบคนดัง ไปขึ้นเขียงให้หมอศัลยกรรมผ่าหน้าเพิ่มความสวย เพราะพระเอกหนุ่มชาวฮ่องกงคนนี้ยืนยันขอเลือกเฉพาะสาวสวยธรรมชาติเท่านั้น - Xinmsn.com

สื่อจีนรายงานว่าระยะหลัง สงไต้หลิน นางแบบชาวหนานจิงวัย 29 ปี เริ่มแสดงความรู้สึกเศร้าๆ ออกมาบ่อยครั้งในเว็บไซต์ Weibo (เว็บไซต์แบบเดียวกับ Twitter ของชาวจีน) ของตนเอง จนเป็นที่สงสัยว่าความสัมพันธ์ของเธอ และแฟนหนุ่มคนดังแดนฮ่องกงคงจะเริ่มสั่นคลอนเสียแล้ว

กัวฟู่เฉิง และสงไต้หลิน ต้องห่างกันช่วงใหญ่ๆ ชนิดแทบไม่ได้พบหน้ากับเลยตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา สืบเนื่องด้วยงานที่รัดตัวของดาราดังทั้งสอง ฝ่ายหญิงมีภาพยนตร์ติดต่อกันหลายเรื่อง ขณะที่ฝ่ายชายก็ต้องออกแสดงคอนเสิร์ต ร่วมถึงเดินไปถ่ายทำภาพยนตร์ในหลายๆ ประเทศ

ซ้ำร้ายข่าวลือที่ว่า สงไต้หลิน เพิ่งเข้ารับการผ่าตัดเพื่อศัลยกรรมความงาม ที่สื่อจีนหลายเจ้ารายงานกัน ยังอาจส่งผลโดยตรงต่อความสัมพันธ์ของทั้งคู่ด้วย

เมื่อเร็ว ๆ นี้ กัวฟู่เฉิง วัย 44 ปี เพิ่งให้สัมภาษณ์กับสื่อ ถึงมุมมองต่อการทำศัลยกรรมพลาสติก ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ทั้งหญิงและชายในเวลานี้ว่า "มันเป็นเรื่องของแต่ละบุคคลนะครับ แน่นอนว่าทุกวันนี้เทคโนโลยีสามารถช่วยลบข้อบกพร่องในตัวเราได้ แต่โดยส่วนตัวผมจะไม่ใช่โบท๊อกซ์ หรือการผ่าตัดศัลยกรรมอย่างแน่นอน ไม่ใช่สำหรับในปัจจุบัน รวมถึงอนาคตข้างหน้า ผมยินดีให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ"

หนุ่มเสน่ห์แรงแห่งฮ่องกงยังแสดงจุดยืนว่า รับไม่ได้อย่างแน่นอน ถ้าแฟนสาวหรือภรรยาในอนาคตของตัวเอง เลือกที่จะสวยด้วยมือแพทย์ และถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาจริง ๆ ก็อาจทำให้เขาขอเลิก ยุติความสัมพันธ์กับเธอเลยก็ได้ ... "ถ้าแฟนหรือภรรยาในอนาคตของผมไปทำศัลยกรรมพลาสติก ผมก็คงทิ้งเธออย่างแน่นอน ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเพื่อเอาใจผม ความงามภายในจิตใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด" ซึ่งคำสัมภาษณ์ดังกล่าวกลายเป็นที่มา ที่หลายฝ่ายเริ่มสงสัยว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่อาจจบลงไปแล้วก็เป็นได้