Jay Chou (C)

นักร้องคนดังแห่งวงการเพลงจีน ปิดทุกรายละเอียดเกี่ยวกับผลงานของตัวเองมาตลอด ทั้งเรื่องรายละเอียดของเนื้อหา และนักแสดงนำที่จะมาจับคู่กับเขา จนล่าสุด “เจย์ โจว” (Jay Chou) ได้โอกาสเผยโฉมนางเอกของเรื่องให้ทุกคนได้เห็นกันแล้ว สำหรับดาราสาวหน้าใหม่ที่มีชื่อว่า “ลี่ซินอ้าย” (Li Xin Ai)
       
       เจย์ โจว ได้โอกาสเปิดตัวนางเอกใหม่ สำหรับผลงานการกำกับหนังเรื่องที่ 2 ในชีวิตที่ใช้ชื่อว่า The Rooftop ที่เขายังคงแสดงนำเองเหมือนเดิม และประกบคู่กับสาวสวยหน้าใหม่นางเอกลูกครึ่ง ลี่ซินอ้าย ในการแถลงข่าวเปิดตัวหนังเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
       
       ตามข่าวผู้อำนวยการสร้าง วิล หลิว เป็นคนค้นพบสาวสวยหน้าใหม่ในวงการคนนี้ หลังพยายามหาดาราหญิงสำหรับบทนำในหนังใหม่ของ เจย์ อยู่นานสองนาน แต่จนแล้วจนรอดก็เลือกไม่ได้เสียที จนมาเจอเอาสาวสวยลูกครึ่งคนนี้เข้าแบบไม่ได้ตั้งใจ “เราแทบจะเกาหัวด้วยความหนักใจ เกี่ยวกับการเลือกนางเอกของเรื่องเลย จนผมได้เจอเธอที่กำลังข้ามทางม้าลายอยู่ข้างหน้า” ผู้อำนวยการสร้างเผยถึงการพบดาราสาวคนนี้โดยบังเอิญ และที่มาของชื่อเล่น “ซินเดอเรลลาทางม้าลาย” ที่ทีมงานของหนังตั้งให้กับเธอ
       
       อย่างไรก็ตามผู้สร้างก็ยอมรับว่าตอนแรก เจย์ โจว ก็ไม่ค่อยมั่นใจกับดาราหน้าใหม่คนนี้เท่าไหร่ เพราะเธอแทบไม่มีประสบการณ์ในวงการบันเทิงเลย แต่เพราะบุคลิกของเธอตรงกับบทภาพยนตร์มาก จึงตัดสินใจเลือกว่าต้องเป็น ลี่ซินอ้าย คนนี้ “นี่คืองานแสดงแรกของเธอ ผมรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจตอนโปรดิวเซอร์แนะนำเธอมาให้ ตอนที่เราร่วมเข้าฉากกันครั้งแรก ก็ค่อนข้างกังวลว่าเธอจะแสดงได้รึเปล่า แต่ก็พอใจเมื่อได้เห็นการแสดง เธอคือคนที่ใช่ที่สุด และเราไม่ผิดหวังที่เลือกให้เป็นนางเอกครับ”
     

“ฟ่านปิงปิง” (Fan Bing Bing) นักแสดงสาวชื่อดังจากแดนมังกรขึ้นแท่นแทนที่ “เจย์ โจว” (Jay Chou) แชมป์เก่าขึ้นอันดับคนดังทรงอิทธิพลที่สุดในวงการบันเทิงจีนของปีนี้
       
       ทางฟอร์บส์จีนได้มีการจัดอันดับ 100 คนดังทรงอิทธิพลที่สุดเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้เพิ่งประกาศผลเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยมีสาวฟ่านปิงปิงขึ้นแท่นเป็นอันดับหนึ่ง โดยดูจากหลายๆปัจจัยทั้งรายได้, ผลการค้นหาออนไลน์ และการปรากฏตัวตามสื่อต่างๆทั้งหนังสือพิมพ์, นิตยสาร และ โทรทัศน์
       
       แม้ว่ารายได้รวมของฟ่านปิงปิงจะทำรายได้อยู่ที่ 523 ล้านบาทซึ่งตามหลังเจินจื่อตัน (Donnie Yen) อยู่ แต่นักแสดงสาวมักปรากฏตัวในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติและงานอีเวนต์ต่างๆ ทั้งงานประกาศผลรางวัลออสการ์และเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ซึ่งถือว่าออกสื่อใหญ่ได้บ่อยครั้งกว่าส่งให้เธอไต่ขึ้นอันดับหนึ่งไปได้ในที่สุด
       
       ด้านเจย์ โจว แชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้วถูกดันร่วงมาอยู่อันดับ 2 ตามมาด้วย หลิวเต๋อหัว (Andy Lau), เฉินหลง (Jackie Chan), จางจื้อยี่ (Zhang Ziyi), เฉินอี้ซิน (Eason Chan), หยางมี่ (Yang Mi), หวงเสี่ยวหมิง (Huang Xiaoming), ไช่อี้หลิน (Jolin Tsai) และ หลินจื่อหลิง (Lin Zhi Ling) ทางด้านหวงเสี่ยวหมิงนั้นนับเป็นนักแสดงชาวจีนที่โดดเด่นมากที่เดียวเมื่อเขามีชื่อติดหนึ่งในร้อยเป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน
       
       ส่วนทางด้านผู้ที่ทำรายได้มากที่สุดเป็นของนักแสดงชาวฮ่องกง เจินจื่อตัน ซึ่งทำรายได้รวมไปทั้งหมด 549 ล้านบาท ตามด้วยฟ่านปิงปิงที่ตามหลังมาติดๆ ส่วนทางด้านเจย์ โจว อยู่ในอันดับ 3 ด้วยรายได้รวม 500 ล้านบาท

"เจย์ โจว" (Jay Chou) นักร้องหนุ่มซุปตาร์ชาวไต้หวันวัย 33 ปี ที่เป็นเจ้าแห่งแมนโดป็อป หรืออาณาจักรเพลงป็อปจีนใน 4 ประเทศอย่าง ไต้หวัน, ฮ่องกง, สิงคโปร์ และ มาเลเซีย ชวนศิลปินเลิกคลั่งกังนัมสไตล์ของเกาหลีและหันมาใส่ใจไชนีสสไตล์ให้มากขึ้น
       
       ไม่เพียงแค่ 11 อัลบั้มที่ผ่านมาของเจย์ โจว จะขึ้นไปติดอยู่ในอันดับท็อปของชาร์ตดังหลายๆชาร์ตเท่านั้น เขายังเป็นศิลปินที่มีการแสดงสดได้อย่างยอดเยี่ยมด้วย โดยเมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา การแสดงเดี่ยวของเขาก็สามารถเรียกคนให้มาชมได้มากถึง 35,000 คน ในงาน ซิงเทล สิงคโปร์ ฟอร์มูลา วัน แกรนด์พิกซ์ ที่ปาดัง แม้ว่าช่วงนี้จะยังเป็นช่วงกระแสเพลงป็อปเกาหลียังคงได้รับความนิยมอยู่ก็ตาม
       
       และในงานประกาศผลรางวัลไป่ตูมิวสิคครั้งที่ 10 ที่จัดขึ้นในปักกิ่ง นักร้องหนุ่มมากความสามารถที่ทั้งร้อง, แสดง, กำกับภาพยนตร์ และแต่งเพลงเองรายนี้ ได้กล่าวถึงความนิยมของเพลงกังนัม สไตล์ เป็นครั้งแรก โดยเจ้าตัวฝากเตือนรุ่นน้องศิลปินในแมนโดป็อปให้รวมกันเป็นหนึ่งเพื่อต่อสู้กับเพลงเกาหลี
       
       "ตอนนี้คลื่นเกาหลีค่อนข้างมาแรงจริงๆ แต่เราอย่าปล่อยให้เค-ป็อปเข้ามาแทนที่พวกเราได้ เพลงจีนเป็นเพลงที่ "เตียว" ( ศัพท์แสลงของไต้หวันที่แปลว่าเจ๋งและไม่ธรรมดา ) เหมือนกัน" นักร้องหนุ่มให้สัมภาษณ์กับนักข่าวที่ด้านหลังเวทีหลังจากคว้ารางวัลทั้ง นักร้องชายยอดเยี่ยมแห่งทศวรรษ และ ผู้นำด้านดนตรีแห่งทศวรรษ
       
       "พวกเราศิลปินทุกคนควรจะรวมตัวกันเป็นหนึ่งและหยุดยั้งกังนัม สไตล์...เราควรจะมีไชนีส สไตล์ ในแบบของพวกเราเอง"

Manager Online

      "เจย์ โจว" (Jay Chou) เตรียมออกผลงานอัลบั้มใหม่ชุดล่าสุด พร้อมแปลงโฉมทั้งผมทอง และโชว์กล้ามท้อง 8 แพ็คที่แฟนๆ ของเขาคงจะรู้สึกแปลกตาไปนิดหน่อย แต่ในเวลาเดียวก็ทำให้หลายๆคนมองกันว่า คราวนี้ซูเปอร์สตาร์แห่งไต้หวันกำลังเลียนแบบอิมเมจของศิลปินหนุ่มจากเกาหลีใต้อยู่รึเปล่า
       
       หลังออกอัลบั้มชุด Exclamation Mark เมื่อปี 2011 เจย์ โจว ก็ดูจะทุ่มเทเวลาไปให้กับงานภาพยนตร์เป็นหลัก จนกระทั่งล่าสุดเขาเตรียมกลับมาออกงานเพลงชุดใหม่ ซึ่งจะถือว่าเป็นอัลบั้มชุดที่ 12 แล้ว โดยศิลปินหนุ่มวัย 33 ปี มาพร้อมกับรูปโฉมใหม่ทั้งผมที่ย้อมเป็นสีทอง และแต่งตัวโชว์หน้าท้องที่ฟิตมาจนเห็นกล้ามท้องเป็นลูกๆ
       
       อย่างไรก็ตามงานนี้ หลายๆคนกลับมองไปว่าซูเปอร์สตาร์แห่งไต้หวัน กำลังเลียนแบบอิมเมจของไอดอลจากเกาหลีใต้อยู่รึเปล่า โดยเฉพาะหนุ่ม อูยอง (Woo Young) แห่ง 2PM ที่ทั้งคู่แทบจะมีสไตล์เป็นแบบเดียวกันเลย อย่างไรก็ตามแฟนหลายๆคนของ เจย์ ยังแสดงความเห็นว่าลุ๊คผมทองโชว์กล้ามท้องแบบนี้ใครๆก็ทำกัน ศิลปินหนุ่มชาวไต้หวัน เคนจิ วู (Kenji Wu) ก็เคยปรากฏตัวด้วยภาพแบบนี้เหมือนกัน
       
       สำหรับอัลบั้มชุดใหม่ Golden Iron Man มีกำหนดวางแผงในวันที่ 12 เดือน 12 ปี 2012 ซึ่ง เจย์ โจว จะไม่ได้เพียงแค่โปรดิว์งานเพลงเท่านั้น แต่เขายังดูแลรายละเอียดทุกด้านของอัลบั้มด้วยตัวเองเหมือนเดิม ทั้งขั้นตอนของการมิกซ์เพลง, กำกับมิวสิควิดีโอด้วยตัวเองทั้งหมด ซึ่งงานชุดนี้จปล่อยเอ็มวีออกมาถึง 12 ตัวเลยทีเดียว
       

       กลายเป็นที่วิจารณ์ขึ้นมาจนได้สำหรับหนังเรื่องล่าสุดของ "เจย์ โจว" (Jay Chou) ที่ชาวไต้หวันหลายคนรู้สึกไม่สบายใจกับการได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล ทั้งๆที่ศิลปินหนุ่มชื่อดังคนนี้มีรายได้มหาศาลอยู่แล้ว
       
       ข่าวจากไต้หวันระบุว่า Rooftop ผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ของ เจย์ โจว นั้นได้รับเงินสนับสนุนถึง 12 ล้านเหรียญไต้หวัน (12 ล้านบาท) จากรัฐบาลไต้หวัน ทั้งๆที่ศิลปินหนุ่มคนดังมีรายได้ในปีนี้ถึง 570 ล้านเหรียญไต้หวัน จากการทำงานทั้งที่ไต้หวัน และจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งหลายคนคิดว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม ที่เขามาแย่งเงินก้อนนี้กับคนทำหนังรายอื่นๆ ที่ต้องการแหล่งเงินทุนจริงๆไป
       
       แหล่งข่าวเปิดเผยว่าหนังของ เจย์ โจว จะใช้เงินทุนสร้างรวมสูงถึง 200 ล้านเหรียญไต้หวัน ซึ่งฝ่ายประชาสัมพันธ์ของหนังเปิดเผยว่า Rooftop ไม่ได้เป็นหนังที่ เจย์ ลงทุนสร้างเอง แต่มาจากผู้ลงทุนหลายราย ซึ่งเมื่อหนังเข้าฉายอย่างเป็นทางการ ก็จะมีการคืนเงินให้กับภาครัฐต่อไป
       
       นอกจากตัวของศิลปินหนุ่มชื่อดังแล้ว หน่วยงานผู้ออกทุนก็โดนวิจารณ์ไปด้วย โดยนาย จูเหวินฉิง แห่งสำนักงานพัฒนาอุตสาหกรรมโสตทัศน์และดนตรีได้อธิบายว่า หลักเกณฑ์การอนุมัติเงินทุนให้กับภาพยนตร์นั้น จะประเมินจากคุณสมบัติที่ว่าหนังเรื่องนั้นๆ ต้องเป็นหนังไต้หวันจริงๆ โดยหากผลงานดังกล่าวมีผู้กำกับ และทีมงานมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นชาวไต้หวัน รวมถึงถ่ายทำในไต้หวันเกิน 1 ใน 3 ของเรื่องทั้งหมด ก็จะถือว่าเข้าหลักเกณฑ์
       

"เจย์ โจว" (Jay Chou) หรือ "โจวเจี๋ยหลุน" นักร้องชื่อดังของไต้หวันตอกกลับปาปารัสซีซะอึ้งไปเลย เมื่อถูกยิงคำถามว่าเมื่อไหร่จะแต่งงาน หลังถูกพบขณะพากันออกมาจากโรงหนังพร้อมแม่และ"ฮันนาห์ ควินลิแวน" (Hannah Quinlivan) แฟนสาว
       
       เมื่อเหล่าปาปารัสซี ยิงคำถามใส่เขาเอวันศุกร์ที่ผ่านมา ว่าเมื่อไหร่จะแจกการ์ดเชิญงานแต่งงาน เจย์ โจว ก็ออกอาการเซ็งทันที พร้อมบอกกับพวกเขาว่า "ผมแต่งแน่เมื่อพวกคุณตาย!"
       
       ซึ่งพฤติกรรมสุดแรงต่อต้านปาปารัสซีของเขากลายเป็นข่าวดังในวันต่อมา แต่ทางเจย์ โจว ก็ไม่คิดจะขอโทษแต่อย่างใด เมื่อถูกสื่อรุมสัมภาษณ์ขณะร่วมงานโปรโมทผลงานของตนเองในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
       
       "มันก็ดีแล้วนะที่ผมไม่ได้ชกเขาเข้าให้น่ะ" เจย์ โจว เผย ก่อนอธิบายว่า ปาปารัสซีได้ถามคำถามที่ก้าวร้าวมากๆกับเขาในคืนวันนั้น ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจ พร้อมเผยเพิ่มเติมว่า "ไต้หวันน่าจะกลายเป็นที่ที่สุขสงบ ศิลปินหลายคนคงจะชอบแน่ๆ ถ้าในไต้หวันไม่มีปาปารัสซี"
       
       พร้อมกันนั้น เจย์ โจว ยังถือโอกาสนี้ เปิดเผยความจริงเกี่ยวกับข่าวคราวที่ออกมาก่อนหน้านี้ ว่าเขาได้ขอแฟนสาวแต่งงานระหว่างพากันไปลอนดอน ประเทศอังกฤษ
       
       "จริงๆแล้วผมไปที่นั่นเพื่อถ่ายทำมิวสิค วิดีโอครับ ผมไปเรื่องงาน แต่ก็ตลกดีนะที่จู่ๆมันกลายมาเป็นข่าวขอแต่งงานไปได้ยังไงเนี่ย"

Manager Online

      "เจย์ โจว" (Jay Chou) และ "โจลิน" (Jolin Tsai) ยังคงเป็นศิลปินอันดับหนึ่งและสองของไต้หวันต่อไป ซึ่งสำหรับปีนี้เป็นฝ่าย "โจลิน" ที่ทำรายได้แซงขึ้นมาเป็นอันดับ 1 บ้าง
       
       นอกจาก โจลิน ไช่อี้หลิน กับ เจย์ โจว จะเคยมีข่าวกุ๊กกิ๊กกันมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน สองศิลปินหนุ่มสาวทั้งสองยังถือว่าเป็นโฉมหน้าของวงการเพลงไต้หวันมาตลอดในรอบหลายปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เป็นเจ้าของตำแหน่งศิลปินอันดับหนึ่งทั้งฝ่ายหญิงและชายของประเทศมาพักใหญ่ๆแล้ว
       
       สำหรับในปีนี้เป็นทีของ โจลิน วัย 32 ปี ที่ครองแชมป์ศิลปินรายได้มากที่สุด โดยเธอสามารถกวาดเงินไปได้ถึง 650 ล้านเหรียญไต้หวัน กับการกลับมาทำงานเต็มตัวอีกครั้งในปีนี้ และมีผลงานอัลบั้มชุด MUSE เป็นงานเพลงแรกในรอบ 2 ปี ที่เพิ่งออกจำหน่ายไปเมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา
       
       สำหรับ เจย์ โจว ที่ในปีนี้เป็นอันดับสอง หลังจากครองแชมป์มาหลายปีซ้อน ทำเงินในช่วงปีนี้ไป 590 ล้านเหรียญไต้หวัน ถือว่าลดลงกว่าหลายๆปีที่ผ่านมา ซึ่งเขาเคยทำรายได้มากกว่านี้ อย่างในปี 2010 ก็สามารถทำเงินได้ถึง 790 ล้านเหรียญไต้หวันมาแล้ว โดยในปี 2012 เจย์ โจว ยังไม่มีผลงานเพลงชุดใหม่ แต่มีงานแสดงคือหนังเรื่อง The Viral Factor เข้าฉายเมื่อต้นปี และจะมีหนังเรื่อง Rooftop ที่เขากำกับ และแสดงนำเอง รอเข้าฉายในอนาคตอันใกล้ต่อไป

Manager Online

       กระแสความขัดแย้งกรณีเกาะเตี้ยวอี๋ว์หรือเซนกากุระหว่างจีนและญี่ปุนยังคงคุกรุ่นอยู่ในทุกภาคส่วน ล่าสุดศิลปินจีน อาทิ เจย์ โจว (Jay Chou), โจว เหวินฟะ (Chow Yun Fat), เฟย์ หว่อง (Wang Fei), หลิน จื้อหลิง (Lin Chi Ling), ฟั่น ปิงปิง (Fan Bing Bing), หลี่ ปิงปิง (Li Bing Bing) รวม 260 ชีวิต ออกแถลงการณ์ในฐานะสมาชิกสมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์จีน สนับสนุนการอ้างกรรมสิทธิเหนือเกาะเตี้ยวอี๋ว์ของรัฐบาลจีนอย่างเต็มที่ พร้อมประณามกรณีรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศการซื้อเกาะจากเอกชน

เอเจนซี - ซูเปอร์สตาร์ไต้หวัน เจย์ โชว์ (Jay Chou / ชื่อจีน โจว เจี๋ยหลุน) ครองแท่นอันดับหนึ่งของกลุ่มคนเด่นคนดังจีนที่ทรงอิทธิพลในสังคมประจำปี 2012 จัดอันดับโดยนิตยสาร ‘ฟอร์บส์ จีน’ (Forbes China) ซึ่งได้เผยแพร่การจัดอันดับฯนี้ในฉบับวันที่ 3 พ.ค.

^{_{เจย์ โชว์ แชมป์อันดับหนึ่งแห่ง “100 อันดับคนเด่นคนดังจีน ประจำปี 2012 โดยฟอร์บส์ ไชน่า” (แฟ้มภาพ เอเจนซี)}}

สำหรับยอดคนเด่นคนดังอันดับสอง ได้แก่ หลิว เต๋อหวา (Andy Lau) และฟ่าน ปิงปิง (Fan Bing Bing)  นอกจากนี้ ผู้ที่น่าสนใจในกลุ่มเซเลบปีนี้ คือ หยัง มี่ (Yang Mi) เธอก้าวกระโดดอย่างรวดเร็วจากอันดับที่ 92 ในปีที่แล้ว มาอยู่อันดับที่ 13

_{^{หลิว เต๋อหวา แม้รายได้ตกลง แต่ยังรักษาระดับแชมป์เซเลปในอันดับสอง}}

       ถึงขั้นต้องเปิดแถลงข่าวกันเลยทีเดียวสำหรับ หนุ่ม "เจย์ โจว" (Jay Chou) ที่ออกโรงปฏิเสธถึงข่าวลือล่าสุดอย่างเป็นเรื่องเป็นราว กับข้อกล่าวหาที่ว่าเขามีนิสัยมือไว ชอบคลำบั้นท้ายผู้ช่วยสาวๆ อยู่เป็นประจำ
       
       มีรายงานข่าวที่อ้างอิงจากคนในวงการโทรทัศน์รายหนึ่ง ซึ่งเปิดเผยพฤติกรรมของศิลปินหนุ่มอันดับ 1 ของประเทศไต้หวัน ว่ามักจะชอบจับก้นบรรดาผู้ช่วยสาวๆ ของเขาอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะระหว่างขึ้นลิฟต์ แม้จะไม่ได้ระบุชื่อออกมาอย่างชัดๆ แต่ก็ใบ้จนหลายคนนึกไปถึง เจย์ โจว ทันที
       
       จนล่าสุดทำให้เจ้าตัวต้องควงผู้ช่วยหุ่นอวบออกมาให้ข่าวกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ว่าเขาไม่ได้มีพฤติกรรมแบบนั้นอย่างแน่นอน
       
       "คุณว่ามันเป็นไปได้มั้ยล่ะ" เจย์ โจว กล่าวกับผู้ช่วยส่วนตัวในการแถลงข่าวครั้งนี้ "เรื่องข่าวจับก้นนี่มันน่าหัวเราะมากครับ ไม่มีทางที่ผมจะทำแบบนั้นหรอก"
       
       "หลังจากดูข่าวแล้ว ผมคิดว่าต้องทำเรื่องนี้ให้ชัดเจน การจะมาจัดแถลงข่าวเกี่ยวกับการจับก้นนี่มันอาจจะทำให้ผมดูแย่อยู่บ้าง แต่ก็จำเป็นต้องเคลียร์ในเรื่องนี้จริงๆ เพราะเมื่อเช้า ตอนตื่นขึ้นมา แม่ผมเป็นคนบอกเห็นข่าวว่าผมชอบจับก้นทีมงานสาวๆ ซึ่งผมรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องตลกนะครับ แต่ขนาดแม่ผมก็ยังอาจจะเข้าใจผิดเลย"
       
       เขายังกล่าวอีกว่า สุดท้ายตนได้ตัดสินใจตั้งโต๊ะแถลงข่าวขึ้นมา เพราะต้องการทำเรื่องนี้ให้ชัดเจน และไม่อยากให้แม่หรือแฟนๆต้องกังวล
       

เกิดการกระทบกระทั่งระหว่างปาปารัสซี กับ “เจย์ โจว์” (Jay Chou) ขึ้นมาจนได้ เมื่อฝ่ายแรกกล่าวหาว่า พวกเขาถูกศิลปินหนุ่มคนดัง และเพื่อนๆ ใช้วาจาส่อเสียด และถึงขั้นลงไม้ลงมือทำร้าย ขณะที่ “เจย์ โจว์” ก็ตอบโต้ว่า เขาเพียงป้องกันตัวเอง พร้อมยืนยันว่า หากกฎหมายไม่สามารถระงับการกระทำอันไร้ขอบเขตของปาปารัสซีได้ ตนก็จะลงมือเอง
       
       “นี่ไม่ใช่ฮอลลีวูด ถ้ากฎหมายหยุดยั้งอะไรพวกเขาไม่ได้ ผมก็จะทำเอง ผมจะเป็นแบทแมนเองครับ” เจย์ โจว์ กล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาอ้างอิงถึง ซูเปอร์ฮีโร่ของสหรัฐฯ อย่างที่เขาชื่นชอบโดยส่วนตัว หลังเกิดปัญหากระทบกระทั่งกับปาปารัสซีที่คอยตามติด เพื่อให้ได้ภาพของหนุ่ม เจย์ กับแฟนสาวคนล่าสุด จนเป็นประเด็นใหญ่ในวงการบันเทิงไต้หวันขึ้นมา
       
       นักร้องหนุ่มคนดังแห่งหนัง The Green Hornet ยังยืนยันว่า เขาไม่ได้ประกาศสงครามกับสื่อ เพราะ “นักข่าว” กับ “ปาปารัสซี” แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และเขายังคงเคารพการทำงานของเหล่าผู้สื่อข่าวเสมอ
       
       โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันพฤหัสที่แล้ว เมื่อปาปารัสซีไต้หวันยังคอยตามติด เจย์ โจว์ เป็นเงาตามตัว ระหว่างเขาไปร่วมรับประทานอาหารกับมารดา และนางแบบสาว ฮันนา คลินนิแวน (Hannah Quinlivan) ที่ว่ากันว่า เป็นหญิงคนรักของเขา กับเพื่อนสนิทอีกจำนวนหนึ่ง
       
       อย่างไรก็ตาม กลับเกิดเหตุกระทบกระทั่งขึ้นมา เมื่อปาปารัสซีได้อ้างว่าพวกตนถูกศิลปินหนุ่มคนดังแห่งไต้หวัน ใช้คำพูดส่อเสียด และยังทำร้ายร่างกาย ระหว่างพยายามจะปัดป้องไม่ให้ เจย์ โจว มาแย่งกล้อง
       

      เป็นที่แน่นอนแล้วว่านักแสดงหนุ่มชาวเกาหลีใต้ "ควอนซังวู" (Kwon Sang Woo) จะทุ่มเทให้กับงานในต่างประเทศเป็นหลัก หลังจากซีรีส์ และภาพยนตร์ภาษาจีนแล้ว เขายังมีกำหนดจะรับงานที่ญี่ปุ่น และรับเล่นหนังฮอลลีวูดด้วย
       
       ในวันที่ 25 มี.ค. นี้ ควอนซังวู จะเริ่มต้นเปิดกล้องถ่ายทำซีรีส์เรื่อง Poong Hwa Sul Wul ที่ว่าด้วยความรักของผู้กำกับหนุ่ม กับนักแสดงสาว ผู้รับบทนำในหนังเพลงของเขา โดยนี้นับเป็นผลงานในวงการบันเทิงจีนเรื่องที่ 3 ของพระเอกคนดังแล้ว หลังจากภาพยนตร์เรื่อง 12 Chinese Zodiac Heads ที่เขาได้มีโอกาสทำงานกับ เฉินหลง (Jackie Chan) เพิ่งจะปิดกล้อง และปีที่แล้วก็ยังมีภาพยนตร์คู่กับ จางป๋อจือ (Cecilia Cheung) ด้วย
       
       ซึ่งหลังจาก Poong Hwa Sul Wul ปิดกล้อง รวมถึงเสร็จสิ้นจากงานในแดนปลาดิบ ควอนซังวู ก็จะมีโอกาสรับงานไกลถึงฮอลลีวูดด้วย ... "เดือนหน้าผมจะเสร็จงานในญี่ปุ่นครับ และจะมีงานที่จีนอีก 1 โปรเจ็ค หลังจากนั้นอย่างที่ผมเคยเปรยเอาไว้น่ะครับ ผมจะไปร่วมแสดงในหนังที่สหรัฐฯ เรื่องหนึ่ง"
       
       ข่าวระบุว่าก่อนหน้านี้ ภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่องที่ว่า ซึ่งจะเป็นงานแนวแอ็กชั่น มีกำหนดจะเริ่มต้นถ่ายทำกันในไตรมาสแรกของปี 2012 แต่เพราะงานในเมืองจีนของ ควอนซังวู ทำให้หนังเรื่องดังกล่าวต้องเลื่อนการถ่ายทำออกไป โดยก่อนหน้านี้ ควอนซังวู เคยเกือบได้รับบทเด่นในหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่อง The Green Hornet มาแล้ว หลังมีรายงานว่าเขาเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะรับบทเป็นตัวละครที่ชื่อว่า "เคโต้" แทน โจวซิงฉือ (Stephen Chow) ที่ถอนตัวออกไป แต่สุดท้ายเป็น เจย์ โจว (Jay Chou) ที่ได้บทดังกล่าวไปในที่สุด

      หลังพาแฟนสาวไปเที่ยวทั้งกรุงปารีส และโตเกียวมาแล้ว ล่าสุด "เจย์ โจว" (Jay Chou) ได้ควง "ฮันนาห์ ควินลิแวน" (Hannah Quinlivan) มาเยือนถึงกรุงเทพฯ พร้อมด้วยเพื่อนฝูง และครอบครัว เป็นการแสดงออกถึงความรักครั้งนี้ที่ดูจริงจัง ไม่น้อย แม้ทั้งสองจะคบหากันมาได้ไม่ถึงปีเท่านั้น
       
       นอกจากตัวของศิลปินหนุ่มซูเปอร์สตาร์แห่งไต้หวัน, มารดา และแฟนสาวแล้ว เจย์ โจว ยังพาครูสอนเต้น กับ เพื่อนศิลปิน วิล หลิว พร้อมด้วยครอบครัวเดินทางมากรุงเทพฯ ในครั้งนี้ด้วย
       
       อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเขายังคงระวังตัวเป็นพิเศษ แม้จะอยู่ต่างประเทศ กับการถูกถ่ายภาพ เพราะเมื่อเดินทางมาถึงสนามบินเมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสที่ผ่านมา เจย์ โจว ยังคงระวังไม่ให้เหล่าตากล้อง ถ่ายภาพคู่ของเขากับแฟนสาวได้เช่นเคย
       
       เมื่อผู้สื่อข่าวถามฝ่ายหญิงว่า คิดถึงเรื่องสร้างครอบครัวกับซูเปอร์สตาร์หนุ่มแห่งวงการบันเทิงไต้หวันบ้างรึเปล่า นางแบบสาววัย 18 ปี ไม่ได้ตอบอะไร และยังพยายามหลบหน้าจากกล้องด้วย ส่วนฝ่ายชายก็ดูเหมือนไม่ค่อยพอใจในตัวนักข่าว และไม่พูดอะไรเช่นเดียวกัน
       
       กับการออกเดทคบหากันมาได้ไม่ถึงปี เจย์ โจว ได้พาแฟนสาวคนนี้ไปเที่ยวมาทั้งที่ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น นอกจากนั้นมีข่าวว่าเขายังแสดงความจริงจังกับแฟนคนนี้ ด้วยการซื้อทั้ง เรือยอชต์, รถยนต์หรู และบ้านให้กับเธอด้วย

Manager Online

       มีกิจการใหม่อีกแล้วสำหรับศิลปินหนุ่มมหาเศรษฐีแห่งไต้หวัน "เจย์ โจว" (Jay Chou) ที่ล่าสุด ได้เปิดร้านขายเต้าหู้แบบเดียวกับครั้งหนึ่งที่เขาเคยรับบทเป็นหนุ่มส่งเต้าหู้มาแล้วในหนัง Initial D โดยข่าวยังรายงานว่า งานนี้ศิลปินหนุ่มคนดังยังได้แม่ของแฟนสาวลูกครึ่งมาช่วยดูแลกิจการให้ด้วย
       
       แฟนๆของ เจย์ โจว คงจะจำบทบาทการแสดงเป็นหนุ่มนักซิ่งรถส่งเต้าหู้ในหนัง Initial D เมื่อหลายปีก่อนของเขาได้เป็นอย่างดี กับเรื่องราวที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนญี่ปุ่น เล่าถึงนักแข่งรถหนุ่มมากพรสวรรค์ ที่ฝึกฝนการดริฟต์รถมาจากการขับรถส่งเต้าหู้ ซึ่งเป็นกิจการของที่บ้าน
       
       ในตอนนั้นหลังการถ่ายทำเสร็จสิ้นลง เจย์ ตัดสินใจควักเงิน 510,000 หยวน ซื้อรถยนตร์ Toyota AE86 ที่ใช้ในเรื่องมาเป็นเจ้าของ จนกระทั่งล่าสุดดาราหนุ่มชาวไต้หวันได้หวนถึงคืนวันเก่าๆกับหนัง Initial D อีกครั้งด้วยการเปิดร้านขายเต้าหู้ที่มีชื่อว่า Fujiwara Tofu Shop ชื่อเดียวกับในภาพยนตร์ ซึ่งเพิ่งจะเปิดร้านที่กรุงไทเปไปเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2012 นี่เอง
       
       ยังมีข่าวเพิ่มเติมจากสื่อประเภทซุบซิบในไต้หวันว่า มารดาของนางแบบสาว ฮันนาห์ ควินลิแวน (Hannah Quinlivan) ยังมาทำงานที่ร้านเต้าหู้แห่งด้วย โดยจะมาเข้างานตั้งแต่เวลา 4 โมงเย็นจนถึง 4 ทุ่มของทุกวัน จนมีข่าวลือกระทั่งว่า เขาเปิดร้านแห่งนี้ให้กับแม่ของแฟนสาวดูแลโดยเฉพาะกันเลยทีเดียว
       

      สาวน้อยลูกครึ่ง "ฮันนาห์ ควินลิแวน" (Hannah Quinlivan) ไม่ได้มาร่วมงานวันเกิดปีที่ 33 ของ "เจย์ โจว" (Jay Chou) ซึ่งจัดกันไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสข่าวว่าศิลปินหนุ่มคนดังแห่งไต้หวัน เริ่มไม่ค่อยพอใจแฟนสาววัยใส ที่ยังขยันให้ข่าวพูดคุยกันผู้สื่อข่าวในประเด็นเรื่องรักอยู่ร่ำไป
       
       ว่ากันว่าเมื่อพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ เจย์ โจว หรือ โจวเจี๋ยหลุน จะพยายามรักษาความเป็นส่วนตัวไว้ให้ได้มากที่สุด สื่อในไต้หวันเผยว่าที่ผ่านมาเขาพยายามเอาใจใส่กับแฟนสาวลูกครึ่ง ฮันนาห์ ควินลิแวน อย่างที่ดีที่สุดทุกประการ ไม่เพียงแต่พาไปเที่ยวต่างประเทศทั้งฝรั่งเศส และญี่ปุ่น แต่ศิลปินหนุ่มคนดังยังซื้อของขวัญสุดแพงจำพวกกระเป๋าให้อยู่เสมอ เมื่ออยากดูหนัง ก็หาเวลาไปเช่าเหมาโรง เพื่อใช้เวลาส่วนตัวชมภาพยนตร์กันอย่างเต็มที่ ยังมีข่าวอีกว่าเขายังหาเบอร์โทรศัพท์ที่เป็นเลขวันเกิดของตัวเอง และฝ่ายหญิง ให้เธอไว้ใช้ด้วย
       
       อย่างไรก็ตาม ระยะหลังตัวของสาว ฮันนาห์ ควินลิแวน กลับรับงานอีเวนต์ไม่หยุดหย่อน ใช้ข่าวเรื่องความสัมพันธ์กับเขาสร้างชื่อเสียง หารายได้ให้กับตัวเองเสมอ แม้จะไม่ได้กล่าวอะไรชัดเจน แต่ก็มักจะตอบคำถามแบบเป็นนัยเช่นบอกว่าพร้อมมีครอบครัวแล้ว หรืออย่างที่เมื่อเร็วๆนี้ ผู้สื่อข่าวถามเธอเรื่องการแต่งงาน สาวน้อยวัย 18 ปี ก็ตอบกลับไปว่า "คุณลองไปถามเขาดูซิคะ"
       

ภาพในอดีตของสาวน้อยลูกครึ่ง "ฮันนาห์ ควินลิแวน" (Hannah Quinlivan) ถูกเผยแพร่ออกมาในอินเตอร์เน็ต พร้อมข้อกล่าวหาว่านางแบบสาวขวัญใจ "เจย์ โจว" (Jay Chou) คนนี้เคยผ่านมีดหมอศัลยกรรม เพิ่มสวยด้วยแพทย์มาก่อน

ในรูปขณะที่มีอายุได้ 5 ปี และ 15 ปี ที่เผยแพร่ออกมาในเว็บไซต์ต่างๆ ทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า ฮันนาห์ ควินลิแวน ดูมีหน้าตาที่เปลี่ยนไปไม่น้อย จากรูปหน้ากลม, จมูกแบน และตาชั้นเดียว เมื่ออดีตแต่ในวัย 18 ปีเธอกลับกลายเป็นสาวสวยคมหน้าเรียว, จมูกโด่ง และมีดาราสองชั้น จนเกิดข้อกล่าวหาว่านางแบบสาวลูกครึ่งไต้หวันออสเตรเลียรายนี้ผ่านการทำศัลยกรรมใบหน้ามาก่อน

นักข่าวไต้หวันยังไม่พลาดที่จะนำประเด็นที่เกิดขึ้น ไปถามกับ เจย์ โจว ที่เพิ่งจะเดินทางกลับมาจากญี่ปุ่น โดยนำภาพในอดีตของสาว ควินลิแวน ไปให้ซูเปอร์สตาร์หนุ่มแห่งไต้หวันดู และถามเขาว่าเคยเห็นรูปวัยเด็กของเธอรึเปล่า ซึ่งหลังจากดูรูปดังกล่าวอยู่ชั่วครู เจย์ ไม่ตอบอะไร แต่เดินหนีจากนักข่าวไป

หลังจากนั้นเขายังต้องเจอกับคำถามที่ว่าจากเหล่าผู้สื่อข่าวไต้หวันอีกหลายครั้ง ซึ่งศิลปินหนุ่มคนดังก็พยายามจะบ่ายเบี่ยงที่จะแสดงความเห็นใดๆอีก ครั้งหนึ่งถึงกับพูดกับเหล่าสื่อว่า "มีตาก็ดูเองซิครับ" กันเลยทีเดียว

ข่าวลือเรื่องการคบหากันระหว่าง เจย์ โจว กับ ฮันนาห์ ควินลิแวน เป็นที่พูดถึงมาตลอดในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา เคยมีการทั่งข่าวลือว่าทั้งคู่จูงมือกันเข้าประตูวิวาห์ไปแล้ว ก่อนจะมีการปฏิเสธในเวลาต่อมา อันที่จริงแล้วที่ผ่านมาทั้งสองยังไม่เคยยอมรับถึงเรื่องการคบหากันเลย

Manager Online

ฮีบี้ เถียน (Hebe Tian) แห่งวง S.H.E. ซึ่งรสนิยมทางเพศยังคงเป็นปริศนาอยู่จนถึงทุกวันนี้ เมื่อเร็วๆนี้ เธอเป็นคนที่รับช่อดอกไม้ในงานแต่งงานของเซลิน่า (Selina Jen) เพื่อนสนิทของเธอ

ในคืนนั้น ฮีบี้กล่าวว่า "ฉันคิดว่า ฉันไม่มีทางที่จะแต่งงาน!"

สองวันต่อมา เธอถูกพบเห็นว่าไปดูหนังกับเพื่อนหญิงคนสนิทของเธอคนหนึ่ง ซึ่งก็คือ Zhong Ruo Han ผู้จัดการของ A-Mei นี่เป็นครั้งที่สองที่ทั้งคู่ถูกพบเห็นว่าออกไปเที่ยวด้วยกัน

ในตอนแรก ทั้งสองคนเดินคู่กันมา Ruo Han เอนไปทางฮีบี้เพื่อแนะนำอาหารบริเวณนั้น เมื่อพวกเขารู้ว่า พวกเขาถูกตาม Ruo Han รีบทำตัวห่างจากฮีบี้ ต่อมา เธอจากไป ก่อนที่จะดูหนัง

เมื่อฮี้บี้ถูกสื่อทัก เธอถูกถามว่า เธอไปที่นั่นดูหนังกับเพื่อนหรือเปล่า ฮีบี้ปิดปากด้วยมือ และส่ายหัว นักข่าวทดสอบว่าเธอมากับ Ruo Han หรือเปล่า แต่ฮีบี้ทำท่าเฉยๆและไม่กล่าวอะไร

จากนั้น ฮี้บี้กล่าวว่า เธอต้องการจะปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ เมื่อนักข่าวถามเธอว่า เธอต้องการจะแต่งงานอย่างเร็วที่สุดหรือเปล่า เนื่องจากเธอเป็นคนที่ได้รับช่อดอกไม้ในงานแต่งงานของเซลิน่า จากนั้นฮีบี้จึงออกไปด้วยรถอย่างรวดเร็ว

ข่าวลือเกี่ยวกับคนรักของฮี้บี้ ซึ่งก็คือ Ruo Han มีอยู่มาพักหนึ่งแล้วจนถึงตอนนี้

ก่อนหน้านี้ ยังมีการคาดการณ์ว่า Ruo Han ซึ่งเคยเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของนักร้องเจย์ โจว์ (Jay Chou) เป็นสาเหตุที่ทำให้เจย์ และฮีบี้เลิกกัน ลือกันว่าเจย์ และฮีบี้เคยคบกัน เจย์ไล่ Ruo Han ออกในเวลาต่อมา และเธอจึงเข้าร่วมกับบริษัทของ A-Mei

Xin

หลังมีข่าวว่าซูเปอร์สตาร์แห่งแดนไต้หวัน "เจย์ โจวเจี๋ยหลุน" (Jay Chou) ได้จูงมือแฟนสาวลูกครึ่งวัย 18 ปีเข้าประตูวิวาห์ไปแล้วนั่น ล่าสุดหนุ่ม "เจย์" ได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวแล้ว

"ผมเพิ่งจะแต่งงานไปครับ" เจย์ โจว กล่าวล้อเล่นกับนักข่าวตามสไตล์ในการพูดคุยกันเมื่อไม่กี่วันก่อน เมื่อเขาได้มีโอกาสให้สัมภาษณ์กับสื่อระหว่างการถ่ายทำโฆษณาชิ้นหนึ่ง หลังประเด็นการเข้าประตูวิวาห์ของเขากลายเป็นข่าวลือเมื่อสัปดาห์ก่อน หลังจากนั้นศิลปินหนุ่มวัย 31 ปี จึงชี้แจงอย่างจริงจังเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนขึ้นว่า "ไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นหรอกครับ"

โดยมีรายงานข่าวว่า เจย์ โจว กับแฟนสาววัย 18 ปี ฮันนาห์ ควินลิแวน (Hannah Quinlivan) ได้จูงมือกันเข้าประตูวิวาห์ระหว่างเดินทางท่องเที่ยวในยุโรป และยังเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย จนกระทั่งล่าสุดเขาจึงได้ยืนยันกับผู้สื่อข่าว ว่าเรื่องนี้ไม่เป็นอย่างจริงแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม เจย์ โจว ยังคงปฏิเสธที่จะกล่าวยืนยันหรือปฏิเสธถึงเรื่องความสัมพันธ์ของตัวเขา กับสาวน้อย ฮันนาห์ ควินลิแวน ว่ากำลังคบหาดูใจกันอยู่หรือไม่

ขณะที่ผู้จัดการส่วนตัวของฝ่ายหญิงกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เขายังไม่ทราบเรื่องการแต่งงานที่มีการพูดถึงในสื่อ แต่ตามนโยบายของบริษัท ไม่ได้มีการระบุไว้ในสัญญาถึงข้อห้ามเรื่องแต่งงานแต่ประการใด

Manager Online

เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมาสื่อประเภทแท็บลอยด์สำนักหนึ่งในฮ่องกงได้รายงานว่า ศิลปินหนุ่มคนดังแห่งไต้หวัน “เจย์ โจวเจี๋ยหลุน” (Jay Chou) ได้จูงมือแฟนสาววัยใส “ฮันนาห์ ควินลิแวน” (Hannah Quinlivan) เข้าประตูวิวาห์เพื่อเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยพิธีแต่งงานจัดขึ้นกันในช่วงที่ทั้งสองเดินทางไปยุโรปเมื่อเร็วๆนี้นั่นเอง

เมื่อเดือนก่อนมีรูปที่ เจย์ โจว กับสาวน้อยลูกครึ่ง ฮันนาห์ ควินลิแวน วัย 18 ปี ควงกันไปเที่ยวยุโรปปรากฏในหน้าสื่อออกมา ซึ่ง เจย์ โจว์ ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธเพียงแซวนักข่าวกลับว่า “พวกคุณถ่ายรูปเราไม่ได้เลยนี่ มีแค่ภาพด้านหลังเท่านั้นเอง ขอโทษด้วยจริงๆ ครั้งหน้าเดี๋ยวผมช่วยเอง ถ้าจะถ่ายให้ติดด้านหน้าด้วย”

อย่างไรก็ตามล่าสุดสื่อได้อ้างว่า การเดินทางไปพักร้อนยังต่างแดนครั้งนั้น ไม่ใช่เป็นเพียงการไปเที่ยวพักผ่อนธรรมดาๆเท่านั้น แต่เป็นการเดินทางที่ทั้งสองได้จัดพิธีแต่งงานขึ้นด้วย

โดยในการขึ้นคอนเสิร์ตที่สิงคโปร์ เจย์ โจว ก็กล่าวเป็นนัยถึงการใช้ชีวิตคู่อีก เมื่อในวันนั้นเขาเปรยออกมาในช่วงท้ายๆของการแสดงว่า “ที่นี่มีผู้หญิงสวยๆเยอะเลย ผมจะจำพวกคุณไว้ในหัวใจ” และ “เกี่ยวกับเรื่องที่ลือกันน่ะครับ, ถ้าผมแต่งงานแล้วจริงๆ คุณยังจะอยากฟังเพลงของผมอยู่อีกรึเปล่า”

ซึ่งคนวงในของแวดวงบันเทิงไต้หวันได้ให้ข้อมูลกับสื่อถึงเรื่องนี้ว่า “ถึงแม้ ฮันนาห์ จะมีอายุน้อยแต่เธอก็มีความคิด มีความประพฤติดี เจย์ เคยบอกว่าเธอเข้าใจเขามากกว่าผู้หญิงที่เขาคบหาด้วยที่ผ่านมาทั้งหมด นอกจากนั้นฮันนาห์ก็ยังผ่านด่าน สามารถทำให้แม่ของเขาพอใจได้ด้วย จริงๆแล้วทั้งคู่ก็ไม่ได้ตั้งใจจะไปยุโรปเพื่อแต่งงานกันหรอก แต่เพราะบรรยากาศโรแมนติก เจย์ กับฮันนาห์ จึงตัดสินใจจูงมือกันเข้าประตูวิวาห์ และยังได้ขออนุญาตจากแม่ของเขาแล้วด้วย แต่ต้องการเก็บเรื่องนี้ไว้ก่อน กำลังหาโอกาสเหมาะที่จะประกาศมันออกไป”

ซูเปอร์สตาร์ไต้หวัน “เจย์ โชว” (Jay Chou) ควักกระเป๋าลงทุนในบริษัทผลิตแอปพลิเคชันมือถือ 31SMS หวังแข่งกับแอปฯ แชตยอดฮิตอย่าง Whatsapp ช่วงชิงตลาดผู้ใช้งานชาวจีนไต้หวัน-ฮ่องกง-แผ่นดินใหญ่กว่า 300 ล้านคน

หลังจากที่ Whatsapp แอปพลิเคชันแชต ยอดฮิตบนโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเป็นที่ตอบรับทั่วโลก โดยมีผู้ใช้กว่า 15 ล้านคน และก้าวมาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของแบล็กเบอรี แมสเซนเจอร์ (BBM) เนื่องจาก Whatsapp เอื้ออำนวยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานข้ามระบบหรือแพลตฟอร์มที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น บีบี ไอโฟน แอนดรอยด์ หรือโนเกีย ล่าสุดดารา-นักร้องระดับซูเปอร์สตาร์ของเกาะไต้หวันอย่าง โจว เจี๋ยวหลุน หรือ เจย์ โชว ก็มองเห็นโอกาสในเส้นทางของนักลงทุนด้านอุตสาหกรรมไอที ด้วยการควักกระเป๋าตัวเองเพื่อลงทุนกับบริษัทผู้ผลิต แอปฯ ในลักษณะดังกล่าวบ้างแล้ว

เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ไชน่าไทมส์ของไต้หวันรายงานข่าวว่า ดารานักร้องชื่อก้องอย่าง เจย์ โชว ได้ควักกระเป๋าลงทุนในบริษัทผู้พัฒนาแอปพลิเคชันที่ชื่อ 31SMS (อ่านว่า ซานอีเอสเอ็มเอส) แอปพลิเคชันในลักษณะเดียวกันกับ Whatsapp ทว่า ผู้พัฒนาเป็นชาวไต้หวัน โดยหวังว่าในอนาคตแอปพลิเคชันนี้จะสามารถทำรายได้ให้กับตัวเองและบริษัทได้ถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน ทว่าไม่มีการเปิดเผยแต่อย่างใดว่าเขาทุ่มเงินลงทุนไปเท่าไหร่

รายงานดังกล่าวระบุด้วยว่า จากสถิติปัจจุบันไต้หวันที่มีประชากรทั้งสิ้นราว 23 ล้านคน ใช้บริการแอปฯ ฟรีประเภทนี้เพื่อส่งข้อความและข้อมูลระหว่างกันมากถึงวันละ 100 ล้านครั้ง ขณะที่เจย์ โชว ก็ตั้งเป้าหมายว่า นอกจากทำตลาดบนเกาะไต้หวันแล้ว เขาจะนำแอปพลิเคชันดังกล่าวบุกตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ โดยตั้งเป้าหมายว่าชาวจีนแผ่นดินใหญ่ 300 ล้านคนจะดาวน์โหลดแอปฯ ดังกล่าวไปใช้ นอกจากนี้ยังวางแผนใช้ 31SMS เป็นพื้นฐานในการเผยแพร่ผลงานชิ้นใหม่ของตัวเอง รวมถึงให้บริการอื่นๆ เช่น ติดตามข้อมูลข่าวสาร, เรียนภาษา, หางาน อีกด้วย

“เจย์ โชว ตั้งเป้าหมายว่าต่อไปมิวสิกวิดีโอ, คอนเสิร์ต, รายงานข่าวเกี่ยวกับผลงานใหม่ของเขา จะใช้แอปฯ 31SMS นี้เป็นแหล่งเผยแพร่ เหมือนกับที่เขาใฝ่ฝันว่าจะมี ‘ช่อง J’ เป็นของตัวเอง” ไชน่าไทมส์ระบุ

แม้จะยังไม่ได้ตอบรับยืนยันในความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับศิลปินหนุ่มคนดังของประเทศ แต่นางแบบสาววัย 18 ปี “ฮันนาห์ ควินลิแวน” (Hannah Quinlivan) ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวในงานอีเวนต์แห่งหนึ่ง ว่าตนเองพร้อมที่จะแต่งงานเป็นเจ้าสาวแล้ว

ในงานอีเวนต์แสดงเครื่องเพชรแห่งหนึ่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ฮันนาห์ ควินลิแวน นางแบบลูกครึ่งวัย 18 ปี ได้โอกาสพูดถึงการเดินทางไปพักผ่อนที่ฝรั่งเศสของเธอเองกับ เจย์ โจว (Jay Chou) หรือ โจวเจี๋ยหลุน ศิลปินหนุ่มคนดังแห่งไต้หวัน เมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมาว่า “ส่วนใหญ่เราจะคุยกันด้วยภาษาจีนกลางค่ะ และตอนทริปที่ฝรั่งเศส ฉันก็นอนคนเดียวนะคะ”

ฮันนาห์ ที่เรียกความสัมพันธ์ของเธอกับศิลปินหนุ่มคนดังว่า “เป็นเพื่อนสนิทกัน” ยังแสดงความเห็นว่าการจะบอกว่าใครเป็นแฟนกันนั้น ก็คงต้องให้ถูกพบเห็นไปไหนมาไหนแบบจับมือถือแขนกันก่อน อย่างไรก็ตามนางแบบวัย 18 ปี ยังปฏิเสธที่จะยืนยันถึงสถานภาพความสัมพันธ์ของเธอกับ เจย์ โจว ในตอนนี้ แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องการแต่งงาน เธอสามารถตอบได้ทันทีว่า “ฉันพร้อมแล้วนะคะ”

ก่อนหน้านี้ Sina.com เคยอ้างคำพูดจากเพื่อนสนิทคนหนึ่งของนางแบบสาวลูกครึ่งออสเตรเลีย-ไต้หวันที่ว่า “เธอจริงจังกับ เจย์, เธออยากจะแต่งงานกับเขา และเขาก็อยากจะมีลูกกับเธอด้วย”

ด้านต้นสังกัดของฝ่ายหญิงก็กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ฮันนาห์ อายุ 18 ปีแล้ว ถ้าหากเธออยากจะแต่งงานจริงๆ เราก็จะไม่ห้าม เพราะมันเป็นเรื่องที่ดีออก”

Manager Online

ข่าวความรักครั้งล่าสุดของซูเปอร์สตาร์แห่งไต้หวัน “เจย์ โจว” (Jay Chou) เริ่มดูเป็นจริงเป็นจังขึ้นมาเรื่อยๆ ล่าสุดมีรายงานว่า เขาอาจจะตัดสินใจทุ่มเงิน 6 ล้านเหรียญไต้หวันเพื่อซื้ออิสรภาพให้กับสาวลูกครึ่ง “ฮันนาห์ ควินนิแวน” (Hannah Quinlivan) เพื่อนหญิงคนสนิทจากต้นสังกัดปัจจุบันของเธอ หลังนางแบบวัย 18 ปี เริ่มรู้สึกว่าการทำงานกับที่นี่ไม่ค่อยจะเวิร์คอีกต่อไปแล้ว

ว่ากันว่าสาวน้อยวัย 18 ปี ฮันนาห์ ควินนิแวน ที่โลดแล่นในวงการบันเทิงมาได้ 4 ปี เริ่มรู้สึกว่างานของเธอ ที่รับผ่านการผลักดันของต้นสังกัดในปัจจุบัน ดูจะไม่สามารถส่งเสริมให้ตนเองโด่งดังไปไกลในวงการได้มากกว่านี้อีกแล้ว จนพยายามขอยกเลิกสัญญากับบริษัท แต่แล้วนั่นยิ่งทำต้นสังกัดไม่พอใจ และป้อนงานให้กับเธอน้อยลงไปอีก

จนมีข่าวว่า เจย์ โจว หรือ โจวเจี๋ยหลุน ซูเปอร์สตาร์แห่งเกาะไต้หวันได้เข้ามาพยายามแก้ไขปัญหาให้กับเพื่อนหญิงคนสนิทของเขา ถึงขั้นที่ว่าเขาอาจจะลงทุนจ่ายเงินก้อนโต 6 ล้านเหรียญไต้หวัน (ประมาณ 6.1 ล้านบาท) เพื่อเป็นค่าฉีกสัญญาของนางแบบสาววัย 18 ปี กับต้นสังกัดของเธอ

อย่างไรก็ตามล่าสุดต้นสังกัดของฝ่ายนางแบบสาวได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวที่เกิดขึ้นแล้ว ขณะที่ต้นสังกัดของ เจย์ โจว ยอมรับว่าเขาเองเป็นห่วงเธอในเรื่องนี้ ในฐานะเพื่อนสนิทคนหนึ่งอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ได้มีความพยายาม ที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวแทรกแซงเกี่ยวกับเรื่องงานของ ฮันนาห์ ควินนิแวน หรือพยายามจะจ่ายเงินเพื่อฉีกสัญญาของเธอกับต้นสังกัดแต่อย่างใด

ข่าวการคบหากันของ “เจย์ โจว” กับหญิงคนใหม่ “ฮันนาห์ ควินนิแวน” เริ่มเป็นที่พูดถึงมาหลายเดือนแล้ว แต่ฝ่ายของศิลปินหนุ่มชื่อดัง และต้นสังกัดของเขาต่างบอกปัดถึงเรื่องนี้มาโดยตลอด

จนกระทั่งล่าสุดมีภาพที่พอจะยืนยันถึงสถานะความสัมพันธ์ของทั้งสองได้ในระดับหนึ่ง ถูกเผยแพร่ออกมาแล้ว เป็นภาพที่ถ่ายเอาไว้เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา ระหว่างที่ เจย์ โจว กับสาวคนสนิทเดินทางไปฉลองวันเกิดอายุครบ 18 ปี ของฝ่ายหญิงซึ่งตรงกันวันที่ 12 ส.ค. ที่ประเทศฝรั่งเศส

แม้เวลาจะผ่านไปนานเพียงใดแต่ "หลิวเต๋อหัว" นักแสดงชื่อดังแดนมังกรก็ยังคงเป็นซูเปอร์ยอดนิยมมีแฟนๆให้ความสนับสนุนไม่เคยขาด ล่าสุดฟอบส์จัดอันดับให้เป็นคนดังที่ทำรายได้มากสุดในจีนเลยทีเดียว

หลังจากที่เปิดคอนเสิร์ตกว่า 20 รอบและแสดงภาพยนตร์ไปถึง 5 เรื่องในปีที่แล้ว หลิวเต๋อหัว ได้รับการจัดอันดับจากฟอบส์ให้ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งคนดังของจีนประจำปี 2011 โดยประกาศออกมาเมื่อวันที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมา

นักแสดงหนุ่มใหญ่ชื่อดังวัย 50 ปี ยังคงมีพลังอย่างเหลือเฟือและยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องหลังจากที่เขาโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมานานกว่า 30 ปีซึ่งจากผลงานเมื่อปีที่แล้วที่เขาแสดงภาพยนตร์ไปถึง 5 เรื่องภายในปีเดียวเช่น Shaolin และ Detective Dee and the Mystery of the Phantom Flame นิยสารฟอบส์จึงได้จัดอันดับให้เขาขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง โดยดูจากรายได้ที่เขาสร้างขึ้นภายในหนึ่งปี ความนิยม และอิทธิพลในวงการบันเทิง

โดยเมื่อเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา หลิวเต๋อหัวจัดคอนเสิร์ตไปถึง 20 รอบที่ฮ่องกงโคลิเซียม เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 30 ปีในวงการบันเทิงของเขาเอง นับเป็นที่มาของรายได้และชื่อเสียงมหาศาลที่เขาได้รับในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา

โดยอันดับ 2 นั้นตกเป็นของ เจย์ โจว หรือ โจวเจี๋ยหลุน ที่สร้างกระแสและรายได้หลักจากผลงานอัลบั้มล่าสุดอย่าง The Era รวมทั้งการเล่นภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง The Green Hornet ด้วย

ทางด้านดีวาเพลงป็อปชื่อดังของจีนอย่าง เฟย์ หว่อง ก็กลับมาปล่อยผลงานเพลงอีกครั้งในปี 2010 หลังจากที่ห่างหายไปพักนานหลายปี ก็กลับมาอยู่ที่อันดับ 3

ส่วนทางด้านแจ็คกี ชาน หรือ เฉินหลง ที่ขึ้นอันดับ1 เมื่อปีที่แล้ว มาปีนี้เขาตกลงมาอยู่ที่อันดับ 4

10 อันดับคนดังจีนที่ทำรายได้และดังที่สุดประจำปี 2011
1. หลิวเต๋อหัว (Andy Lau)
2. เจย์ โจว (Jay Chou)
3. เฟย์ หว่อง (Faye Wong / Wang Fei)
4. เฉินหลง (Jackie Chan)
5. เหยาหมิง (Yao Ming)
6. เจินจื่อตัน (Donnie Yen)
7. จางจื้ออี้ (Zhang Ziyi)
8. เจ็ท ลี (Jet Li)
9. ฟ่านปิงปิง (Fan Bing Bing)
10. จ้าวเปิ่นซาน (Zhao Benshan)

ข้อกล่าวหาเรื่องการหนีทหารของ "เจย์ โจว" (Jay Chou) ถูกหยิบขึ้นมาพูดถึงอีกครั้ง เมื่อมีข้อสงสังว่าเหตุใด เขาถึงสามารถเล่นฉากแอ็กชั่นในหนัง The Green Hornet ได้มากมาย ทั้งๆ ที่เคยแจ้งว่ามีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง จนได้รับการยกเว้นไม่ต้องเกณฑ์ทหารมาแล้ว

นักร้องหนุ่มวัย 32 ปี เคยได้รับการยกเว้นไม่ต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหาร ตามกฏหมายของไต้หวันที่ชายวัย 18 ปี ทุกคนต้องทำหน้าที่รับใช้ชาติ เพราะปัญหาด้านสุขภาพเกี่ยวกับอาการทางกระดูกสันหลัง ที่ทำให้เขาต้องทนทุกข์จากอาการเจ็บหลัง ที่ต้นสังกัดยืนยันว่าเรื่องการเจ็บหลังของ เจย์ โจว ยังเป็นปัญหาของเขามาจนถึงทุกวันนี้เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามสื่อมวลชนต่างสงสัยในข้อเท็จจริงของเรื่องนี้มาโดยตลอด ซึ่งล่าสุดสื่อหลายสำนักในไต้หวันได้ตั้งคำถามว่าเหตุใด เจย์ โจว ที่มีอาการเจ็บหลังจนไม่สามารถเข้ารับการเกณฑ์ทหารได้ จึงสามารถเล่นฉากแอ็กชั่นอันโลดโผนโจนทะยานในหนัง The Green Hornet ได้อย่างสบายๆ

โดย เจย์ โจว ได้อธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่าฉากบู๊ของเขาใน The Green Hornet นั้น ส่วนใหญ่เป็นการใช้เทคนิคพิเศษ และสตั้นแมนทั้งนั้น

ข้อกล่าวหาการหนีทหาร เป็นสิ่งที่คอยมากวนใจซุปเปอร์สตาร์แห่งไต้หวันรายนี้มาโดยตลอด ซึ่งเมื่อประมาณ 5 ปีก่อน เจย์ ก็เคยถูกวิจารณ์ว่า ทำไมถึงโชว์ลีลาการแสดงแบบสุดเหวี่ยงบนเวทีคอนเสิร์ตได้ ทั้งที่เคยอ้างว่ามีปัญหาสุขภาพ จนทำให้ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหารมาก่อน ซึ่งในตอนนั้นเขาต้องพิสูจน์ถึงเรื่องนี้ ด้วยเอกสารทางแพทย์ ยืนยันว่าตนเองมีปัญหาด้านสุขภาพจริง ไม่ได้มีเจตนาจะหนีทหารแต่อย่างใด

Manager Online

แม้จะต้องพลาดบทเลิฟซีนกับ "คาเมรอน ดิแอซ" (Cameron Diaz) ในภาพยนตร์เปิดตัวฮอลลีวูดเรื่อง The Green Hornet แต่งานนี้ "เจย์ โจว" (Jay Chou) ไม่สนใจและไม่คิดเสียดายใดๆทั้งสิ้น

เจย์ โจว หรือ โจวเจี๋ยหลุน ซูเปอร์สตาร์ชื่อดังของเอเชียได้กลายเป็นนักแสดงเอเชียหน้าใหม่ที่โลดแล่นในวงการฮอลลีวูดหลังได้ร่วมงานกับ เซธ โรเกน ในภาพยนตร์เรื่อง The Green Hornet

แต่งานนี้ เจย์ ที่รับทเป็น คาโต้ คนขับรถสวมหน้ากากเพื่อนคู่หูของซูเปอร์ฮีโร่ ( เดิมบทคาโต้แสดงโดยหนุ่มนักบู๊ระดับตำนานอย่าง บรูซ ลี (Bruce Lee) ในยุค 1960 ที่เคยออกฉายทางทีวี) ก็ถูกสาวคาเมรอน ดิแอซ ปฏิเสธที่จะเล่นบทจูบเมื่อถึงฉากดังกล่าว

"เราอยากให้เจย์จูบคาเมรอน แต่ผมคิดว่าเธอคงไม่อยากทำ เพราะเธอรู้สึกว่ามันจะทำให้เรื่องราวซับซ้อนขึ้นไปอีก เธอเลยไม่ตกลง เธอเป็นคนพูดเองเลยว่าไม่" กอนดรี ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้กล่าว

ทางด้านเจย์ โจว เองก็ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้มากนัก แต่เขาสนใจเกี่ยวกับการบุกตลาดในอเมริกามากกว่า โดยเขาไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องที่เขามีภาพยนตร์เรื่องอื่นมาเสนอบทใหม่ๆให้หรือไม่ แต่เขาหวังที่จะโด่งดังที่อเมริกาในฐานะนักร้อง ไม่ใช่ในฐานะนักแสดง

"ภาษาอังกฤษคือสิ่งที่ผมต้องพยายามอย่างหนัก เพราะนั่นไม่ใช่ภาษาแม่ของผม แต่ผมก็ไม่ได้ต้องการร้องเพลงเป็นภาษาอังกฤษเพื่อจะได้บุกตลาดอเมริกา" เจย์ โจว ให้สัมภาษณ์กับสื่อเป็นภาษาจีน

เจ้าตัวยังระบุเพิ่มเติมด้วยว่า เขาหวังว่าเพลงในตอนจบที่เป็นเพลงภาษาจีนกลางของเขาจะทำให้ชาวอเมริกาให้ความสนใจในเพลงป็อปจีนมากขึ้น

"ผมซาบซึ้งที่กอนดรีเลือกใช้เพลงของผม ผมหวังว่าคนจะจดจำผมได้ ไม่ใช่ในฐานะนักแสดงบู๊ แต่เป็นฐานะนักร้องจากเอเชีย" เจย์ โจว กล่าว

นักร้องหนุ่มวัย 32 ปี ที่มียอดขายอัลบั้มรวมแล้วกว่า 32 ล้านแผ่น ได้กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า "ผมอยู่ในแวดวงเพลงป็อปจีนมานานกว่า 10 ปี แต่ในอเมริกาผมรู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่ไม่มีใครรู้จักผมเลย"

"ผมหวังว่าคนในอเมริกาจะเริ่มค้นหาชื่อของผมใน Google หลังจากที่ได้ชมภาพยนตร์และได้เรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับเพลงป็อปจีน และได้ชมมิวสิควิดีโอของผม"