ข่าวจีน

"แวนเนส วู" (Vanness Wu) ยอมรับเลิกแฟนสาวชาวสิงคโปร์แล้ว

Submitted by canjamm on 29 กันยายน, 2010 - 15:48

"แวนเนส วู" (Vanness Wu) สมาชิกบอยแบนด์สุดดังแห่งไต้หวัน F4 ออกมายอมรับว่า ขณะนี้เขาได้เลิกรากับแฟนสาวชาวสิงคโปร์แล้ว สื่อระบุว่าความแตกต่างเรื่องการใช้ชีวิตของทั้งสองเป็นสาเหตุของการยุติความสัมพันธ์ครั้งนี้ ขณะที่เจ้าตัวไม่ขอให้รายละเอียดอ้างเป็นเรื่องส่วนตัว

"ที่จริงเราได้แยกทางกันแล้วครับ แต่ยังติดต่อกันอยู่บ้าง ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน" แวนเนส วู กล่าวผ่านผู้จัดการส่วนตัว เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงข่าวความคืบหน้าเรื่องความสัมพันธ์กับแฟนสาวชาวสิงคโปร์

ความรักของนักร้องนักแสดงหนุ่มวัย 32 ปี และสาวนอกวงการวัย 28 กลายเป็นข่าว เมื่อมีภาพถ่ายจากฝีมือช่างภาพอิสระ ที่เผยให้เห็นถึงช่วงเวลาที่ทั้งสองควงกันไปช็อปปิ้งเปิดตัวในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง จนฝ่ายชายได้ออกมายอมรับถึงความสัมพันธ์ นักร้องหนุ่มคนดังยังกล่าวว่าเขาคบหากับแฟนสาวคนนี้อย่างจริงจัง และเริ่มคิดถึงการแต่งงานไว้แล้วด้วย

แต่หลังจากนั้นเริ่มมีข่าวว่าความรักของทั้งคู่ได้เดินทางมาถึงทางตันแล้ว ซึ่งผู้สื่อข่าวในไต้หวันเชื่อว่า การใช้ชีวิตที่แตกต่างกันของทั้งสอง เป็นสาเหตุที่ทำให้ความรักเริ่มมีระยะห่าง เพราะขณะที่ แวนเนส วู ชอบชีวิตส่วนตัวแบบสงบเรียบง่าย แต่แฟนสาวของเขาเป็นคนสนุกสนานและชอบชีวิตที่มีสีสัน จนความห่างเหินกลายเป็นการยุติความสัมพันธ์ในที่สุด

อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายของผู้จัดการส่วนตัวได้ปฏิเสธที่จะให้ความเห็น หรือรายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุการแยกทางกัน พร้อมกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "มันไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่จะต้องมาพูดถึงเรื่องแบบนี้ โดยเฉพาะเมื่อ แวนเนส รู้สึกว่าเธอไม่ใช่คนในวงการบันเทิง จึงหวังว่าสื่อมวลชนจะเคารพในชีวิตส่วนตัวของเธอบ้าง"

Manager Online

แฟนคลับหนุ่มบุกกอด "หลิวเต๋อหัว" (Andy Lau) บนเวทีโปรโมตหนัง

Submitted by canjamm on 28 กันยายน, 2010 - 17:24

เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นกับ "หลิวเต๋อหัว" (Andy Lau) ในการร่วมกิจกรรมประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่อง "Detective Dee and the Mystery of the Phantom Flame" ที่ปักกิ่งเมื่อสัปดาห์ก่อน เมื่อแฟนคลับหนุ่มรายหนึ่ง บุกขึ้นเวทีไปถึงตัวของพระเอกชาวฮ่องกง และสวมกอดชนิดไม่ยอมปล่อย จนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องเข้ามาแยก

ในกิจกรรมการโปรโมตภาพยนตร์เรื่อง Detective Dee and the Mystery of the Phantom Flame (ตี๋ เหริน เจี๋ย ดาบพายุทะลุคนไฟ) ที่ มหาวิทยาลัยปักกิ่ง กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ที่ทั้งผู้กำกับ ฉีเคอะ และนักแสดงในเรื่องต่างมาพบปะแฟน ๆ โดยพร้อมเพรียงกัน อาทิ เหลียงเจียฮุย (Tony Ka-Fai Leung), หลิวเจียหลิง (Carina Lau) ที่มาในชุดคอวีลึกกับเครื่องประดับเพชรมูลค่า 300,000 หยวน, นางเอกสาวชาวจีน แผ่นดินใหญ่ หลี่ปิงปิง (Li Bing Bing) ก็ดูเซ็กซี่ในสุดสีดำบ่าตั้ง อย่างก็ตามดาวเด่นในงานวันนั้นจะเป็นใครไม่ได้นอกจาก พระเอกหนุ่มชาวฮ่องกง หลิวเต๋อหัว

บรรดาแฟนคลับของพระเอกวัย 49 ปี ในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ต่างเดินทางมาอย่างมากมาย ในวันนั้นทั้งสาว ๆ และหนุ่ม ๆ ซึ่งสื่อจากประเทศจีนได้ระบุว่า เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า หลิวเต๋อหัว ไม่เพียงมีแฟนคลับสาว ๆ จำนวนมากเท่านั้น แต่เขายังเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชายด้วย ไม่ว่าจะเป็นชายแท้หรือเทียมก็ตาม

ด้วยแฟนคลับที่เดินทางมาจำนวนมาก ทำให้เกิดเรื่องในการโปรโมตคราวนี้ขึ้นมาจนได้ เมื่อหนุ่มคนหนึ่งพยายามเข้ามาถึงตัวของพระเอกชื่อดังชาวฮ่องกง แต่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกันตัวเอาไว้บริเวณด้านล่างของเวที หลังเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว หลิวเต๋อหัว ไม่ลังเลที่จะส่งสัญญานไปถึงเจ้าหน้า เพื่ออนุญาตให้หนุ่มคนนี้ขึ้นมาหาเขาบนเวทีได้

พ่อแม่จีนทุ่มเงิน ดันลูกเข้าวงการบันเทิง

Submitted by canjamm on 27 กันยายน, 2010 - 11:09

ในวงการบันเทิงจีน เหล่าดารานักแสดงเด็กเริ่มได้รับความนิยม และเป็นขวัญใจของคนทั้งประเทศ ซึ่งหมายถึงรายได้ก้อนโตของบรรดาคนดังตัวน้อยเหล่านี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่พ่อและแม่หลาย ๆ คน พยายามทั้งผลักทั้งดันลูกของตนเองให้เข้าสู่วงการบันเทิง แม้จะต้องทุ่มเงินจำนวนมหาศาล แต่พวกเขามองว่ามันคือการลงทุนที่คุ้มค่า

หลังมีรายงานว่า ลูคัส เซียะ (Lucas Tse / 谢振轩) ลูกชายคนโตวัย 3 ขวบของ จางป๋อจือ (Cecilia Cheung / 张柏芝) และเซียะถิงฟง (Nicholas Tse) ได้รับข้อเสนอในการแสดงหนังเรื่องใหม่ของ โจวซิงฉือ (Stephen Chow) เป็นเงินสูงถึง 10 ล้านเหรียญฮ่องกง (ประมาณ 39 ล้านบาท) จนกลายเป็นที่ฮือฮา และสะกิดไปถึงบรรดาพ่อแม่คนอื่น ๆ ในจีน ว่าลูกชายลูกสาวตัวน้อยน่ารักของตนเอง ก็น่าจะมีโอกาสเช่นนั้นบ้าง

ในระยะหลังที่วงการบันเทิงจีนแผ่นดินใหญ่เติบโตอย่างรวดเร็วในทุก ๆ ปี จำนวนเม็ดในวงการก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามไปด้วย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้ปกครองหลายคนเริ่มพยายามผลักดัน และหาวิธีที่จะทำให้บุตรหลานของตัวเอง ได้เข้าไปโลนแล่นในวงการบันเทิง แม้จะต้องใช้เงินก่อนโตเป็นเครื่องแลกเปลี่ยนก็ตาม

โปรดิวเซอร์ชาวไต้หวัน เฉินจูหวง (Chen Chu-huang / 陳朱煌) เปิดเผยว่าพ่อแม่หลาย ๆ คนในจีนยินยอมจ่ายเงินใต้โต๊ะมากกว่า 100,000 หยวน (456,000 บาท) ขึ้นไป เพื่อให้ลูกของตนเองได้ปรากฏหน้าในจอโทรทัศน์ หรือภาพยนตร์ "ถ้ายอมจ่ายเงินสัก 200,000 หยวน (913,000 บาท) ก็การันตีได้เลยว่าลูกของคุณจะได้รับบทนำแน่ ๆ" เขากล่าว

นอกจากเงินแล้ว เส้นสายก็เป็นอีกหนึ่งเส้นทาง ที่ช่วยให้ดาราเด็กได้งานในวงการง่ายขึ้น หลินเหมียวเค่อ (Lin Miaoke / 林妙可) เด็กสาวผู้โด่งดังจากการแสดงในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกเมื่อปี 2008 (ที่ต่อมาเรื่องลิปซิงค์ของเธอ ในการแสดงวันนั้นกลายเป็นที่พูดถึงกันอย่างมาก) เป็นอีกคนที่โด่งดัง และเข้าวงการมาได้ ก็เพราะมีพ่อเป็นช่างภาพ ที่อยู่ในวงการสื่อสารมวลชนอยู่แล้ว

ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขันกีฬาใหญ่ระดับโลก หลินเหมียวเค่อ ก็ได้งานในวงการบันเทิงอย่างต่อเนื่อง ทั้งโฆษณา และโชว์ตัวมากมาย ตั้งแต่เธอมีอายุเพียง 9 ขวบเท่านั้น

เฉินเจิน (Chen Zhen) ฮีโร่กังฟู กับบทพิสูจน์ของซูเปอร์สตาร์

Submitted by canjamm on 25 กันยายน, 2010 - 16:55

ประวัติศาสตร์การถูกรุกรานของจีน นับเป็นขุมแห่งเรื่องราวมหาศาล ที่มักได้รับการหยิบยกมาบอกเล่าคุณธรรม ความรักชาติ และปกป้องศักดิ์ศรีให้ชนรุ่นหลังได้รับรู้เสมอๆ โดยเรื่องเหล่านั้นก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่ญี่ปุ่นและชาติตะวันตกจะเป็นตัวละครตรงข้าม เพราะประวัติศาสตร์ไม่อาจลบล้างสร้างใหม่ แม้ปัจจุบัน และอนาคตจะดำเนินไปในวิถีที่ต่างจากอดีตแล้วก็ตาม

ในประวัติศาสตร์เหล่านั้น ต่างดำเนินเรื่องด้วยบุคคลที่มีเลือดเนื้ออยู่จริงมากมาย ในรอบร้อยปีที่ผ่านมาก็มีอาทิ หวงเฟยฟง ฮั่วหยวนเจี่ย เฉินเจิน (อิงมาจากชีวิตของหลิว เจินเซิง ลูกศิษย์ของฮั่วหยวนเจีย) และ ยิปมัน ที่ล้วนถูกนำมาถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์และละครหลากหลายเวอร์ชั่น

ล่าสุด เฉินเจิน (Chen Zhen) ก็กลายเป็นตัวละครที่พิสูจน์ ความเป็นซูเปอร์สตาร์กังฟูไปเสียแล้ว หลังจากบรู๊ซลี ราชานักบู๊ และฮีโร่ของวัฒนธรรมจีนสวมบทไอ้หนุ่มซินตึ๊งในเรื่อง Fist of Fury (ไอ้หนุ่มซินตึ๊งล้างแค้น) ปี 1972 และต่อมา เจ็ต ลี (Jet Li) ก็ทาบรอย ใน FIST OF LEGEND (ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง หัวใจผงาดฟ้า, 1994) หรือแม้กระทั่ง เฉินหลง (Jackie Chan) ซึ่งไม่ค่อยรับบทหรือติดภาพลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ ก็ยังเคยเล่นเป็นลูกศิษย์ของเฉินเจิน ใน New Fist of Fury เมื่อปี 1976 อันเป็นการตอกย้ำความสำคัญของบทเฉินเจิน ว่า ต้องมีแต่ยอดดาราบู๊เท่านั้นที่จะได้รับเกียรติสวมบทนี้

เจิน จื่อตัน (甄子丹) หรือ ดอนนี่ เยน (Donnie Yen) นักแสดง, ผู้กำกับ และผู้ออกแบบคิวบู๊ ใช้เวลาบ่มและเปล่งรัศมีออกมาเรื่อยๆ นับแต่ บทบาทของ "ฟ้าเวิ้ง" ใน Hero "หวง จี้อิง" ใน Iron Monkey และถึงเวลาที่ความดังหยุดไม่อยู่ใน "ยิปมัน" Ip Man และ Ip Man 2

ดอนนี่เยน เคยรับบท เฉินเจิน ใน Fist of Fury (ซีรีส์) มาแล้ว แต่สำหรับฉบับจอใหญ่นี้ จะเป็นบทพิสูจน์แท้จริงของเขา ว่าสมราคานักบู๊ค่าตัวแพงที่สุดในเวลานี้หรือไม่ นอกจากนั้น Legend of the Fist: The Return of Chen Zhen ยังถือเป็นทางข้ามผ่านของ แอนดรูว์ เลา ผู้กำกับการแสดงที่โด่งดัง สร้างปรากฏการณ์ ไตรภาคภาพยนตร์รางวัลม้าทองคำ The Infernal Affairs (2 คน 2 คม) ซึ่งกำลังต้องการจะก้าวพ้นเงาแห่งความสำเร็จของอดีตที่ตนเคยทำไว้

การเมืองทำพิษ "SMAP" ยกเลิกคอนเสิร์ตในจีนแล้ว

Submitted by canjamm on 22 กันยายน, 2010 - 17:45

คอนเสิร์ตสองรอบที่เซี่ยงไฮ้ในเดือนหน้าของ "SMAP" มีอันต้องยกเลิกไปในที่สุด หลังผู้จัดงาน และต้นสังกัดของ 5 หนุ่มหวั่นแกรงว่าปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของจีน และญี่ปุ่น ที่คุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง จากปัญหาเรื่องการจับกุมเรือประมงสัญชาติจีน ได้ก่อให้เกิดกระแสต่อต้านญี่ปุ่นขึ้นมามากมายในหลายเมืองใหญ่ของจีน

คอนเสิร์ตของ 5 หนุ่ม SMAP ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 - 10 ต.ค. และจะมีผู้เข้าชมมากกว่า 80,000 คน ในเซี่ยงไฮ้สเตเดียม ต้องถูกยกเลิกไปในที่สุด โดยตัวแทนในจีนได้หยุดจำหน่ายตั๋วคอนเสิร์ตไปตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว ตามรายงานของสื่อในประเทศ

จนกระทั่งเมื่อวันอังคารที่ 21 ก.ย. Johnny & Associates ต้นสังกัดของกลุ่มบอยแบนด์จากแดนอาทิตย์อุทัย ได้ออกมายืนยันเรื่องการยกเลิกคอนเสิร์ตอย่างเป็นทางการ และประกาศว่า ผู้ซื้อตั๋วไปแล้วจะได้รับเงินคืนทั้งหมด "เราได้ตัดสินใจยกเลิกคอนเสิร์ต 'We are SMAP!' ในเซี่ยงไฮ้ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 9 และ 10 ต.ค. นี้ไปก่อน หลังจากเกิดสถานการณ์ต่าง ๆ ขึ้น ซึ่งต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ชมเป็นอันดับแรก"

การยกเลิกคอนเสิร์ตครั้งนี้ เกิดขึ้นจากสาเหตุความตึงเครียดระหว่างมหาอำนาจแห่งเอเชียทั้ง 2 ซึ่งกระทบกระทั่งกันมาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา เมื่อเกิดกรณีปะทะกันระหว่างเรือประมงสัญชาติจีนกับเรือตรวจการของญี่ปุ่น ในบริเวณใกล้กับหมู่เกาะพิพาทในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งมีผลทำให้กัปตันเรือชาวจีนก็ถูกจับกุมเอาไว้เป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์แล้ว

หลังเกิดข้อพิพาทขึ้น เริ่มมีการประท้วงต่อต้านญี่ปุ่นขึ้นในหลายเมืองใหญ่ของจีน รวมถึง กรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ และเมืองเสิ่นหยาง เมืองหลวงของมณฑลเหลียวหนิง

สำหรับ SMAP บอยแบนด์สัญชาติญี่ปุ่นก่อตั้งเมื่อ 20 ปี ก่อนและยังคงความโด่งดังทั้งในญี่ปุ่น และหลายประเทศของเอเชียจนถึงปัจจุบัน ซึ่งคอนเสิร์ตในจีนจะเป็นการแสดงคอนเสิร์ตใหญ่แบบเต็มรูปแบบในต่างประเทศครั้งแรกของพวกเขา

"หลิวเจียหลิง" (Carina Lau) เปิดใจเรื่องรักสามเส้า

Submitted by canjamm on 22 กันยายน, 2010 - 13:56

“หลิวเจียหลิง” (Carina Lau) ได้แสดงความคิดเห็นถึงข่าวลือเรื่องรักสามเส้า ระหว่างเธอ, “เหลียงเฉาเหว่ย” (Tony Leung) และ “จางม่านอวี้” (Maggie Cheung) เป็นครั้งแรก และยืนยันว่าเป็นเรื่องลือที่ไม่มีมูลความจริง นักแสดงขวัญใจชาวฮ่องกงยังกล่าวว่า ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยคิดจะออกมาแก้ข่าวในเรื่องนี้แต่อย่างใด เพราะเข้าใจธรรมชาติของสื่อบันเทิง และเหล่าแฟน ๆ กับความนิยมชมชอบในการติดตามข่าวทำนองนี้ดี

“ฉันรู้ค่ะ ว่าถึงเรื่องนี้จะเป็นเพียงการเข้าใจผิด แต่มันก็มีสีสันน่าสนใจดี เป็นเรื่องยอดเยี่ยมสำหรับสื่อและแฟน ๆ ในการให้ความสนใจ และติดตาม” หลิวเจียหลิง ออกมาพูดถึงเรื่องรักสามเส้าระหว่างเธอ เหลียงเฉาเหว่ย ผู้เป็นสามี และจางม่านอวี้ นักแสดงชื่อดังชาวฮ่องกง

ในการให้สัมภาษณ์ระหว่างโปรโมตภาพยนตร์เรื่อง Detective Dee ที่กรุงปักกิ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ หลิวเจียหลิง ได้เปิดปากพูดถึงเรื่องนี้เป็นครั้งแรก หลังจากเรื่องรักสามเส้าของเธอ เป็นประเด็นในข่าวบันเทิงฮ่องกงมานานหลายปี นักแสดงวัย 44 ปี ยังกล่าวว่าที่ผ่านมาเธอไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้ เพราะเข้าใจในธรรมชาติของวงการบันเทิงดี “ทุกคนตามเรื่องนี้มาหลายปีแล้ว สำหรับฉันมันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะออกมาแก้ตัว ฉันเข้าใจธรรมชาติของสื่อ และแฟน ๆ ดีค่ะ”

หลิวเจียหลิง พูดถึงจางม่านอวี้แต่เพียงสั้น ๆ ว่าเป็นคนดี และเป็นผู้หญิงที่สวยคนหนึ่ง เธอยังกล่าวติดตลกว่า ข่าวลือทั้งหมดน่าจะเอามาเขียนบทภาพยนตร์ หรือสร้างเป็นหนังได้เลย นอกจากนั้นเธอเสริมว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรถ้าจะมีผู้หญิงมาสนใจสามีของตนเอง “สาวทุกคนน่าจะอิจฉาฉันนะคะ ที่มีหนุ่มเจ้าเสน่ห์อย่างเขาอยู่เคียงข้าง ซึ่งถ้าฉันเป็นผู้ชายก็คงจะรู้สึกอิจฉา โทนี่ (เหลียเฉาเหว่ย) เหมือนกันค่ะ”

เรื่องความบาดหมางระหว่าง จางม่านอวี้ และ หลิวเจียหลิง เป็นที่พูดถึงมานานในข่าวบันเทิงฮ่องกง ร่วมถึงล่าสุด ระหว่างเทศกาลหนังนานาชาติเมืองเวนิส ซึ่งทั้งสองต้องเดินทางเพื่อประชาสัมพันธ์ผลงานใหม่และเกือบได้ประจันหน้ากัน แต่สุดท้าย จางม่านอวี้ เดินทางออกจากงานไปเสียก่อน จนสื่อมวลชนเอาไปรายงานอีกว่า สองสาวต้องการหลบหน้ากัน

สาวหน้าเหมือน "ฟั่นปิงปิง" (Fan Bing Bing) ขายเต้าหู้หาเงินทำศัลยกรรม เพื่อฝันวงการบันเทิง

Submitted by canjamm on 21 กันยายน, 2010 - 12:55

กลายเป็นที่สนใจของชาวจีนขึ้นโดยทันที เมื่อมีการเผยภาพของนักศึกษาสาวคนหนึ่ง ที่มีใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงกับ "ฟั่นปิงปิง" (Fan Bing Bing) ดาราสาวชื่อดังระดับประเทศ แตกต่างที่นักศึกษาชาวเหอหนาน ประกอบอาชีพขายเต้าหู้ในตลาด เป็นงานเสริมที่เจ้าตัวยอมรับว่า เป็นการทำทุนสำหรับค่าผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอก เพื่อฝันสู่วงการบันเทิง เหมือนกับ “ฟั่นปิงปิง” ตัวจริง

หญิงสาวนักศึกษานิรนามผู้หนึ่งในเขตกวนเฉิง เจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน กลายเป็นคนดังที่รู้จักกันไปทั่วประเทศ หลังภาพของเธอถูกเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต นอกจากหน้าตาสะสวยที่หลาย ๆ คนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคล้ายคลึงกับ ฟั่นปิงปิง นางเอกชื่อดังวัย 29 ปีแล้ว การประกอบอาชีพขายเต้าหู้้เพื่อหาเงินทำศัลยกรรมของสาวคนนี้ ยังเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนต่างให้ความสนใจ

ข่าวจากจีนระบุว่าเธอมีอายุประมาณ 22 ปี มีส่วนสูง 175 เซนติเมตร มีเพียงหน้าอกแบน ๆ ที่เจ้าตัวรู้สึกไม่พอใจ และต้องการแก้ไข ซึ่งดูเหมือนว่ากิจการขายเต้าหู้ของเธอจะไปได้ดีพอสมควร เป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากความสวยสะดุดตาของแม่ค้าเอง และรสชาติของเต้าหู้้ เธอยังเขียนป้ายสำหรับติดเอาไว้หน้ารถจักรยานสามล้อ เพื่อแสดงความมุ่งมั่นของตนเองว่า "นักเรียนหญิงขายเต้าหู้้ สำหรับการศัลยกรรมพลาสติก เพื่อชีวิตที่งดงามกว่าเดิม"

ในการให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ฟั่นปิงปิงฉบับแม่ค้าเต้าหู้้ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปิดเผยชื่อจริงของตนเอง แต่เล่าว่าเธอคิดเรื่องการทำศัลยกรรมความงามมาตั้งแต่ 5 ปีก่อนแล้ว และยืนยันว่าจะทำงานให้หนักต่อไป เพื่อการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ทั้งในส่วนของดวงตาให้สวยสะดุดตากว่าเดิม และเพื่อหน้าอกที่ใหญ่ขึ้น รวมถึงความหวังสูงสุดกับการก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงตามรอย ฟั่นปิงปิง ตัวจริงให้ได้

ปัจจุบันวงการบันเทิงกลายเป็นความฝันของเด็กหนุ่มสาวชาวจีนจำนวนมาก ซึ่งการศัลยกรรมพลาสติกก็คือ เส้นทางลัดในสายตาของคนรุ่นใหม่ ที่คิดว่ามันจะสามารถช่วยให้พวกเขาและเธอเดินทางไปถึงฝั่งฝันได้เร็วขึ้น

Manager Online

"โจวเหวินฟะ" (Chow Yun Fat) ใจบุญ หลังตาย รายได้ทั้งหมดยกให้การกุศล

Submitted by canjamm on 17 กันยายน, 2010 - 15:16

ประสบความสำเร็จในฐานะนักแสดงชื่อดัง มีรายได้มหาศาล มาคราวนี้"โจวเหวินฟะ" (Chow Yun Fat) ค้นพบสัจธรรมของชีวิต บอกเงินทองที่หามาได้ ขอยกให้การกุศล หากตนเองสิ้นลมจากโลกนี้ไปแล้ว

จากการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว เรื่องหนึ่งที่ทำให้นักข่าวหลายๆคนถึงกับอึ้งไปเลยก็คือการที่เขาระบุว่า เขาขอบริจาคทรัพย์สินกว่า 99% คืนกลับให้สังคมในวันที่เขาได้สิ้นลมไปแล้ว

"ผมไม่อยากเอาอะไรติดตัวไปด้วยในเวลาที่ผมตาย" นักแสดงชื่อดังเผย

ความตั้งใจครั้งนี้เกิดขึ้น เมื่อเขาได้ร่วมทริปถ่ายภาพเมื่อปีที่แล้วในมองโกเลีย นักแสดงชื่อดังได้แรงบันดาลใจนี้มาจากประสบการณ์ที่เขาพบเจอ และนับตั้งแต่นั้นเจ้าตัวได้ตระหนักว่า ทุกๆสิ่งในชีวิตไม่มีอะไรเที่ยงแท้ เป็นเพียงแค่สิ่งของนอกกายเท่านั้น

"3 วันที่ผมทิ้งภรรยาเพื่อไปร่วมทริปนี้ ผมได้เรียนรู้ทักษะการถ่ายภาพมากมายจากพวกเขา ( เหล่าช่างภาพผู้ร่วมทริป ) และมันเป็นการเปิดโลก มันทำให้ผมตื่น"

การอยู่ในวงการมากว่า 37 ปี โจวเหวินฟะ ประสบความสำเร็จอย่างมากในฐานะนักแสดงและมีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งเขาใช้ชีวิตอยู่กับชื่อเสียงและทรัพย์สินมากมายที่เขาหามาได้จากการทำอาชีพนี้

อย่างไรก็ตาม นักแสดงหนุ่มใหญ่วัย 55 ปี และ ภรรยาของเขา ก็ไม่คิดที่จะหยุดความร่ำรวยนี้ และเลือกที่จะปฏิบัติตามแบบผู้ใจบุญแถวหน้าของอเมริกาอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ และ บิล เกทส์

"เงินทองพวกนี้ไม่ใช่ของผม แต่เป็นรายได้ที่ผมได้มาจากการทำงาน ซึ่งนั่นไม่ได้หมายความว่าผมอยากเป็นเจ้าของมันตลอดไป!" โจวเหวินฟะผู้ใจบุญกล่าว

Manager Online

เพื่อนแฉ "จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) เคยบินซ่อมหน้าอกที่เกาหลี

Submitted by canjamm on 16 กันยายน, 2010 - 19:11

สื่อฮ่องกงออกมาแฉถึงเรื่องลับ ๆ ของ "จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) ว่าเธอเป็นดาราสาวอีกคน ที่ตัดสินใจพึ่งหมอเพิ่มความเซ็กซี่ กับการทำศัลยกรรมหน้าอกเมื่อประมาณ 4 ปีก่อน ซึ่งก็ไม่ใช่เพียงการทำแค่ครั้งเดียว แต่นางเอกหน้าหวานต้องนอนให้หมอผ่าหน้าอกถึง 2 ครั้ง หลังจากเจ้าตัวไม่พอใจ ที่ผลของครั้งแรก ออกมาไม่เป็นธรรมชาติอย่างที่ต้องการ จนต้องพึ่งหมอจากเกาหลีใต้ช่วยเหลือแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้

สื่อบันเทิง Sudden Daily ของฮ่องกงอ้างถึงเหตุการณ์เมื่อสองปีก่อน เมื่อภาพหวิวขณะประกอบกิจกรรมทางเพศของ จางป๋อจือ และดารานักร้องหนุ่ม เฉินกว้านซี (Edison Chen) ถูกมือดีเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต และหนึ่งในประเด็นที่ชาวเน็ตจำนวนมากต่างสงสัยกันก็คือ เหตุใดสาวร่างผอมบางอย่าง จางป๋อจือ ถึงมีหน้าอกขนาดคัพซี อย่างที่เห็นในภาพได้

ซึ่งสื่อเจ้าดังกล่าว ได้เฉลยถึงปริศนาข้อนี้ โดยอ้างข้อมูลจากเพื่อนสนิทคนหนึ่งของเธอ ว่าเมื่อประมาณ 4 ปีก่อน ระหว่างที่ จางป๋อจือ พักความสัมพันธ์กับ เซียะถิงฟง (Nicholas Tse) แฟนหนุ่ม (ผู้เป็นสามีในปัจจุบัน) เอาไว้ เธอได้ตัดสินใจให้หมอช่วยเสริมอึ๋มให้ เพื่อเพิ่มความมั่นใจหลังชีวิตรักต้องมีปัญหา และต้องเข้าไปพัวพันกันเรื่องรักสามเส้าระหว่างตัวเธอเอง, เซียะถิงฟง และ หวังเฟย (Wang Fei) แฟนเก่าของฝ่ายชาย

นอกจากนั้นเพื่อนตัวดียังแฉต่อไปว่า แม้จะมีขนาดหน้าอกหน้าใจที่ใหญ่ขึ้นแล้ว แต่จางป๋อจือกลับไม่พอใจกับรูปร่างของตัวเอง ขณะที่เพื่อน ๆ หลายคนก็ล้อว่า หน้าอกใหม่ของนางเอกสาวดูไม่เป็นธรรมชาติเอาเสียเลย เป็นเหตุให้เธอต้องกลับไปซ่อมหน้าอกของตัวเองอีกครั้ง และเพื่อป้องการความผิดพลาดซ้ำสอง จางป๋อจือ ได้เลือกที่จะเดินทางไปยังเกาหลีใต้ เพื่อขอความช่วยเหลือจากหมอศัลยกรรมฝีมือระดับสุดยอดของที่นั่น ที่ช่วยแก้ไขจนรูปร่างของเธอดูธรรมชาติอย่างที่ใจต้องการในที่สุด

Manager Online

"โจวซิงฉือ" จ่อฟ้อง "จางอี่ฉี" ละเมิดสัญญา ส่อแววดังแล้วชิ่ง

Submitted by canjamm on 15 กันยายน, 2010 - 18:20

"โจวซิงฉือ" (Stephen Chow) นักแสดง/ผู้กำกับชื่อดัง ออกมาแสดงความคิดเห็น และเปรยถึงการดำเนินการทางกฎหมาย กับกรณีที่ "จางอี่ฉี" (Kitty Zhang Yuqi) นางเอกสาวที่อยู่ในสังกัดของเขา รับงานโดยไม่ได้แจ้งให้บริษัททราบ ขณะที่สื่อมวลชนต่างแสดงความเห็นว่า เรื่องดังกล่าวอาจมีสิทธิ์บานปลาย และนำมาซึ่งการยกเลิกสัญญาแบบเดียวกับที่เคยเกิดกับกรณีของ "หวงเซิ่งอี้" (Eva Huang Sheng Yi) เด็กปั้นอีกคนของดาวตลกคนดังมาแล้ว

กลายเป็นปัญหาขึ้นมาจนได้เมื่อนางเอกสาว จางอี่ฉี ได้ตัดสินใจรับงานหนังเรื่อง White Deer Plain โดยไม่ได้แจ้งให้กับต้นสังกัดอย่างบริษัท Star Overseas ทราบ ซึ่งสื่อฮ่องกงรายงานว่าการตัดสินใจของนางเอกวัย 24 ปี ได้สร้างความไม่พอใจเป็นอย่างมากให้กับ โจวซิงฉือ เจ้าของบริษัท Star Overseas ผู้มีบทบาทผลักดันให้นางเอกคนสวยเป็นที่รู้จัก

จางอี่ฉี เซ็นสัญญากับ Star Overseas และโด่งดังเป็นที่รู้จักทันทีหลังได้รับบทนำในหนังเรื่อง CJ7 ของดาวตลกคนดังเมื่อ 3 ปีก่อน หลังจากนั้น โจวซิงฉือ ยังมอบบทเด่นในหนังที่เขาสร้างเองอย่าง Shaolin Girl และ Jump ให้กับนักแสดงสาวดาวรุ่ง จนเธอกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งเอเชีย แต่สุดท้ายกลับมีการละเมิดสัญญากันเกิดขึ้น

"ผมหัวเสียกับเรื่องนี้รึเปล่าเหรอ? ผมคิดว่าการมาพูดถึงเรื่องแบบนั้น มันก็ไม่ได้มีความหมายอะไรแล้ว ทุกอย่างจะถูกดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป" โจวซิงฉือ ออกมาพูดถึงเรื่องนี้กับสื่อฮ่องกงเป็นครั้งแรก เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ทีผ่านมา

จางอี่ฉี เป็นนักแสดงสาวคนที่ 2 ซึ่ง โจวซิงฉือ เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัด และตั้งใจปั้นให้โด่งดังเป็นนางเอกแถวหน้าในวงการภาพยนตร์ แบบเดียวกับที่เขาเคยปั้นดาราสาวหน้าใส หวงเซิ่งอี้ ให้โด่งดังมาแล้ว แต่สุดท้ายกลับเกิดปัญหาคล้าย ๆ กันขึ้นกับนักแสดงหญิงทั้งสอง กับความขัดแย้งเรื่องสัญญากับบริษัท

หวงเซิ่งอี้ เป็นเพียงดาราสาวหน้าใหม่คนหนึ่ง ก่อนที่จะถูกเลือกให้รับบทนำหญิงในหนัง Kung Fu Hustle เมื่อ 6 ปีก่อน ซึ่งทำให้เธอกลายเป็นหญิงในฝันของหนุ่ม ๆ หลายคนโดยทันที อย่างไรก็ตามหลังความโด่งดังชั่วข้ามคืนจากหนังเพียงเรื่องแรก นักแสดงสาวสวยกับต้องพบปัญหากับบริษัทต้นสังกัด ซึ่งเป็นบริษัทของ โจวซิงฉือ นั่นเอง

"จ้าวเวย" (Zhao Wei) เซ็ง ร้านอาหารเปิดไม่ถึงปี .. เจ๊ง!!

Submitted by canjamm on 14 กันยายน, 2010 - 18:11

ดูเหมือนว่าความพยายามในการริเริ่มธุรกิจนอกวงการบันเทิง ของนักแสดงสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ "จ้าวเวย" (Zhao Wei) จะต้องพบกับความล้มเหลวอย่างรวดเร็ว เมื่อร้านอาหารของเธอต้องปิดตัวลงแบบนกกระจอกไม่ทันกินน้ำ หลังจากเริ่มกิจการมาได้ไม่ถึง 1 ปีเท่านั้น

เมื่อเดือน พ.ย. 2009 นักแสดงสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ จ้าวเวย ได้เริ่มต้นกิจการร้านอาหารของเธอ ที่ร่วมหุ้นเปิดกับเพื่อน ๆหลังจากการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ เป็นข่าวตามหนังสือพิมพ์บันเทิงเกือบทุกฉบับ ผสมความโด่งดังของตัวเจ้าของร้าน ผู้เคยสวมบทบาทเป็น ‘องค์หญิงกำมะลอ’ ขวัญใจชาวจีน ทำให้ในช่วงแรกของการดำเนินการ ร้านอาหารดูจะไปได้สวย มีแขกเข้ามาแน่นแทบทุกวัน เพื่อนสนิทในวงการบันเทิงของเธออย่าง หวังเฟย ก็มารับประทานอาหารที่นี่บ่อย ๆ

แต่หลังจากเวลาผ่านไปไม่นานนัก ทุกอย่างกลับเปลี่ยนแปลงชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อเกิดปัญหาต่าง ๆ ขึ้น ยอดขายตกลง และสถานการณ์ของร้านก็มีแต่จะย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ จนเงินสำหรับการดำเนินการเริ่มร่อยหรอ และนำมาซึ่งการเลิกกิจการในที่สุด

เฉินหรง ผู้จัดการส่วนตัวของจ้าวเวย ได้ออกมาตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวในเรื่องนี้ ยอมรับว่าร้านอาหารของเธอได้ปิดตัวไปแล้วจริง แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่เรื่องโตอะไรเพราะ นางเอกสาววัย 34 ปี มีหุ้นอยู่ในร้านเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น "เธอเริ่มต้นร้านนี้กับกลุ่มเพื่อนสนิท ซึ่งอันที่จริงแล้วมีหุ้นอยู่ในสัดส่วนที่เล็กน้อยเท่านั้น" เฉินกล่าว

นอกจากนั้นยังมีคำอธิบายถึงสาเหตุการปิดตัวของร้าน ว่ามาจากสาเหตุที่เจ้าของร่วมส่วนใหญ่ ไม่พอใจกับตัวอาคารที่พวกเขาเช่าสำหรับการเปิดร้าน "ตัวตึกที่ร้านตั้งอยู่ค่อนข้างขาดแคลนสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ โดยเฉพาะในส่วนของครัว ซึ่งมีผลต่อการประกอบกิจการร้านอาหารโดยตรง ผู้ถือหุ้นทุกคนจึงประชุมกัน และลงมติว่า ควรจะมีการหาร้านใหม่ถ้าต้องการดำเนินธุรกิจต่อไป"

แม้ด้านธุรกิจจะไปได้ไม่ค่อยสวยนัก แต่การกลับสู่งานด้านบันเทิงของนางเอกคุณแม่ลูกหนึ่ง ยังคงก้าวไปข้างหน้า มีรายงานว่า จ้าวเวย ซึ่งขณะนี้เป็นนักศึกษาปริญญาเอกของสถาบันภาพยนตร์ปักกิ่ง ได้เริ่มต้นมองหาลู่ทางสำหรับงานเบื้องหลัง กับการนั่งเก้าอี้ผู้กำกับเป็นครั้งแรกเอาไว้แล้ว

"กู่เทียนเล่อ" (Louis Koo) ลุยงานต่อ หลังผ่าตัดเข่าจากอุบัติเหตุในกองถ่ายหนัง "โปเยฯ"

Submitted by canjamm on 14 กันยายน, 2010 - 18:08

"กู่เทียนเล่อ" (Louis Koo) นักแสดงชื่อดังชาวฮ่องกงต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวเข่า เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บซึ่งเกิดจากอุบัติเหตุในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "A Chinese Ghost Story" หรือ "โปเยโปโลเย" เขายังยืนยันว่าจะกลับมาถ่ายทำหนังต่ออย่างแน่นอน แม้หมอจะสั่งเอาไว้ว่าต้องใช้เวลาพักฟื้นกว่า 1 ปี เพื่อให้อาการต่าง ๆ หายสนิทก่อนก็ตามที

"อาการบาดเจ็บของผมต้องเข้ารับการผ่าตัด หมอบอกว่าต้องใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี กองถ่ายหนังต้องมีการเปลี่ยนแปลงกำหนดการณ์กันบ้าง และผมคงไม่สามารถถ่ายทำฉากแอ็กชั่นไปช่วงใหญ่ ๆ เลยครับ" กู่เลียนเล่อ ออกมาพูดถึงการรักษาอาการบาดเจ็บที่เข่า ซึ่งเกิดระหว่างการถ่ายทำหนังเรื่อง A Chinese Ghost Story หรือ โปเยโปโลเย ฉบับสร้างใหม่โดยผู้กำกับ วิลสัน ยิป ซึ่งแม้หมอจะแนะนำว่าเขาควรพักงานเอาไว้ก่อน แต่ กู่เทียนเล่อ วัย 39 ปี ยืนกรานว่าตนเองจะยังคงทำงานต่อไป

ซึ่งนอกจาก A Chinese Ghost Story เขายังมีกำหนดต้องถ่ายทำหนังอีกหลายเรื่อง รวมถึงหนังตลกเรื่องหนึ่งสำหรับฉายในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีหน้า, ภาคต่อของหนังอาชญากรรม Overheard และหนังแอ็กชั่นย้อนยุค Young Warriors of the Yang Clan ซึ่งมีกำหนดเข้าฉายในเดือน มี.ค. ปีหน้า ... "แม่ผมยังไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งหมดเลย ผมบอกท่านแต่เพียงว่าต้องเข้ารับการผ่าตัดเท่านั้น" กู่เลียนเล่อ กล่าว

ในช่วงที่วงการหนังซบเซาอย่างหนัก กู่เทียนเล่อ ยังเป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีผลงานภาพยนตร์มาให้เห็นอย่างต่อเนื่อง เฉพาะในปี 2009 เพียงปีเดียว เขารับงานแสดงในหนังฟอร์มใหญ่อยู่หลายเรื่อง อาทิ All's Well, Ends Well 2010, Poker King, Overheard, On His Majesty Secret Service จนมาถึง Triple Tap

ประมาณการณ์กันว่า เฉพาะปี 2009 พระเอกหนุ่มผู้โด่งดังจากบทเอี้ยก้วย ในหนังชุดมังกรหยกเมื่อหลายปีก่อน มีรายรับจากงานภาพยนตร์เพียงอย่างเดียวสูงถึง 40 ล้านเหรียญฮ่องกง (ประมาณ 158 ล้านบาท) เลยทีเดียว แต่ในเวลาเดียวกันรายจ่ายของนักแสดงหนุ่มคนดังก็สูงอยู่ไม่ใช่เล่น มีรายงานว่าเมื่อปีก่อนเขาใช้เงินถึง 100 ล้านเหรียญฮ่องกง (ประมาณ 395 ล้านบาท) เพื่อซื้อบ้านสุดหรูหลังใหม่ ที่พึ่งตกแต่งเสร็จและได้ย้ายเข้าไปอยู่เมื่อในเร็ว ๆ นี้

เผยเหตุลาวงการ "หลินเจียซิน" (Karena Lam) แต่งงาน, ตั้งท้องลูกคนแรกแล้ว

Submitted by canjamm on 13 กันยายน, 2010 - 19:01

กลายเป็นข่าวฮือฮาเมื่อประมาณ 1 เดือนก่อน กับการตัดสินใจขอถอนตัวจากวงการบันเทิงของ "หลินเจียซิน" (Karena Lam) ด้วยเหตุผลการอิ่มตัวในงาน และต้องการกลับไปศึกษาต่อ แต่ล่าสุดมีการเผยเหตุผลที่แท้จริง สำหรับการหันหลังให้กับงานแสดงของนางเอกคนดัง ว่ามาจากการตั้งครรภ์ และเข้าพิธีสมรสกับแฟนหนุ่มอย่างเงียบ ๆ ไปก่อนหน้านี้

มีรายงานข่าวจากฮ่องกงว่า หลินเจียซิน นางเอกสาวหน้าหวานแห่งวงการภาพยนตร์ฮ่องกง ที่ขณะนี้ใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศแคนาดาภายหลังมีข่าวว่าเธอได้ขอถอนตัวจากวงการบันเทิง กำลังอยู่ระหว่างตั้งครรภ์ลูกคนแรก นอกจากนั้นข่าวยังยืนยันว่าเธอได้เข้าพิธีสมรสกับ สตีฟ หยวน (Steve Yuen) แฟนหนุ่มผู้กำกับโฆษณาชาวจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย

โดยก่อนหน้านี้สื่อฮ่องกงยังรายงานว่า ความรักของหลินเจียซินเกิดขึ้นในลักษณะของการเป็น 'มือที่สาม' เนื่องด้วยแฟนหนุ่มซึ่งเป็นพ่อของลูก ยังไม่ได้หย่าขาดจากภรรยาคนแรกของเขานั่นเอง จนเกิดปัญหาการทะเลาะเบาะแว้งขึ้นมากมาย โดยเฉพาะการตามราวีของฝ่ายเมียหลวง ซึ่งข่าวดังกล่าวกลายเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ สตีฟ หยวน ต้องออกมาให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงเรื่องนี้ด้วยตัวเอง

"ผมอยากจะทำให้ทุกอย่างชัดเจนครับ ความจริงมีข่าวหลายชิ้นที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนที่เกี่ยวข้องกับอดีตภรรยาของผม เรื่องจริงก็คือผมได้หย่าขาดกับเธอไปนานพอสมควรแล้ว ซึ่งอดีตภรรยาของผมเธอเป็นคนที่สุภาพเรียบร้อยมาก และไม่เคยมีพฤติกรรมอย่างที่สื่อกล่าวหากัน นี่คือสิ่งที่ผมต้องการบอก เพราะรายงานข่าวพวกนั้นมันไม่ยุติธรรมกับเธออย่างยิ่ง และคาเรน่า (หลินเจียซิน) ไม่ใช่มือที่สามอย่างแน่นอน เราสองคนได้แต่งงานกันอย่างถูกต้อง ทุกอย่างเกิดขึ้นตามขั้นตอนปกติธรรมดา คาเรน่า ยังเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ผมคบหาด้วย ภายหลังการหย่าร้าง" สตีฟ หยวน กล่าวกับผู้สื่อข่าวชาวฮ่องกง

"แอนเจล่าเบบี้" (Angela Baby) พึ่งหมอ พิสูจน์สวยแท้ไร้ศัลยกรรม

Submitted by canjamm on 13 กันยายน, 2010 - 18:58

นางแบบสาวชาวฮ่องกง "แอนเจล่าเบบี้" (Angela Baby) ออกมาเปิดเผยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ระหว่างร่วมงานอีเวนต์แห่งหนึ่ง ว่าเธอได้ตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากแพทย์ศัลยกรรม เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนพิสูจน์ความจริง ว่าใบหน้าอันสวยงามในปัจจุบันเป็นของธรรมชาติแท้ ไม่ได้ผ่านการทำศัลยกรรมมาอย่างที่หลายคน ๆ คิดแต่อย่างใด นางแบบคนดังยังพร้อมใช้ผลพิสูจน์ดังกล่าว เพื่อการฟ้องร้องสื่อ ที่กล่าวหาเธอในเรื่องนี้ต่อไป

"เมื่อประมาณเดือนก่อน ฉันได้ไปพบกับศัลยแพทย์ความงามมาค่ะ ซึ่งสามารถพิสูจน์ในข้อเท็จจริงเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน หมอได้ตรวจสอบใบหน้าของฉันประมาณครึ่งชั่วโมง เพื่อหาว่ามีอะไรเสริมแต่งขึ้นมา หรือผิดปกติจากธรรมชาติของโครงหน้ารึเปล่า" แอนเจล่าเบบี้ นางแบบสุดฮ็อตชาวฮ่องกงออกมากล่าวถึงความพยายามล่าสุดของเธอ ต่อการตอบโต้ข้อกล่าวหาการทำศัลยกรรมเปลี่ยนแปลงใบหน้า ที่หลายคนยังคงกังขา

"ฉันไม่อยากจะพูดอะไรเร็วเกินไปนะคะ เพราะไม่ได้อยากจะเป็นข่าวขึ้นมาอีก" นางแบบสาวที่มีชื่อจริงว่า หยางอิง (Yang Wing) กล่าวพร้อมอธิบายว่าเธอต้องการให้ความจริงในเรื่องนี้ปรากฏเสียที เพื่อปกป้องชื่อเสียงของตัวเอง ซึ่งมัวหมองอย่างหนักกับข่าวลือดังกล่าว "ฉันพยายามหาหลักฐานมาหักล้างเรื่องนี้ เพราะรู้สึกว่ามันกลายเป็นประเด็นที่พูดกันมากเกินไปแล้ว"

แอนเจล่าเบบี้ ยังกล่าวว่าผลพิสูจน์ผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการครั้งนี้ จะใช้สำหรับการฟ้องร้องต่อนิตยสารบันเทิง ซึ่งนำเสนอข่าวเรื่องนี้ ซึ่งเป็นการทำลายชื่อเสียงของเธอโดยตรง

ข่าวลือเรื่องการทำศัลยกรรมของ แอนเจล่าเบบี้ ถูกพูดถึงกันอย่างต่อเนื่อง นับแต่เธอเริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักขึ้นมา บางคนกระทั่งกล่าวหาว่านางแบบคนสวยแทบจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน หลังผ่านการทำศัลยกรรมในหลายส่วนของใบหน้า อาทิ การผ่าตัดดึงหน้า, ศัลยกรรมกระดูกบริเวณฟัน, ทำตาสองชั้น, ตัดโหนกแก้มแก้ปัญหาหน้ากาง, ศัลยกรรมคาง เป็นต้น

ในเวลาเดียวกันสื่อต่าง ๆ ยังพยายามนำรูปในวัยต่าง ๆ ของเธอมาเปรียบเทียบว่า แตกต่างจากรูปโฉมปัจจุบันของเธอแบบเป็นคนละคน ขณะที่เจ้าตัวอ้างเหตุเรื่องมุมภาพ, วัยที่แตกต่าง และการดัดฟัน ว่าเป็นเหตุผลที่รูปเมื่อสมัยวัยรุ่นของเธอ ถึงแตกต่างกับภาพในปัจจุบันแบบหน้ามือเป็นหลังมือ

“โรสแมรี่” (Rosemary Vandenbroucke) นางแบบดังฮ่องกงโดนจับข้อหายาเสพติด

Submitted by canjamm on 10 กันยายน, 2010 - 16:07

“โรสแมรี่ แวนเดนบรู๊ก” (Rosemary Vandenbroucke) นางแบบลูกครึ่งวัย 28 ปี ที่โด่งดังในวงการบันเทิงฮ่องกง และเอเชีย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจลาสเวกัสจับกุมเมื่อเวลาประมาณ 9.30 น. ของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ในข้อหามียาเสพติดประเภทยาอีไว้ในครอบครอง ซึ่งถ้ามีความผิดจริง นางแบบคนดังอาจถูกโทษทัณฑ์บนเป็นเวลาทั้งสิ้น 4 ปี

ในการจับกุมตัวนางแบบสาวแห่งวงการแฟชั่นฮ่องกงครั้งนี้ โฆษกตำรวจแห่งเมืองรีโน่ ได้ออกมาเปิดเผยว่า นางแบบชื่อดังวัย 28 ปี ถือพาสปอร์ตฝรั่งเศส ซึ่งระบุที่อยู่ในฮ่องกงเอาไว้ เมื่อมีการตั้งข้อหาครอบครองยาเสพติดแล้ว โรสแมรี่ แวนเดนบรู๊ก จึงได้รับการปล่อยตัวไป ด้วยวงเงินประกันจำนวน 15,000 เหรียญฯ ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันว่า เธอยังอยู่ในสหรัฐฯ หรือได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว อย่างไรก็ตามเธอยังมีกำหนดต้องกลับมาขึ้นศาลอีกครั้ง ในวันที่ 19 ต.ค. นี้

เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองรีโน่ยังให้ข้อมูลว่า การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นที่เทศกาล Burning Man งานประจำปีซึ่งจัดขึ้นในเขตทะเลทรายตอนเหนือออกไปประมาณ 100 ไมล์ของเมืองรีโน่ รัฐเนวาด้า ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 50,000 คน และมีการจับกุมผู้กระทำความผิดได้มากถึง 30 ราย แต่ส่วนใหญ่เป็นเพียงข้อหาเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น

ไม่เพียงเท่านั้น ในอีก 1 วันต่อมา หรือ ในช่วงเวลาบ่าย 3 ของวันจันทร์ที่ผ่านมานางแบบคนดังยังถูกตั้งข้อหาในคดีความผิดอาญาประเภทลหุโทษ จากอุบัติเหตุการขับรถบ้านเข้าชนหัวก๊อกน้ำประปาสาธารณะที่เมืองรีโน่นั่นเอง

หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม เธอจึงให้การว่าต้องการรีบนำรถบ้านที่เช่ามา ไปส่งคืนให้ตรงเวลา จึงเกิดอุบัติเหตุขึ้น โดยคดีดังกล่าวนางแบบคนดังต้องกลับมาขึ้นศาลในวันที่ 29 ก.ย. หลังจากเข้ารับฟังข้อกล่าวหา, พิมพ์ลายนิ้วมือ และจ่ายเงินประกันตัวจำนวน 1,280 เหรียญฯ ไปเรียบร้อยแล้ว

โรสแมรี่ แวนเดนบรู๊ก นางแบบลูกครึ่งจีนรัสเซีย ใช้ชีวิตวัยรุ่นอยู่ในสหรัฐฯ จนกระทั่งได้เริ่มต้นงานในวงการบันเทิงตั้งแต่อายุเพียง 14 ปี จากการเข้าร่วมประกวด Elite Model Look ครั้งที่ 2 และคว้าตำแหน่งชนะเลิศมาได้ เมื่อปี 1996

ดาราสาวแก้ผ้าเปลือยส่งใจเชียร์นักบาสเก็ตบอลทีมชาติจีน

Submitted by canjamm on 10 กันยายน, 2010 - 15:56

เป็นที่ฮือฮาไปทั่ว เมื่อนักแสดงสาว "ฮั่นอี้เฟย" (Han Yifei) เลือกวิธีพิเศษในการส่งกำลังใจให้กับนักบาสเก็ตบอลทีมชาติจีน ซึ่งกำลังแข่งขันชิงแชมป์โลกที่ประเทศตุรกีอยู่ในขณะนี้ กับการถ่ายภาพเปลือยโชว์หุ่น ชนิดที่ว่ามีเพียงลูกบาสเก็ตบอลเท่านั้น ที่ปิดบังส่วนสำคัญของร่างกายเอาไว้

ฮั่นอี้เฟย นักแสดงสาววัย 23 ปี อดีตนักศึกษาจากสถาบันภาพยนตร์ปักกิ่ง ทำตามสัญญาที่เธอให้ไว้ว่า จะเปลื้องผ้าให้ทุกคนได้เห็น หากทีมบาสเก็ตบอลของจีนสามารถทะลุเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายใน FIBA บาสเก็ตบอลชิงแชมป์โลก ซึ่งกำลังแข่งขันกันอยู่ที่ประเทศตุรกีอยู่ในขณะนี้

โดยก่อนหน้านี้เธอก็เคยเผยภาพในชุดบิกีนี่สุดเซ็กซี่ให้ชมกันมาแล้ว เมื่อทีมชาติจีนที่นำโดยซุปเปอร์สตาร์ NBA อี้เจียนเหลียน สามารถคว้าชัยชนะครั้งแรก ในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว

สื่อจีนระบุว่า ฮั่นอี้เฟย เคยได้รับการยกย่องว่าเป็นสาวสวยที่สุดในสถาบันภาพยนตร์ปักกิ่ง เมื่อสมัยที่เธอยังศึกษาอยู่ที่นั่น สาววัย 23 ปี ยังมีดวงที่ดูจะสมพงศ์กับเรื่องกีฬาอยู่ไม่น้อย เพราะก่อนหน้านี้เธอเคยคว้าตำแหน่งรองอันดับ 2 ในการประกวดสาวงามฟุตบอลโลกมาแล้ว สำหรับงานในวงการบันเทิงของดาราสาว นอกจากการถ่ายแบบ และโฆษณา ก็คืองานแสดงในซีรีส์กำลังภายในสุดฮิตเรื่อง Flying Fox of Snowy Mountain นั่นเอง

การส่งแรงใจให้ทีมชาติจีนในลักษณะนี้ของเธอ ได้รับเสียงตอบรับด้วยดีจากเพื่อนร่วมชาติส่วนใหญ่ มีเพียงเสียงติเล็กน้อยว่า ลูกบาสที่ใช้เป็นอุปกรณ์ประกอบฉากนั้น ดูใหญ่โตเกินความจำเป็นไปสักหน่อย ชาวไต้หวันคนหนึ่งถึงกับออกไอเดียข้ามประเทศมาว่า "มันน่าจะดีว่านี้นะ ถ้าเธอจะเปลือยกายเพื่อเชียร์ทีมชาติจีนในการแข่งขันปิงปองบ้าง"

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่การเปลือยกายของ ฮั่นอี้เฟย จะถูกเปรียบเทียบกับ ลาริสซ่า ริเคลเม (Larissa Riquelme) นางแบบวัย 25 ชาวปารากวัยที่ให้สัญญาว่าจะเปลือยกายวิ่งรอบเมือง ถ้าหากทีมชาติของตนเองสามารถคว้าแชมป์ในการแข่งขันฟุตบอลโลกมาได้

แฟนหนังชาวจีนฟ้องโรงหนัง รับไม่ได้ถูกบังคับดูโฆษณา 20 นาที

Submitted by canjamm on 9 กันยายน, 2010 - 18:35

นักดูหนังชาวจีนท่านหนึ่ง ตัดสินใจฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย จากโรงภาพยนตร์ และผู้จัดจำหน่าย หลังรับไม่ได้ที่ต้องพบกับโฆษณาก่อนหนังฉายยาวเหยียดถึง 20 นาที ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าตัวอ้างว่าเสียทั้งเวลา, ความรู้สึก และยังละเมิดต่ออิสรเสรีภาพของคนดู ที่ถูกบังคับให้ชมโฆษณาที่นานเกินพอดี โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล้วงหน้าเลย

ศาลซีอาน มณฑลฉ่านซี ออกมาแถลงว่า ได้มีรับฟ้องคดีความที่ เฉินเสี่ยวเม่ย หญิงสาวผู้ประกอบอาชีพทนายความ ได้ยื่นฟ้อง Huayi Brothers ผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์เรื่อง Aftershock และโรงภาพยนตร์ Xi'an Polybona International Cinema ที่ทำให้เธอต้องเสียเวลาดูโฆษณาก่อนหนังฉายถึง 20 นาที

โดยหญิงคนดังกล่าว ขอเรียกเงินค่าตั๋วหนังคืนจำนวน 35 หยวน, เรียกค่าเสียเวลาอีก 35 หยวน นอกจากนั้นยังขอเรียกค่าเสียความรู้สึกอีก 1 หยวน และยังต้องการจดหมายขออภัยอย่างเป็นทางการ จากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ด้วย

โดย เฉิน ได้ชมภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวที่โรงหนังของ Polybona ในซีอาน ซึ่งเธอระบุว่าผู้ชมต้องรอคอยกว่า 20 นาทีจึงจะได้ชมภาพยนตร์ ซึ่งโรงหนังไม่เคยแจ้งล่วงหน้าถึงเรื่องเหล่านี้เลย และเหตุการณ์ลักษณะนี้ทำให้ผู้ชมต้องนั่งคอยอยู่ในโรงหนัง โดยไม่ทราบว่าโฆษณาจะจบลงเมื่อใด เป็นสิ่งที่ เฉิน อ้างว่าละเมิดต่อสิทธิในการรับรู้ข้อมูล และละเมิดต่ออิสรเสรีภาพของคนดูในการเลือกที่จะรับชม หรือไม่ชมโฆษณาเหล่านั้น

ไม่เพียงแค่เรียกร้องค่าเสียหายเท่านั้น แต่นักดูหนังท่านนี้ยังแนะนำว่าโรงภาพยนตร์ควรระบุถึงระยะเวลาของการโฆษณาให้ชัดเจน ทั้งในเว็บไซต์ และหน้าโรงภาพยนตร์ รวมถึงแจ้งเรื่องนี้ให้กับผู้ชมได้รับทราบ ในสายด่วนทางโทรศัพท์ของโรงหนังด้วย

นอกจากนั้นเฉินยังเชื่อว่าโดยทั่วไปแล้ว โฆษณาในโรงภาพยนตร์ไม่ควรจะมีความยาวเกินกว่า 5 นาทีขึ้นไปเด็ดขาด

"ทอม ครูซ" แห่งอิตาลี คู่ควงคนใหม่ "เหลียงหย่งฉี" (Gigi Leung)

Submitted by canjamm on 7 กันยายน, 2010 - 18:52

เลิกแฟนต่างชาติไม่ทันไร ดาราสาวชาวฮ่องกง "เหลียงหย่งฉี" (Gigi Leung) ก็ได้หนุ่มคนใหม่มาเป็นคู่ควงเรียบร้อยแล้ว ซึ่งดูเหมือนว่ารสนิยมของสาวสูงยาวเข่าดีคนนี้ ก็ยังคงยึดมั่นกับหนุ่มต่างชาติ ตาน้ำข้าวเหมือนเดิม แถมคราวนี้ยังเป็นหนุ่มสุดหล่อทายาทผู้ก่อตั้งแบรนด์แฟชั่นดัง ที่มีชื่อว่า "เจมส์ เฟอรากาโม่" เจ้าของฉายา "ทอม ครูซ" ของอิตาลีกันเลยทีเดียว

หลังจากยุติความสัมพันธ์กับ สไล แฟนหนุ่มดีไซเนอร์ชาวฝรั่งเศส ที่คบหากันมาถึง 4 ปี ในที่สุด เหลียงหย่งฉี นักร้อง/นักแสดงสาวชาวฮ่องกง ก็เริ่มสานสัมพันธ์กับหนุ่มคนใหม่ ซึ่งเป็นที่รู้จักจากสื่อในประเทศบ้านเกิดของในฐานะ ทอม ครูซ แห่งอิตาลีเสียด้วย

เมื่อเร็ว ๆ นี้นักแสดงหญิงวัย 34 ปี ได้มีโอกาสเป็นแขกพิเศษในงานอีเวนต์ของแบรนด์แฟชั่นชื่อดังจากอิตาลี ในงานวันนั้น เหลียงหย่งฉี ดูจะแสดงความสนิทสนมเป็นพิเศษกับ เจมส์ เฟอรากาโม่ ผู้บริหารระดับสูง และยังเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของสินค้ายี่ห้อ เฟอรากาโม่ อันโด่งดังด้วย

หลังงานดังกล่าวสองหนุ่มสาวยังไปทานอาหารค่ำกันต่อ โดยมีผู้ช่วยของเหลียงหย่งฉี และผู้บริหารหญิงคนหนึ่งอยู่ร่วมในมื้ออาหารครั้งนั้นด้วย

เหลียงหย่งฉี เข้าวงการมาตั้งแต่เมื่อ 15 ปี ก่อน และโด่งดังเป็นที่รู้จักขึ้นมาทันที หลังตกเป็นข่าวอื้อฉาวก่อตำนานรักกับนักแสดงหนุ่ม เจิ้งอี้เจี้ยน ทั้ง ๆ ที่ในเวลานั้นฝ่ายชายคบหาอยู่กับนักแสดงสาวรุ่นพี่ เส้าเหม่ยฉี อยู่ก่อนแล้ว เจิ้งอี้เจี้ยน และเหลียงหย่งฉี คบหากันอยู่ประมาณ 7 ปี จึงได้เลิกรากันไป

Manager Online

“เซียะเสียน” (Patrick Tse) ปฏิเสธข่าวส่งแฟนสาวรุ่นลูกเรียนอังกฤษ

Submitted by canjamm on 6 กันยายน, 2010 - 22:05

นักแสดงรุ่นใหญ่ชาวฮ่องกง "เซียะเสียน" (Patrick Tse) ออกมาโต้ข่าวลือที่ว่าเขาอุปถัมภ์เงินทุนการศึกษาให้กับแฟนสาวรุ่นลูก เพื่อการเดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งเจ้าตัวอธิบายว่าเงินทั้งหมด เป็นเงินของฝ่ายหญิงเอง โดยเขาไม่ได้ให้ความช่วยเหลืออะไรเลย แต่เปรยว่าตนเองอาจตัดสินใจเดินทาง ไปอยู่กับแฟนวัย 26 ปี ที่เมืองผู้ดีด้วย

"เธอมีเงินของตัวเองมากพออยู่แล้ว ส่วนตัวผมเองก็กำลังคิดอยู่เหมือนกัน ว่าจะเดินทางไปอยู่กับเธอที่นั่นด้วย" เซียะเสียน พระเอกรุ่นใหญ่ชาวฮ่องกงวัย 73 ปี กล่าวกับสื่อ ในการปฎิเสธรายงานข่าวที่ว่า เขาเป็นผู้ออกเงินทุนการศึกษาก้อนโตให้กับ โคโค่ (Coco) แฟนสาววัย 26 ปี เพื่อการศึกษาต่อยังประเทศอังกฤษ อย่างที่มีสื่อเคยรายงานข่าวก่อนหน้านี้

เซียะเสียน คุณพ่อสุดหล่อของพระเอกหนุ่ม เซียะถิงฟง (Nicholas Tse) ซึ่งหลาย ๆ คนยังคงจดจำเขาได้จากบทบาท หล่อซื่อไห่ เซียนพนันตาทิพย์ ในหนังจีนชุดสุดคลาสสิค คมเฉือนคม (The Shell Game) ยังปฏิเสธข่าวลืออีกด้านที่ว่า เขากับคู่รักรุ่นลูกเคยยุติความสัมพันธ์กันไปช่วงหนึ่งเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก่อนจะกลับมาคบหากันอีกครั้งในปัจจุบัน ... “เราไม่เคยเลิกกันเลย ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าข่าวลือพวกนี้มาจากไหน”

เซียะเสียน เคยแต่งงานมาแล้วสองหน รวมถึงการใช้ชีวิตคู่กับ ตีปอร่า (Deborah Dik) อดีตนักแสดงชื่อดัง ที่มีทายาทด้วยกัน 2 คน และกลายเป็นนักแสดงในวงการไปแล้วทั้งคู่

สำหรับความรักครั้งล่าสุดของนักแสดงหนุ่มใหญ่ เริ่มเป็นที่เปิดเผยเมื่อปี 2008 นับเป็นเวลา 12 ปีหลังจากเขาหย่าขาดกับ ตีปอร่า แม่ของเซียะถิงฟง และ เซียะถิงถิง (Jennifer Tse) โดยมีผู้พบเห็นเซียะเสียนเดินทางไปเม็กซิโกพร้อมกับหญิงสาวคนหนึ่ง โดยในตอนนั้น เซียะเสียน อธิบายว่าเธอมีฐานะเป็นเพียงผู้ช่วยส่วนตัวของเขา แต่ต่อมาจึงยอมรับว่าเธอคือหญิงคนรักใหม่ของเขาจริง อย่างที่มีการลือกัน

โคโค่ สาวเซี่ยงไฮ้วัย 26 ปี มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับ เซียะถิงถิง ลูกสาวคนเล็กของเซียะเสียน ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงเมื่อเร็ว ๆ นี้ นอกจากนั้นคู่รักสุดหวานคู่นี้ยังมีอายุที่ห่างกันถึง 47 ปี ซึ่งเจ้าตัวเปิดเผยว่ามันเป็นปัญหาอะไร หรือเป็นอุปสรรคในการคบหากันแบบที่หลาย ๆ คนคิด

"เจ็ต ลี" (Jet Li) เผยแต่งเมียคนแรกเพราะเรื่องโชคลาง

Submitted by canjamm on 6 กันยายน, 2010 - 01:29

ในการให้สัมภาษณ์ครั้งล่าสุด "เจ็ต ลี" (Jet Li) ออกมายอมรับว่าการเดินเข้าประตูวิวาห์กับภรรยาคนแรกของตน เกิดขึ้นจากเรื่องโชคลางเป็นสำคัญ เมื่อมีผู้ใหญ่คนหนึ่งเป็นผู้แนะว่า การแต่งงานกับเธอจะนำมาซึ่งโชค, ความรุ่งเรือง และความโด่งดังในอาชีพ สุดท้ายมันจึงเป็นชีวิตคู่ที่ต้องยุติลงในเวลาอันรวดเร็ว เพราะเขาไม่ได้รักเธอด้วยใจจริง - Channel News Asia รายงาน

ระหว่างโปรโมต Ocean Heaven ภาพยนตร์เรื่องล่าสุด เจ็ต ลี หรือ หลี่เหลียนเจี๋ย นักแสดงแอ็กชั่นชื่อดังชาวจีนแผ่นดินใหญ่วัย 47 ปี ออกมาเผยถึงความรู้สึกต่าง ๆ ต่อชีวิตแต่งงาน 2 ครั้งที่ผ่านมาของเขา โดยเฉพาะเหตุผลของการใช้ชีวิตคู่ครั้งแรก ที่พระเอกหนุ่มนักบู๊ยอมรับอย่างหน้าตาเฉยว่า เกิดขึ้นได้เพราะเหตุผลเรื่องโชคลางเป็นสำคัญ

"ผมแต่งงานกับเธอเพราะเรื่องของโชคลางน่ะครับ" นักแสดงบู๊ชื่อดังยอมรับว่า การตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ครั้งแรกของตนเอง เกิดจากความเชื่อในศาสตร์โบราณแบบจีน ที่ว่าด้วยการขจัดโชคร้ายให้ออกไปจากชีวิต ที่มีญาติผู้ใหญ่เป็นผู้ให้คำแนะนำ

เจ็ต ลี กล่าวว่าตอนที่ตัดสินใจเข้าพิธีสมรสกับ หวงชิวเหยียน (Huang Qiu Yan) ภรรยาคนแรกนั้น เป็นช่วงที่ชีวิตเขาไม่ค่อยจะลงตัวนัก, มีปัญหาทางสุขภาพ ขณะที่ชื่อเสียงความโด่งดังที่ได้รับจากหนัง เสี่ยวลิ้มยี่ ก็ดูจะหดหายลงเรื่อง ๆ จนกระทั่งคุณยายของตนเองเป็นผู้ให้แนะนำว่า การแต่งงานกับ หวงชิวเหยียน นักแสดงสาววัย 22 ปี ที่เขาสนิทสนมด้วย จากการร่วมงานกันในหนังถึง 2 เรื่อง จะสามารถเปลี่ยนแปลงโชควาสนาต่าง ๆ ในชีวิต รวมถึงทำให้กลับมาโด่งดังอีกครั้งได้

ทั้งคู่แต่งงานกันปี 1987 เมื่อฝ่ายชายมีอายุได้ 24 ปี แต่ชีวิตคู่ครั้งนั้นกลับจบลงภายในเวลาเพียงแค่ 2 ปีเศษเท่านั้น แต่กว่าจะหย่าขาดกันก็เมื่อเวลาล่วงเลยไปประมาณ 3 - 4 ปีต่อมา เจ็ต ลี ยอมรับว่าเขาไม่ได้รักผู้หญิงคนนี้อย่างจริงใจ และอธิบายว่าเธอมีความรักให้เขาอย่างเต็มรอย ตรงกันข้ามตนเองกลับสามารถรักเธอตอบได้แค่ 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

ศาลสั่งสื่อดังจ่ายเงิน "ซูฉี" (Shu Qi) หลังลงภาพนู้ดโดยไม่ได้รับอนุญาต

Submitted by canjamm on 1 กันยายน, 2010 - 23:31

ภาพนู้ดสุดวาบหวิวที่ถ่ายเอาไว้ก่อนจะมีชื่อเสียงโด่งดัง ยังคงทำเงินทำทองให้กับดาราสาวเซ็กซี่ชาวไต้หวัน "ซูฉี" (Shu Qi) แม้เวลาจะผ่านล่วงเลยมากว่า 15 ปีแล้ว เมื่อศาลไต้หวันมีคำสั่งให้หนังสือพิมพ์ชื่อดังฉบับหนึ่ง จ่ายเงินเกือบ 600,000 บาท หลังตีพิมพ์ภาพดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าตัว

เมื่อปีก่อนหนังสือพิมพ์รายวัน The Liberty Times ได้ตีพิมพ์และลงข่าวของนักแสดงสาวชื่อดัง ซูฉี ระหว่างเธอร่วมงานโปรโมตสินค้ายี่ห้อหนึ่งในเซียงไฮ้ โดยสื่อรายนี้ยังอ้างว่าในงานวันนั้น นักแสดงสาวเซ็กซี่วัย 34 ปี ปรากฏตัวในแบบโนบรา โดยไม่ได้สวมใส่ชุดชั้นในเสียด้วย อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้น มีสาเหตุมาจากรูปประกอบบทความ ที่เป็นการหยิบเอาภาพนู้ดจากอัลบั้มภาพ ซึ่งซูฉี ถ่ายเอาไว้ตั้งแต่ 15 ปี ก่อนมาตีพิมพ์ควบคู่ไปด้วย

ซึ่งหลังรายงานข่าวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ซูฉี จึงได้ตัดสินใจยื่นฟ้องต่อศาล เพื่อเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 2 ล้านเหรียญไต้หวัน (ประมาณ 1.9 ล้านบาท) และเรียกร้องให้มีการตีพิมพ์คำขอโทษเธออย่างเป็นทางการ ลงในหน้าหนังสือพิมพ์

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 24 ส.ค. ที่ผ่านมา ศาลกรุงไทเปได้อ่านคำตัดสินคดีครั้งนี้ ซึ่งสรุปให้หนังสือพิมพ์คู่กรณีจ่ายเงินค่าเสียหายแก่ ซูฉี เป็นจำนวนทั้งสิ้น 600,000 เหรียญไต้หวัน (หรือประมาณ 584,000 บาท)

ผู้พิพากษายังกล่าวย้ำว่า ภาพดังกล่าวเป็นการถ่ายไว้ตั้งแต่ 15 ปีที่แล้ว ซึ่ง The Liberty Times นำมาตีพิมพ์โดยไม่ได้มีการขออนุญาตจากเจ้าตัว และปัจจุบันตัวของซูฉีเองก็ถอยห่างจากงานลักษณะดังกล่าว รวมถึงหนังเกรด 3 โดยสิ้นเชิงแล้ว ซึ่งผู้พิพากษาเห็นว่า การนำภาพเก่า ๆ เหล่ากลับมาตีพิมพ์อีกครั้ง เป็นสิ่งที่สร้างผลกระทบต่ออาชีพในปัจจุบันของดาราสาววัย 34 ปี อย่างแน่นอน

Manager Online

ไต้หวันส่งหนังนักเลงวัยรุ่น "Monga" ชิงออสการ์

Submitted by canjamm on 31 สิงหาคม, 2010 - 18:19

"Monga" หนังนักเลงวัยรุ่นสุดฮิตของไต้หวัน ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของประเทศ ในการส่งรายชื่อเข้าชิงรางวัลสาขาหนังภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม ของออสการ์ครั้งที่ 83 งานประกาศรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการภาพยนตร์โลก ซึ่งจะมีขึ้นในเดือน ก.พ. ปีหน้า

Monga ผลงานเรื่องแรกของผู้กำกับหน้าใหม่ หนิวเฉินซื่อ เล่าเรื่องในยุค 80s มีฉากหลังเป็นย่านว่านหัวในกรุงไทเป กับเรื่องราวของเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ที่พยายามสร้างชื่อแสวงหาความยิ่งใหญ่ในวงนักเลง หนังมีนักแสดงหนุ่มชื่อดัง หรวนชิงเทียน (Ethan Ruan) รับบทนำ และเข้าฉายตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา จนทำรายได้อย่างมหาศาลถึง 200 ล้านเหรียญไต้หวัน (ประมาณ 195 ล้านบาท)

โดยก่อนหน้านี้มีหนังสองเรื่องที่เข้าข่าย จะถูกเลือกให้เป็นตัวแทนของประเทศในการชิงรางวัลออสการ์ นอกจาก Monga แล้วก็คือ Hear Me หนังรักโรแมนติก ที่มีนักแสดงหนุ่มชื่อดัง เผิงอวี๋เอี้ยน (Eddie Peng) รับบทนำ อย่างไรก็ตามหลังมีการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วจึงพบว่า Hear Me ได้เริ่มต้นเข้าโรงฉายตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค. 2009 แล้ว ทำให้หมดสิทธิ์ชิงออสการ์ที่กฏระเบียบระบุไว้ว่าหนังที่มีคุณสมบัติ ต้องเข้าฉายตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2009 เท่านั้น Monga จึงไร้คู่แข่งไปโดยปริยาย

อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายยังมองว่า Monga เป็นตัวแทนที่เหมาะสมที่สุดอยู่แล้ว เพราะหนังนำเสนอภาพของชีวิตคนไต้หวันเมื่อ 20 ปีก่อน ถ่ายทำในสถานที่สำคัญหลาย ๆ แห่งของกรุงไทเป นอกจากนั้นความรุนแรงและเนื้อหาเกี่ยวกับพวกนอกกฎหมาย ยังทำให้หนังเรื่องนี้ถูกแบนห้ามเข้าฉายในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ด้วย

電影《艋舺 / MONGA》正式預告片 (official trailer)

Manager Online

"ฟั่นปิงปิง" (Fan Bing Bing) คนสวยตัวซวย ?

Submitted by canjamm on 30 สิงหาคม, 2010 - 18:46

สื่อออนไลน์จากจีนแผ่นดินใหญ่ออกมารวบรวมสถิติ และเรื่องราวความเป็นตัวซวยของ "ฟั่นปิงปิง" (Fan Bing Bing) ที่มีหลายคนสังเกตว่า ที่ผ่านมาแม้เธอจะประสบความสำเร็จ และมีชื่อเสียงขึ้นมาเรื่อย ๆ แต่ในทางตรงข้าม ผู้ร่วมงานหลาย ๆ คนต้องประสบกับชะตากรรมย่ำแย่ไปตาม ๆ กัน ทั้งอกหักรักคุด, เสียชื่อเสียง, เสียงาน กระทั่งเสียชีวิตก็มีมาแล้ว

หลายปีที่ผ่านมานักแสดงสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ฟั่นปิงปิง สร้างชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จนขณะนี้สามารถพูดได้ว่า เธอยืนอยู่ในตำแหน่งหัวแถวของวงการบันเทิงแดนมังกรได้อย่างเต็มภาคภูมิ นอกจากนั้นหลังก่อตั้งบริษัทของตัวเองตั้งแต่ปี 2007 นางเอกวัย 31 ปี ยังทำเงินทำทองได้มหาศาลในแต่ละปี

แต่ในเวลาเดียวกันกลับมีผู้สังเกตว่า เพื่อนร่วมงานของนางเอกคนดังต่างประสพกับโชคร้ายหลังร่วมงานกับเธอกันแทบทุกคน เป็นความ 'ซวย' ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งล้มเหลวทางธุรกิจ, ชื่อเสียงหดหาย, เสียงานเสียการ หรือเป็นอันตรายจนถึงล้มหมอนนอนเสื่อกระทั่งเสียชีวิตก็ยังมี

ในปี 2007 ฟั่นปิงปิงเล่นหนังสองเรื่อง และทั้งสองเรื่องนั้นต่างประสบชะตากรรมอันย่ำแย่ที่แตกต่างกันไป Lost in Beijinng หนังดราม่าเข้มข้นที่เธอประชันบทบาทกับ เหลียงเจียฮุย (Tony Leung Ka Fai) ถูกแบนห้ามฉายในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่เพราะฉากเลิฟซีนในเรื่อง ขณะที่หนังซึ่งมีชื่อเรื่องว่า Home Run ซึ่งนางเอกคนดังรับบทเด่น ก็ทำรายได้ย่ำแย่แต่เพียงแค่ 550,000 หยวน เท่านั้น (ประมาณ 2.5 ล้านบาทเท่านั้น)

นักแสดงหนุ่ม อู๋ฉีหลง (Nicky Wu) เป็นอันต้องเลิกรากับภรรยาสาว หลังเขาได้ร่วมงานกับ ฟั่นปิงปิง ในปี 2006 กับภาพยนตร์เรื่อง A Battle of Wits

ขณะที่ เดวิด คารร์าดีน นักแสดงชื่อดังชาวตะวันตกที่เสียชีวิตระหว่างเดินทางเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย กับหนังสัญชาติฝรั่งเศสเรื่อง Stretch โดยเป็นการเสียชีวิตทั้ง ๆ ที่หนังยังไม่ได้ปิดกล้อง และยังไม่ได้เข้าฉายเลยถึงปัจจุบันนี้ แน่นอนว่า Stretch มีฟั่นปิงปิง เป็นนักแสดงนำหญิงของเรื่อง

สาวไต้หวันแฉด้านมืดวงการบันเทิงเกาหลี

Submitted by canjamm on 30 สิงหาคม, 2010 - 18:40

นักร้องสาวชาวไต้หวัน “เอสเตรลล่า หลิน” (Estrella Lin) ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อโทรทัศน์ในประเทศตนเอง เพื่อเผยประสบการณ์ด้านลบต่าง ๆ ที่เธอได้พบมาในการทำงาน ณ วงการบันเทิงเกาหลีใต้ตลอด 3 ปีเต็ม โดยเฉพาะเรื่องการขึ้นเตียงกับผู้ใหญ่ในวงการ ที่สาวไต้หวันรายนี้ยอมรับว่าเป็นเรื่องปกติของวงการบันเทิงเกาหลีไปแล้ว

เอสเตรลล่า หลิน อดีตสมาชิกเกิร์ลกรุปซ์ 3EP Beauties ที่เคยมีประสบการณ์การทำงานในวงการบันเทิงเกาหลีใต้มาถึง 3 ปีเต็ม และเพิ่งเดินกลับมายังไต้หวันเมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว เธอกล่าวว่าตลอดเวลาที่เดินทางกลับมาถึงบ้านเกิด ตนเองได้รับการสอบถามจากสื่อมวลชนในประเทศ ถึงข่าวลือเรื่องคาว ๆ ในวงการบันเทิงกิมจิอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะข้อสงสัยที่ว่า จริงหรือไม่ที่สาว ๆ ในวงการบันเทิงเกาหลียอมพลีกลายเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพ

สาวไต้หวันวัย 30 ปี ยอมรับว่าเรื่องทำนองนั้นเกิดขึ้นจริงในธุรกิจบันเทิงของเกาหลี แม้แต่ตัวเธอเอง ก็เคยมีนายทุนใหญ่รายหนึ่งเสนอเงินสนับสนุน เพื่อการออกผลงานเพลง แลกกับการคบหาเป็นแฟนมาแล้ว ซึ่งนี้เป็นเพียงหนึ่งในหลาย ๆ ครั้งที่ผู้ใหญ่ในวงการบันเทิงยื่นขอเสนอแบบนี้มาให้กับเธอ โดยแต่ละครั้งล้วนมีรายละเอียดเรื่องข้อเรียกร้อง และผลประโยชน์ที่แตกต่างกันไป

เอสเตรลล่า หลิน ยังกล่าวอ้างว่าสาวเกาหลีใต้ส่วนใหญ่ล้วนรับข้อเสนอทำนองนี้กันทั้งนั้น แต่สำหรับตัวเองเธอไม่สามารถรับกับเรื่องแบบนี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถูกยื่นข้อเสนอแบบนี้ให้บ่อยครั้งขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่หยุดหย่อน จนกระทั่งตัดสินใจเดินทางกลับไต้หวันในที่สุด

สื่อไต้หวันกล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวดูจะสอดคล้องกับรายงานข่าวจากเกาหลีใต้ เกี่ยวกับเรื่องข้อตกลงพิเศษระหว่างนักแสดงสาว และผู้ใหญ่ในวงการซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำ นอกจากนั้นมันยังเป็นหลักฐานสำคัญว่าเหตุใดดารานักแสดงในเกาหลีใต้ จึงมีอัตราการฆ่าตัวตาย มากกว่าหลาย ๆ ประเทศในเอเชียด้วยกัน ขณะเดียวกันสื่อเกาหลีใต้อย่าง The Chosun Ilbo และ Korean Herald ก็ให้ความสนใจกับการออกมาให้ข้อมูลของสาวไต้หวัน ในการแฉเรื่องด้านมืดของวงการบันเทิงเกาหลี และนำเสนอข่าวชิ้นนี้ด้วยเช่นเดียวกัน

"มิสเอเชีย" ไม่ต้อนรับนางงามฟิลิปปินส์

Submitted by canjamm on 30 สิงหาคม, 2010 - 18:36

สถานีโทรทัศน์ "เอทีวี" ผู้จัดการประกวดมิสเอเชีย ออกมาประกาศว่าในการประกวดปีนี้ ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงปลายปี กองประกอบขอตัดสิทธิ์สาวงามผู้เข้าประกวดจากประเทศฟิลิปปินส์ ไม่ให้มีส่วนร่วมเข้าประกวดในปีนี้ด้วย เพราะเกรงว่าปัญหาการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงในกลุงมนิลา จะทำให้บรรยากาศของการประกวดความงามเกิดตึงเครียดขึ้นมาได้

สถานีโทรทัศน์เอทีวี ผู้จัดงานมิสเอเชีย การประกวดความงามของหญิงสาวเชื้อสายจีนจากประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย ออกมาประกาศว่าในการประกวดปีนี้ ที่จะจัดขึ้นในเดือน พ.ย. ที่ฮ่องกงเช่นเดิม จะไม่มีสาวงามจากประเทศฟิลิปปินส์เข้าร่วมประกวดเหมือนเช่นทุกปี

โดยกองประกวดชี้แจงว่าการตัดสินใจทั้งหมดมีสาเหตุมาจาก เหตุการณ์วิกฤติตัวประกันซึ่งเกิดขึ้นที่กรุงมนิลาเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่มีคนร้ายเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจของฟิลิปปินส์ ที่จับนักท่องเที่ยวไว้เป็นตัวประกัน จนกระทั่งสุดท้ายมีนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงถึง 8 คนเสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว สร้างความเศร้าโศก และกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ชาวฮ่องกงต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจฟิลิปปินส์เป็นอย่างมาก

ซึ่งผู้รับผิดชอบต่อการประกวดมิสเอเชียกล่าวว่า ความรู้สึกอันรุนแรงของชาวฮ่องกงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังคงคุกรุ่น ซึ่งถ้าสาวงามตัวแทนตากาล๊อกเดินทางเข้ามาที่ฮ่องกง อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายต่าง ๆ ขึ้นมาได้ นอกจากนั้นจะทำให้บรรยากาศของการประกวดทั้งหมดพลอยตึงเครียดไปด้วย

โฆษกของเอทีวีออกมาให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงการตัดสินใจครั้งนี้ว่า "เราจึงเลือกที่จะไม่เชิญตัวแทนของฟิลิปปินส์มาในการประกวดในปีนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้สาวงามผู้เข้าประกวดจากฟิลิปปินส์ ต้องรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ ในการเดินทางมาฮ่องกง นอกจากนั้นชาวฮ่องกงส่วนใหญ่ยังอยู่ในอารมณ์อันเศร้าหมอง เราจึงไม่ต้องการให้พวกเขาต้องรู้สึกแย่กับเรื่องนี้ขึ้นไปอีก การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ใช่การใช้อำนาจโดยไม่เป็นธรรมอย่างแน่นอน เราไม่ได้เลือกปฏิบัติอะไรต่อชาวฟิลิปปินส์ แต่เมื่อพิจารณาดูแล้ว การกระทำแบบนี้เป็นทางออกที่ดีที่สุด ที่จะไม่ทำร้ายจิตใจพวกเขาด้วย"

Manager Online