ข่าวญี่ปุ่น

       เผยโฉมออกมาแล้วสำหรับหน้าตาของยอดมนุษย์ 5 สีกลุ่มล่าสุด "Ressha Sentai Tokkyuger" ที่มีกำหนดแพร่ภาพในปีหน้า ด้วยแนวคิดขบวนการรถไฟ ซึ่งถือว่าเป็นมนุษย์แปลงร่างขบวนการเซนไตลำดับที่ 38 ของ Toei กันแล้ว
       
       Ressha Sentai Tokkyuger ที่มีไอเดียการออกแบบทั้งชุดของเหล่า 5 ซูเปอร์ฮีโร่ และหุ่นยนต์จากรถไฟ จะเริ่มออกอากาศในเดือน ก.พ. ที่จะถึงนี้ แต่ดูเหมือนว่าแฟนๆของซีรีส์ชุดนี้จะไม่ถูกใจการออกแบบของยอดมนุษย์ 5 สีที่จะแพร่ภาพปีหน้าเอาเสียเลย ทั้งส่วนของเหล่า 5 ซูเปอร์ฮีโร่ และหุ่นยนต์ประจำขบวนการ สังเกตจากความเห็นในเว็บไซต์ต่างๆ ที่เป็นไปในทางลบเป็นส่วนใหญ่
       
       ซึ่งอันที่จริงแล้วข่าวที่ว่าขบวนการเซนไตลำดับที่ 38 จะเกี่ยวข้องกับรถไฟนั้น ได้ถูกพูดถึงมาซักระยะแล้ว หลังมีผู้พบว่า Toei ได้ไปจดชื่อเครื่องหมายการค้า Ressha Sentai Tokkyuger เอาไว้ตั้งแต่เดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งในเดือน ม.ค. จึงจะมีการเปิดตัวนักแสดงทั้ง 5 ที่จะมารับบทเป็นสมาชิกในทีมของ Tokkyuger กันต่อไป
       
       โดยข่าวในเบื้องต้นระบุว่าทาง Toei หวังว่าขบวนการ 5 สีกลุ่มใหม่กลุ่มนี้น่าจะเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ใหญ่ชาวญี่ปุ่น ที่ชื่นชอบในรถไฟมากเช่นเดียวกัน ซึ่งจากข้อมูล 5 สมาชิกของ Tokkyuger จะมีชื่อว่า Tokkyu 1 (Tokkyu Ichigou), Tokkyu 2 (Nigou), Tokkyu 3 (Sangou), Tokkyu 4 (Yongou) และ Tokkyu 5 (Gogou) ตามลำดับ ซึ่งทั้งหมดจะใช้ตั๋วรถไฟอิเล็กโทรนิค ในการแปลงร่างด้วย
       

สื่อญี่ปุ่นเปิดเผยยอดขายการ์ตูนตลอดปี 2013 ออกมาแล้ว ผลปรากฏว่าการ์ตูนฮิตแห่งยุค One Piece ยังครองความยิ่งใหญ่ต่อไปด้วยยอดขายเหยียบ 20 ล้านเล่ม แต่ที่น่าจับตามองก็คือการ์ตูนไซไฟสุดฮิตมาแรง Attack On Titans ที่ทำยอดขายตามมาติดๆ ในอันดับที่ 2 เขี่ยเจ้าของอันดับ 2 เก่าอย่าง Kuroko's Basketball ให้ร่วงลงจากตำแหน่งจนได้

สายหลัก One Piece ยังยิ่งใหญ่ตลอดกาล - Attack on Titan แรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่

One Piece ของ เออิจิโร โอดะ ยังคงเป็นงานที่ขายดีที่สุดในปี 2013 ในตลาดการ์ตูนของประเทศญี่ปุ่น ด้วยยอดขายรวม 18 ล้านเล่ม นอกจากนั้น One Piece เล่ม 69 ยังทำสถิติเป็นการ์ตูนแยกเล่มที่ขายดีที่สุดในปีนี้ด้วยยอดขาย 3 ล้านเล่มด้วย ไม่เท่านั้นการ์ตูนโจรสลัดสุดฮิตในเล่มที่ 70, 71 และ 72 ก็ยังพาเหรดกันติด TOP 4 ของอันดับการ์ตูนขายดีแบบแยกเล่มกันหมดด้วย อย่างไรก็ตามยอดขายของผลงานว่าด้วยเรื่องราวการผจญภัยในโลกโจรสลัดเรื่องนี้ถือว่าตกลงมาจากปีก่อนที่ 23 ล้านเล่มนิดหน่อย

แต่ที่เซอร์ไพร์ซก็คือปีนี้อันดับ 2 การ์ตูนบาสสุดแรงแห่งปี 2012 อย่าง Kuroko's Basketball กลับเสียตำแหน่งไปให้กับ Attack on Titan การ์ตูนมาแรงแห่งยุคที่สามารถทำยอดขายเทียบชั้น One Piece ในระดับเกิน 10 ล้านเล่มได้สำเร็จด้วยยอดขาย 15 ล้านเล่มถือว่าเพิ่มขึ้นจากปี 2012 ที่ขายได้ 2.6 ล้านเล่มอย่างมหาศาล ซึ่งแม้ยอดขายรวมของการ์ตูนเรื่องนี้จะห่างกับ One Piece อยู่หลายล้านเล่ม แต่ก็เป็นครั้งแรกที่อันดับ 1 ของ เออิจิโร โอดะ ถูกผลงานเรื่องอื่นตามมาติดขนาดนี้

และที่น่าทึ่งยิ่งไปกว่านั้น ก็คืออันดับในฉบับแยกเล่มที่ Attack on Titan เล่ม 1 - 11 สามารถยึดตำแหน่ง 5 - 15 ได้ทั้งหมด ด้วยยอดขายเกิน 1 ล้านเล่มทั้งหมด โดยมีเล่ม 9 ที่ขายดีที่สุดด้วยยอด 1.9 ล้านเล่ม

นักเขียนการ์ตูนขวัญใจของหลายๆคน เจ้าของผลงานดังอย่าง Death Note กำลังจะมีผลงานชิ้นใหม่ ที่เป็นการหยิบเอานิยายดัง ซึ่งกำลังถูกดัดแปลงเป็นหนังฮอลลีวูดของ "ทอม ครูซ" (Tom Cruise) มาเขียนเป็นการ์ตูน
       
       Young Jump ของ Shueisha เล่มล่าสุดได้ประกาศผลงานใหม่ของ ทาเคชิ โอบาตะ (Takeshi Obata) ว่าเจ้าของผลงานดังทั้ง Hikaru no Go, Death Note และ Bakuman จะนำนิยายวิทยาศาสตร์เรื่องดัง All You Need Is Kill มาดัดแปลงเป็นการ์ตูนมินิซีรีส์ และจะเริ่มเผยแพร่ในต้นปี 2014
       
       ซึ่งในปีหน้านี้เช่นเดียวกันที่ All You Need Is Kill ฉบับภาพยนตร์ฮอลลีวูดซึ่งมี ทอม ครูซ แสดงนำ ก็มีกำหนดจะออกฉายด้วย อย่างไรก็ตามข่าวระบุว่าสำหรับการ์ตูนของ โอบาตะ จะมีเรื่องราวที่อ้างอิงจากนิยายต้นฉบับ และการออกแบบตัวละครกับยุทโธปกรณ์สุดไฮเทคของ โยชิโตชิ อาเบะ (เจ้าของผลงาน Serial Experiments Lain และ Texhnolyze) ผู้เขียนภาพประกอบในนิยายดั้งเดิมมากกว่า ส่วนหนังของ ครูซ จะมีเรื่องราว และตัวละครที่แตกต่างออกไป
       
       All You Need Is Kill ของ ฮิโร่ชิ ซาการาซากะเล่าเรื่องของเหล่าทหารในชุดเกราะที่มีหน้าที่ต่อสู้กับเหล่าเอเลียน โดยเรื่องราวของนิยายจะเกี่ยวข้องกับทหารคนหนึ่ง ที่เสียชีวิตลงระหว่างการรบ แต่กลับพบว่าตัวเองได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า พร้อมกับความสามารถในการรบที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
       

มีการประกาศข้อมูลอย่างเป็นทางการของหนังฟอร์มยักษ์ Lupin III ออกมาแล้ว ทั้งผู้กำกับ และรายชื่อของเหล่านักแสดงนำ ที่มีรายละเอียดแตกต่างจากข้อมูลจากข่าวลือก่อนหน้านี้นิดหน่อย อย่างไรก็ตามหนังยังมีชื่อของ “ญาญ่าหญิง” ร่วมแสดงอยู่ด้วยเหมือนเดิมร่วมด้วยนักแสดงไทยอีก 2 คน
       
       ในการแถลงอย่างเป็นทางการ สุดท้ายแล้วโปรเจกต์ Lupin III ก็ไม่ได้มีชื่อของ ซาโตชิ ทสึมาบูกิ (Satoshi Tsumabuki) และ โช ซากุราอิ (Sho Sakurai) แห่งวง Arashi ร่วมเป็นหนึ่งในนักแสดงนำด้วยอย่างที่มีข่าวมานานแต่อย่างใด
       
       โดยดาราหนุ่ม โองุริ ชุน (Oguri Shun) ยังคงมีชื่ออยู่ในบท อาร์แซน ลูแปง ที่ 3 ทายาทของ อาร์แซน ลูแปง ยอดหัวขโมยในตำนาน เหมือนเดิม แต่ผู้ที่จะสวมบทยอดนักแม่นปืนจีเกน ไดสุเกะ คือ เท็ตสึจิ ทามายามะ (Tetsuji Tamayama) และบทนักดาบหนุ่ม อิชิกาวา โกเอมอนที่ 13 เจ้าของเพลงดาบที่ตัดได้ทุกอย่างได้ดาราหนุ่มมาแรง โก อายาโนะ (Go Ayano) มาสวมบทบาท
       
       หนังยังน่าสนใจขึ้นไปอีกเมื่อมีการประกาศว่า ทาดาโนบุ อาซาโน (Tadanobu Asano) จะรับบทเป็นนักสืบ โคอิจิ ซานิงาตะ ไม้เบื่อไม้เมาของ ลูแปง และดาราสาว เมสะ คุโรกิ (Meisa Kuroki) ถูกวางตัวให้เป็น ฟุจิโกะ มิเนะ นางเอกของเรื่อง นอกจากนั้นหนังยังประกาศอย่างเป็นทางการครั้งแรกว่าได้ ริวเฮ คิตามูระ เจ้าของผลงาน Azumi และ Godzilla Final War ที่เคยโกอินเตอร์ไปทำหนังฮอลลีวูดมาแล้ว รับหน้าที่เป็นผู้กำกับ
       

เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันแล้วที่ศิลปินเกาหลีใต้ จะไม่มีส่วนร่วมในมหกรรมดนตรีส่งท้ายปี 'Kohaku Uta Gassen' ของสถานีโทรทัศน์ NHK แห่งญี่ปุ่น
       
       นอกจากรายการ Kohaku Uta Gassen ที่จะไม่มีศิลปิน K-Pop จากเกาหลีใต้มีส่วนร่วมในปีนี้ ซึ่งนับเป็นปีที่สองติดต่อกันแล้ว ในเวลาเดียวกันก็มีคำยืนยันว่าศิลปินเกาหลีใต้ก็ยังไม่ได้รับเชิญให้ไปร่วมรายการเพลงส่งท้ายปีของสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นทั้ง Best Hit Music Festival ของ Yomiuri TV และ FNS Music Festival ของ Fuji TV ด้วยเช่นเดียวกัน
       
       Kohaku Uta Gassen หรือการประกวดเพลงขาวแดง เป็นรายการเพลงที่จะคัดเลือกศิลปินที่มีผลงานโดดเด่นในรอบปีของวงการดนตรีญี่ปุ่น ให้มาแข่งขันร้องเพลงกัน โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ทีม คือ ศิลปินชายเป็นทีมสีขาว และศิลปินหญิงเป็นทีมสีแดง ถือว่าเป็นรายการเพลงส่งท้ายปีที่จะมีทั้งนักร้องดาวเด่น และเพลงฮิตในรอบปีมาให้ชาวปลาดิบได้รับความบันเทิงก่อนเข้าสู่ช่วงของการส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งรายการถือว่าส่วนหนึ่งของประเพณีวันสิ้นปีของชาวญี่ปุ่นไปแล้ว แต่ละปีจะมีผู้คนจากทุกกลุ่มอาชีพ และอายุ ติดตามชมจนเรตติ้งของรายการพุ่งขึ้นไปสูงถึง 40% เป็นอย่างต่ำ
       

"สตีเฟน ซิว" (Stephen Shiu) ผู้อำนวยการสร้างชื่อดังชาวฮ่องกง ต้องรีบชี้แจงโดยทันทีหลัง "หลิวเจียหลิง" (Carina Lau) กล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่าเธอเคยปฏิเสธที่จะเล่นหนังเรื่องหนึ่งที่เขาเป็นผู้สร้าง จนเป็นที่มาของคดีลักพาตัวอันโด่งดังเมื่อ 20 ปีก่อน ซึ่งผู้อำนวยการสร้างคนดังยืนยัน "หลิวเจียหลิง" จำชื่อหนังผิดแน่นอน
       
       หลิวเจียหลิง ได้กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับรายการสุดฮิต TELLING MARIA 2 ว่าเหตุผลที่เธอเคยถูกลักพาตัว ก่อนจะโดนแก้ผ้าและถ่ายรูปเก็บเอาไว้นั้น มาจากสาเหตุที่เธอปฏิเสธไม่ยอมรับงานหนังเรื่อง Long Arm of the Law หรือในชื่อภาษาจีนว่า San Gong Kei Bing แต่ก็ยังเอ่ยปากขอบคุณบรรดาคนที่ลักพาตัวเธอไปในตอนนั้น ที่พวกเขาไม่ได้ลงมือทำอะไรเธอ และกล่าวว่าเธอรู้สึกโกรธคนที่บงการอยู่เบื้องหลังเท่านั้น
       
       หลังเทปรายการได้ออกอากาศเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สตีเฟน ซิว โปรดิวเซอร์คนดังเจ้าของหนังอีโรติกสุดฮิตอย่าง 3D Sex and Zen ที่ครั้งหนึ่งเคยแจ้งเกิดในวงการด้วยการสร้างและกำกับ Long Arm of the Law ได้เขียนข้อความผ่าน Facebook ว่าเขาไม่เกี่ยวกับเรื่องการลักพาตัว หลิวเจียหลิง แน่นอนพร้อมอธิบายว่าเขาสร้าง Long Arm of the Law มาทั้งหมด 4 ภาคตั้งแต่ภาคแรกในปี 1984, ภาคสองในปี 1986, ภาคสามในปี 1988 และภาคสุดท้ายในปี 1989 หลังจากนั้นก็ไม่ได้หยิบหนังว่าด้วยเรื่องราวของกลุ่มโจรจีนแดงชุดนี้ขึ้นมาสร้างอีก หนังจึงไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ หลิวเจียหลิง ในปี 1990 แต่อย่างใด
       

การ์ตูนสุดคลาสสิคของ “ฮิโตชิ อิวาอากิ” (HITOSHI IWAAKI) ที่ชื่อ “ปรสิต เดรัจฉาน” (Parasite / 寄生獣 / Kiseiju / Parasyte) กำลังจะถูกผู้กำกับชาวญี่ปุ่นนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์แล้ว โดยผู้สร้างวางแผนถ่ายทำหนังเป็นสองภาค มีกำหนดเข้าฉายตั้งแต่ปี 2014 – 2015
       
       ด้วยเรื่องราวแนววิทยาศาสตร์อันน่าเชื่อถือ และเนื้อหาวิพากษ์ความเป็นไปของมนุษย์ได้อย่างน่าสนใจ บวกกับงานภาพอันดุเดือด และสมจริงทำให้ Parasyte ของ ฮิโตชิ อิวาอากิ เป็นการ์ตูนที่โด่งดังไปทั่วโลก และทำยอดขายถึง 11 ล้านเล่มในประเทศญี่ปุ่น แม้จะตีพิมพ์จบไปตั้งแต่ปี 1995 แต่ก็ยังถูกพูดถึงอยู่ตลอด ในประเทศไทยนั้น สยามอินเตอร์คอมมิกส์ ได้ทำการตีพิมพ์ใหม่อีกครั้งเมื่อปี 2011 ในชื่อ "ปรสิต" ซึ่งด้วยเนื้อหาในแนวนิยายวิทยาศาสตร์ที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือ ก็ทำให้แฟนๆ อยากเห็นการ์ตูนเรื่องนี้ในรูปแบบภาพยนตร์มาโดยตลอด ถึงขนาดที่ว่าครั้งหนึ่งทาง New Line Cinema ได้ซื้อลิขสิทธิ์ไปสร้างเป็นหนังมาแล้ว แต่สุดท้ายโปรเจ็คก็ไม่คืบหน้า จนลิขสิทธิ์การสร้างหนังหมดไปเมื่อต้นปี 2013 ที่ผ่านมา ทาง Toho ของญี่ปุ่นจึงคว้าลิขสิทธิ์ดังกล่าวมาแทน
       
       โดยทางผู้สร้างได้วางตัวให้ ทากาชิ ยามาซากิ ผู้กำกับ Always: Sunset on Third Street มากำกับ Parasyte ฉบับภาพยนตร์ ที่จะสร้างออกมา 2 ภาคด้วยกัน
       

       การ์ตูนระดับตำนานของวงการบันเทิงแดนปลาดิบ "โดราเอมอน" (Doraemon) ได้รับการแปลงโฉมครั้งสำคัญ ในรูปแบบภาพยนตร์สามมิติเป็นครั้งแรก โดยจะมีกำหนดเข้าฉายในปีหน้า เพื่อฉลองในวาระครบรอบวันเกิดปีที่ 80 ปี ของ "ฟุจิโกะ เอฟ. ฟุจิโอะ"  (Fujiko F. Fujio) ผู้เขียนการ์ตูนเรื่องนี้

      ไอดอลหนุ่มเชื้อสายไทยแห่งวง 2PM ได้รับคัดเลือกให้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ตอนพิเศษ ส่วนหนึ่งของซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวน ที่สร้างจากการ์ตูนชื่อดัง ที่จะมีกำหนดฉายในปีหน้า
       
       Oricon เปิดเผยว่า นิชคุณ (NichKhun) จะได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ตอนพิเศษในชุด “คินดะอิจิ” ที่สร้างจากการ์ตูนที่ทุกคนรู้จักกันดี ในตอนที่ชื่อว่า Kindaichi Shonen no Jikenbo Gokumon Juku Satsujin Jiken ที่มีกำหนดจะออกอากาศทาง NTV ในปี 2014 และนี่จะนับเป็นการรับงานแสดงทางโทรทัศน์ญี่ปุ่นของ นิชคุณ เป็นครั้งแรกด้วย
       
       นิชคุณ ยังได้เปิดเผยกับสื่อญี่ปุ่นว่าตัวละครของเขาจะมีบทสำคัญในเรื่องอยู่พอสมควร และเขาเองก็กำลังอยากแสดงในซีรีส์เรื่องนี้มาก เพราะเป็นโอกาสที่จะได้ร่วมงานกับนักแสดงเก่งๆ และยังได้เพื่อนใหม่ๆ ด้วย
       
       ซึ่งก่อนหน้านี้ คินดะอิจิ ในตอน Kindaichi Shonen no Jikenbo Hong Kong Kowloon Zaiho Satsujin Jiken ก็เคยมีการเลือกให้ไอดอลจากเกาหลีใต้อย่าง ซึงรี (Seungri) แห่งวง BIGBANG มาร่วมแสดงด้วย พร้อมทีมนักแสดงนานาชาติ อาทิ เจิ้งจือเหว่ย (Eric Tsang), อู๋จุน (Wu Zun) และ วิเวียน ซู (Vivian Hsu) เป็นต้น
       

ริโนะ ซาชิฮาระ” (Rino Sashihara) สมาชิกกลุ่มไอดอล HKT48 และนักแสดงหนุ่ม “ยูสึเกะ ยามาโมโตะ” (Yusuke Yamamoto) ได้รับการคัดเลือกจากสมาคมทันตแพทย์ ให้ทั้งคู่เป็นเจ้าของรอยยิ้มแห่งปี 2013 ของประเทศญี่ปุ่น

       เนื่องในวัน “สุขภาพฟันดี” ของญี่ปุ่น ซึ่งตรงกับวันที่ 8 พ.ย.ของทุกปีทางสมาคมทันตแพทย์ของญี่ปุ่นได้เลือกนักแสดงหนุ่มสาวที่มีรอยยิ้มที่น่าจดจำที่สุดประจำปี 2013 โดยฝ่ายหญิงรางวัลดังกล่าวตกเป็นของไอดอลสาว ริโนะ ซาชิฮาระ แห่งวง HKT48 ที่ได้ชื่อว่าเป็นหญิงสาวที่มีรอยยิ้มที่สวยที่สุดในปี ส่วนฝ่ายชายรางวัลตกเป็นของ ยูสึเกะ ยามาโมโตะ นักแสดงวัย 25 ปี ที่มีผลงานการแสดงที่โดดเด่นในหนังหลายเรื่องเป็นผู้ครองตำแหน่ง
       
       โดยสมาคมทันตแพทย์ได้จัดงานมอบรางวัลดังกล่าวมาหลายปีติดต่อกันแล้ว ซึ่งในปีที่ผ่านๆ มา มีชื่อผู้ได้รับรางวัล อาทิ โกริคิ อายาเมะ, นากาซาวา มาซามิ และ เอมิ ทาเคอิ เป็นต้น
       
       สำหรับงานมอบรางวัลแบบนี้ ถือเป็นกิจกรรมที่องค์กร หรือธุรกิจหลายๆ ประเภทในญี่ปุ่นมักจะจัดขึ้นมา เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ตัวองค์กร แบบเดียวกับที่สมาคมธุรกิจร้านแว่นตา มอบรางวัลให้กับนักแสดงที่สวมแว่นขึ้นที่สุด หรือการมอบรางวัลผู้ที่สวมใส่กางเกงยีนได้สวยที่สุดนั่นเอง

Manager Online

       เปิดเผยออกมาแล้วว่า 3 นักแสดงหนุ่มชาวญี่ปุ่น และซูเปอร์ตาร์แห่งเกาะไต้หวัน จะร่วมรับบทนำในหนังที่ดัดแปลงจากการ์ตูนชื่อดัง Lupin III ที่จะมีดาราสาวชาวไทย “รฐา โพธิ์งาม” ร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้ด้วย
       
       สื่อแดนปลาดิบเปิดเผยว่าหนังที่สร้างจากการ์ตูนสุดคลาสสิก Lupin III ได้วางตัวนักแสดงในบทนำเกือบครบแล้ว โดยดาราหนุ่ม โองุริ ชุน (Oguri Shun) จะรับบทเป็น อาร์แซน ลูแปง ที่ 3 ทายาทของ อาร์แซน ลูแปง ยอดหัวขโมยในตำนาน ส่วนนักแสดงหนุ่มชาวไต้หวัน เจอร์รี (Jerry Yan) แห่ง F4 จะรับบทเป็นคู่ปรับอันดับ 1 ของ ลูแปง ซึ่งการเลือกทั้งสองคนมารับบทนำ อาจเป็นเรื่องบังเอิญนิดหน่อย เพราะต่างฝ่ายต่างก็เคยแสดงในซีรีส์ที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูน Hana Yori Dango มาเหมือนกัน โดย เจอร์รี รับบทนำเป็นตัวละครที่ชื่อว่า เต้าหมิงซื่อ ในซีรีส์ฉบับไต้หวัน Meteor Garden ส่วน โองุริ ชุน แสดงเป็นตัวละครที่ชื่อว่า รุย ฮานาซาวะ ในฉบับของทางญี่ปุ่น
       
       ยังมีข่าวว่าหนังจะมี โช ซากุราอิ (Sho Sakurai) แห่งวง Arashi และ ซาโตชิ ทสึมาบุกิ (Satoshi Tsumabuki) ร่วมแสดงนำด้วย แม้ยังไม่มีการเปิดเผยว่าทั้งสองจะสวมบทบาทเป็นตัวละครตัวใด แต่มีข่าวลือว่า ซากุราอิ อาจจะแสดงเป็น จีเกน ไดสุเกะ ส่วน ทสึมาบุกิ จะรับบทนักดาบหนุ่ม อิชิกาวา โกเอมอนที่ 13
       

สุดยอดซีรีส์ตีแผ่วงการแพทย์ญี่ปุ่นจะกลับมาอีกครั้งในภาค 4 ที่มีกำหนดจะแพร่ภาพในต้นปี 2014 ที่จะถึงนี้
       
       ซากางูจิ เคนจิ (Sakaguchi Kenji) จะกลับมารับบทเป็นนายแพทย์ผ่าตัดอัจฉริยะ “อาซาดะ ริวทาโร” ในซีรีส์ Iryu: Team Medical Dragon 4 ที่จะฉายทาง Fuji TV ตั้งแต่เดือน ม.ค.2014 เป็นต้นไป โดยเรื่องราวในซีรีส์ภาคนี้จะเปลี่ยนจากเนื้อหาที่ว่าด้วยขั้นตอนการรักษาอาการป่วยที่เต็มไปด้วยความยุ่งยากซ้ำซ้อน มาเป็นเรื่องราวของธุรกิจการแพทย์แทน เมื่อ “ทีมดราก้อน” ซึ่งเป็นการรวมตัวของบุคลากรทางการแพทย์ที่มีฝีมือสุดยอดในด้านต่างๆ ต้องกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งเพื่อสร้างโรงพยาบาลที่สมบูรณ์แบบขึ้นมา
       
       Iryu: Team Medical Dragon เป็นซีรีส์ที่ดัดแปลงจากหนังสือการ์ตูนของ อากิระ นางาอิ (เขียนเรื่อง) และ ทาโร โนงิซากะ ที่มี มิเอะ โยชินูมะ มาเป็นที่ปรึกษาด้านข้อมูลทางการแพทย์โดยการ์ตูนตีพิมพ์อยู่ในนิตยสาร Big Comic Superior ระหว่างปี 2002-2011 มีฉบับรวมเล่ม 25 เล่มจบ นอกจากนั้นยังถูกนำมาดัดแปลงเป็นซีรีส์มาแล้วถึง 3 ภาคที่ออกฉายในปี 2006, 2007 และ 2010 ตามลำดับ
       
       สำหรับเรื่องราวในภาค 4 จะว่าด้วยเหตุการณ์ที่วงการแพทย์ญี่ปุ่นพยายามขยายธุรกิจการแพทย์ไปยังต่างประเทศทั้งๆ ที่ในญี่ปุ่นเองก็ยังเกิดปัญหาขาดแคลนหมออย่างหนัก ถึงขั้นโรงพยาบาลท้องถิ่นในญี่ปุ่นต้องถูกปิดตัวไปทีละแห่ง จึงทำให้ ทีมดราก้อน ต้องกลับมารวมตัวกันเพื่อสร้างโรงพยาบาลในอุดมคติขึ้นมา
       

       กลุ่มไอดอลหญิงอันดับ 1 ของวงการบันเทิงญี่ปุ่นเผยชื่อเพลงของซิงเกิลลำดับ 34 ของพวกเธอแล้ว ที่สร้างความฮือฮาด้วยความยาวของชื่อเพลง ที่ยาวเหยียดหลายบรรทัดกันเลยทีเดียว

Walt Disney Japan ประกาศหยิบตัวละครจากโลกของ Marvel Comics มาสร้างในรูปแบบอนิเมะของญี่ปุ่น พร้อมแพร่ภาพในปีหน้าภายใต้ชื่อ Disk Wars: Avengers
       
       ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Marvel ได้ส่งตัวละครในสังกัดไปสร้างเป็นการ์ตูนสำหรับเด็กๆ อย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว นอกจากการ์ตูนลายเส้นแบบตะวันตกแล้ว ก็ยังมีการสร้างในรูปแบบ "อนิเมะ" ของญี่ปุ่นออกมาด้วยเช่นเดียวกัน
       
       แต่สำหรับ Disk Wars: Avengers ผลงานเรื่องล่าสุดของ Walt Disney Japan ที่จะหยิบตัวละครซูเปอร์ฮีโร่ชื่อดังมาสร้างเป็นอนิเมะ จะมีเรื่องราวที่แตกต่างจากการ์ตูนเรื่องที่ผ่านๆ มาโดยสิ้นเชิง
       
       เรื่องราวใน Disk Wars: Avengers จะมีฉากหลังอยู่ในโลกที่เหล่าร้ายถูกขังเอาไว้ในอุปกรณ์ที่เรียกว่า "Disk" จนกระทั่ง โลกิ ได้คิดแผนชั่วร้ายในการปลดปล่อยเหล่าร้ายให้เป็นอิสระออกมา ส่วนซูเปอร์ฮีโร่ก็ถูกจับขังไว้ใน Disk แทน
       
       ท่ามกลางความวุ่นวายต่างๆที่เกิดขึ้น เด็กชาย 4 คน และเด็กหญิงอีก 1 คน คือผู้มีความสามารถพิเศษที่เรียกว่า Bio-Code ที่ทำให้พวกเขาสามารถยืมพลังเพื่อแปลงร่างเป็นเหล่าซูเปอร์ฮีโร่จาก Disk ในแต่ละแผ่นได้ โดย สไปเดอร์แมน ที่หลุดออกมาจากการจองจำ ได้มอบแผ่น Disk ให้เหล่าเด็กๆ จนสามารถแปลงร่างเป็น กัปตันอเมริกา, ธอร์, ฮัลค์ และแวสป์ เพื่อร่วมพลังกับเหล่า Avengers ในการยับยั้งแผนการช่วยร้ายของ โลกิ
       

ข่าวการเสียชีวิตของดาราสาววัย 18 ปี จากน้ำมือของอดีตแฟนหนุ่ม ทำให้สังคมญี่ปุ่นต้องผวากับภัยของพฤติกรรม Stalker อีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดความแคลงใจ ว่ากฎหมาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจของญี่ปุ่น อาจจะไม่สามารถคุ้มครองประชาชนจากภัยประเภทนี้ได้
       
       ซายะ ซูซูกิ (Saaya Suzuki) อาจจะไม่ใช่นักแสดงสาวที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักอะไรนัก เธอเพิ่งจะมีงานภาพยนตร์ ในบทเล็กๆ ของหนังอินดีเรื่องหนึ่ง หลังเริ่มเรียนการแสดงมาตั้งแต่ชั้น ม. 5 และกำลังจะลองรับงานละครเวทีดู แต่สุดท้ายเธอต้องจบชีวิตลงอย่างน่าเศร้า แต่การเสียชีวิตของดาราสาวววัย 18 ปี ที่ก่อนหน้านี้แทบไม่ได้มีใครรู้จัก กำลังเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วประเทศ และส่งผลให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจมากมาย
       
       ประเด็นการเสียชีวิตของ ซายะ ซูซูกิ ด้วยการถูกอดีตแฟนหนุ่มสังหารโหด ได้สร้างผลกระทบไปไกลกว่าที่ใครคิด เมื่อเกิดความไม่มั่นใจออกมาทันที ว่ากฎหมายของญี่ปุ่นในปัจจุบัน อาจจะไม่สามารถยับยั้งการกระทำความผิดของกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมที่เรียกว่า “Stalker” ได้ แม้จะเพิ่งมีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมคุกคามความเป็นส่วนตัวในลักษณะนี้ ที่หมายความรวมถึงทั้งการสะกดรอยตาม, ถ้ำมอง และใช้ช่องทางการสื่อสารต่างๆ ในการคุกคามด้วย
       
       “ซายะ ซูซูกิ” เสียชีวิตอย่างน่าเศร้าสลดเมื่อวันที่ 8 ต.ค.ในบ้านของเธอในกรุงโตเกียว โดยฆาตกรซึ่งเป็นอดีตหนุ่มคนรักที่ชื่อว่า “ชาร์ล อิเคะนากะ” วัย 21 ปี ที่ใช้มีดซึ่งเขาซื้อมาเมื่อ 10 วันก่อนหน้านั้น จ้วงแทงฝ่ายหญิง 5 ครั้ง จนถึงแก่ความตายอย่างโหดเหี้ยม
       

       มีการปล่อยตัวอย่างแรก และโปสเตอร์ของหนัง "แม่มดน้อยกิกิ"  (Kiki's Delivery Service) งานแนวแฟนตาซี ที่เคยเป็นการ์ตูนชื่อดังของ Ghibli ให้ชมกันแล้ว โดยหนังได้ผู้กำกับเจ้าของภาพยนตร์ "ผีดุ" มากุมบังเหียน และมีกำหนดฉายในปีหน้า

       ฟุกะ โกชิบะ (Fuka Koshiba) จะรับบทเป็นกิกิ แม่มดน้อยที่ต้องจากบ้าน, เพื่อน และครอบครัว เพื่อเดินทางไปเรียนเวทมนต์ จนตัดสินใจที่จะเริ่มต้นธุรกิจส่งของ ด้วยการขี่ไม้กวาดคู่ใจเหาะไปบนฟ้า ในภาพยนตร์เรื่อง Kiki's Delivery Service ของผู้กำกับ ทาเคชิ ชิมิซึ เจ้าของหนังแนวสยองขวัญสุดดังในชุด Ju-on ที่เขาเคยข้ามฟากไปกำกับหนังฉบับฮอลลีวูดภายใต้ชื่อ The Grudge มาแล้วด้วย จึงถือเป็นเรื่องฮือฮาไม่น้อยที่คราวนี้ ชิมิซึ จะขอลองเปลี่ยนแนวมากำกับหนังเด็กดูบ้าง
       
       โดยนิยายต้นฉบับที่ชื่อว่า Majo no Takkyūbin เป็นผลงานของ เออิโกะ คาโดโนะ ที่มีความยาว 6 เล่มจบ และทำยอดขายได้ถึง 1.8 ล้านเล่ม นอกจากนั้นก็ยังถูกแปลเป็นภาษาต่างๆ ถึง 8 ภาษา แต่สิ่งที่ทำให้ Kiki's Delivery Service โด่งดังไปทั่วโลกก็คือเมื่อทางบริษัทผลิตอนิเมชั่นชื่อดัง Ghibli Studio ได้หยิบเรื่องราวของแม่มดน้อยกิกิ ไปสร้างเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นเมื่อปี 1989 นั่นเอง
       
       Kiki's Delivery Service ได้ ซาโตโกะ โอคุเดระ จาก Summer Wars และ Wolf Children มาเขียนบทภาพยนตร์ โดยหนังเปิดกล้องถ่ายทำมาตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. ก่อนจะปิดกล้องในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา และมีกำหนดฉายที่ประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 1 มี.ค. 2014

หลังรับบทแรงๆ มาตลอดในระยะหลัง "เอริกะ ซาวาจิริ" (Erika Sawajiri) จะกลับมารับบทเป็นหญิงแสนดี ผู้สดใสร่าเริง อย่างที่เคยทำให้เธอโด่งดังมาแล้วอีกครั้ง ในผลงานการแสดงทางโทรทัศน์เรื่องใหม่
       
       นักแสดงสาวผู้อื้อฉาวได้เปิดตัวผลงานการแสดงในภาพยนตร์พิเศษของสถานีโทรทัศน์ TBS เรื่อง Tokeiya no Musume ที่บอกเล่าเรื่องราวของหญิงสาวผู้มีจิตใจงดงาม และร่าเริงสดใส ที่หวังว่าช่างทำนาฬิกาคนหนึ่ง จะสามารถรักษาความทรงจำที่ดีของเธอเกี่ยวกับคุณแม่ผู้จากไปเอาไว้ได้ นับว่าเป็นงานที่ดาราสาวคนสวยจะได้กลับไปรับบทแบบที่แฟนๆ เก่าคงจะคิดถึงกันอีกครั้ง
       
       โดยทางหนังสือพิมพ์ Sponichi ได้รับคำเชิญจากทีมงานของภาพยนตร์เรื่องนี้ ในการเข้าสัมภาษณ์ และเก็บภาพของเหล่านักแสดงนำ โดย เอริกะ ซาวาจิริ วัย 27 ปี ได้พูดถึงบทของเธอในผลงานชิ้นนี้ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มว่า "ไม่เลวใช่ไหมคะ? ที่ฉันจะได้เล่นเป็นคนดีๆ อีกครั้งหลังจากห่างบทแบบนี้ไปนานเลย" นักแสดงหญิงผู้อื้อฉาวที่ปรากฏตัวในชุดเรียบๆ, พร้อมผมที่ไม่ได้ย้อมจนดูไม่เป็นธรรมชาติ และแต่งหน้าแต่พองามยังกล่าวถึงตัวละครของเธออีกว่า "เธอเป็นคนที่ร่าเริง และจิตใจดี มักจะคิดถึงคนอื่นก่อนเสมอ"
       
       หลังแจ้งเกิดจากบทสาวน้อยผู้น่าสงสาร ที่ต้องทนทุกข์อยู่กับโรคร้ายใน 1 Litre of Tears จนกลายเป็นดาวเด่นแห่งวงการบันเทิงของญี่ปุ่น ซาวาจิริ ต้องพัวพันกับข่าวฉาวหลังแต่งงานกับแฟนหนุ่มใหญ่ที่อายุคราวพ่อ จนเมื่อความสัมพันธ์ดังกล่าวจนลงด้วยการหย่า ดาราสาวอดีตขวัญใจชาวญี่ปุ่นจึงได้กลับมารับงานแสดงอีกครั้ง แต่ก็มักจะเป็นบทที่ค่อนข้าง "แรง" เป็นผู้หญิงที่มีความซับซ้อน มีภาพด้านมืออยู่ค่อนข้างจะสูงในงานในช่วงหลังๆของเธอ
       

มีรายงานจากสื่อไต้หวันระบุว่า นักแสดงหนุ่มหล่อ "ทาเคชิ คาเนชิโร" (Takeshi Kaneshiro) ได้ซุ่มเงียบแต่งงานแล้ว โดยทุ่มทุนนับล้านจัดงานแต่งที่อิตาลีเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
       
       เรียกได้ว่ากลายเป็นที่ฮืออาทีเดียวเมื่อมีรายงานว่า ทาเคชิ คาเนชิโร นักแสดงหนุ่มชื่อดังขวัญใจสาวๆวัย 40 ปี ได้สละโสดกับแฟนสาวที่คบหามานานเป็นที่เรียบร้อย โดยลือว่าจัดงานไกลถึงริมทะเลสาบโคโมที่อิตาลี ท่ามกลางแขกเหรื่อกว่า 30 คน
       
       อย่างไรก็ตามมีรายงานตามมาภายหลังว่าทาเคชิยังไม่ได้สละโสดแต่อย่างใด และงานที่จัดขึ้นเป็นพียงการจัดปาร์ตี้วันเกิดแบบสุดหรูของเขาเท่านั้น ซึ่งทางด้านผู้จัดการส่วนตัวของเขาก็ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นโดยระบุว่า "ผมไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะตอบคำถามอะไรนักข่าวในตอนนี้ทั้งนั้น" ส่วนทางด้านทาเคชิ ก็ยังไม่ได้แถลงข่าวอย่างเป็นทางการเพื่อตอบโต้ข่าวลือครั้งนี้แต่อย่างใด

Manager Online

       ประกาศออกมาแล้วสำหรับคนดังที่จะมาทำหน้าที่พิธีกรในงานมหกรรมดนตรีประจำปีของ NHK ซึ่งในปีนี้บอยแบนด์อันดับ 1 แห่งวงการเพลงญี่ปุ่น จะร่วมทำหน้าที่กับนักแสดงสาวคนดังแห่งยุค
       
       ถือว่าเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันแล้วที่ Arashi จะทำหน้าที่พิธีกรของงาน Kohaku Uta Gassen ในฐานะตัวแทนของทีมสีขาวหรือทีมศิลปินชาย และเป็นครั้งแรกของ อายาเสะ ฮารุกะ (Ayase Haruka) ที่จะเป็นพิธีกรตัวแทนสีแดง หรือศิลปินฝ่ายหญิง ในงานแข่งขันร้องเพลงส่งท้ายปีของ NHK ครั้งที่ 64 ที่จะจัดกันในช่วงวันที่ 31 ธ.ค. ที่จะถึงนี้ ส่วน ยูมิโกะ อุโดะ (Yumiko Udo) จะเป็นพิธีกรดำเนินรายการหลัก
       
       โดยในงานแถลงข่าวซึ่งจัดกันไปเมื่อวันที่ 18 ต.ค. อายาเสะ ที่เพิ่งมีโอกาสมาร่วมกิจกรรม Kohaku Uta Gassen ของเมื่อปีก่อนในฐานะผู้แนะนำศิลปินได้กล่าวว่า "ฉันตื่นเต้นค่ะ ด้วยคำแนะนำจาก Arashi และคุณอุโดะ หวังว่าจะทำให้ Kohaku ออกมาให้วิเศษที่สุด นี่คืองานใหญ่แห่งปี เมื่อปีก่อนฉันก็สนุกมาก สำหรับปีนี้อยากจะทำหน้าที่อย่าง อย่างกล้าหาญ และคล่องแคล้วให้ทุกคนได้เห็นค่ะ"
       
       ฝ่ายสมาชิกของ Arashi อย่าง โอโนะ ซาโตชิ (Ohno Satoshi) ก็กล่าวว่าตอนนี้สถิติของ Arashi ในการนำทีมสีขาวอยู่ที่แพ้ 1 และชนะ 2 ซึ่งเขาก็หวังว่าในปีนี้จะสามารถเป็นผู้ชนะได้อีก ส่วน ไอบะ มาซากิ (Aiba Masaki) ทบทวนไปถึงปีก่อนว่า อายาเสะ เคยมารับเชิญทำหน้าที่แนะนำเพลงของพวกเขาใน Kohaku Uta Gassen ของปี 2012 แต่สำหรับปลายปีนี้คงต้องกลายมาเป็นศัตรูกันแล้ว จน อายาเสะ พูดแซวออกมาว่า "หมกมุ่นอยู่กับเรื่องแพ้ชนะไปรึเปล่าคะ?"

เรียกได้ว่ากระแสของ"แบยองจุน" (Bae Yong Jun) ยังคงแรงดีไม่มีตกเลยจริงๆ ล่าสุดเจ้าตัวเดินทางถึงประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมงานประกาศรางวัลของวงการบันเทิงเกาหลีที่จัดขึ้นที่แดนปลาดิบ งานนี้มีแฟนๆแห่ต้อนรับกว่าห้าพันคนเลยทีเดียว
       
       แบยองจุน นักแสดงหนุ่มชื่อดังจากซีรีย์สุดฮิตอย่าง Winter Love Song ได้เดินทางถึงประเทศญี่ปุ่นพร้อมกับนักร้อง-นักแสดงรุ่นน้อง คิมฮยอนจุง เ(Kim Hyun Joong) มื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา ท่ามกลางการต้อนรับของแฟนๆที่มารอยลโฉมศิลปินในดวงใจแน่นขนัด
       
       โดยบริษัท Key East Entertain สังกัดของแบยองจุน ได้ออกแถลงการณ์กล่าวของคุณแฟนๆว่า "เพื่อรอต้อนรับแบยองจุนและคิมฮยอนจุง แฟนๆกว่าสองพันคน สื่อโทรทัศน์ของญี่ปุ่นและสื่อแขนงต่างๆ ได้มารอทำข่าวตั้งแต่เช้าตรู่ โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลควบคุมกว่า 300 คนรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัยให้กับแฟนๆด้วย"
       
       ตามรายงานระบุว่า 2 นักแสดงดังยังต้องเผชิญกับแฟนๆที่มารอต้อนรับด้านนอกสนามบินอีกกว่าสามพันคน แต่เพื่อความปลอดภัยของทุกคน 2 นักแสดงดังจึงต้องทักทายแฟนๆจากภายในรถเท่านั้น
       
       นอกจาก 2 นักแสดงหนุ่มแล้วยังมี ยุนอึนเฮ, คิมแจวุค, The One , เรียว, Boyfriend และศิลปินอีกมากมายต่างทยอยเดินทางมาเข้าร่วมงาน Korean Entertainment 10th Anniversary Awards in Japan งานประกาศรางวัลครั้งยิ่งใหญ่ของบันเทิงแดนกิมจิที่เมืองปลาดิบด้วย

Manager Online

       ค่ายนัมโคบันไดฝั่งตะวันตกเตรียมวางขายเกมต่อสู้ "โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ" (JoJo's Bizarre Adventure) เวอร์ชันภาษาอังกฤษสำหรับเครื่องเพลย์สเตชัน 3 ยืนยันต้องมีการแก้ไขเนื้อหาเพื่อหลีกเลี่ยงโอกาสเสี่ยงต่อการละเมิดลิขสิทธิ์

       ปัญหาดังกล่าวเกิดจากการ์ตูนต้นฉบับ ซึ่งหยิบยกเอาชื่อติดลิขสิทธิ์ในวงการดนตรีมาใช้ตั้งเป็นตัวละครและความสามารถพิเศษต่างๆ ทำให้การนำซีรีส์นี้มาขายในฝั่งตะวันตก จำเป็นมีการดัดแปลงไปจากเดิม เป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งในอดีตทั้งฉบับหนังสือ อนิเมชันและเกมก่อนหน้าจากค่ายอื่น

       ตัวอย่างชื่อที่การ์ตูนเรื่องนี้นำมาใช้ก็มีทั้ง "วานิลาไอซ์" แร็ปเปอร์ชาวอเมริกัน "คิลเลอร์ควีน" ชื่อเพลงของวงระดับตำนานควีน "เรดฮอตชิลลีเป็ปเปอร์" วงร็อคจากอเมริกา "แบดคอมพานี" วงร็อคจากอังกฤษ "แอร์โรสมิธ" วงฮาร์ดร็อคจากอเมริกาไปจนถึง "สไปซ์เกิร์ล" กลุ่มนักร้องสาวชื่อดังในยุค '90

      ทางนัมโคบันไดเผยว่า พวกเขาจะประสานงานกับสำนักพิมพ์ชูเอย์ฉะเจ้าของลิขสิทธิ์ เพื่อให้การดัดแปลงชื่อยังคงมีความหมายตรงกับเจตนาเดิมของ "ฮิโรฮิโกะ อารากิ" ผู้สร้างผลงานต้นฉบับ โดยจะทำให้สอดคล้องกับฉบับอนิเมชันที่เพิ่งสร้างใหม่และได้ฉายในฝั่งตะวันตกด้วย

       นอกจากชื่อแล้ว นัมโคบันไดยังยืนยันอีกว่าเกมจะมีเสียงพากย์ภาษาญี่ปุ่นต้นฉบับ รวมถึงตัวหนังสือเอฟเฟกต์ตอนต่อสู้ก็จะใช้ภาษาญี่ปุ่นเหมือนเดิม เพื่อให้ได้บรรยากาศเต็มที่ โดยมีกำหนดการวางจำหน่ายคร่าวๆภายในปี 2014

       "ทาเคชิ ยานาเสะ" (Takashi Yanase) นักวาดการ์ตูนและผู้สร้างสรรค์แอนิเมชันเรื่องดังอย่าง อันปังแมน (Anpanman) ได้เสียชีวิตลงแล้วจากอาการหัวใจล้มเหลวที่โรงพยาบาลโตเกียวเมื่อช่วงกลางดึกวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะมีอายุได้ 94 ปี
       
       ทาเคชิ ยานาเสะ กลายเป็นนักวาดการ์ตูนชื่อดังหลังเปิดตัวการ์ตูนแอนิเมชัน โซเระอิเคะ อันปังแมน โดยออกอากาศทางโทรทัศน์เมื่อปี 1988 และกลายเป็นการ์ตูนที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งไม่เพียงแต่โด่งดังในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังมีชื่อเสียงในอีกหลายๆประเทศด้วย จากเนื้อหาที่ต้องการให้เด็กๆเรียนรู้หลักโภชนาการผ่านตัวละครต่างๆทั้ง อันปังแมน, กะหรี่ปังแมน และ ขนมปังแมน ซึ่งการ์ตูนเรื่องนี้ยังทำให้อันปังแมนเป็นหนึ่งในซูเปอร์ฮีโร่ขวัญใจของเด็กๆทั่วเอเชียเช่นกัน
       
       ยานาเสะ ไม่เพียงเป็นผู้อาวุโสที่สุดในโลกการ์ตูนเท่านั้น แต่เขายังมีความสามารถและเป็นที่เคารพในวงการดนตรีอีกด้วย โดยเขาเคยแต่งเพลง Te no Hira wo Taiyō ni ให้กับ ทาคุ อิซึมิ นักร้องชื่อดัง ซึ่งอิซึมิได้แต่งเพลงประกอบการ์ตูน โซเระอิเคะ อันปังแมน ไว้หลายเพลงด้วยเช่นกัน
       
       ตามประวัติของ ทาคาชิ ยานาเสะ ก่อนที่เขาจะมาเป็นนักวาดการ์ตูนเต็มตัว ยานาเสะเคยทำงานฝ่ายโฆษณาที่ห้างสรรพสินค้ามิตซึโกชิ โดยเขาออกแบบกระดาษห่อและงานอื่นๆอีกหลากหลายชิ้น นอกจากนั้นเขายังเป็นผู้อุปถัมภ์ท้องถิ่นให้กับบ้านเกิดของเขา ในฐานะผู้อาวุโสระดับสูงของจังหวัดโคชิ และเขายังเป็นผู้ออกแบบ ตัวการ์ตูนมาสคอตเจ้าหน้าที่รถไฟ โกเมน อิคิโอะ-คุน ให้กับรถไฟสายโกเมน นาฮาริ ด้วย
       

       Johnny ประกาศยกเลิกสัญญากับ "โคกิ ทานากะ" (Koki Tanaka) เมื่อปลายเดือนก่อน ทำให้ KAT-TUN เหลือสมาชิกเพียง 4 คน หลังปรากฏภาพหวาดเสียวของไอดอลหนุ่มวัย 27 เผยแพร่ในนิตยสารแท็บลอยด์ ล่าสุดมีข่าวดาราเอวี "ริสะ โคดะ" (Risa Koda) ที่เคยคบหากับไอดอลหนุ่มคนดัง คือคนที่ปล่อยภาพดังกล่าวออกมา
       
       Johnny's Family ให้เหตุผลเรื่อง "การฝ่าฝืนสัญญาของบริษัทหลายข้อ" ที่ทำให้ต้องยกเลิกสัญญากับ โคกิ ทานากะ วัย 27 ปี แห่งวง KAT-TUN โดยการตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้น หลังศิลปินหนุ่มมีพฤติกรรมละเมิดกฎของบริษัทบ่อยครั้ง รวมถึงเรื่องที่มีภาพวาบหวิวของเขาลงตีพิมพ์ในนิตยสารเล่มหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งข่าวระบุว่าภาพดังกล่าวมีที่มาจาก ริสะ โคดะ ดาราเอวีวัย 27 ปี ที่ครั้งหนึ่งเคยมีสัมพันธ์กับ โคกิ ทานากะ
       
       โดยก่อนหน้านี้มีสัญญาณระแคะระคายให้เห็นว่า โคกิ ทานากะ อาจจะออกจาก Johnny's Family และ KAT-TUN มาบ้างแล้ว ทั้งในเดือน พ.ค. ที่มีการประกาศตารางทัวร์ของวงที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ KAT-TUN แต่ต่อมาก็โดนลบทิ้งไปในทันที นอกจากนั้นยังมีเรื่องที่สมาชิก 3 คนของ KAT-TUN ได้สลับสับเปลี่ยนในการทำหน้าที่จัดรายการวิทยุของวง แต่ โคกิ ทานากะ กลับไม่เคยได้มาจัดรายการอีกเลย
       
       และพฤติกรรมละเมิดกฎที่ถือว่าเป็นประเด็นสำคัญที่สุดก็คือเรื่องที่ โคกิ ทานากะ ไปเปิดบาร์โดยไม่ได้แจ้งให้กับต้นสังกัดทราบนั่นเอง
       

       สื่อแดนปลาดิบได้สำรวจความเห็นของชาวญี่ปุ่นถึงหลักแสนคน ถึงหัวข้อที่ว่าพวกเขาอยากเห็นศิลปินชาวญี่ปุ่นรายใด ในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬา "โอลิมปิค" (Olympic) ที่จะเกิดขึ้นในปี 7 ปีข้างหน้ามากที่สุด ซึ่งผลปรากฎว่ามีศิลปินชื่อดังของประเทศติดอันดับมามากมาย แม้จะมีความเห็นในมุมมองที่แตกต่างกันออกไปก็ตาม
       
       วงร็อครุ่นใหญ่ Southern All Stars คือศิลปินที่ชาวญี่ปุ่นเกือบ 9,000 คน เลือกให้เป็นศิลปินที่พวกเขาอยากเห็นในพิธีเปิดของมหกรรมกีฬาระดับโลกในปี 2020 มากที่สุด รองลงมาเป็นวงบอยแบนด์ชื่อดัง อาทิ Arashi, Exile และ SMAP ส่วนคู่ดูโอสุดดังในอดีตอย่าง Dreams Come True มาเป็นอันดับ 6 และกลุ่มศิลปินหญิงที่ดังที่สุดแห่งยุค AKB48 มาในอันดับ 7 ในการทำสำรวจที่มีผู้รวมตอบแบบสอบถามถึง 143,394 คน
       
       ในเวลาเดียวกันยังมีเสียงแสดงความคิดเห็นของชาวญี่ปุ่นต่อการทำ Poll ครั้งนี้ออกมาด้วย อย่างชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งได้กล่าวว่าแปลกใจว่า "Southern All Stars ยังอยู่อีกเหรอเนี่ย?" ส่วนอีกรายก็ไม่คิดว่าการเลือกใช้ศิลปินไอดอลในงานระดับโลกอย่างกีฬาโอลิมปิคจะเป็นความความคิดที่ดี "AKB กับ Arashi เนี่ยนะ? โดยเฉพาะ AKB เราคงโดนทั่วโลกหัวเราะเยาะแน่"
       
       นอกจากนั้นก็ยังมีชาวญี่ปุ่นบางคนที่คิดว่า หากจะนำการแสดงของศิลปินชาวญี่ปุ่นขึ้นไปโชว์ในพิธีเปิดโอลิมปิค พวกเพลงจาก Vocaloid และเพลงการ์ตูนอนิเมชั่นก็น่าจะได้มีโอกาสไปอยู่ในพิธีดังกล่าวด้วยเช่นเดียวกัน
       
       20 อันดับศิลปินที่ชาวญี่ปุ่นอยากเห็นในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคในปี 2020

       ดาราสาวคนสวย "เอมิ ทาเคอิ" (Emi Takei) คือหนึ่งในผู้ที่ได้รับรางวัลสาวที่สวมแว่นแล้วขึ้นที่สุดคนหนึ่งในปี 2013 เช่นเดียวกับนางแบบสาวคนดัง "โรล่า" ที่ได้รับรางวัลสาวที่ใส่แว่นกันแดดแล้วดูดีที่สุด
       
       จัดกันมาเป็นครั้งที่ 26 แล้วสำหรับการมอบรางวัลให้กับคนดังชาวญี่ปุ่น ที่ใส่แว่นแล้วดูดีที่สุดในรอบปี โดยในปีนี้ดาราสาวคนสวย เอมิ ทาเคอิ วัย 19 ปี ที่กำลังโด่งดังจากหนังเรื่อง Rurouni Kenshin ได้รับรางวัลในสาขาพิเศษ ในฐานะนักแสดงขวัญใจวัยรุ่น ที่ทำให้คนญีปุ่นรุ่นใหม่ใส่แว่นตากันมากขึ้น, ส่วนนางแบบสุดฮ็อต โรล่า หรือ เอริ ซาโตะ ได้รับรางวัลเป็นสาวที่ใส่แว่นตากันแดดได้ขึ้นที่สุดในรอบปี และนักแสดงสาวรุ่นใหญ ซูซูกิ โฮนามิ เป็นผู้ได้รับรางวัลในสาขาคนบันเทิง
       
       ด้านสาขานักการเมืองเป็น โทโมมิ อินาดะ วัย 54 ปี สมาชิกพรรคแอลดีพี เป็นผู้รับรางวัลไป, ส่วนนักเขียนชื่อดัง นาโอกิ เฮียวคุตะ วัย 57 ปี เป็นเจ้าของรางวัลสาขาบุคลากรสายวัฒนธรรม, โทโมกิ คาเมดะ วัย 22 ปี นักมวยแชมป์โลกรุ่นแบนตัมเวตของ WBO รับรางวัลในหมวดคนกีฬา และนักวิเคราะห์ ทาคุโร่ โมรินากะ วัย 56 ได้รับรางวัลในสาขาคนในแวดวงธุรกิจ

Manager Online