ข่าวญี่ปุ่น

       เกิร์ลกรุ๊ปสาวพุ่งแรงแห่งวงการบันเทิงเกาหลีใต้ Crayon Pop กำลังโด่งดังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ด้วยลีลาความน่ารักในแบบไม่เหมือนใครใน K-Pop แต่ในเวลาเดียวกันกลับมีคนแสดงความเห็นว่าสาวๆ กลุ่มนี้ลอกเลียนแบบไอเดีย และเครื่องแต่งกายหลายๆชุดมาจากเกิร์ลกรุ๊ปของญี่ปุ่น

       ขณะที่เกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีใต้เริ่มจะอวดความเซ็กซี และเครื่องตัวด้วยเสื้อผ้าน้อยชิ้นลงเรื่อยๆ แต่ Crayon Pop กลับมาในท่าเต้น และเสื้อผ้าในแบบไม่เหมือนใคร จนเพลง และมิวสิควิดีโอของ 5 สาวเป็นที่นิยมขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งล่าสุดก็เพิ่งทยานขึ้นอันดับ 1 Billboard K-pop ได้เมื่ออาทิตย์ก่อน
       
       แต่กว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ 5 สาว Crayon Pop ที่เริ่มต้นออกผลงานในญี่ปุ่นก่อน จึงจะเริ่มเข้าสู่วงการเพลงเกาหลีใต้ ก็ต้องใช้เวลาอยู่พอสมควร ถึงจะส่งให้เพลง Bar Bar Bar ของพวกเธอโด่งดังได้ขนาดนี้ ถึงขั้นขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ตหลายๆสถาบันอย่างน่าเซอร์ไพร์ซ ทั้งๆที่ปล่อยออกมาตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย. แล้ว
       
       ถึงตอนนี้มีคนคาดหวังเอาไว้ว่า Crayon Pop อาจจะเดินทางรอยของ Psy ที่ใช้เพลงแนวสนุกสนานไม่เหมือนใคร สร้างชื่อจนโด่งดังเป็นซูเปอร์สตาร์ในระดับโลก
       
       Crayon Pop ยังเพิ่งเซ็นสัญญากับบริษัท Sony Music Korea เพื่อเผยแพร่ผลงานในตลาดต่างประเทศให้จริงจังขึ้น โดยทางตัวแทนของ Sony กล่าวชื่นชมกลุ่มศิลปินหญิงกลุ่มนี้ว่าเต็มไปด้วยความแตกต่าง และความคิดสร้างสรรค์ มีคุณสมบัติพร้อมสำหรับการออกไปสู่ตลาดเพลงนานาชาติอย่างเต็มที่ ส่วนตัวแทนจากต้นสังกัดของพวกเธอก็กล่าวว่านี่จะเป็นโอกาสอันดีของ Crayon Pop ที่จะเพิ่มฐานความนิยมขึ้นไปอีกในอนาคต
       

      เรียกว่าเป็นสาวสวยอดีตสมาชิกวง AKB48 คนแรกๆ ที่แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาไปแล้วก็ว่าได้ สำหรับ "โอโฮริ เมกุมิ" (Ohori Megumi) ที่ได้เข้าพิธีแต่งงาน และจัดงานเลี้ยงฉลองการสมรสกับสามีนักเขียนบท "คาเนซาว่า เท็ตสึยะ" ที่โรงแรมเชอราตัน ไวกิกิ ในเกาะโออาฮุ ของรัฐฮาวาย
       
       หลังจดทะเบียนสมรส และจัดงานกันที่ญี่ปุ่นไปแล้วเมื่อต้นปี โอโฮริ เมกุมิ อดีตสมาชิกของวง AKB48 และ SDN48 ได้เข้าพิธีแต่งงานในชุดเจ้าสาวสีขาวที่เพื่อนสนิทจากวงอย่าง ชิโนดะ มาริโกะ เป็นคนออกแบบให้ตามที่เธออยากจะได้ใส่ซักครั้งในในชีวิต "รู้สึกดีใจจริงๆ ค่ะที่ในที่สุดความฝันก็เป็นจริงแล้ว"
       
       ในพิธีที่จัดแบบเรียบง่าย และห้อมล้อมด้วยสมาชิกในครอบครัวกับเพื่อนสนิทเท่านั้น เจ้าสาว ยังกล่าวด้วยความยินดีว่า "เราสามารถจัดพิธีที่วิเศษแบบนี้ขึ้นมาได้ ภายใต้ท้องฟ้าสีครามของฮาวาย เต็มไปด้วยเพื่อนๆ และครอบครัวที่มากันถึงที่ฮาวาย ... หลังได้แลกแหวนกันอีกครั้ง ฉันรู้สึกผูกพันกับเขามากขึ้นไปอีก และตอนนี้ก็คงกลายเป็นไอดอลที่มีสามีไปแล้วจริงๆ"
       
       "ได้มีครอบครัว และเพื่อนๆ มาอยู่ตรงนี้ด้วยกัน ได้สนุก และร่วมในพิธีที่มีความสุข ถือว่าฉันเป็นคนที่โชคดีจริงๆค่ะ"
       
       โอโฮริ เมกุมิ วัย 29 ปี เคยเป็นสมาชิกของ AKB48 จนถึงปี 2009 ก่อนจะย้ายเข้าไปร่วมกลุ่มกับ SDN48 วงไอดอลแนวสาวเซ็กซี่ที่ตอนนี้ยุติการทำงานร่วมกันไปแล้ว และตอนนี้เธอได้หันมารับงานเดี่ยวแทน

Manager Online

       ผลงานใหม่ของ Studio Ghibli ดูจะเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมชาวญี่ปุ่นเช่นเคย แต่ก็ยังมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่รู้สึกไม่พอใจในบางส่วนบางภาพจากหนังเรื่องนี้ โดยเฉพาะกลุ่มต่อต้านการสูบบุหรี่ในญี่ปุ่น ที่มองว่าการ์ตูนเรื่องนี้ส่งเสริมการสูบบุหรี่
       
       มีนักวิจารณ์บางคนได้ตั้งข้อสังเกตเอาไว้ว่าผลงานการ์ตูน The Wind Rises หรือ Kaze Tachinu ของ Studio Ghibli โดยผกก. ฮายาโอะ มิยาซากิ มีฉากสูบบุหรี่ให้เห็นอยู่ด้วย ซึ่งฉากดังกล่าวก็ทำให้เกิดเรื่องขึ้นมาจนได้เมื่อ สมาคมควบคุมยาสูบแห่งญี่ปุ่น ได้แสดงจุดยืนไม่พอใจในเรื่องนี้
       
       เป็นที่รู้กันดีว่าภาพยนตร์การ์ตูนของ Studio Ghibli เป็นที่นิยมมากในสังคมญี่ปุ่น ผลงานแทบทุกเรื่องทำเงินมหาศาล และส่งผลทางวัฒนธรรมต่อสังคมในด้านต่างๆ มากมาย ส่วนใหญ่เป็นการส่งเสริมค่านิยมในทางบวก และเรื่องราวที่น่าประทับใจ จึงแทบจะไม่มีใครในญี่ปุ่นที่ไม่ชอบหนังของ ฮายาโอะ มิยาซากิ และทีมงาน แต่ล่าสุดกลับมีความเห็นในด้านลบต่อผลงานของ Studio ออกมาบ้าง สำหรับมุมมองของ สมาคมควบคุมยาสูบฯ ที่แสดงความไม่พอใจต่อภาพที่ปรากฎเพียงช่วงสั้นๆ ของหนัง และคิดว่านี่คือการส่งเสริมค่านิยมที่ไม่ดีงามแก่เยาวชนของชาติ
       
       โดยทางสมาคมมองว่าภาพใน The Wind Rises นั้นถือว่าขัดต่อสัตยาบันในกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก ที่ญี่ปุ่นร่วมลงนามด้วยอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในวรรคที่ 13 ที่มีข้อเรียกร้องให้แบนโฆษณาบุหรี่ทุกรูปแบบ ซึ่งจากภาพส่วนหนึ่งน่าจะทำให้ The Wind Rises เข้าข่ายเป็นงานที่มีเนื้อหาส่งเสริมการสูบบุหรี่อย่างชัดเจน
       

สถิติมีไว้ให้ทำลาย สถิติจำนวนข้อความทวีตต่อวินาทีของเดิมคือ 33,388 ข้อความต่อวินาที ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิงเมื่อภาพยนตร์อนิเมะเรื่อง Castle in the Sky ของ Studio Ghibli (บางคนอาจรู้จักในชื่อ Laputa ดูคลิปท้ายข่าว) ออกฉายทางทีวีญี่ปุ่น ส่งผลให้คนญี่ปุ่นพูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้กันมากถึง 143,199 ข้อความต่อวินาที

ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายทางทีวีเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ช่วงเวลาท้องถิ่นประมาณ 11 โมง โดยสถิติข้อความสูงสุดนี้มากกว่าอัตราเฉลี่ยตามปกติของ Twitter ประมาณ 25 เท่าตัว (5,700 ข้อความต่อวินาที)

Twitter คุยว่าสถาปัตยกรรมในปัจจุบันสามารถรองรับโหลดขนาดนี้ได้สบายๆ ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับปรุงแก้ไขสถาปัตยกรรมครั้งใหญ่ หลังจากระบบล่มบ่อยๆ เมื่อ 2-3 ปีก่อน

Castle in the Sky Theatrical Trailer HD

Blognone

       ปล่อยภาพล่าสุดออกมาให้เห็นเป็นการเรียกน้ำย่อย ก่อนที่จะได้ดูกันในปีหน้าสำหรับหนังที่ดัดแปลงจากการ์ตูนชื่อดัง Patlabor ที่เล่าเรื่องการปฏิบัติงานของหุ่นยนต์ยักษ์ในแบบสมจริงสมจัง อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
       
       หลังจากเริ่มต้นสร้างกันไปพักหนึ่งแล้ว ล่าสุดมีการเปิดเผยภาพประชาสัมพันธ์อย่างเป็นทางการของ Mobile Police Patlabor ออกมาให้ชมกันแล้วในงาน Taiwan International Comic Exposition โดยหนังมีกำหนดเข้าฉายภายในปีหน้า
       
       สำหรับต้นฉบับ Mobile Police Patlabor เป็นผลงานของทีม Headgear ที่ประกอบไปด้วยสุดยอดฝีมือแห่งวงการการ์ตูนญี่ปุ่นอันประกอบไปด้วย มาซามิ ยูกิ, ยูทากะ อิสึบุจิ, คาซึโนริ อิโตะ และมาโมรุ โอชิอิ ที่เล่าถึงเหตุการณ์ในโลกอนาคตอันใกล้ (สำหรับตอนที่การ์ตูนต้นฉบับเริ่มเผยแพร่) ในปี 1998 - 2002 ที่มีการพัฒนาหุ่นยนต์ยักษ์ "เลเบอร์" เพื่อใช้งานในด้านต่างๆ และได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในธุรกิจหลายประเภททั้งอุตสาหกรรมหนัก และการก่อสร้าง จนเกิดมีการนำเลเบอร์ไปก่ออาชญากรรมมากมาย กรมตำรวจของโตเกียวจึงก่อตั้งหน่วยงานเลเบอร์ขึ้นมาภายใต้ชื่อ "Patlabor"
       
       โดยเรื่องราวของ Patlabor ต้นฉบับที่มีในหลากหลายรูปแบบทั้ง หนังสือการ์ตูน, อนิเมชั่นซีรีส์ และภาพยนตร์อนิเมชั่น 3 ภาค จะเล่าเรื่องของ "โนอา อิซึมิ" สมาชิกของหน่วยพิเศษ Tokyo Metropolitan Police Special Vehicle Section 2, Division เด็กสาวผู้คลั่งไคล้ในหุ่นยนต์เลเบอร์ และได้รับหน้าที่เป็นพลขับเลเบอร์ประจำหน่วย
       

      สาวน้อยวัยมัธยมต้นผู้มาพร้อมหน้าตาน่ารักสดใสในแบบเป็นธรรมชาติ ไร้การปรุงแต่งเกินพอดี กลายเป็นผู้ครองตำแหน่ง “Miss-Con” ที่จัดขึ้นเพื่อค้นหาสาวสวยในวัยมัธยมในแถบคันโต
       
       สาวน้อยที่ใช้ชื่อในการประกวดว่า Hikauncho กลายเป็นผู้คว้าตำแหน่งในการประกวดระดับท้องถิ่นของเวทีที่ใช้ชื่อว่า Miss-Con หรือ “Miss Cutest High School Girl” ที่ได้รับความสนใจจากสื่อเป็นพิเศษ เพราะเป็นเวทีที่มีเป้าหมายในการค้นหาสาวงามในแบบที่แตกต่างจากเวทีประกวดของญี่ปุ่นโดยทั่วไป
       
       โดยการประกวดเวทีนี้มีกติกาพิเศษว่า สาวน้อยวัยมัธยมผู้เข้าประกวดจะต้องขึ้นเวทีด้วยสีผมที่เป็นธรรมชาติ และแต่งหน้าแต่พองาม ซึ่งถือว่าค่อนข้างแตกต่างกับรสนิยมทั่วไปของชาวญี่ปุ่น ที่ผู้หญิงดูจะชื่นชอบการแต่งหน้าเข้ม, ทำผิวสีแทน และแต่งตัวเลือกเสื้อผ้าเครื่องประดับอันล้ำสมัย
       
       แต่ดูเหมือนว่าระยะหลังเทรนด์ “สวยธรรมชาติ” ได้เริ่มกลับมาสู่กระแสนิยมของวัยรุ่นชาวปลาดิบแล้ว เพราะเริ่มเกิดค่านิยมใหม่ ที่สาวๆ บางคนเริ่มมองว่าพวกเธอสามารถสวยน่ารัก และเป็นที่นิยมได้ แม้จะไม่ได้ปรุงแต่งอะไรมากก็ตาม
       
       สำหรับสาวน้อยผู้ครองตำแหน่ง ซึ่งได้รับมาจากการโหวตของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวญี่ปุ่น ได้ให้คำจำกัดความถึงตัวเองว่าเธอเป็นแฟนของกีฬาเบสบอลตัวยง และยังบอกด้วยว่าเสน่ห์ส่วนตัวอย่างหนึ่งของเธอก็คือฟันที่ยังไม่ได้ดัดนั่นเอง

Manager Online

       กลายเป็นประเด็นให้แฟนๆ AKB48 ต้องวิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง หลังปรากฏภาพไอดอลสาวสมาชิกคนหนึ่งของวง โดนดาวตลกเล่นมุกสุดแรงถีบศีรษะ ในรายการโทรทัศน์ ที่บางคนคิดว่าดูจะรุนแรงเกินเหตุ แต่แฟนคลับบางรายก็รับได้ และมองว่าเป็นเพียงมุกขำๆ ของรายการประเภทนี้อยู่แล้ว

       นักแสดง/ผกก. ระดับตำนานแห่งฮอลลีวูด "คลินต์ อีสต์วูด" (Clint Eastwood) กล่าวว่าเขาประทับใจมากกับ Unforgiven ฉบับญี่ปุ่น ที่ผู้สร้างจากฝั่งตะวันออก นำหนังคาวบอยของเขา ไปสร้างใหม่ด้วยฉากหลังเป็นยุคซามูไร

       Yurusarezaru Mono (許されざる者) หรือ Unforgiven ฉบับซามูไร เป็นผลงานการเขียนบท และกำกับของ อีซังอิล ผกก. ชาวเกาหลีใต้ ซึ่งทำงานในวงการภาพยนตร์ญี่ปุ่น และเป็นเจ้าของหนังขวัญใจนักวิจารณ์ อาทิ Villain และ Hula Girls ที่คราวนี้ขอนำผลงานของ คลินต์ อีสต์วูด กลับมาสร้างใหม่ มอบบทนำให้กับ เคน วาตานาเบ้ (Ken Watanabe) สวมบทบาทเป็น "จูเบ คามาตะ" ซามูไรสูงวัย อันถือว่าเป็นบทเดียวกับ คลินต์ อีสต์วูด ในหนังต้นฉบับ
       
       หนังยังมี อากิระ อิโมโตะ (Villain ,Dr Akagi) ในบทเดียวกับ มอร์แกน ฟรีแมน และ โคอิจิ ซาโตะ รับบทเป็นตัวร้ายที่ใน Unforgiven เป็นบทของ ยีน แฮคแมน
       
       Yurusarezaru Mono มีฉากหลังอยู่ในช่วงปี 1880s หรือจุดเริ่มต้นของสมัยเมจิ ภายหลังการล่มสลายของระบบโชกุน ที่รัฐบาลใหม่ของญี่ปุ่นได้พยายามบุกเบิกดินแดนใหม่ๆ ที่เดิมทีเป็นถิ่นอาศัยของชาวไอนุ โดยตัวละครของ เคน วาตานาเบ้ ที่ชื่อ จูเบ คามาตะ จะมีภูมิหลังเป็นซามูไรผู้รับใช้โชกุน ที่เคยสังหารเหล่าคณะปฏิวัติไปเป็นจำนวนมาก จนชื่อของเขากลายเป็นที่กล่าวขวัญถึงในเมืองเกียวโต แต่เมื่อรัฐบาลของโชกุนถึงคราวล่มสลายในการศึกที่โกเรียวคะขุ คามาตะ กลับสามารถหลบหนีไปได้อย่างไร้ร่องรอย
       

       ข่าวจากญี่ปุ่นรายงานว่าไอดอลสาวคนสวย "มัตสึอุระ อายะ" (Matsuura Aya) กับสมาชิกวง w-inds "ทาจิบานะ เคตะ" (Tachibana Keita) ได้จดทะเบียนสมรสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังคบหาดูใจกันมาเกิน 10 ปี ตั้งแต่ทั้งสองเริ่มเปิดตัวเข้าสู่วงการบันเทิงใหม่ๆ เลยทีเดียว
       
       Sankei Sports รายงานว่า มัตสึอุระ อายะ กับ ทาจิบานะ เคตะ ได้จะทะเบียนกันไปเมื่อวันที่ 4 ส.ค. โดยก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่าฝ่ายหญิงเคยเดินทางไปฮาวาย เพื่อมองหาที่จัดงานแต่งงาน ที่น่าจะเป็นในฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้ หรืออาจจะเป็นหลังจาก ต.ค. เป็นต้นไป ซึ่งแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดของทั้งสองยังเผยว่า คู่รักวัยรุ่นอยากจะจัดง่ายกันแบบเล็กๆ เฉพาะคนในครอบครัวมากกว่า
       
       หลังข่าวการแต่งงานเริ่มมีรายงานในสื่อต่างๆ มัตสึอุระ อายะ ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันถึงข่าวดี และกล่าวถึงการเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่ครั้งนี้ว่า "เขาอยู่กับฉันมาตลอด ตั้งแต่เรายังอายุน้อยกันมากๆ ทั้งเวลาเศร้า, เวลาแห่งความเจ็บปวด, ช่วงเวลาสนุกๆ ทุกช่วงเวลาเลยค่ะ ฉันมีความสุขมาตลอด แต่นับจากนี้ไปก็หวังว่าจะมีความสุขในรูปแบบใหม่ กับการเป็นครอบครัว และช่วยกันสร้างบ้านของเราไปด้วยกัน"
       
       "ฉันเองก็ยังไม่ได้โตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว แต่ก็จะพยายามเข้มแข็งที่สุด, จะทำตัวน่ารัก และมีเหตุผล เพื่อที่จะได้คอยให้กำลังใจหนุ่มคิวชูผู้มุ่งมั่นคนนี้ให้ดีที่สุดค่ะ" มัตสึอุระ อายะ กล่าว
       

       เผยโฉมออกมาแล้วสำหรับ "ไรเดอร์" ประจำปี 2013 ที่ดีไซน์อ้างอิงชุดเกราะซามูไร พร้อมรูปโฉมที่โดนวิจารณ์ว่าแทบไม่หลงเหลือความเป็น "คาเมน ไรเดอร์" เลย นอกจากนั้นไอเดียชุดเกาะผลไม้ก็ดูจะเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยเลย
       
       Kamen Rider Gaim หรือที่เรียกกันในสำเนียงญี่ปุ่นว่า คาเมน ไรเดอร์ ไกมุ เป็นซูเปอร์ฮีโร่ในสายคาเมนไรเดอร์หมายเลขที่ 15 ในยุคเฮเซ (ยุคเฮเซเริ่มนับจากปี 1989 ที่จักรพรรดิอะกิฮิโตะเริ่มครองราชย์) ที่มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการกันในวันที่ 25 ก.ค. ที่ผ่านมา ก่อนจะแพร่ภาพกันในวันที่ 6 ต.ค. ที่จะถึงนี้ต่อไป ต่อจาก Kamen Rider Wizard ซึ่งก็เช่นเดียวกับไรเดอร์ในยุคหลังหลายๆซีรีส์ที่ Kamen Rider Gaim ต้องเจอกับคำวิจารณ์ว่า หาความเป็นไรเดอร์ไม่เจออีกครั้ง
       
       สงครามกลางเมืองของเหล่า "ไรเดอร์"
       
       ตามข้อมูลจากบริษัทผู้สร้างฉากหลังของ Kamen Rider Gaim จะอยู่ในเมืองที่ถูกปกครองโดยเบ็ดเสร็จจากบริษัทยักษ์ใหญ่ Yggdrasil จนผู้คนมีชีวิตราวกับอยู่ในยุค "โจกามาจิ" (หรือ สมัยเอโดะ ที่ประชาชนอยู่อย่างไร้เสรีภาพ ชนชั้นซามูไรภายใต้การปกครองของไดเมียว มีอำนาจล้นฟ้า และชาวบ้านก็ดูจะมีหน้าที่เพียงทำการเกษตรเพื่อจ่ายภาษีในอัตราขูดรีดเท่านั้น) ซึ่งในฉากหลังของซีรีส์ชุดนี้เหล่าเด็กวัยรุ่นมีเพียง "การเต้น" ที่พอจะเป็นกิจกรรมใช้ฆ่าเวลาได้ รวมถึงเกม Lock Seeds ที่เป็นการเรียกเหล่ามอนสเตอร์ที่มีชื่อว่า "Invase" จากอีกมิติออกมาต่อสู้กัน แต่เมื่อเกมดังกล่าวได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาต่างๆ ก็เกิดขึ้นตามมาด้วย
       

ดาวเด่นอีกคนของวงอย่าง "ชิโนดะ มาริโกะ" (Shinoda Mariko) ที่เริ่มต้นด้วยการเป็นเพียงทีมงาน ก่อนจะกลายเป็นขวัญใจของแฟนๆมากมาย ได้ขึ้นแสดงครั้งสุดท้ายในฐานะ AKB48 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

       หลังเป็นสมาชิกของกลุ่มมาถึง 7 ปีเต็ม ในที่สุด ชิโนดะ มาริโกะ ก็ได้จบการศึกษาออกจาก AKB48 ไปเป็นที่เรียบร้อยในพิธีจบการศึกษาของเธอ ซึ่งจัดกันขึ้นที่โรงละครของวงในอากิฮาบาระ เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมา
       
       ในฐานะดาวเด่นที่สุดคนหนึ่งของกลุ่มในปัจจุบัน ไอดอลสาววัย 27 ปี อาจจะถือว่ามีเส้นทางในวงการบันเทิงที่ไม่ค่อยธรรมดานัก จากเด็กสาวที่ไม่ผ่านการออดิชั่นของ AKB48 ด้วยซ้ำ ชิโนดะ มาริโกะ ได้เริ่มต้นงานที่โรงละครของกลุ่มในอากิฮาบาระ ในฐานะพนักงานประจำโรงละครคนหนึ่ง แต่เธอกลับได้รับความนิยมในหมู่แฟนๆของวง ที่เดินทางมาที่โรงละครกันเป็นประจำ จนทำให้โปรดิวเซอร์ชื่อดัง อากิโมโตะ ยาสึชิ สนอกสนใจในตัวของสาวคนนี้ขึ้นมา
       
       โดยในตอนนั้นโปรดิวเซอร์ อากิโมโตะ ได้ตั้งเงื่อนไขการออดิชั่นเป็นพิเศษสำหรับเธอขึ้นมา ให้ทดสอบจำเนื้อเพลงทั้งหมด 12 เพลงให้ได้ใน 4 วัน ซึ่งสุดท้ายสาวน้อยจากฟุกุโอกะก็ทำสำเร็จ และได้เป็นหนึ่งใน AKB48 จริงๆ จนได้ชื่อว่าเป็นสมาชิกรุ่น 1.5 ของวง ด้วยเหตุนี้ เธอจึงมีความทรงจำที่ค่อนข้างเป็นพิเศษกับโรงละครของ AKB48
       
       "ทุกครั้งที่ฉันมาที่นี่ในฐานะทีมงานคนหนึ่ง ฉันรู้สึกว่าตัวเองอยู่ห่างไกลจากเวทีเหลือเกินค่ะ เพราะแบบนั้นฉันจึงรู้สึกรักและยึดมั่นกับเวทีนี้เป็นพิเศษ แม้จะมีช่วงเวลาที่เจ็บปวด, เสียใจ และเวลาที่ฉันเอาแต่ร้องไห้ แต่ตอนนี้ทุกอย่างกำลังจะเป็นอดีตไปหมดแล้ว รวมๆ แล้วนี่คือความสุขของฉัน พูดได้แค่นี้จริงๆ"
       

สื่อแดนปลาดิบเชื่อกระแสบันเทิงเกาหลีใต้หรือ K-Pop ในแดนอาทิตย์อุทัย เริ่มจะอ่อนแรงลงเรื่อยๆ แล้ว นอกจากนั้นด้วยผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ค่าเงินเยนอ่อนตัวลง ก็ทำให้บริษัทจากเกาหลีใต้มีผลกำไรทางธุรกิจในญี่ปุ่นที่ลดน้อยลงไปด้วย
       
       เมื่อไม่นานมานี้บันเทิงเกาหลีใต้เคยรุกญี่ปุ่นอย่างหนัก ชนิดที่ว่าสามารถพบเห็นดารา, ตัวอักษร และความบันเทิงจากประเทศเพื่อนบ้านแทบทุกหนทุกแห่งในญี่ปุ่น ตั้งแต่โฆษณาของศิลปินเพลงป๊อป, เครื่องสำอาง และเครื่องดื่มบำรุงกำลัง เช่นเดียวกับที่มีคนญี่ปุ่นเริ่มเรียนภาษาเกาหลีมากขึ้นเรื่อยๆ
       
       แม้จะมีปัญหาการกระทบกระทั่งในเขตแดนทางทะเล และเสียงประท้วงของกลุ่มอนุรักษ์นิยมในประเทศอยู่บ้าง แต่ก็ดูเหมือนญี่ปุ่นจะไม่สามารถต้านทานการเข้ามาเปิดตลาดของเกาหลีใต้ได้เลย เพราะคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ดูจะเปิดรับการเข้ามาของสินค้าเกาหลีใต้ด้วยความเต็มใจ
       
       อย่างไรก็ตาม ล่าสุด จากการเปิดเผยของสื่อญี่ปุ่น Today Japan ได้ยืนยันว่ากระแสเพลงเกาหลีใต้ในญี่ปุ่นเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อยๆ ยอดขายของบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่อย่าง S.M. Entertainment ลดลงถึง 70% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คำถามสำคัญที่ว่า "ฟองสบู่ K-Pop ใกล้แตกแล้วหรือ?" จึงเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ

อดีตสมาชิก AKB48 "มาเอดะ อัตสึโกะ" (Maeda Atsuko) เตรียมรับบทในซีรีส์ย้อนยุคของ NHK ที่จะเริ่มแพร่ภาพในเดือน ก.ย. ที่จะถึงนี้
       
       หลังเคยปรากฏตัวในซีรีส์ไทกะ Ryomaden มาแล้วล่าสุด มาเอดะ อัตสึโกะ จะได้แสดงนำในซีรีส์แนวย้อนยุค Asaki Yumemishi ~Yaoya Oshichi Ibun ที่จะออกอากาศที่ญี่ปุ่นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
       
       Asaki Yumemishi ~Yaoya Oshichi Ibun อ้างอิงมาจากเรื่องราวของ ยาโอยะ โอชิจิ ลูกสาวของร้านชำ ที่มีชีวิตอยู่ในยุคสมัยเอโดะ ซึ่งเรื่องราวของเธอกลายเป็นตำนาน ซึ่งถูกดัดแปลงเป็นทั้งนิยาย, ถูกนำมาถ่ายทอดในงานละครคาบูกิ และหุ่นกระบอก ที่ว่าด้วยหญิงสาวผู้ตกหลุมรักหนุ่มรับใช้ในวัด หลังเธอได้เข้าไปอาศัยในวัดชั่วคราว เมื่อเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ ในปีต่อมาเธอกลับตัดสินใจวางเพลิง คิดแต่เพียงว่าจะได้กลับไปอยู่กับชายที่รักอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็ถูกจับได้ และโดนลงโทษถึงขั้นประหารชีวิตด้วยการเผาทั้งเป็นเลยทีเดียว
       
       สำหรับซีรีส์จะมีเนื้อหาแบบนิยายเล่มหนึ่ง ที่มองว่าการกระทำของ โอชิจิ เป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิด และจะนำเสนอภาพของตัวละครในด้านที่เป็นผู้หญิงซึ่งกลายเป็นอาชญากรเพียงเพราะต้องการปกป้องชายอันเป็นที่รักเท่านั้น
       
       โดยซีรีส์ยังจะได้ อิเคมัตสึ โซซึเกะ มารับบทนำคู่กับอดีตดาวเด่นแห่ง AKB48 ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งคู่เคยร่วมงานกันมาแล้วใน Moshi Koukou Yakyu no Joshi Manager ga Drucker no Management wo Yondara โดยซีรีส์ยังจะมี นากามูระ มาซาโทชิ, ทาเคชิตะ เคโกะ และ ฮิราโอกะ ยูตะ ร่วมแสดงด้วย
       

       อัลบั้มชุดที่ 10 ของราชินีป๊อปไอดอลอีกคนแห่ง J-pop ขึ้นอันดับ 1 Oricon พร้อมทำยอดขายหลัก 2 แสนแผ่น ถือว่าเป็นยอดขายอัลบั้มของศิลปินเดี่ยวที่เปิดตัวสูงที่สุดในปีนี้เลยทีเดียว
       
       อัลบั้มชุด Feel ของ นามิเอะ อามูโร่ (Namie Amuro) เปิดตัวบนอันดับสูงสุดของชาร์ตอัลบั้ม Oricon ตามคาด ถือเป็นอัลบั้มชุดที่ 6 ติดต่อกันแล้ว ของนักร้องสาวคุณแม่ลูกหนึ่งแล้ว ที่สามารถเปิดตัวด้วยอันดับสูงสุดในชาร์ตนี้ นอกจากนั้นด้วยยอดขายสัปดาห์แรก 247,689 แผ่น ยังทำให้เธอกลายเป็นศิลปินเดี่ยวที่มียอดขายอัลบั้มสัปดาห์แรกสูงที่สุดในปี 2013 แซงหน้าผลงานชุด Nanda Collection ของ แครี ปามิว ปามิว (Kyary Pamyu Pamyu) ที่ทำยอดขาย 126,000 ในสัปดาห์แรกไปได้อย่างขาดลอย
       
       FEEL ประกอบไปด้วยผลงาน 12 เพลง รวมถึง Contrail ที่ถูกเลือกให้ใช้ประกอบซีรีส์ Soratobu Kouhoushitsu และ Can You Feel This Love ซึ่งเป็นเพลงประกอบรายการ Mezamashi TV ของ Fuji TV
       
       สำหรับชาร์ตซิงเกิลอันดับ 1 ตกเป็นของ EXILE TRIBE กลุ่มศิลปินที่เกิดจากการรวมตัวของสมาชิกวง EXILE และ Sandaime J Soul Brothers แห่งสังกัด LDH โดยซิงเกิล BURNING UP ถือว่าเป็นผลงานซิงเกิลที่ 2 ของหนุ่มๆกลุ่มนี้ แต่เป็นเพลงแรกที่ไปไกลถึงอันดับ 1 Oricon

安室奈美恵（Namie Amuro） / 「Contrail」(from ALBUM「FEEL」)MUSIC VIDEO-short ver.-
 

กลายเป็นประเด็นให้ได้พูดถึงกันในวงการเพลงวัยรุ่นของญี่ปุ่น หรือ "ไอดอล" อีกครั้ง เมื่อหญิงสาวสมาชิกของกลุ่มไอดอลวงหนึ่ง ได้ขอถอนตัวจากการเป็นสมาชิกของวง พร้อมยอมรับเธอมีสัมพันธ์กับหนุ่มที่เป็นแฟนคลับจริง
       
       เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ชิโอทานิ ซายากะ (Shiotani Sayaka) แห่งวง Alice Junban ที่อยู่ในสังกัด AliceProject ได้ประกาศผ่านบล็อคว่าเธอจะขอถอนตัวลาออกจากการเป็นสมาชิกของวง และออกจากเอเยนซีต้นสังกัดไปเลย เพื่อเป็นการไถ่โทษที่เธอได้ละเมิดกฎสำคัญของการเป็นไอดอล
       
       โดย ชิโอทานิ ซายากะ เขียนถึงเรื่องนี้ว่า "ฉันขอยุติบทบาทในกลุ่ม เพราะฉันได้ทำผิดที่ส่งรายละเอียดเรื่องที่อยู่ ให้กับแฟนคลับคนหนึ่ง เพื่อติดต่อกันโดยส่วนตัว และสุดท้ายก็ยังได้คบหากับเขาด้วย"
       
       "ฉันเขียนที่อยู่ของตัวเองส่งจดหมายไปหาแฟนคลับคนนี้ หลังจากนั้นเราจึงได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน ซึ่งเรื่องนี้ต้นสังกัดได้มาทราบเอาทีหลัง ฉันถึงได้ตัดสินใจขอลาออกเองในที่สุด รู้สึกเสียใจจริงๆ ที่ความรู้สึกสำนึกต่อหน้าที่ในฐานะไอดอลของฉันต่ำแบบนี้ และปฏิบัติตัวไปแบบไม่ระวัง ฉันรู้ค่ะว่าตัวเองได้ ทรยศความรู้สึกของคนไปมากมาย"
       
       "ท้ายที่สุดฉันเองก็มีปัญหากับการเป็นไอดอล และอยากจะขอโทษสำหรับเรื่องนี้จริงๆ ฉันยังอยากจะขอโทษที่หักหลังเพื่อสมาชิกในวง และทำให้พวกเธอต้องเจอปัญหาไปด้วย ทั้งๆ ที่เราใช้เวลาด้วยกันยิ่งกว่าครอบครัวเสียอีก"
       
       โดยไอดอลสาวยังโพสต์คลิปความยาว 11 นาทีที่เธอได้กล่าวถึงการตัดสินใจ และขอโทษแฟนๆ เอาไว้ในบล็อคด้วย
       

       หน่วยงานด้านท่องเที่ยวของไทเปโดนวิจารณ์อย่างหนัก หลังลงทุนจ่ายเงินถึงเกือบ 7 ล้านเหรียญไต้หวัน ว่าจ้างสมาชิก 3 คนของกลุ่มศิลปินสาว AKB48 ให้มาเยือนกรุงไทเป ทั้งๆ ที่ 3 สาวไม่ได้เป็นดาวเด่นแห่งวงไอดอลดังกล่าวแต่อย่างใด ฝ่ายหน่วยงานท่องเที่ยวของเมืองยันชื่อ AKB48 ขายได้แน่ และ 3 คนนี้ไม่มีมลทิน ไม่เคยมีข่าวฉาว จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
       
       เพื่อโปรโมตการท่องเที่ยวไต้หวัน โดยเฉพาะสร้างจุดขาย เรียกร้องความสนใจจากประชาชนชาวญี่ปุ่นโดยตรง รัฐบาลเมืองไทเปถึงกับยอมทุ่มเงินถึงเกือบ 7 ล้านเหรียญไต้หวัน ว่าจ้างให้สมาชิก 3 คนของ AKB48 กลุ่มศิลปินสาวที่โด่งดังที่สุดในแดนปลาดิบวินาทีนี้ และยังเป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชีย ให้มาเยือนเมืองหลวงของไต้หวัน แต่กลับโดนวิจารณ์อย่างหนักจากสื่อท้องถิ่น และคนในแวดวงดนตรี ว่าเป็นการใช้เงินอย่างไร้ประโยชน์, ไม่เหมาะสม และไม่คุ้มค่า
       
       ในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา AKB48 ได้โด่งดังไปทั่วประเทศญี่ปุ่น ระดับที่เรียกได้ว่าเป็น "ปรากฏการณ์" แห่งธุรกิจบันเทิง ที่มีภาพของสาวๆ กลุ่มนี้อยู่ทุกที่ทุกแห่งในเมืองต่างๆ ของแดนปลาดิบ ผลงานเพลงก็ขายดิบขายดีเกิน 1 ล้านชุดติดต่อกันหลายแผ่น
       
       AKB48 เป็นกลุ่มศิลปินไอดอลที่มีสมาชิกถึงมากกว่า 90 คน ตั้งแต่เด็กสาววัยรุ่น จนถึงสาวอายุ 20 เศษ ที่จะคัดสมาชิกใหม่เข้าร่วมวงในทุกๆปี และแบ่งกลุ่มสมาชิกออกเป็นทีมๆ เพื่อจัดกิจกรรมพิเศษพบปะกับแฟนคลับอยู่เป็นประจำ แต่ในจำนวนสมาชิกเฉียด 100 ชีวิต มีเพียงสมาชิกบางคนเท่านั้น ที่พอจะมีชื่อเสียงชนิดที่ว่าคนในวงนอกที่ไม่ใช่แฟนคลับผู้ติดตามผลงานอยู่เป็นประจำ ที่พอจะคุ้นชื่อ และหน้าตาอยู่บ้าง

       หนังแอ็กชั่นย้อนยุคที่ดัดแปลงจากการ์ตูนของ "วัตสึกิ โนบุฮิโระ" (Watsuki Nobuhiro) ได้ประกาศการสร้างภาคต่ออย่างเป็นทางการแล้ว โดย "ซาโตะ ทาเครุ" (Sato Takeru) จะกลับมารับบทนำเป็นซามูไรหนุ่มผู้พยายามหันหลังในอดีตอันเต็มไปด้วยคาวเลือดเหมือนเดิม
       
       ตามข่าว ซามูไรพเนจร จะสร้างออกมาเพื่อฉายในปีหน้าถึง 2 ภาค โดยหนังภาค 2 ใช้ชื่อว่า "Kyoto Taika-hen" หรือ "ภาคเกียวโตในทะเลเพลิง" และภาค 3 อันเป็นบทสรุปของเรื่องราวจะมีชื่อว่า "Densetsu no Saigo-hen" หรือ "ภาคปิดฉากตำนาน" โดยหนังจะมี โอโมโมะ เคอิชิ เป็นผู้กำกับเหมือนเดิม
       
       สำหรับหนัง "ภาคเกียวโต" นั้นถือว่าเป็นช่วงที่โด่งดังที่สุดของ ซามูไรพเนจร ก็ว่าได้ โดยเนื้อหาจะว่าด้วยการต่อสู้ระหว่าง ฮิมูระ เคนชิน อดีตมือสังหารที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุข กับศัตรูตัวร้ายนาม "ชิชิโอ มาโกโตะ" ที่มีอดีตเป็นมือสังหารในยุคเปลี่ยนแปลงการปกครองเช่นเดียวกับเขา และเกือบเสียชีวิตไปในระหว่างสงคราม แต่ก็เอาตัวรอดมาได้พร้อมบาดแผลเต็มตัว พร้อมเป้าหมายต้องการยึดครองญี่ปุ่นเพื่ออุดมการณ์บางอย่าง
       
       โดยตัวละครสุดดังที่ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวร้ายที่คนชื่นชอบมากที่สุดตัวนี้ จะได้ ฟุจิวาระ เท็ตสึยะ (Fujiwara Tatsuya) แห่งหนัง Battle Royale และ Death Note มารับบท
       
       อย่างไรก็ตามในหนังภาค 2 เคนชิน อาจจะยังไม่ได้เผชิญหน้ากับ ชิชิโอ โดยทันที แต่จะว่าด้วยการต่อสู้ระหว่างนักดาบเจ้าของเพลงดาบล่องนภากับนักดาบเจ้าแห่งความเร็ว เซตะ โซจิโร่ แทน

       "เอรินะ โอโนะ" (Erena Ono) อดีตสมาชิกของ AKB48 สร้างเสียงฮือฮาขึ้นมาไม่น้อย เมื่อเธอจัดอีเวนต์ที่คล้ายๆกับงาน "จับมือ" แต่เปลี่ยนจากการเพียงสัมผัสมือ เป็นการกอดแทน จนเรียกเสียงวิจารณ์ในมุมต่างๆมากมาย
       
       เป็นความจริงที่ต้องเผชิญ สำหรับสมาชิกที่ออกจากวง AKB48 ซึ่งส่วนใหญ่ต้องพยายามต่อสู้ดิ้นรน เพื่ออยู่ในวงการบันเทิงต่อไปให้ได้ สำหรับการแจ้งเกิดให้ได้ในฐานะศิลปินเดี่ยว เช่นเดียวกับสาววัย 19 เอรินะ โอโนะ ที่ดูเหมือนว่าจะทุ่มเทสุดๆ ด้วยการจัดกิจกรรม กับแฟนคลับเพื่อกระตุ้นยอดขายผลงานเพลง ชนิดถึงเนื้อถึงตัวกันเลยทีเดียว
       
       สาวที่จบการศึกษาจาก AKB48 เมื่อปี 2010 เอรินะ โอโนะ ถือว่าเป็นหนึ่งในสมาชิกของวงที่มีระดับความนิยมอยู่ในระดับพอใช้ได้ ถูกจัดอันดับให้อยู่ในลำดับที่ 10 และ 15 ในการ "เลือกตั้งทั่วไป" ประจำปี 2009 และ 2010 กระทั่งเมื่อต้องออกจากวงไปตามวาระ สาวคนนี้เคยเปรยว่า ตนเองอาจจะออกจากวงการบันเทิงไปเลย เพื่อไปศึกษาต่อต่างประเทศ แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจด้วยการเซ็นสัญญากับ LesPros Entertainment หวังจะแจ้งเกิดในฐานะนักแสดงแทน
       
       อย่างไรก็ตามสุดท้าย เอรินะ โอโนะ จึงกลับมาออกผลงานอีกครั้ง และกลับไปหากลุ่มเป้าหมายแฟนๆ ของ AKB48 ด้วยรูปแบบการโปรโมตเพลงที่ใกล้เคียงกับสมัยเมื่อเธอเคยเป็นสมาชิกของวงไอดอลดัง กับการจัดกิจกรรมคล้ายๆ "อีเวนต์จับมือ" ที่จะเปิดโอกาสให้แฟนๆ ที่ซื้อสินค้าในจำนวนที่กำหนด ได้ใกล้ชิดกับศิลปินอย่างถึงเนื้อถึงตัว
       

กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากทีเดียวสำหรับเวทีประกวดสาวงามของญี่ปุ่นประจำปี 2013 ที่ล่าสุดโดนชาวเกาหลีใต้โจมตีบอกหน้าตาแต่ละคนน่าเกลียดเกิน และดูต่ำกว่ามาตรฐาน
       
       ตามรายงานจากเว็บไซต์แอนิเมะอย่างแซงคาคุ คอมเพล็กซ์ ได้เขียนรายงานถึงสาวงามมิสเจแปนที่ได้รับตำแหน่งและผู้เข้าประกวดปีนี้ว่า "หน้าตาน่าเกลียดเกินไป" และ "ดูธรรมชาติเกิน" จากผู้ไม่หวังดีชาวเกาหลี
       
       โดยเว็บไซต์ยังรายงานด้วยว่า ชาวเน็ตของญี่ปุ่นเอง ต่างก็ไม่มีกำลังมากพอที่จะออกมาปกป้องเหล่าผู้เข้าประกวดของประเทศตน โดยแสดงความเห็นเพียงว่า "หน้าตาแบบธรรมชาติก็ไม่ได้แย่อะไรซะหน่อย", "พวกเธอก็ดูปกติธรรมดาทั่วไปไม่ใช่เหรอ?" และ "อย่างน้อยครั้งนี้ก็ไม่ใช่เกมจับผิดหาจุดที่แตกต่างกัน"
       
       อย่างไรก็ตาม การจัดการประกวดสาวงามในเวทีระดับชาติที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ว่าผู้เข้าประกวดหน้าตาไม่ค่อยสวยนั้น นอกจากประเทศญี่ปุ่นที่กำลังเป็นเป้าโจมตีแล้ว ก่อนหน้านี้กองประกวดมิสฮ่องกงปี 2013 ก็เคยต้องปวดหัวกับเรื่องนี้เช่นกัน โดยสื่อออนไลน์ได้วิจารณ์สาวๆที่เข้าประกวด ว่าต่ำกว่ามาตรฐานของสาวๆในเมือง และกล่าวหากองประกวดว่าไม่สามารถดึงดูดใจให้สาวงามจริงๆมาร่วมเข้าประกวดได้ โดยสื่อดังอย่าง Mingpao ก็ได้รายงานด้วยเช่นกันว่า การแข่งขันรอบแรกมีผู้เข้าประกวดจำนวนมาก แต่ผู้ที่ผ่านเข้ารอบต่อไปและดูดีมีเพียงแค่หยิบมือเดียวเท่านั้น ซึ่งที่เหลือส่วนใหญ่ได้รับการวิจารณ์ว่าหน้าตาแปลกๆเสียส่วนมาก

Manager Online

       การร่วมร้องเพลง 'Waterfalls' ระหว่างสมาชิก 2 คนที่เหลือของวง TLC และ "นามิเอะ อามูโระ" (Namie Amuro) ต้องเจอกระแสต่อต้านโดยไม่คาดคิด จากทั้งแฟนเพลงของ TLC และญาติของสมาชิกอีกคนที่เสียชีวิตไปแล้ว ถึงประเด็นที่ว่าวงทำไม่ถูก ที่หาคนมาแทนที่ของ "ลิซา 'เลฟต์ อาย' โลปส์" ( Lisa Left Eye Lopes)
       
       เรจ์นดรอป โลปส์ น้องสาวของ ลิซา 'เลฟต์ อาย' โลปส์ สมาชิก TLC ที่เสียชีวิตไปเมื่อปี 2002 ได้แสดงความผิดหวัง "อย่างรุนแรง" ที่ทางวงได้บันทึกเสียงเพลง Waterfall ผลงานสุดคลาสสิกขึ้นมาใหม่ และมอบส่วนของพี่สาวเธอให้กับศิลปินชาวญี่ปุ่น นามิเอะ อามูโระ เป็นผู้ถ่ายทอดเพลง โดยไม่มีการบอกกล่าวญาติซักคำเดียว
       
       "ฉันไม่รู้เลยจนมีแฟนๆ โพสต์ให้ดูทางอินเตอร์เน็ต ฉันคิดว่ามันคงดีกว่า ถ้าพวกเขาจะบอกกันบ้าง" เรจ์นดรอป โลปส์ บอกกับ TMZ พร้อมเปิดเผยว่าตนเองกับแม่ ทั้งช็อคและเจ็บปวดที่ได้ยินเพลง Waterfall ฉบับครบรอบ 20 ปี และอยากจะให้ทาง TLC คงเสียงของ ลิซ่า เอาไว้เพื่อเป็นการรำลึกถึงเธอ
       
       เรจ์นดรอป โลปส์ (Reigndrop Lopes) ยังบอกว่าถึงเธอจะผิดหวังกับเพลงฉบับนี้ แต่ก็ยืนยันว่าตัวเองยอมรับได้ ที่ศิลปินชาวญี่ปุ่นมาร่วมบันทึกเสียงเพลง Waterfall ในกรณีที่จะเผยแพร่เพลงที่ญี่ปุ่นเท่านั้น
       

       ดาวเอวี "ยูมะ อาซามิ" (Yuma Asami) ที่กำลังต่อสู้กับโรคมะเร็ง ได้เขียนข้อความส่งให้กับนักแสดงรุ่นน้อง เพื่ออวยพรให้กับหนัง 'Sakura Hime' ที่เธอร่วมแสดงอยู่ด้วย และมีกำหนดเข้าฉายในช่วงนี้พอดี แต่เพราะกำลังรักษาตัวจึงไม่สามารถมาร่วมงานกับทุกคนได้
       
       ในการแถลงข่าวเปิดตัวหนัง Sakura Hime เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. มีผู้กำกับ ฮาชิโมโตะ ฮาจิเมะ และนักแสดงนำของเรื่องอย่าง ฮินามิ เคียวโกะ (Hinami Kyoko) กับ อาโอกิ มุเนทากะ (Aoki Munetaka) มาร่วมเปิดตัว แต่กลับขาดนักแสดงคนสำคัญอีกคนอย่าง ยูมะ อาซามิ ดาราเอวีคนดังที่ร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้ด้วยไป เพราะดาราวัย 26 ปี อยู่ระหว่างการรักษามะเร็งรังไข่นั่นเอง
       
       อย่างไรก็ตามแม้จะไม่ได้มาร่วมงานแต่ อาซามิ ก็เขียนข้อความถึงทุกคนทั้งทีมงาน และผู้ชมที่เป็นแฟนคลับของเธอถึงผลงานใหม่เรื่องนี้ "สวัสดีค่ะ ฉัน อาซามิ ยูมะ รู้สึกเสียใจเหมือนกันที่ไม่ได้มางานวันนี้ แต่ Sakura Hime เป็นหนังที่มีค่ามากๆสำหรับตัวเอง ที่ฉันทุ่มเททุกอย่างให้กับหนัง อยากให้ทุกคนได้สนุกกับโลกที่ผู้กำกับ ฮาชิโมโตะ สร้างขึ้นมา ฉันกำลังดีขึ้นเรื่อยๆแล้ว ช่วยรออีกซักหน่อยก่อนจะได้พบกันด้วยนะคะ"
       
       Sakura Hime เล่าเรื่องของ เจ้าหญิงซากุระ (ฮินามิ) ที่ตกหลุมรักชายที่เธอไม่เคยเห็นหน้า เพียงจำได้แค่รอยสัก ถึงขั้นยอมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นโสเภณีเพื่อตามหาชายคนนี้กันเลยทีเดียวโดยในหนัง อาซามิ จะสวมบทบาทเป็นโสเภณีอีกคน ที่อิจฉาเจ้าหญิงซากูระ และพยายามขัดขวางความรักของเธอ ซึ่งในหนังจะมีฉากที่ทั้งสองตบตีกันในสายฝนด้วย
       

       ยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่องสำหรับเรื่อง "ผ่าพิภพไททัน" (Attack on Titan) เมื่อมีแฟนการ์ตูนรายหนึ่ง ลงทุนสร้างเกมแอคชันสามมิติต้นแบบขึ้นมาให้ผู้เล่นโหนสลิงสู้กับมนุษย์ยักษ์ได้เหมือนของจริง
       
       ผู้เขียนเกมนี้คือ Fenglee และทีมงานอีกคนหนึ่ง JiangLi ทำด้านอนิเมชัน ใช้เอนจิน Unity 3D สามารถเล่นได้บนหน้าเว็บทันทีเพียงแค่ติดตั้งโปรแกรมเท่านั้น แต่ก็ยังเป็นแค่ตัวต้นแบบสำหรับทดสอบไม่มีเนื้อหารายละเอียดอะไรมาก
       
       วิธีควบคุมจะใช้ปุ่ม WASD บนคียบอร์ดเคลื่อนที่ หมุนกล้องด้วยการขยับเมาส์ คลิกซ้ายฟันดาบ Spacebar ยิงเชือกสองอัน กด Q หรือ E ยิงเชือกด้านเดียวสามารถกดค้างเพื่อม้วนเชือกเข้าหาเป้าหมายได้ กด C เปลี่ยนโหมดกล้องให้คลิกขวาค้างก่อนขยับ กด L ล็อกเป้าที่ตัวศัตรู ปุ่ม R รีเซ็ตกลับไปเริ่มใหม่ และปุ่ม Backspace เปิดปิดโหมดเต็มจอ
       
       บรรดาศัตรูในเกมจะทำเป็นมนุษย์ยักษ์มีหลายขนาดเหมือนในเรื่อง จู่โจมด้วยการทุบกระทืบผู้เล่นโดนทีเดียวตาย ส่วนผู้เล่นก็ต้องใช้ดาบฟันใส่จุดอ่อนบริเวณท้ายทอยที่เป็นสีแดงตามต้นฉบับ เน้นการลอบสังหารก่อนศัตรูรู้ตัวหรือล่อให้โจมตีมาก่อนแล้วชิงจังหวะโต้กลับ
       
       การ์ตูนเรื่อง "ผ่าพิภพไททัน" เป็นผลงานของ "ฮาจิเมะ อิซายามะ" ที่เริ่มตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 2009 เล่าเรื่องราวในโลกที่มียักษ์ออกอาละวาดสังหารผู้คน ทำให้มนุษย์ต้องมารวมกลุ่มกันสร้างกำแพงขนาดใหญ่ขังตัวเองไว้ข้างในเพื่อความอยู่รอด โดยมีการสร้างเป็นอนิเมชันฉายทางโทรทัศน์อยู่ในปัจจุบันและกำลังจะทำหนังคนจริงแสดงต่อในอนาคต
       

      เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ AKB48 ได้เปิดเผยวัน "จบการศึกษา" ที่แน่นอนของสมาชิก 3 คนของวงอันได้แก่ "ชิโนดะ มาริโกะ" (Shinoda Mariko), "อิตาโนะ โทโมมิ" (Itano Tomomi) และ "อากิโมโตะ ซายากะ" (Akimoto Sayaka) ออกมาแล้ว
       
       จากการเปิดเผยอย่างเป็นทางการโดยต้นสังกัดของ AKB48 ได้มีการประกาศว่าสมาชิกคนสำคัญ 3 คนของวงจะมีกำหนด "จบการศึกษา" หรือสิ้นสุดวาระการเป็น AKB48 ในช่วงปลายเดือน ก.ค. จนถึง ส.ค. อันได้แก่วันที่ 22 ก.ค. สำหรับ ชิโนดะ มาริโกะ, ส่วน อิตาโนะ โทโมมิ จะเป็นวันที่ 27 ส.ค. และ อากิโมโตะ ซายากะ คือวันที่ 28 ส.ค. ซึ่งแน่นอนว่าวาระดังกล่าว จะเกิดขึ้นที่โรงละครของวงในอากิฮาบาระนั่นเอง
       
       ซึ่งนอกจากวันจบการศึกษาแล้ว เป็นประเพณีของสมาชิกในวงไอดอลกลุ่มนี้ ที่จะมีการจัดพิธีจบการศึกษาก่อนหน้านั้นเล็กน้อย ในคอนเสิร์ตใหญ่ของวง โดยพิธีจบการศึกษาของ ชิมาดะ จะมีขึ้นในวันที่ 21 ก.ค. ที่ Fukuoka Yafuoku! Dome, อิตาโนะ ในวันที่ 25 ส.ค. ที่ Tokyo Dome ส่วน อากิโมโตะ จะเป็นวันที่ 22 ส.ค. ที่ Tokyo Dome เช่นเดียวกัน
       
       โดยก่อนหน้านี้สมาชิกของวงคนล่าสุดที่ได้มีพิธีจบการศึกษาที่ Tokyo Dome ก็คืออดีตดาวเด่นอันดับ 1 ของวงอย่าง มาเอดะ อัตสึโกะ (Maeda Atsuko) นั่นเอง
       

      สื่อญี่ปุ่นรายงานว่านักร้องหนุ่มหน้าเข้ม "เคน ฮิราอิ" (Ken Hirai) ได้แต่งงานกับแฟนหนุ่มแบบเงียบๆ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
       
       แม้จะไม่ได้ออกปากยอมรับหรือประกาศตัวอย่างเปิดเผย แต่รสนิยมชอบคนเพศเดียวกันของ เคน ฮิราอิ วัย 41 ปี ก็ค่อนข้างเป็นสิ่งที่แฟนๆ ชาวญี่ปุ่นรับรู้กันดีอยู่แล้ว ล่าสุดสื่อแดนปลาดิบได้เปิดเผยว่า นักร้องหนุ่มคนดังขวัญใจสาวๆคนนี้ ได้ตัดสินใจแต่งงานกับแฟนหนุ่มแบบเงียบๆไปเรียบร้อยแล้ว
       
       หนังสือพิมพ์ Tokyo Sports รายงานถึงเรื่องนี้ว่า แม้ทุกวันนี้จะมีคนบันเทิงญี่ปุ่นจำนวนมาก ที่ยอมเปิดเผยเรื่องรสนิยมทางเพศขอตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังมี "นักร้องเกย์" บางคนที่ไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เพราะภาพลักษณ์ส่วนตัว ที่มีแฟนๆ ติดตามผลงานมากมาย รวมถึงนักร้องหนุ่ม H ที่สื่อรายนี้บอกว่า ถูกต้นสังกัดคัดค้านไม่ให้ประกาศเปิดตัวเป็นเกย์มาตลอด
       
       อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีคนในวงการบันเทิงที่เปิดเปิดเผยว่า H หรือ "K จัง" คนนี้เพิ่งจะจองภัตราคารแห่งหนึ่งที่ 2-Chome หรือ ชินจูกุซอย 2 แหล่งท่องเที่ยวของพวกเกย์เอาไว้ เพื่อจัดพิธีแต่งงานขึ้น ซึ่งมีคนในวงการบันเทิงหลายๆคนได้มีโอกาสไปร่วมงานด้วย
       
       โดยก่อนหน้านี้เขามักจะใช้ชีวิตเก็บตัวอยู่ที่บ้าน แต่คนในละแวกนั้นก็มักจะพบเห็นนักร้องหนุ่มคนนี้ไปไหนมาไหนกับผู้ชายคนหนึ่งเสมอ จากที่ก่อนหน้านี้คนมักจะพบเห็นเขาไปทานอาหารกับนักแสดงหนุ่มคนหนึ่งที่มีชื่อย่อว่า O จนเริ่มมีข่าวว่าทั้งคู่คบหากัน แต่แล้วฝ่ายนักแสดงหนุ่มกลับเลือกที่จะไปแต่งงานปกปิดตัวตนของตัวเอง
       

       Bokura no Yuriika ซิงเกิลลำดับที่ 7 ของ NMB48 สามารถทำยอดขายในวันแรกได้ถึง 421,000 แผ่น ขึ้นอันดับ 1 ของชาร์ต Oricon รายวันแบบไร้คู่แข่ง และยังเป็นสถิติใหม่ของไอดอลจากโอซาก้ากลุ่มนี้เองด้วย
       
       กระแสวงไอดอลตระกูล 48 ยังไม่แผ่วลงง่ายๆ ล่าสุดซิงเกิลใหม่ของ NMB48 (วงประจำนันบะ โอซาก้า) ที่มีชื่อว่า Bokura no Yuriika สามารถทำยอดขายในวันที่ 19 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันจำหน่ายวันแรกของซิงเกิลได้ถึง 421,000 แผ่น ถือว่าทำลายสถิติส่วนตัวของสาวๆ กลุ่มนี้ที่เคยสร้างเอาไว้ในซิงเกิลลำดับที่ 4 Nagiichi ที่ทำยอดขายในวันแรกไปได้ 376,000 แผ่น เลยทีเดียว
       
       สำหรับความสำเร็จที่เกิดขึ้น ยามาโมโตะ ซายากะ (Yamamoto Sayaka) ดาวเด่น และกัปตัน Team N ของ NMB48 ได้กล่าวด้วยความยินดี ว่าก่อนหน้านี้คนมักจะพูดกันว่าพวกเธอเป็นไอดอลจากโอซาก้า ดินแดนที่ปกติแทบไม่สามารถปั้นนักร้องสาววัยรุ่นให้ดังขึ้นมาได้เลย ซึ่งทุกคนคงไม่สามารถมาได้ไกลแบบนี้ ถ้าไม่ได้รับแรงสนับสนุนจากแฟนๆ "อยากจะขอพูดอีกครั้ง ว่าขอบคุณมากๆเลยค่ะ" ไอดอลสาวตัวแทนของวงกล่าว