ข่าวจีน

       เรื่องที่นางเอกสาวคนดัง "หยวนหย่งอี้" (Anita Yuen / 袁詠儀) เคยให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าเธอเคยคบหากับชายที่แต่งงานมีครอบครัวแล้ว ได้กลับมาเป็นประเด็นในหน้าสื่อฮ่องกงอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ "จางจื่อหลิน" (Julian Cheung / Chilam Cheung / 張智霖) สามีของเธอได้เปิดปากเอ่ยถึงเรื่องนี้เป็นครั้งแรก
       
       ในปี 2007 หยวนหยงอี๋ ได้ให้สัมภาษณ์กับ สตีเฟน เฉิน ( Stephen Chan / 陳志雲) ถึงเรื่องราวในอดีตของเธอ ที่เคยมีสัมพันธ์กับคนมีครอบครัวแล้ว โดยนางเอกคนดังกล่าวในวันนั้นว่า "ตอนนั้นฉันไม่ได้คิดว่าตัวเองได้รับการดูแลจากเขาคนนั้นแต่อย่างใด ไม่ได้เป็นเมียเก็บอะไรแบบนั้น ความสัมพันธ์เราดำเนินไปตามธรรมดา, เดตกัน, ใช้ชีวิตด้วยกัน, มีเรื่องถกเถียง และแยกทางกันไป เขาเป็นฝ่ายเข้าหาฉันก่อน เหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นตามลำดับ เราเป็นคู่รักกัน ถ้าฉันเป็นเมียเก็บ ก็คงไม่มีสิทธิ์ไปต่อปากต่อคำอะไรกับเขา คงได้แต่เป็นฝ่ายรับใช้"
       
       และล่าสุดที่ หยวนหยงอี๋ ได้มีโอกาสออกรายการของพิธีกรคนดัง มาเรีย เล่ยเทา (Maria Leitão / 黎芷珊) แห่งรายการ Telling Maria (最佳女主角) ที่เพิ่งจะคว้ารางวัลพิธีกรแห่งปีของ TVB มาหมาดๆ เธอก็ได้มีโอกาสเปิดใจถึงเรื่องนี้อีกครั้ง
       
       นางเอกดังอดีตมิสฮ่องกงได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ครั้งนั้นในช่วงหนึ่งของรายการว่า "ฉันรู้สึกว่าเรามีความสัมพันธ์กับในแบบปกติธรรมดา ไม่ได้มองตัวเองเป็นเมียเก็บ หรือเมียน้อย ... ไม่เข้าใจค่ะว่าการเป็นเมียเก็บคืออะไร" อย่างไรก็ตามเธอก็ยังไม่เปิดเผยถึงชื่อของชายผู้มีครอบครัวแล้ว ที่เธอเคยสานสัมพันธ์ด้วยอยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนที่จะได้คบหากับ จางจื่อหลิน และสร้างครอบครัวที่อบอุ่นขึ้นมาด้วยกัน
       

       หลังจากที่มีข่าวแยกทางกันของ “เฟย์ หว่อง” (Faye Wong) และ “หลีหย่าเผิง” (Li Ya Peng) ปรากฏออกมาก็มีรายงานว่าบรรดาชาวเน็ตทั้งหลาย ต่างก็ลุ้นให้ม่ายสาวหมาดๆ ลมพัดหวนอีกครั้งกับ “เซียะถิงฟง” (Nicholas Tse) พ่อม่ายหนุ่มที่เคยเป็นแฟนเก่าด้วย ท่ามกลางรายงานข่าวว่าแม่ฝ่ายชายไม่ขัดข้องหากทั้งคู่จะคบกันอีกครั้ง
       
       ท่ามกลางข่าวใหญ่เรื่องการหย่าขาดกันของคู่รักคนดัง เฟย์ หว่อง และ หลีหย่าเผิง ที่เป็นที่สนใจไปทั่ว บรรดาชาวเน็ตต่างก็พากันขุดคุ้ยสัมพันธ์รักในอดีตของทั้งสองฝ่ายขึ้นมาอีกครั้ง โดยคราวนี้มีการโยงไปถึงเซียะถิงฟงอดีตแฟนหนุ่มของเฟย์ หว่อง ว่าอยากให้ทั้งคู่กลับมาคบกันเหมือนเดิม หลังต้องผิดหวังกับชีวิตคู่จนต่างคนต่างเป็นม่าย
       
       โดยระหว่างร่วมงาน Mid-Autumn Festival ที่จัดขึ้นที่ประเทศจีนเมื่อสัปดาห์ก่อน เซียะถิงฟงก็ได้พยายามหลบเลี่ยงคำถามของนักข่าว ที่ถามถึงความเป็นไปได้หากเขากลับไปคบหากับเฟย์ หว่องอีกครั้งด้วย ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ตอบสั้นๆ เพียงว่า “การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและสุขภาพดีเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ผมขอให้ทุกคนมีความสุขเจอแต่เรื่องดีๆ แล้วกัน ขอบคุณครับ”
       
       อย่างไรก็ตาม เจนนิเฟอร์ เซียะ (Jennifer Tse) น้องสาวของ เซียะถิงฟง ก็เพิ่งเปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้ ว่า เฟย์ หว่อง มีสัมพันธ์ที่ดีกับ เดโบราห์ ลี แม่ของเธอเป็นอย่างมาก โดยเจนนิเฟอร์กล่าวว่า เดโบราห์เคยพูดไว้ครั้งหนึ่งว่า เธอไม่คัดค้านนะ หากเฟย์ หว่อง และ เซียะถิงฟง จะกลับมาคบกันอีกครั้ง
       

       สตูดิโอผลิตภาพยนตร์ขนาดใหญ่ที่จะเริ่มดำเนินการในอีก 2 ปีข้างหน้า จัดงานเปิดตัวอย่างอลังการด้วยการเชิญดาราฮอลลีวูดมาร่วมงานมากมาย ด้วยความคาดหวังว่านี่จะเป็นป้อมปราการสำคัญของอุตสาหกรรมหนังจีนในการแข่งขันกับฮอลลีวูด แต่นักวิเคราะห์ยังมองว่าวงการภาพยนตร์จีนยังต้องพยายามอีกเยอะ จึงจะสามารถไล่ฮอลลีวูดทัน
       
       นิโคล คิดแมน (Nicole Kidman), ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ (Leonardo DiCaprio) และ แคทเธอรีน ซีตา-โจนส์ (Catherine Zeta-Jones) คือส่วนหนึ่งของนักแสดงฮอลลีวูดที่เดินทางมาร่วมงานเปิดตัว Oriental Movie Metropolis อันยิ่งใหญ่หรูหราบนพื้นที่ 376 เฮคเตอร์ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองชิงเต่า
       
       ด้วยเงินลงทุน 50,000 ล้านหยวน สตูดิโอแห่งนี้จะประกอบไปด้วยสตูดิโอย่อย 20 แห่งที่สามารถผลิตหนังท้องถิ่นได้ถึงประมาณ 100 เรื่องต่อปี บวกกับภาพยนตร์ฮอลลีวูดอีกปีละ 30 เรื่องที่คาดหมายว่าจะเข้ามาทำหนังที่นี่ด้วย
       
       หวางเจี่ยนหลิน มหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยติดอันดับต้นๆของประเทศ คือผู้อยู่เบื้องหลังโปรเจ็คใหญ่ยักษ์ครั้งนี้ โดยก่อนหน้านี้ หวาง เพิ่งจะสร้างความฮือฮาด้วยการซื้อเครือโรงภาพยนตร์ AMC Entertainment ของสหรัฐฯ จนทำให้เขากลายเป็นผู้ครอบครองเครือโรงภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกไปแล้ว
       

       สองสาวต่างวัยได้มีโอกาสทำความรู้จัก และสนิทสนมกันตลอดการถ่ายทำ Young Detective Dee Rise of the Sea Dragon หรือ "ตี๋เหรินเจี๋ย" ภาคใหม่ ที่ฝ่ายนักแสดงรุ่นน้องออกมากล่าวชื่นชม ว่าเธอได้เรียนรู้อะไรมากมายจากรุ่นพี่ที่ชื่อว่า "หลิวเจียหลิง"
       
       Young Detective Dee Rise of the Sea Dragon ของ ฉีเคอะ เพิ่งจะได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่กรุงปักกิ่งไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยนักแสดงนำทั้ง จ้าวโหย่วถิง (Mark Zhao), หลิวเจียหลิง (Carina Lau) และ แอนเจลาเบบี้ (Angela Baby) ต่างมาร่วมงานโดยพร้อมเพรียง ซึ่งช่วงหนึ่งของงาน ฉีเคอะ ได้อธิบายถึงบทบาทของนักแสดงแต่ละคนในหนังว่า แอนเจลาเบบี้ จะแสดงเป็นนางสนมคนหนึ่งที่จะมีบทเด่นในภาคนี้ และ หลิวเจียหลิง เป็นพระนางบูเช็คเทียน ในวัยที่อ่อนเยาว์ลงจากหนังภาคแรก
       
       "ต่อหน้านักแสดงที่ยอดเยี่ยมเหมือนพี่เจียหลิง ฉันต้องพยายามลืมความกดดันทั้งหมดให้ได้ค่ะ ส่วนนอกเวลาถ่ายทำฉันก็ได้เรียนรู้อะไรมากมายเลยจากเธอ" แอนเจลาเบบี้ กล่าว
       
       ฝ่าย หลิวเจียหลิง ยังพูดถึงหนุ่มๆ ในหนังเรื่องนี้ที่มาประชันบทบาทกันคับคั่งว่า "ฉันชอบทุกคนนั้นแหละค่ะ เอาเป็นว่าถ้ามาช่วยกันสืบคดีได้ก็พอแล้ว" ส่วน แอนเจลาเบบี้ ก็พูดติดตลกว่า "เอาเป็นว่าสลับวันกันก็แล้วกันค่ะ จันทร์, พุธ, ศุกร์ เป็นของ ตี๋เหรินเจี๋ย ส่วน อังคาร, พฤหัส, เสาร์ เป็นของ หยูจือเซิ่นจิน (แสดงโดย เฝิงเส้าเฟิง) ก็แล้วกัน"
       

       สมาพันธ์ผู้อำนวยการสร้างฮ่องกงตัดสินใจเลือกผลงานเรื่องล่าสุดของ "หว่องกาไว" เป็นตัวแทนในการชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศในปีหน้า
       
       The Grandmaster หนังกังฟูเนื้อหาลุ่มลึกของ หว่องกาไว ที่ เหลียงเฉาเหว่ย (Tony Leung) สวมบท ยิปมัน คือตัวแทนของฮ่องกงในการชิงรางวัลออสการ์สาขาหนังภาษาต่างประเทศ ในการมอบรางวัลครั้งต่อไป ที่จะจัดขึ้นในต้นปีหน้า โดยเป็นการเอาชนะคู่ชิงอีก 2 เรื่องได้แก่ Ip Man: The Final Fight หนังที่เล่าเรื่องของปรมาจารย์ยิปมันอีกเรื่อง และ Unbeatable หนังดราม่าว่าด้วยการแข่งขันศิลปะป้องกันตัวแนวผสมผสานของ ดังเต้ แลม
       
       นี่ยังนับเป็นหนังเรื่องที่ 2 ของ หว่องกาไว ที่ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนชิงรางวัลออสการ์จากฮ่องกง หลังเมื่อปี 2000 สมาพันธ์ผู้อำนวยการสร้างฯ เคยเลือก In the Mood for Love เป็นตัวแทนของเกาะมาแล้ว โดยในปีนั้น Crouching Tiger, Hidden Dragon ของ อังลี ที่เป็นตัวแทนของไต้หวัน คือหนังที่คว้ารางวัลไปครอง
       
       ถึงตอนนี้หลายประเทศได้เลือกตัวแทนที่จะส่งชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาหนังต่างประเทศกันแล้ว อาทิ ญี่ปุ่นเลือก The Great Passage หนังโรแมนติกว่าด้วยชีวิตของหนุ่มนักทำพจนานุกรม, Juvenile Offender ซึ่งเล่าความสัมพันธ์ของแม่ลูกที่ห่างเหินกันไปนานคือตัวแทนจากเกาหลีใต้ ส่วนประไทยได้เลือกหนังระทึกขวัญ Countdown เป็นตัวแทนประจำปีนี้

Manager Online

       นักแสดงหญิงชื่อดังกล่าวผ่านเว็บไซต์ส่วนตัว ว่าเธอไม่เคยรับเงินค่าเลี้ยงดูจากอดีตสามีแต่อย่างใด และยืนยันตนเองใช้จ่ายด้วยเงินส่วนตัวมาโดยตลอด ส่วน "เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) จะรับผิดชอบเพียงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับลูกเท่านั้น
       
       "ฉันไม่เคยรับค่าเลี้ยงดูจากเขาเลย นิโคลัส (เซียะถิงฟง) รับผิดชอบแค่ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับลูกของเราทั้งสองคนเท่านั้น" จางป๋อจือ (Cecilia Cheung) กล่าวผ่านบล็อคส่วนตัว ถึงเสียงลือล่าสุดเกี่ยวกับเธอที่มีมาอีกครั้ง ดาราสาววัย 33 ปี ยังเปรยว่าที่ผ่านมาเธอยังรับผิดชอบค่ากินอยู่ของพ่อแม่ตัวเองมาตลอดด้วย และยังเปิดเผยว่าตอนนี้ก็ยังเหลือทรัพย์สินที่เธอและอดีตสามีถือครองร่วมกันก็คืออพาร์ตเมนต์ห้องหนึ่งเท่านั้น
       
       หลังแยกทางกันไปเมื่อ 2 ปีก่อน จางป๋อจือ ได้กลับมารับงานแสดงในหนังหลายเรื่อง แต่ส่วนใหญ่กลับไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก จนล่าสุดมีข่าวว่าเธอกำลังจะย้ายไปอยู่ที่แคนาดาแบบระยะยาว และอาจลดงานในวงการลงไปบ้าง จนมีข่าวว่า จางป๋อจือ ต้องใช้จ่ายด้วยเงินของอดีตสามี ทำให้เธอต้องออกมาปฏิเสธอีกครั้ง และเปรยว่าอาจใช้มาตรการทางกฎหมายเพื่อปกป้องชื่อเสียงของตัวเอง

Manager Online

      นักแสดงสาวเซ็กซีที่กำลังทำให้ "มังกรหยก 2" (Return of the Condor Heroes / 神雕侠侣) เวอร์ชั่นล่าสุดได้รับการพูดถึงด้วยความโดดเด่นของตัวละคร "ลี้มกโช้ว" (Li Mochou) ที่เธอสวมบทบาท กลายเป็นข่าวขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเธอได้ประกาศแยกทางแฟนหนุ่ม จนชาวจีนออกมาตั้งป้อมด่า ว่าสาวคนนี้ทำพฤติกรรมแบบนี้ซ้ำซากอีกแล้ว
       
       "ฉันเป็นคนไร้เหตุผล, ไม่เป็นผู้ใหญ่, คิดแต่จะอยู่แบบอิสระ โดยเฉพาะในตอนนี้ที่กำลังอยู่ในช่วงที่ขอทุ่มเททุกอย่างให้งาน จนแทบไม่มีโอกาสคิดเรื่องจะแต่งงานอะไรเลยตลอด 2 ปีทีผ่านมา แต่เขาเป็นผู้ใหญ่, งานการของเขาก็มั่นคงแล้ว เขาต้องอดทนกับฉันมาตลอด เขาดีมากกับฉันค่ะ ทุกอย่างที่ทำก็เพื่อฉันมาตลอด เขาอยู่เพื่อฉันแม้แต่ตอนที่ตกต่ำที่สุดในชีวิต มีไหล่ให้ฉันซบ ขอบคุณจริงๆ ที่ได้เดินไปทุกก้าวด้วยกัน และฉันคงไม่สามารถรับความใจดีของเขาได้อีกแล้ว ฉันไม่สามารถแต่งงานกับเขาได้ ความรักเป็นเรื่องของสองคน ถ้าไปกันไม่ได้ เราก็ต้องเลือกที่จะแยกทาง เขาเป็นคนดี และฉันไม่คู่ควรกับเขาเลย ทุกอย่างที่ฉันทำมันผิดหมด โปรดด่าว่าแต่ฉันเถอะค่ะ อย่าไปพูดถึงคนที่ไม่ได้เกี่ยวด้วยเลย" เป็นถ้อยคำของ จางซินหยู (Viann Zhang Xinyu / จางซินอวี่) ที่เขียนบรรยายความรู้สึก ในแถลงการณ์บอกเลิกกับแฟนหนุ่ม ลี่เฉิน (Li Chen) ที่คบหากันมาได้ 2 ปีเต็ม
       
       ดาราสาวยังกล่าวต่อไปอีกว่า "หลังจากนี้ก้าวที่ฉันเดินไปคงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ฉันไม่เคยพึ่งใครเพื่อให้ได้บทในหนังเรื่องต่างๆ มาอยู่แล้ว ถามคนที่เคยร่วมงานกับฉันมาได้ค่ะ ฉันจะพยายามพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีก ไม่เคยเล่นพรรคเล่นพวก การทำงานหนัก และผลงานจะพิสูจน์ทุกอย่าง หลังจากพูดครั้งนี้แล้ว ฉันจะไม่ตอบอะไรเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวอีกแล้ว หวังว่าสื่อจะไม่ถามอะไรอีก ขอมุ่งมั่นกับงานก็พอแล้ว ขอบคุณค่ะ"
       

       มีข่าวลือออกมาว่า “ปีเตอร์ ชาน” (Peter Chan / 陳可辛) กำลังมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสาวจีนแผ่นดินใหญ่คนหนึ่ง ซึ่งทั้งสองคบหาเป็นคนรักกันมาหลายปี ถึงฝ่ายชายจะมีคู่ชีวิตคือ “อู๋จินหยู” (Sandra Ng / 吳君如) อยู่แล้วทั้งคนก็ตาม
       
       ดูจะตลกไม่ออกเสียแล้วสำหรับดาวตลกหญิง ที่ถึงกับหลบออกจากงานแต่งงานของเพื่อนคนหนึ่ง หลังมีนักข่าวมารอทำข่าว ขอความเห็นของเธอ ในกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ปีเตอร์ ชาน สามีของเธอ มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้อำนวยการสร้างสาวคนนหึ่งมาถึง 7 ปีเต็ม ที่ดูเหมือนว่า อู๋จินหยู จะไม่อยากพูดอะไรกับเรื่องนี้แล้ว หลังออกตัวปฏิเสธข่าวแบบขำๆ ไปแล้วรอบหนึ่งทางเว็บไซต์ส่วนตัวว่า “ฉันไม่แคร์หรอกค่ะ เขาจะเป็นคู่แท้ หรือเป็นแฟนอะไรกัน เท่าที่รู้ทั้งหัวใจ และเงินของเขาอยู่กับฉันนี่”

       ยอดผู้กำกับชาวจีนแผ่นดินใหญ่ได้ฤกษ์เปิดกล้องผลงานเรื่องใหม่ล่าสุดแล้ว โดยคราวนี้เขาจะได้กลับมาร่วมงานกับ "กงลี่" (Gong Li) นักแสดงหญิงชื่อดังของประเทศ ที่ถือว่าเป็นคู่ นักแสดง-ผู้กำกับ คู่ใจ และทำงานด้วยกันมาในหนังหลายเรื่องแล้ว
       
       ผลงานเรื่องใหม่ของ จางอี้โหมว (Zhang Yimou) ที่ชื่อว่า Return หรือ Gui Lan เป็นงานที่ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่อง The Criminal Lu Yanshi ของ เหยียนเกอหลิง เจ้าของเรื่อง The Flowers of War ที่ จาง เพิ่งจะนำไปดัดแปลงขึ้นจอใหญ่ โดยหนังจะหยิบเอาครึ่งหลังของนิยายมาถ่ายทอด ในเรื่องราวที่ว่าด้วยชีวิตของปัญญาชนชาวจีนคนหนึ่ง ที่ถูกจับคลุมถุงชนแต่งงานกับหญิงสาวคนหนึ่ง แต่แล้วเขากลับต้องผลัดพลาดจากเธอไป เพราะอุดมคติทางการเมืองที่เชื่อมั่นในแนวคิดฝ่ายขวาของตัวเอง ซึ่งหนังจะเน้นไปที่เรื่องราวของการกลับมาพบกันอีกครั้งของสามี และภรรยา หลังจากกันไปหลายสิบปี
       
       ซึ่งในงานบวงสรวงเปิดกล้องเมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา ไม่ได้เปิดให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าว แต่ผู้สร้างได้โพสต์ภาพในงานให้ทุกคนได้ชมกันผ่าน Weibo อย่างเป็นทางการของหนัง โดยนอกจาก กงลี่ และ จางอี้โหมว แล้ว จางจ้าว ซีอีโอของ Le Vision Pictures ก็ยังมาร่วมงานด้วย
       
       Return ที่มีกำหนดฉายในปี 2014 เป็นผลงานการสร้างของ Le Vision Pictures Co Ltd. ต้นสังกัดแห่งใหม่ของ จางอี้โหมว ด้วยนักแสดงนำคือ เฉินเต้าหมิง (Hero) และ กงลี่ ที่ถือว่าโด่งดังสร้างชื่อขึ้นมาในฐานะนักแสดงคู่ใจของ จางอี้โหมว

       ประเด็นเรื่องรูปโฉมของอดีตนางเอกดัง "หวังจู่เสียน" (Joey Wong) ยังคงเป็นข่าวในสื่อฮ่องกง และไต้หวันอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดนางเอกวัย 46 ปีได้อัดคลิปเพื่อพิสูจน์ว่าเธอไม่ได้ทำศัลยกรรมอย่างที่ปรากฏเป็นข่าว

       หวังจู่เสียน อาศัยอยู่ที่ แวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา มาถึง 11 ปีเต็มแล้ว หลังถอนตัวจากวงการบันเทิงไปอย่างเงียบๆ โดยมีข้อมูลระบุว่าเธอพำนักอยู่ที่เขต Aquarius Mews ในแถบตะวันตกของแวนคูเวอร์ในคอนโดขนาด 2,000 ตารางฟุต ที่มีมูลค่าสูงถึง 8 ล้านเหรียญฮ่องกง และอาศัยอยู่ได้ด้วยเงินที่เก็บสะสมเอาไว้ตั้งแต่ยังมีชื่อเสียงในวงการบันเทิง
       
       สื่อในฮ่องกงยังเผยอีกว่า หวังจู่เสียน แทบจะใช้ชีวิตอย่างเงียบๆ และไม่ได้ออกไปไหนนอกจากไปออกกำลังกาย หรือใช้เวลากับเพื่อนสนิท และครอบครัวเท่านั้น ว่ากันว่าชาวจีนที่อาศัยอยู่ในละแวกเดียวกันส่วนใหญ่ยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่าพวกเขามีเพื่อนบ้านเป็นนางเอกชื่อดังชาวไต้หวัน
       
       กระทั่งชื่อของ หวังจู่เสียน กลับมาเป็นข่าวอีกครั้งในหน้าสื่อหลังเธอเดินทางกลับมาฮ่องกง โดยมีข่าวลือระบุว่าอดีตนางเอกชื่อดังชาวไต้หวัน มาฮ่องกงก็เพื่อจัดการเรื่องการขายบ้านราคาเหยียบ 19 ล้านเหรียญฮ่องกง แต่แล้วประเด็นรูปโฉมที่เปลี่ยนแปลงไปกลับกลายเป็นที่พูดถึงมากกว่า ซึ่งล่าสุดมีข่าวลือมาอีกกระแสว่า หวังจู่เสียน ได้เข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้าจริงๆ แต่สาเหตุของการทำศัลยกรรมก็คือ เพื่อลบแผลเป็นหลายจุดที่เกิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยมีหลักฐานสนับสนุนข้อสงสัยคือรอยแผลเป็นบริเวณหัวเข่า ที่เชื่อกันว่าเป็นผลมาจากอุบัติเหตุเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีคำยืนยันถึงเรื่องนี้แต่อย่างใด
       

       หลัง "จางป๋อจือ" (Cecilia Gueng) ตกเป็นกระแสข่าวว่าหอบลูกย้ายไปอยู่แคนาดาโดยไม่บอกกล่าวครอบครัวของอดีตสามีให้ทราบก่อน จนทำให้ครอบครับฝ่ายนั้นไม่พอใจอย่างรุนแรง ล่าสุด "เซียะถิงฟง" (Nicholas Tse) ได้ออกมาให้ข่าวปฏิเสธข้อกล่าวหา และใช้มาตรการทางกฎหมายกับสื่อเพื่อปกป้องอดีตภรรยาแล้ว
       
       ข่าวจากฮ่องกงเปิดเผยว่า เซียะถิงฟง ได้ตัดสินใจฟ้องสื่อถึง 6 สำนักที่รายงานข่าวว่า จางป๋อจือ อดีตภรรยาของเขาได้ตัดสินใจพาลูกทั้ง 2 คนย้ายไปอยู่แคนาดาโดยพลการ และทำให้คุณปู่คุณย่าอย่าง เซียะเสียน (Patrick Tse) และ แดเบอรา ลี ไม่พอใจเป็นอย่างมาก ซึ่ง เซียะถิงฟง ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
       
       พระเอกวัย 33 ปี ได้ออกแถลงการณ์ยืนยัน ว่าเขาและภรรยายังติดต่อพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องการเลี้ยงลูกอย่างใกล้ชิดมาตลอด รวมถึงเรื่องการย้ายไปอยู่แคนาดา ก็เป็นสิ่งที่เขารับรู้มาตั้งแต่ต้น และเห็นตรงกันกับอดีตภรรยาว่าการได้ใช้ชีวิต และเรียนหนังสืออย่างเด็กธรรมดาๆ ที่ต่างประเทศ น่าจะเป็นการดีกับลูกทั้งสองคนมากกว่า
       
       เซียะถิงฟง ยังย้ำว่าเขารู้สึกไม่พอใจอย่างรุนแรงกับการทำงานของสื่อ ที่คุกคามไปถึงชีวิตส่วนตัวของเขา และลูกๆ พร้อมยืนยันว่า จะไม่ลังเลเลยกับการดำเนินการทางกฎหมายเพื่อเล่นงานคนที่เสนอข่าวผิดๆ พวกนี้ ... "แทบหมดกำลังใจเมื่อเกิดข่าวแบบนี้ขึ้นกับพวกเด็กๆ ก็หวังว่าจะไม่มีเรื่องเข้าใจผิดแบบนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคตนะครับ" เซียะถิงฟง กล่าว

Manager Online

       "เกรซ เฉิน" (Grace Chan / 陳凱琳) ได้รับคำยกย่องว่าเป็น "มิสฮ่องกง" (Miss Hong Kong) ที่สวยที่สุดคนหนึ่งในรอบหลายปีที่ผ่านมา แต่สาวสวยวัย 22 ปี ก็ต้องเจอกับข้อหา และบทพิสูจน์ว่าเธอ "สวยธรรมชาติจริงหรือ?" เช่นเดียวกัน เมื่อมีการนำภาพเก่าๆ มาเปรียบเทียบ
       
       แม้จะได้รับการยกย่องมากว่าเป็น มิสฮ่องกง ที่เหมาะสมตำแหน่งมากๆ อย่างไรก็ตามล่าสุดเจ้าของมงกุฏผู้หญิงที่สวยที่สุดในฮ่องกงประจำปี 2013 ก็ต้องเจอกับข้อกล่าวหาการทำศัลยกรรมเข้าจนได้ เมื่อมีการปล่อยภาพเก่าๆ ของเธอออกมา
       
       ทันทีที่ได้รับตำแหน่ง ก็มีภาพประเภท "Before-After" ของ มิสฮ่องกง 2013 เผยแพร่ในเว็บไซต์ต่างๆทันที อย่างไรก็ตามชาวฮ่องกงส่วนหนึ่งก็มองว่าแม้ เกรซ เฉิน จะมีใบหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นความเปลี่ยนแปลงที่มากกว่าปกติอะไร ที่เห็นชัดๆ ก็คงจะเป็นการจัดฟัน และผิวที่ดูใสขึ้น ยิ่งภาพตอนเด็กๆ ก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่า มิสฮ่องกง คนนี้ดูดีมาตั้งนานแล้ว
       
       อย่างไรก็ตามสิ่งที่หลายคนสนใจกันมากกว่า กลับเป็นความแตกต่างระหว่าง เกรซ และ จอยซ์ พี่สาวของเธอ ที่ทำเอาฝ่ายพี่สาวถึงกับเปรยว่าเธอกดดันอยู่เหมือนกันที่มีน้องสาวครองตำแหน่งผู้หญิงที่สวยที่สุดในฮ่องกงแบบนี้ และยอมรับว่าตัวเองรู้สึกอึดอัดเล็กๆ มาตั้งแต่เด็กแล้วที่มีน้องสาวที่สวยมาก "ฉันจะไปเทียบน้องได้ยังไง เค้าสวยเด่นแบบนั้น? จะให้อิจฉาเหรอ? หรือว่าให้รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ?"
       

       หลังใช้ชีวิตคู่กันมา 8 ปีเต็มล่าสุด "หวังเฟย" (Wang Fei) และ "หลี่ย่าเผิง" (Li Ya Peng) ได้ประกาศแยกทางกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งๆที่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทั้งสองต่างทุ่มเทยอมลดงานเพื่อสร้างครอบครัว และไม่ได้มีข่าวลือถึงปัญหาอะไรเลย
       
       ตั้งแต่แต่งงานกันเมื่อ 8 ปีก่อน หวังเฟย (เฟย์ วอง) ก็ลดรับงานลงเรื่อยๆ และแทบไม่มีผลงานเพลงอะไรใหม่ๆ เลยในช่วงหลัง ส่วนอดีตพระเอกดัง หลี่ย่าเผิง ก็ถึงกับประกาศหันหลังให้กับงานหน้ากล้อง พร้อมเผยว่าจะเน้นทำงานอยู่เบื้องหลังเพื่อสนับสนุน ภรรยาซุปเปอร์สตาร์แห่งวงการเพลงของเขาอย่างเต็มตัวเมื่อครั้งที่ หวังเฟย กลับมารับงานร้องเพลงเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี แต่สุดท้ายแล้วชีวิตคู่ของซูเปอร์สตาร์หมายเลข 1 แห่งวงการเพลงจีนก็มาถึงจุดสิ้นสุดจนได้
       
       โดย หวังเฟย ได้เขียนข้อความถึงเรื่องนี้ใน Weibo ของเธอว่า "ในชีวิตนี้, การอยู่ร่วมกันในฐานะสามี และภรรยาของเราต้องเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว ฉันยังโอเคอยู่ และของอวยพรให้เธอเช่นเดียวกัน"
       
       ส่วน หลี่ย่าเผิง ก็เขียนข้อความยืนยันถึงการหย่าร้างเช่นเดียวกัน และยังเปรยว่าชีวิตคู่ครั้งนี้ต้องจบลงเพราะเพราะมีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้น "ผมอยากจะมีครอบครัว แต่ชะตาของเธอถูกลิขิตไว้แล้วให้เป็นตำนาน จะขอทะนุถนอมความทรงจำ 10 ปีที่เราอยู่ด้วยกันไว้ตลอดไป รักเธอเหมือนเดิมอย่างที่เป็นมา น่าเสียดายที่สุดท้ายต้องปล่อยเธอไป นี่คือสิ่งเดียวที่พอจะทำให้ได้ หวังว่าจะมีความสุข ผู้หญิงในฝันของผม"
       

"เฉินกว้านซี" (Edison Chen) นักแสดงหนุ่มสุดฉาวที่ขึ้นชื่อเรื่องอารมณ์ร้อน ได้ก่อเรื่องขึ้นอีกครั้งแล้ว หลังมีรายงานว่าเจ้าตัวระเบิดอารมณ์ใส่บอดี้การ์ด โทษฐานที่ไม่ยอมปกป้องเขาและปล่อยให้แฟนคลับเข้าถึงตัวเขาได้โดยง่าย
       
       ตามรายงานจากเว็บไซต์ ET Today ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ประเทศจีน ขณะที่เฉินกว้านซีเดินทางไปเปิดการแสดงที่ไนท์คลับแห่งหนึ่งในฮาร์บิน
       
       โดยรายงารระบุว่า เฉินกว้านซี รู้สึกเหลืออดกับบอดี้การ์ดของไนท์คลับดังกล่าว เมื่อตนเองถูกแฟนๆรุมล้อมและถึงเนื้อถึงตัวเขาอย่างง่ายดายก่อนที่เขาจะขึ้นแสดงบนเวที
       
       จนกระทั่งเหตุกาณ์เลวร้ายขึ้น เมื่อนักแสดงหนุ่มโดนรุมจนไม่สามารถออกจากไนท์คลับดังกล่าวได้ เพราะแฟนๆต่างล้อมหน้าล้อมหลังเขาไว้หมด ในที่สุดเจ้าตัวก็หมดความอดทนจัดการผลักเข้าที่หน้าอกของบอดี้การ์ดด้วยหมัดของเขาทันที เพื่อแสดงความไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถคุ้มกันเขาได้เลย
       
       อย่างไรก็ตามทางด้านผู้จัดการส่วนตัวของเฉินกว้านซีไม่ได้ออกมากล่าวแสดงความเห็นใดๆต่อเรื่องนี้ โดยระบุเพียงว่านักแสดงหนุ่มยังอารมณ์ไม่ดีและไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์
       
       นับได้ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เฉินกว้านซีแสดงอารมณ์ออกมาในที่สาธารณะ ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพ.ค. เขาก็เคยตีแฟนคลับผู้หญิงของเขาจากการที่เธอถ่ายรูปเขาโดยไม่ขออนุญาตด้วย

Manager Online

"หลิวเต๋อหัว" (Andy Lau) นักแสดงชื่อดังของฮ่องกงที่ผ่านบทบู๊มาแล้วหลายต่อหลายครั้งและมีประสบการณ์มากมายในวงการบันเทิงมาอย่างโชกโชน ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าไม่มีอะไรทำให้เขากลัวได้นอกเสียจาก"เมีย"
       
       ตามรายงานจากเว็บไซต์ไอเฟิง ที่งานแฟนมีทติ้งซึ่งจัดขึ้นเมื่อไม่นานนี้ นักแสดงดังได้เปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาถึงความรู้สึกของคนเองแบบติดตลกว่า "ผมไม่ใช่คนที่กลัวอะไรง่ายๆนะครับ แต่ผมกลัวเมียผมจริงๆ ตั้งแต่ที่ลูกสาวผมเกิด ผมว่าผมกลายเป็นคุณพ่อที่มีความเคารพตนเองน้อยที่สุดในโลกแล้วล่ะครับ!"
       
       โดยนักแสดงหนุ่มใหญ่เปิดเผยว่า แครอล ภรรยาของเขามักจะตวาดใส่เขาอยู่เสมอเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาทำอะไรที่อาจเป็นการรบกวนแฮนนา (Hanna) ลูกสาวตัวน้อยของพวกเขา
       
       ซึ่งนักแสดงดังวัย 51 ปียังเปิดเผยด้วยว่า "ผมจะไปซ้อมคอนเสิร์ตของผมเวลา 6 โมงเช้าทุกวัน แต่ทันทีที่ผมกลับบ้านทุกอย่างต้องหยุดทันที ถ้าผมพยายามจะซ้อมเต้นล่ะก็ จะมีบางคน (แครอล) มาเตือนผมละ ถ้าผมเริ่มร้องเพลงคนนั้นก็จะตะโกนใส่ผม มันเป็นแบบนี้ทุกวันเลยล่ะครับ"
       
       นอกจากนั้นหลิวเต๋อหัว ยังเผยเพิ่มเติมด้วยว่าเขาได้รับอนุญาตให้ดูโทรทัศน์ได้เฉพาะเวลาที่แฮนนาลูกสาวของเขาหลับแล้วเท่านั้น
       
       อย่างไรก็ตาม หลิวเต๋อหัว ไม่ใช่ซูเปอร์สตาร์เพียงคนเดียวที่ออกมายอมรับว่ากลัวภรรยาของตนเอง โดยก่อนหน้านี้ โจวเหวินฟะ (Chow Yun Fat) และผู้กำกับระดับออสการ์อย่างอั้งลี่ ต่างก็เคยออกมาสารภาพว่าพวกเขาเลือกที่จะยอมภรรยาของพวกเขาดีกว่าเพื่อที่ชีวิตของพวกเขาจะได้สบายขึ้น

Manager Online

       การเดินทางมาฮ่องกงของ "หวังจู่เสียน" (Joey Wong) เพียงไม่กี่วันได้ทำให้เกิดข่าวต่างๆมากมาย โดยเฉพาะเมื่อภาพล่าสุดของเธอ กลายเป็นที่มาของข้อสงสัย และรายงานข่าวที่ว่า อดีตดาราสาวคนสวยได้สูญเสียรูปโฉมอัดสวยหยดย้อยไป เพราะการทำศัลยกรรมพลาสติกเรียบร้อยแล้ว ซึ่งล่าสุดมีข่าวตามมาว่าดาราวัย 46 ปี กำลังจะใช้มาตรการทางกฎหมาย เพื่อปกป้องชื่อเสียงของตัวเองจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้น
       
       รายงานข่าวจากฮ่องกงระบุว่า หวังจู่เสียน ได้ตัดสินใจฟ้องร้องสื่อหลายฉบับ ได้แก่ Apple Daily, Face และ Next Magazine ที่เป็นของ Next Media ในฉบับระหว่างวันที่ 23 - 29 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งได้ตีพิมพ์ และเผยแพร่ภาพทางออนไลน์ของ หวังจู่เสียน ซึ่งเข้าข่ายเป็นการทำลายชื่อเสียงของเธอ พร้อมยังร้องไปที่ศาลให้ออกคำสั่งให้ Next Media และสำนักพิมพ์ต่างๆ ถอดภาพและบทความที่เข้าข่ายเป็นการชื่อเสียงของเธอออกให้หมด และยังมีการเรียกร้องค่าเสียหายด้วย
       
       ถึงเวลานี้ หวังจู่เสียน ได้เดินทางกลับแคนาดาไปเรียบร้อยแล้ว และยังไม่มีการเปิดเผยว่าเธอเดินทางมาฮ่องกงด้วยเหตุผลอะไรกันแน่ โดยหลังประเด็นข่าวเรื่องที่ว่าใบหน้าของ หวังจู่เสียน ได้เปลี่ยนแปลงไปจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม เพื่อนสนิทของเธอได้โพสต์ภาพอื่นๆให้แฟนๆ ได้ชมกันเพื่อยืนยันว่าดาราวัย 46 ปี ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรไปมากขนาดนั้น

Manager Online

       โปรเจ็คหนังของนางเอกสาว "ฟั่นปิงปิง" (Fan Bing Bing) ที่หยุดชะงักไปเมื่อต้นปีก่อน กลับมาเดินเครื่องอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ด้วยสองผู้กำกับคนสำคัญแห่งวงการภาพยนตร์จีน ในการเล่าเรื่องราวของสตรีผู้งดงามที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์จีน
       
       ยืนยันแล้วว่า จางอี้โหม่ว (Jang Yimou) จะกลับไปกำกับภาพยนตร์แนวย้อนยุคอีกครั้งเมื่อทางบริษัท ESA Cultural Investment ได้ยืนยันว่ายอดผู้กำกับชาวจีนจะมานั่งเก้าอี้กำกับร่วมกับ เทียนจวงจวง ในหนังที่จะเล่าเรื่องของ "หยางกุ้ยเฟย" (Yang Gui Fei) สตรีผู้เคยมีชีวิตอยู่จริงในยุคเมื่อ 1,400 ปีก่อน โดย จางจ้าว ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ ESA ได้เปิดเผยว่าหนังได้เริ่มถ่ายทำในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
       
       ฝ่าย Le Vision Pictures ต้นสังกัดแห่งใหม่ของ จางอี้โหม่ว ที่เพิ่งเซ็นสัญญา 3 ปีกันไปเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมาได้กล่าวว่าสำหรับงานนี้ จาง คงจะมาทำหน้าที่ช่วยเหลือเพื่อนในการกำกับฉากใหญ่ๆ ของหนังมากกว่าจะมาคุมงานสร้างทั้งหมดด้วยตัวเอง
       
       เทียนจวงจวง และจางอี้โหมว คืออดีตนักศึกษาของสถาบันภาพยนตร์ปักกิ่งอันโด่งดัง โดยรายแรกศึกษาในสาขากำกับ ส่วนรายหลังเรียนในสาขาถ่ายภาพระหว่างปี 1978 - 1982 และต่อมาทั้งคู่ก็ประสบความเสร็จในฐานะผู้กำกับรุ่นที่ 5 ของจีนพร้อมๆกัน
       
       อย่างไรก็ตามเพื่อนเก่าทั้งสองกลับมีชะตากรรมที่แตกต่างกันอยู่พอสมควร แม้จะเริ่มต้นจากการทำหนังวิพากษ์สังคมจีนจนโดนรัฐบาลเพ่งเล็งเหมือนกัน เมื่อต่อมาฝ่าย จางอี้โหมว ประสบความสำเร็จในการทำหนังครองใจมหาชน กลายเป็นลูกรักของรัฐบาล และการได้มีส่วนกำกับพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิคที่ปักกิ่งแทบจะทำให้เขากลายเป็นผู้กำกับอันดับ 1 ของประเทศไปแล้ว

       ผู้อำนวยการสร้าง "หยูเจิ้ง" (Yu Zheng) ที่โด่งดังมาในสายงานการเขียนบท ได้ขอมีส่วนร่วมในงานด้านศิลป์ของผลงานเรื่องต่อไป "มังกรหยก ภาค 2" (Return of the Condor Heroes / 神雕侠侣) ด้วย ซึ่งก็โดนวิจารณ์หนักเช่นเดียวกันว่าไม่ได้ทำให้นักแสดงดูดีขึ้นมาแต่อย่างใด โดยเฉพาะนางเอก "เซียวเหล่งนึ่ง" (Xiaolongnü / Little Dragon Maiden)  ที่กำลังโดนแซวว่าเหมือน นาจา (Nezha) มากกว่า
       
       Return of the Condor Heroes หรือ มังกรหยก ภาค 2 ฉบับปี 2013 ยังโดนกระแสโจมตีหนักต่อไป หลังนักแสดงนำหญิง เฉินเหยียนซี ที่โดนแขวะว่าเป็น เซียวเหล่งนึ่ง ที่แย่ที่สุดที่เคยมีมาคนหนึ่ง และไม่ได้ฉายภาพความงามแบบตัวละครตัวนี้ที่บรรยายไว้ในหนังสือเลย ล่าสุดเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย และการแต่งหน้าแต่งผมของนักแสดง ก็โดนวิจารณ์ด้วยว่าออกมาดูไม่ดีเช่นเดียวกัน
       
       โดยจากภาพอย่างเป็นทางการที่ผู้สร้างปล่อยออกมาให้ชมกัน ในส่วนของเสื้อผ้าของ เซียวเหล่งนึ่ง มีการออกแบบด้วยการใช้สีสันต่างๆ แตกต่างจากในนิยายที่ระบุว่า เซียวเหล่งนึ่ง แต่งตัวด้วยชุดสีขาวเป็นหลัก
       
       ซึ่งชาวเน็ตจีนถึงกับวิจารณ์ว่า เฉินเหยียนซี ไม่ได้ดูเหมือน เซียวเหล่งนึ่ง เลย เพราะทั้งชุด และหน้าตาที่ออกเด็กๆ ของดาราสาววัย 30 ปีคนนี้ ทำให้เธอดูเหมือนจะเป็น "นาจา" เสียมากกว่า โดยเฉพาะทรงผม "ซาลาเปา" สองลูกบนศีรษะที่ดูไม่จืดจริงๆ แต่ดูเหมือนว่า หยูเจิ้ง ก็ยังมั่นใจใน "มังกรหยก" ฉบับของเขาต่อไป และถึงกับคุยว่า เซียวเหล่งนึ่ง เวอร์ชั่นนี้จะคลาสสิกแน่นอนในอนาคตข้างหน้า
       

หลังจากที่มีข่าวว่า "กัวฟู่เฉิน" (Aaron Kwok) สลัดรักแฟนสาวที่คบหามานาน 7 ปีไปมีข่าวสัมพันธ์กับสาวๆมากหน้าหลายตา ล่าสุดเขาก็มามีข่าวคั่วอยู่กับ "แอนนา เคย์" (Anna Kay) นางแบบสาวชาวจีนวัย 26 ปีหลังสื่อฮ่องกงตีพิมพ์บทสัมภาษณ์เรื่องฝ่ายหญิงออกตัวแรงว่าคบกันแค่ครึ่งปีฝ่ายชายก็ขอแต่งงานแล้ว งานนี้"แอนนา เคย์"ทนไม่ไหวออกมาเหวี่ยงสื่อเรียบร้อยบอกเป็นเรื่องแต่งขึ้นทั้งนั้น
       
       โดยก่อนหน้านี้ แอนนา เคย์ ต้องกลายเป็นข่าวดัง จากข้อหาออกตัวแรงเป็นฝ่ายเปิดปากสัมพันธ์รักกับกัวฟู่เฉิน โดยสื่อฮ่องกงรายงานว่า นางแบบสาวมักโผล่ที่อพาร์ทเมนต์หรูของกัวฟู่เฉินอยู่บ่อยครั้ง และความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นเพียงความสัมพันธ์ทางกายโดยปราศจากความรัก และแอนนา ได้ออกมาเคลียร์ว่าทุกอย่างเป็นความรักล้วนๆ และเขาได้ให้แหวนเพชรเป็นของขวัญเพื่อขอเธอแต่งงานแล้ว พร้อมขึ้นบทสัมภาษณ์ว่า
       
       "ฉันรับไม่ได้หรอกค่ะ กับความสัมพันธ์ทางกายอย่างเดียว มันไม่เหมือนกับที่ทุกคนพูดกัน ฉันต้องแน่ใจว่าผู้ชายของฉันรักฉันจริงๆ การที่เขาไม่พูดถึงเรื่องที่คบกัน ฉันก็จะเคารพการตัดสินใจของเขาค่ะ ว่าเขาจะเปิดเผยออกสื่อหรือไม่"
       
       โดยในบทความยังระบุด้วย ว่านางแบบสาวเผยว่า ที่ตนไปโผล่ที่อพาร์ทเมนต์ของฝ่ายชายบ่อยครั้ง เป็นเพราะเธอมี"เพื่อนที่ดีต่อกัน"พักอยู่ในตึกนั้น แม้ว่าเธอจะปฏิเสธว่าเพื่อนที่ดีที่เธอกล่าวถึงไม่ใช่ กัวฟู่เฉิน แต่แอนนา ก็ยอมรับว่าความสัมพันธ์ของเธอกับคนรักเป็นไปด้วยดีคบกันจริงจังมาได้ 6 เดือนแล้ว พร้อมยืนยันว่าตอนที่คบหากันฝ่ายชายโสดสนิท แม้จะมีข่าวกับสาวๆมากมายทั้ง คริสติน กัว และ ลินน์ หวง
       

       แม้จะเคยมีรางวัลการันตีความสวยบนเวทีประกวดนางงาม แต่ข่าวจากสื่อในฮ่องกงกลับรายงานว่า "รีเบคก้า จู" (Rebecca Zhu) ดูจะยังไม่ค่อยพอใจกับรูปโฉมของตัวเองนัก ถึงขั้นล่าสุดตัดสินใจแปลงโฉมด้วยศัลยกรรมพลาสติก จนแทบจะออกมาเป็นคนละคน แม้จะตัวจะยืนยันเป็นความเปลี่ยนแปลงจากการลดน้ำหนักเท่านั้น
       
       รีเบคก้า จู หรือ จูเฉินลี่ เจ้าของมงกุฏมิสฮ่องกงประจำปี 2011 เคยเป็นที่จดจำของประชาชนชาวฮ่องกงด้วยใบหน้ารูปเหลี่ยม แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าสาวสวยวัย 25 ปี จะไม่ค่อยพอใจกับเอกลักษณ์รูปหน้าของตนเอง ที่เคยพาให้คว้าตำแหน่งผู้หญิงที่สวยที่สุดในฮ่องกงซะแล้ว เมื่อล่าสุดสื่อในฮ่องกงรายงานว่าเธอเลือกที่จะเข้ารับการทำศัลยกรรมทำหน้าเรียวตามสมัยนิยมเมื่อหลายเดือนก่อน และเพิ่งจะเผยโฉมให้ทุกคนได้เห็นกัน ที่แทบเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ถึงขนาดที่สื่อรายงานว่าเพื่อนร่วมงานบางคนยังจำเธอไม่ได้เลยทีเดียว
       
       หลังครองตำแหน่งผู้หญิงที่สวยที่สุดในฮ่องกงเมื่อปี 2011 ในปลายปีเดียวกันนั้นเส้นทางบันเทิงของ รีเบคก้า จู ก็ดูจะเริ่มรุ่งขึ้นมาเมื่อนางงามรุ่นพี่ เฉินฝ่าร่า (Fala Chen) ได้ตัดสินใจถอนตัวออกจากซีรีส์ Silver Spoon และ Sterling Shackles จน รีเบคก้า จู ได้รับเลือกให้แสดงแทน และจากวันนั้นกราฟในอาชีพของเธอก็เข้าสู่ขาขึ้นต่อเนื่อง ได้รับเลือกให้ร่วมแสดงในซีรีส์ดัง Triumph in the Skies 2 และ Always and Ever ที่กำลังออนแอร์อยู่ในช่อง TVB Jade อยู่ในตอนนี้ทั้งคู่
       

       หลังหายหน้าจากวงการบันเทิงไปร่วม 6 ปี "อิซาเบลลา เหลียงลั่วซือ" (Isabelle Leung) ได้กลับคืนสู่การรับงานแสดงอย่างเป็นทางการแล้ว ด้วยการร่วมแถลงข่าวเปิดตัวหนังเรื่องใหม่ที่ไต้หวันเมื่ออังคารที่ผ่านมา
       
       ดาราสาววัย 25 ปี ตัดสินใจคืนสู่วงการภาพยนตร์ ด้วยการรับงานแสดงในผลงานเรื่องต่อไปของผู้กำกับหญิง จางอ้ายเจีย ที่ชื่อว่า Nien Nien ที่เพิ่งเปิดแถลงข่าวไปเมื่อวันอังคารที่ 3 ก.ย. ที่ผ่านมา
       
       ข่าวระบุว่า เหลียงลั่วซือ ดูจะมีอาการประหม่ากับการแถลงข่าวอยู่พอสมควร อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายก็ยังออกปากชมว่าดาราคุณแม่ลูกสามยังดูสวยน่ารักเหมือนเดิม
       
       ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวเริ่มยิงคำถามว่าตลอด 6 ปีที่ผ่านมามีอะไรในตัวเธอที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง เหลียงลั่วซือ ก็ตอบแต่เพียงสั้นๆว่า "ฉันมีความสุขเหมือนเดิมค่ะ" จนผู้กำกับ จางอ้ายเจีย ต้องช่วยตอบให้ ว่าเธอเป็นแม่ที่ยอดเยี่ยมมาก และกล้าหาญจริงๆ ที่ตัดสินใจก้าวต่อไปในชีวิตแบบนี้ ซึ่งดูเหมือนว่าตัวของ อิซาเบลลา ก็จะซาบซึ้งกับคำชมของรุ่นพี่ในวงการ ถึงกับมีน้ำตาคลอให้เห็นเลยทีเดียว
       
       เหลียงลั่วซือ เริ่มต้นอาชีพนักแสดงด้วยวัยเพียง 16 ปี และเป็นดาวรุ่งที่มาแรงที่สุดคนหนึ่งเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน แต่เมื่อปี 2007 เธอกลับตัดสินใจถอนตัวออกจากวงการบันเทิง หลังเริ่มต้นคบหากับ ริชาร์ด ลี ลูกชายของ ลีคาชิง มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของฮ่องกง หลังจากนั้นไม่นานนัก เหลียงลั่วซือ ได้ให้กำเนิดลูกชายให้กับสามี 3 คน แต่แล้วในปี 2011 ชีวิตคู่ของเธอกลับจบลงในที่สุด แต่แฟนๆ ก็ต้องรอกันอีก 2 ปี เธอจึงตัดสินใจกลับมารับงานแสดงอีกครั้ง
       

"หลี่หมิง" (Leon Lai) นักแสดงชื่อดังหนึ่งในสี่จตุรเทพของวงการบันเทิงฮ่องกง ก็ได้ออกมายอมเปิดเผยถึงอดีตภรรยาของเขาเป็นครั้งแรกหลังอุบเงียบมานาน โดยยอมรับว่าตอนนี้ไม่ได้เป็นแม้แต่เพื่อน
       
       หลี่หมิง นักแสดงชื่อดังที่มักไม่ค่อยยอมเผยถึงเรื่องราวชีวิตส่วนตัวออกสื่อเท่าใดนัก โดยเฉพาะเรื่องราวเกี่ยวกับ เล่อจี่เอ๋อ (Gaile Lok) อดีตภรรยาของเขา แต่ตอนนี้เจ้าตัวยอมพูดคุยถึงเรื่องความสัมพันธ์และการหย่าขาดแล้ว
       
       โดยระหว่างให้สัมภาษณ์กับนิตยสารฮ่องกง หลี่หมิง ได้เผยถึงอดีตคนรักว่า "เล่อจี่เอ๋อเธอไม่ใช่ศัตรูของผมนะครับ แต่เราก็ไม่ได้เป็นเพื่อนกันด้วย"
       
       เมื่อถูกถามว่าชีวิตหลังหย่าเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด นักแสดงดังวัย 46 ปีก็ได้กล่าวว่า "ครับ ตอนนี้พื้นที่ในตู้เสื้อผ้าของผมค่อนข้างแตกต่างจากเดิมเยอะทีเดียว"
       
       ทางฟากของเล่อจี่เอ๋อ นางแบบสาววัย 33 ปีที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ของเธออยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลังแยกทางกับอดีตสามี เมื่อไม่นานนี้เจ้าตัวก็เพิ่งเดินทางไปเที่ยวทะเลพักผ่อนที่เม็กซิโก และยังไม่มีความเห็นใดๆต่อการให้สัมภาษณ์ของหลี่หมิงด้วย
       
       โดยหลังจากใช้ชีวิตแต่งงานร่วมกัน 4 ปี อดีตคู่รักคนดังก็ได้ประกาศหย่าขาดในเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว โดยให้เหตุผลเพียงว่า "แตกต่างและเข้ากันไม่ได้"

Manager Online

       เปิดตัวไปแล้วสำหรับ 4 นักแสดงเชื้อสายจีนรุ่นใหม่ ที่จะได้มีบทบาทในหนัง Transformers 4 หลังจากก่อนหน้านี้เพิ่งจะมีประกาศว่าหนังหุ่นยนต์ยักษ์ภาคนี้จะมีดาราชาวจีนทั้ง "หลี่ปิงปิง" (Li Bing Bing) และ "หันเกิง" (Han Geng) ร่วมแสดงด้วยมาแล้ว
       
       Paramount เอาใจนักดูหนังจีนเต็มที่ ในฐานะที่แดนมังกรกลายเป็นตลาดหนังอันดับ 2 ของโลกไปแล้ว ด้วยหนัง Transformers 4 ที่จะเต็มไปด้วยนักแสดงเชื้อสายจีนมากมาย ชนิดที่ว่ามีการจัดเรียลลิตี้โชว์เพื่อคัดเลือกดาวรุ่งหน้าใหม่ชาวจีนเข้าร่วมเป็นหนึ่งในนักแสดงของหนังกันเลยทีเดียว
       
       Paramount, Jiaflix และ China Movie Channel (CCTV6) ของ CCTV ได้ร่วมกันจัดรายการเรียลลิตี้โชว์เพื่อค้นหานักแสดงใหม่ร่วมประชันบทบาทกันดาราฮอลลีวูดใน Transformers 4 และเพิ่งจะได้ผู้ชนะ 4 คนไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
       
       โดยรายการค้นหานักแสดงหน้าใหม่ที่ใช้ชื่อว่า Transformers 4 Chinese Actors Talent ถือว่าได้รับความสนใจจากทั้งนักแสดงมืออาชีพ และสมัครเล่นทั่วเมืองจีน ที่ยื่นใบสมัครเข้ามาถึง 70,000 คน
       
       และในที่สุดผลก็ปรากฏออกมาว่านักแสดงหนุ่ม ไบรอน ลี (Byron Li) ที่เชี่ยวชาญด้านศิลปะป้องกันตัวแบบจีน และจบการศึกษาจากสถาบันการละครกลางในปักกิ่งคือผู้ได้รับเลือกให้รับบทเป็นตัวละคร "นักสู้กังฟู" ในเรื่อง ส่วนสาวสวย แคนดิซ จ้าว (Candice Zhao) ที่เคยคว้าตำแหน่งในการประกวด มิส บิกินี อินเตอร์เนชั่นแนล จะรับบทเป็นสาวเซ็กซีในหนังเรื่องนี้
       

หลังเจอข่าวลือว่าหอบลูกหนีไปอยู่แคนาดาเพราะทนไม่ได้ที่อดีตสามีไปคบหากับนักแสดงสาวคนใหม่ ล่าสุด"จางป๋อจือ" (Cecilia Cheung) นักแสดงชื่อดังก็เจอข่าวฉาวอีกครั้ง ว่ามีภาพหลุดเปลือยอกออกมาว่อนเน็ต และขอออกจากวงการ ส่งให้ต้นสังกัดออกมาแจงข่าวทั้งหมดแล้วว่าไม่เป็นความจริง
       
       จางป๋อจือ นักแสดงสาวชาวฮ่องกงคนดังที่ตอนนี้กำลังใช้ชีวิตอยู่ในแคนาดากับลูกๆ ก็ได้ออกมาใช้ชีวิตตามปกติแล้วจนมีแฟนคลับจับภาพได้ขณะพาลูคัส (Lucas Tse) ลูกชายคนโตไปส่งโรงเรียน โดยมีหนูน้อยควินตัส (Quintus Tse) ลูกชายคนเล็กตามไปส่งด้วย
       
       ตามรายงานจากสื่อฮ่องกงระบุว่า มีข่าวลือหึ่งเลยทีเดียวว่า จางป๋อจือ ได้ย้ายครอบครัวและลูกๆไปอยู่ที่แคนาดาเพราะตัดสินใจออกจากวงการบันเทิงแล้ว พร้อมกับข่่าวภาพหลุดล่าสุด  ซึ่งเป็นภาพที่นักแสดงสาวยืนเปลือยอกปรากฏออกมาว่อนเน็ต และเธอมีพฤติกรรมเพี้ยนๆจนทำหน้าที่แม่บกพร่องด้วย ในส่วนนี้บริษัทต้นสังกัดของเธอได้ออกมาแก้ข่าวชี้แจงเรื่องทั้งหมดทันทีโดยระบุว่า เป็นภาพตัดต่อที่แนบเนียนมาก และเตรียมจะดำเนินการทางกฏหมายอย่างถึงที่สุดต่อผู้ที่ทำภาพดังกล่าวขึ้นมาเผยแพร่
       
       ซึ่งผู้จัดการส่วนตัวของเธอยังกล่าวถึงข่าวลือที่นักแสดงสาวขอลาออกจากวงการบันเทิงด้วยว่า ไม่เป็นความจริง และจางป๋อจือ เตรียมตัวจะกลับมาทำงานอีกครั้งในเดือน ต.ค. นี้ ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ของจางป๋อจือจะรับบทเป็นหญิงสูงวัย ซึ่งเธอรู้สึกตื่นเต้นมากกับบทบาทท้าทายดังกล่าว
 

Manager Online

      นักแสดงรุ่นใหญ่วัย 62 ปีที่โด่งดังด้วยความสวยอมตะ ชนิดที่ชาวจีนเรียกเธอว่า "แม่มดคนสวย" ได้ตัดสินใจแต่งงานเป็นครั้งที่ 4 ในชีวิต กับนักธุรกิจชาวสหรัฐฯ เชื้อสายจีนที่จะมีการจัดงานฉลองกันในเดือน ก.ย. นี้
       
       ข่าวไม่ได้เปิดเผยชื่อจริงของเจ้าบ่าว นอกจากข้อมูลสั้นๆ ว่าเขามีชื่อภาษาอังกฤษว่า วิลเลียม มีอายุประมาณ 60 เศษ เป็นชาวสหรัฐฯ เชื้อสายจีนที่มาจากพื้นฐานครอบครัวทหาร และนี่ก็ไม่ใช่การแต่งงานครั้งแรกของเขาเช่นเดียวกัน เพราะ วิลเลียม เคยมีลูกจากการใช้ชีวิตคู่ครั้งก่อนมาแล้ว
       
       โดยสื่อจีนระบุว่า หลิวเสี่ยวชิ่ง (Liu Xiaoqing / 劉曉慶 / 刘晓庆) กับสามีจดทะเบียนสมรสกันตั้งแต่ปีก่อนแล้ว ก่อนจะได้จัดพิธีในปีนี้ และมีกำหนดจัดงานฉลองกันในเดือน ก.ย. นี้
       
       นักแสดงชาวจีน หลิวเสี่ยวชิ่ง ผู้โด่งดังในฐานะเจ้าของรูปโฉมเหมือนสาว 30 ทั้งๆที่อายุปาเข้าไป 60 ปีแล้ว เข้าวงการบันเทิงมาตั้งแต่ในยุค 70s ก่อนจะโด่งดังเป็นพลุแตกในยุค 80s โดยเฉพาะการแสดงในบท ซูสีไทเฮา ในหนังถึง 4 เรื่องได้แก่ The Burning Of The Imperial Palace, Reign Behind The Curtain, The Empress Dowager และ Li Lianying: The Imperial Eunuch
       
       ด้านชีวิตส่วนตัว หลิวเสี่ยวชิ่ง เคยคบหาดูใจกับหนุ่มๆมาแล้วหลายคน ทั้งที่เป็นนักแสดงด้วยกัน และคนดังในแวดวงบันเทิง รวมถึง เจียงเหวิน ที่ถือว่าเป็นนักแสดง/ผู้กำกับแถวหน้าของวงการในยุคนี้ด้วย