ข่าวจีน

       ทั้งๆ ที่ระยะหลังแฟนๆ เริ่มจะแน่ใจว่า "สงไต้หลิน" (Lynn - Xiong Dailin / 熊黛林) มีโอกาสเป็นว่าที่ภรรยาของ "กัวฟู่เฉิง" (Aaron Kwok / 郭富城) ค่อนข้างแน่ แต่กลายเป็นว่าล่าสุดคู่รักสุดดังแห่งวงการบันเทิงจีนอาจจะยุติความสัมพันธ์ที่ดำเนินมาอย่างยาวนานกันเสียแล้ว หลังฝ่ายหญิงเปรยถึงเรื่องนี้ออกมาอย่างเป็นนัยว่าถึงเวลาของการ "เริ่มต้นใหม่" ของเธอเสียที
       
       เพิ่งจะเริ่มปรากฎตัวร่วมกันตามสถานที่ต่างๆบ่อยขึ้น แถมไม่กี่สัปดาห์ก่อน นักร้องหนุ่มชื่อดังยังโชว์ความหวานต่อหน้าแฟนสาวบนเวทีคอนเสิร์ตของตัวเอง แต่ล่าสุดกลับมีข่าวว่าความรักของ สงไต้หลิน กับ กัวฟู่เฉิง ได้เดินมาถึงทางตัน จนเธออาจจะขอเลิกกับเขาไปแล้ว หลังนางแบบสาวคนสวยเขียนข้อความผ่านทาง Weibo ว่า "ของขวัญที่ฉันให้ตัวเองตอนนี้ก็คือการเริ่มต้นใหม่อีกครั้งค่ะ" พร้อมกับโพสต์ภาพมือที่สวมแหวนไว้ที่นิ้วก้อย ซึ่งหลายคนเชื่อว่ามีความหมายถึงการเป็นโสด และเป็นการประกาศอย่างไม่เป็นทางการว่าเธอได้ยุติความสัมพันธ์ 7 ปีกับแฟนหนุ่มแล้ว
       
       หลังจากนั้นเหล่าแฟนคลับจึงได้พยายามปะติดปะต่อข้อความจาก Weibo ของ สงไต้หลิน ในรอบหลายวันที่ผ่านมา ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะสนับสนุนข่าวการเลิกราได้เช่นเดียวกัน
       
       ทั้งที่เธอโพสต์ภาพสุนัขของตัวเองพร้อมด้วยข้อความว่า "มีพวกเธอทั้งสองตัว ฉันคงจะผ่านทุกอย่างนี้ไปได้" เช่นเดียวกับที่ว่า "สรุปเอาเอง, มีแต่การสรุปเอาเอง, สรุปเอาเองว่าเธอทำแบบนั้นได้, สรุปเอาเองว่าเธอแข็งแกร่งพอ, สรุปเอาเองว่าเธอคงไม่ใส่ใจ แต่ความรู้สึกพวกนั้นมันถูกปลูกขึ้นในจิตใจของเธอมานานแล้ว กว่าจะรู้ตัวก็สายไปแล้ว"
       

      ซีรีส์อิงประวัติศาสตร์ฟอร์มยักษ์ว่าด้วยชีวิตของยอดขุนพลในยุคราชวงศ์ซ่ง กำลังจะมีกำหนดออกอากาศในเดือน ก.ค.นี้แล้ว โดยเป็นผลงานทั้งอำนวยการสร้าง และแสดงนำของ “หวงเสี่ยวหมิง” (Huang Xiaoming) ดาราอันดับ 1 วงการบันเทิงจีนยุคปัจจุบัน
       
       สื่อในจีนแผ่นดินใหญ่เปิดเผยว่า The Patriot Yue Fei จะเป็นซีรีส์จากจีนเรื่องแรกที่เล่าเรื่องราวของ งักฮุย (สำเนียงแต้จิ๋ว หรือ เยว่เฟย ในสำเนียงจีนกลาง / 岳飛 /岳飞) ขุนพลนักรบผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกคน แห่งประวัติศาสตร์ประเทศจีน ที่เคยมีชีวิตอยู่ในยุคราชวงศ์ซ่ง โดยซีรีส์ได้ หวงเสี่ยวหมิง มาสวมบทบาทนำ ร่วมด้วย หลอเจียเหลียง, ติงจื่อจิ้น, อู๋เสี่ยวเป่า, เส้าปิง, หลินซินหยู, หลิวซือซือ, จางซินหยู และ เจิ้งเผ่ยเผ่ย
       
       สำหรับ หวงเสี่ยวหมิง แล้วนอกจากจะรับบทนำ เขายังจะร่วมอำนวยการสร้างซีรีส์เรื่องนี้ด้วย โดยนักแสดงหนุ่มคนดังเอ่ยปากว่า งักฮุย คือตัวละครที่เขาอยากจะสวมบทบาทมานานแล้ว และคิดว่านี่คือบทที่แตกต่างจากการแสดงเป็นจอมยุทธในหนังแนวกำลังภายในที่เขาคุ้นชินโดยสิ้นเชิง
       
       “เขาเป็นวีรบุรุษผู้มีตัวตนในประวัติศาสตร์ ไม่ใช่จอมยุทธ์อย่างที่ผมเคยแสดงมาก่อน เป็นบุคคลที่มีความเป็นตำนาน ด้วยเรื่องราวที่โดดเด่น และสะเทือนใจ The Patriot Yue Fei คือชีวประวัติของวีรบุรุษ ที่นำเสนอถึงความกล้าหาญ และความสามารถของ งักฮุย รวมถึงความจงรักภักดี และการอุทิศตัวเพื่อชาติ เป็นงานที่จะมอบจิตวิญญาณอันแน่วแน่มั่นคง และเด็ดเดี่ยว ของวีรบุรุษให้กับทุกคน”
       

      เมื่อวันที 2 เม.ย. Paramount Pictures ได้ประกาศการร่วมงานทางธุรกิจกับ China Movie Channel และ Jiaflix Enterprises บริษัทจากจีนแผ่นดินใหญ่ เพื่อสร้างหนัง Transformers ภาคต่อไป กระทั่งมีข่าวว่าหนังไซไฟฟอร์มใหญ่ภาค 4 อาจมีนักแสดงจีนร่วมปรากฏตัวด้วย
       
       เมื่อตลาดหนังจีนกลายเป็นตลาดหนังใหญ่อันดับ 2 ของโลก และยังเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีสิทธิ์ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ฮอลลีวูดจึงมุ่งความสนใจไปที่จีนอย่างเต็มที่ มีโครงการหนังฟอร์มใหญ่หลายเรื่อง ที่ดึงเอาบริษัทจีนมาร่วมสร้างด้วย รวมถึง Transformers 4 ที่ล่าสุด ไมเคิล เบย์ ผู้กำกับหนัง ได้เปรยออกมาว่า เขาหวังจะเลือกนักแสดงจีนให้มาร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้ด้วย
       
       และตอนนี้มีข่าวลือว่า เฉินคุน (Chen Kun), หวงเสี่ยวหมิง (Huang Xiaoming) และ ตงต้าเหว่ย (Tong Dawei) อาจได้ร่วมแสดงในภาค 4 ของหนังหุ่นยนต์ยักษ์สุดฮิต
       
       ในปี 2012 จีนได้แซงหน้าญี่ปุ่นขึ้นเป็นตลาดหนังอันดับ 2 ของโลกอย่างเป็นทางการแล้ว โดยในแต่ละปีหนังฮอลลีวูดก็ยังเข้าไปกวาดเงินหยวนมากมายมหาศาล แม้รัฐบาลจีนจะมีกฎระเบียบข้อจำกัดเปิดโอกาสให้หนังจากสหรัฐอเมริกา ไปเปิดฉายในโรงหนังจีนแผ่นดินใหญ่ได้เพียงปีละ 20 เรื่องเท่านั้น
       
       Transformers ก็ถือว่าเป็นหนังที่ฮิตที่สุดเรื่องหนึ่งในเมืองจีน ในหนังภาคก่อน Transformers 3, Dark of the Moon เคยทำเงินในจีนถึง 165 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มาแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากหนังภาคต่อไป ผู้สร้างจะพยายามใส่องค์ประกอบสำหรับดึงดูดความสนใจจากคนดูชาวจีนมากขึ้น
       

       หนังตำรวจสุดดังแห่งปี ได้รับรางวัลจากงานตุ๊กตาทองฮ่องกงไปมากที่สุดรวมถึง 9 สาขา รวมถึงรางวัลใหญ่ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมของ “เหลียงเจียฮุย” (Tony Leung Ka Fai) ด้วย ในการมอบรางวัลกันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
       
       Cold War หนังที่เล่าเรื่องการต่อสู้หักเหลี่ยมในกรมตำรวจ ระหว่างเจ้าหน้าที่แผนกบริหาร และปฏิบัติการ คือหนังที่คว้ารางวัลใหญ่เป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ของการแจกรางวัลตุ๊กตาทองฮ่องกงประจำปี 2013 นอกจากนั้นยังได้รางวัลสำคัญไปอีกหลายสาขา รวมถึงนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วย
       
       “ด้วยการรวมเอากลุ่มนักแสดงที่ยอดเยี่ยมมาร่วมงานกัน เราถึงได้ประสบความสำเร็จในงานชิ้นนี้ครับ” ลองแมน เหลียง ผู้กำกับหน้าใหม่ในวัย 55 ปี กล่าวขอบคุณกลุ่มนักแสดงชั้นยอดในหนัง ที่ประกอบไปด้วย เหลียงเจียฮุย, กัวฟู่เฉิง, หยังไฉ่หนี, หลินเจียตง, อารีฟ ลี, เอ็ดดี เผิง, เฉินเจียเล่อ, อันจื่อเจียะ รวมถึง หลิวเต๋อหัว ประชันบทบาทกันในหนังเรื่องนี้
       
       “ลูกสาวของผมบอกให้ผมขอบคุณพวกเธอบนเวทีนี้ด้วย ผมก็ถามว่าทำไม ลูกให้เหตุผลว่าพวกเธอไปดูหนังเรื่องนี้กันคนละ 4 รอบแล้ว ไม่ใช่แค่ 4 รอบเท่านั้นนะ แต่ยังพาเพื่อนไปดูกันเป็น 20 คนด้วย” เจ้าของรางวัลหนัง และผู้กำกับยอดเยี่ยมกล่าว
       

       เปิดเผยกันออกมาว่านักร้องสาวคนดังสมาชิกวง S.H.E มีรายได้ที่มากกว่าสามีของเธอถึง 40 เท่า โดย "เอลลา เฉิน" (Ella Chen) ได้พูดถึงเรื่องเงินๆ ทองๆ ของครอบครัว ว่าแม้จะเข้าประตูวิวาห์ไปแล้ว แต่เธอกับสามีเลือกที่จะแยกกระเป๋าตังค์ ดูแลเรื่องเงินของแต่ละคนกันเอง
       
       ในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมาคนดังฝ่ายหญิงในวงการบันเทิงไต้หวัน ได้ตัดสินใจเข้าประตูวิวาห์ติดๆกันหลายคู่ จนเป็นที่สนอกสนใจของสาธารณะชนขึ้นมา ถึงความแตกต่างระหว่างรายได้ของดาราสาวชื่อดัง กับสามีของพวกเธอ ซึ่งล่าสุดมีการเปิดเผยออกมาว่าสำหรับ เอลลา เฉินเจียฮวา แห่งวง S.H.E นั้นมีรายได้ที่มากกว่าสามี อัลวิน ไล (Alvin Lai) หนุ่มชาวมาเลเชีย ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาดของ L'Oreal Group ในไต้หวัน ถึง 40 เท่าเลยทีเดียว
       
       แม้นักร้องสาวคนดังจะไม่ได้ยอมรับหรือปฏิเสธถึงข่าวดังกล่าว แต่เธอก็ยอมรับว่าตอนนี้เธอและสามีเลือกที่จะขออิสระในการดูแลทรัพย์สิน และจัดการรายได้ของตัวเอง แต่จะร่วมกันจ่ายเงินสำหรับค่าใช้จ่ายทั่วๆไป ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่าบ้าน หรือค่าเดินทาง แต่เธอก็ขอเก็บเรื่องรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับการเงินของตนเอง และสามีเอาไว้เป็นเรื่องส่วนตัว โดยปฏิเสธที่จะตอบว่าเธอกับเขาจ่ายเงินเท่าๆกันสำหรับค่าใช้จ่ายพวกนี้หรือไม่
       
       เอลลา ยังมีโอกาสพูดถึงชีวิตคู่หลังแต่งงานมาได้เกือบ 1 ปี ว่าเธอถือว่าเป็นคนหัวโบราณ และจะไม่ให้อภัยเด็ดขาดหากสามีเลือกที่จะมีผู้หญิงคนอื่น "เกี่ยวกับเรื่องความรักฉันค่อนข้างหัวโบราณ ถ้ามีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องก็คงขอหย่าทันทีค่ะ"

Manager Online

เอเจนซี – “กาน ลู่ลู่” (Gan Lulu / 干露露) บุกฮ่องกงโดยขนนมมาเต็มพิกัด พร้อมเปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นว่ารับแสดงหนังเกรด 3 แบบไม่ลังเล แม่เผยเมื่อลูกเลือกเส้นทางบันเทิงแล้วก็ต้องสนับสนุนเต็มที่ เผยแบบไม่มีอาย ระบุถ้าต้องแสดงฉากบนเตียงก็ขอเลือกประกบคู่กับ “เฉิน กว้านซี” (Edison Chen)

      หลังยุติความสัมพันธ์กับ "หลีหมิง" (Leon Lai) ไปเมื่อปีก่อน ล่าสุดมีความลือออกมาว่านางแบบสาว "เล่อจี่เอ๋อ" (Gaile Lok) เตรียมสละโสดรอบสอง และฝ่ายชายก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นหนุ่มต่างชาติที่เคยมีข่าวลือว่าเป็นรักใหม่ แต่เธอยืนยันว่าเป็นแค่เพื่อนนั่นเอง
       
       หลังชีวิตรัก 4 ปี ของ เล่อจี่เอ๋อ กับ หลีหมิง ปิดฉากไปเมื่อปีก่อน นางแบบสาวดูจะมีความสุขกับการได้รับอิสระอีกครั้ง และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งก่อนขั้นตอนการหย่าจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ได้มีข่าวลือออกมาว่า หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ชีวิตคู่ของเธอและดาราชื่อดังชาวฮ่องกงจบลงอย่างไม่ค่อยจะสวย ก็เพราะเธอพบรักใหม่กับครูสอนวินด์เซิร์ฟชาวนิวซีแลนด์ที่ชื่อว่า ครูซ นั่นเอง
       
       แม้ เล่อจี้เอ๋อ จะเคยแก้ข่าว ยืนยันว่าเขาคนนั้นเป็นเพียงเพื่อนของเธอเท่านั้น แต่ล่าสุดก็ยังมีรายงานมาใหม่ว่าความสัมพันธ์ของเธอกับ ครูซ ดูจะแนบแน่นเกินธรรมดา และสนิทเกินกว่าจะเป็นเพื่อนอย่างที่อ้าง
       
       ทั้งสองมีโอกาสเดินทางไปไหนต่อไหนด้วยกัน และยังปรากฏตัวตามที่ต่าง ๆ ด้วยกันเสมอ ข่าวยังบอกว่าตอนนี้เธอดูจะมีความสุขมาก ๆ เหมือนเป็นคนละคนกับตอนที่เพิ่งจบชีวิตแต่งงานใหม่ๆเลย
       
       กระทั่งเมื่อเดือนก่อน ครูซ จึงได้ตัดสินใจขอเธอแต่งงาน และเล่อจี่เอ๋อ ก็ตอบตกลง ซึ่งฝ่ายชายดีใจกับเรื่องนี้มาก และประกาศให้คนรู้จักทราบด้วยการโพสต์รูปลง Instagram เพื่อแจ้งข่าวดี แต่ฝ่ายหญิงกังวลว่าเรื่องนี้จะสร้างความไม่สบายใจให้กับอดีตสามีคนดัง จึงบอกให้เขาลบภาพทิ้งไปซะ
       

       หลังเข้าฉายมาได้เพียง 6 วัน Finding Mr.Right หนังแนวตลกโรแมนติกของ “ทังเวย” (Tang Wei) สามารถทำเงินผ่านหลัก 100 ล้านหยวน ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถือว่าเฉือนเอาชนะหนังฮอลลีวูดที่เข้าฉายพร้อมกันได้ ไม่ว่าจะเป็น Resident Evil: Retribution 3D, Jack the Giant Slayer หรือกระทั่งผลงานใหม่ของ “บรูซ วิลลิส” A Good Day to Die Hard
       
       ไม่ใช่เฉพาะที่เมืองไทย ที่หนังท้องถิ่นสามารถใช้ความตลกเอาชนะผลงานดังจากฮอลลีวูดได้ แต่ที่เมืองจีนหนังโรแมนติกคอมเมดี Finding Mr. Right ก็ขึ้นเป็นหนังทำเงินอันดับ 1 ส่งท้ายเดือน มี.ค.ด้วยการเอาชนะหนังดังจากสหรัฐฯ ได้เช่นเดียวกัน
       
       โดยผลงานใหม่ของ ทังเวย นางเอกสาวที่แจ้งเกิดกับหนังสุดอื้อฉาว Lust, Caution สามารถทำเงินในการฉาย 4 วันแรก หลังเข้าฉายในปลายเดือนก่อนไปได้ 75.4 ล้านหยวน (ประมาณ 357 ล้านบาท) จากคนดู 2.38 ล้านคน และถึงตอนนี้น่าจะทำเงินเกิน 100 ล้านหยวนไปแล้ว
       
       เรียกว่ากระแสหนังเบาๆ ยังมาแรงในจีนแผ่นดินใหญ่ จากเมื่อเดือนก่อน Say Yes! หนังตลกโรแมนติกที่ดัดแปลงมาจากซีรีส์ญี่ปุ่นสุดอมตะ 101 ตื้อรักนายกระจอก ก็เคยทำเงินได้ถึง 120 ล้านหยวนใน 6 วันมาแล้ว ถือว่าเป็นขาขึ้นของหนังตลกในจีนแผ่นดินใหญ่ที่ก่อนหน้านี้ Lost In Thailand และ Journey to the West: Conquering the Demons ก็เพิ่งจะทำเงินหลัก 1,000 ล้านหยวน ไปได้ทั้งสองเรื่อง
       
       สำหรับ Finding Mr. Right เล่าเรื่องของหญิงสาวที่เดินทางไปสหรัฐฯ เพื่อคลอดลูก แต่กลับไปพบรักกับหนุ่มจีนที่อาศัยอยู่ที่นั่น โดยหนังมีฉากหลังอยู่ที่เมือง ซีแอตเติล ในรัฐวอชิงตัน
       

       เพลย์บอยอันดับ 1 แห่งฮ่องกงอาจใกล้ถึงวันถอดเขี้ยวเล็บ ยุติความโลดโผนในชีวิตแล้ว หลังมีข่าวว่าเขาพบรักแท้ กับสาวอดีตลูกจ้างของตัวเอง ที่คบหาจริงจังถึงขั้นคิดแต่งงานกันเลยทีเดียว
       
       ชีวิตรัก และเรื่องทางเพศของ “เอดิสัน” เฉินกว้านซี (Edison Chen) กลายเป็นประเด็นที่ใครๆ ก็พูดถึงกันนับแต่ประเด็นฉาวภาพหลุดเมื่อปี 2008 กลายเป็นเรื่องสั่นสะเทือนโลกบันเทิง แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าเพลย์บอยคนดังแห่งวงการบันเทิงฮ่องกงจะพบรักแท้แล้ว ตั้งแต่เขาคบหากับแฟนสาวคนปัจจุบัน แอน หง เมื่อ 6 เดือนก่อน เฉินกว้านซี ก็ไม่ได้มีข่าวกับสาวๆ คนใดอีก ล่าสุดยังมีรายงานออกมาว่าเขาพร้อมย้ายไปอยู่ไต้หวันกับเธอ และอาจตัดสินใจแต่งงานในอนาคตอันใกล้นี้
       
       “มีความเป็นไปได้สูงมาก ที่ผมจะย้ายไปอยู่ไต้หวันครับ” เฉินกว้านซี กล่าวกับสื่อท้องถิ่น “จะเริ่มหาบ้านในเดือนหน้านี้แล้ว”
       
       หลังแทบไม่มีงานในวงการบันเทิงฮ่องกงอีกแล้ว นับแต่เกิดเหตุภาพฉาวหลุดว่อนเน็ตครั้งนั้น เฉินกว้านซี ก็ดูเหมือนจะทุ่มเวลาไปให้กับธุรกิจแฟชั่นแบรนด์ CLOT ของตัวเอง นอกจากนั้นในระยะหลังเขาก็บินไปบินมาระหว่างฮ่องกง และไต้หวันตลอดอยู่ จนที่นั่นแทบจะกลายเป็นบ้านแห่งที่ 2 ไปแล้ว เพราะเขามักจะใช้เวลาอยู่ที่นี่ถึงร่วม 10 วันต่อเดือน เพื่อจะได้ใกล้ชิดกับแฟนสาวมากขึ้น
       
       หนุ่มวัย 32 ปี พบแฟนสาววัย 22 ปีที่เคยเป็นพนักงานในร้านสาขาของเขาที่ไต้หวันเมื่อปีก่อน อย่างไรก็ตามแม้จะเตรียมย้ายไปอยู่ที่ไต้หวัน แต่ทั้งสองก็ยังไม่ได้ถึงขั้นเริ่มต้นใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแต่อย่างใด เพราะฝ่ายหญิงยังคงอาศัยอยู่กับครอบครัว แต่ตอนนี้ทั้งสองก็มีโอกาสควงกันไปไหนต่อไหนอย่างเปิดเผยมากขึ้น ถึงขั้นที่ อาเฉิน เคยพาเธอไปร่วมเปิดตัวหนังสือ และเปิดสาขาใหม่ของร้าน CLOT มาแล้ว
       

     “เหลียงเฉาเหว่ย” (Tony Leung) เป็นหนึ่งในคนดังที่มีโอกาสขึ้นบนเวทีคอนเสิร์ต ซึ่งจัดเพื่อรำลึกถึง “เลสลี่ จาง” (Leslie Cheung) ซูเปอร์สตาร์ผู้จากโลกนี้ไปเมื่อ 10 ปีก่อน ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (31 มี.ค.) ที่ฮ่องกง
       
       คอนเสิร์ต Miss You Much Leslie เป็นการรวมตัวของคนดังในวงการบันเทิงฮ่องกง ที่มาพร้อมกันเพื่อรำลึกถึง เลสลี่ จาง ผู้ล่วงลับ ในวาระการเสียชีวิตครบ 10 ปีเต็มของเขา โดยงานนี้ เหลียงเฉาเหว่ย ที่เคยร่วมงานกับ เลสลี จาง ในหนัง Days of Being Wild และ Happy Together ก็ได้มาร่วมขึ้นเวทีเพื่อกล่าวถึงอดีตเพื่อนนักแสดงผู้จากไปด้วย
       
       “อะไรที่คุณต้องการจะจดจำเอาไว้ มันก็จะถูกจดจำเอาไว้ตลอดกาล” เหลียงเฉาเหว่ย หยิบประโยชน์หนึ่งที่ตัวละคร หยกไจ๋ ของ เลสลี ในหนังดัง Days of Being Wild ขึ้นมาพูด ระหว่างคอนเสิร์ตพิเศษ Miss You Much Leslie เมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
       
       “ผมจำได้ว่าคุณชอบประโยคนี้จากหนังมาก คุณจากโลกนี้ไปมากกว่า 3,000 วันแล้ว ผมเพิ่งเข้าใจความหมายของถ้อยคำพวกนี้ หลังจากเวลาผ่านไปนานหลายปี ผมเพิ่งจะเข้าใจถึงความสำคัญของการรักษาช่วงเวลาสำคัญแบบนี้เอาไว้ ถึงเราจะไม่ได้พบกันอีก ผมจะไม่ลืมเพื่อนคนนี้แม้แต่นาทีเดียว บางครั้งเมื่อผมมองขึ้นไปบนฟ้า ก็จะพยายามมองหานกไร้ขาตัวนั้น”
       

      วาไรตี้โชว์ We Got Married ของ MBC ในเวอร์ชันนานาชาติเพิ่งเปิดแถลงข่าวกันไปเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยรายการจะมีหนุ่ม “แทคยอน” (Taecyeon) แห่งวง 2PM มาสวมบทบาทเป็นคู่ชีวิตกับสาว “กุ้ยกุ้ย” (Gui Gui) จากไต้หวัน ส่วน “อีฮองกิ” (Lee Hong Ki) วง FT Island จะได้ใช้ชีวิตคู่กับดาราชาวญี่ปุ่น
       
       ระหว่างการแถลงข่าว แทคยอน กับ กุ้ยกุ้ย หรือ อู๋หยิงเจีย สาวไต้หวันวัย 23 ปี ที่ต้องมาลองใช้ชีวิตเป็นคู่แต่งงานกันในรายการยอดฮิต We Got Married ฉบับนานาชาติ ดูจะเริ่มสนิทสนมกันแล้ว โดยในคลิปการให้สัมภาษณ์ฝ่ายหญิงบอกว่าหนุ่ม นิชคุณ (NichKhun) คือสมาชิกของ 2PM ที่เธอชอบที่สุด ก่อนจะบอกว่าเธอพูดเล่นเท่านั้น “แค่มุกน่ะค่ะ ฉันชอบแทคยอนมากกว่าแล้วตอนนี้”
       
       “เวลาเขาจะแสดงความเห็นอะไรจะดูจริงจังมาก แต่ก็มีมุมขี้เล่นด้วย เป็นคนที่ลึกลับสำหรับฉันอยู่เหมือนกัน” กุ้ยกุ้ย บอกในการแถลงข่าว
       
       ขณะที่ แทคยอน ก็ตอบถึงคำถามที่ผู้สื่อข่าวให้พูดถึงเจ้าสาวสมมุติในรายการ We Got Married ของเขาด้วยชื่อเพลงของวง 2PM ว่า “10 Points Out of 10” เช่นเดียวกันฝ่ายของ กุ้ยกุ้ย ก็บอกว่าเธอก็ขอให้คะแนน แทคยอน 10 เต็ม 10 เหมือนกัน
       

      ในโอกาสวาระครบรอบการจากไป 10 ปีเต็มของ “เลสลี่ จาง” (Leslie Cheung) แฟนๆ ได้ร่วมกับพับนกกระเรียนกระดาษเพื่อรำถึงถึงศิลปินระดับตำนาน รวมกันแล้วนับได้เฉียด 2 ล้านตัวเลยทีเดียว
       
       ในวันที่ 1 เม.ย.นี้ ถือว่าเป็นวาระครบรอบการเสียชีวิตปีที่ 10 ของ เลสลี่ จาง ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ชาวฮ่องกง ที่จบชีวิตลงอย่างน่าเศร้าในวันที่ 1 เม.ย. 2003 ซึ่งในโอกาสดังกล่าวแฟนๆ ได้ร่วมทำกิจกรรมเพื่อเป็นการรำลึกถึงเขา ด้วยการมารวมตัวกันพับกระดาษ เป็นรูปนกกระเรียน ซึ่งก็น่าจะถือว่าเป็นจำนวนที่เยอะเป็นสถิติโลกเลยทีเดียว
       
       โดยแฟนๆ ได้ร่วมกันพับกระดาษเป็นนกกระเรียนถึง 1,956,912 ตัว ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขพิเศษ เพื่อสื่อความหมายถึงวันที่ 12 ก.ย. 1956 อันเป็นวันคล้ายวันเกิดของ เลสลี่ จาง ซึ่งหากเขายังมีชีวิตอยู่ก็จะมีอายุครบ 56 ปีแล้ว
       
       ฟลอเรนซ์ เฉิน อดีตผู้จัดการส่วนตัวของ เลสลี จาง ได้เป็นตัวตั้งตัวตีในการจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นที่ HK Times Square ภายใต้ชื่อ Miss You So Much Leslie - Exhibition ซึ่งงานจะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.ไปจนถึง 1 พ.ค.มีทั้งการแสดงผลงานเก่าๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านเพลง หรือภาพยนตร์ของ เลสลี่ จาง มาโชว์ นอกจากนั้นยังจะมีการนำเอารางวัล และเสื้อผ้าเก่าๆ ของเขามาแสดงให้ทุกคนได้ชมกันด้วย
       
       ย้อนหลังไปในเหตุการณ์ครั้งนั้น เป็นข่าวช็อกในหลายประเทศทั่วเอเชีย เมื่อมีรายงานข่าวการจากไปอย่างกะทันหันของ เลสลี จาง นักร้องนักแสดงคนดังชาวฮ่องกง ที่จบชีวิตตัวเองด้วยการกระโดดลงมาจากชั้นที่ 24 ของ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ในฮ่องกง โดยว่ากันว่า ก่อนหน้าเสียชีวิต นักแสดงวัย 46 ปี ต้องใช้ชีวิตอย่างทรมานอยู่กับอาการของโรคซึมเศร้ามาโดยตลอดหลายปี

       "โรแนน ไป๋" (Ronan Pak) ต้องให้สัมภาษณ์โต้ข่าวที่ว่า เขาคือหนึ่งในนักแสดงที่หาลำไพ่พิเศษกับงานประเภทค้าบริการทางเพศ พร้อมชี้แจงตนเองเป็นเหยื่อของการหลอกลวงหลอกใช้ จนเกิดความเข้าใจผิดขึ้น
       
       ประเด็นข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นหลัง Popular Asians สื่อแนวแท็บลอยด์ได้ตีพิมพ์บทความที่อ้างว่าพวกเขาได้ส่งผู้สื่อข่าว ให้ไปติดตามตรวจสอบพฤติกรรมค้าบริการทางเพศของนักแสดงหนุ่มคนดังรายหนึ่ง ที่มักจะใช้ร่างกายแลกเงินขายตัวให้บรรดาชายรักร่วมเพศ ครั้งละ 35,000 ถึง 100,000 เหรียญฮ่องกง ( 132,000 - 378,000 บาทโดยประมาณ) โดยจะทำการติดต่อนัดพบผ่านห้องแชทที่เหล่าเกย์นิยมเข้าไปพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน
       
       สื่อฉบับดังกล่าวได้อ้างว่า ผู้สื่อข่าวได้ทำการติดต่อขอซื้อบริการกับหนุ่มคนดังผู้นี้ จนพบว่าเขาก็คือ โรแนน ไป๋ ดาราหนุ่มสังกัด TVB อดีตผู้เข้าประกวด Mr. Hong Kong นั่นเอง
       
       ต่อมาจึงมีการตกลงราคา และนัดพบกันที่โรงแรม Harbor Plaza Resort Hotel ในย่าน ทินชุ่ยเหว่ย เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามนักข่าวที่แฝงตัวเข้าไปล่อซื้อ ยังไม่ได้มีโอกาสพบกับหนุ่ม โรแนน โดยตรงนอกเสียจากว่าเขาจะยอมจ่ายเงินก่อน เพียงมีโอกาสแค่คุยโทรศัพท์กันเท่านั้น ซึ่งเขาก็อ้างว่าจากเสียงที่ได้ยินซึ่งค่อนข้างนุ่มๆ เป็นเอกลักษณ์ จึงมั่นใจว่าอีกฝ่ายคือนักแสดงคนดังผู้นี้แน่นอน
       
       และเป็นความบังเอิญที่ในวันนั้น โรแนน ไป๋ ก็เดินทางไปที่ทินชุ่ยเหว่ยด้วยเช่นเดียวกัน ตามปากคำของพยานระบุว่า นักแสดงหนุ่มทำท่าทางลับๆ ล่อๆ อยู่ที่หน้าประตูของโรงแรม Harbor Plaza Resort Hotel ก่อนจะพบกับกลุ่มผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ก่อนแล้ว จึงรีบปลีกตัวออกไป และเอ่ยปากว่า เขาไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับประเด็นการค้าบริการทางเพศทั้งนั้น

       หลังแทบไม่เคยกล่าวถึงเรื่องรักและความสัมพันธ์กับแฟนสาวเลย ล่าสุด "กัวฟู่เฉิง" (Aaron Kwok / 郭富城) ได้แสดงความรู้สึกของเขาที่มีต่อนางแบบสาวคนสวย "สงไตหลิน" (Lynn Xiong / 熊黛林) อีกครั้ง และยังเป็นการแสดงความรักระหว่างที่ตัวเองอยู่บนเวทีคอนเสิร์ตด้วย
       
       ตลอดระยะเวลาของการคบหากันยาวนาน 7 ปี กัวฟู่เฉิง แทบไม่เคยถ่ายภาพร่วมกับ สงไตหลิน หรือยอมรับพูดถึงความสัมพันธ์กับนางแบบสาวคนสวยเลย จนกระทั่งในช่วงปีที่ผ่านมาทั้งสองจึงเริ่มเปิดเผยเรื่องความรักครั้งนี้มากขึ้น เมื่อเร็วๆนี้ ก็เพิ่งจะมีภาพควงกันไปเที่ยวต่างประเทศออกมาให้เห็นในสื่อ ล่าสุด กัวฟู่เฉิง ยังโชว์ความหวานให้กับแฟนสาวบนเวทีคอนเสิร์ตด้วย
       
       ถือว่าการแสดงออกของซูเปอร์สตาร์วัย 47 ปี เป็นการยืนยันว่าความรักของเขากับเธอยังมั่นคงดี ไม่ได้กำลังจะแยกทางกันอย่างที่มีรายงานในสื่อแต่อย่างใด โดยระยะหลังเริ่มมีข่าวออกมาว่า กัวฟู่เฉิง อาจจะปันใจไปให้กับอดีตมิสไชนีสอินเตอร์เนชั่นแนล คริสตีน กัวะ (Christine Kuo / 苟芸慧) หลังมีกระแสข่าวว่าพบเขาที่บ้านของสาวคนนี้บ่อยๆ
       
       ข่าวดังกล่าวว่ากันไปถึงขั้นที่ว่า สงไตหลิน ไม่พอใจกับเรื่องนี้มาก ถึงขั้นย้ายบ้านออกจากที่เคยอาศัยอยู่ใกล้ๆ กับแฟนหนุ่มเลยทีเดียว
       
       ท่ามกลางกระแสข่าวลือเรื่องเลิก นางแบบคนสวยวัย 33 ปี ได้ไปปรากฏตัวที่คอนเสิร์ตของ กัวฟู่เฉิง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยมีมารดา และผู้จัดการส่วนตัวของเธอเดินทางมาร่วมชมการแสดงด้วย
       

      ไม่ใช่ดาราที่มีข่าวเรื่องรักออกมาซักเท่าไหร่ แต่ล่าสุดสื่อในไต้หวันได้เปิดเผยถึงเรื่องสาวๆ ของ "กู่เทียนเล่อ" (Louis Koo) ว่าก่อนหน้านี้เขาเคยออกเดตสานสัมพันธ์กับดาราสาว "เฉินเฉี่ยวเอิน" (Joe Chen) อยู่ร่วมปี ก่อนจะแยกทางกันไป เพราะมีสาวไต้หวันอีกคนเข้ามาเป็นมือที่ 3
       
       ตามข่าว กู่เทียนเล่อ ดาราหนุ่มวัย 42 ปี มีโอกาสสานสัมพันธ์กับ เฉินเฉี่ยวเอิน สาวสวยชาวไต้หวันวัย 33 ปี ตั้งแต่ปี 2011 ก่อนจะแยกทางกันไปในปีที่แล้ว หลังที่ฝ่ายชายได้พบกับ เฉินเหยียนซี (Michelle Chen) สาวสวยชาวไต้หวันที่กำลังดังขึ้นมาอีกคน
       
       จากข้อมูลในข่าว กู่เทียนเล่อ ได้ทำความรู้จักกับ เฉินเฉี่ยวเอิน ผ่านการแนะนำของเพื่อนคนหนึ่งตั้งแต่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ก่อนจะเริ่มมาคบหากันแบบเป็นเรื่องเป็นราวในปี 2011 ก่อนจะห่างๆกันไป เพราะต่างฝ่ายต่างก็ยุ่งกับเรื่องงาน
       
       กระทั่งต่อมาชื่อของ เฉินเหยียนซี ได้ถูกนำมาโยงถึง กู่เทียนเล่อ หลังดาวตลกหญิงคนดัง อู๋จินหยู (Sandra Ng) ได้เล่าในรายการวาไรตี้โชว์ว่า เธอเพิ่งจะเป็นแม่สื่อให้ทั้งสองได้ทำความรู้จักกัน โดย กู่เทียนเล่อ ก็ค่อนข้างประทับใจในตัวสาวคนนี้ไม่น้อย และได้ไปออกเดตกับเธอหลายครั้งแล้ว
       
       ว่ากันว่าข่าวดังกล่าวถึงกับทำให้ เฉินเฉี่ยวเอิน โทรศัพท์มาถามความจริงกับกู่เทียนเล่อหลายครั้ง ซึ่งแม้เขาจะบอกไปว่าสาวคนใหม่เป็นแค่เพื่อนเท่านั้น และสุดท้ายทั้งสองก็แยกทางกันไปในที่สุด
       

      ลือกันไปทั่วถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้ง เป็นความสนิทสนมชนิดพิเศษ ของขาใหญ่แห่งวงการบันเทิงฮ่องกง "เจิ้งจือเหว่ย" (Eric Tsang / 曾志偉) กับดาราสาวดาวรุ่ง "เมนี จาง" (Meini Cheung / 張美妮) แห่งสังกัดทีวีบี ที่ระยะหลังมีคนสังเกตเห็นว่าทั้งสองมักจะไปไหนต่อไหนด้วยกันเสมอ จนทำให้หน้าที่การงานในวงการบันเทิงของฝ่ายหญิงดูจะก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว
       
       ข่าวลือดังกล่าวเริ่มต้นเป็นที่พูดถึงกัน หลังมีคนสังเกตว่าระยะหลัง เจิ้งจือเหว่ย ที่กำลังจะอายุครบ 60 ปีในเดือน เม.ย. นี้ มักจะพาดาราสาวดาวรุ่งสังกัดทีวีบี เมนี จาง ไปร่วมงานอีเวนต์ต่างๆด้วยเสมอ ถึงขั้นพาไปร่วมทานอาหารค่ำในหมู่รุ่นน้อง และเพื่อนสนิทในวงการบันเทิงที่ประกอบไปด้วย เฉินเสี่ยชุน (Jordan Chen), เหมียวเฉียวเหว่ย (Michael Miu), หูติงซิ่น (Nancy Wu), ชิเหม่ยเจิน (Jaime Chik) และโทบี เหลียง (Toby Leung) ในคาสิโนแห่งหนึ่งที่มาเก๊าเมื่อเร็วๆนี้ด้วย
      
       นอกจากนั้นเธอยังได้ไปร่วมงานอีเวนต์ต่างๆเคียงข้างกับเขา แม้จะไม่ได้มีคิวต้องขึ้นแสดงอะไร แต่ก็ยังได้ร่วมพบปะ และถ่ายภาพกับสปอนเซอร์เจ้าของสินค้ารายใหญ่อยู่เสมอ ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันนี่เอง เจิ้งจือเหว่ย ยังถึงขั้นเหมาไนท์คลับแห่งหนึ่ง เพื่อฉลองวันเกิดให้กับรุ่นน้องในวงการคนนี้ด้วย
       
       สื่อในฮ่องกงเปิดเผยว่า ทั้งสองเพิ่งจะมีโอกาสได้ทำความรู้จักกัน ผ่านการแนะนำของอดีตมิสฮ่องกง จางเจียเอ๋อ เมื่อ 6 เดือนก่อนนี่เอง และติดต่อกันเรื่อยมา จนมาสนิทกันหลังได้ร่วมปาร์ตี้งานหนึ่ง ซึ่งชุดเซ็กซีที่ฝ่ายหญิงสวม และนิสัยที่เข้ากับคนอื่นได้ง่ายของเธอ เป็นที่ประทับใจของ เจิ้งจือเหว่ย เป็นอย่างมาก
       

"มิเชล โหย่ว" (Michelle Yeoh) นักแสดงสาวชื่อดังเตรียมสละโสดแล้วกับคู่หมั้น"ฌอง ทอดท์" นักธุรกิจชื่อดัง ซึ่งคาดว่าจะควงกันจัดงานแต่งที่มาเลเซียภายในปีนี้
       
       มิเชล โหย่ว นักแสดงชาวเอเชียมากความสามารถวัย 49 ปี เผยว่ากำลังมองหาวันที่ลงตัวสำหรับทั้งคู่ เพราะต่างคนต่างงานยุ่ง "ฉันจะไม่ซุ่มแต่งแน่ๆค่ะ ฉันมีเพื่อนอยู่ทั่วโลกเลยแต่ฉันจะบินกลับมาเลเซียเพื่อจัดพิธีแน่นอน"
       
       ตามรายงานจาก My Paper ระบุว่า มิเชล โหย่ว ได้เขาร่วมงานปาร์ตีค็อกเทลที่ฮ่องกงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยเธอได้แอบเผยเพิ่มเติมกับสื่อว่ากำลังตัดสินใจกันว่าอาจจัดงานภายในปีนี้เลย
       
       มิเชล โหย่ว และ ฌอง ท็อดท์ ประธานบริษัท International Automobile Federation วัย 67 ปี คบหาดูใจกันมาตั้งแต่ปี 2004 แล้ว

Manager Online

       เอเอฟพี - หนังจีนที่เล่าเรื่องประเด็นอันเปราะบางทั้งชีวิตของคนรุ่นใหม่, การนอกใจ และพฤติกรรมฉ้อฉลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ คืองานที่ได้รับการประกาศให้เป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในการมอบรางวัลภาพยนตร์เอเชีย ที่จัดกันไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยผู้กำกับดังชาวญี่ปุ่น "ทาเคชิ คิตาโนะ" (Takeshi Kitano) ก็คว้ารางวัลสำคัญกลับบ้านไปด้วย
       
       Mystery ผลงานการกำกับของ โหลวเย่ (Lou Ye) ที่ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่าต้องผ่านด่านการตรวจพิจารณาของหน่วยงานด้านเซนเซอร์ของจีน จากเนื้อหาที่กล่าวถึงประเด็นอันอ่อนไหว โดยเฉพาะในการฉายภาพพฤติกรรมของคนรวยรุ่นใหม่ในจีน คืองานที่คว้าเกียรติยศสูงสุดในรางวัลภาพยนตร์เอเชียประจำปี 2013 นอกจากนั้น ฉีซือ (Qi Xi) ยังคว้ารางวัลนักแสดงหน้าใหม่จากหนังเรื่องนี้ได้ด้วย
       
       หนังที่มีเนื้อหาสะท้อนสังคมเรื่องนี้ ยังนับเป็นผลงานชิ้นแรกนับตั้งแต่ โหลวเย่ พ้นโทษแบนห้ามทำหนัง 5 ปีเต็ม หลังเขานำ Summer Palace หนังที่เล่าถึงประวัติศาสตร์ทางการเมืองของจีน ผ่านเรื่องรักสามเส้าของหนุ่มสาวชาวจีนในปลายยุค 80s ไปฉายที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ในปี 2006 โดยไม่ได้รับอนุญาต
       
       "ผมยินดีเพราะหนังเรื่องนี้ เคยต้องเจอปัญหามาก่อน สำหรับเรานี่หมายความว่าพวกเราได้รับการยอมรับแล้ว" โหลวเย่ กล่าวกับเอเอฟพี หลังได้รับรางวัลในงานที่จัดกันขึ้นที่ฮ่องกง พร้อมกล่าวว่าเขาจะยังทำหนังที่พูดถึงประเด็นทางสังคมต่อไป แม้จะต้องโดนกดดันจากภาครัฐก็ตาม "ผมเพียงแค่ต้องการมุ่งไปกับการทำหนังเป็นหลัก ... หนังและสังคมไม่สามารถแยกให้ขาดจากกันไปได้" เขากล่าวย้ำ
       

เรียกได้ว่าเป็นฟ้าหลังฝนของ"กิลเลียน ซุง" (Gillian Chung) ที่มีชื่อจริงว่า "จงซินถง" หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า "อาเจียว" นักร้อง-นักแสดงสาวที่เคยมีภาพและคลิปหลุดร่วมกับ"เฉินกว้านซี" (Edison Chen) นักแสดงหนุ่มสุดฉาวของฮ่องกงมาแล้ว โดยเจ้าตัวเพิ่งเผยโฉมแฟนใหม่ได้ไม่นาน ก็โดนเมาท์แล้วว่าแฟนไม่หล่อแต่เจ้าตัวบอกไม่แคร์
       
       หลังจากที่อาเจียว เปิดตัวแฟนหนุ่มชาวเกาหลีชื่อ ไทเลอร์ เค. ต่อสาธารณะให้ทุกคนได้รู้จัก ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ทันที ถึงใบหน้าของแฟนใหม่อาเจียวที่ไม่ได้หน้าตาดีอย่างที่หลายๆคนคิด
       
       โดยเมื่อสองวันก่อน ขณะที่อาเจียวเข้าร่วมแถลงข่าวงาน IP MAN THE FINAL FIGHT สื่อได้รุมถามเธอถึงรูปลักษณ์ของแฟนหนุ่มที่โดนเมาท์หนัก อาเจียวตอบสั้นๆเพียงว่า "เขาเป็นคนที่ฉันเลือกแล้วค่ะ สิ่งที่ใครๆพูดกันไม่ได้มีผลอะไรกับฉัน"
       
       ซึ่งในส่วนของการแต่งงาน เจ้าตัวก็ตอบเพียงว่าตอนนี้ยังไม่ได้คิด "ตอนนี้ยังค่ะ ยังไม่ได้คิดเรื่องแต่งงานเลย รอดูไปก่อนอีก 2-3 ปีค่ะ ฉันรักเด็กนะคะ แต่ยังไม่คิดจะสร้างครอบครัวตอนนี้"

Manager Online

       นักแสดง, ผู้กำกับภาพยนตร์, นักร้อง และผู้คนในวงการบันเทิงจำนวนหนึ่ง ได้รับเลือกให้เข้าร่วมประชุมในฐานะคณะที่ปรึกษาระดับสูงของรัฐบาลปักกิ่ง รวมถึงยอดนักบู๊ "เฉินหลง" (Jackie Chan) ที่กลับกลายเป็นว่า บทบาททางการเมืองครั้งนี้ ดูจะสร้างความไม่พอใจให้กับผู้คนที่บ้านเกิดของเขานัก
       
       ผู้คนในวงการบันเทิงทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ และเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ได้รับเกียรติให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของคณะที่ปรึกษาระดับสูง เพื่อเข้าร่วมประชุมให้ความเห็น, เสนอแนะ และช่วยเหลืองานของรัฐบาลจีนในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องสื่อสารมวลชน ที่ถือว่าเกี่ยวข้องกับพวกเขาโดยตรง หรือนโยบายและปัญหาอื่นๆ นอกเหนือจากนั้น
     
       เฉินหลง เป็นนักแสดงดังอีกคนที่ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของสภาที่ปรึกษา ซึ่งถือว่าเป็นเกียรติยศอย่างสูง ที่เจ้าตัวก็น่าจะภาคภูมิใจอยู่ไม่น้อย แต่ดูเหมือนว่าตำแหน่งทางการเมืองดังกล่าว จะทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะจากประชาชนในฮ่องกงบ้านเกิดอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ความเคลื่อนไหว และความเห็นทางการเมืองของนักบู๊รุ่นใหญ่ ต้องทำให้เขาตกเป็นเป้าวิจารณ์อยู่บ่อยครั้ง
       
       นอกจาก เฉินหลง แล้วก็ยังมี มั่วเหยียน เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมคนล่าสุด และอดีตนักบาสเกตบอลชื่อดัง เหยาหมิง ที่ได้มาร่วมในการประชุมประจำปีของ สภาที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งชาติ (CPPCC) ซึ่งจัดขึ้นโดยพรรคคอมมิวนิสต์
       

       หลายปีแห่งการรอคอยกำลังจะสิ้นสุดลง เมื่อมีรายงานข่าวจากจีนว่า นางเอกสวยอมตะ "หวังจู่เสียน" (Joey Wong / 王祖賢) เตรียมกลับมารับงานในวงการบันเทิงอีกครั้ง หลังไม่ได้มีผลงานใดๆ ให้เห็นมามากกว่า 10 ปีเต็มแล้ว
       
       นักแสดงวัย 46 ปี ไม่ได้รับงานใดๆ มาถึง 11 ปีแล้ว กระทั่งล่าสุดมีข่าวว่า หวังจู่เสียน ได้ตัดสินใจตอบรับข้อเสนอของแบรนด์เครื่องสำอาง และบริษัทเครื่องประดับในฮ่องกง เพื่อร่วมปรากฏตัวในงานอีเวนต์ด้วยค่าตัวมหาศาล 1 ล้านเหรียญฮ่องกง (3.8 ล้านบาท)
       
       ซึ่งหากผลตอบรับออกมาดี ข่าวก็ระบุว่า หวังจู่เสียน อาจจะรับงานอีก และรวมถึงงานแสดงภาพยนตร์เรื่องใหม่ด้วย
       
       หวังจู่เสียน ถือเป็นอดีตนางเอกขวัญใจหนุ่มๆ เมื่อ 20 กว่าปีก่อนจากหนังไตรภาค โปเยโปโลเย (A Chinese Ghost Story) และมีผลงานโดดเด่น เป็นนักแสดงหญิงแถวหน้าในช่วงยุคทองของภาพยนตร์ฮ่องกง ก่อนจะหายหน้าหายตาไปในระยะหลัง
       
       สาวสวยตาหวานเคยกลับมารับงานแสดงบ้างเป็นครั้งคราว รวมถึงหนังแนวหญิงรักหญิงเรื่อง Peony Pavilion ในปี 2001 และ Beautiful Shanghai ในปี 2004 แต่หลังจากนั้นเธอแทบไม่ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณะอีกเลย หลังย้ายไปอาศัยอยู่ที่ประเทศแคนาดา และใช้ชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย ค่อนข้างสงบสันโดษ
       

      แม้จะเพิ่งเข้าพิธีแต่งงานกันไป แต่ดาราสาว “เมิ่งเจียฮุ่ย” (Yoyo Mung / 蒙嘉慧) กลับยอมรับว่าเธอไม่มีแผนที่จะมีลูกให้กับสามี “เจิ้งอี้เจี้ยน” (Ekin Cheng / 鄭伊健) แต่อย่างใด เพราะเห็นถึงความยุ่งยากเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกจากคนรอบตัวมาเยอะ และสามีก็เห็นด้วยกับเธอ
       
       หลังแต่งงานกันที่ญี่ปุ่นเมื่อเดือนก่อน ก็เกิดคำถามขึ้นทันที่ว่าเมื่อไหร่ที่ เมิ่งเจียฮุ่ย วัย 39 ปี จะมีลูกให้กับสามี เจิ้งอี้เจี้ยน วัย 45 ปี เสียที
       
       อย่างไรก็ตามล่าสุดฝ่ายหญิงได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อในฮ่องกง ระหว่างโปรโมตซีรีส์เรื่องใหม่ A Great Way to Care II ที่เธอยอมรับว่าตนเองและเขายังไม่มีแผนการเรื่องลูกแต่อย่างใด
       
       โดยเธอยอมรับว่าสำหรับตัวเอง การมีลูกคือ “ฝันร้าย” โดยเฉพาะหลังจากได้เห็นเพื่อนๆ ที่มีลูกเล็กๆ ที่ต้องวุ่นวายไปกับปัญหาต่างๆ มากมาย “ต้องกังวลเรื่องโรงเรียนของลูก และอีกเยอะแยะ ปกติฉันเองก็เกลียดเรื่องการกรอกเอกสารต่างๆ อยู่แล้ว คงต้องมีแบบฟอร์มมาให้กรอกเต็มไปหมด ฉันว่าเขา (เจิ้งอี้เจี้ยน) คงเป็นทุกข์มากๆ แน่ ฉันเองก็คงเป็นทุกข์เหมือนกัน ตอนนี้ฉันกับเขาก็ยังเห็นเหมือนกันนะคะ ว่าเราคงยังไม่คิดเรื่องลูกหรอก”
       
       “ถ้าต้องตั้งท้อง ฉันรู้สึกว่าเหมือนตัวเองต้องติดคุกอยู่เกือบ 10 เดือน โดยเฉพาะก่อนจะคลอดลูก 4 เดือน และหลังคลอดอีก 6 เดือน คงเหมือนติดคุกอยู่เป็นปีเลย เราเลี้ยงแมวกันอยู่ด้วย ฉันมีเพื่อนที่ขนแมวทำให้ลูกแพ้จนต้องเข้าโรงพยาบาลถึงขั้นห้องฉุกเฉินเลย ถ้าต้องเลิกเลี้ยงแมว ก็คงเป็นเรื่องยากสำหรับฉันจริงๆ ค่ะ”
       

เรียกได้ว่าเป็นแฟนคลับตัวน้อยที่ทุ่มทุนสร้างมากทีเดียว เมื่อสื่อจีนพร้อมใจกันรายงานว่าหนูน้อยชาวจีนวัย 10 ปี ได้ตั้งใจเก็บเงินจนสามารถซื้อรถยนต์เป็นของขวัญให้ “หลัวจื้อเสียง” (Show Luo Zhi Xiang) หรือที่เรียกกันติดปากว่า “เสี่ยวจู” (Xiao Zhu) หรือ “โช โล” โดยจะมอบให้เขาในวันคอนเสิร์ต
       
       หนูน้อยแฟนพันธุ์แท้วัย 10 ปี ของศิลปินไต้หวันชื่อดัง เสี่ยวจู หรือโช โล ( แต่ชาวไทยรู้จักกันดีในชื่อ อลัน โล ) คลั่งไคล้ศิลปินในดวงใจอย่างหนัก โดยตั้งใจเก็บเงินแตะเอียที่ได้รับจากบรรดาญาติผู้ใหญ่ในช่วงตรุษจีนหลายปีที่ผ่านมา เพื่อนำไปซื้อรถยนต์มูลค่ากว่าหกแสนบาท โดยวางแผนเตรียมจะส่งมอบให้เป็นของขวัญของเขาในคอนเสิร์ตที่จะเกิดขึ้นเดือน เม.ย.นี้
       
       โดยหนูน้อยยังได้แชร์ภาพถ่ายที่เธอถ่ายคู่กับรถคันดังกล่าว ซึ่งเป็นภาพที่เธอนั่งอยู่บนฝากระโปรงรถ และอีกภาพเป็นภาพที่เธอนำธนบัตรมากมายมาวางเรียงบนโต๊ะเป็นรูปหัวใจด้วย
       
       เมื่อสื่อจีนถามถึงความเป็นไปได้ที่นักร้องหนุ่มชื่อดังอาจปฏิเสธของขวัญชิ้นดังกล่าว หนูน้อยก็รีบตอบทันทีว่า ถ้าเขาไม่รับเธอก็จะทุบรถทิ้ง พร้อมระบุด้วยว่า “หนูจะไม่แต่งงานกับคนอื่นเลยนอกจากโชคนเดียวเมื่อหนูโตขึ้น”
       
       การกระทำของหนูน้อยชาวจีนรายนี้ ได้ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมามากมายจากชาวเน็ต และผู้ทราบข่าวจากทั่วโลก
       
       ทางด้านเสี่ยวจู ที่ได้ยินข่าวดังกล่าวก็รีบบอกความรู้สึกผ่านผู้จัดการส่วนตัวของเขาทันที “ผมหวังว่าน้องเขาจะเต็มที่และโฟกัสกับการเรียนของตนเองนะครับ ถ้าผมได้ของขวัญนั้นผมคงจะปฏิเสธแน่นอนครับ”

Manager Online

นักแสดงสาววัย 27 ปีชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ต้องจากไปก่อนวัยอันควรด้วยสาเหตุการป่วยเป็นมะเร็ง ซึ่งเพื่อนสนิทเปิดเผยว่า "ซ่งเหวินเฟย" (Vionn Song / Song Wenfei / 宋汶霏) เลือกที่จะทำงานแสดงก่อน จึงไม่ได้เข้ารับการรักษาอย่างทันเวลา และต้องจากไปในที่สุด
       
       รายงานข่าวจากจีนระบุว่า ซ่งเหวินเฟย วัย 27 ปี เสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 3 มี.ค. ที่ผ่านมา ที่บ้านในกวางโจวบ้านเกิด โดยเพื่อนสนิทในวงการของเธอที่ชื่อว่า จางหลิงซือ (Zhang Lingzhi / 章齡之) เป็นคนแจ้งข่าวเศร้าที่เกิดขึ้นให้ทุกคนทราบ ผ่านบล็อคของตัวเอง
       
       จางหลิงซือ ยังได้กล่าวกับรายการของ Shanghai TV เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ซ่งเหวินเฟย ตรวจพบมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกครั้งแรกในปี 2011 (Uterine Cancer) แต่ก็ยังพยายามทำงานเรื่อยมาจนถึงเดือน พ.ค. ปีที่แล้ว โดยในตอนแรกหมอได้แนะนำให้เธอเข้ารับการผ่าตัดรักษาทันที แต่ดาราสาววัย 27 ปีกลับปฏิเสธ และเลือกที่จะกลับไปทำงานแทน
       
       ซ่งเหวินเฟย เกิดเมื่อวันที่ 30 พ.ค. 1985 ที่กวางโจว เริ่มเรียนบัลเลต์มาตั้งแต่เด็กอายุแค่ 10 ขวบ ต่อมาจึงได้เข้าวงการบันเทิง และโด่งดังขึ้นมาจากหนังชุด Dancer (舞者) ในปี 2008 หลังจากนั้นจึงมีงานออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงหนังชุดเรื่อง Growing Through Life (摘星之旅) ในปี 2010 ของทาง ทีวีบี ที่ตัวละครของเธอได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อยเลย จากบทรักสามเส้ากับสองพระเอกดัง หวงเห้าเจี๊ย (Raymond Wong / 黃浩然) และ หวงซ่งเจ๋อ (Bosco Wong / 黃宗澤)

       เอเอฟพี - แม้จีนจะถือว่าเปิดโอกาสด้านสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ แต่คนทำหนังยังคงต้องต่อสู้กับการเซ็นเซอร์อันเข้มงวดต่อไป รวมถึงผู้กำกับหนุ่ม "โหลวเย่" (Lou Ye) ที่ต้องดิ้นรนหนักกับการทำหนังในประเทศ ยอมกระทั่งทำหนังเข้าฉาย โดยที่ไม่มีชื่อของเขาอยู่ในหนังเลย เพื่อเป็นการแสดงจุดยืนต่อต้านการเซนเซอร์ภาพยนตร์ในจีน
       
       Mystery หนังอาชญากรรมระทึกขวัญผลงานใหม่ของ โหลวเย่ กลายเป็นงานที่คว้ารางวัลในระดับนานาชาติมากมาย รวมถึงเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์เอเชียครั้งล่าสุดถึง 6 สาขา
       
       หนังเรื่องนี้ถือเป็นผลงานเรื่องที่ 2 นับตั้งแต่ โหลวเย่ พ้นโทษแบนห้ามทำหนังในจีนแผ่นดินใหญ่ถึง 5 ปีเต็ม เป็นงานที่กล่าวถึงเนื้อหาเกี่ยวกับคนรวยรุ่นใหม่ในประเทศ และชนชั้นกลาง กับชีวิตในสังคมจีนหลังยุคสังคมนิยม ที่ผู้ชายมีภรรยาน้อยกันจนเป็นเรื่องปกติ เป็นหนังที่ต้องการสะท้อนความรู้สึกของชาวจีนที่ยังคงรำลึกถึงความหอมหวานของยุคที่ประเทศปกครองโดยจักรพรรดิอยู่ไม่เสื่อมคลาย
       
       หนังเรื่องนี้ได้ชิงรางวัลในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม, ดาราสาว เหาเล่ย (Hao Lei) ก็มีลุ้นรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมในบทภรรยาที่โดนสามีนอกใจ โดยหนังเริ่มต้นเรื่องด้วยฉากความตายอันรุนแรงน่าสะเทือนใจ ก่อนจะกลับไปเล่าถึงเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่มีชีวิตสองด้าน
       
       "หนังเรื่องนี้เกี่ยวกับคนกลุ่มเล็กๆ จะว่าด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงสองคน มีชีวิตอยู่คนละขั้ว ที่มีผู้ชายคนหนึ่งเป็นต้นเหตุ แต่ด้วยเรื่องราวเหล่านี้ผมอยากจะพูดไปถึงประเด็นทางสังคมที่ใหญ่กว่านั้น" โหลวเย่ กล่าวถึงผลงานเรื่องใหม่ของเขา ระหว่างที่หนังไปฉายที่ฝรั่งเศสในงาน Forum des Images ที่จัดขึ้นในเดือน ก.พ.