ข่าวอื่นๆ

ความสำเร็จของ "มิยาบิ" (Miyabi) กับหนังสัญชาติอินโดนีเซียเปิดโอกาสให้นักแสดงสาวคนดังจากญี่ปุ่นมีหนัง เรื่องที่สองบนแผ่นดินอิเหนา เช่นเดียวกับดาวเอวี และหนังโป๊จากญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ที่ตบเท้ากันเข้ามารับงานในจาการ์ตา เป็นสิ่งที่หลายคนคิดว่าคือสีสันแห่งวงการภาพยนตร์ ขณะเดียวกันคนอีกจำนวนไม่น้อยก็คิดว่ามันคือความเสื่อมทราม
       
       หลังผลงานเรื่องแรกประสบความสำเร็จด้วยดี โอดี้ มุลยา (Ody Mulya) ผู้กำกับแห่งบริษัทผลิตภาพยนตร์ Maxima Pictures กล่าวว่าในการรับงานหนังเรื่องที่สอง มาเรีย โอซาว่า (Maria Ozawa) หรือ มิยาบิ จะเปลี่ยนไปใช้ชื่อว่า 'พอลลีน' (Pauline) แทน เพราะหวังว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ จากสิ่งที่ชาวอินโดนีเซียคุ้นเคยเกี่ยวกับตัวเธอในฐานะนักแสดงหนังโป๊ได้
       
       นอกจากนั้นผู้สร้างยังยืนยันว่าบริษัทจะพยายามหลีกเลี่ยงปัญหา และจะดำเนินการทุกอย่างแบบเงียบ ๆ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาประท้วงระหว่างการถ่ายทำขึ้นมาอีก
       
       สาวลูกครึ่งญี่ปุ่น/ฝรั่งเศส ผู้เกิดที่ฮอกไกโด มาเรีย โอซาว่า เริ่มต้นงานในวงการเอวีตั้งแต่ปี 2005 จนมีชื่อเสียงทั้งในประเทศญี่ปุ่น และต่างประเทศ โดยระยะหลังนักแสดงสาววัย 24 ปี เริ่มหางานนอกวงการเอวีของเธอดูบ้าง อาทิ การรับงานโชว์ตัว และถ่ายมิวสิควิดีโอในเมืองไทย หรือ แสดงหนังสยองขวัญของไต้หวัน ซึ่งการทำงานในประเทศต่าง ๆ อาจได้รับเสียงวิจารณ์ในแง่ลบอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้มีปัญหามากมายแบบเดียวกับที่เกิดขึ้นในอินโดนีเซีย
       
       หนังที่ไม่ได้มีฉากโป๊เปลือย, ไม่ได้มีความวาบหวิวผิดเกินปกติจากหนังฮอลลีวูด แต่มีนักแสดงโป๊จากต่างประเทศมารับบทนำ กลายเป็นประเด็นร้อนในสังคมอินโดนีเซีย เป็นความขัดแย้งระหว่าง กฏหมาย, ศีลธรรม, การค้า, ศิลปะ และค่านิยมของประเทศมุสลิมแห่งนี้

เอลลี เจิ่น (Elly Tran) กลับมาให้แฟนๆ ชื่นใจอีกครั้งหนึ่งแล้ว หลังหายหน้าจากเว็บไปพักใหญ่ๆ ด้วยความตั้งใจจะเอาดีทางการแสดง คราวนี้ข้ามแดนไปโผล่ในนิตยสารจีน และสาวหน้าหวานอกโตกลายเป็นจอมขโมยซีน จอมขโมยหัวใจของหนุ่มชาวมังกรนับล้านๆ

สาวเอลลี่เป็นลูกครึ่งแผ่นดินใหญ่ ที่เกิดมากับบะหมี่ แต่ไปโตกับเฝอ และ เป็นสาวสวยด้วยขนมปัง ยิ่งรู้ความจริงเช่นนี้พวกหนุ่มๆ มังกรก็ยิ่งคลั่งและคึกคัก

เกิดในนครโฮจิมินห์ คุณพ่อเป็นชาวเวียดนาม คุณแม่เป็นชาวปักกิ่งไปเจอกัน ต่อมาครอบครัวย้ายถิ่นฐานไปอยู่อเมริกา เอลลีก็จึงได้เป็นสาวมะริกัน พูดปะกิตสำเนียงเคาบอยปร๋อ

สาวหน้าใสวัย 22 ปีได้กลายเป็นจอมขโมยหัวใจของชาวเว็บหลายล้านคนทั่วโลก คุณพ่อคุณแม่อาจจะไม่เคยคาดคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน วันนี้สาวเจ้าเลือกที่จะอยู่และเรียนในโฮจิมินห์ ปักหลักในภูมิภาคนี้ เพื่อภารกิจขโมยหัวใจหนุ่มทั้งโลก

ตามสถิติของกูเกิ้ล เมื่อคีย์ "Elly Tran" ลงไป จะมีผลลัพธ์ออกมากว่า 366,000 รายการ ภาพที่น่าประทับใจ ติดตาตรึงใจก็คือ ผิวกายที่ขาวใส ใบหน้าที่สวยได้รูป เอวที่คอดกิ่ว อกที่พองโต บนความสูง 171 ซม. เป็นสาวพันธุ์หายากอีกคนหนึ่ง

ปีที่แล้วคาบสมุทรเกาหลีที่ตึงเครียดอยู่แล้วยิ่งร้อนระอุหนัก เมื่อเอลลีไปเป็นคัฟเวอร์เกิร์ลให้นิตยสาร Sports Korea และ เดินสายออกโทรทัศน์แต่เหนือจรดใต้ ซึ่งเชื่อว่าชาวเกาหลีเหนือก็คงจะได้เห็น เธอทำให้เหล่านางแบบสาวกิมจิตกงานกันพักใหญ่ๆ

ในวงการบันเทิง สาวสวยอกโตทำมาเกือบจะครบทุกอย่าง เพิ่งจะถ่ายหนังเรื่องแรกเสร็จไปหมาดๆ ภาพยนตร์ "ผีโรงเรียน" หรือ “Bong Ma Hoc Duong” ซึ่งเป็นหนัง 3D เรื่องแรกของประเทศ มีกำหนดเข้าโรงในช่วงเทศการตรุษ (Tet) ต้นปีหน้า

ก่อนหน้านี้เอลลีเป็นดารารับเชิญร่วมแสดงหนังไทยเรื่องหนึ่ง คู่กับ เจ-มณฑล จิรา แม้จะไม่กี่ฉาก ขณะถ่ายทำที่โฮยอาน (Hoi An) เอลลีก็ทำให้ทั้งกองถ่ายสดชื่น หายคิดถึงบ้าน

ในเวียดนามเอลลีเซ็นสัญญายาวๆ กับบริษัทเกมออนไลน์ประเภท 3D แห่งหนึ่ง ทำหน้าที่โปรโมทโปรดักส์และช่วยในกิจกรรมส่งเสริมการขาย

มิเชล โยว (Michel Yeow) นักแสดงฮอลลีวูดชาวมาเลเซีย เดินทางเข้าพม่าในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หารือกับ นางอองซานซูจี (Aung san Su ji) เกี่ยวกับบทของเธอในภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่เกี่ยวกับหญิงเหล็กนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในพม่า

นางซูจี ได้รับการปล่อยตัววันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังถูกกักบริเวณครั้งล่าสุดติดต่อกันมายาวนาน 7 ปี

โยว วัย 48 ปี เป็นที่รู้จักกันทั่วโลกในบท สายลับสาวชาวจีน ที่เธอแสดงคู่กับ เพียซ บรอสนัน (Pierce Brosnan) ในภาพยนตร์ชุดเจมส์ บอนด์ ตอน Tomorrow Never Die

ทนายความของนางซูจี กล่าวว่า ดาราสาวใช้เวลาพูดคุยกับผู้นำฝ่ายค้านพม่า 1 วันเต็มๆ ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และอีกครั้งหนึ่งที่ท่าอากาศยานกรุงย่างกุ้งในวันอังคารนี้ ระหว่างนางซูจีไปส่งบัตรชาย นายคิม อาริส เดินทางกลับประเทศอังกฤษ ซึ่งคนทั้งสองเดินทางจากพม่าในเที่ยวบินเดียวกัน

“ดอว์ซูจี ไปส่งเธอที่สนามบินเช้าวันนี้ (อังคาร)” นายเนียนวิน ทนายความของผู้นำฝ่ายค้านกล่าว ทั้งนี้ เป็นรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์

“โยว ใช้เวลาทั้งวันที่บ้านพักของดอว์ซู” นายเนียนวิน กล่าว โดยเข้าใจว่า จะเป็นการหารือเกี่ยวกับบทของเธอในภาพยนตร์ที่กำลังจะสร้างเร็วๆ นี้ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยว่าเป็นเรื่องอะไร มีเนื้อหาอย่างไร

มิเชล โยว ยังมีชื่อเสียงไปทั่วโลกในภาพยนตร์ Crouching Tiger, Hidden Dragon ของ อังลี่ (Ang Li) ซึ่งได้รับรางวัลออสการ์ถึง 4 รางวัล

Manager Online

"มาเรีย โอซาว่า" (Maria Ozawa) นักแสดงสาวคนดังจากแดนปลาดิบ ไม่ยี่หระต่อการประท้วง, เสียงต่อต้าน และความเกลียดชังในตัวเธอของชาวอินโดนีเซีย และยังคงมุ่งหน้ารับงานในแดนอิเหนาต่อไป

"โอซาว่า" หรือที่ชาวอินโดนีเซียเรียกกันว่า "มิยาบิ" (Miyabi) นักแสดงหนังแนวเอวีของญี่ปุ่นที่โด่งดังมากที่สุดในอินโดนีเซียเดินทางเข้ามาในกรุงจาการ์ตาอีกครั้ง เพื่อร่วมงานรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์เรื่อง Hantu Tanah Kusir (The Ghost of Tanah Kusir Cemetery)

ภาพยนตร์เรื่องนี้เดินตามรอยทางของ Menculik Miyabi (Kidnapping Miyabi) หนังตลกวัยรุ่นที่ไม่ได้มีฉากวาบหวิว หรือเลิฟซีนแต่อย่างใดซึ่งออกฉายเมื่อเดือน พ.ค. ปีก่อน และกลายเป็นข่าวอื้อฉาว มีการประท้วงมากมาย จนหนังต้องเลื่อนการถ่ายทำ และเข้าฉาย ซึ่งสุดท้ายแล้วหนังต้องเดินทางไปถ่ายทำฉากของนักแสดงหญิงชาวญี่ปุ่น ที่กรุงโตเกียว แทนที่จะให้เธอเดินทางมาที่ จาการ์ตา เพราะเหตุผลเรื่องการรักษาความปลอดภัย

โดยในหนังเรื่องนี้ มิยาบิ ได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อว่า 'พอลลีน' (Pauline) เพื่อหวังจะสามารถเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ จากสิ่งที่ชาวอินโดนีเซียคุ้นเคยเกี่ยวกับตัวเธอในฐานะนักแสดงหนังโป๊ได้

"เธอจะใช้ชื่อนั้นในหนังอีกสองเรื่อง ตามสัญญาที่ทำไว้กับเรา" โอดี้ มุลยา ผู้กำกับแห่งบริษัทผลิตภาพยนตร์ Maxima Pictures ผู้สร้างภาพยนตร์กล่าวกับ Kyodo News พร้อมเผยว่าเมื่อเดือนที่แล้ว มิยาบิ ได้เดินทางมาถ่ายทำหนังในจาการ์ตาเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วก่อนจะมีการเผยภาพและตัวอย่างหนังให้ผู้ชม กับสื่อมวลชนได้ชมกันเป็นครั้งแรกท่ามกลางเสียงประท้วงมากมาย

"เราต้องไม่ยอมรับ มิยาบิ, มารดาของพวกคนบาป หญิงที่มาเพื่อเผยแพร่พฤติกรรมต่ำทรามในประเทศแห่งนี้" ซาลิม อลาตัส ผู้นำของกลุ่มมุสลิมประกาศกร้าวต่อหน้าสำนักงานของบริษัทผู้สร้างภาพยนตร์ โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้ฉีกโปสเตอร์ที่แปะอยู่โดยรอบบริเวณ เพื่อนำมาเผาแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการติดต่อให้นักแสดงหญิงผู้อื้อฉาวมาแสดงนำในหนังของอินโดนีเซียอีกครั้ง

Tangled สามารถพุ่งขึ้นมาเป็นหนังทำเงินอันดับ 1 ประจำสัปดาห์ได้สำเร็จ เขี่ย Harry Potter ภาคล่าสุดลงมาจากตำแหน่งแชมป์จนได้ ขณะเดียวกัน หนังภาษาอังกฤษเรื่องแรกของนักแสดงชื่อดังจากเกาหลีใต้ "จางดองกัน" (Jang Dong Gun) ก็เปิดฉายเป็นสัปดาห์แรก และทำรายได้มาเป็นอันดับที่ 9

ถึงแม้ว่า Tangled จะเปิดตัวด้วยอันดับ 2 ในสุดสัปดาห์วันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) แต่หนังการ์ตูนเรื่องล่าสุดของ ดิสนีย์ ก็สามารถทะยานขึ้นมาเป็นที่ 1 ได้สำเร็จในการฉายสัปดาห์ที่ 2 ด้วยยอดรายได้ล่าสุด 21.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้รวมอยู่ที่ 96.4 ล้านเหรียญฯ แล้ว ขณะที่ Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 1 ที่หล่นมาอยู่อันดับ 2 เป็นสัปดาห์แรก ทำเงินเพิ่มไปอีก 16.7 ล้านเหรียญฯ รายได้รวมทะลุไปถึง 244.2 ล้านเหรียญฯ

ตลาดของกลุ่มผู้ชมครอบครัว คือเบื้องหลังความสำเร็จในสัปดาห์ที่ 2 ของ Tangled ชัค เวียน หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายของ ดิสนีย์ แสดงความคิดเห็น "มันไม่บ่อยนักหรอกครับ ที่หนังจะต้องรอถึงในสัปดาห์ที่ 2 จึงจะสามารถเป็นอันดับ 1 ได้ มันจะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของหนัง ที่จะยืนโรงเก็บเงินได้เรื่อย ๆ ในสัปดาห์ต่อ ๆ ไป"

อย่างไรก็ตามภาพรวมสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาของฮอลลีวูดค่อนข้างจะเงียบเหงา รายได้รวมจากหนังทุกเรื่องอยู่ที่ 88 ล้านเหรียญฯ เท่านั้น ถือว่าเป็นสัปดาห์ที่โรงหนังเก็บเงินได้น้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ของปีนี้เลยทีเดียว เรียกว่าย่ำแย่น้อยกว่าช่วงสุดสัปดาห์หลังวันแรงงาน ที่ยอดบ็อกซ์ออฟฟิศตกต่ำสุด ๆ เหลือแค่ 81 ล้านเหรียญฯ เล็กน้อยเท่านั้น

พอล เดอร์การาเบเดี้ยน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "มันเป็นสัปดาห์ที่แย่ มันแสดงให้เห็นว่าผู้ชมไปดูหนังกันจนอิ่มแล้วในช่วงวันหยุด 5 วัน ของเทศกาลขอบคุณพระเจ้าเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งพอถึงอาทิตย์ต่อมาพวกเขาคงเลือกที่จะไปทำอย่างอื่นแทน"

ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีหนังใหม่ที่เปิดฉายทั่วประเทศเพียงเรื่องเดียวคือ The Warrior's Way หนังร่วมทุน เกาหลีใต้/สหรัฐฯ ที่มีนักแสดงชาวเกาหลี จางดองกัน ประชันบทบาทกัน เคท บอสเวิร์ธ และเจฟฟรีย์ รัช ซึ่งหนังทำรายได้ใน 3 วันแรกไป 3.1 ล้านเหรียญฯ จาก 1,622 โรงฉายและมีค่าเฉลี่ยรายได้ต่อโรงอยู่ที่ 1,881 เหรียญ ซึ่งถือว่าไม่สูงมากนัก โดยหนังใช้ทุนสร้างไปประมาณ 42 ล้านเหรียญฯ

มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้วว่า "ไอ คารินะ อุเอมูระ" (Ai Carina Uemura) นักร้องสาว R&B ชื่อดังชาวญี่ปุ่นเตรียมร่วมงานกับสมาชิกพี่น้อง"เดอะ แจ็คสัน" (The Jacksons) เพื่อร่วมคอนเสิร์ตรำลึกถึงไมเคิล

นักร้องสาวชื่อดังชาวญี่ปุ่น ไอ คารินะ เตรียมร่วมงานกับพี่น้องเดอะ แจ็คสัน ที่ประกอบไปด้วย แจ็คกี้, ติโต, มาร์ลอน และเจอร์เมน ในปีหน้านี้ ซึ่งการร่วมงานครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นเพื่อรำลึกการจากไปของไมเคิล แจ็คสัน ราชาเพลงป็อปชื่อดัง โดยไอได้ประกาศข่าวดีนี้ในคอนเสิร์ตครบรอบ 10 ปีการเปิดตัวของเธอในนิปปอน บูโดกัน เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา

ตามรายงานจาก CNNGo ระบุว่าไอจะรับหน้าที่เป็นพิธีกรในช่วง 2 โชว์แรกของคอนเสิร์ต ซึ่งคาดว่าจะจัดขึ้นในเดือน ต.ค. ปี 2011 และเธอจะร่วมบันทึกเสียงกับพี่น้องเดอะ แจ็คสัน ในต้นปีหน้านี้ซึ่งเธอจะขึ้นแสดงกับพวกเขาบนเวทีคอนเสิร์ตด้วยเช่นกัน

ไอ เป็นศิลปินเชื้อชาติญี่ปุ่นโดยมีพ่อเป็นชาวญี่ปุ่นและมีแม่เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น-อิตาลี เธอถือกำเนิดและเติบโตที่ลอสแองเจลิส และเธอยังเคยร่วมงานกับศิลปินระดับโลกแถวหน้าของวงการมาแล้วมากมายไม่ว่าจะเป็น จูดิช ฮิล, ชากา คาน และ Boyz II Men

Manager Online

แม้ว่าจะขึ้นแท่นอันดับหนึ่งในหลายๆโพลสำหรับการมีรายได้มหาศาลของ"เอมมา วัตสัน" (Emma Watson) นักแสดงสาววัยรุ่นชื่อดัง แต่งานนี้เธอต้องพ่ายให้กับ"แดเนียล แรดคลิฟฟ์" (Daniel Radcliffe) พ่อมดหนุ่มจากแฮร์รีพอตเตอร์ (Harry Potter) และสาวสวย "เคียรา ไนท์ลีย์" (Keira Knightley) นักแสดงสาวคนดัง

แม้ว่าเอมมา วัตสัน จะสามารถสร้างรายได้มากกว่า 20 ล้านปอนด์ แต่ชื่อของเธอก็อยู่ในอันดับ 3 ของคนดังชาวอังกฤษอายุน้อยกว่า 30 ปีที่มีรายได้มากที่สุด โดยแดเนียล แรดคลิฟฟ์ แซงหน้าเธอขึ้นอันดับหนึ่ง

เอมมา วัตสัน สามารถสร้างเงินได้มหาศาลจาการรับบทเฮอร์ไมโอนี (Hermione) ในภาพยนตร์เรื่องแฮร์รี พอตเตอร์ ที่มีถึง 7 ภาค และยังเซ็นสัญญาเป็นนางแบบให้กับแบรนด์ดังอันดับต้นๆของโลกอย่าง Burburry และ Chanel

ส่วนทางด้านพ่อมดหนุ่มน้อยอย่างแดเนียล แรดคลิฟฟ์ วัย 21 ปี ก็สามารถสร้างรายได้มากกว่า 45.6 ล้านปอนด์ จากการรับบทแฮร์รี พอตเตอร์ และการแสดงในเรื่อง West End รวมถึงบรอดเวย์สุดฉาว Equus

เคียรา ไนท์ลีย์ ขึ้นแท่นอยู่ที่อันดับ 2 โดยทำรายได้ถึง 30.1 ล้านปอนด์ จากการรับบทในภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่อง รวมถึงที่สร้างชื่ออย่าง Pirates of the Caribbean and Atonement และเธอยังเป็นนางแบบให้กับ Chanel ด้วยเช่นกัน

และยังคงเป็นนักแสดงนำจากแฮร์รี พอตเตอร์ ต่อไปที่เข้าครองอันดับท็อป โดยงานนี้รูเพิร์ท กรินท์ (Rupert Grint) ก็อยู่ที่อันดับ 4 โดยทำรายได้ถึง 19 ล้านปอนด์ จากการรับบทรอน วีสลีย์ (Ron Wesley) เพื่อนซี้ของแฮร์รี พอตเตอร์

และความสำเร็จของแวมไพร์วัยรุ่นจากเรื่อง Twilight Saga ก็ส่งให้โรเบิร์ต แพตตินสัน (Robert Pattinson) วัย 24 ปี กลายมาเป็นเศรษฐีหนุ่มโดยสร้างรายได้ถึง 18.5 ล้านปอนด์ภายในเวลาเพียงไม่กี่ปี

โคลีน รูนีย์ (Coleen Rooney) วัย 24 ปี ก็ติดอันดับท็อป 10 เช่นกัน โดยเธอสร้างรายได้ 9 ล้านปอนด์จากการรับข้อตกลงจาก Littlewoods, Argos และ Nike รวมถึงซีรีย์ของเธอทาง ITV2 ด้วย

ส่วนทางด้าน เชอรีล โคล (Cheryl Cole) วัย 27 ปี สามารถเข้ามาอยู่ในชาร์ทที่อันดับ 14 โดยสร้างรายได้ไป 7.9 ล้านปอนด์

"เจย์ โจว" (Jay Chou) หรือ "โจวเจี๋ยหลุน" นักร้องหนุ่มชื่อดังชาวไต้หวันที่กำลังผันตัวเองไปเป็นนักแสดงฮอลลีวูด ได้ถูกจัดตำแหน่งในโปสเตอร์หนัง Green Hornet ที่จะเปิดตัวในประเทศจีนให้ยืนเด่นอยู่ตรงกลาง และดูเหมือนว่างานนี้ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากทีเดียว

เจย์ โจว เตรียมเปิดตัวในภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง The Green Hornet ซึ่งโปสเตอร์เวอร์ชันภาษาจีนได้จัดให้เขายืนอยู่ตรงกลาง พร้อมกับใส่หน้ากากตามคาแรกเตอร์ในเรื่อง ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากจากชาวจีน

แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีการทดลองฉายเฉพาะในลอสแองเจลิส แต่ผลตอบรับที่ได้กว่า 93% ของผู้ชมทั้งหมดก็เป็นไปในทางที่ดี ซึ่งทาง Sony Picture รู้สึกยินดีกับกระแสตอบรับที่ดีเกินคาดนี้เป็นอย่างมากและเปิดเผยด้วยว่ามีการวางแผนจะทำภาคต่อเรื่องนี้แล้วด้วย

ในภาพยนตร์เรื่องนี้ เจย์ โจว ได้แสดงทักษะด้านภาษาอังกฤษ และยังมีบทพูดตลกๆระหว่างเขากับเพื่อนนักแสดงอย่าง เซธ โรเกน อีกมากมาย นอกจากนั้นเขายังได้แสดงฉากแอ๊คชั่นโชว์ความแมนต่อสู้กับ 3 คนในเวลาเดียว รวมถึงการขับรถ และใช้อาวุธสุดไฮเทคในการต่อสู้ด้วย

แม้ว่าคนที่ได้ชมภาพยนตร์จะระบุเป็นเสียงเดียวกันว่าทรงผมของเจย์ดูตลกและเขาดูท้วมนิดๆในภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่คนที่ได้ชมเรื่องนี้ตอนทดลองฉายในลอสแองเจลิส ก็ชื่นชอบเจย์ โจว เป็นอย่างมาก "ดูเหมือนว่าฉันเริ่มจะตกหลุมรัก เจย์ โจว เข้าให้แล้วล่ะ!" ผู้ชมภาพยนตร์กล่าว

Manager Online

หลังจากที่ตกเป็นข่าวว่ากลุ่มศิลปินดูโอจากยูเครนที่ใช้ชื่อว่า Время и Стекло ได้ลอกเลียนมิวสิควิดีโอของ 5 หนุ่มบิ๊กแบง (Big Bang) ล่าสุดมีรายงานว่าทั้งคู่ออกมายอมรับแล้วว่าลอกเลียนจริงแต่ทุกอย่างทำอย่างถูกต้องตามลิขสิทธิ์และได้รับการยินยอมจากต้นสังกัดบอยแบนด์ชื่อดังแล้ว

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้มีการรายงานข่าวเกี่ยวกับกรณีที่ศิลปินดูโอ Время и Стекло ได้ทำมิวสิควิดีโอ Time and Glass ได้ละม้ายคล้ายคลึงกับมิวสิควิดีโอ Tell Me Goodbye ของ 5 หนุ่มบิ๊กแบง ( Big Bang ) จนโดนวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วว่าไปลอกเลียนศิลปินเกาหลี และส่งให้มิวสิควิดีโอดังกล่าวที่เดิมมีผู้เข้าชมใน YouTube เพียงแค่ 1,000 กว่าครั้งได้พุ่งขึ้นไปถึง 100,000 กว่าครั้งในเวลาเพียงไม่นาน

ซึ่งศิลปินดูโอจากยูเครนได้ออกมากล่าวขอบคุณแฟนคลับของ 5 หนุ่มบิ๊กแบง พร้อมกันนั้นยังได้ชี้แจงด้วย ว่ามิวสิควิดีโอของพวกเขา ได้รับการยินยอมและซื้อลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องมาจากต้นสังกัดของบิ๊กแบงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และไม่มีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทำผิดกฏหมายแต่อย่างใด

Manager Online

"เฮอร์ไมโอนี แกรนเจอร์ (Hermione Granger) ตัวละครของ "เอ็มม่า วัตสัน" (Emma Watson) ในหนัง Harry Potter ได้รับเรื่องจากเด็กวัยรุ่นในอังกฤษ ให้เป็นสาวตนแบบหมายเลข 1 ของสาว ๆ เมืองผู้ดีเอาชนะนักร้องสาวคนดัง "เชอรีล โคล" และ "เคที เพอร์รี่" ไปแบบไม่เห็นฝุ่น

The Sun รายงานโดยอ้างอิงแบบสำรวจของ Asda เครือซุปเปอร์มาเก็ตดังของเมืองผู้ดี ในการค้นหาผู้หญิงต้นแบบของสาว ๆ ชาวอังกฤษ ซึ่งตัวละคร เฮอร์ไมโอนี แกรนเจอร์ จากหนังสือ และหนังชุด Harry Potter ที่สวมบทบาทโดยนักแสดงวัย 20 ปี เอ็มม่า วัตสัน ได้รับเสียงโหวตให้มาในอันดับ 1 ด้วยคะแนนมากกว่า 4 ใน 5 ของผู้ทำแบบสำรวจเกือบ 20,000 คน

ขณะที่อันดับรอง ๆ ลงไป ซึ่งได้คะแนนน้อยกว่าแบบสู้กันไม่ได้ ได้แก่ นักร้องสาว เชอรีล โคล และ เคที เพอร์รี่

เฮอร์ไมโอนี ได้รับเสียงโหวตให้เป็นต้นแบบของสาว ๆ ชาวอังกฤษ ไปถึงประมาณ 15,600 เสียง จากผู้ทำแบบสำรวจซึ่งเป็นเด็กสาวอายุตั้งแต่ 12 จนไปถึงวัยรุ่นอายุ 20 ปี รวมทั้งหมด 18,000 คน โดยส่วนใหญ่ชื่นชมในความรักเรียน, หัวดี และการแก้ไขปัญหาด้วยสติปัญญาของเธอ โดยบ่อยครั้งยังเป็นที่พึ่งของบรรดาเพื่อน ๆ ที่เป็นผู้ชายอีกด้วย

Asda ผู้ทำแบบสำรวจยังให้เห็นข้อมูลว่า ความนิยมและชื่นชมในตัวของ เฮอร์ไมโอนี ยังทำให้เสื้อแบบที่ วัตสัน สวมใส่กับการรับบทดังกล่าวในหนัง กลายเป็นสินค้าที่ขายดีแบบเทน้ำเทท่า โดยตัวแทนของซุปเปอร์มาเก็ตเจ้าใหญ่กล่าวว่า "ลูกค้าของเรารักสไตล์แบบ เฮอร์ไมโอนี เรามียอดสั่งซื้อเสื้อแบบที่เธอใส่ในหนังเป็นจำนวนมหาศาลเลย"

นอกจากนั้นชีวิตจริงของ เอ็มม่า วัตสัน ผู้แสดงเป็นแม่มดสาวคนสวย ก็ดูจะสอดคล้องกับบทบาทที่เธอได้รับอยู่ไม่น้อย เพราะนอกเหนือจากการรับบทนำในหนังชุด Harry Potter ที่ทำรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำแล้ว นักแสดงสาวชาวอังกฤษ ก็ไม่ได้รับงานในวงการบันเทิงใด ๆ อีก แต่เลือกที่จะทุ่มเทเวลาให้กับการเรียน และการใช้ชีวิตเหมือนนักศึกษาคนหนึ่ง ที่มหาวิทยาลัยบราวน์ ใน โรด ไอแลนด์ สหรัฐอเมริกาแทน

Manager Online

หลังจากที่ศิลปินเกาหลีโดนตำหนิหลายต่อหลายครั้งที่ไปลอกเพลง ลอกมิวสิควิดีโอของศิลปินต่างชาติ มาคราวนี้ศิลปินวง "บิ๊กแบง" (Big Bang) จากเกาหลีโดนศิลปินจากยูเครนลอกเลียนมิวสิควิดีโอบ้างแล้ว

หลังจากที่กระแสเค-ป็อปเริ่มออกอาละวาดระบาดไปทั่วโลก เหล่าชาวเน็ตของยูเครนที่ชื่นชอบศิลปินเกาหลี ก็ได้สังเกตแล้วว่ามิวสิควิดีโอตัวใหม่ Time and Glass ของศิลปินวง Время и Стекло ช่างละม้ายคล้ายคลึงกับซิงเกิลเพลง Tell Me Goodbye เพลงภาษาญี่ปุ่นของนักร้องบอยแบนด์ชื่อดัง บิ๊กแบง ( Big Bang ) ที่เพิ่งถูกปล่อยออกอากาศไปเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา

หลังจากที่ได้รับชมมิวสิควิดีโอของทั้ง 2 วงแล้ว ชาวเน็ตต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวว่าหลายฉากของมิวสิค Time and Glass ไปคล้ายคลึงกับมิวสิค Tell Me Goodbye มากทีเดียว ทั้งเสื้อผ้า ฉาก การแสดงออก งานนี้ต้องให้คนดูได้ตัดสินกันเองแล้วว่าเหมือนหรือไม่เหมือน

Manager Online

Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 1 กลายเป็นหนัง Harry Potter ที่ทำรายได้วันแรกสูงสุด ด้วยการเก็บเงินในการฉายเมื่อวันศุกร์ที่ 19 พ.ย. ที่สหรัฐฯ ไปถึง 61.2 ล้านเหรียญฯ

การปิดฉากของหนังชุด Harry Potter เริ่มต้นขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เมื่อ Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 1 หนังตอนแรกที่สร้างจากหนังสือเล่มสุดท้ายของนิยายแฟนตาซี จากปลายปากกาของ เจ.เค. โรวลิ่ง สามารถทำรายได้วันแรก ในการเข้าฉายเมื่อวันศุกร์ที่ 19 พ.ย. ถึง 61.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีโอกาสสูงที่จะทำให้ยอดรายได้ 3 วันแรกเอาชนะสถิติ 102.7 ล้านเหรียญฯ ที่ Harry Potter and the Goblet of Fire เคยสร้างเอาไว้เมื่อ 5 ปีก่อน ซึ่งถือว่ามากที่สุดในจำนวนหนัง 6 ภาคที่ผ่านมา

โดยตัวแรกรายได้วันแรกของ Deathly Hallows: Part 1 ถือเป็นสถิติสูงสุดอันดับ 5 ในจำนวนหนังทุกเรื่อง เป็นรอง The Twilight Saga: New Moon เจ้าของสถิติสูงสุด 72.7 ล้านเหรียญฯ, The Twilight Saga: Eclipse 68.5 ล้านเหรียญฯ, The Dark Knight 67.2 ล้านเหรียญฯ และ Transformers: Revenge of the Fallen ที่กวาดเงินวันแรกไปได้ 62 ล้านเหรียญฯ

สำหรับรายได้วันแรกสูงสุดของหนัง Harry Potter ในภาคก่อน ๆ ก็คือ Harry Potter and the Half-Blood Prince ซึ่งเปิดตัวด้วยการเก็บเงิน 58.2 ล้านเหรียญฯ

Harry Potter ภาคแรกเข้าฉายในปี 2001 ขณะนี้หนังทั้ง 6 ภาคสามารถทำเงินทั่วโลกไปถึง 5,500 ล้านเหรียญฯ แล้ว โดย Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 2 จะมีกำหนดเข้าฉายภายในเดือน ก.ค. ปีหน้า

Manager Online

ภาพจากวิกิพีเดีย ซองอิลกู๊ก (Song Il Gook) ระหว่างงานแถลงข่าวนัดหนึ่งในกรุงโซล พระเอกหล่อล่ำของแฟนๆ แถบเอเชีย กำลังจะเดินทางเข้ากรุงย่างกุ้งปลายสัปดาห์นี้ เพื่อร่วมพิธีเปิดเทศกาลภาพยนตร์ประจำปีและพบกับแฟนๆ ที่นั่น

ASTVผู้จัดการออนไลน์-- ดารานักร้องจากเกาหลีเข้ามามีอิทธิพลในอนุภูมิภาคนี้อย่างกว้างขวางและมีลักษณะซึมลึกมาก แม้ในพม่าที่มีการควบคุมกิจกรรมทางวัฒนธรรมอย่างรัดกุมที่สุดแห่งหนึ่งก็ไม่ได้รับการยกเว้น ในประเทศนี้มีแฟนคลับดารายอดนิยมจากแดนโสมที่ใหญ่โตไม่แพ้ประเทศเพื่อนบ้านแห่งใด

ซองอิลกู๊ก (Song Il Gook) ดาราหนุ่มหล่อล่ำบึกวัย 38 ปี กับ ดาราสาวสวยจากภาพยนตร์ชุด Le Grand Chef กำลังจะไปพบกับแฟนๆ ในกรุงย่างกุ้งวันที่ 26 พ.ย.นี้ โดยจะไปร่วมพิธีเปิดเทศกาลภาพยนตร์เกาหลีที่จัดขึ้นเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน

เช่นเดียวกับในประเทศไทย เวียดนาม ลาวและกัมพูชา แฟนๆ พม่ารู้จักและชื่นชอบพระเอกหล่อจากภาพยนตร์ทีวีชุด "จูม่ง" (Jumong- The Prince of the Legend) และ ติดตามชมภาพยนตร์เรื่องยาว Le Grand Chef ที่ดาราสาวสวยลีฮานา (Lee Hana) นำแสดงทั้งสองตอน

เทศกาลภาพยนตร์เกาหลีจะมีไปจนถึงวันที่ 29 เดือนนี้ ที่โรงภาพยนตร์ตามะดา (Thamada) เพื่อเป็นการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างพม่ากับเกาหลี กำลังจะมีการฉายภาพยนตร์หลายเรื่อง รวมทั้ง Le Grand Chef กับ Le Grand Chef 2 และ ภาพยนตร์แนวหรรษาอีก 2 เรื่องคือ Scandal Market กับ My Girl Friend is an Agent นิตยสารข่าวเมียนมาร์ไทมส์กล่าว

สองดาราหนุ่มสาวจะพบกับแฟนๆ หลังพิธีเปิดงานเทศกาล ส่วนผู้ที่สนใจจะเข้าชมภาพยนตร์ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ แต่จะต้องไปติดต่อขอตั๋วล่วงหน้าที่สถานทูตเกาหลีประจำกรุงย่างกุ้ง เนื่องจากที่นั่งในโรงภาพยนตร์มีจำกัด

ชาวพม่ารู้จักเกาหลีมานาน ในฐานะชาติเอเชียที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ผลิตสินค้าแบรนด์เนมหลายชนิด รวมทั้งคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กกับโทรศัพท์มือถือซึ่งเป็นที่นิยมของคนหนุ่มคนสาวในย่างกุ้ง

หลังจากที่เข้ารับใช้ชาติและคืนวงการอีกครั้ง "กงยู" (Gong Yoo) นักแสดงหนุ่มชื่อดังจากเรื่อง Coffee Princes ฝีมือการแสดงก็ยังคงดีไม่มีตก จนผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดที่เขาแสดงอย่าง Finding Mr. Destiny ถึงขั้นออกปากชมยกเทียบชั้นกับ"ฮิวจ์ แกรนท์" (Hugh Grant) เลยทีเดียว

จางยูจอง ผู้กำกับเรื่อง Finding Mr. Destiny ได้จัดแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา โดยเขาระบุถึงการเลือก 2 นักแสดงอย่าง กงยู ที่มารับบท ฮันกีจุน พระเอกของเรื่องที่ถูกไล่ออกจากงานและมาทำบริษัทช่วยคนให้ได้เจอกับรักครั้งแรกว่า

"กงยูเป็นนักแสดงที่ดีและมีความเป็นมืออาชีพขณะเดียวกันเขาเองก็เป็นคนขี้เล่นด้วย ผมเลยคิดว่าเขาน่าจะรับแบบนี้ได้ที่มีทั้งตอนที่จริงจังแล้วก็ตอนที่ตลกๆ ที่นักแสดงส่วนใหญ่ไม่สามารถทำได้ เขามีลักษณะคล้ายๆกับ ฮิวจ์ แกรนท์ คนโรแมนติคที่สามารถสัมผัสได้และจับใจคนดู แล้วก็ไม่มีอะไรที่จะทำลายภาพพจน์เขาได้"

ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ฮันกีจุน ได้พบกับ โซจีวู ที่แสดงโดย อิมซูจอง (Im Soo Jung) ครั้งแรกก็ตอนที่สาววัยสามสิบต้นๆรายนี้ที่มีลักษณะทอมบอยและก้าวร้าว โดยเธอไปเจอเขาที่ออฟฟิศเพื่อให้เขาตามหาคิมจองวุคหนุ่มที่เป็นรักครั้งแรกของเธอ ซึ่งเธอได้พบกับเขาระหว่างที่เดินทางไปอินเดีย

โดยระหว่างที่ตามหาอยู่นั้น ฮันและโซต่างก็พัฒนาความรู้สึกที่มีต่อกันขึ้นอย่างช้าๆจนกระทั่งตกหลุมรักกันในที่สุด

การร่วมงานกันครั้งนี้ระหว่างกงยูและอิมซูจอง กงยูระบุว่าเขารู้สึกดีกับการได้ร่วมงานกับเธอแต่รู้สึกไม่ดีเท่าไหร่เวลาที่ต้องถ่ายทำฉากจูบเพราะต่างก็เป็นเพื่อนสนิทกัน

ทางด้านผู้กำกับยังอธิบายต่อไปด้วยว่าทั้งคู่เป็นนักแสดงที่มีความเป็นมืออาชีพมาก เพราะถ่ายทำฉากดังกล่าวเพียงแค่ 2 เทคเท่านั้น "ไม่มีความผิดพลาดมากระหว่างที่ถ่ายฉากนี้ ถึงแม้ว่าพวกเขาสองคนจะไม่ได้รู้สึกอะไรต่อกันจริงๆก็ตาม"

ภาพยนตร์เรื่องนี้มีเนื้อหาดัดแปลงมาจากบทละครเวทีเรื่อง Finding Mr. Destiny ที่เคยได้รับความนิยมอย่างมากในเกาหลีเมื่อปี 2006 โดยเปิดการแสดงไปทั้งหมด 1,200 รอบเลยทีเดียว

Manager Online

เป็นความกลุ้มอกกลุ้มใจแบบไม่เหมือนคนอื่นจริงๆเมื่อ "เอมมา วัตสัน" (Emma Watson) นักแสดงสาววัยรุ่นชื่อดังยอมรับ ว่ารู้สึกปวดหัวกับเงินในบัญชี หลังรู้ว่ามีมากมายมหาศาล จนตนเองเป็นเศรษฐินีขนาดย่อมไปแล้ว

เอมมา วัตสัน นักแสดงสาววัย 20 ปีจากแฮร์รี พอตเตอร์ (Harry Potter) ผู้รับบทเฮอร์ไมโอนี เกรนเจอร์ ตั้งแต่มีอายุได้ 9 ปี เธอได้รับเงินมาใช้จ่าย 50 ปอนด์ต่อสัปดาห์ จนกระทั่งอายุ 17 ปีพ่อของเธอจึงได้จับมานั่งพูดคุยถึงเงินในบัญชีของเธอทั้งหมดที่มี ทำเอาเจ้าตัวถึงกับกุมขมับเลยทีเดียว

โดยเอมมาที่มีทรัพย์สินกว่า 20 ล้านปอนด์ระบุว่า "ในตอนถ่ายทำภาคที่ 3 หรือ 4 เนี่ยแหละ เงินเริ่มกลายเป็นปัญหาใหญ่ ฉันคิดไม่ออก ฉันรู้สึกแย่ มันหลายอารมณ์มากเลย"

และเพื่อรับมือกับปัญหาทางการเงินที่มีมากล้นดังกล่าว สาวเอมมาจึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากธนาคาร Coutts เพื่อช่วยจัดการทรัพย์สินและการเงินของเธออย่างเป็นระบบระเบียบ

นักแสดงสาวชาวอังกฤษที่กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยบราวน์ในสหรัฐฯ ได้ตัดผมจนสั้นกุด เกี่ยวกับเรื่องนี้เจ้าตัวระบุว่า อยากเปลี่ยนภาพลักษณ์เนื่องจากที่ผ่านมาทำไม่ได้เพราะติดเงื่อนไขจากการถ่ายทำภาพยนตร์แฮร์รี พอตเตอร์ ซึ่งในสัญญาได้ระบุห้ามมิให้เธอตัดผม แต่งหน้า และใส่ต่างหูระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์

โดยเธอระบายเรื่องนี้ผ่านทางนิตยสาร Vogue ว่า "เป็นเวลา 9 ปีที่ฉันอยู่กับ 'แฮร์รี พอตเตอร์' ฉันติดสัญญาที่สั่งห้ามไม่ให้ฉันตัดผมหรือมีผิวสีแทน เรื่องธรรมดาๆที่สาวๆเขาทำกัน ฉันทำไม่ได้เลย ดังนั้นพอมีโอกาสที่ฉันจะได้เปลี่ยนแปลงตัวเอง นี่เลยเป็นสิ่งแรกที่ฉันทำ"

Manager Online

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในเขตฟิลิปปินส์กลาง ถูกกล่าวหาว่าสังหารนักแสดงท้องถิ่นคนหนึ่ง ด้วยความเข้าใจผิด หลังจากนักแสดงคนดังกล่าวรับบทเป็นมือปืนสวมหน้ากาก เพื่อถ่ายทำหนังของผู้กำกับชาวอังกฤษเรื่องหนึ่ง ที่ยกกองเข้ามาถ่ายทำกันในเซบูซิตี้

เจ้าหน้าที่ตำรวจของเมืองเซบูซิตี้ รายงานถึงการจับกุม นายเอ็ดดี้ คุยซอน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเซบูซิตี้ กับข้อหาฆาตกรรมนาย เคิร์ค อเบลล่า นักแสดงชาวฟิลิปปินส์ ที่เข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในบริเวณหมู่บ้าน โดยระหว่างนั้น นักแสดงหนุ่มกำลังขับขี่มอเตอร์ไซค์อยู่บริเวณทางด่วน และสวมหน้ากากเอาไว้ จนฝ่ายพนักงานรักษาปลอดภัยเข้าใจผิด คิดว่าเขาเป็นคนร้าย

คุยซอน วัย 52 ปี เล่าถึงเหตุการณ์ว่าเกิดขึ้นขณะที่เขากำลังนอนหลับ และต้องตื่นขึ้นหลังจากมีประชาชนรายหนึ่งแจ้งว่า พบเห็นชายพกอาวุธเข้ามาในเขตชุมชน

เขากล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนเองได้พบกับชายสองคน ที่สวมหน้ากากและขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ จึงพยายามเข้าไปตรวจสอบ แต่ทั้งสองกลับเร่งเครื่องยนต์เพื่อหลบหนี จนกระทั่งตัวของ คุยซอน ถึงกับหกล้มและได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหัวเข่า โดยในเหตุการณ์ครั้งนี้เขาได้ยิงปืนไปยังคู่กรณีหลังจากพบว่า หนึ่งในนั้นพยายามชักปืนขึ้นมา ต่อมาจึงพบว่าปืนของอีกฝ่ายเป็นเพียงปืนปลอมที่ทำจากพลาสติก

กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว สำหรับเหตุฆาตกรรมบนท้องถนนของฟิลิปปินส์ โดยส่วนใหญ่ฆาตกรมักจะมีปืนเป็นอาวุธ และขับขี่รถมอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะ นอกจากประชาชนทั่วไปที่ต้องตกเป็นเหยื่อแล้ว แม้กระทั่งนักเคลื่อนไหวทางการเมือง หรือผู้สื่อข่าว ก็เคยสังเวยชีวิตให้กับเหล่าฆาตกรบนท้องถนนมานักต่อนัก จนความหวาดกลัวต่อภัยดังกล่าว ได้สร้างความเข้าใจผิดในเหตุการณ์ครั้งนี้ขึ้นมา

บริษัท Warner Brothers ผู้จัดจำหน่ายหนังชุด Harry Potter ออกมาประกาศข่าวการยกเลิกฉบับ 3 มิติของหนังภาคที่ 7 ซึ่งจะเข้าฉายภายในเดือน พ.ย. นี้ พร้อมให้เหตุผลว่า ด้วยเวลาอันกระชั้นชิดจนเกินไป ผู้สร้างจึงไม่สามารถแปลงหนังจาก 2-D ให้กลายเป็น 3-D ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานได้

ตามแผนการเดิม Warner Brothers Entertainment ต้องการส่งภาพยนตร์เรื่อง Harry Potter and the Deathly Hallows ให้เข้าฉายทั้งในระบบ 2-D ปกติ และระบบ 3-D ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ตามแผนการดังกล่าวต้องถูกยกเลิกไปในที่สุด หลังจากทีมงานไม่สามารถสร้างภาพสามมิติได้ในคุณภาพระดับมาตรฐาน ภายใต้เวลาอันจำกัดเพื่อเข้าฉายในกำหนดเดิมได้ "แม้ว่าทุกคนจะพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว เรายังไม่สามารถแปลงหนังทั้งเรื่องให้ออกมาเป็น 3-D มีคุณภาพสูงสุดตามมาตรฐานได้" บริษัทจัดจำหน่ายหนังชื่อดังแถลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ตัวแทนของ Warner Brothers ยังเสริมว่า"เราไม่ต้องการสร้างความผิดหวังให้กับแฟน ๆ ที่รอยคอยบทสรุปของการเดินทางอันยาวนานครั้งนี้ ซึ่งสุดท้ายแล้วหนังยังจะเข้าฉายในกำหนด 19 พ.ย. ตามแผนการเดิม ซึ่งทางคนทำหนังเชื่อว่านี่คือทางเลือกที่ดีที่สุด เพื่อประสบการณ์ทางบันเทิงของผู้ชม Harry Potter" ในการประกาศข่าวครั้งนี้ เดวิด เฮย์แมน หนึ่งในทีมผู้อำนวยการสร้างกล่าวยืนยันว่า "สิ่งที่ได้รับการพิจารณาอันดับแรกก็คือ ความซื่อตรงต่อหนังสือของ เจ. เค. โรว์ลิ่ง ในการดัดแปลงสู่แผ่นฟิล์ม และการตัดสินใจครั้งนี้ก็คือสิ่งที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในข้อนี้"

ภาพยนตร์ที่จากหนังสือเล่มสุดท้ายของนิยายจากปลายปากการของ เจ. เค. โรว์ลิ่ง ถูกแบ่งออกเป็นหนังสองเรื่อง Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 1 จะมีกำหนดเข้าฉายในเดือน พ.ย. ที่จะถึงนี้ ขณะที่ภาคจบจะเข้าโรงภาพยนตร์ทั่วโลกในเดือน ก.ค. 2011 ซึ่งเดิมทีผู้สร้างหวังเก็บเงินทั้งในโรง 2-D และ 3-D แบบเดียวกับหนังตอนก่อน Harry Potter and the Half-Blood Prince แตกต่างที่ในหนังภาคที่แล้วมีเฉพาะช่วงต้นของหนังเท่านั้น ที่เป็นระบบภาค 3-D

แผ่นป้ายบิลบอร์ดเพื่อการประสาสัมพันธ์ซีรีส์เรื่อง "Nikita" ที่มี แม็กกี้ คิว" (Maggie Q) ดาราสาวเชื้อสายเวียดนามรับบทนำ ต้องถูกปฏิเสธโดยห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ ทั้งในอเมริกา และแคนาดา หลังเจ้าของห้างรู้สึกว่า ลีลาเซ็กซี่ของ "แม็กกี้ คิว" บนแผ่นป้ายดังกล่าว ดูจะร้อนแรงเกินกว่าที่จะสามารถแสดงในที่สาธารณะได้

Variety ได้รายงานว่า ผู้บริหารระดับสูงของ The Grove ห้างดังในลอสแอนเจลิส ปฏิเสธที่จะให้มีการติดตั้งภาพบิลบอร์ดของซีรีส์ Nikita ที่ปรากฎรูปของ แม็กกี้ คิว นางเอกสาวคนสวยในชุดเปิดเผยเนื้อตัว และมีท่าทางอันเย้ายวน

เช่นเดียวกับห้างดังในชิคาโก้, อีลีนอยส์ และนิวยอร์ก ที่มองเห็นแบบเดียวกันว่าภาพดังกล่าวดูจะวาบหวิวเกินกว่าจะถูกติดตั้งอยู่ในห้างของตนเอง ที่มีลูกค้าตัวน้อย ๆ เดินผ่านไปผ่านมาเป็นประจำ แต่ที่สร้างความไม่พอใจมากกว่าก็คือ การร้องเรียนจากชุมชนหลาย ๆ แห่งในแถบลอสแอนเจลิสด้วย ว่าแผ่นป้ายโฆษณาดังกล่าวยังถูกตัดเอาไว้ในเขตใกล้เคียงกับโรงพยาบาล และโบสถ์

"แน่นอนว่าเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้อยู่บ้างเหมือนกัน กับงานโฆษณาของเรา" ริค แฮสกินส์ หัวหน้าฝ่ายการตลาดของสถานีโทรทัศน์ CW กล่าวกับนิตยสาร Variety "เราคิดไว้เสมอว่าควรเตรียมตัวเลือกที่แตกต่างเอาไว้บ้าง สำหรับสถานการณ์ที่จำเป็นแบบนี้" ซึ่งในกรณีนี้ผู้บริหารของ CW หมายความถึง รูปสำหรับป้ายประชาสัมพันธ์อีกแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นภาพของ แม็กกี้ คิว ในชุดยาวสีแดงกับปืนกลยาว ที่ดูจะร้อนแรงน้อยกว่าแบบเดิมนิดหน่อย แต่ก็เพียงพอที่จะให้สถานที่ต่าง ๆ ยอมรับติดตั้งภาพดังกล่าว เพื่อการประชาสัมพันธ์ซีรีส์เรื่องดังได้

แม็กกี้ คิว กลายเป็นสาวคนที่ 4 ที่ได้สวมบทบาท นิกิต้า นักฆ่าสาว ในซีรีส์ Nikita ฉบับล่าสุดของสถานีโทรทัศน์ CW ซึ่งตัวละครดังกล่าวถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยผู้กำกับชื่อดังชาวฝรั่งเศส ลุค แบสซง ในปี 1990 กับภาพยนตร์เรื่อง La Femme Nikita ต่อมาถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูดนำแสดงโดย บริเจ็ตต์ ฟอนด้า จนกระทั่งถูกดัดแปลงเป็นซีรีส์ เพื่อฉายทางโทรทัศน์ได้นักแสดงสาว พีต้า วิลสัน แสดงนำ และฉายติดต่อกันอยู่หลายปีในช่วงยุค 90s

Manager Online

"เฉินกว้านซี" (Edison Chen) นักแสดงหนุ่มผู้โด่งดังสุดขีดกับความอื้อฉาว ยังคงดิ้นรนเพื่อกลับมาออกผลงานในวงการบันเทิงต่อไป หลังจากก่อนหน้านี้ เคยพยายามดึงตัวนักร้องนักแต่งเพลงชื่อดังชาวจีนมาร่วมงาน ล่าสุดมีข่าวว่า "อาเฉิน" กำลังเตรียมตัวบินไปสหรัฐฯ เพื่อพบ "เลดี้ กาก้า" (Lady Gag) นักร้องสาวสุดสุดซ่าที่ร้อนแรงที่สุดในวงการเพลงโลกยุคปัจจุบัน เพื่อถกถึงโอกาสร่วมงานกันในอนาคต - Channel News Asia รายงาน

ผู้ช่วยส่วนตัวของ เฉินกว้านซี ซึ่งใช้ชื่อว่า มิสเตอร์เทย์ ที่ออกมาให้ข่าวถึงเรื่องความเป็นไปได้ในการร่วมงานกันของสองศิลปินดังครั้งนี้ ... "เลดี้ กาก้า จะเดินทางมาทำงานที่เอเชียในปีหน้า เธอพอจะรับรู้ถึงผลงานของเฉินกว้านซี ทั้งแบรนด์เสื้อผ้ารวมถึงงานเพลงอยู่ก่อนแล้ว และมองถึงโอกาสในการร่วมงานกับเขา"

ผู้ช่วยส่วนตัวคนดังกล่าว ยังอ้างว่าสองศิลปินจากสองซีกโลกรู้จักกันมานานหลายปีแล้ว และต่างฝ่ายต่างยกย่องในสไตล์ของแต่ละคน เทย์ กล่าวปิดท้ายด้วยการชื่นชม เลดี้ กาก้าว่าเป็นศิลปินที่ทำงานหนัก, ฉลาด และยืนหยัดในแนวทางของตนเอง

อย่างไรก็ตามตัว เทย์ ปฏิเสธข่าวลือที่ว่า เฉินกวนซี เดินทางจะเดินทางไปสหรัฐฯ เพื่อขอความช่วยเหลือในด้านความคิดสร้างสรรค์ จากนักร้องสาวคนดังแดนมะกัน สำหรับผลงานเพลงชุดใหม่ที่กำลังจะวางจำหน่ายของเขา พร้อมให้เหตุผลว่าช่วงนี้ เลดี้ กาก้า ยังคงยุ่งอยู่กับการทัวร์คอนเสิร์ตของตัวเอง จึงยังไม่สามารถปลีกตัวมาร่วมงานในอัลบั้มใหม่ของเฉินกว้านซี ก็มีกำหนดออกวางจำหน่ายในเดือน พ.ย. ไปนี้ได้ทัน

คำกล่าวอ้างจากผู้ช่วยส่วนตัว ดูจะสอดคล้องกับข้อมูลจากบล็อคของเฉินกว้านซีเอง ซึ่งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้มีการโพสต์ภาพคู่ของตนเองและนักร้องสาวชาวสหรัฐฯ ที่ใกล้ชิดกันแบบแก้มชนแก้ม เมื่อครั้งพบกันที่งานแห่งหนึ่งในไต้หวัน ต่อมาในวันอังคารเฉินกว้านซียังโพสต์ขอบคุณทั้งตัวของ เลดี้ กาก้า และ Atomic Factory บริษัทจัดการของเธอ ที่มอบที่นั่งพิเศษในคอนเสิร์ตเมื่อเร็ว ๆ นี้ให้แก่เขา

ผู้ผลิตภาพยนตร์เรื่อง "Norwegian Wood" ที่ดัดแปลงมาจากนิยายของ "ฮารูกิ มูราคามิ" (Haruki Murakami) ยอดนักเขียนชาวญี่ปุ่น ได้ปล่อยตัวอย่างแรกของภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว ผลงานของผู้กำกับชาวเวียดนาม "อันห์หงตราน" (Tran Anh Hung) มาให้ได้ชมกันแล้ว ก่อนหนังเข้าฉายในช่วงปลายปี

Norwegian Wood นิยายปี 1987 เรื่องดังของ ฮารูกิ มูราคามิ ถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์แล้ว นอกจากจะระดมผู้กำกับยอดฝีมือ และนักแสดงชั้นนำ หนังเรื่องนี้ยังประสบความสำเร็จในการขอซื้อเพลง Norwegian Wood ของ The Beatles มาใช้ในการเล่าเรื่อง แม้ก่อนหน้านี้ วงสี่เต่าทองแทบไม่ได้ปล่อยเพลงต้นฉบับของพวกเขาให้กับหนังเรื่องใดมาก่อน นอกจากนั้นหนังยังได้ จอห์นนี่ กรีนวูด มือกีตาร์แห่ง Radiohead มาทำดนตรีประกอบให้ด้วย

Norwegian Wood กล่าวถึงหนุ่มวัย 37 ปี โทรุ วาตานาเบะ (Toru Watanabe) ที่ได้หวนนึกถึงเพื่อนเก่า และหญิงสาวคนหนึ่ง เมื่อได้ยินเพลง Norwegian Wood ของ The Beatles ระหว่างขึ้นเครื่องบินเดินทางมุ่งสู่ประเทศเยอรมัน โดยหนังได้นักแสดงชื่อดังอย่าง เคนอิจิ มัตสึยาม่า (Kenichi Matsuyama) [Death Note] และ ริงโกะ คิคุจิ (Rinko Kikuchi) [Babel] มารับบทนำของเรื่อง

หนังเป็นผลงานของ อันห์หงตราน ผู้กำกับชาวเวียดนามอพยพ ที่เติบโตในประเทศฝรั่งเศส และมีผลงานมาแล้วหลายเรื่อง เช่น Cyclo และ The Scent of Green Papaya ที่เล่าเรื่องราวในประเทศเวียดนามแผ่นดินแม่ของเขา ขณะที่ผลงานล่าสุดที่มีชื่อว่า I Come with the Rain ที่รวบรวมกลุ่มนักแสดงหนุ่มนานาชาติเอาไว้มากมาย อาทิ จอช อาร์ตเน็ตต์ (Josh Hartnett), ลีบยุงฮุน (Lee Byung Hoon), ทาคุยะ คิมูระ (Takuya Kimura) และ ชอว์น หยู (Shawn Yu) มาร่วมงานกันในเรื่องราวระทึกขวัญเกี่ยวกับฆาตกรฆ่าต่อเนื่อง

โดย Norwegian Wood มีกำหนดฉายที่ประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 11 ธ.ค. 2010

"ทาเครุ โคบายาชิ" (Takeru Kobayashi) อดีตแชมป์แข่งกินฮ็อตด็อกหลายสมัย ถูกจับในงานแข่งขันกินฮ็อตด็อกของร้าน Nathan's Famous (นาธานส์ เฟมัส) หลังเจ้าตัวคลั่งเกิดอาการไม่พอใจบุกขึ้นเวทีประท้วงที่ไม่ยอมให้เขาเข้าแข่งขันในปีนี้

หลังจากที่มีข่าวออกมาว่า ทาเครุ โคบายาชิ อีกหนึ่งสีสันของการแข่งกินจะพลาดโอกาสในการเข้าแข่งขันกินฮ็อตด็อกประจำปีนี้เนื่องจากติดปัญหาเรื่องสัญญา ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา เจ้าตัวแสดงความไม่พอใจบุกขึ้นเวทีโวยวายเมื่อ โจอี้ เชสนัท หรือ จอว์ คู่แข่งตัวฉกาจของเขาชนะการแข่งขันประจำปีนี้

โดย โคบายาชิ พยายามขัดขืนการควบคุมของบรรดาเจ้าหน้าที่ ที่พยายามเข้ามาสกัดและกันตัวเขาออกจากเวทีในพิธีมอบรางวัลให้กับคู่แข่งของเขาอย่าง โจอี้ ก่อนที่เจ้าตัวจะถูกนำตัวส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อนำไปดำเนินคดีในที่สุด

"ไม่เป็นมืออาชีพเลย น่ารังเกียจ,ไม่ตรงไปตรงมา และน่าผิดหวังจริงๆ" ริชาร์ด เชีย ผู้จัดการแข่งขันครั้งนี้กล่าว

โคบายาชิ ชายหนุ่มจอมเขมือบวัย 32 ปี ถูกจับในข้อหา ขัดขวางการจัดงานของทางการ รวมทั้งขัดขืนและละเมิดการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ซึ่งโคบายาชิต้องถูกดำเนินคดีจนกว่าจะถูกนำตัวไปขึ้นศาลในเช้าวันนี้เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา

โคบายาชิ ถูกสั่งห้ามเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ เนื่องมาจากเขาปฏิเสธที่จะเซ็นสัญญากับ MLE (เอ็มเอลอี) หรือ Major League Eating ผู้จัดงาน โดยเจ้าตัวเชื่อว่าสัญญาดังกล่าว จะทำให้เขาขาดอิสระในการเดินสายเข้าแข่งขันกินแหลกรายการอื่นๆ

แต่ทางเจ้าหน้าที่จัดงานยืนยันว่า สัญญาดังกล่าวเป็นสัญญาแบบเดียวกับที่เขาเคยทำเมื่อปีที่แล้ว "เขาพยายามจะขึ้นเวทีไปหาโจอี้" วินเซนต์ โอลิเวรี ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าว "เขาควรจะเข้าแข่งขันก็แค่เซ็นสัญญาแค่นั้น"

ทาเครุ โคบายาชิ หรือฉายา สึนามิ เคยเป็นแชมป์การแข่งขันกินฮ็อตด็อกถึง 6 ครั้งติดต่อกัน ก่อนจะพ่ายให้กับ โจอี้ เชสนัท ในปีที่เขามีอาการบาดเจ็บที่กราม จนทำให้พลาดตำแหน่งและเสียแชมป์ให้เขานับแต่นั้นเป็นต้นมา

นักร้องนักแต่งเพลงหนุ่มมากฝีมือ "หวังลี่หง" (Wang Lee Hom) สร้างความประทับใจให้กับศิลปินระดับโลกอย่าง "อัสเชอร์" (Usher) จนถึงขั้นเอ่ยปากชวนหนุ่มไต้หวัน มาร่วมแสดงด้วยกัน ในคอนเสิร์ตของตนที่กำลังจะมีขึ้นที่ปักกิ่งในเร็วๆ นี้

หวังลี่หง นักร้อง/นักแสดง/นักแต่งเพลง หนุ่มชาวไต้หวันที่เกิดในสหรัฐฯ และโด่งดังกับการสร้างผลงานเพลงที่ผสมผสานดนตรีหลากหลายประเภท อาทิ อาร์แอนด์บี, ฮิปฮอป, พ็อพ, ร็อค และดนตรีพื้นบ้านของจีน ได้รับตอบรับคำชวนของ อัสเชอร์ นักร้องหนุ่มอาร์แอนด์บีคนดัง เพื่อเป็นแขกรักเชิญในคอนเสิร์ตที่ปักกิ่งในเร็วๆ นี้แล้ว

โดยรายงานข่าวยังระบุว่า อัสเชอร์ เริ่มสนใจวงการเพลงของฝั่งเอเชียมาสักระยะหนึ่งแล้ว และหนึ่งในศิลปินที่เขาให้การยอมรับก็คือ หวังลี่หง ที่ถือเป็นศิลปินรุ่นราวคราวเดียวกัน เพราะเริ่มต้นออกผลงานครั้งแรกตั้งแต่ 10 ปีก่อนเหมือนกันทั้งคู่

นอกจากนั้น อัสเชอร์ ยังออกมากล่าวยกย่องความสามารถในการผสมดนตรีของทั้งฝั่งตะวันตก และตะวันออกเข้าด้วยกันของซุปเปอร์สตาร์แห่งไต้หวัน รวมถึงยกย่องความตั้งใจในการแทรกเนื้อหา เกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมลงไปในเพลงด้วย และกล่าวว่าหวังให้การร่วมงานกันครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของความเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันในอนาคต

ขณะเดียวกัน หวังลี่หง ยกย่องนักร้องหนุ่มชาวอเมริกันว่า มีพรสวรรค์ทั้งในการร้องเพลง และเต้นรำ นอกจากนั้นยังกล่าวแสดงความหวังว่า ทั้งคู่น่าจะมีโอกาสร่วมแสดงด้วยกันอีกครั้ง ในเวลาคอนเสิร์ตที่ไต้หวัน บ้านเกิดของเขาด้วยเช่นเดียวกัน

อันเชอร์ ที่มีชื่อจริงว่า อัสเชอร์ เรย์มอน ที่ 4 เป็นศิลปินที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งในยุคปัจจุบันของวงการเพลงสหรัฐฯ มีผลงานฮิตมากมาย และคว้ารางวัลแกรมมี่มาแล้วหลายครั้ง โดยในช่วงนี้ศิลปินหนุ่มผิวสีวัย 31 มีกำหนดออกทัวร์คอนเสิร์ตในเอเชียเพื่อสนับสนุนผลงานเพลงชุดที่ 7 ของตัวเอง โดยมีกำหนดขึ้นแสดงที่ โซล, ไทเป, กัวลาลัมเปอร์ และมานิลา ก่อนจะถึงการแสดงที่ปักกิ่งในวันที่ 11 ก.ค. นี้

โดยมีรายงานตามมาว่า ข่าวการร่วมเวทีของศิลปินซุปสตาร์จากสองฟากโลก กลายเป็นข่าวดังในประเทศจีน จนทำให้บัตรคอนเสิร์ต กลายเป็นที่ต้องการมากกว่าเดิมหลายเท่าตัวด้วย

"โทโทโร่" ตัวละครซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีของเด็กๆ ญี่ปุ่นและทั่วโลก จากผลงานของ "Studio Ghibli" แห่งประเทศญี่ปุ่น ได้ปรากฎโฉมในหนังการ์ตูนอนิเมชั่นสามมิติ "Toy Story 3" ของ "Pixar Studios" สะท้อนถึงความสัมพันธ์อันดี ระหว่างสองสุดยอดคนทำอนิเมชั่นจากสองฝั่งโลก

มีรายงานว่า ตัวละครสุดรักของชาวอาทิตย์อุทัย โทโทโร่ สิ่งมีชีวิตใจดีขนปุยจากผลงานสุดคลาสสิคเรื่อง My Neighbor Totoro ของ ฮายาโอะ มิยาซากิ ที่ออกฉายเมื่อปี 1988 ได้ปรากฎตัวเป็นดารารับเชิญ ในฐานะของเล่นชิ้นหนึ่งที่ ตัวละคร คาวบอย์ วูดดี้ ได้พบในฉากหนึ่งจากหนังเรื่อง Toy Story 3 ซึ่งเพิ่งเปิดตัวฉายในสหรัฐฯ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

จอห์น เลสเซ็ทเตอร์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Pixar Animation Studios และรับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้าง รวมถึงแต่งเรื่องสำหรับ Toy Story 3 ยกย่อง มิยาซากิ และ Studio Ghibli ว่าเป็นแรงบันดาลใจสำคัญต่ออาชีพคนทำหนัง และอนิเมเตอร์ของเขา

ต่อมาทั้งสองได้กลายเป็นเพื่อนสนิท ซึ่ง เลสเซ็ทเตอร์ ยังเป็นผู้นำผลงานหลายๆ เรื่องของปรมาจารย์อนิเมชั่นแห่งญี่ปุ่น มาจัดจำหน่ายในอเมริกาด้วย

Manager Online

หนังสงคราม "Red Dawn" ที่ทาง "MGM" นำกลับมาสร้างใหม่ก่อให้เกิดข้อพิพาทระหว่างประเทศขึ้นอีกแล้ว เมื่อประชาชนจีนจำนวนมาก ซึ่งไม่พอใจกับบทบาทของประเทศตัวเอง ในฐานะตัวร้ายในหนังเรื่องดังกล่าว

ประเด็นความขัดแย้งจากหนัง Red Dawn ฉบับสร้างใหม่ กลายเรื่องหลักในหน้าหนังสือพิมพ์จีนถึงสองวัน ในสื่อใหญ่ของประเทศอย่าง The Global Times ซึ่งมียอดขายกว่า 1.5 ล้านฉบับ ... "อเมริกาถ่ายทำหนังสงครามเย็น เพื่อมอบภาพอันชั่วร้ายให้กับจีน" สื่อจากจีนระบุ ขณะที่ฉบับวันต่อมา ระบุถึงความรู้สึกเป็นศัตรูต่อกัน ที่จะเกิดขึ้นกับงานชิ้นนี้ "หนังอเมริกันกำลังเพาะหว่าน ความเป็นศัตรูมาที่จีน"

มังกรแห่งเอเชียมองว่าภาพยนตร์ทุนสร้าง 42 ล้านเหรียญสหรัฐฯ Red Dawn ที่เข้ามาถ่ายทำหลังจาก ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางมาเยือนจีน ก่อนหน้านั้นไม่นานแฝงไว้ด้วยความรู้สึกบางอย่างของสหรัฐฯ โดยเฉพาะ "ความหวาดกลัวต่อความรุ่งโรจน์ของจีนในยุคปัจจุบัน ที่ฝังลึกอยู่ในชาวอเมริกัน"

"ขณะนี้โลกกำลังพุ่งความสนใจมาที่ความสัมพันธ์ และนโยบายทั้งทางการเมือง และเศรษฐกิจระหว่างจีนและอเมริกา โดยเฉพาะอย่างหลังที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามจีนยังเป็นประเทศที่น่าหวาดกลัว และคลางแคลงใจ สำหรับชาวอเมริกันส่วนใหญ่ ซึ่งความคลางแคลงใจพวกนี้เอง กลายเป็นเนื้อหาหลักของหนัง Red Dawn ที่สร้างเพื่อเพิ่มความหวาดกลัวต่อจีน" ชาวจีนคนหนึ่งให้ความเห็น

หนังจะเล่าเรื่องในโลกอนาคตอันใกล้ เมื่อสหรัฐอเมริกาต้องพบกับหายนะทางเศรษฐกิจ จนประเทศจีนอ้างว่าต้องการให้ความช่วยเหลือ แต่กลับเคลื่อนทัพเข้ามาปฏิบัติการทางการทหาร People Daily ยังรายงานว่า ในหนังจะมีฉากทหารชาวจีนที่สวมเครื่องแบบเต็มยศ พร้อมรถถัง เหยียบย่ำเข้าไปในเมืองของสหรัฐฯ ขณะที่ป้ายโปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อแบบยุคคอมมิวนิสต์ ก็จะถูกติดไว้ทั่วเมืองมะกัน หนังจะเต็มไปด้วยคำพูดบันดาลโทสะของชาวอเมริกันต่อชาวจีน โดยเฉพาะการแสดงความอาฆาตมาดร้าย ต้องการเอาชีวิต

โดย Red Dawn ต้นฉบับซึ่งออกฉายในปี 1984 มี นักแสดงวัยรุ่นชื่อดังสมัยนั้นหลายคนรับบทเด่น อาทิ แพทริค สเวซี, ชาลี ชีน และ ลีอา ทอมสัน ในเนื้อหาใกล้เคียงกับของใหม่ แต่เป็นสหภาพโซเวียตที่ถูกหยิบยื่นบทตัวร้ายให้ในตอนนั้น

สถานีโทรทัศน์ "CW" แห่งสหรัฐฯ ได้หยิบเอาหนังแอ็กชั่นสุดดัง "Nikita" กลับมาสร้างเป็นซีรีส์สำหรับฉายทางโทรทัศน์อีกครั้ง และมอบบทนักฆ่าสาวสุดเซ็กซี่ให้กับ "แม็กกี้ คิว" (Maggie Q) นักแสดงชาวอเมริกันเชื้อสายเวียดนาม

Nikita เป็นเรื่องราวของวัยรุ่นสาวใจแตก ที่ไปพัวพันกับคดีอาชญากรรมจนต้องโทษประหารชีวิต แต่ได้รับโอกาสที่สองจากหน่วยงานลับของราชการ ที่พร้อมมอบชีวิตใหม่ให้ แลกกับการเข้าฝึกฝนเพื่อเป็นนักฆ่า คอยสังหารเหยื่อตามใบสั่งที่ได้รับมอบหมาย

เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว ที่ตัวละครนักฆ่าสาวสุดเซ็กซี่ 'นิกิต้า' ถูกสร้างสรรค์โดย ลุค แบซง (Luc Besson) ผู้กำกับชาวฝรั่งเศสในภาพยนตร์แนวแอ็กชั่นอาชญากรรมเรื่อง Nikita (ผู้หญิงมากกว่าหนึ่ง) ซึ่งในตอนนั้น ยอดผู้กำกับชาวฝรั่งเศส ได้มอบบทที่กลายเป็นหนึ่งในตัวละครประเภทสาวบู๊ ซึ่งคนจดจำมากที่สุดตลอดกาล ให้กับ แอนน์ ปาริลโย (Anne Parillaud) ภรรยาของเขาเองในขณะนั้น

หลังงานของแบซงกลายเป็นหนังฮิตไปทั่วโลก ในปี 1993 บริษัทวอร์เนอร์บราเธอร์สของสหรัฐฯ จึงได้ขอซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว มาดัดแปลงสร้างใหม่ ในชื่อว่า Point of No Return มีนักแสดงสาวชาวอเมริกัน บริดเจ็ท ฟอนดา (Bridget Fonda) มารับบทนำ

จนกระทั่งต่อมาในปี 1997 วอร์เนอร์บราเธอร์ส จึงได้ตัดสินใจขยายเรื่องราวของนักฆ่าสาว นิกิต้า เป็นทีวีซีรีส์สำหรับลงจอโทรทัศน์แทน ภายใต้ชื่อ La Femme Nikita และมอบบทเด่นให้กับนักแสดงสาว พีตา วิลสัน (Peta Wilson) ออกอากาศทาง USA Network อยู่ถึง 5 ฤดูกาลด้วยกัน

ขณะเดียวกัน ผู้สร้างภาพยนตร์ชาวฮ่องกงยังเคยหยิบหนังเรื่องนี้ไปสร้างใหม่ (แบบไม่เป็นทางการ และไม่เสียลิขสิทธิ์) ในชื่อว่า Black Cat (หัวใจเธอมันน่ากราบ) ด้วย

สำหรับ แม็คกี้ คิว หรือ มาร์กาเร็ต เดนิส ควิกลี่ย์ นักแสดงสาวลูกครึ่งวัย 31 ปี ผู้รับบทอันโด่งดังนี้คนล่าสุด และกลายเป็น นิกิต้า คนที่ 5 เป็นนักแสดงเชื้อสายเวียดนาม เกิดที่ฮอนนาลูลู ฮาวาย เริ่มต้นอาชีพในวงการบันเทิงกับงานนางแบบ จนมีชื่อเสียง และผันตัวไปเป็นนักแสดง ทั้งในฮ่องกงและระดับฮอลลีวูด รวมถึงได้ร่วมแสดงในหนังดังอย่าง Mission Impossible 3 และ Die Hard 4: Live Free or Die Hard