ข่าวอื่นๆ

หลังมีรายงานว่า"ทิฟฟานี" (Tiffany) นักร้องสาวจาก SNSD (Girls' Generation) จะได้โอกาสพิเศษสัมภาษณ์"แบรด พิตต์" (Brad Pitt) นักแสดงชื่อดังที่เดินทางไปเกาหลีใต้เพื่อโปรโมทหนังใหม่ ล่าสุดภาพบันทึกการสัมภาษณ์ได้ออกอากาศแล้วทำเอาเพื่อนร่วมวงอย่าง"ซูยอง" (Soo Young) ฟินหลังเห็นเพื่อนโดนหนุ่มในสเป็คจุ๊บแก้ม
       
       แม้ว่าการรับหน้าที่พิธีกรพิเศษเพื่อสัมภาษณ์แบรด พิตต์ ครั้งนี้ของทิฟฟานีจะทำเอาเจ้าตัวตื่นเต้นอย่างหนักแล้ว แต่นักร้องสาวสวยก็ไม่ได้ออกอาการประหม่าให้เห็นแต่อย่างใดระหว่างร่วมพูดคุยกับแบรด พิตต์ ในรายการ One Night of TV Entertainment
       
       โดยทันทีที่ทิฟฟานีเจอแบรด พิตต์ ณ.พระราชวังเคียงบ็อคสถานที่ถ่ายทำ นักแสดงหนุ่มชื่อดังได้ทักทายเธอ ด้วยการจุ๊บแก้มสองข้างทักทายตามธรรมเนียมต่างชาติ นอกจากนั้นทิฟฟานียังบอกให้เขาทักทาย ซูยอง เพื่อนร่วมวง SNSD ที่เป็นพิธีกรหลักของรายการรวมถึงยังเป็นแฟนตัวยงของเขาด้วย งานนี้ทำเอาสาวซูยองออกอาการฟินสุดๆเลยทีเดียว
       
       ตามรายงานระบุว่า เกาหลีใต้ นับเป็นประเทศเดียวในเอเชียที่แบรด พิตต์ เดินทางมาโปรโมตภาพยนตร์ World War Z ผลงานล่าสุดของเขา ซึ่งการมาเยือนเกาหลีใต้ครั้งนี้เขาได้พา แพ็กซ์ เทียน (Pax Thien) ลูกบุญธรรมชาวเวียดนามร่วมเดินทางมาด้วย โดยเขากล่าวด้วยว่าเขาอยากให้ลูกชายของเขาได้ลองกินคาลบี บาร์บีคิวเกาหลีอันเลื่องชื่อ
       
       โดยช่วงสุดท้ายของรายการสาวสวยทิฟฟานี ยังสอนแบรด พิตต์ ให้พูดภาษาเกาหลี "แทบัก" ที่แปลว่าสุดยอดทิ้งท้ายอีกด้วย

หลังมีข่าวว่า"แบรด พิตต์" (Brad Pitt) นักแสดงชื่อดังของฮอลลีวูดได้เดินทางไปยังเกาหลีใต้เพื่อร่วมโปรโมทภาพยนตร์ World War Z งานนี้ทางรายการบันเทิงเกาหลีสบโอกาสคว้าตัวมาสัมภาษณ์โดยมีพิธีกรคือ"ทิฟฟานี" (Tiffany) นักร้องสาวจากเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง SNSD
       
       ในรายการ One Night of TV Entertainment ของสถานี SBS ได้จัดให้ทิฟฟานีทำหน้าที่สัมภาษณ์นักแสดงชื่อดังฮอลลีวูดที่ พระราชวังเคียงบ็อค ซึ่งทางตัวแทนของรายการได้ออกมาเผยถึงการเลือกนักร้องสาวมาทำหน้าที่สัมภาษณ์คนดังระดับโลกด้วยว่า
       
       "เราได้รับโอกาสให้สัมภาษณ์พิเศษแบรด พิตต์ เราเลยเชิญทิฟฟานีมาเป็นผู้ทำหน้าที่สัมภาษณ์พิเศษนี้ เธอเชี่ยวชาญภาษาอังกฤษและเป็นคนที่สดใส ซึ่งเธอจะทำให้บรรยากาศในการสัมภาษณ์เป็นกันเอง เราเลือกพระราชวังเคียงบ็อคเป็นสถานที่ถ่ายทำเพราะว่าแบรด พิตต์ สนใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเกาหลีมากๆ"
       
       โดยเทปบันทึกการสัมภาษณ์จะออกอากาศในวันที่ 12 มิ.ย. นี้

Manager Online

นักบู๊ชาวฮ่องกงกลายเป็นนักแสดงเชื้อสายจีนคนแรกที่ได้ประทับรอยเท้า, มือ และสำหรับเขายังมีรอยจมูกด้วย เอาไว้ที่โรงภาพยนตร์ Chinese Theatre อันยิ่งใหญ่และเป็นตำนานของฮอลลีวูด

       โดยในพิธีซึ่งจัดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน เฉินหลง (Jackie Chan) ยังได้ คริส ทักเกอร์ (Chris Tucker) ที่เคยร่วมงานกับเขาใน Rush Hour ทั้ง 3 ภาคมาร่วมความยินดีพร้อมๆกับแฟนๆ นับร้อยชีวิตที่ส่งเสียงเชียร์กันทั่วฮอลลีวูด บูเลอวาร์ดด้วย
       
       เฉินหลง มีผลงานการแสดงมาแล้วมากกว่า 100 เรื่อง และได้ชื่อเป็นผู้กำกับหนังถึง 20 เรื่อง โดยเขายังรำลึกถึงวันที่มาเยือนโรงหนัง Chinese Theatre อันโด่งดังแห่งนี้ครั้งแรกเมื่อสองทศวรรษที่แล้วในฐานะแขกรับเชิญของ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน (Sylvester Stallone) ว่า "เมื่อ 20 ปีก่อนตอน 1993 ได้ ผมไม่ได้มาเดินพรมแดงเหมือนคนอื่น แต่แค่ยืนอยู่ข้างๆ และเห็นคนมากมายมาให้สัมภาษณ์กัน โดยตัวเองไม่ได้ทำอะไรเลย ผมยืนอยู่แล้วก็มองไปทั่วๆ มองดูรอยมือพวกนี้ "
       
       "ผมคิดกับตัวเองว่าเมื่อไหร่เราจะมีรอยมือที่นี่แบบนี้บ้าง จนหลายปีผ่านไปความฝันของผมก็เป็นจริง" เฉินหลง กล่าวก่อนจะขอบคุณเหล่าเพื่อนนักแสดง, TCL เจ้าของโรงภาพยนตร์ และแฟนๆ ที่ส่งเสียงเชียร์อยู่รอบด้าน "แฟนๆ ที่อยู่ทั่วโลกคุณนั่นแหละครับ ที่ทำให้ฝันของผมเป็นจริง"
       
       สำหรับชาวฮอลลีวูดแล้ว การได้ประทับรอยมือรอยเท้าที่โรงหนัง Chinese Theatre ถือว่าเป็นเกียรติในระดับขั้นที่ยิ่งใหญ่ และสูงกว่าการยกย่องแบบเดียวกันที่ถนนแห่งดวงดาว Hollywood Walk of Fame เสียอีก นักท่องเที่ยวจีนรายหนึ่งก็กล่าวยกย่องเพื่อนร่วมชาติว่า "เขาทำหนังชั้นยอดมาตลอด มีความคิดสร้างสรรค์เสมอมา สำหรับหนังใหม่ๆ ก็จะมีอะไรน่าดูมาให้กับแฟนๆตลอด"

      หลังพักเรื่องการเรียนที่มหาวิทยาลัยบราวน์ เพื่อกลับมารับงานแสดงอยู่พักใหญ่ นักแสดงสาวขวัญใจชาวอังกฤษเปิดเผยว่า เธอพร้อมที่จะกลับไปใช้ชีวิตนักศึกษาที่สถาบันการศึกษาดังแห่งรัฐโรดไอแลนด์ ในฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้แล้ว
       
       เอมมา วัตสัน (Emma Watson) ที่กลับมาสานต่ออาชีพในวงการภาพยนตร์ตลอดช่วงปีที่ผ่านมา และทุกอย่างก็ดูจะไปได้สวย เมื่อผลงานเรื่องล่าสุดของเธอได้รับความสนใจอย่างมากในการฉายที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ แต่ล่าสุดสาวอังกฤษวัย 23 ปี เปิดเผยว่าเธอกำลังจะกลับไปสานต่อบทบาทนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยบราวน์ ในภาคการเรียนช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้
       
       โดย วัตสัน สมัครเข้าเรียนที่สถาบันการศึกษามีชื่อแห่งนี้มาตั้งแต่ปี 2009 แต่พอในปี 2011 เธอกลับต้องพักการเรียนไปเพื่อให้เวลากับการโปรโมต Harry Potter ภาคสุดท้าย หลังจากนั้นจึงมีงานแสดงเขามาติดๆ กันอีกหลายเรื่อง
       
       “ฉันรู้สึกชอบที่ว่ามันเป็นหลักสูตรที่ค่อนข้างเปิดกว้างน่ะค่ะ ไม่ได้มีข้อเรียกร้องอะไรมากนัก” วัตสัน กล่าวกับนิตยสาร Rookie เมื่อเดือนก่อนถึงการศึกษาของเธอในตอนนี้ “จริงๆ แล้วฉันรับผิดชอบเรื่องการเรียนของตัวเองมาตั้งแต่เริ่มแสดง Harry Potter ตอนอายุซัก 9 หรือ 10 ขวบได้แล้ว ซึ่งฉันสามารถออกแบบวิชาเอกของตัวเองได้ ว่าอะไรบ้างที่อยากเรียน หรืออะไรบ้างที่ไม่ได้จำเป็นต่อหลักสูตร ฉันเคยลงเรียนในเวลาอิสระด้านจิตวิทยา และจิตวิทยาเกี่ยวกับว่าเราตกหลุมรักได้อย่างไร และเพราะอะไร ซึ่งมันก็เจ๋งดี”
       
       “เป็นวิธีเรียนที่น่าสนใจทีเดียวสำหรับนักเรียนบางคน คนที่พึ่งตัวเองได้ ต้องการอยากจะรับผิดชอบตัวเอง และควบคุมได้ว่าเราจะเรียนอะไร ซึ่งสำหรับฉันมันน่าสนใจมากๆ”
       

       การเดินทางเข้าไปทำงานในสหรัฐฯ ของสาว T-ara N4 ดูจะไม่ค่อยสดใสอย่างที่หวัง หลังการเปิดตัวแสดงในแดนลุงแซมครั้งแรกของพวกเธอ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ชาวเกาหลีใต้ขึ้นมามากมาย ทั้งปฏิกิริยาของคนดูสหรัฐฯ ที่แทบจะไม่สนใจใยดีอะไรสาวๆ เลย และยังเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่หวือหวาวาบหวิวเกินไปของพวกเธอทั้ง 4 คนอีก
       
       การเปิดตัวแสดงบนแผ่นดินสหรัฐฯ ของสาวๆ T-ara N4 ซับยูนิทของ T-ara ทำให้เกิดข้อสงสัยขึ้นมากมาย เพราะก่อนหน้านี้ทางต้นสังกัด Core Contents Media ได้เปิดเผยว่าสาวๆ ทั้ง 4 จะได้แสดงเปิดคอนเสิร์ตของซูเปอร์สตาร์ระดับโลก คริส บราวน์ (Chris Brown) แต่ภาพที่ออกมากลับกลายเป็นว่า T-ara N4 ได้ขึ้นแสดงในคอนเสิร์ตเล็กๆ ริมสระน้ำ ไม่ใช่การเปิดคอนเสิร์ตของศิลปินหนุ่มคนดังอย่าง บราวน์ อย่างที่ว่าเอาไว้ จนมีเสียงวิจารณ์ไปที่ต้นสังกัด ว่า Core Contents Media กำลังโกหกชาวเกาหลีใต้อยู่รึเปล่า
       
       ขณะเดียวกันแฟนๆหลายคนก็รู้สึกว่า คริส บราวน์ เองก็ไม่ได้ตั้งใจจะช่วยสนับสนุนส่งเสริมอะไรให้ T-ara N4 อย่างที่ต้นสังกัดในเกาหลีใต้ของพวกเธอเคยว่าเอาไว้ นอกจากนั้นคนดูในวันนั้น ก็ดูจะไม่ได้ใส่ใจอะไรกับการแสดงของศิลปินสาวขวัญใจชาวเกาหลีใต้เลย
       
       โดยตัวแทนของ Core Contents Media ได้อธิบายถึงเรื่องนี้ว่า คลิปภาพการแสดงริมสระน้ำของ T-ara N4 เป็นส่วนหนึ่งของงาน Memorial Day Weekend 2013 ที่จัดโดย คริส บราวน์ และ วิซ คาลีฟา ในทุกๆปี เป็นงานง่ายๆ สบายๆ ที่ผู้ชมซึ่งมาร่วมในงานปาร์ตี้จะสวมใส่บิกีนีกัน พวกสาวๆจึงเลือกใส่ชุดที่ดูคล้ายๆชุดว่ายน้ำ เพื่อให้เข้ากับงาน ซึ่งแฟนๆ ที่เกาหลีใต้อาจจะไม่ค่อยพอใจกัน เพราะประเด็นความแตกต่างทางวัฒนธรรมนั่นเอง

ไม่รู้ว่างานนี้ "ไซ" (Psy) นักร้องชื่อดังเจ้าของผลงานเพลงกังนัม สไตล์ (Gangnam Style) โดนลูกหลงจากการปะทะกันของแฟนบอลที่กำลังโห่ใส่กันหรือว่าโดนโห่เองจริงๆกันแน่ หลังมีรายงานว่าระหว่างเปิดการแสดงในศึกนัดชิงชนะเลิศถ้วยโคปา อิตาเลียนคัพ "ไซ"โดนโห่กึกก้องทั้งสนาม
       
       ตามรายงานระบุว่าเมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา ไซ ต้องเจอกับประสบการณ์เลวร้ายชวนขายหน้า เมื่อผู้ชมในสนามแสดงอาการโห่ร้อง พร้อมจุดปะทัดและลูกไฟขนาดย่อมขึ้นในสนามสตาดิโอ โอลิมปีโก
       
       ซึ่งงานนี้ผู้จัดงานได้โต้ตอบพฤติกรรมหยาบคายของแฟนบอล ด้วยการเปิดเสียงเพลงกังนัม สไตล์ ให้ดังกึกก้องขึ้นกว่าเดิม แต่ทางด้านนักร้องคนดังกลับไม่สามารถซ่อนสีหน้าตื่นตระหนกต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตามระหว่างการแสดงเขาก็ได้แสดงสปิริตประกาศต่อหน้าผู้ชมในสนามว่า "ผมรักอิตาลี" และกล่าวขอบคุณเมื่อแสดงจบ
       
       ตามรายงานระบุด้วยว่า ยังไม่แน่ใจว่างานนี้เป็นการโห่ร้องเพื่อแสดงการเหยียดผิวต่อตัวนักร้องดังหรือไม่ เพราะแฟนบอลของทั้งทีม โรมา และ ลาซิโอ ต่างก็เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมรุนแรง หยาบคาย และการหาเรื่องทะเลาะวิวาทใส่กันในการซีซันนี้
       
       ซึ่งเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน แฟนบอลของทั้งสองทีมก็เคยก่อเหตุวิวาทปะทะเดือดกันมาแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็เคยตรวจพบมีด, หิน, กระบอง และอาวุธอื่นๆอีกมากมายซ่อนอยู่นอกสนามก่อนการแข่งขันด้วย

PSY Booed at Soccer Coppa Italia 2013 MUST SEE!! COMMENT!! LIKE!!
 

Manager Online

เรียกได้ว่าทำเอาผู้จัดงานและเหล่าคนดังที่รวมตัวกันอยู่ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ถูกหลอกไปตามๆกัน เมื่อมีรายงานว่า "ไซ" (Psy) ตัวปลอมบุกงานแบบไม่มีใครสงสัย ก่อนจับได้ว่าเป็นตัวปลอม หลังเห็นตัวจริงอยู่ที่อเมริกาให้สัมภาษณ์ออกทีวี
       
       ตามรายงานระบุว่า มีชายชาวเอเชียรายหนึ่งได้ปลอมตัวเป็นไซ นักร้องดังเจ้าของเพลงฮิตกังนัม สไตล์ (Gangnam Style) เพื่อเข้าร่วมงานปาร์ตี้กะทบไหล่คนดังระดับแถวหน้าของวงการได้สำเร็จเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาถึงสองวันด้วยกัน ก่อนจะพบความจริงเมื่อวานนี้ว่าแท้จริงแล้ว ไซ ตัวจริงอยู่ที่อเมริกาให้สัมภาษณ์ออกรายการ Live with Michael and Kelly โดยถ่ายทำที่สตูดิโอในนิวยอร์ก
       
       โดยไซตัวปลอมได้สร้างความแนบเนียนโดยปรากฏตัวที่ Torch Beach Club จุดรับรองแขกเพื่อกินฟรี ดื่มฟรี ซึ่งเป็นที่ที่คนดังอย่าง จัสติน ทิมเบอร์เลก (Justin Timberlake) และ มาร์ค รอนสัน (Mark Ronson) มาแวะพักเมื่ออยู่ในเมืองคานส์ด้วย โดยไซตัวปลอมนี้ยังสร้างความแนบเนียน ด้วยการมีบอดี้การ์ดรายล้อมถึง 3 คนด้วยกัน
       
       ต่อมาไซตัวปลอมยังได้ไปเข้าร่วมงานปาร์ตี้ระดับแถวหน้า ที่จัดโดยสาวสังคม โกกา แอชเคนาซี ที่ ชาโตว์ แกริบอนดี ซึ่งมีแขกร่วมงานทั้ง โรซาริโอ ดอว์สัน และ นางแบบสาว แคโรไลนา เคอร์โควา
       
       ท่ามกลางเหล่าคนดังที่ถูกตัวปลอมหลอก คนที่ถูกต้มจนเปื่อยดูเหมือนจะเป็น นาโอมิ แฮร์ริส (Naomie Harris) นักแสดงสาวจากเจมส์ บอนด์ สกายฟอล ที่คิดว่าเขาเป็นไซตัวจริงจึงขอถ่ายรูปและอัพรูปขึ้นทวิตเตอร์ของตนเองว่าเธอได้ถ่ายรูปกับไซแล้ว
       

        "ชมพู่" ปลื้มสุดๆ หลังถูกสื่อมวลชนต่างประเทศรัวชัตเตอร์ถ่ายภาพ ส่วนเวปไซต์เสื้อผ้าชื่นชมความงาม บอกเหมือนเจ้าหญิงในเทพนิยายเวปไซต์ เผยเขียนชื่นชมตั้งแต่ก้าวแรกที่เธอเดินอวดโฉมเข้ามาบนพรมแดงจากเทศกาลหนังที่เมืองคานส์
       
       โกอินเตอร์ไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลยทีเดียวสำหรับนางเอกสาว "ชมพู่ อารยา เอฮาเก็ต" ที่นึกว่ากำลังฝันกลางวันจนไม่อยากตื่นจากความฝันกันเลยทีเดียว ซึ่งก่อนหน้านั้นมีหมอดูเคยทักว่า เธอจะโกอินเตอร์เร็วๆนี้ ทำเอาเจ้าตัวงง แถมยังนึกไม่ออกว่าจะโกอินเตอร์ได้อย่างไร  เพราะที่ผ่านมา ก็ยังไม่มีค่ายหนังจากเมืองนอกเข้ามาทาบทามหรือติดต่อให้เธอไปเล่นหนังเลย
       
       แล้ว"ชมพู่" ก็หายข้องใจ ตอนที่ทาง บ.L'Oréal ติดต่อให้ไปเดินพรมแดง ในเทศกาลภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ในรอบปฐมทัศน์ของหนังเรื่อง Cleopatra สร้างความดีใจให้เธอและครอบครัวอย่างมาก ประกอบกับจะได้ไปอวดโฉมความงามของสาวไทยต่อสื่อต่างชาติให้ชื่นชมกันทั่วโลก ที่เธอได้เป็นตัวแทนสาวไทยไปร่วมงานอันทรงเกียรติในครั้งนี้ด้วย นั่นอาจมายถึงบันไดอีกขั้นหนึ่งที่เธอกำลังจะก้าวขึ้นไปก็เป็นได้"
       
       สื่อเมืองนอกและเวปไซต์เสื้อผ้าชื่อดัง เปรียบเทียบความงามของเธอว่า เหมือนกับเจ้าหญิงในเทพนิยายเวปไซต์ เรียกได้ว่าเวปนี้ได้เขียนชื่นชมถึงความงามของเธอตั้งแต่ก้าวแรกที่ย่างกรายเข้ามาในพรมแดงเลยล่ะ งานนี้เลยทำให้พรีเซ็นเตอร์ L'Oréal สาวจีนถึงกับแอบอิจฉากันเลยทีเดียว
       

      "ไซ" (Psy) กลายเป็นชาวเกาหลีใต้คนแรกที่คว้ารางวัล Billboard Music Awards มาได้ หลังเขาถูกประกาศชื่อให้เป็นศิลปินที่มีผลงานได้รับความนิยมทางโลกออนไลน์ ในงานที่จัดกันเมื่อช่วงค่ำของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
       
       ในงาน Billboard Music Awards ครั้งล่าสุด ที่จัดกันใน MGM Grand ลาสเวกัส เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ศิลปินหนุ่มชาวเกาหลีใต้ ไซ สามารถคว้ารางวัล Top Streaming Song ด้วยผลงานเพลงยอดฮิต Gangnam Style ที่มียอดผู้คลิ๊กเข้าไปชมในเว็บไซต์ YouTube ถึงตอนนี้ 1,611 ล้านครั้งเข้าไปแล้วแล้ว
       
       นอกจากรางวัลในสาขานี้ ไซ ยังมีชื่อชิงรางวัลต่างๆ อีก 6 สาขา รวมถึงรางวัลศิลปินหน้าใหม่ Top New Artist และรางวัลสาขาเพลงแร็พ Top Rap Song
       
       ซึ่งในงานมอบรางวัลครั้งนี้ ไซ ยังได้ขึ้นเวทีมาเพื่อประกาศชื่อ คริส บราวน์ (Chris Brown) และยังได้สาธิตท่าเต้นสุดฮิต พร้อมสอนพิธีกร เทรซี มอร์แกน เต้นท่ากังนัมฯ ของเขาด้วย

Manager Online

       The Bling Ring มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในลอสแอนเจลิส เมื่อกลุ่มเด็กวัยรุ่นได้ก่อคดีเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านของบรรดาคนดังมากมาย อาทิ ออร์แลนโด บลูม, ลินด์ซีย์ โลฮาน และ เมแกน ฟอกซ์ เป็นต้น ซึ่งคดีที่เกิดขึ้นในปี 2009 นั้นมีมูลค่าความเสียหายนับหลายล้านเหรียญสหรัฐฯ เพราะมีเครื่องเพชร และเครื่องแต่งกายที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ชื่อดังโดนขโมยไปมากมาย
       
       ซึ่ง โซเฟีย คอปโปลา ได้เปิดใจว่า เธอสนใจเหตุการณ์ดังกล่าว ก็เพราะความร่วมสมัยของเรื่องราว "เรื่องแบบนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลยเมื่อ 10 ปีก่อน และฉันคิดว่ามันน่าสนใจมากสำหรับเอามาทำเป็นหนังแบบนี้ สามารถพูดอะไรได้มากมายเกี่ยวกับวัฒนธรรมของยุคนี้"
       
       สำหรับ เอมมา วัตสัน (Emma Watson) นักแสดงสาวชาวอังกฤษที่ต้องพูดสำเนียงแคลิฟอร์เนียในหนังเรื่องนี้ เพื่อการสวมบทบาทเป็นตัวละครที่ชื่อว่า "นิคกี" หญิงสาวที่ถือว่าเป็นผลผลิตของโลกยุคใหม่ เติบโตขึ้นมาด้วยการเรียนโฮมสกูล และใช้ชีวิตแบบบริโภคนิยม ซึ่งเป็นผู้รวบรวมกลุ่มเพื่อนมาร่วมกันก่อคดีลักทรัพย์ และมีเป้าหมายเป็นบ้านคนดัง ซึ่งปกติมักจะไม่ค่อยระแวดระวังอะไรในเรื่องระบบการรักษาความปลอดภัยของบ้านนัก
       
       ตัวของ วัตสัน บอกว่านี่คือบทที่ห่างไกลจากตัวละคร "เฮอไมโอนี" แม่มดสาวในหนังแฟรนไชส์สุดฮิตที่เธอแสดงมา 8 ภาคโดยสิ้นเชิง คราวนี้เธอต้องสวมบทเป็นสาววัตถุนิยมผู้ไม่เห็นอกเห็นใจใคร ซึ่งดาราขวัญใจชาวอังกฤษยังบอกอีกว่า เธอศึกษาบทนี้ด้วยการติดตามชีวิตของบรรดาสาวสังคมคนดังของสหรัฐฯ ผ่านทางรายการเรียลลิตี้นั่นเอง
       

       เปิดเผยออกมาว่าศิลปินชื่อดังระดับ “คริส บราวน์” (Chris Brown) กำลังจะได้ร่วมงานกับวงซับยูนิตของ T-ara เพราะเขารู้จักกับสาวน้อยสมาชิกของวงหลักอยู่ก่อนแล้ว และกำลังสนใจเพลงเกาหลีพอดี
       
       T-ara N4 กลายเป็นเป็นศิลปินเกาหลีใต้อีกกลุ่ม ที่เดินทางไปทำงานที่สหรัฐฯ และยังอาจจะได้ร่วมงานกับศิลปินระดับโลกด้วย
       
       Core Contents Media ได้เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า การที่ T-ara N4 ได้มีโอกาสร่วมงานกับศิลปินหนุ่มระดับโลกครั้งนี้ คงต้องขอบคุณไปที่สาวน้อย ดานี (Dani) สมาชิกน้องเล็กของวง ที่รู้จักกับ คริส บราวน์ มาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว ซึ่งระหว่างที่เธอกลับไปที่สหรัฐฯ บราวน์ ได้เชิญให้ ดานี ไปร่วมในการแสดงของเขาที่ ซานโฮเซ แคลิฟอร์เนีย ในโชว์สำหรับสถานีวิทยุ 94.9 Wild Jam
       
       หลังจบคอนเสิร์ตเมื่อทั้งคู่มีโอกาสได้พบกัน ดานี ได้เอ่ยปากว่าเธอกำลังเตรียมตัวฝึกซ้อม เพื่อร่วมเป็นสมาชิกของกลุ่มศิลปินในประเทศเกาหลีที่ชื่อว่า T-ara ซึ่ง บราวน์ ก็แสดงความสนใจขึ้นมาทันที เพราะระยะหลังเขาเริ่มสนใจใน K-Pop มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผลงานของ ไซ (Psy) ดังไปทั่วโลก
       
       เมื่อได้ชมเอ็มวี Countryside Life ของ T-ara N4 ซึ่ง ดานี นำมาให้ดู บราวน์ ก็เปรยว่าเขาอยากจะร่วมงานกับสาวๆ กลุ่มนี้ หลังขึ้นแสดงใน Dream Concert ที่เกาหลี สาวๆ จึงบินตรงไปยังลอสแองเจลิส เพื่อร่วมงานถ่ายทำมิวสิกวิดีโอกับ บราวน์ ทันที
       

กลุ่มผู้ปกครองในเขตอูราลของรัสเซีย ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงประธานาธิบดี "วลาดิเมียร์ ปูติน" (Vladimir Putin) เพื่อขอให้แบนการ์ตูนยอดฮิตจากญี่ปุ่น Death Note ไม่ว่าจะฉบับหนังสือ, อนิเมะ หรือภาพยนตร์ ไม่ให้เข้ามาเผยแพร่ในรัสเซีย เพราะเชื่อว่าส่งเสริมพฤติกรรมที่ไม่ดีให้กับเด็ก
       
       Death Note การ์ตูนญี่ปุ่นของ Shonen Jump ที่ลงตีพิมพ์ระหว่างปี 2003 - 2006 เป็นผลงานซึ่งว่าด้วยเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่เก็บสมุดของยมทูตได้ และหากเขาเขียนชื่อใครลงไปคนผู้นั้นก็จะเสียชีวิตลงทันที ถือเป็นงานแนวสืบสวน ผสมแฟนตาซี ที่ผู้เขียนเล่าเรื่องได้อย่างมีชั้นเชิง จึงได้รับความนิยมจากผู้อ่านทั่วโลก
       
       แต่ในเวลาเดียวกันก็เกิดปัญหาขึ้นในหลายๆ ประเทศที่ผลงานเรื่องนี้ได้ถูกนำไปเผยแพร่ เมื่อผู้ใหญ่จำนวนไม่น้อยสงสัยว่าการ์ตูนญี่ปุ่นเล่มนี้ ทำให้วัยรุ่นหมกมุ่นกับความตายมากขึ้น
       
       ล่าสุดแม้การ์ตูนจะจบไปถึง 7 ปีเต็มแล้ว แต่ปัญหาจาก Death Note ก็ยังคงไม่หมดลง หลังเด็กสาววัย 15 ปีใน เมืองเยกาเตอรินบูร์ก ในรัสเซีย ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง ด้วยการกระโดดลงมาจากชั้นที่ 15 ของอพาร์ตเมนต์ โดยมีจดหมายลาตายที่เขียนไว้สั้นๆว่า "ฉันมีชีวิตอยู่ไม่ได้อีกแล้ว" นอกจากนั้นในห้องยังมีการ์ตูน Death Note อีก 4 เล่ม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวนถึงความเชื่อมโยงของการ์ตูนจากญี่ปุ่น และการตัดสินใจคิดสั้นของเด็กหญิงคนนี้อย่างที่ผู้ปกครองเชื่อหรือไม่
       
       โดยกลุ่มพ่อและแม่ของเด็กรัสเซียในท้องถิ่นดังกล่าวได้เริ่มเรียกร้องให้มีการ "กำจัด" Death Note ออกจากประเทศรัสเซีย เพราะเชื่อว่าผลงานจากญี่ปุ่นเรื่องนี้กำลังมีผลกับความคิดของเด็ก ซึ่งทำให้คนรุ่นใหม่ในประเทศหมกมุ่น และสนใจความตายจนส่งผลเสียตามมา
       

       ต้องเข้าไปอยู่กลางความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งกำลังร้อนแรงในช่วงเลือกตั้งใหญ่ของมาเลเซีย ล่าสุด "มิเชล โหย่ว" (Michelle Yeoh) นักแสดงหญิงชื่อดังของประเทศ ขอปิดปากเงียบไม่พูด และเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองของประเทศอีก หลังก่อนหน้านี้โดนโจมตีหนักเมื่อออกตัวสนับสนุนผู้สมัครฝั่งรัฐบาลอย่างชัดเจน
       
       ถึงจะมีตารางการทำงานที่ยุ่งแค่ไหน แต่เมื่อต้นเดือน เม.ย. นักแสดงสัญชาติมาเลเซีย มิเชล โหย่ว ก็ยังหาเวลากลับประเทศ เพื่อร่วมงานเลี้ยงสนับสนุนนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซะก์ สำหรับการเลือกตั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า จนทำให้นักแสดงหญิงวัย 49 ปี ต้องเจอกระแสโจมตีอย่างหนัก ล่าสุดเธอจึงปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องการเมืองอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ต่างประเทศ เพราะไม่อยากจะให้ความคิดเห็นของตนเองสร้างปัญหาอะไรขึ้นมาอีกแล้ว
       
       ในต้นเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา หยางจื่อฉง หรือ มิเชล ได้กล่าวสนับสนุน นาจิบ ราซะก์ ให้ทำหน้าที่บริหารประเทศต่อไป และเธอก็ยิ่งทำให้ประชาชนบางส่วนโดยเฉพาะที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับผู้นำคนปัจจุบันของประเทศไม่พอใจขึ้นไปอีก หลังตัดสินใจไปร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำของพรรคอัมโน ที่จัดกันกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยนักธุรกิจชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน และคาดว่าจะมีแขกจำนวนมากถึง 55,000 คน
       
       ที่ผ่านมา มิเชล โหย่ว ได้ชื่อว่าเป็นความภูมิใจของมาเลเซีย และอาจได้ชื่อว่าเป็นคนมาเลย์ที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งในปัจจุบัน สำหรับความสำเร็จในอาชีพนักแสดงของเธอ ซึ่งหลายฝ่ายก็แสดงความเห็นว่าในฐานะคนดังระดับโลก เธอไม่ควรจะออกตัวสนับสนุนพรรคการเมืองใดอย่างเต็มตัวเช่นนี้ ที่เหมือนกับเป็นการ "ทรยศ" ประชาชนทั้งประเทศ ... "แทนที่จะต่อต้านการทุจริต เธอกลับเลือกไปอีกทางหนึ่ง น่าละอายใจเหลือเกิน" ผู้สนับสนุนพรรคยุติธรรมประชาชนแสดงความเห็น

       ถึงจะเปิดตัวอย่างร้อนแรงทั่วโลก และทำเงินขึ้นอันดับ 1 ในทุกประเทศที่เข้าฉาย แต่หนังซูเปอร์ฮีโร่สุดดังกลับทำได้เพียงอันดับ 2 ในการฉายที่ประเทศญี่ปุ่น เพราะหนังการ์ตูนสุดฮิตของประเทศเจ้าถิ่นยังครองแชมป์ต่อไป แม้จะเข้าฉายเป็นสัปดาห์ที่ 2 แล้วก็ตาม
       
       ในสัปดาห์หยุดยาว "โกลเดน วีค" ของชาวญี่ปุ่นมีหนังใหม่ๆ หลายเรื่องเข้าฉายพร้อมๆกัน ทั้งผลงานจากฮอลลีวูด และหนังของทางญี่ปุ่นเอง ซึ่งสุดท้ายแม้จะมีหนังซูเปอร์ฮีโร่ฟอร์มยักษ์เปิดตัว แต่การ์ตูนนักสืบชื่อดังที่มีฉบับภาพยนตร์เข้าฉายแทบทุกปี "นักสืบจิ๋วโคนัน" หรือ Meitantei Conan: Zekkai no Private Eye กลับยังสามารถครองแชมป์ได้เป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน
       
       โดย Zekkai no Private Eye ทำรายได้ถึงตอนนี้ไปถึง 1,644 ล้านเยน (หรือ 497 ล้านบาท) แล้ว ส่วนหนังฮอลลีวูดที่เปิดตัวใหม่ Iron Man 3 ทำดีที่สุดในการฉายที่ญี่ปุ่นแค่อันดับ 2 ด้วยรายได้ในการฉาย 3 วันแรก 414 ล้านเยน (125 ล้านบาท) สำหรับการฉายใน 535 โรงภาพยนตร์
       
       สำหรับอันดับ 3 เป็นหนังเข้าใหม่อีกเรื่องอย่างหนังรวมซูเปอร์ฮีโร่จากฝั่งญี่ปุ่น Kamen Rider × Super Sentai × Space Sheriff: Super Hero Taisen Z ที่ขนมากันทั้งค่าย Toei และทำรายได้เปิดตัวไป 233 ล้านเยน (70 ล้านบาท) แม้จะไม่น้อยแต่ก็ถือว่าน้อยกว่าหนังภาคก่อนหน้านี้ ผู้สร้างคงต้องกลับไปคิดใหม่แล้ว ว่ามุขประเภทรวมตัวละครแบบนี้เริ่มจะซ้ำซากไปแล้วหรือยัง
       

      สถานีโทรทัศน์ชื่อดัง และผู้กำกับยอดฝีมือเตรียมร่วมกันหยิบการ์ตูนญี่ปุ่นสุดฮิต มาดัดแปลงเป็นซีรีส์ พร้อมได้นักเขียนมือดี มารับหน้าที่ดัดแปลงหนังสือการ์ตูนเป็นบทภาพยนตร์แล้ว
       
       มีข่าวยืนยันออกมาแล้วว่า HBO ได้ร่วมกับ กีแลร์โม เดล โทโร (Pacific Rim, Pan’s Labyrinth, Hellboy) ที่จะมานั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการสร้าง และกำกับในบางตอน สำหรับการพัฒนาซีรีส์จากหนังสือการ์ตูน Monster ผลงานของยอดนักเขียนชาวญี่ปุ่น นาโอกิ อุราซาว่า (Naoki Urasawa) (20th Century Boys, Pluto) ที่มี Shogakukan Inc. เป็นผู้ตีพิมพ์ โดยได้นักเขียนชื่อดัง สตีเวน ทอมป์สัน (Dr. Who, Sherlock) มารับหน้าที่เขียนบทภาพยนตร์
       
       Monster การ์ตูนแนวระทึกขวัญมีเรื่องราวฉากหลังอยู่ที่ประเทศเยอรมนี และจุดศูนย์กลางของเรื่องคือ นายแพทย์หนุ่มชาวญี่ปุ่น ที่ตัดสินใจทิ้งชีวิตและอาชีพที่กำลังรุ่งเรือง เพื่อตามล่าเด็กหนุ่มชาวเยอรมันคนหนึ่ง ซึ่งเขาเคยผ่าตัดช่วยชีวิตเอาไว้ขณะที่ฝ่ายเด็กหนุ่มอายุเพียง 12 ขวบ แต่ต่อมากลับพบว่าเด็กคนนี้มีต้นกำเนิดที่สุดลึกลับ และอาจกำลังเติบโตไปเป็นบุคคลที่อันตรายที่สุดเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะเป็นได้
       
       ข่าวจากเว็บไซต์ Deadline ระบุว่าด้วยเนื้อหาที่ค่อนข้างเปิดกว้างซีรีส์ Monster อาจจะมีความแตกต่างไปจากหนังสือการ์ตูนต้นฉบับที่มีความยาว 18 เล่มจบอยู่บ้าง ซึ่งอาจรวมถึงการเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องจากเดิมที่เกิดขึ้นในประเทศเยอรมนีเป็นส่วนใหญ่ ให้เป็นการตามล่ากันระหว่างสองตัวละครไปทั่วโลกแทน
       

      เมื่อวันที 2 เม.ย. Paramount Pictures ได้ประกาศการร่วมงานทางธุรกิจกับ China Movie Channel และ Jiaflix Enterprises บริษัทจากจีนแผ่นดินใหญ่ เพื่อสร้างหนัง Transformers ภาคต่อไป กระทั่งมีข่าวว่าหนังไซไฟฟอร์มใหญ่ภาค 4 อาจมีนักแสดงจีนร่วมปรากฏตัวด้วย
       
       เมื่อตลาดหนังจีนกลายเป็นตลาดหนังใหญ่อันดับ 2 ของโลก และยังเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีสิทธิ์ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ฮอลลีวูดจึงมุ่งความสนใจไปที่จีนอย่างเต็มที่ มีโครงการหนังฟอร์มใหญ่หลายเรื่อง ที่ดึงเอาบริษัทจีนมาร่วมสร้างด้วย รวมถึง Transformers 4 ที่ล่าสุด ไมเคิล เบย์ ผู้กำกับหนัง ได้เปรยออกมาว่า เขาหวังจะเลือกนักแสดงจีนให้มาร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้ด้วย
       
       และตอนนี้มีข่าวลือว่า เฉินคุน (Chen Kun), หวงเสี่ยวหมิง (Huang Xiaoming) และ ตงต้าเหว่ย (Tong Dawei) อาจได้ร่วมแสดงในภาค 4 ของหนังหุ่นยนต์ยักษ์สุดฮิต
       
       ในปี 2012 จีนได้แซงหน้าญี่ปุ่นขึ้นเป็นตลาดหนังอันดับ 2 ของโลกอย่างเป็นทางการแล้ว โดยในแต่ละปีหนังฮอลลีวูดก็ยังเข้าไปกวาดเงินหยวนมากมายมหาศาล แม้รัฐบาลจีนจะมีกฎระเบียบข้อจำกัดเปิดโอกาสให้หนังจากสหรัฐอเมริกา ไปเปิดฉายในโรงหนังจีนแผ่นดินใหญ่ได้เพียงปีละ 20 เรื่องเท่านั้น
       
       Transformers ก็ถือว่าเป็นหนังที่ฮิตที่สุดเรื่องหนึ่งในเมืองจีน ในหนังภาคก่อน Transformers 3, Dark of the Moon เคยทำเงินในจีนถึง 165 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มาแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากหนังภาคต่อไป ผู้สร้างจะพยายามใส่องค์ประกอบสำหรับดึงดูดความสนใจจากคนดูชาวจีนมากขึ้น
       

       นักแสดงรุ่นใหญ่ชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นที่รู้จักในบทบาท “ลุงเวอร์นอน” (Vernon Dursley) จอมแสบในหนังชุด Harry Potter ได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัย 65 ปี
       
       แม้จะได้รับการจดจำจากแฟนหนังรุ่นหลังในฐานะ ลุงเวอร์นอน ญาติที่ดูจะไม่ค่อยชอบหน้า แฮร์รี พอตเตอร์ ตัวเอกของหนังชุดพ่อมดน้อยนัก แต่อันที่จริงแล้ว ริชาร์ด กริฟฟิธส์ ถือว่ามีเส้นทางในงานสายการแสดงที่ยาวนาน มีผลงานในวงการมาถึงเกือบ 40 ปี และเคยคว้ารางวัลโทนีเกียรติยศในแวดวงละครเวทีมาแล้ว จึงถือว่าเป็นเรื่องเศร้าและความสูญเสียของวงการบันเทิงอังกฤษอีกครั้ง เมื่อครอบครัวของนักแสดงวัย 65 ปี ได้ยืนยันถึงข่าวการจากไปของเขาด้วยโรคหัวใจเมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา
       
       ผลงานในบทสมทบจากหนังดังๆ ที่ผ่านมาของเขาได้แก่ Withnail and I, The French Lieutenant's Woman, Chariots of Fire และ Gandhi เป็นต้น ส่วนในแวดวงละครเวที กริฟฟิธส์ เคยคว้ารางวัล โทนี สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก The History Boys เมื่อปี 2006 มาแล้ว
       
       “ผมรู้สึกภาคภูมิใจที่จะได้บอกว่า ครั้งหนึ่งได้เคยมีโอกาสรู้จักกับเขาครับ” แดเนียล แรดคลิฟฟ์ (Daniel Radcliffe) กล่าวถึงการจากไปของ กริฟฟิธส์ ที่ทั้งสองมีโอกาสได้ร่วมงานกันในหนัง Harry Potter ถึง 8 ภาค แม้ความสัมพันธ์ของตัวละครที่ต่างฝ่ายต้องสวมบทบาทจะไม่ค่อยดีนัก แต่หลังฉากผู้รับบทพ่อมดน้อยแฮร์รี ได้กล่าวยกย่องนักแสดงรุ่นใหญ่ผู้นี้มาตลอด ว่าสอนอะไรให้กับเขามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแสดง หรือการใช้ชีวิตในวงการ ตั้งแต่การร่วมงานกันครั้งแรกในหนังภาค 1 เมื่อตอนที่ แรดคลิฟฟ์ ยังอายุแค่ 10 กว่าขวบเท่านั้น
       

       เอเอฟพี - เปิดตัวแล้วสำหรับหุ่นขี้ผึ้งนักแสดงสาวชาวอังกฤษ "เอมมา วัตสัน" (Emma Watson) คนดังเมืองผู้ดีรายล่าสุดที่ทางพิพิธภัณฑ์ "มาดามทุสโซ" ประจำกรุงลอนดอน เลือกมาปั้นเป็นหุ่นขี้ผึ้ง
       
       ขวัญใจชาวอังกฤษ เอ็มมา ชาร์ล็อต ดูแอร์ วัตสัน วัย 22 ปี จากบท "เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์" แม่มดน้อยหนอนหนังสือหัวดีในหนังชุด Harry Potter ทั้ง 8 ภาค ได้กลายเป็นหุ่นขี้ผึ้งล่าสุด จาก มาดามทุสโซ ที่จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมกันในเร็วๆนี้
       
       หลังใช้ชีวิตช่วงวัยเด็กทั้งหมดไปในกองถ่ายหนัง Harry Potter ก่อนหน้านี้ วัตสัน ได้เลือกที่จะไปใช้เวลาทุ่มเทในมหาวิทยาลัยอยู่ช่วงสั้นๆ ก่อนจะกลับมามุ่งมั่นกับงานในวงการบันเทิงอย่างเต็มตัวในช่วงนี้ ล่าสุดกำลังจะมีหนัง The Bling Ring เข้าฉาย และยังถูกวางตัวไว้ในบทนำของ Beauty and the Beast รวมถึงเจรจาที่จะแสดงนำใน Cinderella ฉบับคนแสดงที่มี เคนเน็ธ บรานาห์ เป็นผู้กำกับด้วย

Manager Online

       เอเอฟพี - หนังจีนที่เล่าเรื่องประเด็นอันเปราะบางทั้งชีวิตของคนรุ่นใหม่, การนอกใจ และพฤติกรรมฉ้อฉลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ คืองานที่ได้รับการประกาศให้เป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในการมอบรางวัลภาพยนตร์เอเชีย ที่จัดกันไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยผู้กำกับดังชาวญี่ปุ่น "ทาเคชิ คิตาโนะ" (Takeshi Kitano) ก็คว้ารางวัลสำคัญกลับบ้านไปด้วย
       
       Mystery ผลงานการกำกับของ โหลวเย่ (Lou Ye) ที่ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่าต้องผ่านด่านการตรวจพิจารณาของหน่วยงานด้านเซนเซอร์ของจีน จากเนื้อหาที่กล่าวถึงประเด็นอันอ่อนไหว โดยเฉพาะในการฉายภาพพฤติกรรมของคนรวยรุ่นใหม่ในจีน คืองานที่คว้าเกียรติยศสูงสุดในรางวัลภาพยนตร์เอเชียประจำปี 2013 นอกจากนั้น ฉีซือ (Qi Xi) ยังคว้ารางวัลนักแสดงหน้าใหม่จากหนังเรื่องนี้ได้ด้วย
       
       หนังที่มีเนื้อหาสะท้อนสังคมเรื่องนี้ ยังนับเป็นผลงานชิ้นแรกนับตั้งแต่ โหลวเย่ พ้นโทษแบนห้ามทำหนัง 5 ปีเต็ม หลังเขานำ Summer Palace หนังที่เล่าถึงประวัติศาสตร์ทางการเมืองของจีน ผ่านเรื่องรักสามเส้าของหนุ่มสาวชาวจีนในปลายยุค 80s ไปฉายที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ในปี 2006 โดยไม่ได้รับอนุญาต
       
       "ผมยินดีเพราะหนังเรื่องนี้ เคยต้องเจอปัญหามาก่อน สำหรับเรานี่หมายความว่าพวกเราได้รับการยอมรับแล้ว" โหลวเย่ กล่าวกับเอเอฟพี หลังได้รับรางวัลในงานที่จัดกันขึ้นที่ฮ่องกง พร้อมกล่าวว่าเขาจะยังทำหนังที่พูดถึงประเด็นทางสังคมต่อไป แม้จะต้องโดนกดดันจากภาครัฐก็ตาม "ผมเพียงแค่ต้องการมุ่งไปกับการทำหนังเป็นหลัก ... หนังและสังคมไม่สามารถแยกให้ขาดจากกันไปได้" เขากล่าวย้ำ
       

      เรื่องราวในชีวิตของ "สตีฟ จ็อบส์" (Steve Jobs) อดีตซีอีโอ และผู้ก่อตั้ง Apple กำลังจะได้รับการบอกเล่าผ่านลายเส้นการ์ตูน จากฝีมือของนักเขียนหญิงชื่อดัง เจ้าของผลงานแนวตลกขบขัน Thermae Romae อันลือลั่น
       
       มาริ ยามาซากิ (Mari Yamazaki) ที่โด่งดังจากผลงานเรื่อง Thermae Romae (สู้ต่อไป ลูเซียส) ซึ่งว่าด้วยการเดินทางข้ามเวลาของสถาปนิกออกแบบห้องน้ำยุคโรมัน มาสู่ญี่ปุ่นในยุคปัจจุบัน ได้ถูกเลือกให้มารับหน้าที่วาดการ์ตูนยาวที่จะเล่าเรื่องในชีวิตของ สตีฟ จ็อบส์ อดีตซีอีโอของบริษัท Apple ผู้ล่วงลับ ที่มีกำหนดจะตีพิมพ์ในนิตยสาร Kiss magazine ซึ่งส่วนใหญ่ก่อนหน้านี้จะตีพิมพ์การ์ตูนประเภทสำหรับเด็กผู้หญิงเป็นหลัก
       
       ข่าวระบุว่า ยามาซากิ ตัดสินใจรับงานครั้งนี้ ก็เพราะเธอรู้สึกเห็นอกเห็นใจกับการจากไป และยังรู้สึกเชื่อมโยงไปถึงเรื่องราวของ จ็อบส์ นอกจากนั้นทางสำนักพิมพ์ก็เชื่อว่าสไตล์งานภาพอันดูสมจริงสมจังของเธอ ก็น่าจะเหมาะสมสำหรับการ์ตูนแนวชีวประวัติเรื่องนี้
       
       การ์ตูนเกี่ยวกับชีวิตของ จ็อบส์ จะเป็นผลงานเรื่องใหม่ของ ยามาซากิ ที่ได้ปิดฉากงานเขียนดัง Thermae Romae ไปเมื่อวันที่ 12 มี.ค. ที่ผ่านมา หลังผลงานชิ้นนี้ทำยอดขายถล่มทลาย และถูกสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้ว นอกจากนั้นหนังภาค 2 จากการ์ตูน Thermae Romae ก็กำลังอยู่ระหว่างเตรียมงานสร้างด้วย
       

"เอมมา วัตสัน" (Emma Watson) นักแสดงวัยทีนที่เคยโด่งดังสุดๆจากบทเด็กเรียนสุดเรียบร้อยเฮอร์ไมโอนี เกรนเจอร์ (Hermione Granger) ในเรื่องแฮร์รี พอตเตอร์ (Harry Potter) มาตอนนี้เจ้าตัวได้บทหนังใหม่ เป็นหัวหน้าแก็งค์นักปล้นย่องกวาดทรัพย์สินในบ้านคนดังฮอลลีวูด
       
       ได้มีการเผยภาพบางส่วนจากภาพยนตร์เรื่องใหม่อย่าง The Bling Ring เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเอมมา วัตสัน นักแสดงสาววัย 22 ปี สลัดภาพสาวเรียบร้อยเป็นสาวซ่าส์สุดเปรี้ยวใส่เสื้อโชว์บรา หัวหน้าแก็งค์ Bling Ring ปาร์ตี้เกิร์ลสุดเปรี้ยว โดยภาพถ่ายจากภาพยนตร์เรื่องนี้ได้มีการปล่อยออกมาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เผยให้เห็นสาวเอมมา ยืนมองตนเองอยู่หน้ากระจกกับชุดที่ใส่ไปเที่ยวคลับด้วย
       
       นักแสดงสาวชาวอังกฤษรายนี้มารับบทนำในภาพยนตร์ที่กำกับโดยโซเฟีย คอปโปลา (Sophia Coppola) ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้มีเนื้อหาสร้างมาจากเรื่องจริง เกี่ยวกับแก็งค์ย่องเบางัดบ้านคนดังฮอลลีวูด ทั้งลินด์ซีย์ โลฮาน (Lindsay Lohan), ปารีส ฮิลตัน (Paris Hilton) และ ออร์แลนโด บลูม (Orlando Bloom) เพื่อกวาดทรัพย์สินมีค่า โดยถูกจับได้เมื่อปี 2009
       

แม็กกี้ คิว (Maggie Q) นักแสดงสาวฮอลลีวูดชาวอเมริกัน เป็นแบบถ่ายภาพให้กับองค์การประชาชนรณรงค์การปฏิบัติต่อสัตว์อย่างมีจรรยา หรือ PETA (People for Ethical Treatment of Animals) อีกครั้งหนึ่ง ในความพยายามอนุรักษ์สภาพแวดล้อม โดยเชิญชวนให้ผู้คนหันมารับประทานอาหารมังสวิรัติ และ เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์
       
       ภาพนิ่งกับภาพวิดีโอโฆษณาของแม็กกี้ แสดงให้เห็นเธอเปลือยท่อนบนตลอดและทาสีเป็นคล้ายกับโลก โดยมีข้อความเขียนว่า "Fight Climate Change with Diet Change. Go Veg." หรือ "สู้การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิโลก โดยเปลี่ยนการกิน หันมาทานมังสวิรัติ"
       
       โฆษณาชิ้นใหม่ของ PETA เผยแพร่ในสหรัฐฯ กับในย่านเอเชียในช่วงต้นเดือน ก.พ. แต่เวอร์ชั่นภาษาเวียดนามเพิ่งออกมาในสัปดาห์นี้ โดยนำเสนอให้เห็นว่า อุตสาหกรรมผลิตเนื้อสัตว์เป็นตัวการสำคัญในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่เป็นสาเหตุหลักของการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศของโลก
       
       การศึกษาวิจัยขององค์การสหประชาชาติเมื่อเร็วๆ นี้พบว่า การเปลี่ยนจากรับประทานอาหารอาหารที่มีเนื้อสัตว์เป็นหลัก เช่นปัจจุบันไปรับประทานพืชเป็นอาหารหลักนั้น ง่ายกว่าการเปลี่ยนรถยนต์ดีเซล-เบนซิน ไปเป็นรถไฮบริด
       
       "มีอยู่หลายเรื่องที่ผูกพันกับอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ ฉันหมายความถึงทางด้านสังคม สิ่งแวดล้อม มนุษยธรรม เหล่านี้ทั้งหมด .. ฉันรู้ว่าเมื่อฉันรับประทาน (มังสวิรัติ) ฉันไม่ได้ทำร้ายโลก ไม่ได้ทำร้ายผู้คนบนโลกใบนี้ ไม่ได้ทำร้ายสัตว์ .. และฉันไม่ได้ทำร้ายธรรมชาติ" แม็กกี้ให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งในคลิปเบื้องหลังการถ่ายทำที่ PETA นำออกเผยแพร่
       

      ไอดอลสาวสุดเซ็กซี "ฮยอนอา" (Hyun Ah) แห่งวง 4Minute ได้รับเลือกให้ถ่ายภาพลงหน้าปกนิตยสาร Pop แห่งเมืองผู้ดี ถือว่าเป็นศิลปินเกาหลีรายแรกที่ได้ขึ้นปกนิตยสารฉบับนี้เลยทีเดียว
       
       นิตยสาร Pop ของเมืองผู้ดีเป็นสิ่งพิมพ์แนวแฟชั่นที่เคยมีคนดังมาขึ้นปกแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น มาดอนนา, บริตนีย์ สเปียร์ส, เคท มอส, วิคตอเรีย เบคแฮม, เจนนิเฟอร์ โลเปซ เป็นต้น
       
       ซึ่งล่าสุดไอดอลสาวเซ็กซีแห่ง K-Pop ฮยอนอา คือสาวสวยจากวงการเพลงอีกคน แต่เป็นตัวแทนจากวงการเพลงเกาหลี ที่ได้เป็นนางแบบปกของ Pop ด้วยภาพลักษณ์สุดเปรี้ยวเหมือนเดิม
       
       โดยบรรณาธิการบริหารของ Pop แอชลี ฮีท ได้กล่าวถึงเหตุผลการเลือกสมาชิกวง 4Minute มาขึ้นปกนิตยสารว่ามาจากความโด่งดังของเพลงของ ไซ (Psy) ที่เธอไปร่วมปรากฏตัวอยู่ในมิวสิควิดีโอด้วยนั่นเอง
       
       "เพราะเพลง Gangnam Style ที่ทำให้เรารู้จักเธอเป็นครั้งแรก ซึ่งในฐานะชาวตะวันตกที่เพิ่งจะทำความคุ้นเคย K-Pop ผ่าน ฮยอนอา เธอคือสัญลักษณ์ของเพลงแนวนี้ ฮยอนอา มีสไตล์เป็นของตัวเอง เต็มไปด้วยพลังและความมุ่งมั่นในแบบของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง"

Manager Online

       สาวงามจากแวนคูเวอร์ยังคงโดดเด่นในการประกวดค้นหา "หมวยอินเตอร์" หรือ "มิสไชนิสอินเตอร์แนชั่นแนล" (Miss Chinese International 2013) ที่ปีล่าสุดสาวที่เป็นตัวแทนของชุมชนชาวจีนในแคนาดาสามารถคว้ามงกุฏไปได้อีกครั้ง
       
       กลอเรีย ถัง (Gloria Tang / 鄧佩儀) วัย 20 ปี ผู้เข้าประกวดหมายเลข 16 ตัวแทนของแวนคูเวอร์ แคนาดา นักเรียนสาขาการตลาดจากมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย คือผู้ชนะได้สวมมงกุฏเป็นมิสไชนิสอินเตอร์เนชั่นแนลประจำปี 2013 ในการประกวดรอบตัดสินเมื่อช่วงค่ำคืนของวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา นับเป็นตัวแทนของแวนคูเวอร์เมืองที่มีชาวฮ่องกงอพยพไปตั้งรกรากมากมายลำดับที่ 6 แล้วที่คว้ามงกุฏในการประกวดเวทีนี้มาได้
       
       การคว้ามงกุฏครั้งนี้ ยังถือว่าเธอสามารถเอาชนะผู้เข้าประกวดอีก 15 คนมาได้กับการขึ้นประชันโฉมทั้งในชุดแบบจีน และอวดรูปร่างในชุดว่ายน้ำ ที่ TVB City ในฮ่องกง ส่วนสาวงามที่ได้รับตำแหน่งรองๆ ลงไปได้แก่ เดนิส ตัน (Denise Tan / 陳楚寰) หมายเลข 6 ตัวแทนจาก กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เป็นรองอันดับ 1 และสาวเจ้าภาพ แคเร็ต เจิ้ง (Carat Cheung / 張名雅) จากฮ่องกงเป็นรองอันดับ 2
       
       อะไรคือเหตุผลที่ทำให้เธอเป็นผู้ชนะ? "คงต้องเป็นรอยยิ้มหวานๆ แน่นอนค่ะ" มิสไชนิสฯ คนล่าสุดกล่าว
       
       นอกจากผู้ได้รับตำแหน่งทั้งหมดแล้ว สาวงามตัวแทนหมายเลข 2 จากไทย "น้องป๊อปปี้" หรือ บุญยิสา จันทราราชัย (Boonyisa Chantrarachai / 王思翊) ยังสามารถผ่านเข้ารอบ 5 คนสุดท้ายได้ เช่นเดียวกับ เจสซิกา ซ่ง (Jessica Song / 宋沁禕) จากโตรอนโต ตัวแทนของแคนาดาอีกคนหนึ่ง
       

       แม้จะได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกไปไม่น้อย แต่ผลงานหนังฮอลลีวูดเรื่องแรกของ "คิมจีฮุน" (Kim Ji Hoon) ที่ได้ "คนเหล็ก" มาแสดงนำกลับทำรายได้ในสหรัฐฯ ไม่ค่อยจะดีนัก นอกจากนั้นผู้กำกับยอดฝีมือก็ยังยอมรับว่าหลังได้ทำงานในวงการหนังที่ใหญ่ที่สุดในโลก เขาเริ่มคิดว่า "ฮอลลีวูด" อาจไม่ใช่ของง่ายนักสำหรับคนทำหนังชาวเกาหลี
       
       "ฮอลลีวูดอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคนทำหนังเกาหลี" คิมจีฮุน กล่าวระหว่างการแถลงข่าวที่กรุงโซล เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่าน ในโอกาสที่ The Last Stand ผลงานหนังภาษาอังกฤษเรื่องแรกของเขา ได้กลับไปฉายที่เกาหลีใต้
       
       ก่อนหน้านี้ คิมจีฮุน ถือว่าโด่งดังเป็นผู้กำกับที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคนหนึ่งของเกาหลีใต้ ด้วยความสามารถในการทำหนังหลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็นหนังทริลเลอร์ I Saw the Devil เมื่อปี 2010 และหนังสยองขวัญปี 2003 A Tale of Two Sisters ที่เคยถูกนำไปดัดแปลงเป็นหนังฮอลลีวูดมาแล้ว ซึ่งในปีที่ผ่านมาเขาได้โอกาสรับงานกำกับภาพยนตร์ภาษาอังกฤษที่ฮอลลีวูดเป็นครั้งแรก กับหนังทุนสร้าง 30 ล้านเหรียญฯ ที่มี อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนคเกอร์ (Arnold Schwarzenegger) เป็นผู้แสดงนำ
       
       ผู้กำกับเลือดโสมได้กล่าวถึงการทำงานในต่างแดนว่าเป็นทั้งเรื่อง "ท้าทายแบบสุดๆ" แต่ในเวลาเดียวกันเขาก็รู้สึกโดดเดี่ยว เพราะต้องใช้เวลาและความพยายามไม่น้อย กับการปรับตัวให้เข้ากับระบบการทำงานของฮอลลีวูด และทำงานด้วยภาษาที่ไม่คุ้นเคย จึงต้องใช้ล่ามในการสื่อสารกับคนในกองถ่ายเป็นหลัก