ข่าวอื่นๆ

"เอมมา วัตสัน" (Emma Watson) เผย ไม่รู้ "แดเนียล" (Daniel) ติดเหล้า แต่รับตนเองเคยเมาปลิ้นเหมือนกัน

Submitted by canjamm on 14 กรกฎาคม, 2011 - 13:10

หลังจากที่ "แดเนียล แรดคลิฟฟ์" (Daniel Radcliffe) นักแสดงหนุ่มชื่อดังออกมาเผยว่า เขาติดเหล้าอย่างหนักจนเป็นข่าวฮือฮาไปทั่ว "เอมมา วัตสัน" (Emma Watson) เพื่อนนักแสดงเผยว่า ไม่เคยรู้เรื่องที่เขาติดเหล้าเลย พร้อมชมว่าเป็นมืออาชีพไม่มีปัญหาขณะทำงาน และยอมรับว่าแม้แต่ตัวเธอเองก็เคยเมาปลิ้นไม่รู้เรื่องเหมือนกัน

แดเนียล แรดคลิฟฟ์ พ่อมดชื่อดังจากแฮร์รี พอตเตอร์ (Harry Potter) เพิ่งเปิดเผยความลับส่วนตัวของเขาเรื่องที่ติดเหล้าอย่างหนักกับทางนิตยสาร GQ ของอังกฤษ โดยระบุว่า เขาดื่มเหล้าเพื่อจะได้สนุกกับชีวิตและใช้ชีวิตในแบบคนดัง ก่อนจะรู้ตัวว่าไม่ได้เหมาะกับตนเองเลย ซึ่งทางด้านเอมมา วัตสัน ที่ร่วมงานกับเขามานานนับสิบปีเผยไม่เคยสังเกต และไม่รู้เรื่องเลย ว่าเพื่อนของเธอกำลังต่อสู้กับปัญหาดังกล่าวอย่างหนักอยู่

"ด้วยความสัตย์จริงค่ะ ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มากมายเลยจริงๆ" นักแสดงสาวเผยกับ เดวิด เลทเทอร์แมน พิธีกรรายการ Late Show เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา

"แต่เท่าที่ฉันทราบคือ เขาไม่เคยมีอาการป่วยให้เห็นเลย เขาเป็นคนที่มีความเป็นมืออาชีพที่สุด เป็นคนที่วิเศษมาก"

ซึ่งเอมมา ยังยอมรับด้วยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและแดเนียลแตกต่างออกไปทันที เมื่อพวกเขารับสารควบคุมดังกล่าวเข้าสู่ร่างกาย

"ฉันหมายถึง ค่ะ ใช่ ฉันเคยลองแอลกอฮอลล์ แน่นอน ฉันลองแล้ว ฉันหมายถึง เอ่อ มันมีสารบางอย่าง อย่างเช่น วิสกี้...ฉันตายตรงนี้ดีกว่า" นักแสดงสาวพูดพร้อมทำท่าแกล้งตายแบบติดตลก เมื่อเธอพยายามจะหลีกเลี่ยงคำถามดังกล่าว

"ที่อังกฤษเราดื่มได้ตั้งแต่อายุ 18 แต่ตอนนี้ฉันก็สามารถดื่มได้อย่างถูกกฏหมายจริงๆในสหรัฐฯ ฉันอายุ 21 แล้ว"

แม้ว่าเธอพยายามที่จะหลีกเลี่ยงหัวข้อสนทนาดังกล่าว แต่เจ้าตัวก็ยอมรับว่า ครั้งหนึ่งเธอเองก็เคยเมาปลิ้นเหมือนวัยรุ่นทั่วๆไป

"ในชีวิตฉันเคยเมามากๆมาแล้วครั้งหนึ่ง เหมือนที่ทุกๆคนก็เคย ฉันเมา ฉันเคยเมา และฉันน้อมรับกับเรื่องนั้น" นักแสดงสาวพูดพร้อมลุกขึ้นย่อและก้มศีรษะยอมรับอย่างยินดี

Manager Online

"เอมมา" (Emma Watson) ปล่อยโฮงานเปิดตัวหนังแฮร์รี (Harry Potter) ตอนจบ

Submitted by canjamm on 8 กรกฎาคม, 2011 - 18:16

เดินทางมาถึงตอนจบแล้วสำหรับภาพยนตร์ภาคต่ออย่าง แฮร์รี พอตเตอร์ (Harry Potter) ที่ล่าสุดในงานเปิดตัวภาพยนตร์ตอนจบ "เอมมา วัตสัน" (Emma Watson) ถึงกับปล่อยโฮต่อหน้าแฟนๆหลายพันคน

หลังจากถ่ายทำภาพยนตร์แฮร์รี พอตเตอร์ 7 ภาค 8 ตอน รวมเป็นเวลานานถึง 10 ปี มาตอนนี้ภาพยนตร์เดินทางมาถึงตอนจบแล้ว โดยในงานเปิดตัวภาพยนตร์ Harry Potter and the Deathly Hallows: Part II ที่ย่าน Trafalgar Square ในกรุงลอนดอน เอมมา วัตสัน นักแสดงสาววัย 21 ปี ก็ปล่อยโฮออกมาแบบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ รวมถึงเพื่อนนักแสดงอีกหลายคน

โดยระหว่างที่รูเพิร์ท (Rupert Grint) กำลังพูดต่อหน้าแฟนๆ พร้อมกล่าวขอบคุณเจเค โรลลิง ในสิ่งที่เธอเขียนถึงคนหัวแดงในเรื่องนี้ และขอบคุณแฟนๆ รวมถึงทีมงานทุกคน เอมมาก็ร้องไห้ออกมาโดยมี เดวิด เฮย์แมน โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ทำหน้าที่คอยปลอบเธอซบไหล่เขา ก่อนที่เขาจะจูบหน้าผากเธอเป็นการปลอบโยน

"มันยากที่จะเชื่อจริงๆ มันยังไม่จบ มันเหลือเชื่อ มันไม่รู้จะพูดอย่างไร มันรู้สึกแปลกมากจริงๆ ช่วงเดือนหลังๆมานี่ ผมรับไม่ได้นิดหน่อย แต่ผมคิดว่า เราต้องรับความจริงที่ว่ามันจบแล้วจริงๆ เวลาที่ผมเห็นโปสเตอร์เขียนตัวอักษรตัวใหญ่ว่า 'ทุกอย่างจบแล้ว' มันยิ่งฝังลึกลงในใจ ผมจะคิดถึงเรื่องนี้ มันวิเศษที่สุด" รูเพิร์ท กล่าวถึงการอำลาภาพยนตร์เรื่องนี้

ด้านเอมมา ก็กล่าวถึงผลงานเรื่องนี้เช่นกัน "ฉันคงจะคิดถึง รูเพิร์ท และ แดนมากจริงๆค่ะ ฉันจะคิดถึงการได้เป็นเฮอร์ไมโอนี ฉันชอบที่ได้อยู่ในโลกของเธอ มันไม่รู้จะหาคำไหนมาพูดในสิ่งที่ฉันอยากพูดดี แต่ฉันเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับบทนี้และได้เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้ ขอบคุณมากๆค่ะสำหรับความรักและกำลังใจและการสนับสนุนผลงานทุกชิ้นของพวกเรา ฉันมีช่วงเวลา 10 ปีที่วิเศษที่สุดในชีวิตของฉัน ขอบคุณมากๆค่ะ"

ทางด้านแดเนียล แรดคลิฟฟ์ (Daniel Radcliffe) ก็กล่าวอย่างภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้เช่นกัน "สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นกับผมอีกแล้ว มันวิเศษมาก ผมแค่ปล่อยให้ตัวเองสนุกและมีความสุขไปกับมันจนกระทั่งตอนจบ เพราะว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว มันค่อนข้างเศร้าเล็กน้อย แต่ก็พูดได้จริงๆว่า มันเป็นวันที่มีความสุขมากครับ"

“แดเนียล แรดคลิฟฟ์” (Daniel Radcliffe) เลิกเหล้าได้แล้ว - เป้าหมายใหม่ล้างคำสาปนักแสดงเด็ก

Submitted by canjamm on 6 กรกฎาคม, 2011 - 10:27

The Guardian - จากเด็กชายผู้สวมบทบาทเป็นพ่อมดน้อย Harry Potter เมื่อ 10 ปีก่อน “แดเนียล แรดคลิฟฟ์” (Daniel Radcliffe) เติบใหญ่เป็นเด็กหนุ่มอายุ 21 ปี ซึ่งไม่ต้องกังวลต่อการเปิดเผยเรื่องที่ว่าเขาเคยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างหนัก ระหว่างช่วงถ่ายทำภาพยนตร์ Harry Potter and the Half-Blood Prince ในปี 2009 แต่ปัจจุบันสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้แล้ว
       
       เลิกเหล้า, เลิกปาร์ตี้, มีความสุขกับชีวิตเรียบง่าย
       
       ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อครั้งล่าสุด นักแสดงหนุ่มชาวอังกฤษ แดเนียล แรดคลิฟฟ์ ยอมรับว่าครั้งหนึ่งเขาเคยดื่มเครื่องดองของเมา ในระดับที่เรียกว่าได้ “เกินพอดี” ระหว่างการถ่ายทำหนังชุด Harry Potter ในภาคหลังๆ “ผมเคยต้องพึ่งพาเหล้าในการเอ็นจอยกับชีวิต มีช่วงหนึ่งในปีหลังๆ ที่ผมหลงระเริงไปกับการใช้ชีวิตในแบบคนดัง ซึ่งอันที่จริงแล้วช่างไม่ได้เหมาะกับตัวของผมเอาเสียเลยครับ”
       
       หนุ่มวัย 21 ปี ยอมรับกับ GQ ว่าการใช้ชีวิตแบบคนดังที่ว่านั้น เกิดขึ้นระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Harry Potter and the Half-Blood Prince ในปี 2009 อย่างไรก็ตามเขายืนยันว่านับจากเดือน ส.ค. 2010 ตนเองก็ไม่เคยแตะต้องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกเลย “ไม่ใช่เรื่องน่าอายหรอกครับ ถ้าจะมีความสุขกับชีวิตง่ายๆ และนั่นคือคำตอบสำหรับชีวิตในช่วงหลังของผม”
       
       “ถึงแม้ผมอยากจะเป็นคนประเภทที่ไปเที่ยวงานปาร์ตี้ ดื่มซักแก้วสองแก้ว มีเวลาดีๆ แต่สุดท้ายมันไม่เวิร์คสำหรับผมครับ ทำแบบนั้นไม่ขึ้นจริงๆ” เขากล่าว “ผมอาจจะนั่งอยู่ที่บ้าน อ่านหนังสือ หรือไปทานดินเนอร์กับใครซักคน พูดคุยกับคนที่ผมรัก หรือพูดคุยกับคนที่ทำให้ผมหัวเราะ”
       

"เอมมา วัตสัน" (Emma Watson) ยอมรับแอบชอบ "ทอม เฟลตัน" (Tom Felton) ระหว่างถ่ายแฮร์รี พอตเตอร์ (Harry Potter)

Submitted by canjamm on 29 มิถุนายน, 2011 - 13:44

"เอมมา วัตสัน" (Emma Watson) นักแสดงสาววัยรุ่นชื่อดังเปิดปากยอมรับว่าครั้งหนึ่งเธอเคยแอบชอบ"ทอม เฟลตัน" (Tom Felton) เพื่อนนักแสดงระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์ แฮร์รี พอตเตอร์ (Harry Potter)

เอมมา วัตสัน นักแสดงสาววัย 21 ปี ที่รับบทเฮอร์ไมโอนีในภาพยนตร์สุดฮิตแฮร์รี พอตเตอร์ ได้ยอมรับแล้วว่าเธอเคยแอบชอบ ทอม เฟลตัน ที่รับบทตัวร้ายในเรื่องอย่าง เดรโก มัลฟรอยด์ ระหว่างที่พวกเขาถ่ายทำภาพยนตร์ 2 ภาคแรกด้วยกัน

"เขาเป็นคนที่ฉันชอบคนแรก" เอมมากล่าวกับนิตยสาร Seventeen "เขารู้ดี เราเองก็คุยกันเรื่องนี้ เรายังนั่งหัวเราะกับเรื่องนี้กันอยู่เลย ตอนนี้เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ซึ่งมันเยี่ยมมากเลย!"

ขณะที่ตอนนี้ ทอม เฟลตัน วัย 23 ปี กำลังออกเดทอยู่กับ เจด โอลิเวีย แฟนสาวของเขา เอมมา วัตสัน เองก็กำลังอยู่ในช่วงค้นหาความรัก โดยเธอยอมรับว่าเมื่อไหร่ที่ต้องออกเดท เธอมักจะผู้เล่นที่ยอดแย่เสมอ

"ฉันมันพวกขี้หงุดหงิด ใจร้อน มันเป็นนิสัยยอดแย่ของฉันเลย" นักแสดงสาวกล่าว "ถ้าฉันอยากเจอใคร ฉันต้องได้เจอ แต่ถ้าฉันไม่อยากเจอ ฉันก็ไม่เจอ เพื่อนฉันมักจะบอกฉันอยู่เสมอว่า ฉันต้องเล่นตัวเพราะว่าฉันมักจะบอกกับพวกผู้ชายว่า 'ฉันชอบนาย เราออกไปเที่ยวกัน' แต่เพื่อนฉันบอกว่า 'เธอทำแบบนั้นไม่ได้นะ! เธอต้องแกล้งให้ความหวังเขา' มันเป็นเหมือนฝันร้ายเลย ฉันยังคงไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้อยู่ดี"

Manager Online

ราชินีเพลงสิงคโปร์ "ซุนเยี่ยนจือ" (Stefanie Sun) เข้าประตูวิวาห์

Submitted by canjamm on 10 พฤษภาคม, 2011 - 19:52

“สเตฟานี่ ซุน” (Stefanie Sun / 孫燕姿) หรือ “ซุนเยี่ยนจือ” นักร้องสาวผู้โด่งดังที่สุดในประเทศสิงคโปร์ได้จูงมือแฟนหนุ่มเข้าประตูวิวาห์ไปเมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังจากคบหากันมายาวนานถึง 5 ปี

จากรายงานของสื่อในประเทศสิงคโปร์ ซุนเยี่ยนจือ กับแฟนหนุ่มชาวเนเธอร์แลนด์ นาดิม ฟาน เดอร์ รอส (Nadim Van Der Ros) ได้ตัดสินใจแต่งงานกันอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากก่อนหน้านี้ทั้งสองได้จดทะเบียนสมรส เป็นสามีภรรยาอย่างถูกต้องตามกฏหมายไปตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค. แล้ว

ซุนเยี่ยนจือ วัย 32 ปี เข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่ปี 2000 และถือเป็นนักร้องเพลงป๊อปที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งของสิงคโปร์ มียอดขายผลงานกว่า 10 ล้านแผ่น และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั้งยัง ไต้หวัน, ฮ่องกง และจีนแผ่นดินใหญ่

ขณะที่ฝ่ายชาย นาดิม ฟาน เดอร์ รอส ชาวเนเธอร์แลนด์เชื้อสายอินโดนีเซีย เป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัท Aviva ทั้งสองเริ่มต้นคบหากันแบบเพื่อน จนพัฒนาความสัมพันธ์เป็นคนรักเมื่อ 5 ปีก่อน แต่ความสัมพันธ์ครั้งนี้เพิ่งถูกเปิดเผยออกมาเมื่อปี 2009 นี่เอง หลังผู้สื่อข่าวพบว่าฝ่ายหญิง ไปร่วมเชียร์แฟนหนุ่มของเธอที่การแข่งขันไตรกีฬารายการหนึ่งที่สิงคโปร์

ในงานวันมงคล ซุนเยี่ยนจือ เปลี่ยนชุดถึง 3 ชุดในแต่ละขั้นตอนของพิธีของตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ชุดแต่งงานสีขาวในพิธีช่วงเช้า, ชุดแบบจีนสีแดงในพิธีที่จัดขึ้นที่บ้าน และชุดสีขาวเรียบๆ ในงานเลี้ยงตอนเย็น

โดยตัวแทนของนักร้องสาวคนดังได้ส่งข้อความแสดงความขอบคุณไปถึงแฟนๆ และบรรดาสื่อต่างๆ ที่สนใจในชีวิตรักของเธอมีใจความว่า

“วันนี้คือวันที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของฉันค่ะ มันเป็นวันครบรอบ 5 ปีที่ฉันกับเขาคบกันมาด้วย และยังเป็นวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเรา ที่ฉันเลือกวันนี้ก็เพราะว่าเราคบกันมานานมากแล้ว ซึ่งเราทั้งคู่ก็เป็นคนง่ายๆ เหมือนกัน สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ก็คือการจัดพิธีนี้ขึ้นเท่านั้น ไม่มีความกดดันอะไรกับการเริ่มต้นใช้ชีวิตร่วมกันเลย”

"อาซาโน่" (Asano) เป็นปลื้ม เดินพรมแดงเปิดตัวหนังฮอลลีวูดเรื่องแรกในชีวิต

Submitted by canjamm on 5 พฤษภาคม, 2011 - 15:49

นักแสดงหนุ่มชาวญี่ปุ่น "ทาดาโนบุ อาซาโน่" (Tadanobu Asano) กล่าวแสดงความรู้สึกยินดี ในการร่วมเดินพรมแดงเปิดตัวหนังระดับฮอลลีวูดเป็นครั้งแรก ในรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์เรื่อง Thor ที่เขาร่วมรับบทสมทบอยู่ด้วย

"ผมมีความสุขมากครับที่ได้มาอยู่ตรงนี้ คิดว่านี่คือผลของการทำงานอย่างหนักมาหลายปี" ทาดาโนบุ อาซาโน่ กล่าวระหว่างเดินพรมแดงเพื่อเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง Thor เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่านมาที่ลอสแอนเจลิส หลังจากก่อนหน้านี้เคยร่วมเดินพรมแดงในงานประกาศภาพยนตร์ระดับโลกอย่างออสการ์ครั้งที่ 80 มาแล้ว เมื่อหนังเรื่อง Mongol ที่เขาแสดงนำ ได้เข้าชิงรางวัลหนังภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม

ในหนังเรื่อง Thor ที่ดัดแปลงจากการ์ตูนของ Marvel อาซาโน่ ได้ร่วมงานกับนักแสดงอย่าง คริส เฮมสเวิร์ธ, นาตาลี พอร์ตแมน และ แอนโธนีย์ ฮ็อปกินส์ ซึ่งนักแสดงหนุ่มชาวญี่ปุ่นกล่าวถึงความก้าวหน้าครั้งนี้ของตนเองว่า

"มันเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับผม ในการซึมซับบรรยากาศสภาพแวดล้อมแบบฮอลลีวูดเอาไว้ครับ ผมไม่อยากจะเสียโอกาส และจะพยายามก้าวต่อไปอีกในการทำงานครั้งต่อไป ผมคิดว่าได้รับการดูแลอย่างดีในการทำงานที่อเมริกาครับ แต่เหตุผลที่ผมมาถึงตรงนี้ได้ก็เพราะงานมากมายในวงการหนังญี่ปุ่นของผม เพราะฉะนั้นผมจะกลับไปทำงานที่อุตสาหกรรมหนังญี่ปุ่นให้หนักเหมือนเดิมแน่นอน"

ขณะที่ฝ่ายผู้กำกับ เคนเน็ธ บรานาห์ ก็กล่าวถึงยอดนักแสดงชาวญี่ปุ่นว่า "เขาดูเท่ห์มากนะครับวันนี้ อาซาโน่ นำบุคลิกที่หลากหลายทั้งด้านที่โหดเหี้ยม, ฉลาด และคุณสมบัติของความเป็นนักรบมาสู่ตัวละคร โฮกัน เขามีเสน่ห์แบบดาราหนังอย่างแท้จริง"

Thor เข้าฉายไปแล้วในหลายๆประเทศทั่วโลก และมีกำหนดจะลงโรงฉายที่สหรัฐฯ ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ขณะที่กว่าญี่ปุ่นบ้านเกิดของ อาซาโน่ จะได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ต้องรอถึงวันที่ 2 ก.ค. ก่อน

“แดเนียล แรดคลิฟฟ์” (Daniel Radcliffe) ไม่เอาแล้ว Harry Potter เล่ม 8

Submitted by canjamm on 30 เมษายน, 2011 - 13:43

ขณะที่คนจำนวนมากยังรอคอยอย่างมีความหวังสำหรับหนังสือเล่มที่ 8 จากนิยายเยาวชนชุด Harry Potter แต่ผู้สวมบทบาทเป็นพ่อมดน้อยอย่าง “แดเนียล แรดคลิฟฟ์” (Daniel Radcliffe) กลับไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ พร้อมยอมรับว่าเขาต้องการก้าวไปสู่บทใหม่ ของชีวิตนักแสดงเสียที

เมื่อปีก่อนในการเป็นแขกรับเชิญของรายการ โอปราห์ วินฟรีย์ นักเขียนชาวเมืองผู้ดี เจ. เค. โรวลิ่ง ได้ให้สัมภาษณ์ถึงโอกาสกลับมาจรดปากกาเขียนเรื่องราวของพ่อมดน้อย แฮร์รี่ พ็อตเตอร์ ในหนังสือเล่มที่ 8 หรือเล่มต่อ ๆ ไปว่า “ฉันคิดว่ามันจบแล้วนะ แต่คุณก็ไม่รู้หรอก อะไรก็เกิดขึ้นได้” ซึ่งนั่นกลายเป็นคำให้สัมภาษณ์ ซึ่งเหล่าสาวกของ Harry Potter ที่ยังไม่อยากให้นิยายเรื่องนี้จบลงเพียงแค่ 7 เล่มเท่านั้น ได้มีความหวังกันอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามยังมีคนที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว รวมถึงผู้สวมบทบาทเป็นพ่อมดน้อยขวัญใจเด็กๆ อย่าง แดเนียล แรดคลิฟฟ์ ด้วย

อันที่จริงแล้วนักแสดงหนุ่มชาวอังกฤษยอมรับว่าเขาตกใจมาก กับข่าวที่เกิดขึ้น ถึงขั้นที่ว่าต้องรีบติดต่อถามความจริงกับ เจ. เค. โรวลิ่ง โดยทันทีเลยทีเดียว

“ผมกังวลมากครับ เลยส่งข้อความไปหาเธอว่า ‘มันจริงเหรอครับ ที่ว่าคุณจะเขียนหนังสือ Harry Potter อีกเล่ม’” หนุ่มวัย 21 ปี ให้สัมภาษณ์กับ Celebuzz.com

ซึ่งเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้นเขาก็ได้รับคำตอบจากนักเขียนคนดัง “เธอบอกว่าพอใจในการแสดงของผมในหนัง Harry Potter 7: Part 1 เลยจะให้รางวัล เป็นคำสัญญาว่าจะไม่เขียนหนังสือเกี่ยวกับ แฮร์รี อีกแล้ว” แรดคลิฟฟ์ เล่า

แดเนียล แรดคลิฟฟ์ จะมีผลงานใหม่คือหนังเรื่อง The Woman in Black ซึ่งมีกำหนดเข้าฉายในปีหน้า ขณะที่ในปีนี้เขาจะทุ่มเทให้กับการแสดงละครเพลงเรื่องแรก หลังจากต้องใช้เวลากว่า 10 ปี กับหนังแฟนตาซีทุนสูงอย่าง Harry Potter

“ผมกำลังยุ่งอยู่กับละครเพลงเรื่อง How to Succeed in Business Without Really Trying ทำให้ไม่ค่อยได้คิดถึง Harry Potter เท่าไหร่ในตอนนี้ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ผมอาจจะต้องสับสวิตช์เพื่อเป็น แฮร์รี่ ในบางวัน แต่ตอนนี้ไม่ค่อยมีเวลาที่จะมาหวนรำลึกถึงอดีตเหล่านั้นเท่าไหร่แล้วครับ”

The Great Magician หนังใหม่ “เหลียงเฉาเหว่ย” (Tony Leung) ฉายชน หนังจีนเรื่องแรก “คริสเตียน เบล” (Christian Bale)

Submitted by canjamm on 28 เมษายน, 2011 - 20:16

บริษัทผู้สร้างได้ยืนยันว่า The Great Magician ผลงานใหม่ของ “เหลียงเฉาเหว่ย” (Tony Leung) ที่ว่าด้วยเรื่องราวของนักมายากลยอดฝีมือ จะมีกำหนดเข้าฉายในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งหมายความว่าจะเป็นการฉายชนกับหนังจีนเรื่องแรกของพระเอกฮอลลีวูดอย่าง “คริสเตียน เบล” (Christian Bale) ด้วย

กลายเป็นคำถามที่แฟนหนังชาวจีนให้ความสนใจกันมากที่สุดในตอนนี้ ว่าผลงานเรื่องใหม่ของใครระหว่าง : คริสเตียน เบล นักแสดงฮอลลีวูดเจ้าของรางวัลออสการ์ กับ เหลียงเฉาเหว่ย นักแสดงยอดฝีมือชาวฮ่องกง จะประสบความสำเร็จครองใจแฟนหนังจีนในช่วงโปรแกรมทองท้ายปีมากกว่ากัน

ข้อถกเถียงดังกล่าวกลายเป็นที่พูดถึงภายหลัง Bona Film Group ได้ประกาศว่า The Great Magician ผลงานเรื่องใหม่ของผู้กำกับคนดัง เอ๋อตงเซิน ที่จะมี เหลียงเฉาเหว่ย รับบทนำจะมีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 22 ธ.ค. 2011 เป็นวันเดียวกับที่ Nanjing Heroes ของผู้กำกับ จางอี้โหมว ที่มีนักแสดงฮอลลีวูด คริสเตียน เบล รับบทนำเข้าฉายพอดิบพอดี

“การฉายชนกันแบบนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หรอก” ตัวแทนของบริษัท Bona Film Group กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ The Hollywood Reporter พร้อมย้ำว่า เป็นโอกาสดีที่คนดูสามารถเปรียบเทียบการแสดงของ เหลียงเฉาเหว่ย กับ คริสเตียน เบล ที่เคยรับบทเป็นนักมายากลในหนังปี 2006 เรื่อง The Prestige มาแล้วด้วย

ใน The Great Magician เหลียงเฉาเหว่ย จะสวมบทบาทเป็น จางเซียน ยอดนักมายากล ที่หวังใช้ฝีมือในด้านนี้ เพื่อช่วยเหลืออดีตคนรักของเขา (โจวซวิ่น) ที่กลายเป็นผู้หญิงของขุนศึกผู้ชั่วร้ายไปแล้ว (หลิวชิงหวิน) โดยหนังจะมีฉากหลังอยู่ที่ประเทศจีนยุคหลังการปกครองของราชวงศ์ชิง ที่เต็มไปด้วยความแตกแยกระส่ำระสาย

“มันคือหนังรักสามเส้า” เอ๋อตงเซิน กล่าวถึงหนังทุนสร้าง 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ของเขา “หนังเรื่องนี้ไม่เพียงแต่จะเล่าเรื่องของตำนานแห่งมายากล แต่ยังจะมีความเป็นแฟนตาซี, ความรัก, แอ็กชั่น และองค์ประกอบอีกมากมาย ผมอยากจะสร้างหนังที่สามารถมอบความตื่นเต้น และสดใหม่ให้กับคนดูได้”

"เอมมา วัตสัน" (Emma Watson) ออกจากมหาวิทยาลัยบราวน์แล้ว

Submitted by canjamm on 26 เมษายน, 2011 - 00:35

"เอมมา วัตสัน" (Emma Watson) นักแสดงสาวชื่อดังยืนยันแล้วเตรียมย้ายจากมหาวิทยาลัยบราวน์ไปเรียนที่สถาบันอื่น พร้อมปฏิเสธข่าวไม่ได้ออกเพราะถูกเพื่อนร่วมชั้นแกล้ง

เอมมา วัตสัน นักแสดงสาวชื่อดังจากแฮร์รี พอตเตอร์ (Harry Potter) ได้ออกมายืนยันข่าวแล้วว่าเธอเตรียมย้ายที่เรียน ซึ่งเกิดขึ้นไม่นานหลังมีข่าวว่าเธอถูกเพื่อนร่วมชั้นคอยเสียดสีอยู่ตลอดเวลาจนเริ่มรับไม่ได้

วาเนสซา เดวีส์ ประชาสัมพันธ์ส่วนตัวของเธอได้ออกมายืนยันข่าวการย้ายที่เรียนพร้อมระบุว่า นักแสดงสาวได้ตัดสินใจเตรียมโอนหน่วยกิตไปเรียนอย่างอื่น ซึ่งไม่มีที่บราวน์ แต่ถึงอย่างไรเธอก็ยังรักช่วงเวลาที่เธออยู่ในสถาบันนี้มากจริงๆ

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ก่อนหน้านี้เอมมาต้องตกเป็นเหยื่อในชั้นเรียน ถูกเพื่อนคอยล้อเลียนพูดเสียดสีอยู่ตลอดทุกครั้งที่เธอตอบคำถามในชั้น จนอาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เอมมาเริ่มไม่อยากเรียนที่สถาบันนี้

"พวกเขามักจะโต้ตอบด้วยประโยคจากหนังแฮร์รี พอตเตอร์ ที่ถูกใช้มากที่สุดคือ '3 คะแนนสำหรับกริฟฟินดอร์!' " แหล่งข่าวเผย

เอมมา ศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และการละครของสตรีชาวยุโรป ซึ่งเมื่อครั้งที่เธอเข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยในเดือน ก.ย. ปี 2009 เธอเคยกลัวว่าจะเข้ากับที่นี่ไม่ได้

"ฉันกลัวว่าพวกเขาจะคิดว่า เธอมันคนดัง เธอได้กระเป๋าถือฟรีมาใช้ แล้วทำไมเธอต้องได้รับการปฏิบัติเหมือนคนธรรมดาด้วยล่ะ?" เอมมา เผยถึงความกลัวของตนเอง

จนกระทั่งเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง ที่นักแสดงสาวผู้รักการเรียนชื่อดังที่เคยประกาศว่า ตนเองเลือกเรียนมากกว่างานในวงการ ก็เพิ่งจะออกมาประกาศอีกครั้งว่า เธอคงต้องขอเบรกเรื่องการเรียนเพื่อตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างเต็มที่

"อย่างที่คุณรู้ ฉันชอบ Brown และฉันก็ชอบการเรียนมากกว่าอย่างอื่น แต่เมื่อไม่นานนี้ ฉันสาละวนมากกับการเป็นนักเรียนด้วยและการทำงานอื่นไปด้วย ซึ่งฉันได้เรียนรู้ว่าทำสองอย่างให้ดีพร้อมๆกันมันเป็นไปไม่ได้เลย"

"ฉันเลยตัดสินใจพักแป๊บหนึ่ง เพื่อไปจัดการงานของฉันเกี่ยวกับภาพยนตร์ Harry Potter ( ตอนสุดท้ายจะเข้าฉายในช่วงก.ค.ที่จะถึงนี้ ) ให้เรียบร้อย และมุ่งทำงานในฐานะมืออาชีพรวมถึงงานด้านการแสดงด้วย"

หนังตลกเกาหลีใต้บุกฮอลลีวูด

Submitted by canjamm on 28 มีนาคม, 2011 - 12:56

หนังตลกจากเกาหลีใต้กำลังจะได้มีโอกาสไปฉายยังประเทศแถบตะวันตก หรือถูกรีเมกในเวอร์ชั่นฮอลลีวูด กลายเป็นปรากฏการณ์ที่น่าจับตามองว่า อารมณ์ขันแบบเกาหลีใต้จะสามารถปรับเปลี่ยนไปสู่ความเป็นสากาลได้หรือไม่

จากที่ในยุคสมัยหนึ่งหนังโรแมนติกเคยเป็นเครื่องหมายการค้าของวงการภาพยนตร์เกาหลีใต้ ต่อมาหนังคุณภาพของผู้กำกับเกรดเออย่าง ปาร์คชานวุก, คิมจีวุน, บองจุนโฮ ก็กวาดรางวัลในเทศกาลต่าง ๆ และกลายเป็นหนังในดวงใจของคนทั่วโลก ล่าสุดหนังตลกจากเกาหลีใต้กำลังจะกลายเป็นสินค้าออกชิ้นใหม่ ที่ต้องรอพิสูจน์ว่าอารมณ์ขันแบบชาวกิมจิ จะถูกรสนิยมแฟนหนังในตลาดโลกได้หรือไม่

หนังฮิตในเกาหลี เปิดฉายในสหรัฐฯ

ตามปกติงานภาพยนตร์แนวขายขำ เป็นสิ่งที่ขายดีในเกาหลีใต้อยู่แล้ว หนังตลกย้อนยุคที่ว่าด้วยเรื่องราวของคดีฆาตกรรม และการสืบสวนสอบสวน Detective K สามารถทำยอดคนดูในประเทศบ้านเกิดไปกว่า 4.58 ล้านคน เป็นหนังที่มียอดคนดูทะลุ 4 ล้านคนเรื่องแรกในปี 2011 ของเกาหลีใต้

ล่าสุดนอกจากความสำเร็จในประเทศแล้ว Detective K ยังได้เข้าไปฉายใน 10 เมืองใหญ่ของอเมริกาเหนือ อาทิ แอนแลนต้า, ซีแอตเทิล, ชิคาโก้, ดัลลัส, ฮาวาย และแวนคูเวอร์ นอกจากนั้นยังได้เข้าไปฉายใน ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย รวมถึงถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปแล้ว ในอีกหลายประเทศในแถบเอเชียและยุโรป อย่าง จีน, ไต้หวัน, ไทย, เยอรมัน, ออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์ ด้วย

ขณะเดียวกันหนังตลก The Last Godfather ที่ล้อเลียนงานแก็งสเตอร์คลาสสิค The Godfather ฝีมือของผู้กำกับอดีตดาวตลกคนดัง ชิมฮยองเร ก็จะได้เข้าไปฉายในอเมริกาเหนือในวันที่ 1 เม.ย. นี้ รวมถึงหนังตลก Castaway on the Moon ก็กำลังจะเข้าไปฉายในสหรัฐฯ เช่นเดียวกัน

สำหรับ The Last Godfather ที่ใช้ทุนสร้าง 15,000 ล้านวอน (ประมาณ 408 ล้านบาท) มียอดคนดูกว่า 2.55 ล้านคนในเกาหลีใต้ เป็นงานที่เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จไปแล้ว อย่างไรก็ตามการบุกตลาดตะวันตกคือเป้าหมายอันดับ 1 ของผู้กำกับ ชิมฮยองเร ที่เคยพาหนังไซไฟแฟนตาซี D-War กวาดเงินเหรียญสหรัฐฯ มาแล้ว

นักแต่งเพลงดัง E-Tribe ไม่ฟ้องร้อง "เลดี้ กาก้า" (Lady Gaga) ลอกเพลง SNSD (Girls' Generation)

Submitted by canjamm on 21 มีนาคม, 2011 - 19:29

หลังจาก E-Tribe นักแต่งเพลงดังแดนกิมจิออกมาเปรยว่าเพลง Born This Way ของ "เลดี้ กาก้า" (Lady Gaga) มีส่วนคล้ายกับเพลง Be Happy ที่เขาเป็นผู้แต่งให้กับสาวๆ SNSD (Girls' Generation) ล่าสุดนักแต่งเพลงดังได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้อีกครั้ง โดยกล่าวว่าหลังจากตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว จะไม่มีการดำเนินการทางกฏหมายกับเรื่องนี้แต่อย่างใด

เมื่อสัปดาห์ก่อนประเด็นการลอกเลียนผลงานเพลงระหว่างวงการเพลงสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ได้ถูกจุดประเด็นขึ้นมาอีกครั้ง โดยทีมแต่งเพลงแถวหน้าของเกาหลี E-Tribe ได้ออกมาตั้งข้อสงสัยว่าผลงานเพลงของศิลปินระดับโลกอย่าง เลดี้ กาก้า มีความคล้ายกับผลงานของเขาอย่างน่าประหลาด

"เรารู้สึกถึงความคล้ายกัน ทั้งอารมณ์เพลงรวมถึงการเรียบเรียงเสียงประสาน พูดตามตรงว่าเป็นแบบเดียวกัน เรากำลังอยู่ระหว่างการพยายามติดต่อไปยังบริษัทผู้จัดจำหน่ายผลงานของ เลดี้ กาก้า เพื่อสืบหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้เพิ่มเติม" E-Tribe ประกาศเมื่อวันที่ 11 มี.ค.

โดย E-Tribe เป็นทีมงานผลิตเพลงชื่อดังของวงการดนตรีเกาหลีใต้ ซึ่งประกอบไปด้วย อานมยองวอน และ คิมยองด็อก มีผลงานโปรดิวซ์เพลงดัง ๆ ให้กับศิลปินกิมจิมาแล้วมากมายไม่ว่าจะเป็น Gee ของ Girls' Generation, U-Go-Girl ของ อีฮโยริ (Lee Hyo Ri) และ It's You ของ Super Junior เป็นต้น

แต่ล่าสุดในวันที่ 21 มี.ค. อานมยองวอน ได้เป็นผู้ออกมากล่าวถึงเรื่องนี้ และยืนยันว่าจะไม่มีการดำเนินการทางกฏหมายแต่อย่างใด "คนรอบๆตัวเราพูดว่า Born This Way ของ เลดี้ กาก้า ลอกเลียน Be Happy ของ SNSD ซึ่งผมก็ได้ลองตรวจสอบดูแล้ว และถึงตอนนี้ พวกเราไม่มีแผนที่จะมีดำเนินการทางกฏหมายใดๆ"

เขาอธิบายต่อไปว่า "เป็นเรื่องจริงที่อารมณ์เพลง และการเรียบเรียงเสียงประสาน มีความคล้ายกัน แต่ภายหลังจากการปรึกษาหารือกับผู้เชี่ยวชาญและมืออาชีพคนอื่นๆ ความเห็นยังแตกเป็นสองฝ่าย ยังมีข้อขัดแย้งมากเกินกว่าที่จะเรียกว่านี่คือการ ลอกเลียนผลงาน ซึ่งเราจะปรึกษากันเพื่อการดำเนินการในทางเลือกอื่นๆต่อไป"

ฮอลลีวูด ยอมแก้บทหนังฯ เลิกให้ร้ายจีน

Submitted by canjamm on 18 มีนาคม, 2011 - 17:30

เอเยนซี - ในหลายปีที่ผ่านมา จีนกลายเป็นตลาดสำคัญ สำหรับอุตสาหกรรมบันเทิงของสหรัฐฯ จนทำให้ฮอลลีวูดและค่ายหนังต้องคิดหน้าคิดหลัง ในการจะใช้สื่ออันทรงพลังของตนสร้างภาพผู้ร้ายกับชาติอื่นๆ โดยเฉพาะที่จะกระทบกระเทือนต่อจีน

สื่อต่างประเทศรายงานวันที่ 15 มี.ค. ว่า ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง "Red Dawn" ของค่าย MGM ที่นำภาพยนตร์ดังในอดีตชื่อเดียวกัน กลับมาสร้างใหม่และวางบทให้จีนเป็นผู้ร้ายบุกรุกเข้ามาในสหรัฐฯ สร้างจินตนาการไปในทางที่เสื่อมเสียต่อจีน จนถูกต่อต้านจากประชาชนและสื่อมวลชนจีน กลายเป็นข่าวคึกโครมเมื่อกลางปีที่แล้ว The Global Times สื่อใหญ่ของทางการจีน ถึงกับเขียนบทความต่อต้านว่า อเมริกากลับมาใช้วิธียัดเยียดภาพอันชั่วร้ายให้กับจีนผ่านหนังสงคราม แบบที่เคยทำกับรัสเซียในยุคสงครามเย็น และย้ำว่าหนังอเมริกันกำลังเสี้ยมให้คนเกลียดกลัวจีน

แม้ว่าจะไม่มีการประท้วงอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลจีน แต่ล่าสุด หลังจากได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ค่ายผู้สร้างหนังเรื่องนี้ ยอมรับว่าการดึงดันให้เนื้อหาในภาพยนตร์เป็นเช่นเดิม รังแต่จะมีผลได้ไม่คุ้มเสีย และอาจสะเทือนถึงอุตสาหกรรมภาพยนตร์สหรัฐฯ โดยรวมได้ และเพื่อแก้ปัญหาที่อาจบานปลาย ผู้สร้างฯ จึงยอมกลับไปแก้ไข และปรับเปลี่ยนผู้ร้ายในหนังจากจีน เป็นเกาหลีเหนือแทน โดยการใช้เทคนิคดิจิตอล ลบภาพและสัญลักษณ์ต่างๆ ที่แสดงความเป็นจีนออกในทุกฉาก รวมทั้งเปลี่ยนบทตัวละคร และคำพูดต่างๆ

สื่อต่างประเทศรายงานว่า การเปลี่ยนแปลงนี้ เกิดจากความสมัครใจของผู้ผลิตเอง โดยนักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า ในทางธุรกิจนั้น สหรัฐฯ ย่อมต้องให้ความสนใจต่อตลาดจีน ซึ่งกำลังเติบโตและแนวโน้มที่ฮอลลีวูดจะขยายตลาดเข้ามาถึงคอหนังชาวจีนก็ยังมีอีกมหาศาล เพราะแม้ว่าจีนจะยังกำหนดโควต้าให้ภาพยนตร์ต่างชาติเข้ามาฉายในโรงภาพยนตร์ในประเทศได้เพียงปีละ 20 เรื่อง แต่รายได้ที่สหรัฐฯ ได้รับจากตลาดหนังในประเทศจีนนั้น ถือว่าสูงยิ่ง โดยปี 2553 ฮอลลีวูดมีรายได้จากจีนสูงถึง 1,500 ล้านดอลลาร์ สูงเป็นอันดับ 5 ของตลาดหนังนอกประเทศ

"โค ชิบาซากิ" (Kou Shibasaki) โกอินเตอร์ประกบ "เคียนู รีฟส์" (Keanu Reeves) ใน 47 Ronin

Submitted by canjamm on 2 มีนาคม, 2011 - 16:56

นักแสดงสาววัย 29 ปี "โค ชิบาซากิ" (Kou Shibasaki) กำลังจะได้โอกาสชิมลางงานแสดงในภาพยนตร์ฮอลลีวูดดูบ้างแล้ว กับหนังฟอร์มใหญ่ 47 Ronin ที่ดัดแปลงมาจากเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น

47 Ronin หรือ ชูชินกูระ คือตำนานอิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญของแดนอาทิตย์อุทัย เกี่ยวกับซามูไร 47 คน ที่ตัดสินใจร่วมกันสละชีพเพื่อล้างแค้นให้กับ ไดเมียว อาซาโนะ นาคาโนริ ผู้เป็นเจ้านายซึ่งต้องจบชีวิตด้วยการคว้านท้อง

ที่ผ่านมาเรื่องราวดังกล่าว ได้ถูกดัดแปลงเป็น ภาพยนตร์, ละครเวที และหนังชุดทางโทรทัศน์ มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่นี่จะเป็นครั้งแรกที่ผู้สร้างจากฮอลลีวูด จะหยิบเอาเรื่องราวซึ่งเกิดขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 18 ที่ญี่ปุ่น มาสร้างเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ โดย Universal Pictures วางงบประมาณคร่าวๆของหนังไว้ที่ 200 ล้านเหรียญฯ และมีกำหนดเข้าฉายในเดือน ธ.ค. 2012 ในรูปแบบของหนังสามมิติ

นักแสดงฮอลลีวูด เคียนู รีฟส์ ผู้โด่งดังจากไตรภาค The Matrix จะสวมบทบาทเป็น คาอิ (Kai) ชายหนุ่มเลือดผสมญี่ปุ่นและตะวันตก หนึ่งในกลุ่มซามูไร 47 คน ขณะที่ โค ชิบาซากิ จะแสดงเป็นลูกสาวของไดเมียว อาซาโนะ นาคาโนริ ที่มีชื่อว่า มิกะ (Mika) ตัวนำของเรื่องที่ตกหลุ่มรัก คาอิ

ซึ่งขั้นตอนการคัดเลือกนักแสดงนำหญิงเกิดขึ้นอย่างปิดเงียบในช่วงเดือน พ.ย. ปีก่อน และมีรายงานว่า ชิบาซากิ ถูกเลือกเพราะผู้สร้างประทับใจในฝีไม้ลายมือในการแสดงของเธอมาก

ผู้กำกับ คาร์ล รินช์ (Carl Erik Rinsch) กล่าวในงานแถลงข่าว ถึงดาราสาวชาวญี่ปุ่นคนนี้ว่า "เธอมีคุณสมบัติบางอย่างที่หาไม่ค่อยได้จากดาราฝั่งตะวันตก มีความสง่างามแบบ ออเดรย์ เฮปเบิร์น ด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเลยถ้าเธอจะประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ และผมจะได้เป็นคนแจ้งเกิดให้กับเธอ"

ขณะที่ เคียนู รีฟส์ ก็กล่าวชื่นชมในตัวของ ชิบาซากิ เช่นเดียวกัน "เธอมีทั้งความงาม และเสน่ห์ที่ลี้ลับ เป็นนักแสดงหญิงที่สามารถแสดงได้ในทุกบทบาท"

หนุ่ม ๆ เฮ!! "ลีอาห์ ดิซอน" (Leah Dizon) โสดสนิทแล้ว

Submitted by canjamm on 23 กุมภาพันธ์, 2011 - 17:11

เอเยนต์ส่วนตัวได้ออกมายืนยันข่าวการหย่าของ "ลีอาห์ ดิซอน" (Leah Dizon) ที่ทำให้คุณแม่ลูกหนึ่งวัย 24 ปี รายนี้กลับมาโสดสนิทอีกครั้ง นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า ตอนนี้เธอกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่สหรัฐอเมริกาแล้ว แต่ก็ไม่ปิดโอกาสกลับมารับงานที่ญี่ปุ่นแต่อย่างใด

เมื่อช่วงเดือน ต.ค. ปีก่อน มีรายงานว่า ลีอาห์ ดิซอน นางแบบคนดังได้หอบลูกย้ายออกมาจากบ้านพักที่เธอร่วมใช้ชีวิตอยู่กับสามีสไตลิสต์วัย 31 ปี จนกระทั่งล่าสุดเอเยนต์ส่วนตัวของ ลีอาห์ เป็นผู้ยืนยันว่านางแบบสาวสวยคุณแม่ลูกหนึ่ง ได้กลับมาเป็นโสดอีกครั้ง ภายหลังขั้นตอนทางกฏหมายของการหย่าขาดกับอดีตสามี ได้เสร็จสิ้นไปตั้งแต่เมื่อช่วงปลายปีก่อนแล้ว

สาววัย 24 ปี เชื้อสาย ฝรั่งเศส, อเมริกา, จีน และฟิลิปปินส์ ใช้ชีวิตเติบโตมาใน ลาส เวกัส จนกระทั่งได้เริ่มงานถ่ายแบบที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งจากงานถ่ายภาพแนวเซ็กซี่ต่างๆ นี่เองที่ทำให้ลีอาห์มีชื่อเสียง และกลายเป็นขวัญใจของชาวเน็ตทั่วโลก รวมถึงในแดนอาทิตย์อุทัย ที่ทำให้เธอได้ก้าวเข้าสู่โลกบันเทิงของที่นั้น มีทั้งงานถ่ายแบบ, ออกรายการโทรทัศน์ต่างๆ และได้ออกผลงานเพลงด้วย

แต่แล้วในเดือน ส.ค. 2008 นางแบบสาวคนดังที่ขณะนั้นมีอายุเพียง 21 ปี ได้ประกาศข่าวที่สร้างความตกตะลึกให้กับทุกฝ่าย เมื่อเธอยอมรับว่าได้ตั้งครรภ์กับสไตลิสต์หนุ่มวัย 31 ปี ที่มีชื่อว่า "บัน" และไม่นานจากนั้นทั้งสองจึงจูงมือกันเข้าประตูวิวาห์

ลีอาห์ ดิซอน ได้ให้กำเนิดลูกสาวเมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2009 แต่แล้วหลังจากใช้ชีวิตคู่เพียงประมาณ 2 ปี ในเดือน ต.ค. ปี 2010 นางแบบสาวจึงยอมรับว่าได้ตัดสินใจแยกทางกับสามีสไตลิสต์คนนี้แล้ว ซึ่งหลังจากการดำเนินเรื่องทางกฏหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับสิทธิ์การเลี้ยงดูลูกน้อย ลีอาห์ จึงได้กลับมาเป็นโสดอีกครั้งเมื่อช่วงปลายปีก่อนนี่เอง

ขณะเดียวกันสื่อจากประเทศญี่ปุ่นเชื่อว่าขณะนี้ ลีอาห์ ใช้ชีวิตอยู่กับลูกสาวอยู่ที่ กรุงนิวยอร์ก นอกจากนั้นเธอยังหาโอกาสเรียนรู้การแสดงเพิ่มเติม โดยผู้ใกล้ชิดได้ยืนยันว่านางแบบสาววัย 24 ปี มีแผนจะเริ่มต้นการทำงานที่นั่น แต่ก็ไม่ปิดโอกาส ที่จะเดินทางกลับมารับงานในประเทศญี่ปุ่นที่มีแฟนๆ ของเธออยู่เป็นจำนวนมากแต่อย่างใด

Manager Online

"ทัค มัตซึโมโตะ" (Tak Matsumoto) กระหึ่มวงการดนตรีโลก คว้ารางวัลแกรมมี่

Submitted by canjamm on 15 กุมภาพันธ์, 2011 - 17:36

งานมอบรางวัลแกรมมี่ครั้งล่าสุด ดูจะเป็นค่ำคืนที่ดีของศิลปินจากแดนอาทิตย์อุทัย เพราะมีนักดนตรีชาวญี่ปุ่น ที่มีรายชื่อติดอยู่ในกลุ่มของผู้คว้ารางวัลอยู่ด้วย รวมถึง "ทัค มัตซึโมโตะ" (Tak Matsumoto) มือกีตาร์ชื่อดังแห่งวง B'z ที่สามารถคว้ารางวัลในสาขาอัลบั้มบรรเลงป็อปยอดเยี่ยมไปได้

มัตซึโมโตะ ทากาฮิโระ หรือ ทัค มัตซึโมโตะ วัย 49 ปี มือกีตาร์ระดับเทพแห่งวงร็อค B'z กลายเป็นเจ้าของรางวัลแกรมมี่ปีล่าสุด เมื่ออัลบั้ม Take Your Pick ที่เขาได้ร่วมงานกับมีกีตาร์แจ๊ซรุ่นใหญ่ แลร์รี่ คาร์ลตัน (Larry Carlton) สามารถคว้ารางวัลแกรมมี่ประจำปี 2011 ในสาขาอัลบั้มบรรเลงป็อปยอดเยี่ยมมาได้

ก่อนหน้านี้สื่อในประเทศญี่ปุ่นอย่าง Daily Yomiuri ได้กล่าวถึงอัลบั้มเพลงบรรเลงแนวผสมผสานที่ประกอบไปด้วย 12 บทเพลงชุดนี้ว่า "เป็นงานที่ผสมผสานแนวเพลงหลากหลายทั้ง แจ๊ซ, บลูส์, ร็อค และป๊อป ออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องดันทุรังมากมาย นอกจากนั้นยังให้กลิ่นอายของดนตรีฟิวชั่นแจ๊ซจากยุค 70s - 80s ที่ยังฟังสดใหม่, สนุกสนาน และร่วมสมัย"

โดยตัวของ มัตซึโมโตะ กล่าวแสดงความยินดีถึงการได้รับรางวัลครั้งนี้ว่า "ผมไม่เคยได้พูดกับใครมาก่อนนะครับ แต่รางวัลแกรมมี่เป็นหนึ่งในความใฝ่ฝันของผม เป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่" โดยนักดนตรีวัย 49 ปี อยู่ในวงการเพลงมาแล้ว 30 ปี และเป็นที่รู้จักในฐานะคู่ดูโอ่ร็อค B'z ที่มียอดขายอัลบั้มกว่า 44 ล้านแผ่น เป็นศิลปินร็อคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลกลุ่มหนึ่งของญี่ปุ่น

ซึ่งนอกจากมือกีตาร์ระดับซุปเปอร์สตาร์แล้ว ยังมีศิลปินจากแดนปลาดินมีส่วนร่วมในงานแกรมมี่ครั้งนี้อีกหลายคน

นักเปียโนวัย 62 ปี อุจิดะ มิตซึโกะ (Uchida Mitsuko) ซึ่งเป็นที่รู้จักดี ในวงการเพลงคลาสสิคระดับนานาชาติ คว้ารางวัลการแสดงเดี่ยวเปียโนกับวงออเครสต้า ในการบันทึกเสียงเพลงของโมสาร์ตกับ คลีฟแลนด์ ออเครสต้า (The Cleveland Orchestra) ขณะที่นักเปียโนวัย 31 ปี อุเอฮาระ ฮิโรมิ ก็คว้ารางวัลอัลบั้มแจ๊ซร่วมสมัยยอดเยี่ยมในฐานะส่วนหนึ่งของวง Stanley Clarke Band

นอกจากนั้น คิทาโร่ (Kitaro) ศิลปินแนวนิวเอจชื่อดัง ยังมีชื่อเป็นผู้เข้าชิงในสาขาอัลบั้มเพลงนิวเอจยอดเยี่ยม จากผลงานเพลงชุด Sacred Journey of Ku-Kai, Volume 4 ด้วย

หนังโกอินเตอร์ "ปาร์คชานวุค" (Park Chan-wook) ได้ "นิโคล คิดแมน" (Nicole Kidman), "คอลิน เฟิร์ธ" (Colin Firth) รับบทนำ

Submitted by canjamm on 14 กุมภาพันธ์, 2011 - 15:57

"ปาร์คชานวุค" (Park Chan Wook) ยอดผู้กำกับแดนโสม กำลังจะได้เปิดตัวทำหนังภาษาอังกฤษเป็นเรื่องแรก ในภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า Stoker ที่งานนี้จะได้ยอดนักแสดงหญิงชาวออสเตรเลีย "นิโคล คิดแมน" (Nicole Kidman) และว่าที่นักแสดงรางวัลออสการ์ "คอลิน เฟิร์ธ" (Colin Firth) มารับบทนำ

Stoker ภาพยนตร์แนวลึกลับ ที่นักแสดงสาวดาวรุ่ง มีอา วาซิโควสกา (Mia Waskiowska) [Alice in Wonderland, The Kids Are All Right] จะสวมบทบาทเป็นเด็กสาว ที่ได้พบกับลุงผู้ลึกลับ ภายหลังพ่อของเธอเสียชีวิตลง โดยสองนักแสดงที่ได้ลุ้นรางวัลออสการ์ครั้งล่าสุด นิโคล คิดแมน และ คอลิน เฟิร์ธ ถูกวางตัวไว้ในบทแม่และลุง ของ วาซิโควสกา ตามลำดับ

สิ่งที่น่าสนใจอีกประการก็คือ Stoker เป็นภาพยนตร์ที่เขียนบทโดย เวนท์เวิร์ธ มิลเลอร์ นักแสดงหนุ่มซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีจากซีรีส์ Prison Break และภาพยนตร์เรื่อง Resident Evil 4 นั่นเอง โดยก่อนหน้านี้เคยมีการวางตัว โจดี้ ฟอสเตอร์ และ แครีย์ มัลลิแกน ในบทนำของ Stoker มาแล้ว ก่อนที่นักแสดงหญิงทั้งสองจะถอนตัวออกจากโปรเจ็คไปในเวลาต่อมา

ปาร์คชานวุค วัย 47 ปี เป็นผู้กำกับชาวเกาหลีใต้ ที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่ง ในวงการภาพยนตร์นานาชาติยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะภาพยนตร์เรื่อง Oldboy ที่ทำให้เขาได้รับรางวัลจากเทศกาลหนังเมืองคานส์มาแล้ว

ซึ่ง Fox Searchlight มีแผนการจะเปิดกล้อง Stoker ภายในฤดูใบไม้ผลินี้ โดยทั้ง เฟิร์ธ และคิดแมน มีนัดพบปะพูดคุยกับ ปาร์คชานวุค เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับภาพยนตร์ภายในช่วงสัปดาห์นี้

Slashfilm / Manager Online

Elly Tran ปิศาจเซ็กซี่ จุ๊กหมื่งนามเหมย!

Submitted by canjamm on 4 กุมภาพันธ์, 2011 - 14:42

เปิดรอบปฐมทัศน์ในกรุงฮานอยสัปดาห์ที่แล้ว เอลลี เจิ่น สาวลูกครึ่งเวียดนาม-จีน แจ้งเกิดในภาพยนตร์เรื่องแรก แนวสยองขวัญ-หรรษาระบบ 3 มิติเรื่องแรกของเวียดนามที่ถ่ายทำในประเทศ

ASTVผู้จัดการออนไลน์-- ปิศาจสาวแสนสวย เอลลี เจิน (Elly Tran Ha) ถ่ายภาพชุดนี้มาพักใหญ่ๆ แล้ว เตรียมเอาไว้สวัสดีมีชัยปีใหม่ปีแมว และ โปรโมทหนังเรื่องแรกของเธอ "บ๊ง-มา-ห็อก-เดื่อง" -- ผีโรงเรียน-- ภาพยนตร์แนวสยองขวัญหรรษา และ ยังเป็นภาพยนตร์ 3D เรื่องแรกของประเทศอีกด้วย

ดาราสาวลูกครึ่งเวียดนาม-จีน ผู้มีหน้าอกหน้าใจเป็นบัตรผ่านประตู กล่าวว่าเธอเหนื่อยชนิดหายใจหอบแฮ็กๆ เพราะว่ตั้งใจแสดงบทสำคัญต่างๆ ด้วยตัวเองล้วนๆ ไม่ใช้ผู้แสดงแทนเด็ดขาด

บทนักเรียนสาววัยรุ่นกระโดดตึกตายลงไปจากชั้่น 4 ของอาคารเรียนนั้น เอลลีบอกว่าเธอต้องโหนลวดสลิงเท็คแล้วเท็คเล่า กว่าจะถูกใจเลบ่าวจุง (Le Bao Trung) ผู้กำกับ ก็ยอกไปทั้งเอว ปวดเมื่อยไปหมด แต่ก็เป็นฉากที่เอลลี่ได้รับคำชมจากเหล่านักวิจารณ์ ซึ่งยกนิ้วให้กับนักแสดงหน้าใหม่

ภาพยนตร์ "ผีโรงเรียน" ฉายรอบปฐมทัศน์สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาในกรุงฮานอย ต้อนรับเทศกาลตรุษ มีมิตรรักแฟนๆ ดารานางแบบ และบรรดาไฮโซของเมืองหลวงไปชมกันคับคั่งทีเดียว

VietnamExpress / Manager Online

"โบอา" (BoA) เตรียมเปิดตัวเล่นหนังฮอลลีวูด

Submitted by canjamm on 29 มกราคม, 2011 - 17:12

"โบอา" (BoA) นักร้องสาวชื่อดังของเกาหลีเตรียมเปิดตัวในวงการฮอลลีวูด หลังรับเล่นภาพยนตร์ COBU 3D เตรียมออกฉายปีหน้านี้

โบอา นักร้องสาวขาแดนซ์ของเกาหลีเตรียมประกบกับ เดอเร็ค ฮูจ (Derek Hough) แชมป์จากเรียลลิตีชื่อดัง Dancing with the Stars โดยทั้งคู่จะรับบทเป็นนักเต้นที่เติบโตในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันอย่างมาก และจากนั้นทั้งคู่ก็ต้องมาปะทะแข่งขันกันหลังจากที่พบกันครั้งแรกในคลับใต้ดินแห่งหนึ่งในนิวยอร์ค แม้ว่าจะเริ่มต้นด้วยร้าย แต่ในที่สุด ทั้งคู่ก็ลงท้ายด้วยรักไม่ต่างจากโรมิโอ แอนด์ จูเลียตเลยทีเดียว

ดูแอน แอดเลอร์ (Duane Adler) รับหน้าที่กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้โดยเขาเคยมีผลงานแนวนี้มาแล้วจากเรื่อง Save the Last Dance และ Step Up โดยได้โปรดิวเซอร์โรเบิร์ต คอร์ท (Robert Colt) มาร่วมงานด้วย รวมถึงทีมงานจาก CJ Entertainment และ SM Entertainment

ภาพยนตร์เรื่อง COBU 3D นี้มีเป้าหมายที่จะสร้างให้แตกต่างจากภาพยนตร์เกี่ยวกับการเต้นทั่วไปที่ล้วนแต่โฟกัสไปที่เรื่องการแข่งขันเต้นเสียเป็นส่วนใหญ่แทนที่จะเน้นเนื้อหาการเต้นที่จริงจัง ภาพยนตร์เรื่องนี้จะอิงเรื่องราวของความรักที่สวยงามรวมทั้งการนำเสนอการเต้นในรูปแบบหลากหลายสไตล์ทั้ง แท็ป, ฮิปฮอป และ สวิง

ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกวางแผนให้เข้าฉายช่วงต้นปีหน้านี้ โดย CJ Entertainment จะทำการจัดฉายใน เกาหลี, จีน และญี่ปุ่น ส่วนทาง Lionsgate International จะเป็นตัวแทนจำหน่ายภาพยนตร์เรื่องนี้ในตลาดสากล โดยพวกเขาวางแผนที่ขายพรี-เซลล์ที่งาน เบอร์ลิน อินเตอร์เนชันแนล ฟิล์ม เฟสติวัล ในเดือน ก.พ. ที่จะถึงนี้

ขณะเดียวกันทางโบอา ก็เตรียมตัวที่จะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ช่วงฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะมาถึง

Manager Online

"เจย์ โจว" (Jay Chou) ไม่เสียใจ "คาเมรอน ดิแอซ" (Cameron Diaz) ปฏิเสธไม่เล่นบทจูบ

Submitted by canjamm on 26 มกราคม, 2011 - 17:43

แม้จะต้องพลาดบทเลิฟซีนกับ "คาเมรอน ดิแอซ" (Cameron Diaz) ในภาพยนตร์เปิดตัวฮอลลีวูดเรื่อง The Green Hornet แต่งานนี้ "เจย์ โจว" (Jay Chou) ไม่สนใจและไม่คิดเสียดายใดๆทั้งสิ้น

เจย์ โจว หรือ โจวเจี๋ยหลุน ซูเปอร์สตาร์ชื่อดังของเอเชียได้กลายเป็นนักแสดงเอเชียหน้าใหม่ที่โลดแล่นในวงการฮอลลีวูดหลังได้ร่วมงานกับ เซธ โรเกน ในภาพยนตร์เรื่อง The Green Hornet

แต่งานนี้ เจย์ ที่รับทเป็น คาโต้ คนขับรถสวมหน้ากากเพื่อนคู่หูของซูเปอร์ฮีโร่ ( เดิมบทคาโต้แสดงโดยหนุ่มนักบู๊ระดับตำนานอย่าง บรูซ ลี (Bruce Lee) ในยุค 1960 ที่เคยออกฉายทางทีวี) ก็ถูกสาวคาเมรอน ดิแอซ ปฏิเสธที่จะเล่นบทจูบเมื่อถึงฉากดังกล่าว

"เราอยากให้เจย์จูบคาเมรอน แต่ผมคิดว่าเธอคงไม่อยากทำ เพราะเธอรู้สึกว่ามันจะทำให้เรื่องราวซับซ้อนขึ้นไปอีก เธอเลยไม่ตกลง เธอเป็นคนพูดเองเลยว่าไม่" กอนดรี ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้กล่าว

ทางด้านเจย์ โจว เองก็ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้มากนัก แต่เขาสนใจเกี่ยวกับการบุกตลาดในอเมริกามากกว่า โดยเขาไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องที่เขามีภาพยนตร์เรื่องอื่นมาเสนอบทใหม่ๆให้หรือไม่ แต่เขาหวังที่จะโด่งดังที่อเมริกาในฐานะนักร้อง ไม่ใช่ในฐานะนักแสดง

"ภาษาอังกฤษคือสิ่งที่ผมต้องพยายามอย่างหนัก เพราะนั่นไม่ใช่ภาษาแม่ของผม แต่ผมก็ไม่ได้ต้องการร้องเพลงเป็นภาษาอังกฤษเพื่อจะได้บุกตลาดอเมริกา" เจย์ โจว ให้สัมภาษณ์กับสื่อเป็นภาษาจีน

เจ้าตัวยังระบุเพิ่มเติมด้วยว่า เขาหวังว่าเพลงในตอนจบที่เป็นเพลงภาษาจีนกลางของเขาจะทำให้ชาวอเมริกาให้ความสนใจในเพลงป็อปจีนมากขึ้น

"ผมซาบซึ้งที่กอนดรีเลือกใช้เพลงของผม ผมหวังว่าคนจะจดจำผมได้ ไม่ใช่ในฐานะนักแสดงบู๊ แต่เป็นฐานะนักร้องจากเอเชีย" เจย์ โจว กล่าว

นักร้องหนุ่มวัย 32 ปี ที่มียอดขายอัลบั้มรวมแล้วกว่า 32 ล้านแผ่น ได้กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า "ผมอยู่ในแวดวงเพลงป็อปจีนมานานกว่า 10 ปี แต่ในอเมริกาผมรู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่ไม่มีใครรู้จักผมเลย"

"ผมหวังว่าคนในอเมริกาจะเริ่มค้นหาชื่อของผมใน Google หลังจากที่ได้ชมภาพยนตร์และได้เรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับเพลงป็อปจีน และได้ชมมิวสิควิดีโอของผม"

Confessions จากญี่ปุ่น เข้ารอบ 9 เรื่องสุดท้าย 'ออสการ์' หนังภาษาต่างประเทศ

Submitted by canjamm on 21 มกราคม, 2011 - 12:08

Confessions ภาพยนตร์จากประเทศญี่ปุ่น ได้เป็น 1 ในหนัง 9 เรื่องที่เข้าสู่รอบ 2 ของการประกวดภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศของเวทีออสการ์

Confessions เล่าเรื่องราวของ โยโกะ โมริกูจิ ครูโรงเรียนชั้นมัธยมที่ต้องหัวใจสลายเมื่อพบว่าลูกสาววัย 4 ขวบของเธอถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม โมริกูจิ เริ่มสงสัยว่าเด็กนักเรียนในชั้นของเธอ 2 คน อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่ไม่มีใครยอมเชื่อ จึงเริ่มต้นลงมือการแก้แค้น หาวิธีฆ่าเด็กฆาตกรทั้งสองด้วยตนเอง ที่สุดท้ายแล้วมันอาจส่งผลกระทบมากมาย และความจริงอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เธอคิดเสมอไป

หนังสุดดังแห่งปีของประเทศญี่ปุ่นเรื่องนี้ เป็นผลงานการสร้างของโตโฮ เปิดฉายเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2010 เป็นผลงานเรื่องล่าสุดของ นากาชิม่า เท็ตซึยะ ที่ได้นักแสดงสาวคนดัง ทาคาโกะ มัตสึ (Takako Matsu) มารับบทครูโรงเรียนมัธยมผู้เย็นชา ที่พยายามสังหารลูกศิษย์ของตัวเอง เป็นงานที่เต็มไปด้วยความหดหู่ แต่กลับกลายเป็นหนังฮิตที่ประเทศญี่ปุ่น และสามารถยึดครองอันดับ 1 บนตารางหนังทำเงินได้ถึง 4 สัปดาห์ติดต่อกัน

Confessions และหนังอีก 8 เรื่องจากทั่วโลก ผ่านกระบวนการคัดเลือกหนังรูปแบบใหม่ที่เริ่มใช้ตั้งแต่ 3 ปีก่อน ภายหลังการประกวดสาขาหนังต่างประเทศของออสการ์ ถูกวิจารณ์อย่างหนักมาตลอดว่ามักจะมองข้ามหนังดี แต่ไม่ดัง

ในกระบวนการดังกล่าว กรรมรอบแรกกว่า 250 คน ที่เป็นสมาชิกของสถาบันศิลปะ และวิทยาการภาพยนตร์แห่งชาติสหรัฐอเมริกา จะใช้เวลา 3 เดือนดูหนังกว่า 65 เรื่องที่ผ่านเข้ารอบแรกมา และให้คะแนนตั้งแต่ 6 - 10 โดยหนัง 6 เรื่องที่มีคะแนนสูงสุดจะได้เข้ารอบไปโดยอัตโนมัติ หลังจากนั้นคณะกรรมการพิเศษ 20 ท่านจะมาประชุมกันเพื่อเลือกหนังอีก 3 เรื่องเพื่อให้ครบ 9 เรื่อง โดยหนัง 3 เรื่องดังกล่าว ควรเป็นงานที่มีความพิเศษ แต่อาจถูกมองข้ามจากกรรมการชุดใหญ่ ที่ค่อนข้างจะมีรสนิยมไปในทางอนุรักษ์นิยม

ซึ่งขั้นตอนการคัดเลือกรอบสุดท้ายจะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 21 - 23 ม.ค. นี้ โดยกรรมการย่อย 30 คน (20 คน ในลอสแอนเจลิส และ 10 คน ใน นิวยอร์ก) จะดูหนังทั้ง 9 เรื่องภายใน 3 วัน เพื่อหาข้อสรุปสำหรับหนัง 5 เรื่องสุดท้ายต่อไป

The Green Hornet เปิด 34 ล้านฯ, เปิดตัว "เจย์ โจว" (Jay Chou) ในฮอลลีวูด

Submitted by canjamm on 17 มกราคม, 2011 - 19:53

ซุปเปอร์สตาร์แห่งเกาะไต้หวัน "เจย์ โจว" (Jay Chou) เปิดตัวในฮอลลีวูดด้วยผลงานการแสดงในหนังภาษาอังกฤษเรื่องแรก The Green Hornet กับตัวเลขรายได้ 34 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการเข้าฉาย 3 วันแรก

The Green Hornet หนังซุปเปอร์ฮีโร่เรื่องใหม่จากฮอลลีวูดที่มี เซ็ธ โรแกน รับบทเป็นหนุ่มเพลย์บอยที่ผันตัวเป็นนักล่าอาชญากรทำรายได้เปิดตัว 3 วันแรก 34 ล้านเหรียญฯ ซึ่งนอกจากนักแสดงฮอลลีวูดอย่าง โรแกน, แคเมรอน ดิเอซ และ คริสตอฟ วอลซ์ แล้ว หนังเรื่องนี้ยังมี เจย์ โจว หรือ โจวเจี๋ยหลุน ร่วมรับบทเด่นในผลงานระดับโลกเป็นครั้งแรก กับการแสดงเป็นตัวละครที่มีชื่อว่า 'เคโต้' ซึ่งดาวบู๊ในตำนาน บรูซ ลี เคยสวมบทบาทจนโด่งดังมาแล้ว

รอรี่ บรูเออร์ หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายของ Sony พูดถึงผลตอบรับของหนังเรื่องนี้ว่า "หนังไปได้สวยทีเดียว คนดูรักมันมาก ๆ ผมคิดว่าหนังทำได้ดีในทุก ๆ ด้าน จังหวะเวลาในการเข้าฉาย, การตลาด และที่สำคัญที่สุดก็คือคุณภาพของหนังเอง ทุกอย่างผสานกันไปในทางที่ดี เราพอใจกับผลที่ออกมามาก"

The Green Hornet เป็นผลงานของผู้กำกับชาวฝรั่งเศส มิเชล กอนดรี้ ที่หันมาจับงานแอ็กชั่นทุนสูงเป็นครั้งแรก โดยหนังใช้ทุนสร้างประมาณ 120 ล้านเหรียญฯ

อันดับ 2 เป็นของหนังตลกจาก Universal ผลงานของผู้กำกับ รอน ฮาวเวิร์ด The Dilemma ที่ว่าด้วยความรัก, ความลับ และการนอกใจ ซึ่งได้สองหนึ่ม วินซ์ วอห์น และเควิน เจมส์ มารับบทนำ ร่วมกับนักแสดงสาวคนดังแห่งยุค 90 วิโนน่า ไรเดอร์ และเจนนิเฟอร์ คอลเนลลี่ โดยหนังทำรายได้ไป 17.4 ล้านเหรียญฯ จากทุนสร้างประมาณ 40 ล้านเหรียญฯ

ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่เวทีการประกาศรางวัลลูกโลกทองคำ ทำให้หนังคุณภาพหลาย ๆ เรื่องที่ได้ลุ้นรางวัล ได้รับอานิสงส์ดังกล่าวไปตาม ๆ กัน โดยเฉพาะสองตัวเต็ง The King's Speech ที่ทำรายได้เพิ่มไป 9 ล้านเหรียญฯ (เพิ่มจากสัปดาห์ก่อนถึง 41%) และ Black Swan ซึ่งบวกเงินเพิ่มไปอีก 8.1 ล้านเหรียญฯ

Will.i.Am พูดถึง 2NE1

Submitted by canjamm on 17 มกราคม, 2011 - 19:47

Will.i.Am นักร้องนำและนักแต่งเพลงชื่อดังแห่งวง Black Eyed Peas ได้โพสต์ข้อความถึง 2NE1 เกี่ยวกับอัลบั้มใหม่ของเกิร์ลกรุ๊ปจากเกาหลีใต้ ที่เขารับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ ว่าจะเป็นผลงานที่สุดยอดอย่างแน่นอน

เมื่อสัปดาห์ก่อน Will.i.Am ได้ตอบคำถามของแฟน ๆ ผ่านทางทวิตเตอร์ถึงผลงานอัลบั้มภาษาอังกฤษชุดแรกของ 2NE1 ที่เขาทำหน้าที่โปรดิวเซอร์ให้ว่า "ผมรอไม่ไหวแล้ว ที่จะทำงานชิ้นนี้ให้เสร็จ สิ่งที่เราทำมาถึงตอนนี้ มันยอดเยี่ยมมาก ๆ"

ย้อนไปเมื่อเดือน ส.ค. ปีก่อน ยางฮยอนซอก ซีอีโอ และผู้ก่อตั้งบริษัท YG Entertainment ได้ประกาศว่า สาว ๆ 2NE1 ได้เสร็จสิ้นการบันทึกเสียงผลงานเพลงทั้งหมด 10 เพลงกับ Will.i.Am ที่รับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ และจะช่วยเปิดตัวกลุ่มศิลปินสาวจากแดนกิมจิกลุ่มนี้ สู่ตลาดเพลงสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตามในตอนนั้น ซีอีโอ คนดังอธิบายว่า เขายังไม่สามารถเปิดเผยกำหนดการณ์ หรือรายละเอียดต่าง ๆ ของอัลบั้มชุดนี้ได้ เพราะ Will.i.Am ยังยุ่งอยู่กับการทำงานสำหรับอัลบั้มใหม่ของตัวเอง ในเวลาเดียวกัน 2NE1 จึงเลือกที่จะเซ็นสัญญากับ Avex บริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีกำหนดออกผลงานในแดนอาทิตย์อุทัยในช่วงเดือนหน้านี้แล้ว

นับแต่เปิดตัวเมื่อเดือน พ.ค. ปี 2009 2NE1 กลายเป็นหนึ่งในเกิร์ลกรุ๊ปที่โด่งดังที่สุด ในเกาหลีใต้ในยุคปัจจุบัน ผลงานชุด To Anyone อัลบั้มล่าสุดของพวกเธอ ซึ่งประกอบไปด้วยเพลงอย่าง Go Away, Clap Your Hands และ Can't Nobody กลายเป็นงานที่กวาดทั้งเงิน กวาดทั้งกล่อง จนทำให้ 4 สาวมีงานแสดงคอนเสิร์ตใหญ่ต่อเนื่องข้ามมาถึงช่วงต้นปี 2011 นี้เลยทีเดียว

Manager Online

ภาพแรก "มิเชล โหย่ว" (Michelle Yeoh) สวมบทเป็น "ออง ซาน ซูจี" (Aung San Suu Kyi) ในหนังของ "ลุค แบซง"

Submitted by canjamm on 22 ธันวาคม, 2010 - 14:07

ผู้ผลิตภาพยนตร์เรื่อง The Lady ที่จะเล่าเรื่องประวัติชีวิตของ "ออง ซาน ซูจี" (Aung San Suu Kyi) ได้เผยภาพแรกชุดของ "มิเชล โหยว" (Michelle Yeoh) ในการสวมบทบาทสตรีผู้นำการต่อต้านรัฐบาลทหาร ในประเทศพม่าแล้ว โดยหนังถ่ายทำฉากต่าง ๆ ไปพอสมควร และมีกำหนดปิดกล้องในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า

เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา มิเชล โหย่ว หรือ หยางจื่อฉุงนักแสดงหญิงชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน ซึ่งเป็นที่รู้จักจากแฟนหนังทั่วโลกในผลงานอย่าง Crouching Tiger, Hidden Dragon และ หนัง เจมส์ บอนด์ ตอน Tomorrow Never Dies ได้เดินทางเยือนพม่าเพื่อเข้าพบ ออง ซาน ซูจี ที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระ เพื่อพูดคุยถึงรายละเอียดต่าง ๆ ในการสวมบทบาทเป็นเธอในภาพยนตร์เรื่องใหม่ ที่ขณะนี้ได้ถ่ายทำกันไปได้พอสมควรแล้ว

มิเชล โหย่ว กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "สิ่งแรกที่เราทำก็คือการสวมกอดกันค่ะ และฉันก็คิดอยู่ในใจว่า 'เธอผอมมากจริง ๆ' หัวข้อแรกเราคุยกันก็คือ เรื่องที่ว่าทำไมรายการวิทยุของ BBC World Service ถึงไม่มีรายการเพลงมากกว่านี้"

"คุณจะรู้สึกถึงความสงบเมื่ออยู่ใกล้ชิดกับเธอ เธอเป็นคนที่ภูมิใจในวัฒนธรรมของตัวเองเป็นอย่างมาก และนำเสนอมันออกมาด้วยความมีเกียรติ และความงดงาม เป็นคนที่เต็มไปด้วยสง่าราศี" นักแสดงหญิงคนดังเล่าถึงการได้พบกับ ออง ซาน ซูจี

ผู้อำนวยการสร้าง แอนดี้ แฮร์รีส์ กล่าวถึง The Lady หนังชีวประวัติสตรีผู้โด่งดังชาวพม่า เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ที่จะกำกับโดย ลุค แบซง ยอดผู้กำกับชาวฝรั่งเศส ว่าจะประกอบไปด้วย "เรื่องรักที่วิเศษสุด ... ที่ไม่เคยมีใครรู้"

โดยขณะนี้หนังที่ยกกองเข้ามาถ่ายทำบางส่วนในประเทศไทย อยู่ในช่วงท้าย ๆ ของการถ่ายทำแล้ว ซึ่งนอกจาก มิเชล โหย่ว แล้ว เดวิด ธิวลิส ซึ่งเป็นที่รู้จักจากการรับทเป็น รีมัส ลูปิน ตัวละครสำคัญใน Harry Potter จะสวมบทบาทเป็น ดร. ไมเคิล อริส สามีผู้ล่วงลับของซูจี โดยหนังจะเล่าถึงเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของซูจี รวมถึงการถูกจับกุมในปี 1989 และถูกกักบริเวณในบ้านพักเป็นเวลาถึง 24 ปี ซึ่งชื่อเรื่องที่ว่า The Lady ก็คือคำที่ชาวพม่าเรียกขานเธอนั่นเอง

เกาะกระแสเค-ป็อป เด็กอเมริกันเต้นเพลงเกาหลีโชว์ในโรงเรียน

Submitted by canjamm on 20 ธันวาคม, 2010 - 16:13

เรียกได้ว่ากระแสเค-ป็อปกำลังมาแรงอย่างมากและระบาดไปในหลายๆประเทศ ซึ่งล่าสุดโรงเรียนสอนเต้นในอเมริกาจับเด็กนักเรียนเต้นเพลงเกาหลีโชว์เพื่อนๆในโรงเรียน

โรงเรียนสอนเต้น Groove Nation Academy ที่จัดตั้งขึ้นในแวนคูเวอร์ และ วอชิงตัน ได้รวบรวมเด็กๆนักเรียนของสถาบันเต้นเพลงเกาหลีอิงกระแสเค-ป็อป ให้เพื่อนๆนักเรียนได้ดูที่ Heritage High School

ซึ่งคลิปดังกล่าวได้เป็นที่พูดถึงอย่างมากในบรรดาชาวเน็ตที่ชื่นชอบเกาหลี โดยผู้ที่โพสท์คลิปดังกล่าวลงใน YouTube ได้อธิบายถึงที่มาที่ไปของคลิปด้วยว่า

"Groove Nation ได้จัดให้มีการเต้นตามกระแสเค-ป็อปที่กำลังเพิ่มขึ้นตอนนี้ โดยครูฝึกสอน จูลีโอ ฟอนเตส (Julio Fuentes) ได้มีการเพิ่มท่าเต้นเข้าไปและยังคงไว้ซึ่งท่าเต้นอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบทเพลงที่ถูกนำมารวมเป็นเมดเลย์"

"นี่เป็นครั้งแรกที่มีการเต้น เค-ป็อป ของสถาบัน GN ที่โรงเรียน Herritage High School ยังคงไม่พร้อมเพรียงในบางส่วน แต่เราหวังว่าคุณจะชอบ"

* ไม่มีเจตนาละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

เพลง

I My Me Mine - 4minute
HUH - 4minute
Nobody - Wondergirls
Lollipop - Big Bang & 2NE1
Muzik - 4minute
Bang! - After School
Chitty Chitty Bang Bang - Lee Hyori ft. Ceejay

วิดีโอดังกล่าวได้รับการบอกต่อและเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็วในเกาหลี ซึ่งตามเว็บบอร์ดต่างๆก็มีการพูดถึงเรื่องนี้อย่างมากและคลิปนี้ก็มีผู้ชมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วซึ่งปัจจุบันมีผู้เข้าชมกว่า 300,000 ครั้งแล้ว

Groove Nation presents: K-Pop @ Heritage

Manager Online

"เติ้งเชา" (Deng Chao), "แอนนี่ อี้" (Annie Yi) รับบทนำ ในหนังอีโรติก The Lover II

Submitted by canjamm on 20 ธันวาคม, 2010 - 13:34

นักแสดงหนุ่มชื่อดังชาวจีน "เติ้งเชา" (Deng Chao) และ "แอนนี่ อี้" (Annie Yi Nengjing) นักแสดงสาวชาวไต้หวัน ได้รับเลือกให้ร่วมแสดงใน The Lover II หนังอีโรติกภาคต่อสุดดัง ของผู้กำกับชาวฝรั่งเศส "ฌ็อง-ฌัก อาโนลด์" (Jean-Jacques Annaud) ที่ขณะนี้ได้เริ่มต้นถ่ายทำในฝรั่งเศส และจีนไปแล้ว

หลังจาก เหลียงเจียฮุย (Tony Leung Ka-fai) เคยโด่งดังเป็นหนุ่มเซ็กซี่ระดับโลก จากหนังอีโรติกสุดคลาสสิค The Lover ที่ดัดแปลงมาจากงานเขียนของ มาร์เกอริต ดูราส เมื่อ 18 ปีก่อน

ล่าสุดผู้กำกับดัง ฌ็อง-ฌัก อาโนลด์ ได้สร้างหนังภาคต่อของงานชิ้นนี้ขึ้นแล้ว โดยเลือกเอานักแสดงหนุ่มชาวจีน เติ้งเชา ให้มารับบทนำ หลังจากตัวของผู้กำกับได้เห็นการแสดงในหนังเรื่องหนึ่งของเขา ระหว่างเยือนจีนเมื่อไม่นานมานี้

The Lover II จะเป็นเรื่องราวความรักระหว่างชายหนุ่มจีนบุตรชายของครอบครัวที่ร่ำรวย และแฟนสาวฝรั่งเศสของเขา โดยหนังได้เริ่มต้นถ่ายทำในปารีส ประเทศฝรั่งเศสไปบ้างแล้ว ขณะที่ล่าสุดได้เดินทางเข้ามาถ่ายทำบางส่วนในกรุงปักกิ่ง กับฉากเต้นรำแทงโก้ระหว่างตัวละครที่รับบทโดย เติ้งเชา และสาวชาวจีนคนหนึ่ง ที่สวมบทบาทโดยนักแสดงชาวไต้หวัน แอนนี่ อี้เหนิงจิง

ย้อนหลังไปเมื่อหลายปีก่อน The Lover เป็นหนังอีโรติกร่วมทุนกันสร้างระหว่างฝรั่งเศส, อังกฤษ และสหรัฐฯ ด้วยทุนสร้างสูงถึง 30 ล้านเหรียญฯ มีฉากหลังของเรื่องราวอยู่ในกรุงไซง่อน กับเรื่องราวความสัมพันธ์ของหนุ่มชาวจีน กับสาวน้อยชาวต่างชาติ

ซึ่งแม้จะทำเงินในสหรัฐฯ ไปเพียง 4.75 ล้านเหรียญฯ แต่ The Lover ก็กลายเป็นงานที่หลาย ๆ คนยังจดจำได้โดยเฉพาะนางเอกของเรื่อง ดาราสาวชาวอังกฤษ เจน มาร์ช (Jane March) ที่แสดงหนังเรื่องตั้งขณะที่เธอมีอายุ 17 ปีเท่านั้น และผมเปีย กับหมวกปีก ที่เธอสวมใส่ในหนังเรื่องนี้ ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของเจ้าตัวมาจนถึงปัจจุบัน

โดย มาร์ช ที่ขณะนี้มีอายุ 37 ปีแล้ว จะกลับมารับบทนำใน The Lover II ด้วย

สำหรับ เติ้งเชา วัย 31 ปี เป็นชาวหนานชาง, มณฑลเจียงซี และเป็นที่รู้จักจากซีรีส์ จักรพรรดิคังซี รวมถึงภาพยนตร์เรื่อง Assembly และ Detective Dee and the Mystery of the Phantom Flame