ข่าวอื่นๆ

“เฉินหลง” (Jackie Chan) นักแสดงดาวบู๊ชื่อดัง เปิดปากเผยถึงเรื่องประเด็นการเมืองให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้งแล้ว โดยล่าสุด เจ้าตัวพูดถึงพี่ใหญ่อเมริกาว่าเป็นประเทศที่มีการคอร์รัปชันมากที่สุดในโลก ทำเอาชาวมะกันถึงขั้นรับไม่ได้กันเลยทีเดียว
       
       เฉินหลง ที่กำลังมีผลงานล่าสุดอย่าง Chinese Zodiac และมีชื่อเสียงอย่างมากในอเมริกาได้ทำให้แฟนๆ ชาวมะกันของเขาออกอาการไม่ปลื้มแล้ว หลังการวิพากษ์วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนของเขา
       
       โดยระหว่างให้สัมภาษณ์ เฉินหลง ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า “ถ้าคุณพูดถึงเรื่องการคอร์รัปชัน ทั้งโลกนี้เลยนะ คุณว่าอเมริกาไม่มีการคอร์รัปชันเลยหรือไง?” จากนั้นเฉินหลงยังกล่าวเพิ่มเติมถึงอเมริกาอย่างเผ็ดร้อนว่า อเมริกานี่แหละเป็นประเทศที่มีการคอรัปชันมากที่สุดในโลกแล้ว
       
       “วิกฤตทางการเงินที่ยิ่งใหญ่นี้มันกำเนิดมาจากที่ไหนล่ะ? มันเริ่มต้นอย่างเห็นได้ชัดว่ามาจากโลกที่เรียกว่าอเมริกา เมื่อครั้งที่ผมเคยให้สัมภาษณ์ในอเมริกา มีคนถามผมผมก็พูดแบบเดียวกันนี่แหละ” นักแสดงดาวบู๊ ยังกล่าวต่อไปด้วยว่า “ผมพูดเลยว่าตอนนี้จีนกำลังแข็งแกร่ง ทุกๆคนต่างก็ตั้งประเด็นเกี่ยวกับจีน ถ้าคนในประเทศเราไม่สนับสนุนประเทศของเราเองแล้วใครจะมาสนับสนุนประเทศเราล่ะครับ? เรารู้ดีว่าประเทศเรามีปัญหามากมาย เราสามารถพูดเรื่องพวกนี้ได้เป็นการภายใน แต่กับคนนอกเราจะพูดว่าประเทศเราเยี่ยมยอดที่สุดแล้ว”
       

หลังจากที่มิวสิควิดีโอกังนัมสไตล์ (Gangnam Style) มียอดวิวผู้ชมทะลุพันล้านวิวไปแล้ว ล่าสุด "ไซ" (Psy) นักร้องดังจากแดนกิมจิ เตรียมปรากฏตัวให้ผู้ชมหลายร้อยล้านคนได้ยลโฉมเขาอีกครั้งผ่านทางโฆษณา โดยจะออนแอร์ให้ได้ชมระหว่างศึกการแข่งขันซูเปอร์โบว์ล
       
       ตามรายงานจาก ยูเอสเอ ทูเดย์ ระบุว่า ไซ นักร้องดังเจ้าของเพลงฮิตกังนัมสไตล์ ที่มีผู้ชมกว่าพันล้านครั้งใน YouTube เตรียมเล่นโฆษณา Wonderful Pistachios "เขาใส่เสื้อสูทสีเขียวพิสตาชิโอและจะแสดงท่าทางสุดพิเศษเพื่อเปิดพิสตาชิโอ"
       
       การแข่งขันซูเปอร์โบว์ล นับเป็นเกมส์กีฬาการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอเมริกามานานหลายปี โดยการแข่งขันซูเปอร์โบว์ลยังขึ้นชื่อว่ามีผู้ชมการถ่ายทอดสดมากที่สุดเป็นประวัติกาลของโลกติดต่อกันทุกปีด้วย และด้วยเหตุนี้เอง ไม่ว่าจะเป็นการแสดงหรือโฆษณาที่เกิดขึ้นในระหว่างช่วงพักการแข่งขันมักจะเป็นที่จับตามองอย่างมาก ซึ่งโฆษณาที่ออกอากาศในช่วงเวลาดังกล่าวยังมีอัตราค่าโฆษณาที่สูงที่สุดในโลกด้วย
       
       โดยปีนี้สถานี CBS จะทำหน้าที่ถ่ายทอดสดการแข่งขันซูเปอร์โบว์ลโดยจะได้รับรายได้จากการโฆษณาถึง 3.8 ล้านเหรียญ ต่อ 30 วินาทีที่โฆษณาออกอากาศ และด้วยอัตราค่าโฆษณาที่สูงมากนี้เอง ทำให้หลายบริษัทต่างพากันทุ่มทั้งเงินและเวลาเพื่อสร้างสรรค์โฆษณาให้ผู้ชมกว่าหลายร้อยล้านคนได้ชม โดยมีรายงานว่าผู้ชมบางส่วนที่ชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันซูเปอร์โบว์ลไม่ได้ต้องการชมเกมส์กีฬาหากแต่ต้องการชมโฆษณาที่ออกอากาศในช่วงเวลาดังกล่าวซึ่งมีการแข่งขันกันสูงมากเท่านั้นเอง
       

โตมาท่ามกลางแสงสีเสียงของฮอลลีวูดตั้งแต่ยังเป็นดาราเด็กในภาพยนตร์แฮร์รี พอตเตอร์ (Harry Potter) ส่งให้งานนี้ "เอมมา วัตสัน" (Emma Watson) นักแสดงสาวชื่อดังต้องพยายามอย่างหนักไม่ให้คนติดภาพเด็กๆของตนเอง หลังถูกเจ้าหน้าที่ร้องหาผู้ปกครองเหตุยังนึกว่าเป็นเด็กอยู่
       
       แม้ว่างานนี้สาวๆหลายคนจะปลาบปลื้มหากถูกมองว่าหน้าเด็กกว่าอายุจริง แต่กับเอมมา วัตสัน นักแสดงสาวสวยกลับไม่ปลื้มเอาเสียเลย เมื่อถูกเข้าใจผิดว่ายังเป็นเด็กอยู่
       
       โดยเอมมา สาวสวยวัย 22 ปี ได้เผยเรื่องราวประสบการณ์การเดินทางส่วนตัวของเธอเมื่อช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมาว่าเธอเดินทางเพียงลำพัง โดยต้องยื่นพาสปอร์ตให้กับเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ แต่เธอกลับถูกเข้าใจผิดหลังเจ้าหน้าที่ร้องหาผู้ปกครอง โดยเธอเผยเรื่องราวผ่านทางทวิตเตอร์ว่า
       
       ด่านตรวจหนังสือเดินทาง : "เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 12 ที่เดินทางคนเดียวเหรอ?"
       ฉัน : "ฉันอายุ 22แล้วค่ะ!!!!"
       
       "เรื่องน่าเศร้าคือนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น" นักแสดงสาวเขียนระบายความในใจ
       
       อย่างไรก็ตามทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี เมื่อเธอขอให้เจ้าหน้าที่เช็ควัน เดือน ปีเกิดของเธอเพื่อตรวจสอบอายุที่แท้จริง ก่อนจะได้รับอนุญาตให้เดินทางต่อไป
       
       เอมมา นักแสดงสาวชาวอังกฤษ ที่เกิดและเติบโตในฝรั่งเศสเป็นเวลา 5 ปี ยังเผยด้วยว่าปีใหม่นี้ เธอจะขอฝึกฝนภาษาฝรั่งเศสให้คล่อง "ฉันยังคงมีจุดหมายปีใหม่เหมือนเดิมเสมอคือ ต้องพูดภาษาฝรั่งเศสให้คล่องให้ได้ค่ะ"

Manager Online

       “ฟั่นปิงปิง” (Fan Bing Bing) เป็นนักแสดงชาวจีนคนล่าสุด ที่จะได้ปรากฏตัวในหนังฟอร์มยักษ์ Iron Man 3 โดยข่าวดังกล่าวได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ จากภาพในกองถ่าย ซึ่งดาราวัย 31 ปี จะสวมบทบาทเป็นนางพยาบาลที่มีโอกาสช่วยรักษาดูแลตัวละครเอกของเรื่อง
       
       Iron Man 3 หนังร่วมทุนของ Walt Disney Co. จากสหรัฐฯ และ DMG Entertainment จากจีน จะเป็นหนังฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์ที่หวังเจาะตลาดหนังจีนแผ่นดินใหญ่เต็มตัว นอกจากจะถ่ายทำบางส่วนที่จีนแล้ว ยังจะมีนักแสดงชาวจีนมีบทบาทหลายคน
       
       โดยหนังได้ยกกองกันไปถ่ายทำที่เซียงไฮ้ และได้ดาราฝีมือดีชาวจีนแผ่นดินใหญ่ หวังเสวี่ยฉี (Wang Xueqi) มาสวมบทบาทเป็น “ดร.หวู” นักวิทยาศาสตร์ชาวจีน ซึ่งล่าสุดยังมีการเปิดเผยว่า ดาราสาวสวยสุดเซ็กซีชาวจีน ฟั่นปิงปิง ก็จะได้ร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้ด้วย
       
       ก่อนหน้านี้ ฟั่นปิงปิง เคยกล่าวเป็นนัยว่าเธออาจจะลองรับงานหนังฮอลลีวูดดู ซึ่งหลัง Iron Man 3 เปิดกล้อง ก็มีข่าวมาตลอดว่าดาราวัย 31 ปี จะได้ร่วมแสดงในผลงานสุดฮิตจากการ์ตูนของ Marvel เรื่องนี้ด้วย แต่ตลอดการถ่ายทำก็ยังไม่เคยมีการยืนยันอย่างเป็นทางการเลย มีแต่ข่าวของ หวังเสวี่ยฉี ที่ผู้สร้างแถลงออกมาไม่นานนี้
       
       อย่างไรก็ตาม เป็นที่รู้ดีว่านักแสดงรุ่นใหญ่ หวังเสวี่ยฉี เป็นนักแสดงในสังกัด Fan Bing Bing Studio จึงทำให้ ฟั่นปิงปิง มีส่วนในการเจรจากับผู้สร้าง Iron Man 3 มาตั้งแต่ต้น สุดท้ายจึงไม่มีใครแปลกใจเมื่อในที่สุด เธอเองก็จะได้มีส่วนร่วมในหนังเรื่องนี้ด้วยจนได้
       

       ซูเปอร์สตาร์สัญชาติกิมจิประกาศบอกลาผลงานเพลงสุดฮิตของเขา โดยเฉพาะสำหรับการโปรโมตในสหรัฐอเมริกา กับการแสดงในงานใหญ่ประจำปีของชาวนิวยอร์ก

       ไซ (Psy) ได้กล่าวกับ MTV News ถึงเรื่องนี้ โดยศิลปินหนุ่มชื่อดังชาวเกาหลีใต้ เปิดเผยว่าเขามีแผน "ยุติ" เพลง Gangnam Style ที่ฮิตระเบิดมียอดคนคลิ๊กเขาไปชมใน Youtube เกินพันล้านครั้ง ในรายการพิเศษ Dick Clark's New Year's Rockin' Eve วันที่ 31 ธ.ค. ที่ถือว่าเป็นวันเกิดปีที่ 35 ของเขาด้วย
       
       ซึ่งการแสดงเพลงสุดฮ็อตในรายการพิเศษที่มีชาวอเมริกันทั่วประเทศติดตามชมกันอยู่หน้าจอโทรทัศน์ ไซ ยังได้พาเพื่อนจากวงการบันเทิงเกาหลีทั้ง ยูแจซอก (Yoo Jae Suk) และโนฮงชอล (Noh Hong Chul) มาร่วมต้อนรับปีใหม่ในแบบเกาหลีด้วย
       
       "การได้มาอยู่ที่ไทม์สแควร์ในวันปีใหม่ ก็ถือว่าเป็นเรื่องพิเศษอยู่แล้ว นี่คือเวทีที่ใหญ่ที่สุด แถมยังเป็นวันเกิดของผมด้วย นี่อาจเป็นการปิดฉากของ Gangnam Style ก็ได้ ... จะมีโอกาสไหนที่ดีกว่านี่อีกแล้วครับ? เป็นวันเกิดที่ยิ่งใหญ่ และมีความหมายที่สุดของผมเลย"
       
       อย่างไรก็ตาม ไซ ยังอธิบายว่าหลังจากนี้ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเลิกร้อง และเลิกเต้นท่าควบม้าไปโดยสิ้นเชิง เพราะเขายังมีกำหนดการต้องไปแสดงทั้งที่ประเทศต่างๆอีก แต่เขาอยากจะให้โอกาสวันสิ้นปี 2012 เพื่อเป็นจุดสิ้นสุดของความสำเร็จยิ่งใหญ่ที่ผ่านมาในปี 2012 และเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการเตรียมตัวออกผลงานลำดับต่อไปด้วย
       

      สาวสวย “ลีอาห์ ดีซอน” (Leah Dizon) ที่หายเงียบไปนานร่วม 2 ปี ตั้งแต่หย่าขาดจากสามีเมื่อปลายปี 2010 ได้ประกาศคืนวงการอีกครั้ง หลังใช้เวลาช่วงที่ผ่านมากับการเรียนการแสดง โดยเธอระบุว่าตอนนี้คงจะเน้นการทำงานที่สหรัฐอเมริกาเป็นหลักไปก่อน แต่ก็ไม่ปิดโอกาสสำหรับการกลับมารับงานในญี่ปุ่น
       
       คุณแม่คนสวย ลีอาห์ ดีซอน วัย 26 ปี เพิ่งจะจบการศึกษาจากโรงเรียนการแสดงในนิวยอร์ก ที่เธอเริ่มต้นเรียนตั้งแต่เดือน ม.ค.2011 ได้เปิดเผยว่า ตอนนี้เธอได้เซ็นสัญญากับเอเยนซีแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกาแล้ว และพร้อมกลับมาทำงานอีกครั้ง ซึ่งเอเยนซีของเธอยังระบุว่า ลีอาห์ จะไม่ได้รับงานเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ถ้ามีข้อเสนอจากญี่ปุ่นที่เธอเคยมีชื่อเสียงโด่งดังมาก ดาราคนสวยก็พร้อมพิจารณา
       
       สาวที่มีเชื้อสายฝรั่งเศสจากทางแม่ และจีน กับฟิลิปปินส์ จากทางพ่อ โด่งดังในฐานะสาวต่างชาติคนสวยในวงการบันเทิงญี่ปุ่น โดยเธอมีโอกาสออกอัลบั้ม และได้งานถ่ายแบบในแดนอาทิตย์อุทัยตั้งแต่ปี 2007 ถือว่าโด่งดังเป็นขวัญใจหนุ่มๆ ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากเมื่อหลายปีก่อน
       
       แต่แล้วเมื่อปี 2008 กลับเป็นข่าวช็อกแฟนๆ เมื่อเธอได้ประกาศแต่งงาน และยอมรับว่า ได้ตั้งท้องลูกคนแรกแล้ว จนเมื่อเธอให้กำเนิดทายาทเมื่อปี 2009 จึงกลับมารับงานอีกครั้ง แต่แล้วในปลายปี 2010 กลับเกิดปัญหาเรื่องชีวิตคู่ สุดท้ายจึงตัดสินใจหย่าขาดกับสามี และเดินทางกลับสหรัฐอเมริกา เพื่อเรียนการแสดงหวังเริ่มต้นอาชีพในวงการบันเทิงใหม่อีกครั้ง
       

      นอกจากเทคนิคพิเศษระดับฮอลลีวูดในการสร้างหุ่นยนต์ยักษ์ และสัตว์ประหลาดในหนังฟอร์มใหญ่ Pacific Rim ชาวญี่ปุ่นบางส่วนอาจตื่นเต้นกับงานชิ้นนี้มากขึ้นอีกนิดหน่อย เพราะขวัญใจของพวกเขาอย่างดาราเด็ก “อาชิดะ มานะ” (Ashida Mana) จะได้ร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้ด้วย

       Pacific Rim ผลงานใหม่ของผู้กำกับ กีแยร์โม เดล โทโร (Guillermo del Toro) ที่จะเข้าฉายในปีหน้า เป็นหนังที่เห็นได้ชัดว่าได้รับอิทธิพลมาจากการ์ตูน และหนังแนวสัตว์ประหลาดของญี่ปุ่น นอกจากนั้นก็ยังมีดาราญี่ปุ่น รินโกะ คิคุจิ (Kikuchi Rinko) ประชันบทบาทกับดาราฮอลลีวูดด้วย แต่ที่หลายคนเพิ่งจะมาทราบหลังได้ชมตัวอย่างก็คือ หนังเรื่องนี้ยังจะมีซูเปอร์สตาร์ตัวน้อยของแดนอาทิตย์อุทัย อาชิดะ มานะ ร่วมแสดงอยู่ด้วย
       
       ข่าวระบุว่า อาชิดะ มานะ จะสวมบทบาทเป็น มาโกะ โมริ หรือนางเอกในวัยเด็ก ถือว่าเป็นบทเดียวกับที่ รินโกะ คิคุจิ แสดงนำนั่นเอง
       
       มานะ วัย 8 ขวบ ได้มีโอกาสไปออดิชันบทดังกล่าวตั้งแต่ปี 2011 แล้ว ซึ่งทีมงานก็ประทับใจในตัวเธอมาก จนมอบบทในหนังฟอร์มยักษ์เรื่องนี้ให้ ซึ่งน่าจะทำให้เธอกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก หลังจากเป็นขวัญใจของชาวเมืองปลาดิบมาหลายปี
       
       นักแสดงตัวน้อยกล่าวกับสื่อในประเทศ ว่า เธอรู้สึกตื่นเต้นกับการรับงานหนังฮอลลีวูดอยู่เหมือนกัน แต่ก็พยายามทำงานให้ดีที่สุด ระหว่างทำงานในกองถ่ายที่โตรอนโตแคนาดาเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เธอต้องแสดงฉากหนีสัตว์ประหลาดซ้ำๆ กันถึง 30 รอบ นอกจากนั้น ฉากที่เธอต้องร้องไห้อย่างสิ้นหลังก็สร้างความประทับใจให้กับทีมงานทุกคน โดยเฉพาะผู้กำกับ กีแยร์โม เดล โทโร ที่กล่าวว่า เขาชื่นชมความเป็นนักแสดงตัวจริงของเด็กสาวชาวญี่ปุ่นคนนี้มาก
       

       แม้จะมีข่าวการแสดงจุดยืนต่อต้านสหรัฐฯ ในอดีต แต่สุดท้ายซูเปอร์สตาร์ชาวเกาหลีใต้ "ไซ" (Psy) ยังคงขึ้นแสดงในคอนเสิร์ตคริสมาสต์ที่จัดขึ้นโดยทำเนียบขาว ณ กรุง วอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งมีประธานาธิบดี "บารัค โอบามา" (Barack Obama) ให้เกียรติมาร่วมงานตามเดิม
       
       จัดติดต่อกันมาหลายปีแล้วสำหรับ Christmas in Washington คอนเสิร์ตการกุศลที่อาคารพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ โดยเป็นธรรมเนียมไปแล้ว ที่ประธานาธิบดีพร้อมด้วยครอบครัวจะให้เกียรติเป็นแขกในงาน ซึ่งสำหรับปีนี้ไฮไลท์สำคัญบนเวทีคอนเสิร์ตจะอยู่ที่การปรากฏตัวของ ไซ ศิลปินชื่อดังชาวเกาหลีใต้ ที่พุ่งขึ้นมาอยู่แถวหน้าของวงการเพลงระดับโลก ด้วยระยะเวลาเพียงประมาณครึ่งปีเท่านั้น
       
       อย่างไรก็ตามสำหรับเจ้าตัวการขึ้นแสดงต่อหน้าผู้นำสหรัฐฯ อาจเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นกว่าปกติซักหน่อย เพราะก่อนหน้านี้ 2 วันเขาเพิ่งจะต้องเผชิญหน้ากับข่าวฉาว เมื่อมีการขุดเอาเรื่องในอดีต ที่ ไซ เคยร่วมแสดงคอนเสิร์ตประท้วงต่อต้านสหรัฐฯ รวมถึงพร้องเพลงที่มีเนื้อมุ่งร้ายรุนแรงถึงทหารมะกัน หลุดออกมาตามเว็บไซต์ต่างๆ
       
       ก่อนหน้านี้ ไซ ได้กล่าวถึงโอกาสขึ้นแสดงในวาระสำคัญนี้ว่า "เป็นเกียรติ" อย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามเขายังคงออกตัว ว่าหากการแสดงจุดยืนทางการเมือง และแต่งเพลงที่มีเนื้อหารุนแรง จะทำให้ความโด่งดังของเขาต้องดับวูบเร็ว กว่าที่พุ่งขึ้นมา ก็เป็นสิ่งที่เจ้าตัวพูดเองว่า "สมควรแล้ว"
       

"ไซ" (Psy) นักร้องเกาหลีชื่อดังเจ้าของท่าเต้นควบม้ากังนัมสไตล์ ตกเป็นที่วิจารณ์อย่างมากอีกครั้งหลังเหตุการณ์ที่เขาเคยแร๊ปเกี่ยวกับการขู่ฆ่าชาวอเมริกันเมื่อปี 2004 ถูกนำมาพูดถึงตามสื่อต่างๆทั่วสหรัฐฯ แม้จะเจอเสียงวิจารณ์หนักแต่เจ้าตัวก็ขึ้นแสดงบนเวทีใหญ่ในงานจังเกิล บอลล์ พร้อมเตรียมตัวขึ้นแสดงต่อหน้า"บารัค โอบามา" (Barack Obama) ในช่วงคริสต์มาสนี้ด้วย
       
       แม้จะเจอเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากชาวอเมริก าเมื่อถูกขุดคุ้ยประวัติจนพบว่าเขาเคยก่อเหตุแร๊ปต่อต้านชาวอเมริกาในกรุงโซลเมื่อปี 2004 พร้อมกับยังเคยขว้างแท็งค์ขนาดใหญ่ที่ผลิตในอเมริกาขณะกำลังขึ้นแสดงบนเวทีจนทำให้ขาตั้งไมค์หัก แต่ไซ นักร้องหนุ่มวัย 34 ปีก็ยังคงใจเย็นต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และทำการแสดงของตนเองในอเมริกาต่อไปเหมือนไม่เคยเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
       
       โดยการต่อต้านชาวอเมริกันครั้งนั้น เกิดขึ้นทั่วประเทศ หลังจากที่พาหนะของทหารอเมริกันขนาด 50 ตันได้พรากชีวิตของ ชินฮโยซอน และ ชิมมีซอน 2 เด็กหญิงชาวเกาหลีใต้วัย 14 ปีขณะกำลงเดินทางไปงานปาร์ตี้วันเกิด
       
       โดยครั้งนั้น เขาได้แร๊ปบนเวทีขณะกำลังแสดงซึ่งมีข้อความว่า "เรามาฆ่าพวกไอ้ชั่วอเมริกัน ที่เคยเข่นฆ่าชาวอิรักอย่างสาหัสสากรรจ์ ฆ่าลูกสาวมัน ฆ่าแม่มัน ลูกสะใภ้มัน ฆ่าพ่อมัน เราจงฆ่าพวกมันให้หมดอย่างช้าๆและทรมาน"
       
       แต่แม้จะเกิดเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากผลงานการแร๊ปของเขาในอดีต แต่ไซก็มีกำหนดการขึ้นแสดงในงานคริสมาสต์ที่วอชิงตัน โดยจะมีประธานาธิบดีสหรัฐอย่างบารัค โอบามา และสตรีหมายเลขหนึ่ง มิเชล โอบามา เข้าร่วมชมการแสดงด้วย
       

เรียกได้ว่าศึกการฟ้องร้องเกี่ยวกับการเปิดคอนเสิร์ตของ"เรน" (Rain) ในอเมริกายังคงไม่ได้ข้อยุติ โดยล่าสุดมีประเด็นใหม่เกิดขึ้น เมื่อมีการเผยบนชั้นศาลว่าการได้รับตำแหน่งเป็นหนึ่งใน 100 คนที่ทรงอิทธิพลที่สุดของนิตยสารไทมส์เมื่อปี 2006 เป็นเพียงการเกณฑ์แฟนคลับชาวจีนมาลงคะแนนเสียงให้เท่านั้น
       
       โดยงานนี้ทาง เจทีบีซี นิวส์ ได้รายงานเมื่อวานนี้ว่า การติดหนึ่งใน 100 คนที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกของเรน นั้น เป็นเพียงการจัดตั้ง พร้อมระบุว่า ผู้จัดงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับคอนเสิร์ตเรนในสหรัฐฯ ที่กำลังมีปัญหากันอยู่ในเวลานี้ เป็นผู้เผยถึงรายละเอียดทั้งหมด
       
       โดยระบุว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวเกิดขึ้นขณะกล่าวคำให้การบนชั้นศาล ในฐานะผู้จัดงานที่ถูกฟ้องร้องโดยบริษัท JYP Entertainment ที่เรียกร้องเงินค่าเสียหายเป็นจำนวนถึง 4 พันล้านวอนหรือ 3.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับความล้มเหลวในการดำเนินการจัดทัวร์คอนเสิร์ตปี 2006 - 2007 ของเรนให้เป็นไปตามแผน
       
       ซึ่ง คัง ที่เป็นผู้ดูแลในส่วนของการตลาด และการวางแผนของบริษัทที่รับหน้าที่ดูแลการจัดคอนเสิร์ตเรนที่สหรัฐฯ ได้เผยว่า ในเวลานั้น เรน นักร้องเค-ป็อปชื่อดังเป็นที่รู้จักแค่ในเอเชีย และยังไม่มีชื่อเสียงหรือเป็นที่รู้จักในอเมริกาและยุโรปเลย
       
       ทางฝ่ายทนายความของเรน ก็ได้กล่าวทันทีว่านักร้องหนุ่ม มีชื่อติดหนึ่งในร้อยผู้ทรงอิทธิพลที่สุดจากนิตยสารไทมส์ จะเป็นบุคคลที่ไม่มีชื่อเสียงได้อย่างไร ส่งให้ทางคัง รีบชี้แจงตอบทันที "นั่นเป็นเพราะเราได้เกณฑ์ขอความช่วยเหลือจากบรรดาแฟนๆชาวจีนที่อาศัยอยู่ในอเมริกามาช่วยต่างหาก"
       

"ไซ" (Psy) นักร้องหนุ่มชื่อดังชาวเกาหลีที่โด่งดังไปทั่วโลกจากผลงานเพลงกังนัม สไตล์ (Gangnam Style) ล่าสุดเจ้าตัวเผยเองมีความเป็นไปได้ที่จะได้ร่วมงานกับซุปตาร์วัยรุ่น"จัสติน บีเบอร์" (Justin Bieber) โดยเผยว่าท่าเต้นใหม่จะเน้นไปทางกีฬาเช่นเดิม
       
       ไซ นักร้องคนดังที่เพิ่งไปคว้ารางวัล Best Video จากเวที MTV Europe Music Awards 2012 มาได้ ได้พูดคุยถึงการทำเพลงใหม่ที่กำลังจะเกิดขณะเข้าร่วมงานว่า "ซิงเกิลต่อไปของผมจะมีทั้งภาษาอังกฤษและภาษาเกาหลีครับ และเพลงนี้จะได้ร่วมงานกับนักร้องชื่อดังด้วย"
       
       ไซ และ จัสติน บีเบอร์ ที่ตอนนี้มีผู้จัดการคนเดียวกันคือ สกู๊ตเตอร์ บราอัน (Scooter Braun) ได้เผยอีกด้วยว่าเขากำลังทำเพลงใหม่อยู่ โดยจะมีท่อนภาษาอังกฤษอยู่ในเพลงด้วยเพื่อให้แฟนคลับต่างชาติจากทั่วโลกได้เข้าใจและสนุกไปกับเพลงได้ง่ายขึ้น
       
       "เวลาที่ผมขึ้นแสดง ผมรู้สึกมีความสุขมากที่ผู้คนต่างส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจผม แต่ว่าผมก็รู้สึกเสียใจเหมือนกัน ที่พวกเขาไม่เข้าใจว่าผมกำลังร้องอะไรอยู่"
       
       โดยเมื่อไม่นานนี้ ไซยังได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับท่าเต้นต่อไปในเพลงใหม่ของเขากับทางรายการ The Jonathan Ross Show ด้วย "ท่าเต้นต่อไปของผมอาจจะออกไปทางกีฬามั้งครับ"
       
       ตามรายงานระบุว่า ซิงเกิลต่อไปของไซ เตรียมจะปล่อยออกมาให้ฮิตอีกครั้งในเดือน ก.พ. หรือ มี.ค. ปีหน้านี้

Manager Online

ในวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐฯ ประธานาธิบดี"บารัค โอบามา" (Barack Obama) ที่ได้รับเลือกดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่ 2 ได้ให้สัมภาษณ์เผยว่าเขาก็เต้นกังนัม สไตล์ (Gangnam Style) เป็นเหมือนกัน
       
       ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้นำแห่งความเสมอภาคไม่แบ่งแยกชนชั้นและสีผิว ส่งให้งานนี้ บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯที่เดินทางไปให้สัมภาษณ์กับทาง WZID-FM ในนิวแฮมเชียร์ส ก็ถูกถามนอกประเด็นการเมืองเกี่ยวกับ เพลงกังนัมสไตล์ เพลงเอเชียที่กำลังฮิตระบาดไปทั่วโลกอยู่ในขณะนี้
       
       ซึ่งเขาได้ตอบทันทีว่า ถึงจะเพิ่งได้ดูแต่ก็จะเต้นเป็น "ผมเพิ่งได้ดูมิวสิควิดีโอนั้นเป็นครั้งแรก...ผมว่าผมเต้นท่านั้นได้นะ"
       
       เมื่อถูกถามต่อไปว่า เขาคิดจะนำท่าเต้นขี่ม้านี้ขึ้นแสดงบ้างไหม ประธานาธิบดีรีบตอบทันที "ผมไม่แน่ใจว่าในงานเลี้ยงพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งจะเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะทำอะไรแบบนั้น...บางทีผมอาจจะทำแบบนี้เป็นการส่วนตัวให้มิเชลดู"

Manager Online

ดาราสาวเจ้าของบท “เฮอร์ไมโอนี เกรนเจอร์” (Hermione Granger) แห่งหนัง Harry Potter ยันยันว่า เธอจะกลับไปทำหน้าที่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยบราวน์อีกครั้งอย่างแน่นอน หลังหยุดพักเพื่องานหนังมาช่วงใหญ่ๆ
       
       ตัวแทนของ เอ็มมา วัตสัน (Emma Watson) ยืนยันกับทางเว็บไซต์ Gossip Cop ว่า นักแสดงสาววัย 22 ปี จะกลับไปเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยบราวน์อีกครั้งในเดือน ม.ค.2013 เพื่อศึกษาต่อให้สำเร็จ หลังจากเข้าเรียนเมื่อเดือน ก.ย.2009 และตัดสินใจพักการเรียนเอาไว้ก่อนเมื่อปี 2011 เพื่อทุ่มเทให้กับการโปรโมตหนัง Harry Potter and the Deathly Hallows: Part II ซึ่งเข้าฉายในเดือน ก.ค.ปีนั้น แม้เธอจะรักการใช้ชีวิตที่นี่มากอย่างที่เขียนในบล็อกกว่า “อย่างที่ทุกคนรู้ ฉันรักบราวน์ และรักการเรียนมากกว่าสิ่งใดๆ ค่ะ”
       
       “แต่ระยะหลังชีวิตของฉันมันเริ่มยุ่งเหยิง กับการเป็นนักเรียน และงานในด้านอื่น ซึ่งยากมากขึ้นเรื่อยๆ ที่จะทำให้มันลงตัว ฉันจะยังพยายามเพื่อให้ได้ปริญญา อาจต้องใช้เวลาเรียนนานขึ้นกว่าที่คิด ซักเทอมหรือสองเทอม” โดยเธอมีโอกาสใช้ชีวิตเป็นนักศึกษาของบราวน์ หนึ่งในสถาบันระดับกลุ่มมหาวิทยาลัยไอวีลีก ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองโพรวิเดนซ์ รัฐโรดไอแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเวลาประมาณ 18 เดือน
       
       ข่าวการหยุดพักเรื่องเรียนเมื่อปีที่แล้ว ยังทำให้เกิดข่าวลือขึ้นมาว่า วัตสัน อาจพบกับความลำบากในฐานะนักศึกษา โดยเฉพาะการโดนแกล้งและล้อเลียนจากบทบาทแม่มดน้อยคนเก่งในหนังชุด Harry Potter จากบรรดาเพื่อนนักศึกษาคนอื่น ซึ่งเธอยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ต่อมาสาวอังกฤษวัย 22 ปี ได้ย้ายไปเรียนที่มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดเป็นเวลา 1 เทอม ซึ่งยังทำให้เธอได้พบกับ วิล อดาโมวิคซ์ แฟนหนุ่มคนปัจจุบันด้วย
       

       ท่ามกลางสาวงามมากกว่า 60 ชีวิต สุดท้ายเป็นตัวแทนจากประเทศญี่ปุ่นเจ้าภาพ ที่สามารถคว้ามงกุฏเป็น "มิสอินเตอร์แนชั่นแนล" (Miss International) คนใหม่ไปครองได้ในการประกวดเมื่อค่ำคืนของวันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมา
       
       อิคุมิ โยชิมัตซึ (Ikumi Yoshimatsu) วัย 25 ปี กลายเป็นผู้คว้าตำแหน่ง มิสอินเตอร์แนชั่นแนล ในการประกวดซึ่งจัดขึ้นที่ โอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีผู้คนทั่วโลก 200,000 คนติดตามการถ่ายทอดสดทางอินเตอร์เน็ตเมื่อค่ำของวันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยสาวชาวปลาดิบยังกลายเป็นชาวญี่ปุ่นคนแรกที่สามารถคว้ารางวัลในการประกวดเวทีนี้ได้อีกด้วย
       
       สำหรับตำแหน่งรองอันดับ 1 ตกเป็นของ วีวี ซูมิเนน (Viivi Suominen) ตัวแทนจากฟินแลนด์ ส่วน มาดูซา มายาดันน์ (Madusha Mayadunne) (ศรีลังกา) และ เมโลดี เมียร์ (Melody Mir) (สาธารณะรัฐโดมินิกัน) คว้าตำแหน่งรองอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับ
     
       มิสอินเตอร์แนชั่นแนล หรือ มิสอินเตอร์แนชั่นแนลบิวตี้ เป็นการประกวดที่มีเป้าหมายค้นหาสาวงามเพื่อทำหน้าที่ "ทูตสันติภาพและความงาม" โดยผู้รับผิดชอบจัดประกวดระบุว่า การค้นหาหญิงสาวผู้ครองมงกุฏในเวทีนี้ จะไม่ได้ดูที่รูปร่างหน้าตาเพียงอย่างเดียว แต่จะประเมินจากผู้เข้าประกวดที่มีคุณสมบัติ ความนุ่มนวลอ่อนหวาน, จิตใจดี, เฉลียวฉลาด และพร้อมที่จะทำงาน รวมถึงมีไหวพริบต่อเรื่องนานาชาติ เป็นองค์ประกอบสำหรับการค้นหาหญิงสาว ที่จะสามารถทำหน้าที่ส่งเสริมสันติภาพ, ความปรองดอง และความเข้าใจกัน ในหมู่ประชาคมโลกได้
       

“ลูซี่ ลิว” นักแสดงชาวอเมริกันเชื้อสายจีน ต้องโดนวิจารณ์อย่างหนักจากชาวฟิลิปปินส์ กรณีเหยียดผิว หลังไปออกรายการทอล์กโชว์ของอเมริกันพูดเรื่องสีผิว

ลูซี่ ลิว (Lucy Liu) นักแสดงสาวเลือดเอเชีย เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับบทบาทของเธอในทีวี ซีรีย์เรื่อง Ally McBeal และภาพยนตร์เรื่อง Charlie's Angels แต่เมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา เธอได้ไปออกรายการทอล์กโชว์ The Late Night Show with David Letterman เพื่อโปรโมตผลงานล่าสุดอย่าง Elementary

ซึ่งในรายการ เดวิด เลตเตอร์แมน ได้กล่าวชมเธอว่าเธอยังคงดูดีและหุ่นดี พร้อมกับกล่าวถึงเรื่องการออกกำลังกายของเธอ ซึ่งประเด็นนี้เองได้นำไปสู่เรื่องประเด็นเหยียดผิวแบบไม่ได้ตั้งใจ

เมื่อถูกถามว่า เธอวิ่งบนลู่วิ่ง หรือวิ่งกลางแจ้ง ทางนักแสดงสาวก็ตอบทันที “ฉันวิ่งบนเครื่องค่ะ มันง่ายสำหรับฉันมากกว่า คือว่า ถ้าฉันคล้ำขึ้นมากๆ ฉันจะเริ่มดูเหมือนคนฟิลิปปินส์หน่อยๆ มันไม่ค่อยเข้ากับฉันเท่าไหร่ คุณเข้าใจใช่ไหมคะว่าฉันหมายถึงอะไร? ฉันเริ่มคล้ำขึ้นแล้ว...คุณเข้าใจใช่ไหม?” เธอยังกล่าวเสริมถึงผิวที่ไวต่อแสงแดดของเธอด้วยว่า “ฉันจะคล้ำสุดๆ เลยค่ะถ้าฉันตากแดดเป็นเวลานานๆ”

แน่นอนว่า ความเห็นของเธอที่แสดงออกไปนั้น ได้ส่งให้ชาวเน็ตฟิลิปปินส์ออกอาการไม่พอใจ โดยพากันวิพากษ์ทันทีว่าความเห็นของเธอนั้นแสดงออกถึงการเหยียดผิว ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับแฟนๆ บางกลุ่ม ในขณะเดียวกัน ก็มีคนฟิลิปปินส์บางส่วนมองว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่ประเด็นใหญ่โตอะไรเช่นกัน

Manager Online

       หลายคนบ่งชี้ว่าเมืองแห่งนี้ที่มีประชากร 115,000 คน กำลังพลาดโอกาสทองสำหรับสร้างชื่อ และบางคนแนะนำว่าควรใช้วิดีโอนี้ ซึ่งมีผู้เข้าชมบนยูทิวบ์แล้วมากกว่า 1.5 ล้านครั้งให้เกิดประโยชน์ ขณะที่นาง เจนส์ มายริง วัย 70 ปี ที่เป็นคนเอลมอนเต โดยกำเนิด มองว่าโทษลงโทษไล่ออกของเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยทางน้ำนั้นรุนแรงเกินไปและไม่เหมาะสมกับความผิดเลย
       
       อย่างไรก็ตามนายอันเดร ควินโตโร นายกเทศมนตรีของเมืองยืนยันว่ามีความเหมาะสมแล้วที่เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยทางน้ำถูกไล่ออก เพราะว่าวิดีโอเลียนแบบท่าเต้น ประกอบเพลง"กัมนัง สไตล์" (Gangnam Style) ของนักร้อง Psy ทำลายภาพลักษ์ของเมือง "ภาพลักษณ์ของเมืองได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง"

       วิดีโอดังกล่าวที่ใช้ชื่อว่า "Lifeguard Style" ถูกแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว หลังจากเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยทางน้ำและหัวหน้าของพวกเขาถูกไล่ออก ฐานถ่ายทำตามสถานที่ต่างๆของเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต และยังสวมชุดว่ายน้ำสำหรับปฏิบัติงานปรากฏกายอยู่ในคลิปนี้ด้วย
       
       ผู้ใช้มากกว่า 12,000 ร่วมลงชื่อในเฟซบุ๊ควิงวอนขอให้เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยทางน้ำเหล่านั้นได้กลับมาทำงานตามเดิม และแม้แต่ Psy ก็พยายามให้ความช่วยเหลือพวกเขาเช่นกัน โดยบอกว่ามันเป็นการไล่ออกอย่างไม่ยุติธรรม

Lifeguard Style (Gangnam Style Remake)
 

Manager Online

เรียกได้ว่าตอนนี้ดังแบบฉุดไม่อยู่เลยทีเดียวสำหรับ"ไซ" (Psy) นักร้องดังจากเพลง"กังนัม สไตล์" (Gangnam Style) ที่ล่าสุดขึ้นเวทีใหญ่ MTV Video Music Awards พร้อมแจมกับหนุ่มๆ The Wanted ในงานพรี-ปาร์ตี้ ก่อนการประกาศรางวัลจะเริ่มขึ้น นอกจากนั้นเขายังถูกตามติดขอให้สอนเต้นผ่านทาง TMZ ด้วย
       
       เรียกได้ว่าดังไปทั่วโลกแล้วทีเดียวสำหรับนักร้องหุ่นท้วม ไซ เจ้าของเพลงกังนัม สไตล์ ที่ระบาดไปทั่วโลกขณะนี้ โดยก่อนหน้านี้เขาก็เพิ่งถูกนักข่าว TMZ เว็บไซท์ข่าวแท็บลอยด์ชื่อดังตามติดขอให้สอนท่าเต้น และล่าสุดได้ขึ้นปรากฏตัวบนเวที MTV VMA ด้วย
       
       โดยก่อนที่จะมีการถ่ายทอดสดงาน MTV VMA ไซ ก็ได้ขึ้นแสดงบนเวทีพร้อมกับวง The Wanted จากอังกฤษ ซึ่งสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างมาก โดยงานนี้หนุ่มๆ The Wanted ก็ได้ร่วมเต้นท่าขี่ม้าไปพร้อมๆกับไซ ก่อนที่เขาจะลงไปหลังเวทีและได้ถ่ายภาพที่ระลึกร่วมกับนักร้องชื่อดังอย่าง จอห์น เมเยอร์ด้วย
       
       โดยบนเวทีงานประกาศผลรางวัล MTV VMA ไซก็ได้ขึ้นปรากฏตัวพร้อมกับ เควิน ฮาร์ท พิธีกร ที่เต้นเพลงกังนัม สไตล์ พร้อมกับเขาขึ้นมาจากด้านล่างเวที พอสิ้นเสียงเพลง เควิน ฮาร์ท ได้ถามเขาถึงความสำเร็จจากยอดวิวใน YouTube "ไซ นายมีคนดูใน YouTube มากกว่า 100 ล้านวิวแล้วนะตอนนี้ รู้สึกไงบ้าง?" ซึ่งงานนี้ไซ นักร้องหนุ่มอารมณ์ดีก็ได้ตอบกลับเป็นภาษาเกาหลีว่า "รู้สึกเยี่ยมมากมีความสุขมากจริงๆครับ และขอสักครั้งหนึ่งที่ผมอยากพูดภาษาเกาหลีบนเวทีนี้ เจ๋งป่ะล่ะ?"
       

กลายเป็นเรื่องใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ กับปัญหาทางการเมืองทั้งระหว่าง จีน กับ ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ กับ ญี่ปุ่น ที่ล่าสุดถึงกับส่งผลกระทบไปสู่วงการบันเทิง ทำให้นักแสดงดังจากจีน และเกาหลีใต้ ต้องยกเลิกการเดินทางเข้าไปโปรโมตผลงาน รวมถึงดาราสาว “หลีปิงปิง” (Li Bing Bing) ที่ตัดสินใจไม่ไปร่วมการฉายรอบปฐมทัศน์ของ Resident Evil ในกรุงโตเกียว
       
       สุดท้าย หลีปิงปิง ก็ไม่ได้ร่วมเดินทางไปกับทีมงาน และนักแสดงของหนังเรื่อง Resident Evil: Retribution ในการฉายรอบปฐมทัศน์ของหนังแอ็กชั่นซอมบีสุดดังที่กรุงโตเกียว ซึ่งสื่อในฮ่องกงระบุว่าสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง เกี่ยวกับข้อพิพาทระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ต่อประเด็นการแย่งอ้างสิทธิ์เหนือเกาะ “เตียวหยู” หรือที่ญี่ปุ่นรู้จักกันในชื่อเกาะ “เซนกากุ” ที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ในเวลานี้นั่นเอง
       
       โดยใน Resident Evil: Retribution หลีปิงปิง ได้มีโอกาสสวมบทเป็นตัวละคร “เอดา หว่อง” (Ada Wong) ที่แฟนๆ ของเกม Resident Evil หรือ Biohazard น่าจะรู้จักกันดี โดยในหนังภาคล่าสุด ที่ถือว่าเป็นภาคที่ 5 กันแล้ว ยังมีส่วนหนึ่งของเรื่องที่เดินทางกันเข้าไปถ่ายทำในกรุงโตเกียวด้วย
       
       ล่าสุด จีเสียง ตัวแทนของหลีปิงปิงได้มีโอกาสตอบคำถามถึงเรื่องนี้ โดยมีคำอธิบายว่า หลีปิงปิง ไม่ได้เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น เพราะในช่วงเวลาเดียวกันเธอมีงานอยู่ที่กรุงปักกิ่งพอดี อย่างไรก็ตาม ตัวแทนของนักแสดงสาวยังกล่าวเป็นนัยว่าการตัดสินใจไม่เดินทางไปโตเกียวนั้น เกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเมืองอยู่บ้างเหมือนกัน และ หลีปิงปิง จะไม่ทำอะไรที่เป็นการขัดแย้งต่อจุดยืนของรัฐบาลจีนแน่นอน
       

       สำนักข่าวในประเทศจีนยืนยันว่าอดีตนางเอกดาวค้างฟ้า "หลินชิงเสีย" (Brigitte Lin) ที่ถอนตัวจากวงการบันเทิงไปเกือบ 20 ปี จะกลับมารับงานแสดงอีกครั้งในหนัง Dragon's Kisses ของยอดผู้กำกับชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ที่จะมีนักแสดงหญิงแถวหน้าของฮอลลีวูดร่วมรับบทสำคัญด้วย
       
       ข่าวระบุว่า Dragon's Kisses หนังที่จะใช้ทุนสร้าง 100 ล้านหยวน (ประมาณ 495 ล้านบาท) จะประกอบไปด้วยคนดังของจีนมากมาย นอกจาก หลินชิงเสีย แล้วยังจะมี หลางหล่าง นักเปียโนชื่อดัง รวมถึงดาวตลก กัวเต๋อกัง ด้วย
       
       และที่น่าจะถูกพูดถึงมากเช่นเดียวกัน ก็คือหนังจะได้ แอนเจลีนา โจลี (Angelina Jolie) นักแสดงสาวซูเปอร์สตาร์มารับบทสำคัญในเรื่องด้วย อย่างไรก็ตามสำหรับชาวจีนหลายๆคน การคืนจอของ หลินชิงเสีย ก็คือไฮไลท์สำคัญอันดับ 1 ของหนังเรื่องนี้อยู่ดี
       
       ยังไม่มีรายละเอียดของ Dragon's Kisses ออกมามากนัก แต่ Want China Times อ้างข้อมูลจากหนึ่งในผู้อำนวยการสร้าง ระบุว่าหนังจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลา มีเรื่องราวที่ว่าด้วยความเป็นมนุษย์ พยายามหลอมรวมวัฒนธรรมจีน เข้ากับความเชื่อสากล
       

       นักแสดงหนุ่มผู้โด่งดังจากหนังจากหนังชุด “แฮร์รี พอตเตอร์” (Harry Potter) เป็นคนดังแดนผู้ดีรายล่าสุด ที่ได้รับเกียรติให้ทำหน้าที่วิ่งคบเพลิงสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่กำลังจะเปิดฉากขึ้น ท่ามกลางชาวลอนดอนนับร้อย ที่มาคอยให้กำลังใจ
       
       รูเพิร์ต กรินต์ (Rupert Grint) นักแสดงผู้สวมบทบาทเป็น “รอน วีสลีย์” (Ron Weasley) ตัวละครเด่นจากหนังชุด แฮร์รี พอตเตอร์ ทั้ง 8 ภาค ได้รับหน้าที่วิ่งคบเพลิงโอลิมปิกเมื่อช่วงวันพุธที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ในระยะทางที่เริ่มต้นตั้งแต่มหาวิทยาลัยมิดเดิลเซกซ์
       
       โดยหนุ่มวัย 23 ปี บอกว่า ก่อนหน้านี้ เขาเองก็นึกไม่ออกเหมือนกัน ว่า การวิ่งคบเพลิงโอลิมปิกจะเป็นอย่างไรบ้าง เพราะเป็นสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน อันที่จริงในชีวิตประจำวันเขาเองก็ไม่ค่อยได้วิ่งไปไหนซักเท่าไหร่อยู่แล้ว กรินต์ ยังบอกอีกว่าอย่างน้อยการทำหน้าที่ในวันนี้ ก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่หนักหนาอะไรเกินไปนัก เพราะเส้นทางของเขาส่วนใหญ่เป็นการวิ่งลงเนินนั่นเอง
       
       “เบลอร์ไปหมดเลยครับ แต่ผมก็ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโอลิมปิก ยอดเยี่ยมมากที่ได้เห็นทุกคนตื่นเต้นกัน และเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ผมคิดว่าจะต้องเป็นการแข่งขันที่สุดยอดแน่ๆ” รูเพิร์ต กรินต์ กล่าว
       
       การวิ่งคบเพลิงโอลิมปิกประจำปี 2012 จะเสร็จสิ้นลงในวันศุกร์นี้แล้ว เมื่อคบเพลิงเดินทางไปถึงสนามกีฬาโอลิมปิกกรุงลอนดอน ซึ่งหมายความว่า การแข่งขันกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ จะได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

Manager Online

       สองนักแสดงชาวเกาหลีใต้ "อีบยองฮอน" (Lee Byung Hun) และ "อันซองกิ" (Ahn Sung Ki) ได้รับเกียรติให้ประทับรอยมือ และรอยเท้าบนถนนแห่งเกียรติยศ "ฮอลลีวูด วอล์ก ออฟ เฟม" ที่บริเวณหน้า กรูแมนส์ ไชนีส เธียเตอร์ (Grauman's Chinese Theatre) ในลอสแอนเจลิส
       
       โดยสองนักแสดงชื่อดังชาวเกาหลีใต้ ได้ไปร่วมพิธีแห่งเกียรติยศครั้งนี้ ที่จัดขึ้นเมื่อช่วงวันเสาร์ที่ 23 มิ.ย. ซึ่งฝ่ายของ อีบยองฮอน นักแสดงดังระดับอินเตอร์ผู้มีผลงานอย่าง G.I. Joe ได้กล่าวถึงการได้รับเกียรติครั้งนี้ว่า คือช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกครั้งสำหรับชีวิตนักแสดงของเขา "ผมไม่อยากจะเชื่อเลยครับ ว่าได้มาอยู่ตรงนี้ ถือว่าการทำงานมา 20 ปีเต็มออกผลแล้ว หลังจากนี้ก็จะพยายามทำงานให้หนักขึ้นไปอีกใน 20 ปีข้างหน้าต่อไปครับ"
       
       เขายังเขียนชื่อกำกับไว้บนแผ่นที่ประทับด้วยภาษาเกาหลีว่า "อีบยองฮอน นักแสดงชาวเกาหลีใต้" ส่วนคณะกรรมการที่เลือกเขาให้ได้กลายเป็นนักแสดงอีกคน ที่มีชื่ออยู่บนถนนแห่งดวงดาวก็กล่าวยกย่องว่า นี่คือนักแสดงชาวเอเชียที่ยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งในยุคปัจจุบัน และในงานวันนั้นยังมี คิมจีอุน ผู้กำกับที่เคยร่วมงานกันกับ อีบยองฮอน ใน A Bittersweet Life และ I Saw the Devil มาร่วมงานด้วย พร้อมยกเครดิตว่าเพราะนักแสดงคนนี้เขาจึงได้ก้าวหน้าไปเป็นผู้กำกับระดับฮอลลีวูดกับผลงานเรื่องต่อไป
       
       ส่วนนักแสดงรุ่นใหญ่ ฮานซึงกิ ที่ได้รับการยอมรับมากมายในเกาหลีใต้ ถึงขั้นที่ถูกเรียกว่าเป็น "สมบัติของชาติ" ก็กล่าวว่าถือเป็นเกียรติของเขา ที่ได้ประทับชื่อเคียงข้างกับนักแสดงระดับโลกมากมาย
       

       เสร็จสิ้นกันไปเรียบร้อยแล้วสำหรับการมอบรางวัล MTV VIDEO MUSIC AWARD JAPAN หรือ VMAJ ที่ในปีนี้จัดขึ้นที่ Makuhari Messe ใน จิบะ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 23 มิ.ย. ที่กลุ่มศิลปิน EXILE สามารถคว้ารางวัลใหญ่อย่าง วิดีโอยอดเยี่ยมแห่งปีไปครองได้ ส่วนศิลปินจากแดนกิมจิก็คว้ารางวัลสำคัญไปได้หลายสาขา
       
       ถือว่าเป็นครั้งที่ 4 แล้วที่ EXILE สามารถคว้ารางวัลวิดีโอแห่งปีจากเวที MTV VIDEO MUSIC AWARD JAPAN ไปได้ กับเพลง Rising Sun ในการมอบรางวัลประจำปี 2012 ซึ่งนักร้องนำของวงอย่าง อัตสึชิ ได้กล่าวถึงความสำเร็จครั้งนี้ว่า เกิดขึ้นจากการสนับสนุนของแฟนๆ ที่ทำให้พวกเขาสามารถเดินในเส้นทางสายดนตรีมาเป็น 10 ปี และจะขออยู่สร้างสรรค์ผลงานเพื่อสร้างความบันเทิง และมอบกำลังใจให้กับแฟนๆต่อไป
       
       ในการมอบรางวัล VMAJ ปีนี้ยังมีศิลปินจากเกาหลีใต้หลายรายที่คว้ารางวัลกลับบ้านไปได้ อาทิ Girls’ Generation กับอัลบั้มชื่อเดียวกับวง ที่ทำยอดขายถึง 1 ล้านแผ่นในญี่ปุ่นจนคว้ารางวัลอัลบั้มแห่งปีไปครอง เอาชนะศิลปินนานาชาติได้ทั้ง Coldplay, Lady Gaga, Juju และเพื่อนร่วมชาติเกาหลีของพวกเธออย่าง KARA
       
       ส่วน 2NE1 ได้รางวัลมิวสิควิดีโอยอดเยี่ยมสำหรับศิลปินหน้าใหม่, 6 หนุ่ม 2PM คว้ารางวัลวิดีโอของศิลปินประเภทกลุ่ม และสาวๆ After School ยังคว้ารางวัลจากการร่วมงานกับ นามิเอะ อามูโระ (Namie Amuro) ในวิดีโอเพลง Make It Happen ด้วย
       

       อาจจะเป็นบทพิสูจน์ถึงความโด่งดังในระดับนานาชาติของ สาว "ฮยอนอา" (Hyeon Ah) ได้อีกครั้ง เมื่อเอ็มวีเพลงยอดฮิต Bubble Pop ของเธอกลายเป็นต้นแบบ ให้ศิลปินสาวชาวเวียนนามรายหนึ่งได้ลอกเลียน จนกลายเป็นที่วิจารณ์ทั้งในหมู่ชาวเวียดนามเอง รวมไปถึงแฟนเพลงแนว K-Pop ด้วย
       
       เอ็มวีเพลง Eungah in the Room ของศิลปินสาวชาวเวียดนาม เบาถิ (Bảo Thy) ที่เป็นภาพของตัวนักร้องกับกลุ่มแดนเซอร์วัยใส ร้องและเต้นกันโดยมีรถยนต์เอสยูวีเป็นฉากหลัง ได้กลายเป็นที่สนใจขึ้นมา ไม่ใช่เพราะตัวเพลงโดยตรง แต่เพราะเอ็มวีเพลงดังกล่าวเกิดไปคล้ายกับงานของศิลปินชาวเกาหลีใต้คนหนึ่งเข้า แม้จะเป็นเพียงฉากเดียวในเอ็มวี แต่ก็ก่อให้เกิดกระแสวิจารณ์มากมาย
       
       คงไม่ใช่เรื่องแปลกหากคนที่ดูเอ็มวีเพลงนี้ จะนึกถึงเอ็มวี Bubble Pop ของสาวเซ็กซีแดนกิมจิ ฮยอนอา แห่ง 4minute ขึ้นมาทันที เพราะทั้งมุมภาพ, การจัดองค์ประกอบฉาก หรือท่วงท่าลีลาของศิลปิน และแดนเซอร์ ถือว่าใกล้เคียงกับผลงานของไอดอลคนดังแห่งเกาหลีใต้มาก มีเพียงโทนสีเท่านั้น และระดับของคุณภาพการถ่ายทำที่แตกต่างกันมาก
       
       ต้องถือว่าเอ็มวีเพลง Bubble Pop ที่สาวฮยอนอาได้โชว์ความน่ารักปนเซ็กซี่ ประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม และอาจจะเป็นกระแสแรงกว่าที่ทางต้นสังกัดคาดเดาเอาไว้เสียอีก ทั้งถูกนำเสนอในสื่อของทางฝั่งตะวันตก กลายเป็นคลิปยอดฮิตใน Youtube ถึงตอนนี้มียอดคนดูร่วม 29 ล้านแล้ว นอกจากนั้นก็ยังถูกศิลปินชาติอื่นนำไปเป็นต้นแบบ อย่างก่อนหน้านี้ที่เคยมี Bubble Pop ฉบับจีนแผ่นดินใหญ่มาให้ดูกันมาแล้วครั้งหนึ่ง
       

      ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่ “ฟั่นปิงปิง” (Fan Bing Bing) หรือ “หลี่ปิงปิง” (Li Bing Bing) ที่เป็นตัวแทนสาวจีนที่ได้รับความสนใจในพรมแดงของเทศกาลหนังเมืองคาน แต่ยังมี “จูจู” (Zhu Zhu / 朱珠) พิธีกรสาวสวยเปรี้ยว ที่ปรากฏตัวด้วยแว่นตาดำ กับชุดสุดเซ็กซีจนสามารถเรียกร้องความสนใจจากเหล่าตากล้องไปได้อีกคน
       
       จูจู พิธีกรสาวสังกัด MTV ได้ร่วมเดินพรมแดงในรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์เรื่อง Madagascar 3: Europe’s Most Wanted ในเทศกาลหนังที่เมืองคานส์ครั้งที่ 65 เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
       
       โดยเธอได้ควงคู่มากับแฟนหนุ่มอภิมหาเศรษฐี ลาโป เอลคาน (Lapo Elkann) ทายาทของตระกูลอันเญลลี่เจ้าของบริษัทผลิตรถเฟียต และยังเป็นเจ้าของทีมฟุตบอลยูเวนตุสอันโด่งดังด้วย ซึ่งเมื่อไม่กี่วันก่อนน้านี้สาวจีนคนนี้ก็เพิ่งจะไปปรากฏตัว และโชว์บทจูบอันร้อนแรงกับแฟนหนุ่ม ที่การฉลองแชมป์ครั้งที่ 28 ของทีม ยูเวนตุส มาด้วย
       
       แม้เธอจะไม่ได้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในวงการภาพยนตร์นัก แต่ความสวยแบบตะวันออกร่วมสมัยของ จูจู ที่มาพร้อมกับบุคลิกมั่นใจแบบสาวรุ่นใหม่ และเสื้อผ้าสุดเซ็กซีโดยเฉพาะชุดสีดำเปิดด้านข้าง ก็ทำให้เธอกลายเป็นที่สนใจ และมีภาพของ จูจู บนพรมแดงครั้งนี้ปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ต่างๆมากมาย
       

มีการแสดงความเห็นออกมามากมายเกี่ยวกับกระแสเค-ป็อปของเกาหลีใต้ที่ตอนนี้ระบาดไปทั่วทั้งในเอเชียและยุโรป ส่งให้มีการคาดการณ์ถึงอนาคตของกระแสดังกล่าวว่าจะไปในทิศทางใด โดยทางทางโคเรียไทมส์ได้ออกมาแสดงทรรศนะเชื่อว่า กระแสเกาหลีนี้จะอยู่ได้อีกไม่นาน ไม่ยืนยาวอย่างที่หลายๆคนคาดการณ์ไว้
       
       การเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วของกระแสเกาหลีในบ้านเรา ในเอเชีย และในอีกหลายๆประเทศทั่วโลก นับเป็นความสำเร็จอย่างมากที่สร้างเม็ดเงินและรายได้อันมหาศาลเข้าประเทศเกาหลีใต้ แต่จากกระแสดังกล่าว ได้มีนักลงทุนและนักวิเคราะห์ออกมาเผยถึงมุมมองที่มีต่อกระแสนี้ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด โดยหลายประเทศเชื่อว่าจะสามารถคงอยู่ไปได้อีกนาน ในขณะที่อีกหลายๆประเทศคาดการณ์ว่าไม่นานอย่างที่คิด
       
       "ต่างชาติ 6 ใน 10 ประเทศ เชื่อว่ากระแสนิยมในวัฒนธรรมเกาหลีทั้ง เค-ป็อป, ภาพยนตร์และละครทีวี จะลดความนิยมลงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า" โคเรียไทมส์รายงานถึงตัวเลขผลการสำรวจของกระทรวงวัฒนธรรมการกีฬาและการท่องเที่ยวของเกาหลีที่ร่วมมือกับองค์กรเกาหลีสำหรับการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนานาชาติ ที่เผยตัวเลขออกมาว่า 60% จาก 3,600 คนใน 9 ประเทศ แสดงความไม่แน่ใจว่ากระแสเกาหลีจะประสบความสำเร็จคงความนิยมไปได้อีกนาน
       
       "เหตุผลหลักที่ต่างชาติไม่แน่ใจว่าเกาหลีจะประสบความสำเร็จได้อีกต่อไปเป็นเพราะ ประเทศเกาหลีใต้มี 'มาตรฐานของเนื้อหาที่ไม่น่าสนใจ' โดยผู้ตอบแบบสำรวจถึง 20.5% โหวตให้กับประเด็นนี้เป็นเหตุผลหลัก"